RECOGNIZE บริษัทการลงทุนด้านเทคโนโลยี ปิดการระดมทุนเพื่อการเติบโต 1.3 พันล้านดอลลาร์ ทำให้การลงทุนเชิงกลยุทธ์สามรายการเป็นอันเสร็จสิ้นสมบูรณ์

Logo

Recognize จะลงทุนและร่วมมือกับผู้ประกอบการและผู้ก่อตั้งเพื่อสร้างบริษัทให้บริการด้านเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่แตกต่าง ซึ่งนำโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและการลงทุนที่มีประสบการณ์ อย่าง Frank D’Souza, Raj Mehta, Charles Phillips และ David Wasserman

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–13 ม.ค. 2565

Recognize แพลตฟอร์มการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นเฉพาะในอุตสาหกรรมบริการเทคโนโลยีมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ระดมทุนประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์สำหรับกองทุนในเบื้องต้น  Recognize มุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยียุคหน้าเพื่อแปลงนวัตกรรมเหล่านี้ให้กลายเป็นมูลค่าทางธุรกิจ ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนำพาองค์กรต่าง ๆ ให้พลิกโฉมรูปแบบการดำเนินงานของตน

Recognize มุ่งมั่นที่จะเป็นแพลตฟอร์มที่ไม่เหมือนใคร โดยเชื่อมโยงผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจและผู้ก่อตั้งกิจการที่มีแนวคิดแปลกใหม่ด้วยการลงทุนอย่างมียุทธศาสตร์ ความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติงาน และข้อมูลเชิงลึกของอุตสาหกรรม อนึ่ง ผ่านแพลตฟอร์มของ Recognize นี้ ผู้ประกอบการและผู้ก่อตั้งกิจการจะสามารถเข้าถึงบุคลากรจากเครือข่ายต่าง ๆ ได้แบบเอ็กซ์คลูซีฟ รวมไปถึงความสัมพันธ์ในองค์กรและทรัพย์สินทางปัญญา ตลอดจนแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการดำเนินงาน เพื่อช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ขยายขนาด สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

บริษัทก่อตั้งขึ้นโดยทีมผู้คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมที่มีภูมิหลังที่หลากหลายและประสบการณ์อันยาวนานในการสร้างบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกและการลงทุนเชิงกลยุทธ์ ทีมงานประกอบด้วย Frank D'Souza (ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีต CEO ของบริษัทให้บริการด้านเทคโนโลยี Cognizant), Raj Mehta (อดีตประธาน Cognizant), Charles Phillips (อดีตประธานและซีอีโอของบริษัท Infor ซึ่งเป็นบริษัทแบบ SaaS และอดีตประธานบริษัทซอฟต์แวร์ Oracle) และ David Wasserman (อดีตหุ้นส่วนของ Clayton, Dubilier & Rice บริษัทไพรเวทเอควิตี้)

Recognize ได้ปิดการระดมทุนบนแพลตฟอร์มสามรายการโดยมีพนักงานมากกว่า 4,000 คน ซึ่งเป็นตัวอย่างรูปแบบการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในบริการด้านเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึง Ciklum บริษัทวิศวกรรมดิจิทัลชั้นนำที่ใช้ระบบคลาวด์ซึ่งมีเครือข่ายการจัดส่งทั่วยุโรปตะวันออก SpringML หนึ่งในองค์กรที่ให้บริการ Pure-Play ที่ใหญ่ที่สุดที่เน้นที่ Data, AI/ML และโซลูชัน Google Cloud อื่นๆ และ Torc บริษัทที่กำหนดอนาคตของการทำงานผ่านแพลตฟอร์มความสามารถเสมือนจริงสำหรับวิศวกรซอฟต์แวร์

“ความเร็วของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมทั้งหมด และจำเป็นสำหรับธุรกิจและรัฐบาลที่จะต้องตามให้ทัน” Frank D’Souza ผู้ร่วมก่อตั้งกล่าว “ตลาดบริการเทคโนโลยีมีขนาดใหญ่กว่าอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ 3.5 เท่า แต่ภาคส่วนนี้ดึงดูดเงินทุนจากไพรเวทเอควิตี้ได้เพียงหนึ่งในสามเท่านั้น1 ซึ่งตอกย้ำโอกาสสำหรับนักลงทุนที่มุ่งเน้นที่มีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับอุตสาหกรรมนี้”

Charles Phillips ผู้ร่วมก่อตั้งกล่าวว่า “บริการซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดเสมอมา โดยบริษัทที่ให้บริการไฮบริดรุ่นต่อไปจะใช้เทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ในการส่งมอบบริการของตนมากขึ้น เพื่อสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ทำซ้ำได้ “นอกจากนี้ เรามองเห็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่จะใช้แพลตฟอร์มของเราเพื่อสร้างงานด้านเทคโนโลยีในชุมชนที่ในอดีตเคยด้อยโอกาส”

David Wasserman ผู้ร่วมก่อตั้งกล่าวว่า “เราได้รวบรวมกลุ่มผู้ประกอบการและนักลงทุนที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งมุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ขนะแห่งอุตสาหกรรมรุ่นต่อไป” “เราตั้งตารอที่จะได้ร่วมมือกับบริษัทต่าง ๆ และทีมผู้บริหารที่มีความสามารถเพื่อกำหนดทิศทางในภาคส่วนนี้”

เกี่ยวกับ Recognize

Recognize เป็นแพลตฟอร์มการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เน้นเฉพาะในอุตสาหกรรมบริการเทคโนโลยี บริษัทผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีมีวิสัยทัศน์ ต้องการสร้าง กำหนด จัดการ และดำเนินงานซอฟต์แวร์และกระบวนการทางธุรกิจเพื่อส่งมอบผลลัพธ์ดิจิทัลสำหรับองค์กรต่าง ๆ บริษัทให้ความเชี่ยวชาญด้านการปฏิบัติงาน ข้อมูลเชิงลึกของอุตสาหกรรม และเงินทุนเชิงกลยุทธ์แก่บริษัทที่มีนวัตกรรมในภาคส่วนนี้ การรับรู้นำโดยผู้ที่คร่ำหวอดในอุตสาหกรรม ได้แก่ Frank D’Souza, Raj Mehta, Charles Phillips และ David Wasserman พร้อมด้วยหุ้นส่วนอย่าง Mike Grady, Josh Miller, Deborah Munfa และ Shawn Pride ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.recognize.com.

__________________________

1McKinsey & Co., มิถุนายน  2563

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220113005292/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ

David Meadvin

Recognize@laurelstrategies.com

202-776-7776

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

LightCON เปิดลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับเกมใหม่ Rise of Stars (ROS) ให้ผู้เล่นทั่วโลก

Logo

  • การลงทะเบียนล่วงหน้าทั่วโลกของเกมใหม่อย่าง Rise of Stars (ROS) เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 13 มกราคม
  • เป็นเกมสเปเชียลฟอร์ซแบบ 4x ที่พัฒนาบน WEMIX
  • เปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้าและจำหน่ายล่วงหน้าในรูปแบบของ NFT แล้ว

ซองนัม, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–14 มกราคม 2565

การลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับผู้เล่นทั่วโลกของเกม Rise of Stars (ROS) ซึ่งเป็นเกมมือถือเกมใหม่ที่พัฒนาโดย LightCON บริษัทลูกของ WEMADE MAX (ซีอีโอร่วม:t Hyunguk Chang, Gilhyung Lee) (KOSDAQ: 101730) เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 13 (วันพฤหัสบดี) ที่ผ่านมา

LightCON opened global pre-registration for Rise of Stars (ROS). ROS will provide Silthereum, a new game token, and the Warship Carrier to which NFT is applied. ROS will start global service during the first quarter of this year. (Graphic: Business Wire)

LightCON เปิดให้ลงทะเบียนเกม Rise of Stars (ROS) ล่วงหน้า โดยจะมีโทเค็นซิลเธอเรียม ซึ่งเป็นโทเค็นเกมใหม่ และยานรบแคริเออร์ให้สะสมสำหรับผู้ซื้อ NFT เกม ROS จะเปิดให้เล่นทั่วโลกในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ (กราฟิก: Business Wire)

ROS เป็นเกมบล็อกเชนแบบ 4x เกมแรกที่จะเปิดให้เล่นบนแพลตฟอร์ม WEMIX และมีจุดเด่นเป็นยานรบและดาวเคราะห์ต่าง ๆ ที่ผ่านการออกแบบอย่างประณีตบรรจงโดยมีจักรวาลอันกว้างใหญ่เป็นฉากหลัง

ผู้เล่นจะได้สนุกไปกับการสู้รบเพื่อโจมตีฝ่ายตรงข้ามและค้นหาดาวในกาแล็กซีที่รุ่มรวยไปด้วยทรัพยากรนอกเหนือจากการวางกลยุทธ์เพื่อขยายกำลังผ่านการทำสงครามครั้งใหญ่แบบเรียลไทม์

และที่พิเศษ เกม ROS ยังมีโทเค็นใหม่อย่าง ‘ซิลเธอเรียม’ และ ‘ยานรบแคริเออร์’ ให้สะสมสำหรับผู้ซื้อ NFT ด้วย

การจะได้มาซึ่งซิลเธอเรียมนั้นจะต้องทำการแลกเปลี่ยน ‘อนุภาคซิลเธอ’ ซึ่งเป็นทรัพยากรของเกม และสามารถรวบรวมได้โดยใช้ยานรบแคริเออร์เท่านั้น

และเนื่องจากอนุภาคซิลเธอร์นั้นสามารถหามาได้ด้วยวิธีการปล้นสะดมในกลุ่มผู้เล่นด้วยกัน เราจึงหวังที่จะได้เห็นการต่อสู้แย่งชิงอันดุเดือดเพื่อรักษาทรัพยากรเอาไว้

การลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับผู้เล่นทั่วโลกจะทำผ่าน Google Play และ Apple App Store ซึ่งจะเปิดให้ผู้เล่นจากทุกภูมิภาคลงทะเบียน ยกเว้นจากเกาหลีและจีน และบางประเทศ

และเพื่อเฉลิมฉลองการเปิดลงทะเบียนล่วงหน้านี้ จะมีการจัดกิจกรรมมากมาย รวมถึงการวางจำหน่าย NFT ของเกม ROS ในรอบพรีเซลด้วย

โดยกิจกรรมแรกจะเป็นกิจกรรม airdrop โดยผู้ใช้ 100,000 คนจากบรรดาผู้ที่ลงทะเบียนล่วงหน้าเข้ามาและได้ทำการยืนยันการเข้าร่วมผ่านทางทวิตเตอร์ทางการของ ROS จะได้รับเลือกผ่านการสุ่มเพื่อรับรางวัลเป็นโทเค็นซิลเธอเรียมรวม 1 ล้านโทเค็น

นอกจากนั้นจะมีการจัดงานแจกโทเค็นซิลเธอเรียมราว 1.2 ล้านโทเค็นให้กับผู้ที่ซื้อ NFT ของ ROS ทุกคน รวมถึงผู้ที่ได้รับการสุ่มให้เข้าร่วมงานคอมมิวนิตี้อย่างเป็นทางการด้วย

สำหรับยานรบแคริเออร์ที่มีลักษณะพิเศษจะเปิดให้ซื้อล่วงหน้าผ่านทางแอปพลิเคชัน NFT โดยจะวางจำหน่ายในรูปแบบของกล่องสุ่มที่หน้ากิจกรรมประมูลของ WEMIX ส่วนกิจกรรมพรีเซลจะจัดขึ้นสองครั้ง โดยครั้งแรกจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มกราคม ถึง 3 กุมภาพันธ์ และครั้งที่สองจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 ถึง 17 กุมภาพันธ์

ROS จะเริ่มเปิดให้เล่นเกม ‘ROS บน WEMIX’ ทั่วโลกในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้

– ลิงก์ไปยัง YouTube ของ Rise of Stars: https://youtu.be/2WoKBGyRtls

ดาวน์โหลดรูปภาพ/แกลเลอรี่สื่อมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52560806/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ:

สำหรับ LightCON
Wemade Co., Ltd.
Young Ahn
+82-2-3709-2065
ay2000@wemade.com

Pando Software: Legend of Pandonia เกมใหม่ที่เล่นแล้วได้เงิน หรือ P2E จะวางจำหน่ายในปี 2565

Logo

โซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–14 ม.ค. 2565

Legend of Pandonia (ต่อไปนี้จะเรียกว่า L.o.P) เกมแบบ P2E ใหม่ได้รับการเปิดตัวต่อชาวโลกในวันนี้

Legend of Pandonia (L.o.P), a new P2E game is released. L.o.P is a collection-based strategy action RPG where players can collect and enjoy 120 unique heroes along the arduous journey of Knights striving to find Soul Stones that can give a tremendous power. While playing the game, mPANDO Coins can be earned from plenty of content. Players can make their heroes more powerful by using coins. (Graphic: Business Wire)

Legend of Pandonia (L.o.P) เกมแบบ P2E ใหม่เปิดตัวแล้ว โดย L.o.P เป็นเกมแอ็กชัน RPG แนววางแผนที่ผู้เล่นสามารถรวบรวมและสนุกไปกับฮีโร่กว่า 120 ตัว ตลอดการเดินทางอันยากลำบากของ เหล่าอัศวินที่พยายามค้นหามณีวิญญาน (Soul Stones) ที่สามารถให้พลังมหาศาล ทั้งนี้ ในขณะที่เล่นเกม ก็ยังสามารถเก็บเหรียญ mPANDO Coins ได้จากเนื้อหามากมาย ผู้เล่นสามารถทำให้ฮีโร่ของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นโดยใช้เหรียญได้ (กราฟิก: Business Wire)

ผจญภัยไปกับ 120 วีรบุรุษและสตรีผู้มีเสน่ห์

L.o.P เป็นเกมแอ็กชัน RPG แนววางแผนที่ผู้เล่นสามารถรวบรวมและสนุกไปกับฮีโร่กว่า 120 ตัวตลอดการเดินทางอันยากลำบากของ เหล่าอัศวิน ที่พยายามค้นหามณีวิญญาณ หรือ Soul Stones ที่สามารถให้พลังมหาศาล

ระบบการต่อสู้ L.o.P ที่ไม่เหมือนใครและใช้งานง่าย…เพราะ การสร้างทีมเชิงกลยุทธ์มีความจำเป็น

L.o.P มีฮีโร่หลัก 3 ตัวและตัวละครสนับสนุน 3 ตัว ซึ่งหมายถึงฮีโร่ทั้งหมด 6 ตัวในการต่อสู้ นอกจากนี้ยังมีระบบแท็กที่ช่วยให้ผู้เล่นต่อสู้โดยรวบรวมเกจแท็กและสลับฮีโร่รองและฮีโร่หลักได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ระบบสัมผัส และ ลาก หรือ touch&drag ซึ่งช่วยเคลื่อนย้ายฮีโร่ที่เป็นมิตรหรือกำหนดเป้าหมายการโจมตีโดยตรง ช่วยให้สามารถกำหนดเป้าหมายในการต่อสู้ได้ พร้อมไปกับการทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับระบบการต่อสู้ที่โดดเด่นของ L.o.P โดยใช้ทักษะแบบ active skills ที่สามารถกดใช้ได้ทันที ฯลฯ

ฮีโร่ หกคลาส ซึ่งรวมถึงเรือบันทุก นักรบ นักสู้ระยะประชิด AD carry พ่อมด และฮีโร่สายสนับสนุน ต่างมีห้าคุณลักษณะเฉพาะ: ไฟ น้ำ ลม แสง และความมืด ผู้เล่นสามารถใช้คุณลักษณะเหล่านี้เป็นข้อได้เปรียบในการบรรลุชัยชนะสำหรับการวางโครงสร้างกลยุทธ์ของตน นอกจากนี้ ผู้เล่นยังสามารถกำหนดกลยุทธ์ที่ช่วยให้ได้เปรียบได้โดยใช้ความเข้ากันได้ของแต่ละแอตทริบิวต์

เหรียญจะถูกมอบให้เป็นรางวัลสำหรับเนื้อหา ของ L.o.P เท่านั้น

'ระบบการทำงานร่วมกัน หรือ Synergy system' พิเศษของเกมจะเปิดใช้งานบัฟเสริมพลังสำหรับการวางฮีโร่ที่มีจุดติดต่อในสถานการณ์ไปยังฝ่ายโจมตี การทำงานร่วมกันนั้นมีไว้สำหรับตัวละครสองหรือสามตัว และเมื่อผ่านดันเจี้ยนที่เปิดใช้งานร่วมกัน ผู้เล่นจะได้รับ mPANDO Coins ในแต่ละด่านที่กำหนดไว้

ขณะเล่นเกม  จะสามารถได้รับเหรียญ mPANDO Coins จากเนื้อหามากมาย เช่น การทำภารกิจรายวันให้สำเร็จ รางวัลตามฤดูกาลสำหรับเนื้อหา PVE (หรือ การที่ผู้เล่นต่อสู้กับศัตรูที่ไม่ใช่ผู้เล่นด้วยกัน) Tower of Heroes เวทีสำหรับการแข่งขันจัดอันดับ หรือภารกิจพิชิตความสำเร็จต่าง ๆ

mPANDO coin เป็นเหรียญ MainNet ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานในหลายจุดในเกม ผู้เล่นยังสามารถทำให้ฮีโร่ของพวกเขามีพลังมากขึ้นโดยใช้เหรียญสำหรับ 'Heroes Transcendence' การซื้อตั๋ว 'Arena' การขยายคลังการเก็บไอเท็ม ฯลฯ

ขณะนี้กำลังมีการพัฒนาฟังก์ชันที่ช่วยให้สามารถได้ฮีโร่เพิ่มผ่านการเชื่อมโยงกระเป๋าสตางค์และการขุด (staking)  และได้รับการประกาศว่าจะมีเริ่มใช้งานได้หลังจากมีการอัปเดต L.o.P ครั้งแรก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ L.o.P และการอัพเดทล่าสุด โปรดไปที่ เว็บไชต์อย่างเป็นทางการ, Telegram, Discord, Facebook, Twitter, และ Medium.

ดูการแนะนำ L.o.P ที่ https://drive.google.com/file/d/1G93chZn5YMnEw225PEB8MXK1s8HRKUpM/view?usp=sharing

มีคลังรูปภาพ/มัลติมีเดีย ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52561637/en

ติดต่อ:

Pando Software Inc

Lucia Tanti

+82-70-5100-0815

pr@pandosoft.co.kr

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

GIGABYTE กลับมาเยือนงาน CES อีกครั้ง พร้อมเชิญผู้เข้าร่วมงานมาสำรวจอุตสาหกรรมจากมุมมองที่แตกต่าง

Logo

ไทเป–(BUSINESS WIRE)–14 มกราคม 2565

GIGABYTE เตรียมเข้าร่วมงาน CES ทางออนไลน์ พร้อมส่วนเสริมเว็บไซต์ที่เรียกว่า INDUSTRY เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในอุตสาหกรรม เช่น 5G และโทรคมนาคม ยานยนต์ การสร้างสรรค์และเกม ศูนย์ข้อมูล การผลิต และค้าปลีก

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211229005431/en/

(Graphic: Business Wire)

(กราฟิก: Business Wire)

GIGABYTE ภาคภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กรที่มีความลึกซึ้งอย่างมาก ซึ่งรองรับทั้งเทคโนโลยีคลาวด์ เอดจ์ และศูนย์ข้อมูลหรือดาต้าเซ็นเตอร์ ทั้งยังมีเซิร์ฟเวอร์สำหรับซีพียู AMD EPYC เพียงอย่างเดียวมากกว่า 75 เซิร์ฟเวอร์ รวมถึงเซิร์ฟเวอร์สำหรับซีพียู Intel Xeon แบบขยายได้ และเซิร์ฟเวอร์สำหรับ Ampere Altra CPU มากกว่า 10 เซิร์ฟเวอร์ และที่จะลืมไม่ได้ก็คือเมนบอร์ดสำหรับเซิร์ฟเวอร์กว่า 20 รายการ GIGABYTE ยังมีเซิร์ฟเวอร์สำหรับเทคโนโลยีเอดจ์ที่พัฒนาขึ้นจากสถาปัตยกรรม ARM โดย เซิร์ฟเวอร์ ARM แบบมีความหนาแน่นสูงซึ่งใช้ซีพียูแบบ 80 / 128 คอร์ขนาดใหญ่ของ Ampere เหล่านี้มาพร้อมทั้งประสิทธิภาพ พื้นที่จัดเก็บ เครือข่าย และเหนือสิ่งอื่นใด ความยืดหยุ่นสำหรับนำไปใช้กับเทคโนโลยีโทรคมนาคมเจเนอเรชันใหม่ ซึ่งงานด้านการประมวลผลจะต้องทำที่หน้างาน โซลูชันเซิร์ฟเวอร์ของ GIGABYTE ยังสามารถนำไปใช้ได้กับหลากหลายอุตสาหกรรม รวมถึงได้รับการยกย่องเป็นอย่างสูงจากบริษัทเทคโนโลยีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ หน่วยงานด้านการแพทย์ วิทยาศาสตร์ การวิจัยทางวิชาการ สถาบันสาธารณะ และอื่น ๆ อีกมากมาย และยังได้ให้ความช่วยเหลือองค์กรเหล่านั้นทั้งในด้านนวัตกรรมและการค้นพบใหม่ ๆ ในแขนงของตน

อุตสาหกรรมของเรากำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่โดยมีเทคโนโลยี AI, HPC, IoT และการค้นพบใหม่ ๆ มากมายทำให้เกิดการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ บริษัทของ GIGABYTE ที่ได้รับเงินลงทุนอย่าง MyelinTek Inc. ได้พัฒนาระบบการเรียนรู้เชิงลึก MLSteam ซึ่งรวมสแตกซอฟต์แวร์ AI ที่มีการปรับอย่างเหมาะสมและเครื่องมือการจัดการต่าง ๆ ที่ครอบคลุมในอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย เพื่อให้นักวิทยาศาสตร์ฝึกฝนและพัฒนาการผสานรวม AI สำหรับยานยนต์อัตโนมัติได้ง่ายขึ้น ด้วยการพัฒนาที่รวดเร็วของเทคโนโลยีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS), GIGABYTE ได้ออกแบบหน่วยควบคุมการตัดสินใจสำหรับยานยนต์อัตโนมัติประเภทต่าง ๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์แบบปรับแต่งเอง เช่น ชุดควบคุมอิเลกทรอนิกส์ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง อุปกรณ์ควบคุมการรับส่งข้อมูลทางไกล เพื่อช่วยให้นักออกแบบยานพาหนะสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ตามต้องการและพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์

GIGABYTE มีประสบการณ์หลายปีที่ได้รับการยอมรับทางด้านคอมพิวเตอร์แบบฝัง และได้นำเจเนอเรชันใหม่ล่าสุดของระบบฝังมาเพิ่มความสามารถในการทำงานของการจัดเก็บ การขนส่ง และโรงงานผลิต ขณะที่ลดการใช้แรงงานและต้นทุนด้านบริหารจัดการด้วยนวัตกรรม AGV, AMR และระบบรักษาความปลอดภัยอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม ในยุคหลังสิ้นสุดโรคระบาด โซลูชันระบบฝังของ GIGABYTE ที่ผสานรวมเข้ากับเทคโนโลยี AI และ IoT จะช่วยให้การดำเนินการและการบริหารจัดการการเช่าพื้นที่เปิดเป็นไปอย่างอัตโนมัติ และช่วยให้บริการใหม่ ๆ เช่นนี้เจริญรุ่งเรือง

ชื่อเสียงของ GIGABYTE เรื่องการคิดค้นผลิตภัณฑ์ระดับแถวหน้าที่มาพร้อมการออกแบบโมดูลควบคุมแรงดันไฟฟ้า (VRM) และการออกแบบความร้อนที่ล้ำสมัย ทำให้การทำโอเวอร์คล็อกในซีพียู Intel® Core™ ใหม่ล่าสุดเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพ เมนบอร์ดตระกูล Z690 ยังมอบคุณสมบัติและพลังที่เหนือกว่าสำหรับทั้งครีเอเตอร์มืออาชีพและเกมเมอร์ ประสิทธิภาพคือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ทั้งการเล่นเกมที่สมจริงและขั้นตอนการทำงานที่ลื่นไหล และ GIGABYTE ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องประสิทธิภาพเหนือสิ่งอื่นใดสำหรับโน้ตบุ๊กสำหรับเล่นเกมตระกูล AORUS เจเนอเรชันนี้ และโน้ตบุ๊กสำหรับครีเอเตอร์ตระกูล AERO

เมื่อไม่นานมานี้ GIGABYTE ได้เปิดตัว INDUSTRY เพื่อสาธิตผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่สำคัญที่สุดสำหรับแต่ละอุตสาหกรรม โดยหนึ่งในไฮไลต์ที่น่าสนใจที่สุดของแพลตฟอร์มดังกล่าวคือฟังก์ชันแชตสด ซึ่ง GIGABYTE ได้จัดให้มีผู้เชี่ยวชาญที่รู้ลึกเกี่ยวกับอุตสาหกรรมนั้น ๆ ไว้คอยตอบคำถาม รวมถึงข้อซักถามอื่น ๆ จากผู้เข้าชมงาน CES และผู้ซื้อเช่นเดียวกับการจัดงานในสถานที่จริงผ่านแชตสด โดยการแชตสดนั้นใช้ตัวตนจำลองที่สร้างจาก AI ในการแสดงสถานะของผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเตรียมต้อนรับเทคโนโลยี ‘metaverse’ ซึ่งโลกเสมือนจริงและโลกแห่งความเป็นจริงผสานเข้าด้วยกัน แพลตฟอร์ม INDUSTRY จะมีทั้งผลิตภัณฑ์และโซลูชันทั้งหมดที่ GIGABYTE เตรียมนำเสนอในงาน CES รวมถึงหัวข้อที่กำลังเป็นที่นิยมซึ่งเป็นไฮไลต์ของงาน และอีกมากมาย GIGABYTE ยินดีต้อนรับผู้เยี่ยมชมทุกคนที่จะมาเชื่อมต่อถึงกันผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลนี้ และมองอุตสาหกรรมของตนจากอีกมุมมอง

INDUSTRY: https://industry.gigabyte.com

เยี่ยมชม GIGABYTE บน CES Digital ที่: https://gbte.tech/ces2022

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211229005431/en/

ติดต่อ:

สื่อ: Michael Pao brand@gigabyte.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

โตชิบาเปิดแนวทางสู่อุปกรณ์สวมใส่และอุปกรณ์ IoT ที่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นด้วยชิป IC ใหม่

Logo

กระแสไฟสงบต่ำพิเศษที่เล็กมาก[1] โหลดสวิตช์ IC ให้ผลในการปรับปรุงประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก

คาวาซากิ ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–13 มกราคม 2565

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“โตชิบา”) ได้เปิดตัว “TCK12xBG Series” ของ IC โหลดสวิตช์ซึ่งให้กระแสไฟสงบที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด[1] และอัตรากระแสไฟขาออกที่ 1A โดย IC ใหม่นี้บรรจุอยู่ในแพ็คเกจ WCSP4G ขนาดเล็กที่จะสนับสนุนนักพัฒนาผลิตภัณฑ์ในการสร้างสรรค์อุปกรณ์สวมใส่และอุปกรณ์ IoT รุ่นใหม่ที่ใช้พลังงานน้อยลงและให้อายุการใช้งานการชาร์จที่ยาวนานขึ้น โดยเริ่มจัดส่งได้แล้ววันนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220112005404/en/

Toshiba: load switch ICs “TCK12xBG Series” that deliver a remarkable decrease in quiescent current in a small WCSP4G package for wearables and IoT devices. (Graphic: Business Wire)

โตชิบา: โหลดสวิตช์ IC รุ่น “TCK12xBG Series” ที่ให้กระแสไฟสงบที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดซึ่งบรรจุอยู่ในแพ็คเกจ WCSP4G ขนาดเล็กสำหรับอุปกรณ์สวมใส่และอุปกรณ์ IoT (กราฟิก: Business Wire)

TCK12xBG Series ใช้วงจรไดรเวอร์ใหม่ ซึ่งรับรู้กระแสไฟสงบ ON-state ทั่วไปที่ 0.08nA[1] ทั้งนี้แสดงให้เห็นในส่วนที่ลดลงร้อยละ 99.9 จากผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของโตชิบารุ่น “TCK107AG” ซึ่งเป็นความก้าวหน้าอย่างมากในด้านประสิทธิภาพที่จะช่วยให้อุปกรณ์สวมใส่และอุปกรณ์ IoT ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ขนาดเล็กทำงานได้ยาวนานขึ้นเป็นอย่างมาก

WCSP4G เป็นแพ็คเกจใหม่ที่พัฒนาขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์นั้น มีขนาดเล็กกว่า TCK107AG ประมาณร้อยละ 34 เพียง 0.645×0.645 มม. ซึ่งช่วยให้สามารถติดตั้งบนบอร์ดขนาดเล็กได้ การเคลือบด้านหลังสามารถลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับชิปเล็ก ๆ ในกระบวนการติดตั้งได้

โตชิบาได้เตรียมกลุ่มผลิตภัณฑ์ IC สามรุ่นได้แก่: TCK127BG พร้อมการคายประจุอัตโนมัติซึ่งจะเปิดสวิตซ์แบบ active high รุ่น TCK126BG ไม่มีการคายประจุอัตโนมัติที่เปิดสวิตช์แบบ active high และรุ่น TCK128BG ที่มีการคายประจุอัตโนมัติซึ่งจะเปิดเปิดสวิตช์แบบ active low สิ่งนี้ทำให้นักพัฒนาผลิตภัณฑ์และนักออกแบบมีอิสระในการเลือกโหลดสวิตช์ IC ที่เหมาะสมกับความต้องการในการออกแบบมากที่สุด

โตชิบาจะยังคงปรับปรุงผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่กระแสไฟสงบที่ต่ำต่อไป เพื่อสนับสนุนการลดขนาดอุปกรณ์และการใช้พลังงานที่ลดลง และเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

การใช้งาน

  • อุปกรณ์สวมใส่ อุปกรณ์ IoT สมาร์ทโฟน (สวิตช์เปิดและปิดแหล่งจ่ายไฟสำหรับเซ็นเซอร์ ฯลฯ)
  • การเปลี่ยนวงจรโหลดสวิตช์ที่เกิดจากเซมิคอนดักเตอร์แบบแยกส่วน อย่างเช่น MOSFET ทรานซิสเตอร์ เป็นต้น

คุณสมบัติ

  • กระแสไฟสงบที่ต่ำมาก (ON state)[1]: IQ=0.08nA (typ.)
  • กระแสไฟสแตนด์บายที่ต่ำ (OFF state): IQ(OFF)+ISD(OFF)=13nA (typ.)
  • แพ็คเกจ WCSP4G ขนาดกะทัดรัด: 0.645×0.645มม. (typ.), t:0.465มม. (max.)
  • การเคลือบด้านหลังที่ช่วยลดความเสียหายในกระบวนการติดตั้งบอร์ด

หมายเหตุ:
[1] ในบรรดาโหลดสวิตช์ IC ที่มีขนาดแพ็คเกจกะทัดรัดไม่เกิน 1 ตร.มม. และกระแสไฟขาออกที่ 1A ผลสำรวจของโตชิบา ณ มกราคม 2565

ข้อมูลจำเพาะหลัก

(@Ta=25°C เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น)

หมายเลขส่วน

TCK126BG

TCK127BG

TCK128BG

แพ็คเกจ

ชื่อ

WCSP4G

ประเภทขนาด (มม.)

0.645×0.645,

t:0.465 (max)

พิกัดสูงสุดสัมบูรณ์

แรงดันไฟขาเข้า VIN (V)

-0.3 to 6.0

แรงดันไฟควบคุม VCT (V)

-0.3 to 6.0

กระแสไฟขาออก IOUT (A)

DC

1.0

Pulse

2.0

การกระจายไฟฟ้า PD (W)

1.0

ช่วงการใช้งาน

(@Ta_opr=

-40 to 85°C)

แรงดันไฟขาเข้า VIN (V)

1.0 to 5.5

กระแสไฟขาออก IOUT max (A)

1.0

ลักษณะทางไฟฟ้า

กระแสไฟสงบ
(ON state)

IQ typ. (nA)

@VIN=5.5V

0.08

กระแสไฟสแตนด์บาย(OFF state)

IQ(OFF) + ISD(OFF) typ. (nA)

@VIN=5.5V

13

แรงต้านทานสถานะเปิด
RON typ. (mΩ)

@VIN=5.0V, IOUT= -0.5A

46

@VIN=3.3V, IOUT= -0.5A

58

@VIN=1.8V, IOUT= -0.5A

106

@VIN=1.2V, IOUT= -0.2A

210

@VIN=1.0V, IOUT= -0.05A

343

ลักษณะทาง AC

VOUT rise time tr typ. (μs)

@VIN=3.3V

363

363

363

VOUT fall time tf typ. (μs)

125

32

32

เปิดแบบหน่วง tON typ. (μs)

324

324

324

ปิดแบบหน่วง tOFF typ. (μs)

10

10

10

ฟังก์ชันการคายประจุอัติโนมัติ

Built-in

Built-in

เปิด/ปิด การควบคุมแบบลอจิก

Active High

Active High

Active Low

ตรวจสอบตัวอย่างและความพร้อมจัดส่ง

Buy Online

Buy Online

Buy Online

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ติดตามลิงก์ด้านล่าง
TCK126BG
TCK127BG
TCK128BG

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโหลดสวิตช์ IC ของโตชิบา ติดตามลิงก์ด้านล่าง
Load Switch ICs

หากต้องการตรวจสอบความพร้อมของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ กรุณาเยี่ยมชมได้ที่:
TCK126BG
TCK127BG
TCK128BG

สอบถามข้อมูลสำหรับลูกค้า
Small Signal Device Sales & Marketing Dept.
โทร: +81-44-548-2215
ติดต่อเรา

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ
* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลการติดต่อเป็นปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และสตอเรจขั้นสูง ใช้ประสบการณ์และนวัตกรรมกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจในเซมิคอนดักเตอร์แบบแยกระบบ LSIs และผลิตภัณฑ์ HDD ที่โดดเด่น

พนักงานของบริษัท 22,000 คนทั่วโลกร่วมกันมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุดและเน้นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อส่งเสริมการร่วมสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ ด้วยยอดขายประจำปีที่สูงกว่า 710 พันล้านเยน (6.5 พันล้านดอลลารสหรัฐ) Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ตั้งตารอที่จะสร้างและมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุกที่

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220112005404/en/

สอบถามสำหรับสื่อ:
Chiaki Nagasawa
Digital Marketing Department
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
โทร: +81-44-549-8361
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Black & Veatch Report: กุญแจสำคัญในการบูรณาการพลังงานหมุนเวียนเพื่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพลังงานที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของเอเชีย

Logo

กลยุทธ์เพื่อให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศุนย์นั้นต้องการการพัฒนา จัดการและการรวบรวมระบบการผลิต ระบบการส่งจ่ายพลังงานไฟฟ้า และระบบการจัดจำหน่ายไฟฟ้าที่ดียิ่งขึ้น

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–13 มกราคม 2565

การรวมพลังงานหมุนเวียนให้เข้ากับกริดหรือระบบเครือข่ายพลังงานไฟฟ้า ไม่ได้เป็นเพียงแค่การใช้พลังงานหมุนเวียนแทนการพึ่งพาถ่านหินจำนวนมากในภูมิภาค แต่ยังถือเป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมไฟฟ้าของเอเชีย จากผลการรายงาน Black & Veatch Asia Electric Report ประจำปีนี้

“ผลการรายงานเผยให้เห็นว่าแรงกดดันในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่กำลังเพิ่มจากนักลงทุน ลูกค้ารายใหญ่ และรัฐบาล ตามความต้องการโครงสร้างพื้นฐานยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง” Narsingh Chaudhary รองประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าว “การนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้มากขึ้นกำลังจะเปลี่ยนแปลงธรรมชาติของการจัดการโครงข่ายไฟฟ้า และนี่หมายความว่าผู้ให้บริการไฟฟ้าในเอเชียต้องวางแผนและลงทุนอย่างจริงจังทั่วทั้งระบบของสินทรัพย์ในการผลิต การส่งจ่าย และการจัดจำหน่าย”

ความจำเป็นในการมุ่งเน้นการลงทุนนอกเหนือจากการผลิตไปสู่การส่งจ่ายและการจัดจำหน่ายถูกเน้นความสำคัญตั้งแต่ต้นจนจบของรายงาน ตัวอย่างเช่น ร้อยละ 25 ของผู้ตอบแบบสำรวจในอุตสาหกรรมไม่มั่นใจในประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นของระบบส่งจ่ายและการจัดจำหน่าย นอกจากนี้ ภัยคุกคามสองในสามอันดับแรกในการให้บริการที่น่าเชื่อถือให้แก่ลูกค้ายังถูกระบุว่าเป็นการลงทุนที่ต่ำเกินไปในการส่งจ่ายและการจัดเก็บพลังงานที่ไม่เพียงพอ

Harry Harji รองประธานฝ่ายธุรกิจที่ปรึกษาด้านการจัดการของ Black & Veatch ในเอเชียกล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานกำลังดำเนินไปทั่วทั้งภูมิภาค โดยมากกว่าร้อยละ 80 ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าพวกเขากำลังจัดหาเงินทุนเพื่อการลงทุนด้านพลังงานสะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พลังงานแสงอาทิตย์ดูเหมือนว่าจะได้รับการลงทุนเพิ่มขึ้นในอีกห้าปีข้างหน้า ในขณะที่เกือบครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามคิดว่าไฮโดรเจนจะออกมาเป็นทางเลือกแทนการผลิตก๊าซภายในปี 2573”

การค้นพบที่สำคัญอื่น ๆ ที่เน้นในรายงานได้แก่:

  • มีเพียงร้อยละ 15 ของผู้ตอบแบบสอบถามเท่านั้นที่มองเห็นอนาคตของการลงทุนด้านสินทรัพย์ในการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินหลังจากปี 2578 นอกจากนี้ ร้อยละ 85 เชื่อว่าจะมีการลงทุนในการผลิดไฟฟ้าจากถ่านหินน้อยลงในอีกห้าปีข้างหน้า
  • ในทางตรงกันข้าม ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบครึ่งมองเห็นอนาคตระยะยาวสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์การผลิตไฟฟ้าจากก๊าซหลังจากปี 2578 ในขณะที่อีกร้อยละ 25 คิดว่าการลงทุนจะถูกส่งต่อเพื่อยกระดับโรงงานที่มีอยู่
  • ผลการรายงานข้างต้นสอดคล้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีไฮโดรเจนเพื่อการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ซึ่งกำลังเป็นไปในทางที่ดี ร้อยละ 73 ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าไฮโดรเจนจะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายในการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์มากกว่าเทคโนโลยีอื่น ๆ ในขณะที่ร้อยละ 46 คิดว่าไฮโดรเจนจะถูกนำมาใช้เป็นพลังงานทางเลือกที่สะอาดและราคาไม่แพงเมื่อเทียบกันการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซ
  • อุปกรณ์ควบคุมระบบไฟฟ้าขั้นสูงเป็นอุปกรณ์ที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดในการลงทุนเพื่อปรับปรุงระบบส่งจ่ายไฟฟ้า
  • ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบครึ่งกำลังพิจารณาที่จะปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะในอีก 5 ปีข้างหน้า มากกว่าการบูรณการระบบกริดในแบบอื่นๆ
  • ร้อยละ 35 ของผู้ตอบแบบสอบถามในอุตสาหกรรมกล่าวว่าองค์กรของตนยังไม่มีแผนการในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
  • การรายงานผลยังรวมข้อมูลเชิงลึกจากลูกค้ารายใหญ่ที่ตอบแบบสำรวจเป็นครั้งแรก

หมายเหตุของบรรณาธิการ:

  • ผลการรายงาน Black & Veatch 2022 Asia Electric Report  อิงข้อมูลจากผู้ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน 57 รายที่ดำเนินธุรกิจในเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียตะวันออก และลูกค้าไฟฟ้าเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมจำนวน 33 รายที่ระบุว่าติดตาม Eco-Bussiness ซึ่งเป็นพันธมิตรทางสื่อของเรา ระหว่างวันที่ 23 กันยายน ถึง 28 ตุลาคม 2564 หากต้องการดาวน์โหลดสำเนารายงานโดยไม่มีค่าใช้จ่าย คลิกที่นี่
  • Black & Veatch เพิ่งประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของการดำเนินงาน ซึ่งสอดคล้องกับเมกะเทรนด์ที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรม หากต้องการดูวิดีโอคลิกที่นี่

เกี่ยวกับผลการรายงานทางด้านอุตสาหกรรมของ Black & Veatch

การรายงานที่มีผลกระทบสูงของ Black & Veatch ในชุดก่อนหน้านี้ที่เรียกว่าสิ่งพิมพ์ Strategic Directions ให้ข้อมูลเชิงลึกของอุตสาหกรรมและการวิเคราะห์ตามการวิจัยชั้นนำของตลาด โดยสิ่งพิมพ์ชุดนี้ประกอบด้วยรายงานประจำปีหลายฉบับเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้า น้ำ และภาคอื่น ๆ เพื่อให้ข้อมูลและให้ความรู้แก่ผู้ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับประเด็นสำคัญ ความท้าทาย และโอกาสที่เกิดขึ้น สามารถติดตามรายงานได้ที่ https://www.bv.com/reports เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Black & Veatch

Black & Veatch คือบริษัทออกแบบด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ การให้คำปรึกษา และการก่อสร้างระดับโลกที่มีพนักงานร่วมเป็นเจ้าของ โดยมีประวัติยาวนานกว่า 100 ปีในด้านนวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2458 เป็นต้นมา เราได้ช่วยลูกค้าของเราพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลกโดยการพัฒนาความยืดหยุ่น และคุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของเรา ในปีพ.ศ. 2563 บริษัทมีรายได้รวมในการดำเนินงานกว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดตามเราได้ที่ www.bv.com และทางสื่อสังคม

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220104006073/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลการติดต่อสื่อ:
EMILY CHIA | +65 6335 6623 P | +65 9875 8907 M | Chialp@bv.com
24-HOUR MEDIA HOTLINE | +1 855-999-5991

โตชิบาขยายไลน์ผลิตภัณฑ์อีเทอร์เน็ตบริดจ์ไอซีสำหรับระบบสื่อสารข้อมูลยานยนต์และอุปกรณ์อุตสาหกรรม

Logo

พร้อมด้วยพอร์ต 10Gbps Ethernet AVB/TSN สองพอร์ตและสวิตช์พอร์ต PCIe® Gen 3 สามพอร์ต

คาวาซากิ ญี่ปุ่น–(บิสิเนสไวร์)– 12 ม.ค. 2565

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“โตชิบา”) ได้เพิ่ม “TC9563XBG” ในกลุ่มผลิตภัณฑ์อีเทอร์เน็ตบริดจ์ไอซีเพื่อรองรับการสื่อสาร 10Gbps ในระบบสื่อสารข้อมูลยานยนต์และอุปกรณ์อุตสาหกรรม โดยได้เริ่มจัดส่งตัวอย่างแล้วและการผลิตจำนวนมากจะเริ่มในเดือนสิงหาคม 2565

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220111005566/en/

Toshiba: an Ethernet bridge IC “TC9563XBG” which provides support for 10Gbps communications in automotive information communications systems and industrial equipment. (Graphic: Business Wire)

Toshiba: Ethernet bridge IC “TC9563XBG” ซึ่งรองรับการสื่อสาร 10Gbps ในระบบสื่อสารข้อมูลยานยนต์และอุปกรณ์อุตสาหกรรม (กราฟิก: บิสิเนสไวร์)

เครือข่ายยานยนต์กำลังพัฒนาไปสู่สถาปัตยกรรมโซน[1] โดยที่การสื่อสารระหว่างโซนต่างๆ ใช้การส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์แบบหลายกิกะไบต์[2 ]ผ่านอีเทอร์เน็ตในอัตรา 1Gbps หรือสูงกว่า  สะพาน IC ใหม่เป็น อีเธอร์เน็ต 10Gbps แบบพอร์ตรุ่นแรกของโตชิบาและอินเตอร์เฟซสามารถเลือกได้จาก USXGMII, XFI, SGMII และ RGMII[3]  พอร์ตทั้งสองรองรับ Ethernet AVB[4] และ TSN[5] ซึ่งอำนวยความสะดวกในการประมวลผลแบบเรียลไทม์และการประมวลผลแบบซิงโครนัสตามลำดับ นอกจากนี้ยังสนับสนุน SR-IOV (ฟังก์ชั่นเสมือน) แบบง่าย[6]  การผสมผสานคุณสมบัติเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์ใหม่ทำให้เกิดโซลูชั่นที่เหมาะสมกับเครือข่ายยานยนต์ยุคหน้า

เนื่องจากความเร็วของอุปกรณ์สื่อสารยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ IC ใหม่นี้จึงไม่เพียงแต่ใช้ได้กับสถาปัตยกรรมโซนเท่านั้น แต่ยังใช้ได้กับการใช้งานด้านยานยนต์ต่างๆ เช่น IVI และเทเลเมติกส์ และในอุปกรณ์อุตสาหกรรมด้วย นอกจากนี้ยังถูกกำหนดให้เป็นรุ่นสืบทอดผลิตภัณฑ์ซีรีส์ TC9560 และ TC9562 ปัจจุบันที่รองรับอีเทอร์เน็ต 1Gbps

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีอุปกรณ์จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ได้รับการติดตั้งอินเทอร์เฟซ PCIe สำหรับการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์กับอุปกรณ์ เช่น Wi-Fi® และโฮสต์ SoC มีแนวโน้มที่จะใช้อินเทอร์เฟซ PCIe ไม่เพียงพอ  TC9563XBG มีพอร์ตสวิตช์ PCIe Gen 3 สามพอร์ตสำหรับการสื่อสารกับโฮสต์ SoC และการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่มีอินเทอร์เฟซ PCIe  ส่วนของสวิตช์ PCIe ได้รับการกำหนดค่าด้วยพอร์ตอัปสตรีม 4 เลนหนึ่งพอร์ตสำหรับการเชื่อมต่อกับโฮสต์ SoC และพอร์ตดาวน์สตรีม 1 เลนสองพอร์ตสำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่มีอินเทอร์เฟซ PCIe  การใช้ฟังก์ชันสวิตช์ PCIe แบบ 3 พอร์ตสำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถช่วยลดปัญหาการขาดแคลนอินเทอร์เฟซ PCIe

TC9563XBG จะเป็น AEC-Q100 ระดับ 3[7] ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม

หมายเหตุ:

[1] สถาปัตยกรรมโซน: การกำหนดค่าเครือข่ายที่คาดว่าจะใช้สำหรับเครือข่ายยานยนต์ยุคหน้า ซึ่งยานพาหนะแบ่งออกเป็นหลายโซนที่สื่อสารกันด้วยความเร็วสูงสำหรับการทำงานร่วมกัน

[2] Multi-gig: Multi-Gigabit Ethernet (2.5Gbps ถึง 10Gbps) เครือข่ายยานยนต์ล่าสุดต้องการแบนด์วิดท์ที่มากกว่า 1Gbps

[3] USXGMII, XFI, SGMII, RGMII: มาตรฐานสำหรับอินเทอร์เฟซอีเทอร์เน็ต USXGMII = Universal Serial 10 Gigabit Media อินเทอร์เฟซอิสระ; XFI = อินเทอร์เฟซแบบอนุกรม 10 กิกะบิต; SGMII = อินเตอร์เฟสอิสระของ Serial Gigabit Media; RGMII = อินเทอร์เฟซอิสระสื่อกิกะบิตที่ลดลง

[4] อีเธอร์เน็ต AVB: IEEE802.1 การเชื่อมต่อเสียง/วิดีโอ มาตรฐานสำหรับการจัดการข้อมูลเสียงและวิดีโอโดยใช้เทคโนโลยีมาตรฐานอีเทอร์เน็ต

[5] อีเธอร์เน็ต TSN: IEEE802.1 เครือข่ายที่ไวต่อเวลา มาตรฐานสำหรับการส่งข้อมูลที่มีเวลาแฝงต่ำกว่า AVB

[6] SR-IOV: การจำลองเสมือน I/O รูทเดียว มาตรฐานที่รองรับการจำลองเสมือนบนอุปกรณ์ PCI

[7] AEC-Q100 เกรด 3: มาตรฐานการทดสอบที่กำหนดโดยอุตสาหกรรมยานยนต์เพื่อรับรองความน่าเชื่อถือของไอซี

การใช้งาน

  • สาระบันเทิงสำหรับยานยนต์
  • telematics สำหรับยานยนต์
  • เกตเวย์ยานยนต์
  • อุปกรณ์อุตสาหกรรม

คุณสมบัติ

  • อีเธอร์เน็ต 10Gbps 2 พอร์ต (เลือกได้จาก USXGMII, XFI, SGMII หรือ RGMII)
  • สวิตช์ PCIe Gen3 3 พอร์ต
  • ผ่านการรับรอง AEC-Q100 เกรด 3

ข้อมูลจำเพาะหลัก

หมายเลขชิ้นส่วน

TC9563XBG

CPU Core

Arm® Cortex®-M3

HOST (ภายนอกแอปพลิเคชัน)

อินเทอร์เฟซ

PCIe I/F: Gen3.0 (8GT/s) สวิตช์ 3 พอร์ต อัพ

สตรีม: 1 พอร์ต × 4 เลน

ดาวน์สตรีม: 2 พอร์ตแต่ละช่อง x1 เลน

รองรับสถานะพลังงานต่ำของสถานะย่อย L0s, L1 และ L1 PM เป็นการจัดการพลังงาน

SR-IOV แบบง่าย (ฟังก์ชันเสมือน) พร้อมใช้งาน

อินเทอเฟซยานยนต์

Ethernet AVB, MAC ในตัวพร้อมรองรับ TSN (2 พอร์ต)

อินเทอร์เฟซที่รองรับคือ:

PortA: เลือกได้จาก USXGMII, XFI และ SGMII

PortB: เลือกได้จาก USXGMII, XFI, SGMII และ RGMII

ความเร็วในการสื่อสารคือ:

หากเลือก USXGMII: 2.5G/5G/10Gbps

หากเลือก XFI: 10M/100M/1000M/2.5G/5G/10Gbps

หากเลือก SGMII: 10M/100M/1000M/2.5Gbps

หากเลือก RGMII: 10M/100M/1000Mbps

อินเทอร์เฟซอุปกรณ์ต่อพ่วง

  • เลือกได้จาก I2C หรือ SPI
  • UART 1ch
  • พอร์ตอินเตอร์รัปต์
  • GPIO

การจ่ายแรงดันไฟ

เลือกได้ตั้งแต่ 1.8V/3.3V (IO)

1.8V (USXGMII/XFI/SGMII/RGMII)

1.8V (PCIe, PLL, OSC)

0.9V (Core)

แพ็คเกจ

P-FBGA 220, 10mmx10mm, 0.65mm pitch

ดู URL ด้านล่างสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่

TC9563XBG

ดู URL ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Automotive Ethernet Bridge IC ของโตชิบา

Automotive Ethernet Bridge ICs

* Arm และ Cortex เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Arm Limited (หรือบริษัทในเครือ) ในสหรัฐอเมริกาและ/หรือที่อื่น ๆ

* Wi-Fi เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Wi-Fi Alliance

* PCIe® และ PCI Express® เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ PCI-SIG

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้นๆ

สอบถามข้อมูลลูกค้า

MCU & Digital Device Sales & Marketing Dept.

Contact Us

* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลติดต่อ เป็นข้อมูลล่าสุดในวันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ชั้นนำของโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และการจัดเก็บข้อมูลขั้นสูง โดยใช้ประสบการณ์และนวัตกรรมกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์แบบแยกอิสระ ระบบ LSI และผลิตภัณฑ์ HDD ให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ

พนักงานของบริษัท 22,000 คนทั่วโลกมีความมุ่งมั่นร่วมกันในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สูงสุด และส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในการร่วมสร้างมูลค่าและตลาดใหม่  ด้วยยอดขายประจำปีที่สูงกว่า 710 พันล้านเยน (6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ตั้งตารอที่จะสร้างและมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุกที่

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220111005566/en/

สอบถามข้อมูลสำหรับสื่อ:

Chiaki Nagasawa
ฝ่ายการตลาดดิจิทัล
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
โทร: +81-44-549-8361 semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Medisca เซ็นสัญญาเป็นผู้จัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวทั่วโลก ยกเว้นสหรัฐอเมริกาและอิสราเอล สำหรับสายผลิตภัณฑ์ ORA ของ Padagis

Logo

มอนทรีออล–(BUSINESS WIRE)–12 ม.ค. 2565

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา Medisca ได้ทำข้อตกลงในการผลิต การจัดหา ออกใบอนุญาต และการจัดจำหน่ายระดับโลกกับ บริษัท Padagis (เดิมชื่อ Rx Division of Perrigo) สำหรับสายผลิตภัณฑ์ ORA ซึ่งประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ Padagis อย่าง: ORA-Plus® , ORA-Sweet®, ORA-Sweet® SF, ORA-Blend® และ ORA-Blend® SF ด้วยเหตุนี้ Medisca จึงมีสิทธิพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟในการจัดจำหน่ายในตลาดทั่วโลกทั้งหมด ยกเว้นสหรัฐอเมริกาและอิสราเอล และยังมีสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายแบบไม่ผูกขาด พร้อมกับสิทธิประโยชน์ตามสัญญาในออสเตรเลีย อีกด้วย

“ข้อตกลงแบบเอ็กซ์คลูซีฟนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ Medisca ในฐานะผู้บุกเบิกด้านการแพทย์เฉพาะบุคคลทั่วโลก” Panagiota Danopoulos รองประธานอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์และนวัตกรรมระดับโลกของ Medisca กล่าว “การเป็นพันธมิตรกับ Padagis เป็นอีกก้าวสำคัญในการขยายการเข้าถึงของเรา ไปพร้อม ๆ กับการที่เรายังคงสร้างพลังของแบรนด์ Medisca ต่อไป เพื่อให้เป็นผู้บุกเบิกระดับโลกในด้านการผสมยา ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ เครื่องสำอาง และอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพอื่น ๆ”

ผลิตภัณฑ์ ORA ซึ่งถูกผลิตโดย Padagis ในรัฐมินนิโซตา ได้รับการพัฒนาขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้วโดย Paddock Laboratories ซึ่ง Perrigo ได้เข้าซื้อกิจการในปี 2554  และเป็นยาที่พ่นเข้าทางปาก ที่มีมายาวนานที่สุดในตลาด โดยมีการศึกษาเกี่ยวกับความเสถียรมากกว่า 150 การศึกษา เพื่อรองรับการใช้งานจริง อันที่จริงแล้ว ประวัติการศึกษาวิจัยที่ไม่มีใครเทียบได้นี้เอง ที่เป็นกุญแจสำคัญที่ว่าทำไมหลาย ๆ คนจึงมองว่าผลิตภัณฑ์ ORA เป็นยาพ่นช่องปากที่คนนึกถึงเป็นตัวแรกทั่วโลก นอกเหนือจากไปจากยาแล้ว แบรนด์ ORA ยังคงสร้างชื่อเสียงอย่างต่อเนื่อง โดยพบได้ในห้างสรรพสินค้าเหมือนกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ซื้อจากเคาน์เตอร์ได้ และยังถูกรวมอยู่ในรายการยาสำเร็จรูปที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA หรือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา แล้วอีกด้วย

Colter VanStedum รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเติบโตของ Padagis กล่าวว่า “จนถึงขณะนี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์ ORA ได้ใช้ผู้จัดจำหน่ายหลายรายทั่วโลก “การตัดสินใจของเราที่จะรวมศูนย์การจัดจำหน่ายผ่าน Medisca ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากความสามารถในการจัดจำหน่ายทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ ORA มีศักยภาพมหาศาลในการดูแลผู้ป่วยวิกฤต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลเด็ก และควรได้รับการจำหน่ายอย่างแพร่หลายสำหรับเภสัชกร แพทย์ และที่สำคัญที่สุดคือผู้ป่วยในทุกตลาดทั่วโลก การสร้างความร่วมมือครั้งนี้เป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มผลกระทบเชิงบวกสูงสุดต่อผู้ป่วยทั่วโลก”

Danopoulos กล่าวเสริมว่า “มาตรฐานคุณภาพของ Medisca และเครือข่ายระหว่างประเทศเป็นสิ่งที่ช่วยให้สามารถลงนามในข้อตกลงเช่นนี้ได้ เป็นอีกก้าวสำคัญในความมุ่งมั่นของเราในการเติบโตและความเป็นผู้นำ เพื่อสร้างความแตกต่างที่มีความหมายและยั่งยืนในตลาดเกิดใหม่”

ด้วยข้อตกลงนี้ Medisca จะยื่นคำขอเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศในบางประเทศด้วยชื่อของบริษัทเอง

เกี่ยวกับ MEDISCA

MEDISCA เป็นผู้นำระดับโลกด้านการดูแลสุขภาพด้วยรากฐานที่มั่นคงในด้านการผสมยาและความก้าวหน้าในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ เครื่องสำอาง และอุตสาหกรรมด้านการดูแลสุขภาพอื่น ๆ โดยเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว ที่ MEDISCA ได้ให้บริการร้านขายยาและสถาบันสุขภาพที่เป็นพันธมิตรกันด้วยข้อเสนอที่ล้ำสมัยและความมุ่งมั่นทุ่มเท พัฒนาเครือข่ายทั่วโลกที่อุทิศให้กับการแพทย์เฉพาะบุคคล MEDISCA สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมและคุณภาพสูงสุด บริการชั้นนำของอุตสาหกรรม และระบบสนับสนุนระดับโลก ด้วยการใช้การสร้างความสัมพันธ์ที่แท้จริง ประสบการณ์ที่ไร้กังวล กระบวนการที่สะดวกสบาย และระบบรองรับที่ได้รับความร่วมมือระดับโลกเชิงกลยุทธ์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MEDISCA กรุณาเยี่ยมชม www.medisca.com และติดตามเราบน Twitter ที่ @medisca

เกี่วกับ PADAGIS

PADAGIS ทุ่มเทเพื่อปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ป่วยและผู้บริโภคให้ได้มากที่สุดโดยการพัฒนา ผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพเฉพาะทางคุณภาพสูงในราคาย่อมเยา บริษัทเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านเวชภัณฑ์เฉพาะทางและยาเฉพาะทางอื่น ๆ โดยมีพนักงานมากกว่า 1,300 คนทั่วโลก เยี่ยมชม PADAGIS ออนไลน์ได้ที่ (http://www.padagis.com).

ติดต่อ:

Panagiota Danopoulos

SVP กลยุทธ์ระดับโลกและนวัตกรรมที่ Medisca

www.medisca.ca

1-800-665-6334

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Women’s Entrepreneurship Accelerator เปิดตัวโปรแกรมประกาศนียบัตรการเป็นผู้ประกอบการออนไลน์สำหรับผู้หญิงทั่วโลก

Logo

พัฒนาโดย ITC SheTrades และสนับสนุนโดย Mary Kay เพื่อช่วยเหลือสนับสนุนโครงการ WEA ทั้งนี้โปรแกรมใบประกาศนียบัตร หรือ Certificate Programme ที่แนะนำนั้นประกอบด้วยหน่วยวิชาฝึกอบรมเชิงโต้ตอบ 27 หน่วยที่เสริมด้วยวิดีโอมากกว่า 200 รายการครอบคลุมเจ็ดขั้นตอนสำคัญของการพัฒนาธุรกิจ

นิวยอร์ก & เจนีวา–(BUSINESS WIRE)–11 มกราคม 2565

Women's Entrepreneurship Accelerator (WEA) ประกาศเปิดตัวหลักสูตรผู้ประกอบการออนไลน์ทั่วโลกที่ออกแบบมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ให้ความรู้ และส่งเสริมผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก โปรแกรมประกาศนียบัตรการเป็นผู้ประกอบการออนไลน์ หรือ Online Entrepreneurship Certificate Programme ได้รับการประกาศครั้งแรกในระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA 76) ในวันครบรอบปีที่สองของ WEA

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220111005443/en/

Deborah Gibbins, Chief Operating Officer at Mary Kay Inc. (Photo: Mary Kay Inc.)

Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. (ภาพ: Mary Kay Inc.)

WEA เป็นหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายที่จัดโดยหน่วยงานสหประชาชาติ 6 แห่ง ได้แก่: องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO), ศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (ITC), สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU), โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP), ข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ (UNGC), องค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) และ Mary Kay ทั้งนี้ ITC เป็นผู้นำองค์ประกอบการสร้างขีดความสามารถของพันธมิตรหลายราย

พัฒนาโดย ITC SheTrades และสนับสนุนโดย Mary Kay เพื่อช่วยเหลือสนับสนุนโครงการ WEA ทั้งนี้โปรแกรมประกาศนียบัตรการเป็นผู้ประกอบการที่แนะนำนั้นประกอบด้วยหน่วยวิชาฝึกอบรมเชิงโต้ตอบ 27 หน่วยที่เสริมด้วยวิดีโอมากกว่า 200 รายการ จุดมุ่งหมายคือการสอนผู้ประกอบการสตรี—ผู้ที่มีความใฝ่ฝันหรือผู้มีประสบการณ์—ให้มีทักษะในการออกแบบและจัดตั้งธุรกิจที่มีศักยภาพในเชิงเศรษฐกิจ ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้วิธีนำวัฒนธรรมการเป็นผู้ประกอบการ พัฒนาแนวคิดผ่านการคิดเชิงออกแบบและวิธีการสร้างธุรกิจอย่างมีนวัติกรรมที่ทำให้เกิดความสำเร็จแบบก้าวกระโดด (lean start-up) การเตรียมเครื่องมือที่ช่วยออกแบบโมเดลธุรกิจ การออกแบบเสนอขาย การระบุแหล่งที่มาของเงินทุน การหาพันธมิตรที่เหมาะสม การให้คำปรึกษา การสร้างทีม และการจัดตั้งธุรกิจของตน

โปรแกรมประกาศนียบัตรที่ครอบคลุมเจ็ดขั้นตอนสำคัญของการพัฒนาธุรกิจ:

  • ประกาศนียบัตร 1: การตัดสินใจที่จะเป็นผู้ประกอบการ (6 หน่วย) ,
  • ประกาศนียบัตร 2: การพัฒนาแนวคิด – แนวคิดทางธุรกิจ (3 หน่วย),
  • ประกาศนียบัตร 3: การสร้างแบบจำลองธุรกิจ (4 หน่วย),
  • ประกาศนียบัตร 4: การเสนอขายธุรกิจ (4 หน่วย),
  • ประกาศนียบัตร 5: การให้ทุนแก่กิจการ (3 หน่วย),
  • ประกาศนียบัตร 6: การสร้างทีม (4 หน่วย),
  • ประกาศนียบัตร 7: การจัดตั้งธุรกิจ (3 หน่วย)

โปรแกรมประกาศนียบัตรการเป็นผู้ประกอบการออนไลน์ของ WEA (WEA Online Entrepreneurship Certificate Programme) สามารถเข้าถึงได้จากปลายนิ้วมือของผู้หญิงหลายล้านคนได้โดยตรงบนเว็บไซต์ ITC SheTrades (www.shetrades.com/en/learn/e-learning) และบนเว็บไซต์ของ WEA ปัจจุบันนี้มีให้บริการในภาษาอังกฤษ สเปน และฝรั่งเศส โดยกำลังจะมีภาษาอาหรับ รัสเซีย และจีนกลางในปี 2565 นี้ ทั้งนี้ให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ใช้ shetrades.com ทุกคนด้วยไม่มีการป้องกันในการเข้าร่วม ผู้เข้าร่วมจะได้รับประกาศนียบัตรเมื่อเสร็จสิ้นแต่ละขั้นตอนสำคัญเจ็ดขั้นตอนของการพัฒนาธุรกิจ

“โลกต้องการผู้ประกอบการสตรีมากขึ้น” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ประกอบการสตรีทั้งหมดยืนยันว่าได้รับแรงผลักดันจากความประสงค์ที่จะมีส่วนทำให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมที่ยิ่งใหญ่ ผลกระทบของพวกเขานั้นสามารถมีอย่างมหาศาล โปรแกรมประกาศนียบัตรการเป็นผู้ประกอบการออนไลน์ของ WEA เป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิงทั่วโลก ด้วยเครื่องมือและการสนับสนุนที่เหมาะสม ทั้งนี้ไม่จำกัดสิ่งที่ผู้หญิงสามารถทำได้”

“เราต้องเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในการค้าระหว่างประเทศ โดยช่วยให้พวกเขาขยายธุรกิจเพื่อให้กลายเป็นแรงกระตุ้นสำหรับชุมชนที่ครอบคลุมและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ผู้หญิงเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงที่ทรงพลัง และการเสริมอำนาจให้ผู้หญิงเป็นประโยชน์ต่อทั่วทั้งสังคม” Pamela Coke-Hamilton กรรมการบริหารของ International Trade Centre กล่าว

งานเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะจัดขึ้นในวันที่ 18 มกราคม 2565 เวลา 15:00 น. ตามเวลายุโรปกลาง (CET) ในความร่วมมือกับ Mary Kay ทั้งนี้จะเรียกผู้ประกอบการสตรีและธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของจากเครือข่าย ITC SheTrades ทั่วโลก งานจะจัดขึ้นเสมือนจริงเป็นภาษาอังกฤษ และจะทำหน้าที่เป็นเวทีในการนำเสนอโปรแกรมประกาศนียบัตรการเป็นผู้ประกอบการ และการฝึกอบรมในประเทศที่กำลังจะมีขึ้น ทีมงาน SheTrades จะนำเสนอหลักสูตรการเป็นผู้ประกอบการรวมถึงเครื่องมืออื่น ๆ ที่มีอยู่ใน www.shetrades.com สามารถลงทะเบียนที่นี่เพื่อเปิดตัวโปรแกรมประกาศนียบัตรการเป็นผู้ประกอบการที่ไม่มีค่าใช้จ่ายของ WEA

การเปิดตัวโปรแกรมประกาศนียบัตร WEA หรือ WEA Certificate Programme บนแพลตฟอร์มการฝึกอบรมออน์ไลน์ของ ITC SheTrades จะได้รับการเสริมในระดับชาติด้วยการฝึกอบรมภาคสนามสำหรับผู้หญิงจากประเทศกำลังพัฒนาที่สนใจในการเป็นผู้ประกอบการและ/หรือวางแผนที่จะรวมเข้ากับห่วงโซ่คุณค่าระดับภูมิภาคและระดับโลก การฝึกอบรมในประเทศจะให้ข้อมูลเชิงลึกและความเชี่ยวชาญในทางปฏิบัติแก่ผู้ประกอบการสตรีและกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSMEs) ทั้งนี้จะมีขึ้นในโคลอมเบีย บราซิล เม็กซิโก และอินเดีย การฝึกอบรมจะจัดขึ้นเป็นภาษาสเปน (โคลอมเบีย เม็กซิโก) โปรตุเกส (บราซิล) และอังกฤษ (อินเดีย) การฝึกอบรมนี้จะเน้นในสองหัวข้อหลัก: “ความสามารถในการแข่งขันและความพร้อมในการส่งออก” (19-20 มกราคม) และ “การสัมมนาเชิงปฏิบัติการการตลาดดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซ” (1-3 กุมภาพันธ์)

การสนับสนุนดังกล่าวอยู่ภายใต้ “โปรแกรมส่งเสริมสตรีเพื่อการค้า” ของ ITC ซึ่งมีส่วนโดยตรงต่อประเด็นที่ ITC มุ่งเน้นที่ 5 เรื่อง “การส่งเสริมและบูรณาการการค้าที่มุ่งหมายอย่างทั่วถึงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ข้อ 5, 8 และ 17

WEA มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมผู้ประกอบการสตรีจำนวน 5 ล้านคนภายในปี 2573

เกี่ยวกับ Women’s Entrepreneurship Accelerator

Women's Entrepreneurship Accelerator (WEA) เป็นโครงการริเริ่มแบบหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายเกี่ยวกับผู้ประกอบการสตรีที่จัดโดยหน่วยงานของสหประชาชาติหกแห่ง ได้แก่ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO), ศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (ITC), สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU), โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP), ข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ (UNGC), องค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) และ Mary Kay มุ่งมั่นจะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสตรีจำนวน 5 ล้านคนภายในปี 2573 เป้าหมายสูงสุดของโครงการนี้คือการเพิ่มผลกระทบด้านการพัฒนาของผู้ประกอบการสตรีให้มากที่สุดในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยการสร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก โครงการ Accelerator เป็นตัวอย่างของพลังในการเปลี่ยนแปลงของการเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร เพื่อควบคุมศักยภาพของผู้ประกอบการสตรี สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ we-accelerate.com ติดตามเราบน: Twitter และ Instagram (@we_accelerator), Facebook และ LinkedIn (@womensentrepreneurshipaccelerator)

เกี่ยวกับ ITC SheTrades

โครงการ SheTrades ของ International Trade Centre มีเป้าหมายที่จะเชื่อมโยงผู้หญิงสามล้านคนเข้าสู่ตลาดภายในปี 2564 และรวบรวมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากทั่วโลกให้ทำงานร่วมกันเพื่อจัดการกับอุปสรรคทางการค้าและสร้างโอกาสที่มากขึ้นสำหรับผู้ประกอบการสตรี ทั้งนี้ได้รับการสนับสนุนโดยเว็บและแพลตฟอร์มดิจิทัลบนมือถือ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม SheTrades.com: https://www.shetrades.com/en

เกี่ยวกับ International Trade Centre

ศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (Interantional Trade Centre) เป็นหน่วยงานร่วมขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization) และสหประชาชาติ (United Nations) ทั้งนี้ ITC ให้ความช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในระบบเศรษฐกิจกำลังพัฒนาและช่วงเปลี่ยนผ่านให้มีความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้มีการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนภายใต้กรอบของวาระความช่วยเหลือทางการค้า หรือ Aid-for-Trade และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (United Nations’ Sustainable Development Goals) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ www.intracen.org ติดตาม ITC บน Twitter | Facebook | LinkedIn | Instagram | Flickr

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220111005443/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย



BitMEX Link ให้การต้อนรับ Ivo Sauter ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่

Logo

ซูก และ ซูริค สวิตเซอร์แลนด์–(บิสิเนสไวร์)–11 ม.ค. 2565

ณ วันที่ 1 มกราคม Ivo Sauter ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของ BitMEX Link ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้ดำเนินการแพลตฟอร์มโบรคเกอร์คริปโตที่เป็นนวัตกรรมใหม่ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีการเทรดสปอต ผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นเอง และการซื้อขาย OTC  คุณ Sauter จะประจำอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงาน BitMEX Link ในเมืองซุกและซูริก

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220111005536/en/

BitMEX Link welcomes Ivo Sauter as new Chief Executive Officer (Photo: Business Wire)

BitMEX Link ต้อนรับ Ivo Sauter เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ (ภาพ: บิสิเนสไวร์)

ก่อนร่วมงานกับ BitMEX Link Ivo เคยเป็น Chief Digital , Transformation และ Strategy Officer ที่ Gazprombank (Switzerland) Ltd. มานานกว่าหนึ่งปี  เขามีประสบการณ์มากกว่าสองทศวรรษในการทำงานในตำแหน่งผู้นำในธนาคารและบริษัทจัดการกองทุน  Ivo ยังนำความเชี่ยวชาญด้านคริปโตมาใช้ โดยเคยทำงานเป็น Chief Client Officer ที่ SIX Digital Exchange ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของตลาดการเงินแห่งแรกในโลกที่เสนอการซื้อขายแบบ end-to-end แบบครบวงจร การชำระบัญชี และการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล

Ivo กล่าวว่า: “ผมภูมิใจที่ได้เข้าร่วม BitMEX Link ที่มีการเติบโตอันน่าทึ่ง และมีอะไรมากมายรอเราอยู่ในปี 2022  BitMEX Link จะปรับปรุงวิธีที่นักเทรด นักเทรดมืออาชีพ และนักลงทุนสถาบันมีปฏิสัมพันธ์กับ crypto และผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นผู้นำสายธุรกิจนี้และสร้างทีม BitMEX Link ที่นี่ในสวิตเซอร์แลนด์”

Alexander Höptner ประธาน BitMEX Link กล่าวว่า “การแต่งตั้ง Ivo เป็นก้าวที่น่าตื่นเต้นในการพัฒนา BitMEX Link และการมีอยู่ของแบรนด์ BitMEX ในสวิตเซอร์แลนด์ ในอีกไม่กี่เดือนและหลายปีต่อจากนี้  เราจะลงทุนเพื่อขยาย BitMEX Link ในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเราเห็นศักยภาพในการเติบโตอย่างมากในระยะยาว”

เกี่ยวกับ BitMEX

BitMEX เป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่ให้ผู้ใช้เข้าถึงตลาดการเงินสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกและเป็นเจ้าของโดย HDR Global Trading Limited. BitMEX Link เป็นของ BXM Link AG  ในการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ BitMEX วิสัยทัศน์ของเรา ทีมงาน การเจริญเติบโต และเป้าหมายในอนาคต โปรดทำตามเราใน Twitter, Telegram, และ บล็อกของ BitMEX

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ press-ch@bitmex.com  (สำนักงานสื่อสัมพันธ์สวิตเซอร์แลนด์)

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220111005536/en/

ติดต่อ:

Jessica Lindeman
press-ch@bitmex.com  

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Thai Herald

Thai Herald