SMART Modular เปิดตัวผลิตภัณฑ์ SMART Kestral PCIe Optane Memory AddCard เพื่อรองรับการขยายและเร่งความเร็วของหน่วยความจำ

Logo

กำหนดเป้าหมายสำหรับผู้ที่ต้องการขยายสเกลระดับที่ใหญ่มากและศูนย์ข้อมูลที่ใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่บนระบบที่ใช้ AMD, ARM และ Intel ที่ใช้ CPU

เมืองนิวไทเป, ใต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–19 พ.ค. 2565

SMART Modular Technologies, Inc. (“SMART”) ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของ SGH (Nasdaq: SGH) และเป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ โซลิดสเตตไดรฟ์ และผลิตภัณฑ์สตอเรจแบบไฮบริด ได้ประกาศเปิดตัว SMART Kestral™ PCIe Optane™ Memory Add- in-Card (AIC) ซึ่งสามารถเพิ่มหน่วยความจำ Optane Memory ได้สูงสุด 2TB บนอินเทอร์เฟซ PCIe-Gen4-x16 หรือ PCIe-Gen3-x16 ที่ไม่ขึ้นกับ CPU ของเมนบอร์ด ทั้งนี้ Kestral AIC ของ SMART เร่งความเร็วอัลกอริธึมที่เลือกโดยการถ่ายโอนฟังก์ชันการจัดเก็บข้อมูลที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์จาก CPU โฮสต์ไปยัง Intel FPGA บน AIC

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหาเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220518006168/en/

SMART Modular Technologies' Kestral PCIe Optane Memory Add-in-Card (Photo: Business Wire)

เทคโนโลยี Kestral PCIe Optane Memory Add-in-Card ของ SMART Modular Technologies (รูปภาพ: Business Wire)

AIC หน่วยความจำ Kestral ของ SMART เหมาะอย่างยิ่งสำหรับศูนย์ข้อมูลที่สเกลใหญ่มาก ๆ และสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกันซึ่งต้องการใช้แอปพลิเคชันหน่วยความจำขนาดใหญ่ และที่สามารถได้รับประโยชน์จากการขยายหน่วยความจำหรือการเร่งความเร็วของระบบผ่านที่เก็บข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ได้

“ด้วยความก้าวหน้าของมาตรฐานการเชื่อมต่อระหว่างกัน เช่น CXL และ OpenCAPI ทำให้สมาชิกครอบครัวใหม่ของ SMART อย่าง  Kestral AIC รุ่นใหม่ สามารถตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมในด้านรูปแบบโมดูล หน่วยความจำรูปแบบใหม่ และอินเทอร์เฟซสำหรับการขยายและการเร่งความเร็วของหน่วยความจำ” Mike Rubino รองประธานฝ่ายวิศวกรรมของ SMART Modular กล่าว  “SMART สามารถใช้ประโยชน์จากประสบการณ์หลายปีของเราในการพัฒนาและผลิตโซลูชั่นหน่วยความจำที่ใช้คอนโทรลเลอร์ เพื่อตอบสนองความต้องการหน่วยความจำที่เกิดขึ้นใหม่แบบแอดออน และการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้านเซิร์ฟเวอร์และระบบสตอเรจให้กับลูกค้า”

ประโยชน์หลัก ๆ:

  • หน่วยความจำต่อเซิร์ฟเวอร์มากขึ้นด้วยต้นทุนต่อกิกะไบต์ที่ลดลง
  • การอัปเกรดภาคสนามสำหรับอัลกอริธึมและโปรโตคอลใหม่
  • การอัพเกรดอย่างราบรื่นสำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่มีอยู่ด้วยโซลูชันหน่วยความจำแบบกำหนดเอง
  • รองรับเทคโนโลยีหน่วยความจำและโปรโตคอลที่หลากหลาย รวมถึง Intel Optane DIMM, DDR4 RDIMM และ LRDIMM

คุณลักษณะทางเทคนิค:

  • ความสูงเต็มที่ ความยาวครึ่งหนึ่ง (FHHL) ฟอร์มแฟกเตอร์ช่องคู่
  • Thermal Design Power  (TDP) น้อยกว่า 150W โดยใช้ฮีทซิงค์แบบพาสซีฟ
  • Intel Stratix® 10 DX FPGA ใช้งานด้วยการสนับสนุน IP หลายรายการสำหรับการกำหนดโซลูชัน
  • Quad Core ARM A53 พร้อมหน่วยความจำ 2GB DDR4 ออนบอร์ดและการเร่งความเร็วการจัดเก็บ 8GB
  • สล็อต DIMM สี่ช่องพร้อมช่องสัญญาณแยกกันสองช่อง ซึ่งสามารถใส่ Optane DIMM สี่ช่องสูงสุด 512GB ต่ออัน หรือ DDR4 RDIMM สองตัวสูงสุด 256GB

ในอนาคต AIC จาก SMART จะสามารถรองรับหน่วยความจำ Optane ขนาด 4TB ในโหมด App Direct แบบถาวรผ่านการโหลด/การจัดเก็บปกติสำหรับสถาปัตยกรรม CPU ทั้งหมด ซึ่งจะทำให้สล็อต DDR DIMM ที่ต่อพ่วงโดยตรงมีพื้นที่ว่างมากขึ้น การ์ดหน่วยความจำ SMART Kestral เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเซิร์ฟเวอร์การฝึกอบรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ด้วยเครื่อง (Machine Learning, ML) ซึ่งช่วยให้อัลกอริทึมขนาดใหญ่สามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็วและปราศจากความเสี่ยงที่จะเกิดความล้มเหลวระหว่างเหตุการณ์ไฟฟ้าดับ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SMART Kestral Memory AIC โปรดไปที่ หน้าผลิตภัณฑ์ และรับ บทสรุปทางเทคนิค ที่ smartm.com หรือติดต่อฝ่ายขายได้ที่ info@smartm.com.

* ตัว “S” และ “SMART” ที่ออกแบบมาด้วยสไตล์พิเศษ ซึ่งรวมถึง “SMART Modular Technologies” เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ SMART Modular Technologies, Inc. เครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนอื่น ๆ ทั้งหมด ถือเป็นทรัพย์สินของเจ้าของกิจการ

เกี่ยวกับ SMART Modular Technologies

เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้วที่ SMART Modular Technologies ได้ช่วยเหลือลูกค้าทั่วโลกในการใช้งานการประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูงผ่านการออกแบบ การพัฒนา และการบรรจุภัณฑ์ในขั้นสูงของโซลูชันหน่วยความจำแบบพิเศษ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งของเรามีตั้งแต่เทคโนโลยีระดับแนวหน้าในปัจจุบันไปจนถึงผลิตภัณฑ์ DRAM และ Flash storage แบบมาตรฐานและแบบเดิม เราจัดหาโซลูชันหน่วยความจำและสตอเรจแบบมาตรฐาน ทนทาน และกำหนดเองได้ ที่ตอบสนองความต้องการของแอพพลิเคชั่นที่หลากหลายในตลาดที่มีการเติบโตสูง

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220518006168/en/

ติดต่อฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์

Arthur Sainio

SMART Modular Technologies

39870 Eureka Dr., Newark, CA 94583

+1 (510) 364-3647

info@smartm.com

ติดต่อสำหรับสื่อ

John Crook

SMART Modular Technologies

ฝ่ายการสื่อสารการตลาด

John.Crook@smartm.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Aqara ประกาศเปิดตัว D100 Zigbee กลอนประตูอัจฉริยะอัตโนมัติเต็มรูปแบบ

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–19 พฤษภาคม 2565

Aqara ผู้ให้บริการชั้นนำสำหรับผลิตภัณฑ์บ้านอัจฉริยะ ได้ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์กลอนประตูอัจฉริยะด้วยการปล่อยกลอนล็อกแบบมีตลับใหม่ รุ่น D100 Zigbee ซึ่งเป็นสมาร์ทล็อกรุ่นที่สามของแบรนด์สำหรับตลาดโลก ทั้งนี้ต่างจาก N100 Zigbee และ A100 Zigbee รุ่นก่อนหน้านี้ที่เป็นกลอนล็อกแบบมือจับดั้งเดิม โดย D100 Zigbee รุ่นใหม่เป็นกลอนล็อกแบบมีตลับอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ช่วยให้ผู้ใช้เปิดประตูโดยไม่ต้องกดที่จับหรือหมุนลูกบิด กลอนล็อกรุ่นใหม่ได้รับการออกแบบให้ทำงานร่วมกับ HomeKit รวมถึงฟีเจอร์ home key ล่าสุด และยังรองรับการปลดล็อกผ่าน Google Assistant ซึ่ง D100 Zigbee ได้วางจำหน่ายแล้วในสิงคโปร์ คูเวต ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และคาดว่าจะมีวางจำหน่ายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าไปยังประเทศ/ภูมิภาคอื่น ๆ รวมถึงมาเลเซีย ไทย เวียดนาม ฮ่องกง ไต้หวัน คาซัคสถาน ไนจีเรีย เป็นต้น

เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ กลอนล็อก D100 Zigbee นั้นสามารถใช้ได้กับประตูที่มีความหลากหลายขึ้น โดยติดตั้งกับประตูที่มีความหนาระหว่าง 40 ถึง 120 มิลลิเมตร และแม้แต่ประตูสไตลิสต์มือจับแบบดึง นอกจากนี้ยังมีชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-ion) ที่ทนทานขึ้น ทั้งนี้ชุดแบตเตอรี่ 2480mAh แบบถอดออกได้สามารถชาร์จใหม่ผ่านพอร์ตแบบ USB-C และแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 12 เดือนระหว่างการชาร์จในแต่ละครั้ง ทั้งยังรองรับการเตือนเวลาแบตเตอรี่ต่ำ และแม้ว่าแบตเตอรี่จะหมด กลอนล็อกยังสามารถชาร์จจากข้างนอกผ่านพาวเวอร์แบงค์แบบ USB-C และยังมีความคล้ายคลึงกับกลอนล็อก Aqara รุ่นอื่น ๆ ที่มีกุญแจแบบกลไกซึ่งให้ผู้ใช้สามารถเปิดกลอนล็อกได้แม้ในขณะที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ล้มเหลว

D100 Zigbee มีฟีเจอร์เครื่องสแกนลายนิ้วมือ 3 มิติ พร้อมระบบป้องกันการหลอกด้วยรูปภาพหรือวิดีโอ และเครื่องสแกนนี้มีการเคลือบแซฟไฟร์เพื่อความทนทานที่ดีขึ้น กลอนล็อกติดตั้งแผงปุ่มกดล่องหน และรองรับรหัสผ่านถาวรที่สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวและแบบเป็นครั้งคราว (6-10 หลัก) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้อนุญาตและจัดการการเข้าถึงบ้านสำหรับสมาชิกในครอบครัวและผู้มาเยือนได้อย่างง่ายดาย ทั้งนี้รหัสผ่านแบบเพียงครั้งเดียวและแบบเป็นครั้งคราวสามารถสร้างและจัดการแบบระยะไกลได้* ซึ่งทำให้กลอนล็อกนี้เป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับบ้านเช่า โดยการ์ด NFC ยังมีกลอนล็อกซึ่งสะดวกสำหรับสมาชิกในครอบครัวที่มีอายุน้อยและผู้สูงอายุในการปลดล็อก

และยิ่งไปกว่านั้น D100 Zigbee ยังได้รับการออกแบบให้ทำงานร่วมกับ HomeKit และรองรับฟีเจอร์ home key ใน Apple Wallet ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถแท็กอุปกรณ์ iPhone หรือ Apple Watch เพื่อปลดล็อกได้ง่าย ๆ นอกจากนี้ยังรองรับการสั่งงานด้วยเสียงรวมไปถึง Siri และ Google Assistant เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบกับผู้ช่วยคนโปรดว่าประตูล็อกอยู่หรือไม่ หรือขอให้ผู้ช่วยปลดล็อกประตูให้ได้

ฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงรวมอยู่ในกลอนล็อก D100 Zigbee เพื่อความปลอดภัยสำหรับบ้านและทรัพย์สิน รวมไปถึง:

  • กลอนล็อกแบบสามสลักเกลียวและกระบอกที่มีความปลอดภัยสูงทำให้กลอนล็อกทนทานต่อการพยายามเจาะทะลุ;
  • ชิปควบคุมและรักษาความปลอดภัยถูกวางไว้ที่แผงล็อกด้านใน เพื่อไม่ให้ถูกดัดแปลงแม้แผงด้านนอกจะถูกบุกรุก;
  • ลูกบิดแบบกลไกติดตั้งไว้ ช่วยให้ล็อกและปลดล็อกจากด้านในที่ปรับปรุงให้ดีขึ้นเพื่อความปลอดภัยและเป็นทางออกฉุกเฉิน;
  • ระบบแจ้งเตือนการงัดแงะมีทั้งในพื้นที่และระยะไกล ซึ่งลำโพงในตัวจะส่งเสียงเตือนในขณะที่การแจ้งเตือนทางมือถือจะถูกส่งไปยังผู้ใช้ในการตรวจจับความพยายามในการงัดแงะ;
  • การล็อกอัตโนมัติหลังจากประตูถูกปิด และการแจ้งเตือนประตูเปิดทิ้งไว้จะทำงานหากประตูเปิดนานกว่า 10 วินาที;
  • สวิตช์ล็อกป้องกันเด็กถูกวางไว้เหนือปุ่มปลดล็อก และเมื่อทำการเปิดสวิตช์ไว้แล้วจะป้องกันไม่ให้เด็กเปิดประตูโดยไม่ได้ตั้งใจ;
  • ระบบการพิสูจน์ยืนยันตัวตนจะหยุดเป็นเวลา 3 นาทีหลังจากการพิสูจน์ยืนยันตัวตนนั้นล้มเหลวครบ 5 ครั้ง และการแจ้งเตือนความพยายามที่ผิดปกตินี้จะถูกส่งไปยังผู้ใช้ เพื่อให้การเดารหัสในแต่ละหลักแทบจะเป็นไปไม่ได้;
  • ความสามารถในการเพิ่มตัวเลขสุ่มก่อนและหลังรหัสผ่านเพื่อป้องกันการโจมตีจากการแอบดูและรอยนิ้วมือ;
  • กุญแจปลดล็อกระยะไกลทั้งหมดรวมถึงรหัสผ่านที่สร้างจากระยะไกลนั้นปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสแบบ end-to-end และคีย์สำหรับเข้ารหัสจะถูกเก็บไว้ในกลอนล็อกและมือถือของผู้ใช้ที่จับคู่กันในเครื่อง ซึ่งอนุญาตให้เฉพาะการล็อกพิเศษนี้เท่านั้นที่จะถอดรหัสได้

ทั้ง Bluetooth 5.0 และ Zigbee 3.0 ถูกผสานรวมเข้ากับกลอนล็อก D100 Zigbee ในขณะที่การรองรับ Bluetooth ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อโดยตรงกับอุปกรณ์มือถือและเทคโนโลยีโฮมฮับของ Apple ทั้งนี้การผสานรวม Zigbee ที่ทำให้ D100 Zigbee แตกต่างจากที่มีวางจำหน่ายอยู่ในตลาด เมื่อเชื่อมต่อกับฮับ Zigbee 3.0 Aqara โดยกลอนล็อกไม่เพียงรองรับการปลดล็อกจากระยะไกลผ่านแอป Aqara Home แต่ยังเชื่อมโยงกับอุปกรณ์เสริม Aqara อื่น ๆ เพื่อเปิดใช้งานการทำงานอัตโนมัติภายในบ้าน ตัวอย่างเช่น เมื่อกดปุ่ม Away บนแผงปุ่มกดของกลอนล็อก ผู้ใช้สามารถเปิดระบบแจ้งเตือนของ Aqara Home ซึ่งกล้องรักษาความปลอดภัยและเซ็นเซอร์จะเปิดใช้งาน และปิดไฟ ระบบ AC และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอื่น ๆ ด้วยอุปกรณ์ Aqara ที่หลากหลายนี้ ผู้ใช้สามารถสร้างระบบอัตโนมัติที่ปรับแต่งให้เหมาะสมตามสภาพแวดล้อมภายในบ้านที่ต้องการได้

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลอนล็อก D100 Zigbee กรุณาเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ของเรา

* จำเป็นต้องใช้ฮับ Zigbee 3.0 Aqara

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220518005555/en/

ติดต่อ:

สำหรับสอบถามสื่อ:
Michell Li
มือถือ: +86 18501199430
อีเมล:  media@aqara.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

METAQ Coin จดทะเบียนใน Global Exchange MEXC

Logo

ปังโย เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–18 พฤษภาคม 2565

Metaplanet ประกาศว่าสกุลเงินดิจิทัล 'METAQ Coin' ได้รับการจดทะเบียนบน MEXC แพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำระดับโลก 

METAQ Coin ทำผลงานได้ถึง 128,000% ที่งาน Kickstarter listing voting ที่จัดโดย MEXC และได้รับการจดทะเบียนบน MEXC ตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา

MEXC Exchange ก่อตั้งขึ้นในปี 2561 เป็นหนึ่งใน 10 อันดับแรกของแพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำระดับโลกที่จดทะเบียนบน CoinMarketCap ซึ่งเป็นเว็บไซต์ตลาดสกุลเงินดิจิทัลระดับโลก และมีผู้ใช้มากกว่า 6 ล้านคนใน 200 ประเทศ โดยในการซื้อขายแลกเปลี่ยนนั้นสามารถที่จะจ่ายด้วยสกุลเงินดิจิทัลผ่าน Visa และ Mastercard ทั้งนี้มีการเติบโตอย่างรวดเร็วโดยการสนับสนุนจากบริการต่าง ๆ เช่น DeFi, staking และ Kickstarter ที่ใช้โทเค็น MX token ของตนเอง

METAQ Coin เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่สามารถใช้ใน Crypto Fishing เกม NFT-P2E ที่พัฒนาและให้บริการโดยโครงการ METAQ ในเกมนั้นผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนโทเค็น AQUA ที่ได้รับมากับ METAQ Coins

ด้วย METAQ Coin มีการจดทะเบียนบน MEXC Exchange การเข้าถึง Crypto Fishing ของผู้ใช้จึงได้รับการปรับปรุงขึ้นอย่างมาก

“ด้วยการจดทะเบียนใน MEXC Exchange ที่มีชื่อเสียงระดับโลก การรับรู้แบรนด์ของ METAQ ในหมู่นักลงทุนต่างประเทศและผู้ใช้ทั้งในประเทศและต่างประเทศจะเพิ่มขึ้น ในขณะที่รักษาผู้ใช้ที่ยังคงใช้งานอยู่ นอกจากนี้ยังจะกระตุ้นการขยายตัวทั่วโลกของระบบนิเวศ METAQ” JeongYeop Shin ซีอีโอของ Metaplanet กล่าว “ทีมโครงการ METAQ จะให้บริการอัปเกรดแก่ผู้ใช้เกมอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน”

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ:

Metaplanet
Layla Jeong
+82-10-9779-9270
metaplanet99@gmail.com

สตารร์ อินชัวรันส์ คอมพานีส์ รุกตลาดประกันภัยไทย

Logo

นครนิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม 2565

สตารร์ อินชัวรันส์ คอมพานีส์ (“สตารร์“) ได้ประกาศทำสัญญากับเอฟพีจี อินชัวรันซ์ โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด (ฮ่องกง) (“เอฟพีจี“) และผู้ถือหุ้นไทย เพื่อเข้าซื้อหุ้นของบริษัท เอฟพีจี ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“เอฟพีจี ประเทศไทย“) ซึ่งเป็นบริษัทประกันวินาศภัยในประเทศไทย ร่วมกับนักลงทุนไทย

การเข้าลงทุนดังกล่าวของ สตารร์ จะดำเนินการโดยสตารร์ อินชัวรันส์ แอนด์ รีอินชัวรันส์ ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายเบอร์มิวดา โดยคาดว่าจะการเข้าซื้อหุ้นจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ในไตรมาสที่สองของปี 2565 ทั้งนี้ การสำเร็จลุล่วงของการเข้าลงทุนอยู่ภายใต้เงื่อนไขการเสร็จสิ้นธุรกรรม (Customary Closing Conditions) รวมถึงการได้รับอนุมัติตามข้อกำหนดของกฎหมายที่จำเป็น

“ประเทศไทยเป็นตลาดประกันภัยที่สำคัญและเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเสาหลักทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” มอริซ อาร์. กรีนเบิร์ก ประธาน และซีอีโอของ สตารร์ กล่าว “ภูมิภาคเอเชียมีความสำคัญต่อ สตารร์ ทั้งในด้านการค้าและวัฒนธรรม ดังจะเห็นได้จากการที่กลุ่มสตารร์ได้ก่อตั้งบริษัทอเมริกันในนครเซี่ยงไฮ้ เมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว โดยเรามุ่งมั่นในการให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการของบรรดาบริษัทและผู้บริโภคในประเทศไทยผ่านกิจการประกันภัยใหม่นี้”

เดวิด ซิลลิค ประธานระดับภูมิภาคของ เอฟพีจี กล่าวว่า “การเข้าทำธุรกรรมนี้สะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนของกลุ่มธุรกิจของเรา และผลของการทำงานหนัก ความพากเพียร และความมุ่งมั่นของทีมงาน เอฟพีจี ประเทศไทย แม้ภายใต้สภาวะตลาดที่มีความท้าทาย ทั้งนี้ บรรดาทีมงานมีความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับ สตารร์ เพื่อนำพาบริษัทให้พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น”

สตารร์ คาดว่าจะสามารถเสริมความแข็งแกร่งในการเสนอผลิตภัณฑ์ในตลาดประกันภัยไทย ด้วยประกันภัยเชิงพาณิชย์ และประกันอุบัติเหตุและสุขภาพซึ่งได้รับการปรับเปลี่ยนให้มีความเหมาะสมตามความต้องการ และวางแผนที่จะขยายธุรกิจอย่างเต็มที่โดยจะสรรหาและพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยในประเทศไทย โดยที่ผ่านมา สตารร์ ได้สนับสนุนตลาดประกันภัยในประเทศไทยผ่านการรับประกันภัยต่อเป็นหลัก ซึ่งรวมถึง ประกันความเสี่ยงทางด้านเทคนิค ประกันภัยเบ็ดเตล็ด ประกันภัยทางทะเล และประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ

เจอราร์ด เพนฟาเธอร์ จากฮันติงตัน (Huntington) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ของ เอฟพีจี กล่าวว่า “นี่เป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งของทั้ง สตารร์ และ เอฟพีจี เราเชื่อว่า สตารร์ เป็นเหมือนบ้านในอุดมคติของ เอฟพีจี ประเทศไทยที่จะช่วยสร้างฐานธุรกิจ ขยายขีดความสามารถ และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ สู่ตลาดประกันภัย”

ตามรายงานล่าสุดของเอเอ็ม เบสท์ (AM Best) ซึ่งเป็นหน่วยงานจัดอันดับ ในปี 2564 ตลาดประกันวินาศภัยของประเทศไทยมีมูลค่าเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมประมาณ 253 พันล้านบาท (หรือประมาณ 8.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ)

ทั้งนี้ คาดว่าสำนักงานใหญ่ของฝ่ายปฏิบัติการจะยังคงอยู่ในกรุงเทพมหานครตามเดิม

เกี่ยวกับสตารร์ อินชัวรันส์ คอมพานีส์

สตารร์ อินชัวรันส์ คอมพานีส์ (หรือ สตารร์) เป็นชื่อทางการตลาดของบรรดาบริษัท และบริษัทลูกของ สตารร์ อินเตอร์เนชั่นแนล คอมพานี อิงค์ ซึ่งประกอบธุรกิจประกันภัยและให้บริการความช่วยเหลือระหว่างการเดินทาง และรวมถึง ซี.วี. สตารร์ แอนด์ คอมพานี อิงค์ และบริษัทในเครือซึ่งประกอบธุรกิจการลงทุน ทั้งนี้ สตารร์ เป็นองค์กรชั้นนำในด้านประกันภัยและการลงทุน ซึ่งมีสำนักงานของบริษัทในเครือครอบคลุมอยู่ทั้งใน 6 ทวีปทั่วโลก โดยบริษัทประกันภัยของ สตารร์ มีผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่หลากหลาย ทั้งประกันภัยทรัพย์สิน ประกันเบ็ดเตล็ด และประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ รวมถึงความคุ้มครองพิเศษต่างๆ เช่น ประกันภัยเครื่องบิน ประกันภัยทางทะเล ประกันภัยพลังงาน และประกันวินาศภัยส่วนเกิน บริษัทประกันภัยในเครือของ สตารร์ ซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา เบอร์มิวดา จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ และมอลตา ล้วนแต่ได้รับเกรด “A” (Excellent) โดยเอเอ็ม เบสท์ ในขณะที่ลอยซ์ ซินดิเคท (Lloyd's syndicate) ของ สตารร์ ได้รับเกรด “A+” (Strong) โดยสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (Standard & Poor)

เกี่ยวกับเอฟพีจี อินชัวรันส์ กรุ๊ป

เอฟพีจี อินชัวรันส์ กรุ๊ป ก่อตั้งขึ้นมานานกว่าครึ่งศตวรรษและเป็นกลุ่มบริษัทประกันวินาศภัยในภูมิภาคอาเซียน

เกี่ยวกับฮันติงตัน

ฮันติงตันและบริษัทร่วมเป็นกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์แบบบูรณาการและลงทุนในกลุ่มบริษัทสตาร์ทอัพและหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์ (private equity) โดยให้ความสำคัญในด้านการประกันภัยต่อ และมีสำนักงานตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์และตุรกี

ติดต่อเราได้ที่เว็บไซต์ www.starrcompanies.com หรือติดตามเราได้ที่ LinkedIn และ Twitter.

ติดต่อ:

ชาร์ลี อาร์มสตรอง

รองประธานฝ่ายการตลาด

ที่อยู่อีเมล charlie.armstrong@starrcompanies.com หมายเลขโทรศัพท์ 646.758.8308

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยเนแบรสกาและ ANANDA Scientific ประกาศว่า FDA ได้อนุมัติ IND สำหรับการทดลองทางคลินิกเพื่อสำรวจการรักษาความผิดปกติของโรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง (PTSD)

Logo

โอมาฮา เนแบรสกาและกรีนวูด วิลเลจ โคโลราโด–(บิสิเนสไวร์)–17 พฤษภาคม, 2565

ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยเนแบรสกา (UC) และ ANANDA Scientific Inc ประกาศความร่วมมือในการทดลองทางคลินิกรอบใหม่เพื่อตรวจสอบการรักษาผู้ใหญ่ที่มีความผิดปกติจากโรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง (PTSD)

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220517005065/en/

(Photo: Business Wire)

(ภาพ: Business Wire)

การทดลองนี้นำโดยนักวิจัยหลัก Mathew Rizzo, MD, ศาสตราจารย์จาก Reynolds และประธานของ UNMC Department of Neurological Sciences และหัวหน้าแพทย์สำหรับบริการทางระบบประสาทที่ Nebraska Medicine

การศึกษาจะประเมินประสิทธิผลของ Nantheia™ ATL5 ซึ่งเป็นยาที่ใช้ในการวิจัยโดยใช้เทคโนโลยีการนำส่ง cannabidiol ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ANANDA  ยาที่ใช้ในการศึกษาวิจัยใหม่ (investigational new drug – IND) ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)

(Clinical Trials.gov Identifier NCT05269459)

“นี่เป็นการทดลองทางคลินิกครั้งที่สองของเราที่กำหนดเป้าหมายไปที่ PTSD เรารู้สึกตื่นเต้นที่ทีมวิจัยของ UNMC ได้ร่วมมือกับเราเพื่อประเมินยาของเราสำหรับโรคที่ย่ำแย่โรคนี้” Sohail R. Zaidi ซีอีโอของ ANANDA กล่าว “นี่เป็นขั้นตอนสำคัญในความพยายามของเราในการจัดหาทางเลือกในการรักษาที่ดีขึ้นให้กับผู้ป่วย PTSD”

“เป้าหมายหลักสำหรับทีมวิจัยของเราคือการวิจัยการรักษาแบบใหม่ตามหลักฐานเพื่อให้ประชากรผู้ป่วย PTSD จำนวนมากมีตัวเลือกการรักษาใหม่” Dr. Rizzo กล่าว “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ ANANDA Scientific ในการทดลองครั้งนี้”

Dr. Rizzo ยังเป็นผู้อำนวยการเครือข่ายการวิจัยทางคลินิกของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ Great Plains เขาเป็นประธานคณะกรรมการบริหารของ American Brain Coalition ซึ่งสนับสนุนการวิจัยขั้นสูงสำหรับการรักษาทางระบบประสาท

ทีมวิจัยของ Dr. Rizzo ได้แก่ Jennifer Merickel, Ph.D., นักประสาทวิทยาทางปัญญาและผู้ช่วยศาสตราจารย์ใน UNMC Department of Neurological Sciences และ Brigette Vaughan พยาบาลวิชาชีพขั้นสูง แพทย์และนักวิจัยใน UNMC Department of Psychiatry

การศึกษาทางคลินิกแบบสุ่มตัวอย่างแบบ double-blind ควบคุมด้วยยาหลอกระยะที่ 2 นี้ กำลังวางแผนที่จะลงทะเบียนผู้เข้าร่วม 240 คน เพื่อให้การประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ Nantheia™ ATL5 อย่างเข้มงวด

เกี่ยวกับ NANTHEIA™ ATL5

Nantheia™ ATL5 เป็นยาที่ใช้ในการวิจัยซึ่งใช้เทคโนโลยีการนำส่ง cannabidiol ในโครงสร้างของเหลวของ ANANDA  การศึกษาทางคลินิกเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีการนำส่ง Liquid Structure™ ของ ANANDA (ได้รับอนุญาตจาก Lyotropic Delivery Systems (LDS) Ltd ในกรุงเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล) สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและความเสถียรของ cannabidiol.  Nantheia ™ ATL5 เป็นผลิตภัณฑ์รับประทานทางช่องปากที่มี cannabidiol 100 มก. ต่อแคปซูลซอฟเจล

เกี่ยวกับศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยเนแบรสกา

UNMC เป็นศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพเชิงวิชาการเพียงแห่งเดียวของเนบราสก้า  UNMC มุ่งมั่นที่จะให้การศึกษาแก่บุคลากรทางการแพทย์ในศตวรรษที่ 21 เพื่อค้นหาวิธีรักษาโรคร้ายแรง  การดูแลผู้ป่วยอย่างดีที่สุด และให้บริการรัฐและชุมชนผ่านการขยายงานที่ได้รับรางวัล  UNMC มีวิทยาลัยหกแห่งและสองสถาบัน ให้บริการนักศึกษามากกว่า 4,200 คนในกว่าสิบสองโปรแกรม  นักวิจัยที่ UNMC ดำเนินการวิจัยที่ล้ำสมัยในด้านวิทยาศาสตร์ระบบประสาท มะเร็งวิทยา โรคติดเชื้อ และพื้นที่สำคัญอื่นๆ

เกี่ยวกับ ANANDA SCIENTIFIC

อนันดาเป็นบริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ชั้นนำที่มุ่งเน้นการวิจัย โดยบุกเบิกการศึกษาทางคลินิกที่มีความสามารถสูงเพื่อประเมินข้อบ่งชี้ในการรักษาโรค เช่น PTSD, Radiculopathic โรควิตกกังวล และ ความผิดปกติของการใช้ Opioid (Mt. Sinai และ UCLA) บริษัทใช้เทคโนโลยีการจัดส่งที่ได้รับการจดสิทธิบัตรในการผลิต cannabinoids และสารประกอบที่ได้จากพืชอื่นๆ มีความสามารถในการย่อยสลายทางชีวภาพสูง ละลายน้ำได้ มีอายุการเก็บรักษาที่เสถียร และมุ่งเน้นไปที่การผลิตผลิตภัณฑ์ยาที่มีคุณภาพระดับพรีเมียม บริษัทกำลังขยายฐานการวิจัยผ่านการสนับสนุนหลายฉบับกับมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อกระจายพอร์ตโฟลิโอทางคลินิกให้สอดคล้องกับข้อมูลการวิจัยที่แข็งแกร่ง  บริษัทมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ANANDA ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร โดยขยายไปสู่ตลาดอื่นๆ เช่น สหภาพยุโรป จีน แอฟริกา และประเทศอื่นๆ ในเอเชีย

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220517005065/en/

ติดต่อ:

ANANDA Scientific Media Relations | Christopher Moore | 813 326 4265 | media@anandascientific.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

TTI แต่งตั้ง Ross Gilardi เป็นรองประธานอาวุโสฝ่ายการเงิน – ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–17 พ.ค. 2565

Techtronic Industries Co. Ltd.  (เรียกย่อว่า “TTI” หรือ “กลุ่มบริษัท”) ผู้นำระดับโลกด้านเครื่องมือไร้สายระดับมืออาชีพ เครื่องมือ DIY และอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับใช้กลางแจ้ง (รหัสสินค้า: 669, สัญลักษณ์ ADR: TTNDY) ยินดีที่จะประกาศเรื่องการแต่งตั้งคุณ Ross Gilardi เป็นรองประธานอาวุโสฝ่ายการเงิน ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ โดยมีผลวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 คุณ Gilardi จะประจำอยู่ที่สหรัฐอเมริกาและรับผิดชอบงานด้านนักลงทุนสัมพันธ์ของ TTI ทั่วโลก เขาจะรายงานตรงต่อประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คุณ Joseph Galli

คุณ Gilardi ได้เข้าร่วมทีมหลังจากประสบความสำเร็จในอาชีพเป็นเวลา 23 ปีในฐานะนักวิเคราะห์วิจัยด้านหุ้นที่ได้รับความเชื่อถือและได้รับคะแนนสูงจาก Bank of America – Merrill Lynch อาชีพการวิจัยหุ้นที่โดดเด่นของเขายังรวมไปถึง การใช้ชีวิต 4 ปีในสหราชอาณาจักรและ 20 ปีในสหรัฐอเมริกา ที่ซึ่งเขาได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในนักวิเคราะห์การวิจัยระดับโลกชั้นนำจากการสำรวจในหมู่นักลงทุนสถาบันทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรปในหลายหมวดหมู่อุตสาหกรรม เขามีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมมากมาย และยังมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับนักลงทุนทั่วโลกที่เขาจะนำเข้ามาสู่บทบาทใหม่ของเขาด้วย คุณ Gilardi สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์จาก Boston College และ MBA จาก Columbia Business School

คุณ Galli ซีอีโอกล่าวว่า “ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา Ross ได้พัฒนาความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงศักยภาพอันมหาศาลของ TTI ประสบการณ์ของ Ross ในตลาดทุน ประกอบกับความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของเขากับชุมชนการเงินทั่วโลก จะเป็นสินทรัพย์ที่ดีในขณะที่เรากำลังเดินหน้าขยายฐานนักลงทุนระดับโลกของเราต่อไป”

เกี่ยวกับ TTI

TTI ก่อตั้งขึ้นในปี 2528 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งฮ่องกง ในปี 2533 TTI เป็นผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีไร้สายตั้งแต่เครื่องมือไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าใช้งานกลางแจ้ง ผลิตภัณฑ์ดูแลพื้นและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับผู้บริโภค ผู้ใช้มืออาชีพ และผู้ใช้ในอุตสาหกรรมในบ้าน การก่อสร้าง , อุตสาหกรรมบำรุงรักษา, อุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท TTI มีรากฐานที่สร้างขึ้นจากแรงขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์ 4 ประการ ได้แก่ แบรนด์ที่ทรงพลัง ผลิตภัณฑ์ระดับนวัตกรรม กลุ่มคนที่ยอดเยี่ยม และความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างขวางในระยะยาวในการพัฒนาเทคโนโลยีไร้สายให้ก้าวหน้า กลยุทธ์การเติบโตระดับโลกของการแสวงหานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อย่างไม่หยุดยั้งทำให้ TTI อยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม กลุ่มผลิตภัณฑ์ในแบรนด์ที่ทรงพลังของ TTI ประกอบด้วยเครื่องมือไฟฟ้า MILWAUKEE, AEG และ RYOBI อุปกรณ์เสริม เครื่องมือช่าง และผลิตภัณฑ์สำหรับใช้กลางแจ้ง ผลิตภัณฑ์เลย์เอาต์และการวัดของ EMPIRE และผลิตภัณฑ์ดูแลพื้นและทำความสะอาด HOOVER, ORECK, VAX และ DIRT DEVIL

TTI เป็นหนึ่งในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี Hang Seng, FTSE RAFI™ All-World 3000 Index, FTSE4Good Developed Index และ MSCI ACWI Index ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.ttigroup.com.

เครื่องหมายการค้าทั้งหมดที่ระบุไว้นอกเหนือจาก AEG และ RYOBI เป็นของกลุ่มบริษัท ส่วน AEG เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ AB Electrolux (มหาชน) และใช้งานภายใต้ใบอนุญาต RYOBI เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Ryobi Limited และใช้ภายใต้ใบอนุญาต

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220516005729/en/

ติอต่อสอบถามรายละเอียดฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์:

ฝ่ายติดต่อหลัก

นักลงทุนสัมพันธ์ TTI

โทร: +1 (954) 541 9660

อีเมล: ir@ttihq.com

ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

นักลงทุนสัมพันธ์ TTI

โทร: +(852) 2402 6888

อีเมล: ir@tti.com.hk

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Celmatix ประกาศความสำเร็จก้าวสำคัญในขั้นก่อนศึกษาทางคลินิกของโครงการพัฒนายาป้องกันภาวะหมดประจำเดือนก่อนวัยอันควร

Logo

สารกระตุ้นกลไกตอบสนองยีน AMHR2 ที่สามารถพัฒนาเป็นตัวยาได้แสดงให้เห็นถึงฤทธิ์ที่มีความเฉพาะสูงในการทดสอบทางชีวภาพ รวมถึงคุณสมบัติทางเภสัชจลนศาสตร์ที่ต้องการในการศึกษากับสัตว์ในขั้นก่อนการศึกษาทางคลินิก

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–16 พฤษภาคม 2565

วันนี้ Celmatix Inc. บริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพที่มุ่งเน้นด้านชีววิทยาของรังไข่ ประกาศถึงการจำแนกสารกระตุ้นกลไกตอบสนองยีน AMHR2 ตัวใหม่ที่สามารถนำไปพัฒนาเป็นยาได้ โดยแสดงให้เห็นถึงฤทธิ์ทางชีวภาพที่เข้มข้นในการทดสอบในขั้นก่อนการศึกษาทางคลินิก (พรีคลินิก) ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาหลาย ๆ ครั้ง รวมถึงคุณสมบัติทางเภสัชจลนศาสตร์ที่สอดคล้องกับคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการสำหรับยาแบบฉีด โครงการดังกล่าว ซึ่งเป็นผลจากความมุ่งเน้นทางด้านการค้นหาตัวบ่งชี้ทางชีวภาพตัวใหม่และเป้าหมายทางยาเพื่อสุขภาพของผู้หญิงของ Celmatix ที่ยาวนานนับทศวรรษ มีข้อบ่งชี้ทางคลินิกที่กำหนดไว้ในตอนแรกเพื่อป้องกันภาวะหมดประจำเดือนก่อนวัยอันควรในผู้หญิงที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัด โดยในทุก ๆ เดือนที่ผู้หญิงเข้ารับการรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัด การสูญเสียการทำงานของรังไข่และภาวะหมดประจำเดือนถูกกระตุ้นให้เกิดเร็วขึ้นโดยเฉลี่ย 1.5 ปี

Dr. Piraye Yurttas Beim ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Celmatix กล่าวว่า “หากพูดในแง่ของลักษณะประชากรแล้ว ภาวะหมดประจำเดือนเป็นปรากฏการณ์ที่ค่อนข้างใหม่ และเป็นผลจากการค้นพบทางการแพทย์ที่ทำให้ผู้หญิงในปัจจุบันมีอายุยืนยาวเหนืออายุการทำงานของรังไข่ ในศตวรรษที่ผ่านมาอายุขัยเฉลี่ยของผู้หญิงทั่วโลกอยู่ที่ต่ำกว่า 50 ปี ดังนั้น ผู้หญิงส่วนใหญ่จึงไม่ได้มีชีวิตยาวนานพอที่จะเจอกับภาวะหมดประจำเดือน ปัจจุบัน อายุขัยเป็นตัวเร่งเดี่ยวที่มีนัยสำคัญมากที่สุดของการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับอายุในผู้หญิง เช่น โรคกระดูกพรุนและโรคหัวใจ ความเสี่ยงในการก่อตัวของโรคเรื้อรังเหล่านี้ก่อนอายุ 70 ปี เพิ่มขึ้น 300% สำหรับผู้หญิงที่ประสบกับภาวะการสูญเสียการทำงานของรังไข่และภาวะหมดประจำเดือนก่อนเวลา ที่ Celmatix เรามุ่งมั่นที่จะช่วยผู้หญิงให้สามารถสร้างสุขภาพที่ดีได้สูงสุดด้วยการปรับและยืดการทำงานของรังไข่ ทีมของเราทำงานมากว่าทศวรรษเพื่อค้นหาตัวกระตุ้นโมเลกุลที่เกี่ยวกับสุขภาพของรังไข่และภาวะความเจ็บป่วยที่เกี่ยข้องอย่างภาวะการมีบุตรยาก ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) และภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกขึ้นผิดที่ จากการทำงาน เราพบความกระจ่างว่าฮอร์โมนแอนตี้มูลเลอเรียน (AMH) ซึ่งเป็นลิแกนด์โดยธรรมชาติของยีน AMHR2 คือตัวควบคุมการทำงานของรังไข่ที่เป็นตัวหลัก เช่นเดียวกับเอสโตรเจน แต่ที่ต่างจากเอสโตรเจนก็คือเราไม่สามารถสร้าง AMH บริสุทธิ์ได้จากแหล่งธรรมชาติอย่างปัสสาวะ หรือไม่สามารถสังเคราะห์ได้ทางเคมี และความพยายามก่อนหน้านี้ก็ไม่สามารถสร้างการตัดต่อทางพันธุกรรมของ AMH ที่มีความเฉพาะสูง หรือความเสถียรทางเภสัชจลนศาสตร์ที่จำเป็นสำหรับการนำไปรักษาได้”

Dr. Stephen Palmer ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านวิทยาศาสตร์ของ Celmatix อธิบายว่า “หนึ่งในสิ่งที่ดึงดูดผมในฐานะผู้พัฒนายาให้กับ Celmatix ก็คือศักยภาพของโครงการสารกระตุ้นกลไกตอบสนองยีน AMHR2 ในการชี้ให้เห็นถึงความต้องการด้านสุขภาพของผู้หญิงที่สำคัญซี่งยังไม่ได้รับการตอบสนอง ผมได้ประจักษ์แล้วว่าโครงการสารกระตุ้นกลไกตอบสนองยีน AMHR2 ของ Celmatix นั้นเดินมาถูกทางแล้วกับการเป็นการค้นพบแห่งศตวรรษที่ 21 เทียบเท่ากับการพัฒนายาคุมกำเนิดและยาสำหรับรักษาการมีบุตรยากในศตวรรษที่ผ่านมา ตัวบ่งชี้นำของเราคือการการรักษาด้วยเคมีบำบัดกระตุ้นให้เกิดการเสื่อมของรังไข่ (CIOF) แต่เราก็เชื่อว่าสารกระตุ้นกลไกลตอบสนองของยีน AMHR2 อาจสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับตัวบ่งชี้ด้านสุขภาพอื่น ๆ ของผู้หญิงได้ในวงกว้าง ผลจากการทำงานของเราแสดงให้เห็นว่าแอนะล็อก AMH ของเรามีพารามิเตอร์ทางเภสัชจลนศาสตร์จากการศึกษาในสัตว์ทดลองตามที่ต้องการ และทำให้เกิดการส่งสัญญาณเข้าสู่เซลล์ตามที่ต้องการในการทดสอบเซลล์ฟอลลิเคิลของรังไข่แบบดั้งเดิม และการเสื่อมของท่อ Müllerian ในระบบของยูโรเจนิทาลริดจ์จากการศึกษาในหลอดทดลอง โดยการแสดงให้เห็นถึงฤทธิ์ที่มีความจำเพาะสูงในทั้งเนื้อเยื่อเป้าหมาย (รังไข่) และการทดสอบการทำงานของ AMH ที่ดีที่สุด ทำให้เรามั่นใจที่จะเดินหน้าโครงการนี้ต่อให้เข้าใกล้ขั้นตอนการศึกษาทางคลินิกไปอีกขั้น”

การประกาศนี้เกิดขึ้นไม่นานหลัง Celmatix ประกาศก้าวแห่งความสำเร็จครั้งที่สามในช่วงเวลาห้าปีของการเป็นพันธมิตรที่มีจุดมุ่งหมายในหลาย ๆ ด้านกับ Evotec ในเดือนมกราคม ความสำเร็จนั้นเกิดขึ้นจากการที่ Evotec และ Bayer AG เร่งพัฒนาโครงการยาที่ให้ความสำคัญกับเป้าหมายยาใหม่ที่ค้นพบโดย Celmatix สู่กระบวนการ hit-identification

เกี่ยวกับ Celmatix

Celmatix Inc. เป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพด้านสุขภาพของผู้หญิงที่ทำงานในขั้นก่อนการศึกษาทางคลินิกโดยมุ่งเน้นทางด้านชีววิทยาของรังไข่ โครงการสารกระตุ้นกลไกตอบสนองยีน AMHR2 เพื่อ “นำไปสู่การผลิตยา” ที่มุ่งเน้นทางด้านความเสื่อมสภาพของรังไข่ และความร่วมมือด้าน PCOS และการคุมกำเนิดที่ไม่ใช้ฮอร์โมนกับผู้นำอุตสาหกรรม ทำให้ Celmatix สามารถชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองและมีความต้องการสูง ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาการยับยั้งและการบุกเบิกด้านสุขภาพรังไข่ในเจเนอเรชันใหม่ แพลตฟอร์มด้านสุขภาพรังไข่แบบ multi-omic ที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่ง Celmatix เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ เป็นรากฐานที่นำไปสู่การพัฒนาการรักษาใหม่ ๆ ที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมของบริษัท สำหรับข้อมเพิ่มเติม ดูได้ที่เว็บไซต์ของบริษัท www.celmatix.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220516005290/en/

ติดต่อ:

Jasmine Newby
celmatix@mww.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

NielsenIQ เปิดตัวโซลูชันสื่อค้าปลีกเพื่อสร้างรายได้จากสินทรัพย์และการวัดค่าแบบ ROI สำหรับผู้ค้าปลีก

Logo

NielsenIQ Activate ช่วยให้ผู้ค้าปลีกใช้ประโยชน์จากข้อมูลของตนเองเพื่อเร่งกระแสรายได้ใหม่

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–16 พฤษภาคม 2565

วันนี้ NielsenIQ บริษัทผู้ให้บริการด้านข้อมูลระดับโลก ประกาศเปิดตัว NielsenIQ Activate โซลูชันการให้บริการทางด้านซอฟต์แวร์ (SaaS) ที่ช่วยให้ผู้ค้าปลีกเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ผ่านสื่อการค้าปลีกและข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าที่ครอบคลุมซึ่งกระตุ้นนักช้อปด้วยข้อเสนอโปรโมชันเฉพาะบุคคล

NielsenIQ Activate ประกอบด้วยแอปพลิเคชันเฉพาะสำหรับการสร้างผู้ชมที่กำหนดเป้าหมายแบบไฮเปอร์ การจัดการข้อเสนอและการโฆษณา และการวัดผลแบบ end-to-end เครื่องมือการให้บริการแบบ SaaS เป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม NielsenIQ Connect ที่จะช่วยให้ผู้ค้าปลีกสร้างรายได้ที่ยั่งยืนโดยสร้างรายได้จากสินทรัพย์สื่อการค้าปลีกผ่านช่องทางจริงและทางดิจิทัล นอกจากนี้ผู้ค้าปลีกจะสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือกับแบรนด์และแจ้งให้พวกเขาทราบถึงข้อมูลเชิงลึกที่พวกเขาต้องการเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า ดำเนินการตามข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้น และวัดค่าแบบ ROI ในกิจกรรมของพวกเขาในทุกช่องทาง

“เรามุ่งมั่นที่จะสานต่อสิ่งที่เราทำไว้โดยกำหนดศตวรรษหน้าของการวัดผลผู้บริโภคและการค้าปลีก” Xavier Facon ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อค้าปลีกระดับโลกของ NielsenIQ กล่าว “NielsenIQ Activate รวบรวมความสามารถในการบรรลุมุมมองที่ละเอียดของลูกค้าในทุกช่องทาง และรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความเสี่ยงและโอกาสสำหรับการโฆษณาไว้ในแพลตฟอร์มเดียว วิธีนี้จะช่วยให้ผู้ค้าปลีกเปิดตัวแคมเปญได้อย่างง่ายดายโดยอิงจากการสร้างกลุ่มเป้าหมายที่คาดการณ์ได้ และรวบรวมการวัดผลเกี่ยวกับผลกระทบของโฆษณาในทุกช่องทางในขณะที่สอดคล้องกับแบรนด์พันธมิตร”

NielsenIQ Activate ตระหนักดีว่าผู้ค้าปลีกทุกรายมีความแตกต่างกัน โดยช่วยให้ผู้ค้าปลีกสามารถนำสื่อค้าปลีกมาใช้เองและมีความยืดหยุ่นในการผสานรวมเข้ากับระบบนิเวศส่วนบุคคลของตน นอกจากนี้ผู้ค้าปลีกจะสามารถสร้างบุคลิกและผู้ชมที่แม่นยำจากคุณลักษณะของลูกค้านับพันราย รับข้อมูลเชิงลึกจากทุกช่องทางที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพื่อการตัดสินใจที่ดีขึ้น ลดเวลาในการเปิดตัวและวัดผลการมีส่วนร่วมของลูกค้าที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลในแบบเรียลไทม์ ทั้งในสื่อที่เป็นเจ้าของเองและสื่อภายนอก และปรับให้สอดคล้องกับแบรนด์ที่ลูกค้าต้องการเพื่อเพิ่มการสร้างรายได้จากสื่อและข้อมูล

“NielsenIQ กำลังขยายการเติบโตในระดับโลก และสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับศตวรรษหน้าของการวัดผลผู้บริโภคและการค้าปลีกที่รวดเร็ว คล่องแคล่วว่องไว และเชื่อมโยงถึงกัน” David Johnson ประธานฝ่ายค้าปลีกระดับโลกของ NielsenIQ กล่าว “ตลาดกำลังพัฒนา และเป็นงานของเราที่จะทำให้แน่ใจว่าอุตสาหกรรมการวัดผลมีวิวัฒนาการไปตามกาลเวลา ในฐานะบริษัทผู้ให้บริการด้านข้อมูลชั้นนำระดับโลกในอุตสาหกรรมนี้ เรามีความแข็งขันในการนำเสนอแนวค้าปลีกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าของเราได้อย่างแม่นยำ”

การรวมความสามารถจากการเข้าซื้อกิจการล่าสุด Precima และ CiValue ทำให้ NielsenIQ Activate รองรับความสามารถในการปรับแต่งเฉพาะบุคคลที่เพิ่มมากขึ้นจากความสามารถหลักของ NielsenIQ ซึ่งอุตสาหกรรมค้าปลีกต้องพึ่งพาการตัดสินใจที่สำคัญและประสบการณ์เฉพาะบุคคล NielsenIQ ยังคงเป็นผู้ชนะเลิศในด้านการเปลี่ยนแปลงผ่านผลิตภัณฑ์ค้าปลีกและโปรแกรมการทำงานร่วมกัน ทำให้ผู้ค้าปลีกและแบรนด์ต่าง ๆ เพิ่มส่วนแบ่งในกระเป๋าเงินของพวกเขาโดยใช้ข้อมูลลูกค้าและข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ และเสริมอำนาจพวกเขาด้วยชุดการเปิดใช้งานที่เหมาะสมเพื่อดำเนินการและวัดค่า

“โซลูชันที่เรียบง่ายและใช้งานง่ายของ CiValue และ Precima ใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและวิทยาศาสตร์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อรวมกับการวัดประสิทธิภาพทั่วโลกของ NielsenIQ จะเชื่อมโยงผู้ค้าปลีกเข้ากับผู้ผลิต CPG อย่างแท้จริง” Beni Basel ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ CiValue กล่าว “ไม่มีแพลตฟอร์มอื่นใดที่สามารถช่วยให้ผู้ค้าปลีกและแบรนด์ทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มมูลค่าของลูกค้าด้วยแพลตฟอร์มแบบ AI ที่เรียบง่ายและใช้งานง่าย ซึ่งวางลูกค้าให้เป็นศูนย์กลางของการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ NielsenIQ Activate กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ https://nielseniq.com/global/en/solutions/nielseniq-activate/.

เกี่ยวกับ NielsenIQ

NielsenIQ เป็นผู้นำในด้านการให้บริการมุมมองที่สมบูรณ์ที่สุดเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลก NielsenIQ ขับเคลื่อนโดยแพลตฟอร์มข้อมูลผู้บริโภคที่ก้าวล้ำและความสามารถในการวิเคราะห์ที่หลากหลาย ทำให้บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคและผู้ค้าปลีกชั้นนำของโลกสามารถตัดสินใจได้อย่างกล้าหาญและมั่นใจ

NielsenIQ ใช้ชุดข้อมูลที่ครอบคลุมและการวัดผลธุรกรรมทั้งหมดอย่างเท่าเทียมกัน ช่วยให้ลูกค้ามีมุมมองเชิงคาดการณ์ล่วงหน้าเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในแพลตฟอร์มการค้าปลีกทั่วทั้งหมด ระบบปรัชญาเปิดของเราในการรวมข้อมูลนั้นยังช่วยให้ชุดข้อมูลผู้บริโภคมีอิทธิพลมากที่สุดในโลก NielsenIQ มอบความจริงที่สมบูรณ์

NielsenIQ เป็นบริษัทในเครือ Advent International มีการดำเนินงานในเกือบ 100 ตลาด ครอบคลุมมากกว่า 90% ของประชากรโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ NielsenIQ.com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220516005072/en/

ติดต่อ:

Gillian Mosher
VP, Communication
647-282-9714
Gillian.Mosher@nielseniq.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

HappyFresh พลิกโฉมความสามารถของคลังสินค้าให้เป็นดิจิทัลด้วย Blue Yonder

Logo

บริษัทขายของชำออนไลน์ชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขับเคลื่อนโดย WMS ของ Blue Yonder

จาการ์ตา อินโดนีเซีย และสก็อตต์เดล รัฐแอริโซนา–(บิสิเนสไวร์)–16 พฤษภาคม 2565

พฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปอันเป็นผลมาจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 โดยหลายคนเลือกที่จะจัดส่งแทน  เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับบริการ HappyFresh ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพด้านร้านขายของชำออนไลน์ได้เปลี่ยนการดำเนินงานคลังสินค้าด้วยระบบดิจิทัลด้วยระบบการจัดการคลับสินค้า warehouse management system (WMS) ของ Blue Yonder

HappyFresh ตั้งเป้าที่จะทำให้การช็อปปิ้งสะดวกยิ่งขึ้นด้วยการส่งมอบทั้งของชำและของสดรอบเมืองในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง บริษัทมีกองขนส่งสินค้าของตนเองและพนักงานเลือกของชำจากศูนย์ที่อยู่ใกล้เคียงที่อยู่จัดส่งของลูกค้า  HappyFresh มีพนักงาน 544 คนทั่วประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย

HappyFresh กำลังมองหาการเร่งการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรมทางดิจิทัลโดยปรับให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าในเชิงรุก ซึ่งรวมถึงระยะเวลาในการจัดส่งที่ยืดหยุ่น การจัดการคำสั่งซื้อที่กำหนดเอง และการตอบสนองแบบเรียลไทม์ และให้ความสำคัญกับความยั่งยืนของสังคมมากขึ้น หุ้นส่วนการดำเนินงานของเราคือ Super Globalindo Viktoria (SGV) ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม eGrocery ที่นำประสบการณ์ เทคนิค การดำเนินงาน นวัตกรรม และการบูรณาการมาสู่การใช้งานด้วยทรัพยากรทีมในท้องถิ่นและบริการผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม

HappyFresh เปิดตัว WMS ของ Blue Yonder ที่ศูนย์ร้านค้าแห่งแรกในปี 2564 และได้เริ่มเปิดตัวที่ศูนย์ในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา  HappyFresh จะเปิดตัวศูนย์เพิ่มเติมในปี 2022 รวมถึงศูนย์กระจายสินค้าเพื่อรองรับศูนย์ในอินโดนีเซีย

ด้วย Blue Yonder นั้น HappyFresh สามารถ:

  • วัดผลอย่างต่อเนื่องและเพิ่มประสิทธิภาพรายการสั่งซื้อ ประหยัดเวลาสำหรับคำสั่งซื้อทั้งหมดและกระบวนการปฏิบัติตามเพื่อให้แน่ใจว่าตรงตามกรอบเวลาการจัดส่งหนึ่งชั่วโมง
  • ปรับปรุงประสิทธิภาพในการรับสินค้าสำหรับผู้ปฏิบัติงานโดยปรับขั้นตอนการทำงานให้เหมาะสมเพื่อขจัดเวลาที่เสียไปและขั้นตอนที่ไม่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว
  • ลดเวลาการเดินทางระหว่างงานโดให้ผู้ปฏิบัติงานเริ่มงานครั้งถัดไปเมื่อการมอบหมายงานก่อนหน้านี้สิ้นสุดลง แทนที่จะเดินกลับไปที่เริ่มต้น

“การสร้างกลยุทธ์ในการปฏิบัติตามคำสั่งซื้อที่มีประสิทธิผลและมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้กลายเป็นจุดสนใจที่สำคัญมากขึ้นสำหรับเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความต้องการในการจัดส่งภายในหนึ่งชั่วโมง  นอกจากนี้ ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในปัจจุบันและความท้าทายในการจ้างงานได้เพิ่มความจำเป็นในการปรับปรุงรายการสั่งซื้อในการรับสินค้า  Blue Yonder WMS ช่วยให้เราสามารถเรียกใช้วิธีการรับสินค้าที่หลากหลาย เช่นการรับสินค้าชิ้นด้วยและการรับสินค้าตามโซน ซึ่งช่วยให้เราเพิ่มความเร็วในการปฏิบัติตามข้อกำหนดและประสิทธิผลสูงสุด เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคในช่วงเวลาที่ท้าทายเหล่านี้” Mesut Keleş รองประธานอาวุโสฝ่ายซัพพลาย HappyFresh กล่าว

WMS ของ Blue Yonder ช่วยให้ HappyFresh จัดการการดำเนินการจัดการคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการจัดตารางและการรายงานแรงงานที่ดีขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานและการดำเนินงานสิ่งอำนวยความสะดวกให้สูงสุด ตลอดจนความสามารถในการวางแผนและดำเนินการตามกระบวนการจัดการคลังสินค้าขายปลีก ทำให้พนักงานคลังสินค้าสามารถมองเห็นสินค้าคงคลังได้ดีขึ้น

“WMS ของเราทำให้ HappyFresh ได้เปรียบในการแข่งขันเพื่อการขยายส่วนแบ่งการตลาดโดยตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งจะทำให้พวกเขามีกำลังซื้อที่ดีขึ้นกับซัพพลายเออร์เนื่องจากปริมาณการสั่งซื้อที่มากขึ้นจะทำให้ราคาดีขึ้น  นอกจากนี้ การปรับปรุงกระบวนการคัดเลือกพนักงานยังช่วยรักษาและดึงดูดผู้มีความสามารถที่ต้องการเพื่อให้เติบโต” Antonio Boccalandro ประธาน Blue Yonder ของ APAC กล่าว

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม:

Blue Yonder เกี่ยวกับ Blue Yonder

Blue Yonder เป็นผู้นำระดับโลกในห่วงโซ่อุปทานดิจิทัลและการปฏิบัติตามการค้าแบบ Omni-channel  แพลตฟอร์มอัจฉริยะแบบ end-to-end ของเราช่วยให้ผู้ค้าปลีก ผู้ผลิต และผู้ให้บริการด้านลอจิสติกส์สามารถคาดการณ์ เปลี่ยนแปลง และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างราบรื่น  ด้วย Blue Yonder คุณสามารถทำการตัดสินใจทางธุรกิจที่ทำกำไรได้โดยอัตโนมัติและให้ผลกำไรมากขึ้น ซึ่งให้การเติบโตที่มากขึ้นและประสบการณ์ของลูกค้า  Blue Yonder – เติมเต็มศักยภาพของคุณ blueyonder.com

“Blue Yonder” เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Blue Yonder Group, Inc. ชื่อการค้า ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใดๆ ที่อ้างถึงในเอกสารนี้โดยใช้ชื่อ “Blue Yonder” เป็นเครื่องหมายการค้าและ หรือทรัพย์สินของ Blue Yonder Group Inc. ชื่อบริษัทและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดอาจเป็นเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายการค้าจดทะเบียน หรือเครื่องหมายบริการของบริษัทที่เกี่ยวข้อง

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220515005030/en/

ติดต่อ:

Marina Renneke, APR, Corporate Communications Director (ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสาร)

Tel: +1 480-308-3037, marina.renneke@blueyonder.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Metap Inc.: Metaverse Project GensoKishi Online ประกาศการลุ้นโชคเข้าร่วมการทดสอบอัลฟ่าแบบปิด (Bronze)

Logo

ไทเป ใต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–12 พ.ค. 2565

GensoKishi Online -Meta World- ได้รับการพัฒนาภายใต้ลิขสิทธิ์ของเกมออนไลน์ผู้เล่นจำนวนมากแบบเล่นตามบทบาทแบบ 3 มิติ (3D  MMO) ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ชื่อ “Elemental Knights Online” ซึ่งเป็นเกมระดับไอคอนที่มีประวัติยาวนาน 14 ปีและมียอดดาวน์โหลดรวม 8 ล้านครั้งทั่วโลก โดยภายในเกม ยังมีเกม 3D MMO แนว RPG ที่มีผู้ใช้งานอยู่แล้วด้วยการใช้ metaverse 3 มิติที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งเชื่อมต่อผู้ใช้จากทั่วโลกไปพร้อม ๆ กัน ไม่ว่าจะจากการเล่นผ่านสมาร์ทโฟน พีซี หรือคอนโซลวิดีโอเกม

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220510005812/en/

GensoKishi Closed Alpha test (Graphic: Business Wire)

GensoKishi Closed Alpha test (กราฟิก: Business Wire)

ทางเกมเพิ่งประกาศความร่วมมือกับ Yoshitaka Amano ผู้เป็นตำนานด้านเกม เพื่อออกแบบคอลเลกชัน NFT ให้กับพวกเขา

นับตั้งแต่เปิดตัวเว็บไซต์ GensoKishi และช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564 เป็นต้นมา GensoKishi ได้ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย จนถึงปัจจุบัน โทเค็นแบบ governance token ของ GensoKishi ราคาสูงกว่าราคาจดทะเบียนเริ่มต้นของ Bybit มากกว่า 50 เท่า นับจากการแลกเปลี่ยนครั้งแรกเพื่อนำโทเค็น​​ Metaverse ของ GensoKishi มาใช้

GensoKishi Online ได้เปิดรับสมัครเพื่อเข้าสู่การจับสลากชิงโชคตั๋วการทดสอบอัลฟ่าแบบปิด หรือ Closed Alpha Bronze ผู้โชคดีจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าถึงการทดสอบอัลฟ่าแบบปิดของ GensoKishi

กด ที่นี่ เพื่ออ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ การทดสอบอัลฟ่า แบบปิด

กด ที่นี่ เพื่อเยี่ยมชมเว็บไซต์ทางการของ GensoKishi Online Metaworld

รายละเอียดแคมเปญเกี่ยวกับช่วงการทดสอบอัลฟ่าแบบปิด

ผู้เข้าร่วมที่แปลว่า แบบปิด ทุกคนจะได้รับ NFT รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่นเพื่อเป็นการระลึกถึงการเข้าร่วมในช่วงการทดสอบ

ในระหว่างช่วงการทดสอบอัลฟ่าแบบปิด มีไอเทมที่เรียกว่า “Alpha Hunter's Certificate” จะถูกมอบให้กับผู้เล่นเมื่อสามารถเอาชนะมอนสเตอร์ระหว่างการเล่นเกม โดยจะมอบให้ในอัตราความน่าจะเป็นที่แน่นอน

“ใบรับรองของนักล่าอัลฟ่า หรือ Alpha Hunter's Certificate” แต่ละรายการจะถือเป็น 1 คะแนน และเมื่อสิ้นสุดครึ่งแรกและครึ่งหลังของช่วงการทดสอบอัลฟ่าแบบปิด การจัดอันดับจะถูกสร้างขึ้นโดยอิงจากจำนวน “ใบรับรองของนักล่าอัลฟ่า” ที่รวบรวมได้ โดย ผู้เล่น 10 อันดับแรก จะได้รับ NFT รุ่นจำกัด (ระดับที่เทียบเท่า SR) และผู้เล่นอันดับ 11 ถึง 100 อันดับแรกจะได้รับ NFT รุ่นจำกัด (ระดับที่เทียบเท่า SR)

คุณจะสามารถสมัครชิงโชคตั๋วการทดสอบอัลฟ่าแบบปิดได้อย่างไร

กรุณากรอกข้อมูล ที่นี่ และส่งใบสมัครของคุณผ่านทางแบบฟอร์มใบสมัคร

ระยะเวลาการสมัครตั๋วอัลฟ่าบรอนซ์แบบปิด

  • วันที่เริ่มต้น: 3 พฤษภาคม 2565 12:00 (GMT+8)
  • วันที่สิ้นสุด: 17 พฤษภาคม 2565 23:59 (GMT+8)
  • กำหนดวันจำหน่ายบัตรให้กับผู้ชนะ: 27 พฤษภาคม 2022

*โปรดทราบว่าเราจะไม่รับใบสมัครหลังจากวันที่สิ้นสุดระยะเวลาการสมัคร

*โปรดทราบว่าวันที่จำหน่ายตั๋วอาจมีการเปลี่ยนแปลง

 ระยะเวลาทดสอบอัลฟ่าแบบปิด

กำหนดการเฉพาะจะประกาศในภายหลัง

สมัครตอนนี้ ที่นี่

*ดูเอกสารรายงาน GensoKishi:

https://genso.game/pdf/WhitePaper_genso_EN.pdf

ชุมชนGensoKishi Online -META WORLD- Community

เว็บอย่างเป็นทางการ : https://genso.game/

Twitter: https://twitter.com/genso_meta

Discord: https://discord.gg/gensometa

Telegram: https://t.me/gensometamain

YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCMi4wGMEWgC9VVps8d_NLDA

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220510005812/en/

ติดต่อ:

Metap Inc.

Maxi Kuan

โทร: +886935312638

อีเมล: info@genso.game

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย