มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา (NTHU) ต้นแบบด้านความยั่งยืน

Logo

ซินจู๋, ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–2 ธันวาคม 2564

มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา (NTHU) ได้รับรางวัล Taiwan University Sustainability Award ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับองค์กรและบริษัทที่อยู่ในไต้หวันและได้รับการยอมรับด้านความยั่งยืน จากงาน Taiwan Corporate Sustainability Awards (TCSA) ครั้งที่ 14 ซึ่งจัดโดยสถาบัน Taiwan Institute for Sustainable Energy (TAISE) เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวามีความโดดเด่นจาก 38 มหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการ โดยได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 ในการประเมินภาพรวม และในการแข่งขันรายบุคคลยังได้รับรางวัล Social Inclusion Leadership Award และ University Sustainability Report Gold Award อีกด้วย

เอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูออย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211202005031/en/

National Tsing Hua University was awarded the Taiwan University Sustainability Award. President Hocheng Hong (center) and Chief Sustainability Officer Tai Nyan-hwa (second from the left), Sustainability Office Director Lin Fu-ren (first from the left), Vice President and Chief of Staff King Chung-Ta (second from the right), Dean of International College Doong Ruey-an (first from the right). (Photo: National Tsing Hua University)

มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา (NTHU) ได้รับรางวัล Taiwan University Sustainability Award. Hocheng Hong (กลาง) อธิการบดี และ Tai Nyan-hwa (คนที่สองจากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืน, Lin Fu-ren (คนแรกจากซ้าย) ผู้อำนวยการสำนักงานความยั่งยืน, King Chung-Ta (คนที่สองจากขวา) รองอธิการบดีและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพนักงาน), Doong Ruey-an (คนแรกจากขวา) คณบดีวิทยาลัยนานาชาติแห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา (ภาพ: มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา)

คณะกรรมการตัดสินกล่าวถึงแนวทางที่เป็นแบบอย่างซึ่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวาได้บ่มเพาะจากความสามารถหลัก ๆ ด้านการสอนและการวิจัยเพื่อตอบสนองต่อการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมตามข้อกำหนดของการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมถึงการดำเนินโครงการรณรงค์ทั่วทั้งวิทยสาขาเพื่อลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนี้ พวกเขายังประทับใจในจรรยาบรรณการทำงานของมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวาที่เน้นความหลากหลายและความเท่าเทียม ตลอดจนการมอบรางวัลให้แก่คณาจารย์และเจ้าหน้าที่ที่มีผลงานโดดเด่นในด้านการวิจัย การสอน การให้คำปรึกษา และการบริการสาธารณะ ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลดีต่อสังคมในวงกว้างและช่วยยกระดับชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยในระดับนานาชาติ ในแง่ของความยั่งยืนนั้น มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวาได้แสดงออกตามคำขวัญของมหาวิทยาลัยเสมอมา โดยคำขวัญนั้นคือ การเป็นตัวของตัวเองและช่วยดูแลธรรมชาติ “To Oneself Be True, Give Nature Its Due” 

Hocheng Hong อธิการบดีมหาวิทยาลัย กล่าวว่า ความงามตามธรรมชาติของมหาวิทยาลัยเดินหน้าไปพร้อมกับหลักการของความยั่งยืน นอกเหนือจากการเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในไต้หวันที่แต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายความยั่งยืนแล้ว มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวายังมีหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนในระดับปริญญาตรีทั้งหมด 517 หลักสูตร และระดับบัณฑิตศึกษา 216 หลักสูตร ซึ่งรวมกันเป็น 13% ของหลักสูตรในมหาวิทยาลัย

Tai Nyan-hwa รองอธิการบดีอาวุโสและประธานเจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืนของมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวาชี้ให้เห็นว่า เพื่อให้แนวคิดเรื่องความยั่งยืนในทุกระดับลึกซึ้งยิ่งขึ้น ฝ่ายธุรการและวิชาการแต่ละแห่งจึงได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืน โดยทั้ง 26 คนเป็นสมาชิกของคณะกรรมการความยั่งยืน ซึ่งจะมีการประชุมกันทุก ๆ สองเดือนเพื่อหารือเกี่ยวกับการปรับปรุงและพัฒนาล่าสุดและประสานงานการดำเนินการต่าง ๆ

Lin Fu-ren ผู้อำนวยการสำนักงานความยั่งยืน กล่าวว่า เนื่องจากการวิจัย การสอน และการบริการสาธารณะเป็นงานที่สำคัญที่สุดของมหาวิทยาลัย ความพยายามในช่วงแรก ๆ ของมหาวิทยาลัยเพื่อส่งเสริมความยั่งยืนจึงเน้นที่การส่งเสริมให้ครู นักวิจัย และนักศึกษาบูรณาการหลักการของความยั่งยืนเข้าไว้ในงานที่กำลังปฏิบัติอยู่ คณาจารย์ของมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวาจำนวนมากกำลังดำเนินการวิจัยที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ 17 เป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ ในกระบวนการนี้ พวกเขาได้แสดงให้เห็นว่าการมุ่งความสนใจไปที่ปัญหาจะช่วยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกได้อย่างไร

Lin Fu-ren กล่าวอีกว่านอกเหนือจากทุน Rising Sun ที่สนับสนุนนักเรียนที่ด้อยโอกาสทางการเงินอย่างต่อเนื่องแล้ว มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวายังได้จัดตั้งกองทุนพิเศษเพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่ประสบความยากลำบากอันเนื่องมาจากการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เชื่อมโยงกับเป้าหมายความยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติที่ว่า “ความยากจนจะต้องไม่มี” และ “การศึกษาที่มีคุณภาพ”

Lin Fu-ren ยังชี้ให้เห็นอีกว่าการทำให้การพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นจริงนั้นต้องหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความยั่งยืนไว้ในหัวใจของนักศึกษา ดังนั้นเมื่อเรียนจบ เมล็ดพันธุ์เหล่านี้จะงอกงามและเติบโตอย่างแข็งแกร่งในสังคม

ดูเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211202005031/en/

ติดต่อ:

Holly Hsueh
มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา
(886)3-5162006
hoyu@mx.nthu.edu.tw

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย