โมดูล MOSFET ซิลิคอนคาร์ไบด์ 1200V และ 1700V ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ของโตชิบาจะมีส่วนช่วยให้อุปกรณ์อุตสาหกรรมขนาดเล็กมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Logo

คาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–26 ม.ค. 2565

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) ได้เปิดตัวโมดูล MOSFET ซิลิกอนคาร์ไบด์ (SiC) สองโมดูล ได้แก่ “MG600Q2YMS3” ที่มีพิกัดแรงดันไฟฟ้า 1200V และอัตรากระแสไฟ drain current rating ที่ 600A ส่วนรุ่น “MG400V2YMS3” ที่มีระดับแรงดันไฟฟ้า 1700V มีกระแสไฟ drain current rating ที่ 400A ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ของโตชิบารุ่นแรกที่มีพิกัดแรงดันไฟฟ้า เหมือนกับของรุ่น MG800FXF2YMS3 ที่วางจำหน่ายไปก่อนหน้านี้ในอุปกรณ์ขนาด 1200V, 1700V และ 3300V ตามลำดับ

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหาเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220125005489/en/

Toshiba: 1200V and 1700V silicon carbide (SiC) MOSFET modules that contribute to smaller, more efficient industrial equipment. (Graphic: Business Wire)

โตชิบา: โมดูล MOSFET ซิลิกอนคาร์ไบด์ (SiC) 1200V และ 1700V ที่ช่วยให้อุปกรณ์อุตสาหกรรมมีขนาดเล็กลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น (กราฟิก: Business Wire)

โมดูลใหม่นี้มีความเข้ากันได้ในการติดตั้งกับโมดูล IGBT ซิลิคอน (Si) ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ลักษณะการสูญเสียพลังงานต่ำตอบสนองความต้องการสำหรับประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและการลดขนาดในอุปกรณ์อุตสาหกรรม เช่น คอนเวอร์เตอร์และอินเวอร์เตอร์สำหรับยานพาหนะทางรถไฟ และระบบผลิตพลังงานทดแทน

 การใช้งาน

  • อินเวอร์เตอร์และคอนเวอร์เตอร์สำหรับยานพาหนะรถไฟ
  • ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน
  • อุปกรณ์ควบคุมมอเตอร์
  • ตัวแปลง DC-DC ความถี่สูง

ฟีเจอร์

  • การติดตั้งเข้ากันได้กับโมดูล Si IGBT
  • การสูญเสียต่ำกว่าโมดูล Si IGBT

MG600Q2YMS3

VDS(on)sense =0.9V (typ.) @ID=600A, Tch=25°C

Eon=25mJ (typ.), Eoff=28mJ (typ.) @VDS=600V, ID=600A, Tch=150°C

MG400V2YMS3

VDS(on)sense=0.8V (typ.) @ID=400A, Tch=25°C

Eon=28mJ (typ.), Eoff=27mJ (typ.) @VDS=900V, ID=400A, Tch=150°C

  • เทอร์มิสเตอร์ NTC ในตัว

ข้อมูลจำเพาะหลัก

( @Tc=25°C นอกจากที่ระบุไว้เป็นอย่างอื่น)

หมายเลขชิ้นส่วน

MG600Q2YMS3

MG400V2YMS3

บรรจุภัณฑ์

2-153A1A

อัตรากระแสสูงสุด

กระแส Drain-source voltage VDSS (V)

1200

1700

กระแส Gate-source voltage VGSS (V)

+25/-10

+25/-10

กระแส Drain current (DC) ID (A)

600

400

กระแส Drain current (pulsed) IDP (A)

1200

800

กระแส Channel temperature Tch (°C)

150

150

กระแส Isolation voltage Visol (Vrms)

4000

4000

คุณลักษณะไฟฟ้า

Drain-source on-voltage (sense)

VDS(on)sense typ. (V)

@VGS =+20V,

Tch=25°C

0.9

@ID=600A

0.8

@ID=400A

Source-drain on-voltage (sense)

VSD(on)sense typ. (V)

@VGS =+20V,

Tch=25°C

0.8

@IS=600A

0.8

@IS=400A

Source-drain off-voltage (sense)

VSD(off)sense typ. (V)

@VGS =-6V,

Tch=25°C

1.6

@IS=600A

1.6

@IS=400A

Turn-on switching loss Eon typ. (mJ)

Eon typ. (mJ)

@Tch=150°C

25

@ VDS=600V,

ID=600A

28

@VDS=900V,

ID=400A

Turn-off switching loss Eoff typ. (mJ)

Eoff typ. (mJ)

@Tch=150°C

28

@ VDS=600V,

ID=600A

27

@VDS=900V,

ID=400A

คุณลักษณะเทอร์มิสเตอร์

Rated NTC resistance R typ. (kΩ)

5.0

5.0

NTC B value B typ. (K)

@TNTC=25 – 150°C

3375

3375

ติดตามลิงค์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่

MG600Q2YMS3

MG400V2YMS3

ตามลิงค์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SiC Power Devices ของโตชิบา

SiC Power Devices

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ

* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และสตอเรจขั้นสูง ใช้ประสบการณ์และนวัตกรรมกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์แบบแยกส่วน LSIs และผลิตภัณฑ์ HDD ให้กับลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจ

พนักงานของบริษัท 22,000 คนทั่วโลกมีความมุ่งมั่นร่วมกันในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สูงสุด และส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในการร่วมสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ ด้วยยอดขายประจำปีที่สูงกว่า 710,000 ล้านเยน (6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ตั้งตารอที่จะสร้างและมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุกที่

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220125005489/en/

ติดต่อ:

สอบถามสำหรับลูกค้า

Power Device Sales & Marketing Dept.

โทร: +81-44-548-2216

ติดต่อเรา

ติดต่อสำหรับสื่อ:

Chiaki Nagasawa

ฝ่ายการตลาดดิจิทัล

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

โทร: +81-44-549-8361

semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

UVD Robots เข้าร่วมข้อเสนอการป้องกันการติดเชื้อทั่วโลกของ Ecolab เพื่อต่อสู้กับการติดเชื้อในโรงพยาบาล

Logo

โอเดนเซ่ เดนมาร์ก–(BUSINESS WIRE)–26 มกราคม 2565

ขณะที่สายพันธุ์ใหม่ของโคโรนาไวรัสได้แพร่กระจาย ความต้องการโซลูชั่นในการป้องกันการติดเชื้อโดยใช้แสง UV-C ที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 18.94 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2573 โดยมีอัตราการเติบโต 59.7% ต่อปี ตั้งแต่ปี 2564 ถึง 2573 ทั้งนี้ปัจจัยที่กระตุ้นความต้องการคือมีการติดเชื้อในโรงพยาบาล (HAIs) เพิ่มขึ้นทั่วโลกทำให้มีการเสียชีวิตมากขึ้นเนื่องจากการดื้อยาปฏิชีวนะที่เพิ่มขึ้นจากการติดเชื้อธรรมดา

Disinfecting hospitals with UV-C lights is not a new concept, however, existing solutions including UV ceiling lights, stationary cleaning robots, and air purifiers may not reach shadowed or remote areas as well as the mobile platform offered by the autonomous UVD Robots. (Photo: Business Wire)

การฆ่าเชื้อในโรงพยาบาลด้วยแสง UV-C ไม่ใช่แนวคิดใหม่ อย่างไรก็ตาม โซลูชันที่มีอยู่ซึ่งรวมถึงไฟเพดาน UV หุ่นยนต์ทำความสะอาดแบบอยู่กับที่ และเครื่องฟอกอากาศอาจไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ที่มีเงามืดหรือห่างไกลได้ เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มเคลื่อนที่ที่นำเสนอโดย UVD Robots ที่ทำงานแบบออโตโนมัส (ภาพ: Business Wire)

หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อ UV-C ที่ทำงานได้อย่างอิสระด้วยตนเองกลายเป็นโซลูชันเพื่อเสริมมาตรฐานการทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อเพื่อจัดการกับ HAIs และข้อกำหนดด้านสุขอนามัยที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการระบาดของ โควิด-19 หุ่นยนต์ UVD เป็นหุ่นยนต์เคลื่อนที่ที่ทำงานแบบออโตโนมัสเต็มรูปแบบโดยใช้แสง UV-C เพื่อฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ช่วยเสริมการควบคุมและป้องกันการติดเชื้อ

ในฐานะที่เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นและบริการป้องกันการติดเชื้อ Ecolab ได้ขับเคลื่อนเพื่อช่วยให้ระบบสุขภาพและโรงพยาบาลปรับปรุงผลลัพธ์ของผู้ป่วย และตระหนักถึงคุณค่าทางคลินิก การดำเนินงาน และการเงินผ่านแนวทางแบบเป็นโปรแกรมเพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานและสถานพยาบาลมีสุขอนามัยที่ดี Ecolab ได้ขยายพอร์ตโฟลิโอของโซลูชั่นการป้องกันการติดเชื้อทั่วโลกเพื่อรวม UVD Robots ในการนำเสนอสำหรับลูกค้าในด้านการดูแลสุขภาพ รวมถึงบริการของโรงพยาบาล คลินิกผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ห้องผ่าตัดผู้ป่วยนอก คลินิกฟื้นฟูและสถานพยาบาลอื่น ๆ

Per Juul Nielsen ซีอีโอของ UVD Robots มองว่าการทำงานร่วมกันของ Ecolab เป็นการตรวจสอบประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมของโซลูชันที่ทำงานได้อย่างอิสระด้วยตนเองของ UVD Robots “เรารู้สึกตื่นเต้นที่การร่วมมือกันครั้งนี้ขยายออกไปเพื่อประโยชน์ของสถานพยาบาลในระดับโลก” เขากล่าวและเสริมว่าเทคโนโลยีการฆ่าเชื้อด้วย UV-C ของ UVD Robots ช่วยจัดการดูแลห้องผ่าตัดภายในเวลาประมาณแปดถึงสิบห้านาที

“หุ่นยนต์ UVD แก้ปัญหาความท้าทายในการปรับตำแหน่งและลดการเกิดเงามืด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ขัดขวางการใช้งานในการฆ่าเชื้อด้วย UV-C อย่างครอบคลุม ในขณะที่ให้การเข้าถึงรายงานการปฏิบัติตามข้อกำหนดและประสิทธิภาพของขั้นตอนการฆ่าเชื้อแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน” Claus Risager ประธานของคณะกรรมการ UVD Robots และซีอีโอของ Blue Ocean Robotics กล่าว

UVD Robots เป็นบริษัทในเครือของกลุ่มผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนาหุ่นยนต์บริการสำหรับผู้เชี่ยวชาญอย่าง Blue Ocean Robotics ทั้งนี้ Ecolab เป็นผู้นำระดับโลกในด้านโซลูชั่นและบริการป้องกันด้านน้ำ สุขอนามัย และการติดเชื้อที่ปกป้องผู้คนและทรัพยากรที่สำคัญ

เอกสารสำหรับสื่อ: ดาวน์โหลดภาพได้ที่นี่

ดูคลังภาพ/มัลติเมียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52567592/en

ติดต่อ:

Cornelia Hjortshøj, PR & Marketing Coordinator
Blue Ocean Robotics
+45 93 10 20 56
ch@blue-ocean-robotics.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Vending Machines International ได้รับข้อตกลงทุนมูลค่า 135 ล้านเหรียญสิงคโปร์จาก Global Emerging Markets (GEM) ในขณะที่บริษัทมุ่งเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์

Logo

บริษัทมุ่งเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในปีหน้าผ่านการควบรวมกิจการแบบย้อนกลับ หรือการเสนอขายหุ้นแบบปกติในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์หรือตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย

สิงคโปร์ –(บิสิเนส ไวร์)–26 ม.ค. 2565

Vending Machines International (VMI) ประกาศในวันนี้ถึงข้อตกลงด้านการลงทุนมูลค่า 135 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์จาก GEM Global Yield LLC SCS (“GGY”) ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อการลงทุนทางเลือกของเอกชนในลักเซมเบิร์ก

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220125006251/en/

(Photo: Business Wire)

ภาพ: บิสิเนสไวร์)

ภายใต้ข้อตกลงนี้ GGY จะจัดหาสัญญาจองซื้อหุ้นให้กับ VMI ในมูลค่าสูงถึง 135 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์สำหรับระยะเวลา 36 เดือนหลังจากการจดทะเบียนหุ้นสามัญของ VMI สู่สาธารณะ  VMI จะควบคุมระยะเวลาและจำนวนการเบิกถอนสูงสุดภายใต้สัญญาจองซื้อหุ้นนี้และไม่มีภาระผูกพันในการเบิกถอนขั้นต่ำ

“VMI รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการคัดเลือกจาก GEM Group ให้รับการลงทุนนี้  เรายกย่องผู้บริหาร GEM ที่พวกเขาเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าโลกกำลังเคลื่อนตัวเพื่อกำจัดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวออกจากห่วงโซ่อุปทาน  VMI อยู่ในตำแหน่งที่ดีมากในการใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ ด้วยเงินทุนของ GEM ในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับงบดุล VMI ทางบริษัทจะสามารถช่วยเหลืออุตสาหกรรมเครื่องดื่มโดยเสนอทางเลือกที่ทำงานได้แทนขวดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวในระดับโลก เงินทุนนี้จะขยายขอบเขตการเข้าถึงทั่วโลกของเราและปรับปรุงทรัพยากรด้านการวิจัยและพัฒนาของเราในขณะที่เราดำเนินการกับบริษัทเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก”

Leicester Chatfield – ผู้ก่อตั้งและ CEO

เกี่ยวกับ VMI

Vending Machines International Pte Ltd (VMI) เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในสิงคโปร์ โดยให้บริการโซลูชั่นที่ไม่เหมือนใครในการกระจายน้ำโดยปราศจากขยะพลาสติก  VMI ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2558 ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเครือข่ายตู้จ่ายน้ำของตนเองในออสเตรเลียซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงวิธีการโต้ตอบกับลูกค้าและเพื่อทดสอบเทคโนโลยี VMI  ในขั้นต่อไปของการพัฒนา VMI จะเปลี่ยนไปใช้กลยุทธ์ฉลากขาวและการออกใบอนุญาตที่ปรับขนาดได้สูงซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากจากเจ้าของแบรนด์ FMCG ในต่างประเทศ

บริษัท FMCG ทั่วโลกได้เปลี่ยนไปใช้บรรจุภัณฑ์รูปแบบอื่น เช่น กระป๋อง ขวดแก้ว กล่องกระดาษ ฯลฯ อย่างไรก็ตาม วัสดุเหล่านี้มาพร้อมกับข้อเสีย  เช่น การขุดอะลูมิเนียมทำให้เกิดขยะพิษ ขวดแก้วยังมีคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากกระบวนการผลิตที่ใช้พลังงานมาก และน้ำหนักที่มากขึ้นหมายความว่าพวกเขายังปล่อยมลพิษระหว่างการขนส่งมากกว่าพลาสติก  ดังนั้นการเติมขวดที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้เป็นทางเลือกเดียวที่มีผลกระทบน้อย  ถึงเวลาแล้วที่โลกจะต้องเปลี่ยนจากโซลูชัน “ใช้แล้วทิ้ง” และ “รีไซเคิลได้” เป็น “นำกลับมาใช้ใหม่ได้” และ VMI อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะเป็นผู้นำระดับโลกในความพยายามนี้

สำนักงานใหญ่ของ VMI อยู่ที่สิงคโปร์ในขณะที่ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต การพัฒนาซอฟต์แวร์ และทีมวิจัยและพัฒนาขนาดใหญ่ที่มีประสบการณ์

VMI ยังเน้นการดำเนินงานในตลาดออสเตรเลีย  VMI ยังมีทีมวิจัยและพัฒนาที่พัฒนาเครื่องจำหน่ายน้ำเครื่องแรกของโลกที่ไม่ต้องเติมน้ำอีก เนื่องจากเครื่องจะดึงน้ำออกจากบรรยากาศ

เกี่ยวกับ GEM

Global Emerging Markets (“GEM”) เป็นกลุ่มการลงทุนทางเลือกเอกชนในลักเซมเบิร์กที่มีมูลค่า 3.4 พันล้านดอลลาร์ และมีสำนักงานในปารีส นิวยอร์ก และบาฮามาส  GEM จัดการกลุ่มเครื่องมือการลงทุนที่หลากหลายซึ่งมุ่งเน้นไปที่ตลาดเกิดใหม่ และได้ทำการซื้อขายไปแล้วกว่า 480 รายการในกว่า 70 ประเทศ องค์กรการลงทุนแต่ละแบบมีระดับการควบคุมการปฏิบัติงาน ผลตอบแทนตามระดับความเสี่ยง และสถานะสภาพคล่องที่แตกต่างกัน  กลุ่มกองทุนและเครื่องมือการลงทุนช่วยให้ GEM และพันธมิตรของบริษัทได้มีโอกาสได้เข้าถึงการซื้อกิจการของบริษัทกลุ่มขนาดเล็กและกลาง การลงทุนภาคเอกชนในตราสารทุนสาธารณะ และการลงทุนร่วม ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.gemny.com

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220125006251/en/

ติดต่อ:

VMI
Mr. Leicester Chatfield
lc@vmi.asia

Global Emerging Markets
Mr. Jean-Luc Bonnefoy
jbonnefoy@gemny.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


BitMEX ต้อนรับหัวหน้าฝ่ายการค้าคนใหม่ Biller

Logo

เกาะมาเฮ เซเชลส์–(บิสิเนสไวร์)–25 ม.ค. 2565

แพลตฟอร์มการลงทุนคริปโต BitMEX มีความยินดีที่จะต้อนรับ Bill Beller เป็นหัวหน้าฝ่ายการค้าซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม  Bill รับผิดชอบกลยุทธ์การเทรดและการขยายขนาดและความสามารถของทีมเทรดของ BitMEX

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220125005650/en/

BitMEX Welcomes New Head of Trading Bill Beller (Photo: Business Wire)

BitMEX ต้อนรับหัวหน้าฝ่ายเทรดทรัพย์คนใหม่ Bill Beller (ภาพ: บิสิเนสไวร์)

ก่อนร่วมงานกับ BitMEX, Bill เป็นกรรมการผู้จัดการที่ Greenville Advisory เป็นเวลาเกือบห้าปี โดยเขาได้ช่วยสตาร์ทอัพ FinTech เปิดตัวแพลตฟอร์มเทรดคริปโตและปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา  ก่อนหน้านั้น เขาเป็นกรรมการผู้จัดการ – หัวหน้าฝ่ายตราสารทุนของ Sberbank CIB และกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าแผนก EEMEA Equity Derivatives Flow Trading ที่ UniCredit  เขานำประสบการณ์กว่าทศวรรษในด้านการบริหารความเสี่ยง การสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการซื้อขาย และการจัดการการลงทุนในตราสารทุนและอนุพันธ์ในตลาดทุนทั่วโลก

Bill กล่าวว่า: “BitMEX กำลังก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและเป็นเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับที่ผมจะได้เข้าร่วมกลุ่มคนที่มีพลังและมีความสามารถ  ผมตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับทีมเพื่อปรับปรุงระบบนิเวศของ BitMEX โดยการพัฒนากลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพซึ่งช่วยปรับปรุงประสบการณ์การซื้อขายของแพลตฟอร์ม”

Alexander Höptner ซีอีโอของ BitMEX กล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ Bill เป็นหัวหน้าฝ่ายการเทรดคนใหม่ของเรา  ประวัติการทำงานและระดับความเชี่ยวชาญของเขานั้นโดดเด่น และบริษัทจะได้รับประโยชน์จากประสบการณ์ที่กว้างขวางของเขาในการนำเสนอกลยุทธ์การลงทุนที่แข็งแกร่ง”

BitMEX กำลังจ้างงานอย่างแข็งขัน คลิกที่นี่เพื่อสำรวจโอกาสในการทำงานที่ BitMEX

***

เกี่ยวกับ BitMEX

BitMEX เป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่ให้ผู้ใช้เข้าถึงตลาดการเงินสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก  BitMEX เป็นเจ้าของโดย HDR Global Trading Limited  หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ BitMEX วิสัยทัศน์ ทีมที่กำลังเติบโต และหนทางข้างหน้า โปรดติดตามเราบน Twitter, Telegram และ BitMEX Blog
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ press@bitmex.com

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220125005650/en/

ติดต่อ:

สำหรับสื่อ
Jessica Lindeman
press@bitmex.com  
+852 5717 5579

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

McAfee ยังคงมอบความปลอดภัยออนไลน์ชั้นนำแก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง

Logo

ด้วยโลกดิจิทัลที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว McAfee ยืนหยัดเคียงข้างผู้บริโภคในการนำเสนอโซลูชั่นความปลอดภัยออนไลน์ชั้นนำ

ซานโฮเซ่ แคลิฟอร์เนีย–(บิสิเนสไวร์)–21 ม.ค. 2565

วันนี้ McAfee Corp. (NASDAQ: MCFE, “McAfee”) ผู้นำระดับโลกด้านการความปลอดภัยออนไลน์ ได้ให้ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับข้อเสนอสำหรับผู้บริโภคและธุรกิจระดับองค์กรที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้

ในเดือนกรกฎาคม 2564 McAfee ได้เสร็จสิ้นการขายธุรกิจระดับองค์กร  การขายกิจการนี้ทำให้ McAfee สามารถมุ่งความสนใจไปที่ธุรกิจผู้บริโภคและเร่งกลยุทธ์ในการเป็นผู้นำในการปกป้องออนไลน์สำหรับผู้บริโภค

“McAfee ยังคงปกป้องความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และตัวตนของผู้บริโภคของเราต่อไปในขณะที่โลกดิจิทัลพัฒนาอย่างรวดเร็ว” Gagan Singh รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสรรพากรและผลิตภัณฑ์ของ McAfee กล่าว “เรายังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงว่าการปกป้องที่มีความหมายเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลสำหรับผู้บริโภคและเพิ่งเปิดตัวการอัปเดตที่สำคัญและเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึง McAfee Total Protection and Protection Score ที่คอยดูแลผู้บริโภคทางออนไลน์ รวมถึงความเป็นส่วนตัวและตัวตนของพวกเขาด้วย”

ธุรกิจ McAfee Enterprise ถูกซื้อโดย Symphony Technology Group (STG).  STG ประกาศเมื่อปลายปีที่แล้วว่าได้ซื้อ FireEye ซึ่งเป็นบริษัทด้านความปลอดภัยที่นำโดยหน่วยข่าวกรองแยกต่างหาก  STG เพิ่งประกาศเปิดตัว Trellix ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกิดจากการรวมตัวล่าสุดของ McAfee Enterprise และ FireEye

“STG เป็นพันธมิตรที่เหมาะสมที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้สำหรับลูกค้าองค์กรและพนักงาน และเราตั้งตารอที่จะได้เห็นผลกระทบระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องที่บริษัทที่ควบรวมกันใหม่นี้จะมี” Singh กล่าว “สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงก็คือ McAfee จะยังคงอยู่เคียงข้างผู้บริโภคและพันธมิตรทั่วโลกต่อไป”

McAfee ยังคงทำงานตามปกติ โดยทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อปกป้องผู้บริโภคทั่วโลก เราขอขอบคุณลูกค้าและคู่ค้าของเราสำหรับความภักดีอย่างต่อเนื่องและเป้าหมายร่วมกันเพื่อสนุกกับชีวิตออนไลน์อย่างมั่นใจ

เกี่ยวกับ McAfee

McAfee Corp. (Nasdaq: MCFE) เป็นผู้นำระดับโลกด้านความปลอดภัยออนไลน์สำหรับผู้บริโภค  โซลูชันสำหรับผู้บริโภคของ McAfee มุ่งเน้นไปที่การปกป้องผู้คน ไม่ใช่แค่อุปกรณ์เท่านั้น โดยปรับให้เข้ากับความต้องการของผู้ใช้ในโลกออนไลน์ตลอดเวลา ทำให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยผ่านโซลูชันแบบบูรณาการและใช้งานง่าย ซึ่งปกป้องครอบครัวและชุมชนของพวกเขาด้วยการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม https://www.mcafee.com

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220120006089/en/

ติดต่อ:

Colton Hightower:
Chightower@webershandwick.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

โตชิบาเปิดตัวโฟโตรีเลย์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าแรงสูง 1500V

Logo

– อุปกรณ์ใหม่เหมาะสำหรับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแรงสูง –

คาวาซากิ ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–20 มกราคม 2565

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“โตชิบา”) ได้เปิดตัว “TLX9160T” ซึ่งเป็นโฟโตรีเลย์ 1-Form-A แบบปกติเปิด (NO) ที่เหมาะสำหรับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแรงสูง อุปกรณ์ใหม่นี้บรรจุอยู่ในแพ็คเกจ SO16L-T ซึ่งเป็นอุปกรณ์แรกของโตชิบาที่มีเอาต์พุตสูงที่ทนต่อแรงดันไฟฟ้า 1500V (นาที) โดยเริ่มจัดส่งได้แล้ววันนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220119005422/en/

Toshiba: a normally open (NO) 1-Form-A photorelay

โตชิบา: “TLX9160T” โฟโตรีเลย์ 1-Form-A แบบปกติเปิด (NO) เหมาะสำหรับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแรงสูง (กราฟิก: Business Wire)

การรวม MOSFET ไฟฟ้าแรงสูงในอุปกรณ์ใหม่ทำให้ได้เอาต์พุตที่ทนทานต่อแรงดันไฟที่ 1500V (min) แพ็คเกจ SO16L-T ที่ทำจากเรซินในกลุ่มวัสดุมาตรฐานสากล IEC 60664-1 I[1] ซึ่งมี CTI[2] เกิน 600 และพินน้อยกว่าสี่พิน (พินจาก 11 ถึง 14 จะถูกลบออกจากแพ็คเกจ SO16L ที่มีอยู่) บรรลุกับมาตรฐาน creepage 5 มม. หรือมากกว่า[3]  ที่เครื่องตรวจจับของอุปกรณ์ ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ถึงการสนับสนุนแรงดันไฟฟ้า 1000V ภายใต้ IEC 60664-1 ซึ่งเหมาะกับโฟโตรีเลย์สำหรับการใช้งานในยานยนต์ไฟฟ้าแรงสูงที่มีแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่สูงถึง 1000V

หมายเหตุ:
[1] IEC 60664-1 กลุ่มวัสดุขึ้นรูปตามค่า CTI[2]: CTI 600
[2] ดัชนีการติดตามเปรียบเทียบ: IEC 60112 กำหนด CTI เป็นแรงดันไฟฟ้าสูงสุดที่เป็นไปได้ก่อนหยดสารละลายแอมโมเนียมคลอไรด์บนพื้นผิวของวัสดุฉนวนทำให้เกิดการติดตามภายใต้สภาวะการทดสอบที่กำหนด
[3] @แรงดันใช้งาน=1000V, กลุ่มวัสดุ I, ระดับมลภาวะ 2 (ระดับของมลภาวะของสภาพแวดล้อมการทำงานที่ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า สารมลพิษทั้งหมดไม่นำไฟฟ้า แต่อาจกลายเป็นสื่อกระแสไฟฟ้าได้จากการควบแน่น)

การใช้งาน

อุปกรณ์ยานยนต์ Automotive equipment

  • ระบบการจัดการแบตเตอรี่: การตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่, การตรวจจับการติดรีเลย์ทางกล, การตรวจจับการลัดวงจรลงดิน ฯลฯ

คุณสมบัติ

  • ความทนทานต่อแรงดันไฟเอาต์พุตสูง: VOFF=1500V (min)
  • อุปกรณ์แบบปกติเปิด (1-Form-A)
  • พิกัดกระแสการพังทลาย: IAV=0.6mA
  • แรงดันไฟแยกสูง: 5000 Vrms (min)
  • ผ่านการรับรอง AEC-Q101

ข้อมูลจำเพาะหลัก

(Ta=25°C เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น)

หมายเลขส่วน

TLX9160T

หน้าสัมผัส

1-Form-A

พิกัดสูงสุดสัมบูรณ์

กระแส Forward IF (mA)

30

กระแส On-state ION (mA)

50

อุณหภูมิในการทำงาน Topr (°C)

-40 to 125

กระแส Avalanche IAV (mA)

0.6

ลักษณะไฟฟ้า

กระแส Off-state

IOFF max (nA)

@VOFF=1000V

100

ความทนทานต่อแรงดันไฟฟ้าเอาต์พุต

VOFF min (V)

@IOFF=10μA

1500

เงื่อนไขการใช้งานที่แนะนำ

แรงดันไฟจ่าย VDD max (V)

1000

ลักษณะไฟฟ้าควบคู่

กระแส Trigger LED

IFT max (mA)

@ION=50mA

3

กระแส Return LED

IFC min (mA)

@Ta=-40 to 125°C

0.05

แรงต้านทาน On-state

RON max (Ω)

@ION=50mA,

IF=10mA, t<1s

250

ลักษณะการสลับเปิด

เวลาในการเปิด tON max (ms)

1

เวลาในการปิด tOFF max (ms)

1

ลักษณะการแยก

แรงดันแยก BVS min (Vrms)

5000

ระยะ Clearance min (มม.)

8

ระยะ Creepage min (มม.)

8

แพ็คเกจ

ชื่อ

SO16L-T

ประเภทขนาด (มม.)

10.3×10×2.45

ตรวจสอบตัวอย่างและความพร้อมจัดส่ง

Buy Online

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ ติดตามลิงก์ด้านล่าง
TLX9160T

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Isolators และ Solid State Relays ของโตชิบา ติดตามลิงก์ด้านล่าง
Isolators/Solid State Relays

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปกรณ์ยานยนต์ของโตชิบา ติดตามลิงก์ด้านล่าง
Automotive Devices

หากต้องการตรวจสอบความพร้อมของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ กรุณาเยี่ยมชมได้ที่:
TLX9160T

สอบถามข้อมูลสำหรับลูกค้า:
Optoelectronic Device Sales & Marketing Dept.
โทร: +81-44-548-2218
ติดต่อเรา

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ
* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลการติดต่อเป็นปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และสตอเรจขั้นสูง ใช้ประสบการณ์และนวัตกรรมกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจในเซมิคอนดักเตอร์แบบแยกระบบ LSIs และผลิตภัณฑ์ HDD ที่โดดเด่น

พนักงานของบริษัท 22,000 คนทั่วโลกร่วมกันมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุดและเน้นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อส่งเสริมการร่วมสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ ด้วยยอดขายประจำปีที่สูงกว่า 710 พันล้านเยน (6.5 พันล้านดอลลารสหรัฐ) Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ตั้งตารอที่จะสร้างและมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุกที่
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน  businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220119005422/en/

สอบถามสำหรับสื่อ:
Chiaki Nagasawa
Digital Marketing Department
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
โทร: +81-44-549-8361
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Kioxia ยกระดับการพัฒนาของอุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชแบบฝัง UFS เวอร์ชั่น 3.1 ด้วยเทคโนโลยี Quadcell (QLC)

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–19 มกราคม 2565

วันนี้ Kioxia Corporation ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ ได้ประกาศเปิดตัวอุปกรณ์หน่วยหน่วยความจำแฟลชแบบฝัง Universal Flash Storage (UFS) เวอร์ชั่น 3.1 [1]  ที่ใช้เทคโนโลยี quad-level-cell (QLC) แบบ 4 บิตต่อเซลล์สุดล้ำของบริษัท สำหรับการใช้งานที่ต้องการความหนาแน่นสูง เช่น สมาร์ทโฟนที่มีความล้ำสมัย เทคโนโลยี QLC ของ Kioxia จะช่วยให้สามารถออกแบบอุปกรณ์หน่วยความจำให้มีความหนาแน่นสูงสุดได้ในหนึ่งแพ็คเกจ

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220118006281/en/

Kioxia Corporation: Proof of Concept (PoC) Samples of UFS Ver. 3.1 Embedded Flash Memory Devices with Quad-level-cell (QLC) Technology (Photo: Business Wire)

Kioxia Corporation: ตัวอย่างการพิสูจน์แนวคิด (PoC) ของอุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชแบบฝัง UFS เวอร์ชั่น 3.1 ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Quad-level-cell (QLC) (รูปภาพ: Business Wire)

อุปกรณ์ UFS ของ Kioxia สำหรับการพิสูจน์แนวคิด (PoC) เป็นอุปกรณ์ต้นแบบความจุ 512 กิกะไบต์ ซึ่งใช้หน่วยความจำแฟลช BiCS FLASH™ 3D ความจุ 1 เทระบิต (128 กิกะไบต์) ของบริษัท ที่มาพร้อมเทคโนโลยี QLC และได้มีการส่งตัวอย่างให้กับลูกค้าที่รับจ้างผลิตสินค้า (OEM) แล้วตอนนี้ อุปกรณ์พิสูจน์แนวคิดได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการด้านประสิทธิภาพและความหนาแน่นที่สูงขึ้นของแอปพลิเคชันบนมือถือซึ่งใช้ภาพที่มีความละเอียดสูงขึ้น เครือข่าย 5G วิดีโอระดับ 4K ขึ้นไป และอื่น ๆ

หมายเหตุ
[1] Universal Flash Storage (UFS) เป็นหมวดหมู่สินค้าสำหรับประเภทของผลิตภัณฑ์หน่วยความจำแบบฝังที่พัฒนาขึ้นตามข้อกำหนดมาตรฐาน JEDEC UFS โดย UFS ใช้อินเตอร์เฟสแบบอนุกรมซึ่งมีข้อดีที่เป็นการสื่อสารแบบสองทาง (full duplex) ที่เกิดขึ้นพร้อมกันต่อเนื่อง ทำให้อุปกรณ์ที่เป็นโอสต์สามารถอ่านและเขียนข้อมูลได้พร้อมกัน

อุปกรณ์ตัวอย่างเป็นอุปกรณ์ POC ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา และมีข้อจำกัดด้านคุณสมบัติบางประการ และข้อมูลจำเพาะของอุปกรณ์อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ในการกล่าวถึงผลิตภัณฑ์ Kioxia ทุกครั้ง: การระบุความหนาแน่นของผลิตภัณฑ์จะระบุตามความหนาแน่นของชิปหน่วยความจำภายในผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่จำนวนความจุหน่วยความจำที่มีสำหรับการจัดเก็บข้อมูลโดยผู้ใช้ ความจุที่ใช้งานได้ของผู้บริโภคจะลดลงเนื่องจากพื้นที่ของ overhead data การจัดรูปแบบฟอร์แมต บล็อกที่เสียหาย และข้อจำกัดอื่น ๆ และอาจแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์โฮสต์และการใช้งาน สำหรับรายละเอียด โปรดอ้างอิงข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ

เกี่ยวกับ Kioxia
Kioxia เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำที่อุทิศตนเพื่อการพัฒนา การผลิต และการขายหน่วยความจำแฟลชและโซลิดสเตตไดรฟ์ (SSD) ในเดือนเมษายน 2560 บริษัท Toshiba Memory ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ Kioxia ได้แยกออกมาจาก Toshiba Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นหน่วยความจำแฟลช NAND ในปี 2530 โดยบริษัทถือเป็นผู้บุกเบิกโซลูชันและบริการหน่วยความจำที่ล้ำสมัยซึ่งเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้คนและขยายขอบเขตทางสังคม เทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช 3D แบบใหม่ของ Kioxia หรือที่เรียกว่า BiCS FLASH ™ กำลังสร้างอนาคตของการจัดเก็บข้อมูลในแอปพลิเคชันที่มีความหนาแน่นสูงซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง, พีซี, SSD, ศูนย์ยานยนต์และศูนย์ข้อมูล

*ข้อมูลในเอกสารนี้รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการและข้อมูลการติดต่อนั้นถูกต้องในวันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220118006281/en/

ติดต่อ:

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับลูกค้า:
Kioxia Corporation
ฝ่ายขายและการตลาดผลิตภัณฑ์หน่วยความจำ
โทร: +81-3-6478-2423
https://business.kioxia.com/en-jp/buy/global-sales.html

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อ:
Kioxia Corporation
ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์การขาย
Koji Takahata
โทร: +81-3-6478-2404

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Personetics ทำเงินกว่า 160 ล้านดอลลาร์ในปี 2564 และเร่งขยายธุรกิจโซลูชันให้บริการเฉพาะบุคคลและการมีส่วนร่วมผ่าน AI ให้แก่สถาบันการเงินทั่วโลกด้วยการลงทุน 85 ล้านดอลลาร์จาก Thoma Bravo

Logo

  • ปัจจุบัน ลูกค้าธนาคารกว่า 120 ล้านรายต่างหันไปใช้ ‘ระบบการเงินอัตโนมัติ’ ผ่านแพลตฟอร์มการมีส่วนร่วมของ Personetics และเพิ่มประสิทธิภาพด้านการเงิน
  • แพลตฟอร์มการมีส่วนร่วมของ Personetics ได้สร้างข้อมูลเชิงลึกกว่า 6,500 ล้านครั้งและช่วยให้ลูกค้าประหยัดงบที่ใช้ในโซลูชันทางธุรกิจมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์
  • Personetics ร่วมมือกับสถาบันการเงินมากกว่า 80 แห่งใน 30 ตลาดทั่วโลก
  • การเติบโตของ Personetics มาจากสินทรัพย์ด้านข้อมูลและการวิเคราะห์ AI ขั้นสูง ซึ่งสามารถปรับใช้กับตลาดทุกแห่งได้

ลอนดอน, นิวยอร์ก, รีโอเดจาเนโร, ปารีส, สิงคโปร์, ซิดนีย์, เทลอาวีฟ อิสราเอล–(BUSINESS WIRE)–19 มกราคม 2565

Personetics ผู้ให้บริการโซลูชันการตลาดเฉพาะบุคคลและโซลูชันการมีส่วนร่วมกับลูกค้าที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลทางการเงินสำหรับธนาคารและผู้ให้บริการทางการเงิน ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ระดมทุน 85 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการเติบโตจาก Thoma Bravo ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนซอฟต์แวร์ชั้นนำ Personetics ได้รับเงินทุนรวมกว่า 160 ล้านดอลลาร์ในปี 2564 และได้รับการสนับสนุนโดย Viola Ventures, Lightspeed Ventures, Sequoia Capital, Nyca Partners และ Warburg Pincus

แพลตฟอร์มการมีส่วนร่วมบน AI ของ Personetics ซึ่งดำเนินการให้บริการในตลาดระดับโลกและมีมูลค่าประมาณ 15,000 ล้านดอลลาร์ กำลังกลายเป็นมาตรฐานตลาดในการให้บริการเฉพาะบุคคล การมีส่วนร่วมกับลูกค้า และการจัดการด้านการเงินที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลทางการเงินให้แก่สถาบันการเงินทั่วโลกในทุกช่องทาง Personetics ร่วมมือกับสถาบันการเงินเพื่อสร้างสรรค์บริการทางการเงินใหม่โดยผสานรวม AI เข้ากับทุกการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า และสร้างการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจที่สำคัญในเวลาเพียงไม่กี่เดือน

เทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ Personetics มุ่งเน้นไปที่การมีส่วนร่วมในเชิงรุก ซึ่งได้แก่ การวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินแบบเรียลไทม์ การทำความเข้าใจพฤติกรรมทางการเงินของแต่ละบุคคล การคาดเดาความต้องการของลูกค้า และดำเนินการทำงานในนามของลูกค้า Personetics ให้บริการข้อมูลที่สมบูรณ์ ข้อมูลเชิงลึก คำแนะนำทางการเงิน และโปรแกรมสุขภาพอัตโนมัติในแต่ละวัน มีการปรับให้เหมาะกับการธนาคารเพื่อธุรกิจรายย่อย ธุรกิจขนาดเล็ก การบริหารความมั่งคั่ง และผู้ถือบัตรเครดิต สถาบันการเงินที่ใช้ซอฟต์แวร์ AI ของ Personetics พบว่าการมีส่วนร่วมของลูกค้าดิจิทัลเพิ่มขึ้นถึง 35% การเติบโตของบัญชีและยอดเงินเพิ่มขึ้น 20% และการให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลเพิ่มขึ้น 17%

Personetics มุ่งมั่นที่จะทำให้โลกแห่ง 'self-driving finance’ หรือระบบการเงินอัตโนมัติให้เป็นจริง ซึ่งสถาบันการเงินดำเนินการในเชิงรุกในนามของลูกค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าตลอดอายุการใช้งานและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ การรวมระบบการเงินอัตโนมัติของ Personetics เข้ากับการระบบธนาคาร/การเงินแบบเปิดจะช่วยพลิกโฉมรูปแบบธุรกิจการบริการทางการเงินและกระตุ้นการมีส่วนร่วมกับลูกค้า

ลูกค้ารายใหญ่ประกอบด้วยธนาคารชั้นนำของโลกหลายแห่ง เช่น US Bank (สหรัฐอเมริกา), Huntington Bank (สหรัฐอเมริกา), RBC (แคนาดา), BMO (แคนาดา), Intesa Sanpaolo (อิตาลี), Santander (สเปน), KBC (เบลเยียม) Metro Bank (สหราชอาณาจักร), UOB (สิงคโปร์), Hyundai Card (เกาหลี) และ MUFG (ญี่ปุ่น)

สถาบันการเงินใช้เครื่องมือที่คล่องตัวของ Personetics และเครื่องมือสร้างการมีส่วนร่วมแบบรวดเร็วอย่าง Creation & Management Console เพื่อปรับเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกที่ตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าหลายร้อยรายการ และสร้างเส้นทางของผู้ใช้ที่กำหนดเองเพื่อเร่งสร้างนวัตกรรมอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้ช่วยให้สถาบันการเงินสามารถแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและให้คำแนะนำส่วนบุคคลแบบเรียลไทม์ ตลอดจนโปรแกรมดูแลสุขภาพทางการเงินที่ปรับเปลี่ยนได้แบบอัตโนมัติให้แก่ลูกค้าทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วยลูกค้าธนาคาร ธุรกิจขนาดเล็ก และลูกค้าการบริหารความมั่งคั่ง

David Sosna ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Personetics กล่าวว่า:

“การให้บริการเฉพาะบุคคลและการมีส่วนร่วมของลูกค้าที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลคือสมรภูมิสำหรับสถาบันการเงินทั่วโลก ธนาคารกำลังเปลี่ยนจากความสัมพันธ์แบบเฉื่อยไปสู่ความสัมพันธ์เชิงรุกกับลูกค้า และกำลังมองหาวิธีใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้พวกเขาปรับปรุงสถานะทางการเงินที่ดีขึ้น Personetics ช่วยให้สถาบันการเงินมีแพลตฟอร์มการมีส่วนร่วมที่ครอบคลุมมากที่สุดในตลาด ช่วยให้เกิดความคล่องตัวและความแตกต่างด้วยการให้บริการที่คล่องตัวเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจอย่างรวดเร็ว เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Thoma Bravo หนึ่งในนักลงทุนด้านเทคโนโลยีทางการเงินที่มีประสบการณ์มากที่สุดในโลก เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตและนวัตกรรมนี้อย่างรวดเร็ว จากความร่วมมือนี้ เราจะส่งมอบวิสัยทัศน์เรื่อง 'ระบบการเงินอัตโนมัติ' เข้าถึงคู่ค้าและลูกค้ารายใหม่ ในขณะเดียวกันก็สนับสนุนลูกค้าปัจจุบันของเราด้วยโซลูชันทางนวัตกรรมสำหรับธุรกิจที่ผลักดันการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ”

Robert Sayle หุ้นส่วนของ Thoma Bravo กล่าวว่า:

“ขณะที่ผลิตภัณฑ์ทางการเงินมีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น Personetics ช่วยลดความซับซ้อนและปรับเปลี่ยนบริการทางธนาคารให้เหมาะกับแต่บุคคลให้แก่ผู้บริโภคด้วยเทคโนโลยี AI ชั้นนำของอุตสาหกรรม เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Personetics และใช้ความเชี่ยวชาญด้านการปฏิบัติงานของเราในด้านซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีทางการเงิน เพื่อช่วยเร่งสร้างแรงผลักดันให้แก่บริษัท การออกผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ และการเข้าถึงแพลตฟอร์มของสถาบันการเงินและลูกค้าทั่วโลก”

เกี่ยวกับ Personetics:

AI ของ Personetics ให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมเชิงรุกให้แก่สถาบันการเงิน โดยวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินแบบเรียลไทม์เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมทางการเงินของลูกค้า คาดเดาความต้องการของลูกค้า และมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่สูงมาก ด้วยโซลูชันที่ออกแบบมาสำหรับตลาดทั่วไป การบริหารความมั่งคั่ง และลูกค้าธุรกิจขนาดเล็ก เทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ธนาคารสามารถนำเสนอข้อมูลเชิงลึก คำแนะนำทางการเงิน และโปรแกรมสุขภาพทางการเงินอัตโนมัติแบบวันต่อวันให้แก่ลูกค้า ธนาคารต่าง ๆ จะใช้เครื่องมือที่คล่องตัวของ Personetics ในการสร้าง IP ส่วนบุคคลอย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของลูกค้า และสร้างความแตกต่างในตลาดที่มีลูกค้าจำนวนมาก ด้วยความก้าวหน้าเหล่านี้ ธนาคารจึงเปลี่ยนระบบธนาคารดิจิทัลของตนให้เป็นศูนย์กลางทางการเงินของลูกค้า ในขณะเดียวกันก็สร้างการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจอย่างใหญ่หลวง

Personetics นำโดยทีมผู้ประกอบการด้านการเงินและเทคโนโลยีมากประสบการณ์ มุ่งมั่นที่จะทำให้โลกของ 'ระบบการเงินอัตโนมัติ' เป็นจริง โดยที่ธนาคารดำเนินการในเชิงรุกในนามของลูกค้า ทำให้ลูกค้าและธนาคารได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย Personetics ก่อตั้งขึ้นในปี 2554 ดำเนินงานผ่านสำนักงานในนิวยอร์ก ลอนดอน ปารีส สิงคโปร์ รโอเดจาเนโร และเทลอาวีฟ เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.personetics.com

เกี่ยวกับ Thoma Bravo:

Thoma Bravo เป็นหนึ่งในบริษัทที่ลงทุนนอกตลาดหลักทรัพย์ (Private Equity) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมากกว่า 91 พันล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 บริษัทลงทุนในบริษัทด้านนวัตกรรมในภาคธุรกิจซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีต่าง ๆ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การเติบโต Thoma Bravo ใช้ความเชี่ยวชาญเชิงลึกของบริษัทและความสามารถด้านกลยุทธ์และการดำเนินงานที่ได้รับการยอมรับมาแล้ว โดยร่วมมือกับบริษัทต่าง ๆ ในพอร์ตโฟลิโอเพื่อนำแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดมาใช้ในการดำเนินงาน ขับเคลื่อนโครงการที่เน้นการเติบโต และเข้าซื้อกิจการที่มุ่งหวังเพื่อกระตุ้นรายได้และกำไร ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าซื้อกิจการบริษัทมากกว่า 325 แห่ง ซึ่งมีมูลค่าสุทธิของกิจการมากกว่า 155,000 ล้านดอลลาร์ บริษัทมีสำนักงานในชิคาโก ไมอามี และซานฟรานซิสโก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ดูที่ www.thomabravo.com

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่:

Personetics:
Dorel Blitz, dorel.blitz@personetics.com
Laura West-Wilson, personetics@pancomm.com

Thoma Bravo:
Megan Frank, mfrank@thomabravo.com
Abigail Farr, abigail.farr@fgh.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายงานเรื่อง Adopt an Agile Digital Banking Platform ของ CR2 ว่าด้วยการปรับปรุงนวัตกรรม สร้างมูลค่าใหม่ และเพิ่มผลกำไร

Logo

ดับลิน, ไอร์แลนด์–(BUSINESS WIRE)–19 ม.ค. 2565

รายงานข้อมูลเชิงลึกล่าสุดของ CR2 (www.cr2.com)เรื่อง “Adopt an Agile Digital Banking Platform หรือ การนำแพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัลแบบที่มีความยืดหยุ่นสูงมาใช้” จัดทำขึ้นร่วมกับ Stessa Cohen (www.pivotassets.co) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการธนาคารทั่วโลกไปสู่ระบบดิจิทัล

ในรายงาน Stessa ระบุว่านายธนาคารต้องมีแพลตฟอร์มการธนาคารดิจิทัลที่คล่องตัวอย่างไรบ้างเพื่อรองรับแนวโน้มและข้อกำหนดในระดับโลกและระดับท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาระบุตลาดเฉพาะกลุ่มใหม่ที่จะขับเคลื่อนนวัตกรรม สร้างมูลค่าใหม่ และเพิ่มผลกำไร รายงานได้ระบุชุดของความสามารถที่แพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัลต้องมี ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารมีอนาคตที่แข่งขันในตลาดได้ และกระตุ้นให้ธนาคารเลือกพันธมิตรด้านการธนาคารดิจิทัลที่จะแบ่งปันด้านนวัตกรรม วิสัยทัศน์ และสนับสนุนการสร้างมูลค่าใหม่ ๆ

ตัวรายงานได้ระบุว่า ตลาดเฉพาะกลุ่ม ผลักดันให้ธนาคารสร้างนวัตกรรมได้อย่างไร เพื่อที่จะให้การสนับสนุนธุรกรรมทางธนาคารขั้นพื้นฐานและที่จำเป็นมากขึ้นไปอีกบนแพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัลเดียวกัน  ด้วยการทำความเข้าใจใหม่ในด้านลูกค้า เช่นนี้ ธนาคารจึงสามารถใช้ประโยชน์จากแนวโน้มเทคโนโลยีระดับโลกและระดับท้องถิ่นที่เหมาะสมเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ และเพิ่มผลกำไร หากไม่ทำเช่นนั้นแล้ว บรรดาคู่แข่ง ธนาคารผู้ท้าชิง และฟินเทคต่าง ๆ จะก้าวเข้าไปจับตลาดเฉพาะซึ่งเป็นเป้าหมายของธนาคารอย่างรวดเร็ว

Stessa อภิปรายว่า ธนาคารไม่เพียงต้องการแพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัลที่พร้อมสำหรับการปรับแต่ง การบูรณาการ และการระบุตลาดใหม่เท่านั้น แต่ยังต้องการพันธมิตรที่สามารถมอบความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและด้านการธนาคารที่ธนาคารเองอาจไม่มีให้ ผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัล เช่น CR2 ที่สนับสนุนความสามารถเหล่านี้ทำมากกว่าแค่การทำธุรกรรมธนาคารและการชำระเงิน เพราะพวกเขาสร้างเส้นทางสำหรับธนาคารเพื่อสร้างมูลค่าใหม่ สำหรับทั้งธนาคารและลูกค้า

หากต้องการดาวน์โหลดรายงาน 'Adopt an Agile Digital Banking Platform' ให้คลิกที่ลิงก์ต่อไปนี้:http://knowledge.cr2.com/adopt-an-agile-digital-banking-platform

เกี่ยวกับ CR2

CR2 มอบโซลูชันดิจิทัล การบริการตนเอง และการชำระเงินแก่ธนาคารเพื่อขยายธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนการบริการลูกค้า และมอบประสบการณ์ลูกค้าที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ไอร์แลนด์ เราช่วยให้ธนาคารกว่า 100 แห่งใน 60 ประเทศเชื่อมต่อและมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้อย่างราบรื่นผ่านช่องทางการธนาคารที่สำคัญที่สุดในปัจจุบัน

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220118005901/en/

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการนัดสัมภาษณ์กับตัวแทน โปรดติดต่อ Nigel Sutton: nige@seventeen59pr.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Parse Biosciences ประกาศความร่วมมือกับ Research Instruments Group เพื่อเสนอชุด RNA-Seq ในสิงคโปร์และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Logo

วางจำหน่ายแล้วในอเมริกาเหนือ ยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ความร่วมมือนี้มีขึ้นเพื่อเร่งการวิจัยจีโนมเซลล์เดียวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ซีแอตเทิล–(บิสิเนสไวร์)–19 ม.ค. 2565

Parse Biosciences บริษัทที่มอบแนวทางจัดลำดับเซลล์ให้กับนักวิจัยได้ประกาศความร่วมมือกับ Research Instruments Pte Ltd เพื่อมอบชุดรักษาสภาพของเซลล์และนิวคลีไอ Parse’s Evercode Whole Transcriptome Kits (WTKs) ให้กับตลาดในประเทศสิงคโปร์และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ภายใต้ข้อตกลงระหว่างสองฝ่าย Research Instruments ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดจำหน่ายกลุ่มผลิตภัณฑ์ Parse สำหรับสิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย และเวียดนาม

เครื่องมือวิจัยจะให้บริการแก่ลูกค้า การสนับสนุนด้านเทคนิค การขายและการตลาด การจัดจำหน่าย และลอจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Parse Bioscience ของการวิจัยจีโนมเซลล์เดียว

Research Instruments เป็นผู้จัดจำหน่ายชั้นนำสำหรับผลิตภัณฑ์การวิจัยด้านจีโนมและวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีทีมเทคนิคหลายทีมและสร้างความสัมพันธ์ในการสนับสนุนลูกค้าทั่วทั้งภูมิภาค  ภารกิจหลักของพวกเขาคือการนำร่องและเร่งการนำเครื่องมือวิจัยด้านวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตที่ก้าวล้ำไปใช้ในตลาดของตน

ในต้นปี 2564 Parse Biosciences ได้เปิดตัว Whole Transcriptome Kits สู่ตลาดซึ่งมี Evercode ซึ่งเป็นเทคนิคบาร์โค้ดแบบผสมผสานที่ได้รับการจดสิทธิบัตร  ในเดือนตุลาคม 2564 พวกเขาได้ขยายข้อเสนอเพื่อรวม Evercode Whole Transcriptome Mega ซึ่งช่วยให้นักวิจัยสร้างโปรไฟล์ได้ถึง 1,000,000 เซลล์ในแบบคู่ขนาน และ Evercode Whole Transcriptome Mini ซึ่งเป็นชุดอุปกรณ์ที่ใช้สร้างโปรไฟล์ได้ถึง 10,000 เซลล์แบบขนานสำหรับการวิจัยขนาดเล็กในราคาเริ่มต้น

Alex Rosenberg ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Parse Biosciences กล่าวว่า “สำคัญสำหรับทีม Parse คือความสามารถในการเข้าถึง ไม่เพียงแต่ในความรวดเร็วที่ลูกค้าสามารถเริ่มใช้เทคโนโลยีได้ แต่ยังรวมถึงทีมที่ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่  เรารู้สึกตื่นเต้นที่ Research Instruments แบ่งปันวิสัยทัศน์ของเราในการนำเสนอเทคโนโลยี RNA-seq เซลล์เดียวที่ปรับขนาดได้และปรับเปลี่ยนได้ง่ายสู่ตลาดในวงกว้าง”

“ที่ RI เรามุ่งมั่นที่จะมอบการเข้าถึงเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่” Greg Kent ซีอีโอของ Research Instruments กล่าว “โซลูชันการจัดลำดับของ Parse Biosciences ช่วยให้เวิร์กโฟลว์ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเสียสละรายละเอียด และด้วยทีมขายด้านเทคนิคและสนับสนุนแอปพลิเคชันของเราที่ได้รับการฝึกอบรมและมีประสบการณ์ในแอปพลิเคชันจีโนมเซลล์เดียว แพลตฟอร์ม Parse Bioscience จึงสามารถเข้าถึงได้ง่ายสำหรับนักวิทยาศาสตร์ในภูมิภาคนี้”

Parse Biosciences และ Research Instruments จะจัดสัมมนาทางเว็บเชิงเทคนิคสำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในวันที่ 20 มกราคม 2565 เวลา 10.00 น. SGT  เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการแยกวิเคราะห์ชีววิทยาศาสตร์และความสามารถของแพลตฟอร์มที่ https://www.parsebiosciences.com/ หรือติดต่อวิจัยเครื่องมือที่ https://www.ri.com.sg/

เกี่ยวกับ Parse Biosciences

Parse Biosciences เป็นบริษัทในซีแอตเทิลที่มีภารกิจในการเร่งความก้าวหน้าในด้านสุขภาพของมนุษย์และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์

หัวใจหลักของบริษัทของเราคือแนวทางการบุกเบิกสำหรับการจัดลำดับเซลล์เดียว การจัดลำดับเซลล์เดียวได้เปิดใช้งานการค้นพบที่แปลกใหม่ ซึ่งนำไปสู่ความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับการรักษามะเร็ง การซ่อมแซมเนื้อเยื่อ การบำบัดด้วยสเต็มเซลล์ โรคไตและตับ การพัฒนาสมอง และระบบภูมิคุ้มกัน  ที่ Parse Biosciences เรากำลังจัดหานักวิจัยที่มีความสามารถในการดำเนินการจัดลำดับเซลล์เดียวในขนาดและความง่ายดายที่ไม่เคยมีมาก่อน

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม: https://www.parsebiosciences.com/

เกี่ยวกับ Research Instruments

Research Instruments Pte Ltd เป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์และสารชีวภาพสำหรับการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต โดยมุ่งเน้นที่การจัดหาเครื่องมือและเทคโนโลยีแห่งอนาคตด้วยการสนับสนุนที่ดีที่สุดในระดับเดียวกันสำหรับแอปพลิเคชัน บริการบำรุงรักษา และการฝึกอบรม  Research Instruments Pte Ltd ก่อตั้งขึ้นในปี 2532 โดยมีสำนักงานกระจายอยู่ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้รับการรับรอง GDP-MDS สำหรับการกระจายอุปกรณ์ Dx และ Medical, bizSAFE สำหรับบริการด้านวิศวกรรม และให้บริการคลังสินค้าตามมาตรฐาน GMP และ ISO 9001 และการขนส่งแบบ Cold-chain สำหรับลูกค้าของเรา

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม https://www.ri.com.sg/

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220118006247/en/

ติดต่อ:

Shannia Coley
Shannia@jones-dilworth.com 
443-471-6830

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Thai Herald

Thai Herald