BitMEX ให้การต้อนรับ Raphael Polansky เพื่อเข้ามาเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ

Logo

มาเฮ เซเชลส์–(BUSINESS WIRE)–14 ม.ค. 2565

แพลตฟอร์มการลงทุน Crypto BitMEX ยินดีที่จะต้อนรับ Raphael Polansky ให้เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) คนใหม่ โดยในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ Raphael รับผิดชอบการจัดการการดำเนินงานและโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท ขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจและการขยายตลาด และการเปลี่ยน BitMEX ให้กลายเป็นระบบนิเวศการลงทุนแบบคริปโตเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ Raphael รายงานตรงต่อ Alexander Höptner ผู้เป็น CEO ของ BitMEX

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย ดูข่าวฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220113005975/en/

BitMEX Welcomes Raphael Polansky as Chief Operating Officer (Photo: Business Wire)

BitMEX ให้การต้อนรับ Raphael Polansky ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (ภาพ: Business Wire)

ก่อนที่จะมาร่วมงานกับ BitMEX คุณ Raphael เคยเป็นกรรมการผู้จัดการของ Blocknox มาเกือบสองปีแล้ว โดยเขาได้จัดตั้งและดำเนินการแพลตฟอร์มการดูแลคริปโต และเป็นผู้นำกลยุทธ์ทางธุรกิจ การพัฒนาไอที และการดำเนินงานของบริษัท Raphael เคยทำงานในตำแหน่งหัวหน้าที่ Boerse Stuttgart และ Deutsche Boerse มาเกือบหนึ่งทศววรษครึ่งแล้ว

Raphael กล่าวว่า: “ผมรู้สึกขอบคุณสำหรับโอกาสที่จะผลักดันการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ BitMEX เรามีท่อส่งโครงการที่แข็งแกร่งซึ่งวางแผนไว้สำหรับปี 2565 และปีต่อ ๆ ไป และทีมงานบุคลากรที่แข็งแกร่งของที่มีความสามารถและความสร้างสรรค์ โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างระบบนิเวศทางการเงินที่ดีขึ้นทั่วโลก ผมตื่นเต้นที่จะได้เป็นผู้นำในการดำเนินงานและการขยายตัวของคริปโตในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสำหรับเราและอุตสาหกรรมโดยรวม”

Alex กล่าวว่า: “ผมตื่นเต้นที่ได้  Raphael เข้าร่วมทีมผู้นำของเราในฐานะซีโอโอ ความมั่งคั่งของคริปโต, ตลาดการเงิน และประสบการณ์การจัดการของเขาพิสูจน์แล้วว่าเขาสามารถมอบประสิทธิภาพการดำเนินงาน การประสานงาน และการทำงานร่วมกันที่ดียิ่งขึ้นในช่วงระยะต่อไปของการเติบโตของเรา”

BitMEX กำลังหาผู้ร่วมงาน คลิกที่นี่ เพื่อสำรวจโอกาสในการทำงานที่ BitMEX

เกี่ยวกับ BitMEX

BitMEXเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ให้ผู้ใช้เข้าถึงตลาดการเงินสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก BitMEX เป็นเจ้าของโดย HDR Global Trading Limited หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ BitMEX วิสัยทัศน์ของเรา ทีมที่กำลังเติบโต และหนทางข้างหน้า โปรดติดตามเราที่ Twitter, Telegram, และที่ บล็อก BitMEX Blog. ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ press@bitmex.com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220113005975/en/

ติดต่อ:

สื่อ

Jessica Lindeman

press@bitmex.com

+852 5717 5579

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ผู้ชนะการแข่งขัน Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ได้รับการยอมรับในการขับเคลื่อนนวัตกรรมทางสังคมและการมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมแฟชั่น

Logo

คณะกรรมการตัดสินซึ่งรวมถึง changemaker Yara Shahidi และ Mr. Tommy Hilfiger ได้มอบรางวัลมูลค่า 200,000 ยูโรและแพ็คเกจรางวัลการให้คำปรึกษาแก่บริษัทสตาร์ทอัพชาวรวันดาและชาวดัตช์ เพื่อสนับสนุนความพยายามในการพลิกโฉมภูมิทัศน์แฟชั่น

อัมสเตอร์ดัม–(BUSINESS WIRE)–14 มกราคม 2565

Tommy Hilfiger ซึ่งเป็นเจ้าของโดย PVH Corp. [NYSE: PVH] ยินดีที่จะประกาศให้ Lalaland และ UZURI K&Y เป็นผู้ชนะการแข่งขัน Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นโปรแกรมระดับโลกที่ออกแบบมาเพื่อค้นหาและสนับสนุนแนวคิดที่นำไปสู่ภูมิทัศน์แฟชั่นที่ครอบคลุมมากขึ้น งานเสมือนจริงรอบสุดท้ายของโปรแกรมได้จัดขึ้นในวันที่ 12-13 มกราคม โดยผู้เข้ารอบ 6 คนสุดท้ายได้นำเสนอแนวคิดของตนต่อคณะกรรมการอันทรงเกียรติ ผู้ชนะจะแบ่งปันเงินรางวัลมูลค่า 200,000 ยูโร และได้รับคำปรึกษาเป็นเวลาหนึ่งปีกับผู้เชี่ยวชาญภายในจาก Tommy Hilfiger และจาก INSEAD หนึ่งในโรงเรียนธุรกิจระดับบัณฑิตศึกษาชั้นนำและใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขายังได้รับตำแหน่งในโปรแกรม INSEAD ที่นำผู้คน วัฒนธรรม และความคิดมารวมกันเพื่อปลูกฝังผู้นำที่มีนวัตกรรม

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220113005825/en/

Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge (Photo: Business Wire)

Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge (ภาพ: Business Wire)

สตาร์ทอัพและสเกลอัพมากกว่า 430 รายจาก 22 ประเทศส่งแนวคิดของพวกเขาในเดือนมกราคม 2564 สำหรับความคิดริเริ่มนี้ ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนของ Tommy Hilfiger ในเรื่อง Waste Nothing and Welcome All โปรแกรมในปีนี้มุ่งมั่นที่จะขยายและสนับสนุนผู้ประกอบการคนผิวดำ ชนพื้นเมือง และคนผิวสี (BIPOC) ที่ทำงานเพื่อพัฒนาชุมชนของตน ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมอนาคตที่ครอบคลุมมากขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมแฟชั่น นับเป็นครั้งแรกที่แฟน ๆ ของแบรนด์ TOMMY HILFIGER สามารถเข้าร่วมในช่วงเริ่มต้นของความท้าทาย โดยที่พวกเขาลงคะแนนเสียงแบบดิจิทัลเพื่อช่วยจำกัดการใช้งานให้แคบลงเพื่อระบุผู้เข้ารอบสุดท้าย นอกเหนือจากผู้ร่วมงานของ Tommy Hilfiger ในงานรอบชิงชนะเลิศแล้ว พวกเขายังได้รับเชิญให้ลงคะแนนเสียงสำหรับแนวคิดที่ชื่นชอบของพวกเขาเพื่อมอบรางวัลเพิ่มอีก 15,000 ยูโรให้กับหนึ่งในผู้เข้ารอบสุดท้าย

“ความท้าทายที่เพิ่มขีดความสามารถนี้นำพาผู้ที่มีความกระตือรือร้นและขยันหมั่นเพียรด้วยแนวคิดใหม่ ๆ เกี่ยวกับวิธีสร้างอนาคตของแฟชั่นที่เราทุกคนตั้งตารอ” Tommy Hilfiger กล่าว “ทั้งนี้เป็นงานรอบชิงชนะเลิศที่น่าประทับใจ และผมภูมิใจที่ได้เดินทางต่อร่วมกับผู้ประกอบการที่นำเสนอโซลูชั่นที่ก้าวล้ำและสร้างผลกระทบซึ่งท้าทายวิธีที่เราคิด สร้าง และรังสรรค์”

Lalaland เป็นแพลตฟอร์มจากเนเธอร์แลนด์ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อสร้างแบบจำลองสังเคราะห์ที่ปรับแต่งและครอบคลุมของชาติพันธุ์ที่แตกต่าง โดยได้รับรางวัลมูลค่า 100,000 ยูโร Michael Musandu ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Lalaland กล่าวว่า “การสร้างเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ครอบคลุมและหลากหลายมากขึ้นนั้นเป็นหัวใจสำคัญของวิสัยทัศน์ของเราที่ Lalaland” “การเป็นส่วนหนึ่งของ Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge นำมาซึ่งข้อมูลเชิงลึกที่น่าเหลือเชื่อ และจะยกระดับโซลูชัน A.I. เพื่อเข้าถึงผู้คนมากกว่าที่เราจะจินตนาการได้ จากการมอบความสำเร็จนี้ ทีมงานของเราแทบรอไม่ไหวที่จะเพิ่มขีดความสามารถของประสบการณ์การชอปปิงออนไลน์ที่เป็นมิตร ที่ไม่มีผู้บริโภครายใดรู้สึกว่าเป็นคนกลุ่มน้อย”

UZURI K&Y แบรนด์รองเท้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจากรวันดาใช้ยางรถยนต์รีไซเคิลจากจากแอฟริกาใต้สะฮารา และจ้างงานเยาวชนในท้องถิ่น โดยได้รับรางวัล 100,000 ยูโรเช่นกัน “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้ชนะการแข่งขัน Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge” Kevine Kagirimpundu ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ UZURI K&Y กล่าว “ด้วยโอกาสนี้ได้ให้คำปรึกษา คำแนะนำเชิงกลยุทธ์ และทำให้เรามีเวทีในการแบ่งปันความฝันในการนำเสนอทางเลือกของรองเท้าที่ยั่งยืนจากแอฟริกาสู่ตลาดโลก เราทุ่มเทเพื่อผลักดันผลกระทบที่แท้จริงและสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนในวันนี้เพื่อสร้างอนาคตที่สะอาดขึ้น”

Clothes to Good เป็นกิจการเพื่อสังคมจากแอฟริกาใต้ที่สร้างโอกาสทางธุรกิจขนาดเล็กและงานสำหรับคนพิการผ่านการรีไซเคิลสิ่งทอ โดยได้รับรางวัล 15,000 ยูโร “เรารู้สึกมีความสุขที่ได้รับการยอมรับจากผู้ชม Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge มันเป็นประสบการณ์ที่เราจะไม่มีวันลืม” Tammy Greyling ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและนักอาชีวบำบัดของ Clothes to Good กล่าว “เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่รู้ว่าคนอื่นเชื่อในความฝันของเราที่จะสร้างความแตกต่างให้กับคนพิการและครอบครัวอย่างแท้จริง การได้รับรางวัลนี้จะช่วยให้ Clothes to Good สามารถสร้างธุรกิจขนาดเล็กและโอกาสในการทำงานต่อไปผ่านการรีไซเคิลสิ่งทอจากชุมชนแอฟริกาใต้”

กรรมการตัดสินที่ดูแลงาน Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge รอบชิงชนะเลิศได้แก่:

  • Mr. Tommy Hilfiger
  • Martijn Hagman ซีอีโอของ Tommy Hilfiger Global และ PVH Europe
  • Yara Shahidi นักแสดงหญิงที่ได้รับรางวัล โปรดิวเซอร์ และผู้นำการเปลี่ยนแปลงในองค์กร
  • Esther Verburg, รองกรรมการผู้จัดการ (EVP) ธุรกิจและนวัตกรรมที่ยั่งยืนของTommy Hilfiger Global และ PVH Europe
  • Adrian Johnson, Entrepreneur ผู้ประกอบการ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านการเป็นผู้ประกอบการ เทคโนโลยีและสื่อที่ INSEAD
  • Katrin Ley กรรมการผู้จัดการของ Fashion for Good และผู้ก่อตั้ง Curator of the Amsterdam Global Shapers Hub
  • Yvonne Bajela สมาชิกผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทการลงทุน Impact X Capital

การสมัครสำหรับรอบที่สี่ของ Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge จะเปิดรับในเดือนมีนาคม 2565 ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถรับข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อลงทะเบียนได้ที่นี่: https://platform.younoodle.com/competition/thffc_2022

พันธกิจของ Tommy Hilfiger คือการเป็นบริษัทด้านไลฟ์สไตล์ดีไซน์เนอร์ที่ยั่งยืนชั้นนำ ซึ่งมีวิสัยทัศน์ Wastes Nothing and Welcomes All ผ่านวิธีการสร้างผลิตภัณฑ์ จัดการการดำเนินงาน และเชื่อมต่อกับชุมชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางสู่ความยั่งยืนของ Tommy Hilfiger ซึ่งขับเคลื่อนโดยกลยุทธ์ Forward Fashion ของ PVH ได้ที่ https://responsibility.pvh.com/tommy/

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ได้ที่นี่: https://responsibility.pvh.com/tommy/fashion-frontier-challenge/

ขอเชิญเพื่อน ๆ และผู้ติดตามแบรนด์เข้าร่วมการสนทนาบนโซเชียลมีเดียโดยใช้ #TommyHilfiger และ @TommyHilfiger

เกี่ยวกับ Tommy Hilfiger

TOMMY HILFIGER ประกอบด้วยแบรนด์ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ดีไซน์เนอร์ระดับพรีเมียมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลก มุ่งเน้นการออกแบบและจำหน่ายเสื้อผ้าและชุดกีฬาคุณภาพสูงสำหรับบุรุษ คอลเลกชันเครื่องแต่งกายและชุดกีฬาสตรี เครื่องแต่งกายเด็ก คอลเลกชันเสื้อผ้าเดนิม ชุดชั้นใน (รวมถึงชุดคลุม ชุดนอน และชุดลำลองสำหรับใส่ในบ้าน) รองเท้าและเครื่องประดับ Tommy Hilfiger ยังเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ เช่น แว่นตา นาฬิกา น้ำหอม ชุดว่ายน้ำ ถุงเท้า เครื่องหนังชิ้นเล็ก ๆ ของใช้ภายในบ้าน รวมถึงกระเป๋าเดินทาง ไลน์ผลิตภัณฑ์ TOMMY JEANS ประกอบด้วยชุดยีนและรองเท้าสำหรับบุรุษและสตรี เครื่องประดับและน้ำหอม ผู้บริโภคทั่วโลกสามารถเลือกซื้อสินค้าภายใต้แบรนด์ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS ได้ที่เครือข่ายร้านค้าปลีกของ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS ที่มีอยู่มากมาย รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านค้าปลีกออนไลน์ และที่ tommy.com

เกี่ยวกับ PVH Corp.

PVH เป็นหนึ่งในบริษัทแฟชั่นที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกที่เชื่อมต่อกับผู้บริโภคในกว่า 40 ประเทศ แบรนด์ที่เป็นสัญลักษณ์ระดับโลกของเรา ได้แก่ Calvin Klein  และ  TOMMY HILFIGER  ประวัติความเป็นมาเวลา 140 ปีของเราได้สร้างขึ้นจากความแข็งแกร่งของแบรนด์ ทีมงานของเรา และความมุ่งมั่นของเราในการขับเคลื่อนแฟชั่นไปข้างหน้าได้ตลอดไป และทั้งหมดนี้คือพลังของเรา คือพลังของ PVH

ติดตามเราบน FacebookInstagramTwitter และ LinkedIn

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220113005825/en/

ติดต่อ:

สื่อ Tommy Hilfiger
Virginia Ritchie
รองประธานฝ่ายสื่อสารระดับโลก (Vice President, Global Communications)
อีเมล: virginia.ritchie@tommy.com
โทร: +31 6 4318 4870

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย






Mary Kay สานต่อความมุ่งมั่นทางด้านวิทยาศาสตร์เพื่อการดูแลผิว

Logo

Mary Kay นำเสนองานวิจัย ณ งานประชุมวิชาการที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ 2 แห่ง ได้แก่ งาน Aesthetic & Anti-Aging Medicine World Congress (AMWC) ครั้งที่ 19 และงานที่จัดโดยสมาคมยุโรปเพื่อการวิจัยโรคผิวหนัง (ESDR)

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–13 มกราคม 2565

Mary Kay Inc. หนึ่งในบริษัทผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัยของโลก ได้เข้าร่วมงานประชุมวิชาการที่มีชื่อเสียงของยุโรป 2 งานในช่วงปลายปี 2564 โดยในงาน Aesthetic & Anti-Aging Medicine World Congress ครั้งที่ 19 Mary Kay Inc. ได้ส่งโปสเตอร์วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการใช้และความทนต่อสูตรเรตินอลที่มีความเข้มข้นสูงสำหรับผิวของชาวเอเชีย และยังได้ร่วมกับสมาคมยุโรปเพื่อการวิจัยโรคผิวหนัง (ESDR) ให้การสนับสนุนการจัดการสัมมนาหัวข้อ Future Leaders in Dermatology ในงานประชุมวิชาการประจำปีครั้งที่ 50 ด้วย ซึ่งในงานดังกล่าว Mary Kay Inc. ได้เผยผลการศึกษาทางคลินิกล่าสุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของสูตรเครื่องสำอางในการบรรเทาอาการที่เกี่ยวข้องกับผิวแพ้ง่าย

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220113005071/en/

Dr. Lucy Gildea, Mary Kay Chief Innovation Officer, Product and Science (Photo: Mary Kay Inc.)

ดร. Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และวิทยาศาสตร์ของ Mary Kay (รูปภาพ: Mary Kay Inc.)

งานประชุมวิชาการ Aesthetic & Anti-Aging Medicine World Congress ครั้งที่ 19 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 ถึง 18 กันยายน 2564 ในเมืองมอนติคาร์โล ภายใต้การอุปถัมภ์ของเจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2 แห่งโมนาโก โดยผู้เข้าร่วมงานประชุมเป็นบุคลากรที่มาจากหลากหลายอาชีพ ทั้งแพทย์ผิวหนัง ศัลยแพทย์ตกแต่งและแพทย์ผ่าตัดเพื่อความงาม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการชะลอวัย และแพทย์เวชปฏิบัติเสริมสวยและแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 8,300 คนจาก 130 ประเทศที่ทั้งเดินทางมาด้วยตนเองและร่วมประชุมผ่านทางออนไลน์ แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ใช้ยังมอบประสบการณ์ที่สมจริงซึ่งช่วยให้การจัดงาน ณ สถานที่จริงสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้ชมนิทรรศการในรูปแบบดิจิทัลและรับชมการประชุมเชิงปฏิบัติการต่าง ๆ ได้แม้จะอยู่ไกลหรือมีข้อจำกัดเรื่องการเดินทาง

นักวิทยาศาสตร์ของ Mary Kay มีความภาคภูมิใจที่ได้รายงานผลวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับการใช้และความทนต่อเรตินอลในการประชุมดังกล่าว ซึ่งจากการใช้เรตินอลอย่างต่อเนื่องกับชาวเอเชีย พบว่าลักษณะผิวโดยรวมดีขึ้น รวมถึงรอยดำจากการอับเสบลดลง ซึ่งปัญหาดังกล่าวพบได้บ่อยเมื่อใช้เรตินอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มชาวแอฟริกัน ฮิสแปนิก เอเชีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Skin of Color)

“เรตินอลเป็นส่วนผสมสำคัญของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและมากด้วยประโยชน์ที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้ว แต่ประสบการณ์และความทนต่อผลิตภัณฑ์เรตินอลในแต่ละคนนั้นต่างกัน สำหรับผู้ที่มีความกังวลว่าอาจเกิดอาการระคายเคืองหรือรอยดำ ผลจากการศึกษานี้ช่วยให้เราค้นพบกับสิ่งที่อาจเป็นทางออก ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นที่ได้นำผลการวิจัยนี้มาแจ้งให้กับชุมชนวิทยาศาสตร์ทั่วโลก ณ งาน World Congress ครั้งที่ 19 ของ AMWC ทราบ เพื่อแชร์งานวิจัยที่เป็นนวัตกรรมของเรากับบุคลากรในแวดวงวิทยาศาสตร์เพื่อการดูแลผิวและการชะลอวัย” ดร. Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านวิทยาศาสตร์ของ Mary Kay Inc. กล่าว

“งาน AMWC ประจำปี 2564 ประกอบด้วยโปรแกรมเกี่ยวกับเวชศาสตร์ด้านความงามและการชะลอวัยในหลากหลายแง่มุม โดยมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมการศึกษาต่อเนื่องระดับสูง และเรามีความยินดีที่ได้ Mary Kay มาร่วมงานในปีนี้ เราหวังว่าเราได้สร้างความสำเร็จในการช่วยให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะแลกเปลี่ยนความคิดใหม่ ๆ และแบ่งปัน ‘know-how’ ในสาขานี้ไปทั่วโลกให้เกิดขึ้น ดิฉันรู้สึกขอบคุณทีมงานของเรา พันธมิตรจากทั่วโลก ผู้เข้าร่วมงาน และชุมชนวิทยาศาสตร์สำหรับการมีส่วนร่วมของพวกเขา และสำหรับโอกาสที่จะได้รับใช้และตอบสนองความต้องการด้านเวชศาสตร์ความงามและเวชศาสตร์การชะลอวัยของพวกเขาต่อไป” Catherine Decuyper ผู้ก่อตั้งและประธาน EuroMediCom กล่าว

สืบเนื่องจากความสำเร็จของการจัดงาน AMWC ปี 2564 ที่ผ่านมา EuroMediCom จึงได้เตรียมจัดงาน AMWC ประจำปี 2565 ขึ้น ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม ถึง 2 เมษายน 2565 โดยจะจัดในรูปแบบผสมอีกครั้งเพื่อให้ตัวแทนจากทั่วโลกสามารถเข้าร่วมการประชุมระดับโลกด้านเวชศาสตร์ความงามและการชะลอวัย ครั้งที่ 20 ได้ ผู้ที่ลงทะเบียนสามารถเลือกเข้าร่วมงานด้วยตัวเองหรือจะรับชมการประชุมในช่วงต่าง ๆ ผ่านการสตรีมสดได้จากทุกที่ทั่วโลก

งานประชุมวิชาการประจำปีโดยสมาคมยุโรปเพื่อการวิจัยโรคผิวหนัง (ESDR) จะจัดขึ้นในยุโรปในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี สำหรับในปี 2564 ด้วยข้อจำกัดด้านการเดินทางและมาตรการป้องกันโควิด-19 การประชุมประจำปีนี้จึงจัดขึ้นในรูปแบบเสมือนจริง ระหว่างวันที่ 22 ถึง 25 กันยายน 2564 ESDR ให้การสนับสนุนการสืบค้นทางห้องปฏิบัติการทางโรคผิวหนัง (investigative dermatology) โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ป่วยที่ได้รับความทรมานจากโรคผิวหนังและโรคติดเชื้อต่าง ๆ และความผิดปกติของภูมิคุ้มกันมีสุขภาพที่ดีขึ้น และนอกจากนำเสนองานวิจัยแล้ว Mary Kay ยังได้ให้การสนับสนุนการจัดสัมมนาในหัวข้อ Future Leaders in Dermatology ซึ่งเป็นการเปิดงานประชุมอย่างเป็นทางการอีกด้วย

Geetha Kalahasti รองหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ที่ Mary Kay Inc. ได้เผยถึงผลจากการศึกษาทางคลินิกเมื่อไม่นานมานี้ที่ได้ทำการประเมินผลข้างเคียงของสูตรใหม่ซึ่งมีส่วนผสมของไขมันในอัตราส่วนตามธรรมชาติของผิวหนัง สารที่มีฤทธิ์ปิดกั้นตัวรับรู้ความรู้สึกเจ็บปวด (TRPV-1) และสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยลดการหลั่งของโปรอินเฟลมมาทอรีไซโตไคน์

“ที่ Mary Kay เราทุ่มเทกับการทำความเข้าใจในเรื่องชีววิทยาของผิว และการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผิว หัวข้อที่เราให้ความสนใจอยู่ตอนนี้คือความสัมพันธ์ระหว่างผิวที่แพ้ง่ายกับการทำหน้าที่ปกป้องสิ่งแปลกปลอมของผิวหนัง ส่วนผสมแต่ละชนิดจะพุ่งเป้าไปที่แต่ละวิถีทางชีวภาพ (biological pathway) ที่ทำให้ผิวเกิดรอยแดง ผลการศึกษาพบว่าการใช้วิธีการแบบหลายแง่มุมช่วยให้เกราะป้องกันผิวที่ถูกทำลายแข็งแรงขึ้น และยังช่วยลดอาการระคายเคืองที่เกี่ยวข้องกับผิวแพ้ง่ายด้วย” Kalahasti กล่าว

“ในฐานะตัวแทนของคณะกรรมการบริหารของ ESDR ผมอยากแสดงความขอบคุณไปยัง Mary Kay สำหรับการสนับสนุนที่มีต่อ ESDR และการเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมของ ESDR หนึ่งในกิจกรรมที่สำคัญของสมาคมของเราคือการส่งเสริมการนำเสนอข้อมูลวิจัยและแนวคิดใหม่ ๆ และเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ Mary Kay มาเป็นส่วนหนึ่งของงานครั้งนี้” Leopold Eckhart ประธานคณะกรรมการโครงการวิทยาศาสตร์ของ ESDR กล่าว

งานสัมมนาครั้งนี้ได้ช่วยให้นักวิจัยรุ่นใหม่ได้มาพบปะกับนักวิทยาศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับทางด้านโรคผิวหนังและส่งเสริมให้เกิดการทำงานร่วมกัน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ Mary Kay Inc. ให้ความสำคัญอย่างมาก

เกี่ยวกับ MARY KAY

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 2506 โดยมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือ การยกระดับชีวีตของผู้หญิงให้ดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นกับการสร้างพลังให้กับผู้หญิงบนเส้นทางสู่ความเป็นอิสระทางเศรษฐกิจของพวกเธอผ่านการให้ความรู้ การสอน การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ยังอุทิศตัวให้กับการลงทุนทางด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสุดล้ำ รวมถึงเครื่องสำอางแต่งหน้า อาหารเสริมที่อุดมด้วยโภชนาการ และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการยกระดับการใช้ชีวิตในวันนี้เพื่อวันข้างหน้าที่ยั่งยืน โดยได้ร่วมกับองค์กรจากทั่วโลกที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยด้านมะเร็ง ผลักดันความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว สร้างชุมชนของเราให้สวยงาม และสร้างแรงบันดาลใจให้เด็ก ๆ เดินตามความฝัน เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราได้ทาง FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราที่ Twitter

เกี่ยวกับ EUROMEDICOM

EuroMediCom ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2542 โดยเป็นส่วนหนึ่งของการจัดงาน Informa Exhibitions มาตั้งแต่ปี 2553 มีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมทางด้านชีววิทยาศาสตร์และความรู้ผ่านการฝึกอบรมเพื่อสร้างความรู้ และการประชุมและการจัดนิทรรศการ สำหรับงาน AMWC ซึ่งเป็นงานหลัก มีการจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2546 และกลายมาเป็นงานประชุมระดับชั้นนำของโลกด้านเวชศาสตร์ความงามที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การจัดงาน AMWC เกิดขึ้นมาพร้อมความเชื่อมั่นอย่างมากว่าการรักษาเพื่อความงามภายนอกและการชะลอวัยจากภายในสามารถทำได้พร้อม ๆ กันจากการบูรณการสองสิ่งเข้าด้วยกัน นั่นคือ กลยุทธ์ด้านความงามจากวิทยาการด้านผิวหนังและขั้นตอนทางการผ่าตัดเพื่อรูปลักษณ์ภายนอก และศาสตร์การชะลอวัยสำหรับป้องกันการความชราและการยกระดับการรักษาเพื่อความงาม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AMWC คลิกที่นี่: https://www.euromedicom.com/en/home.html

เกี่ยวกับสมาคมยุโรปเพื่อการวิจัยโรค (ESDR)

สมาคมยุโรปเพื่อการวิจัยโรค (ESDR) ก่อตั้งขึ้นในปี 2513 และเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ต้องการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานและระดับคลินิกที่เกี่ยวกับโรคผิวหนัง ESDR เป็นสมาคมด้านการสืบค้นทางห้องปฏิบัติการทางโรคผิวหนังที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและมีสมาชิกราว 1100 คนในปัจจุบัน จากการสนับสนุนการสืบค้นทางห้องปฏิบัติการทางโรคผิวหนังและการวิจัยด้านผิวหนัง ESDR ได้เข้าไปมีส่วนในการสร้างความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการปรับดุลยภาพของผิว และต่อการยกระดับสุขภาพของผู้ป่วยที่ได้รับความทรมานจากโรคเกี่ยวกับผิวหนังและกามโรค โรคติดเชื้อต่าง ๆ และความผิดปกติเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันและการอักเสบ ESDR ช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการสืบค้นทางห้องปฏิบัติการทางโรคผิวหนังระหว่างแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก และยังเป็นผู้จัดงานเพื่อให้ความรู้ต่าง ๆ ตลอดทั้งปีเพื่อต่อยอดความรู้ในงานวิจัยด้านผิวหนังต่อไป สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่: https://esdr.org/

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220113005071/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. ฝ่ายสื่อสารองค์กร
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย



RECOGNIZE บริษัทการลงทุนด้านเทคโนโลยี ปิดการระดมทุนเพื่อการเติบโต 1.3 พันล้านดอลลาร์ ทำให้การลงทุนเชิงกลยุทธ์สามรายการเป็นอันเสร็จสิ้นสมบูรณ์

Logo

Recognize จะลงทุนและร่วมมือกับผู้ประกอบการและผู้ก่อตั้งเพื่อสร้างบริษัทให้บริการด้านเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่แตกต่าง ซึ่งนำโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและการลงทุนที่มีประสบการณ์ อย่าง Frank D’Souza, Raj Mehta, Charles Phillips และ David Wasserman

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–13 ม.ค. 2565

Recognize แพลตฟอร์มการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นเฉพาะในอุตสาหกรรมบริการเทคโนโลยีมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ระดมทุนประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์สำหรับกองทุนในเบื้องต้น  Recognize มุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยียุคหน้าเพื่อแปลงนวัตกรรมเหล่านี้ให้กลายเป็นมูลค่าทางธุรกิจ ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนำพาองค์กรต่าง ๆ ให้พลิกโฉมรูปแบบการดำเนินงานของตน

Recognize มุ่งมั่นที่จะเป็นแพลตฟอร์มที่ไม่เหมือนใคร โดยเชื่อมโยงผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจและผู้ก่อตั้งกิจการที่มีแนวคิดแปลกใหม่ด้วยการลงทุนอย่างมียุทธศาสตร์ ความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติงาน และข้อมูลเชิงลึกของอุตสาหกรรม อนึ่ง ผ่านแพลตฟอร์มของ Recognize นี้ ผู้ประกอบการและผู้ก่อตั้งกิจการจะสามารถเข้าถึงบุคลากรจากเครือข่ายต่าง ๆ ได้แบบเอ็กซ์คลูซีฟ รวมไปถึงความสัมพันธ์ในองค์กรและทรัพย์สินทางปัญญา ตลอดจนแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการดำเนินงาน เพื่อช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ขยายขนาด สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

บริษัทก่อตั้งขึ้นโดยทีมผู้คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมที่มีภูมิหลังที่หลากหลายและประสบการณ์อันยาวนานในการสร้างบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกและการลงทุนเชิงกลยุทธ์ ทีมงานประกอบด้วย Frank D'Souza (ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีต CEO ของบริษัทให้บริการด้านเทคโนโลยี Cognizant), Raj Mehta (อดีตประธาน Cognizant), Charles Phillips (อดีตประธานและซีอีโอของบริษัท Infor ซึ่งเป็นบริษัทแบบ SaaS และอดีตประธานบริษัทซอฟต์แวร์ Oracle) และ David Wasserman (อดีตหุ้นส่วนของ Clayton, Dubilier & Rice บริษัทไพรเวทเอควิตี้)

Recognize ได้ปิดการระดมทุนบนแพลตฟอร์มสามรายการโดยมีพนักงานมากกว่า 4,000 คน ซึ่งเป็นตัวอย่างรูปแบบการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในบริการด้านเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึง Ciklum บริษัทวิศวกรรมดิจิทัลชั้นนำที่ใช้ระบบคลาวด์ซึ่งมีเครือข่ายการจัดส่งทั่วยุโรปตะวันออก SpringML หนึ่งในองค์กรที่ให้บริการ Pure-Play ที่ใหญ่ที่สุดที่เน้นที่ Data, AI/ML และโซลูชัน Google Cloud อื่นๆ และ Torc บริษัทที่กำหนดอนาคตของการทำงานผ่านแพลตฟอร์มความสามารถเสมือนจริงสำหรับวิศวกรซอฟต์แวร์

“ความเร็วของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมทั้งหมด และจำเป็นสำหรับธุรกิจและรัฐบาลที่จะต้องตามให้ทัน” Frank D’Souza ผู้ร่วมก่อตั้งกล่าว “ตลาดบริการเทคโนโลยีมีขนาดใหญ่กว่าอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ 3.5 เท่า แต่ภาคส่วนนี้ดึงดูดเงินทุนจากไพรเวทเอควิตี้ได้เพียงหนึ่งในสามเท่านั้น1 ซึ่งตอกย้ำโอกาสสำหรับนักลงทุนที่มุ่งเน้นที่มีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับอุตสาหกรรมนี้”

Charles Phillips ผู้ร่วมก่อตั้งกล่าวว่า “บริการซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดเสมอมา โดยบริษัทที่ให้บริการไฮบริดรุ่นต่อไปจะใช้เทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ในการส่งมอบบริการของตนมากขึ้น เพื่อสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ทำซ้ำได้ “นอกจากนี้ เรามองเห็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่จะใช้แพลตฟอร์มของเราเพื่อสร้างงานด้านเทคโนโลยีในชุมชนที่ในอดีตเคยด้อยโอกาส”

David Wasserman ผู้ร่วมก่อตั้งกล่าวว่า “เราได้รวบรวมกลุ่มผู้ประกอบการและนักลงทุนที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งมุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ขนะแห่งอุตสาหกรรมรุ่นต่อไป” “เราตั้งตารอที่จะได้ร่วมมือกับบริษัทต่าง ๆ และทีมผู้บริหารที่มีความสามารถเพื่อกำหนดทิศทางในภาคส่วนนี้”

เกี่ยวกับ Recognize

Recognize เป็นแพลตฟอร์มการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เน้นเฉพาะในอุตสาหกรรมบริการเทคโนโลยี บริษัทผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีมีวิสัยทัศน์ ต้องการสร้าง กำหนด จัดการ และดำเนินงานซอฟต์แวร์และกระบวนการทางธุรกิจเพื่อส่งมอบผลลัพธ์ดิจิทัลสำหรับองค์กรต่าง ๆ บริษัทให้ความเชี่ยวชาญด้านการปฏิบัติงาน ข้อมูลเชิงลึกของอุตสาหกรรม และเงินทุนเชิงกลยุทธ์แก่บริษัทที่มีนวัตกรรมในภาคส่วนนี้ การรับรู้นำโดยผู้ที่คร่ำหวอดในอุตสาหกรรม ได้แก่ Frank D’Souza, Raj Mehta, Charles Phillips และ David Wasserman พร้อมด้วยหุ้นส่วนอย่าง Mike Grady, Josh Miller, Deborah Munfa และ Shawn Pride ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.recognize.com.

__________________________

1McKinsey & Co., มิถุนายน  2563

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220113005292/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ

David Meadvin

Recognize@laurelstrategies.com

202-776-7776

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

LightCON เปิดลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับเกมใหม่ Rise of Stars (ROS) ให้ผู้เล่นทั่วโลก

Logo

  • การลงทะเบียนล่วงหน้าทั่วโลกของเกมใหม่อย่าง Rise of Stars (ROS) เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 13 มกราคม
  • เป็นเกมสเปเชียลฟอร์ซแบบ 4x ที่พัฒนาบน WEMIX
  • เปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้าและจำหน่ายล่วงหน้าในรูปแบบของ NFT แล้ว

ซองนัม, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–14 มกราคม 2565

การลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับผู้เล่นทั่วโลกของเกม Rise of Stars (ROS) ซึ่งเป็นเกมมือถือเกมใหม่ที่พัฒนาโดย LightCON บริษัทลูกของ WEMADE MAX (ซีอีโอร่วม:t Hyunguk Chang, Gilhyung Lee) (KOSDAQ: 101730) เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 13 (วันพฤหัสบดี) ที่ผ่านมา

LightCON opened global pre-registration for Rise of Stars (ROS). ROS will provide Silthereum, a new game token, and the Warship Carrier to which NFT is applied. ROS will start global service during the first quarter of this year. (Graphic: Business Wire)

LightCON เปิดให้ลงทะเบียนเกม Rise of Stars (ROS) ล่วงหน้า โดยจะมีโทเค็นซิลเธอเรียม ซึ่งเป็นโทเค็นเกมใหม่ และยานรบแคริเออร์ให้สะสมสำหรับผู้ซื้อ NFT เกม ROS จะเปิดให้เล่นทั่วโลกในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ (กราฟิก: Business Wire)

ROS เป็นเกมบล็อกเชนแบบ 4x เกมแรกที่จะเปิดให้เล่นบนแพลตฟอร์ม WEMIX และมีจุดเด่นเป็นยานรบและดาวเคราะห์ต่าง ๆ ที่ผ่านการออกแบบอย่างประณีตบรรจงโดยมีจักรวาลอันกว้างใหญ่เป็นฉากหลัง

ผู้เล่นจะได้สนุกไปกับการสู้รบเพื่อโจมตีฝ่ายตรงข้ามและค้นหาดาวในกาแล็กซีที่รุ่มรวยไปด้วยทรัพยากรนอกเหนือจากการวางกลยุทธ์เพื่อขยายกำลังผ่านการทำสงครามครั้งใหญ่แบบเรียลไทม์

และที่พิเศษ เกม ROS ยังมีโทเค็นใหม่อย่าง ‘ซิลเธอเรียม’ และ ‘ยานรบแคริเออร์’ ให้สะสมสำหรับผู้ซื้อ NFT ด้วย

การจะได้มาซึ่งซิลเธอเรียมนั้นจะต้องทำการแลกเปลี่ยน ‘อนุภาคซิลเธอ’ ซึ่งเป็นทรัพยากรของเกม และสามารถรวบรวมได้โดยใช้ยานรบแคริเออร์เท่านั้น

และเนื่องจากอนุภาคซิลเธอร์นั้นสามารถหามาได้ด้วยวิธีการปล้นสะดมในกลุ่มผู้เล่นด้วยกัน เราจึงหวังที่จะได้เห็นการต่อสู้แย่งชิงอันดุเดือดเพื่อรักษาทรัพยากรเอาไว้

การลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับผู้เล่นทั่วโลกจะทำผ่าน Google Play และ Apple App Store ซึ่งจะเปิดให้ผู้เล่นจากทุกภูมิภาคลงทะเบียน ยกเว้นจากเกาหลีและจีน และบางประเทศ

และเพื่อเฉลิมฉลองการเปิดลงทะเบียนล่วงหน้านี้ จะมีการจัดกิจกรรมมากมาย รวมถึงการวางจำหน่าย NFT ของเกม ROS ในรอบพรีเซลด้วย

โดยกิจกรรมแรกจะเป็นกิจกรรม airdrop โดยผู้ใช้ 100,000 คนจากบรรดาผู้ที่ลงทะเบียนล่วงหน้าเข้ามาและได้ทำการยืนยันการเข้าร่วมผ่านทางทวิตเตอร์ทางการของ ROS จะได้รับเลือกผ่านการสุ่มเพื่อรับรางวัลเป็นโทเค็นซิลเธอเรียมรวม 1 ล้านโทเค็น

นอกจากนั้นจะมีการจัดงานแจกโทเค็นซิลเธอเรียมราว 1.2 ล้านโทเค็นให้กับผู้ที่ซื้อ NFT ของ ROS ทุกคน รวมถึงผู้ที่ได้รับการสุ่มให้เข้าร่วมงานคอมมิวนิตี้อย่างเป็นทางการด้วย

สำหรับยานรบแคริเออร์ที่มีลักษณะพิเศษจะเปิดให้ซื้อล่วงหน้าผ่านทางแอปพลิเคชัน NFT โดยจะวางจำหน่ายในรูปแบบของกล่องสุ่มที่หน้ากิจกรรมประมูลของ WEMIX ส่วนกิจกรรมพรีเซลจะจัดขึ้นสองครั้ง โดยครั้งแรกจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มกราคม ถึง 3 กุมภาพันธ์ และครั้งที่สองจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 ถึง 17 กุมภาพันธ์

ROS จะเริ่มเปิดให้เล่นเกม ‘ROS บน WEMIX’ ทั่วโลกในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้

– ลิงก์ไปยัง YouTube ของ Rise of Stars: https://youtu.be/2WoKBGyRtls

ดาวน์โหลดรูปภาพ/แกลเลอรี่สื่อมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52560806/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ:

สำหรับ LightCON
Wemade Co., Ltd.
Young Ahn
+82-2-3709-2065
ay2000@wemade.com

Pando Software: Legend of Pandonia เกมใหม่ที่เล่นแล้วได้เงิน หรือ P2E จะวางจำหน่ายในปี 2565

Logo

โซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–14 ม.ค. 2565

Legend of Pandonia (ต่อไปนี้จะเรียกว่า L.o.P) เกมแบบ P2E ใหม่ได้รับการเปิดตัวต่อชาวโลกในวันนี้

Legend of Pandonia (L.o.P), a new P2E game is released. L.o.P is a collection-based strategy action RPG where players can collect and enjoy 120 unique heroes along the arduous journey of Knights striving to find Soul Stones that can give a tremendous power. While playing the game, mPANDO Coins can be earned from plenty of content. Players can make their heroes more powerful by using coins. (Graphic: Business Wire)

Legend of Pandonia (L.o.P) เกมแบบ P2E ใหม่เปิดตัวแล้ว โดย L.o.P เป็นเกมแอ็กชัน RPG แนววางแผนที่ผู้เล่นสามารถรวบรวมและสนุกไปกับฮีโร่กว่า 120 ตัว ตลอดการเดินทางอันยากลำบากของ เหล่าอัศวินที่พยายามค้นหามณีวิญญาน (Soul Stones) ที่สามารถให้พลังมหาศาล ทั้งนี้ ในขณะที่เล่นเกม ก็ยังสามารถเก็บเหรียญ mPANDO Coins ได้จากเนื้อหามากมาย ผู้เล่นสามารถทำให้ฮีโร่ของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นโดยใช้เหรียญได้ (กราฟิก: Business Wire)

ผจญภัยไปกับ 120 วีรบุรุษและสตรีผู้มีเสน่ห์

L.o.P เป็นเกมแอ็กชัน RPG แนววางแผนที่ผู้เล่นสามารถรวบรวมและสนุกไปกับฮีโร่กว่า 120 ตัวตลอดการเดินทางอันยากลำบากของ เหล่าอัศวิน ที่พยายามค้นหามณีวิญญาณ หรือ Soul Stones ที่สามารถให้พลังมหาศาล

ระบบการต่อสู้ L.o.P ที่ไม่เหมือนใครและใช้งานง่าย…เพราะ การสร้างทีมเชิงกลยุทธ์มีความจำเป็น

L.o.P มีฮีโร่หลัก 3 ตัวและตัวละครสนับสนุน 3 ตัว ซึ่งหมายถึงฮีโร่ทั้งหมด 6 ตัวในการต่อสู้ นอกจากนี้ยังมีระบบแท็กที่ช่วยให้ผู้เล่นต่อสู้โดยรวบรวมเกจแท็กและสลับฮีโร่รองและฮีโร่หลักได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ระบบสัมผัส และ ลาก หรือ touch&drag ซึ่งช่วยเคลื่อนย้ายฮีโร่ที่เป็นมิตรหรือกำหนดเป้าหมายการโจมตีโดยตรง ช่วยให้สามารถกำหนดเป้าหมายในการต่อสู้ได้ พร้อมไปกับการทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับระบบการต่อสู้ที่โดดเด่นของ L.o.P โดยใช้ทักษะแบบ active skills ที่สามารถกดใช้ได้ทันที ฯลฯ

ฮีโร่ หกคลาส ซึ่งรวมถึงเรือบันทุก นักรบ นักสู้ระยะประชิด AD carry พ่อมด และฮีโร่สายสนับสนุน ต่างมีห้าคุณลักษณะเฉพาะ: ไฟ น้ำ ลม แสง และความมืด ผู้เล่นสามารถใช้คุณลักษณะเหล่านี้เป็นข้อได้เปรียบในการบรรลุชัยชนะสำหรับการวางโครงสร้างกลยุทธ์ของตน นอกจากนี้ ผู้เล่นยังสามารถกำหนดกลยุทธ์ที่ช่วยให้ได้เปรียบได้โดยใช้ความเข้ากันได้ของแต่ละแอตทริบิวต์

เหรียญจะถูกมอบให้เป็นรางวัลสำหรับเนื้อหา ของ L.o.P เท่านั้น

'ระบบการทำงานร่วมกัน หรือ Synergy system' พิเศษของเกมจะเปิดใช้งานบัฟเสริมพลังสำหรับการวางฮีโร่ที่มีจุดติดต่อในสถานการณ์ไปยังฝ่ายโจมตี การทำงานร่วมกันนั้นมีไว้สำหรับตัวละครสองหรือสามตัว และเมื่อผ่านดันเจี้ยนที่เปิดใช้งานร่วมกัน ผู้เล่นจะได้รับ mPANDO Coins ในแต่ละด่านที่กำหนดไว้

ขณะเล่นเกม  จะสามารถได้รับเหรียญ mPANDO Coins จากเนื้อหามากมาย เช่น การทำภารกิจรายวันให้สำเร็จ รางวัลตามฤดูกาลสำหรับเนื้อหา PVE (หรือ การที่ผู้เล่นต่อสู้กับศัตรูที่ไม่ใช่ผู้เล่นด้วยกัน) Tower of Heroes เวทีสำหรับการแข่งขันจัดอันดับ หรือภารกิจพิชิตความสำเร็จต่าง ๆ

mPANDO coin เป็นเหรียญ MainNet ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานในหลายจุดในเกม ผู้เล่นยังสามารถทำให้ฮีโร่ของพวกเขามีพลังมากขึ้นโดยใช้เหรียญสำหรับ 'Heroes Transcendence' การซื้อตั๋ว 'Arena' การขยายคลังการเก็บไอเท็ม ฯลฯ

ขณะนี้กำลังมีการพัฒนาฟังก์ชันที่ช่วยให้สามารถได้ฮีโร่เพิ่มผ่านการเชื่อมโยงกระเป๋าสตางค์และการขุด (staking)  และได้รับการประกาศว่าจะมีเริ่มใช้งานได้หลังจากมีการอัปเดต L.o.P ครั้งแรก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ L.o.P และการอัพเดทล่าสุด โปรดไปที่ เว็บไชต์อย่างเป็นทางการ, Telegram, Discord, Facebook, Twitter, และ Medium.

ดูการแนะนำ L.o.P ที่ https://drive.google.com/file/d/1G93chZn5YMnEw225PEB8MXK1s8HRKUpM/view?usp=sharing

มีคลังรูปภาพ/มัลติมีเดีย ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52561637/en

ติดต่อ:

Pando Software Inc

Lucia Tanti

+82-70-5100-0815

pr@pandosoft.co.kr

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

GIGABYTE กลับมาเยือนงาน CES อีกครั้ง พร้อมเชิญผู้เข้าร่วมงานมาสำรวจอุตสาหกรรมจากมุมมองที่แตกต่าง

Logo

ไทเป–(BUSINESS WIRE)–14 มกราคม 2565

GIGABYTE เตรียมเข้าร่วมงาน CES ทางออนไลน์ พร้อมส่วนเสริมเว็บไซต์ที่เรียกว่า INDUSTRY เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในอุตสาหกรรม เช่น 5G และโทรคมนาคม ยานยนต์ การสร้างสรรค์และเกม ศูนย์ข้อมูล การผลิต และค้าปลีก

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211229005431/en/

(Graphic: Business Wire)

(กราฟิก: Business Wire)

GIGABYTE ภาคภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กรที่มีความลึกซึ้งอย่างมาก ซึ่งรองรับทั้งเทคโนโลยีคลาวด์ เอดจ์ และศูนย์ข้อมูลหรือดาต้าเซ็นเตอร์ ทั้งยังมีเซิร์ฟเวอร์สำหรับซีพียู AMD EPYC เพียงอย่างเดียวมากกว่า 75 เซิร์ฟเวอร์ รวมถึงเซิร์ฟเวอร์สำหรับซีพียู Intel Xeon แบบขยายได้ และเซิร์ฟเวอร์สำหรับ Ampere Altra CPU มากกว่า 10 เซิร์ฟเวอร์ และที่จะลืมไม่ได้ก็คือเมนบอร์ดสำหรับเซิร์ฟเวอร์กว่า 20 รายการ GIGABYTE ยังมีเซิร์ฟเวอร์สำหรับเทคโนโลยีเอดจ์ที่พัฒนาขึ้นจากสถาปัตยกรรม ARM โดย เซิร์ฟเวอร์ ARM แบบมีความหนาแน่นสูงซึ่งใช้ซีพียูแบบ 80 / 128 คอร์ขนาดใหญ่ของ Ampere เหล่านี้มาพร้อมทั้งประสิทธิภาพ พื้นที่จัดเก็บ เครือข่าย และเหนือสิ่งอื่นใด ความยืดหยุ่นสำหรับนำไปใช้กับเทคโนโลยีโทรคมนาคมเจเนอเรชันใหม่ ซึ่งงานด้านการประมวลผลจะต้องทำที่หน้างาน โซลูชันเซิร์ฟเวอร์ของ GIGABYTE ยังสามารถนำไปใช้ได้กับหลากหลายอุตสาหกรรม รวมถึงได้รับการยกย่องเป็นอย่างสูงจากบริษัทเทคโนโลยีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ หน่วยงานด้านการแพทย์ วิทยาศาสตร์ การวิจัยทางวิชาการ สถาบันสาธารณะ และอื่น ๆ อีกมากมาย และยังได้ให้ความช่วยเหลือองค์กรเหล่านั้นทั้งในด้านนวัตกรรมและการค้นพบใหม่ ๆ ในแขนงของตน

อุตสาหกรรมของเรากำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่โดยมีเทคโนโลยี AI, HPC, IoT และการค้นพบใหม่ ๆ มากมายทำให้เกิดการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ บริษัทของ GIGABYTE ที่ได้รับเงินลงทุนอย่าง MyelinTek Inc. ได้พัฒนาระบบการเรียนรู้เชิงลึก MLSteam ซึ่งรวมสแตกซอฟต์แวร์ AI ที่มีการปรับอย่างเหมาะสมและเครื่องมือการจัดการต่าง ๆ ที่ครอบคลุมในอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย เพื่อให้นักวิทยาศาสตร์ฝึกฝนและพัฒนาการผสานรวม AI สำหรับยานยนต์อัตโนมัติได้ง่ายขึ้น ด้วยการพัฒนาที่รวดเร็วของเทคโนโลยีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS), GIGABYTE ได้ออกแบบหน่วยควบคุมการตัดสินใจสำหรับยานยนต์อัตโนมัติประเภทต่าง ๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์แบบปรับแต่งเอง เช่น ชุดควบคุมอิเลกทรอนิกส์ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง อุปกรณ์ควบคุมการรับส่งข้อมูลทางไกล เพื่อช่วยให้นักออกแบบยานพาหนะสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ตามต้องการและพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์

GIGABYTE มีประสบการณ์หลายปีที่ได้รับการยอมรับทางด้านคอมพิวเตอร์แบบฝัง และได้นำเจเนอเรชันใหม่ล่าสุดของระบบฝังมาเพิ่มความสามารถในการทำงานของการจัดเก็บ การขนส่ง และโรงงานผลิต ขณะที่ลดการใช้แรงงานและต้นทุนด้านบริหารจัดการด้วยนวัตกรรม AGV, AMR และระบบรักษาความปลอดภัยอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม ในยุคหลังสิ้นสุดโรคระบาด โซลูชันระบบฝังของ GIGABYTE ที่ผสานรวมเข้ากับเทคโนโลยี AI และ IoT จะช่วยให้การดำเนินการและการบริหารจัดการการเช่าพื้นที่เปิดเป็นไปอย่างอัตโนมัติ และช่วยให้บริการใหม่ ๆ เช่นนี้เจริญรุ่งเรือง

ชื่อเสียงของ GIGABYTE เรื่องการคิดค้นผลิตภัณฑ์ระดับแถวหน้าที่มาพร้อมการออกแบบโมดูลควบคุมแรงดันไฟฟ้า (VRM) และการออกแบบความร้อนที่ล้ำสมัย ทำให้การทำโอเวอร์คล็อกในซีพียู Intel® Core™ ใหม่ล่าสุดเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพ เมนบอร์ดตระกูล Z690 ยังมอบคุณสมบัติและพลังที่เหนือกว่าสำหรับทั้งครีเอเตอร์มืออาชีพและเกมเมอร์ ประสิทธิภาพคือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ทั้งการเล่นเกมที่สมจริงและขั้นตอนการทำงานที่ลื่นไหล และ GIGABYTE ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องประสิทธิภาพเหนือสิ่งอื่นใดสำหรับโน้ตบุ๊กสำหรับเล่นเกมตระกูล AORUS เจเนอเรชันนี้ และโน้ตบุ๊กสำหรับครีเอเตอร์ตระกูล AERO

เมื่อไม่นานมานี้ GIGABYTE ได้เปิดตัว INDUSTRY เพื่อสาธิตผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่สำคัญที่สุดสำหรับแต่ละอุตสาหกรรม โดยหนึ่งในไฮไลต์ที่น่าสนใจที่สุดของแพลตฟอร์มดังกล่าวคือฟังก์ชันแชตสด ซึ่ง GIGABYTE ได้จัดให้มีผู้เชี่ยวชาญที่รู้ลึกเกี่ยวกับอุตสาหกรรมนั้น ๆ ไว้คอยตอบคำถาม รวมถึงข้อซักถามอื่น ๆ จากผู้เข้าชมงาน CES และผู้ซื้อเช่นเดียวกับการจัดงานในสถานที่จริงผ่านแชตสด โดยการแชตสดนั้นใช้ตัวตนจำลองที่สร้างจาก AI ในการแสดงสถานะของผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเตรียมต้อนรับเทคโนโลยี ‘metaverse’ ซึ่งโลกเสมือนจริงและโลกแห่งความเป็นจริงผสานเข้าด้วยกัน แพลตฟอร์ม INDUSTRY จะมีทั้งผลิตภัณฑ์และโซลูชันทั้งหมดที่ GIGABYTE เตรียมนำเสนอในงาน CES รวมถึงหัวข้อที่กำลังเป็นที่นิยมซึ่งเป็นไฮไลต์ของงาน และอีกมากมาย GIGABYTE ยินดีต้อนรับผู้เยี่ยมชมทุกคนที่จะมาเชื่อมต่อถึงกันผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลนี้ และมองอุตสาหกรรมของตนจากอีกมุมมอง

INDUSTRY: https://industry.gigabyte.com

เยี่ยมชม GIGABYTE บน CES Digital ที่: https://gbte.tech/ces2022

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211229005431/en/

ติดต่อ:

สื่อ: Michael Pao brand@gigabyte.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

โตชิบาเปิดแนวทางสู่อุปกรณ์สวมใส่และอุปกรณ์ IoT ที่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นด้วยชิป IC ใหม่

Logo

กระแสไฟสงบต่ำพิเศษที่เล็กมาก[1] โหลดสวิตช์ IC ให้ผลในการปรับปรุงประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก

คาวาซากิ ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–13 มกราคม 2565

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“โตชิบา”) ได้เปิดตัว “TCK12xBG Series” ของ IC โหลดสวิตช์ซึ่งให้กระแสไฟสงบที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด[1] และอัตรากระแสไฟขาออกที่ 1A โดย IC ใหม่นี้บรรจุอยู่ในแพ็คเกจ WCSP4G ขนาดเล็กที่จะสนับสนุนนักพัฒนาผลิตภัณฑ์ในการสร้างสรรค์อุปกรณ์สวมใส่และอุปกรณ์ IoT รุ่นใหม่ที่ใช้พลังงานน้อยลงและให้อายุการใช้งานการชาร์จที่ยาวนานขึ้น โดยเริ่มจัดส่งได้แล้ววันนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220112005404/en/

Toshiba: load switch ICs “TCK12xBG Series” that deliver a remarkable decrease in quiescent current in a small WCSP4G package for wearables and IoT devices. (Graphic: Business Wire)

โตชิบา: โหลดสวิตช์ IC รุ่น “TCK12xBG Series” ที่ให้กระแสไฟสงบที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดซึ่งบรรจุอยู่ในแพ็คเกจ WCSP4G ขนาดเล็กสำหรับอุปกรณ์สวมใส่และอุปกรณ์ IoT (กราฟิก: Business Wire)

TCK12xBG Series ใช้วงจรไดรเวอร์ใหม่ ซึ่งรับรู้กระแสไฟสงบ ON-state ทั่วไปที่ 0.08nA[1] ทั้งนี้แสดงให้เห็นในส่วนที่ลดลงร้อยละ 99.9 จากผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของโตชิบารุ่น “TCK107AG” ซึ่งเป็นความก้าวหน้าอย่างมากในด้านประสิทธิภาพที่จะช่วยให้อุปกรณ์สวมใส่และอุปกรณ์ IoT ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ขนาดเล็กทำงานได้ยาวนานขึ้นเป็นอย่างมาก

WCSP4G เป็นแพ็คเกจใหม่ที่พัฒนาขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์นั้น มีขนาดเล็กกว่า TCK107AG ประมาณร้อยละ 34 เพียง 0.645×0.645 มม. ซึ่งช่วยให้สามารถติดตั้งบนบอร์ดขนาดเล็กได้ การเคลือบด้านหลังสามารถลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับชิปเล็ก ๆ ในกระบวนการติดตั้งได้

โตชิบาได้เตรียมกลุ่มผลิตภัณฑ์ IC สามรุ่นได้แก่: TCK127BG พร้อมการคายประจุอัตโนมัติซึ่งจะเปิดสวิตซ์แบบ active high รุ่น TCK126BG ไม่มีการคายประจุอัตโนมัติที่เปิดสวิตช์แบบ active high และรุ่น TCK128BG ที่มีการคายประจุอัตโนมัติซึ่งจะเปิดเปิดสวิตช์แบบ active low สิ่งนี้ทำให้นักพัฒนาผลิตภัณฑ์และนักออกแบบมีอิสระในการเลือกโหลดสวิตช์ IC ที่เหมาะสมกับความต้องการในการออกแบบมากที่สุด

โตชิบาจะยังคงปรับปรุงผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่กระแสไฟสงบที่ต่ำต่อไป เพื่อสนับสนุนการลดขนาดอุปกรณ์และการใช้พลังงานที่ลดลง และเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

การใช้งาน

  • อุปกรณ์สวมใส่ อุปกรณ์ IoT สมาร์ทโฟน (สวิตช์เปิดและปิดแหล่งจ่ายไฟสำหรับเซ็นเซอร์ ฯลฯ)
  • การเปลี่ยนวงจรโหลดสวิตช์ที่เกิดจากเซมิคอนดักเตอร์แบบแยกส่วน อย่างเช่น MOSFET ทรานซิสเตอร์ เป็นต้น

คุณสมบัติ

  • กระแสไฟสงบที่ต่ำมาก (ON state)[1]: IQ=0.08nA (typ.)
  • กระแสไฟสแตนด์บายที่ต่ำ (OFF state): IQ(OFF)+ISD(OFF)=13nA (typ.)
  • แพ็คเกจ WCSP4G ขนาดกะทัดรัด: 0.645×0.645มม. (typ.), t:0.465มม. (max.)
  • การเคลือบด้านหลังที่ช่วยลดความเสียหายในกระบวนการติดตั้งบอร์ด

หมายเหตุ:
[1] ในบรรดาโหลดสวิตช์ IC ที่มีขนาดแพ็คเกจกะทัดรัดไม่เกิน 1 ตร.มม. และกระแสไฟขาออกที่ 1A ผลสำรวจของโตชิบา ณ มกราคม 2565

ข้อมูลจำเพาะหลัก

(@Ta=25°C เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น)

หมายเลขส่วน

TCK126BG

TCK127BG

TCK128BG

แพ็คเกจ

ชื่อ

WCSP4G

ประเภทขนาด (มม.)

0.645×0.645,

t:0.465 (max)

พิกัดสูงสุดสัมบูรณ์

แรงดันไฟขาเข้า VIN (V)

-0.3 to 6.0

แรงดันไฟควบคุม VCT (V)

-0.3 to 6.0

กระแสไฟขาออก IOUT (A)

DC

1.0

Pulse

2.0

การกระจายไฟฟ้า PD (W)

1.0

ช่วงการใช้งาน

(@Ta_opr=

-40 to 85°C)

แรงดันไฟขาเข้า VIN (V)

1.0 to 5.5

กระแสไฟขาออก IOUT max (A)

1.0

ลักษณะทางไฟฟ้า

กระแสไฟสงบ
(ON state)

IQ typ. (nA)

@VIN=5.5V

0.08

กระแสไฟสแตนด์บาย(OFF state)

IQ(OFF) + ISD(OFF) typ. (nA)

@VIN=5.5V

13

แรงต้านทานสถานะเปิด
RON typ. (mΩ)

@VIN=5.0V, IOUT= -0.5A

46

@VIN=3.3V, IOUT= -0.5A

58

@VIN=1.8V, IOUT= -0.5A

106

@VIN=1.2V, IOUT= -0.2A

210

@VIN=1.0V, IOUT= -0.05A

343

ลักษณะทาง AC

VOUT rise time tr typ. (μs)

@VIN=3.3V

363

363

363

VOUT fall time tf typ. (μs)

125

32

32

เปิดแบบหน่วง tON typ. (μs)

324

324

324

ปิดแบบหน่วง tOFF typ. (μs)

10

10

10

ฟังก์ชันการคายประจุอัติโนมัติ

Built-in

Built-in

เปิด/ปิด การควบคุมแบบลอจิก

Active High

Active High

Active Low

ตรวจสอบตัวอย่างและความพร้อมจัดส่ง

Buy Online

Buy Online

Buy Online

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ติดตามลิงก์ด้านล่าง
TCK126BG
TCK127BG
TCK128BG

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโหลดสวิตช์ IC ของโตชิบา ติดตามลิงก์ด้านล่าง
Load Switch ICs

หากต้องการตรวจสอบความพร้อมของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ กรุณาเยี่ยมชมได้ที่:
TCK126BG
TCK127BG
TCK128BG

สอบถามข้อมูลสำหรับลูกค้า
Small Signal Device Sales & Marketing Dept.
โทร: +81-44-548-2215
ติดต่อเรา

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ
* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลการติดต่อเป็นปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และสตอเรจขั้นสูง ใช้ประสบการณ์และนวัตกรรมกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจในเซมิคอนดักเตอร์แบบแยกระบบ LSIs และผลิตภัณฑ์ HDD ที่โดดเด่น

พนักงานของบริษัท 22,000 คนทั่วโลกร่วมกันมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุดและเน้นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อส่งเสริมการร่วมสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ ด้วยยอดขายประจำปีที่สูงกว่า 710 พันล้านเยน (6.5 พันล้านดอลลารสหรัฐ) Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ตั้งตารอที่จะสร้างและมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุกที่

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220112005404/en/

สอบถามสำหรับสื่อ:
Chiaki Nagasawa
Digital Marketing Department
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
โทร: +81-44-549-8361
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Black & Veatch Report: กุญแจสำคัญในการบูรณาการพลังงานหมุนเวียนเพื่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพลังงานที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของเอเชีย

Logo

กลยุทธ์เพื่อให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศุนย์นั้นต้องการการพัฒนา จัดการและการรวบรวมระบบการผลิต ระบบการส่งจ่ายพลังงานไฟฟ้า และระบบการจัดจำหน่ายไฟฟ้าที่ดียิ่งขึ้น

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–13 มกราคม 2565

การรวมพลังงานหมุนเวียนให้เข้ากับกริดหรือระบบเครือข่ายพลังงานไฟฟ้า ไม่ได้เป็นเพียงแค่การใช้พลังงานหมุนเวียนแทนการพึ่งพาถ่านหินจำนวนมากในภูมิภาค แต่ยังถือเป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมไฟฟ้าของเอเชีย จากผลการรายงาน Black & Veatch Asia Electric Report ประจำปีนี้

“ผลการรายงานเผยให้เห็นว่าแรงกดดันในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่กำลังเพิ่มจากนักลงทุน ลูกค้ารายใหญ่ และรัฐบาล ตามความต้องการโครงสร้างพื้นฐานยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง” Narsingh Chaudhary รองประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าว “การนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้มากขึ้นกำลังจะเปลี่ยนแปลงธรรมชาติของการจัดการโครงข่ายไฟฟ้า และนี่หมายความว่าผู้ให้บริการไฟฟ้าในเอเชียต้องวางแผนและลงทุนอย่างจริงจังทั่วทั้งระบบของสินทรัพย์ในการผลิต การส่งจ่าย และการจัดจำหน่าย”

ความจำเป็นในการมุ่งเน้นการลงทุนนอกเหนือจากการผลิตไปสู่การส่งจ่ายและการจัดจำหน่ายถูกเน้นความสำคัญตั้งแต่ต้นจนจบของรายงาน ตัวอย่างเช่น ร้อยละ 25 ของผู้ตอบแบบสำรวจในอุตสาหกรรมไม่มั่นใจในประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นของระบบส่งจ่ายและการจัดจำหน่าย นอกจากนี้ ภัยคุกคามสองในสามอันดับแรกในการให้บริการที่น่าเชื่อถือให้แก่ลูกค้ายังถูกระบุว่าเป็นการลงทุนที่ต่ำเกินไปในการส่งจ่ายและการจัดเก็บพลังงานที่ไม่เพียงพอ

Harry Harji รองประธานฝ่ายธุรกิจที่ปรึกษาด้านการจัดการของ Black & Veatch ในเอเชียกล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานกำลังดำเนินไปทั่วทั้งภูมิภาค โดยมากกว่าร้อยละ 80 ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าพวกเขากำลังจัดหาเงินทุนเพื่อการลงทุนด้านพลังงานสะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พลังงานแสงอาทิตย์ดูเหมือนว่าจะได้รับการลงทุนเพิ่มขึ้นในอีกห้าปีข้างหน้า ในขณะที่เกือบครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามคิดว่าไฮโดรเจนจะออกมาเป็นทางเลือกแทนการผลิตก๊าซภายในปี 2573”

การค้นพบที่สำคัญอื่น ๆ ที่เน้นในรายงานได้แก่:

  • มีเพียงร้อยละ 15 ของผู้ตอบแบบสอบถามเท่านั้นที่มองเห็นอนาคตของการลงทุนด้านสินทรัพย์ในการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินหลังจากปี 2578 นอกจากนี้ ร้อยละ 85 เชื่อว่าจะมีการลงทุนในการผลิดไฟฟ้าจากถ่านหินน้อยลงในอีกห้าปีข้างหน้า
  • ในทางตรงกันข้าม ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบครึ่งมองเห็นอนาคตระยะยาวสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์การผลิตไฟฟ้าจากก๊าซหลังจากปี 2578 ในขณะที่อีกร้อยละ 25 คิดว่าการลงทุนจะถูกส่งต่อเพื่อยกระดับโรงงานที่มีอยู่
  • ผลการรายงานข้างต้นสอดคล้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีไฮโดรเจนเพื่อการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ซึ่งกำลังเป็นไปในทางที่ดี ร้อยละ 73 ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าไฮโดรเจนจะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายในการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์มากกว่าเทคโนโลยีอื่น ๆ ในขณะที่ร้อยละ 46 คิดว่าไฮโดรเจนจะถูกนำมาใช้เป็นพลังงานทางเลือกที่สะอาดและราคาไม่แพงเมื่อเทียบกันการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซ
  • อุปกรณ์ควบคุมระบบไฟฟ้าขั้นสูงเป็นอุปกรณ์ที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดในการลงทุนเพื่อปรับปรุงระบบส่งจ่ายไฟฟ้า
  • ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบครึ่งกำลังพิจารณาที่จะปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะในอีก 5 ปีข้างหน้า มากกว่าการบูรณการระบบกริดในแบบอื่นๆ
  • ร้อยละ 35 ของผู้ตอบแบบสอบถามในอุตสาหกรรมกล่าวว่าองค์กรของตนยังไม่มีแผนการในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
  • การรายงานผลยังรวมข้อมูลเชิงลึกจากลูกค้ารายใหญ่ที่ตอบแบบสำรวจเป็นครั้งแรก

หมายเหตุของบรรณาธิการ:

  • ผลการรายงาน Black & Veatch 2022 Asia Electric Report  อิงข้อมูลจากผู้ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน 57 รายที่ดำเนินธุรกิจในเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียตะวันออก และลูกค้าไฟฟ้าเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมจำนวน 33 รายที่ระบุว่าติดตาม Eco-Bussiness ซึ่งเป็นพันธมิตรทางสื่อของเรา ระหว่างวันที่ 23 กันยายน ถึง 28 ตุลาคม 2564 หากต้องการดาวน์โหลดสำเนารายงานโดยไม่มีค่าใช้จ่าย คลิกที่นี่
  • Black & Veatch เพิ่งประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของการดำเนินงาน ซึ่งสอดคล้องกับเมกะเทรนด์ที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรม หากต้องการดูวิดีโอคลิกที่นี่

เกี่ยวกับผลการรายงานทางด้านอุตสาหกรรมของ Black & Veatch

การรายงานที่มีผลกระทบสูงของ Black & Veatch ในชุดก่อนหน้านี้ที่เรียกว่าสิ่งพิมพ์ Strategic Directions ให้ข้อมูลเชิงลึกของอุตสาหกรรมและการวิเคราะห์ตามการวิจัยชั้นนำของตลาด โดยสิ่งพิมพ์ชุดนี้ประกอบด้วยรายงานประจำปีหลายฉบับเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้า น้ำ และภาคอื่น ๆ เพื่อให้ข้อมูลและให้ความรู้แก่ผู้ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับประเด็นสำคัญ ความท้าทาย และโอกาสที่เกิดขึ้น สามารถติดตามรายงานได้ที่ https://www.bv.com/reports เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Black & Veatch

Black & Veatch คือบริษัทออกแบบด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ การให้คำปรึกษา และการก่อสร้างระดับโลกที่มีพนักงานร่วมเป็นเจ้าของ โดยมีประวัติยาวนานกว่า 100 ปีในด้านนวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2458 เป็นต้นมา เราได้ช่วยลูกค้าของเราพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลกโดยการพัฒนาความยืดหยุ่น และคุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของเรา ในปีพ.ศ. 2563 บริษัทมีรายได้รวมในการดำเนินงานกว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดตามเราได้ที่ www.bv.com และทางสื่อสังคม

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220104006073/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลการติดต่อสื่อ:
EMILY CHIA | +65 6335 6623 P | +65 9875 8907 M | Chialp@bv.com
24-HOUR MEDIA HOTLINE | +1 855-999-5991

โตชิบาขยายไลน์ผลิตภัณฑ์อีเทอร์เน็ตบริดจ์ไอซีสำหรับระบบสื่อสารข้อมูลยานยนต์และอุปกรณ์อุตสาหกรรม

Logo

พร้อมด้วยพอร์ต 10Gbps Ethernet AVB/TSN สองพอร์ตและสวิตช์พอร์ต PCIe® Gen 3 สามพอร์ต

คาวาซากิ ญี่ปุ่น–(บิสิเนสไวร์)– 12 ม.ค. 2565

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“โตชิบา”) ได้เพิ่ม “TC9563XBG” ในกลุ่มผลิตภัณฑ์อีเทอร์เน็ตบริดจ์ไอซีเพื่อรองรับการสื่อสาร 10Gbps ในระบบสื่อสารข้อมูลยานยนต์และอุปกรณ์อุตสาหกรรม โดยได้เริ่มจัดส่งตัวอย่างแล้วและการผลิตจำนวนมากจะเริ่มในเดือนสิงหาคม 2565

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220111005566/en/

Toshiba: an Ethernet bridge IC “TC9563XBG” which provides support for 10Gbps communications in automotive information communications systems and industrial equipment. (Graphic: Business Wire)

Toshiba: Ethernet bridge IC “TC9563XBG” ซึ่งรองรับการสื่อสาร 10Gbps ในระบบสื่อสารข้อมูลยานยนต์และอุปกรณ์อุตสาหกรรม (กราฟิก: บิสิเนสไวร์)

เครือข่ายยานยนต์กำลังพัฒนาไปสู่สถาปัตยกรรมโซน[1] โดยที่การสื่อสารระหว่างโซนต่างๆ ใช้การส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์แบบหลายกิกะไบต์[2 ]ผ่านอีเทอร์เน็ตในอัตรา 1Gbps หรือสูงกว่า  สะพาน IC ใหม่เป็น อีเธอร์เน็ต 10Gbps แบบพอร์ตรุ่นแรกของโตชิบาและอินเตอร์เฟซสามารถเลือกได้จาก USXGMII, XFI, SGMII และ RGMII[3]  พอร์ตทั้งสองรองรับ Ethernet AVB[4] และ TSN[5] ซึ่งอำนวยความสะดวกในการประมวลผลแบบเรียลไทม์และการประมวลผลแบบซิงโครนัสตามลำดับ นอกจากนี้ยังสนับสนุน SR-IOV (ฟังก์ชั่นเสมือน) แบบง่าย[6]  การผสมผสานคุณสมบัติเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์ใหม่ทำให้เกิดโซลูชั่นที่เหมาะสมกับเครือข่ายยานยนต์ยุคหน้า

เนื่องจากความเร็วของอุปกรณ์สื่อสารยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ IC ใหม่นี้จึงไม่เพียงแต่ใช้ได้กับสถาปัตยกรรมโซนเท่านั้น แต่ยังใช้ได้กับการใช้งานด้านยานยนต์ต่างๆ เช่น IVI และเทเลเมติกส์ และในอุปกรณ์อุตสาหกรรมด้วย นอกจากนี้ยังถูกกำหนดให้เป็นรุ่นสืบทอดผลิตภัณฑ์ซีรีส์ TC9560 และ TC9562 ปัจจุบันที่รองรับอีเทอร์เน็ต 1Gbps

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีอุปกรณ์จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ได้รับการติดตั้งอินเทอร์เฟซ PCIe สำหรับการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์กับอุปกรณ์ เช่น Wi-Fi® และโฮสต์ SoC มีแนวโน้มที่จะใช้อินเทอร์เฟซ PCIe ไม่เพียงพอ  TC9563XBG มีพอร์ตสวิตช์ PCIe Gen 3 สามพอร์ตสำหรับการสื่อสารกับโฮสต์ SoC และการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่มีอินเทอร์เฟซ PCIe  ส่วนของสวิตช์ PCIe ได้รับการกำหนดค่าด้วยพอร์ตอัปสตรีม 4 เลนหนึ่งพอร์ตสำหรับการเชื่อมต่อกับโฮสต์ SoC และพอร์ตดาวน์สตรีม 1 เลนสองพอร์ตสำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่มีอินเทอร์เฟซ PCIe  การใช้ฟังก์ชันสวิตช์ PCIe แบบ 3 พอร์ตสำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถช่วยลดปัญหาการขาดแคลนอินเทอร์เฟซ PCIe

TC9563XBG จะเป็น AEC-Q100 ระดับ 3[7] ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม

หมายเหตุ:

[1] สถาปัตยกรรมโซน: การกำหนดค่าเครือข่ายที่คาดว่าจะใช้สำหรับเครือข่ายยานยนต์ยุคหน้า ซึ่งยานพาหนะแบ่งออกเป็นหลายโซนที่สื่อสารกันด้วยความเร็วสูงสำหรับการทำงานร่วมกัน

[2] Multi-gig: Multi-Gigabit Ethernet (2.5Gbps ถึง 10Gbps) เครือข่ายยานยนต์ล่าสุดต้องการแบนด์วิดท์ที่มากกว่า 1Gbps

[3] USXGMII, XFI, SGMII, RGMII: มาตรฐานสำหรับอินเทอร์เฟซอีเทอร์เน็ต USXGMII = Universal Serial 10 Gigabit Media อินเทอร์เฟซอิสระ; XFI = อินเทอร์เฟซแบบอนุกรม 10 กิกะบิต; SGMII = อินเตอร์เฟสอิสระของ Serial Gigabit Media; RGMII = อินเทอร์เฟซอิสระสื่อกิกะบิตที่ลดลง

[4] อีเธอร์เน็ต AVB: IEEE802.1 การเชื่อมต่อเสียง/วิดีโอ มาตรฐานสำหรับการจัดการข้อมูลเสียงและวิดีโอโดยใช้เทคโนโลยีมาตรฐานอีเทอร์เน็ต

[5] อีเธอร์เน็ต TSN: IEEE802.1 เครือข่ายที่ไวต่อเวลา มาตรฐานสำหรับการส่งข้อมูลที่มีเวลาแฝงต่ำกว่า AVB

[6] SR-IOV: การจำลองเสมือน I/O รูทเดียว มาตรฐานที่รองรับการจำลองเสมือนบนอุปกรณ์ PCI

[7] AEC-Q100 เกรด 3: มาตรฐานการทดสอบที่กำหนดโดยอุตสาหกรรมยานยนต์เพื่อรับรองความน่าเชื่อถือของไอซี

การใช้งาน

  • สาระบันเทิงสำหรับยานยนต์
  • telematics สำหรับยานยนต์
  • เกตเวย์ยานยนต์
  • อุปกรณ์อุตสาหกรรม

คุณสมบัติ

  • อีเธอร์เน็ต 10Gbps 2 พอร์ต (เลือกได้จาก USXGMII, XFI, SGMII หรือ RGMII)
  • สวิตช์ PCIe Gen3 3 พอร์ต
  • ผ่านการรับรอง AEC-Q100 เกรด 3

ข้อมูลจำเพาะหลัก

หมายเลขชิ้นส่วน

TC9563XBG

CPU Core

Arm® Cortex®-M3

HOST (ภายนอกแอปพลิเคชัน)

อินเทอร์เฟซ

PCIe I/F: Gen3.0 (8GT/s) สวิตช์ 3 พอร์ต อัพ

สตรีม: 1 พอร์ต × 4 เลน

ดาวน์สตรีม: 2 พอร์ตแต่ละช่อง x1 เลน

รองรับสถานะพลังงานต่ำของสถานะย่อย L0s, L1 และ L1 PM เป็นการจัดการพลังงาน

SR-IOV แบบง่าย (ฟังก์ชันเสมือน) พร้อมใช้งาน

อินเทอเฟซยานยนต์

Ethernet AVB, MAC ในตัวพร้อมรองรับ TSN (2 พอร์ต)

อินเทอร์เฟซที่รองรับคือ:

PortA: เลือกได้จาก USXGMII, XFI และ SGMII

PortB: เลือกได้จาก USXGMII, XFI, SGMII และ RGMII

ความเร็วในการสื่อสารคือ:

หากเลือก USXGMII: 2.5G/5G/10Gbps

หากเลือก XFI: 10M/100M/1000M/2.5G/5G/10Gbps

หากเลือก SGMII: 10M/100M/1000M/2.5Gbps

หากเลือก RGMII: 10M/100M/1000Mbps

อินเทอร์เฟซอุปกรณ์ต่อพ่วง

  • เลือกได้จาก I2C หรือ SPI
  • UART 1ch
  • พอร์ตอินเตอร์รัปต์
  • GPIO

การจ่ายแรงดันไฟ

เลือกได้ตั้งแต่ 1.8V/3.3V (IO)

1.8V (USXGMII/XFI/SGMII/RGMII)

1.8V (PCIe, PLL, OSC)

0.9V (Core)

แพ็คเกจ

P-FBGA 220, 10mmx10mm, 0.65mm pitch

ดู URL ด้านล่างสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่

TC9563XBG

ดู URL ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Automotive Ethernet Bridge IC ของโตชิบา

Automotive Ethernet Bridge ICs

* Arm และ Cortex เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Arm Limited (หรือบริษัทในเครือ) ในสหรัฐอเมริกาและ/หรือที่อื่น ๆ

* Wi-Fi เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Wi-Fi Alliance

* PCIe® และ PCI Express® เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ PCI-SIG

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้นๆ

สอบถามข้อมูลลูกค้า

MCU & Digital Device Sales & Marketing Dept.

Contact Us

* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลติดต่อ เป็นข้อมูลล่าสุดในวันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ชั้นนำของโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และการจัดเก็บข้อมูลขั้นสูง โดยใช้ประสบการณ์และนวัตกรรมกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์แบบแยกอิสระ ระบบ LSI และผลิตภัณฑ์ HDD ให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ

พนักงานของบริษัท 22,000 คนทั่วโลกมีความมุ่งมั่นร่วมกันในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สูงสุด และส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในการร่วมสร้างมูลค่าและตลาดใหม่  ด้วยยอดขายประจำปีที่สูงกว่า 710 พันล้านเยน (6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ตั้งตารอที่จะสร้างและมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุกที่

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220111005566/en/

สอบถามข้อมูลสำหรับสื่อ:

Chiaki Nagasawa
ฝ่ายการตลาดดิจิทัล
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
โทร: +81-44-549-8361 semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Thai Herald

Thai Herald