Category Archives: Lifestyle

การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล: Mary Kay Inc. เปิดตัวประสบการณ์เสมือนจริง Immersive Virtual Experience Platform Suite 13™

Logo

แพลตฟอร์มเสมือนจริงที่ให้พื้นที่ให้แก่ Mary Kay และที่ปรึกษาด้านความงามอิสระในการจัดแสดงกลุ่มผลิตภัณฑ์ล่าสุด บอกเล่าเรื่องราวและมรดกตกของแบรนด์

แดลลัส–(บิสิเนสไวร์)–15 เม.ย. 2564

แบรนด์ความงามระดับโลก Mary Kay Inc. และ Mary Kay Global Design Studio นำเสนอ Suite 13TM ประสบการณ์ความงามเสมือนจริงที่นำเสนอโชว์รูมป๊อปอัพดิจิทัลแห่งแรกของ Mary Kay  โดยออกแบบด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริงล่าสุด Suite 13TM มอบประสบการณ์ความงามแบบ 3 มิติให้กับ Mary Kay และลูกค้าของพวกเขาด้วยประสบการณ์ความงามแบบ 3 มิติแบบ 360 องศา ซึ่งผู้ใช้สามารถเรียกดูผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของแบรนด์ความงาม รวมทั้งสำรวจประวัติบริษัทและผู้ก่อตั้ง Mary Kay Ash

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านตัวเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210415005306/en/

The new Suite 13™ offers Mary Kay Independent Beauty Consultants and their customers a 360-degree, 3D beauty experience. (Photo: Mary Kay Inc.)

Suite 13™ ประสบการณ์ความงาม 3 มิติแบบ 360 องศาให้กับปรึกษาด้านความงามอิสระของ Mary Kay และลูกค้าของพวกเขา (ภาพ: Mary Kay Inc.)

Suite 13 เชิญชวนให้ผู้ใช้ทัวร์ชม “ห้อง” เสมือนจริง  เมื่อเข้าสู่ “ล็อบบี้” ผู้ใช้สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติของบริษัทได้  ห้องเสมือนจริงอื่นๆ ได้แก่ “Pink Plaza” ซึ่งสำรวจค่านิยมของบริษัทและ “Innovation Center” ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของ Mary Kay และจัดแสดงคุณประโยชน์และส่วนผสมที่สำคัญของผลิตภัณฑ์  แพลตฟอร์มนี้ยังให้ผู้ใช้เพิ่มผลิตภัณฑ์ Mary Kay ที่ชื่นชอบลงใน Wishlist เพื่อแชร์กับที่ปรึกษาด้านความงามอิสระของผู้ใช้

“การเปิดตัว Suite 13TM เป็นผลมาจากความคิดสร้างสรรค์ ความหลงใหล และความมุ่งมั่นหลายเดือนในการจัดหาเครื่องมือที่ดีที่สุดและเป็นนวัตกรรมใหม่ที่สุดในตลาดให้ที่ปรึกษาด้านความงามของ Mary Kay เพื่อช่วยในการจัดการธุรกิจของพวกเขา” Sheryl Adkins-Green หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ Mary Kay Inc. “ปัจจุบันเทคโนโลยีเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ต้องการค้นพบ เรียนรู้ และค้นหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทางออนไลน์  Suite 13TM จะช่วยให้ที่ปรึกษาด้านความงามอิสระของ Mary Kay มีความยืดหยุ่นในธุรกิจดิจิทัลโดยสามารถแนะนำแบรนด์ Mary Kay ของเราได้ทุกที่ทุกเวลาเพื่อยกระดับการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วยการแบ่งปันประสบการณ์ความงามที่น่าประทับใจ  เพื่อให้ได้รับชัยชนะในสภาพแวดล้อมที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลแบบใหม่นี้เราจะยังคงค้นหาวิธีการใหม่ๆ ในการเชื่อมต่อกับผู้คนเพื่อสร้างประสบการณ์การแบบสัมผัสต่ำที่เป็นส่วนตัวโดยใช้นวัตกรรมไฮเทค”

สำหรับการออกแบบ Suite 13TM นั้น Mary Kay ได้ร่วมมือกับ Obsess แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำที่ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถสร้างประสบการณ์เสมือนจริงแบบโต้ตอบออนไลน์โดยใช้ความเป็นจริงเสมือน  นำโดยผู้ประกอบการหญิง Neha Singh, Obsess ได้ทำงานร่วมกับแบรนด์ความงามและแฟชั่นระดับโลกอื่นๆ เพื่อสร้างประสบการณ์เสมือนจริงที่น่าจดจำสำหรับผู้บริโภค เพื่อให้เป็นไปตามพันธกิจในการเสริมสร้างชีวิตของผู้หญิง ออกจากนี้ Mary Kay ยังร่วมมือกับช่างภาพหญิงหลายคนเพื่อผลิตภาพที่แสดงในแพลตฟอร์มเสมือนจริง

“Suite 13 TM เป็นการนำประสบการณ์ความงามของ Mary Kay มารวมกันในรูปแบบที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับที่ปรึกษาด้านความงามอิสระและลูกค้าของพวกเขา” Neha Singh ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Obsess กล่าว “ด้วย Suite 13TM ทีม Mary Kay ได้ดูแลทุกรายละเอียดของแพลตฟอร์มเพื่อให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในโชว์รูมเสมือนจริงของ Mary Kay  แพลตฟอร์มของเราช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถสร้างประสบการณ์เสมือนจริงที่ดึงดูดสายตาและน่าดื่มด่ำซึ่งกำลังปฏิวัติวิธีการมีส่วนร่วมกับลูกค้าและเรารู้สึกตื่นเต้นที่ลูกค้าของ Mary Kay จะได้ค้นพบ เรียนรู้และ โต้ตอบกับแบรนด์ในสภาพแวดล้อมดิจิทัลใหม่ๆ ต่อไป”

Suite 13 TM เปิดตัวครั้งแรกในเม็กซิโกในปี 2564 ตามด้วยบราซิล อาร์เจนตินา สเปน โคลอมเบีย และเปรู  บริษัทคาดว่าจะเปิดตัวแพลตฟอร์มในตลาดส่วนใหญ่ภายในสิ้นปี 2564   Mary Kay เป็นบริษัทแรกที่เปิดตัวประสบการณ์เสมือนจริงประเภทนี้ในอุตสาหกรรมของตน  Suite 13 เป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีล่าสุดโดย Mary Kay และ Mary Kay Global Design Studio เท่านั้น  Mary Kay เปิดตัว Mary Kay® Skin Analyzer ซึ่งเป็นแอพที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการแนะนำผิวหน้าด้วยปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงและอิงตามหลักวิทยาศาสตร์เพื่อช่วยให้ที่ปรึกษาด้านความงามอิสระสามารถจัดหาสูตรการดูแลผิวที่กำหนดเองของผลิตภัณฑ์ Mary Kay ได้ด้วยการสแกนผิวอย่างรวดเร็ว  อีกหนึ่งนวัตกรรม Mary Kay® MirrorMe™ Web ช่วยให้ลูกค้าสามารถ “ทดลองใช้ก่อนซื้อ” ได้โดยตรงจากเว็บไซต์ของที่ปรึกษาด้านความงามอิสระโดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง  MirrorMe™ พร้อมใช้งานสำหรับอุปกรณ์ iOS และ Android

เกี่ยวกับ Mary Kay

หนึ่งในผู้ทลายเพดานแก้วรายแรก Mary Kay Ash ก่อตั้งบริษัทความงามของเธอเมื่อเกือบ 60 ปีที่แล้วโดยมีเป้าหมาย 3 ประการคือ พัฒนาโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น  ความฝันนั้นเบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีสมาชิกฝ่ายขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ  Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวล้ำสมัย เครื่องสำอางสี อาหารเสริม และน้ำหอม  Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขาด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่างๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการถูกล่วงละเมิดในครอบครัว สร้างความสวยงามให้ชุมชนของเรา และสนับสนุนให้เด็กๆ ทำตามความฝัน  วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายในทุกลิปสติก

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210415005306/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate

Communications Marykay.com/newsroom

(+1) 972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่นเปิดตัว Insider Guide to Japan ฉบับใหม่

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–14 เมษายน 2021

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) เปิดตัว Insider Guide to Japan ฉบับใหม่ เพื่อเฉลิมฉลองประเพณี นวัตกรรม สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ และการผจญภัยที่หลากหลายของประเทศ

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210414005351/en/

Arakurayama Sengen Park, Yamanashi, Japan (Photo: Business Wire)

สวนสาธารณะอาราคุระยามะเซ็นเก็ง จังหวัดยะมะนะชิ ประเทศญี่ปุ่น (ภาพ: Business Wire)

ปี 2021 เป็นปีที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากโตเกียวพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกโตเกียว 2020 ที่เลื่อนออกไป และประเทศนี้ถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ

คำว่าสะอาดในภาษาญี่ปุ่นยังหมายถึงความสวยงาม: ซึ่งเป็นแนวคิดที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจของชนชาติที่แทรกซึมอยู่ทุกแง่ทุกมุมในชีวิตประจำวัน ประเทศญี่ปุ่นเป็นดินแดนแห่งวัดวาอารามและศาลเจ้า ภูมิทัศน์ที่สร้างแรงบันดาลใจ อาหารเพื่อสุขภาพ และประเพณีการแช่อนเซ็นที่มีมายาวนาน สำหรับผู้ที่ต้องการที่จะเดินทางเป็นอย่างมาก ประเทศญี่ปุ่นขอนำเสนอความสมดุลที่สมบูรณ์แบบของการผจญภัย อิสระเสรี ความสันโดษ และสิ่งที่น่าสนใจ: คือโอกาสที่จะได้เลือกจุดหมายปลายทางจากรายการที่คุณมีได้โดยสบายใจในความรู้ที่เรามีได้เลยว่า ประเทศญี่ปุ่นได้ก้าวไปข้างหน้าในแง่ของการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะเพื่อความปลอดภัยของผู้มาเยือน

JNTO จะเปิดตัวจดหมายข่าวหลายฉบับในเดือนเมษายนนี้ เพื่อเป็นคู่มือเกี่ยวกับประเพณีและนวัตกรรมมากมายของประเทศญี่ปุ่น จากจำนวนสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ JNTO ได้จัดหมวดหมู่ของการท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่นโดยแบ่งออกเป็น 7 ประเภท ได้แก่ อาหาร กิจกรรมกลางแจ้ง การพักผ่อน ธรรมชาติ ประเพณี ศิลปะ และเมืองต่างๆ JNTO ได้เปิดตัว “Experiences in Japan” ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่จัดแสดงกิจกรรมที่อ้างอิงจากหมวดหมู่ทั้ง 7 ประเภท รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่: https://business.jnto.go.jp/news/pdf/jnto_press_release_210414.pdf

ในขณะที่เตรียมความพร้อมสำหรับการเริ่มต้นใหม่ของการเดินทางเข้ามาในประเทศ JNTO ยังใช้มาตรการ COVID-19 เพื่อให้เกิดความสบายใจสำหรับผู้มาเยือน โครงการริเริ่มเหล่านี้รวมถึงอินโฟกราฟิกในหลากหลายภาษาเกี่ยวกับข้อควรระวังของประเทศต่อ COVID-19 ตลอดจนข้อมูลฉุกเฉิน รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่: https://www.japan.travel/en/2020-TYO-covid-19

Seino Satoshi ประธานองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่นกล่าวว่า:

โตเกียว 2020 จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคมปีนี้ โดยเกิดขึ้นสิบปีหลังจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น การวิ่งคบเพลิงจะแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของชาติสู่โลก

การระบาดใหญ่ของ COVID-19 ทำให้การเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นเป็นไปไม่ได้เลย และน่าเสียดายที่มีการตัดสินใจที่จะจัดการแข่งขันโดยไม่มีผู้ชมจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตามฉันเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่ามนุษยชาติจะเอาชนะวิกฤตนี้ได้และการท่องเที่ยวจะกลับมาดำเนินต่อไปอีกครั้ง

ประเทศญี่ปุ่นมักจะเกี่ยวข้องกับเมืองใหญ่ๆ ภูเขาไฟฟูจิ ดอกซากุระ นินจา และอะนิเมะ อย่างไรก็ตามประเทศญี่ปุ่นมีภูมิประเทศที่แตกต่างกันไปโดยมีป่าไม้ครอบคลุมประมาณ 70% ของพื้นที่

ในช่วงห้าปีที่ผ่านมาประเทศญี่ปุ่นกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยวชั้นนำของโลก โดยมีผู้มาเยือนมากกว่า 30 ล้านคนต่อปีก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดใหญ่ทั่วโลก ตลอดการจัดแคมเปญนี้เราจะนำเสนอเสน่ห์ที่ยังไม่ถูกค้นพบมากมายของประเทศญี่ปุ่นที่ยังไม่เป็นที่รู้จักไปยังทั่วโลก

แม้ว่าเราจะคิดถึงคุณในฤดูร้อนนี้ แต่เราสัญญาว่าเวลาที่ห่างกันจะทำให้ประสบการณ์การเดินทางจะยิ่งน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นอีก เมื่อการเดินทางข้ามพรมแดนกลับมาอีกครั้ง เราหวังว่าจะได้พบคุณในประเทศญี่ปุ่น

กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ JNTO สำหรับข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็มได้ที่
https://business.jnto.go.jp/news/pdf/jnto_press_release_210414.pdf

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210414005351/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ:

Press Office:
Asuka Suzuki
Dentsu Public Relations for JNTO
media_inquiry@jnto.go.jp

Global Youth Problem-Solvers ประกาศเป็นผู้ชนะของ Mary Kay Inc. ที่สนับสนุน NFTE World Series of Innovation Challenge

Logo

World Series of Innovation Challenge ของ NFTE ซึ่งเป็นการศึกษาระดับโลก และประสบการณ์การเป็นผู้ประกอบการ ได้เชิญชวนเยาวชนให้แก้ปัญหาที่ท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดโดยเผชิญหน้ากับโลกของเราและช่วยพัฒนาเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ

แดลลัส–(BUSINESS WIRE)–31 มีนาคม 2564

Mary Kay Inc. เป็นผู้สนับสนุนองค์กรชั้นนำในการเสริมสร้างศักยภาพและการเป็นผู้ประกอบการของผู้หญิงได้ประกาศในวันนี้สำหรับผู้ชนะ 3 อันดับแรกของ World Series of Innovation (WSI) Challenge ร่วมกับ Network for Teaching Entrepreneurship (NFTE) ในปีแรกที่ร่วมมือกับ NFTE โดย Mary Kay ได้ให้การสนับสนุนงาน 2020 NFTE World Series of Innovation ซึ่งเป็นประสบการณ์ด้านการศึกษาระดับโลกที่เชิญชวนให้เยาวชนอายุ 13-24 ปีใช้ทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์และการแก้ปัญหาเพื่อค้นหาวิธีในการแก้ไขปัญหาสำหรับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เผชิญอยู่ในโลกปัจจุบันและยังช่วยพัฒนาเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมวิธีคิดของผู้ประกอบการ

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210331005187/en/

Mary Kay sponsors Network for Teaching Entrepreneurship World Series of Innovation Challenge to inspire young entrepreneurs to solve the world’s most pressing problems. (Photo: Mary Kay Inc.)

Mary Kay ผู้สนับสนุน Network for Teaching Entrepreneurship World Series of Innovation Challenge เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในการแก้ไขปัญหาที่เร่งด่วนที่สุดในโลก (ภาพ: Mary Kay Inc.)

World Series of Innovation Challenge ของ Mary Kay สนับสนุนให้เยาวชนจากทั่วโลก ยื่นเสนอโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมเพื่อตอบสนองการพัฒนาที่ยั่งยืนเป้าหมายที่ 12: การบริโภคและการผลิตอย่างรับผิดชอบ ในทั่วโลกคาดว่า 80% ของสิ่งทอที่ถูกทิ้งจะถูกฝังกลบในหลุมฝังกลบ สถิติดังกล่าวทำให้อุตสาหกรรมเสื้อผ้าและสิ่งทอเป็นอันดับที่ 2 ในรายชื่ออุตสาหกรรมที่ก่อมลพิษเลวร้ายที่สุดรองจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี สำหรับความท้าทายนี้ นักเรียนได้ถูกขอให้ออกแบบผลิตภัณฑ์ บริการหรือความคิดริเริ่มที่จะสร้าง “เศรษฐกิจหมุนเวียน” ที่ช่วยส่งเสริมให้มีการใช้ซ้ำหรือรีไซเคิลเครื่องแบบ และ/หรือเสื้อผ้าใช้แล้วอื่น ๆ ลดของเสียที่ต้องฝังกลบ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการย่อยสลายสิ่งทอ

ผู้ชนะทั้งสามของ Mary Kay’s Challenge ได้แก่:

  • อันดับที่หนึ่ง: Loop Tee Loop

o        Loop Tee Loop เป็น clothing loop แบบยั่งยืนที่รวมโรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอไลโอเซลล์เข้ากับการบริการรีไซเคิลเครื่องแบบจากมหานครมะนิลาในประเทศฟิลิปปินส์

  • อันดับที่สอง: SwagSwap

o        SwagSwap เป็นเครือข่ายโซเชียลในสหรัฐอเมริกาสำหรับเสื้อผ้ามือสอง โดยเปิดการใช้งานการแลกเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบ peer-to-peer สำหรับวัยรุ่น

  • อันดับที่สาม: Project DBrand

o        Project DBrand เป็นบริการที่ไม่เหมือนใคร ซึ่ง de-brands เครื่องแบบที่ใช้แล้ว เพื่อว่าพวกเขาสามารถนำไปรีไซเคิลสร้างสิ่งใหม่ได้ในสหรัฐอเมริกา

 “วันนี้นักเรียนเติบโตมาในโลกแห่งความยั่งยืน โดยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน การสนทนาทั่วโลก และพวกเขามีส่วนร่วมอย่างแข็งขันเพื่อผลักดันในการเปลี่ยนแปลงนี้”  Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “Mary Kay ภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับ NFTE องค์กรที่ไม่เพียงช่วยจุดประกายความคิดของผู้ประกอบการในวัยหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมให้พวกเขาคิดวิเคราะห์เพื่อจัดการกับปัญหาระดับโลกที่ท้าทายอีกด้วย บริษัทระดับโลกอย่างเช่น Mary Kay มีความรับผิดชอบในการส่งเสริมนวัตกรรมของผู้ประกอบการที่สามารถช่วยทำให้โลกน่าอยู่ยิ่งขึ้นไป”

NFTE เป็นองค์กรการศึกษาระดับโลกที่มุ่งเน้นการนำพลังของการเป็นผู้ประกอบการมาสู่เยาวชนในชุมชนที่มีรายได้น้อย World Series of Innovation (WSI) Challenge ได้เชิญชวนความท้าทายที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรเพื่อจัดการกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ด้วยการเข้าถึงนักเรียน 100,000 คนทั่วโลก ในปี 2020 NFTE ได้รับนักเรียนที่เข้าร่วมเกือบ 4,000 คนจากทุกภูมิหลังที่ยื่นส่งแนวคิดใน WSI Challenges และนักเรียนที่เข้าร่วมเกือบ 350 คน ที่ได้รับจาก Mary Kay-sponsored challenge

 “World Series of Innovation ส่งเสริมให้เยาวชนในการใช้วิธีคิดของผู้ประกอบการเพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลก”  J.D. LaRock ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ NFTE กล่าว “ในแต่ละปี เรายังคงได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดสร้างสรรค์ที่ผู้ประกอบการรุ่นต่อไปที่คาดเดาไม่ถึง เรารู้สึกขอบคุณ Mary Kay Inc. ได้แสดงความท้าทายระดับโลกที่ช่วยกระตุ้นให้นักเรียนได้คิดเกี่ยวกับเศรษฐกิจหมุนเวียนของเสื้อผ้าและสิ่งทอในรูปแบบใหม่”

นอกเหนือจาก World Series of Innovation ดังกล่าวแล้ว Mary Kay ยังเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุน United Nations Global Goals Conversation ของ NFTE ในปี 2020 ซึ่งเป็นกิจกรรมผู้นำทางความคิดประจำปีที่รวม เยาวชน อุตสาหกรรม องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และการกุศล เพื่อพัฒนาบทสนทนาเกี่ยวกับโซลูชันการประกอบการเพื่อสังคม ซึ่งจัดขึ้นในช่วง Global Entrepreneurship Week หัวข้อของการอภิปรายคือ “การมีส่วนร่วมให้ผู้ประกอบการคิดค้นและดำเนินการโดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ต่อสังคม” ผู้ร่วมอภิปรายได้อภิปรายถึงวิธีการใหม่ ๆ ในการใช้เทคโนโลยีเพื่อรับมือกับความท้าทายที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดใหญ่ทั่วโลก เช่น การว่างงาน ภาวะเศรษฐกิจถดถอย และความไม่สงบในสังคมที่เพิ่มขึ้นเพื่อสร้างสังคมที่เท่าเทียมกันและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในโลกหลัง COVID ซึ่ง UN Global Goals Conversation 2020 นำเสนอโดย Citi Foundation, Ernst & Young LLP (EY) และ Mary Kay Inc. พร้อมการสนับสนุนเพิ่มเติมจาก Bank of the West BNP Paribas

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ World Series of Innovation และความท้าทายทั้งหมด โปรดไปที่ https://innovation.nfte.com.

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเกือบ 60 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay Inc. ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม  Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขาด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่างๆจากทั่วโลก โดยมุ่งเน้นที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว สร้างความสวยงามให้กับชุมชน และสนับสนุนให้เด็กๆ ได้ทำตามความฝันของพวกเขา วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกาย – และนำพาสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น

เกี่ยวกับ NFTE

Network for Teaching Entrepreneurship (NFTE) เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลกที่ให้การศึกษาด้านการเป็นผู้ประกอบการที่มีคุณภาพสูงแก่นักเรียนระดับมัธยมต้นและมัธยมปลายจากชุมชนที่มีทรัพยากรน้อย รวมถึงโปรแกรมสำหรับนักศึกษาและผู้ใหญ่ NFTE เข้าถึงนักเรียนมากกว่า 70,000 คนต่อปี ใน 25 รัฐ ทั่วสหรัฐอเมริกา และเปิดสอนโปรแกรมในอีก 12 ประเทศเพิ่มเติม เราได้ให้การศึกษาแก่นักเรียนมากกว่าหนึ่งล้านคนผ่านช่องทางในโรงเรียน นอกโรงเรียน วิทยาลัย และค่ายฤดูร้อน ที่เปิดสอนโดยตรงและทางออนไลน์ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่เราส่งเสริมระบบทุนนิยมรอบด้าน และสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่หลากหลาย โปรดไปที่ www.nfte.com

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210331005187/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
Marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

วิดีโอแนะนำระบบเพื่อการรับรองทักษะการปรุงอาหารญี่ปุ่น เผยแพร่โดย TOW Co. Ltd. (โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น) หน่วยงานการรับสมัครการรับรอง/การจัดการ (the Certification Application/Management Body)

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–30 มีนาคม 2564

TOW Co., Ltd.:

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210329005028/en/

 [https://tow.co.jp/certification/]
ไปที่ลิงก์นี้เพื่อดูสารคดีที่แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของระบบการรับรองผ่านเรื่องราวของเชฟชาวต่างชาติที่พยายามทดสอบ Gold Certification ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ระบุไว้สูงสุดของระบบ

กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และการประมงญี่ปุ่น ได้กำหนดแนวทางการรับรองทักษะการปรุงอาหารสำหรับอาหารญี่ปุ่นในต่างประเทศเมื่อเดือนเมษายน 2559

ระบบนี้กำหนดมาตรฐานเฉพาะที่องค์กรเอกชนอาจใช้เพื่อยกย่องเชฟชาวต่างชาติที่ได้รับระดับความรู้และทักษะการปรุงอาหารที่จำเป็นสำหรับการเตรียมการปรุงอาหารญี่ปุ่น เพื่อช่วยให้มั่นใจได้ว่าอาหารญี่ปุ่นและวัฒนธรรมการบริโภคอาหารจะดึงดูดความสนใจตลอดจนผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและทางทะเลของญี่ปุ่นได้รับการสื่อสารอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิผลทั่วโลก *

และด้วยวิธีการนี้ ภาคเอกชนสามารถวางตำแหน่งตัวเองโดยเป็นแรงผลักดันในการส่งเสริมความพยายามในการรับรองทักษะการปรุงอาหารญี่ปุ่น การเพิ่มจำนวนผู้ได้รับการรับรองรายบุคคล และส่งเสริมการเติบโตของเชฟชาวต่างชาติที่ได้รับความรู้และทักษะที่เหมาะสมสำหรับการเตรียมการปรุงอาหารญี่ปุ่น ทั้งหมดนี้มีเป้าหมายสูงสุดในการเสริมสร้างชื่อเสียงระดับโลกของอาหารญี่ปุ่นและวัฒนธรรมการบริโภคอาหารและขยายการบริโภคผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและทางทะเลของญี่ปุ่น

ด้วยเหตุนี้ TOW Co. , Ltd. จึงมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในฐานะระบบการรับรองของหน่วยงานการรับสมัคร/การจัดการ  (Application/Management Body of the Certification System) ในเดือนมีนาคม 2564 บริษัทได้อนุมัติหน่วยงานรับรอง 11 แห่ง ซึ่งได้รับการยอมรับเชฟ 14 คน ว่ามีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานการรับรองระดับโกลด์ โดย 187 คนได้รับรางวัลระดับซิลเวอร์ และระดับบรอนซ์ 389 คน

แม้ว่าการระบาดใหญ่ของ COVID-19 จะส่งผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมการบริการด้านอาหารทั่วโลก TOW Co. , Ltd. ยังคงมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามภารกิจของบริษัท และสนับสนุนให้เชฟชาวต่างชาติทุกคนที่ต้องการได้รับความรู้และทักษะในการเตรียมการปรุงอาหารญี่ปุ่น โดยบริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการสร้างและแบ่งปันวิดีโอแนะนำระบบการรับรองทักษะการปรุงอาหารสำหรับอาหารญี่ปุ่นจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว

* มาตรฐานการรับรอง

ระดับทอง

ผู้ที่มีประสบการณ์ประมาณสองปีในร้านอาหารญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีหัวหน้าเชฟเป็นชาวญี่ปุ่นและถือว่าได้รับความรู้และทักษะตามที่ระบุไว้

ความรู้และทักษะที่จะได้รับ

• ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการบริโภคอาหารของญี่ปุ่น

ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการบริโภคอาหารของญี่ปุ่น อาหารญี่ปุ่น สไตล์การทาน สาเกและชาญี่ปุ่น

• ความรู้เกี่ยวกับการจัดการสุขอนามัย

ประเภทและการป้องกันอาหารเป็นพิษ เสื้อผ้า การจัดการส่วนประกอบอาหาร การทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อภาชนะและอุปกรณ์ในการปรุงอาหาร ส่วนประกอบอาหารและอาหารที่ต้องใช้ความร้อน

• เทคนิค

วิธีการใช้ภาชนะและอุปกรณ์ทำอาหารญี่ปุ่น วิธีการเลือกส่วนผสมอาหาร วิธีหั่นและปลอกส่วนประกอบอาหาร ขั้นตอนและชั่วโมงที่ต้องใช้ในการปรุงอาหาร ระดับความร้อน /กลไกการใช้ความร้อน วิธีทำดาชิ (น้ำซุปญี่ปุ่น) การผสมอัตราส่วนของเครื่องปรุง การนำเสนอวิธีการถนอมอาหาร การจัดเตรียมเมนู

• ความใส่ใจในการบริการ (โอโมเทนาชิ)

ถ้อยคำ คำทักทาย ข้อควรคำนึง มารยาท วิธีการจัดวางอาหาร

ระดับซิลเวอร์

ผู้ที่เรียนและได้รับความรู้และทักษะเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่นระบุไว้ประมาณหนึ่งปีที่โรงเรียนสอนทำอาหารที่ตั้งอยู่ในและนอกประเทศของตน และจบการศึกษาจากโรงเรียนดังกล่าว

หรือ

ผู้ที่มีประสบการณ์ประมาณหนึ่งปีในร้านอาหารญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีหัวหน้าเชฟเป็นชาวญี่ปุ่นและถือว่าได้รับความรู้และทักษะตามที่ระบุไว้

ความรู้และทักษะที่จะได้รับ

• ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการบริโภคอาหารของญี่ปุ่น

ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการบริโภคอาหารของญี่ปุ่น อาหารญี่ปุ่น สไตล์การทาน

• ความรู้เกี่ยวกับการจัดการสุขอนามัย

ประเภทและการป้องกันอาหารเป็นพิษ เสื้อผ้า การจัดการส่วนประกอบอาหาร การทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อภาชนะและอุปกรณ์ในการปรุงอาหาร ส่วนประกอบอาหารและอาหารที่ต้องใช้ความร้อน

• เทคนิค

วิธีการใช้ภาชนะและอุปกรณ์ทำอาหารญี่ปุ่น วิธีการเลือกส่วนผสมอาหาร วิธีหั่นและปลอกส่วนประกอบอาหาร การผสมอัตราส่วนของเครื่องปรุง ขั้นตอนและชั่วโมงที่ต้องใช้ในการปรุงอาหาร ระดับความร้อน /กลไกการใช้ความร้อน วิธีทำดาชิ (น้ำซุปญี่ปุ่น) การนำเสนอวิธีการถนอมอาหาร

• ความใส่ใจในการบริการ (โอโมเทนาชิ)

มารยาท วิธีการจัดวางอาหาร

ระดับบรอนซ์

ผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความรู้และทักษะที่ระบุไว้ในช่วงระยะสั้น ฯลฯ ซึ่งจัดโดยโรงเรียนสอนทำอาหารญี่ปุ่นและ /หรือหน่วยงานเอกชนที่ตั้งอยู่ในและนอกประเทศของตนและผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานที่รับรอง

ความรู้และทักษะที่จะได้รับ

• ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการบริโภคอาหารของญี่ปุ่น

ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการบริโภคอาหารของญี่ปุ่น

• ความรู้เกี่ยวกับการจัดการสุขอนามัย

การป้องกันอาหารเป็นพิษ เสื้อผ้า การจัดการส่วนประกอบอาหาร การทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อภาชนะและอุปกรณ์ในการปรุงอาหาร ส่วนประกอบอาหารและอาหารที่ต้องใช้ความร้อน

• เทคนิค

วิธีการใช้ภาชนะและอุปกรณ์ทำอาหารญี่ปุ่น วิธีการเลือกส่วนผสมอาหาร วิธีหั่นและปลอกส่วนประกอบอาหาร การผสมอัตราส่วนของเครื่องปรุง ขั้นตอนและชั่วโมงที่ต้องใช้ในการปรุงอาหาร การนำเสนอ วิธีการถนอมอาหาร

• ความใส่ใจในการบริการ (โอโมเทนาชิ)

มารยาท

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210329005028/en/

ติดต่อ:

Japanese Cuisine Cooking Skill Certification Application/Management Body:
TOW Co., Ltd. Secretariat
Aya Hamasuna
Mail: nihonshoku.ginou@tow.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Tommy Hilfiger แต่งตั้ง Alegra O’Hare เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด

Logo

อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์–(BUSINESS WIRE)–25 มีนาคม 2564

Tommy Hilfiger ซึ่งมี PVH Corp. [NYSE: PVH] เป็นเจ้าของ มีความยินดีที่จะประกาศแต่งตั้ง Alegra O'Hare เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Tommy Hilfiger Global มีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 เมษายน 2564 โดยบทบาทและหน้าที่ของ O'Hare จะพัฒนาและดำเนินกลยุทธ์การตลาดเพื่อเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค TOMMY HILFIGER ในรุ่นปัจจุบันและรุ่นต่อ ๆ ไป

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210325005086/en/

Alegra O’Hare, Chief Marketing Officer, Tommy Hilfiger Global (Photo: Business Wire)

Alegra O’Hare ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Tommy Hilfiger Global (ภาพ: Business Wire)

 “การแต่งตั้งของ Alegra ถือเป็นก้าวต่อไปที่สำคัญในยุคใหม่ของ TOMMY HILFIGER” Avery Baker ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตราสินค้าของ Tommy Hilfiger Global กล่าว “เธอจะเป็นแรงผลักดันในการนำวิสัยทัศน์ใหม่ของแบรนด์เราให้ดูมีชีวิตชีวาผ่านการสร้างสรรค์ระดับโลก กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลและการตลาดแบบบูรณการทุกช่องให้รวมเป็นหนึ่งเดียว การเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งด้วยวัฒนธรรมและประสบการณ์ที่พิสูจน์แล้วของเธอที่จะช่วยในการเติบโตที่มีความเกี่ยวข้องและธุรกิจกับผู้บริโภคทั่วโลกจะเป็นทรัพย์สินที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับเรา ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากที่ Alegra ได้เข้าร่วมทีมของเราเพื่อเป็นผู้นำในการสร้างแฟนๆ ของ Tommy ในรุ่นต่อไป”

 “TOMMY HILFIGER เป็นแบรนด์ที่ก้าวนำหน้ามาโดยตลอด และฉันรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่กับทีมท่ามกลางภูมิทัศน์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก” O’Hare กล่าว “เมื่อร่วมมือกันแล้วเราจะพบกับความเป็นจริงใหม่ ๆ เหล่านี้ โดยมุ่งเน้นที่การสร้างประสบการณ์แบรนด์ที่น่าดึงดูดและน่าประหลาดใจให้กับผู้บริโภคและพัฒนาตำแหน่งของเราในฐานะนักการตลาดระดับโลกด้วยการผลักดันขอบเขตทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์”

ด้วยประสบการณ์ด้านการตลาดกว่า 25 ปีของ O’Hare เธอได้ร่วมงานกับแบรนด์ผู้บริโภคระดับโลกเช่น adidas, Bang & Olufsen, Champion, Lee และ Wrangler และล่าสุดเธอดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ GAP ซึ่งเธอเป็นผู้นำทีมการตลาดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริโภคในทุกช่องทางติดต่อของแบรนด์รวมถึงการสื่อสาร การค้าปลีก ดิจิทัล โซเชียลมีเดียและการประชาสัมพันธ์ ผ่านการตลาดดิจิทัลเป็นอันดับแรกและการค้าปลีกทุกช่องทาง ก่อนหน้านี้ O’Hare เป็นผู้นำด้านการตลาดให้กับแบรนด์ Adidas Originals โดยเธอรับผิดชอบแคมเปญของแบรนด์ทั้งหมด การร่วมมือกับพันธมิตร เช่น Pharrell Williams, Alexander Wang และ Childish Gambino และการกระตุ้นการสื่อสารการตลาดทั้งหมดทั่วโลก

TOMMY HILFIGER เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลกด้วยเอกลักษณ์เป็นที่ยอมรับทั่วโลก ความคิดริเริ่มทางการตลาดของบริษัทมีส่วนช่วยในการเพิ่มจำนวนฟุตพริ้นท์ของ TOMMY HILFIGER โดยผ่านการเติบโตอย่างต่อเนื่องของการรับรู้แบรนด์ทั่วโลกและกลยุทธ์ที่เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางซึ่งสร้างและรักษาฐานแฟน ๆ ที่เหนียวแน่น ปัจจุบันการนำออกแสดงของแบรนด์อยู่ในระดับสูงสุดตลอดเวลาอันเป็นผลมาจากคอลเลกชันที่โดดเด่น แคมเปญ การเป็นพันธมิตรและการกระตุ้นผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ

เกี่ยวกับ Tommy Hilfiger

TOMMY HILFIGER ประกอบด้วยแบรนด์ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลก มุ่งเน้นการออกแบบและจำหน่ายเสื้อผ้าและชุดกีฬาคุณภาพสูงสำหรับบุรุษ คอลเลกชันเครื่องแต่งกายและชุดกีฬาสตรี เครื่องแต่งกายเด็ก คอลเลกชันเสื้อผ้าเดนิม ชุดชั้นใน (รวมชุดคลุม ชุดนอน และชุดลำลองสำหรับใส่ในบ้าน) รองเท้าและเครื่องประดับ ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ ยังเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ เช่น แว่นตา นาฬิกา น้ำหอม ชุดว่ายน้ำ ถุงเท้า เครื่องหนังชิ้นเล็ก ๆ ของใช้ภายในบ้าน รวมถึงกระเป๋าเดินทาง ไลน์ผลิตภัณฑ์ TOMMY JEANS ประกอบด้วยชุดยีนและรองเท้าสำหรับบุรุษและสตรี เครื่องประดับและน้ำหอม ผู้บริโภคทั่วโลกสามารถเลือกซื้อสินค้าภายใต้แบรนด์ TOMMY HILFIGER  และ TOMMY JEANS ได้ที่เครือข่ายร้านค้าปลีกของTOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS ที่มีอยู่มากมาย รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านค้าปลีกออนไลน์ และที่ tommy.com

เกี่ยวกับ PVH Corp.

PVH เป็นผู้กำหนดมาตรฐานให้กับสไตล์ ในฐานะหนึ่งในบริษัทแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เราสนับสนุนแบรนด์ที่ขับเคลื่อนแฟชั่นให้เดินหน้า ผลงานที่โดดเด่นของเราประกอบด้วยแบรนด์ต่าง ๆ อย่างเช่น Calvin KleinTOMMY HILFIGERVan HeusenIZOD, ARROW, Warner’sOlga และ Geoffrey Beene รวมถึงแบรนด์ชุดชั้นในที่มีความเป็นดิจิทัลสูงอย่าง True&Co. เราจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายสู่ผู้บริโภคภายใต้แบรนด์เหล่านี้ และแบรนด์เป็นเจ้าของและได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่าย ซึ่งมีชื่อเสียงทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศกว่า 40 ประเทศ ทั้งหมดนี่คือพลังของเรา และนี่คือพลังของ PVH

แถลงการณ์ด้านความปลอดภัยภายใต้พระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องกฎหมายหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 1995 (SAFE HARBOR STATEMENT UNDER THE PRIVATE SECURITIES LITIGATION REFORM ACT OF 1995): แถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะแถลงการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแผนกลยุทธ์ วัตถุประสงค์ ความคาดหวัง และความตั้งใจในอนาคตของ บริษัท ของพระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องกฎหมายหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 1995  นักลงทุนพึงระวังว่าข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าวมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ด้วยความแม่นยำและบางส่วนอาจคาดการณ์ไม่ถึงซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดแค่ (i) แผนกลยุทธ์ วัตถุประสงค์ ความคาดหวัง และความตั้งใจของบริษัทที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามดุลยพินิจของ บริษัท ; (ii) บริษัท อาจได้รับการพิจารณาว่าได้รับการยกระดับอย่างสูงและใช้กระแสเงินสดเป็นส่วนสำคัญในการบริหารหนี้สินอันเป็นผลมาจากการที่บริษัทอาจไม่มีเงินทุนเพียงพอในการดำเนินธุรกิจในลักษณะที่ บริษัทตั้งใจหรือที่เคยมีการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา; (iii) ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนอื่น ๆ ที่ระบุเป็นครั้งคราวในเอกสารที่ บริษัทยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

บริษัทไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ ในการแก้ไขแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ ต่อสาธารณะไม่ว่าจะเป็นผลสืบเนื่องจากการรับข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคต หรืออื่น ๆ

รับชมเวอรชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210325005086/en/

ติดต่อ:

Tommy Hilfiger:
Virginia Ritchie
Vice President, Global Communications
E-mail: virginia.ritchie@tommy.com
Tel: +31 6 4318 4870

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

MG Foods เรียกคืนผลิตภัณฑ์แซนด์วิชไก่งวงหลายรายการ เนื่องจากอาจมีการปนเปื้อนเชื้อลิสทีเรีย โมโนไซโตจีเนส

Logo

ชาร์ล็อต, นอร์ทแคโรไลนา–(BUSINESS WIRE)–11 มีนาคม 2564

บริษัท MG Foods แห่งเมืองชาร์ล็อต รัฐนอร์ทแคโรไลนา ได้ทำการเรียกคืนผลิตภัณฑ์แซนด์วิชไก่งวงหลายรายการเนื่องจากอาจมีการปนเปื้อนเชื้อลิสทีเรีย โมโนไซโตจีเนส โดย ลิสทีเรีย โมโนไซโตจีเนส เป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อแบบรุนแรง และบางครั้งถึงแก่ชีวิตในเด็กเล็ก ผู้ที่ร่างกายอ่อนแอ หรือผู้สูงอายุ และผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หรือแม้แต่ผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงเองอาจมีอาการเจ็บป่วยในระยะสั้น ๆ โดยจะมีอาการ เช่น ไข้สูง ปวดหัวอย่างหนัก ปวดเมื่อยร่างกาย คลื่นไส้ ปวดท้องและท้องเสีย การติดเชื้อ โมโนไซโตจีเนส ลิสทีเรีย ยังอาจเป็นสาเหตุของการแท้งบุตรหรือการเสียชีวิตในครรภ์ของทารก

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210310005930/en/

Images are of the labels of the recalled pre-packaged turkey sandwiches sold between March 3-5, 2021 at the Charlotte Douglas Airport and via vending machines and micro markets located in Georgia, North Carolina, South Carolina, and West Virginia. (Graphic: Business Wire)

ภาพฉลากผลิตภัณฑ์แซนด์วิชไก่งวงที่ถูกเรียกคืนก่อนอยู่ในบรรจุภัณฑ์ซึ่งจำหน่ายระหว่างวันที่ 3-5 มีนาคม 2564 ณ สนามบินชาร์ล็อตดักลาส และตู้จำหน่ายอาหารอัตโนมัติ และตลาดเล็ก ๆ ในจอร์เจีย นอร์ธแคโรไลนา เซาธ์แคโรไลนา และเวสต์เวอร์จิเนีย (กราฟิก: Business Wire)

ผลิตภัณฑ์ได้ถูกกระจายออกไประหว่างวันที่ 3 มีนาคม 2564 และ 5 มีนาคม 2564 และบรรจุอยู่ในกล่องพลาสติกใสและถุงกระดาษ และมีการจำหน่าย ณ ร้านค้าของตัวแทนจำหน่ายซึ่งตั้งอยู่ในสนามบินชาร์ล็อตดักลาส และผ่านทางตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ และตลาดหลายแห่งในย่านธุรกิจของจอร์เจีย นอร์ธแคโรไลนา เซาธ์แคโรไลนา และเวสต์เวอร์จิเนีย บริษัทได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วและระงับการขายผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดในทุกพื้นที่เมื่อสิ้นสุดวันที่ 5 มีนาคม 2564

ขณะนี้ยังไม่มีรายงานการเจ็บป่วย

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2564 ระหว่างทำการทดสอบด้านสิ่งแวดล้อมตามปกติ บริษัทได้ตรวจพบเชื้อ ลิสทีเรีย บนพื้นผิวของบริเวณที่มีการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ถูกเรียกคืน MG Foods จึงได้ทำการเรียกคืนผลิตภัณฑ์เนื่องจากอาจมีบางชิ้นที่มีการปนเปื้อนเชื้อ ลิสทีเรีย โมโนไซโตจีเนส ตามมาตรการป้องกันสูงสุด

ผลิตภัณฑ์ที่ถูกเรียกคืนจากร้านค้าในสนามบินชาร์ล็อตดักลาส มีดังนี้:

ผลิตภัณฑ์

ขนาด

UPC

บรรจุภัณฑ์

วันหมดอายุ

MG Foods Combo Half & Half

6.82 ออนซ์

1 00000 50069 9

กล่องพลาสติก

9 มี.ค. 2564

MG Foods Turkey & Cheddar BLT

6.9 ออนซ์

1 00000 50068 2

กล่องพลาสติก

7 มี.ค. 2564

MG Foods Turkey & Swiss Croissant

7.5 ออนซ์

1 00000 50011 8

ถุงกระดาษ

7 มี.ค. 2564

ผลิตภัณฑ์ที่ถูกเรียกคืนจากตู้จำหน่ายอาหารอัตโนมัติและตลาดในจอร์เจีย นอร์ธแคโรไลนา เซาธ์แคโรไลนา และเวสต์เวอร์จิเนีย มีดังนี้:

ผลิตภัณฑ์

ขนาด

UPC

บรรจุภัณฑ์

วันหมดอายุ

Fresh to You Club on Toast

10.3 ออนซ์

MGF0930

ห่อพลาสติก

7 มี.ค. 2564

Fresh to You Club Panini

8.50 ออนซ์

MGF9844

ห่อพลาสติก

7 มี.ค. 2564

Fresh to You Club Sub

9.14 ออนซ์

C0932

ห่อพลาสติก

7 มี.ค. 2564

Fresh to You Club Sub

9.14 ออนซ์

MGF9100

ห่อพลาสติก

7 มี.ค. 2564

Fresh to You Deluxe Triple Decker Club

12.17 ออนซ์

MGF9719

ห่อพลาสติก

7 มี.ค. 2564

Fresh to You Ham & Turkey Combo

5.85 ออนซ์

MGF3054

กล่องพลาสติก

9 มี.ค. 2564

Fresh to You Ham & Turkey Combo on 12 Grain

7.20 ออนซ์

MGF6011

กล่องพลาสติก

9 มี.ค. 2564

Fresh to You Jumbo Turkey & Cheese Sub

6.74 ออนซ์

MGF1002

ห่อพลาสติก

9 มี.ค. 2564

Fresh to You Market Club

11.85 ออนซ์

MGF9800

ห่อพลาสติก

7 มี.ค. 2564

Fresh to You Market Ham & Turkey Combo

5.85 ออนซ์

MGF23054

ห่อพลาสติก

9 มี.ค. 2564

Fresh to You Market Shaved Turkey & Cheese

4.55 ออนซ์

MGF25571

กล่องพลาสติก

9 มี.ค. 2564

Fresh to You Shaved Turkey & Cheese

4.55 ออนซ์

MGF5571

กล่องพลาสติก

9 มี.ค. 2564

Fresh to You Turkey & Baby Swiss on a Honey Brown Roll

9.42 ออนซ์

MGF9703

ห่อพลาสติก

7 มี.ค. 2564

Fresh to You Turkey & Cheddar Club

10.02 ออนซ์

MGF9710

กล่องพลาสติก

7 มี.ค. 2564

Fresh to You Turkey & Cheese Cut

6.56 ออนซ์

MGF0596

กล่องพลาสติก

9 มี.ค. 2564

Fresh to You Turkey & Cheese Hoagie

6.35 ออนซ์

MGF0597

ห่อพลาสติก

9 มี.ค. 2564

Fresh to You Turkey & Sun-Dried Tomato Aioli on Pita

8.29 ออนซ์

MGF9806

ห่อพลาสติก

7 มี.ค. 2564

Fresh to You Turkey & Swiss on a Kaiser Roll

8.1 ออนซ์

MGF9712

ห่อพลาสติก

7 มี.ค. 2564

Fresh to You Turkey & Swiss on a Wheat Roll

5.22 ออนซ์

MGF0854

ห่อพลาสติก

9 มี.ค. 2564

Fresh to You Turkey & Swiss on Whole Wheat

3.9 ออนซ์

MGF0283

กล่องพลาสติก

9 มี.ค. 2564

Fresh to You Turkey Club Croissant

7.94 ออนซ์

MGF9103

กล่องพลาสติกสี่เหลี่ยม

7 มี.ค. 2564

Fresh to You Turkey Cranberry Pita

9.0 ออนซ์

MGF9804

ห่อพลาสติก

7 มี.ค. 2564

Fresh to You Turkey Melt Croissant

6.7 ออนซ์

MGF3032

ห่อพลาสติก

9 มี.ค. 2564

Fresh to You Tuscan Turkey Ciabatta

9.18 ออนซ์

MGF9810

ห่อพลาสติก

7 มี.ค. 2564

MG Foods Combo Half & Half

6.82 ออนซ์

1 00000 50069 9

กล่องพลาสติก

9 มี.ค. 2564

MG Foods The Club Sub

8.5 ออนซ์

1 00000 50002 6

ถุงกระดาษ

9 มี.ค. 2564

MG Foods Turkey & Cheddar BLT

6.9 ออนซ์

1 00000 50068 2

กล่องพลาสติก

7 มี.ค. 2564

MG Foods Turkey & Pepperjack Sub

7.9 ออนซ์

1 00000 50055 2

ถุงกระดาษ

7 มี.ค. 2564

MG Foods Turkey & Provolone BLT

8.1 ออนซ์

1 00000 50065 1

กล่องพลาสติก

7 มี.ค. 2564

MG Foods Turkey & Provolone on 12 Grain

8.9 ออนซ์

1 00000 50066 8

กล่องพลาสติก

7 มี.ค. 2564

MG Foods Turkey & Swiss Croissant

7.5 ออนซ์

1 00000 50011 8

ถุงกระดาษ

7 มี.ค. 2564

ผลิตภัณฑ์มีการติดฉลากสินค้าเพื่อระบุรายละเอียด

ผู้บริโภคที่ซื้อผลิตภัณฑ์เหล่านี้ขอให้ทิ้งผลิตภัณฑ์ที่เหลืออยู่ทั้งหมด โดยผู้บริโภคสามารถติดต่อ MG Foods ได้ที่ 1-855-424-8390 ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 07.00 – 19.00 น. เขตเวลาตะวันออก หากมีคำถามเกี่ยวกับการเรียกคืนครั้งนี้ หรือเพื่อขอรับเงินคืนแบบเต็มจำนวน

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่นี่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210310005930/en/

ติดต่อ:

Kristin Elder, Hill+Knowlton Strategies ตัวแทนของ MG Foods
Kristin.Elder@hkstrategies.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย










American Express เปิดตัวรายงานแนวโน้มการเดินทางทั่วโลกปี 2564

Logo

การสำรวจผู้บริโภคทั่วโลกเผยให้เห็นแนวโน้มสำคัญที่บ่งบอกถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการเดินทาง ความพร้อมในการวางแผนสำหรับการเดินทางในอนาคต และการเพิ่มขึ้นของผู้เร่ร่อนดิจิทัล (digital nomad)

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–9 มีนาคม 2564

American Express (NYSE: AXP) เปิดตัว American Express Travel: Global Travel Trends Report ในวันนี้ โดยให้ข้อมูลเชิงลึกลักษณะพิเศษเฉพาะเกี่ยวกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อการเดินทางเกือบระยะเวลาหนึ่งปีหลังจากการเริ่มแพร่ระบาดของโควิด-19 ผลการวิจัยในรายงานนี้มีพื้นฐานมาจากการวิจัยเชิงสำรวจทั้งหมด 7 ประเทศได้แก่ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อินเดีย แคนาดา เม็กซิโก ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักรโดยแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคเฝ้ารอที่จะเดินทางอีกครั้งและพวกเขากำลังวางแผนสำหรับการเดินทางในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210309005322/en/

American Express Travel: Global Travel Trends Report Finds Consumers are Looking Forward to Traveling Again (Graphic: Business Wire)

American Express Travel: รายงานแนวโน้มการเดินทางทั่วโลกพบว่าผู้บริโภคเฝ้ารอที่จะเดินทางอีกครั้ง (กราฟิก: Business Wire)

ข้อมูลเชิงลึกยอดนิยมได้แก่:

  • ความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก: 87% ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่า การวางแผนการเดินทางในอนาคตทำให้พวกเขามีบางสิ่งที่เฝ้ารอ 76% ของผู้ตอบแบบสอบถามกำลังสร้างจุดหมายปลายทางในการเดินทางในอนาคต แม้ว่าพวกเขาอาจจะยังไม่สามารถเดินทางได้ และ 63% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า พวกเขาสะสมคะแนนบัตรเครดิตเพื่อใช้ในการไปเที่ยวพักผ่อนได้เมื่อรู้สึกว่าสามารถเดินทางได้อย่างสบายใจ
  • พร้อมจองเลย: 56% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า พวกเขาคิดถึงการเดินทางมากจนเต็มใจที่จะจองทริปตอนนี้ แม้ว่าอาจจะต้องยกเลิกในอนาคตก็ตาม
  • การเพิ่มขึ้นของผู้เร่รอนดิจิทัล (Digital Nomad): 54% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า เสรีภาพและความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิตและการทำงานในขณะที่เดินทางไปทั่วโลกนั้นน่าสนใจกว่าก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาด
  • ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ: 65% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า พวกเขาวางแผนที่จะเดินทางหลังจากที่พวกเขาและสมาชิกในครอบครัวได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 แล้ว
  • ความเป็นส่วนตัวคือ ความใหม่สุดหรู (New Ultimate Luxury): 75% ของผู้ตอบแบบสอบถามยอมรับว่าประสบการณ์ที่มอบความเป็นส่วนตัวขั้นสูงสุดจะเป็นสิ่งสำคัญที่ได้รับความสนใจจากการเดินทางแบบหรูหรา
  • เพิ่มการเดินทางอย่างยั่งยืน: 68% ของผู้ตอบแบบสอบถามยอมรับว่า พวกเขาพยายามตระหนักถึงแบรนด์การเดินทางที่เป็นมิตรและยั่งยืนมากขึ้นเพื่อสนับสนุน

 “รายงานแนวโน้มทั่วโลกล่าสุดของเราแสดงให้เห็นว่า มีความต้องการเดินทางในกลุ่มผู้บริโภค ซึ่งมีผู้คนจำนวนมากเฝ้าปรารถนาและเริ่มวางแผนการเดินทางในอนาคต” Audrey Hendley ประธานของ American Express Travel กล่าว “นอกจากนี้สภาพแวดล้อมของการแพร่ระบาดยังก่อให้เกิดเทรนด์ใหม่ ๆ เช่น ความสนใจที่เพิ่มขึ้นของการทำงานจากทุกที่ในขณะเดินทางไปทั่วโลก ความหรูหราถูกกำหนดให้เป็นประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น ความสะอาดและความเป็นส่วนตัวในสิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรูที่ดีที่สุด รวมถึงความสนใจที่เพิ่มมากขึ้นในความต้องการด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมของการเดินทางและบริษัทท่องเที่ยวของพวกเขา”

ดูข้อค้นพบที่สำคัญจากรายงานดังต่อไปนี้:

ผู้บริโภคกำลังมองไปข้างหน้าเพื่อการเดินทางอีกครั้ง

ผู้คนต่างค้นหาความหวังและความสบายใจในการทบทวนและวางแผนการเดินทางในอนาคต

  • การเดินทางที่ยกระดับสุขภาพและความสุขสมบูรณ์: 78% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า ต้องการเดินทางในปี 2564 เพื่อคลายความเครียดจากปี 2563
  • การวางแผนและการชำระเงินสำหรับการเดินทางในอนาคต: หนึ่งในสามกล่าวว่า พวกเขาจะใช้เครดิตการเดินทางหรือคะแนนสะสม เพื่อชำระค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมดหรือบางส่วนในปี 2564 บ่อยครั้งกว่าที่เคยทำมาก่อนการระบาดของโควิด-19
  • การชดเชยสำหรับการพลาดการเดินทาง: 61% ของผู้ตอบแบบสำรวจวางแผนที่จะใช้จ่ายมากกว่าปกติในการเดินทางในปี 2564 เนื่องจากไม่สามารถเดินทางได้ในปี 2563
  • ผู้บริโภคเต็มใจเสียสละเพื่อการเดินทาง: 64% ของผู้ตอบแบบสอบถามเต็มใจที่จะยอมสละการใช้โซเชียลมีเดียเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อให้สามารถไปพักร้อนได้
  • การท่องเที่ยวเชิงอาหารอยู่ที่นี่เพื่อเข้าพัก: 62% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า การรับประทานอาหารเป็นกิจกรรมอันดับต้น ๆ ที่พวกเขาสนใจในขณะเดินทางและข้อมูลการจองของ American Express Travel ในเดือนมกราคม 2564 แสดงให้เห็นว่าเมืองที่เป็นจุดศูนย์กลางของนักชิมที่มีจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับสมาชิกบัตรในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศได้แก่ ไมอามี ซานฟรานซิสโก ชิคาโก และฮิวสตัน เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับสมาชิกบัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสของสหรัฐอเมริกา2 ในขณะที่เม็กซิโกซิตี้สิงคโปร์และโตเกียวอยู่ในอันดับต้น ๆ สำหรับสมาชิกบัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสระหว่างประเทศ3

กรอบความคิดในการเดินทางรูปแบบใหม่

ด้วยการเปลี่ยนแปลงนโยบายการจอง ข้อเสนอการเดินทาง และจุดหมายปลายทางรูปแบบใหม่ที่ต้องพิจารณา วันนี้จึงมีการเสนอแนวคิดการเดินทางรูปแบบใหม่

  • การท่องเที่ยวแบบหรูหรา: การแพร่ระบาดของโรคได้เปลี่ยนแนวความคิดของผู้คนเกี่ยวกับการเดินทางแบบหรูหราด้วยประสบการณ์เฉพาะบุคคล (82%) มาตรฐานความสะอาดระดับสูง (81%) และความเป็นส่วนตัว (79%) เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกหรูหราที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม1  59% ระบุว่าต้องการใช้ตัวแทนการท่องเที่ยวเพื่อช่วยวางแผนและปรับแต่งการเดินทางในครั้งต่อไป และ 80% ระบุว่าพวกเขาเต็มใจที่จะเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางในช่วงนอกฤดูกาลเพื่อให้มีผู้คนน้อยลง
  • เพิ่มจุดหมายปลายทางใน ‘เมืองรอง’: 69% ของผู้ตอบแบบสอบถามสนใจที่จะเยี่ยมชมจุดหมายปลายทางที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักและข้อมูลการจองของ American Express Travel ช่วยตอกย้ำแนวโน้มนี้โดยแสดงให้เห็นว่ามีการจองจุดหมายปลายทางในเมืองรองที่เพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น ดัลลัสและชาร์ล็อตต์ มียอดจองจากสมาชิกบัตรระหว่างประเทศในเดือนมกราคม 2564 สูงกว่าปีก่อน4 และที่ปรึกษาของ American Express Travel เห็นคำร้องขอสำหรับเมืองเล็ก ๆ เช่น ปอร์โต (แทนที่ลิสบอน) ในโปรตุเกสและเวลลิงตัน (แทนที่โอ๊คแลนด์) ในนิวซีแลนด์

การเดินทางด้วยวัตถุประสงค์

ผู้บริโภคกลายเป็นนักเดินทางที่ใส่ใจมากขึ้น ตระหนักถึงบริษัทท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับค่านิยมของพวกเขามากขึ้น และจะเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนได้

  • การสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น: 72% ของผู้ตอบแบบสอบถามยอมรับว่า พวกเขาหลงใหลในการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางเพื่อช่วยเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในท้องถิ่น1
  • การสนับสนุนแบรนด์การเดินทางที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลายและการรวมเข้าด้วยกัน: 69% ของผู้ตอบแบบสอบถามยอมรับว่า ต้องการเลือกสายการบิน/โรงแรมที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลายและการรวมเข้าด้วยกัน และพนักงานของพวกเขาสะท้อนให้เห็นถึงฐานลูกค้าที่หลากหลาย
  • นักเดินทางที่มีจิตสำนึกในเรื่องคาร์บอน: 60% ของผู้ตอบแบบสอบถามยอมรับว่า ต้องการจองสายการบินที่มีพันธะสัญญาเรื่องคาร์บอน

ที่ปรึกษาด้านการเดินทาง 4,500 คนของ American Express Travel ให้บริการระดับโลกแก่ลูกค้าด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงพร้อมการสนับสนุนแบบสัมผัสขั้นสูงทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าและความมั่นใจมากขึ้นในทุกขณะที่พร้อมเดินทาง บริษัทได้เปิดตัวมอบส่วนลดและข้อเสนอมากมายสำหรับโรงแรม การเช่าเครื่องบินและรถ และการยกเว้นค่าธรรมเนียมการยกเลิกการเดินทางของ American Express Travel จนถึงสิ้นเดือนกันยายน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AmexTravel.com

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ American Express Travel: รายงานแนวโน้มการเดินทางทั่วโลก โปรดไปที่นี่

AMERICAN EXPRESS TRAVEL: ระเบียบวิธีการรายงานแนวโน้มการเดินทางทั่วโลก

1 การสำรวจความคิดเห็นออนไลน์ของ Amex Trendex จัดทำโดย Morning Consult ระหว่างวันที่ 15-24 มกราคม 2564 จากกลุ่มตัวอย่างของผู้เดินทางในประเทศจำนวน 1,000 คนในออสเตรเลีย แคนาดา อินเดีย ญี่ปุ่น เม็กซิโก และสหราชอาณาจักร และจำนวน 2,000 คนในสหรัฐอเมริกาที่มีรายได้ครัวเรือน 70,000+ ดอลลาร์สหรัฐ (HHI) เทียบเท่าในออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา เทียบเท่ามากกว่า 50,000+ ดอลลาร์สหรัฐ HHI ในเม็กซิโกและรายได้ครัวเรือนเทียบเท่า 20,000+ ดอลลาร์สหรัฐ ในอินเดีย ผู้เดินทางถูกกำหนดให้เป็นผู้ใหญ่ที่เดินทางโดยเครื่องบินอย่างน้อยหนึ่งครั้งในปี 2562 ผลลัพธ์อาจมีความคลาดเคลื่อนบวกหรือลบ 2 เปอร์เซ็นต์ในสหรัฐอเมริกา บวกหรือลบ 3 เปอร์เซ็นต์ในประเทศอื่น ๆ

2 อ้างอิงจากการจองเที่ยวบินและโรงแรมของสมาชิกบัตรในสหรัฐอเมริกาผ่าน American Express Travel ในเดือนมกราคม 2564

3 อ้างอิงจากการจองเที่ยวบินและโรงแรมของสมาชิกบัตรระหว่างประเทศผ่าน American Express Travel ในเดือนมกราคม 2564

4 อ้างอิงจากการจองโรงแรมและเครื่องบินของสมาชิกบัตรระหว่างประเทศผ่าน American Express Travel ในเดือนมกราคม 2564 เทียบกับมกราคม 2563

เกี่ยวกับ AMERICAN EXPRESS

American Express เป็นบริษัทด้านการชำระเงินแบบครบวงจรทั่วโลก โดยให้บริการลูกค้าในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ ข้อมูลเชิงลึก และประสบการณ์ที่เสริมสร้างชีวิตและสร้างความสำเร็จทางธุรกิจ เรียนรู้เพิ่มเติมที่ americanexpress.com และเชื่อมต่อกับเราที่ facebook.com/americanexpressinstagram.com/americanexpresslinkedin.com/company/american-expresstwitter.com/americanexpress, และ youtube.com/americanexpress.

ลิงก์สำคัญไปยังผลิตภัณฑ์ บริการ และข้อมูลความรับผิดชอบขององค์กร: charge and credit cardsbusiness credit cardstravel servicesgift cardsprepaid cardsmerchant servicesAccertifyInAuthcorporate cardbusiness travel, และ corporate responsibility.

รับชมเวอรชันต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210309005322/en/

ติดต่อ:

AMERICAN EXPRESS
Heather Norton
Heather.A.Norton@aexp.com

Ali Pearce
Ali.Pearce@aexp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย



Monde Nissin ส่งใบยื่นขอลงทะเบียนสำหรับการเสนอขายต่อสาธารณะครั้งแรก กับสำนักงาน ก.ล.ต. ของฟิลิปปินส์

Logo

ห้ามเผยแพร่หรือจัดจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา พื้นที่เศรษฐกิจยุโรป สหราชอาณาจักร แคนาดา ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย

เมืองมาคาติ, ฟิลิปปินส์–(BUSINESS WIRE)–4 มี.ค. 2564

Monde Nissin Corporation (“ Monde Nissin”) ประกาศในวันนี้ว่า บริษัท ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของฟิลิปปินส์ เกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (“การเสนอขาย”) โดย Monde Nissin วางแผนที่จะออกหุ้นมากถึง 3,600 ล้านหุ้น ในราคาสูงถึง 17.50 เปโซต่อหุ้น คาดว่าอาจจะได้รับรายได้รวมสูงสุด 63,000 ล้านเปโซ จากการเสนอขายนี้ที่ไม่รวมรายได้จากการใช้สิทธิในการจัดสรรหุ้นเกินมูลค่าสูงสุด 15% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายจำนวน 3,600 ล้านหุ้น โดยปกติแล้วส่วนลดและค่าคอมมิชชั่นในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการเสนอขายอื่น ๆ ที่ Monde Nissin ต้องชำระ จะถูกหักออกจากรายได้รวมของการเสนอขาย รายได้สุทธิที่ได้รับจะถูกนำไปใช้ในการขยายและเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตและเทคโนโลยีรวมถึงธุรกิจในสหราชอาณาจักรและตลาดสำคัญอื่น ๆ ระยะเวลาของการเสนอขาย สำหรับราคาเสนอสุดท้าย จำนวนหุ้นเสนอซื้อสุดท้าย และการจัดสรรเงินนั้นจะขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด สถานการณ์รอบ ๆ ข้อเสนอ และขึ้นอยู่กับการได้รับการอนุมัติตามกฎข้อบังคับที่จำเป็น อีกด้วย

UBS AG สาขาสิงคโปร์จะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานระดับโลกร่วมแบบ Lead Left  ส่วน Citigroup Global Markets Limited, Credit Suisse (Singapore) Limited และ J.P. Morgan Securities plc จะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานร่วมระดับโลกสำหรับการเสนอขาย ส่วน BDO Capital & Investment Corporation, BPI Capital Corporation และ First Metro Investment Corporation จะเป็นผู้นำการจัดจำหน่ายในท้องถิ่น

ได้มีการยื่นร่างหนังสือเวียนการเสนอขายเบื้องต้นพร้อมแบบแสดงรายการข้อมูลเพื่อตรวจสอบและอนุมัติของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปปินส์และตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปปินส์ไว้แเลว สำเนาของแบบร่างข้อเสนอเบื้องต้นเกี่ยวกับข้อเสนอมีอยู่ในเว็บไซต์ของ Monde Nissin ที่ www.mondenissin.com.

แบบแสดงรายการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์เหล่านี้ได้ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของฟิลิปปินส์แล้ว แต่ยังไม่มีผลบังคับใช้ ห้ามขายหลักทรัพย์เหล่านี้หรือตอบรับข้อเสนอขายก่อนเวลาที่แบบแสดงรายการข้อมูลจะมีผลบังคับใช้ ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขายหรือการชักชวนให้เสนอซื้อ และจะไม่มีการขายหลักทรัพย์เหล่านี้ในเขตอำนาจศาลใด ๆ ซึ่งการเสนอการชักชวนหรือการขายดังกล่าวจะไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น ๆ ก่อนที่จะมีการจดทะเบียนหรือมีคุณสมบัติภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ของเขตอำนาจศาลดังกล่าว

เอกสารฉบับนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับการแจกจ่ายไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมในหรือในสหรัฐอเมริกา (รวมถึงดินแดนและทรัพย์สินรัฐใด ๆ ของสหรัฐอเมริกาและ District of Columbia) การสื่อสารนี้ไม่ใช่ข้อเสนอและไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเสนอขายหลักทรัพย์ใด ๆ ในสหรัฐอเมริกาหรือที่อื่น ๆ หลักทรัพย์ที่อ้างถึงในที่นี้ยังไม่ได้รับและจะไม่ได้รับการจดทะเบียนภายใต้พระราชบัญญัติหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาปี 2476 (พระราชบัญญัติหลักทรัพย์) หรือกับหน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์ของรัฐหรือเขตอำนาจศาลอื่น ๆ ของสหรัฐอเมริกาและไม่สามารถเสนอขายหรือขายได้ภายในสหรัฐอเมริกายกเว้น มีข้อยกเว้นหรือในการทำธุรกรรมที่ไม่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดการจดทะเบียนของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ จะไม่มีการร้องขอเงินหลักทรัพย์หรือสิ่งตอบแทนอื่นใดจากการสื่อสารของเอกสารนี้หรือข้อมูลที่มีอยู่ในที่นี้ และจะไม่มีการยอมรับการเสนอตอบใด ๆ ที่เกิดจากการสื่อสารครั้งนี้หรือจากข้อมูลที่อยู่ในที่นี้

เกี่ยวกับ Monde Nissin

Monde Nissin Corporation เป็นบริษัทอาหารและเครื่องดื่มระดับโลกซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในฟิลิปปินส์ โดยมีพอร์ตโฟลิโอผลงานที่มีแบรนด์ชั้นนำที่มีชื่อเสียงมากมายและหลากหลายตลาดในหมวดหมู่ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมไปถึง ก๋วยเตี๋ยว Lucky Me! , แครกเกอร์ SkyFlakes, แครกเกอร์ Fita, ขนมอบ Monde และผลิตภัณฑ์ทางเลือกแทนการใช้เนื้อสัตว์ Quorn โดย บริษัทมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนและโลกใบนี้และสร้างโซลูชันที่ยั่งยืนสำหรับความมั่นคงด้านอาหาร ความทะเยอทะยานดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีรสชาติอร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการดีขึ้น และเป็นผลดีสำหรับโลกใบนี้ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.mondenissin.com.

เกี่ยวกับ Quorn

Quorn Foods เป็นผู้นำตลาดระดับโลกในด้านโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพและมีความยั่งยืน บริษัทซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมือง Stokesley รัฐนอร์ทยอร์กเชียร์ในสหราชอาณาจักร นำเสนอผลิตภัณฑ์รสชาติยอดเยี่ยมมากมายเพื่อดึงดูดกลุ่มคนที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วที่ต้องการลดการบริโภคเนื้อลง บริษัทมีพนักงานประมาณ 1,000 คนและส่งออกไปยัง 20 ประเทศทั่วโลก รวมถึงออสเตรเลีย สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา Quorn®เป็นหนึ่งในแบรนด์ FMCG 40 อันดับแรกของสหราชอาณาจักร ส่วน Quorn Foods Ltd เป็นกลุ่มบริษัทซึ่งรวมถึงบริษัทการค้าหลักอย่าง Marlow Foods Ltd. อนึ่ง Quorn Foods Ltd ครอบคลุมการดำเนินงานระหว่างประเทศทั้งหมดของ Quorn® และ Cauldron™ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  www.quorn.co.uk.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210304005416/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ:

สื่อจากฟิลิปปินส์

Monde Nissin

Mark Tiangco

corp.comm@mondenissin.com

สื่อต่างประเทศ

Sard Verbinnen & Co

Ron Low, Jay Qin และ Eve Young

MondeNissin-SVC@sardverb.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ลูกค้า NZMP™ เตรียมพบกับจากผลิตภัณฑ์ที่มีคาร์บอนเป็นศูนย์

Logo

แบรนด์ผลิตภัณฑ์นม Fonterra จะเริ่มจำหน่ายเนยออร์แกนิก NZMP™ ที่ได้รับการรับรองว่ามีส่วนผสมคาร์บอนเป็นศูนย์

โอ๊คแลนด์ นิวซีแลนด์–(บิสิเนสไวร์)–03 มี.ค. 2564

NZMP™ แบรนด์ผลิตภัณฑ์นมของ Fonterra ได้เปิดตัวเนยออร์แกนิคสูตรใหม่ที่ได้รับการรับรองว่ามีคาร์บอนเป็นศูนย์  เนยออร์แกนิกใหม่ที่เปิดตัวในอเมริกาเหนือจะช่วยให้ลูกค้าของ NZMP บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนมากขึ้น

ผู้บริโภคทั่วโลก 72 เปอร์เซ็นต์แสดงความสนใจในแบรนด์ที่สื่อสารถึงความสำเร็จด้านความยั่งยืน1 การประกาศส่วนผสมที่มีคาร์บอนเป็นศูนย์จึงเป็นหนึ่งในวิธีที่ลูกค้า NZMP™ สามารถใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนของ Fonterra

ส่วนผสมที่มีคาร์บอนเป็นศูนย์ที่ได้รับการรับรองเป็นครั้งแรกของ NZMP™ ได้รับการตรวจสอบและรับรองโดย Toitū Envirocare ซึ่งเป็นผู้รับรองอิสระ

Lara Phillips ผู้จัดการอาวุโสของ Fonterra Sustainability Solutions กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นหนึ่งในความท้าทายที่เร่งด่วนที่สุดในยุคของเราและเรามุ่งมั่นที่จะค้นหาแนวทางแก้ไขเพื่อลดผลกระทบของเราซึ่งเป็นเป้าหมายด้านความยั่งยืนของเรา”

“เพื่อให้ได้รับการรับรองส่วนผสมคาร์บอนเป็นศูนย์ ทาง Toitū ได้ตรวจสอบการปล่อยคาร์บอนของส่วนผสมนั้นทั่วทั้งห่วงโซ่อุปทาน  นอกจากนี้เรายังต้องแสดงให้เห็นว่าเราได้ลดการปล่อยมลพิษจนถึงปัจจุบันและในอนาคต”

“ขั้นตอนสุดท้ายในการรับรองคือการชดเชยการปล่อยคาร์บอนด้วยคาร์บอนเครดิตคุณภาพสูงที่ได้รับการอนุมัติจาก Toitū เช่นจากโครงการฟื้นฟูป่าไม้หรือโครงการพลังงานหมุนเวียน  การทำตามขั้นตอนนี้จะช่วยให้ลูกค้าลดการปล่อยมลพิษในห่วงโซ่อุปทานและทำให้ผู้บริโภคสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ที่สร้างความแตกต่างได้

“การได้รับการรับรองส่วนผสมคาร์บอนเป็นศูนย์สำหรับผลิตภัณฑ์เช่นเนยออร์แกนิคเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการช่วยเหลือลูกค้าและสิ่งแวดล้อมในระยะสั้นระหว่างที่เราทำงานเพื่อให้การดำเนินของเราทั้งหมดมีค่าการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์”

Kelvin Wickham ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AMENA เชื่อว่าส่วนผสมที่มีคาร์บอนเป็นศูนย์เช่นเนยออร์แกนิคของ NZMP™ สามารถช่วยปลดล็อกผลประโยชน์ที่แท้จริงให้กับลูกค้าของเรา โดยช่วยให้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน ส่งสัญญาณคุณค่าด้านสิ่งแวดล้อม และเพิ่มความชื่นชอบในแบรนด์และส่วนแบ่งการตลาดผ่านผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง

“Fonterra New Zealand มีรอยเท้าคาร์บอนในฟาร์มต่ำที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยน้อยกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกประมาณ 1 ใน 3 ทำให้ NZMP™ อยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งในการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนที่ช่วยให้ลูกค้าลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและมีความได้เปรียบในตลาด”

เนยออร์แกนิค NZMP™ พร้อมใบรับรองคาร์บอนเป็นศูนย์มีจำหน่ายสำหรับลูกค้าในสหรัฐอเมริกา  เพื่อรองรับความต้องการและความต้องการของลูกค้า NZMP™ ในอนาคต จะขยายผลงานไปยังหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์และภูมิภาคอื่นๆ

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนยออร์แกนิก NZMP™ ที่ได้รับการรับรอคาร์บอนเป็นศูนย์ โปรดไปที่ https://www.nzmp.com/global/en/products/ingredients/types/dairy-fats/butter/organic-unsalted-butter-carbonzero.html


1 รายงานการวิจัยความยั่งยืนของ FMCG Gurus ปี 2562

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210303005210/en/

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ Sophie Coley, Porter Novelli ในนามของ NZMP
Sophiec@porternovelli.kiwi 
+64 22 565 8919

Stephanie Sprangers ผู้ก่อตั้ง Glamhive และ Nicole Chavez สไตลิสต์คนดังประกาศเรื่องการประชุมสุดยอด Digital Winter Style and Beauty Summit

Logo

การประชุมจะเป็นการรวมตัวกันของผู้นำในอุตสาหกรรมสไตล์และความงาม เพื่อพูดคุยเรื่องแฟชั่น ความงาม และการเป็นผู้ประกอบการ

ซีแอตเติล และ ลอสแอนเจลิส–(BUSINESS WIRE)–24 ก.พ. 2564

Glamhive ประกาศการประชุมออนไลน์ครั้งที่ 4 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 การประชุมสุดยอด Glamhive Digital Winter Style and Beauty Summit (การประชุมสุดยอดสไตล์ฤดูหนาวด้านความงามออนไลน์)  จะรวบรวมผู้นำแฟชั่นและความงามชั้นนำตั้งแต่ Cindy Eckert สไตลิสต์ของ Kristen Bell ที่กลายมาเป็นเป็นผู้ประกอบการและนักลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ โดยเหล่าผู้นำด้านนวัตกรรมจะพูดคุยเกี่ยวกับแฟชั่น ความงาม การเป็นผู้ประกอบการและอื่น ๆ ซึ่ง Stephanie Sprangers และ Nicole Chavez จะร่วมเป็นเจ้าภาพในงานนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210224005275/en/

The Glamhive Digital Winter Style and Beauty Summit will bring together top fashion and beauty leaders (Graphic: Mary Kay Inc.)

งานประชุม Glamhive Digital Winter Style and Beauty Summit จะรวบรวมผู้นำแฟชั่นและความงามชั้นนำมาไว้ด้วยกัน (กราฟฟิค: Mary Kay Inc. )

“ฉันชอบที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมสุดยอดด้านสไตล์และความงามของ Glamhive โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ การประชุมสุดยอดจะก่อให้เกิดความรู้สึกของความกลมเกลียวเป็นชุมชน ซึ่งปัจจุบันยังเป็นสิ่งที่ขาดไปในโลกของนักทำงานสร้างสรรค์ นอกจากนี้ฉันยังได้ทำความรู้จักสร้างคอนเนคชันกับศิลปินคนอื่น ๆ เรื่อยมา” Nicole Chavez สไตลิสต์คนดังกล่าว Nicole เป็นหนึ่งในสไตลิสต์ที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในปัจจุบัน ลูกค้าของเธอรวมถึงดาราระดับ A-List อาทิเช่น Kristen Bell, Rachel Bilson, Jessica Simpson, Ellie Bamber, Scarlett Johansson, Catherine Zeta-Jones และอื่น ๆ อีกมากมาย ผลงานของเธอได้รับการนำเสนอในสิ่งพิมพ์หลายฉบับรวมถึง W, InStyle และ Harper's Bazaar

“วิสัยทัศน์ของ Glamhive คือการให้สร้างประโยชน์จากการทำงานร่วมกับสไตลิสต์ส่วนตัวที่มีให้กับทุกคนทุกที่ ส่วนงานดิจิทัลต่าง ๆ ของเราก็ถือเป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยม สิ่งดี ๆ ที่เกิดจากวิกฤตปีที่ผ่านมาก็คือการที่เราสามารถนำการประชุมสุดยอดด้านสไตล์ของเราไปสู่โลกดิจิทัล ซึ่งจะทำให้ทุกคนในทุก ๆ ที่สามารถพบปะและเรียนรู้จากสิ่งที่ดีที่สุดในธุรกิจได้” Stephanie Sprangers ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Glamhive กล่าว โดย Sprangers เป็นผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Glamhive ซึ่งเป็นบริการจัดแต่งสไตล์ส่วนตัวออนไลน์ที่นำเสนอสไตลิสต์ส่วนตัวและช่างแต่งหน้าผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับคัดเลือกโดยตรงจากฮอลลีวูดและอินสตาแกรมให้กับทุกคน โดย Glamhive ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทซึ่งช่วยให้สไตลิสต์สามารถแนะแนวทางให้แก่ลูกค้าผ่านประสบการณ์การจัดแต่งทรงผมแบบออนไลน์ได้ 100% ทำให้ผู้คนสามารถทำงานกับสไตลิสต์ได้ทุกที่ในโลก

ตั๋วสำหรับกิจกรรมตลอดทั้งวันจะทำให้คนเข้าถึงวิทยากรกว่า 60 ท่าน ด้านล่างนี้แสดงภาพรวมของหัวข้อบางส่วนที่วิทยากรระดับ All-Star นี้จะได้พูดถึง

ภาพรวมของหัวข้อ:

ประกอบด้วยสองแทร็ก และ 22 เซ็กเมนท์ ภาพรวม:

  • สไตล์สำหรับพรมแดง: สร้างช่วงเวลาแบบไอคอน
  • แนวโน้มปี 2021: สไตล์หลังโควิด
  • การเอาชนะเกมสไตล์วินเทจ คือ อาวุธลับของคุณ
  • คู่มือสไตลิสต์: จะสร้างสไตล์ทีดีที่สุดในชีวิตได้อย่างไร
  • Beauty Boss Babe: บทสัมภาษณ์กับ Jamie Kern Lima
  • สุดยอดคำแนะนำสำหรับผม “แบบง่าย ๆ “
  • เข้าสังคมกันเถอะ: เทรนด์ความงาม Instagram และ TikTok ที่ดีที่สุด
  • โหราศาสตร์แห่งแฟชั่น กับ Susan Miller
  • มากกว่าที่ตาเห็น: เสื้อผ้าของคุณบอกอะไรเกี่ยวกับคุณ
  • ROI ของสไตล์: การแต่งตัวให้ดีสร้างความคุ้มค่าแค่ไหน
  • ฉันสร้างสิ่งนี้ได้อย่างไร: ขอคำแนะนำที่ดีจากผู้หญิงที่ก้าวสู่จุดสูงสุด

วิทยากร:

วิทยากร ได้แก่ สไตลิสต์คนดัง ช่างแต่งหน้า ผู้สร้างอิมเมจที่ทำงานกับบุคคลชื่อดังในฮอลลีวูดและอีกมากมาย รวมถึง

Angelina Jolie, Serena Williams, Mandy Moore, Sarah Jessica Parker, Kristen Bell, Khloe Kardashian, Robert Downey Jr., Keanu Reeves, Sharon Stone, Miranda Lambert, Julianne Moore และอีกมากมาย

สไตลิสต์คนดัง:

Nicole Chavez, Jill + Jordan, Jeanne Yang, Jennifer Rade, Tara Swennen, Janelle Miller, Lindsey Dupuis, Tiffany Gifford, Kesha McLoud, และ Sonia Young.

ช่างแต่งหน้า + ช่างทำผมที่มีชื่อเสียง:

Tommy Buckett, Todd Harris, Diana Madison, Danny Moon, AJ Crimson และ Helen Reavey.

ผู้ประกอบ การนักออกแบบ และผู้นำทางธุรกิจ:

Claire Sulmers (Fashion Bomb Daily), Hillary Kerr (WhoWhatWear), Tara Rudes Dann (L'Agence), Steven Dann (Designer), Cindy Eckert (The Pink Ceiling Fund), Helen Ravey (Act+Acre), Cassandra Cadwell (Violet Grey), Michelle Waugh (Designer), Clarissa Egana (Port De Bras), Amy Rosoff Davis (Celebrity Trainer), Jamie Kern Lima (IT Cosmetics).

โมเดอเรเตอร์:

Brian Underwood (O Magazine), Brooke Jaffe (Penske Media), Pandora Amoratis (Daily Mail), Andrea Lavanthal (PEOPLE), Robin Nazzaro (O Magazine), Alexis Bennett (Vogue) and Kibwe Chase-Marshall (The Kelly Initiative).

ตั๋วเข้าร่วมการประชุมตลอดทั้งวันราคา 149 ดอลลาร์ ผู้สนับสนุนการนำเสนอของ Glamhive Digital Winter Style and Beauty Summit ได้แก่ Mary Kay Inc. และ Mary Kay Global Design Studio

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.glamhive.com/upcoming.

เกี่ยวกับ Glamhive

Glamhive ก่อตั้งขึ้นโดย Stephanie Sprangers ผู้ประกอบการในปี 2560 โดยมีวิสัยทัศน์ที่จะทำให้การตกแต่งเสริมสไตล์เข้าถึงปัจเจกชน และยังมีหลักการว่า ความเชื่อมั่นที่มาพร้อมกับความเย้ายวนใจไม่ควรเป็นเฉพาะของคนรวยและคนดังเท่านั้น

ประสบการณ์การจัดแต่งทรงผมออนไลน์ช่วยให้ทุกคนที่สามารถเข้าถึงการเชื่อมต่อ WiFi ได้พบกับสไตลิสต์ที่จะให้การสนับสนุนแก่พวกเขาเพื่อสร้างเวอร์ชันที่ดีที่สุดของพวกเขา แพลตฟอร์ม Glamhive เป็นแพลตฟอร์มแบบครบวงจรที่ไร้รอยต่อสำหรับสไตลิสต์ เพื่อช่วยให้พวกเขาขยายเครือข่ายและธุรกิจของพวกเขาได้บนโลกออนไลน์ 100%

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ฉีกกฎเกณฑ์แบบเดิม ได้ก่อตั้งบริษัทด้านความงามของเธอมานานกว่า 57 ปี โดยมีเป้าหมายสามประการ คือ มอบโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และการทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น ความฝันดังกล่าวได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการค้นคว้าวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัยเครื่องสำอางค์สี น้ำหอม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงและครอบครัวด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงภายในครัวเรือน การทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และการส่งเสริมเด็ก ๆให้ทำตามความฝันของตน ดังนั้นวิสัยทัศน์อันดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ในคอนเซปท์ ก้าวไปด้วยกันทีละลิปสติกยังคงส่องสว่างนำทางต่อไป อ่านเพิ่มเติมที่ MaryKay.com.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210224005275/en/

Stephanie Sprangers, ผู้ก่อตั้ง + ซีอีโอ, Glamhive

stephanie@glamhive.com

+1.206.851.0446

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย