Tag Archives: innovation

Boomi ประกาศผู้ชนะได้รับรางวัล APJ 2023 Customer Innovation Awards

Logo

SYDNEY–(BUSINESS WIRE)–16 พฤศจิกายน 2023

Boomi™ ผู้นำด้านระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ ได้ประกาศรายชื่อผู้ชนะในเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น (APJ) ที่ได้รับรางวัล 2023 Customer Innovation Awards ในงาน Boomi World Tour Sydney

Boomi Announces APJ 2023 Customer Innovation Award Winners (Graphic: Business Wire)

Boomi ประกาศผู้ชนะได้รับรางวัล APJ 2023 Customer Innovation Awards (Graphic: Business Wire)

ผู้ชนะได้รับรางวัลสำหรับ APJ ได้รับการยอมรับในการกำหนดเส้นทางสู่นวัตกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้น โดยเชื่อมโยงแอปพลิเคชันเพื่อสร้างการบูรณาการที่ทรงพลังและเพื่อเปลี่ยนแปลงธุรกิจโดยใช้ แพลตฟอร์ม Boomi ผู้ชนะได้รับรางวัลได้รับเลือกจากการแสดงให้เห็นถึงผลกระทบทางธุรกิจจากผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมและวัดผลได้ การปรับแปลงทางดิจิทัล โครงการนวัตกรรม ผลกระทบต่อสังคม ความทันสมัย ความเป็นเลิศในการบูรณาการ และความเป็นเลิศด้านระบบอัตโนมัติ

Fulton Hogan บริษัทก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เป็นผู้ชนะได้รับตำแหน่ง A/NZ Regional Winner และได้รับรางวัล Social Impact award โดย Fulton Hogan ได้รับการยอมรับในการออกแบบสถาปัตยกรรมที่อิงตามเหตุการณ์ เพื่อนำเสนอการบูรณาการแบบสองทิศทาง ระหว่างแพลตฟอร์มการจัดการบริการภาคสนาม และ Sydney Water ซึ่งเป็นไปตามพันธกรณีภายใต้ ‘Better Together Joint Venture’ (B2GJV) เพื่อนำเสนอบริการน้ำคุณภาพสูงให้กับพลเมืองในเมือง

APU Company บริษัทผู้ผลิตแบรนด์ระดับโลกสัญชาติมองโกเลีย ได้รับรางวัล Asia Regional Winner พร้อมคว้าอีกหนึ่งรางวัล Innovation award APU มีการปรับใช้แพลตฟอร์ม Boomi เพื่อปรับปรุงมุมมองและประสิทธิภาพการดำเนินงาน เร่งการเปิดตัวสู่ตลาด และขจัดความเสี่ยงทางเทคนิคในขณะปรับแปลงเป็นบริษัทดิจิทัลและบุกตลาดต่างประเทศ ขณะนี้บริษัทมีการบูรณาการแบบไดนามิกต่างๆ ซึ่งช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับทีมไอที รวมถึงพันธมิตรภายนอก เช่น ธนาคาร ซัพพลายเออร์ ระบบของรัฐบาล ระบบเปิดอื่นๆ และลูกค้า

JGC Corporation ซึ่งเป็นผู้รับเหมาของ ECP เป็นผู้ชนะเลิศได้รับรางวัล Japan Regional Winner และคว้ารางวัล Modernization award อีกด้วยเช่นกัน JGC ดำเนินธุรกิจในหลายภูมิภาคทั่วโลก และมีการใช้ประโยชน์จาก Boomi เพื่อสร้างสถาปัตยกรรมไอทีแบบรวมศูนย์ตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งการใช้ประโยชน์เช่นนี้ช่วยให้บริษัทสามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชันขนาดใหญ่และสภาพแวดล้อมของแพลตฟอร์มได้อย่างราบรื่น รวมทั้งยังช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างการดำเนินการจัดซื้อจัดหาได้อีกด้วยเช่นกัน

หมวดหมู่ผู้ชนะได้รับรางวัลเพิ่มเติมได้แก่:

  • ความเป็นเลิศด้านประสบการณ์ของลูกค้า (CX) และประสบการณ์ของพนักงาน (EX): Chartered Accountants ANZ
  • ความเป็นเลิศทางธุรกิจ: Chemist Warehouse
  • ความเป็นเลิศด้านการควบรวมกิจการ: Greater Western Water
  • ความเป็นเลิศด้านการดูแลสุขภาพ: Kalyra
  • ความเป็นเลิศในการดำเนินงาน: Metro Trains Melbourne (MTM)
  • ความเป็นเลิศในการผลิต: MMA Offshore

“บริษัทต่างๆ ให้ความสำคัญในการเชื่อมต่อการลงทุนทางดิจิทัล การทำให้กระบวนการเป็นระบบอัตโนมัติ และการเพิ่มคุณภาพของข้อมูลเพื่อช่วยในการปรับปรุงการตัดสินใจให้ดียิ่งขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพผลลัพธ์ที่สามารถนำเสนอให้แก่ผู้ถือหุ้นทั้งภายในและภายนอกได้อย่างดีที่สุด” Thomas Lai รองประธานของ APJ ที่ Boomi กล่าว “ผู้ชนะได้รับรางวัล The 2023 APJ award เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดสำหรับการใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มของ Boomi จะช่วยนำเสนอประสิทธิภาพการทำงานที่น่าสนใจและประหยัดต้นทุนได้อย่างไร โดยบรรลุผลสำเร็จทั่วทั้งองค์กร ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อลูกค้า คู่ค้า และชุมชน”

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Boomi

Boomi มีเป้าหมายที่จะทำให้โลกนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้นด้วยการเชื่อมโยงทุกคนกับทุกสิ่งจากทุกที่ เป็นผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มบูรณาการระบบคลาวด์ในฐานะบริการ (iPaaS) และปัจจุบันกลายเป็นบริษัทซอฟต์แวร์แบบบริการ (SaaS) Boomi มีฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้ให้บริการแพลตฟอร์มบูรณาการและเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลกประมาณ 800 ราย – รวมถึง Accenture, Capgemini, Deloitte, SAP และ Snowflake องค์กรระดับโลกหันมาใช้แพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลนี้ของ Boomi เพื่อค้นหา จัดการ และประสานข้อมูล ในขณะเดียวกัน ก็เชื่อมต่อแอปพลิชัน กระบวนการ และผู้คนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ boomi.com

© 2023 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ ‘B’ และ Boomiverse เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทในเครือ หรือบริษัทสาขา สงวนลิขสิทธิ์ ชื่อหรือเครื่องหมายอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53814864/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สำหรับสื่อ:
Jasmine Ee
Head of Media and Analyst Relations, APJ
jasmine.ee@boomi.com

แหล่งข้อมูล: Boomi

Technology Innovation Institute เปิดตัว Falcon 180B โมเดลภาษาขนาดใหญ่แบบโอเพ่นซอร์สที่ทรงพลังที่สุดในโลก

Logo

  • โมเดลใหม่ครองอันดับ 1 ใน Hugging Face Leaderboard ของโมเดลภาษาขนาดใหญ่แบบโอเพ่นซอร์ส
  • โมเดลที่มีพารามิเตอร์ 180 พันล้านได้รับการฝึกฝนบนชุดข้อมูล 3.5 ล้านล้านโทเค็น พร้อมทรัพยากรการประมวลผลของ LLaMA 2 ของ Meta ถึง 4 เท่า
  • Falcon 180B เป็นโมเดลที่เข้าถึงได้แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับนักวิจัยและผู้ใช้เชิงพาณิชย์

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE )–6 กันยายน 2023

Technology Innovation Institute (TII) ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กำลังก้าวข้ามขีดจำกัดของ Generative AI อีกครั้งด้วยการเปิดตัว Falcon 180B ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ขั้นสูงที่เป็นรุ่นเรือธงของพวกเขา การเปิดตัวที่ล้ำสมัยนี้ช่วยเสริมความเป็นผู้นำของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ในด้าน AI โดยนำเสนอ Falcon 180B ให้เป็นโมเดลการเข้าถึงแบบโอเพ่นซอร์สสำหรับการวิจัยและการใช้เชิงพาณิชย์

Falcon 180B Benchmarks (Photo: AETOSWire)

เกณฑ์มาตรฐาน Falcon 180B (รูปภาพ: AETOSWire)

หลังจากความสำเร็จอันน่าทึ่งของ Falcon 40B ซึ่งเป็นโมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สที่ทะยานขึ้นสู่อันดับสูงสุดใน Hugging Face Leaderboard ของโมเดลภาษาขนาดใหญ่เมื่อเดือนพฤษภาคม 2023 TII ซึ่งเป็นเสาหลักการวิจัยประยุกต์ของ Advanced Technology Research Council (ATRC) ของอาบูดาบียังคงเป็นผู้นำในการพัฒนา Generative AI Falcon 40B ถือเป็นตัวอย่างแรกๆ ของโมเดลโอเพ่นซอร์สสำหรับทั้งนักวิจัยและผู้ใช้เชิงพาณิชย์ และถือเป็นการก้าวกระโดดของการบุกเบิกในสาขานี้

H.E. Faisal Al Bannai เลขาธิการของ Advanced Technology Research Council เน้นย้ำถึงผลกระทบเชิงบวกของ Falcon ที่มีต่อภูมิทัศน์ของ AI และกล่าวว่า “เรามองเห็นอนาคตที่พลังการเปลี่ยนแปลงของ AI อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมของทุกคน เรามุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการเข้าถึง AI ขั้นสูงให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เนื่องจากความเป็นส่วนตัวและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นของ AI ต่อมนุษยชาติไม่ควรถูกควบคุมโดยคนเพียงไม่กี่คน แม้ว่าเราอาจไม่มีคำตอบทั้งหมด แต่ความมุ่งมั่นของเรายังคงแน่วแน่ นั่นคือการทำงานร่วมกันและมีส่วนร่วมในชุมชนโอเพ่นซอร์ส เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะได้แบ่งปันประโยชน์ของ AI”

ด้วยพารามิเตอร์ที่น่าทึ่งถึง 180 พันล้านพารามิเตอร์และฝึกฝนบนชุดข้อมูล 3.5 ล้านล้านโทเค็น Falcon 180B ทะยานขึ้นสู่อันดับสูงสุดของ Hugging Face Leaderboard ของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ผ่านการฝึกฝนมาแล้ว โมเดลนี้มีประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่งที่มีชื่อเสียงอย่าง LLaMA 2 ของ Meta ในเกณฑ์มาตรฐานต่างๆ รวมถึงการทดสอบการใช้เหตุผล การเขียนโค้ด ความชำนาญ และการทดสอบความรู้

ในบรรดาโมเดลภาษาขนาดใหญ่แบบปิดที่ดีที่สุด Falcon 180B อยู่ในอันดับที่ตามหลัง GPT 4 ล่าสุดของ OpenAI และทัดเทียมกับประสิทธิภาพของ PaLM 2 Large ของ Google ซึ่งเป็นโมเดลที่ขับเคลื่อน Bard แม้ว่าจะมีขนาดเพียงครึ่งหนึ่งของโมเดลก็ตาม กรอบการอนุญาตใช้งานสำหรับโมเดลนี้กำหนดขึ้นโดยใช้ “Falcon 180B TII License” ซึ่งอิงตาม Apache 2.0

Dr. Ebtesam Almazrouei กรรมการบริหารและรักษาการหัวหน้านักวิจัยของ AI Cross-Center Unit ของ TII กล่าวว่า “การเปิดตัว Falcon 180B เป็นตัวอย่างของการอุทิศตนของเราในการพัฒนาขอบเขตของ AI และเรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้แบ่งปันศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของมันกับโลก Falcon 180B ประกาศศักราชใหม่ของ Generative AI โดยสร้างศักยภาพของความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ผ่านการเข้าถึงแบบโอเพ่นซอร์สเพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนนวัตกรรมแห่งอนาคต ขณะที่เราเจาะลึกขอบเขตของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิสัยทัศน์ของเราขยายไปไกลกว่านวัตกรรม นั่นคือการรักษาความสัมพันธ์อันลึกซึ้งเพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลกผ่านความก้าวหน้าทางการทำงานร่วมกัน”

ด้วยนักพัฒนามากกว่า 12 ล้านคนที่ยอมรับและปรับใช้ Falcon รุ่นแรก การอัปเกรดครั้งสำคัญนี้จึงพร้อมที่จะกลายเป็นโมเดลชั้นนำสำหรับโดเมนต่างๆ ตั้งแต่แชทบอทไปจนถึงการสร้างโค้ด และอื่นๆ อีกมากมาย

Falcon 180B เข้ากันได้กับภาษาหลักต่อไปนี้: อังกฤษ เยอรมัน สเปน และฝรั่งเศส โดยมีความสามารถจำกัดในภาษาอิตาลี โปรตุเกส โปแลนด์ ดัตช์ โรมาเนีย เช็ก และสวีเดน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ FalconLLM.tii.ae

ที่มาAETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรบั ชมภาพในรูปแบบมลัติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20230906583274/en

รายชื่อผู้ติดต่อ

Jennifer Dewan ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสาร
jennifer.dewan@tii.ae

ที่มา: The Technology Innovation Institute

Falcon 40B ของ UAE ซึ่งเป็นโมเดล AI อันดับต้น ๆ ของโลกจาก Technology Innovation Institute ปลอดค่าลิขสิทธิ์แล้ว

Logo

อาบูดาบี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ – (BUSINESS WIRE )–31 พฤษภาคม 2023

เทคโนโลยี Falcon 40B ของ Technology Innovation Institute (TII) ที่เป็นโมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สขนาดใหญ่ที่สำคัญของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตอนนี้เปิดให้ใช้งานเพื่อการพาณิชย์และการวิจัยโดยไม่มีค่าลิขสิทธิ์ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการทั่วโลกในการเข้าถึง AI อย่างสมบูรณ์

UAE’s Falcon 40B, World’s Top-Ranked AI Model is Now Royalty-free (Photo: AETOSWire)

โมเดล AI ตัวดีที่สุดของโลก Falcon 40B ของ UAE เป็นโมเดลที่ไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์แล้ว (ภาพ: AETOSWire)

Falcon 40B ติดอันดับ 1 ของโลกการจัดลำดับของ Hugging Face สำหรับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) โดยเหนือกว่าคู่แข่งอย่าง LLaMA ของ Meta และ StableLM ของ Stability AI ภายใต้ใบอนุญาตซอฟต์แวร์ Apache 2.0 ที่อนุญาตเผยแพร่อย่างเสรี ผู้ใช้ Falcon 40B สามารถเข้าถึงสิทธิบัตรใดๆ ที่ครอบคลุมโดยซอฟต์แวร์ที่เป็นปัญหา Apache 2.0 รับรองความปลอดภัยและความพร้อมใช้ของซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่มีความสามารถและสร้างโมเดลการบริหารที่มีประสิทธิภาพ

การเข้าถึง Falcon 40B ได้โดยไม่มีข้อจำกัดของ TII ย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในนวัตกรรมเทคโนโลยีและการแบ่งปันความรู้ ซึ่งสนับสนุนระบบนิเวศการร่วมมือและเสริมสร้างตำแหน่งของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในฐานะผู้นำด้าน AI ระดับโลก นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการก้าวข้ามขีดจำกัดในการสร้างอนาคต ซึ่ง AI เป็นตัวแทนในการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อผลสำเร็จ”

การใช้งาน Falcon 40B แบบเปิดเผยและไม่มีค่าลิขสิทธิ์อาจทำให้หน่วยงานทั้งสาธารณะและเอกชนมีประสิทธิภาพในด้านต่างๆ เช่น เริ่มโครงการได้เร็วขึ้น การทำซ้ำที่เร็วขึ้น กระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ยืดหยุ่นมากขึ้น การรับรองและการสนับสนุนจากชุมชนที่แข็งแกร่ง และการจัดการใบอนุญาตที่ง่ายขึ้น

TII มุ่งเน้นในการสร้างระบบนิเวศที่เติบโตได้สำหรับความร่วมมือ นวัตกรรม และการแบ่งปันความรู้ระหว่างนักพัฒนา นักวิจัย และธุรกิจทั่วโลก การเคลื่อนไหวนี้ส่งเสริมความโปร่งใส การเข้าร่วมทุกฝ่าย และความคืบหน้าที่รวดเร็วในการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์สำหรับโลก และเปิดโอกาสที่หลากหลายในการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมและภาคส่วนต่างๆ

ดร. เอบเตสัม อัลมาซรูอี้ ผู้อำนวยการหน่วย AI Cross-Center ที่ TII กล่าวว่า: การยกเลิกค่าลิขสิทธิ์ของ Falcon 40B ส่งเสริมความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีร่วมกันสำหรับสังคมที่เชื่อมโยงกัน เรามุ่งมั่นที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อรวมมนุษยชาติและปกป้องโลกของเราในอนาคต

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโมเดล Falcon 40B AI ที่เผยแพร่ในปัจจุบันและการลงทะเบียน โปรดเยี่ยมชม: FalconLLM.TII.ae.

สำหรับการจัดอันดับ Falcon 40B โปรดไปที่: https://huggingface.co/spaces/HuggingFaceH4/open_llm_leaderboard

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเข้าชม  www.tii.ae

*ที่มาAETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:

https://www.businesswire.com/news/home/53410420/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อผู้ติดต่อ

Jennifer Dewan, ผู้อำนวยการสื่อสารระดับอาวุโส
jennifer.dewan@tii.ae.

ที่มา: The Technology Innovation Institute

Mary Kay และสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศประกาศผู้ชนะการแข่งขัน Women’s Entrepreneurship Accelerator Digital Innovation Challenge

Logo

สตาร์ทอัพที่เป็นเจ้าของหรือนำโดยผู้หญิงสิบรายจากทั่วโลกจะได้รับการฝึกอบรมเสริมสร้างศักยภาพและให้คำปรึกษาเฉพาะด้านเพื่อปรับขนาดโซลูชันดิจิทัลเพื่อช่วยสร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้ประกอบการสตรี

DALLAS–(BUSINESS WIRE)–18 เมษายน 2023

สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ที่ได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรี (CSW67) โดยได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay Global ได้ประกาศรายชื่อบริษัทที่ชนะ 10 แห่งจาก Women’s Entrepreneurship Accelerator (WEA) Digital Innovation Challenge ในงานอีเวนต์ที่จัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ MetLife นครนิวยอร์ก มีผู้แทนองค์การสหประชาชาติ ภาคเอกชน นักลงทุน และองค์กรภาคประชาสังคมเข้าร่วมประชุม บริษัทสตาร์ทอัพ 3 แห่ง ได้แก่ Tiny Totos, Gwiji for Women และ Health Innovation Exchange (HIEx) ได้รับรางวัลในฐานะ Special Recognition สำหรับนวัตกรรมแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด

The ten winning companies of the WEA Digital Innovation Challenge were invited to present their two-minute live pitches before an expert Grand Jury comprised of investors and cross-sectoral representatives. (Graphic: Mary Kay Inc.)

บริษัทที่ชนะการแข่งขัน WEA Digital Innovation Challenge 10 แห่งได้รับเชิญให้นำเสนอการเสนอขายแบบสดความยาว 2 นาทีต่อหน้าคณะกรรมการตัดสินผู้เชี่ยวชาญซึ่งประกอบด้วยนักลงทุนและตัวแทนข้ามภาคส่วน (เครดิต: ITU)

การแข่งขัน WEA Digital Innovation Challenge ที่เปิดตัวในเดือนธันวาคม 2022 ที่สำนักงานใหญ่ระดับโลกของ ITU ในเจนีวา มี 250 รายการจากบริษัทต่าง ๆ ใน 54 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงเป็นเจ้าของหรือมีผู้ก่อตั้งผู้หญิงอย่างน้อยหนึ่งคน แต่ละบริษัทได้แสดงให้เห็นว่าโซลูชันดิจิทัลที่ไม่เหมือนใครของพวกเขาสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการดิจิทัลในการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ได้อย่างไร ความท้าทายนี้เผยให้เห็นว่าระบบนิเวศที่เกิดขึ้นใหม่ของผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัลมีลักษณะอย่างไรด้วยความคิดสร้างสรรค์และความเฉลียวฉลาดที่โดดเด่น

ความคิดริเริ่มของ Women’s Entrepreneurship Accelerator1 (WEA) โดยความร่วมมือกับ Mary Kay และการดำเนินการโดย ITU โดยสอดคล้องกับ Innovation and Entrepreneurship Alliance for Digital ของ ITU นั้นมีวัตถุประสงค์ของการแข่งขันคือการสร้างบริบทที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้ประกอบการสตรีในท้ายที่สุด โดยจัดการกับอุปสรรคที่มีต่อการเป็นผู้ประกอบการสตรี รวมถึงการแบ่งเพศทางดิจิทัล ด้วยการช่วยเสริมธีมของ CSW67 ประจำปีนี้ในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากมุมมองทางเพศ

โซลูชันดิจิทัลที่ส่งมามีตั้งแต่แอปพลิเคชันมือถือเพื่อการศึกษาที่ช่วยพัฒนาการพูดและภาษาของเด็กในฟิลิปปินส์ ไปจนถึงระบบซอฟต์แวร์เพื่อติดตามขยะของบริษัทในอุรุกวัย ไปจนถึงโซลูชันดิจิทัลที่ตอบสนองความต้องการการดูแลลูกของแม่ที่มีรายได้น้อยในเคนยา ตลอดจนโปรแกรมให้คำปรึกษาทางวิชาชีพออนไลน์สำหรับผู้หญิงในคาซัคสถาน

เกณฑ์การคัดเลือกผู้ชนะทั้ง 10 ได้แก่

– ความคุ้มค่าและความสามารถในการปรับขนาดของโซลูชันทางเทคโนโลยี

– ระดับของนวัตกรรมดิจิทัลที่แสดงและ

– ศักยภาพของโซลูชันที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิต ขับเคลื่อนผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม และขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน

บริษัทที่ชนะทั้ง 10 แห่งได้รับเชิญให้นำเสนอการเสนอขายแบบสดความยาว 2 นาทีต่อหน้าคณะกรรมการตัดสินผู้เชี่ยวชาญซึ่งประกอบด้วยนักลงทุนและตัวแทนข้ามภาคส่วน ซึ่งแต่ละคนได้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่ไม่เหมือนใครตามเกณฑ์ข้างต้น ผู้ชนะจะสามารถเข้าถึง “Digital Innovation Challenge Acceleration Program” ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งพวกเขาจะได้รับการฝึกอบรมการเสริมสร้างศักยภาพและค่ายฝึกเสมือนจริงเพื่อช่วยปรับปรุงแผนธุรกิจของพวกเขา ตลอดจนการให้คำปรึกษาเฉพาะด้าน และการเข้าถึงเครือข่ายผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง หลังจากนี้ ผู้ชนะที่ได้รับการคัดเลือกจะเข้าร่วมใน Global Innovation Forum อันทรงเกียรติของ ITU ในปลายปีนี้ และเข้าร่วมชุมชนนักปฏิบัติเพื่อสำรวจวิธีก้าวกระโดดจากความแตกแยกของนวัตกรรมดิจิทัลและจัดการกับความท้าทายระดับโลก

สมาชิกคณะลูกขุนใหญ่ มีดังนี้

  • Dan Seymour ผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ของ UN Women
  • Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Global
  • Harry O’Mealia ซีอีโอและประธาน 1919 Investor Council
  • Julia Pimsleur ผู้ก่อตั้ง Million Dollar Women Network
  • Selin Oz ผู้จัดการอาวุโส ฝ่าย SME Banking Entrepreneurship Banking ของ Garanti BBVA
  • Tess Mateo, Sustainability ESG Impact Investor, US W20 Delegate to G20
  • Ursula Wynhoven ผู้แทนสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติในนิวยอร์ก

ประการแรก Tiny Totos เป็นองค์กรเพื่อสังคมของเคนยาที่ทำงานเพื่อรับรองการดูแลเด็กที่มีคุณภาพ การให้การฝึกอบรม การเข้าถึงแหล่งเงินทุน เครือข่ายและแพลตฟอร์มเทคโนโลยี ช่วยให้ศูนย์ดูแลเด็กประสบความสำเร็จ และเพิ่มความพร้อมและปรับปรุงคุณภาพของบริการดูแลเด็กในประเทศ Health Innovation Exchange (HIEx) และ Gwiji for Women ซึ่งเป็นรองชนะเลิศ 2 ราย กำลังพูดถึงประเด็นสำคัญทางสังคม HIEx ระบุความท้าทายที่ระบบสุขภาพต้องเผชิญ และเชื่อมโยงผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมกับผู้มีส่วนร่วมในระบบนิเวศด้านสุขภาพที่สำคัญในแอฟริกาและเอเชียเป็นหลัก เพื่อนำเสนอโซลูชันเพื่อปรับปรุงการเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพ Gwiji for Women เป็นสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่จัดการกับอุปสรรคในการเข้าร่วมตลาดแรงงานของผู้หญิงที่มีรายได้น้อยในเคนยา โดยจะระบุ ตรวจสอบ ฝึกอบรม และให้อำนาจแก่สตรีที่มีภูมิหลังทางเศรษฐกิจและสังคมที่ต่ำกว่าในฐานะพนักงานทำความสะอาดทั่วไป โดยเชื่อมโยงพวกเธอกับลูกค้าที่คาดหวังผ่านแอปพลิเคชันมือถือ

การแข่งขัน WEA Digital Innovation Challenge ได้จัดขึ้นโดยมีฉากหลังเป็นบริบททางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งได้เห็นการเพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีดิจิทัลและการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล การตระหนักถึงศักยภาพของการเร่งความเร็วทางดิจิทัลเพื่อขยายขอบเขตของความไม่เท่าเทียมกัน ความท้าทายนี้นำเสนอโอกาสในการหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่เป็นอุปสรรคต่อสถานะทางเศรษฐกิจของผู้หญิง

คุณรู้หรือไม่

อุปสรรค 3 อันดับแรกที่ผู้ประกอบการดิจิทัลหญิงต้องเผชิญในการนำผลิตภัณฑ์และบริการของตนเข้าสู่ตลาด มีดังนี้

ขาดเงินทุนและการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจของพวกเขา2

การเข้าถึงที่จำกัดในการเชื่อมต่อและเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICTs) และ

– โอกาสในการเรียนรู้ทักษะที่สำคัญที่จำเป็นต่อการแข่งขันในเศรษฐกิจดิจิทัล3

Dr. Cosmas Zavazava ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาโทรคมนาคมของ ITU กล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาที่นำเสนอตลอดการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้นอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง โดยเน้นย้ำถึงศูนย์กลางและความสำคัญอย่างยิ่งยวดของนวัตกรรมดิจิทัลในบริบทปัจจุบัน โดยเสริมว่า “นวัตกรรมที่ครอบคลุมและเท่าเทียมกันจะช่วยให้เรานำทางไปสู่โลกดิจิทัลใบใหม่ที่ผันผวน ไม่แน่นอน ซับซ้อน และคลุมเครือมากขึ้นเรื่อย ๆ” เพื่อจัดการกับการแบ่งแยกทางเพศซึ่งจำกัดระบบนิเวศของนวัตกรรมและทำให้เศรษฐกิจและสังคมอ่อนแอในที่สุด Dr. Zavazava เรียกร้องให้มีความพยายามมากขึ้นเพื่อจัดการกับช่องว่างนี้ “เพื่อช่วยป้องกันวิกฤตทางเศรษฐกิจและสังคมที่เราได้เห็น”

นอกจากนี้ Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay ยังเรียกร้องให้มีการดำเนินการ “เพื่อย้อนกลับแนวโน้มปัจจุบันของนวัตกรรมที่มีความมืดบอดทางเพศและแก้ไขช่องว่างทางเพศทางดิจิทัลที่มีอยู่ในการเข้าถึงเทคโนโลยี รวมถึงในการศึกษาและทักษะดิจิทัล” ด้วยความท้าทาย เธอได้เชิญ “พันธมิตรข้ามภาคส่วนมากขึ้นเพื่อเข้าร่วมความพยายามในการสร้างเงื่อนไขสำหรับผู้ประกอบการสตรีในการสร้างสรรค์นวัตกรรม แข่งขัน และเติบโต”

ในฐานะหนึ่งในเจ็ดสมาชิกคณะลูกขุนใหญ่ Tess Mateo, Sustainability ESG Impact Investor, US W20 Delegate to G20 ได้ยกย่องการแข่งขันเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบนิเวศนวัตกรรมดิจิทัลสำหรับบริษัทที่นำโดยสตรี โดยกล่าวว่า “การแข่งขันด้านนวัตกรรมดิจิทัลนี้ได้รับผลงานมากกว่า 200 รายการจาก 54 ประเทศ แสดงให้เห็นว่านวัตกรรมที่ขับเคลื่อนโดยผู้ประกอบการมีความสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการรวมดิจิทัลอย่างไร ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นกรรมการตัดสินและรับฟังการเสนอขายที่ชนะทั้ง 10 รายการ ซึ่งแต่ละรายการมีโซลูชันดิจิทัลที่ไม่เหมือนใครสำหรับระบบนิเวศที่คำนึงถึงเพศมากขึ้น วิธีแก้ปัญหาของพวกเขากำลังเปลี่ยนแปลงโลกอย่างปฏิเสธไม่ได้เพื่อเสริมสร้างสังคมและเศรษฐกิจที่ดีขึ้น เราต้องการความท้าทายมากกว่านี้เพื่อนำนักประดิษฐ์สตรีและนวัตกรรมที่นำโดยสตรีมารวมกันเพื่อสร้างเงื่อนไขสำหรับผู้ประกอบการสตรีในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและแข่งขันในเศรษฐกิจดิจิทัลระดับโลก”

สตาร์ทอัพทั้งสามที่ได้รับสถานะ Special Recognition ได้กล่าวถึงความสำคัญของการแข่งขันในฐานะแพลตฟอร์มหลักในการนำเสนอนวัตกรรมดิจิทัลของตน

“Tiny Totos เป็นองค์กรเพื่อสังคมของเคนยาที่แก้ปัญหาวิกฤตการดูแลเด็กในแอฟริกาด้วยการเปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กนอกระบบให้เป็นผู้ประกอบการดูแลเด็กที่ทำกำไรได้ การได้รับการยอมรับและแพลตฟอร์มที่จัดโดย WEA Digital Innovation Challenge ทำให้เราได้รับการรับรองรูปแบบธุรกิจของเราในระดับสูงสุดของแนวทางปฏิบัติของชุมชนระดับโลก ในฐานะผู้ก่อตั้งสตรี การเป็นสมาชิกของชุมชนของผู้ประกอบการด้านดิจิทัลที่มีแนวคิดเดียวกันช่วยเติมพลังความคิดสร้างสรรค์ของเราและผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตลาดการดูแลเด็กนอกระบบของแอฟริกา บรรลุการเติบโตแบบทวีคูณในเครือข่ายผู้ประกอบการดูแลเด็กที่มีรายได้น้อยของเรา และช่วยให้ผู้หญิงทำงานยกระดับตนเองให้พ้นจากความยากจน”

Emma Caddy ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Tiny Totos

“WEA Digital Innovation Challenge เป็นเวทีที่ยอดเยี่ยมในการแสดงผลงานของเราในการเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงและช่วยให้ผู้ประกอบการสตรีขยายความรู้และโอกาสในการสร้างเครือข่าย สิ่งนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งในเวทีสุขภาพ เนื่องจากทุกวันนี้ 1 ใน 2 คนหรือครึ่งหนึ่งของโลกยังขาดการเข้าถึงการดูแลสุขภาพที่จำเป็น และน้อยกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ของเงินทุนร่วมลงทุนทั่วโลกที่มอบให้กับผู้หญิง แม้จะมีหลักฐานว่าการลงทุนของพวกเธอให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า สตาร์ทอัพที่มีเจ้าของหรือผู้นำที่เป็นผู้หญิงต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายกว่าจะประสบความสำเร็จ รวมถึงการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่จำกัด โอกาสในการสร้างเครือข่าย อคติทางเพศ และปัญหาความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการด้านดิจิทัลนั้นนำเสนอโอกาสที่แท้จริงสำหรับนักประดิษฐ์สตรีในการเอาชนะอุปสรรคดังกล่าว รวมถึงการเข้าถึงตลาดโลก เครือข่ายการสนับสนุน และการเพิ่มการรับรู้และการยอมรับ

Paula Navajas ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) นวัตกรรมด้านสุขภาพและการแลกเปลี่ยนการลงทุน (HIEx)

“WEA Digital Innovation Challenge เปิดโอกาสให้ธุรกิจที่นำโดยผู้หญิงได้แสดงความคิดเห็นในพื้นที่ที่มีผู้ชายเป็นใหญ่ โปรแกรมนี้ใช้งานได้จริงและปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการของการลงทุนในระยะเริ่มต้นที่จัดการกับความท้าทายที่เร่งด่วนที่สุดในสังคมของเรา ทุกครั้งที่เข้าร่วม ฉันรู้สึกมั่นใจในความสามารถของตัวเองมากขึ้นทั้งในฐานะผู้ประกอบการและในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง”

Elizabeth Mwangi ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการ Gwiji for Women

สามารถดูบันทึกการแข่งขัน WEA Digital Innovation Challenge ได้ที่นี่

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 1963 โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือเติมเต็มชีวิตให้กับผู้หญิง ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในกว่า 35 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน การสร้างเครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com พบกับเราบน FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

เกี่ยวกับ ITU

สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) เป็นหน่วยงานเฉพาะของสหประชาชาติสำหรับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICTs) ขับเคลื่อนนวัตกรรมด้าน ICT ร่วมกับประเทศสมาชิก 193 ประเทศ และเป็นสมาชิกของบริษัท มหาวิทยาลัย และองค์กรระหว่างประเทศและระดับภูมิภาคกว่า 900 แห่ง ITU ก่อตั้งขึ้นเมื่อกว่า 150 ปีที่แล้วในปี 1865 เป็นหน่วยงานระหว่างรัฐบาลที่รับผิดชอบในการประสานงานการใช้สเปกตรัมวิทยุร่วมกันทั่วโลก ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในการกำหนดวงโคจรดาวเทียม ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารในประเทศที่กำลังพัฒนา และสร้างมาตรฐานทั่วโลกที่สนับสนุนการเชื่อมต่อโครงข่ายที่ไร้รอยต่อของระบบการสื่อสารที่หลากหลาย ตั้งแต่เครือข่ายบรอดแบนด์ไปจนถึงเทคโนโลยีไร้สายที่ล้ำยุค การนำทางการบินและการเดินเรือ ดาราศาสตร์วิทยุ การสำรวจพื้นโลกด้วยดาวเทียมและมหาสมุทร รวมทั้งการรวมโทรศัพท์เคลื่อนที่ อินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยีการแพร่ภาพกระจายเสียงเข้าด้วยกัน ITU มุ่งมั่นที่จะเชื่อมต่อโลกเข้าด้วยกัน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.itu.int

1 Women's Entrepreneurship Accelerator (WEA) ที่ริเริ่มขึ้นโดย Mary Kay และเปิดตัวในปี 2019 เป็นโครงการริเริ่มความร่วมมือแบบหลายฝ่ายเกี่ยวกับการเป็นผู้ประกอบการสตรี โดยมีหน่วยงานของสหประชาชาติ 6 หน่วยงานประกอบด้วยสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ  (ITU), องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO), ศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (ITC), โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP), UN Global Compact (UNGC) และ UN Women

2 การวิจัยชี้ให้เห็นว่าผู้ประกอบการสตรีเผชิญกับการขาดดุลทางการเงิน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ MSME Finance Gap, International Finance Corporation, 2017 https://www.ifc.org/wps/wcm/connect/03522e90-a13d-4a02-87cd-9ee9a297b311/121264-WP-PUBLIC-MSMEReportFINAL.pdf?MOD=AJPERES&CVID=m5SwAQA

3 จากจำนวนประชากรประมาณ 2.9 พันล้านคนที่ยังคงออฟไลน์ ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็กผู้หญิงที่มีแนวโน้มที่จะใช้โทรศัพท์ เข้าถึงอินเทอร์เน็ต หรือมีทักษะในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลน้อย https://www.gsma.com/r/wp-content/uploads/2022/06/The-Mobile-Gender-Gap-Report-2022.pdf?utm_source=website&utm_medium=download-button&utm_campaign=gender-gap-2022

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53380887/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

ที่มา: Mary Kay Inc.







Women’s Entrepreneurship Accelerator ฉลองครบรอบ 3 ปีที่งานเจนีวาด้วยการเปิดตัว Digital Innovation Challenge สำหรับสตาร์ทอัพสตรีในความร่วมมือกับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ

Logo

นิวยอร์กและเจนีวา–(BUSINESS WIRE)–18 มีนาคม 2023

การตระหนักถึงความสัมพันธ์ที่ตัดกันระหว่างนวัตกรรม เทคโนโลยี พื้นที่ดิจิทัล และความไม่เท่าเทียมทางเพศ Women's Entrepreneurship Accelerator (WEA) ได้รวบรวมตัวแทนอาวุโสของพันธมิตรผู้ก่อตั้งเพื่อทำเครื่องหมายทั้งสาม ครบรอบปีด้วยการอภิปรายอย่างทันท่วงทีก่อนงาน CSW67 เกี่ยวกับวิธีย้ายเข็มเพื่อสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมที่รวมเพศมากขึ้น และเพื่อแก้ไขช่องว่างทางเพศดิจิทัล

นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้ง CSW67 ได้ตรวจสอบแนวคิดของนวัตกรรมและเทคโนโลยีแบบองค์รวมจากมุมมองของเพศ โดยนำเสนอโอกาสพิเศษในการสำรวจผลกระทบของนวัตกรรมและเทคโนโลยีตามเพศสภาพ พร้อมคำแนะนำที่จะกำหนดหลักสูตรสำหรับความครอบคลุมมากขึ้นและ เศรษฐกิจดิจิทัลที่เท่าเทียมกัน

ด้วยพันธกิจในการจัดการกับอุปสรรคที่ผู้ประกอบการสตรีต้องเผชิญเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) WEA จึงทำงานเพื่อสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมดิจิทัลที่เอื้อต่อผู้ประกอบการสตรี เพื่อให้แน่ใจว่าประเทศต่างๆ จะได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่กำลังดำเนินอยู่ เพื่อให้โลกมีความครอบคลุมและยั่งยืนมากขึ้น

งานครบรอบ WEA ซึ่งจัดโดยสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ในเจนีวา และการประชุมพันธมิตรสหประชาชาติอีก 5 รายของ WEA เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการลงทุนในผู้ประกอบการสตรีผ่านระบบดิจิทัลเพื่อขยายธุรกิจของพวกเขา เหตุการณ์ดังกล่าวเน้นย้ำว่าการปฏิวัติดิจิทัลเสนอโอกาสมหาศาลในการพัฒนาสถานะทางเศรษฐกิจของผู้หญิงโดยการเปิดการเข้าถึงความรู้และตลาดต่างประเทศ และทำให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมกับเครือข่ายที่กว้างขึ้นได้อย่างไร งานนี้ยังเน้นย้ำถึงความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในการทำให้รูปแบบความไม่เท่าเทียมทางเพศที่มีอยู่คงอยู่ต่อไป ข้อมูลสำคัญจากกิจกรรม ได้แก่

  • นวัตกรรมที่มีอยู่และระบบนิเวศของสตาร์ทอัพ ขาดความหลากหลายทางเพศอย่างมาก และมีลักษณะการกระจายโอกาสและทรัพยากรทางการเงินที่ไม่สม่ำเสมอ
  • ผู้ประกอบการสตรีมักประสบกับการขาดเงินทุนและการลงทุน เพื่อขยายธุรกิจ1 การเข้าถึงการเชื่อมต่อและเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ที่จำกัด ตลอดจนโอกาสในการเรียนรู้ ทักษะที่สำคัญที่จำเป็นต่อการแข่งขัน ในเศรษฐกิจดิจิทัล2
  • เทคโนโลยี แพลตฟอร์ม และเครื่องมือดิจิทัลยังสามารถ เสริมสร้างทัศนคติเหมารวมทางเพศที่เป็นอันตราย และเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิง เว้นแต่จะได้รับการออกแบบมาให้ปลอดภัย ครอบคลุม และเข้าถึงได้ตั้งแต่ต้น ตัวอย่างเช่น อคติทางเพศ พบในชุดข้อมูลและเข้ารหัสใน ผลิตภัณฑ์อัลกอริทึม AI อาจนำไปสู่ระบบและบริการที่เลียนแบบรูปแบบการเลือกปฏิบัติ 
  • ผู้หญิงและเด็กผู้หญิง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเลือกปฏิบัติหลายรูปแบบและตัดกัน ยังเป็น เป้าหมายหลักของความรุนแรงและการล่วงละเมิดทางออนไลน์ ซึ่งทำให้พวกเขาออกจากการมีส่วนร่วม การสนทนา และพื้นที่ดิจิทัลในวงกว้างมากขึ้น นี่เป็นเพียงบางส่วนของความท้าทายเร่งด่วนที่เรียกร้องให้มีการแก้ปัญหาที่คำนึงถึงเพศภาวะในยุคดิจิทัล

คุณรู้หรือไม่ว่า:

  • ผู้หญิง 37% ในโลกไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต3
  • ภายในปี 2050 75% ของงานจะเกี่ยวข้องกับสาขา STEM4
  • ปัจจุบัน ผู้หญิงดำรงตำแหน่งเพียง 22% ที่ทำงานด้านปัญญาประดิษฐ์ และนักวิจัยทั่วโลกเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่เป็นผู้หญิง5
  • บัณฑิตวิศวกรรมศาสตร์เพียง 28% และวิทยาการคอมพิวเตอร์ 40% เท่านั้นที่เป็นผู้หญิง6
  • การกีดกันผู้หญิงจากโลกดิจิทัลได้ตัดรายได้จากผลิตภัณฑ์มวลรวมถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ ในประเทศของประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลางในทศวรรษที่ผ่านมา7

เปิดตัว WEA Digital Innovation Challenge

งานเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ WEA  Digital Innovation Challenge โดย ITU โดยได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay Inc เพื่อเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาวาระนี้ ความท้าทายระดับโลกเลือกแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านดิจิทัล 10 ข้อและโซลูชันด้านดิจิทัลที่มีศักยภาพในการสร้างระบบนิเวศที่คำนึงถึงเพศภาวะมากขึ้นสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพและธุรกิจขนาดใหญ่ ผู้ชนะเหล่านี้จะเข้าถึงโปรแกรม  Digital Innovation Eco-System ซึ่งพวกเขาจะได้รับการฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างศักยภาพเพื่อช่วยปรับแต่งแผนธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน การให้คำปรึกษาและการเข้าถึงเครือข่ายผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง

ข้อความที่ตัดตอนมาจากงานครบรอบ WEA:

  • Doreen Bogdan-Martin ผู้อำนวยการสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ กล่าวถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่พิสูจน์แล้วในการเชื่อมช่องว่างระหว่างเพศทางดิจิทัล โดยสังเกตว่าในปี 2020 เพียงปีเดียว รายได้ที่อาจสูญเสียไปเนื่องจากการขาดแคลนสตรี การเข้าถึงโอกาสของผู้ประกอบการคำนวณไว้ที่ 126 พันล้านดอลลาร์ Bogdan-Martin เรียกร้องให้มีการดำเนินการมากกว่านี้เพื่อพัฒนาระบบนิเวศทางดิจิทัลที่คำนึงถึงเพศภาวะ ผ่านการร่วมมือกับภาคธุรกิจ องค์กรภาคประชาสังคม ผู้กำหนดนโยบาย หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานน้องสาวของ UN
  • Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay สังเกตว่าในขณะที่การเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัลเป็นหน้าต่างแห่งโอกาสที่ไม่เหมือนใครสำหรับผู้หญิงในการสร้างนวัตกรรมและขยายธุรกิจของตน การเร่งความเร็วทางดิจิทัลยังสามารถทำให้ความไม่เท่าเทียมกันยังคงอยู่ ด้วยเหตุนี้ Gibbins จึงเรียกร้องให้มีการจัดการความไม่เท่าเทียมกันและสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในเศรษฐกิจดิจิทัล

Digital Innovation Challenge เป็นความคิดริเริ่มล่าสุดของ WEA ตลอดทั้งงาน พันธมิตรของ WEA ได้เน้นย้ำถึงประเด็นสำคัญของงานที่พวกเขาได้ดำเนินการขั้นสูงในการสนับสนุนผู้ประกอบการสตรีตั้งแต่เริ่มก่อตั้งความร่วมมือจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่ายที่เปลี่ยนแปลงนี้

  • การพัฒนาทักษะการเป็นผู้ประกอบการออนไลน์

 International Trade Center (ITC) เน้นออนไลน์ฟรีเป็นครั้งแรก  โครงการใบรับรองการเป็นผู้ประกอบการ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับ WEA และเปิดตัวในเดือนมกราคม 2022. โมดูล 27หลักสูตรดิจิทัลครอบคลุม 7 ขั้นตอนสำคัญของเส้นทางการเป็นผู้ประกอบการ และพร้อมให้บริการในภาษาอังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส และเร็วๆ นี้ภาษาอาหรับ รัสเซีย และจีน หลักสูตรนี้เสริมด้วยวิดีโอ 200 รายการและมีเป้าหมายเพื่อสอนทักษะในการออกแบบและจัดตั้งธุรกิจให้กับผู้ประกอบการที่มุ่งมั่นและมั่นคง ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้วิธีนำวัฒนธรรมการเป็นผู้ประกอบการมาใช้ พัฒนาแนวคิดทางธุรกิจและเรียนรู้วิธีการเริ่มต้นธุรกิจ เตรียมโมเดลธุรกิจ ออกแบบสำนวนการขาย ระบุแหล่งเงินทุน ค้นหาพันธมิตรและที่ปรึกษาที่เหมาะสม และสร้างทีม

  • การสนับสนุนของภาคเอกชนในการจัดซื้อจัดจ้างที่ตอบสนองต่อเพศสภาพ

UN Women เรียกคืนการทำงานเพื่อพัฒนาการจัดซื้อจัดจ้างที่ตอบสนองต่อเพศสภาพ โดยเน้นการตีพิมพ์ Advocacy Brief เมื่อปีที่แล้ว โดยได้รับการสนับสนุนจาก UN Global Compact เรื่อง  Procurement's Strategic Value . เหตุใดการจัดซื้อที่ตอบสนองต่อเพศสภาพจึงสมเหตุสมผลทางธุรกิจ บทสรุปนำเสนอหลักฐานที่น่าสนใจเกี่ยวกับประโยชน์ในการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในห่วงโซ่อุปทานของภาคเอกชนในการตระหนักถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมและการพัฒนาที่ยั่งยืน

  • การจัดการกับอุปสรรคที่สตาร์ทอัพที่เป็นเจ้าของและนำโดยสตรีต้องเผชิญ

UN Women ใน ภูมิภาคยุโรปและเอเชียกลาง (ECA) พูดถึงงาน Women's Entrepreneurship EXPO ครั้งแรก ซึ่งเป็นค่ายฝึกปฏิบัติที่จัดขึ้นทั่วภูมิภาคในปี 2021 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้หญิง ผู้ประกอบการเพื่อดึงดูดการลงทุน ซึ่งจบลงด้วย  Investors Pitch Finale ในเดือนเมษายน 2022 ซึ่งผู้ประกอบการสตรี 25 คนจาก 9 ประเทศ (ตุรกี บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา จอร์เจีย คาซัคสถาน โคโซโว คีร์กีซสถาน มาซิโดเนียเหนือ มอลโดวา และเซอร์เบีย) ได้นำเสนอแผนธุรกิจและการเริ่มต้นธุรกิจในระยะเริ่มต้นเพื่อรับมือกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประการหนึ่งที่ผู้ประกอบการสตรีต้องเผชิญในการขยายธุรกิจ ซึ่งก็คือการเข้าถึงเงินทุน หลังจากการเสนอขาย นักลงทุนได้ให้การสนับสนุนทางการเงิน การให้คำปรึกษา และโอกาสในการสร้างเครือข่ายแก่ผู้ประกอบการสตรีเพื่อช่วยขยายธุรกิจของพวกเขา ในเดือนพฤศจิกายน 2022  งานแสดงสดครั้งที่สอง  Women’s Entrepreneurship EXPO โดยร่วมมือกับ PricewaterhouseCoopers,  European Bank for Reconstruction and Development และ Yildiz Holdingนำผู้ประกอบการสตรีและพันธมิตรทางธุรกิจมารวมตัวกันเพื่อระดมและดำเนินการเฉพาะด้านเพื่อพัฒนาภูมิทัศน์สำหรับผู้ประกอบการสตรี การพัฒนาในภูมิภาค ECA

  • นโยบายการประกอบการสตรีและการสนับสนุนในภูมิภาค LATAM

 องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) แนะนำนโยบายและงานสนับสนุนเพื่อสนับสนุนการพัฒนาผู้ประกอบการสตรีใน LATAM ในช่วงปี 2020-2021 ILO ดำเนินการและเปิดตัวการประเมินการพัฒนาผู้ประกอบการสตรี (WED) เกี่ยวกับเงื่อนไขนโยบายที่ส่งผลกระทบต่อการเป็นผู้ประกอบการสตรีที่เน้นภาคการค้าและอุตสาหกรรมในเม็กซิโกซิตี้เพื่อสนับสนุน WEA การประเมินรวมชุดคำแนะนำที่สามารถดำเนินการได้ 19 รายการเพื่อจัดการกับช่องว่างทางสถาบันที่มีอยู่สำหรับผู้ประกอบการสตรี ในบราซิล ILO ทำงานร่วมกับ Serviçio Nacional de Aprendizagem Industrial (SENAI) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาผู้ประกอบการสตรีผ่านชุดการสื่อสารและการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ ความสามารถ – สร้างเวิร์กช็อปและกิจกรรมต่างๆ

สามารถบันทึกกิจกรรมได้  ที่นี่

เกี่ยวกับ Women’s Entrepreneurship Accelerator

Women’s Entrepreneurship Accelerator (WEA) เป็นความร่วมมือหลายฝ่ายที่มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับการเป็นผู้ประกอบการของผู้หญิงที่จัดตั้งขึ้นใน UNGA 74 การประชุมประกอบด้วยหกหน่วยงานของสหประชาชาติ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (ITC) สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) UN Global Compact (UNGC) UN Women และ Mary Kay Inc . เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ผู้ประกอบการสตรี 5 ล้านคนภายในปี 2573

เป้าหมายสูงสุดของการริเริ่มคือการเพิ่มผลกระทบด้านการพัฒนาของผู้ประกอบการสตรีให้สูงสุดในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยการสร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก Accelerator เป็นตัวอย่างพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงของความร่วมมือแบบหลายฝ่ายที่มีขนาดไม่ซ้ำใครเพื่อควบคุมศักยภาพของผู้ประกอบการสตรี เรียนรู้เพิ่มเติมที่  we accelerate ติดตามเรา: Twitter (We_Accelerator), Instagram (@we_accelerator), Facebook (@womensentrepreneurshipaccelerator), LinkedIn (@womensentrepreneurshipaccelerator)

1 การวิจัยชี้ให้เห็นว่าผู้ประกอบการสตรีเผชิญกับการขาดดุลทางการเงิน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ MSME Finance Gap, International Finance Corporation, 2017 https://www.ifc.org/wps/wcm/connect/03522e90-a13d-4a02-87cd-9ee9a297b311/121264-WP-PUBLIC-M SMEReportFINAL.pdf?MOD=AJPERES&CVID=m5SwAQA

2 จากจำนวนประมาณ 2.9 พันล้านคนที่ยังคงออฟไลน์ ส่วนใหญ่เป็นสตรีและเด็กหญิงที่มีแนวโน้มน้อยที่จะใช้โทรศัพท์ เข้าถึงอินเทอร์เน็ต หรือมีทักษะในการใช้ประโยชน์จากดิจิทัล เทคโนโลยี.   https://www.gsma.com/r/wp-content/uploads/2022/06/The-Mobile-Gender-Gap-Report-2022.pdf?utm_source=website&utm_medium=download-button&utm_campaign=gender-gap-2022

3 ITU (2022) ข้อเท็จจริงและตัวเลขในปี 2022 – การแบ่งเพศทางดิจิทัล (itu.int)

4   การเคลื่อนไหวอย่างชาญฉลาด (pwc.com.au)

5 https://www.unesco.org/reports/science/2021/en/women-digital-revolution

6   เราต้องการเด็กผู้หญิงและผู้หญิงมากขึ้นในสาขาวิทยาศาสตร์เราสนับสนุนพวกเขาได้ 3 วิธีอย่างไรบ้าง(worldbank.org)

7 UN Women ความคืบหน้าของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ภาพรวมเพศปี 2022

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/53363951/en

รายชื่อติดต่อ

ฝ่ายสื่อสารระดับองค์กรของ Mary Kay Inc
marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com





Tusk Innovation ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับ Black Friday

Logo

KUALA LUMPUR, Malaysia–(BUSINESS WIRE)–17 พฤศจิกายน 2022

Tusk Inc. Limited (www.tusklimited.com) บริษัทที่เริ่มต้นในปี 2012 ในฐานะบริษัทจัดการเงินทุนในกรุงกัวลาลัมเปอร์ซึ่งมีสำนักงานอยู่ทั่วโลก และปัจจุบันเป็นหนึ่งในบริษัทโซลูชันไฟฟ้าชั้นนำที่มุ่งเน้นการผลิตสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์การทำเหมือง พลังงานแสงอาทิตย์ และอะแดปเตอร์ กำลังประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับ Black Friday สายผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับไฟฟ้า ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://tusklimited.com/products

This product is sold with a 7in 1 Solar Panel, so you don’t have to pay for the panel. (Photo: Business Wire)

ผลิตภัณฑ์นี้ขายพร้อมแผงโซลาร์เซลล์ 7in 1 คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าแผง (ภาพ: Business Wire)

ในฐานะหนึ่งในบริษัทโซลูชันไฟฟ้าชั้นนำ Tusk ประกาศให้ส่วนลด 30% สำหรับนวัตกรรมของ Tusk ในวัน Black Friday สำหรับอุปกรณ์การทำเหมืองแบบคอมโบ ซึ่งรวมเอาแผงโซลาร์เซลล์เข้ากับเครื่องขุดบิตคอยน์ เพื่อให้การทำเหมืองเป็นไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญใดๆ เนื่องจากไฟฟ้าเป็นปัญหาหลักในอุตสาหกรรมการทำเหมือง

โดยการปรับล่าสุดจากวัสดุโพลีคริสตัลไลน์เป็นวัสดุเซลล์แสงอาทิตย์ นวัตกรรมของ Tusk มีการทดสอบประสิทธิภาพของการรวมผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์เข้ากับเครื่องขุดคริปโตเคอเรนซี และได้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุด นักลงทุนด้านนวัตกรรมของ Tusk สามารถทำเหมืองคอยน์ของตนได้อย่างง่ายดายโดยไม่มีการหยุดชะงักแล้วในขณะนี้ ทั้งยังมีความเสี่ยงน้อยลง และได้ผลกำไรสูงสุด

นี่เป็นความพยายามในการลดปริมาณไฟฟ้าที่ใช้เมื่อลูกค้าทำการขุดคริปโตเคอเรนซี และได้รับการเปิดเผยโดย John Walls ประธานฝ่ายปฏิบัติการ (COO) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของ Walls “รายงานต่างๆ แสดงให้เห็นว่าปริมาณไฟฟ้าที่คนงานเหมืองต้องการอาจมากเกินกว่าที่จะจัดการได้ ดังนั้น เราจึงได้ตัวเลือกที่สมเหตุสมผล”

กำไรจากการขุด

แม้ว่าจะเป็นเรื่องน่ายินดีและให้ผลกำไรสูงสำหรับใครหลายๆ คนในการสร้างฟาร์มเหมืองคริปโตเคอเรนซี แต่ก็มีการคาดเดามากมายว่าพวกเขาอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการใช้ไฟฟ้า Tusk Inc ได้สร้างโซลูชันที่ใช้งานได้ยาวนานด้วยการมอบแผงโซลาร์เซลล์ที่ไม่สัมพันธ์กับค่าไฟฟ้าของคุณและอุปกรณ์การขุดบิตคอยน์ที่สามารถทำการขุดแบบคู่ได้ คุณสามารถขุดคอยน์ของคุณโดยไม่ต้องคอยกังวลกับความผันผวนของตลาด

Tusk Inc ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย และสหราชอาณาจักร มีความโดดเด่นที่แตกต่างจากที่อื่น โดยลูกค้าสามารถรับบริการพัฒนากระเป๋าเงินดิจิทัล (crypto wallet) รวมถึงหน่วยประมวลผลกราฟิกจากบริษัทที่มีสำนักงานอยู่ในสามทวีป นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์ในการพัฒนาบล็อกเชน และโซลูชันการขุดบิตคอยน์ รวมถึงด้านอื่นๆ อีกมากมาย

เกี่ยวกับ Tusk

ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 โดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการ และต่อมาทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีก็ได้เข้ามามีส่วนร่วม ปัจจุบัน Tusk Inc เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโซลูชันไฟฟ้าชั้นนำ พวกเขาภูมิใจในความสามารถในการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากพวกเขาอยู่ในธุรกิจการบริหารความเสี่ยงมานานกว่าทศวรรษ และด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีหลายประการ พวกเขาได้รวมกิจการที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าไว้ในระบบการจัดการความเสี่ยง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการขุดคริปโตเคอเรนซี โดยใช้วัสดุเซลล์แสงอาทิตย์

ข้อมูลติดต่อ

John Walls
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
john@tusklimited.com
(+60)1117000943

แหล่งที่มา: Tusk Inc. Limited

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Gradiant ได้รับการจัดอันดับสูงในรางวัล Real Leaders ECO Innovation and Great Place to Work ด้านนวัตกรรมของผู้นำและที่ทำงานยอดเยี่ยม

Logo

บอสตัน–(BUSINESS WIRE)–27 ก.ย. 2022

Gradiant ผู้ให้บริการโซลูชั่นระดับโลกและผู้พัฒนาน้ำเทคโนโลยีสะอาด ได้รับรางวัลที่ 7 โลกจาก Real Leaders ECO Innovation Awards 2022 สำหรับบริษัทที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในเชิงบวก และได้รับรางวัล Great Place to Work จากสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคในสิงคโปร์ และห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีระดับโลก

“รางวัลของเราจาก Real Leaders และ Great Place to Work เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงวัฒนธรรมนวัตกรรมและผลกระทบด้านความยั่งยืนของ Gradiant” Anurag Bajpayee ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Gradiant กล่าว “วัฒนธรรมของ Gradiant เป็นแรงบันดาลใจ และผมภูมิใจอย่างยิ่งในทีมของเราที่ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาตินี้ได้  สถานะนี้ตอกย้ำตำแหน่งของเราในฐานะนายจ้างดีเด่น โดยสร้างความแตกต่างและประสบการณ์การทำงานในเชิงบวกสำหรับทีมของเราทั่วโลก เรามุ่งหวังที่จะส่งเสริมวัฒนธรรมในที่ทำงานและประสบการณ์ของพนักงานโดยใช้ข้อมูลจากแบบสำรวจ Great Place to Work”

รางวัล Real Leaders ECO Innovation เป็นเกียรตินิยมสำหรับบริษัทต่างๆ ที่ใช้โซลูชันด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อสิ่งที่ดีกว่า เป็นการจัดอันดับบริษัทระดับโลกประจำปีที่ขับเคลื่อนผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกภาคส่วนที่สำคัญของเศรษฐกิจ โดย Gradiant อยู่ในอันดับที่ 7 ของโลกสำหรับเทคโนโลยี Carrier Gas Extraction (CGE) ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท ซึ่งใช้ในการส่งมอบโซลูชันน้ำที่ยั่งยืนสำหรับเจ้าของแบรนด์ยาที่ติดอันดับ Fortune 500 ในสิงคโปร์  กระบวนการ CGE ของ Gradiant เลียนแบบวัฏจักรฝนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อบำบัดน้ำเสียอุตสาหกรรมโดยใช้กระบวนการทางอุณหพลศาสตร์และส่งผลให้มีอัตราการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ได้ 96% และค่าใช้จ่ายด้านทุนสูงถึง 30% และประหยัดต้นทุนการดำเนินงานได้ 40% เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีของคู่แข่ง

Gradiant Singapore ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น Great Place to Work สำหรับปี 2022 ถึง 2023 โดยได้รับการคัดเลือกจากการสำรวจพนักงาน  Great Place to Work เป็นบริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาอิสระ และกระบวนการรับรองของบริษัทพิจารณาองค์ประกอบมากกว่า 60 ประการของประสบการณ์การทำงานโดยรวม พนักงาน 80% ที่ Gradiant ระบุว่าบริษัทเป็นสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยม เมื่อเทียบกับพนักงานเพียง 53% ในบริษัทระดับโลกทั่วไป 88% ของพนักงานกล่าวว่าพวกเขารู้สึกภาคภูมิใจในงานของตน และ 86% เชื่อว่าฝ่ายบริหารมีความซื่อสัตย์และมีจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ

“บริษัทของเราสร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อแก้ปัญหาความท้าทายด้านน้ำที่สำคัญที่สุดของโลก” Prakash Govindan ผู้ร่วมก่อตั้งและซีโอโอของ Gradiant กล่าว “สิงคโปร์เป็นสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคของเราและเป็นที่ตั้งของ Global Technology Labs ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่วิศวกรของเราแปลนวัตกรรมจากขนาดมาตรฐานไปสู่การค้าอย่างรวดเร็ว เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการยอมรับในด้านนวัตกรรมของเราและยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีที่สุดให้กับทีมงาน  พนักงานที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจและสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่เป็นผู้นำตลาด”

Gradiant ซึ่งเป็น “Water Technology Company of the Year” ในปี 2022 โดย Global Water Intelligence กำลังขยายทีมงานทั่วทั้งสำนักงานทั่วโลก สามารถดูตำแหน่งงานว่างได้ที่ Gradiant

เกี่ยวกับ Gradiant

Gradiant เป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นระดับโลกและผู้พัฒนาโครงการน้ำสะอาดสำหรับการบำบัดน้ำเสียขั้นสูง ด้วยชุดโซลูชั่นแบบ end-to-end ที่โดดเด่นและเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Gradiant ที่ขับเคลื่อนโดยผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำ  Gradiant ให้บริการแก่ลูกค้าในการดำเนินงานที่สำคัญต่อภารกิจในอุตสาหกรรมที่สำคัญของโลก  Gradiant ก่อตั้งขึ้นที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) และอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ซ้ำใครเพื่อจัดการกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นของโลกที่เกิดจากอุตสาหกรรม การเติบโตของประชากร และความเครียดจากน้ำ ปัจจุบัน Gradiant มีพนักงานมากกว่า 450 คน ดำเนินงานจากสำนักงานใหญ่ระดับโลกในบอสตัน  สำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาค และห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีระดับโลกในสิงคโปร์ และสำนักงานใน 12 ประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม www.gradiant.com

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220907005081/en/

ติดต่อ:

สำหรับฝ่ายองค์กร:
Felix Wang
รองประธานฝ่ายการตลาด Gradiant
fwang@gradiant.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay ท้าทายเยาวชนทั่วโลกในการจัดการเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ 14: ทรัพยากรทางทะเลในเครือข่ายประจำปีที่สามสำหรับ Teaching Entrepreneurship World Series of Innovation Challenge

Logo

การแข่งขันระดับโลกเฉลิมฉลองการเป็นผู้ประกอบการของเยาวชนและพลังแห่งความคิดเชิงนวัตกรรม

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–15 กันยายน 2565

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนองค์กรชั้นนำด้านการเสริมสร้างพลังอำนาจและการเป็นผู้ประกอบการของสตรี ประกาศความท้าทาย World Series of Innovation (WSI) ประจำปีครั้งที่ 3 ร่วมกับ Network for Teaching Entrepreneurship (NFTE) การแข่งขันระดับโลกเชิญชวนให้เยาวชนอายุระหว่าง 13-24 ปี ได้ทดสอบทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษยชาติเผชิญอยู่ในปัจจุบันเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs)

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220915005847/en/

Network for Teaching Entrepreneurship an international nonprofit organization providing entrepreneurship training and educational programs to middle and high school students, college students, and adults (Graphic: Network for Teaching Entrepreneurship)

Network for Teaching Entrepreneurship องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระหว่างประเทศที่จัดการฝึกอบรมผู้ประกอบการและโปรแกรมด้านการศึกษาแก่นักเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลาย นักศึกษาวิทยาลัย และผู้ใหญ่ (กราฟิก: Network for Teaching Entrepreneurship)

การแข่งขัน WSI ของ Mary Kay เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 15 กันยายน ร่วมกับ วันรณรงค์เพื่อโลกสะอาด หรือ World Clean Up Day ความท้าทายของ Mary Kay สนับสนุนให้ผู้ประกอบการรุ่นเยาว์เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่เป็นนวัตกรรมเพื่อจัดการกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติที่ 14: ทรัพยากรทางทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักศึกษาถูกท้าทายให้ออกแบบวิธีแก้ปัญหาเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์และ/หรือการปกป้องระบบนิเวศทางทะเลของโลกและชุมชนชายฝั่ง

“ทุกชีวิตบนโลกเริ่มต้นขึ้นและขึ้นอยู่กับมหาสมุทรของเรา น้ำเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในโลกของเรา และเราไม่เพียงเคารพน้ำเท่านั้น แต่ยังต้องทำหน้าที่ปกป้องน้ำด้วย” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “นักคิดและผู้นำรุ่นต่อไปของโลก กำลังจัดการกับประเด็นสำคัญเหล่านี้และเป็นหัวหอกในการอนุรักษ์ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่าเยาวชนของโลกสามารถช่วยพัฒนาระบบนิเวศและการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลกได้อย่างไร”

ในปีแรกที่ร่วมมือกับ NFTE World Series of Innovation ในปี 2563 โดย Mary Kay สนับสนุนการแข่งขัน WSI challenge สำหรับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติที่ 12: การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน ผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ได้รับการสนับสนุนให้ออกแบบผลิตภัณฑ์ การบริการ หรือความคิดริเริ่มที่ส่งเสริมการนำกลับมาใช้ซ้ำหรือการอัปไซเคิลสิ่งทอ ในปี 2564 Mary Kay สนับสนุนการแข่งขัน WSI challenge ครั้งที่ 2 เพื่อจัดการกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติที่ 5: ความเท่าเทียมทางเพศ นักศึกษาได้รับมอบหมายให้พัฒนาโครงการเพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมในสถานที่ทำงาน และให้เข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจอย่างเท่าเทียมกันสำหรับสตรีและเด็กผู้หญิง

“Mary Kay Global Oceans Conservations Challenge ท้าทายให้ผู้เข้าแข่งขัน WSI รุ่นเยาว์ของเราคิดให้ใหญ่เกี่ยวกับคุณภาพน้ำ” Dr. J.D. LaRock ประธานและซีอีโอของ NFTE กล่าว “ในห้องเรียนนั้นนักศึกษาเรียนรู้ว่าน้ำเป็นพื้นฐานของระบบนิเวศที่ดี การผ่านประสบการณ์เช่น WSI อย่างไรก็ตามพวกเขาได้รับอำนาจในการรักษาทรัพยากรนั้นไว้ พวกเขาสามารถคิดหาวิธีในการดูแลสัตว์ทะเล ปกป้องมหาสมุทร เข้าถึงน้ำดื่มสะอาดได้ในราคาประหยัด ปกป้องแหล่งน้ำจากมลพิษ จัดการกับการบริโภคที่มากเกินไป หรือช่วยรักษาระบบนิเวศของเราสำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป นั่นแหละทรงพลัง”

NFTE เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลกที่ให้การศึกษาด้านการเป็นผู้ประกอบการมาสู่ชุมชนที่มีรายได้น้อย นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อ 35 ปีที่แล้ว NFTE ได้ฝึกอบรมครูผู้สอนหลายพันคนและให้การศึกษาแก่เยาวชนกว่าล้านคนทั่วโลก ทุกฤดูใบไม้ร่วง NFTE เปิดความท้าทายชุดใหม่สำหรับการแข่งขัน WSI และเชิญผู้สนับสนุนองค์กรเพื่อจัดการกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ โดย Citi Foundation นำเสนองาน 2022 NFTE World Series of Innovation และมีความท้าทายที่สนับสนุนโดย Mary Kay Inc., MetLife Foundation, Mastercard, Bank of the West, Link, Maxar, Ernst & Young, LLP (EY), ServiceNow และ Zuora ผู้ชนะสามอันดับแรกจะประกาศในต้นปี 2566

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ World Series of Innovation และความท้าทายทั้งหมด โปรดไปที่ https://innovation.nfte.com/

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 2506 โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือเติมเต็มชีวิตให้กับผู้หญิง ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com พบกับเราบน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220915005847/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay Inc. ประกาศผู้ชนะการแข่งขัน NFTE World Series of Innovation Challenge

Logo

ความท้าท้ายนี้ขอให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่แก้ไขปัญหาความเท่าเทียมทางเพศในสถานที่ทำงาน เพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–22 เมษายน 2565

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนองค์กรชั้นนำด้านการเสริมสร้างพลังอำนาจและการเป็นผู้ประกอบการของสตรี ประกาศในวันนี้ว่า World Series of Innovation (WSI) Challenge ครั้งที่ 2 ร่วมกับ เครือข่ายสำหรับการสอนผู้ประกอบการ หรือ Network for Teaching Entrepreneurship (NFTE)  โดยประสบการณ์การศึกษาระดับโลกเชิญชวนให้เยาวชนอายุระหว่าง 13-24 ปีใช้ช่องทางการคิดเชิงวิพากษ์และทักษะการแก้ปัญหาเพื่อค้นหาแนวทางแก้ไขสำหรับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่โลกกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน และช่วยพัฒนาเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ในขณะที่ส่งเสริมกรอบความคิดของผู้ประกอบการ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220421005111/en/

In celebration of Creativity and Innovation Day, Mary Kay is proud to announce STEMinists as the winner of the NFTE World Series of Innovation Challenge addressing SDG 5: Gender Equality. (Photo: Mary Kay Inc.)

ในการเฉลิมฉลองวันแห่งความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and Innovation Day) Mary Kay มีความภาคภูมิใจที่จะประกาศให้ STEMinists เป็นผู้ชนะของการแข่งขัน NFTE World Series of Innovation Challenge ที่กล่าวถึง SDG 5: ความเท่าเทียมทางเพศ (ภาพ: Mary Kay Inc.)

การแข่งขัน World Series of Innovation Challenge ของ Mary Kay สนับสนุนให้เยาวชนจากทั่วโลกเสนอวิธีแก้ปัญหาเชิงนวัตกรรมเพื่อจัดการกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 5: ความเท่าเทียมทางเพศ หรือ Gender Equality โดยเฉพาะอย่างยิ่งความท้าทายนี้ขอให้นักเรียนคิดหาวิธีส่งเสริมความเท่าเทียมกันในสถานที่ทำงาน และรับรองการเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียมกันสำหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิง ก่อนการเกิดโควิด-19 ข้อมูลหลายทศวรรษแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของผู้หญิงในแรงงาน แม้ว่าช่องว่างของค่าจ้างนั้นยังคงมีอยู่ แต่มีผู้หญิงเข้าร่วมตลาดแรงงานมากขึ้นทุกปี แต่การตกงานจากการระบาดใหญ่นั้นส่งผลกระทบต่อผู้หญิงอย่างไม่สมส่วน และตั้งแต่ปี 2563 การตะเกียกตะกายไปสู่ความเท่าเทียมของแรงงานก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

“ขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะการแข่งขัน World Series of Innovation Challenge ประจำปีนี้! Mary Kay รับรู้ถึงความสำคัญของการเป็นผู้ประกอบการและบทบาทที่มีต่อโลกในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงลงทุนทุกปีในโปรแกรมและโครงการริเริ่มเพื่อช่วยส่งเสริมสตรีและเด็กผู้หญิงทั่วโลก” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “เรารู้สึกตื่นเต้นมากสำหรับผู้เข้าแข่งขันและผู้ชนะที่จัดการกับความท้าทายนี้และแสดงให้เห็นถึงการคิดในการแก้ปัญหาล่วงหน้า และระบุโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการบรรลุถึงความเท่าเทียมทางเพศในสถานที่ทำงาน”

NFTE เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรด้านการศึกษาระดับโลกที่มุ่งเน้นการนำพลังของการเป็นผู้ประกอบการมาสู่เยาวชนในชุมชนที่มีรายได้ต่ำ การแข่งขัน World Series of Innovation (WSI) Challenge เชิญชวนความท้าทายที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ

NFTE เข้าถึงเยาวชนกว่า 50,000 รายทั่วโลก มีนักเรียนมากกว่า 3,000 รายที่มีภูมิหลังที่หลากหลายส่งแนวคิดในการแข่งขัน WSI Challenges ในปีนี้ ทั้งนี้นักเรียนมากกว่า 400 รายเข้าร่วมในความท้าทายที่ได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay ผู้ชนะสามรายของการแข่งขัน Mary Kay’s 2021 Challenge ได้แก่:

  • ผู้ชนะเลิศอันดับที่หนึ่ง: STEMinists การสร้างพอร์ทัลออนไลน์ที่เชื่อมโยงกับผู้เชี่ยวชาญหญิงกับนักศึกษาหญิงสาว STEM ในฐานะที่ปรึกษาเพื่อสนับสนุนความสำเร็จของผู้หญิงในสาขา STEM พัฒนาโดย Misaki Nguyen อายุ 15 ปี จากโรงเรียนมัธยม Silver Creek High School ในเมืองซานโฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย
  • ผู้ชนะเลิศอันดับที่สอง: Pads for Peace การบริการกล่องสมัครสมาชิกผลิตภัณฑ์สำหรับสตรี โดยบริจาคจำนวนหนึ่งกล่องให้แก่ที่ผู้ไร้บ้านในทุก ๆ กล่องที่ซื้อ พัฒนาโดย Ashley Cohen, Olivia Mooney และ Ashley Simonian อายุ 14 ปี จากโรงเรียน Brentwood School ในเมืองลอสแองเจลิส
  • ผู้ชนะเลิศอันดับที่สาม: Black Girls Mean Business โปรแกรมธุรกิจภาคฤดูร้อนเสมือนจริงสำหรับนักเรียนหญิงผิวดำระดับมัธยม จับคู่กับมืออาชีพรุ่นเยาว์กับที่ปรึกษาจากธุรกิจชั้นนำด้านอุตสาหกรรม พัฒนาโดย Brianna Holmes, Alyssa Torres, Rachel Holmes อายุ 17 ปี และ Cherry Zhang อายุ 18 ปี จากโรงเรียนมัธยม Silver Creek High School ในเมืองซานโฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย

“ในทุก ๆ ปี ทีมเยาวชนจากทั่วโลกตอบสนองต่อการเรียกร้องของ WSI โดยใช้ประโยชน์จากความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาเพื่อหาวิธีแก้ไขปัญหาที่เร่งด่วนที่สุดของโลก” Dr.J.D. LaRock ประธานและซีอีโอของ NFTE กล่าว “เยาวชนมีความกล้าหาญและมีความทะเยอทะยาน และมักได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่พวกเขาหลงใหล WSI เปิดโอกาสให้พวกเขาพัฒนาความคิดและให้รางวัลสำหรับการคิดอย่างสร้างสรรค์ในประเด็นต่าง ๆ อย่างเช่น ความยากจน ความเสมอภาคและการไม่แบ่งแยก ตลอดจนความยุติธรรมทางสังคมและสิ่งแวดล้อม”

2021 NFTE World Series of Innovation นำเสนอโดย Citi Foundation และคุณสมบัติการแข่งขันจาก Bank of the West, Citi Foundation, Ernst & Young LLP (EY US), Mary Kay Inc., Maxar Technologies, PIMCO และ Saint-Gobain

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ World Series of Innovation และความท้าทายทั้งหมด กรุณาเยียมชมได้ที่ https://innovation.nfte.com

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเกือบ 60 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ นอกเหนือจากการลงทุนให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าที่ทันสมัยที่สุดแล้ว Mary Kay ยังมุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขา โดยมุ่งเน้นที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว สร้างความสวยงามให้กับชุมชน และสนับสนุนให้เด็ก ๆ ได้ทำตามความฝันของพวกเขา วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ในวันนี้ยังคงเปล่งประกาย เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Mary Kay ได้ที่ MaryKayGlobal.com

เกี่ยวกับ NFTE

Network for Teaching Entrepreneurship (NFTE) เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลกที่ให้การศึกษาด้านการเป็นผู้ประกอบการที่มีคุณภาพสูงแก่นักเรียนระดับมัธยมต้นและมัธยมปลายจากชุมชนที่มีทรัพยากรน้อย รวมถึงโปรแกรมสำหรับนักศึกษาและผู้ใหญ่ NFTE เข้าถึงนักเรียนมากกว่า 50,000 คนในปีการศึกษานี้ ด้วยการเปิดโปรแกรมใน 25 รัฐทั่วสหรัฐอเมริกา และในอีก 18 ประเทศเพิ่มเติม นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท เราได้ให้การศึกษาแก่นักเรียนมากกว่าหนึ่งล้านคนผ่านโปรแกรมในโรงเรียน นอกโรงเรียน วิทยาลัย และค่ายฤดูร้อน ที่เปิดสอนโดยตรงและทางออนไลน์ สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่เราส่งเสริมระบบทุนนิยมรอบด้าน และสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่หลากหลาย เยี่ยมชมได้ที่ www.nfte.com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220421005111/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Global Corporate Communications
marykay.com/newsroom
(+1) 972-687-5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay Inc. สนับสนุนให้ผู้ประกอบการรุ่นเยาว์แก้ไขปัญหาความเท่าเทียมทางเพศในสถานที่ทำงานผ่านเครือข่ายสำหรับการสอนผู้ประกอบการ (NFTE) World Series of Innovation Challenge

Logo

แดลลัส–(BUSINESS WIRE)–04 พฤศจิกายน 2564

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนองค์กรชั้นนำด้านการเสริมสร้างพลังอำนาจและการเป็นผู้ประกอบการของสตรี ประกาศในวันนี้ว่า World Series of Innovation (WSI) Challenge ครั้งที่ 2 ร่วมกับ เครือข่ายสำหรับการสอนผู้ประกอบการ หรือ Network for Teaching Entrepreneurship (NFTE) ในปีที่สองของการเป็นพันธมิตรกับ NFTE โดย Mary Kay ได้ให้การสนับสนุนโปรแกรม 2021 NFTE World Series of Innovation ซึ่งเป็นประสบการณ์การศึกษาระดับโลกที่เชิญชวนให้เยาวชนอายุระหว่าง 13-24 ปี ใช้ช่องทางการคิดเชิงวิพากษ์และทักษะในการแก้ปัญหาเพื่อค้นหาแนวทางแก้ไขสำหรับความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดที่กำลังเผชิญกับโลกในปัจจุบันและช่วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ให้ก้าวไกลในขณะที่ส่งเสริมความคิดของผู้ประกอบการ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211104005178/en/

Mary Kay’s World Series of Innovation Challenge asks students to think about ways to promote workplace equality and ensure equal access to economic opportunity for women and girls. (Photo: Mary Kay Inc.)

World Series of Innovation Challenge ของ Mary Kay ขอให้นักเรียนคิดหาวิธีส่งเสริมความเท่าเทียมในสถานที่ทำงานและรับรองการเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียมกันสำหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิง (ภาพ: Mary Kay Inc.)

World Series of Innovation Challenge ของ Mary Kay สนับสนุนให้เยาวชนจากทั่วโลกได้เสนอวิธีแก้ปัญหาเชิงนวัตกรรมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ 5: ความเท่าเทียมทางเพศ หรือ Gender Equality โดยเฉพาะอย่างยิ่งความท้าทายครั้งนี้ได้ขอให้นักเรียนคิดหาวิธีการส่งเสริมความเท่าเทียมกันในสถานที่ทำงาน และรับรองของการเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียมกันสำหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิง ซึ่งก่อนเกิดโควิด-19 ข้อมูลหลายทศวรรษแสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นของผู้หญิงในแรงงาน แม้ว่าช่องว่างค่าจ้างยังคงมีอยู่ ผู้หญิงจำนวนที่มากขึ้นเข้าร่วมตลาดแรงงานทุกปี แต่การตกงานจากการระบาดใหญ่ส่งผลกระทบต่อผู้หญิงอย่างไม่เป็นสัดส่วนนัก และตั้งแต่ปี 2563 การพยายามอย่างสูงไปสู่ความเท่าเทียมของแรงงานก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

“Mary Kay ทราบถึงความสำคัญของการเป็นผู้ประกอบการและบทบาทที่มีต่อโลกในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงลงทุนทุกปีในโปรแกรมและโครงการริเริ่มต่าง ๆ เพื่อช่วยส่งเสริมผู้หญิงและเด็กผู้หญิงทั่วโลก” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “เราต้องการช่วยที่ไม่เพียงแต่ให้โอกาสทางการศึกษาเท่านั้น แต่ยังช่วยให้พวกเขาไล่ตามความฝันไปทั่วโลก เราตื่นเต้นมากสำหรับความท้าทายนี้ซึ่งเชื่อมโยงกับภารกิจหลักของบริษัทของเรา”

NFTE เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรด้านการศึกษาระดับโลกที่มุ่งเน้นการนำพลังของผู้ประกอบการมาสู่เยาวชนในชุมชนที่มีรายได้ต่ำ World Series of Innovation (WSI) Challenge ได้เชื้อเชิญความท้าทายที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ด้วยจำนวนนักเรียน 100,000 คนจากทั่วโลก ในปี 2563 NFTE ได้รับนักเรียนที่เข้าร่วมเกือบ 4,000 คนจากทุกภูมิหลังที่ส่งแนวคิดใน WSI Challenges และนักเรียนเกือบ 350 คนเข้าร่วมในการแข่งขันครั้งแรกที่ Mary Kay สนับสนุนเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ 12: การบริโภคและการผลิตอย่างมีความรับผิดชอบ หรือ Responsible Consumption and Production ผู้ชนะสามรายของความท้าทายปี 2563 ของ Mary Kay ได้แก่:

  • อันดับที่หนึ่ง: Loop Tee Loop
    • Loop Tee Loop เป็น clothing loop แบบยั่งยืนที่รวมโรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอไลโอเซลล์เข้ากับการบริการรีไซเคิลเครื่องแบบจากมหานครมะนิลาในประเทศฟิลิปปินส์
  • อันดับที่สอง: SwagSwap
    • SwagSwap เป็นเครือข่ายโซเชียลในสหรัฐอเมริกาสำหรับเสื้อผ้ามือสอง โดยเปิดการใช้งานการแลกเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบ peer-to-peer สำหรับวัยรุ่น
  • อันดับที่สาม: Project DBrand
    • Project DBrand เป็นบริการที่ไม่เหมือนใคร ซึ่ง de-brands เครื่องแบบที่ใช้แล้ว เพื่อว่าพวกเขาสามารถนำไปรีไซเคิลสร้างสิ่งใหม่ได้ในสหรัฐอเมริกา

J.D. LaRock ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ NFTE กล่าวว่า “การสนับสนุนการพัฒนาผู้ประกอบการของเยาวชนมีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยสร้างโลกให้ดียิ่งขึ้นสำหรับคนรุ่นต่อไป” “ในแต่ละปีเรายังคงได้รับแรงบันดาลใจจากนวัตกรรมที่ผู้ประกอบการรุ่นต่อไปได้จินตนาการ และเราหวังว่าจะได้เห็นแนวคิดใหม่ทั้งหมดจากผู้เข้าแข่งขันใน WSI ปี 2564 เรารู้สึกขอบคุณ Mary Kay Inc. สำหรับการสนับสนุนเป็นปีที่สอง โดยวางความท้าทายระดับโลกที่สำคัญนี้เพื่อช่วยพัฒนาความเท่าเทียมกันในสถานที่ทำงานและเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียมกันสำหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิง”

นอกเหนือจาก World Series of Innovation แล้ว Mary Kay ยังสนับสนุนโครงการ Entrepreneurship ของ NFTE ในทุกโรงเรียน โดยนำเส้นทางการเป็นผู้ประกอบการผ่านหลักสูตรไปสู่นักเรียนทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ และสนับสนุนความท้าทายในการเป็นผู้ประกอบการเยาวชนระดับภูมิภาคของ NFTE ที่ซึ่งนักเรียนนำเสนอโอกาสทางธุรกิจเพื่อสร้างเงินในสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขัน

โปรแกรม 2021 NFTE World Series of Innovation นำเสนอโดย Citi Foundation และมีความท้าทายจาก Bank of the West, Citi Foundation, Ernst & Young LLP (EY US), Mary Kay, Inc., Maxar Technologies, PIMCO และ Saint-Gobain ความท้าทายนี้เปิดตัวในวันที่ 15 กันยายน และรายการจะครบกำหนดภายในวันที่ 15 ธันวาคม การตัดสินจะเริ่มต้นในเดือนมกราคม 2565 ผู้เข้ารอบสุดท้ายจะประกาศในเดือนกุมภาพันธ์ และผู้ชนะจะประกาศในวันที่ 31 มีนาคม

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ World Series of Innovation และความท้าทายทั้งหมด สามารถเยี่ยมชมได้ที https://innovation.nfte.com

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเกือบ 56 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay Inc. ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม  Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขาด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลก โดยมุ่งเน้นที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว สร้างความสวยงามให้กับชุมชน และสนับสนุนให้เด็ก ๆ ได้ทำตามความฝันของพวกเขา วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกาย – และนำพาสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Mary Kay ได้ที่ www.marykayglobal.com

เกี่ยวกับ NFTE

Network for Teaching Entrepreneurship (NFTE) เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลกที่ให้การศึกษาด้านการเป็นผู้ประกอบการที่มีคุณภาพสูงแก่นักเรียนระดับมัธยมต้นและมัธยมปลายจากชุมชนที่มีทรัพยากรน้อย รวมถึงโปรแกรมสำหรับนักศึกษาและผู้ใหญ่ NFTE เข้าถึงนักเรียนมากกว่า 45,000 คนในปีการศึกษานี้ ด้วยการเปิดโปรแกรมใน 25 รัฐทั่วสหรัฐอเมริกา และในอีก 20 ประเทศเพิ่มเติม นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท เราได้ให้การศึกษาแก่นักเรียนมากกว่าหนึ่งล้านคนผ่านโปรแกรมในโรงเรียน นอกโรงเรียน วิทยาลัย และค่ายฤดูร้อน ที่เปิดสอนโดยตรงและทางออนไลน์ สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่เราส่งเสริมระบบทุนนิยมรอบด้าน และสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่หลากหลาย เยี่ยมชมได้ที่ www.nfte.com

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211104005178/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Global Corporate Communications
marykay.com/newsroom
(+1) 972-687-5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย