NielsenIQ เร่งขยายกลยุทธ์การค้าปลีกทั่วโลกด้วยการนำ Dawn E. Norvell มาร่วมงานในฐานะผู้นำห้องแล็บการค้าปลีก หรือ Retail Lab

Logo

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–27 มิ.ย. 2565

NielsenIQ ได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับแนวปฏิบัติด้านการค้าปลีกระดับโลกด้วยการนำ Dawn E. Norvell มาร่วมงานในตำแหน่งหัวหน้าระดับโลก ณ NielsenIQ Retail Lab ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ โดยในบทบาทใหม่นี้ Norvell จะเป็นผู้นำทีมที่ทำงานอย่างแข็งขัน ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งไปที่ความต้องการของลูกค้ารายย่อย การออกแบบโซลูชันการออกแบบ และยังช่วยให้ผู้ค้าปลีกใช้ชุดผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ NielsenIQ เพื่อช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของตนได้ดียิ่งขึ้น โดย Norvell จะเป็นผู้นำในการสร้างกลยุทธ์การขายและการจัดการเชิงพาณิชย์ที่ออกแบบมาเพื่อขยายจุดเน้นในการวิเคราะห์การค้าปลีกของ NielsenIQ อีกทั้งการสร้างความเติบโตภายในหน่วยธุรกิจ อีกด้วย

“NielsenIQ Retail Lab เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การค้าปลีกระดับโลกและความสำเร็จของบริษัทของเรา ความรู้และภูมิหลังระดับชั้นนำของอุตสาหกรรมในตลาดโลกของ Dawn จะมอบมุมมองที่หายากเกี่ยวกับบรรยากาศการค้าปลีกในปัจจุบันให้กับบริษัท” David Johnson ประธานฝ่ายค้าปลีกระดับโลกของ NielsenIQ กล่าว “ประสบการณ์ตรงที่กว้างขวางของเธอจะช่วยยกระดับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงเป้าหมายลูกค้า และเพิ่มความเข้าใจเชิงลึกที่จำเป็นให้กับทีมค้าปลีกของเรา เรารู้สึกตื่นเต้นที่ NielsenIQ ยังคงดึงดูดกลุ่มผู้ที่มีความสามารถสูงสุดของการเป็นนักคิดเชิงนวัตกรรมและผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ต่อไปเรื่อย ๆ”

Norvell เป็นผู้นำทางธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์พร้อมประวัติความสำเร็จและประสบการณ์การค้าปลีกที่กว้างขวาง ความเชี่ยวชาญของเธอในการวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภคและผู้ผลิต การเชื่อมโยงโซลูชันที่ซับซ้อนเพื่อแก้ปัญหาทางธุรกิจ การจัดการกำไรขาดทุน และกลยุทธ์ทางธุรกิจที่มุ่งผู้บริโภคเป็นหลัก จะช่วยให้เราสามารถส่งมอบผลลัพธ์ทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและในระยะยาวได้

“การย้ายมาที่ NielsenIQ เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับฉัน เพราะชื่อเสียงของบริษัทในการให้บริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม และการอุทิศตนเพื่อนำเสนอการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับแนวโน้มผู้บริโภคและตลาดที่ไม่มีใครเทียบได้” Dawn E. Norvell กล่าว “ฉันยังสนใจใน Retail Lab แห่งใหม่ของบริษัท ซึ่งเป็นแนวคิดของห้องแล็บที่เป็นนวัตกรรมที่แท้จริงที่ช่วยให้ค้นพบปัญหาที่เป็นต้นตอจริง ๆ ของผู้ค้าปลีก อีกทั้งยังมีความสามารถในการจัดการกับปัญหาเหล่านี้ และโอกาสในการสร้างรายได้จากจุดแข็งของผู้ค้าปลีก อีกด้วย ฉันหวังว่าจะได้ผลักดันผลลัพธ์ทางธุรกิจที่แข็งแกร่งโดยการเป็นผู้นำและพัฒนาทีมนักคิดเชิงนวัตกรรมและผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถที่หลากหลาย ณ NielsenIQ Retail Lab”

ก่อนที่จะมาร่วมงานกับ NielsenIQ ตัว Norvell เองได้ทำงานกว่า 10 ปีที่ Walmart ที่ซึ่งเธอทำหน้าที่เป็นทั้งผู้ค้าอาวุโสและนักการตลาดประเภทสินค้าในด้านอาหาร วัสดุสิ้นเปลือง และความงาม เธอได้รับการยอมรับจากรางวัลต่าง ๆ ในอุตสาหกรรม ซึ่งรวมไปถึงรางวัล Merchandising Excellence Impact Award และรางวัล Risk Thinking Award ของ Walmart นอกจากนี้ Norvell ยังได้รับเลือกให้เป็นวิทยากรคนสำคัญในงานอีเวนต์ต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมหลายงาน และได้รับการยกย่องในฐานะผู้บริหารอุตสาหกรรมความงามที่ “ทรงพลัง” ในการจัดอันดับ “Black Women in Beauty: 15 Beauty Executives Who Are Changing the Industry หรือ สตรีผิวสีในอุตสาหกรรมความงาม: 15 ผู้บริหารด้านความงามที่สร้างความแตกต่างให้กับอุตสาหกรรม” ของนิตยสาร Essence

เกี่ยวกับ NielsenIQ

NielsenIQ บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลระดับโลก ซึ่งมอบมาตรฐานระดับสูงในการวัดผลผู้บริโภคและการค้าปลีก ผ่านความเข้าใจที่เชื่อมโยง สมบูรณ์ และที่สามารถนำไปดำเนินการได้มากที่สุดของผู้บริโภคจากทุกช่องทางทั่วโลก กลุ่มอุตสาหกรรมที่เราให้บริการต่างมอบความเชื่อมั่นให้กับ NielsenIQ โดย NielsenIQ ยังเป็นบริษัทผู้บุกเบิกศตวรรษหน้าในด้านการวัดผลผู้บริโภคและการค้าปลีก ข้อมูล ข้อมูลเชิงลึกที่เชื่อมต่อ และการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ของเราเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ CPG และบริษัทค้าปลีก ทำให้บริษัทต่าง ๆ ใกล้ชิดกับชุมชนที่พวกเขาให้บริการมากขึ้น และช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทเหล่านั้น

NielsenIQ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Advent International มีการดำเนินงานในตลาดมากกว่า 90 แห่ง ครอบคลุมมากกว่าร้อยละ 90 ของประชากรโลก ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ NielsenIQ.com.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220627005238/en/

ติดต่อ:

Gillian Mosher

รองประธานฝ่ายสื่อสาร

Gillian.mosher@nielseniq.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย