Techtronic Industries มีผลประกอบการประจำปี 2023 ที่ยอดเยี่ยม

Logo

อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 39.5% ส่วนกระแสเงินสดอิสระเพิ่มขึ้นเป็น 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–6 มีนาคม 2024

ผู้นำระดับโลกด้านเครื่องมือไร้สายระดับมืออาชีพ เครื่องมือ DIY และอุปกรณ์ไฟฟ้ากลางแจ้งอย่าง Techtronic Industries Co. Ltd. (“TTI” หรือ “กลุ่มบริษัท”) (รหัสหลักทรัพย์: 669, OTCQX: TTNDY, TTNDF) มีความยินดีที่จะประกาศผลประกอบการรวมที่ผ่านการตรวจสอบของบริษัทและบริษัทย่อยประจำปีที่สิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2023 โดย TTI มียอดขาย 13.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 ซึ่งเติบโตเพิ่มขึ้น 3.6% ตามการรายงานและเพิ่มขึ้น 3.9% ในสกุลเงินท้องถิ่น ทั้ง MILWAUKEE และกลุ่มธุรกิจสินค้าเพื่อผู้บริโภคของเรามีทิศทางที่ดีในช่วงครึ่งหลังของปี 2023

  • TTI มีกระแสเงินสดอิสระสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่มียอดขายเติบโตและสร้างผลกำไรได้มากกว่าตลาด
  • ธุรกิจหลักของเราอย่าง MILWAUKEE มียอดขายเพิ่มขึ้น 10.7% ในสกุลเงินท้องถิ่น
  • เรามีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 15 ที่ 39.5% ซึ่งเพิ่มขึ้น 14 BPS ขณะเดียวกันก็ลดสินค้าคงคลังลง 987 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ไฮไลท์ด้านผลการดำเนินงานทางการเงินสำหรับปี 2023

2023*

ล้านดอลลาร์สหรัฐ

2022

ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เปลี่ยนแปลง

รายได้

13,731

13,254

+3.6%

กำไรขั้นต้น

39.5%

39.3%

+14bps

EBIT

1,135

1,201

(5.5%)

กำไรในส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัท

976

1,077

(9.4%)

กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (เซนต์สหรัฐฯ)

53.36

58.86

(9.3%)

กระแสเงินสดอิสระ

1,281

329

+952m

เงินปันผลต่อหุ้น (เซนต์สหรัฐโดยประมาณ)

24.84

23.81

+4.3%

*สำหรับปีที่สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2023

กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 14 BPS เป็น 39.5% ในปี 2023 การเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นถือเป็นการเติบโตที่ดีมากเมื่อพิจารณาจากสินค้าคงคลังที่ลดลงอย่างมากถึง 987 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา EBIT อยู่ที่ 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลง 5.5% จากปี 2022 ในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 EBIT เพิ่มขึ้นเป็น 575 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบกับครึ่งหลังของปี 2022 TTI มีกำไรสุทธิ 976 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตัวเลขที่ลดลง 9.4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้น กำไรต่อหุ้นก็ลดลง 9.3% เหลือ 53.36 เซนต์สหรัฐ เงินทุนหมุนเวียนที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายดีขึ้นจาก 21.2% ในปีที่แล้วเป็น 17.7% ในปี 2023 เงินทุนหมุนเวียนที่ลดลงช่วยผลักดันให้ปี 2023 มีกระแสเงินสดอิสระสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำให้กลุ่มบริษัทอยู่ในสถานะที่ดีที่จะมีกระแสเงินสดอิสระดีเยี่ยมในปี 2024 และในอนาคต

กลุ่มธุรกิจอุปกรณ์ไฟฟ้าของ TTI มียอดขาย 12.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.8% ในสกุลเงินที่รายงาน และเพิ่มขึ้น 4.1% ในสกุลเงินท้องถิ่น MILWAUKEE มียอดขายทั้งปีเพิ่มขึ้น 10.7% ในสกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 12.7% ในสกุลเงินท้องถิ่นในช่วงครึ่งปีหลังเทียบกับ 8.7% ในครึ่งปีแรก กลุ่มธุรกิจสินค้าเพื่อผู้บริโภคของเราก็มียอดขายเติบโตเป็นบวกในครึ่งปีหลังเช่นกัน และอยู่ในสถานะที่จะทำได้ดีต่อไปในปี 2024 ธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลพื้นและทำความสะอาดของเรามียอดขายเติบโต 1.5% ในสกุลเงินท้องถิ่นเป็น 937 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 และมีกำไรเพิ่มขึ้น 65.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็น 27.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

คณะกรรมการแนะนำให้จ่ายเงินปันผลสุดท้ายที่ 98.00 เซนต์ฮ่องกง (ประมาณ 12.61 เซนต์สหรัฐ) ต่อหุ้น เมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่ 95.00 เซนต์ฮ่องกง (ประมาณ 12.23 เซนต์สหรัฐ) ต่อหุ้น จะทำให้ได้รับเงินปันผลทั้งปีที่ 193.00 เซนต์ฮ่องกง (ประมาณ 24.84 เซนต์สหรัฐ) ต่อหุ้น

นาย Horst Pudwill ประธานของ TTI กล่าวว่า “TTI พร้อมที่จะสร้างผลงานที่ดีกว่าตลาดต่อไปในปี 2024” เรามุ่งที่จะพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ไร้สายด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง เทคโนโลยีมอเตอร์ที่ล้ำสมัย และปัญญาประดิษฐ์อย่างไม่ลดละ ด้วยงบดุลที่ดี สถานะเงินสดที่ยอดเยี่ยม และแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง เราจึงตั้งตารอปี 2024 ด้วยความมั่นใจ”

นาย Joseph Galli ซีอีโอของ TTI ให้ความเห็นว่า “ผลงานอันยอดเยี่ยมของเราในช่วง 15 ปีที่ผ่านมาดีกว่าผลการดำเนินงานโดยรวมของตลาดมาโดยตลอด ปี 2024 ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น และเราพร้อมที่จะแซงหน้าตลาดอีกครั้ง จุดแข็งของเราในด้านนวัตกรรมไร้สาย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน และความคิดริเริ่มด้านการตลาดในพื้นที่นั้นไม่มีใครเทียบได้ในอุตสาหกรรม และทำให้ TTI มีความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้”

ข้อความการคาดการณ์อนาคต
ประกาศนี้ประกอบด้วยข้อความการคาดการณ์อนาคตบางอย่าง หรือใช้คำศัพท์เฉพาะที่เป็นการคาดการณ์ในอนาคต ซึ่งอิงตามความคาดหวัง การประมาณการ การคาดการณ์ ความเชื่อ และสมมติฐานในปัจจุบันของ TTI เกี่ยวกับธุรกิจและตลาดที่กลุ่มบริษัทดำเนินธุรกิจ และสะท้อนถึงมุมมองของ TTI ณ วันที่ประกาศ ข้อความคาดการณ์อนาคตเหล่านี้ไม่ได้รับประกันผลการดำเนินงานในอนาคต และอาจขึ้นอยู่กับความเสี่ยงด้านตลาด ความไม่แน่นอน และปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของ TTI ดังนั้นผลลัพธ์และผลตอบแทนที่แท้จริงอาจแตกต่างอย่างมากจากสมมติฐานที่สร้างขึ้นและข้อความที่มีอยู่ในประกาศนี้

เกี่ยวกับ TTI
TTI เป็นผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีไร้สายซึ่งครอบคลุมเครื่องมือไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้ากลางแจ้ง ผลิตภัณฑ์ดูแลพื้นและทำความสะอาดสำหรับผู้ใช้ DIY ผู้บริโภค มืออาชีพ และผู้ใช้ในอุตสาหกรรม สำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น บ้าน การก่อสร้าง การบำรุงรักษา อุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัทมีรากฐานที่สร้างขึ้นจากปัจจัยขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์ 4 ประการ ได้แก่ แบรนด์ที่แข็งแกร่ง ผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรม บุคลากรที่โดดเด่น และความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ระยะยาวที่กว้างขวางในการพัฒนาเทคโนโลยีไร้สาย กลยุทธ์การเติบโตในระดับโลกสำหรับการแสวงหานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อย่างไม่หยุดยั้งทำให้ TTI ก้าวขึ้นสู่แถวหน้าของอุตสาหกรรม ในขณะเดียวกันก็รักษามาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการไว้ในระดับสูง พอร์ตโฟลิโอแบรนด์อันแข็งแกร่งของ TTI ประกอบด้วยเครื่องมือไฟฟ้า อุปกรณ์เสริม และเครื่องมือช่างของ MILWAUKEE, RYOBI และ AEG ผลิตภัณฑ์กลางแจ้งของ RYOBI ผลิตภัณฑ์โครงร่างและการวัดของ EMPIRE รวมถึงผลิตภัณฑ์และโซลูชันการดูแลพื้นและทำความสะอาดของ HOOVER, VAX, DIRT DEVIL และ ORECK

TTI ก่อตั้งขึ้นในปี 1985 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง จำกัดในปี 1990 โดยเป็นหนึ่งในหุ้นองค์ประกอบของดัชนี Hang Seng, ดัชนีเกณฑ์มาตรฐานความยั่งยืนขององค์กร Hang Seng, ดัชนี FTSE RAFI™ All-World 3000, ดัชนี FTSE4Good Developed และ ดัชนี MSCI ACWI นอกจากนี้ บริษัทยังทำการซื้อขายหุ้นบน OTCQX Best Market ภายใต้สัญลักษณ์ “TTNDY” และ “TTNDF” ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ttigroup.com

เครื่องหมายการค้าทั้งหมดที่มีการระบุนอกเหนือจาก AEG, OTCQX และ RYOBI เป็นของกลุ่มบริษัท AEG เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ AB Electrolux (publ.) และใช้ภายใต้ใบอนุญาต OTCQX เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ OTC Markets Group Inc. ส่วน RYOBI เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Ryobi Limited และใช้ภายใต้ใบอนุญาต

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

การสอบถามข้อมูลจากฝ่ายลงทุนสัมพันธ์:
ผู้ติดต่อหลัก
TTI Investor Relations – อเมริกาเหนือ
Ross Gilardi
Senior Vice President, Finance & Investor Relations
อีเมล: ross.gilardi@ttihq.com

เอเชีย/แปซิฟิก
TTI Investor Relations – เอเชีย
Jimmy Li
Senior Manager, Investor Relations
อีเมล: jimmy.li@tti.com.hk

แหล่งข้อมูล: Techtronic Industries Co. Ltd.

Xsolla เปิดตัวตัวเลือกการชำระเงินใหม่สำหรับนักพัฒนาที่ต้องการขยายเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่น

Logo

Xsolla ช่วยให้นักพัฒนาทั่วโลกรับการชำระเงินผ่าน PayPay ได้

ลอสแอนเจลิสและโตเกียว–(BUSINESS WIRE)–6 มีนาคม 2024

Xsolla บริษัทด้านการค้าวิดีโอเกมระดับโลก ประกาศเปิดตัว Pay with PayPay เพื่อให้บริการพันธมิตรทั่วโลกและผู้เล่นวิดีโอเกมในประเทศญี่ปุ่น โดย Xsolla ได้พยายามคิดค้นโซลูชันสำหรับการชำระเงินในการเล่นเกมมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้นักพัฒนาเกมบนมือถือ, PC, คลาวด์ และวิดีโอเกมบนเว็บเพิ่มฐานผู้เล่นของตนได้ รวมทั้งเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เล่นทั่วโลก ด้วยการเสนอวิธีการชำระเงินเพิ่มเติมดังกล่าวนี้ในจุดชำระเงิน นักพัฒนาเกมทั่วโลกสามารถขยายฐานธุรกิจเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นและตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้เล่นได้ ความร่วมมือนี้ยังช่วยสนับสนุนความมุ่งมั่นของ Xsolla ที่มีต่อภูมิภาคนี้โดยตรง รวมไปถึงการขยายสำนักงานท้องถิ่นแห่งใหม่ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

(Graphic: Xsolla)

(กราฟิก: Xsolla)

ด้วยจำนวนผู้ใช้งาน 58 ล้านคน1 และมีทีท่าว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ PayPay จึงเป็นแอปชำระเงินผ่านมือถือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยใช้ได้ทั้งทางออนไลน์และที่ร้านค้าปลีกทั่วประเทศญี่ปุ่น จากการศึกษาในปี 2022 โดย Rakuten Insight นักช้อปในประเทศญี่ปุ่นประมาณ 55% นิยมใช้ PayPay ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดในภาคการชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดอยู่ที่ 45%2 โดยผู้ใช้จะสร้างบัญชีในแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ แล้วเชื่อมบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิตเพื่อใช้ชำระเงินเมื่อซื้อสินค้าในแต่ละวัน

“เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เชื่อมต่อ PayPay เข้ากับ Xsolla และช่วยให้พันธมิตรทั่วโลกของเราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ รวมทั้งเสนอทางเลือกในการชำระเงินอีกชนิดให้กับผู้เล่นของพวกเขา” Chris Hewish ผู้ซึ่งเป็นซีอีโอของ Xsolla กล่าว “ความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้พันธมิตรของเราสามารถขยายฐานธุรกิจให้ครอบคลุมผู้เล่นของตนเองในประเทศญี่ปุ่นได้มากขึ้น และช่วยให้พันธมิตรเหล่านั้นเข้าถึงพลังของเทคโนโลยีในการชำระเงินที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น คิวอาร์โค้ดได้”

Xsolla Payments ทำให้ประสบการณ์ในการชำระเงินง่ายขึ้นด้วย UI แบบหลายแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย สามารถใช้งานร่วมกับวอลเล็ตมือถือยอดนิยม และเข้าถึงวิธีการชำระเงินมากกว่า 700 วิธี รวมถึงสกุลเงินมากกว่า 130 รายการในกว่า 200 ภูมิภาค นอกจากนี้ เทคโนโลยี PayRank ของนวัตกรรมจะแสดงและจัดอันดับวิธีการชำระเงินที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าแต่ละรายมากที่สุด เช่น PayPay โดยอัตโนมัติ

สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการชำระเงินด้วย PayPay ได้ที่ xsolla.pro/paypay

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทด้านการค้าวิดีโอเกมระดับโลกที่มีชุดเครื่องมือและบริการอันมีประสิทธิภาพและทรงพลังซึ่งออกแบบมาเพื่ออุตสาหกรรมนี้โดยเฉพาะ นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 ทาง Xsolla ได้ช่วยเหลือผู้พัฒนาเกมและผู้เผยแพร่ทุกขนาดจำนวนหลายพันรายในการระดมทุน ทำการตลาด เปิดตัว และสร้างรายได้จากเกมของตนเองทั่วโลกและบนหลายแพลตฟอร์ม ภารกิจของ Xsolla ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมในการค้าเกม คือการแก้ปัญหาความซับซ้อนที่มีอยู่แต่เดิมจากการจัดจำหน่าย การตลาด และการสร้างรายได้ทั่วโลก เพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราเข้าถึงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ได้มากขึ้น สร้างรายได้มากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์กับนักเล่นเกมทั่วโลก โดย Xsolla มีสำนักงานใหญ่และจดทะเบียนในลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย และมีสำนักงานในลอนดอน, เบอร์ลิน, โซล, ปักกิ่ง, กัวลาลัมเปอร์, ราลี, โตเกียว และเมืองต่างๆ ทั่วโลก เพื่อสนับสนุนบริษัทเกมหลักๆ อย่าง Valve, Twitch, Roblox, Epic Games, Take- Two, KRAFTON, Nexters, NetEase, Playstudios, Playrix, miHoYo และอื่นๆ อีกมากมาย

สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและเรียนรู้ให้มากขึ้นได้ที่ xsolla.com

1 PayPay

2 บทความของ Bloomberg – Rakuten ที่คิดไม่ตกอาจต้องโทรปรึกษาเพื่อนของตัวเอง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53906121/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Derrick Stembridge
ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ระดับโลก, Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

แหล่งข้อมูล: Xsolla

จากความมุ่งมั่นไปสู่การปฏิบัติ: Mary Kay เผยแพร่ภาพรวมของความร่วมมือเชิงการเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก

Logo

รายงานครบรอบสี่ปีที่ Women's Entrepreneurship Accelerator เน้นย้ำถึงผลกระทบของ WEA ในการแก้ปัญหาความต้องการที่สำคัญที่สุดของผู้ประกอบการสตรี: การเข้าถึงการศึกษา เงินทุน เครือข่ายและตลาด และการสนับสนุนระดับโลก

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–6 มีนาคม 2024

Mary Kay Inc. ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านการเสริมพลังสตรี ได้ประกาศเปิดตัวรายงานพิเศษในหัวข้อ Advancing Women's Entrepreneurship: จากความมุ่งมั่นไปสู่การปฏิบัติ (from Commitment to Action.)” รายงานดังกล่าวให้รายละเอียดถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของบริษัทในการสนับสนุนประเด็นของผู้หญิงทั่วโลกผ่านความก้าวหน้าครั้งสำคัญที่บริษัทได้ทำในช่วงสี่ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งเครือข่ายความร่วมมือหลายฝ่ายที่มีผู้มีส่วนได้เสียหลายภาคส่วนอย่าง Women’s Entrepreneurship Accelerator (WEA) อันล้ำสมัย

The Women’s Entrepreneurship Accelerator Fourth Anniversary Report Highlights WEA’s Impact on Solving the Most Critical Needs of Women Entrepreneurs: Access to Education, Funding, Networks and Markets and Global Advocacy. (Photo: Mary Kay Inc.)

รายงานครบรอบสี่ปีของ Women's Entrepreneurship Accelerator เน้นย้ำถึงผลกระทบของ WEA ในการแก้ปัญหาความต้องการที่สําคัญที่สุดของผู้ประกอบการสตรี: การเข้าถึงการศึกษา เงินทุน เครือข่ายและตลาด และการสนับสนุนทั่วโลก (ภาพ: Mary Kay Inc.)

ในปี 2019 Mary Kay ก่อตั้ง WEA ขึ้นด้วยความร่วมมือจากหน่วยงานสหประชาชาติ 6 แห่งเพื่อเป็นแรงผลักดันในการส่งเสริมผู้ประกอบการสตรีและการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจทั่วโลก รายงานพิเศษปี 2023 ให้รายละเอียดเกี่ยวกับโครงการสำคัญต่างๆ และสถิติผลกระทบของ WEA โดยเน้นการเข้าถึงทั่วโลกและแนวทางที่เป็นเอกลักษณ์ในการจัดการกับความท้าทายหลักที่ผู้ประกอบการผู้หญิงต้องเผชิญ

“ด้วย Women’s Entrepreneurship Accelerator เราได้สร้างแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งซึ่งไม่เพียงแต่สนับสนุน แต่ยังเฉลิมฉลองจิตวิญญาณการเป็นผู้ประกอบการของผู้หญิงทั่วโลก” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay กล่าว “เป้าหมายของเราคือการเสริมพลังให้กับผู้หญิงห้าล้านคนภายในปี 2030 และเรากำลังดำเนินการไปอย่างดี จนถึงขณะนี้เราได้มีส่วนร่วมกับผู้หญิงมากกว่า 600,000 คนในโครงการและกิจกรรมของเรา และปี 2024 จะเป็นปีแห่งประวัติศาสตร์อีกปีหนึ่ง”

รายงานนี้แสดงให้เห็นถึงแนวทางแบบองค์รวมของ Mary Kay ในการเสริมพลังของผู้หญิงผ่านความร่วมมือแบบหลายฝ่ายของ WEA ซึ่งครอบคลุมการเข้าถึงการศึกษา ทุน เครือข่ายและตลาด การสนับสนุน และนโยบาย ประกอบด้วยความสำเร็จอันน่าทึ่ง อาทิ:

  • การลดอัตราส่วนความยากจนในโครงการหมู่บ้านนำร่อง SDG ในชนบทของจีน โดยใช้ประโยชน์จากการเป็นผู้ประกอบการสตรีและการพัฒนาความเป็นผู้นำ;
  • การเปิดตัวงาน Women’s Entrepreneurship Regional EXPO และกิจกรรมดาวเทียมในประเทศในยุโรปและภูมิภาคเอเชียกลางที่รวบรวมผู้ประกอบการสตรี นักลงทุน และพันธมิตรทางธุรกิจ งานประจำปี 2023 ซึ่งจัดร่วมกับพันธมิตรในท้องถิ่น 33 ราย มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 15,308 ราย รวมถึงผู้ประกอบการ 1,047 ราย และนักลงทุน 75 ราย รวมถึงงานสัมมนา/แผง และพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ 27 แห่ง;

  • ความสำเร็จในการดำเนินการตามโปรแกรมการฝึกอบรมและการให้คำปรึกษาต่างๆ ที่ดำเนินการโดยพันธมิตรระดับสูงทั่วโลก เช่น โครงการใบรับรองผู้ประกอบการสตรีออนไลน์ (Women’s Entrepreneurship Certificate Programme);
  • WEA Digital Innovation Challenge สำหรับผู้ประกอบการสตรีได้รับใบสมัคร 250 ใบจากสตาร์ทอัพที่นำโดยผู้หญิงจาก 54 ประเทศ
  • การวิจัยผู้ประกอบการสตรี เพื่อแนะนำนโยบายเพื่อความเท่าเทียมทางเพศในการพัฒนาองค์กรในภูมิภาคละตินอเมริกา

ความพยายามที่โดดเด่นของบริษัทในการส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างและการลงทุนที่คำนึงถึงความเสมอภาคทางเพศ (GRPI) ยังมีส่วนสำคัญต่อการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจและการเสริมอำนาจของสตรีอีกด้วย

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Women’s Entrepreneurship Accelerator และอ่านรายงานพิเศษปี 2023 ฉบับเต็ม โปรดคลิกที่นี่ click here

เกี่ยวกับ Mary Kay

จากตอนนั้นถึงตอนนี้และตลอดไป (Then. Now. Always.) หนึ่งในผู้ทำลายเพดานกระจกแบบเดิม Mary Kay Ash ก่อตั้งบริษัทเพื่อความงามในฝันของเธอในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือการทำให้ชีวิตผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทระดับโลกที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ เป็นเวลากว่า 60 ปีแล้วที่โอกาสโดย Mary Kay ได้เพิ่มขีดความสามารถของผู้หญิงในการกำหนดอนาคตของตนเองผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอางที่มีสี อาหารเสริม รวมไปถึงน้ำหอมที่ทันสมัย Mary Kay เชื่อในการรักษาโลกของเราไว้ให้คนรุ่นอนาคต ปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งและการทารุณกรรมในครอบครัว และสนับสนุนให้เยาวชนทำตามความฝันของพวกเขา เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com หรือค้นหาเราได้ใน FacebookInstagram, และ LinkedIn, หรือติดตามเราใน X (ชื่อเดิมคือTwitter)

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Mary Kay Inc. การสื่อสารองค์กร
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

ที่มา: Mary Kay Inc.


Xsolla เปิดตัว Web Shop 2.0 ซึ่งเป็นโซลูชันชั้นนำสำหรับการซื้อผ่านเว็บ เพื่อให้ผู้พัฒนาเกมเพิ่มผลกำไรจากการขายผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภคโดยตรง

Logo

Web Shop เป็นร้านค้าดิจิทัลไวท์เลเบลที่ผู้เล่นซื้อสินค้าในเกม สกุลเงิน และเติมเงินในบัญชี ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถทำได้จากเว็บไซต์สำหรับแบรนด์ของผู้พัฒนา

ลอสแอนเจลิส–(BUSINESS WIRE)–5 มีนาคม 2024

Xsolla ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายวิดีโอเกมได้เปิดตัว Xsolla Web Shop 2.0 นับตั้งแต่ Xsolla ให้ความสนใจกับการสร้างรายได้จากเว็บในปี 2021 บริษัทก็ได้เปิดตัว Web Shop มากกว่า 210 แห่งสำหรับสตูดิโอเกมมือถือชั้นนำทั่วโลกในหลายประเภท จากประสบการณ์อันกว้างขวางนี้ Xsolla จึงได้พัฒนาเวอร์ชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของโซลูชันเรือธงอย่าง Web Shop ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้พัฒนาเกมบนมือถือสามารถสร้างกลยุทธ์การสร้างรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภคโดยตรง เพื่อเพิ่มรายได้ด้วยการจูงใจเกมเมอร์ให้ชำระเงินบนเว็บ

(Graphic: Xsolla)

(กราฟิก: Xsolla)

“Xsolla Web Shop 2.0 เป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะพัฒนาไปตามความต้องการของอุตสาหกรรมเกมบนมือถือ นวัตกรรมนี้เป็นผลมาจากการเปิด Web Shop มากกว่า 200 แห่ง รวมถึงเกมบนมือถือที่ทำรายได้สูงสุด 40 อันดับแรกจาก 100 อันดับแรกทั่วโลก การนำประสบการณ์จริงมาประยุกต์ใช้ร่วมกับความคิดเห็นของลูกค้าถือเป็นส่วนสำคัญในการขยายโซลูชัน Web Shop สำหรับเกมบนมือถือ เรายังคงให้ความสำคัญกับความต้องการที่แท้จริงของตลาดและมอบโซลูชันที่ปรับตามความต้องการ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เราแตกต่างในอุตสาหกรรม” David Stelzer ประธาน Xsolla กล่าว “Xsolla Web Shop เป็นนวัตกรรมเชิงกลยุทธ์ของเราเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของอุตสาหกรรมเกมบนมือถือ การเน้นการปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลในระดับผู้ใช้และการเปิดตัว Instant Web Shop ทำให้เรายกระดับวิธีที่ผู้พัฒนามีส่วนร่วมกับผู้เล่นและเพิ่มรายได้ให้สูงสุด”

สำหรับการเปิดตัวครั้งนี้ Xsolla จะเปิดตัว Instant Web Shop ซึ่งเป็นร้านค้าออนไลน์แบบมีเทมเพลต โดยใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมงเพื่อใช้ในการซื้อผ่านเว็บ เครื่องมือการใช้งานที่รวดเร็วสำหรับการเริ่มต้นสร้างรายได้ในทันทีนี้ช่วยให้ผู้ใช้รับรู้ข้อดีของการซื้อบนเว็บ ในขั้นถัดไป เมื่อสมมติฐานด้านมูลค่าได้รับการพิสูจน์แล้ว ผู้พัฒนาก็จะสามารถสร้างระบบ LiveOps ที่ครอบคลุมด้วยเครื่องมือ Web Shop LiveOps สำหรับการจัดการการขายได้

คุณสมบัติของ Xsolla Web Shop 2.0:

  • เครื่องมือ LiveOps ขั้นสูง: ประกอบด้วยการทดสอบ A/B, ข้อเสนอพิเศษ, ข้อเสนอการซื้อครั้งแรก, โปรโมชันร้านค้าลับ, คูปอง, รหัสโปรโมชัน และข้อเสนอทั้งแบบจำกัดเวลาและจำนวนจำกัด เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถสร้างประสบการณ์ผู้เล่นที่มีคุณค่าอย่างยิ่งได้
  • การปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลและการมีส่วนร่วมผู้พัฒนาสามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมและความภักดีของผู้เล่นได้อย่างมากผ่านข้อเสนอเฉพาะบุคคล โปรโมชันส่วนลด โปรโมชันโบนัส โปรแกรมสะสมคะแนน และระบบการให้รางวัล
  • คำแนะนำและการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญ: Xsolla ให้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการรับมือกับความซับซ้อนในการจัดการ Web Shop ซึ่งช่วยให้พันธมิตรได้รับรายได้สูงสุด
  • ขั้นตอนสำหรับผู้ใช้ที่ดียิ่งขึ้นการชำระเงินที่ราบรื่นเพียงคลิกเดียวด้วย Xsolla Wallet, PWA (Progressive Web Application) และ Deeplink Authentication

กฎหมายตลาดดิจิทัล (DMA) ที่จะบังคับใช้ในวันที่ 6 มีนาคมถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงของตลาดสู่เสรีภาพอีคอมเมิร์ซดิจิทัล สถานการณ์ปัจจุบันของทางเลือกการเรียกเก็บเงินในแอปไม่ได้เสนอความยืดหยุ่นและอัตราส่วนลดที่แท้จริงสำหรับผู้พัฒนาเกม ซึ่งทำให้ Web Shop เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำให้เกมบนมือถือประสบความสำเร็จ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Xsolla Web Shop 2.0 และคุณสมบัติต่างๆ ได้ที่xsolla.pro/webshop-2

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทจำหน่ายวิดีโอเกมระดับโลกที่มีชุดเครื่องมือที่แข็งแกร่งและทรงพลัง รวมถึงบริการที่ออกแบบมาสำหรับอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2005 Xsolla ได้ช่วยเหลือผู้พัฒนาเกมและผู้เผยแพร่ทุกขนาดนับหลายพันรายในการจัดหาเงินทุน ทำการตลาด เปิดตัว และสร้างรายได้จากเกมทั่วโลกในหลายแพลตฟอร์ม ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมในการจำหน่ายเกม ภารกิจของ Xsolla จึงเป็นการแก้ปัญหาความซับซ้อนโดยธรรมชาติของการจัดจำหน่าย การตลาด และการสร้างรายได้ทั่วโลก เพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราเข้าถึงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ได้มากขึ้น สร้างรายได้มากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์กับเกมเมอร์ทั่วโลก บริษัทมีสำนักงานใหญ่และจดทะเบียนในลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย และมีสำนักงานในลอนดอน เบอร์ลิน โซล ปักกิ่ง กัวลาลัมเปอร์ ราลี โตเกียว และเมืองต่างๆ ทั่วโลก Xsolla สนับสนุนเกมสำคัญๆ เช่น Valve, Twitch, Roblox, Epic Games, Take- Two, KRAFTON, Nexters, NetEase, Playstudios, Playrix, miHoYo และอีกมากมาย

ดูข้อมูลและเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่: xsolla.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53905440/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Derrick Stembridge
Global Director of Public Relations, Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

แหล่งข้อมูล: Xsolla

Xsolla เปิดตัวกลยุทธ์ Cross-Play และ Cross-Pay สำหรับการสร้างรายได้มัลติแพลตฟอร์มที่ปรับปรุงสำหรับเกมบนมือถือ

Logo

เสริมศักยภาพให้กับนักพัฒนาเกมบนมือถือในการสร้างรายได้ข้ามแพลตฟอร์ม นอกเหนือจาก App Stores แบบดั้งเดิม

LOS ANGELES–(BUSINESS WIRE)–5 มีนาคม 2024

Xsolla บริษัทจำหน่ายเกมวิดีโอระดับโลกเปิดตัว Cross-Play และ Cross-Pay ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ในการสร้างรายได้จากเกมบนมือถือ เพื่อตอบสนองต่อภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไป ชุดโซลูชันของ Xsolla ช่วยให้นักพัฒนาเกมบนมือถือสามารถเปลี่ยนเกมจากมือถือไปยังเว็บ เดสก์ท๊อป และระบบคลาวด์ได้อย่างง่ายดายและราบรื่น ในขณะเดียวกัน ก็มีการนำเสนอรูปแบบการสร้างรายได้ที่หลากหลายนอกกรอบ เพื่อเสริมผลกำไรจากการขายตรงถึงผู้บริโภคสำหรับนักพัฒนาเกม

(Graphic: Xsolla)

(กราฟิก: Xsolla)

ในขณะที่อุตสาหกรรมวิดีโอเกมมีการพัฒนามากขึ้น ผู้เล่นก็ความหวังที่จะมีส่วนร่วมกับเกมโปรดของตนได้ในทุกแพลตฟอร์ม ฟอร์มแฟคเตอร์ และวิธีการควบคุม ความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นนี้ทำให้ Cross-Play เป็นที่นิยมสำหรับกลยุทธ์การพัฒนาเกมสมัยใหม่ ปัจจุบันนี้ นักพัฒนาเกมบนมือถือสามารถปรับใช้เกมของตนได้ทั้งบนมือถือ พีซี คอนโซล คลาวด์ และเว็บได้อย่างง่ายดายด้วย Xsolla Launcher และ Xsolla Cloud Gaming

Xsolla Launcher ช่วยให้นักพัฒนาสามารถใช้ประโยชน์จากความสามารถของคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น รวมถึงกราฟิกที่ได้รับการปรับแต่ง มิติในการเล่นเกม และเซสชั่นการเล่นที่ยาวนานยิ่งขึ้น เมื่อย้ายเกมบนมือถือไปยังพีซี

ในทางกลับกัน Cloud Gaming สำหรับเกมบนมือถือเป็นส่วนขยายเชิงกลยุทธ์ของโซลูชันหลักใน Xsolla Cloud Gaming ช่วยให้นักพัฒนาวิดีโอเกมบนมือถือสามารถขยายข้ามแพลตฟอร์ม โดยการปรับใช้บิลด์เกมบนแพลตฟอร์มคลาวด์ได้โดยตรงจากแลนดิ้งเพจที่เป็นแบรนด์ของนักพัฒนาเอง ช่วยให้สามารถนำเสนอกลไกการสร้างรายได้ที่มีความยืดหยุ่นสำหรับผู้ใช้มือถือ

ประสบการณ์ Cross-Play ช่วยให้มั่นใจได้ในกลยุทธ์การสร้างรายได้ที่เสถียรและยุติธรรมในทุกแพลตฟอร์มสำหรับนักพัฒนาทั่วโลก แนวทางนี้ช่วยให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงเนื้อหาเกมได้อย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การเล่นโดยรวม ในขณะเดียวกันก็มีการปฏิบัติตามกฎและแนวทางการปฏิบัติของแพลตฟอร์ม Xsolla Web Shop โซลูชันชั้นนำสำหรับการซื้อทางเว็บ เป็นพื้นฐานสำหรับกลยุทธ์การเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงสำหรับนักพัฒนาเกมบนมือถือ

Web Shops เป็นร้านค้าออนไลน์พร้อมแบรนด์ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างง่ายดาย ซึ่งมีอุปกรณ์ครบครันเพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อภายในเกมบนเว็บ โซลูชัน Xsolla Web Shop ถัดไปประกอบด้วยการอัปเดตเชิงนวัตกรรมที่มุ่งเน้นความเชี่ยวชาญจาก Xsolla ซึ่งได้รับจากการเปิดตัว Web Shops กว่า 210 ร้าน และเกมบนมือถือยอดนิยม 40 เกมจาก 100 เกมยอดนิยมที่ทำรายได้สูงสุดทั่วโลก Xsolla Web Shop นำเสนอเครื่องมือขั้นสูง LiveOps ฟีเจอร์ที่ปรับตามแต่ละบุคคลและการมีส่วนร่วมเพิ่มเติม และโฟลว์ผู้ใช้ที่ผ่านการปรับปรุงเพื่อการซื้ออย่างราบรื่น นอกเหนือจากการปรับแต่งเหล่านี้แล้ว ผู้เชี่ยวชาญของ Xsolla ยังพร้อมให้คำแนะนำและการสนับสนุน โดยให้คำปรึกษาแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุดในการดำเนินงานและการจัดการร้านค้าบนเว็บ

“ความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นกับ Cross-Play Cross-Pay นี้เป็นจุดมุ่งเน้นในนวัตกรรมของเราตลอดปีที่ผ่านมา หลังจากร่วมมือกับพันธมิตรมากมาย และเปิดตัวร้านค้าบนเว็บกว่า 200 ร้านในปี 2023 แอปพลิเคชันในโลกแห่งความเป็นจริงที่ยอดเยี่ยมพร้อมคำติชมจากลูกค้าเหล่านี้ช่วยให้นักพัฒนาเกมบนมือถือสามารถทำการตลาดเกมของพวกเขาออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยดำเนินการตามแนวทางของแพลตฟอร์ม” David Stelzer ประธานของ Xsolla กล่าว “Cross-Play Cross-Pay เป็นนวัตกรรมเชิงกลยุทธ์ของเราเพื่อตอบสนองความต้องการที่มีการปรับเปลี่ยนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมเกมบนมือถือที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ด้วยการนำเสนอโซลูชันหลายแพลตฟอร์มสำหรับนักพัฒนาเกมบนมือถือ ทำให้เราสามารถช่วยให้นักพัฒนาเข้าถึงผู้เล่นได้มากขึ้น และทำให้ธุรกิจของพวกเขาเติบโตยิ่งขึ้น”

ชุดโซลูชัน Cross-Play Cross-Pay ที่ครอบคลุมนี้ช่วยให้นักพัฒนาเกมบนมือถือสามารถมั่นใจได้ว่า เกมของพวกเขาจะสามารถเข้าถึงผู้เล่นได้อย่างกว้างขวางและครอบคลุมเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยการสร้างการเชื่อมต่อกับผู้เล่นทั่วโลกที่เสถียรและยั่งยืน

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Xsolla Web Shop 2.0 และฟีเจอร์ได้ที่xsolla.pro/web-shop2

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Xsolla Cloud Gaming สำหรับมือถือและฟีเจอร์ได้ที่xsolla.pro/cloud-gaming

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Xsolla Launcher ได้ที่xsolla.pro/xsolla-launcher

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทจำหน่ายวิดีโอเกมระดับโลกที่มีชุดเครื่องมือและบริการที่เสถียรและทรงพลัง ซึ่งได้รับการออกแบบมาสำหรับอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 Xsolla ได้ห้ความช่วยเหลือนักพัฒนาเกมและผู้เผยแพร่ทุกขนาดหลายพันราย ทั้งการระดมทุน ทำการตลาด เปิดตัว และสร้างรายได้จากเกมของพวกเขาทั่วโลก และบนหลายแพลตฟอร์ม ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมในการจำหน่ายเกม ภารกิจของ Xsolla คือ การแก้ไขปัญหาความซับซ้อนในการจัดจำหน่าย การตลาด และการสร้างรายได้ทั่วโลก เพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราสามารถเข้าถึงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์มากขึ้น สร้างรายได้สูงขึ้น และสร้างความสัมพันธ์กับนักเล่นเกมทั่วโลก โดยมีสำนักงานใหญ่และจดทะเบียนในลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย และมีสำนักงานในลอนดอน เบอร์ลิน กรุงโซล ปักกิ่ง กัวลาลัมเปอร์ ราลี โตเกียว และเมืองอื่นๆ ทั่วโลก Xsolla สนับสนุนเกมสำคัญต่างๆ เช่น Valve, Twitch, Roblox, Epic Games, Take-Two, KRAFTON, Nexters, NetEase, Playstudios, Playrix, miHoYo และอื่นๆ อีกมากมาย

สามารถดูและเรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: xsolla.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53905439/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Derrick Stembridge
Global Director of Public Relations, Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

แหล่งข้อมูล: Xsolla

MethaneSAT ขึ้นสู่วงโคจรแล้ว หลัง SpaceX เริ่มภารกิจล้ำสมัยเพื่อปกป้องสภาพภูมิอากาศ

Logo

ดาวเทียมดวงแรกที่พัฒนาโดยองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมที่ไม่แสวงผลกำไรจะมองเห็นการปล่อยก๊าซมีเทนที่ไม่มีดาวเทียมดวงไหนมองเห็น ซึ่งจะนำไปสู่ความรับผิดชอบที่มากขึ้นและลดการปล่อยก๊าซได้เร็วขึ้น

VANDENBERG SFB, LOMPOC, แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–5 มีนาคม 2024

วันนี้ หลัง 16:00 น. ที่ผ่านมาตามเวลาแปซิฟิก MethaneSAT ได้แยกตัวออกจาก SpaceX Transporter-10 ที่นำดาวเทียมติดตามการปล่อยก๊าซดังกล่าวขึ้นสู่อวกาศสำเร็จ ดาวเทียมล้ำสมัยนี้ได้รับการออกแบบเพื่อช่วยปกป้องสภาพภูมิอากาศของโลกด้วยการเร่งการลดมลพิษจากก๊าซเรือนกระจกที่กำลังสร้างปัญหาอย่างรุนแรง โดยมุ่งเน้นไปที่การดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันและก๊าซซึ่งเป็นต้นกำเนิดหลักของก๊าซมีเทนก่อนเป็นอันดับแรก

MethaneSAT (Photo: Business Wire)

MethaneSAT (รูปภาพ: Business Wire)

คุณสามารถดูชุดข้อมูลสื่อดิจิทัลซึ่งประกอบด้วยรูปถ่าย วิดีโอ และกราฟิกได้ที่นี่

MethaneSAT ซึ่งพัฒนาโดยหน่วยงานในเครือขององค์กรไม่แสวงหากำไรระดับโลกอย่าง Environmental Defense Fund จะมองเห็นและวัดปริมาณการปล่อยก๊าซมีเทนทั้งหมดในบริเวณกว้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดาวเทียมดวงอื่นๆ ไม่สามารถทำได้ และระบุตัวการสำคัญที่ปล่อยก๊าซในสถานที่ที่ไม่มีดาวเทียมดวงไหนเฝ้ามอง ข้อมูลที่ได้จาก MethaneSAT จะช่วยให้ทั้งบริษัทต่างๆ และหน่วยงานกำกับดูแลสามารถสืบสาวต้นตอของการปล่อยก๊าซ และเปิดให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น ประชาชน หน่วยงานรัฐ และนักลงทุนเข้าถึงข้อมูลแบบเกือบเรียลไทม์ได้ฟรี อีกทั้งยังสามารถเปรียบเทียบผลลัพธ์กับเป้าหมายและหน้าที่ด้านการปล่อยก๊าซได้เป็นที่แรกอีกด้วย

“การลดมลพิษจากก๊าซมีเทนซึ่งได้จากการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิงฟอสซิล เกษตรกรรม และภาคส่วนอื่นๆ เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยชะลออัตราการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกได้เร็วที่สุด ร่วมกับความพยายามกำจัดคาร์บอนจากระบบพลังงานของเราอย่างต่อเนื่อง” Fred Krupp ประธาน EDF กล่าว “การจะทำเช่นนั้นได้จำเป็นต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับมลพิษนี้ที่ครอบคลุมทั่วโลก MethaneSAT จะแสดงให้เราเห็นโอกาสแบบภาพรวมด้วยการสืบสาวการปล่อยก๊าซไปจนถึงแหล่งที่มา”

Krupp ประกาศเปิดตัว MethaneSAT ใน TED Talk ปี 2018 โดยเป็นส่วนหนึ่งของ TED Audacious Project EDF เป็นผู้นำระดับโลกด้านวิทยาศาสตร์และการแก้ปัญหาเกี่ยวกับก๊าซมีเทนมานานกว่าทศวรรษ โดยเป็นองค์กรแรกที่ชี้ให้เห็นความสำคัญของปัญหานี้ด้วยการดำเนินการศึกษาวิจัยอิสระ 16 ชิ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการปล่อยก๊าซมีเทนในห่วงโซ่อุปทานน้ำมันและก๊าซของสหรัฐฯ สูงกว่าการประมาณการของ EPA ถึง 60% ซึ่ง MethaneSAT คือผลลัพธ์จากความพยายามเหล่านี้โดยตรง

“MethaneSAT มีความพิเศษอยู่ที่ความสามารถในการวัดระดับก๊าซมีเทนในบริเวณกว้างได้อย่างแม่นยำและมีความละเอียดสูง รวมถึงแหล่งกำเนิดที่มีขนาดเล็กและกระจัดกระจายซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการปล่อยก๊าซมากที่สุดในหลายภูมิภาค” Steven Hamburg หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ EDF และหัวหน้าโปรเจ็กต์ MethaneSAT กล่าว “การได้รู้ว่าก๊าซมีเทนมาจากไหนในปริมาณเท่าใดและมีการเปลี่ยนแปลงอัตราการปล่อยก๊าซมากน้อยเพียงใดนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง”

MethaneSAT ซึ่งโคจรรอบโลก 15 ครั้งต่อวันจะวัดการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของก๊าซมีเทนได้ละเอียดถึง 3 ในหนึ่งพันล้านส่วน เมื่อการตรวจจับความไวสูงทำงานร่วมกับการมองเห็นที่มีระยะการมองที่กว้างและมีความละเอียดสูงก็จะทำให้ MethaneSAT มองเห็นภาพการปล่อยก๊าซทั้งหมด (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่)

ความสามารถพิเศษเหล่านี้ช่วยเปิดศักราชด้านความโปร่งใสให้กับอุตสาหกรรม ทุกคนสามารถดูข้อมูลการปล่อยก๊าซที่สามารถโต้ตอบได้โดยตรงที่ www.MethaneSAT.org และบน Google Earth Engine ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มข้อมูลภูมิสารสนเทศชั้นนำที่มีผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์กว่า 100,000 รายใช้งาน

MethaneSAT เกิดขึ้นได้ด้วยการสนับสนุนจากผู้ที่บริจาคให้กับ EDF และความร่วมมือระหว่างเรากับรัฐบาลนิวซีแลนด์ โดยมี Bezos Earth Fund, Arnold Ventures, Robertson Foundation และ TED Audacious Project เป็นองค์กรที่มีส่วนร่วมในการสร้าง MethaneSAT รายใหญ่ที่สุด

“การปล่อยก๊าซมีเทนเป็นสิ่งที่ทุกคนมองข้ามและตรวจพบได้ยากมาเป็นเวลานานมากๆ” ดร. Kelly Levin หัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ ข้อมูล และการเปลี่ยนแปลงระบบของ Bezos Earth Fund กล่าว “MethaneSAT ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงสมการ โดยให้ความสำคัญกับวิทยาศาสตร์และข้อมูลเป็นอันดับแรก มันเห็นสิ่งที่ดาวเทียมดวงอื่นๆ มองไม่เห็นจากอวกาศ คอยช่วยเหลือคนดีและทำให้ผู้ร้ายต้องรับผิดชอบ Bezos Earth Fund รู้สึกภูมิใจที่ได้ร่วมมือในการผจญภัยครั้งนี้”

ในเดือนธันวาคม EDF ได้ร่วมมือกับ Bloomberg Philanthropies, International Energy Agency, RMI และ International Methane Emission Observatory ภายใต้โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ ในโครงการริเริ่มใหม่โครงการแรกที่กำหนดให้บริษัทและรัฐบาลต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นในการจัดการก๊าซมีเทนของตน

“คุณไม่สามารถจัดการสิ่งที่คุณไม่สามารถวัดได้ คำกล่าวนี้ยิ่งเป็นความจริงเมื่อพูดถึงการลดก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นหนึ่งปัจจัยที่มีอิทธิพลที่สุดต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” Michael R. Bloomberg ผู้แทนพิเศษด้านความมุ่งมั่นและการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศของเลขาธิการสหประชาชาติ และผู้ก่อตั้ง Bloomberg LP และ Bloomberg Philanthropies กล่าว “ข้อมูลจากดาวเทียมนี้จะช่วยให้เราวัดการปล่อยก๊าซมีเทนและระบุแหล่งที่มาได้ดีขึ้น ช่วยให้เข้าใจปัญหาได้ง่ายขึ้น ทำให้บริษัทและนักลงทุนได้รับข้อมูลที่จำเป็นต้องใช้ในการดำเนินการแก้ไข และในขณะเดียวกันก็ช่วยให้สาธารณชนกดดันให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบได้”

นอกเหนือจากการระบุแหล่งที่มาและอัตราการปล่อยก๊าซในภูมิภาคนั้นๆ แล้ว MethaneSAT ยังช่วยให้เราสามารถเปรียบเทียบอัตราการลดการปล่อยก๊าซในภูมิภาคที่ผลิตน้ำมันและก๊าซหลักๆ ทั่วโลก ตลอดจนประสิทธิภาพเมื่อผ่านไประยะหนึ่งได้อีกด้วย การวิเคราะห์ที่พัฒนาขึ้นสำหรับภารกิจนี้เป็นพิเศษจะสืบสาวการปล่อยก๊าซดังกล่าวกลับไปจนถึงแหล่งที่มาภายในภูมิภาคเป้าหมายเหล่านั้น

“เราพบว่าข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือสูงส่งผลให้เกิดมาตรการป้องกันด้านระเบียบข้อบังคับที่เข้มแข็ง และมีแนวทางปฏิบัติในการดำเนินงานในอุตสาหกรรมที่ดีขึ้น ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ดีคือรากฐานที่ช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น” Mark Brownstein รองประธานอาวุโสฝ่าย Energy Transition ของ EDF กล่าว

ในเดือนมกราคม รัฐบาลไบเดนได้เสนอกฎการเก็บค่าธรรมเนียมการปล่อยก๊าซมีเทนส่วนเกิน ซึ่งจะกำหนดให้ต้องมีการรายงานการปล่อยก๊าซที่ถูกต้อง กฎหมายของสหภาพยุโรปเห็นชอบในเดือนพฤศจิกายนให้จัดทำแผนภูมิแนวทางในการกำหนดให้ผู้นำเข้าก๊าซต้องให้ข้อมูลการปล่อยก๊าซเชิงประจักษ์ ในขณะที่ญี่ปุ่นและเกาหลีซึ่งเป็นชาติที่ซื้อก๊าซ LNG รายใหญ่ที่สุดสองราย ก็ได้ออกแผนการที่จะเริ่มขอข้อมูลการปล่อยก๊าซจากซัพพลายเออร์

เมื่อมีการนำมาตรฐานเกี่ยวกับก๊าซมีเทนมารวมไว้ในนโยบายระดับชาติและข้อตกลงทางการค้า MethaneSAT จะช่วยให้มั่นใจได้ว่ามีการดำเนินการตรงตามเป้าหมาย และให้ข้อมูลที่ชัดเจนว่าการลดการปล่อยก๊าซที่กล่าวอ้างนั้นบกพร่องในจุดใด

ประเทศต่างๆ กว่า 150 ประเทศได้ลงนามในประกาศปฏิญญาสากลว่าด้วยการปล่อยก๊าซมีเทน เพื่อลดการปล่อยก๊าซมีเทนโดยรวมให้ได้อย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์จากระดับปี 2020 ภายในปี 2030 ในขณะที่การประชุม COP 28 บริษัทต่างๆ กว่า 50 บริษัทได้ออกกฎบัตรการลดคาร์บอนจากน้ำมันและก๊าซ โดยมุ่งมั่นที่จะกำจัดการปล่อยก๊าซมีเทนและการปล่อยก๊าซส่วนเกินซึ่งเกิดจากกระบวนการผลิตปิโตรเลียมอย่างยั่งยืน

นอกเหนือจาก EDF ซึ่งเป็นองค์กรแม่แล้ว พันธมิตรของ MethaneSAT ยังประกอบด้วยคณะวิศวกรรมศาสตร์และวิทยาศาสตร์ประยุกต์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด หอดูดาวฟิสิกส์ดาราศาสตร์สมิธโซเนียน และองค์การอวกาศนิวซีแลนด์ โดยทีมภารกิจร่วมนี้มีผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 70 คนจากทั่วโลกที่มีประสบการณ์ในการบินอวกาศ การสำรวจระยะไกล และการวิเคราะห์ข้อมูล

ดาวเทียมดวงนี้สร้างขึ้นในโคโลราโดโดยหน่วย Space & Mission Systems ของบริษัท BAE Systems, Inc. (เดิมชื่อ Ball Aerospace) และ Blue Canyon Technologies

MethaneSAT, LLC เป็นบริษัทในเครือของ Environmental Defense Fund, Incorporated ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ไม่แสวงผลกำไรชั้นนำ EDF เชื่อมโยงวิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ กฎหมาย ตลอดจนความร่วมมือภาคเอกชนเชิงนวัตกรรมเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างแนวทางแก้ไขเชิงปฏิรูปต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ร้ายแรงที่สุด ติดตามเราทาง Twitter ได้ที่ @MethaneSAT หรือติดต่อเราที่ www.MethaneSat.org ลิขสิทธิ์ © 2024 MethaneSAT, LLC สงวนลิขสิทธิ์

Environmental Defense Fund (edf.org) ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรระหว่างประเทศที่ไม่แสวงผลกำไรระดับโลก สร้างสรรค์แนวทางแก้ไขเชิงปฏิรูปต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ร้ายแรงที่สุด โดย EDF เชื่อมโยงวิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ กฎหมาย และความร่วมมือภาคเอกชนเชิงนวัตกรรมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างสรรค์แนวทางเหล่านี้ นักวิทยาศาสตร์ นักเศรษฐศาสตร์ นักกฎหมาย และผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายของ EDF ซึ่งมีสำนักงานและสมาชิกมากกว่า 3 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา จีน เม็กซิโก อินโดนีเซีย และสหภาพยุโรป ทำงานใน 28 ประเทศเพื่อให้แนวทางแก้ไขของเราปฏิบัติได้จริง ติดต่อเราทาง Twitter ที่ @EnvDefenseFund

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: http://www.businesswire.com/news/home/53905350/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Lexie Michel, Sun Public Relations, lexie@sunpr.com หรือ 952-457-1418
Lauren Whittenberg, Environmental Defense Fund, lwhittenberg@edf.org หรือ 512-784-2161

แหล่งข้อมูล: Environmental Defense Fund

King Power Corporation ขับเคลื่อนการลดต้นทุนการดำเนินงานและปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าด้วย 8×8

Logo

ผู้ค้าปลีกปลอดภาษีปรับมาใช้ 8×8 SMS API เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานอีคอมเมิร์ซและลดต้นทุนการดำเนินงานลง 30%

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–6 มีนาคม 2024

8×8, Inc. (NASDAQ: EGHT), ซึ่งเป็นศูนย์ติดต่อบนคลาวด์ครบวงจรชั้นนำ การสื่อสารแบบครบวงจร และผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการสื่อสารในฐานะบริการ (CPaaS) ได้ประกาศในวันนี้ว่า  ได้นำโซลูชั่น SMS API ของ 8×8 มาบูรณาการเข้ากับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า ในขณะเดียวกันก็ลดต้นทุนการดำเนินงานลง 30% ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กลุ่มบริษัทKing Power Corporation เป็นหนึ่งในผู้ค้าปลีกปลอดภาษีรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ค้นหาพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานอีคอมเมิร์ซด้วยการยกระดับประสบการณ์การสื่อสารกับลูกค้าและพนักงาน นอกจากนี้ บริษัทยังต้องการโซลูชันการสื่อสารที่รองรับการปรับขนาดได้และมีความคุ้มค่า King Power Corporation ได้เลือก 8×8 SMS API ซึ่งช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพทุกที่ทุกเวลาด้วยการแจ้งเตือนอัตโนมัติ รหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียว การเตือนความจำ และการแจ้งเตือน

นับตั้งแต่ใช้ 8×8 SMS API กลุ่มบริษัท King Power Corporation พบว่ามีอัตราการส่ง SMS ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ กลุ่มบริษัท King Power Corporation ยังได้เพิ่มประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซด้วยการอำนวยความสะดวกในการประมวลผลคำสั่งซื้อ การตรวจสอบลูกค้า และการแจ้งเตือนทาง SMS ที่ตรงเวลาผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น

“ปัจจุบันกลุ่มบริษัท King Power Corporation ส่งข้อความ SMS ให้กับลูกค้ามากกว่า 850,000 รายต่อปี” คุณ Boonthavee Jarudomrongsak รองประธานฝ่าย Digital Delivery Management กลุ่มบริษัท King Power Corporation กล่าว “ด้วย 8×8 เราสามารถมอบประสบการณ์อีคอมเมิร์ซที่ยกระดับให้กับลูกค้าที่ตามที่พวกเขาต้องการและคาดหวังจากกลุ่มบริษํท King Power Corporation ทั้งบนเว็บไซต์และแอพของเรา”

“ลูกค้านั้นคาดหวังการบริการลูกค้าในระดับสูงเมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมการที่เรามอบเครื่องมือสื่อสารที่จำเป็นให้กับบริษัทต่างๆ เพื่อตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าเหล่านี้จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก” คุณ Stephen Hamill ผู้จัดการทั่วไป CPaaS ของ 8×8, Inc. กล่าวว่า “ที่ 8×8 เรายังคงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอโซลูชั่นการสื่อสารที่ทันสมัย ซึ่งช่วยให้ธุรกิจต่างๆ บรรลุวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขับเคลื่อนความคิดริเริ่มในการประหยัดต้นทุนที่น่าประทับใจ อย่างที่ กลุ่มบริษัท King Power Corporation สามารถทำสำเร็จได้”

8×8 CPaaS ซึ่งรวมถึง SMS, messaging apps, voice, และ video interaction ทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการสื่อสารทางธุรกิจและประสบการณ์ของลูกค้าในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลา 8×8 CPaaS เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ติดต่อบนคลาวด์แบบบูรณาการของ 8×8 และแพลตฟอร์มการสื่อสารแบบครบวงจร ซึ่งรวมถึง contact center, business phone, team chat, video meetings และความสามารถด้าน SMS

เกี่ยวกับ 8×8 Inc.

8×8, Inc. (NASDAQ: EGHT) กำลังเปลี่ยนแปลงอนาคตของการสื่อสารทางธุรกิจในฐานะซอฟต์แวร์ชั้นนำเเละในฐานะผู้ให้บริการ 8×8 XCaaS™ (Experience Communications as a Service™) ซึ่งเป็นศูนย์ติดต่อแบบครบวงจร การสื่อสารด้วยเสียง วิดีโอ แชท และ โซลูชัน SMS ที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มการสื่อสารบนคลาวด์ระดับโลกแห่งเดียว 8×8 กำจัดไซโล (ไซโล) ทําไห้ยังคงบริการสื่อสารแบบครบวงจร (Unified Communications as a Service:UCaaS) และ Contact Center as a Service (CCaaS) สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพในการควบคุมด้านการสื่อสารของพนักงานทุกคนทั่วโลกในปัจจุบัน เพื่อเป็นการให้ประสบการณ์แก่ลูกค้าของเรา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชม www.8×8.com หรือติดตาม 8×8 ได้ใน LinkedIn, X และ Facebook

8×8®, 8×8 XCaaS™, Experience Communications as a Service™, Experience Communications Platform™ เป็นเครื่องหมายการค้าของ 8×8, Inc.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ฝ่ายสื่อ:
PR@8×8.com

นักลงทุนสัมพันธ์:
Investor.relations@8×8.com

ที่มา: 8×8, Inc.

ETT | iByond™ Asia ลงนามข้อตกลงมูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์กับ Knightsbridge ในการนำระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีทางด้านการเงินมาสู่เอเชียและทั่วโลก

Logo

ปาล์มบีช, ฟลอริด้า–(BUSINESS WIRE)–5 มีนาคม 2024

ETT | iByond™ และกลุ่ม Knightsbridge ได้บรรลุข้อตกลงใหญ่ที่คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์ ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนโซลูชั่นดิจิทัลและเทคโนโลยีทางด้านการเงินที่ก้าวหน้าไปทั่วโลก ความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมต่างๆ

Christopher Condon | Chairman and CEO of ETT | iByond™ (USA + Asia) (Photo: Business Wire)

คุณ Christopher Condon | ประธานและ CEO ของ ETT | iByond™ (สหรัฐอเมริกา + เอเชีย) (รูปภาพ: Business Wire)

ภายใต้ข้อตกลง ETT | iByond™ และกลุ่ม Knightsbridge จะผนึกกำลังกันเพื่อเป็นหัวหอกในการริเริ่มด้านดิจิทัลและปฏิวัติการนำเสนอเทคโนโลยีทางการเงิน ด้วยการใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของ iByond™ ในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังขยายตัว รวมถึงเครือข่ายและทรัพยากรทั่วโลกของ Knightsbridge ความร่วมมือดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะนำเสนอโซลูชั่นที่ไม่มีใครเทียบเคียงซึ่งปรับแต่งให้ตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของธุรกิจและผู้บริโภคทั่วโลก การร่วมทุนครั้งนี้จะใช้ประโยชน์จากการจัดการข้อมูลที่ทันสมัยและโครงสร้างพื้นฐานปัญญาประดิษฐ์ของ ETT

เทคโนโลยีการปฏิรูปเศรษฐกิจ“ETT | iByond™” (ETT) แผนก Asia ได้ทำข้อตกลงการให้บริการซอฟต์แวร์และใบอนุญาตระยะเวลาห้าปีกับ Knightsbridge ซึ่งมีมูลค่า $683 ล้านดอลลาร์สำหรับ ETT และมากกว่า $500 ล้านดอลลาร์สำหรับ Knightsbridge ความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะปฏิวัติอุตสาหกรรมบริการทางการเงินผ่านโซลูชั่นการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่ล้ำสมัย

บริษัทร่วมทุนจะใช้ประโยชน์จากการจัดการข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ล้ำสมัยของ ETT และเทคโนโลยีตลาดขั้นสูงของกลุ่ม Knightsbridge เพื่อส่งมอบแพลตฟอร์มเทคโนโลยีทางการเงินที่ครอบคลุมซึ่งนำเสนอประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความสามารถในการปรับขนาดที่ไม่มีใครเทียบได้ ด้วยการควบคุมพลังของปัญญาประดิษฐ์ แพลตฟอร์มดังกล่าวจะช่วยให้สถาบันการเงินสามารถปรับปรุงการดำเนินงาน ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า และขับเคลื่อนการเติบโตที่ยั่งยืนในตลาดที่มีพลวัตในปัจจุบันได้ ความร่วมมือนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในกลยุทธ์การขยายธุรกิจของ Knightsbridge และตอกย้ำความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการเติบโตในภูมิภาค

การเติบโตอย่างรวดเร็วของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีทางการเงิน (ฟินเทค) ในเอเชียกำลังเปลี่ยนภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจของภูมิภาคในอัตราก้าวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AI และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมต่างๆ เอเชียจึงกลายเป็นแหล่งรวมนวัตกรรมและการลงทุนในโซลูชั่น AI และเทคโนโลยีทางด้านการเงิน จากการบุกเบิกบริการทางการเงินที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไปจนถึงการปฏิวัติแนวทางการธนาคารและการลงทุนแบบดั้งเดิม ประเทศในเอเชียกำลังควบคุมพลังของ AI และเทคโนโลยีทางด้านการเงินเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ปรับปรุงการรวมทางการเงิน และเพิ่มประสิทธิภาพในตลาดการเงิน ด้วยกรอบการกำกับดูแลที่สนับสนุน ระบบนิเวศของสตาร์ทอัพที่มีชีวิตชีวา และจำนวนผู้มีความสามารถด้านเทคโนโลยีที่เพิ่มมากขึ้น เอเชียจึงพร้อมที่จะเป็นผู้นำการปฏิวัติด้าน AI และเทคโนโลยีทางด้านการเงินระดับโลกต่อไป เพื่อปลดล็อกโอกาสใหม่ๆ และขับเคลื่อนนวัตกรรมทั่วทั้งภาคส่วน

คุณ Christopher Condon ประธานและซีอีโอของ ETT แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือครั้งนี้ว่า “ความร่วมมือกับ Knightsbridge ครั้งนี้เน้นย้ำถึงความทุ่มเทของ ETT ในการเป็นผู้นำในเชิงรุกในแนวหน้าของนวัตกรรมดิจิทัล และเสริมสร้างจุดยืนของตนต่อการเติบโตระดับโลกและตลาดเอเชียที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว”

คุณ David Chlapowski ผู้เป็นประธานของ ประธานภูมิภาคอเมริกาและตลาดเกิดใหม่ (EM) กล่าวเสริมว่า “ข้อมูลที่ถูกนำเสนอในลักษณะที่สามารถปรับขนาดได้และบริโภคได้คือน้ำมันใหม่และเป็นเชื้อเพลิงของนวัตกรรมดิจิทัล การทำงานร่วมกันของแพลตฟอร์มที่แตกต่างกันรวมกับความสามารถในการเรียนรู้ของปัญญาประดิษฐ์จะให้ประสิทธิภาพอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน – จนถึงปัจจุบัน ผมกล้าที่จะประกาศว่ าETT/Knightsbridge FinTech Platform คือกาวที่นำทั้งหมดนี้มารวมกัน โดยรวมแล้ว เรากำลังเปิดตัวยุคใหม่ของ Web 4.0 ซึ่งเป็นยุคที่ซอฟต์แวร์ โครงสร้างพื้นฐาน และการเงินมารวมกันที่จุดตัดของการเปิดใช้งานและการสร้างความมั่งคั่ง และขับเคลื่อนด้วย AI”

คุณ Issaree Suwunnavid กล่าวว่า “ในฐานะกรรมการผู้จัดการของกลุ่ม Knightsbridge ฉันมีความยินดีที่จะประกาศให้ทราบถึงการร่วมทุนกับ ETT เพื่อนำโซลูชั่นเทคโนโลยีทางด้านการเงินที่ล้ำสมัยมาสู่เอเชีย มันทำให้ฉันมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้สร้างประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจและบุคคลทั่วภูมิภาคด้วยบริการทางการเงินที่เป็นนวัตกรรมใหม่”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม ettworld.com หรือ knightsbridgelaw.com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบนbusinesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20240304917175/en/

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53904948/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

หากต้องการสอบถามข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ:

J. Czelusniak
jczelusniak@ettworld.com

ที่มา: Economic Transformation Technologies

 

ผู้นําตลาดด้านสุขภาพผนึกกําลังกัน: The DRIPBaR ซึ่งขับเคลื่อนโดย REVIV

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–5 มีนาคม 2024

การที่ The DRIPBaR ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นแฟรนไชส์เกี่ยวกับการบําบัดด้วย IV ที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ร่วมมือกับ REVIV ผู้นําด้านการบําบัดด้วย IV ระดับโลกนั้น ถือเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมดังกล่าว จากความร่วมมือนี้ทำให้เกิดข้อเสนอที่ไม่มีใครเทียบได้ เนื่องจากเป็นการรวมเอาความเชี่ยวชาญพิเศษของยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมที่มีที่ตั้งมากกว่า 200 แห่งใน 6 ทวีป โดยมีแผนเพิ่มที่ตั้งอีกหลายพันแห่งในไม่กี่ปีข้างหน้า เมื่อเร็ว ๆ นี้มีความต้องการการบําบัดด้วย IV เพิ่มขึ้นจึงทำให้เกิดโอกาสมหาศาลแก่บริษัททั่วโลกในการกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมใหม่และเป็นผู้นำของการบําบัดด้วย IV ในยุคต่อไป

Ben Crosbie, CEO of The DRIPBaR and Sarah Lomas, Founder and CEO of REVIV Global, announce their exciting partnership. (Photo: Business Wire)

Ben Crosbie ซีอีโอของ The DRIPBaR และ Sarah Lomas ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ REVIV Global ประกาศความร่วมมือที่น่าตื่นเต้นของพวกเขา (ภาพ: Business Wire)

ด้วยระบบการวางแผนการขายมูลค่าสูงที่มีแฟรนไชส์มากกว่า 450 แห่งในประเทศสหรัฐอเมริกา The DRIPBaR ตัดสินเข้าร่วมเทคโนโลยี REVIV X ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ REVIV อันเป็นการยืนยันความมุ่งมั่นในการจัดหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาด้านโภชนาการเฉพาะบุคคลและที่มีความแม่นยําสำหรับลูกค้าของบริษัท ความร่วมมือนี้ช่วยให้ The DRIPBaR ได้ใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญด้านทรัพย์สินทางปัญญาและวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตของ REVIV ที่มีมาตลอดระยะเวลา 10 ปี โดยใช้ประโยชน์จากข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายด้วยการตรวจเลือดและการวิเคราะห์ดีเอ็นเอเพื่อปรับการรักษาด้วย IV ให้สอดคล้องกับตามความต้องการของแต่ละบุคคล The DRIPBaR นั้นจะปฏิวัติภูมิทัศน์ด้านสุขภาพในประเทศสหรัฐอเมริกาโดยอาศัย REVIV X ซึ่งจะนําเสนอการแก้ไขปัญหาที่มุ่งเน้นไปที่ผู้ป่วยแต่ละคนโดยจะเพิ่มประสิทธิภาพด้านสุขภาพที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้บริษัทในฐานะผู้นําด้านนวัตกรรม

Ben Crosbie ซีอีโอของ The DRIPBaR ตื่นเต้นอย่างยิ่งที่จะได้ในการร่วมมือกันในครั้งนี้ โดยยืนยันว่า “การเลือก REVIV เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของเรานั้น เรากําลังปลดล็อกความสามารถส่วนบุคคลและความแม่นยําเพื่อการนําเสนอผลิตภัณฑ์ขั้นสูงและประสบการณ์ของลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น ผมมั่นใจว่าการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและความเชี่ยวชาญของ REVIV จะช่วยเร่งให้แฟรนไชส์ของเราเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น รวมถึงทำให้พวกเขานําหน้าบรรทัดฐานของอุตสาหกรรมอีกด้วย การเสนอ REVIV X ควบคู่ไปกับหลักสูตรการฝึกอบรม IV ที่ได้รับการรับรองนั้นจะกำหนดมาตรฐานระดับโลกในความเป็นเลิศสำหรับวงการของเรา และยิ่งผนึกกำลังให้เราสามารถรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ไว้ได้”

Sarah Lomas ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ REVIV Global เน้นย้ำถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของความเป็นหุ้นส่วนนี้ โดยระบุว่า “ทั้ง The DRIPBaR กับ REVIV เน้นย้ำถึงการอุทิศตนร่วมกันเพื่อนวัตกรรมและความปลอดภัยในตลาดของการบําบัดด้วย IV ในฐานะผู้นําในอุตสาหกรรม เรากําลังพลิกโฉมอนาคตด้านสุขภาพด้วยการนําเสนอการแก้ไขปัญหาด้านโภชนาการเฉพาะบุคคลและที่มีความแม่นยําซึ่งจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป เราจะยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ SaaS ของเราต่อไปเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมทั่วโลก ตลอดหลายปีที่ผ่านมาและการลงทุนที่สำคัญในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ นี่เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่งที่จะได้เห็นความสำเร็จและการนํา REVIV X ไปใช้”

พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระหว่าง REVIV และ The DRIPBaR ทำให้เกิดช่วงเวลาสำคัญในอุตสาหกรรมการบําบัดด้วย IV และในหลายภาคส่วน โดยการพัฒนาการจัดหาการแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพที่มีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับลูกค้าทั่วทั้งประเทศสหรัฐอเมริการวมถึงที่อื่น ๆ ในขณะที่ตลาดการบําบัดด้วย IV ยังคงขยายตัวอย่างรวดเร็วด้วยความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกําหนดในระดับชั้นนำ REVIV X จึงกลายเป็นทางเลือกสำหรับผู้ปฏิบัติงานที่สร้างโอกาสทางธุรกิจในหลายรูปแบบที่มีอยู่ในการเข้าถึงนวัตกรรมของ REVIV และการดำรงตำแหน่งบริษัทในระดับแนวหน้าแห่งนวัตกรรมด้านสุขภาพและมาตรฐานอุตสาหกรรม

สำหรับการสอบถามของสื่อ:

REVIV Global: Emma Robertson, erobertson@revivme.com

The DRIPBaR: Marketing@thedripbar.com“>Marketing@thedripbar.com

เกี่ยวกับ REVIV Global

REVIV Global คือผู้เชี่ยวชาญอันดับต้น ๆ ของโลกในด้านการบำบัดด้วย IV ซึ่งเป็นวิธีการให้สารอาหารส่วนบุคคลที่มีความแม่นยำสูง ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีในอุตสาหกรรมนี้ พวกเขาช่วยส่งมอบ IV กว่า 2 ล้านเส้นอย่างปลอดภัยใน 40 กว่าประเทศ เพื่อช่วยเหลือผู้คนที่สนใจในการดูแลสุขภาพ รวมถึงการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและเชิงรุกอีกด้วย REVIV ได้พัฒนาระบบการดูแลสุขภาพที่มีความแม่นยำขั้นสูงเป็นระบบแรกและระบบเดียวที่ดึงข้อมูลด้านชีววิทยาและจีโนมิกส์มาใช้ประโยชน์เพื่อมอบการบำบัดด้วย IV ส่วนบุคคลและมีความแม่นยำสูง REVIV เปิดตัวผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีในช่วงปลายปี 2023 ซึ่งได้ขยายขอบเขตของแบรนด์ไปพร้อม ๆ กับยกระดับการควบคุม ความปลอดภัย และประสิทธิภาพของการบำบัดด้วย IV ไปทั่วโลก

เกี่ยวกับ The DRIPBaR

The DRIPBaR เป็นผู้บุกเบิกในวงการสุขภาพที่พร้อมที่จะกำหนดภูมิทัศน์ด้านสุขภาพและชีวิตผ่านความก้าวหน้าในการบําบัดด้วยวิทยาศาสตร์ที่ล้ำสมัยและให้ความสำคัญกับความปลอดภัย The DRIPBaR นําเสนอแนวทางการเปลี่ยนแปลงเพื่อสุขภาพของเซลล์และการดูแลเฉพาะบุคคล มุ่งเน้นไปที่การรักษาที่พัฒนาตลอดเวลาและการแพทย์ที่มีความก้าวหน้า The DRIPBaR นำไปสู่ยุคสมัยใหม่แห่งการฟื้นฟู ความมีชีวิตชีวาและการมีสุขภาพที่ดี

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53903816/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ที่มา: REVIV

NIQ เพิ่มศักยภาพให้กับลูกค้าและพันธมิตรด้วยการเปิดตัว Global Media Division

Logo

CHICAGO–(BUSINESS WIRE)–29 กุมภาพันธ์ 2024

NIQ บริษัทข่าวกรองผู้บริโภคชั้นนำของโลก มีความยินดีที่จะประกาศเปิดตัว Media Division ใหม่ ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มเชิงกลยุทธ์ที่มีการออกแบบมาเพื่อเสริมมูลค่าที่ผู้ลงโฆษณาจะได้รับจากการดำเนินการด้านการตลาด และช่วยให้พันธมิตรสามารถสนับสนุนลูกค้าผู้ลงโฆษณาของเรา การเคลื่อนไหวครั้งนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ NIQ ในการให้บริการลูกค้าพร้อม Full View™ อย่างต่อเนื่อง และเสริมสร้างความสามารถทางการตลาด

หัวหน้าของ Global Media Division คือ Lana Busignani ซึ่งเป็นมืออาชีพที่มีประสบการณ์และมีประวัติที่น่าประทับใจในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ในผลิตภัณฑ์สื่อต่างๆ Lana เคยร่วมงานกับ Quotient Technology Inc. โดยนำประสบการณ์ความเชี่ยวชาญมาเป็นผู้นำโครงการริเริ่มเชิงกลยุทธ์นี้ สั่งสมประสบการณ์เป็นเวลาเจ็ดปีจาก Nielsen Media และเริ่มต้นจากการเป็นผู้นำด้าน Marketing Effectiveness ระดับโลก และจากนั้นดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริการสื่อต่างประเทศ ด้วยประสบการณ์มากมายด้านการวิจัยตลาด รวมถึงประสบการณ์ 15 ปีจาก IPSOS ในการเป็นผู้นำด้านข่าวกรองการโฆษณาระดับโลก Lana จึงมีคุณสมบัติดีเยี่ยมเหมาะในการขับเคลื่อนความสำเร็จเพื่อ Media Division ของ NIQ

“เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เปิดตัว Media Division ของเรา ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของเราในการบริการ พร้อม Full View™ แก่ลูกค้าของเรา โดยความคิดริเริ่มเชิงกลยุทธ์นี้รวมความสามารถของ NIQ, GfK และ MRI-Simmons เข้าด้วยกัน เพื่อเสริมเพิ่มมูลค่าสำหรับลูกค้า และถือเป็นก้าวสำคัญสู่อนาคตของอุตสาหกรรมที่น่าตื่นเต้นและมีชีวิตชีวา” Lana Busignani ผู้จัดการทั่วไปของ Global Media ที่ NIQ กล่าว “ด้วยการใช้ประโยชน์จากจุดแข็งร่วมกันของเรา เรามีการกำหนดแนวทางอนาคตของธุรกิจต่างๆ โดยสามารถตัดสินใจด้วยความรอบรู้ในการลงทุนด้านการตลาดและการดำเนินการ เสริมความแข็งแกร่งให้กับจุดยืนของเราในฐานะผู้นำด้านอุตสาหกรรม”

Media Division มุ่งเน้นประเด็นหลักสามประการในอุตสาหกรรม นั่นคือ การกำหนดกลุ่มลูกค้าที่เหมาะสมสำหรับแบรนด์ การนำเสนอบริการสำหรับกลุ่มลูกค้า และการรับรองด้านประสิทธิภาพ โดยการบูรณาการพลังของ NIQ, GfK และ MRI-Simmons เข้าด้วยกัน

“ด้วยการเปิดตัว Media Division ภายใต้การนำของ Lana เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ใช้บริการต่างๆ ของ NIQ” Susan Dunn ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ NIQ กล่าว “ความคิดริเริ่มเชิงกลยุทธ์นี้เป็นการประสานความสามารถของเราเข้าไว้ด้วยกัน โดยนำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุมแก่ลูกค้า เพื่อใช้ในการตัดสินใจโดยมีข้อมูลสนับสนุนทางการตลาด ประสบการณ์ที่สั่งสมมาและวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ของ Lana สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเราในการให้บริการลูกค้าพร้อม Full View ซึ่งตอกย้ำจุดยืนของ NIQ ในฐานะพันธมิตรที่เชื่อถือได้เพื่อการขับเคลื่อนความสำเร็จของธุรกิจ”

About NIQ 
NIQ เป็นบริษัทข่าวกรองผู้บริโภคชั้นนำของโลก นำเสนอความเข้าใจที่ครอบคลุมเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค และนำเสนอทิศทางการเติบโตใหม่ ในปี 2023 NIQ ได้รวมตัวกับ GfK เพื่อรวบรวมผู้นำด้านอุตสาหกรรมทั้งสองที่สามารถเข้าถึงทั่วโลกที่ไม่มีใครเทียบ ด้วยข้อมูลด้านการค้าปลีกแบบองค์รวมและข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคที่ครอบคลุมสูงสุด พร้อมนำเสนอการวิเคราะห์ขั้นสูงผ่านแพลตฟอร์มที่ล้ำสมัย NIQ นำเสนอ Full ViewTM

NIQ เป็นบริษัทในเครือของ Advent International ที่มีการดำเนินงานในตลาดกว่า 100 แห่ง ครอบคลุมประชากรโลกมากกว่า 90% สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ NIQ.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Media
Gillian Mosher (Gillian.Mosher@NIQ.com)

แหล่งข้อมูล: NIQ

Thai Herald

Thai Herald