ทีมวิจัยร่วมชิงหัว-ลิเวอร์พูล ค้นพบกลไกการเก็บประจุแบบใหม่

Logo

ทีมวิจัยร่วมชิงหัว-ลิเวอร์พูล ค้นพบกลไกการเก็บประจุแบบใหม่

นครซินจู๋, ใต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–16 ส.ค. 2564

เนื่องจากความหนาแน่นของกำลังไฟฟ้าที่สูงและต้นทุนต่ำแบตเตอรี่โลหะอากาศ (metal-air batteries) จึงเป็นหนึ่งในแหล่งพลังงานที่เป็นที่คาดหวังมากที่สุดแหล่งหนึ่งสำหรับอนาคต ทีมวิจัยร่วมของชิงหัว-ลิเวอร์พูล (Tsinghua-Liverpool) เพิ่งพัฒนากลไกการจัดเก็บประจุแบบใหม่ ซึ่งช่วยให้สามารถชาร์จซ้ำได้ภายในแบตเตอรี่แคลเซียม-แอร์ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของเทคโนโลยีแบตเตอรี่

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นแบบด้วยมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่ https://www.businesswire.com/news/home/20210816005031/en/

Lu in Prof Hu’s lab where he set up experiments to cross compare results obtained at NTHU and at UoL.(Photo: National Tsing Hua University)

Lu ในห้องทดลองของ ศ. Hu ซึ่งเขาทำการทดลองเพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์ที่ได้จาก NTHU และที่ UoL (ภาพ: National Tsing Hua University)

การค้นพบนี้ได้รับการตีพิมพ์ใน Chemical Science โดยผู้เขียนรายงานฉบับนี้หลัก ๆ ได้แก่ Yi-Ting Lu ซึ่งเป็นนักศึกษาปริญญาเอกร่วมจากมหาวิทยาลัย Tsinghua กับ Liverpool โดยมี ศ. Chi-Chang Hu (ภาควิชาวิศวกรรมเคมี NTHU) และ ศ. Laurence Hardwick (ภาควิชาเคมี UoL ) เป็นที่ปรึกษา

ความก้าวหน้าครั้งสำคัญที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่ Ca-air

ศาสตราจารย์ Hu กล่าวว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบธรรมดามีความจุในทางปฏิบัติที่จำกัด ด้วยเหตุนี้นักวิจัยจำนวนมากจึงกำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ทางเลือก โดยมุ่งเน้นไปที่แบตเตอรี่โลหะ-อากาศที่มีสังกะสี ลิเธียม โซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม และอลูมิเนียม ข้อดีของแบตเตอรี่แคลเซียม-แอร์คือพลังงานจำเพาะสูง ซึ่งมากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบเดิมถึงห้าเท่า อย่างไรก็ตาม ยังมีอุปสรรคบางประการต่อความเป็นไปได้ของการใช้แบตเตอรี่แคลเซียม-แอร์ โดยข้อเสียเปรียบหลักประการหนึ่ง นั่นคือการไม่สามารถชาร์จใหม่ได้

Lu อธิบายว่าแบตเตอรี่โลหะ-อากาศเป็นเซลล์ไฟฟ้าเคมีที่มักใช้โลหะแอคทีฟเป็นอิเล็กโทรดลบ และใช้วัสดุคาร์บอนที่มีรูพรุนเมื่อสัมผัสกับอากาศเป็นอิเล็กโทรดบวก เมื่อโลหะออกซิไดซ์ออกซิเจน ขั้วบวกจะลดลงทำให้เกิดกระแสไฟฟ้า

หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกปีแรกที่ NTHUแล้ว Lu ได้ลงทะเบียนเรียนที่ Stephenson Institute for Renewable Energy ที่ UoL ในเดือนกันยายน 2561 โดยมี Prof. Hardwick เป็นที่ปรึกษา เขาเริ่มทำวิจัยเกี่ยวกับอิเล็กโทรไลต์ที่ใช้ในแบตเตอรี่แคลเซียม-แอร์

Lu พบเมื่อมีการชาร์จและคายประจุอิเล็กโทรดเดียวซ้ำแล้วซ้ำอีก ในตอนแรกจะไม่สามารถสังเกตการย้อนกลับได้ แต่หลังจากผ่านไปสองสามรอบอิเล็กโทรดจะค่อย ๆ แสดงการกลับตัวได้บางส่วน น่าแปลกที่ผลลัพธ์ที่ได้ ดูแตกต่างไปจากผลงานวิจัยก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง ทีมวิจัยได้ทำการทดลองหลายครั้งเพื่อเปิดเผยกลไกเบื้องหลังปรากฏการณ์นี้ บนพื้นผิวอิเล็กโทรด ผลิตภัณฑ์ที่มาจากการคายประจุจะก่อตัวเป็นชั้นกลางของแคลเซียมออกไซด์ (CaxOy) ซึ่งผลิตภัณฑ์การปลดปล่อยออกซิเจนที่เรียกว่าซูเปอร์ออกไซด์ถูกกักเอาไว้ ปล่อยให้ซูเปอร์ออกไซด์ถูกออกซิไดซ์ได้ง่าย สิ่งนี้บ่งชี้ว่าออกซิเจนอาจถูกออกซิไดซ์/ลดปริมาณซ้ำๆ เพื่อให้เซลล์ถูกปล่อยออก/ชาร์จใหม่อย่างต่อเนื่อง

ดร.Alex Neale นักวิจัยหลังปริญญาเอก หรือ โพสต์-ด็อก ของลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทีมวิจัยด้วย กล่าวว่า ด้วยการตรวจสอบทางเคมีไฟฟ้าและสเปกโทรสโกปีอย่างเป็นระบบ ทีมงานเริ่มเข้าใจที่มาของกลไกการเก็บประจุนี้ ซึ่งช่วยให้ระบบย้อนกลับของระบบในระดับที่มองไม่เห็นก่อนหน้านี้ สำหรับแบตเตอรี่แคลเซียม-แอร์

ศ. Hardwick กล่าวว่าทีมงานจะมุ่งเน้นไปที่การออกแบบระบบแบตเตอรี่ใหม่ที่ใช้กลไกการเก็บประจุที่ค้นพบใหม่นี้ เขาเสริมว่าการวิจัยแบบร่วมมือกันนี้ทำให้การค้นพบของพวกเขาเป็นไปได้ และมีแผนสำหรับความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่าง NTHU และ UoL ในอนาคต

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210816005031/en/

ติดต่อ:

Holly Hsueh

NTHU

(886)3-5162006

hoyu@mx.nthu.edu.tw

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Hyatt เตรียมเข้าซื้อ Apple Leisure Group เพื่อขยายการรับรู้แบรนด์ในธุรกิจท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนแบบหรูหราไปทั่วโลก

Logo

การเข้าซื้อครั้งนี้เป็นการเร่งการเปลี่ยนแปลงสู่การดำเนินธุรกิจที่ถือครองสินทรัพย์น้อยลง โดย  Hyatt ตั้งเป้าขายสินทรัพย์ที่เป็นโรงแรมมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ฯ ให้ได้ภายในปี 2567

การขยายของแบรนด์ภายใต้เครือ AMRTM Collection อย่าง Secrets®, Dreams® และ Zoëtry® จะเพิ่มจำนวนรีสอร์ตทั่วโลกของ Hyatt เป็นสองเท่า พร้อมการเติบโตของยอดห้องพักรวมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

Hyatt เตรียมพูดคุยถึงการทำธุรกรรมครั้งนี้พร้อมเผยแพร่ทางเว็บไซต์ในวันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม เวลา 7:30 น. ตามเขตเวลา CDT

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–16 สิงหาคม 2564

Hyatt Hotels Corporation (NYSE: H) ประกาศในวันนี้ว่า Hyatt ได้บรรลุข้อตกลงในสัญญาหลัก (definitive agreement) เพื่อเข้าซื้อ Apple Leisure Group (ALG) กลุ่มบริษัทชั้นนำด้านการบริหารจัดการรีสอร์ตหรู การท่องเที่ยว และการบริการจากบริษัทในเครือของทั้ง KKR และ KSL Capital Partners, LLC เป็นเงินสดมูลค่า 2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การทำธุรกรรมครั้งนี้คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการปิดตามธรรมเนียม (customary closing conditions)

AMResorts® ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริหารจัดการแบรนด์รีสอร์ตโดย ALG ให้บริการเกี่ยวกับการบริหารจัดการกับรีสอร์ตหรูแบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาภายใต้เครือ AMRTM Collection ซึ่งประกอบด้วยแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Secrets® Resorts & Spa, Dreams® Resorts & Spas, Breathless® Resorts & Spas และ Zoëtry® Wellness & Spa Resorts รวมถึงแบรนด์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วอย่าง Alua® Hotels & Resorts ซึ่งกำลังขยายสู่จุดหมายปลายทางเพื่อการพักผ่อนหลายแห่งในยุโรป การเข้าซื้อครั้งนี้ยังรวมถึงข้อเสนอต่าง ๆ สำหรับสมาชิกจาก ALG ธุรกิจ Unlimited Vacation Club® ธุรกิจจัดจำหน่ายเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ALG Vacations®  รวมถึงบริการด้านบริหารจัดการจุดหมายปลายทางและสินทรัพย์ที่เป็นเทคโนโลยีการท่องเที่ยวด้วย หลังการเข้าซื้อเสร็จสมบูรณ์ ธุรกิจของ ALG จะยังคงอยู่ภายใต้การนำของ ซีอีโอคนปัจจุบันของ ALG  ซีอีโอคนปัจจุบันของ ALG รวมถึงทีมบริหารปัจจุบันของ ALG โดยคุณ Reynal จะเข้ามาเป็นสมาชิกทีมผู้บริหารของ Hyatt และรายงานต่อ Mark Hoplamazian ซีอีโอของ Hyatt

Mark Hoplamazian ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Hyatt กล่าวว่า “จากการเข้าซื้อ Apple Leisure Group ในลักษณะ asset-light ครั้งนี้ เราตื้นเต้นอย่างมากที่ได้นำแพลตฟอร์มบริหารจัดการรีสอร์ตอิสระซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากมาสู่ครอบครัว Hyatt การมาของ ALG จะช่วยขยายอาณาจักรรีสอร์ตทั่วโลกของ Hyatt เป็นสองเท่าในทันที ขณะที่พอร์ตโฟลิโอแบรนด์หรูของ ALG รวมถึงความเป็นผู้นำในตลาดรีสอร์ตแบบครบวงจร และไปป์ไลน์ขนาดใหญ่ของรีสอร์ตแห่งใหม่จะขยายการเข้าถึงของพวกเราทั้งในตลาดปัจจุบันและตลาดใหม่ ๆ รวมถึงในยุโรป พร้อมทั้งเร่งให้ยอดห้องพักสุทธิที่เราเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอยู่แล้วให้เติบโตมากขึ้น และที่สำคัญ การเข้าซื้อที่สร้างมูลค่าและรายรับที่เพิ่มขึ้น 2 พันล้านดอลลาร์จากการขายสินทรัพย์จะเข้ามาเปลี่ยนประมาณการรายได้ของเรา และเราคาดว่า Hyatt จะสามารถสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมได้ถึง 80% ภายในสิ้นปี 2567 นี้”

ธุรกิจกลุ่มโรงแรมของ ALG ประกอบด้วยห้องพักกว่า 33,000 ห้องที่ให้บริการอยู่ใน 10 ประเทศ กลุ่มธุรกิจนี้เติบโตจากรีสอร์ตจำนวน 9 แห่งในปี 2550 สู่ทรัพย์สินที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 100 รายการโดยประมาณเมื่อสิ้นสุดปี 2564 นอกจากนี้ยังการเจรจาทางธุรกิจ 24 รายการที่ได้เริ่มดำเนินการไปแล้วกับโรงแรมที่อยู่ระหว่างพัฒนาอีกหลายแห่ง ทั้งนี้ Unlimited Vacation Club® ของ ALG เป็นคลับสำหรับการท่องเที่ยวแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งผู้ใช้บริการจะได้เพลิดเพลินกับสิทธิพิเศษมากมายในอัตราพิเศษ ณ รีสอร์ตในเครือ AMR™ Collection และด้วยจำนวนสมาชิกกว่า 110,000 ราย Unlimited Vacation Club® จึงมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีของจำนวนสมาชิกถึง 18% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

Alejandro Reynal ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Apple Leisure Group กล่าวว่า “การรวมความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งและการเข้าถึงตลาดทั่วโลกของ Hyatt เข้ากับแบรนด์รีสอร์ตที่แข็งแกร่ง ความสามารถในการดำเนินธุรกิจ และแผนพัฒนาธุรกิจที่แข็งแกร่งของ ALG จะช่วยยกระดับสถานะของเราที่มีความแตกต่างและสร้างผู้นำในตลาดการเดินทางพักผ่อนแบบหรูหรา ในฐานะตัวแทนของทุกท่านที่ ALG ผมมีความซาบซึ้งต่อพันธมิตรของเราที่ KKR และ KSL ที่ได้ให้การสนับสนุนเราในการสร้างแพลตฟอร์มดังที่เป็นเช่นทุกวันนี้ ผมตื่นเต้นที่ได้เห็นทีมของเราได้มาร่วมกับครอบครัว Hyatt และผมคาดหวังที่จะได้เห็นเส้นทางการเติบโตที่แข็งแกร่งที่รอเราอยู่ข้างหน้าเมื่ออุตสาหกรรมขยายใหญ่ขึ้น และพวกเราสามารถมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในตลาดให้กับนักเดินทางกลุ่มที่ใหญ่ขึ้นจากทั่วโลก”

“วันนี้นับเป็นอีกก้าวความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในเรื่องราวของการเติบโต การฟื้นฟู และการอุทิศตนเพื่อประสบการณ์การพักผ่อนระดับโลกโดยทีมงานที่ยอดเยี่ยมของ Apple Leisure Group” Chris Harrington และ Rich Weissman พันธมิตรจาก KKR และ KSL Capital Partners กล่าว “ไม่มีที่ใดที่จะเหมาะกับ ALG บนเส้นทางการเติบโตนี้ไปกว่าการได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Hyatt อีกแล้ว”

เหตุผลเชิงกลยุทธ์

  • ขยายการดำเนินธุรกิจการเดินทางเข้าพักในรีสอร์ตระดับหรู: การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยให้แบรนด์ Hyatt เป็นที่รู้จักมากขึ้นในธุรกิจเดินทางพักผ่อนระดับหรู และในพอร์ตโฟลิโอจะมีโรงแรมเพิ่มขึ้นเป็น 100 แห่งทันที รวมถึงข้อเสนอต่าง ๆ ที่ได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว 24 รายการทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา หลังการเข้าซื้อเสร็จสมบูรณ์ Hyatt จะกลายเป็นเจ้าของรีสอร์ตหรูแบบครบวงจรที่มีพอร์ตโฟลิโอใหญ่ที่สุดในโลก ขยายการดำเนินธุรกิจรีสอร์ตทั่วโลกเป็นสองเท่า เป็นผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรมหรูที่ใหญ่ที่สุดในเม็กซิโกและประเทศในแถบแคริบเบียน และธุรกิจในยุโรปจะขยายถึง 60 เปอร์เซ็นต์ การเข้าซื้อครั้งนี้จะขยายพอร์ตโฟลิโอแบรนด์ของ Hyatt สู่ตลาดใหม่ในยุโรป 11 แห่ง ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพในการเติบโตในยุโรปของ Hyatt อย่างมาก ซึ่งภูมิภาคนี้เป็นมีความสำคัญต่อการเติบโตทั่วโลกของการเดินทางเพื่อการพักผ่อน
  • ขยายแพลตฟอร์มเพื่อการเติบโต: กลุ่มนักพัฒนาและเจ้าของแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งของ ALG จะขยายความสัมพันธ์ของ Hyatt กับพันธมิตรที่มีความมุ่งมั่นในภูมิภาคเสริมที่สำคัญ มีการคาดหวังว่าเครือข่ายนักพัฒนาที่มีอยู่ทั่วโลกของ Hyatt และความเชี่ยวชาญด้านการดำเนินการจะเข้ามาช่วยเร่งการเติบโตของแบรนด์ ALG ให้มากขึ้น Hyatt มีแผนที่จะดึงเอาจุดแข็งของแต่ละทีมมารวมกันเพื่อขยายตัวให้มากกว่าธุรกิจของ ALG ปัจจุบันในภูมิภาคใหม่ ๆ ซึ่งยังไม่มีโรงแรมของ ALG อยู่ในตอนนี้
  • ให้เจ้าของได้ประโยชน์: มีการคาดการณ์ว่าการเข้าถึงแพลตฟอร์มจัดจำหน่ายที่ ALG เป็นเจ้าของ และประสบการณ์ที่กว้างขวางด้านการเดินทางเพื่อพักผ่อนจะสร้างโอกาสมหาศาลให้กับรีสอร์ตที่มีอยู่ในปัจจุบันของ Hyatt เจ้าของทรัพย์สินในเครือ AMRTM Collection จะสามารถเข้าถึงแบรนด์ต่าง ๆ ที่มีความหลากหลายได้มากขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก รวมถึงระบบสนับสนุนทั้งด้านการจัดจำหน่ายทั่วโลก การขาย และการตลาดจาก Hyatt
  • เพิ่มตัวเลือกและประสบการณ์ให้กับแขกผู้เข้าพัก: ทรัพยากรทั้งหมดของ ALG และ Hyatt ที่มารวมกันจะเปิดประตูสู่ประสบการณ์และข้อเสนอที่มากขึ้นซึ่งเป็นประโยชน์ต่อแขกระดับไฮเอนด์และฐานลูกค้าของทั้งสองบริษัท นอกจากนี้ข้อเสนอจาก Unlimited Vacation Club® ที่สงวนเฉพาะสมาชิกของ ALG จะพาผู้ที่หลงใหลในการเดินทางกว่า 110,000 คน ให้มาใกล้ชิดกับ Hyatt มากขึ้นเมื่อเดินทางในโอกาสต่าง ๆ ที่นอกเหนือจากการเดินทางเพื่อพักผ่อน หลังการเข้าซื้อเสร็จสมบูรณ์ Hyatt จะพิจารณาถึงวิธีการที่ World of Hyatt และ Unlimited Vacation Club® จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มและมอบสิทธิประโยชน์ที่มีความพิเศษให้กับฐานลูกค้ากลุ่มต่าง ๆ ขณะที่ให้เจ้าของได้ประโยชน์ไปพร้อมกัน
  • ยกระดับข้อเสนอด้านการเดินทางพักผ่อนแบบครบวงจรผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
    • ALG Vacations® หนึ่งในผู้ให้บริการแพ็คเกจท่องเที่ยวและแพลตฟอร์มการเดินทางเพื่อการพักผ่อนที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกาเหนือ ซึ่งให้บริการในเม็กซิโกและแคริบเบียน
    • Amstar บริษัทชั้นนำด้านการจัดการบริการที่จุดหมายปลายทางในเม็กซิโกและแคริบเบียน และ Worldstar บริษัทคู่ค้าที่เน้นการทำธุรกิจในฮาวาย และ
    • Trisept Solutions® แพลตฟอร์มเทคโนโลยีด้านการเดินทางเพื่อการพักผ่อน
  • เร่งสร้างกลยุทธ์ asset-light: การเข้าซื้อธุรกิจของ ALG ในลักษณะที่เน้นการถือครองสินทรัพย์ให้น้อยลง หรือ asset-light จะทำให้เปอร์เซ็นต์ของรายรับและรายได้ที่ Hyatt จะได้จากค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนั้น Hyatt ยังมีแผนที่จะขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นโรงแรมมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ฯ ให้สำเร็จภายในปี 2564 ซึ่งจะทำให้มีรายได้รวมที่รับรู้เพิ่มขึ้นกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ฯ นับตั้งแต่มีการประกาศกลยุทธ์เกี่ยวกับการขายสินทรัพย์ไปเมื่อปี 2560 ด้วยกำไร EBITDA ที่รวมกันมากกว่า 17 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับการประมาณการเดิมของ Hyatt ที่ 13 ถึง 15 เท่า Hyatt ยังตั้งเป้าเพิ่มรายได้อีก 2 พันล้านดอลลาร์ฯ จากการขายอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรมภายในสิ้นปี 2567

ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน

Hyatt คาดว่าการชำระเงินมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของการเข้าซื้อครั้งนี้จะชำระโดยเงินสดที่มีอยู่ในมือ 1 พันล้านดอลลาร์ฯ รวมกับแหล่งเงินทุนจากการกู้เพิ่มและเงินทุนจากส่วนของผู้ถือหุ้นราว 500 ล้านดอลลาร์ญ ทั้งนี้ Hyatt ได้รับเงินกู้มูลค่า 1.7 พันล้านดอลลาร์จาก J.P. Morgan และจะนำเงินสดจากโครงการขายสินทรัพย์มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ฯ มาชำระหนี้ที่เป็นเงินดาวน์ ซึ่งรวมถึงหนี้ที่เกิดขึ้นระหว่างการเข้าซื้อด้วย Hyatt มุ่งมั่นที่จะคงระดับเกรดในการลงทุนและเดินหน้าจัดการงบดุลด้วยความความรอบคอบหลังจากการทำธุรกรรมครั้งนี้

การนำเสนอสำหรับนักลงทุน, การประชุมทางไกล, การเผยแพร่ทางเว็บ

Hyatt จะจัดการประชุมทางไกลพร้อมเผยแพร่การประชุมทางเว็บไซต์ในวันพรุ่งนี้ (16 สิงหาคม 2564) เวลา 7:30 น. ตามเขตเวลา Central Daylight Time เพื่อพูดคุยถึงการเข้าซื้อดังกล่าว ผู้สนใจสามารถร่วมฟังผ่านการเผยแพร่สดทางเว็บไซต์ของบริษัทที่ investors.hyatt.com นอกจากนี้ยังสามารถร่วมฟังผ่านทางโทรศัพท์ โดยสามารถโทรไปที่หมายเลข 833-238-7946 (โทรฟรีในสหรัฐอเมริกา) หรือ 647-689-4468 (สำหรับการโทรจากต่างประเทศ) และใช้รหัสการประชุม # 1771444 เพื่อเข้าร่วมก่อนการประชุมเริ่มต้น 15 นาที ทั้งนี้จะมีการเผยแพร่วิดีโอการประชุมย้อนหลังผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทเป็นเวลา 90 วัน

ที่ปรึกษา

สำหรับการทำธุรกรรมครั้งนี้มี BDT & Company, LLC และ J.P. Morgan ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ Hyatt และ Latham & Watkins LLP ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย PJT Partners ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ ALG และ Simpson Thacher & Bartlett LLP ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย Deutsche Bank Securities Inc. ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ KKR และ KSL Capital Partners

ในเอกสารประชาสัมพันธ์นี้ใช้คำว่า “Hyatt” เพื่อความสะดวกในการอ้างอิงถึง Hyatt Hotels Corporation และ/หรือบริษัทในเครือหนึ่งแห่งหรือมากกว่า

เกี่ยวกับ Hyatt Hotels Corporation

Hyatt Hotels Corporation ซี่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในชิคาโก เป็นบริษัทด้านการบริการชั้นนำของโลกที่มีแบรนด์ระดับพรีเมียมในเครือถึง 20 แบรนด์ เมื่อสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทมีโรงแรมกว่า 1,000 แห่งในพอร์ตโฟลิโอและอสังหาแบบครบวงจรใน 68 ประเทศ ครอบคลุม 6 ทวีปทั่วโลก บริษัทมีเจตนารมณ์ในการให้ความใส่ใจต่อผู้อื่น ให้ข้อมูลที่พร้อมที่สุดสำหรับการตัดสินใจทางธุรกิจ และการวางยุทธศาสตร์เพื่อการเติบโตซึ่งมุ่งมั่นที่จะดึงดูดใจให้ผู้มากฝีมือของอุตสาหกรรมนี้เข้ามาร่วมงาน สร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าและแขกผู้มาพัก ตลอดจนสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ยังมีบริษัทย่อยที่พัฒนา เป็นเจ้าของ ดำเนินงาน บริหาร ดูแลแฟรนไชส์ จดทะเบียน หรือให้บริการแก่โรงแรม รีสอร์ต ห้องพักระดับหรู และผู้ที่มีธุรกิจที่พักเพื่อการพักผ่อน ภายใต้ชื่อดังนี้ Park Hyatt®, Miraval®, Grand Hyatt®, Alila®, Andaz®, The Unbound Collection by Hyatt®, Destination by Hyatt™, Hyatt Regency®, Hyatt®, Hyatt Ziva™, Hyatt Zilara™, Thompson Hotels®, Hyatt Centric®, Caption by Hyatt, JdV by Hyatt™, Hyatt House®, Hyatt Place®, tommie™, UrCove และ Hyatt Residence Club® รวมทั้งโปรแกรม World of Hyatt® ที่มอบสิทธิประโยชน์และประสบการณ์อันเหนือระดับให้แก่สมาชิกผู้มีอุปการะคุณ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ www.hyatt.com

เกี่ยวกับ Apple Leisure Group®

Apple Leisure Group® (ALG) เป็นกลุ่มบริษัทด้านการบริหารจัดการแบรนด์รีสอร์ต การท่องเที่ยว และการบริการชั้นนำในภูมิภาคอเมริกาเหนือซึ่งมีโมเดลทางธุรกิจที่แตกต่างและให้บริการนักเดินทางในจุดหมายปลายทางต่าง ๆ ทั่วโลก ผ่านการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทในเครือ ALG ได้มอบประสบการณ์ที่มีค่าให้กับนักเดินทางและผลประกอบการที่แข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการรีสอร์ตและพันธมิตรมาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ประโยชน์จากแบรนด์ที่มีในพอร์ตโฟลิโออย่างมีกลยุทธ์ โดยแบรนด์เหล่านั้นประกอบด้วย: AMResorts LP หรือบริษัทในเครืออย่างน้อยหนึ่งแห่ง ซึ่งให้บริการครบทั้งด้านการขาย การตลาด และการบริหารจัดการแบรนด์กับแบรนด์รีสอร์ตในเครือ AMR™ Collection ซึ่งประกอบด้วยแบรนด์รีสอร์ตหรูระดับ 5 ดาว และ 4 ดาว ที่เคยคว้ารางวัลมาแล้ว ได้แก่ Secrets® Resorts & Spas, Dreams® Resorts & Spas, Breathless® Resorts & Spas, Zoëtry® Wellness & Spa Resorts, Alua® Hotels & Resorts, Sunscape® Resorts & Spas และ Now® Resorts & Spas รวมถึง ALG Vacations® หนึ่งในผู้จำหน่ายแพ็คเกจท่องเที่ยววันหยุดรายใหญ่ที่สุดและผู้ให้บริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากสหรัฐอเมริกาไปยังเม็กซิโกและประเทศในแถบแคริบเบียน รวมถึงแบรนด์ที่มีความมั่นคงอย่าง Apple Vacations®, Funjet Vacations®, Travel Impressions®, CheapCaribbean.com®, BeachBound®, Blue Sky Tours®, Southwest Vacations® และ United Vacations® รวมถึงโปรแกรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับสมาชิกอย่าง Unlimited Vacation Club® และบริการจัดการจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดในตลาดจาก Amstar DMC รวมถึงผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีที่สุดล้ำอย่าง Trisept Solutions® ซึ่งเชื่อมโยงตัวแทนท่องเที่ยวมากกว่า 88,000 แห่งเข้ากับผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวชั้นนำ

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลประโยชน์ของ Apple Leisure Group โปรดดูที่ www.appleleisuregroup.com

แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า:

แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งไม่ใช่ข้อมูลในอดีต ในเอกสารประชาสัมพันธ์นี้เป็นแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าภายใต้ความหมายของกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคล พ.ศ. 2538 แถลงการณ์เหล่านี้ประกอบด้วยแถลงการณ์เกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการของ Apple Leisure Group ที่เสนอโดยบริษัท รวมถึงผลประโยชน์ทางการเงินและการดำเนินการที่คาดซึ่งเป็นผลจากการเข้าซื้อดังกล่าว ผลประโยชน์สำหรับแขกผู้เข้าพักและผู้ประกอบการที่จะได้จากการเข้าซื้อครั้งนี้ ผลประกอบการที่คาดการณ์ไว้จาก Apple Leisure Group จำนวนและระยะเวลาในการขายสินทรัพย์ในอนาคตและยอดขายที่คาดการณ์ว่าจะได้จากการขายสินทรัพย์นั้น ประมาณการสภาพคล่องของบริษัท จำนวนอสังหาที่คาดว่าจะเปิดให้บริการในอนาคต การเติบโตที่คาดการณ์ของการเดินทางแบบหรูหราทั่วโลกและสัดส่วนรายได้จากค่าห้องพักทั้งหมดของบริษัท รายได้รวมจากค่าธรรมเนียมในอนาคตของบริษัท สิทธิประโยชน์และมูลค่าเพิ่มที่คาดการณ์จากโปรแกรม World of Hyatt สำหรับสมาชิก และข้อเสนอสำหรับสมาชิกโดย Apple Leisure Group แหล่งเงินทุนที่คาดหวังสำหรับการเข้าซื้อ Apple Leisure Group ที่เสนอ ผลกระทบของหนี้สินที่เกิดขึ้นจากการได้มาซึ่งสถานะการจัดอันดับความน่าลงทุนของบริษัท กรอบเวลาที่คาดการณ์ในการเข้าซื้อกิจการโดยเสร็จสมบูรณ์ แผน กลยุทธ์ ภาพรวม ผลประกอบการ ประมาณการ ข้อเสนอทางการเงิน โอกาสหรือเหตุการณ์ในอนาคตของบริษัท ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงทั้งในปัจจุบันและในอนาคตซึ่งยากที่จะคาดการณ์ ดังนั้น ผลการดำเนินการ ผลประกอบการ หรือความสำเร็จที่แท้จริงอาจแตกต่างอย่างมากจากที่ระบุในแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าทั้งโดยตรงและโดยนัย ในบางกรณี คุณสามารถระบุแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าโดยการใช้คำศัพท์เช่น “อาจ” “อาจจะ” “คาดว่า” “ตั้งใจว่า” “วางแผน” “มุ่งหา” “คาดการณ์” “เชื่อว่า” “ประมาณว่า” “พยากรณ์ว่า” “มีแนวโน้ม” “เดินหน้า” “เป็นไปได้ว่า” “จะ” และหรือคำหรือวลีอื่น ๆ ที่คล้ายกัน หรือคำที่มีความหมายในเชิงลบของคำหรือวลีที่คล้ายกันเหล่านี้ แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้านี้ตั้งอยู่บนการคาดการณ์และสมมติฐานต่าง ๆ ซึ่งแม้จะผ่านการพิจารณาอย่างสมเหตุสมผลโดยผู้บริหารของเราแล้วแต่ก็มีความไม่แน่นอน ปัจจัยสำคัญที่อาจทำให้ผลที่แท้จริงแตกต่างอย่างมากจากการคาดการณ์ในปัจจุบันประกอบด้วยความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการบรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อกิจการตามที่เสนอของ Apple Leisure Group และเวลาในการปิดการทำธุรกรรมที่เสนอ ความสามารถของบริษัทในการบูรณาการกับพนักงานและการดำเนินการของ Apple Leisure Group ได้สำเร็จ ความสามารถในการรับรู้ผลประโยชน์ที่คาดและการทำงานร่วมกันของการเข้าซื้อกิจการ Apple Leisure Group ตามที่เสนออย่างรวดเร็วหรือในระดับที่คาดหวังไว้ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการได้มาซึ่งเงินทุนที่พิจารณาอย่างถี่ถ้วนตามเงื่อนไขที่ต้องการ ความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อตลาดที่พักหรูแบบครบวงจร ระยะเวลาของการเกิดโรคระบาดโควิด-19 และระยะเวลาในการฟื้นตัวหลังสิ้นสุดโรคระบาด การกลับมาระบาดซ้ำ หรือสายพันธ์ของโควิด -19 ผลกระทบทั้งในระยะสั้นและระยะยาวจากการระบาดของโควิด-19 รวมถึงความต้องการต่อการท่องเที่ยว ที่พักระยะสั้น และธุรกิจกลุ่ม และระดับความมั่นใจของผู้บริโภค ผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 การกลับมาระบาดซ้ำ สายพันธ์ของโควิด-19 และผลกระทบจากการรับมือของรัฐบาล ธุรกิจ และบุคคลต่อเศรษฐกิจทั้งในระดับโลกและภูมิภาค ข้อจำกัดและการห้ามเดินทาง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รวมถึงระยะเวลาและความรุนแรงของผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่ออัตราการว่างงานและการใช้จ่ายตามดุลยพินิจของผู้บริโภค การกระจายของวัคซีนโควิด-19 และการยอมรับวัคซีนนั้นของประชาชนทั่วไปในวงกว้าง ความสามารถของผู้ประกอบการ เจ้าของแฟรนไชส์ หรือพันธมิตรธุรกิจบริการซึ่งเป็นบุคคลที่สามในการรับมือกับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ได้สำเร็จ การกลับมาระบาดซ้ำ หรือสายพันธ์ของโควิด-19 ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโดยรวมในตลาดทั่วโลก และภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยหรือการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับต่ำ อัตราและระยะเวลาในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ระดับการใช้จ่ายในภาคธุรกิจ การพักผ่อน และภาคส่วนทั้งหมด รวมถึงความมั่นใจของผู้บริโภค อัตราการเข้าพักและอัตราเฉลี่ยต่อวันที่ลดลง การคาดการณ์การสำรองที่พักในอนาคตที่ทำได้อย่างจำกัด การสูญเสียบุคลากรในตำแหน่งที่สำคัญ เงื่อนไขทางการเมืองและภูมิศาสตร์การเมืองภายในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงความไม่สงบทางการเมืองหรือที่เกี่ยวกับพลเมือง หรือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายด้านการค้า การมุ่งร้าย หรือความหวาดกลัวต่อการมุ่งร้าย รวมถึงการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในอนาคต ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเดินทาง อุบัติเหตุทีเกี่ยวข้องกับการเดินทาง ภัยพิบัติที่เกิดจากธรรมชาติหรือมนุษย์ เช่น แผ่นดินไหว สึนามิ พายุทอร์นาโด เฮอร์ริเคน น้ำท่วม ไฟป่า การรั่วไหลของน้ำมัน เหตุการณ์เกี่ยวกับนิวเคลียร์ การเกิดโรคระบาดหรือโรคติดต่อทั่วโลก เช่น การระบาดของโควิด-19 หรือความหวาดกลัวต่อการระบาดของโรค ความสามารถของเราในการสร้างผลกำไรจากการดำเนินการในระดับที่คาดหวังได้สำเร็จของโรงแรมที่มีการทดสอบประสิทธิภาพหรือมีการรับรองเพื่อผลประโยชน์ของผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลที่สาม ผลกระทบจากการปรับโฉมและพัฒนาโรงแรมใหม่ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับแผนจัดสรรเงินทุนของเรา โครงการซื้อหุ้นคืน และการจ่ายเงินปันผล รวมถึงการลดลง การยกเลิก หรือการระงับกิจกรรมซื้อหุ้นคืนหรือการจ่ายเงินปันผล ลักษณะตามฤดูกาลและวัฏจักรของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการบริการ การเปลี่ยนแปลงในข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนท่องเที่ยวทางอินเทอร์เน็ต การเปลี่ยนแปลงในรสนิยมและความชอบของลูกค้าของเรา  ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานและสหภาพแรงงานและการเปลี่ยนแปลงกฎหมายแรงงาน สถานะทางการเงินและความสัมพันธ์ของเรากับเจ้าของทรัพย์สินที่เป็นบุคคลภายนอก แฟรนไชส์ และพันธมิตรกิจการบริการ  การไร้ความสามารถที่อาจเกิดขึ้นของผู้ประกอบการบุคคลที่สาม แฟรนไชส์  หรือพันธมิตรที่เป็นผู้พัฒนาในการเข้าถึงเงินทุนที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน หรือดำเนินการตามแผนเพื่อการเติบโต ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเข้าซื้อกิจการและการจัดการที่อาจเกิดขึ้นและการขายและการเปิดตัวแนวคิดแบรนด์ใหม่ ระยะเวลาในการเข้าซื้อกิจการและการขายและความสามารถของเราในการรวมการเข้าซื้อกิจการที่เสร็จสมบูรณ์เข้ากับการดำเนินงานที่มีอยู่ ความล้มเหลวในการทำธุรกรรมที่เสนอให้สำเร็จ (รวมถึงความล้มเหลวในการปฏิบัติตามเงื่อนไขการปิดหรือได้รับการอนุมัติที่จำเป็น ความสามารถของเราในการดำเนินการตามกลยุทธ์ให้ประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจการจัดการและแฟรนไชส์ ไปพร้อมกับการลดสินทรัพย์ที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ของเราภายในกรอบเวลาเป้าหมายและตามมูลค่าที่คาดหวัง การลดลงของมูลค่าทรัพย์สินด้านอสังหาริมทรัพย์ของเรา การยุติข้อตกลงการจัดการหรือแฟรนไชส์ของเราโดยไม่คาดคิด การเปลี่ยนแปลงกฎหมายภาษีของรัฐบาลกลาง รัฐ ท้องถิ่น หรือต่างประเทศ การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศหรือการปรับโครงสร้างสกุลเงิน การที่แบรนด์หรือนวัตกรรมใหม่ไม่ได้รับการยอมรับ ความผันผวนทั่วไปของตลาดทุนและความสามารถของเราในการเข้าถึงตลาดดังกล่าว การเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมการแข่งขันในอุตสาหกรรมของเรา รวมถึงที่เป็นผลจากการระบาดของโควิด-19 การรวมตัวกันของอุตสาหกรรมและตลาดที่เราเข้าไปดำเนินธุรกิจ ความสามารถของเราในการขยายโปรแกรม World of Hyatt สำหรับสมาชิกได้สำเร็จ เหตุการณ์ทางไซเบอร์และความล้มเหลวของเทคโนโลยีสารสนเทศ ผลของกระบวนการทางกฎหมายหรือทางปกครอง และการละเมิดกฎระเบียบหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจแฟรนไชส์ของเรา และความเสี่ยงอื่น ๆ ที่ระบุไว้ในเอกสารของบริษัทที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ รวมถึงรายงานประจำปีของเราซึ่งอยู่ในส่วนของ Form 10-K และรายงานประจำไตรมาสในส่วนของ Form 10-Q ซึ่งสามารถขอรับได้จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ ไม่ควรเชื่อมั่นเกินควรในแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้านี้ ซึ่งจัดทำขึ้นในวันที่เผยแพร่เอกสารฉบับนี้ เราไม่มีข้อผูกมัดในการปรับปรุงข้อความในแถลงการณ์นี้ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน ข้อมูลใหม่ หรือเหตุการณืในอนาคต การเปลี่ยนแปลงในสมมติฐานหรือการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลกระทบต่อแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า ยกเว้นในขอบเขตที่กำหนดโดยกฎหมายที่บังคับใช้ หากเราได้ทำการแก้ไขส่วนใดส่วนหนึ่งของแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า ไม่ควรมีการอนุมานว่าเราจะแก้ไขเพิ่มเติมในแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้านี้หรือในอนาคต

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210815005011/en/

ติดต่อ:

Hyatt Media Contact:
Franziska Weber
+1 312 780 6106
franziska.weber@hyatt.com

Hyatt Investor Contact:
Noah Hoppe
+1 312 780 5991
noah.hoppe@hyatt.com

Apple Leisure Group Media Contact:
Lilliana Vazquez Maya
+1 610 359 5913
lmaya@applelg.net

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

วิทยาลัยในการวิจัยเซมิคอนดักเตอร์จัดตั้งที่ NTHU

Logo

นครซินจู๋ ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–12 สิงหาคม 2564

แผนของมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหัว (NTHU) ในการจัดตั้งวิทยาลัยวิจัยเซมิคอนดักเตอร์ (CoSR) ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงศึกษาธิการและการรับสมัครนักศึกษาจะตามมาในไม่ช้านี้ ประธาน Hocheng Hong กล่าวว่าสถาบันนี้จะนำโดยนักวิชาการของ Academia Sinica Burn J. Lin ซึ่งงานวิจัยด้านการพิมพ์หินแบบจุ่มมีผลสะท้อนที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก เขาเสริมว่าด้วยความเป็นผู้นำของ Lin รวมกับความแข็งแกร่งของ NTHU ในด้านเทคโนโลยีและการศึกษาแบบสหวิทยาการ CoSR จะกลายเป็นกำลังสำคัญในการวิจัยเซมิคอนดักเตอร์อย่างแน่นอน

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210811005030/en/

Dr. Burn J. Lin will be the first dean of the College of Semiconductor Research. (Photo: National Tsing Hua University)

Dr. Burn J. Lin จะเป็นคณบดีคนแรกของวิทยาลัยในการวิจัยเซมิคอนดักเตอร์ (ภาพ: มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหัว)

นอกจากบริษัทต่างประเทศ อย่างเช่น Micron Technology และ Tokyo Electron แล้ว CoSR ยังได้รับการสนับสนุนจาก Taiwan Semiconductor Manufacturing Company, Powerchip Semiconductor Manufacturing Corporation, GlobalWafers, Unimicron, United Microelectronics, Vanguard International Semiconductor Corporation, Novatek Microelectronics และ Nanya Technology เงินบริจาคประจำปีรวมกว่า 130 ล้านเหรียญไต้หวัน

วิทยาลัยนี้จะประกอบด้วยสี่สาขาวิชาได้แก่ อุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ การออกแบบเซมิคอนดักเตอร์ กระบวนการเซมิคอนดักเตอร์ และวัสดุเซมิคอนดักเตอร์ ในแต่ละปีจะมีนักศึกษาปริญญาโทประมาณ 80 คนและนักศึกษาปริญญาเอกจำนวน 20 คน นักเรียนชุดแรกจะรับเข้าเรียนในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิปี 2565

ประธานาธิบดี Hocheng กล่าวเพิ่มเติมว่า NTHU เป็นมหาวิทยาลัยแห่งเดียวในประเทศจีนที่มีผู้ได้รับรางวัลโนเบลสามคนในหมู่ศิษย์เก่า นอกจากนี้ NTHU ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในโรงเรียน 100 อันดับแรกของโลกในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าและวิทยาการคอมพิวเตอร์ วัสดุศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี วิศวกรรมเคมี เครื่องจักร และสถิติ โดยจัดให้อยู่ในตำแหน่งที่ยอดเยี่ยมในการคัดเลือกผู้สำเร็จการศึกษาที่มีความคิดสร้างสรรค์ในวงกว้าง วิสัยทัศน์ซึ่งเป็นพื้นฐานของการวิจัยที่ทันสมัย

Dr. Lin กล่าวว่ามหาวิทยาลัยในประเทศมีบัณฑิตจำนวนมากสำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในไต้หวัน ดังนั้นจุดเน้นหลักของ CoSR ควรอยู่ที่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับนานาชาติของประเทศ ในการตระหนักถึงวิสัยทัศน์นี้ Lin ต้องการที่จะปลูกฝังให้นักเรียนแต่ละคนเป็นผู้เชี่ยวชาญ นักคิดทั่วไป ผู้ริเริ่ม และนักแก้ปัญหา โดยขั้นแรกนั้นนักศึกษาจะได้รับความสามารถในการขุดลึกลงไปในเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ในสาขาที่กำหนด ถึงดังนั้นจึงกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เป็นที่ต้องการตัว อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ครอบคลุมสาขาต่างๆ มากเกินไปสำหรับบุคคลใดก็ตามที่จะเข้าใจได้ทั้งหมด เขาต้องทำงานร่วมกับคนในสาขาวิชาอื่นเป็นทีม เขาต้องมีความเชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะสื่อสารกับผู้เชี่ยวชาญคนอื่น ๆ จึงต้องเป็นผู้รู้ทั่วไปด้วย

นอกจากจะกว้างไกลแล้ว เทคโนโลยียังก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วอีกด้วย ผู้เชี่ยวชาญ/ผู้รู้ทั่วไปต้องสามารถแก้ปัญหาใหม่ ๆ ได้ และเป็นนวัตกรรมสำหรับแนวทางการปฏิวัติ เฉพาะเมื่อมีผู้ที่เชี่ยวชาญทั้งสามด้านอย่างเต็มที่เท่านั้น เขาก็จะสามารถเป็นผู้นำที่น่าเกรงขามในการวิจัยเซมิคอนดักเตอร์ได้

ช่วง 22 ปีของเขาที่ IBM Research ในสหรัฐอเมริกา Lin ได้รับการยกย่องกับนวัตกรรมที่ก้าวล้ำอย่างมากมาย เขาเข้าร่วม TSMC ในปี 2543 และในปี 2545 เขาเริ่มพัฒนาการพิมพ์หินแบบจุ่ม ซึ่งส่งผลสะท้อนอย่างมากต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210811005030/en/

ติดต่อ:

Holly Hsueh
NTHU
(886)3-5162006
hoyu@mx.nthu.edu.tw

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Techtronic Industries สร้างรายได้ครึ่งปีแรกได้อย่างยอดเยี่ยม

Logo

ฮ่องกง–(บิสิเนสไวร์)–10 ส.ค. 2564

Techtronic Industries Co. Ltd. บริษัทอุปกรณ์ไฟฟ้าและการดูแลพื้นระดับโลกของฮ่องกง (“TTI” หรือ “กลุ่มบริษัท”) (รหัสหุ้น 669, สัญลักษณ์ ADR: TTNDY) ประกาศผลประกอบการสำหรับหกเดือนแรกสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564  โดยกลุ่มบริษัทมีผลประกอบการที่ยอดเยี่ยมในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 52.0% เป็น 6.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ  อัตรากำไรขั้นต้นได้ปรับตัวขึ้นโดยโตขึ้น 38.6% โดยขยายตัวเป็นครั้งที่ 13 ติดต่อกัน  นอกจากนี้ กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี กำไรสุทธิ และกำไรต่อหุ้นได้โตแซงหน้ายอดขาย โดยกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีเพิ่มขึ้น 57.4% เป็น 572 ล้านเหรียญสหรัฐ กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 57.9% เป็น 524 ล้านเหรียญสหรัฐ และกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 57.8% เป็นประมาณ 28.62 เซนต์ต่อหุ้น

  • ยอดขายเติบโตขึ้น 52.0%
  • ยอดขายโตขึ้น 71.5% ในช่วงสองปีที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 2019
  • การเติบโตของยอดขายในแผนกธุรกิจและภูมิศาสตร์ทั้งหมด
  • อัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นสำหรับเพิ่มขึ้น 38.6% เป็นครั้งที่ 13 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้น 0.58
  • กําไรสุทธิโต 57.9% เป็น 524 ล้านเหรียญสหรัฐ

ผลการดำเนินงานทางการเงินที่โดดเด่นในครึ่งปีแรกของปี 2564

2564*

ล้านเหรียญสหรั

2563

ล้านเหรียญสหรั

การเปลี่ยนแปลง

รายได้

6,394

4,206

+52.0%

อัตรากำไรขั้นต้น

38.6%

38.0%

+58 bps

EBIT

572

363

+57.4%

กำไรส่วนที่เป็นของเจ้าของบริษัท

524

332

+57.9%

กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (เซนต์สหรัฐฯ)

28.62

18.14

+57.8%

เงินปันผลระหว่างกาล ต่อหุ้น (ประมาณเซนต์สหรัฐ)

10.94

6.82

+60.4%

*สำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564

เงินทุนหมุนเวียนที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายอยู่ที่ 18.3% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของ TTI ที่ 20.0% หรือน้อยกว่า  กลุ่มบริษัทยังคงสร้างสินค้าคงคลังเพื่อรองรับการเติบโตของตลาด เพื่อบริการลูกค้าด้วยระดับการบริการที่สูง และเพื่อป้องกันบริษัทจากการขาดแคลนส่วนประกอบที่สำคัญ

กลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้าของ TTI มียอดขายเติบโต 55.3% เป็น 5.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  ทุกภูมิภาคและหน่วยธุรกิจมีส่วนทำให้มีผลงานโดดเด่นในช่วงครึ่งแรกของปี 2564  ธุรกิจเรือธง Milwaukee มีการเติบโตทั่วโลกอย่างน่าภูมิใจที่ 64.1%.  RYOBI ทำผลงานได้ดีเป็นพิเศษในทุกแบรนด์ โดยมีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักอย่างในทุกประเภทและทุกภูมิภาค  นอกจากนี้ ธุรกิจการดูแลพื้นและทำความสะอาดยังคิดเป็น 9.0% ของยอดขาย TTI ทั้งหมด โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 25.3% เป็น 574 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Mr. Horst Pudwill ประธาน TTI กล่าวว่า “ที่ TTI เราได้สร้างทีมระดับโลกที่ยอดเยี่ยมและเราอยากจะยกย่ององค์กรระดับโลกที่โดดเด่นของเราในการส่งมอบผลงานที่แข็งแกร่ง  เราภูมิใจในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่กล้าหาญของเราในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมาเพื่อวางตำแหน่งตัวเองสำหรับครึ่งหลังของปี 2564 อย่างแข็งแกร่ง”

Mr. Joseph Galli, CEO of TTI ให้ความเห็นว่า “ผลงานครึ่งปีแรกของ TTI แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงตำแหน่งผู้นำ ระดับการเติบโต และศักยภาพในอนาคตของเรา  ผลิตภัณฑ์เครื่องจักรความเร็วสูงรุ่นใหม่ของเราช่วยให้เราสามารถขยายตลาดและจับส่วนแบ่งตลาด ในขณะที่เรายังคงปรับปรุงอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์”

เกี่ยวกับ TTI

TTI ก่อตั้งขึ้นในปี 2528 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในปี 2533 โดยเป็นผู้นำระดับโลกในด้านเทคโนโลยีไร้สาย ซึ่งรวมถึงเครื่องมือไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้ากลางแจ้ง ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นสำหรับทำความสะอาดพื้นสำหรับผู้บริโภค มืออาชีพ และผู้ใช้ในอุตสาหกรรมใน บ้าน การก่อสร้าง การบำรุงรักษา อุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน  บริษัทมีรากฐานที่สร้างขึ้นจากแรงขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์ 4 ประการ ได้แก่ แบรนด์ที่ทรงพลัง ผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรม คนที่ยอดเยี่ยม และความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างขวางในระยะยาวเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีไร้สายให้ก้าวหน้า กลยุทธ์การเติบโตระดับโลกคือการแสวงหานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อย่างไม่หยุดยั้งเพื่อให้ TTI อยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม  กลุ่มผลิตภัณฑ์แบรนด์ที่ทรงพลังของ TTI ประกอบด้วยเครื่องมือไฟฟ้า MILWAUKEE, AEG และ RYOBI อุปกรณ์เสริมและเครื่องมือช่าง ผลิตภัณฑ์กลางแจ้ง RYOBI และ HOMELITE ผลิตภัณฑ์เลย์เอาต์และการวัดของ EMPIRE และผลิตภัณฑ์และโซลูชันสำหรับดูแลพื้น HOOVER, ORECK, VAX และ DIRT DEVIL

TTI เป็นหนึ่งในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี Hang Seng, FTSE RAFI™ All-World 3000 Index, FTSE4Good Developed Index และ MSCI ACWI Index สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาไปที่ www.ttigroup.com

เครื่องหมายการค้าทั้งหมดที่ระบุไว้นอกเหนือจาก AEG และ RYOBI เป็นของ Group.  AEG เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ AB Electrolux (มหาชน) และใช้งานภายใต้ใบอนุญาต RYOBI เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Ryobi Limited และใช้ภายใต้ใบอนุญาต

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210811005604/en/

ติดต่อ:

Techtronic Industries Co. Ltd.
Isabella Chan
Tel: +(852) 2402 6495
Email: isabella.chan@tti.com.hk 
เว็บไซต์: www.ttigroup.com

Strategic Financial Relations Limited
Veron Ng +(852) 2864 4831 veron.ng@sprg.com.hk 

Adrianna Lau +(852) 2114 4987 adrianna.lau@sprg.com.hk 

Karen Kwan +(852) 2114 4171 karen.kwan@sprg.com.hk  อีเมล: sprg_tti@sprg.com.hk 
เว็บไซต์: www.sprg.com.hk

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Hillstone Networks เปิดตัวโซลูชัน Stand-alone SD-WAN ใหม่

Logo

Hillstone Networks เปิดตัวโซลูชัน Stand-alone SD-WAN ใหม่

SD-WAN ที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มการจัดการความปลอดภัย Hillstone Security Management Platform (HSM) 5.0 มอบประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันและเครือข่าย ด้วยความสามารถในการควบคุมและความสะดวกของระบบอัตโนมัติแบบรวมศูนย์

ซานตา คลารา แคลิฟอร์เนีย –(บิสิเนส ไวร์)–12 ส.ค. 2564

Hillstone Networks ผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันการปกป้องโครงสร้างพื้นฐาน ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ เครือข่ายพื้นที่กว้างที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์ (SD-WAN) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดตัวแพลตฟอร์มการจัดการความปลอดภัย  Hillstone Security Management Platform (HSM) 5.0 SD-WAN แบบสแตนด์อโลนของ Hillstone ตอบสนองความต้องการสำหรับแบนด์วิดธ์ที่เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนความพร้อมใช้งานของเครือข่ายที่ได้รับการปรับปรุงและข้อกำหนดด้านคุณภาพเพื่อให้บริการแอปพลิเคชันที่มีความอ่อนไหวต่อความล่าช้าได้ดียิ่งขึ้นและเพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานแบบไฮบริดในปัจจุบันมีโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายที่ปลอดภัยเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ดี

การแข่งขันสู่ระบบคลาวด์เร่งตัวขึ้นจากการระบาดใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพนักงานเคลื่อนที่ล้วนต้องการประสบการณ์การใช้งานที่มีคุณภาพ รวมถึงการประมวลผลแบบเอดจ์ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนโซลูชัน SD-WAN ที่ปลอดภัย  Hillstone นำเสนอด้วยความสามารถ SD-WAN ขั้นสูง ซึ่งรวมถึง:

  • การประสานที่ง่ายขึ้นด้วยระบบการวางอัตโนมัติขั้นสูงและการจัดวางแบบไร้สัมผัส ซึ่งนำมาสู่การจัดเตรียมอุปกรณ์ในการปรับใช้ในภาคสนามด้วยการตั้งค่าที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเพื่อลดต้นทุนการจัดตั้ง เร่งการส่งมอบบริการ และเพิ่มความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปรับใช้ขนาดใหญ่
  • การแสดงเครือข่ายที่เป็นหนึ่งเดียวทั่วโลกด้วยการตรวจสอบสุขภาพ ไม่เพียงแต่ให้การเตือนแบบเรียลไทม์ผ่านเว็บ UI อีเมลหรือแอปพลิเคชันโซเชียล แต่ยังนำข้อมูลและสถิติที่ได้รับการปรับปรุงมาการแก้ไขปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพ
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอปพลิเคชันด้วยการกำหนดเส้นทางอัจฉริยะและการรับรู้เนื้อหา โดยกำหนดแอปพลิเคชันให้สามารถรับรองประสบการณ์ผู้ใช้ที่เหมาะสมที่สุดโดยควบคุมการรับส่งข้อมูลอย่างชาญฉลาดตามแอปพลิเคชันหรือบริการและนโยบายที่บังคับใช้

“องค์กรในปัจจุบันยังคงประสบปัญหาในการสนับสนุนและรักษาความปลอดภัยให้กับพนักงานในช่วงเวลาที่มีการโจมตีทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น” Tim Liu ผู้ร่วมก่อตั้งและ CTO ของ Hillstone Networks กล่าว “เราได้ออกแบบโซลูชัน Hillstone SD-WAN ที่มีการรักษาความปลอดภัยแบบบูรณาการอย่างสมบูรณ์เพื่อจัดการกับจุดบอดที่สำคัญที่เกิดจากความต้องการทางธุรกิจในปัจจุบันและแนวโน้มของตลาด และเพื่อให้ทีมไอทีสามารถรักษาความปลอดภัยเครือข่ายและแอปพลิเคชันได้อย่างน่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพ และที่มอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับ ผู้ใช้ปลายทางของพวกเขา”

เกี่ยวกับ Hillstone Networks

โซลูชั่นการป้องกันโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการพิสูจน์แล้วของ Hillstone Networks ช่วยให้องค์กรและผู้ให้บริการมีทัศนวิสัยและความเข้าใจที่ครอบคลุมและถี่ถ้วน ทำให้สามารถดำเนินการอย่างรวดเร็วต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์อย่างทั่วถึง  Hillstone ได้คะแนนที่ยอดเยี่ยมจากนักวิเคราะห์ชั้นนำและได้รับความไว้วางใจจากบริษัทระดับโลกและปกป้องการเข้าถึงระบบคลาวด์ด้วยการยกระดับต้นทุนรวมของการเป็นเจ้าของที่ดีขึ้น เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.hillstonenet.com

ติดต่อ:

Hillstone Networks
Zeyao Hu ผู้จัดการฝ่ายการตลาด
inquiry@hillstonenet.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay Inc. ได้รับหลายรางวัลสำหรับสำหรับการทำงานในความพยายามอย่างยั่งยืนและการตอบสนองต่อสถานการณ์โควิด-19

Logo

แดลลัส–(BUSINESS WIRE)–11 สิงหาคม 2564

ในปี 2564 Mary Kay Inc. ได้สานต่อคำมั่นสัญญาที่ยาวนานหลายทศวรรษในการเสริมสร้างชีวิตความเป็นอยู่ของผู้หญิงทั่วโลก การผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และการสร้างชุมชนให้มีสุขภาพที่ดีและยั่งยืนยิ่งขึ้น แม้แต่ในการตอบสนองต่อสถานการณ์โควิด-19 เพื่อเป็นการยกย่องความสำเร็จของ Mary Kay ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา แบรนด์ดังกล่าวจึงได้รับหลายรางวัลอันทรงเกียรติในธุรกิจ สัญชาติองค์กร และประเภทความเป็นผู้นำจากองค์กรที่มีชื่อเสียงต่างๆ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210811005163/en/

Mary Kay was named a Silver Globee® Winner in 3 categories at the 13th Annual 2021 Golden Bridge Business and Innovation Awards. (Graphic: Mary Kay Inc.)

Mary Kay ได้รับรางวัล Silver Globee® จาก 3 ประเภทในงาน Golden Bridge Business and Innovation Awards ประจำปี 2564 ครั้งที่ 13 (กราฟิก: Mary Kay Inc.)

รางวัลต่าง ๆ ซึ่งมีตั้งแต่การจดจำของแบรนด์ในการตอบสนองต่อสถานการณ์โควิด-19 ไปจนถึงรางวัลเกียรติยศสำหรับสารคดีที่ผลิตโดย Mary Kay เกี่ยวกับความพยายามในการอนุรักษ์อ่าวของเม็กซิโก โดยเน้นย้ำถึงคุณค่าทางธุรกิจที่แน่วแน่ของบริษัทและการอุทิศตนเพื่อหลักการที่กำหนดไว้โดยผู้ก่อตั้งในตำนานของแบรนด์ Mary Kay Ash

รางวัลล่าสุด ได้แก่

รางวัลการตอบสนองต่อสถานการณ์โควิด-19 (COVID-19 Response Awards)

  • ผู้ชนะ Silver Globee® Winner – รางวัล Golden Bridge Business and Innovation Awardsประจำปี 2564 ครั้งที่ 13
    • ทีมแห่งปีช่วงสถานการณโควิด-19 (ทีมจำหน่ายเจลล้างมือ)
    • การตอบสนองต่อบริษัทแห่งปี (Mary Kay Inc.)
    • ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในการต่อสู้และลดผลกระทบของโควิด-19 (เจลล้างมือ Mary Kay)
  • ผู้ชนะ Gold Globee® Winner – รางวัล Golden Bridge Business and Innovation Awards ประจำปี 2564 ครั้งที่ 13
    • การตอบสนองที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ดีที่สุดเพื่อช่วยเหลือชุมชนท้องถิ่นและโลกในช่วงสถานการณ์โควิด-19 (The Mary Kay FoundationSM)
  • ผู้ชนะ Silver Globee® Winner – รางวัล American Best in Business Awards ประจำปี 2564 ครั้งที่ 6
    • ทีมแห่งปีช่วงสถานการณโควิด-19 (ทีมจำหน่ายเจลล้างมือ)
    • การตอบสนองต่อบริษัทแห่งปี (Mary Kay Inc.)
    • ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในการต่อสู้และลดผลกระทบของโควิด-19 (เจลล้างมือ Mary Kay)
  • ผู้ชนะ Gold Globee® Winner – รางวัล American Best in Business Awards ประจำปี 2564 ครั้งที่ 6
    • การตอบสนองที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ดีที่สุดเพื่อช่วยเหลือชุมชนท้องถิ่นและโลกในช่วงสถานการณ์โควิด-19 (The Mary Kay FoundationSM)

รางวัลบริษัท (Company Awards)

  • นายจ้างขนาดกลางที่ดีที่สุดของอเมริกาประจำปี 2564 – Forbes
  • รางวัล “พลังอำนาจของผู้หญิง” Mary Kay ยูเครน โครงการร่วมกับ Marie Claire – X-RAY Marketing Awards
  • นายจ้างที่ดีที่สุดประจำปี 2564 Mary Kay โปแลนด์ – The Financial Magazine
  • “รางวัลบริษัทเครื่องสำอางขายตรงอันดับหนึ่ง” Mary Kay เบลารุส – “Number One” Annual National Awards

รางวัลความยั่งยืน (Sustainability Awards)

Guardians of the Gulf เป็นสารคดีเปิดประสบการณ์ในการสำรวจความสัมพันธ์อลเวงระหว่างอ่าวเม็กซิโกกับนักอนุรักษ์ที่ตั้งใจจะปกป้องรักษา โดยได้รับรางวัลที่หลากหลาย Mary Kay Inc. ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างร่วมกับ Media One เป็นหุ้นส่วนกับ The Nature Conservancy ได้ไปเยือนชายฝั่งของเท็กซัส แอละแบมา และเม็กซิโก เพื่อให้ความกระจ่างเกี่ยวกับเรื่องราวที่มักไม่มีใครทราบเกี่ยวกับการอนุรักษ์อ่าว

  • Silver: รายการทั่วไปที่ไม่ออกอากาศ-ธรรมชาติ/สัตว์ป่า – Telly Awards
  • Bronze: รายการทั่วไปที่ไม่ออกอากาศ-สารคดี – Telly Awards
  • ผู้เข้ารอบสุดท้ายของสารคดีโฟกัสพิเศษยอดเยี่ยม – LA Femme International Film Festival
  • รางวัล World Remi Award – Worldfest Houston International Film Festival

การยอมรับความเป็นผู้นำ (Leadership Recognition)

  • “ซีอีโอจำนวน 67 คนและผู้บริหารหญิงผิวดำที่ทรงพลังในองค์กรของอเมริกา” Julia Simon ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายและเลขานุการองค์กร / Sheryl Adkins-Green ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด – Business Insider
  • “ซีอีโอหญิงอันดับต้น ๆ ในยูเครน” ภาวะผู้นำในส่วนองค์กรและการจัดอันดับธุรกิจของผู้หญิง – Viktoriia Zoria-Iatsenko ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay ยูเครน – WoMo (พอร์ทัลสำหรับผู้หญิงวัยทำงาน)
  • “ผู้หญิงอันทรงคุณค่าจำนวน 50 คน ในโปแลนด์” Ewa Kudlińska-Pyrz ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay โปแลนด์ – The Financial Magazine
  • “ผู้นำหญิง 100 อันดับต้นในผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคประจำปี 2564” Allyson Sellers รองประธานฝ่ายขายของ Mary Kay สหรัฐอเมิรกา – Women We Admire

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเมื่อ 60 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอมมากมาย และยังทุ่มเทกับการช่วยให้ผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขามีพลังด้วยการร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญและสนับสนุนกับการวิจัยด้านมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายและพาเธอสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210811005163/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
Marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย










Kioxia ขยายขีดจำกัดด้านประสิทธิภาพด้วยหน่วยความจำแฟลชแบบฝัง UFS เวอร์ชัน 3.1 ใหม่

Logo

พัฒนาต่อยอดจากหน่วยความจำแบบแฟลช BiCS FLASH™ 3D เจเนอเรชันที่ 5 บรรจุอยู่ในอุปกรณ์ที่บางกว่าเดิม มาพร้อมความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูลที่เร็วขึ้นตามความต้องการในการใช้งานที่สูงขึ้น

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–11 สิงหาคม 2564

วันนี้ Kioxia Corporation ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำได้เปิดตัวตัวอย่างอุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชแบบฝัง Universal Flash Storage (UFS) เวอร์ชัน 3.1 เจเนอเรชันใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมความจุ 256GB และ 512GB ผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ซึ่งบรรจุอยู่ในแพ็คเกจที่มีความสูง 0.8 มม. และ 1.0 มม. นี้ มาพร้อมประสิทธิภาพสำหรับการอ่านแบบสุ่มและการเขียนแบบสุ่ม[1 ซึ่งเพิ่มขึ้นราว 30% และ 40% ตามลำดับ และยังทำให้อุปกรณ์ดังกล่าวมีความบางมากขึ้น[2] และทำงานได้เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้า อุปกรณ์ UFS รุ่นใหม่ของ Kioxia ใช้หน่วยความจำ BiCS FLASH™ 3D เจเนอเรชันที่ 5 ซึ่งเป็นหน่วยความจำประสิทธิภาพสูงของบริษัทเอง โดยตั้งเป้าให้มีการนำไปใช้กับอุปกรณ์เคลื่อนที่ชนิดต่าง ๆ รวมถึงสมาร์ทโฟนระดับชั้นนำ

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210810006065/en/

Kioxia Corporation: UFS Ver. 3.1 embedded flash memory devices (Photo: Business Wire)

Kioxia Corporation: อุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชแบบฝังรุ่น UFS Ver. 3.1 (รูปภาพ: Business Wire)

อุปกรณ์หลากหลายชนิดที่ใช้หน่วยความจำแฟลชแบบฝังซึ่งต้องคำนึงถึงความจำเป็นเรื่องพลังงานและพื้นที่ยังคงต้องการอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพและความหนาแน่นสูงขึ้นไปอีก และ UFS ก็กลายมาเป็นทางออกที่ผู้คนเลือกใช้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในแง่ของความจุรวม โดยส่วนใหญ่แล้วอุปกรณ์ UFS เป็นที่ต้องการมากกว่าในปัจจุบันเมื่อเทียบกับอุปกรณ์แบบ e-MMC และข้อมูลจาก Forward Insights[3] ยังเผยว่าเมื่อรวมความต้องการพื้นที่ความจุของอุปกรณ์แบบ UFS และ e-MMC จากทั่วโลกแล้ว เกือบ 70% ของความต้องการในปีนี้เป็นของอุปกรณ์แบบ UFS และตัวเลขนี้จะยังโตขึ้นเรื่อย ๆ

อุปกรณ์ UFS ใหม่ที่มีความจุ 256GB และ 512GB มาพร้อมความก้าวล้ำต่าง ๆ ดังนี้:

ประสิทธิภาพสำหรับการอ่านแบบสุ่มและการเขียนแบบสุ่มที่เพิ่มขึ้นราว 30% และ 40% ตามลำดับ

Host Performance Booster (HPB) Ver. 2.0: เพิ่มประสิทธิภาพในการอ่านแบบสุ่มโดยใช้หน่วยความจำฝั่งโฮสต์สำหรับจัดเก็บตารางแปลงค่า logical เป็น physical นอกจากนี้อุปกรณ์ HPB Ver. 1.0 สามารถเข้าถึง chunk size ได้เพียงแค่ 4KB ขณะที่อุปกรณ์ HPB Ver. 2.0 สามารถเข้าถึงได้มากกว่าซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการอ่านแบบสุ่มได้มากยิ่งขึ้น

ขนาดแพ็คเกจของรุ่น 256GB ที่บางลงโดยมีความสูงเพียงแค่ 0.8 มม.

หมายเหตุ
[1] เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าของอุปกรณ์ UFS โดย Kioxia ที่มีความจุ 256 และ 512 กิกะไบต์
[2] เมื่อเทียบความหนาแน่นของรุ่น 256GB กับอุปกรณ์ UFS ขนาด 256GB เจเนอเรชันก่อนหน้าของ Kioxia
[3] อ้างอิง: Forward Insights “NAND Quarterly Insights” 2Q (2021)

ความเร็วในการอ่านและเขียนอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับอุปกรณ์โฮสต์ เงื่อนไขในการอ่านและเขียน และขนาดของไฟล์

ในการกล่าวถึงผลิตภัณฑ์ Kioxia ทุกครั้ง: การระบุความหนาแน่นของผลิตภัณฑ์จะระบุตามความหนาแน่นของชิปหน่วยความจำภายในผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่จำนวนความจุหน่วยความจำที่มีสำหรับการจัดเก็บข้อมูลโดยผู้ใช้ ความจุที่ใช้งานได้ของผู้บริโภคจะลดลงเนื่องจากพื้นที่ของ overhead data การจัดรูปแบบฟอร์แมต บล็อกที่เสียหาย และข้อจำกัดอื่น ๆ และอาจแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์โฮสต์และการใช้งาน สำหรับรายละเอียด โปรดอ้างอิงข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดย 1KB = 2^10 ไบต์ = 1,024 ไบต์, 1Gb = 2^30 บิต = 1,073,741,824 บิต, 1GB = 2^30 ไบต์ = 1,073,741,824 ไบต์ และ 1Tb = 2^40 บิต = 1,099,511,627,776 บิต

ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ

เกี่ยวกับ Kioxia
Kioxia เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำที่อุทิศตนเพื่อการพัฒนา การผลิต และการขายหน่วยความจำแฟลชและโซลิดสเตตไดรฟ์ (SSD) ในเดือนเมษายน 2560 บริษัท Toshiba Memory ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ Kioxia ได้แยกออกมาจาก Toshiba Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นหน่วยความจำแฟลช NAND ในปี 2530 โดยบริษัทถือเป็นผู้บุกเบิกโซลูชันและบริการหน่วยความจำที่ล้ำสมัยซึ่งเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้คนและขยายขอบเขตทางสังคม เทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช 3D แบบใหม่ของ Kioxia หรือที่เรียกว่า BiCS FLASH ™ กำลังสร้างอนาคตของการจัดเก็บข้อมูลในแอปพลิเคชันที่มีความหนาแน่นสูงซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง, พีซี, SSD, ศูนย์ยานยนต์และศูนย์ข้อมูล

ลูกค้าสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
Kioxia Corporation
ฝ่ายขายและการตลาดหน่วยความจำ
โทร: +81-3-6478-2423
https://business.kioxia.com/en-jp/buy/global-sales.html

*ข้อมูลในเอกสารนี้รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการและข้อมูลการติดต่อนั้นถูกต้องในวันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210810006065/en/

สื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
Kioxia Corporation
ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์การขาย
Koji Takahata
โทร: +81-3-6478-2404

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

“เอ็กซ์โพชัวร์” เปิดรับผู้สมัครสำหรับรางวัล “ช่างภาพนักเดินทางอิสระ”

Logo

พฤศจิกายน 30 … รับสมัครวันสุดท้าย
เปิดรับสมัครแล้วสำหรับรางวัลภาพถ่ายระดับชาติเอ็กซ์โพชัวร์

ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

เทศกาลภาพถ่ายนานาชาติเอ็กซ์โพชัวร์ มีการจัดในทุก ๆปีโดยสำนักสื่อของรัฐบาลชาร์จาห์ เปิดรับสมัครผู้เข้าประกวดสำหรับช่างภาพนักเดินทางอิสระตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ถึง 30 พฤศจิกายน เป็นโอกาสสำหรับเหล่าช่างภาพฟรีแลนซ์ที่รวบรวมรูปภาพจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยต้องการที่จะสนับสนุนเรื่องราวข่าวสารต่าง ๆและเพื่อสร้างผลกระทบต่อความคิดเห็นประชากรโลก

รางวัลได้ถูกแบ่งเป็นสามกลุ่ม คือ กลุ่มของวารสารศาสตร์ข่าวในการทำข่าวด่วน, วารสารศาสตร์สิ่งแวดล้อมซึ่งโฟกัสกับปัญหาของธรรมชาติสิ่งแวดล้อมและความเปลี่ยนแปลงทั้งทางตรงและทางอ้อมจากมนุษย์ และวารสารศาสตร์โซลูชั่นซึ่งจดจ่อกับการตอบสนองต่อสภาพการณ์ จัดการกับปัญหาที่ยากและเป็นนักพัฒนาที่มีประสิทธิภาพ ช่างภาพสามารถส่งภาพเข้าประกวดได้สูงสุด 12 รูปและต่ำสุด 5 รูป

การลงทะเบียนการประกวดนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายและเปิดรับช่างภาพทุกคน ไม่จำกัดเชื้อชาติ อายุ 18 ปีและมีบัตรประจำตัวนานาชาติหรือสากลออกโดยสมาคมหรือสหพันธ์ที่ได้รับการรับรองในระดับสากลผ่านเว็บไซต์: https://awards.xposure.ae/

รางวัลที่ 1 มูลค่าสูงถึง 15,000 ดอลล่าห์ รวมทั้งจัดแสดงรูปที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในการจัดแสดงภาพนานาชาติ ผู้ชนะการประกวดตำแหน่งที่ 2 จะได้รับพื้นที่แสดงผลงานในวารสารฉบับถัดไป

เปิดรับสมัครแล้ว
งานจัดแสดงภาพนานาชาติเอ็กซ์โพชัวร์ยังคงรับผู้สมัครเพื่อชิงรางวัลการประกวด เปิดรับช่างภาพผู้สนใจทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพเข้าร่วมงานในแต่ละกลุ่มรางวัลตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน

เทศกาลนี้เปิดรับภาพจากทุกรุ่นอายุ จากทั่วทุกมุมโลก แบ่งออกเป็นกลุ่ม ๆได้แก่: การถ่ายภาพสถาปัตยกรรม, ถ่ายภาพทางอากาศและโดรน, ภาพถ่ายแนวนอน, วารสารศาสตร์ภาพถ่าย, ภาพถ่ายบุคคล, ภาพถ่ายท่องเที่ยว, หนังสั้น, การถ่ายภาพสัตว์ป่า, ประกวดภาพถ่ายรุ่นเยาว์ (สำหรับช่างภาพอายุต่ำกว่า 18 ปี) และบุคลากรสำนักสื่อรัฐบาลชาร์จาห์

ด้วยรางวัลนี้ เอ็กซ์โพชัวร์กระตือรือร้นที่จะนำเสนอช่างภาพที่คอยทำงานบอกเล่าเรื่องราวผ่านภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ ของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมซึ่งเปลี่ยนใจมนุษย์ด้วยกันเอง นอกเหนือไปจากการมุ่งเน้นไปที่ขนบธรรมเนียมประเพณีของผู้คน ทิวทัศน์ และรายละเอียดทางสถาปัตยกรรม ที่ดึงดูดสายตาด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น

ด้วยการเป็นเจ้าภาพและดึงดูดช่างภาพอาวุโส ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อ และผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพจากทั่วทุกสารทิศ เทศกาลจัดแสดงภาพนานาชาติเอ็กซ์โพชัวร์ได้ประสบความสำเร็จในการสร้างเอกลักษณ์ในฐานะผู้จัดงานแสดงภาพถ่ายที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคตั้งแต่ครั้งแรกที่จัดงาน

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52475458/en

ติดต่อ:

Tulay Genc
Email: info@b2press.com
Phone: +31 30 799 6022

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

FalconX ระดมทุน 210 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังรายได้เติบโต 30 เท่าจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่งผลให้มูลค่าของบริษัทปัจจุบันอยู่ที่ 3.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Logo

การระดมทุนรอบ Series C นำโดย Altimeter Capital, B Capital Group, Sapphire Ventures และ Tiger Global Management และยังมีการเข้าร่วมจาก Amex Ventures และ Mirae Asset

ซานฟรานซิสโก–(BUSINESS WIRE)–10 สิงหาคม 2564

FalconX บริษัทผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและบริการด้านการเงินสำหรับสกุลเงินดิจิทัลซึ่งเกี่ยวกับการซื้อขายระดับสถาบัน การให้เครดิต และการหักบัญชีผ่านสกุลเงินดิจิทัลชื่อดัง ประกาศระดมทุนรอบ Series C มูลค่า 210 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งทำให้มูลค่าบริษัทอยู่ที่ 3.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การระดมทุนในรอบนี้นำโดย Altimeter Capital, Sapphire Ventures รวมถึง B Capital Group และ Tiger Global Management ซึ่งเป็นผู้ลงทุนปัจจุบัน และยังมี Mirae Asset เข้าร่วมด้วย รวมถึง Amex Ventures ที่ได้เพิ่มเงินลงทุนจากเดิมในรอบนี้ โดยทั้งหมดได้เข้าร่วมกับผู้ลงทุนรายปัจจุบันอย่าง Accel, Accomplice VC, Coinbase Ventures, CMT Digital, Flybridge Capital Partners, Lightspeed Venture Partners และ Avon Ventures กองทุนร่วมลงทุนในเครือของ FMR LLC ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Fidelity Investments

ภายในเวลาเพียง 3 ปี FalconX ได้กลายมาเป็นหนึ่งในบริษัทด้านเงินดิจิทัลระดับสถาบันที่มีมูลค่าสูงสุดของโลก ซึ่งขับเคลื่อนด้วยค่า unit economics ที่แข็งแกร่ง ความสามารถในการทำกำไร และการเติบโตของรายได้จากสายงานต่าง ๆ ของธุรกิจ FalconX นำเทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่องมาใช้เพื่อให้คู่ค้าแต่ละรายเข้าถึงสภาพคล่องของสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลก พร้อมเวลาใช้งานผ่านอินเทอร์เฟสของเว็บหรือ API เกินกว่า 99.9% และบริการซื้อขายระดับมืออาชีพตลอด 24 ชั่วโมง 365 วันไม่เว้นวันหยุด ธุรกิจด้านเครดิตของบริษัทยังช่วยให้สถาบันสามารถเข้าถึงแหล่งลงทุนระยะสั้นเพื่อการซื้อขาย ซึ่งเป็นการลดช่องว่างระหว่างสินเชื่อระยะยาวและตลาดอนุพันธ์สำหรับสถาบันที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของงบดุลด้วยวิธีที่มีความยืดหยุ่น FalconX มีแผนที่จะเปิดตัวข้อเสนอใหม่ ๆ อย่างเป็นทางการสำหรับผลิตภัณฑ์หลากหลายรายการในเดือนที่กำลังจะมาถึงนี้ ซึ่งผลิตภัณฑ์แต่ละรายการอยู่ในตลาดแล้วตอนนี้ ทั้งยังเติบโตอย่างรวดเร็วและสร้างผลกำไรให้กับบริษัท

Raghu Yarlagadda ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง FalconX กล่าวว่า “FalconX คือผู้ให้บริการแบบครบวงจรที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ที่อยู่ในแวดวงตลาดเงินดิจิทัลระดับสถาบันชั้นนำของโลก โดยเป็นผู้มอบเทคโนโลยี ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนกลยุทธ์ในวงกว้าง การได้ให้บริการผู้ลงทุนชั้นนำของโลกพาเราก้าวสู่ความเป็นแนวหน้าของแนวโน้มต่าง ๆ ที่สำคัญ ซึ่งจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงบริการทางด้านการเงินตั้งแต่ระดับพื้นฐาน หากบริษัทอย่าง Google หรือ Amazon ไม่ได้ทำงานเพียงแค่ 5 วันต่อสัปดาห์ บริการทางการเงินก็ควรให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด และสามารถเข้าถึงได้มากขึ้นจากทั่วโลกอย่างแท้จริง เทคโนโลยีบล็อกเชนได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสิ่งนี้สามารถเป็นไปได้ และ FalconX ก็ตื่นเต้นที่ได้เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงนั้น”

การเติบโตของ FalconX นั้นขับเคลื่อนโดยความต้องการจากผู้ที่อยู่ในตลาดระดับสถาบันกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วยบรรดาสถาบันการเงินขนาดใหญ่ของโลก กองทุนเฮดจ์ฟันด์ ผู้จัดการสินทรัพย์ บริษัทร่วมลงทุน ผู้ให้บริการระบบชำระเงินและแอปพลิเคชันสำหรับการลงทุน ทั้งนี้เพื่อมอบผลิตภัณฑ์ด้านสกุลเงินดิจิทัลที่สามารถออกแบบได้เอง มีความปลอดภัย และเชื่อถือได้ FalconX จะนำเงินจากการระดมทุนในรอบ Series C มาขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ เสาะหาการเข้าซื้อใหม่ ๆ อย่างมีกลยุทธ์ และเดินหน้าสรรหาผู้ที่มีความสามารถจากทั่วโลกให้มาร่วมงาน ซึ่งจะรวมถึงผู้บริหารในตำแหน่งที่สำคัญ ๆ โดยจะต้องมีประสบการณ์ทั้งด้านตลาดการเงินแบบดั้งเดิม สินทรัพย์ดิจิทัล และเทคโนโลยีรวมกัน

บทสัมภาษณ์เกี่ยวกับการระดมทุน:

“FalconX วางตำแหน่งของบริษัทไว้อย่างชัดเจนในฐานะบริษัทชั้นนำด้านสกุลเงินดิจิทัลระดับสถาบัน เรามีความตื่นเต้นที่ได้สนับสนุนผู้นำตลาดในอุตสาหกรรมตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ความซื้อง่ายขายคล่องของผลิตภัณฑ์และความรวดเร็วในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ของ FalconX นั้นน่าประทับใจและเราเชื่อว่าสิ่งเหล่านั้นจะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่ออนาคตของการเงินและโครงสร้างพื้นฐานของตลาดเงินดิจิทัล” – Brad Gerstner ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Altimeter Capital

“เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มระดับเดียวกันแล้ว FalconX ถูกมองให้เป็นแพลตฟอร์มเงินดิจิทัลระดับสถาบันที่ดีที่สุดซึ่งช่วยให้การซื้อขายเงินดิจิทัลมูลค่าหลายพันล้านต่อเดือนเป็นเรื่องง่าย เรามักได้ยินลูกค้าที่เป็นกลุ่มสถาบันกล่าวชื่นชม FalconX อยู่บ่อย ๆ ถึงความน่าเชื่อถือซึ่งหาที่เปรียบไม่ได้และการเป็นแพลตฟอร์มที่มีโครงสร้างการบริการแบบครบวงจรสำหรับตอบสนองทุกความต้องการด้านการซื้อขายเงินดิจิทัลในระยะยาว เราตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรกับทีมของ FalconX เพื่อสร้างแพลตฟอร์มซึ่งเกิดขึ้นจริงแล้วและขับเคลื่อนการค้นหาใหม่ ๆ การแลกเปลี่ยน และการโอนสินทรัพย์ดิจิทัลไปทั่วโลก” – Rashmi Gopinath ผู้ลงทุนประเภท General Partner ของ B Capital Group

“FalconX สามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจที่แข็งแกร่งไปพร้อมกับการสร้างทีมงานระดับโลก และยังนำผู้ที่มีความสามารถจากซิลิคอนวัลเลย์ ตลาดการเงินแบบดั้งเดิม และระบบนิเวศของบล็อกเชนมารวมกันไว้ที่เดียวได้อย่างไม่เหมือนใคร ทำให้สามารถร่วมกับลูกค้าสร้างสรรค์กลยุทธ์ที่เหนือคู่แข่งและส่งมอบผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาเติบโตได้” – Rajeev Dham หุ้นส่วนของ Sapphire Ventures

“ขณะที่นักลงทุนระดับสถาบันเดินหน้าเข้าสู่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง FalconX ก็ได้ขยายธุรกิจและไลน์ผลิตภัณฑ์ของตัวเองเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด เราตื่นเต้นที่ได้เพิ่มทุนให้กับแพลตฟอร์มชั้นนำซึ่งมีความครบวงจรทั้งบริการซื้อขาย ให้เครดิต และหักบัญชีสำหรับลูกค้าสถาบันแพลตฟอร์มนี้” – Scott Shleifer หุ้นส่วนของ Tiger Global Management

เกี่ยวกับ FalconX

FalconX คือแพลตฟอร์มด้านการเงินสำหรับสกุลเงินและสินทรัพย์ดิจิทัลแบบครบวงจรที่จะช่วยให้การซื้อขาย การให้เครดิต และการหักบัญชีเป็นเรื่องง่ายสำหรับลูกค้ากลุ่มสถาบัน บริษัทได้รับการสนับสนุนโดย Accel, Accomplice VC, Altimeter Capital, B Capital Group, American Express Ventures, CMT Digital, Coinbase Ventures, Flybridge Capital Partners, Lightspeed Venture Partners, Mirae Asset, Sapphire Ventures, Tiger Global Management และ Avon Ventures กองทุนร่วมลงทุนในเครือของ FMR LLC ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Fidelity Investments สำนักงานของ FalconX ตั้งอยู่ในซิลิคอนวัลเลย์ ชิคาโก เบงกาลูรู และมอลตา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ falconx.io

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210810005701/en/

ติดต่อ:

FalconX
Kelsey Williams
falconx@strangebrewstrategies.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Sapura Drilling มอบสัญญาก่อสร้างบ่อน้ำนอกชายฝั่งให้แก่ Halliburton

Logo

การดำเนินการแบบบูรณาการช่วยลดความไม่แน่นอนและปรับปรุงประสิทธิภาพในโครงการพัฒนาก๊าซหลัก

ฮิวสตัน–(บิสิเนสไวร์)–10 ส.ค. 2564

Halliburton Company (NYSE: HAL) ประกาศว่า Sapura Drilling ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Sapura Energy ได้มอบสัญญาบูรณาการนอกชายฝั่งให้แก่บริษัท

Sapura โดยมี Halliburton เป็นพันธมิตรด้านเทคนิค จะทำสัญญาขุด Integrated Rig Drilling Completion (i-RDC) สำหรับโครงการก่อสร้างบ่อน้ำนอกชายฝั่งจำนวน 6 หลุม  ลักษณะการบูรณาการที่ไม่เหมือนใครของสัญญานี้เปิดโอกาสให้แก่ Halliburton และ Sapura Drilling และ PETRONAS Carigali Sdn Bhd ในการใช้งานแพลตฟอร์มดิจิทัล Halliburton 4.0 อย่างเต็มศักยภาพเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน.

เทคโนโลยีดิจิทัลเหล่านี้รวมถึงชุด Digital Well Program®, Digital Well Operations และ Digital Well Automation และแอปพลิเคชันคลาวด์ DecisionSpace®365 ทั้งหมด  ขอบเขตงานของ Halliburton 4.0 ยังรวมถึงเทคโนโลยีดิจิทัลที่สำคัญจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ Sperry Drilling, Cementing, Drill Bits, Baroid และ Completions  นับว่าเป็นโครงการบูรณาการแรกในประเทศที่รวมบริการแท่นขุดเจาะเข้ากับการวางแผน การดำเนินงาน และระบบอัตโนมัติทุกด้าน

เกี่ยวกับ Halliburton

ก่อตั้งขึ้นในปี 2462 Halliburton เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์และบริการที่ใหญ่ที่สุดในโลกในอุตสาหกรรมพลังงาน  ด้วยพนักงานประมาณ 40,000 คนจาก 130 สัญชาติและกว่า 70 ประเทศ บริษัทช่วยให้ลูกค้าเพิ่มมูลค่าตอลทั้งวงจรชีวิตของอ่างเก็บน้ำ ตั้งแต่การค้นหาไฮโดรคาร์บอนและการจัดการข้อมูลทางธรณีวิทยา ไปจนถึงการประเมินการขุดเจาะและการก่อตัวของหิน การก่อสร้างบ่อน้ำ และการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ตลอดทั้งอายุของทรัพย์สิน  เยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทที่ www.halliburton.com  ติดตาม Halliburton บน Facebook, Twitter, LinkedIn, Instagram and YouTube

อ่านเวอร์ชั่นที่มาใน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210810005132/en/

ติดต่อ:

สำหรับนักลงทุน:
Abu Zeya
Investor Relations (ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์) investors@halliburton.com 
281-871-2688

สำหรับสื่อมวลชน:
William Fitzgerald
External Affairs (ฝ่ายกิจการภายนอกองค์กร) pr@halliburton.com 
281-871-2601

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Thai Herald

Thai Herald