Category Archives: Finance

บริษัท H.I.G. Capital ปิดตัวด้วยสถิติ 5.5 พันล้านดอลลาร์ในกองทุน H.I.G. Middle Market LBO Fund IV

Logo

ไมอามี–(BUSINESS WIRE)–12 กันยายน 2023

H.I.G. Capital (หรือ H.I.G.) ซึ่งเป็นริษัทจัดการสินทรัพย์ทางเลือกชั้นนำระดับโลกด้วยทุน 58 พันล้านดอลลาร์ ภายใต้การจัดการของบริษัท ยินดีในการประกาศปิดกองทุน H.I.G. Middle Market LBO Fund IV (“กองทุน”) กองทุนปิดด้วยจำนวนเงินสูงสุดที่เรียกเก็บจากผู้ถือหุ้นในการลงทุนทั้งหมดจำนวน 5.5 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มเติมจากเงินลงทุนร่วมของบัญชีผู้ถือหุ้นแยกจำนวน 450 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้เดิมเป็นอย่างมาก

กองทุนจะสร้างจากประวัติผลการดำเนินการที่ยาวนานของทีมด้วยเริ่มจากการลงทุนในตราสารหุ้นที่มีการควบคุมในสถานการณ์อันซับซ้อนในบริษัทที่อยู่ในกลุ่มตลาดขนาดกลางซึ่งมีลักษณะความเสี่ยง/ผลตอบแทนที่ไม่สมดุล และมีการเสนอคุณค่าของบริษัทที่แตกต่าง

Sami Mnaymneh และ Tony Tamer ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารร่วมแห่ง H.I.G กล่าวว่า “เรายินดีอย่างยิ่งกับการสนับสนุนจากนักลุงทุนที่มีมาตลอดซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสมรรถภาพอันแข็งแกร่งของ ทีมตลาดระดับกลางของ H.I.G. และวิธีการลงทุนอันแตกต่าง เรามั่นใจว่าแพลตฟอร์มอันเป็นเอกลักษณ์ของเราจะทำให้เราโดดเด่นในพื้นที่นี้ได้ต่อไป”

Keval Patel, หัวหน้าทีมตลาดระดับกลางของ H.I.G. กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้สร้างกลยุทธ์ในตลาดระดับกลางที่ประสบความสำเร็จของ H.I.G. สำหรับกองทุนนี้ ด้วยขนาดและความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติการที่อุทิศให้กับตลาดระดับกลางนี้ มันได้สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันที่สำคัญให้กับเรามาตลอดและทำให้เราผลักดันผลตอบแทนอันสำคัญให้แก่นักลงทุนต่างๆ ไม่ว่าสภาพแวดล้อมด้านภาพรวมทางเศรษฐกิจจะเป็นแบบใดก็ตาม”

Jordan Peer Griffin กรรมการผู้จัดการระดับสูงและหัวหน้าการลงทุนระดับโลก กล่าวเสริมว่า “การสนับสนุนอันทรงพลังของเหล่าห้างหุ้นส่วนจำกัดของเรานำไปสู่การระดมทุนที่สำเร็จซึ่งมีผู้สมัครเข้าร่วมอันล้นหลามซึ่งมีความหมายมากในสภาพแวดล้อมการระดมทุนที่ยากลำบากเช่นนี้ มันเป็นการพิสูจน์ที่ชัดเจนให้เห็นถึงความมั่นใจอย่างสูงของนักลงทุนต่อ H.I.G. กลยุทธ์การลงทุนของเรา และความสามารถในการเป็นแหล่งที่ดึงดูดการลงทุนและสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่น”

กองทุนนี้ได้รับการสนับสนุนจากฐานนักลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนมาเป็นเวลานานของ H.I.G. และยังยินดีเปิดรับนักลงทุนใหม่จากทั่วโลก ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชีย ตะวันออกกลาง และลาตินอเมริกา ห้างหุ้นส่วนจำกัดของกองทุนเป็นกลุ่มของนักลงทุนสถาบันที่หลากหลายและมีชื่อเสียง ซึ่งประกอบด้วย มูลนิธิ กองทุนการกุศล กองทุนบำนาญของรัฐและเอกชน ที่ปรึกษา กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ และสำนักงานครอบครัว

เกี่ยวกับ H.I.G. Capital

บริษัท H.I.G. Capital เป็นบริษัทการลงทุนทางเลือกชั้นนำระดับโลกซึ่งมีเงินทุน 58 พันล้านดอลลาร์ภายใต้การจัดการ* มีที่ตั้งหลักอยู่ที่ไมอามีและมีสำนักงานต่างๆ อยู่ใน นิวยอร์ก บอสตัน ชิคาโก ดัลลัส ลอสแองเจลลิส ซานฟรานซิสโก และแอตแลนตา ในสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งยังมีสำนักงานในเครืออยู่ในลอนดอน แฮมเบิร์ก แมดริด มิลาน ปารีส โบโกตา รีโอเดจาเนโร และเซาเปาโล H.I.G. เชี่ยวชาญในด้านตลาดตราสารหนี้และตลาดทุนในบริษัทตลาดระดับกลางโดยใช้วิธีการปฏิบัติการที่มุ่งเน้น/เพิ่มมูลค่าและมีความยืดหยุ่น

  1. กองทุนรวมตราสารทุนของ H.I.G. ลงทุนในการซื้อกิจการผู้บริหาร การปรับโครงสร้างการเงิน และการแยกออกจากโครงสร้างธุรกิจเดิมของธุรกิจที่ทั้งมีผลกำไรและธุรกิจบริการและอุตสาหกรรมการผลิตที่ผลดำเนินการต่ำกว่าเกณฑ์
  2. กองทุนรวมตราสารหนี้ของ H.I.G. ลงทุนในแหล่งเงินทุนจากหนี้ไม่ด้อยสิทธิ หนี้ตามหน่วยลงทุน และหนี้ด้อยสิทธิให้กับบริษัทในทุกๆ ขนาด ทั้งในตลาดแรก (โดยตรง) และตลาดรอง H.I.G. ยังจัดการการซื้อขายสาธารณะของ BDC, WhiteHorse Finance อีกด้วย
  3. กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ของ H.I.G. ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีการเพิ่มมูลค่าซึ่งได้ประโยชน์จากการวางแผนการจัดการทรัพย์สินที่มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น
  4. โครงสร้างพื้นฐานของ H.I.G. มุ่งเน้นไปที่การสร้างมูลค่าเพิ่มและการลงทุนอสังหาริมทรัพย์นอกตลาดระดับ core plus ในภาคส่วนด้านโครงสร้างพื้นฐาน

เริ่มตั้งแต่มีการก่อตั้งบริษัทในปี 1993 นั้น H.I.G ได้มีการลงทุนและจัดการมากกว่า 400 บริษัททั่วโลก พอร์ตโฟลิโอของบริษัทในปัจจุบันมีมากกว่า 100 บริษัทซึ่งมียอดขายรวมกันเกินกว่า 52 พันล้านดอลลาร์ ดูข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่เว็บไซต์ของ H.I.G. ที่ www.higcapital.com

*จากทุนระดมทั้งหมดโดย H.I.G. Capital และบริษัทในเครือ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Jordan Peer Griffin
กรรมการผู้บริหารระดับสูง
jpeer@higcapital.com

Keval Patel,
กรรมการผู้จัดการ
หัวหน้า H.I.G. ตลาดระดับกลาง
kpatel@higcapital.com

ที่มา: H.I.G. Capital

กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการของประเทศไทยเลือก Charles River เพื่อจัดการการดำเนินงานสำนักงานส่วนหน้า

Logo

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE )–4 กันยายน 2023

Charles River® Development บริษัทในเครือ State Street ประกาศว่า กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการของประเทศไทย (กบข.) ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุนบำเหน็จบำนาญที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยที่มีจำนวนสมาชิกมากกว่า 1.2 ล้านคน ได้เลือก Charles River Investment Management Solution (Charles River IMS) เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานสำนักงานส่วนหน้าให้ทันสมัย และจัดการตราสารทุน ตราสารหนี้ และพอร์ตการลงทุนหลายสินทรัพย์ในประเทศและต่างประเทศ

กบข.จะใช้ Charles River IMS เพื่อส่งมอบขั้นตอนการทำงานอัตโนมัติพร้อมการประมวลผลโดยตรงทั่วทั้งสำนักงานส่วนหน้าและส่วนกลางสำหรับการสร้างพอร์ตโฟลิโอ การวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน การจัดการคำสั่งซื้อ และการปฏิบัติตามข้อกำหนดก่อนและหลังการซื้อขาย แพลตฟอร์มจะจัดหาข้อมูลเงินสด สถานะ และหลักประกันที่มีอยู่ในแบบเรียลไทม์ และส่งมอบข้อมูลตัวชี้วัดเพื่อช่วยให้การดำเนินงานมีความมีประสิทธิภาพสูงสุด

“เนื่องจากแผนการลงทุนเปลี่ยนไป สินทรัพย์มีความหลากหลายและกลยุทธ์การลงทุนมีความซับซ้อนมากขึ้น จึงมีความต้องการระบบที่สามารถรองรับการตัดสินใจลงทุนที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้นเรื่อยๆ ” ดร. ศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการ กบข. กล่าว “การเลือก Charles River IMS เป็นแพลตฟอร์มแบบครบวงจรในการจัดการกระบวนการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ จะช่วยให้เกิดระบบอัตโนมัติที่ดียิ่งขึ้น ขับเคลื่อนประสิทธิภาพ และสนับสนุนการทำงานร่วมกันระหว่างทีม ช่วยให้ธุรกิจของเราเติบโตและให้บริการสมาชิกของเราได้ดียิ่งขึ้น”

“Charles River มีประวัติอันยาวนานในการทำงานร่วมกับกองทุนบำเหน็จบำนาญและเจ้าของทรัพย์สินอื่นๆ ทั่วภูมิภาค APAC และเราเข้าใจและสนับสนุนความต้องการทางธุรกิจเฉพาะของพวกเขา” Dennis Baillon ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ APAC ของ Charles River Development กล่าว “แพลตฟอร์มของเราช่วยให้บริษัทต่างๆ เช่น กบข.รวมรูปแบบการดำเนินงานของตนเข้ากับความยืดหยุ่นในการรวมเทคโนโลยีและบริการของเราเพื่อรองรับการเติบโต ไม่ว่าจะผ่านทางการกระจายความเสี่ยงไปสู่กลยุทธ์ใหม่ ประเภทสินทรัพย์ หรือภูมิศาสตร์”

State Street ให้บริการนักลงทุนสถาบันในประเทศไทยมานานกว่า 25 ปี โดยก่อตั้งสำนักงานตัวแทนในปี 2014 เมื่อเวลาผ่านไป ข้อเสนอของบริษัทได้เติบโตขึ้นจากการดูแล บริการการจัดการการลงทุน และการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ไปจนถึงการเงินด้านหลักทรัพย์ ประสิทธิภาพ ความเสี่ยง และการวิเคราะห์ ESG ควบคู่ไปกับเทคโนโลยีสำนักงานส่วนหน้าในตลาดภาครัฐและเอกชนผ่านทาง Charles River

“เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่กบข.ไว้วางใจให้ State Street ช่วยจัดการพอร์ตการลงทุนที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ” Kevin Hardy หัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ State Street กล่าว “ในฐานะที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยจึงเป็นตลาดที่มีการเติบโตที่น่าตื่นเต้นสำหรับ State Street โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแพลตฟอร์มการให้บริการสินทรัพย์แบบส่วนหน้าจนถึงส่วนเบื้องหลังที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลของเรา State Street Alpha® เรามุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถและมอบบริการที่เป็นเลิศแก่นักลงทุนสถาบันในประเทศไทย”

เกี่ยวกับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 ในปี 1996 และจัดให้มีการจ่ายเงินบำเหน็จและบำเหน็จบำนาญแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐเมื่อเสร็จสิ้นการรับราชการ กองทุนได้เติบโตขึ้นจนเป็นหนึ่งในกองทุนบำเหน็จบำนาญที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยบริหารจัดการมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดประมาณ 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับสมาชิก 1.2 ล้านคน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ https://www.gpf.or.th/

เกี่ยวกับ Charles River บริษัทในเครือ State Street Company

ผู้จัดการด้านการลงทุน ความมั่งคั่ง และทางเลือก เจ้าของสินทรัพย์ และบริษัทประกันในกว่า 30 ประเทศพึ่งพา Charles River IMS ในการจัดการสินทรัพย์มูลค่าประมาณ 58 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วมกับบริการสำนักงานส่วนกลางและส่วนเบื้องหลังของ State Street เทคโนโลยีสำนักงานส่วนหน้าที่ทำงานบนคลาวด์ของ Charles River ก่อให้เกิดรากฐานของ State Street Alpha® Charles River ช่วยทำให้กระบวนการลงทุนในประเภทสินทรัพย์ต่างๆ เป็นอัตโนมัติและลดความซับซ้อน ตั้งแต่การจัดการพอร์ตการลงทุนและการวิเคราะห์ความเสี่ยงไปจนถึงการซื้อขายและการชำระบัญชีหลังการซื้อขาย โดยมีการปฏิบัติตามกฎระเบียบแบบบูรณาการและข้อมูลที่ได้รับการจัดการตลอดทั้งระบบ ระบบนิเวศของพันธมิตรของ Charles River ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูล การวิเคราะห์ แอปพลิเคชัน และผู้ให้บริการสภาพคล่องที่สนับสนุนการผสมผสานผลิตภัณฑ์และสินทรัพย์ของตน เราให้บริการลูกค้าทั่วโลกด้วยพนักงานมากกว่า 1,250 คนในสำนักงานภูมิภาค 11 แห่ง (สถิติ ณ ไตรมาส 2 ปี 2023)

เกี่ยวกับ State Street Corporation

State Street Corporation (NYSE: STT) คือหนึ่งในผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำของโลกแก่นักลงทุนสถาบัน รวมถึงบริการด้านการลงทุน การจัดการการลงทุน ตลอดจนการวิจัยและการซื้อขายการลงทุน ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การดูแลและ/หรือการบริหารมูลค่า 39.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมูลค่า 3.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ* ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2023 State Street ดำเนินงานทั่วโลกในตลาดทางภูมิศาสตร์มากกว่า 100 แห่ง และมีพนักงานประมาณ 43,000 คนทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่เว็บไซต์ของ State Street ที่ www.statestreet.com

*สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร วันที่ 30 มิถุนายน 2023 ประกอบด้วยสินทรัพย์ประมาณ 63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ SPDR® ซึ่ง State Street Global Advisors Funds Distributors, LLC (SSGA FD) ทำหน้าที่เป็นตัวแทนการตลาดแต่เพียงผู้เดียว SSGA FD และ State Street Global Advisors อยู่ในเครือเดียวกัน

© 2023 State Street Corporation – สงวนลิขสิทธิ์
State Street Corporation, One Lincoln St, Boston MA 02111

การจำแนกประเภทข้อมูล: ทั่วไป

5907051.1.1.APAC.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สื่อ
Kellie Smith
kelliesmith@crd.com
+61 3 8628 0100 ต่อ: 1171

Kate Cheung
kate.cheung@statestreet.com
+852 3556 1103

ที่มา: Charles River Development

Starr แต่งตั้ง Sean Chen เป็น CEO ของ Starr Singapore

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–30 สิงหาคม 2023

Starr Insurance ได้ประกาศในวันนี้ว่า คุณ Sean Chen สมาชิกระยะเวลา 14 ปีในทีมงานระดับโลกของ Starr ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของ Starr International Insurance ( Singapore) Pte. Ltd. (Starr Singapore) มีผลตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม

Sean Chen, CEO of Starr Singapore (Photo: Business Wire)

คุณ Sean Chen ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Starr Singapore (รูปภาพ: Business Wire)

Sean เพิ่งได้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการประจำภูมิภาคของ Starr ประจำเกาหลี ไต้หวัน และญี่ปุ่น ในด้านอสังหาริมทรัพย์ พลังงาน และการก่อสร้าง โดยก่อนหน้านี้เขาเคยดำรงตำแหน่งผู้จัดการพิจารณารับประกันภัยทรัพย์สินอาวุโสในสำนักงานของ Starr ในฮ่องกง ดังนั้นเมื่อรวมการทำงานที่ Starr แล้ว Sean มีประสบการณ์มากกว่า 25 ปีในด้านการรับประกันภัยและลูกค้าสัมพันธ์ทั้งในด้านผู้ให้บริการประกันภัยและนายหน้าของธุรกิจ

“เราโชคดีที่มีผู้บริหารที่มีความสามารถแบบ Sean และเขามีประสบการณ์ด้านการพิจารณารับประกันภัยที่กว้างขวาง เพื่อช่วยให้ธุรกิจของเราเติบโตในเอเชีย” Maurice R. Greenberg ประธานและ CEO ของ Starr Insurance กล่าว “ความก้าวหน้าของ Sean ตอกย้ำความแข็งแกร่งของ Starr ในฐานะสถานที่ที่ผู้คนสามารถเติบโตไปพร้อมกับบริษัทได้”

Sean เข้ามารับตำแหน่งต่อจาก Phil Finley ในตำแหน่ง CEO ของ Starr Singapore เมื่อเร็วๆ นี้ Philได้ย้ายมาประเทศไทยในตำแหน่ง CEO ของบริษัท Starr International Insurance (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เพื่อดูแลการขยายธุรกิจใหม่ที่สำคัญดังกล่าวให้กับStarr ขณะเดียวกันก็ยังคงเป็นผู้นำฝ่ายปฏิบัติการในเอเชียของStarr ในตำแหน่งประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

เกี่ยวกับ Starr Insurance

Starr Insurance (หรือ Starr) เป็นชื่อทางการตลาดของบริษัทประกันภัยปฏิบัติการและให้ความช่วยเหลือด้านการเดินทาง และบริษัทในเครือของ Starr International Company, Inc. และสำหรับธุรกิจการลงทุนของ C. V. Starr & Co., Inc. และบริษัทในเครือ Starr เป็นองค์กรประกันภัยและการลงทุนชั้นนำที่มีการดำเนินงานในหกทวีป Starr ให้บริการผลิตภัณฑ์ประกันภัยทรัพย์สิน ประกันวินาศภัย อุบัติเหตุและสุขภาพ ตลอดจนความคุ้มครองพิเศษต่างๆ มากมาย เช่น การบิน ทางทะเล พลังงาน และประกันวินาศภัยส่วนเกิน ผ่านบริษัทประกันภัยที่ดำเนินงานของบริษัท บริษัทในเครือของบริษัทประกันภัยของ Starr ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในสหรัฐอเมริกา เบอร์มิวดา จีน ฮ่องกง มอลตา สิงคโปร์ สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร ต่างก็มี คะแนน A.M. Best rating อยู่ในเกณฑ์ “A” (ดีเยี่ยม) ส่วน Starr’s Lloyd’s syndicate มีคะแนน Standard & Poor อยู่ในเกณฑ์ “A+” (แข็งแกร่ง)

เยี่ยมชมเราได้ที่ www.starrcompanies.com หรือติดตามเราที่ LinkedIn และ Twitter

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53546262/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Charlie Armstrong
รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด
charlie.armstrong@starrcompanies.com, 646.758.8308

ที่มา: Starr Insurance Companies

U. S. Steel ประกาศกระบวนการทางเลือกเชิงกลยุทธ์

Logo

  • บริษัทมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าของผู้ถือหุ้นสูงสุดหลังจากได้รับข้อเสนอที่ไม่ได้ร้องขอหลายครั้ง
  • ข้อเสนอที่ได้รับจนถึงปัจจุบันเป็นการตรวจสอบความถูกต้องของกลยุทธ์ของ U. S. Steel และประวัติการดำเนินการที่ประสบความสำเร็จ

พิตต์สเบิร์ก–(BUSINESS WIRE)–13 สิงหาคม 2023

United States Steel Corporation (NYSE: X) (“U. S. Steel”) ประกาศในวันนี้ว่าคณะกรรมการบริษัทได้ตัดสินใจที่จะเริ่มกระบวนการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ โดยได้รับความช่วยเหลือจากที่ปรึกษาทางการเงินและกฎหมายจากภายนอก เพื่อประเมินทางเลือกเชิงกลยุทธ์สำหรับบริษัท คณะกรรมการและคณะผู้บริหารมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย U. S. Steel มีความคืบหน้าอย่างมากในการเปลี่ยนบริษัทให้เป็นผู้ผลิตเหล็ก Best for All® ที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลางและแข่งขันได้ทั่วโลก ในขณะที่ยังคงได้รับชัยชนะในตลาดเชิงกลยุทธ์ เลื่อนเส้นต้นทุนลง และเลื่อนเส้นแสดงความสามารถขึ้น

“คณะกรรมการและทีมผู้บริหารของ U. S. Steel มุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้นของเรา และด้วยเหตุนี้ เราได้เริ่มการทบทวนทางเลือกเชิงกลยุทธ์อย่างครอบคลุมและถี่ถ้วน” กล่าวโดย David B. Burritt ประธาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ U. S. Steel และสมาชิกคณะกรรมการบริษัท “การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทได้รับข้อเสนอที่ไม่ได้ร้องขอหลายรายการ ซึ่งมีตั้งแต่การซื้อสินทรัพย์การผลิตบางอย่างไปจนถึงการพิจารณาสำหรับทั้งบริษัท คณะกรรมการกำลังใช้วิธีการวัดผลเพื่อพิจารณาข้อเสนอเหล่านี้ รวมถึงการแสวงหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประเมินข้อเสนอเบื้องต้นและอยู่ภายใต้การตรวจสอบและทบทวนอย่างต่อเนื่อง”

Burritt กล่าวต่อว่า “U. S. Steel อยู่ในเส้นทางเชิงกลยุทธ์เพื่อดำเนินการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ สร้างความสามารถในการผลิตเหล็กและการเก็บผิวละเอียด EAF ที่ดีที่สุดในระดับเดียวกัน ในขณะเดียวกันก็ลดรอยเท้าคาร์บอนของเรา งบดุลของเราแข็งแกร่งกว่าที่เคย และเรากำลังส่งมอบกระแสเงินสดที่ยืดหยุ่นในขณะที่ให้ความสำคัญกับผลตอบแทนโดยตรงแก่ผู้ถือหุ้น ความสนใจที่แสดงให้เห็นโดยข้อเสนอที่ไม่ได้ร้องขอที่ได้รับจนถึงปัจจุบันคือการตรวจสอบความถูกต้องของกลยุทธ์ของ U. S. Steel และประวัติการดำเนินการที่ประสบความสำเร็จ ในขณะที่คณะกรรมการดำเนินการทบทวนข้อเสนอที่ได้รับก่อนหน้านี้และข้อเสนออื่น ๆ ที่คาดว่าจะได้รับ ทีมงานทั้งหมดของเรายังคงมุ่งเน้นไปที่การดำเนินการอย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบในการดำเนินงานทั้งหมดของเรา และพัฒนากลยุทธ์ Best for All® ของเรา ในขณะที่ยังคงส่งมอบให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด”

ไม่มีกำหนดเดดไลน์หรือตารางเวลาที่แน่นอนสำหรับกระบวนการทบทวนทางเลือกเชิงกลยุทธ์ให้เสร็จสิ้น และไม่สามารถรับประกันได้ว่ากระบวนการนี้จะส่งผลให้บริษัทดำเนินธุรกรรมหรือผลลัพธ์เชิงกลยุทธ์อื่นใด U. S. Steel ไม่ตั้งใจที่จะแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทบทวนทางเลือกเชิงกลยุทธ์จนกว่าจะเสร็จสิ้นหรือบริษัทพิจารณาว่าการเปิดเผยข้อมูลเป็นสิ่งจำเป็นตามกฎหมายหรือเห็นว่าเหมาะสม

ที่ปรึกษา

Barclays Capital Inc. และ Goldman Sachs & Co. LLC ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ U. S. Steel และมี Milbank LLP และ Wachtell, Lipton, Rosen & Katz ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย

United States Steel Corporation ก่อตั้งขึ้นในปี 1901 เป็นผู้ผลิตเหล็กชั้นนำ ด้วยการมุ่งเน้นที่ไม่เปลี่ยนแปลงในเรื่องความปลอดภัย กลยุทธ์ Best for All® ที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางของบริษัทกำลังทำให้อนาคตมีความปลอดภัยและยั่งยืนมากขึ้นสำหรับ U. S. Steel และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ด้วยการเน้นที่นวัตกรรมใหม่ U. S. Steel ให้บริการอุตสาหกรรมยานยนต์ การก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า พลังงาน ตู้คอนเทนเนอร์และบรรจุภัณฑ์ด้วยผลิตภัณฑ์เหล็กที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เช่น เหล็กกล้ากำลังสูงขั้นสูง XG3® ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ U. S. Steel บริษัทยังคงรักษาการผลิตแร่เหล็กที่ได้เปรียบในการแข่งขัน และมีความสามารถในการผลิตเหล็กดิบต่อปีที่ 22.4 ล้านตันสุทธิ U. S. Steel มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย โดยมีการดำเนินงานระดับโลกทั่วสหรัฐอเมริกาและในยุโรปกลาง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม www.ussteel.com

หมายเหตุข้อควรระวังเกี่ยวกับข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยข้อมูลที่อาจเป็น “ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า” ตามความหมายของมาตรา 27A ของกฎหมายหลักทรัพย์ปี 1933 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม และมาตรา 21E ของกฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ปี 1934 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม เราตั้งใจให้ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตได้รับการคุ้มครองโดยบทบัญญัติคุ้มครองความปลอดภัยสำหรับข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าในส่วนเหล่านั้น โดยทั่วไป เราได้ระบุข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าวโดยใช้คำว่า “เชื่อ” “คาดหวัง” “ตั้งใจ” “ประมาณการ” “คาดการณ์” “โครงการ” “เป้าหมาย” “คาดการณ์” “จุดมุ่งหมาย” “ควร” “วางแผน” “เป้าหมาย” “อนาคต” “จะ” “อาจ” และการแสดงออกที่คล้ายกันหรือโดยใช้วันที่ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การไม่มีคำเหล่านี้หรือการแสดงออกที่คล้ายคลึงกันไม่ได้หมายความว่าแถลงการณ์ไม่ได้เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตไม่ใช่ข้อเท็จจริงในอดีต แต่แทนที่จะเป็นเพียงความเชื่อของบริษัทเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคต ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว หลาย ๆ อย่างมีความไม่แน่นอนโดยเนื้อแท้และอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท เป็นไปได้ว่าผลลัพธ์ที่แท้จริง สถานะทางการเงิน และการพัฒนาของบริษัทอาจแตกต่างไปจากผลลัพธ์ การพัฒนา และสถานะทางการเงินที่คาดการณ์ไว้ซึ่งระบุไว้ในข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้ ฝ่ายบริหารเชื่อว่าแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้มีความสมเหตุสมผล ณ เวลาที่จัดทำขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรใช้ความระมัดระวังที่จะไม่เชื่อถือข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ มากเกินไป เนื่องจากข้อความดังกล่าวกล่าวถึง ณ วันที่ที่สร้างขึ้นเท่านั้น บริษัทของเราไม่มีข้อผูกมัดในการปรับปรุงหรือแก้ไขข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตใด ๆ ต่อสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นผลจากข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคตหรืออื่น ๆ ยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้ายังมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างอย่างมากจากประสบการณ์ในอดีตของบริษัทและความคาดหวังหรือการคาดการณ์ในปัจจุบันของเรา ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการบรรลุวัตถุประสงค์ของกระบวนการทบทวนทางเลือกเชิงกลยุทธ์หรือไม่ ข้อกำหนด โครงสร้าง ผลประโยชน์และต้นทุนของธุรกรรมเชิงกลยุทธ์ใด ๆ ระยะเวลาของธุรกรรมใด ๆ และธุรกรรมใด ๆ จะเสร็จสมบูรณ์หรือไม่ ความเสี่ยงที่การทบทวนทางเลือกเชิงกลยุทธ์และการประกาศอาจส่งผลในทางลบต่อความสามารถของบริษัทในการรักษาลูกค้า รักษาและจ้างบุคลากรหลัก และรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า ซัพพลายเออร์ พนักงาน ผู้ถือหุ้น และความสัมพันธ์ทางธุรกิจอื่น ๆ และต่อผลการดำเนินงาน และธุรกิจโดยทั่วไป ความเสี่ยงที่การตรวจสอบทางเลือกเชิงกลยุทธ์อาจหันเหความสนใจและเวลาของการจัดการของบริษัท ความเสี่ยงของต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดอันเป็นผลจากการทบทวน ความเสี่ยงจากการถูกฟ้องร้องที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ และความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่อธิบายไว้ใน “ข้อ 1A ปัจจัยความเสี่ยง” ในรายงานประจำปี Form 10-K สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2022 และที่อธิบายเป็นครั้งคราวในรายงานในอนาคตของเราที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Tara Carraro
รองประธานอาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่สื่อสาร
T- 412-433-1300
E- media@uss.com

Kelly Sullivan / Ed Trissel
Joele Frank, Wilkinson Brimmer Katcher
T- 212-355-4449

Kevin Lewis
รองประธาน
การเงิน
T- 412-433-6935
E- klewis@uss.com

แหล่งที่มา: United States Steel Corporation

U. S. Steel ยืนยันการรับข้อเสนอที่ไม่ได้ร้องขอจาก Cleveland-Cliffs และฝ่ายอื่น ๆ อีกหลายแห่ง โดยยืนยันกระบวนการทบทวนกลยุทธ์การแข่งขันเพื่อเพิ่มมูลค่าหุ้นสูงสุด

Logo

  • Cleveland-Cliffs ปฏิเสธที่จะอนุญาตให้มีกระบวนการมาตรฐานในการประเมินข้อเสนอของพวกเขา
  • บริษัทยืนยันคำเชิญให้ Cleveland-Cliffs เข้าร่วมการทบทวนเชิงกลยุทธ์อีกครั้ง

พิตต์สเบิร์ก–(BUSINESS WIRE)–14 สิงหาคม 2023

United States Steel Corporation (NYSE: X) (“U. S. Steel” หรือ “บริษัท”) ยืนยันในวันนี้ว่า บริษัทได้เชิญ Cleveland-Cliffs Inc. (“Cleveland-Cliffs”) เข้าร่วมในกระบวนการทบทวนเชิงกลยุทธ์ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ บริษัทเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าได้เริ่มกระบวนการตรวจสอบอย่างเป็นทางการด้วยความช่วยเหลือจากที่ปรึกษาทางการเงินและกฎหมายจากภายนอก เพื่อประเมินทางเลือกเชิงกลยุทธ์สำหรับบริษัท หลังจากได้รับข้อเสนอที่ไม่ได้ร้องขอหลายรายการ ซึ่งมีตั้งแต่การได้มาซึ่งสินทรัพย์การผลิตบางอย่างไปจนถึงการพิจารณาสำหรับทั้งบริษัท

บริษัทได้รับข้อเสนอเงินสดและหุ้นที่ไม่ได้ร้องขอจาก Cleveland-Cliffs เพื่อซื้อหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ U. S. Steel ตามรายละเอียดในจดหมายด้านล่าง U. S. Steel ไม่สามารถประเมินข้อเสนอได้อย่างถูกต้องเนื่องจาก Cleveland-Cliffs ปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมในกระบวนการที่จำเป็นและเป็นธรรมเนียมในการประเมินมูลค่าและความแน่นอน เว้นแต่ U. S. Steel จะตกลงตามเงื่อนไขทางเศรษฐกิจของข้อเสนอล่วงหน้า

ข้อความเต็มของจดหมายของ U. S. Steel ถึง Cleveland-Cliffs ที่ส่งเมื่อเวลา 12:01 น. ET ของวันที่ 13 สิงหาคม 2023 มีดังต่อไปนี้:

13 สิงหาคม 2023

เรียน Lourenco

ผมเขียนในนามของ United States Steel Corporation (“บริษัท”) เพื่อตอบกลับจดหมายข้อเสนอของ Cleveland-Cliffs Inc. ลงวันที่ 28 กรกฎาคม 2023 และอัปเดตเพิ่มเติมในวันที่ 11 สิงหาคม 2023 นับตั้งแต่ได้รับข้อเสนอเบื้องต้นจากคุณ คณะกรรมการของบริษัทได้ประชุมกันหลายครั้ง โดยได้รับความช่วยเหลือจากที่ปรึกษาทางการเงิน Barclays และ Goldman Sachs และที่ปรึกษากฎหมายของเรา Milbank และ Wachtell เพื่อประเมินข้อดีและความเสี่ยงของข้อเสนอของคุณ

ตามคำแนะนำของผมและคณะกรรมการ ที่ปรึกษาของเราระบุว่าเราเต็มใจที่จะเข้าร่วม NDA กับคุณในวันที่ 7 สิงหาคม 2023 เพื่อให้เรามีความชัดเจนเพิ่มเติมในประเด็นสำคัญหลายประการ รวมถึงการประเมินมูลค่าหุ้นในข้อเสนอของคุณ ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ และ ระยะเวลาตลอดจนโอกาสสำหรับบริษัทที่ควบรวมกัน เราได้หารือกับที่ปรึกษาของคุณด้วยคำถามที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้เราทั้งคู่สามารถประเมินความเสี่ยงในการต่อต้านการผูกขาดของข้อเสนอของคุณได้อย่างเหมาะสม และในขณะที่ที่ปรึกษาของคุณตกลงว่าสิ่งนี้จะต้องได้รับการวิเคราะห์ และเห็นด้วยกับข้อเสนอของเราที่จะทำงานร่วมกัน สิ่งนี้ก็ยังไม่เกิดขึ้น หลังจากการสนทนาหลายครั้งและทีมของเราได้เข้าร่วมในการเจรจาโดยสุจริตเกี่ยวกับข้อกำหนดของ NDA เราตกใจมากที่ได้รับจดหมายในวันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม ซึ่งระบุว่าคุณปฏิเสธที่จะลงนามใน NDA ที่ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ เว้นแต่เราจะยอมรับเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ ข้อเสนอของคุณล่วงหน้า

อย่างที่คุณทราบดีว่า คณะกรรมการของเรา หรือคณะกรรมการใด ๆ ไม่มีความสอดคล้องกับหน้าที่ที่ได้รับความไว้วางใจ เห็นด้วยกับข้อเสนอที่หุ้นของคุณเป็นตัวแทน 50% โดยไม่ดำเนินการตามกระบวนการตรวจสอบสถานะตามธรรมเนียมปฏิบัติอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อประเมินความเสี่ยงและแนวโน้มขาขึ้นและขาลงที่อาจเกิดขึ้นในการทำธุรกรรม รวมถึงส่วนประกอบของหุ้น การทำอย่างอื่นจะเท่ากับการยอมรับราคาโดยไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วหมายถึงอะไร และคณะกรรมการของเราไม่สามารถตกลงกับ “ราคาพาดหัว” ของคุณได้ หากไม่มีการพูดคุยที่เหมาะสมภายใต้ NDA เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของ U. S. Steel ต่อมูลค่าของธุรกิจที่รวมกัน การผลักดันให้คณะกรรมการของเราทำเช่นนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความต้องการที่จะละเมิดหน้าที่ที่ได้รับความไว้วางใจ

บริษัทที่นำโดยคณะกรรมการและทีมผู้บริหารมีความคืบหน้าอย่างมากในการเปลี่ยน บริษัท ให้กลายเป็นผู้ผลิตเหล็ก Best for All® ที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลางและแข่งขันได้ทั่วโลก ในขณะที่เรายังคงได้รับชัยชนะในตลาดเชิงกลยุทธ์ เลื่อนเส้นต้นทุนลง และเลื่อนเส้นแสดงความสามารถขึ้น กลยุทธ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วนี้ช่วยให้ลูกค้าได้รับโซลูชันเหล็กที่ให้ผลกำไรสำหรับผู้คนและโลกใบนี้ ในขณะที่ให้รางวัลแก่ผู้ถือหุ้นของเรา ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ เราไม่สามารถระบุได้ว่าข้อเสนอที่ไม่ได้ร้องขอของคุณสะท้อนมูลค่าของบริษัททั้งหมดและยุติธรรมได้อย่างถูกต้องหรือไม่

ด้วยเหตุผลทั้งหมดข้างต้น คณะกรรมการไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปฏิเสธข้อเสนอที่ไม่สมเหตุสมผลของคุณ

U. S. Steel Board ยังคงมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้น และด้วยเหตุนี้จึงได้ตัดสินใจที่จะเริ่มกระบวนการตรวจสอบอย่างเป็นทางการเพื่อประเมินทางเลือกเชิงกลยุทธ์ หากคุณต้องการมีส่วนร่วมในกระบวนการดังกล่าว เราขอเชิญคุณติดต่อตัวแทนทางการเงินและกฎหมายของเรา และยินดีต้อนรับคุณเข้าร่วมกระบวนการของเรา

ขอแสดงความนับถือ

David Burritt

กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

ที่ปรึกษา

Barclays Capital Inc. และ Goldman Sachs & Co. LLC ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ U. S. Steel และมี Milbank LLP และ Wachtell, Lipton, Rosen & Katz ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย

United States Steel Corporation ก่อตั้งขึ้นในปี 1901 เป็นผู้ผลิตเหล็กชั้นนำ ด้วยการมุ่งเน้นที่ไม่เปลี่ยนแปลงในเรื่องความปลอดภัย กลยุทธ์ Best for All® ที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางของบริษัทกำลังทำให้อนาคตมีความปลอดภัยและยั่งยืนมากขึ้นสำหรับ U. S. Steel และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ด้วยการเน้นที่นวัตกรรมใหม่ U. S. Steel ให้บริการอุตสาหกรรมยานยนต์ การก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า พลังงาน ตู้คอนเทนเนอร์และบรรจุภัณฑ์ด้วยผลิตภัณฑ์เหล็กที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เช่น เหล็กกล้ากำลังสูงขั้นสูง XG3® ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ U. S. Steel บริษัทยังคงรักษาการผลิตแร่เหล็กที่ได้เปรียบในการแข่งขัน และมีความสามารถในการผลิตเหล็กดิบต่อปีที่ 22.4 ล้านตันสุทธิ U. S. Steel มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย โดยมีการดำเนินงานระดับโลกทั่วสหรัฐอเมริกาและในยุโรปกลาง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม www.ussteel.com

หมายเหตุข้อควรระวังเกี่ยวกับข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยข้อมูลที่อาจเป็น “ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า” ตามความหมายของมาตรา 27A ของกฎหมายหลักทรัพย์ปี 1933 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม และมาตรา 21E ของกฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ปี 1934 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม เราตั้งใจให้ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตได้รับการคุ้มครองโดยบทบัญญัติคุ้มครองความปลอดภัยสำหรับข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าในส่วนเหล่านั้น โดยทั่วไป เราได้ระบุข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าวโดยใช้คำว่า “เชื่อ” “คาดหวัง” “ตั้งใจ” “ประมาณการ” “คาดการณ์” “โครงการ” “เป้าหมาย” “คาดการณ์” “จุดมุ่งหมาย” “ควร” “วางแผน” “เป้าหมาย” “อนาคต” “จะ” “อาจ” และการแสดงออกที่คล้ายกันหรือโดยใช้วันที่ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การไม่มีคำเหล่านี้หรือการแสดงออกที่คล้ายคลึงกันไม่ได้หมายความว่าแถลงการณ์ไม่ได้เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตไม่ใช่ข้อเท็จจริงในอดีต แต่แทนที่จะเป็นเพียงความเชื่อของบริษัทเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคต ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว หลาย ๆ อย่างมีความไม่แน่นอนโดยเนื้อแท้และอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท เป็นไปได้ว่าผลลัพธ์ที่แท้จริง สถานะทางการเงิน และการพัฒนาของบริษัทอาจแตกต่างไปจากผลลัพธ์ การพัฒนา และสถานะทางการเงินที่คาดการณ์ไว้ซึ่งระบุไว้ในข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้ ฝ่ายบริหารเชื่อว่าแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้มีความสมเหตุสมผล ณ เวลาที่จัดทำขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรใช้ความระมัดระวังที่จะไม่เชื่อถือข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ มากเกินไป เนื่องจากข้อความดังกล่าวกล่าวถึง ณ วันที่ที่สร้างขึ้นเท่านั้น บริษัทของเราไม่มีข้อผูกมัดในการปรับปรุงหรือแก้ไขข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตใด ๆ ต่อสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นผลจากข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคตหรืออื่น ๆ ยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้ายังมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างอย่างมากจากประสบการณ์ในอดีตของบริษัทและความคาดหวังหรือการคาดการณ์ในปัจจุบันของเรา ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการบรรลุวัตถุประสงค์ของกระบวนการทบทวนทางเลือกเชิงกลยุทธ์หรือไม่ ข้อกำหนด โครงสร้าง ผลประโยชน์และต้นทุนของธุรกรรมเชิงกลยุทธ์ใด ๆ ระยะเวลาของธุรกรรมใด ๆ และธุรกรรมใด ๆ จะเสร็จสมบูรณ์หรือไม่ ความเสี่ยงที่การทบทวนทางเลือกเชิงกลยุทธ์และการประกาศอาจส่งผลในทางลบต่อความสามารถของบริษัทในการรักษาลูกค้า รักษาและจ้างบุคลากรหลัก และรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า ซัพพลายเออร์ พนักงาน ผู้ถือหุ้น และความสัมพันธ์ทางธุรกิจอื่น ๆ และต่อผลการดำเนินงาน และธุรกิจโดยทั่วไป ความเสี่ยงที่การตรวจสอบทางเลือกเชิงกลยุทธ์อาจหันเหความสนใจและเวลาของการจัดการของบริษัท ความเสี่ยงของต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดอันเป็นผลจากการทบทวน ความเสี่ยงจากการถูกฟ้องร้องที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ และความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่อธิบายไว้ใน “ข้อ 1A ปัจจัยความเสี่ยง” ในรายงานประจำปี Form 10-K สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2022 และที่อธิบายเป็นครั้งคราวในรายงานในอนาคตของเราที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Tara Carraro
รองประธานอาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่สื่อสาร
T- 412-433-1300
E- media@uss.com

Kelly Sullivan / Ed Trissel
Joele Frank, Wilkinson Brimmer Katcher
T- 212-355-4449

Kevin Lewis
รองประธาน
การเงิน
T- 412-433-6935
E- klewis@uss.com

แหล่งที่มา: United States Steel Corporation

TTI รายงานผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2023 อันแข็งแกร่ง

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–9 สิงหาคม 2023

Techtronic Industries Co. Ltd. (“TTI” หรือ “กลุ่มบริษัท”) ผู้ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านเครื่องมือระดับมืออาชีพไร้สาย เครื่องมือ DIY และอุปกรณ์ไฟฟ้ากลางแจ้ง (รหัสหุ้น: 669, OTCQX: TTNDY, TTNDF) มีความยินดีที่จะประกาศผลประกอบการรอบหกเดือนซึ่งสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2023

กลุ่มบริษัทมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 ซึ่งถือว่าแซงหน้าตลาดในด้านยอดขายและการสร้างผลกำไร ขณะเดียวกันก็ลดสินค้าคงคลังและมีกระแสเงินสดอิสระที่โดดเด่น ยอดขายโดยรวมลดลง 2.2% ในสกุลเงินที่รายงาน และ 1.0% ในสกุลเงินท้องถิ่น คิดเป็น 6.9 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ธุรกิจที่ทำรายได้หลักของ TTI อย่าง MILWAUKEE ได้เติบโตขึ้น 8.7% ในสกุลเงินท้องถิ่น ในขณะที่ธุรกิจอุปโภคบริโภคลดลงเป็นตัวเลขสองหลัก โดยส่วนหนึ่งได้แรงหนุนจากการริเริ่มลดสินค้าคงคลังภายในเครือข่ายและลูกค้านั่นเอง

  • TTI ทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 แซงหน้าตลาดในด้านยอดขายและการสร้างผลกำไร ขณะเดียวกันก็ลดปริมาณสินค้าคงคลังและมีกระแสเงินสดอิสระที่โดดเด่น
  • ธุรกิจที่ทำรายได้หลักของเราอย่าง MILWAUKEE ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องมือไฟฟ้าระดับมืออาชีพอันดับ 1 ของโลก ทำผลงานได้ดียิ่งขึ้นในตลาดด้วยการเติบโตถึง 8.7% ในสกุลเงินท้องถิ่น
  • การลดสินค้าคงคลังจากครึ่งแรกของปี 2022 ลง 651 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
  • มีกระแสเงินสดอิสระครึ่งปีแรกที่ 301 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 649 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐจากครึ่งแรกของปี 2022
  • อัตราส่วนกำไรขั้นต้นขยายตัวติดต่อกันเป็นปีที่ 15 ในครึ่งปีแรก เป็น 39.3% ซึ่งเพิ่มขึ้น 22 bps

สรุปผลการดำเนินงานทางการเงินสำหรับครึ่งแรกปี 2023

2023

2022

ล้านเหรียญ

ล้านเหรียญ

ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนต่าง

รายได้

6,879

7,034

(2.2%)

อัตราส่วนกำไรขั้นต้น

39.3%

39.1%

+22 bps

EBIT

560

633

(11.5%)

กำไรส่วนที่เป็นของเจ้าของบริษัท

476

578

(17.7%)

EPS (เซนต์สหรัฐ)

26.00

31.59

(17.7%)

กระแสเงินสดอิสระ

301

(348)

+$649 m

เงินปันผลระหว่างกาลต่อหุ้น (ประมาณหน่วยเป็นเซนต์สหรัฐ)

12.23

12.23

โดยภาพรวมทั่วโลก TTI มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนดีกว่าตลาดหุ้นโดยรวมในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 อเมริกาเหนือมียอดขายลดลง 3.9% ในสกุลเงินท้องถิ่น ยุโรปซึ่งนำโดยทีมผู้บริหารระดับโลกของเราเติบโตขึ้น 10.1% ในสกุลเงินท้องถิ่น ส่วนอื่น ๆ ของโลก ซึ่งมีออสเตรเลียและเอเชีย มีการเติบโต 5.7% ในสกุลเงินท้องถิ่น

อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น 22 bps จากครึ่งแรกของปี 2022 เนื่องจากการผสมผสานที่มากขึ้นต่อธุรกิจ MILWAUKEE ที่มีอัตรากำไรสูงขึ้น และความคิดริเริ่มด้านการเพิ่มผลผลิตของกลุ่ม ซึ่งเสริมด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่าอย่างต่อเนื่องของธุรกิจแบตเตอรี่หลังการขายที่มีอัตรากำไรสูง

Mr. Horst Pudwill ประธานกรรมการของ TTI กล่าวว่า “เรายังคงมุ่งมั่นในกลยุทธ์การลงทุนในเทคโนโลยีที่ดีขึ้นและผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ก้าวล้ำเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของเรา ผมเชื่อว่าเราอยู่ในสถานะที่ดีที่จะทำผลงานได้ดีกว่าตลาดในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 และหลังจากนั้นต่อไป”

Mr. Joseph Galli, CEO ของ TTI แสดงความคิดเห็นว่า “ที่ TTI เราพยายามพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เราทำผลงานได้ดีกว่าคู่แข่งในด้านการขาย ผลักดันการลดสินค้าคงคลังลงอย่างมาก และสร้างกระแสเงินสดอิสระที่เป็นบวก ในขณะที่ยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่ออนาคต”

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-Looking Statements)

การประกาศนี้มีแถลงการณ์ในเชิงคาดการณ์ล่วงหน้าบางคำหรือใช้คำศัพท์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าบางคำซึ่งอิงตามการคาดการณ์ในปัจจุบัน การประมาณการ การคาดการณ์ ความเชื่อและสมมติฐานของ TTI เกี่ยวกับธุรกิจและตลาดที่กลุ่มบริษัทดำเนินงาน และสะท้อนถึงมุมมองของ TTI ณ วันที่ ซึ่งได้แถลงประกาศนี้ ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้มิได้เป็นการรับประกันผลการดำเนินงานในอนาคต และอยู่ภายใต้ความเสี่ยงของตลาด ความไม่แน่นอน และปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของ TTI ดังนั้นผลลัพธ์และผลตอบแทนที่แท้จริงอาจแตกต่างอย่างมากจากสมมติฐานและข้อความในประกาศนี้

เกี่ยวกับ TTI

TTI เป็นผู้นำระดับโลกในด้านเทคโนโลยีไร้สาย ซึ่งครอบคลุมถึงเครื่องมือไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับใช้กลางแจ้ง ผลิตภัณฑ์ดูแลพื้นและทำความสะอาดสำหรับ DIY ผู้บริโภค มืออาชีพ และผู้ใช้งานอุตสาหกรรมภายในบ้าน การก่อสร้าง การบำรุงรักษา อุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัทมีรากฐานที่สร้างขึ้นจากปัจจัยขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์ 4 ประการ ได้แก่ แบรนด์ที่ทรงพลัง ผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรม บุคลากรที่ยอดเยี่ยม และความเป็นเลิศในการดำเนินงาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ระยะยาวที่กว้างขวางในการพัฒนาเทคโนโลยีไร้สาย กลยุทธ์การเติบโตระดับโลกของการแสวงหานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อย่างไม่ลดละทำให้ TTI ก้าวขึ้นสู่แถวหน้าของอุตสาหกรรมในขณะที่ยังคงรักษามาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลเอาไว้ในระดับสูง กลุ่มผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพของ TTI ได้แก่ เครื่องมือไฟฟ้า MILWAUKEE, RYOBI และ AEG, อุปกรณ์เสริมและเครื่องมือช่าง, ผลิตภัณฑ์สำหรับใช้กลางแจ้ง RYOBI, ผลิตภัณฑ์โครงสร้างและการวัด EMPIRE รวมถึงผลิตภัณฑ์และโซลูชันทำความสะอาดพื้น HOOVER, VAX, DIRT DEVIL และ ORECK

ก่อตั้งในปี 1985 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (The Stock Exchange of Hong Kong Limited) ในปี 1990 TTI เป็นหนึ่งในหุ้นที่เป็นองค์ประกอบของ Hang Seng Index, Hang Seng Corporate Sustainability Benchmark Index, FTSE RAFI™ All-World 3000 Index, FTSE4Good Developed Index และ MSCI ACWI Index บริษัทยังซื้อขายในตลาดที่ดีที่สุดของ OTCQX ภายใต้สัญลักษณ์ “TTNDY” และ “TTNDF” สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่ www.ttigroup.com

เครื่องหมายการค้าทั้งหมดที่ระบุไว้นอกเหนือจาก AEG, OTCQX และ RYOBI เป็นของกลุ่มบริษัท AEG เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ AB Electrolux (publ.) และใช้ภายใต้ใบอนุญาต OTCQX เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ OTC Markets Group Inc. RYOBI เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Ryobi Limited และใช้ภายใต้ใบอนุญาต

ดูเวอร์ชันแหล่งที่มาบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20230809902775/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนักลงทุนสัมพันธ์:

ผู้ติดต่อหลัก
นักลงทุนสัมพันธ์ TTI – อเมริกาเหนือ

Ross Gilardi
รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์
อีเมล: ross.gilardi@ttihq.com

Asia/Pacific
นักลงทุนสัมพันธ์ TTI – เอเชีย
Jimmy Li
ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์
อีเมล: jimmy.li@tti.com.hk

แหล่งที่มา: Techtronic Industries Co. Ltd.

Salmon ระดมทุนได้ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สร้างสถิติใหม่ให้กับบริษัทเทคโนโลยี Series A ในฟิลิปปินส์

Logo

มะนิลา ฟิลิปปินส์–(BUSINESS WIRE)–20 กรกฎาคม 2023

Consumer fintech Salmon ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้รับเงินกู้จำนวน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐจาก Argentem Creek Partners ซึ่งเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งช่วยให้ Salmon ขยายขอบเขตการดำเนินงานด้านการให้กู้ยืมสินเชื่อได้ทั่วทั้งฟิลิปปินส์ ด้วยความสนใจของนักลงทุนที่มีนัยสำคัญในการให้เงินกู้แก่บริษัท Salmon จะขยายบัญชีสินเชื่อ โดยใช้ประโยชน์จากจุดขายและสินเชื่อเงินสดที่มีอยู่ และจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2023

การกู้เงินนี้สำเร็จลุล่วงแม้จะมีสภาพแวดล้อมของตลาดที่ผันผวน และได้สร้างมาตรฐานใหม่ในฐานะการจัดหาเงินกู้รายใหญ่ที่สุดสำหรับบริษัทเทคโนโลยี Series A ในฟิลิปปินส์ ข้อตกลงดังกล่าวทำให้ Salmon ซึ่งก่อตั้งเมื่อไม่ถึงหนึ่งปีที่แล้วในเดือนกรกฎาคมปี 2022 เป็นหนึ่งในฟินเทคที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Salmon ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มผู้คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมฟินเทคและบริการทางการเงิน นำโดย Pavel Fedorov, George Chesakov และ Raffy Montemayor ซึ่งนำทีมที่มีประวัติการเติบโตและสร้างผลกำไรอย่างรวดเร็วมารวมตัวกัน ในปีแรก ฟินเทคนี้ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเปิดตัวผลิตภัณฑ์สินเชื่อตัวแรกเพียงสี่เดือนหลังจากเริ่มก่อตั้ง และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกสามเดือนตั้งแต่นั้นมา

Raffy Montemayor ผู้ร่วมก่อตั้งของ Salmon กล่าวว่า “เรารู้สึกอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างมากจากความสนใจของนักลงทุนที่แข็งแกร่ง รวมถึงการสนับสนุนของ Argentem Creek สำหรับวิสัยทัศน์ของ Salmon ในการสร้างฟินเทคที่ให้บริการสินเชื่อที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราต้องการเน้นย้ำถึงการมุ่งเน้นของ Argentem Creek ในการสร้างความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายกับ Salmon และเชื่อว่าจะมีทางเลือกมากมายในการขยายการทำงานร่วมกัน เนื่องจาก Salmon ยังคงพัฒนาอย่างรวดเร็วในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรามองว่าเหตุการณ์สำคัญนี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงศักยภาพของ Salmon รวมถึงความไว้วางใจของตลาดในวิสัยทัศน์และรูปแบบธุรกิจของเรา การทำธุรกรรมครั้งนี้ยังส่งสารแห่งความหวังไปยังชาวฟิลิปปินส์รุ่นใหม่จำนวนมาก โดยเน้นให้พวกเขาเห็นถึงโอกาสอันเหลือเชื่อที่ชุมชนการลงทุนทั่วโลกมองเห็นในฟิลิปปินส์ในปัจจุบัน ความครอบคลุมทางการเงินจะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในฟิลิปปินส์ และ Salmon มุ่งมั่นที่จะมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงนี้ต่อไป”

Maarten Terlouw ประธาน Argentem Creek Partners และ CIO ร่วมแสดงความเห็นว่า “Argentem Creek Partners มีความยินดีที่ได้ส่งมอบองค์ประกอบที่สำคัญของโครงสร้างเงินทุนของ Salmon เราเป็นนักลงทุนระยะยาวที่มุ่งเน้นคุณค่าและรู้สึกตื่นเต้นที่ได้สนับสนุน Salmon ในการขับเคลื่อนอันทะเยอทะยานเพื่อขยายบริการทางการเงินที่ทั่วถึงทั่วภูมิภาค ตลอดจนมอบการบริการลูกค้าที่ดีที่สุดในระดับเดียวกัน และทำให้ผู้บริโภคในภูมิภาคสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น”

“เราตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับนักลงทุนระดับโลกของ Salmon รวมถึง ADQ กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของอาบูดาบี หนึ่งในนักลงทุนร่วมทุนชั้นนำของยุโรป และกลุ่มนักลงทุนท้องถิ่นที่โดดเด่น ตลอดจนทีมผู้บริหารระดับแนวหน้าของ Salmon เพื่อสนับสนุนบริการที่มีมูลค่าระยะยาวในฟิลิปปินส์”

Daniel Chapman ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Argentem Creek Partners แสดงความคิดเห็นว่า “สินเชื่อผู้บริโภคเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราเชื่อมั่นว่าฟินเทคยุคใหม่ที่เน้นสินเชื่ออย่าง Salmon มีโอกาสมหาศาล และ Argentem Creek สามารถมีบทบาทสำคัญในการผลักดันการเข้าถึงทางการเงินในตลาดที่น่าตื่นเต้นเหล่านี้”

เกี่ยวกับ Salmon

Fintech Holdings Ltd (“Salmon”) ก่อตั้งขึ้นในเดือนกรกฎาคมปี 2022 โดย Pavel Fedorov, George Chesakov และ Raffy Montemayor ผู้คร่ำหวอดในวงการธนาคารและฟินเทค ปัจจุบัน Salmon มีผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 140 คนในสำนักงานใหญ่ที่กรุงมะนิลา แพลตฟอร์มช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากพันธมิตรต่อไปนี้ที่จดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ในฟิลิปปินส์:

Sunprime Finance Inc. – หมายเลขทะเบียน SEC CS201916698 พร้อมใบรับรองผู้มีอำนาจหมายเลข 1241 (แพลตฟอร์มสินเชื่อออนไลน์)

FHL Financing Company, Inc. – หมายเลขทะเบียน SEC 2022100071291-07 พร้อมใบรับรองผู้มีอำนาจหมายเลข F-22-0038-29 (แอปบริการเท่านั้น)

โปรดอ่านข้อกำหนดและเงื่อนไขก่อนรับสินเชื่อจากพันธมิตรทางการเงินของ Salmon

เกี่ยวกับ Argentem Creek Partners

Argentem Creek Partners ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 เป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ที่มีทรัพยากรในอาบูดาบี บัวโนสไอเรส ลอนดอน มินนิอาโปลิส และนิวยอร์ก บริษัทพยายามที่จะสนับสนุนอัลฟ่าตลาดเกิดใหม่ที่ไม่มีความสัมพันธ์กันโดยการลงทุนในสถานการณ์พิเศษ สินเชื่อส่วนบุคคล ผลตอบแทนสูง การเงินการค้า และโซลูชันด้านเงินทุนตามความต้องการ บริษัทมีความเชี่ยวชาญในการระบุสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์และมีคุณภาพสูง (ในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น พลังงาน การเปลี่ยนถ่ายพลังงาน แร่ธาตุที่สำคัญ เกษตรกรรม โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยี) ซึ่งอาจให้ส่วนเพิ่มมูลค่าที่มีนัยสำคัญ กลยุทธ์การลงทุนดำเนินการผ่านการปรับโครงสร้างของงบดุล โครงสร้างเงินทุน การกำกับดูแล การระบุความคลาดเคลื่อนของตลาด และการแก้ปัญหาการเติบโตของเงินทุน www.argentemcreek.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ฝ่ายสื่อ:
Salmon: pr@fhl.world และ salmon@snowhilladvisors.com
Argentem Creek Partners: media@argentemcreek.com และ loredana@jensenmatthews.com

แหล่งที่มา: Salmon

ธนาคาร SBI มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างศักยภาพ XDC ขยายร่องรอยของ XDC Network ในประเทศญี่ปุ่น

Logo

อาบูดาบี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ – ((BUSINESS WIRE)–31 พฤษภาคม 2023

XDC Network (มีตัวแทนคือบริษัท TradeFinex Tech Ltd.) ยินดีที่จะประกาศความร่วมมือกับ SBI VC Trade Co. Ltd., ศูนย์แลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลชื่อเสียงของญี่ปุ่นในกลุ่ม SBI การทำงานร่วมกันเชิงกลยุทธ์นี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับ XDC Network เนื่องจากเป็นการขยายระบบนิเวศในตลาดญี่ปุ่น

XDC Network นำเสนอเครือข่ายบล็อคเชนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งออกแบบมาเฉพาะสำหรับการใช้งานในองค์กร เช่น การเงินการค้า การชำระเงิน และการโทเค็นสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริง ด้วยการมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพในตลาดการเงินการค้า 2,000 ล้านล้านเยนต่อปีโดยประมาณ XDC Network ให้การทำธุรกรรมความเร็วสูงและค่าธรรมเนียมก๊าซที่ต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญเป็นพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ

“เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับ SBI VC Trade และนำระบบนิเวศ XDC ไปสู่ตลาดญี่ปุ่น” Atul Khekade ผู้ร่วมก่อตั้ง XDC Network กล่าว “ญี่ปุ่นเป็นศูนย์กลางที่สำคัญสำหรับการค้าระหว่างประเทศ และแพลตฟอร์มบล็อกเชนของเรามีเป้าหมายที่จะปรับปรุงในกลุ่มธุรกิจนี้ โดยการเพิ่มความโปร่งใส ความสามารถในการติดตาม และลดต้นทุน” ผ่านความร่วมมือกับ SBI VC Trade ทางเราหวังว่าจะสามารถเสริมสร้างธุรกิจและสถาบันการเงินในประเทศญี่ปุ่นด้วยประโยชน์ของ XDC Network ได้

“เรามียินดีที่ได้ขยายการให้บริการด้านสกุลเงินดิจิทัลของเราโดยการเพิ่ม XDC เข้าสู่แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนของเรา” Fumiki Ozaki, ประธานและ CEO ของ SBI VC Trade Co., Ltd. กล่าว “XDC Network นำเสนอคุณค่าที่ไม่เหมือนใครสำหรับตลาดการเงินการค้า และเราเชื่อว่าการเพิ่มมูลค่านี้จะเพิ่มประสบการณ์ในการซื้อขายของลูกค้าของเรา” SBI VC Trade ยังคงมุ่งมั่นในการให้บริการอย่างครบวงจรโดยให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของลูกค้า และความร่วมมือกับ XDC Network เป็นอย่างดีเพื่อสอดคล้องกับแนวคิดที่ให้ความสำคัญกับลูกค้า”

ในฐานะที่ XDC Network เข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นผ่านความร่วมมือกับ SBI VC Trade ซึ่งมีจุดมุ่งหมายที่จะผลักดันการเปลี่ยนแปลงเชิงดิจิตอลในอุตสาหกรรมการเงินการค้าและสร้างตัวเองเป็นผู้นำระดับโลกในด้านโซลูชันบล็อกเชนสำหรับองค์กรและสถาบันการเงิน

เกี่ยวกับ XDC Network:

XDC Network เป็นบล็อกเชนชั้นที่ 1 ระดับองค์กรที่เป็นโอเพนซอร์ส ที่เป็นกลางด้านการปลดปล่อยคาร์บอน และเข้ากันได้กับ EVM ซึ่งได้มีความสำเร็จในด้านการดำเนินงานตั้งแต่ปี 2019 เครือข่ายได้รับความเห็นพ้องต้องกันผ่านเทคนิค Proof-of-stake (XDPoS) ที่ได้รับมอบอำนาจเป็นพิเศษซึ่งช่วยให้สามารถทำธุรกรรมได้ในเวลาเพียง 2 วินาที โดยมีค่าใช้จ่ายก๊าซในระดับเกือบศูนย์ ($0.0001) และสามารถดำเนินการได้มากกว่า 2,000 รายการต่อวินาที (TPS) โดยยังสามารถทำงานร่วมกันตามมาตรฐานการส่งข้อความทางการเงิน ISO 20022 ได้ XDC Network มีความสามารถในการใช้งานบล็อกเชนในหลายแบบ ที่ปลอดภัย มีขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพสูง

*ที่มา: AETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อผู้ติดต่อ

Nadar Suresh

suresh@xinfin.org

ที่มา: XDC Network

ผลสำรวจของ FICO: คนไทยครึ่งหนึ่งเชื่อว่าเป็นเรื่องปกติที่จะแสดงรายได้เกินจริงในการขอสินเชื่อและการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน

Logo

การเงินที่ยืดเยื้อเนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้นทำให้หลายคนพิจารณาที่จะให้ข้อมูลเท็จ

กรุงเทพมหานคร– 30 พฤษภาคม 2566 (NYSE: FICO)

บริษัท FICO ซึ่งเป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ด้านการวิเคราะห์ชั้นนำระดับโลก ได้ประกาศการค้นพบเพิ่มเติมจากแบบสำรวจการฉ้อโกงของผู้บริโภค ที่ได้สำรวจทัศนคติและความพึงพอใจต่อการตรวจสอบการฉ้อโกงในวันนี้ การศึกษาวิจัยดังกล่าวเปิดเผยว่าชาวไทยกว่าครึ่งเต็มใจทำการทุจริตเพื่อขอสินเชื่อหรือยื่นเรื่องการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน แต่อย่างไรก็ตาม FICO ได้เน้นย้ำว่าสถาบันการเงินยังสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นและผลักดันยอดขายผ่านฟังก์ชันการป้องกันการฉ้อโกงให้ประสบความสำเร็จได้

FICO Survey: Half of Thais Believe It Is OK to Exaggerate Income on Loan Applications and Insurance Claims (Graphic: FICO)

คนไทยครึ่งหนึ่งเชื่อว่าเป็นเรื่องปกติที่จะแสดงรายได้เกินจริงในการขอสินเชื่อและการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (กราฟิก: FICO)

ข้อมูลเพิ่มเติม:

https://www.fico.com/es/latest-thinking/ebook/consumer-survey-2022-fraud-identity-and-digital-banking-thailand

การให้ข้อมูลเท็จถือว่าเป็นที่ยอมรับได้สำหรับหลายๆ คน

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับทัศนคติของพวกเขาต่อการให้ข้อมูลเท็จเพื่อผลประโยชน์ทางการเงินหรือให้มูลค่าทรัพย์สินที่มากเกินความเป็นจริง ซึ่งเป็นที่รู้จักในวงการธนาคารว่าเป็นการฉ้อโกงโดยบุคคลที่หนึ่ง คนไทยครึ่งหนึ่งสนับสนุนพฤติกรรมเหล่านี้ มีประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่ามีบางสถานการณ์ที่เป็นเรื่องปกติที่จะแสดงรายได้เกินจริงในการขอสินเชื่อทั่วไปหรือสินเชื่อบ้าน ในขณะที่อีก 25 เปอร์เซ็นต์คิดว่าเป็นเรื่องปกติที่จะทำเช่นนั้น การสำรวจพบว่าผู้บริโภคในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันจะเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเกินจริงหรือมีเพิ่มรายการในการเรียกร้องด้วย

“ความเต็มใจที่จะทำการฉ้อโกงเพื่อผลประโยชน์ทางการเงินเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ถือเป็นสัญญาณว่าธนาคารไทยจำเป็นจะต้องหนุนโมเดลป้องกันการฉ้อโกงเป็นอย่างยิ่ง” C.K. Leo หัวหน้าด้านการฉ้อโกง ความปลอดภัย และอาชญากรรมทางการเงินในเอเชียแปซิฟิก บริษัท FICO กล่าว “กลยุทธ์การป้องกันการฉ้อโกงที่รัดกุมไม่เพียงแต่จะปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับผลกำไรของธุรกิจด้วย”

ความเชื่อมั่นนี้สอดคล้องกับประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิเช่น อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ ทั้งยังเป็นที่สนใจมากขึ้นในมาเลเซีย  ที่ซึ่งผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 60 เปอร์เซ็นกล่าวว่าพฤติกรรมเช่นนั้นเป็นเรื่องปกต

ผลการวิจัยบ่งชี้ว่าธนาคารในประเทศไทยอาจทำการประเมินความเสี่ยงได้อย่างไม่ถูกต้อง อันเป็นผลมาจากข้อมูลที่เป็นเท็จในใบสมัคร ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียทางการเงินจากการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่สูงเกินจริง นอกจากนี้ลูกค้าอาจไม่ทราบว่าการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องในเอกสารยื่นสมัครหรือในการเรียกร้องนั้นผิดกฎหมาย

“สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ซบเซา ยังทำให้ส่งผลร้ายต่อค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้คนไทยบางส่วนหมดหวังในการเข้าถึงสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นการฉ้อโกง” Leo กล่าว “ด้วยการปรับปรุงความสามารถในการตรวจจับข้อมูลที่บิดเบือน สถาบันการเงินสามารถป้องกันตนเองจากการขาดทุนจากหนี้สูญ ในขณะเดียวกันก็นำลูกค้าออกจากเส้นทางที่น่าเศร้านั้นได้”

ใช้ประโยชน์จากข้อมูลและการวิเคราะห์อย่างเต็มที่เพื่อผลักดันการป้องกันการฉ้อโกง

บ่อยครั้งที่สถาบันการเงินมีหลักฐานที่จำเป็นในการแยกแยะระหว่างการสมัครที่เป็นการฉ้อโกงและข้อมูลการสมัครที่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามทีมป้องกันการทุจริตมักไม่สามารถใช้ข้อมูลนี้ได้เนื่องจากข้อมูลถูกแยกไว้ ความไม่มีประสิทธิภาพเหล่านี้ส่งผลให้ทำการป้องกันการฉ้อโกงได้อย่างไม่เพียงพอและกระทบต่อประสบการณ์ของลูกค้า ธนาคารสามารถช่วยเหลือตรวจสอบลูกค้ามีความยุ่งยากและใช้เวลานาน ส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นและเกิดความซ้ำซ้อนซึ่งทำให้ลูกค้ารู้สึกหงุดหงิด

“ด้วยสภาพการธนาคารที่มีการแข่งขันสูงของภูมิภาคนี้ การใช้กลยุทธ์ป้องกันการฉ้อโกงที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เสียค่าใช้จ่ายสูง” Leo กล่าว “เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ ทีมป้องกันทุจริตต้องสร้างสมดุลระหว่างการป้องกันการฉ้อโกงที่เข้มแข็งและการตอบสนองความต้องการอย่างถูกต้องตามกฎหมายของลูกค้า สิ่งนี้สามารถทำได้ด้วยวิธีการแบบองค์รวมในการเข้าถึงข้อมูลผู้สมัคร ซึ่งช่วยให้สามารถแยกแยะได้อย่างมีประสิทธิภาพระหว่างใบสมัครที่ฉ้อฉลและใบสมัครที่ถูกต้องตามกฎหมาย การใช้โมเดลการวิเคราะห์และแมชชีนเลิร์นนิงจะช่วยเสริมการป้องกันการฉ้อโกงของธนาคาร ซึ่งนำไปสู่ความพึงพอใจของลูกค้าที่ดีขึ้นได้”

รายงานนี้จัดทำขึ้นในช่วงปลายปี 2022 โดยสำรวจ 1,000 คน จากแต่ละประเทศใน 14 ประเทศดังนี้ ประเทศไทย สหรัฐอเมริกา แคนาดา บราซิล เม็กซิโก โคลอมเบีย เปรู มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย แอฟริกาใต้ เยอรมนี สหราชอาณาจักร และสวีเดน

เกี่ยวกับ FICO

FICO (NYSE: FICO) มุ่งมั่นในการตัดสินใจที่จะช่วยให้ผู้คนและธุรกิจทั่วโลกให้ประสบความสำเร็จ บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 1956 เป็นผู้บุกเบิกการใช้การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ AI และวิทยาศาสตร์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงการตัดสินใจในการปฏิบัติงาน FICO ถือครองสิทธิบัตรมากกว่า 200 ฉบับในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มผลกำไร ความพึงพอใจของลูกค้า และการเติบโตของธุรกิจในบริการทางการเงิน การผลิต โทรคมนาคม การดูแลสุขภาพ การค้าปลีก และอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อใช้โซลูชัน FICO ธุรกิจในเกือบ 120 ประเทศจะสามารถทำได้ทุกอย่างตั้งแต่การปกป้องบัตรชำระเงิน 2.6 พันล้านใบจากการฉ้อโกง การปรับปรุงการรวมทางการเงิน ไปจนถึงการเพิ่มความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน 90% ของผู้ให้กู้ชั้นนำของสหรัฐใช้ The FICO® Score เป็นการวัดมาตรฐานของความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ ซึ่งช่วยปรับปรุงการจัดการความเสี่ยง การเข้าถึงสินเชื่อ และความโปร่งใส

เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ http://www.fico.com.

เข้าร่วมการสนทนาได้ที่ https://twitter.com/fico & http://www.fico.com/en/blogs/

ข่าวสารและแหล่งข้อมูลสื่อของ FICO โปรดไปที่ www.fico.com/news.

FICO เป็นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของ Fair Isaac Corporation ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53399915/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Neil Mirano
RICE for FICO
+65 3157 5680
neil.mirano@ricecomms.com

Saxon Shirley
FICO
+65 9171 0965
saxonshirley@fico.com

แหล่งที่มา: FICO

Fortress Management และ Mubadala ซื้อกิจการ Fortress Investment Group

Logo

ทีมผู้บริหารของ Fortress จะเข้ารับตำแหน่งหุ้นส่วนที่สำคัญ

นิวยอร์กและอาบูดาบี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–22 พฤษภาคม 2023

Fortress Investment Group (“Fortress”) และ Mubadala Investment Company ของบริษัทในเครือ Mubadala Capital (“Mubadala Capital”) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือด้านการจัดการสินทรัพย์ทั้งหมด ได้ประกาศในวันนี้ว่าพวกเขาได้ทำข้อตกลงขั้นสุดท้ายเพื่อซื้อหุ้น 90.01% ของ Fortress ซึ่งปัจจุบันถือครองโดย SoftBank Group Corp. (“SoftBank”) ซึ่งได้เป็นเจ้าของ Fortress ตั้งแต่ปี 2017 ไม่มีการเปิดเผยข้อกำหนดของข้อตกลง และข้อตกลงอยู่ภายใต้เงื่อนไขการปิดตามธรรมเนียมและการอนุมัติตามกฎระเบียบ

หลังจากเสร็จสิ้นการทำธุรกรรม ผู้บริหารของ Fortress คาดว่าจะถือหุ้น 30% ในบริษัท และจะถือสิทธิ์ในประเภทหุ้นที่ผู้บริหารของ Fortress สามารถแต่งตั้งเสียงส่วนใหญ่ของคณะกรรมการ Mubadala Capital (ซึ่งปัจจุบันถือหุ้น 9.99% ใน Fortress ผ่านกองทุน Private Equity Funds II และ III) จะถือหุ้น 70% ของ Fortress

หลังจากปิดตัวลง Fortress จะยังคงทำงานในฐานะผู้จัดการการลงทุนอิสระภายใต้แบรนด์ Fortress โดยมีอิสระอย่างเต็มที่ในกระบวนการลงทุนและการตัดสินใจ บุคลากร และการดำเนินงาน Drew McKnight และ Joshua Pack จะได้รับการแต่งตั้งเป็นซีอีโอร่วมของ Fortress และ Pete Briger จะได้รับการแต่งตั้งเป็นประธาน Hani Barhoush ซีอีโอและกรรมการผู้จัดการของ Mubadala Capital ซึ่งดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารของ Fortress มาตั้งแต่ปี 2019 จะยังคงดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการต่อไป

Dean Dakolias จะดำรงตำแหน่งหุ้นส่วนผู้จัดการต่อไป และ Tom Pulley จะดำรงตำแหน่ง CEO ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกอย่าง Fortress Real Estate ต่อไป Jack Neumark ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการและจะยังคงเป็นผู้นำในธุรกิจสินทรัพย์ทางกฎหมายและเป็นหัวหน้าร่วมในธุรกิจการเงินพิเศษ และ Marc Furstein จะยังคงดำรงตำแหน่งประธานต่อไป ผู้ร่วมก่อตั้ง Fortress Wes Edens และ Randy Nardone จะยังคงดูแลธุรกิจ PCV และการลงทุน PE ที่เหลืออยู่ รวมถึง Brightline

ภายใต้การเป็นเจ้าของร่วมใหม่ Fortress คาดว่าจะสร้างมูลค่าที่สำคัญให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยการสร้างตัวเองต่อไปในพื้นที่การลงทุนทางเลือก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านสินเชื่อและอสังหาริมทรัพย์ในตลาดภาครัฐและเอกชน ซึ่งปัจจุบันบริหารสินทรัพย์มูลค่า 46 พันล้านดอลลาร์บน ในนามของนักลงทุนสถาบันและลูกค้าเอกชนกว่า 1,900 ราย Fortress คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากเครือข่ายทั่วโลกของ Mubadala Capital และพอร์ตโฟลิโอสินทรัพย์ที่หลากหลายที่กว้างขวาง รวมถึงการเข้าถึงโอกาสการลงทุนที่เป็นกรรมสิทธิ์เพื่อรองรับการเติบโตและการขยายตัว

Pete Briger จาก Fortress, Drew McKnight และ Joshua Pack กล่าวในแถลงการณ์ร่วม: “เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้กระชับความสัมพันธ์ของเรากับ Mubadala โดยร่วมมือกับหนึ่งในนักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญมากที่สุดในโลกในการทำธุรกรรมที่จะมอบผลประโยชน์ระยะยาวที่สำคัญให้กับบริษัทของเรา พนักงานของเรา และลูกค้าที่เราให้บริการ เราทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Mubadala มานานหลายปี และเคารพในความเฉียบแหลมและระเบียบวินัยในการลงทุนของพวกเขาอย่างมาก เรามองว่าการลงทุนเพิ่มเติมของ Mubadala เป็นการยืนยันรูปแบบธุรกิจและแนวทางการลงทุนที่เรายอมรับมากว่า 20 ปี และในเวลาที่พลวัตของตลาดสอดคล้องกับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเราดีกว่าที่เคยเป็นมา เราไม่สามารถ ตื่นเต้นกับอนาคตของ Fortress มากขึ้น”

Hani Barhoush ซีอีโอและกรรมการผู้จัดการของ Mubadala Capital กล่าวว่า “Fortress เป็นผู้จัดการการลงทุนชั้นนำของโลกที่มีประวัติที่พิสูจน์แล้วในด้านการส่งมอบผลตอบแทนที่ปรับตามความเสี่ยงที่เหนือกว่าให้กับนักลงทุนตลอดวงจรธุรกิจ ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา พวกเขาได้สร้างแฟรนไชส์ที่น่าทึ่งและสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะนักลงทุนด้านสินเชื่อและสินทรัพย์ชั้นนำ ในขณะเดียวกันก็พัฒนากลยุทธ์การลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์ที่หลากหลาย เรามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับทีมผู้บริหารที่ยอดเยี่ยมของ Fortress และรู้สึกตื่นเต้นที่จะกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในอีกหลายปีข้างหน้าตามวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกัน ในขณะเดียวกันก็มอบมูลค่าที่มากกว่าให้กับนักลงทุนของเรา”

การทำธุรกรรมคาดว่าจะเสร็จสิ้นในไตรมาสแรกของปี 2024 โดยขึ้นอยู่กับการอนุมัติตามกฎระเบียบ

Ardea Partners ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ Shearman & Sterling ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมายให้กับ Mubadala

Goldman, Sachs & Co. LLC ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ Kirkland & Ellis ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมายให้กับผู้บริหารระดับสูงของ Fortress ในการทำธุรกรรม Skadden, Arps, Slate, Meagher & Flom LLP เป็นตัวแทนของ Fortress ในการทำธุรกรรม

Raine Group ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแต่เพียงผู้เดียว และ Morrison Foerster ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมายของ SoftBank

เกี่ยวกับ Fortress Investment Group

Fortress Investment Group LLC เป็นผู้จัดการการลงทุนชั้นนำระดับโลกที่มีความหลากหลายสูง Fortress ก่อตั้งขึ้นในปี 2541 โดยจัดการสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมูลค่า 45.8 พันล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2022 ในนามของลูกค้าสถาบันและนักลงทุนเอกชนกว่า 1,900 รายทั่วโลก ทั้งในกลยุทธ์สินเชื่อและอสังหาริมทรัพย์ กองทุนส่วนบุคคล และการลงทุนถาวร

เกี่ยวกับ Mubadala Capital

Mubadala Capital เป็นบริษัทในเครือด้านการจัดการสินทรัพย์ของ Mubadala Investment Company ซึ่งเป็นนักลงทุนชั้นนำระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่ในอาบูดาบี นอกเหนือจากการจัดการการลงทุนในงบดุลของตนเองแล้ว Mubadala Capital ยังจัดการมูลค่ารวม 20,000 ล้านดอลลาร์จากการลงทุนในงบดุลของบริษัทเองและในเครื่องมือทุนของบุคคลที่สามในนามของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งรวมถึงกองทุนหุ้นเอกชนสี่กองทุน กองทุนร่วมลงทุนระยะเริ่มต้นสามกองทุน และกองทุนสองกองทุนในบราซิลที่เน้นสถานการณ์พิเศษ

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53403992/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

สื่อ:

Mubadala
Salam Kitmittosakitmitto@mubadala.ae
+971 50 276 9286

Fortress
Gordon Runtegrunte@fortress.com
+1 917 981 1246

ที่มา: Fortress Investment Group LLC และ Mubadala Capital