Pando Software: สนุกกับการต่อสู้ในเกม P2E ใหม่ ‘Legend of Pandonia’ พร้อมรับเหรียญเป็นรางวัล!

Logo

โซล เกาหลีใต้–(บิสิเนส ไวร์)–16 ก.พ. 2565

เกม P2E 'Legend of Pandonia (โดยต่อไปนี้จะเรียกว่า LoP)' ที่เพิ่งวางจำหน่ายไปในปี 2565 เป็นที่ชื่นชอบของผู้เล่นจำนวนมากทั่วโลกเพราะระบบการเล่นเกมคุณภาพสูง  ตอนนี้ ด้วยการรวมกระเป๋าเงินและการอัปเดต staking ผู้ใช้จำนวนมากขึ้นสามารถเข้าร่วมการเดินทางที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้นของเหล่า Knights

The P2E game ‘Legend of Pandonia' released in 2022, is loved by many users all over the world for its high-quality gameplay. Now, through the wallet integration and staking update, users can join the interesting and exciting journey of the Knights. (Graphic: Business Wire)

เกม P2E ‘Legend of Pandonia'  ที่วางจำหน่ายในปี 2565 เป็นที่ชื่นชอบของผู้เล่นจำนวนมากทั่วโลกเพราะระบบการเล่นเกมคุณภาพสูง  ตอนนี้ ด้วยการรวมกระเป๋าเงินและการอัปเดต staking ผู้ใช้จำนวนมากขึ้นสามารถเข้าร่วมการเดินทางที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้นของเหล่า Knights (กราฟิก: Business Wire)

รับเหรียญในกระเป๋าเงินของฉัน…อัปเดตที่มีการรวม Wallet!

ตอนนี้ผู้ใช้สามารถโอน mPANDO ที่ได้รับในเกมไปยังกระเป๋าเงินของพวกเขา  หากผู้ใช้สร้างกระเป๋าเงิน PANDO SWAP ผู้ใช้สามารถโอนสินทรัพย์ mPANDO ไปที่นั่นเพื่อทำการฝาก/ถอน  mPANDO ที่ฝากใน 'กระเป๋าเงินของฉัน' สามารถแลกเปลี่ยนเป็น Bitcoin และ Ethereum ได้แล้ว  เหรียญ PANDO สามารถแลกเป็น mPANDO ได้

ร้าน Pandonia เปิดแล้ว! เพลิดเพลินไปกับผลประโยชน์ staking ร่วมกัน!

ผู้ใช้สามารถใช้ mPANDO ที่ซื้อมาจากร้านค้าในเกม Pandonia  ร้านค้า Pandonia เป็นสถานที่ที่ผู้ใช้สามารถซื้อฮีโร่ SSR (ระดับสุดยอด) รวมถึงไอเท็มเฉพาะเพื่อเพลิดเพลินไปกับการต่อสู้ที่น่าอัศจรรย์มากขึ้นเรื่อยๆ  นอกจากนี้ยังมีไอเท็มหลากหลายที่สามารถทำให้ฮีโร่แข็งแกร่งขึ้นได้  ในการใช้ร้านค้า Pandonia ผู้ใช้จะต้องเข้าร่วม staking ในเกม mPANDO

วิธีรับเหรียญ mPANDO ใน 'Legend of Pandonia'

LoP เป็นเกมแอคชั่น RPG ที่ผู้เล่นสามารถรวบรวมและใช้งานฮีโร่ที่มีเอกลักษณ์ 120 ตัวและติดตามการเดินทางของเหล่าอัศวินเพื่อค้นหา Soul Stones ที่ช่วยให้ได้รับพลังมหาศาล  นอกจากนี้ ผู้เล่นยังสามารถสัมผัสกับความสนุกในการสร้างคอมโบการต่อสู้ฮีโร่ของตนเองด้วยระบบการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์ของ LoP ซึ่งพวกเขาสามารถเล่นกับฮีโร่หลัก 3 ตัวและตัวละครสนับสนุน 3 ตัว (รวมฮีโร่ทั้งหมด 6 ตัว)

นอกจากนี้ LoP ยังเปิดฤดูกาล Arena (PVP) และ Tower of Abyss (PVE) เป็นประจำทุกสัปดาห์  รางวัลสุดท้ายของฤดูกาลปกติคือ 5,000 mPANDO  นอกจากนี้ ผู้เล่นสามารถรับ mPANDO ผ่านเนื้อหาต่างๆ เช่น ภารกิจรายวันและภารกิจความสำเร็จ  mPANDO เป็นเหรียญ MainNet ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานแอพพลิเคชั่นในเกมต่างๆ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและการอัพเดทล่าสุดของ LoP กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์อย่างเป็นทางการและชุมชนโซเชียลด้านล่าง

แนะนำเกม: https://drive.google.com/file/d/1G93chZn5YMnEw225PEB8MXK1s8HRKUpM/view?usp=sharing

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://www.legendofpandonia.com

Telegram: https://t.me/+cHuLOkOHBU1lMWY1

Discord: https://discord.gg/aX6BBQ3Jmy

Facebook: https://www.facebook.com/Legend.of.Pandonia

Twitter: https://twitter.com/LOP_GameMaster

Medium: https://medium.com/@legendofpandonia

Pando swap: https://pandoswap.com/#/

ดูคลังภาพ/มัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52578711/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ:

Pando Software Inc
Lucia Tanti
+82-70-5100-0815
pr@pandosoft.co.kr

Parse Biosciences ระดมทุนรอบ Series B มูลค่า 41.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อปรับผลิตภัณฑ์การจัดลำดับเซลล์เดียวและขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์

Logo

บริษัทจะทำการค้าและสร้างผลิตภัณฑ์ multi-omics แบบเซลล์เดียว

ซีแอตเทิล–(BUSINESS WIRE)–15 กุมภาพันธ์ 2565

วันนี้ Parse Biosciences บริษัทที่ทุ่มเทในการให้บริการโซลูชันการจัดลำดับเซลล์เดียวที่ปรับขนาดได้ ประกาศเกี่ยวกับการระดมทุนในรอบ Series B เป็นมูลค่า 41.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งนำโดย Marshall Wace และ Janus Henderson Investors ขณะที่ Soleus Capital, Logos Capital และ Bioeconomy Capital ก็เข้าร่วมในการระดมทุนรอบนี้เช่นเดียวกัน ทำให้มูลค่าการระดมทุนทั้งหมดของ Parse Biosciences ปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่า 50 ล้านเหรียญ

เงินทุนจะนำไปใช้เพื่อขยายการค้าผลิตภัณฑ์ Evercode Whole Transcriptome ของ Parse ซึ่งช่วยให้นักวิจัยสร้างโปรไฟล์เซลล์ในระดับต่าง ๆ และทำให้พวกเขาสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการในการทดลองเฉพาะของพวกเขาได้ Evercode ใช้ประโยชน์จากเทคนิคที่ได้รับการจดสิทธิบัตรแล้วของบาร์โค้ดแบบผสมผสาน ซึ่งช่วยปรับปรุงความละเอียดของตัวอย่าง เพิ่มความไวในการถอดรหัส และทำให้กระบวนการทำงานง่ายขึ้น

กลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Parse ประกอบด้วย Evercode Whole Transcriptome Mega ซึ่งสามารถกำหนดโปรไฟล์ได้มากถึง 1,000,000 เซลล์ในแบบคู่ขนาน และ Evercode Whole Transcriptome Mini ซึ่งเป็นชุดอุปกรณ์ที่ใช้สร้างโปรไฟล์มากถึง 10,000 เซลล์แบบคู่ขนานสำหรับการศึกษาในระดับที่เล็กกว่า หลังจากการระดมทุน Parse จะขยายแพลตฟอร์ม Evercode ไปมากกว่า transcriptomics ซึ่งช่วยให้นักวิจัยสามารถยกระดับการวัด multi-omic แบบเซลล์เดียวในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

Alex Rosenberg ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Parse Biosciences กล่าวว่า “การทำความเข้าใจและกำหนดโปรไฟล์เซลล์อย่างละเอียดตามระดับที่ต้องการเป็นพื้นฐานสำหรับการค้นพบครั้งใหญ่ในอนาคตในสาขาต่าง ๆ เช่น เนื้องอกวิทยา ภูมิคุ้มกันวิทยา และประสาทวิทยาศาสตร์ การทำความเข้าใจ transcriptome เป็นหัวใจสำคัญ แต่การพัฒนาไปสู่ ​​multi-omics เป็นการพัฒนาตามธรรมชาติ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะเริ่มขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเรา โดยเริ่มในปลายปีนี้”

ผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทจะรองรับการใช้งานต่าง ๆ ได้แก่:

  • การทำโปรไฟล์ภูมิคุ้มกันที่จะช่วยให้นักวิจัยสามารถรวบรวมการแสดงออกของยีนและการทำโปรไฟล์ตัวรับ
  • การทำโปรไฟล์ Chromatin ที่จะให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับกลไกการควบคุมยีนเฉพาะเซลล์ และช่วยให้เข้าใจ epigenome มากขึ้น
  • การคัดกรอง CRISPR ปริมาณงานสูงที่จะช่วยให้สามารถตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงการแสดงออกของยีนตามการปรับยีนในเซลล์เดียว
  • เครื่องมือการวิเคราะห์ยีนเป้าหมายที่จะเสริมสร้างยีนย่อยเฉพาะอีกชุดที่เกี่ยวข้องกับนักวิจัย โดยจะช่วยให้การศึกษาที่ปรับระดับได้เพิ่มมากขึ้น พร้อมกับรักษาต้นทุนในแต่ละลำดับที่เหมาะสม
  • ความไวเพิ่มเติมของชุดเครื่องมือ Evercode Whole Transcriptome ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขึ้นอย่างมากในการถอดรหัสและการตรวจหายีน

หลังจากการระดมทุน Series A มูลค่า 7 ล้านเหรียญสหรัฐในเดือนมกราคม 2564, Parse Biosciences ก็ได้ขยายขอบเขตการบริการไปยังระดับโลก ในเดือนตุลาคม 2564, Parse ร่วมมือกับ Decode Sciences เพื่อจัดหาโซลูชันการจัดลำดับเซลล์เดียวให้กับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ หลังจากนั้นไม่นาน Parse ได้ประกาศข้อตกลงการจัดจำหน่ายกับ Research Instruments Pte Ltd เพื่อขยายการให้บริการไปยังสิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย และเวียดนาม

Charlie Roco ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและผู้ร่วมก่อตั้ง Parse Biosciences กล่าวว่า “ตั้งแต่ Series A ปิดตัวลง Parse ก็เติบโตอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เรากำลังพัฒนาแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่องตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งกำลังใช้การจัดลำดับเซลล์เดียวในวงกว้างในแบบที่เราไม่เคยพบมาก่อน เรารู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่งต่อนักลงทุนของเราที่ได้แบ่งปันวิสัยทัศน์ และเรารู้สึกภูมิใจที่ได้สนับสนุนนักวิจัยผู้ขับเคลื่อนข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อยารักษาที่ตรงจุดและการบำบัดด้วยยาโดยรวม”

Parse Biosciences จะเข้าร่วมการประชุมประจำปี Molecular and Precision Med Tri-Conference ตั้งแต่วันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ 2565 ในเซสชันของเขา หัวข้อ “The Implications of Single-Cell Transcriptomics at Unprecedented Scale” หรือ ผลกระทบของการถอดรหัสเซลล์เดียวในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดย Charlie Roco จะนำเสนอผลกระทบที่สำคัญของการทำโปรไฟล์ transcriptome ตามระดับที่ต้องการในพื้นที่การรักษาจำนวนมาก Parse จะเป็นเจ้าภาพการสัมมนาผ่านทาง webinar คู่กับ American Society of Human Genetics เพื่อแสดงประสิทธิภาพใหม่ของแพลตฟอร์ม Evercode ในวันที่ 18 มีนาคม 2565 เวลา 00.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

Parse กำลังรับสมัครสมาชิกเพิ่มเติมเพื่อเข้าร่วมทีม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.parsebiosciences.com/careers

เกี่ยวกับ Parse Biosciences

Parse Biosciences เป็นบริษัทในซีแอตเทิลที่มีภารกิจในการเร่งความก้าวหน้าในด้านสุขภาพของมนุษย์และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์

หัวใจหลักของบริษัทของเราคือแนวทางการบุกเบิกสำหรับการจัดลำดับเซลล์เดียว การจัดลำดับเซลล์เดียวได้เปิดใช้งานการค้นพบที่แปลกใหม่ ซึ่งนำไปสู่ความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับการรักษามะเร็ง การซ่อมแซมเนื้อเยื่อ การบำบัดด้วยสเต็มเซลล์ โรคไตและตับ การพัฒนาสมอง และระบบภูมิคุ้มกัน  ที่ Parse Biosciences เรากำลังจัดหานักวิจัยที่มีความสามารถในการดำเนินการจัดลำดับเซลล์เดียวในขนาดและความง่ายดายที่ไม่เคยมีมาก่อน

เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่: https://www.parsebiosciences.com/

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220215005525/en/

ติดต่อ:

Shannia Coley
shannia@jones-dilworth.com
443-471-6830

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

A Thing of Beauty: Mary Kay Inc. คว้า 5 รางวัลนายจ้างดีเด่นในช่วงต้นปี 2565 ทั่วสหรัฐอเมริกา ยุโรปและมาเลเซีย

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–16 กุมภาพันธ์ 2565

คนทำงานด้านบริการทั่วโลกต่างกล่าวขาน: Mary Kay Inc. บริษัทด้านความงามและการพัฒนาผู้ประกอบการอันโด่งดัง ได้รับการโหวตให้เป็นสถานที่ทำงานอันดับต้น ๆ อีกครั้ง ในช่วงเวลา 60 วันแรกของปี 2565 แบรนด์ได้รับรางวัลนายจ้างอันทรงเกียรติถึงห้ารางวัลผ่านทาง Forbes และ Kincentric  ในสหรัฐอเมริกา ยุโรป สาธารณรัฐเช็ก สเปน และมาเลเซีย การได้รับเกียรตินี้มาจากความสำเร็จในการจ้างงานอื่น ๆ อีกหลายรางวัลที่ได้รับตลอดสามปีที่ผ่านมา

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220215005276/en/

Melinda Foster Sellers, Chief People Officer at Mary Kay Inc. (Photo: Mary Kay Inc.)

Melinda Foster Sellers ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทรัพยากรบุคคลของ Mary Kay Inc. (ภาพ: Mary Kay Inc.)

สุดยอดนายจ้างแห่งปี 2565 ของนิตยสาร Forbes (Forbes Best Employers of 2022) ได้รับการระบุในแบบสำรวจอิสระซึ่งจัดทำโดยพนักงานชาวอเมริกันประมาณ 60,000 รายที่ทำงานให้กับบริษัทที่มีพนักงานมากกว่า 1,000 รายในสหรัฐอเมริกา โดยรวมแล้วนายจ้าง 1,000 รายได้รับการยอมรับจาก 25 ภาคอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันไป และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Mary Kay ได้รับรายชื่อให้เป็นนายจ้างที่เป็นที่ปรารถนาของนิตยสาร Forbes—เมื่อเร็ว ๆ นี้ Forbes ยังระบุให้ Mary Kay เป็นสุดยอดนายจ้างขนาดกลาง สุดยอดนายจ้างสำหรับความหลากหลาย และสุดยอดนายจ้างสำหรับผู้หญิง

รางวัลนายจ้าง Kincentric ของ Mary Kay ในยุโรป สาธารณรัฐเช็ก สเปน และมาเลเซีย เป็นผลจากการประเมินที่แข็งแกร่งซึ่งวัดผลและระบุองค์กรที่เปลี่ยนแนวปฏิบัติด้านบุคลากรเพื่อขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น จากข้อมูลของ Kincentric พนักงานของ Mary Kay ที่เข้าร่วมเกือบ 8 ใน 10 รายตอบว่า “ใช่” เมื่อถูกถามว่า: “Mary Kay เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันทำงานให้ดีที่สุดในทุก ๆ วัน” และพนักงานร้อยละ 87 ตอบรับคำกล่าวยืนยันว่า: “ภารกิจขององค์กรนี้ให้ทิศทางที่มีความหมายมาสู่ฉัน” ทั้งนี้เป็น 19 คะแนนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกของ Kincentric

Melinda Foster Sellers ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทรัพยากรบุคคลของ Mary Kay Inc. กล่าวว่า “Mary Kay รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการยอมรับอีกครั้งในด้านแนวปฏิบัติของพนักงานและคะแนนการมีส่วนร่วมในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม” “บุคลากรของเราเป็นรากฐานของงานอันน่าทึ่งที่เราทำทั่วโลกและเป็นเหตุผลที่ทำให้เรายังคงเป็นแบรนด์ความงามชั้นนำเกือบ 60 ปีหลังจากการก่อตั้งของเรา เรามีปรัชญาการจ้างงานที่เรียบง่ายที่ Mary Kay: หากพนักงานของเรามาทำงานในทุก ๆ วันโดยเชื่อว่าพวกเขากำลังช่วยทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นนั้นแสดงว่าเรามาถูกทางแล้ว”

ทั้งนี้ปรัชญาดังกล่าวได้แจ้งการตัดสินใจของพนักงานภายในทุกครั้งตลอดหกทศวรรษที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้พนักงานของ Mary Kay ร้อยละ 41 ทั่วโลกจึงร่วมงานกับบริษัทมาเป็นเวลานานกว่าสิบปี โดยร้อยละ 75 ของบทบาทใหม่ได้รับการส่งเสริมจากภายใน และแบรนด์นำเสนอหลายโปรแกรมที่มุ่งพัฒนาทางวิชาชีพ การคิดเชิงนวัตกรรม และสวัสดิภาพของพนักงาน Mary Kay นำเสนอรายการที่เอื้อประโยชน์ให้แก่พนักงานในด้านการรักษาพยาบาล ทันตกรรม และการมองเห็น การประกันชีวิต บัญชีออมทรัพย์สำหรับการรักษาพยาบาลและการดูแลที่ต้องพึ่งพาอาศัยกัน ความคุ้มครองการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุและการสูญเสียอวัยวะ และแผนการออมเพื่อการเกษียณที่มีทั้งแบบ 401k และโปรแกรมแบ่งปันผลกำไรที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความมุ่งมั่นในการแบ่งปันความสำเร็จนี้เป็นรากฐานที่สำคัญของความมุ่งมั่นของ Mary Kay ต่อผู้ที่ทำให้เป็นไปได้

“บางทีฉันภูมิใจกับความพยายามด้านความหลากหลายของเราอย่างมากที่สุด” Sellers กล่าวเสริม “ในฐานะส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเราต่อความหลากหลายและการไม่แบ่งแยก ผู้นำของเรามากกว่า 1,000 ราย ได้เข้ารับการฝึกอบรมเรื่องอคติโดยไม่รู้ตัวและกำลังมีการดำเนินการอย่างอื่นที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้เรายังขอความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการตรวจสอบธุรกิจบุคคลที่สามและผู้ขายข้อมูลความหลากหลายเพื่อประเมินห่วงโซ่อุปทานของเราเพื่อให้แน่ใจว่าเราเป็นตัวแทนของผู้หญิง ชนกลุ่มน้อย และธุรกิจที่เป็นเจ้าของโดยทหารผ่านศึกอย่างเหมาะสม”

พนักงานทั่วโลกของ Mary Kay ร้อยละ 61 เป็นผู้หญิง และร้อยละ 64 ของผู้นำตลาดเป็นผู้หญิง ณ เดือนมีนาคม 2564 

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเมื่อเกือบ 57 ปีที่ผ่านมาโดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ นอกจากการลงทุนทางด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและผลิตภัณฑ์สุดล้ำ Mary Kay ยังทุ่มเทกับการให้ความช่วยเหลือผู้หญิงและครอบครัวของพวกเธอ บริษัทของเรายังสนับสนุนการวิจัยด้านมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน เพื่อให้วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายจนถึงทุกวันนี้ เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ MaryKay.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220215005276/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Blackstone ประกาศเพิ่มทุนจำนวน 21,000 ล้านยูโรสำหรับ Mileway

Logo

  • ธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา
  • การเพิ่มทุนช่วยเสริมสร้างมูลค่าที่โดดเด่นให้กับนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ของ Blackstone ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้สามารถคัดเลือกผู้ลงทุนเพื่อรักษาเอ็กซ์โพเชอร์ในระยะยาวสำหรับหนึ่งในธีมความเชื่อมั่นสูงสุดของบริษัทได้

ลอนดอน–(BUSINESS WIRE)–15 ก.พ. 2565

Blackstone (NYSE: BX) ประกาศในวันนี้ว่านักลงทุนเดิมใน Mileway ซึ่งเป็นบริษัทโลจิสติกส์ที่มีพื้นที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 14.7 ล้านตารางเมตรในทวีปยุโรป ได้ตกลงที่จะเพิ่มทุนให้กับบริษัทเป็นจำนวนเงิน 21,000 ล้านยูโรควบคู่ไปกับกลยุทธ์ Core+ ของ Blackstone และจะดำเนินธุรกิจต่อไปในระยะยาว  ทั้งนี้ การเพิ่มทุนยังคงอยู่ภายใต้กระบวนการ “go-shop” ซึ่งจะเริ่มทันที

ในช่วงหกปีที่ผ่านมา ทีมผู้บริหารของ Blackstone และ Mileway ได้ขยายบริษัทให้เติบโตเป็นพอร์ตโฟลิโอด้านโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ปัจจุบันประกอบด้วยสินทรัพย์ด้านโลจิสติกส์คุณภาพสูงกว่า 1,700 แห่ง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 14.7 ล้านตารางเมตรใน 10 ประเทศ

ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มทุน ผู้ที่ลงทุนเดิมใน Mileway จะได้รับโอกาสในการเลือกที่จะคงไว้หรือเพิ่มการถือหุ้นของตน หรือการขายหุ้นเปลี่ยนเป็นเงินสด เงินทุนส่วนใหญ่สำหรับการเพิ่มทุนนั้นมาจากนักลงทุนที่มีอยู่เดิม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งของพวกเขาใน Mileway และในภาคส่วนนี้

James Seppala หัวหน้าฝ่ายอสังหาริมทรัพย์ในยุโรปของ Blackstone กล่าวว่า ” เราภูมิใจที่ได้สร้างพอร์ตโฟลิโอชั้นนำของอสังหาริมทรัพย์ในยุโรปร่วมกับทีมผู้บริหารของ Mileway ในการจัดการโลจิสติกขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการส่งมอบในหลายสถานที่ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด โลจิสติกส์เป็นหนึ่งในรูปแบบความเชื่อมั่นสูงสุดของเราทั่วโลก และภาคส่วนนี้ยังคงพิสูจน์ความยืดหยุ่นและศักยภาพในการเติบโตที่แข็งแกร่ง เราได้ส่งมอบผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ของ Blackstone และเราตั้งตารอที่จะสร้างมูลค่าต่อไปให้กับนักลงทุนที่แสวงหาผลตอบแทน Core+ ในระยะยาว”

Emmanuel Van der Stichele ซีอีโอของ Mileway กล่าวว่า “เราได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Blackstone เพื่อสร้างพอร์ตโฟลิโอด้านโลจิสติกขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการส่งมอบ ซึ่งเชื่อมโยงลูกค้าของเรากับธุรกิจและชุมชนที่พวกเขาให้บริการได้ดียิ่งขึ้น การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของ Blackstone จะช่วยให้เราสามารถดำเนินการตามวิสัยทัศน์ร่วมกันของเราสำหรับ Mileway ซึ่งเป็นบริษัทด้านโลจิสติกส์สำหรับการขนส่งระยะไกลระดับแนวหน้าของยุโรป ในขณะที่เราใช้ความคิดริเริ่มในการเพิ่มมูลค่าและแผนการพัฒนาในเมืองสำคัญ ๆ ทั่วสหราชอาณาจักรและยุโรป”

Morgan Stanley & Co. International plc ได้ให้ความเห็นอย่างเป็นธรรมในเรื่องการเพิ่มทุน ส่วน Eastdil Secured International Limited ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นธรรมต่อผู้ลงทุนเดิมที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมที่ประกาศไว้ เพื่อตอกย้ำว่าธุรกรรมนี้จะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนเดิม Blackstone กำลังเริ่มกระบวนการ “go-shop” ในนามของนักลงทุนปัจจุบันของ Mileway ซึ่งนำโดย Morgan Stanley & Co. International plc และจะใช้เวลาสูงสุด 75 วัน

บริษัท BofA Securities, Eastdil Secured International Limited, Goldman Sachs International, Jones Lang LaSalle Limited, JP Morgan Securities plc, Morgan Stanley & Co. International plc และ Rothschild & Co เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแก่นักลงทุนปัจจุบัน บริษัทเหล่านี้ทั้งหมดยกเว้น Morgan Stanley & Co. International plc และ Eastdil Secured International Limited อาจได้รับการติดต่อเพื่อสนับสนุนผู้มีโอกาสเป็นผู้เสนอราคาในกระบวนการแบบ “go-shop process” ทั้งนี้ Simpson Thatcher & Bartlett LLP ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมายให้กับ Blackstone

เกี่ยวกับ Blackstone Real Estate

Blackstone เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ Blackstone ก่อตั้งขึ้นในปี 2534 และมีเงินทุน 279,000 ล้านดอลลาร์ภายใต้การบริหาร ทั้งนี้ Blackstone เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเป็นเจ้าของและดำเนินการสินทรัพย์ในทุกภูมิภาคและทุกภาคส่วนที่สำคัญ ซึ่งรวมถึงการขนส่ง ที่อยู่อาศัย สำนักงาน การบริการ และการค้าปลีก กองทุนปิดของเราพยายามที่จะซื้อสินทรัพย์ที่ไม่มีการจัดการและอยู่ในทำเลที่ดีทั่วโลก ธุรกิจ Core+ ของ Blackstone ลงทุนในสินทรัพย์ด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเสถียรอย่างมากทั่วโลก ผ่านทั้งกลยุทธ์เชิงสถาบันและกลยุทธ์ที่ปรับให้เหมาะสำหรับนักลงทุนรายย่อยที่เน้นรายได้ ซึ่งรวมถึง Blackstone Real Estate Income Trust, Inc. (BREIT) REIT ที่ไม่จดทะเบียนในสหรัฐฯ และ Blackstone's European กลยุทธ์ที่เหมาะสำหรับนักลงทุนรายย่อยที่ออกแบบมาสำหรับนักลงทุนที่ไม่ใช่ชาวอเมริกัน นอกจากนี้ Blackstone Real Estate ยังดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับหนี้สินด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลกรายหนึ่ง โดยให้บริการโซลูชั่นทางการเงินที่ครอบคลุมทั่วทั้งโครงสร้างเงินทุนและสเปกตรัมความเสี่ยง ซึ่งรวมถึงการจัดการ Blackstone Mortgage Trust อีกด้วย (NYSE: BXMT)

เกี่ยวกับ Mileway

Mileway เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ด้าน โลจิสติกส์ล่าสุดที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ซึ่งมีการดำเนินงานทั่วทั้งยุโรป โดยมีสินทรัพย์มากกว่า 1,700 รายการใน 10 ประเทศในยุโรปที่สำคัญ ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ Mileway ได้แก่ สหราชอาณาจักร เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ สวีเดน และฝรั่งเศส และมีสาขาสำคัญในเดนมาร์ก อิตาลี สเปน ฟินแลนด์ และไอร์แลนด์ อนึ่ง Mileway มีทีมงานกว่า 350 คนในสำนักงาน 26 แห่ง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่: www.mileway.com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220214005931/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ

Louis Clark

Louis.Clark@Blackstone.com

+44 7867 930156

Alexandra Ritterman

Alexandra.Ritterman@Blackstone.com

+44 7778 487939

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Allvue Systems ได้รับคัดเลือกโดย Do Ventures เพื่อสนับสนุนการสื่อสารแก่นักลงทุน

Logo

โซลูชัน Investor Portal ของ Allvue จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีของ Do Ventures เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการจัดการ LP

ไมแอมี–(บิสิเนสไวร์)–15 ก.พ. 2565

Allvue Systems (“Allvue”) ผู้ให้บริการโซลูชั่นเทคโนโลยีการลงทุนทางเลือกชั้นนำ ประกาศว่า Do Ventures ได้เลือกโซลูชัน Investor Portal ของบริษัทเพื่อสนับสนุนการจัดการ LP.  Do Ventures เป็นกองทุนร่วมระยะเริ่มต้นที่ทำหน้าที่เป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์สำหรับสตาร์ทอัพในเวียดนามและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โซลูชัน Investor Portal ของ Allvue จะช่วยให้ Do Ventures มีการสื่อสารที่โปร่งใส ทันเวลา และมีประสิทธิภาพกับ LP.  Do Ventures จะสามารถเข้าถึงแดชบอร์ดที่ใช้งานง่ายและกำหนดค่าได้สูง ซึ่งจะช่วยให้สามารถแบ่งปันข้อมูลกับนักลงทุนได้อย่างปลอดภัย และปรับปรุงการดำเนินงานเมื่อจำนวนเงินทุน การลงทุน และลูกค้าเติบโตขึ้นทั่วโลก

“ในขณะที่ธุรกิจของเราเติบโตขึ้น การหาพันธมิตรด้านเทคโนโลยีที่มีจิตวิญญาณของผู้บุกเบิกเช่นเดียวกับเราในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและให้บริการลูกค้าได้ดีที่สุดเป็นสิ่งสำคัญ” Vy Le ผู้ร่วมก่อตั้งและหุ้นส่วนทั่วไปของ Do Ventures กล่าว  “โซลูชันเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลของ Allvue รวมกับประสบการณ์ที่ลึกซึ้งในทางเลือกอื่น จะช่วยให้เราสามารถปรับปรุงการสื่อสารของนักลงทุนผ่านโครงสร้างพื้นฐานการรายงานที่ครอบคลุม”

“ด้วยภาคส่วนการร่วมทุนที่เติบโตอย่างรวดเร็วในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Do Ventures ตระหนักถึงความจำเป็นสำหรับเวิร์กโฟลว์การจัดการนักลงทุนที่เหนือกว่าเพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสการลงทุนเหล่านี้และจัดการฐานนักลงทุนที่กำลังเติบโต” Edward Bee หัวหน้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของ Allvue กล่าว “โซลูชั่นพอร์ทัลนักลงทุนของเราจะช่วยให้ Do Ventures ขยายขอบเขตการสื่อสาร LP ของพวกเขา และทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับนักลงทุนทั้งในปัจจุบันและอนาคต”

Investor Portal ของ Allvue มอบระบบการจัดการข้อมูลบริษัทในพอร์ตโฟลิโอ การวิเคราะห์กระแสเงินสด และการแบ่งปันเอกสารที่ปลอดภัยไว้ในโซลูชันเดียวให้กับหุ้นส่วนจำกัด  ด้วยข้อตกลงนี้ Do Ventures กลายเป็นลูกค้ารายแรกของ Allvue ในเวียดนามและภูมิภาคอาเซียน เพียงหกเดือนหลังจากการเปิดตัวธุรกิจ APAC ในเดือนมิถุนายน 2564 ด้วยการเปิดสำนักงานในสิงคโปร์

เกี่ยวกับ Allvue

Allvue เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นนำสำหรับผู้จัดการการลงทุนในอุตสาหกรรมเงินทุนและตลาดสินเชื่อส่วนบุคคล ภารกิจของบริษัทคือการเพิ่มขีดความสามารถในการตัดสินใจลงทุนที่เหนือกว่าด้วยการจับคู่โซลูชันซอฟต์แวร์บนคลาวด์ที่ทันสมัยเข้ากับความสามารถในสินทรัพย์หลายประเภท  โซลูชันซอฟต์แวร์ของ Allvue ให้บริการตลอดวงจรชีวิตการลงทุน และมีการบูรณาการอย่างราบรื่นเพื่อจัดหาชุดผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุม ซึ่งให้บริการผู้จัดการการลงทุนทุกขนาดทั่วโลก รวมถึงหุ้นส่วนทั่วไป หุ้นส่วนจำกัด ผู้บริหารกองทุน และธนาคาร

Allvue ก่อตั้งขึ้นในปี 2562 ผ่านการควบรวมกิจการของ Black Mountain Systems และ AltaReturn ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นเทคโนโลยีการลงทุนชั้นนำสองราย Allvue ตั้งอยู่ในเมืองไมแอมี รัฐฟลอริดา โดยมีสำนักงานทั่วอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชียแปซิฟิก  ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการมุ่งเน้นที่สินทรัพย์หลายประเภท โซลูชันซอฟต์แวร์ของ Allvue ช่วยให้ลูกค้าสามารถดำเนินการและขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยทำให้กระบวนการทำงานด้วยตนเองเป็นอัตโนมัติ ปรับปรุงความถูกต้องของข้อมูลและความสม่ำเสมอในเวิร์กโฟลว์ และนำเสนอการวิเคราะห์ที่ได้รับการปรับปรุง

เกี่ยวกับ Do Ventures

Do Ventures เป็นกองทุนระยะเริ่มต้นมูลค่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งทำหน้าที่เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์สำหรับทั้งสตาร์ทอัพและนักลงทุน  โดยได้รับการสนับสนุนจาก LP ที่มีชื่อเสียง เช่น Naver Corporation, SEA Group, Woowa Brothers และ Vertex Ventures กองทุนแสวงหาโอกาสในการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่มีความหมายเพื่อปรับปรุงชีวิตผู้บริโภคในเวียดนามและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ด้วยปรัชญา “เติบโตด้วยการทำ” Do Ventures เชื่อว่าการที่สตาร์ทอัพจะเติบโตอย่างรวดเร็ว ผู้ก่อตั้งจะต้องมีความสามารถในการดำเนินการที่โดดเด่นและเต็มใจเพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้องและเพื่อนำหน้าคู่แข่ง  การลงทุนที่โดดเด่นของ Do Ventures ได้แก่ F99, Palexy, Manabie, MFast, VUIHOC, Bizzi, Validus และ Selly

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220215005426/en/

ติดต่อ:

Allvue Systems:
Remy Marin
Prosek Partners
646.818.9298
rmarin@prosek.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mawi DNA Technologies ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO สองฉบับ

Logo

เฮย์เวิร์ด, แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–14 ก.พ. 2565

Mawi DNA Technologies (Mawi) บริษัทรวบรวมตัวอย่างทางชีวภาพชั้นนำ ประกาศว่า บริษัทได้รับการรับรองด้านระบบการจัดการคุณภาพ ISO 9001:2015 กับด้านระบบการจัดการคุณภาพอุปกรณ์การแพทย์ ISO 13485:2016 ทั้งนี้ Mawi พัฒนาและจำหน่ายเทคโนโลยี iSWAB ซึ่งเป็นระบบนวัตกรรมใหม่สำหรับการรวบรวมตัวอย่างชีวภาพ

มาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลนี้ หมายความว่า Mawi ได้พัฒนา รักษา และปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำเช่นนี้ได้โดยการวัดผลและเปรียบเทียบผลการดำเนินธุรกิจกับมาตรฐานคุณภาพที่เหมาะสม  การได้การรับรองจาก ISO ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและศักยภาพของธุรกิจ ตลอดจนถึงประสิทธิภาพโดยรวมของธุรกิจ

Hanzel Lawas, QMS และผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการของ Mawi กล่าวว่า “การได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO ช่วยเสริมโครงสร้างคุณภาพของเราในฐานะบริษัทและในฐานะซัพพลายเออร์สำหรับลูกค้าที่มีค่าของเรา เขาเสริมว่า Mawi เฉลิมฉลองการรับรองนี้ ไปพร้อม ๆ กับการสนับสนุนโครงการ COVID-19 จำนวนมากโดยยังคงจัดหาเทคโนโลยีการเก็บตัวอย่างที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ผลิตในสหรัฐอเมริกาแบบ 100% อย่างต่อเนื่อง”

“บริษัทของเรามีมาตรฐาน ISO และจะใช้มันต่อไปในทุกกระบวนการและในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่” Jerome David รองประธานฝ่ายขายและการตลาดของ Mawi กล่าวเสริม “การได้รับการรับรอง ISO ช่วยให้มั่นใจได้ว่า บริษัทของเราเป็นไปตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหพันธรัฐ และเป็นขั้นตอนสำคัญแรกในการปฏิบัติตามมาตรฐานกฎระเบียบของยุโรป (EU) เพื่อที่จะได้รับการรับรองเครื่องหมาย CE ซึ่งเราคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในไตรมาสที่ 2 ปี 2565 ”ผลิตภัณฑ์จำนวนมากต้องมีเครื่องหมาย CE ก่อนจึงจะสามารถขายในสหภาพยุโรปได้”

ภารกิจของ Mawi คือการรักษาความสมบูรณ์ของตัวอย่างที่อุณหภูมิห้องจากที่ใดก็ได้ในโลก ทำให้เกิดความหลากหลายของตัวอย่างอย่างแท้จริงในทุกภูมิภาคหรือทุกกลุ่มประชากร อนาคตของการสุ่มตัวอย่างทางชีวภาพอยู่ที่นี่™ ที่ Mawi ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mawidna.com.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220209006288/en/

ติดต่อสำหรับผู้ลงทุน:

Jerome David, รองประธานฝ่ายขายและการตลาด

510-256-5186, j.david@mawidna.com

ติดต่อสำหรับสื่อ:

Susan Tellem, APR, RN, BSN

310-313-3444, Susan@tellemgrodypr.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Black & Veatch: แผนกลยุทธ์เพื่อให้บรรลุการกำจัดคาร์บอนจากการผลิตไฟฟ้า ก้าวแรกสู่การเปลี่ยนผ่านพลังงาน อย่างเป็นธรรมในเอเชีย

Logo

แผนกลยุทธ์การกำจัดคาร์บอนจากการผลิตไฟฟ้าที่สามารถปรับแต่งได้และนำไปปฏิบัติได้จริง คือกุญแจสำคัญในการพัฒนา สภาพภูมิอากาศของภูมิภาคได้อย่างยั่งยืน

สิงคโปร์ (13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565) – ถึงแม้ว่าการมีแผนกลยุทธ์การกำจัดคาร์บอนที่ชัดเจนและมุ่งมั่น จะช่วยให้เอเชียบรรลุ การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างเท่าเทียมได้ แต่มากกว่าร้อยละ 50 ของอุตสาหกรรมที่เข้าร่วมการตอบแบบสอบถามใน

Black & Veatch’s 2022 Asia Electric Report ยังคงขาดแผนดังกล่าวอยู่

นอกจากการผสมผสานวิธีการแก้ปัญหา การผลิต การลำเลียง และการกระจายพลังงาน จะต้องมีการพัฒนาที่มากขึ้นเพื่อสนับสนุน

พันธสัญญาการทำให้คาร์บอนเป็นศูนย์ของเอเชียแล้ว การวางแผนยุทธศาสตร์การลดคาร์บอนและการทำแผนกลยุทธ์จะช่วยให้การการประเมินผลของเทคโนโลยีที่มีอยู่และที่เกิดขึ้นใหม่นั้นทำได้ง่ายมากขึ้น รวมถึงจะช่วยเป็นแนวทางในการตัดสินใจในระยะเวลาห้าปี สิบปี ยี่สิบปีข้างหน้า และในปีต่อๆไปด้วย

อนาคตของพลังงานจะหมายถึงการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานลม, พลังงานน้ำ, เชื้อเพลิงชีวภาพใหม่ (new biofuels), ปฏิกิริยาเคมีของแบตเตอรี่ และโครงสร้างพื้นฐานแบบผสมผสานสำหรับการชาร์จรถยนต์ (integrated vehicle charging infrastructure) โดย ณ ปัจจุบัน ไฮโดรเจนสีเขียว (green hydrogen) กำลังก้าวเข้ามาเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกแห่ง อนาคต ด้วยศักยภาพในการลดปริมาณการผลิตคาร์บอนจากกระบวนการผลิต การลำเลียง การให้ความร้อนแก่อาคารบ้านเรือนหรืออาคารเชิงพาณิชย์ และยังเป็นวัตถุดิบหรือเชื้อเพลิงในกระบวนการต่างๆในอุตสาหกรรม รวมถึงอุตสาหกรรม ที่ยากต่อการลดทอน (hard-to-abate industrial processes)

ในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานแบบครบวงจรระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคและเชิงพาณิชย์, Black & Veatch กำลังทำงานร่วมกับลูกค้าทั้งภาคอุตสาหกรรมและระดับภูมิภาค เพื่อค้นหาเส้นทางที่ยั่งยืนที่จะสร้างสมดุลระหว่างความจำเป็นของการลดปริมาณการผลิตคาร์บอนโดยยังคงรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ

“เพื่อตอบสนองความต้องการทางพลังงานที่หลากหลายของทั้งประเทศที่พัฒนาแล้ว และที่กำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียนั้น

ผู้ที่มีส่วนเกี่ยงข้องหลักจะต้องใช้แผนกลยุทธ์ที่ต่างกันออกไป แต่ยังคงสนับสนุนการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกัน เพื่อนำความคิดริเริ่มจากขั้นตอนการวางแผนโครงการไปสู่ขั้นตอนการดำเนินการหรือนำไปปฏิบัติจริงเพื่อที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ ในการเปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างเป็นธรรม และเป็นเหตุเป็นผล”  Yatin Premchand, managing director, APAC, Black & Veatch Global Advisory กล่าว

ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหลัก ได้แก่ รัฐบาล, นักลงทุน, บริษัทด้านสาธารณูปโภค และ พลังงาน, ผู้ให้บริการขนส่งและโลจิสติกส์ และผู้ใช้พลังงานรายใหญ่

Premchand จะหารือเกี่ยวกับกลยุทธ์ที่สำคัญอื่นๆ สำหรับการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานอย่างเป็นธรรมในเอเชียที่ งานสัปดาห์ความยั่งยืน ของ Economist Impact Asia ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ระหว่างการอภิปรายหัวข้อ “Power Disrupted: A Fair Energy Transit in Asia” (การเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรมในเอเชีย”

                                                                                          ***

หมายเหตุบรรณาธิการ:

  • สำนักงานการค้าและการพัฒนาแห่งสหรัฐอเมริกา (USTDA) มอบทุนสนับสนุนให้แก่ SCG International ของประเทศไทย เพื่อศึกษาแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับการเร่งการนำรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ไปใช้ในสถานที่ต่างๆ หลายร้อยแห่งในธุรกิจของ SCG รวมถึงธุรกิจซีเมนต์ด้วย ทั้งนี้ Black & Veatch จะจัดทำแผนยุทธศาสตร์ สำหรับการลดการปล่อยคาร์บอนของระบบการขนส่งนี้ให้กับ SCG
  • จากรายงานความยั่งยืน การกำหนดเป้าหมายและการวัดผลประจำปี พ.ศ. 2564 ของ Black & Veatch หรือ Black & Veatch’s 2021 Corporate Sustainability, Goal Setting and Measurement Report ระบุว่าจากการสำรวจบริษัทที่มีรายได้มากกว่า 250 ล้านดอลลาร์นั้น มากกว่าร้อยละ 80 มีการกำหนดเป้าหมายการที่จะลดการปล่อยคาร์บอน แต่อย่างไรก็ดี ร้อยละ 25 ของบริษัทเหล่านี้ ตั้งเป้าหมายที่บริษัทก็ไม่แน่ใจว่าจะบรรลุเป้าหมายนี้อย่างไร

เกี่ยวกับ Black & Veatch

Black & Veatch เป็นบริษัทด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ ที่ปรึกษา และการก่อสร้างระดับโลกที่มีพนักงานเป็นเจ้าของร้อยละ 100 ด้วยผลงานด้านนวัตกรรมในโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนมากกว่า 100 ปี, ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2458 เราได้ช่วยลูกค้าของเราพัฒนาชีวิต ของผู้คนทั่วโลกโดยการเพิ่มความยืดหยุ่นและความเชื่อมั่นของสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา, รายได้ของเราในปี พ.ศ. 2563 เกินกว่า 3000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, ติดตามเราได้ที่ www.bv.com และบนโซเชียลมีเดีย

ติดต่อ:

EMILY CHIA | +65 6335 6623 P | +65 9875 8907 M | Chialp@bv.com

24-HOUR MEDIA HOTLINE | +1 855-999-5991

(ดูบทความต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220207006003/en/ )

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ถ้อยแถลงเนื่องในวันสากลเพื่อสตรีและเด็กหญิงในงานวิทยาศาสตร์ประจำปี 2565 โดย Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรมแห่ง Mary Kay Inc.

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–11 กุมภาพันธ์ 2565

ด้านล่างนี้คือถ้อยแถลงโดย Dr. Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าทที่ฝ่ายนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และวิทยาศาสตร์ของ Mary Kay Inc. เนื่องในโอกาสวันสากลเพื่อสตรีและเด็กหญิงในงานวิทยาศาสตร์ ประจำปี 2565

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220211005050/en/

Dr. Lucy Gildea, Chief Innovation Officer, Product and Science of Mary Kay Inc. (Photo: Mary Kay Inc.)

Dr. Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และวิทยาศาสตร์ แห่ง Mary Kay Inc. (รูปภาพ: Mary Kay Inc.)

ในการศึกษาที่เป็นการค้นพบครั้งสำคัญซึ่งจัดทำขึ้นระหว่างปี 2509 และ 2520 มีการขอให้เด็กเกือบ 5,000 คนวาดรูปนักวิทยาศาสตร์ขึ้นมาคนละ 1 ภาพ และในบรรดาภาพวาดทั้งหมด มีเพียง 0.6% ที่เป็นภาพวาดของนักวิทยาศาสตร์ผู้หญิง ในการศึกษาที่คล้ายกันเมื่อไม่นานมานี้พบว่าเรื่องนี้มีความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น โดย 28% ของเด็กยุคใหม่วาดภาพนักวิทยาศาสตร์ผู้หญิงเมื่อได้รับโจทย์แบบเดียวกัน

นับว่าเป็นความก้าวหน้า แต่เรายังมีเป้าหมายที่ต้องไปให้ถึง

Mary Kay Inc. จินตนาการถึงอนาคตที่นักวิทยาศาสตร์ผู้หญิงจำนวนมากขึ้นจะต้องมีตัวตนไม่เพียงบนหน้ากระดาษแต่ในโลกแห่งความเป็น นั่นคือเหตุผลที่ในวันสากลเพื่อสตรีและเด็กหญิงในงานวิทยาศาสตร์ปีนี้ เราจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล สถาบันการศึกษา และเพื่อน ๆ ของเราในภาคเอกชนมาลงทุน พร้อมส่งเสริมและสนับสนุนผู้หญิงและเด็กหญิงมากขึ้นในการศึกษาด้าน STEM (วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรม และคณิตศาสตร์) เมื่อมีเด็กผู้หญิงจำนวนมากขึ้นในการศึกษาด้าน STEM สตรีที่ก้าวสู่อาชีพในสาขานี้ก็จะมีจำนวนมากขึ้น ในทางกลับกัน สิ่งนี้ยังช่วยให้เกิดการเข้าถึงโอกาสอย่างเท่าเทียมสำหรับผู้หญิง ลดช่องว่างรายได้ที่ต่างกันเพราะเพศสภาพ กระตุ้นเศรษฐกิจ และกำจัดอคติในวงการวิทยาศาสตร์ด้วย

และนั่นคือเหตุผลที่ Mary Kay ให้การสนับสนุนนักเรียนในสาขา STEM ที่มีเพียงส่วนน้อยผ่านการลงทุนมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ในโครงการต่าง ๆ เช่น Academy of Marketing Science, Society of Investigative Dermatology และ Madam C.J. Walker Scholarship

นั่นคือเหตุผลที่ในแต่ละปี องค์กร Mary Kay Ash FoundationSM ได้สนับสนุนการพัฒนาของนักวิทยาศาสตร์ผ่านการมอบทุนวิจัยซึ่งช่วยให้ค้นพบวิธีรักษามะเร็งที่ส่งผลกระทบต่อผู้หญิงโดยเฉพาะ

ในแต่ละวัน ผ่านนวัตกรรมและวิทยาศาสตร์ มีผู้หญิงจากทั่วโลกที่กำลังหาทางออกให้กับปัญหาอันซับซ้อนของพวกเรา และเรายังทำได้มากกว่านี้เพื่อแสดงออกว่าพวกเรามองเห็นสิ่งที่พวกเธอทำ เพื่อให้พวกเธอได้ส่งเสียงและมีตัวตนมากขึ้นในสาขา STEM

ในอนาคต เมื่อเราขอให้เด็ก ๆ ผู้หญิงวาดรูปนักวิทยาศาสตร์ขึ้นมา 1 ภาพ ดิฉันหวังว่าจะได้เห็นรูปของพวกเธอเองในภาพวาดนั้น

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเมื่อเกือบ 60 ปีที่ผ่านมาโดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ

นอกจากการลงทุนทางด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและผลิตภัณฑ์สุดล้ำ Mary Kay ยังทุ่มเทกับการให้ความช่วยเหลือผู้หญิงและครอบครัวของพวกเธอ บริษัทของเรายังสนับสนุนการวิจัยด้านมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน เพื่อให้วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายจนถึงทุกวันนี้ เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ MaryKayGlobal.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220211005050/en/

ติดต่อ:

ฝ่ายสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.
marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Chevron Singapore ขยายความสัมพันธ์กับ PDI เตรียมใช้โซลูชันระบบขายหน้าร้าน (POS) ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

Logo

โซลูชัน POS บนคลาวด์ของ PDI มาพร้อมการทำงานเชิงลึกที่จะสนับสนุนการดำเนินการของร้านสะดวกซื้อ สถานีขายปลีกน้ำมัน และศูนย์อาหาร ด้วยการผสานการทำงานอย่างไร้รอยต่อในระบบนิเวศธุรกิจค้าปลีก

แอตแลนตา–(BUSINESS WIRE)–11 กุมภาพันธ์ 2565

วันนี้ PDI (www.pdisoftware.com) ผู้ให้บริการระดับโลกด้านโซลูชันซอฟต์แวร์ชั้นนำสำหรับร้านสะดวกซื้อและอุตสาหกรรมค้าส่งปิโตรเลียม ประกาศว่าได้ลงนามในข้อตกลงกับ Chevron Singapore Pte. Ltd. (Chevron) เพื่อทำการติดตั้งโซลูชันระบบขายหน้าร้าน (POS) PDI ที่อยู่บนคลาวด์ โดยข้อตกลงดังกล่าวจะสนับสนุนการทำงานในประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) และทั่วทั้งเครือข่ายค้าปลีกของ Chevron พร้อมบูรณาการกับระบบหลังบ้าน PDI ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และโซลูชันสำหรับธุรกิจโฮมออฟฟิศที่จะทำให้การดำเนินการอันซับซ้อนของทุกศูนย์กำไรเป็นเรื่องง่าย โซลูชัน POS ของ PDI จะรองรับการทำงานทั้งในร้านสะดวกซื้อ สถานีขายปลีกน้ำมัน และศูนย์บริการอาหารของ Chevron ด้วยการผสานการทำงานที่ไร้รอยต่อในระบบนิเวศธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ของบริษัท

เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา PDI ได้ประกาศว่าจะทำการติดตั้งเจเนอเรชันใหม่ของโซลูชันซอฟต์แวร์ PDI Envoy สำหรับระบบหลังบ้านและโฮมออฟฟิศ ณ สำนักงานของ Chevron ทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิก การประกาศในวันนี้จะทำให้ Chevron สามารถใช้ประโยชน์จากทีมผู้เชี่ยวชาญระดับโลกของ PDI ต่อไป เพื่อสนับสนุนความพยายามด้านการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลในภูมิภาคซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ และยิ่งไปกว่านั้น Chevron จะอาศัยชุดเทคโนโลยีที่ทรงพลัง ทำงานอย่างลื่นไหล และมีความน่าเชื่อถือของ PDI เพื่อสร้างรากฐานให้กับการลงทุนด้านเทคโนโลยีขั้นสูงในอนาคต

Brad McGuinness รองประธานอาวุโสด้านโซลูชันระบบ POS ของ PDI กล่าวว่า “เราตื่นเต้นที่จะได้ขยายความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานกับ Chevron ในเอเชียแปซิฟิก และนับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ให้บริการและช่วยให้ลูกค้าอย่าง Chevron ได้รับประโยชน์จากการลงทุนด้านเทคโนโลยีของ PDI ในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและร้านสะดวกซื้อ การประกาศครั้งนี้ยังสร้างความชอบธรรมให้กับการลงทุนมหศาลของ PDI ในอุตสาหกรรมนี้ รวมถึงตลาดต่างประเทศ และธุรกิจโซลูชันของเรา”

PDI เป็นผู้นำตลาดในการส่งมอบโซลูชันที่มาพร้อมรากฐานสำคัญสำหรับการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลสำหรับทั้งการขยายและการดำเนินการที่รองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เหล่าผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกชั้นนำอย่าง Chevron ยังคงเดินหน้าลงทุนในเทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจและช่วยทำให้ประสบการณ์ของผู้มาใช้บริการดีขึ้นด้วยโซลูชัน POS ที่ล้ำสมัย

Dean Gilbert ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายสนับสนุนการตลาดและการขายของ Chevron ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าและเพิ่มผลิตภาพให้กับธุรกิจ เราจึงปรับโฉมใหม่ให้กับโซลูชัน POS ของเรา PDI คือพันธมิตรที่มีความทุ่มเทและเป็นที่ไว้วางใจ ทั้งยังมีผลงานเป็นที่ประจักษ์จากการสนับสนุนการทำงานของเราในภูมิภาคนี้ ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอย่างลึกซึ้งจาก PDI ช่วยสร้างความสำเร็จให้กับ Chevron ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเราตื่นเต้นที่จะได้ขยายความสำเร็จนี้สู่ระบบ POS ของเรา”

โซลูชัน POS ของ PDI ทำให้ Chevron สามารถเพิ่มการให้บริการที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลางด้วยโปรโมชันและการดำเนินงานที่เข้มแข็ง และการควบคุมดูแลธุรกิจได้อย่างดียิ่งขึ้น รวมถึงการปรับปรุงข้อมูลคงคลัง ยอดขาย ราคา และพนักงานแบบเรียลไทม์

Sin Hin Wong ผู้จัดการทั่วไปของ PDI และรองประธานฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “Chevron ให้ความสำคัญกับการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้ารวมถึงระบบ POS ที่ทันสมัยและมีการบูรณาการการทำงาน ซึ่งจะพาพวกเขาไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้และเพิ่มผลิตภาพให้ธุรกิจไปพร้อมกัน เราตั้งตารอที่จะได้ทำงานร่วมกับ Chevron ในทุกภาคส่วนของธุรกิจค้าปลีกในเอเชียและทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”

เกี่ยวกับ PDI

ซอฟต์แวร์ของ Professional Datasolutions, Inc. (PDI) ช่วยธุรกิจและแบรนด์ต่าง ๆ เพิ่มยอดขาย ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งกว่า รวมถึงช่วยให้สามารถตัดสินใจเรื่องที่สำคัญได้ดีขึ้น ตั้งแต่ปี 2526 เป็นต้นมา PDI รับใช้อุตสาหกรรมร้านสะดวกซื้อและอุตสาหกรรมปิโตรเลียมด้วยความภาคภูมิใจ กว่า 1,500 บริษัทที่มีตัวแทนจำหน่ายในที่สถานที่ต่าง ๆ กว่า 200,000 แห่งทั่วโลกอาศัยโซลูชันและความเชี่ยวชาญของ PDI ในการส่งมอบความสะดวกสบายและพลังงานให้กับโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ PDI โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราที่ www.pdisoftware.com

เกี่ยวกับ Chevron

Chevron เป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานที่มีความครบวงจรระดับชั้นนำของโลก เราเชื่อว่าพลังงานที่มีราคาเหมาะสม น่าเชื่อถือ และสะอาดกว่าที่เคยเป็นส่วนสำคัญที่จะนำไปสู่การทำให้โลกอุดมสมบูรณ์และมีความยั่งยืนยิ่งขึ้น Chevron เป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรชาติ เชื้อเพลงที่ใช้ในการขนส่ง น้ำมันหล่อลื่น ปิโตรเคมีและสารเติมแต่ง และเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีที่จะยกระดับธุรกิจและอุตสาหกรรมของเรา เราให้ความสำคัญกับการลดดัชนีการเกิดคาร์บอน (carbon intensity) ในการดำเนินธุรกิจของเรา และมุ่งสร้างธุรกิจที่ลดการสร้างคาร์บอนให้เติบโตควบคู่ไปกับธุรกิจดั้งเดิมของเรา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Chevron สามารถดูได้ที่ www.chevron.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220210006001/en/

ติดต่อ:

Kelly O’Brien
kelly.obrien@pdisoftware.com

Dimitra Farou
dfarou@pdisoftware.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลือก Tezos เป็นพันธมิตรด้านบล็อกเชนและชุดฝึกซ้อมอย่างเป็นทางการ

Logo

แมนเชสเตอร์, อังกฤษ–(BUSINESS WIRE)–10 ก.พ. 2565

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (NYSE: MANU; “บริษัท”, “สโมสร” และ “กลุ่ม”) ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญแบบหลายปี ซึ่งจะทำให้ชื่อ Tezos ซึ่งเป็นหนึ่งในบล็อกเชนที่ก้าวหน้าและยั่งยืนที่สุดในโลก ปรากฏอยู่บนชุดฝึกซ้อมสำหรับบุรุษและสตรีของสโมสร

ชุดฝึกซ้อมที่มีตราสินค้า Tezos ปรากฏอยู่ จะถูกสวมใส่โดยทีมเป็นครั้งแรกในการซ้อมก่อนเกมการแข่งขันกับเซาแธมป์ตันสุดสัปดาห์นี้ โดยจะเป็นการแนะนำให้แฟน ๆ ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ได้รู้จักพันธมิตรใหม่นี้และเทคโนโลยี Web3 ผ่านบล็อกเชนของ Tezos

Tezos อยู่ในระดับแนวหน้าของการปฏิวัติบล็อคเชนทั่วโลก ซึ่งช่วยให้มีปฏิสัมพันธ์ทางดิจิทัลที่รวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องผ่านคนกลาง

Tezos บล็อกเชนดั้งเดิมที่มีการพิสูจน์การถือหุ้น สร้างขึ้นด้วยการออกแบบที่ประหยัดพลังงาน ซึ่งช่วยให้ทำงานได้สะอาดขึ้นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าบล็อกเชนอื่น ๆ

Tezos ยังแตกต่างจากบล็อคเชนอื่น ๆ ตรงที่สามารถวิวัฒนาการได้อย่างราบรื่น ด้วยการอัปเดตตามปกติที่ถูกออกแบบและรับรองโดยชุมชนผู้ใช้และนักพัฒนาทั่วโลก

Victoria Timpson ซีอีโอของพันธมิตรและหุ้นส่วนของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกล่าวว่า: “นี่เป็นความร่วมมือที่น่าตื่นเต้นอย่างมากสำหรับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เพราะมันทำให้เราได้ร่วมมือกับหนึ่งในบล็อกเชน ที่ก้าวหน้าน่าเชื่อถือและยั่งยืนที่สุดในด้านเทคโนโลยี ซึ่งตั้งเป้าว่าจะปฏิวัติวิธีการที่ทุกคน ซึ่งรวมถึงสโมสรและแฟน ๆ ของเราสามารถโต้ตอบปฏิสัมพันธ์กันได้อย่างแท้จริง

“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับหนึ่งในบล็อกเชนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด โดยใช้เทคโนโลยีที่ประหยัดพลังงาน จำกัดการปล่อยก๊าซคาร์บอน อีกทั้งยังลดต้นทุน สอดคล้องกับความพยายามในวงกว้างของสโมสรในการส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง”

“การเป็นหุ้นส่วนคือหัวใจสำคัญของความแข็งแกร่งของเราในฐานะสโมสร ช่วยสนับสนุนแรงผลักดันสู่ความสำเร็จในสนาม และเรายินดีที่จะต้อนรับ Tezos ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมคนล่าสุด ในการเข้าร่วมเป็นครอบครัวพันธมิตรของเรา”

Edward Adlard หัวหน้าฝ่ายการพัฒนาธุรกิจของ Tezos Ecosystem กล่าวว่า “ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจากชุมชนแฟนบอลและหุ้นส่วนทั่วโลกที่ใหญ่โตและหลากหลาย Tezos จะช่วยให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดใช้บล็อคเชนและ Web3 เพื่อพัฒนาการมีส่วนร่วมของแฟน ๆ ผู้เล่น ทีม และพันธมิตร ต่อไป

“การตัดสินใจของสโมสรฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกในการเลือก Tezos เป็นบล็อกเชนนั้น เป็นการยืนยันอีกครั้งว่า การออกแบบที่รอบคอบควบคู่ไปกับความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ค่าธรรมเนียมก๊าซที่ต่ำ และนวัตกรรมที่นำโดยชุมชน รวมกันเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้เกิดการยอมรับในคลื่นลูกใหม่ การปฏิวัติทางดิจิทัล”

นอกเหนือจากการสร้างแบรนด์ Tezos บนชุดฝึกซ้อมของ Club แล้ว ความร่วมมือดังกล่าวยังรวมไปถึงประสบการณ์ใหม่ ๆ ของแฟน ๆ ที่สร้างขึ้นจากบนบล็อคเชนของ Tezos และคำมั่นสัญญาที่จะสนับสนุนมูลนิธิแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดด้วยการบริจาคอย่างต่อเนื่องในค่าเงินสกุล tez ซึ่งเป็นสกุลเงินดั้งเดิมของ Tezos blockchain ทั้งนี้ เพื่อฝึกอบรม ให้ความรู้ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนในชุมชนท้องถิ่น

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเป็นหุ้นส่วนและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบล็อคเชน คลิกที่นี่ www.manutd.com/en/Partners/Global/Tezos or www.tezos.com/manutd

เกี่ยวกับ Manchester United

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นหนึ่งในทีมกีฬาที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก โดยเล่นกีฬาที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก ด้วยมรดกที่สืบทอดมา 144 ปีของเรา เราได้รับรางวัล 66 ถ้วยรางวัล ทำให้เราสามารถพัฒนาแบรนด์กีฬาชั้นนำของโลกและชุมชนทั่วโลกที่มีแฟน ๆ และผู้ติดตามถึง 1.1 พันล้านคน ชุมชนขนาดใหญ่และกระตือรือร้นของเราได้กลายเป็นแพลตฟอร์มให้แก่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการสร้างรายได้มหาศาลจากแหล่งต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง รายได้จากสปอนเซอร์ การขายสินค้า การออกใบอนุญาตผลิตภัณฑ์ นิวมีเดีย และมือถือ การออกอากาศและวันแข่งขัน เป็นต้น

เกี่ยวกับ TEZOS

Tezos เป็นเงินแบบสมาร์มมันนี่ ซึ่งกำหนดความหมายใหม่ของการถือครองและแลกเปลี่ยนมูลค่าในโลกที่เชื่อมต่อทางดิจิทัล มันเป็นบล็อกเชน Proof of Stake ที่อัพเกรดตัวเองได้และประหยัดพลังงานพร้อมประวัติที่พิสูจน์ยืนยันแล้ว Tezos นำนวัตกรรมแห่งอนาคตมาใช้อย่างราบรื่นโดยไม่หยุดชะงักของเครือข่ายในปัจจุบัน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tezos.com.

เกี่ยวกับ TEZOS FOUNDATION

มูลนิธิ Tezos เป็นมูลนิธิไม่แสวงหาผลกำไรของสวิสที่สนับสนุนการพัฒนาและความสำเร็จในระยะยาวของโปรโตคอล Tezos ซึ่งเป็นบล็อกเชนที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพพร้อมความสามารถในการพัฒนาโดยการอัพเกรดตัวเอง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tezos.foundation

เกี่ยวกับ Manchester United Foundation

มูลนิธิแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดใช้ฟุตบอลเพื่อดึงดูดและสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนสร้างชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับตนเองและรวมถึงชุมชนที่พวกเขาอาศัยอยู่ พนักงานที่ทุ่มเทให้บริการการฝึกสอนฟุตบอล โปรแกรมการศึกษา และการพัฒนาตนเอง ช่วยเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น หาข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.mufoundation.org

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220209006232/en/

ติดต่อ:

ฝ่ายลงทุนสัมพันธ์:

Corinna Freedman

หัวหน้าฝ่ายลงทุนสัมพันธ์:

+44 738 491 0828

Corinna.Freedman@manutd.co.uk

ฝ่ายสื่อสัมพันธ์:

Charlie Brooks

Director of Communications

+44 161 868 8148

charlie.brooks@manutd.co.uk

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย