Category Archives: General News

Gradiant ประกาศรายชื่อประธานฝ่ายปฏิบัติการระดับโลกและการว่าจ้างเชิงกลยุทธ์เพื่อการเร่งการเติบโตของธุรกิจ

Logo

บอสตัน–(BUSINESS WIRE)–27 ก.ย. 2565

Gradiant ผู้ให้บริการโซลูชั่นน้ำระดับโลก ประกาศในวันนี้ว่า Govind Alagappan ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานฝ่ายปฏิบัติการระดับโลก โดย Govind มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีในอุตสาหกรรมน้ำ ซึ่งเขาจะนำความรู้เชิงลึกในการขายและความเป็นเลิศในการดำเนินงาน การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และการเติบโตของตลาดทั่วโลกมาให้กับบริษัท อนึ่ง Govind จะรายงานต่อ Prakash Govindan ซึ่งเป็น COO ของ Gradiant

ก่อนบทบาทปัจจุบันของเขา Govind เคยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Evoqua ผู้ให้บริการโซลูชันการบำบัดน้ำและน้ำเสียชั้นนำ และผู้นำด้านการพัฒนาธุรกิจและกลยุทธ์ระดับโลกให้กับ SUEZ Water Technologies ทั้งนี้ ระหว่างดำรงตำแหน่งที่ Evoqua เขาได้พัฒนาและดำเนินกลยุทธ์การเติบโตร่วมกันสำหรับธุรกิจทั้งหมดของ Evoqua ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งภายใต้การนำของเขาได้ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตอย่างต่อเนื่องให้บริษัททุกปี อนึ่ง Govind จะยังคงประจำอยู่ที่สิงคโปร์ต่อไป

“ด้วยการแต่งตั้ง Govind Alagappan ให้ดำรงตำแหน่งประธานของ Global Operations เราได้เพิ่มมิติและความมีชั้นเชิงของทีมผู้นำของ Gradiant ทั้งนี้ เพราะเขามีทักษะและประสบการณ์ที่เหมาะสมในการนำบริษัทผ่านช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้” Prakash Govindan กล่าว “ประวัติการทำงาน ประสบการณ์ระดับนานาชาติ และความตื่นเต้นในการเข้าร่วมกับธุรกิจของเราทำให้เขาเป็นผู้นำในอุดมคติที่จะนำ Gradiant ไปสู่ระดับต่อไปได้สำเร็จ”

Gradiant ยังได้ประกาศการจ้างงานเชิงกลยุทธ์ใหม่ ๆ อื่น ๆ เพื่อเสริมสร้างการเติบโตของธุรกิจ การจ้างงานรอบนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับโซลูชันของ Gradiant ในตลาดอเมริกาเหนือ ส่งเสริมขนาดและการปรับใช้ Gradiant AI ให้กับลูกค้าทั่วโลก และสะท้อนถึงตำแหน่งที่แข็งแกร่งในฐานะบริษัทที่น่าร่วมงานด้วย

  • Delph Mak ผู้อำนวยการอาวุโสของ Gradiant AI Delph เธอเข้ามาร่วมทีมจาก Xylem บริษัทเทคโนโลยีน้ำชั้นนำระดับโลกที่ซึ่งเธอดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการอาวุโสของธุรกิจดิจิทัล นอกจากนี้ เธอยังดำรงตำแหน่งระดับสูงกับ Deloitte Consulting และ Industry Development ของ PUB Singapore Delph เธอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านวิศวกรรมและการจัดการที่ MIT ปัจจุบันเธออาศัยอยู่ในสิงคโปร์
  • Mike Boyd รองประธานฝ่ายขายและพัฒนาธุรกิจ มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีในอุตสาหกรรมน้ำ โดยล่าสุดดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการอาวุโสประจำภูมิภาคของ DuPont Water Solutions Mike เข้าร่วมงานกับ Desalitech หลังจากจบ Series A ในปี 2555 และมีบทบาทนำในการขยายธุรกิจผ่านการออกจากกิจการและการเข้าซื้อกิจการของ DuPont Water Solutions ในปี 2563 ปัจจุบัน Mike ประจำอยู่ที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา
  • John Tracy รองประธานฝ่ายขายและพัฒนาธุรกิจ John มีประสบการณ์รวมกัน 20 ปีในอุตสาหกรรมน้ำ เป็นผู้นำด้านการขายและการตลาดกับ Fluid Technology Solutions และ Oasys Water รวมถึงวิศวกรรมและการขายกับ Osmonics, Betz Labs และ ABB นอกจากนี้ John ยังมีประสบการณ์ 15 ปีในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ในการจัดการผลิตภัณฑ์ กับ Axcelis Technologies และ Akrion เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมเคมีและปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจ John ประจำอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของ Gradiant ในบอสตัน

Gradiant, ซึ่งเป็น “บริษัทเทคโนโลยีน้ำแห่งปี” และ “สถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยม” จากการจัดอันดับของ Global Water Intelligence ปี 2565 กำลังขยายทีมทั่วทั้งสำนักงานทั่วโลก สามารหาตำแหน่งงานว่างได้ใน หน้าอาชีพ ของ Gradiant

เกี่ยวกับ Gradiant

Gradiant เป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นน้ำระดับโลกสำหรับการบำบัดน้ำและน้ำเสียขั้นสูง ด้วยชุดโซลูชั่นแบบครบวงจร end-to-end ที่แตกต่างและเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ ซึ่งขับเคลื่อนโดยความคิดระดับแนวหน้าในด้านน้ำ Gradiant ให้บริการแก่ลูกค้าในการดำเนินงานที่สำคัญต่อภารกิจในอุตสาหกรรมที่สำคัญ ๆ ของโลก Gradiant ก่อตั้งขึ้นที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) และอยู่ในสถานะที่ไม่เหมือนใครเพื่อจัดการกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นของโลกซึ่งเกิดจากอุตสาหกรรม การเติบโตของประชากร และความวิตกกังวลที่เกี่ยวกับน้ำ ปัจจุบัน Gradiant มีพนักงานมากกว่า 450 คน ดำเนินงานจากสำนักงานใหญ่ระดับโลกในบอสตัน สำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาค และห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีระดับโลกในสิงคโปร์ และสำนักงานในอีก 12 ประเทศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.gradiant.com.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220914005489/en/

ติดต่อองค์กร:

Felix Wang

รองประธานฝ่ายการตลาด Gradiant

fwang@gradiant.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Gradiant ได้รับการจัดอันดับสูงในรางวัล Real Leaders ECO Innovation and Great Place to Work ด้านนวัตกรรมของผู้นำและที่ทำงานยอดเยี่ยม

Logo

บอสตัน–(BUSINESS WIRE)–27 ก.ย. 2022

Gradiant ผู้ให้บริการโซลูชั่นระดับโลกและผู้พัฒนาน้ำเทคโนโลยีสะอาด ได้รับรางวัลที่ 7 โลกจาก Real Leaders ECO Innovation Awards 2022 สำหรับบริษัทที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในเชิงบวก และได้รับรางวัล Great Place to Work จากสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคในสิงคโปร์ และห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีระดับโลก

“รางวัลของเราจาก Real Leaders และ Great Place to Work เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงวัฒนธรรมนวัตกรรมและผลกระทบด้านความยั่งยืนของ Gradiant” Anurag Bajpayee ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Gradiant กล่าว “วัฒนธรรมของ Gradiant เป็นแรงบันดาลใจ และผมภูมิใจอย่างยิ่งในทีมของเราที่ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาตินี้ได้  สถานะนี้ตอกย้ำตำแหน่งของเราในฐานะนายจ้างดีเด่น โดยสร้างความแตกต่างและประสบการณ์การทำงานในเชิงบวกสำหรับทีมของเราทั่วโลก เรามุ่งหวังที่จะส่งเสริมวัฒนธรรมในที่ทำงานและประสบการณ์ของพนักงานโดยใช้ข้อมูลจากแบบสำรวจ Great Place to Work”

รางวัล Real Leaders ECO Innovation เป็นเกียรตินิยมสำหรับบริษัทต่างๆ ที่ใช้โซลูชันด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อสิ่งที่ดีกว่า เป็นการจัดอันดับบริษัทระดับโลกประจำปีที่ขับเคลื่อนผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกภาคส่วนที่สำคัญของเศรษฐกิจ โดย Gradiant อยู่ในอันดับที่ 7 ของโลกสำหรับเทคโนโลยี Carrier Gas Extraction (CGE) ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท ซึ่งใช้ในการส่งมอบโซลูชันน้ำที่ยั่งยืนสำหรับเจ้าของแบรนด์ยาที่ติดอันดับ Fortune 500 ในสิงคโปร์  กระบวนการ CGE ของ Gradiant เลียนแบบวัฏจักรฝนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อบำบัดน้ำเสียอุตสาหกรรมโดยใช้กระบวนการทางอุณหพลศาสตร์และส่งผลให้มีอัตราการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ได้ 96% และค่าใช้จ่ายด้านทุนสูงถึง 30% และประหยัดต้นทุนการดำเนินงานได้ 40% เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีของคู่แข่ง

Gradiant Singapore ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น Great Place to Work สำหรับปี 2022 ถึง 2023 โดยได้รับการคัดเลือกจากการสำรวจพนักงาน  Great Place to Work เป็นบริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาอิสระ และกระบวนการรับรองของบริษัทพิจารณาองค์ประกอบมากกว่า 60 ประการของประสบการณ์การทำงานโดยรวม พนักงาน 80% ที่ Gradiant ระบุว่าบริษัทเป็นสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยม เมื่อเทียบกับพนักงานเพียง 53% ในบริษัทระดับโลกทั่วไป 88% ของพนักงานกล่าวว่าพวกเขารู้สึกภาคภูมิใจในงานของตน และ 86% เชื่อว่าฝ่ายบริหารมีความซื่อสัตย์และมีจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ

“บริษัทของเราสร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อแก้ปัญหาความท้าทายด้านน้ำที่สำคัญที่สุดของโลก” Prakash Govindan ผู้ร่วมก่อตั้งและซีโอโอของ Gradiant กล่าว “สิงคโปร์เป็นสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคของเราและเป็นที่ตั้งของ Global Technology Labs ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่วิศวกรของเราแปลนวัตกรรมจากขนาดมาตรฐานไปสู่การค้าอย่างรวดเร็ว เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการยอมรับในด้านนวัตกรรมของเราและยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีที่สุดให้กับทีมงาน  พนักงานที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจและสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่เป็นผู้นำตลาด”

Gradiant ซึ่งเป็น “Water Technology Company of the Year” ในปี 2022 โดย Global Water Intelligence กำลังขยายทีมงานทั่วทั้งสำนักงานทั่วโลก สามารถดูตำแหน่งงานว่างได้ที่ Gradiant

เกี่ยวกับ Gradiant

Gradiant เป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นระดับโลกและผู้พัฒนาโครงการน้ำสะอาดสำหรับการบำบัดน้ำเสียขั้นสูง ด้วยชุดโซลูชั่นแบบ end-to-end ที่โดดเด่นและเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Gradiant ที่ขับเคลื่อนโดยผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำ  Gradiant ให้บริการแก่ลูกค้าในการดำเนินงานที่สำคัญต่อภารกิจในอุตสาหกรรมที่สำคัญของโลก  Gradiant ก่อตั้งขึ้นที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) และอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ซ้ำใครเพื่อจัดการกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นของโลกที่เกิดจากอุตสาหกรรม การเติบโตของประชากร และความเครียดจากน้ำ ปัจจุบัน Gradiant มีพนักงานมากกว่า 450 คน ดำเนินงานจากสำนักงานใหญ่ระดับโลกในบอสตัน  สำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาค และห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีระดับโลกในสิงคโปร์ และสำนักงานใน 12 ประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม www.gradiant.com

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220907005081/en/

ติดต่อ:

สำหรับฝ่ายองค์กร:
Felix Wang
รองประธานฝ่ายการตลาด Gradiant
fwang@gradiant.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

แปซิฟิค ไพร์ม ประเทศไทย คว้ารางวัล New Business Growth 2022 จากแปซิฟิค ครอส

Logo

กรุงเทพมหานคร–(BUSINESS WIRE)–26 กันยายน 2565

แปซิฟิค ไพร์ม ประเทศไทย นายหน้าประกันด้านสุขภาพและผู้เชี่ยวชาญด้านผลประโยชน์ของพนักงานระดับโลก ภาคภูมิใจกับรางวัลล่าสุดที่ได้รับ ซึ่งได้แก่ รางวัล New Business Growth 2022 จาก แปซิฟิค ครอส ประกันสุขภาพ จำกัด (มหาชน) โดยทีม แปซิฟิค ครอส ได้มอบรางวัลดังกล่าวในวันที่ 9 กันยายน 2565 ในงาน Once in a Blue Moon ที่ทางแปซิฟิค ครอสเป็นเจ้าภาพ จัดขึ้น ณ โรงแรมดับเบิ้ลยูในย่านสีลมของกรุงเทพมหานคร พร้อมแขกเข้าร่วมงานกว่า 150 คน

Ricky Batten ผู้จัดการทั่วไปแห่งแปซิฟิค ไพร์ม ประเทศไทย เป็นตัวแทนขึ้นรับรางวัลพร้อมนำสมาชิกทีมเข้าร่วมงานหลายคน หลังแสดงความขอบคุณไปยัง แปซิฟิค ครอส สำหรับ “การจัดงานอันยอดเยี่ยม” แล้ว Batten กล่าวว่า “เรารู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมากสำหรับรางวัลนี้ และผมรู้ว่าผมได้พูดแทนทุกคนที่ แปซิฟิค ไพรม์ นับว่าเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับการยกย่องจากผู้นำอุตสาหกรรมรายอื่น ๆ รวมถึงเพื่อนร่วมวงการของเรา ฉะนั้น ผมขอขอบคุณ ขณะที่เรากำลังเดินหน้าเติบโตต่อไปเรื่อย ๆ พวกเราหวังว่าจะได้สานต่อและสร้างความสัมพันธ์นี้ให้เดินหน้าต่อไป”

แปซิฟิค ไพร์ม เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มแปซิฟิค ไพร์ม ที่เป็นเจ้าของรางวัลและประสบการณ์ในอุตสาหกรรมประกันสุขภาพกว่า 20 ปี บริษัทนายหน้าประกันแห่งนี้ ภาคภูมิใจกับแนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและพันธมิตรของตน ผู้ให้คำปรึกษาที่สามารถพูดได้หลายภาษาและผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี ทีมสำหรับงานด้านสินไหมโดยเฉพาะ รวมถึงบริการที่เพิ่มมูลค่า และระบบจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) ที่ทันสมัยของบริษัทที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความซับซ้อนของกระบวนการด้านการประกันภัยให้กับลูกค้าบุคคลทั่วไปและลูกค้าระดับองค์กร

“Simplifying Insurance” คือคติพจน์ของ แปซิฟิค ไพร์ม สะท้อนผ่านทุกความพยายามของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือเปรียบเทียบแผนที่ใช้ภายในบริษัท หรือการเข้าซื้อบริษัทลูกของธุรกิจเทคโนโลยีประกันภัยอย่าง CXA Group ในฮ่องกงและสิงคโปร์เมื่อปี 2564 เห็นได้ว่า แปซิฟิค ไพร์ม มุ่งลงทุนในการสร้างเครื่องมือที่เป็นเทคโนโลยีของตัวเองเพื่อช่วยให้ลูกค้าค้นหาและเปรียบเทียบโซลูชันด้านประกันสุขภาพที่เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของตัวเอง เครื่องมือเปรียบเทียบแผนยังให้ลูกค้าเข้าถึงแผนประกันสุขภาพที่อิงคู่แข่งในตลาดได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมมีผู้เชี่ยวชาญด้านประกันของบริษัทคอยตอบคำถามและให้การปรึกษาอย่างเป็นกลาง

เกี่ยวกับ แปซิฟิค ไพร์ม ประเทศไทย

แปซิฟิค ไพร์ม ประเทศไทย เป็นบริษัทนายหน้าประกันสุขภาพและผู้เชี่ยวชาญด้านผลประโยชน์ของพนักงานระดับโลก มุ่งเน้นกับการมอบโซลูชันที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าบุคคลทั่วไปและลูกค้าระดับองค์กร แปซิฟิค ไพร์ม ก่อตั้งขึ้นในปี 2543 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในฮ่องกงและสำนักงานกว่า 12 แห่งทั่วโลก ซึ่งรวมถึงในสิงคโปร์ ดูไบ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ แปซิฟิค ไพร์ม ประเทศไทย ได้ที่ https://www.pacificprime.co.th/

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220921005080/en/

ข้อมูลติดต่อสำหรับสื่อ:
Stephen Ho ผู้อำนวยการการตลาด – แปซิฟิค ไพร์ม
+852 3589 0508

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยชิงหวาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเถาหยวน

Logo

ซินจู๋, ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–22 กันยายน 2565

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ศูนย์การแพทย์ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยชิงหวา ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในอาคารซินกง ย่านชิงผู่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของบริษัทรถไฟฟ้าเถาหยวน โดยพื้นที่สำหรับสร้างโรงพยาบาลจะอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเพียงสถานีเดียว

เอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220922005421/en/

At the opening ceremony (right to left): NTHU senior vice presidents Tai Nyan-hwa and Lyu Ping-chiang, NTHU president W. John Kao, Taoyuan City mayor Cheng Wen-tsan, former NTHU president Hocheng Hong, Taoyuan Metro chairman Liu Kun-I, and Taoyuan Aerotropolis chairman Chen Si-jhen. (Photo: National Tsing Hua University)

ในพิธีเปิด (จากขวาไปซ้าย): Tai Nyan-hwa และ Lyu Ping-chiang รองประธานอาวุโสแห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา W. John Kao ประธานแห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา Cheng Wen-tsan นายกเทศมนตรีเมืองเถาหยวน Hocheng Hong อดีตประธานมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา Liu Kun-I ประธานบริษัทรถไฟฟ้าเถาหยวน และ Chen Si-jhen ประธานการพัฒนาเมืองศูนย์กลางการบินเถาหยวน (ภาพ: มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา)

มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวาและรัฐบาลท้องถิ่นเมืองเถาหยวนได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงซึ่งระบุแผนการร่วมกันจัดตั้งศูนย์การแพทย์ระดับโลกเพื่อให้บริการชุมชนท้องถิ่น แผนนี้ยังรวมถึงความช่วยเหลือในการฝึกอบรมครูที่พูดได้สองภาษาและการสนับสนุนการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และการศึกษาที่เน้นการทดลองในโรงเรียนอนุบาล ประถมศึกษา และมัธยมศึกษาของเถาหยวน

ศูนย์การแพทย์ได้เปิดอย่างเป็นทางการโดยนายกเทศมนตรีเมืองเถาหยวน Cheng Wen-tsan และประธานแห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา W. John Kao

นายกเทศมนตรี Cheng มีบทบาทสำคัญต่อโครงการของโรงพยาบาลในช่วงแรก เขาชี้ให้เห็นว่าไต้หวันเก่งทั้งด้านอิเล็กทรอนิกส์และการแพทย์ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ได้เปิดทำการสอนที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา เขาจึงเป็นผู้สนับสนุนและผลักดันมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวาอย่างแข็งขันผ่านความยากลำบากทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขั้นตอนการวางแผน

Cheng ย้ำว่ารถพยาบาลจะใช้เวลาเพียงสิบนาทีจากสนามบินนานาชาติเถาหยวนไปยังห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลแห่งใหม่ และนอกเหนือจากการผ่าตัดเสริมความงามและการตรวจสุขภาพแล้ว โรงพยาบาลยังให้บริการดูแลผู้ป่วยวิกฤตและการบำบัดด้วยการจับยึดนิวตรอนจากธาตุโบรอน (BNCT) อีกด้วย

นอกจากนี้ คาดว่าโรงพยาบาลจะเป็นศูนย์กลางชั้นนำในการพัฒนาเทคโนโลยีการสร้างเซลล์ใหม่ขั้นสูงอีกด้วย

ประธาน Kao กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่สำคัญมากของมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา เนื่องจากสถาบันมีจุดมุ่งหมายในการศึกษาวิชาการด้านการแพทย์มาช้านาน และในที่สุดความฝันก็เกิดขึ้นจริง โดยระบุว่า “วันนี้เป็นก้าวใหม่ในการเดินทาง 50 กิโลเมตรจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวาสู่เถาหยวน ซึ่งดำเนินมายาวนานถึง 66 ปี”

Kao ยังกล่าวอีกว่า ปีนี้อาจเป็น “ปีของการแพทย์” ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา เนื่องจากมีนักศึกษาแพทย์ชุดแรกที่ได้ทำการลงทะเบียนเรียนเมื่อไม่นานมานี้

โรงพยาบาลจะตั้งอยู่ใกล้สถานีเหิงซาน (A16) ของรถไฟฟ้าสายสนามบินนานาชาติเถาหยวน บนพื้นที่ที่เมืองเถาหยวนจัดหาให้ โดยมีขนาด 7.2 เฮกตาร์ ซึ่งพื้นที่ 5 เฮกตาร์จะใช้สำหรับโรงพยาบาลเอง ในขณะที่อีก 2.2 เฮกตาร์ที่เหลือจะใช้สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการสอนและการวิจัยที่เกี่ยวข้อง

Lyu Ping-chiang รองประธานอาวุโสแห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา กล่าวว่า ข้อตกลงการรับสิทธิตามสัญญาสัมปทานจากรัฐบาลในการลงทุนก่อสร้างและดำเนินงาน (BOT) จะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้ และการก่อสร้างจะเริ่มในปีหน้าไม่นานหลังจากการโอนที่ดินเสร็จสิ้น โดยโรงพยาบาลคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2570 และเปิดในปี 2571

ในช่วงแรก โรงพยาบาลจะมีเตียงผู้ป่วยเฉียบพลันทั่วไป 200 เตียง รวมทั้งแผนกผู้ป่วยหนัก หออภิบาลโรคทางเดินหายใจ ห้องแยกผู้ป่วยติดเชื้อแบบความดันลบ และหน่วยจิตเวชสำหรับทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ซึ่งทั้งหมดจะค่อย ๆ ขยับขยายออกไปเป็นเวลาหลายปีเพื่อให้สามารถจุผู้ป่วยได้ถึง 910 เตียง

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220922005421/en/

ติดต่อ:

Holly Hsueh
มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา
(886)3-5162006
hoyu@mx.nthu.edu.tw

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

IDP ประกาศถึงความร่วมมือกับ Intake Education

Logo

สองบริษัทแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก ตัดสินใจร่วมงานัน เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกอย่างแท้จริง

ซิดนีย์–(BUSINESS WIRE)–21 กันยายน 2565

วันนี้ IDP Education รู้สึกเป็นเกียรติ และยินดีต้อนรับ Intake Education, องค์กรแนะแนวศึกษาต่อระหว่างประเทศชั้นนำเข้ามาร่วมงานและเป็นส่วนหนึ่งกับเครือข่ายทั่วโลกของ IDP

ด้วยความสอดคล้องทางด้านวัฒนธรรมองค์กร และเป้าหมายในการสนับสนุนช่วยเหลือแก่นักเรียน และสถาบันการศึกษาต่างๆทั่วโลกอย่างมีคุณภาพ IDP และ Intake Education จึงตัดสินใจทำงานร่วมกันครั้งนี้

Intake จะนำความเชี่ยวชาญกว่าสามทศวรรษ ในฐานะผู้นำธุรกิจด้านการบริการแนะแนวศึกษาต่อในสหราชอาณาจักรเข้าสู่เครือข่ายของ IDP

ปัจจุบัน Intake มีการให้บริการแบบ “Student First” หรือนักเรียนต้องมาเป็นอันดับแรก และมีสาขาครอบคลุมกว่า 10 ประเทศทั่วโลก เจ้าหน้าที่แนะแนวของ Intake ทุกคนจะเป็นกำลังสำคัญ ที่มีความชำนาญและประสบการณ์ที่หลากหลาย พร้อมเข้ามาเสริมทัพกับทีมงานของ IDP ที่มีพนักงานมากกว่า 5,000 คนทั่วโลก

Murray Walton ประธานเจ้าหน้าที่บริหารชั่วคราวของ IDP เผยถึงปัจจัยในการร่วมมือกับ Intake เพราะต้องการให้ IDP สามารถขยายเครือข่ายการให้บริการ การให้ความช่วยเหลือแก่นักเรียนต่างชาติ ให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น

“จากการจับมือร่วมกันระหว่าง IDP และ Intake เราจะก้าวสู่การเป็นผู้นำระดับโลกในการให้บริการช่วยเหลือที่ต้องการศึกษาต่อต่างประเทศ” คุณ Walton กล่าว

Mr Walton กล่าวถึงนโยบายการให้บริการของ Intake ว่า “IDP ชื่นชอบการบริการที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นที่ตั้ง และความต้องการของลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลางของ Intake ซึ่งตลาดในปัจจุบันมีการแข่งขันสูง และมีองค์กรที่หวังแต่ผลตอบแทน โดยไม่คำนึงถึงความต้องการที่แท้จริงของนักเรียน

“เช่นเดียวกับ IDP ทีมงานของ Intake ให้ความสำคัญในการทำงานเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับนักเรียนและพันธมิตรสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ของพวกเขา” คุณ Walton กล่าว

“องค์ของเราทั้งคู่ มีความภูมิใจอย่างยิ่ง ที่จะให้บริการนักเรียนของพวกเรา ตั้งแต่วันที่นักเรียนเริ่มค้นหาข้อมูล จนได้เข้าไปเรียนในชั้นเรียนหรือสาขาวิชาชีพที่พวกเขาต้องการ”

Pieter Funnekotter, ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Intake Education กล่าวว่า Intake จะทำให้ IDP แข็งแกร่งและเติบโตยิ่งขึ้น “การร่วมงานระหว่าง IDP และ Intake จะช่วยขยายตลาดด้านการศึกษาต่อต่างประเทศให้หลากหลาย กว้างขวาง และครอบคลุมพื้นที่ ประกอบกับการมีตัวเลือกสาขาในการศึกษามากขึ้น นอกจากนี้ยังจะช่วยพัฒนาปรับปรุงและสร้างมาตรฐานใหม่ๆ ในการช่วยเหลือและสนับสนุนนักเรียน ให้บรรลุวัตถุประสงค์ และประสบความสำเร็จในการศึกษาต่อต่างประเทศอย่างที่พวกเขาตั้งใจไว้” คุณ Funnekotter กล่าว

IDP จะควบรวมสำนักงานต่าง ๆ ของ Intake ที่ตั้งอยู่ในประเทศต่างๆ ดังนี้  ไนจีเรีย กานา เคนยา ฟิลิปปินส์ ประเทศไทย ไต้หวัน อินเดีย และสหราชอาณาจักร

Mary Kay ท้าทายเยาวชนทั่วโลกในการจัดการเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ 14: ทรัพยากรทางทะเลในเครือข่ายประจำปีที่สามสำหรับ Teaching Entrepreneurship World Series of Innovation Challenge

Logo

การแข่งขันระดับโลกเฉลิมฉลองการเป็นผู้ประกอบการของเยาวชนและพลังแห่งความคิดเชิงนวัตกรรม

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–15 กันยายน 2565

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนองค์กรชั้นนำด้านการเสริมสร้างพลังอำนาจและการเป็นผู้ประกอบการของสตรี ประกาศความท้าทาย World Series of Innovation (WSI) ประจำปีครั้งที่ 3 ร่วมกับ Network for Teaching Entrepreneurship (NFTE) การแข่งขันระดับโลกเชิญชวนให้เยาวชนอายุระหว่าง 13-24 ปี ได้ทดสอบทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษยชาติเผชิญอยู่ในปัจจุบันเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs)

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220915005847/en/

Network for Teaching Entrepreneurship an international nonprofit organization providing entrepreneurship training and educational programs to middle and high school students, college students, and adults (Graphic: Network for Teaching Entrepreneurship)

Network for Teaching Entrepreneurship องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระหว่างประเทศที่จัดการฝึกอบรมผู้ประกอบการและโปรแกรมด้านการศึกษาแก่นักเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลาย นักศึกษาวิทยาลัย และผู้ใหญ่ (กราฟิก: Network for Teaching Entrepreneurship)

การแข่งขัน WSI ของ Mary Kay เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 15 กันยายน ร่วมกับ วันรณรงค์เพื่อโลกสะอาด หรือ World Clean Up Day ความท้าทายของ Mary Kay สนับสนุนให้ผู้ประกอบการรุ่นเยาว์เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่เป็นนวัตกรรมเพื่อจัดการกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติที่ 14: ทรัพยากรทางทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักศึกษาถูกท้าทายให้ออกแบบวิธีแก้ปัญหาเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์และ/หรือการปกป้องระบบนิเวศทางทะเลของโลกและชุมชนชายฝั่ง

“ทุกชีวิตบนโลกเริ่มต้นขึ้นและขึ้นอยู่กับมหาสมุทรของเรา น้ำเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในโลกของเรา และเราไม่เพียงเคารพน้ำเท่านั้น แต่ยังต้องทำหน้าที่ปกป้องน้ำด้วย” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “นักคิดและผู้นำรุ่นต่อไปของโลก กำลังจัดการกับประเด็นสำคัญเหล่านี้และเป็นหัวหอกในการอนุรักษ์ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่าเยาวชนของโลกสามารถช่วยพัฒนาระบบนิเวศและการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลกได้อย่างไร”

ในปีแรกที่ร่วมมือกับ NFTE World Series of Innovation ในปี 2563 โดย Mary Kay สนับสนุนการแข่งขัน WSI challenge สำหรับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติที่ 12: การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน ผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ได้รับการสนับสนุนให้ออกแบบผลิตภัณฑ์ การบริการ หรือความคิดริเริ่มที่ส่งเสริมการนำกลับมาใช้ซ้ำหรือการอัปไซเคิลสิ่งทอ ในปี 2564 Mary Kay สนับสนุนการแข่งขัน WSI challenge ครั้งที่ 2 เพื่อจัดการกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติที่ 5: ความเท่าเทียมทางเพศ นักศึกษาได้รับมอบหมายให้พัฒนาโครงการเพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมในสถานที่ทำงาน และให้เข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจอย่างเท่าเทียมกันสำหรับสตรีและเด็กผู้หญิง

“Mary Kay Global Oceans Conservations Challenge ท้าทายให้ผู้เข้าแข่งขัน WSI รุ่นเยาว์ของเราคิดให้ใหญ่เกี่ยวกับคุณภาพน้ำ” Dr. J.D. LaRock ประธานและซีอีโอของ NFTE กล่าว “ในห้องเรียนนั้นนักศึกษาเรียนรู้ว่าน้ำเป็นพื้นฐานของระบบนิเวศที่ดี การผ่านประสบการณ์เช่น WSI อย่างไรก็ตามพวกเขาได้รับอำนาจในการรักษาทรัพยากรนั้นไว้ พวกเขาสามารถคิดหาวิธีในการดูแลสัตว์ทะเล ปกป้องมหาสมุทร เข้าถึงน้ำดื่มสะอาดได้ในราคาประหยัด ปกป้องแหล่งน้ำจากมลพิษ จัดการกับการบริโภคที่มากเกินไป หรือช่วยรักษาระบบนิเวศของเราสำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป นั่นแหละทรงพลัง”

NFTE เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลกที่ให้การศึกษาด้านการเป็นผู้ประกอบการมาสู่ชุมชนที่มีรายได้น้อย นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อ 35 ปีที่แล้ว NFTE ได้ฝึกอบรมครูผู้สอนหลายพันคนและให้การศึกษาแก่เยาวชนกว่าล้านคนทั่วโลก ทุกฤดูใบไม้ร่วง NFTE เปิดความท้าทายชุดใหม่สำหรับการแข่งขัน WSI และเชิญผู้สนับสนุนองค์กรเพื่อจัดการกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ โดย Citi Foundation นำเสนองาน 2022 NFTE World Series of Innovation และมีความท้าทายที่สนับสนุนโดย Mary Kay Inc., MetLife Foundation, Mastercard, Bank of the West, Link, Maxar, Ernst & Young, LLP (EY), ServiceNow และ Zuora ผู้ชนะสามอันดับแรกจะประกาศในต้นปี 2566

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ World Series of Innovation และความท้าทายทั้งหมด โปรดไปที่ https://innovation.nfte.com/

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 2506 โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือเติมเต็มชีวิตให้กับผู้หญิง ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com พบกับเราบน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220915005847/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Procore ก่อตั้งศูนย์ดำเนินการกลาง EMEA แห่งใหม่ในดับลิน เนื่องจากการเติบโตในระดับภูมิภาคยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องทั่วยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

Logo

  • ศูนย์ดำเนินการกลาง EMEA แห่งใหม่ของ Procore จะสนับสนุนสำนักงานระดับภูมิภาคของบริษัทเพื่อเชื่อมต่อทุกคนที่กำลังก่อสร้างบนแพลตฟอร์มระดับโลก
  • ศูนย์ดำเนินการกลางจะสร้างงานหลายร้อยงานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนที่สำคัญในดับลิน
  • Procore แต่งตั้งหัวหน้า EMEA Hub ให้เป็นผู้นำสำนักงานแห่งใหม่

ดับลิน–(BUSINESS WIRE)–7 ก.ย. 2565

Procore Technologies, Inc. (NYSE: PCOR) ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์การจัดการการก่อสร้างชั้นนำระดับโลก ประกาศเปิดตัวศูนย์ดำเนินการกลาง EMEA แห่งใหม่ในเมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ ซึ่งนี่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ Procore ในภูมิภาคนี้ และความปรารถนาที่จะสนับสนุนฐานลูกค้าที่กำลังขยายตัว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจในการเชื่อมต่อทุกคนในด้านการก่อสร้างบนแพลตฟอร์มระดับโลก

ศูนย์ดำเนินการกลาง EMEA ภายในอาคาร South Point ของดับลิน ณ Harmony Row เป็นเพนต์เฮาส์อยู่บนชั้น 3 และครอบคลุมพื้นที่ 15,000 ตารางฟุต ศูนย์ดำเนินการกลางถูกตั้งขึ้นเพื่อช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของ Procore และสนับสนุนลูกค้าในภูมิภาคนี้ ศูนย์ดำเนินการกลางนี้มีเป้าหมายที่จะสร้างงานหลายร้อยงานในดับลินในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยบริษัทจะดำเนินการจ้างงานในตำแหน่งด้านการขาย การสร้างความสำเร็จด้านลูกค้า และการสนับสนุนลูกค้า เป็นต้น

Procore แต่งตั้ง Ciaran Cushley  ให้เป็นหัวหน้าศูนย์ EMEA เพื่อเป็นผู้นำสำนักงานแห่งใหม่นี้ Ciaran Cushley นำประสบการณ์กว่า 18 ปีมาสู่บริษัท ด้วยประวัติอันยาวนานในการสร้างและเป็นผู้นำทีมที่มีประสิทธิภาพสูงในยุโรปและอเมริกาเหนือสำหรับบริษัทต่าง ๆ เช่นที่ DocuSign เป็นต้น

“ในช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นในการเข้าร่วมงานกับ Procore ผมถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้นำศูนย์ดำเนินการกลางแห่งใหม่ ซึ่งแสดงถึงความทะเยอทะยานของเราในการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วทั้ง EMEA ทั้งนี้ ศูนย์ดำเนินการกลางแห่งใหม่ไม่เพียงแต่จะทำให้การมีอยู่ของเราในภูมิภาคนี้แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อผู้คน ระบบ และข้อมูลของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพบนแพลตฟอร์มเดียว ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากเทคโนโลยีการก่อสร้างได้อย่างเต็มที่” Ciaran Cushley หัวหน้า EMEA Hub ที่ Procore กล่าว

Brandon Oliveri-O'Connor รองประธาน EMEA ที่ Procore กล่าวเสริมว่า “ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา Procore ได้ทำงานเพื่อเชื่อมโยงทุกคนในการก่อสร้างบนแพลตฟอร์มระดับโลก การมีศูนย์ดำเนินการที่เพิ่มขึ้นของ Procore ทั่วยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกาบ่งบอกถึงเป้าหมายระยะยาวของเราในการเป็นแพลตฟอร์มแบบรอบด้านซึ่งสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างทั่วโลก”

Procore จะดำเนินการจ้างงานตำแหน่งต่าง ๆ ในศูนย์ดำเนินการ EMEA แห่งใหม่ ตำแหน่งงานที่กำลังเปิดรับสมัครอยู่ทั้งหมด สามารถดูได้ที่: https://www.procore.com/jobs/openings

เกี่ยวกับ Procore

Procore เป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์การจัดการการก่อสร้างชั้นนำระดับโลก โครงการกว่า 1 ล้านโครงการและปริมาณการก่อสร้างมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถูกดำเนินการบนแพลตฟอร์มของ Procore แพลตฟอร์มของเราเชื่อมโยงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในโครงการทุกรายเข้ากับโซลูชันที่เราสร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมการก่อสร้าง—สำหรับเจ้าของ ผู้รับเหมาทั่วไป และผู้รับเหมาพิเศษ โดย App Marketplace ของ Procore มีโซลูชันพันธมิตรมากมายที่รวมเข้ากับแพลตฟอร์มของเราอย่างราบรื่น ทำให้เหล่ามืออาชีพด้านการก่อสร้างมีอิสระในการเชื่อมต่อกับสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา Procore มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองคาร์พินเทเรีย รัฐแคลิฟอร์เนีย และมีสำนักงานในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และทั่วโลก

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220907005220/en/

ติดต่อ:

Archetype UK สำหรับ Procore

procore@archetype.co

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ความเสมอภาคระหว่างเพศรอไม่ได้ถึง 132 ปี

Logo

ถ้อยแถลงโดย Julia A. Simon ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายและประธานเจ้าหน้าที่ด้านความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างที่ Mary Kay

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–02 กันยายน 2022

ด้านล่างนี้คือถ้อยแถลงโดย Julia A. Simon ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายและประธานเจ้าหน้าที่ด้านความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างของ Mary Kay Inc. ในการเปิดเผยรายงาน Global Gender Gap Report ของ World Economic Forum ประจำปี 2022

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220831005218/en/

Julia Simon, Chief Legal Officer and Chief Diversity & Inclusion Officer (Photo Credit: Mary Kay Inc.)

Julia Simon ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายและประธานเจ้าหน้าที่ด้านความหลากหลายและยอมรับความแตกต่าง (เครดิตภาพ: Mary Kay Inc.)

จากการค้นพบที่มีเหตุผลรอบคอบจากรายงานประจำปี 2022 Global Gender Gap Report ของ World Economic Forum พบว่าความเสมอภาคทางเพศนั้นไกลเกินเอื้อมในช่วงชีวิตของเรา ตามรายงานระบุว่า ต้องใช้เวลา 132 ปีกว่าความเสมอภาคระหว่างเพศจะกลายเป็นความจริง และ 151 ปีเพื่อปิดช่องว่างหญิงชายของการมีส่วนร่วมและโอกาสทางเศรษฐกิจ ไม่มีประเทศใดจาก 146 ที่ตรวจสอบถึงความเท่าเทียมกัน

นั่นคือข่าวร้าย

ส่วนข่าวดี? ยังพอมีเวลาที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด การค้นพบในปี 2022 ทำให้ฉันสั่นคลอน แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางฉัน และไม่ควรขัดขวางคุณ

ความเสมอภาคระหว่างเพศเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นที่ไม่เพียงแต่สำหรับการพัฒนามนุษย์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนอีกด้วย ข้อมูลจำนวนมากแสดงให้เห็นว่าหากไม่มีความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะลดความยากจน บรรลุความมั่นคงด้านอาหาร จัดการกับผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ หรือรับรองสังคมที่สงบสุขและครอบคลุมที่มากขึ้น ความเท่าเทียมทางเพศไม่ใช่สิ่งที่ “น่ามี” ไม่ใช่แค่ผลประโยชน์ของประเทศที่พัฒนาแล้วเท่านั้น แต่เป็นข้อกำหนดที่จำเป็นสำหรับทุกประเทศในการพัฒนาและเจริญรุ่งเรือง

เพื่อบรรเทาความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจะต้องแก้ไขอุปสรรคเชิงโครงสร้างที่จำกัดการมีส่วนร่วมในตลาดแรงงานของสตรี รวมถึงการกลับเข้ามาใหม่และการคงอยู่ในกำลังแรงงานหลังโควิด-19 นโยบายที่กำหนดเป้าหมายซึ่งสนับสนุนการพัฒนาความสามารถของสตรีในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต และซึ่งเร่งความก้าวหน้าไปสู่ตำแหน่งผู้นำและผู้บริหารก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน

ภาคเอกชนมีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาช่องว่างหญิงชายในสถานที่ทำงานและในกระบวนการการพัฒนาสตรีสำหรับตำแหน่งผู้นำ ในฐานะบริษัทที่ก่อตั้งโดยนักธุรกิจสตรีผู้ทำลายอุปสรรคเมื่อเกือบ 60 ปีที่แล้ว นี่เป็นเรื่องเฉพาะตัวของ Mary Kay

ในปี 2019 Mary Kay ได้ลงนามในแนวคิดจากข้อตกลงความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างพลังสตรี Women’s Empowerment Principles (WEPs) และในปี 2021 บริษัทได้กลายเป็นผู้ให้คำมั่นสัญญา (Commitment Maker) ในแนวร่วมปฏิบัติการการประชุมยุคสมัยแห่งความเท่าเทียม Generation Equality Forum Action Coalitions เพื่อเร่งความก้าวหน้าด้านความเสมอภาคระหว่างเพศเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

Mary Kay เข้าร่วมในโครงการ UN Global Compact Target Gender Equality accelerator programme ประจำปี 2022-2023 เพื่อดำเนินการตามเป้าหมายองค์กรที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจสำหรับการเป็นตัวแทนและความเป็นผู้นำของสตรีในบริษัทและในห่วงโซ่อุปทานของเราต่อไป การนำโดยตัวอย่างและสะท้อนความเชื่อของเราในการยอมรับความแตกต่างของสตรีที่เพิ่มขึ้น Mary Kay นำค่านิยมและคำมั่นสัญญาของเราไปปฏิบัติ:

การเป็นตัวแทนและความเป็นผู้นำของสตรีที่ Mary Kay (ข้อมูลจากเดือนสิงหาคม 2022):

  • 62% ของแรงงานทั่วโลกของเราเป็นสตรี
  • 50% ของทีมผู้บริหารของเราเป็นสตรี
  • 53% ของตำแหน่งรองประธานของเราขึ้นไปเป็นสตรี
  • 57% ของตำแหน่งกรรมการของเราขึ้นไปเป็นสตรี
  • 59% ของตำแหน่งผู้จัดการของเราขึ้นไปเป็นสตรี
  • 70% ของผู้นำตลาดของเราเป็นสตรี
  • 60% ของผู้นำของเราในตลาด 10 อันดับแรกของเราเป็นสตรี

การจัดซื้อจัดจ้างและความหลากหลายของซัพพลายเออร์ที่ตอบสนองต่อเพศสภาพที่ Mary Kay (ข้อมูลซัพพลายเชนเฉพาะในสหรัฐฯ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021):

  • 66% ของทีมจัดซื้อจัดจ้างของเราเป็นสตรี
  • 12% ของซัพพลายเออร์ทางอ้อมของเราคือสตรี ชนกลุ่มน้อย หรือทหารผ่านศึกเป็นเจ้าของ
  • 5% ของซัพพลายเออร์โดยตรงของเราคือสตรี ชนกลุ่มน้อย หรือทหารผ่านศึกเป็นเจ้าของ

กลยุทธ์ความยั่งยืน 10 ปีของเราในหัวข้อ Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrowดำเนินการตามแนวทางแบบองค์รวมเพื่อพัฒนาความเสมอภาคระหว่างเพศและการเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้หญิงด้วยสัญญาผูกพันหลักต่อไปนี้เพื่อให้บรรลุภายในปี 2030:

  • มอบอำนาจทางเศรษฐกิจให้กับสตรี 5 ล้านคนทั่วโลก
  • รับรองการเข้าถึงการศึกษาสำหรับสตรีและเด็กผู้หญิง 250,000 คนทั่วโลก
  • ให้ความช่วยเหลือด้านความรุนแรงทางเพศแก่สตรีกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก และ
  • พัฒนาวาระนโยบาย 10 ปีเพื่อแก้ไขปัญหาสิทธิสตรี

ด้วยแรงบันดาลใจจากภารกิจของเราในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการที่ก่อตั้งโดยสตรีเพื่อสตรี เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการของผู้หญิงและขจัดอุปสรรคในการเสริมอำนาจทางเศรษฐกิจของสตรี เรานำวิสัยทัศน์นี้มาสู่องค์การสหประชาชาติในปี 2019 และร่วมกับหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ 6 แห่ง เราได้ก่อตั้ง Women’s Entrepreneurship Accelerator (WEA) เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้ประกอบการสตรี

เวลาที่จะทำคือตอนนี้ การนั่งอยู่นอกเขตสนามและรอ 132 ปีไม่ใช่ทางเลือก การประชุมผลกระทบด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนเรื่อง “Advancing Gender Equality” ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงนิวยอร์กในเดือนนี้ เป็นโอกาสสำหรับผู้นำจากภาครัฐและภาคเอกชนในการกำหนดเครื่องมือและกลยุทธ์ในการปิดช่องว่างหญิงชาย เราเป็นหนี้คนรุ่นต่อไปที่จะระดมความพยายามของเราในการเปลี่ยนแปลงซึ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับสตรีและเด็กผู้หญิง

เกี่ยวกับ MARY KAY

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 1963 โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือเติมเต็มชีวิตให้กับผู้หญิง ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com พบกับเราบน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220831005218/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


การประชุมเกี่ยวกับการก่อสร้างอารยธรรมอารยธรรมนิเวศวิทยาระดับโลกที่เอ๋อไห่ หรือ Erhai Forum on Global Ecological Civilization Civilization Construction ประจำปี 2565 ถูกจัดขึ้นที่เมืองต้าหลี่ มณฑลยูนนาน

Logo

ต้าหลี่, จีน–(BUSINESS WIRE)–30 ส.ค. 2565

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2565 การประชุม Erhai Forum on Global Ecological Civilization Construction ประจำปี 2565 ซึ่งตั้งชื่อตามทะเลสาบ เอ๋อไห่ ที่มีชื่อเสียงในท้องถิ่น ถูกจัดขึ้นที่เมืองต้าหลี่ มณฑลยูนนาน การประชุมประจำปีนี้ใช้หัวข้อ “Working Together to Build a Shared Future for All Life on Earth หรือ ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างอนาคตร่วมกันของทุกชีวิตบนโลก” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความเข้าใจระหว่างประเทศเกี่ยวกับประเทศจีนและคุณค่าทางนิเวศวิทยา แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของประเทศในด้านการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และส่งเสริมการสร้าง ” อารยธรรมนิเวศวิทยาโลก” ในงานนี้มีผู้เข้าร่วมงานหลายร้อยคนจากทั่วประเทศจีนและทั่วโลกที่มารวมตัวกันเพื่อหารือในหัวข้อสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหาเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220830005559/en/

2022 Erhai Forum on Global Ecological Civilization Construction held in Dali, Yunnan Province (Photo: Business Wire)

การประชุม Erhai Forum on Global Ecological Civilization Construction ปี 2565 ที่เมืองต้าหลี่ มณฑลยูนนาน (ภาพ: Business Wire)

การประชุมประจำปีนี้ยังได้เปิดตัว Green Life City Alliance Initiative อย่างเป็นทางการของ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยกระดับระบบนิเวศน์ของเขตเมือง ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาเมืองสีเขียว เผยแพร่แนวคิดเรื่อง “เมืองแห่งชีวิตสีเขียว” และทำให้การสร้างเมืองและการปกครองเป็นสีเขียวมากขึ้น และยั่งยืนมากขึ้น

ต้าหลี่เป็นที่รู้จักมาช้านานในด้านภูมิทัศน์ที่สวยงาม มรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จังหวัดนี้ได้กลายเป็นต้นแบบและแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของจีนในด้านการปกป้องสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปกป้องทะเลสาบเอ๋อไห่ และการอนุรักษ์วัฒนธรรมชนกลุ่มน้อยในท้องถิ่นที่รุ่มรวย ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการจัดประชุมชั้นนำของจีนเกี่ยวกับการก่อสร้างอารยธรรมทางนิเวศวิทยาระดับโลก

ด้วยการเน้นย้ำความสมบูรณ์ของระบบนิเวศในทุกด้านของการพัฒนาท้องถิ่น จังหวัดต้าหลี่มุ่งมั่นที่จะรวบรวมปรัชญาที่มีน้ำที่ใสสะอาดและภูเขาสีเขียวเป็นทรัพย์สินอันล้ำค่า หน่วยงานท้องถิ่นได้ดำเนินโครงการบูรณาการเพื่อฟื้นฟูและปกป้องภูเขา แหล่งน้ำ ป่าไม้ ทุ่งนา ทะเลสาบ และทุ่งหญ้า

นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินการตามขั้นตอนอย่างต่อเนื่องเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ลดมลภาวะทางอากาศและทางน้ำ ปรับปรุงการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และยกระดับคุณภาพสิ่งแวดล้อมของทะเลสาบเอ๋อไห่และพื้นที่โดยรอบ ความพยายามเหล่านี้นำไปสู่การปรับปรุงสภาพแวดล้อมในท้องถิ่นอย่างเห็นได้ชัด ปัจจุบันคุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับสูงตลอดทั่วทั้ง 12 มณฑลและเมืองต่าง ๆ ของจังหวัดต้าหลี่ ด้วยคะแนนคุณภาพอากาศที่ดีเกินร้อยละ 99.5 นอกจากนี้ สัดส่วนของแหล่งน้ำที่รวมอยู่ในการประเมินระดับชาติหรือระดับจังหวัดที่ตรงตามระดับ 3 หรือสูงกว่านั้นเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 60 ในปี 2557 เป็นร้อยละ 90 ในปี 2563

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220830005559/en/

ติดต่อ:

Shelly Wang

info@xinhuaneteurope.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay Inc. เน้นย้ำกลยุทธ์ระดับโลกอย่างยั่งยืนที่การประชุมนานาชาติ Sustainable Future International Conference ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–30 สิงหาคม 2565

เราทุกคนมีความรับผิดชอบในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและโลกรอบตัวเรา ความยั่งยืนต้องเป็นความพยายามร่วมกันและความมุ่งมั่นระดับโลก เมื่อปลายเดือนมิถุนายน การประชุมนานาชาติ Sustainable Future International Conference ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay Inc. จัดขึ้นที่ Martinic Palace อันเก่าแก่ ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก (UNESCO) ผู้นำทางความคิด ผู้เชี่ยวชาญ นักธุรกิจ และผู้บริหารที่ไม่แสวงหาผลกำไรจากหลายอุตสาหกรรมสืบเชื้อสายมาจากพื้นฐานทางประวัติศาสตร์เพื่อแบ่งปัน สร้างเครือข่าย และให้ความรู้แก่ผู้ชมเกี่ยวกับมาตรฐานที่เป็นนวัตกรรมและยั่งยืน เพื่อนำไปใช้ในการต่อสู้เพื่อรักษาทรัพยากรอันมีค่าของโลกสำหรับคนรุ่นปัจจุบันและรุ่นอนาคตได้สำเร็จ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220830005153/en/

“Because of our global footprint, we know our moral imperative is to continue Mary Kay’s legacy of doing the right thing – today, tomorrow, always. We are focused on efficient manufacturing operations by reducing our environmental impact and identifying opportunities for resource improvement. We are challenging ourselves to further entrench sustainable practices in our business through product development, design, responsible sourcing, and mitigation of plastic pollution,” said Edita Szaboova, General Manager of Mary Kay Czech Republic and Slovakia. (Photo Credit: Mary Kay Inc.)

“เนื่องจากพื้นที่ทั่วโลกของเรา เราทราบดีว่าความจำเป็นทางศีลธรรมคือการสานต่อมรดกของ Mary Kay ในการทำสิ่งที่ถูกต้อง ณ วันนี้ พรุ่งนี้ และตลอดไป เรามุ่งเน้นที่การดำเนินการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพโดยการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบุโอกาสในการปรับปรุงทรัพยากร เรากำลังท้าทายตัวเองที่จะยึดมั่นในแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนในธุรกิจของเราต่อไปผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบ การจัดหาอย่างมีความรับผิดชอบ และลดมลภาวะจากพลาสติก” Edita Szaboova ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay สาธารณรัฐเช็กและสโลวาเกียกล่าว (เครดิตภาพ: Mary Kay Inc.)

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนด้านความยั่งยืนมาเป็นเวลานาน ได้จัดจองงานโดยประกาศกลยุทธ์ความยั่งยืนใหม่ในปี 2564: Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow ทั้งนี้ Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow ได้รับการพัฒนาร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักของบริษัท และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ ทำให้ Mary Kay เป็นส่วนสำคัญของกลุ่มพันธมิตรระดับโลกเพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตที่ดีกว่า

การประชุมนานาชาติ Sustainable Future International Conference จัดขึ้นโดย Startup Disrupt ซึ่งเป็นตลาดระดับโลกสำหรับบริษัทสตาร์ทอัพที่ต้องการช่วยเหลือผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ วิศวกร นักพัฒนา นักนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี และอื่น ๆ ให้ประสบความสำเร็จ งานนี้มุ่งเน้นไปที่หัวข้อของเมืองอัจฉริยะ (โครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนา) การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า พลังงานและทรัพยากรหมุนเวียน เศรษฐกิจและนโยบาย) ธุรกิจที่ยั่งยืน (สิ่งแวดล้อม อนุกรมวิธานวิทยา การเงินที่ยั่งยืน) และชีวิตที่ยั่งยืน (เทคโนโลยีเกษตร ขยะอาหาร แฟชันดิสรัป,สมาร์ทฟาร์ม)

วิทยากรที่มีภูมิหลังและประสบการณ์ที่หลากหลายได้แบ่งปันภูมิปัญญาของตนในการประชุม Sustainable Future และเป็นตัวแทนของภาคส่วนต่าง ๆ เช่น ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ ผู้บริหารจากบริษัทขนาดใหญ่และขนาดเล็ก กระทรวง สมาคม สหภาพแรงงาน หอการค้า กลุ่มการลงทุน ผู้กำหนดนโยบาย (คณะกรรมาธิการยุโรป) สถาบันวิทยาศาสตร์และการวิจัย มหาวิทยาลัย และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร

“กลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay เรื่อง Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow ซึ่งยึดติดอยู่กับสามมิติของการพัฒนาที่ยั่งยืนคือ เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม” Edita Szaboova ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay สาธารณรัฐเช็กและสโลวาเกีย กล่าว “เนื่องจากพื้นที่ทั่วโลกของเรา เราทราบดีว่าความจำเป็นทางศีลธรรมคือการสานต่อมรดกของ Mary Kay ในการทำสิ่งที่ถูกต้อง ณ วันนี้ พรุ่งนี้ และตลอดไป เรามุ่งเน้นที่การดำเนินการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพโดยการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบุโอกาสในการปรับปรุงทรัพยากร เรากำลังท้าทายตัวเองที่จะยึดมั่นในแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนในธุรกิจของเราต่อไปผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบ การจัดหาอย่างมีความรับผิดชอบ และลดมลภาวะจากพลาสติก”

“ไม่มีดาวเคราะห์ B! เราควรจำคำขวัญนี้ไว้เสมอ ภายในสหภาพยุโรป หลายบริษัทให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ในการประชุมนานาชาติ Sustainable Future International Conference เราได้แสดงให้เห็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราประสบความสำเร็จที่นี่ในสาธารณรัฐเช็ก และในขณะเดียวกัน เราก็เป็นแรงบันดาลใจให้แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดทั่วโลก Mary Kay ที่มีวิสัยทัศน์ที่แน่วแน่ในด้านความยั่งยืนเป็นพลังใหม่ในการร่วมมือด้วยกัน” Patrik Juránek ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Startup Disrupt กล่าว

การประชุมสุดยอดครั้งต่อไปซึ่งจัดโดย Startup Disrupt จะจัดขึ้นที่สาธารณรัฐเช็กในวันที่ 13 กันยายนที่ Clam-Gallas Palace ในกรุงปราก หัวข้อของการประชุมคือความหลากหลาย (Diversity) ซึ่งจะรวบรวมวิทยากรกว่า 50 คนจากแบรนด์เช็กและแบรนด์ระดับโลกที่หลากหลาย วิทยากรและผู้นำทางความคิดจะเข้าร่วมในการอภิปรายในหัวข้อของความหลากหลาย (Diversity) ความเท่าเทียม (Equity) และการมีส่วนร่วม (Inclusion) (DEI): Biases and Microaggression; Employment of People with Disabilities; Inclusive Design and Innovation, และ Women’s Empowerment เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนเท่านั้น Virginie Naigeon-Malek, Global Head of Sustainability and Social Impact ของ Mary Kay Inc. จะพูดในที่ประชุมสุดยอดในหัวข้อของการเสริมอำนาจของผู้หญิงและการจัดซื้อที่ตอบสนองต่อเพศสภาพเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนโดยรวม

“ทั่วโลก 1 ใน 3 ของธุรกิจเป็นของสตรี อย่างไรก็ตาม โดยเฉลี่ยแล้ว ธุรกิจที่สตรีเป็นเจ้าของทั่วโลกนั้นได้มาน้อยกว่า 1% ของการใช้จ่ายในการจัดซื้อทั้งหมดของบริษัทขนาดใหญ่และรัฐบาล” Virginie Naigeon-Malek กล่าว “สถิติทั้งสองนี้เป็นสองด้านของเหรียญเดียวกัน: ความเป็นจริงที่น่าตกใจที่อยูอีกด้านหนึ่งและโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่รออยู่อีกด้านหนึ่ง นโยบายและแนวทางการจัดซื้อจัดจ้างที่มีประสิทธิภาพสามารถใช้เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการสนับสนุนผู้ประกอบการสตรีในความพยายามของเราที่จะสร้างกลับคืนมาจากผลกระทบทางเศรษฐกิจของการระบาดใหญ่ และคิดใหม่เรื่องการดำเนินธุรกิจด้วยกรอบความคิดของ DEI เพื่อเปลี่ยนไปสู่การเติบโตแบบครอบคลุม ช่องว่างขนาดใหญ่ในการเป็นตัวแทนนำมาซึ่งโอกาสในการดำเนินการเพื่อสนับสนุนธุรกิจของผู้หญิงทั่วโลก ซึ่งเป็นโอกาสพิเศษที่ไม่เพียงแต่จะสร้างกลับให้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ที่สำคัญที่สุดคือการสร้างกลับคืนสู่ความเท่าเทียมกัน”

เกี่ยวกับ MARY KAY

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 2506 โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือเติมเต็มชีวิตให้กับผู้หญิง ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com พบกับเราบน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

เกี่ยวกับ STARTUP DISRUPT

Startup Disrupt ก่อตั้งขึ้นในปี 2563 และมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือดิสรัปเตอร์ด้านธุรกิจและเทคโนโลยีในการเปลี่ยนวิธีคิดแบบ ‘เก่า’ ในอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ และการบริการ แนวคิดนี้สร้างขึ้นโดยผู้คนจากชุมชนผู้ประกอบการทั่วโลกและผู้ที่กระตือรือร้นการเริ่มต้น จุดประสงค์ของ Startup Disrupt คือการเป็นแพลตฟอร์มสตาร์ทอัพที่ออกแบบมาเพื่อให้ความรู้ แรงบันดาลใจ และเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการ ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ นวัตกรเทคโนโลยี และชุมชนสตาร์ทอัพทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ https://www.startupdisrupt.com/

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220830005153/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย