Category Archives: Fashion

Florasis ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องสำอางจากประเทศจีน เปิดตัวบนหน้าจอขนาดใหญ่ MBK ในกรุงเทพฯ แสดงให้เห็นถึงความงดงามของวัฒนธรรมประจำชาติจีน

Logo

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–12 พฤศจิกายน 2563

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การแต่งหน้าแบบจีนและแบรนด์เครื่องสำอางจีนเริ่มเป็นที่นิยมในประเทศไทย ในบรรดาแบรนด์เครื่องสำอางยอดนิยมของประเทศจีน แบรนด์ Florasis มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว 

(Photo: Business Wire)

(ภาพ: Business Wire)

เมื่อเร็ว ๆ นี้  ผลิตภัณฑ์ล่าสุดของ Florasis  "Chinese Miao Ethnic Minority Silver Limited Collection" เปิดตัวบนจอขนาดใหญ่ MBK ในกรุงเทพฯ  หลังจากนี้  China Beauty ฮอตมาก  ผลิตภัณฑ์ชุดนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง Florasis,  Jiaqi Li ซึ่งเป็นผู้ประกาศข่าวแฟชั่นชื่อดังในประเทศจีนและช่างเครื่องเงินแม้วจีน แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของการแต่งหน้าแบบจีนและความงดงามของวัฒนธรรมประจำชาติจีน

ผู้บริโภคที่คุ้นเคยกับแวดวงความงามจะพบแน่นอน   ชุด  "Chinese Miao Ethnic Minority Silver Limited Collection"  ได้จุดประกายการพูดคุยกันบ่อยครั้งบนแพลตฟอร์มโซเชียลเช่น Instagram และ YouTube ตั้งแต่เดือนตุลาคม ชาวเน็ตหลายคนกล่าวว่า "ว้าว! ฉันอยากรู้ว่าจะซื้อได้ที่ไหน"  "ผลิตภัณฑ์ของ Florasis มีคุณภาพสูงเหมือนนำมาจากวังโดยตรง"  พวกเขาแสดงความรักต่อ Florasis โดยไม่ลังเล

แบรนด์เครื่องสำอาง Florasis ก่อตั้งขึ้นในปี 2560  ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีพันธกิจในการสืบทอดและส่งเสริมสุนทรียภาพแบบตะวันออก  ปัจจุบันอยู่ในช่วงของการเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศจีน คาดว่ายอดขายทั้งปีในปี 2563 จะเกิน 500 ล้านดอลล่าร์ 

ตามที่เรารู้กันดีว่า  ผลิตภัณฑ์ ชุด "Chinese Miao Ethnic Minority Silver Limited Collection"  ของ Florasis ได้รับแรงบันดาลใจจากกลุ่มชาวหนึ่งที่เป็นชนกลุ่มน้อย-ชาวแม้ว คนสัญชาติแม้วเป็นคนที่มีความสามารถในการทำเครื่องประดับเงินและงานปัก  เครื่องประดับเงินและงานปักต้องใช้หลายกระบวนการ  และสามารถทำได้ด้วยมือเท่านั้น  ด้วยการพัฒนาในยุคอุตสาหกรรม   ฝีมือเครื่องประดับเงินแม้วก็ยังประสบปัญหาเรื่องมรดก  ดังนั้น Florasis จึงทำเครื่องประดับเงินแม้วบนเครื่องสำอางด้วย เพื่อให้คนอื่น ๆ รู้ว่าประเทศจีนมีเครื่องประดับเงินชาติพันธุ์ที่สวยงามเช่นนี้ 

ดูที่ผลิตภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ของ Florasis เราสามารถพบได้อย่างง่ายว่า Florasis ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์แต่งหน้ามากมายที่มีลักษณะเฉพาะของประเทศจีน Florasis ได้ทำซ้ำงานฝีมือจีนโบราณจำนวนมาก   แสดงให้เห็นถึงสุนทรียภาพและระดับการผลิตของจีนด้วยเครื่องสำอาง  ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของ  Florasis แตกต่างกับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางยอดนิยมในประเทศไทยเป็นอย่างมาก  ทำให้ผู้บริโภคในประเทศไทยสร้างความสดชื่นเกี่ยวกับเครื่องสำอางจีน

ชุด  "Chinese Miao Ethnic Minority Silver Limited Collection"  ของ Florasis ได้เปิดตัวบนหน้าจอขนาดใหญ่ MBK ที่กรุงเทพฯในครั้งนี้  แสดงให้เห็นถึงความงดงามของวัฒนธรรมประจำชาติจีน  ความงามของชาติก็คือความงามของโลก  ในความหลากหลายทางสุนทรียภาพในปัจจุบันนี้ ความสวยงามแห่งชาติสามารถกระตุ้นอารมณ์สะท้อนของผู้คนทั่วโลกได้มากขึ้น ทำให้บุคคลรู้สึกถึงเสน่ห์และอุณหภูมิของผลิตภัณฑ์.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Stephanie Sprangers ผู้ก่อตั้ง Glamhive และ Jennifer Rade สไตลิสต์ของคนดัง Jennifer Rade ประกาศการประชุมสุดยอดด้านสไตล์และความงามแบบดิจิทัลสำหรับฤดูใบไม้ร่วง หรือ Digital Fall Style and Beauty Summit

Logo

การประชุมจะนำผู้นำในอุตสาหกรรมด้านสไตล์และความงามมารวมกัน เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับแฟชั่น ความงาม และสุขภาพ

ซีแอตเทิล และลอสแองเจลิส–(BUSINESS WIRE)–6 พ.ย. 2563

Glamhive ประกาศการประชุมออนไลน์ครั้งที่สามที่จะจัดขึ้นในวันที่ 14 พฤศจิกายน การประชุม Glamhive Digital Fall Style and Beauty Summit จะรวบรวมผู้นำแฟชั่นและความงามระดับแนวหน้าตั้งแต่สไตลิสต์ของ Sarah Jessica Parker ไปจนถึงช่างทำผมของ Kim Kardashian โดย ผู้นำด้านนวัตกรรมจะพูดคุยทุกเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่น สุขภาพ ความงามและอีกหลากหลายประเด็น โดย Stephanie Sprangers และ Jennifer Rade จะเป็นพิธรกรจัดงานร่วมกัน

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20201106005072/en/

The Glamhive Digital Fall Style and Beauty Summit will bring together top fashion and beauty leaders (Graphic: Mary Kay Inc.)

The Glamhive Digital Fall Style and Beauty Summit จะรวบรวมผู้นำแฟชั่นและความงามชั้นนำ (กราฟิก: Mary Kay Inc.)

"ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอด Glamhive LIVE Fall Style and Beauty กับ Stephanie เรารวบรวมเอาสไตลิสต์ ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม ดีไซเนอร์ และผู้ประกอบการที่น่าทึ่งที่สุดในโลกมาไว้ที่นี่ เพื่อแบ่งปันทุกสิ่งที่เราเรียนรู้ ตั้งแต่วิธีเริ่มต้นไปจนถึงกลเม็ดเคล็ดลับในการมีสไตล์ส่วนตัวที่ยอดเยี่ยม "Jennifer Rade สไตลิสต์คนดังและนักออกแบบเครื่องแต่งกายกล่าว Jennifer เป็นหนึ่งในสไตลิสต์ที่มีงานเยอะที่สุดในปัจจุบัน ลูกค้าของเธอมีตั้งแต่ดารา A-List อย่าง Angelina Jolie, Abbie Cornish, Cher และ Jenna Fischer ไปจนถึงนักดนตรี Lady A, Pink, Marilyn Manson, Dave Matthews, Amy Winehouse, Motley Crue และ Tina Turner ผลงานของเธอได้รับการนำเสนอในสิ่งพิมพ์หลายฉบับเช่น W, Vanity Fair, Marie Claire, GQ, Esquire และ Harper's Bazaar

"วิสัยทัศน์ของ Glamhive คือการจัดแต่งทรงผมให้กับทุกคน ทุกที่ และงานดิจิทัลของเราเป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยมในปีนี้ ทำให้เราสามารถนำกิจกรรมของเราไปสู่ทุกคนได้ทุกที่เพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่นและความงามหรือที่ทำงานในอุตสาหกรรมสามารถเรียนรู้จากผู้ที่มีความสามารถเยี่ยมยอดที่สุดในอุตสาหกรรมนี้ได้ "Stephanie Sprangers ผู้ก่อตั้ง Glamhive กล่าว โดย Sprangers เป็นผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Glamhive ซึ่งเป็นบริการจัดแต่งทรงผมส่วนตัวออนไลน์ที่นำเสนอสไตลิสต์ส่วนตัวและช่างแต่งหน้าผู้เชี่ยวชาญจากการคัดเลือกโดยตรงจากฮอลลีวูดและอินสตาแกรม ส่งตรงให้กับทุกคน อนึ่ง Glamhive ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ซึ่งช่วยให้สไตลิสต์สามารถทำให้ลูกค้าพบกับประสบการณ์การจัดแต่งทรงผมออนไลน์ได้ 100% ทำให้ผู้คนสามารถทำงานร่วมกับกับสไตลิสต์ได้ทุกที่ในโลก

กิจกรรมที่ต้องมีตั๋วสำหรับการเข้าร่วมงานนี้ จะเป็นกิจกรรมตลอดทั้งวัน โดยจะมี 22 กลุ่ม (segments) พร้อมกับวิทยากร 50 คน ด้านล่างนี้เป็นภาพรวมของหัวข้อบางส่วนที่จะจะมีการอภิปรายโดยกลุ่มวิทยากรระดับ All-Star ณ งาน

หัวข้อ

  • Zoom Style: สไตล์ที่ยอดเยี่ยม (และสวมใส่สบาย)
  • การกลายมาเป็นแฟชั่นสไตลิสต์
  • Foundations First (การลงรองพื้นเป็นอันดับหนึ่ง)
  • สภาพแวดล้อมในบ้านของคุณส่งผลต่ออารมณ์และสะท้อนสไตล์ของคุณอย่างไร
  • How to Build the Wardrobe of Your Dreams
  • 360 Style — การผสมผสานระหว่างทรงผมการแต่งหน้าและตู้เสื้อผ้า
  • การเป็นผู้ประกอบการ – ความกล้าที่จะก้าวไปเพื่อความฝันของคุณ
  • อนาคตของการเดินพรมแดง
  • สาวฝรั่งเศสสุดชิคและความหลงใหลของเราต่อ Emily in Paris
  • Shape Matters — รักตัวเองและรูปร่างของคุณ
  • Style Your Health –  เพิ่มพลังงานและภูมิคุ้มกันของคุณ
  • Skincare Basics:  การฝึกสอนลูกค้าเกี่ยวกับการดูแลตนเอง
  • Iconic Style + วิธีสร้างความแตกต่างแบบมีสไตล์ของคุณ

วิทยากร:

วิทยากร ได้แก่ สไตลิสต์ของคนดัง ช่างแต่งหน้า ผู้สร้างอิเมจที่ทำงานกับคนดังในฮอลลีวูดและอื่น ๆ ได้แก่ :

Angelina Jolie, Mandy Moore, Sarah Jessica Parker, Kristen Bell, Khloe Kardashian, Robert Downey Jr, Keanu Reeves, Dwayne Johnson, Donald Glover, Sharon Stone, Serena Williams, Miranda Lambert, Julianne Moore, Liv Tyler, และอื่น ๆ

สไตลิสต์ของคนดัง:

Jennifer Rade, Ilaria Urbinati, Erin Walsh, Nicole Chavez, Jeanne Yang, Janelle Miller, Lindsey Dupuis, Tiffany Gifford, Sonia Young, Rachel Wirkus, Kesha McCloud

เมคอัพอาร์ติสต์คนดัง + แฮร์สไตลิสต์:

Danesa Myricks, Andrew Fitzsimons, Daniel Martin, Colleen, Runne, Quinn Murphy, Sheridan Ward, Simedar Jackson และ  Mia Santiago

ผู้ประกอบการ นักออกแบบ และผู้นำทางธุรกิจ

Cindy Eckhert (The Pink Ceiling Fund), Jonathan Sposato (ผู้ก่อตั้ง PicMonkey), Carrie Colbert (Curated Capital), Summer Holl (ประธาน Elyse Walker), Christian Juul Nielsen (Herve Leger | Aknvas), Lucy Aylen (Never Fully Dressed), Dr. Shrereene Idress, Dr. Avanti Kumar Singh

โมเดอเรเตอร์:

Brian Underwood (O the Oprah Magazine), Brooke Jaffe (อดีตผู้อำนวยการฝ่ายแฟชั่น Bloomingdales), Jack Eustace, Nicole Young (E! News), Kibwe Chase Marshall, ผู้ร่วมก่อตั้ง, The Kelly Initiative), Jezlan Moyet

ตั๋วเข้าร่วมการประชุมมีราคา 99 เหรียญ สำหรับการร่วมงานตลอดทั้งวันและยังรวมเพลย์ลิสต์ที่ She-J Nikki Pennie จัดทำขึ้นเป็นพิเศษด้วย ผู้สนับสนุนการนำเสนองาน Glamhive Digital Fall Style and Beauty Summit ได้แก่ Mary Kay และ Mary Kay Global Design Studio ส่วนผู้สนับสนุนอื่น ๆ ได้แก่ NuBra USA, LEO, AKNVAS, NYDJ และอีกมากมาย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.glamhive.com/upcoming.

เกี่ยวกับ Glamhive

Glamhive ก่อตั้งขึ้นโดยผู้ประกอบการ Stephanie Sprangers ในปี 2560 โดยมีวิสัยทัศน์ที่จะทำให้การเสริมภาพลักษณ์และสไตล์ส่วนบุคคลเป็นเรื่องของคนทั่วไป และความเชื่อมั่นที่มาพร้อมกับความงามเย้ายวนใจ (glamour) ไม่ควรเป็นเฉพาะของคนรวยและคนดัง

ประสบการณ์การจัดสไตล์แบบออนไลน์ช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการเชื่อมต่อกับสไตลิสต์ผ่าน WiFi โดยสไตลิสต์จะให้การสนับสนุนแก่พวกเขาเพื่อให้พวกเขาเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของตัวเอง สำหรับสไตลิสต์แล้วมันเป็นแพลตฟอร์มแบบคบวงจรที่ไร้รอยต่อเพื่อช่วยให้พวกเขาขยายเครือข่ายและธุรกิจได้เกือบ 100% แบบโลกออนไลน์

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ฉีกกฎเกณฑ์แบบเดิมได้ก่อตั้งบริษัทด้านความงามของเธอมานานกว่า 56 ปี โดยมีเป้าหมายสามประการ คือ มอบโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และการทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น ความฝันดังกล่าวได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการค้นคว้าวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัยเครื่องสำอางค์สี น้ำหอม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงและครอบครัวด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงภายในครัวเรือน การทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และการส่งเสริมเด็ก ๆให้ทำตามความฝันของตน ดังนั้นวิสัยทัศน์อันดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ในคอนเซปท์ ก้าวไปด้วยกันทีละลิปสติกยังคงส่องสว่างนำทางต่อไป อ่านเพิ่มเติมได้ที่ MaryKay.com.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201106005072/en/

ติดต่อ:

Stephanie Sprangers, ผู้ก่อตั้ง + CEO, Glamhive

stephanie@glamhive.com

+1.206.851.0446

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย





Tommy Hilfiger เร่งการเดินทางสู่ความยั่งยืนด้วยโครงการ “สร้างขึ้นให้ได้”

Logo

ขับเคลื่อนด้วยวิสัยทัศน์ที่จะ 'ไม่สร้างขยะและต้อนรับทุกคน' โปรแกรมเพื่อความยั่งยืนของ Tommy Hilfiger ที่มีชื่อว่า Make it Possible (สร้างขึ้นให้ได้) กำหนดเป้าหมาย 24 ประการและมุ่งสู่ระบบหมุนเวียนและการต้อนรับทุกฝ่ายภายในปี 2573

  • Tommy Hilfiger เข้าใกล้ความยั่งยืนทั้งจากมุมมองด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมโดย Make it Possible มุ่งเน้นไปที่ระบบหมุนเวียนและการต้อนรับทุกฝ่ายตามลำดับ
  • ภารกิจของ Make it Possible คือการสร้างแฟชั่นที่ ‘Wastes Nothing and Welcomes All.’ (ไม่สร้างขยะและต้อนรับทุกคน)
  • โครงการนี้มี 24 เป้าหมายใน 4 เสาหลักภายในปี 2573
  • www.sustainability.tommy.com
  • #TommyHilfiger

AMSTERDAM–(อัมสเตอร์ดัม)–31 ส.ค. 2563

Tommy Hilfiger บริษัทของ PVH Corp. [NYSE: PVH] ประกาศโครงการ Make it Possible แนวทางเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นขององค์กรในการสร้างสรรค์แฟชั่นที่ 'Wastes Nothing and Welcomes All'  ด้วย Make it Possible, Tommy Hilfiger มุ่งสู่ 24 เป้าหมายซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่ระบบหมุนเวียนและการต้อนรับทุกฝ่ายโดยสรุปไว้ในสี่เสาหลักภายในปี 2030:

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200830005002/en/

  • ระบบหมุนเวียนอย่างรอบด้าน: สร้างผลิตภัณฑ์ที่มีระบบหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบและเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่ที่ยั่งยืน
     
  • สร้างขึ้นเพื่อชีวิต: การดำเนินงานที่คำนึงถึงขอบเขตของโลก เช่นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การใช้ที่ดิน มลพิษทางน้ำจืดและเคมี จากสิ่งที่เราซื้อถึงที่ที่เราขาย
     
  • ต้อนรับทุกฝ่าย: เป็นแบรนด์ที่เหมาะสมสำหรับแฟน TOMMY ทุกคน โดยต้อนรับทุกฝ่ายและเข้าถึงได้เสมอ
     
  • โอกาสสำหรับทุกคน: สร้างการเข้าถึงโอกาสที่เท่าเทียมกันอย่างไม่มีอุปสรรคต่อความสำเร็จที่ Tommy Hilfiger
     

โครงการของ Tommy Hilfiger ขับเคลื่อนโดยของบริษัทแม่ PVH Corp ที่มีกลยุทธ์ Forward Fashion ซึ่งเป็นชุดลำดับความสำคัญ 15 ประการที่ออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบด้านลบให้เป็นศูนย์ เพิ่มผลกระทบเชิงบวกถึง 100% และปรับปรุงชีวิตกว่า 1 ล้านคนในห่วงโซ่คุณค่าของบริษัท

“ผมเปิดร้านแห่งแรกของผม People's Place ในปี 1969 ในบ้านเกิดของผมที่ Elmira เพื่อให้ผู้คนจากทุกพื้นฐานได้มารวมตัวกันและแบ่งปันประสบการณ์วัฒนธรรมร่วมสมัยที่น่าตื่นเต้น” Tommy Hilfiger กล่าว “ในขณะที่แบรนด์ของเรามีการพัฒนาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยได้รับแรงผลักดันจากจิตวิญญาณการต้อนรับทุกฝ่ายนี้ เราจึงมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม  ด้วยโครงการ Make it Possible เราจะก้าวไปอีกขั้นด้วยความมุ่งมั่นของเรา  เรากำลังดำเนินการตามวิสัยทัศน์ของเราด้วยทั้งองค์กรที่มุ่งเน้นและจะบรรลุเป้าหมายนี้ให้ได้”

“ในช่วงวิกฤตด้านสุขภาพ มนุษย์ สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ เรามีความรับผิดชอบร่วมกันในการค้นหาวิธีการแก้ปัญหาที่เป็นนวัตกรรมที่จะส่งเสริมให้เกิดการรวมตัวกันและสร้างอนาคตที่เป็นระบบหมุนเวียนมากขึ้น” Martijn Hagman ซีอีโอของ Tommy Hilfiger Global และ PVH Europe กล่าว “เป็นธรรมชาติของเราที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงแม้ในช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุด  ด้วยเหตุนี้เราจึงประกาศโครงการ Make it Possible ที่เป็นความทะเยอทะยานของเราโดยสรุปเป้าหมาย 24 ประการภายในปี 2573  Tommy Hilfiger มีประวัติยาวนานนับหลายสิบปีในการขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น รวมถึงการบุกเบิกกระบวนการผลิตยีนส์ที่มีผลกระทบต่ำ การสนับสนุนการดูแลน้ำ และการสร้างคอลเลกชันที่ต้อนรับทุกฝ่ายมากขึ้น  Make it Possible คือวิธีหนึ่งที่เราจะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างอุตสาหกรรมแฟชั่นที่ยั่งยืนยึ่งขึ้น”

Make it Possible ถือเป็นก้าวล่าสุดในการเดินทางสู่ความยั่งยืนของ Tommy Hilfiger  ความสำเร็จที่สำคัญ ได้แก่ การเปิดตัว Tommy Hilfiger Adaptive ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้การแต่งกายง่ายขึ้นสำหรับผู้ใหญ่และเด็กที่มีความพิการและ Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ซึ่งเป็นโครงการระดับโลกที่มุ่งสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพและสเกลอัพที่พัฒนาโซลูชันที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและความยั่งยืนในแฟชั่น  เมื่อไม่นานมานี้ Tommy Hilfiger ได้เปิดตัวโครงการ People's Place เพื่อพัฒนาตัวแทนของชุมชนคนผิวดำ คนพื้นเมือง และคนผิวสี (BIPOC) ในอุตสาหกรรมแฟชั่นและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์  ในปัจจุบันนักออกแบบ Tommy Hilfiger มากกว่า 80% ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับกลยุทธ์การออกแบบระบบหมุนเวียนและในปี 2019 ผ้าฝ้าย 72% ที่ใช้ทั่วโลกมาจากแหล่งที่ยั่งยืน  นอกจากนี้ผ้ายีนส์กว่า 2 ล้านชิ้นยังได้รับการออกแบบให้ลดแรงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งช่วยลดปริมาณน้ำและพลังงานที่ใช้ตามฤดูกาล  แต่ละคอลเลกชั่นคอลเลกชั่นของ TOMMY HILFIGER มีสไตล์ที่ยั่งยืนมากขึ้นในคอลเลกชั่นโดยเห็นได้จากรูปแบบที่ยั่งยืนมากขึ้น 50% สำหรับฤดูใบไม้ผลิปี 2564 ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นสองเท่าจากฤดูใบไม้ผลิปี 2563

โดยตระหนักว่าไม่มีบริษัทใดสามารถเปลี่ยนแนวความยั่งยืนได้เพียงลำพัง Tommy Hilfiger ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของ PVH Corp. ได้เข้าร่วมพันธมิตรในอุตสาหกรรมโดยการลงนาม The Fashion Pact ในเดือนสิงหาคม 2562 รวมทั้งเข้าร่วมโครงการ Ellen MacArthur Foundation Make Fashion Circular และ Jeans Redesign  ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Tommy Hilfiger ได้ร่วมมือกับ WWF เพื่อจัดการกับความเสี่ยงด้านน้ำในสถานที่ตั้งของห่วงโซ่อุปทานเชิงกลยุทธ์ ซึ่งรวมถึงการฝึกอบรมเกี่ยวกับการจัดการความเสี่ยงด้านน้ำสำหรับซัพพลายเออร์และนิคมอุตสาหกรรมในลุ่มแม่น้ำไท่หูของจีนและทำหน้าที่เป็นพันธมิตรผู้ก่อตั้งโครงการดูแลแหล่งน้ำใหม่ในเวียดนามในลุ่มน้ำโขง

ตลอดการเดินทาง Tommy Hilfiger จะแบ่งปันความคืบหน้า สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Make it Possible และภาพรวมความสำเร็จทั้งหมด ไปที่: sustainability.tommy.com

เกี่ยวกับ Tommy Hilfiger

ด้วยผลงานแบรนด์ที่มี TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS, Tommy Hilfiger เป็นหนึ่งในดีไซเนอร์พรีเมี่ยมที่ได้รับการยอมรับที่สุดของโลก โดยมุ่งเน้นที่การออกแบบและจำหน่ายเสื้อผ้าและชุดกีฬาสำหรับผู้ชาย เครื่องแต่งกายและชุดกีฬาสำหรับผู้หญิง เสื้อผ้าเด็ก คอลเลกชันเดนิม ชุดชั้นใน (รวมทั้งเสื้อคลุม ชุดนอน และชุดใส่ในบ้าน) รองเท้าและเครื่องประดับ  Tommy Hilfiger ได้รับลิขสิทธิ์ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ที่ครบครันเช่นแว่นตา นาฬิกา น้ำหอม ชุดว่ายน้ำ ถุงเท้า เครื่องหนังขนาดเล็ก ของใช้ในบ้าน และกระเป๋าเดินทาง  กลุ่มผลิตภัณฑ์ TOMMY JEANS ประกอบด้วยชุดยีนส์และรองเท้าสำหรับผู้ชายและผู้หญิง เครื่องประดับและน้ำหอม Tommy Hilfiger    สินค้าภายใต้แบรนด์TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS วางจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลกผ่านทางเครือข่ายร้านค้าที่กว้างขวางของ Tommy Hilfiger และ TOMMY JEANS ร้านปลีกชั้นนำพิเศษและห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกออนไลน์และ tommy.com

เกี่ยวกับ PVH Corp.

PVH เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ได้รับความชื่นชมมากที่สุดในโลก  เรานำแบรนด์ที่ขับเคลื่อนแฟชั่นไปข้างหน้า โดยแบรนด์ของเราประกอบด้วย CALVIN KLEIN, TOMMY HILFIGER, Van Heusen, IZOD, ARROW, Warner's, Olga และ Geoffrey Beene แบรนด์ตลอดจนแบรนด์เน้นดิจิทัล True&Co.  เราจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายภายใต้แบรนด์โด่งดังที่เหล่านี้ทั้งในและต่างประเทศ  PVH มีผู้ร่วมงานกว่า 40,000 คนที่ดำเนินงานในกว่า 40 ประเทศและมีรายได้ 9.9 พันล้านดอลลาร์ต่อปี  นั่นคือพลังของเรา นั่นคือพลังของ PVH

ติดตามเราได้ที่ Facebook, Instagram, Twitter และ LinkedIn

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200830005002/en/

ติดต่อ:

Tommy Hilfiger
Baptiste Blanc
Sr. Director, Communications and Earned Media (ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการสื่อสาร)
Baptiste.Blanc@tommy.com
+31 62904 2334