Tag Archives: platform

Ingram Micro Cloud นำเสนอพอร์ตโฟลิโอ Google Cloud Platform Google Workspace และ Chrome Enterprise ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Logo

เครือข่ายพันธมิตรที่กว้างขวางของ Ingram Micro Cloud ได้รับโอกาสใหม่ ๆ ในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าและขยายธุรกิจ IaaS ในสิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย

เออร์ไวน์ แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–08 กรกฎาคม 2565

Ingram Micro Cloud ประกาศในวันนี้ว่ากำลังนำเสนอ Google Cloud Platform (GCP), Google Workspace และ Chrome Enterprise ให้กับเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายในสิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ทั้งนี้ Ingram Micro Cloud กำลังนำเสนอบริการ Google Cloud ที่โดดเด่น ซึ่งเปิดตัวก่อนหน้านี้ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา และฝรั่งเศส – พร้อมใช้งานเฉพาะกับเครือข่ายในตลาดเหล่านี้เป็นครั้งแรก

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสนับสนุนการเสนอ Cloud Marketplace ของ Ingram Micro ทั่วโลก ด้วยพันธมิตรที่มีความสามารถในการใช้ประโยชน์จาก Ingram Micro Cloud เพื่อขยายธุรกิจ Google Cloud Platform, Google Workspace และ Chrome Enterprise

Google Cloud และ Ingram Micro Cloud กำลังทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาทักษะและข้อเสนอในปัจจุบันของพันธมิตรช่องทางจำหน่าย และพัฒนาทรัพยากรใหม่เพื่อสนับสนุนพันธมิตรในการจัดการลูกค้าปลายทาง Ingram Micro Cloud ยังครอบคลุมถึงการรองรับพันธมิตรที่หลากหลายและสนับสนุนความคิดริเริ่ม เพื่อช่วยพันธมิตรสร้างแนวทางปฏิบัติ GCP, Google Workspace และ Chrome Enterprise ผ่านโปรแกรมพันธมิตร ซึ่งจัดให้มีโมเดลการมีส่วนร่วมแบบ end-to-end สำหรับ Ingram Micro Cloud เพื่อเปิดใช้งานผู้รวมระบบ (SIs ) และผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์อิสระ (ISV)

Victor Paradell กรรมการบริหาร ฝ่ายขายช่องทางคลาวด์ ตลาดเกิดใหม่ที่ Ingram Micro Cloud กล่าวว่า “พันธมิตรช่องทางจำหน่ายในภูมิภาคจะได้รับประโยชน์จากความแข็งแกร่งของความร่วมมือนี้ ในการคว้าโอกาสการเติบโตที่สำคัญในข้อเสนอบริการคลาวด์แบบ end-to-end ของ Google” Paradell กล่าวต่อว่า “Ingram Micro Cloud รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Google Cloud และในทางกลับกันก็มอบสิทธิ์เฉพาะแก่พันธมิตรผู้ค้าปลีกของเราทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการเข้าถึงพอร์ตโฟลิโอ Google Cloud Platform, Google Workspace และ Chrome Enterprise ของเรา ด้วยการประกาศนี้ เราแสดงความมุ่งมั่นในการสร้างความมั่นใจให้กับพันธมิตรของเราที่สามารถเข้าถึงโซลูชันการทำงานร่วมกันและโครงสร้างพื้นฐานของระบบคลาวด์ดีที่สุด การบริการ และผลประโยชน์ที่ช่วยให้พวกเขาสามารถปลดล็อกโอกาสทางดิจิทัลในภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในการเติบโตที่รวดเร็วที่สุดในโลก”

Ingram Micro Cloud คาดว่าเครือข่ายพันธมิตรที่กว้างขวางจะมีโอกาสใหม่ ๆ ในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ในขณะที่ขยายธุรกิจ IaaS ของพวกเขา จากผลลัพธ์ของการขยายความสัมพันธ์กับ Google Cloud ทั้งนี้ข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความเฟื่องฟูในตลาด IaaS ระดับโลก โดย Gartner รายงานการเติบโตคิดเป็น 40.7% ของการบริการคลาวด์สาธารณะ IaaS ทั่วโลกในปี 2563 และนักวิจัยตลาดคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมจะมีมูลค่าถึง 74.63 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2568

“เราได้พบกับความต้องการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจากธุรกิจต่าง ๆ โดยที่พวกเขาเปิดรับระบบคลาวด์ในการขับเคลื่อนความยืดหยุ่น นวัตกรรม และการเติบโต การปรับใช้ระบบคลาวด์ที่เพิ่มขึ้นนี้หมายความว่าความต้องการพันธมิตรที่มีทักษะสูงเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของลูกค้าของเราไม่เคยยิ่งใหญ่เท่านี้มาก่อน” Ruma Balasubramanian กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Google Cloud กล่าว “ด้วยประสบการณ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วของ Ingram Micro Cloud ในการสร้างและปรับขนาดแนวทางปฏิบัติของ Google Cloud ที่ประสบความสำเร็จ SI และ ISV จะได้รับโอกาสที่สำคัญในการส่งมอบการใช้งานที่มีมูลค่าสูงและบริการระดับมืออาชีพ โซลูชันแบบแนวตั้ง และความเชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล เราภูมิใจที่พันธมิตรของเราได้เห็นการเติบโตที่น่าประทับใจในแทบทุกด้านของธุรกิจของพวกเขา และความร่วมมือของเรากับ Ingram Micro Cloud เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเราในการจัดหาผลิตภัณฑ์ การบริการ การฝึกอบรม และการสนับสนุนสู่ตลาดให้กับระบบนิเวศของพันธมิตรในภูมิภาคที่จำเป็นในการเร่งแรงผลักดันร่วมกันของเรา”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอ Google Cloud ของ Ingram Micro Cloud สามารถดูได้ที่หน้า IaaS landing page ของเรา

เกี่ยวกับ Ingram Micro Cloud

Ingram Micro Cloud ได้รวบรวมนวัตกรและนักแก้ปัญหาเพื่อช่วยให้โลกประสบความสำเร็จมากขึ้น และยังช่วยอำนวยความสะดวกและจัดการห่วงโซ่คุณค่าดิจิทัลที่ซับซ้อนของระบบคลาวด์ ซึ่งทั้งหมดนี้ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี CloudBlue ด้วยการเข้าถึงทั่วโลกที่ไม่มีใครเทียบได้ การเข้าถึงที่ง่ายดายในการเข้าสู่ตลาดอัตโนมัติและเครื่องมือบูรณาการ ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคเชิงลึก และการเลือกโซลูชัน SaaS และ IaaS ที่คัดสรรมาอย่างดี Ingram Micro Cloud ช่วยผู้ขาย ผู้ค้าปลีก และผู้ให้บริการแบบ managed service ได้โดยนำเสนอการบริการแบบ More as a Service ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ingrammicrocloud.com

ติดต่อ:

Megan Binkley
Global Public Relations, Ingram Micro Cloud
Megan.Binkley@ingrammicro.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายงานเรื่อง Adopt an Agile Digital Banking Platform ของ CR2 ว่าด้วยการปรับปรุงนวัตกรรม สร้างมูลค่าใหม่ และเพิ่มผลกำไร

Logo

ดับลิน, ไอร์แลนด์–(BUSINESS WIRE)–19 ม.ค. 2565

รายงานข้อมูลเชิงลึกล่าสุดของ CR2 (www.cr2.com)เรื่อง “Adopt an Agile Digital Banking Platform หรือ การนำแพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัลแบบที่มีความยืดหยุ่นสูงมาใช้” จัดทำขึ้นร่วมกับ Stessa Cohen (www.pivotassets.co) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการธนาคารทั่วโลกไปสู่ระบบดิจิทัล

ในรายงาน Stessa ระบุว่านายธนาคารต้องมีแพลตฟอร์มการธนาคารดิจิทัลที่คล่องตัวอย่างไรบ้างเพื่อรองรับแนวโน้มและข้อกำหนดในระดับโลกและระดับท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาระบุตลาดเฉพาะกลุ่มใหม่ที่จะขับเคลื่อนนวัตกรรม สร้างมูลค่าใหม่ และเพิ่มผลกำไร รายงานได้ระบุชุดของความสามารถที่แพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัลต้องมี ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารมีอนาคตที่แข่งขันในตลาดได้ และกระตุ้นให้ธนาคารเลือกพันธมิตรด้านการธนาคารดิจิทัลที่จะแบ่งปันด้านนวัตกรรม วิสัยทัศน์ และสนับสนุนการสร้างมูลค่าใหม่ ๆ

ตัวรายงานได้ระบุว่า ตลาดเฉพาะกลุ่ม ผลักดันให้ธนาคารสร้างนวัตกรรมได้อย่างไร เพื่อที่จะให้การสนับสนุนธุรกรรมทางธนาคารขั้นพื้นฐานและที่จำเป็นมากขึ้นไปอีกบนแพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัลเดียวกัน  ด้วยการทำความเข้าใจใหม่ในด้านลูกค้า เช่นนี้ ธนาคารจึงสามารถใช้ประโยชน์จากแนวโน้มเทคโนโลยีระดับโลกและระดับท้องถิ่นที่เหมาะสมเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ และเพิ่มผลกำไร หากไม่ทำเช่นนั้นแล้ว บรรดาคู่แข่ง ธนาคารผู้ท้าชิง และฟินเทคต่าง ๆ จะก้าวเข้าไปจับตลาดเฉพาะซึ่งเป็นเป้าหมายของธนาคารอย่างรวดเร็ว

Stessa อภิปรายว่า ธนาคารไม่เพียงต้องการแพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัลที่พร้อมสำหรับการปรับแต่ง การบูรณาการ และการระบุตลาดใหม่เท่านั้น แต่ยังต้องการพันธมิตรที่สามารถมอบความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและด้านการธนาคารที่ธนาคารเองอาจไม่มีให้ ผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัล เช่น CR2 ที่สนับสนุนความสามารถเหล่านี้ทำมากกว่าแค่การทำธุรกรรมธนาคารและการชำระเงิน เพราะพวกเขาสร้างเส้นทางสำหรับธนาคารเพื่อสร้างมูลค่าใหม่ สำหรับทั้งธนาคารและลูกค้า

หากต้องการดาวน์โหลดรายงาน 'Adopt an Agile Digital Banking Platform' ให้คลิกที่ลิงก์ต่อไปนี้:http://knowledge.cr2.com/adopt-an-agile-digital-banking-platform

เกี่ยวกับ CR2

CR2 มอบโซลูชันดิจิทัล การบริการตนเอง และการชำระเงินแก่ธนาคารเพื่อขยายธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนการบริการลูกค้า และมอบประสบการณ์ลูกค้าที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ไอร์แลนด์ เราช่วยให้ธนาคารกว่า 100 แห่งใน 60 ประเทศเชื่อมต่อและมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้อย่างราบรื่นผ่านช่องทางการธนาคารที่สำคัญที่สุดในปัจจุบัน

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220118005901/en/

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการนัดสัมภาษณ์กับตัวแทน โปรดติดต่อ Nigel Sutton: nige@seventeen59pr.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

PPRO เสนอการรวมเข้ากับ PayPal Commerce Platform สำหรับ PSPs ทั่วโลก

Logo

ลอนดอน–(BUSINESS WIRE)–27 กันยายน 2564

ในวันนี้ PPRO ประกาศการรวมระบบของ PayPal Commerce Platform

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยตอกย้ำตำแหน่งผู้นำด้านการตลาดของ PPRO ในฐานะหนึ่งในผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินในท้องถิ่นสำหรับผู้ให้บริการชำระเงิน (PSP) ธนาคาร และเกตเวย์

การรวมตัวกันของ PPRO จะช่วยให้ลูกค้าลดเวลาในการรวบรวมโซลูชัน PayPal Commerce Platform ลงได้อย่างมาก และช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึง PayPal Wallet ได้ การพัฒนานี้ทำให้ลูกค้าของ PPRO มีโอกาสทำให้ผู้ค้าของตนสามารถเข้าถึงฐานผู้ใช้ของ PayPal ที่มีบัญชีที่ใช้งานอยู่มากกว่า 403 ล้านบัญชีใน 200 ตลาด

Claire Gates ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ของ PPRO กล่าวว่า “ข่าวในวันนี้ถือเป็นการก้าวไปข้างหน้าใน PPRO และความสัมพันธ์อันยาวนานของ PayPal ประโยชน์สำหรับพันธมิตรในการเข้าร่วมแพลตฟอร์มของ PPRO นั้นชัดเจน: เราประหยัดเวลาและเงินให้กับพวกเขา และมอบคุณภาพของการรวบรวมวิธีการชำระเงินที่นำไปสู่อัตราการแปลง หรือ conversion rates ที่สูง ด้วยการเพิ่ม PayPal Commerce Platform และความสามารถในการเสนอ PayPal Wallet ข้อเสนอนี้ไม่สามารถละเลยโดยใครก็ตามที่ทำงานในพื้นที่อีคอมเมิร์ซทั่วโลก”

ด้วยการเป็นพันธมิตรกับ PPRO PSP ธนาคาร แพลตฟอร์ม และองค์กรที่มีแพลตฟอร์มการชำระเงิน ไม่เพียงแต่จะได้รับประโยชน์จากการเข้าถึง PayPal Commerce Platform แต่ยังมาจากวิธีการชำระเงินในท้องถิ่น (LPM) ที่หลากหลายทั่วโลก ความเชี่ยวชาญด้านการชำระเงินระดับโลกของ PPRO ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพและนวัตกรรม มูลค่าผ่านเครือข่าย LPM และ PSP ของ PPRO สามารถเข้าถึงได้ด้วยสัญญาเดียวและการรวบรวมเพียงครั้งเดียว ความเรียบง่ายนี้ขจัดความซับซ้อนในรอบการชำระเงินของท้องถิ่น เพิ่มความเร็วสู่ตลาด และช่วยเพิ่มยอดขายให้กับผู้ค้า

PPRO และ PayPal จะจัดไลฟ์สตรีมในวันที่ 7 ตุลาคม 2564 เวลา 11:30 น. เขตเวลาออมแสงยุโรปกลาง (CEST) เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือของพวกเขาและวิธีที่บริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกสามารถบรรลุอัตราการแปลงที่สูง โดยเสนอวิธีการชำระเงินที่ลูกค้ารู้จักและไว้วางใจ

PPRO ได้สร้างตัวเองให้เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินในท้องถิ่นที่น่าเชื่อถือที่สุดในพื้นที่การชำระเงินข้ามพรมแดน ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตระหว่างประเทศสำหรับผู้ให้บริการชำระเงิน ธนาคาร เกตเวย์ และองค์กรที่มีแพลตฟอร์มการชำระเงิน

ข่าวของการผนวกรวม PayPal Commerce Platform เกิดขึ้นหลังจาก PPRO ประกาศเมื่อต้นปีนี้ว่าได้ระดมทุน 180 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้มูลค่ารวมของบริษัทอยู่ที่กว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210927005059/en/

ติดต่อ:

Natacha Rousseau
(323) 352-6417
natacha@mediafrenzyglobal.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล: Mary Kay Inc. เปิดตัวประสบการณ์เสมือนจริง Immersive Virtual Experience Platform Suite 13™

Logo

แพลตฟอร์มเสมือนจริงที่ให้พื้นที่ให้แก่ Mary Kay และที่ปรึกษาด้านความงามอิสระในการจัดแสดงกลุ่มผลิตภัณฑ์ล่าสุด บอกเล่าเรื่องราวและมรดกตกของแบรนด์

แดลลัส–(บิสิเนสไวร์)–15 เม.ย. 2564

แบรนด์ความงามระดับโลก Mary Kay Inc. และ Mary Kay Global Design Studio นำเสนอ Suite 13TM ประสบการณ์ความงามเสมือนจริงที่นำเสนอโชว์รูมป๊อปอัพดิจิทัลแห่งแรกของ Mary Kay  โดยออกแบบด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริงล่าสุด Suite 13TM มอบประสบการณ์ความงามแบบ 3 มิติให้กับ Mary Kay และลูกค้าของพวกเขาด้วยประสบการณ์ความงามแบบ 3 มิติแบบ 360 องศา ซึ่งผู้ใช้สามารถเรียกดูผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของแบรนด์ความงาม รวมทั้งสำรวจประวัติบริษัทและผู้ก่อตั้ง Mary Kay Ash

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านตัวเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210415005306/en/

The new Suite 13™ offers Mary Kay Independent Beauty Consultants and their customers a 360-degree, 3D beauty experience. (Photo: Mary Kay Inc.)

Suite 13™ ประสบการณ์ความงาม 3 มิติแบบ 360 องศาให้กับปรึกษาด้านความงามอิสระของ Mary Kay และลูกค้าของพวกเขา (ภาพ: Mary Kay Inc.)

Suite 13 เชิญชวนให้ผู้ใช้ทัวร์ชม “ห้อง” เสมือนจริง  เมื่อเข้าสู่ “ล็อบบี้” ผู้ใช้สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติของบริษัทได้  ห้องเสมือนจริงอื่นๆ ได้แก่ “Pink Plaza” ซึ่งสำรวจค่านิยมของบริษัทและ “Innovation Center” ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของ Mary Kay และจัดแสดงคุณประโยชน์และส่วนผสมที่สำคัญของผลิตภัณฑ์  แพลตฟอร์มนี้ยังให้ผู้ใช้เพิ่มผลิตภัณฑ์ Mary Kay ที่ชื่นชอบลงใน Wishlist เพื่อแชร์กับที่ปรึกษาด้านความงามอิสระของผู้ใช้

“การเปิดตัว Suite 13TM เป็นผลมาจากความคิดสร้างสรรค์ ความหลงใหล และความมุ่งมั่นหลายเดือนในการจัดหาเครื่องมือที่ดีที่สุดและเป็นนวัตกรรมใหม่ที่สุดในตลาดให้ที่ปรึกษาด้านความงามของ Mary Kay เพื่อช่วยในการจัดการธุรกิจของพวกเขา” Sheryl Adkins-Green หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ Mary Kay Inc. “ปัจจุบันเทคโนโลยีเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ต้องการค้นพบ เรียนรู้ และค้นหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทางออนไลน์  Suite 13TM จะช่วยให้ที่ปรึกษาด้านความงามอิสระของ Mary Kay มีความยืดหยุ่นในธุรกิจดิจิทัลโดยสามารถแนะนำแบรนด์ Mary Kay ของเราได้ทุกที่ทุกเวลาเพื่อยกระดับการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วยการแบ่งปันประสบการณ์ความงามที่น่าประทับใจ  เพื่อให้ได้รับชัยชนะในสภาพแวดล้อมที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลแบบใหม่นี้เราจะยังคงค้นหาวิธีการใหม่ๆ ในการเชื่อมต่อกับผู้คนเพื่อสร้างประสบการณ์การแบบสัมผัสต่ำที่เป็นส่วนตัวโดยใช้นวัตกรรมไฮเทค”

สำหรับการออกแบบ Suite 13TM นั้น Mary Kay ได้ร่วมมือกับ Obsess แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำที่ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถสร้างประสบการณ์เสมือนจริงแบบโต้ตอบออนไลน์โดยใช้ความเป็นจริงเสมือน  นำโดยผู้ประกอบการหญิง Neha Singh, Obsess ได้ทำงานร่วมกับแบรนด์ความงามและแฟชั่นระดับโลกอื่นๆ เพื่อสร้างประสบการณ์เสมือนจริงที่น่าจดจำสำหรับผู้บริโภค เพื่อให้เป็นไปตามพันธกิจในการเสริมสร้างชีวิตของผู้หญิง ออกจากนี้ Mary Kay ยังร่วมมือกับช่างภาพหญิงหลายคนเพื่อผลิตภาพที่แสดงในแพลตฟอร์มเสมือนจริง

“Suite 13 TM เป็นการนำประสบการณ์ความงามของ Mary Kay มารวมกันในรูปแบบที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับที่ปรึกษาด้านความงามอิสระและลูกค้าของพวกเขา” Neha Singh ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Obsess กล่าว “ด้วย Suite 13TM ทีม Mary Kay ได้ดูแลทุกรายละเอียดของแพลตฟอร์มเพื่อให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในโชว์รูมเสมือนจริงของ Mary Kay  แพลตฟอร์มของเราช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถสร้างประสบการณ์เสมือนจริงที่ดึงดูดสายตาและน่าดื่มด่ำซึ่งกำลังปฏิวัติวิธีการมีส่วนร่วมกับลูกค้าและเรารู้สึกตื่นเต้นที่ลูกค้าของ Mary Kay จะได้ค้นพบ เรียนรู้และ โต้ตอบกับแบรนด์ในสภาพแวดล้อมดิจิทัลใหม่ๆ ต่อไป”

Suite 13 TM เปิดตัวครั้งแรกในเม็กซิโกในปี 2564 ตามด้วยบราซิล อาร์เจนตินา สเปน โคลอมเบีย และเปรู  บริษัทคาดว่าจะเปิดตัวแพลตฟอร์มในตลาดส่วนใหญ่ภายในสิ้นปี 2564   Mary Kay เป็นบริษัทแรกที่เปิดตัวประสบการณ์เสมือนจริงประเภทนี้ในอุตสาหกรรมของตน  Suite 13 เป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีล่าสุดโดย Mary Kay และ Mary Kay Global Design Studio เท่านั้น  Mary Kay เปิดตัว Mary Kay® Skin Analyzer ซึ่งเป็นแอพที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการแนะนำผิวหน้าด้วยปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงและอิงตามหลักวิทยาศาสตร์เพื่อช่วยให้ที่ปรึกษาด้านความงามอิสระสามารถจัดหาสูตรการดูแลผิวที่กำหนดเองของผลิตภัณฑ์ Mary Kay ได้ด้วยการสแกนผิวอย่างรวดเร็ว  อีกหนึ่งนวัตกรรม Mary Kay® MirrorMe™ Web ช่วยให้ลูกค้าสามารถ “ทดลองใช้ก่อนซื้อ” ได้โดยตรงจากเว็บไซต์ของที่ปรึกษาด้านความงามอิสระโดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง  MirrorMe™ พร้อมใช้งานสำหรับอุปกรณ์ iOS และ Android

เกี่ยวกับ Mary Kay

หนึ่งในผู้ทลายเพดานแก้วรายแรก Mary Kay Ash ก่อตั้งบริษัทความงามของเธอเมื่อเกือบ 60 ปีที่แล้วโดยมีเป้าหมาย 3 ประการคือ พัฒนาโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น  ความฝันนั้นเบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีสมาชิกฝ่ายขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ  Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวล้ำสมัย เครื่องสำอางสี อาหารเสริม และน้ำหอม  Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขาด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่างๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการถูกล่วงละเมิดในครอบครัว สร้างความสวยงามให้ชุมชนของเรา และสนับสนุนให้เด็กๆ ทำตามความฝัน  วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายในทุกลิปสติก

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210415005306/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate

Communications Marykay.com/newsroom

(+1) 972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


Platform as a Service (PaaS) ของ Sangfor ช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

Logo

Sangfor Technologies ประกาศแพลตฟอร์ม Sangfor HCI & SCP (Sangfor Cloud Platform) เวอร์ชันล่าสุด 6.2.0 ซึ่งตอนนี้มีความสามารถในการทำ Platform as a Service (PaaS) ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Platform as a Service (PaaS) ของ Sangfor ช่วยให้ลูกค้าจัดการ พัฒนา และใช้งานแอปพลิเคชันโดยไม่ต้องสร้างหรือบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานแบบดั้งเดิมที่ซับซ้อน  Platform as a Service (PaaS) มอบเครื่องมือเฉพาะที่ออกแบบมาเพื่อทดสอบ พัฒนา แอปพลิเคชันได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ฟังก์ชันนี้ช่วยให้ผู้ดูแลระบบขององค์กรสามารถมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาแทนที่จะต้องใส่ใจกับโครงสร้างพื้นฐานที่ซับซ้อน  นอกจากนี้ Platform as a Service (PaaS) ยังช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการความปลอดภัย ระบบปฏิบัติการ ซอฟต์แวร์ การสำรองข้อมูลและฟังก์ชั่นที่จำเป็นในการเปิดใช้งานสภาพแวดล้อมการทำงานร่วมกันทั้งด้วยตนเองและจากระยะไกล

เทคโนโลยีคอนเทนเนอร์และ Kubernetes ทำให้ Platform as a Service (PaaS) กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของโครงสร้างเครือข่ายองค์กร  ทาง Sangfor ได้สร้างแพลตฟอร์มแบบรวมสำหรับทั้งแอปพลิเคชันที่ใช้คอนเทนเนอร์บน VM แบบดั้งเดิมและบนคลาวด์ไว้ภายใต้ระบบเดียวกัน และด้วย GUI ที่ใช้งานง่ายของ Sangfor KubeManagers ช่วยให้นักพัฒนาสามารถบริหารจัดการระบบ Micro Service ได้อย่างง่ายดายในขณะที่ผู้ปฏิบัติงานดูแลการจัดการ VM แบบดั้งเดิม (Traditional) ด้วย SCP

ฟังก์ชั่นที่เหนือกว่าที่มีให้สำหรับลูกค้าโดย Sangfor Platform as a Service (PaaS) และ HCI ได้แก่ :

  • สามารถบริหารจัดการ Multi-Cluster บนระบบ Kubernetes ได้
  • สามารถตรวจสอบและบันทึกข้อมูลบนระบบ Kubernetes ได้
  • ทำงานร่วมกับระบบจัดเก็บข้อมูล (Image Registry) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงและใช้งานภายในองค์กร
  • เพิ่มความสะดวกในการ Deploy Application ผ่าน Application Store
  • สามารถใช้งาน Container ร่วมกับ Virutal Storage ของ Sangfor ผ่าน Container Storage Interface (CSI) ได้
  • สนับสนุนการเข้ารหัสข้อมูลภายใน Disk
  • สนับสนุนการทำ Hybrid-Disk และ All Flash ภายใน Cluster เดียวกัน
  • เพิ่มความสามารถในการรวม Interface Function เพื่อลดจำนวนในการใช้งาน Interface
  • สามารถทำการทดสอบ DR เพื่อตรวจสอบความพร้อมใช้งานของแอปพลิเคชั่นและข้อมูลได้
  • สามารถคาดการณ์ความจุของพื้นที่ Storage สำหรับการใช้งานและการวางแผนในอนาคตได้

"เราทราบดีว่าธุรกิจต่างๆ ต้องพึ่งพาระบบคลาวด์เพื่อการดำเนินงานที่ง่ายรวดเร็ว" Jason Yuan รองประธานฝ่ายตลาดระหว่างประเทศของ Sangfor Technologies กล่าว "แพลตฟอร์มของเราเป็นบริการที่สร้างขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากลูกค้าและคู่ค้าของเราที่ได้แบ่งปันความต้องการด้านไอทีของพวกเขา จึงเกิดเป็น Sangfor HCI พร้อมกับ PaaS ภารกิจของเราคือการนำสิ่งที่ดีที่สุดและล้ำสมัยที่สุดที่โลกไอทีแล้วทำให้เร็วขึ้นและปลอดภัยขึ้น”

ทำไมต้อง Sangfor

Sangfor Technologies เป็นผู้จำหน่ายโครงสร้างพื้นฐานไอทีชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เชี่ยวชาญด้าน ความปลอดภัยของเครือข่าย และการประมวลผลแบบคลาวด์  เยี่ยมชมเราได้ที่ www.sangfor.com เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Sangfor และให้ Sangfor ทำให้การไอทีของคุณง่าย ปลอดภัย และมีคุณค่ามากขึ้น

ในขณะที่หลายคนปล่อยให้สถานการณ์ของปี 2563 เป็นตัวกำหนดอนาคตตลอดทั้งปี  แต่ในมุมกลับกัน Sangfor ใช้ปี 2563 นี้สร้างสรรค์และอัปเดตบริการคลาวด์และความปลอดภัยที่เป็นตัวเอกอยู่แล้วรวมถึงการเพิ่มความสามารถของ Platform as a Service (PaaS) เข้ามาในผลิตภัณฑ์ Sangfor HCI

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210201005304/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย