Tag Archives: security

Hillstone Networks ได้รับการรวมอยู่ในรายงานภาพรวมแผนผังโซลูชัน Security Service Edge

Logo

โซลูชัน ZTNA ของ Hillstone Networks ติดอันดับในภาพรวม SSE ของกลุ่มบริษัทผู้ดำเนินการวิเคราะห์

SANTA CLARA, Calif.–(BUSINESS WIRE)–13 ธันวาคม 2023

Hillstone Networks ผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ได้รับการรวมอยู่ในรายงานภาพรวมโซลูชัน Security Service Edge สำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2023 รายงาน Forrester นำเสนอภาพรวมของแผนผังทางตลาดสำหรับโซลูชัน Security Service Edge (SSE) ซึ่งได้รับการปรับใช้เพื่อเสริมความสามารถในการเช้าถึงแอปและข้อมูลแบบ Zero Trust และเพื่อรักษาความปลอดภัยสำหรับการทำงานจากระยะไกล รายงานมุ่งเน้นประเด็นสำคัญต่างๆ เช่น คำจำกัดความของตลาด มูลค่าทางธุรกิจ ความพร้อมทางการตลาด ไดนามิก ผู้จำหน่ายที่โดดเด่น กรณีการใช้งานยอดนิยม ฟังก์ชันการทำงานตามกรณีการใช้งาน และการมุ่งเน้นของผู้ขายสำหรับกรณีการใช้งานที่ขยายเพิ่มเติม

“โซลูชัน SSE ช่วยแก้ไขปัญหาที่แท้จริงสำหรับช่องว่างด้านความปลอดภัยในระบบเครือข่ายที่มีการขยายตัวสูงขึ้น” Tim Liu, CTO และผู้ร่วมก่อตั้ง Hillstone Networks กล่าว “โซลูชัน ZTNA ของ Hillstone นำเสนอการป้องกันแบบ zero trust โดยเป็นส่วนหนึ่งของโซลูชัน SSE ซึ่งมอบการรักษาความปลอดภัยที่จำเป็นสำหรับการทำงานทั้งแบบไฮบริดหรือจากระยะไกล ปกป้องแอปพลิเคชันและข้อมูลโดยไม่คำนึงถึงการใช้งาน – ตั้งแต่ Edge ไปจนถึงคลาวด์”

ด้วยโมเดลการทำงานจากระยะไกลและแบบไฮบริดมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ขอบเขตเครือข่ายแบบดั้งเดิมจึงมีประสิทธิภาพน้อยลง CISO จึงมีหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงทรัพย์สินขององค์กรจากหลากหลายสถานที่ ตั้งแต่เครือข่ายในมหาวิทยาลัย ไปจนถึงสำนักงานสาขา บ้านของพนักงาน และแม้กระทั่งเครือข่ายมือถือสาธารณะ เพื่อตอบสนองความท้าทายในความต้องการเข้าถึงทรัพยากรขององค์กรจากอุปกรณ์ทุกเครื่อง ทุกที่ ทั้งแบบไฮบริดและจากระยะไกล ชุดโซลูชัน Edge ของ Hillstone จึงมีการรวมเทคโนโลยีการเข้าถึงเครือข่ายแบบ zero-trust (ZTNA) โดย ZTNA จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงที่ตั้งของผู้ใช้ เพื่อให้เหมาะสมกับลักษณะการกระจายตัวในการทำงานของพนักงานในปัจจุบัน และป้องกันปริมาณการใช้งานของแอปพลิเคชัน ปกป้องข้อมูลขององคกร และสามารถเข้าถึงจากระยะไกล

โซลูชัน ZTNA ของ Hillstone สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มไฟร์วอลล์ระดับแนวหน้า และมอบความสามารถในการให้สิทธิ์การเข้าถึงได้อย่างละเอียดตามข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้และอุปกรณ์ สามารถตรวจสอบการใช้งานของอุปกรณ์อย่างต่อเนื่อง ช่วยเสริมการควบคุมสิทธิ์การใช้งานได้อย่างแม่นยำ และทำให้เป็นโซลูชัน SSE ในอุดมคติ

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ โซลูชัน ZTNA ของ Hillstone

เกี่ยวกับ Hillstone Networks

Hillstone Networks เป็นผู้นำด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ นำเสนอการป้องกันทางเชิงลึกและเชิงกว้างสำหรับบริษัททุกขนาด ตั้งแต่ Edge ไปจนถึงคลาวด์ และรองรับทุกปริมาณการใช้งาน แนวทางการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เชิงบูรณาการของ Hillstone Networks นี้ นำเสนอขอบเขตความครอบคลุม การควบคุม และการรวมระบบสำหรับองค์กรมามากกว่า 26,000 แห่งทั่วโลกแล้ว www.hillstonenet.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Zeyao Hu
+1 4085086750
inquiry@hillstonenet.com

แหล่งข้อมูล: Hillstone Networks

Milrem Robotics จัดแสดง RCV ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ล้ำสมัยที่สุดในนิทรรศการ Defense & Security ในกรุงเทพ

Logo

กรุงเทพ–(BUSINESS WIRE)–6 พฤศจิกายน 2023

ในนิทรรศการ Defense & Security ที่กรุงเทพ Milrem Robotics ผู้พัฒนาหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติชั้นนำของยุโรป มีการจัดแสดงยานรบหุ่นยนต์ต่อสู้อัตโนมัติ (RCV) THeMIS ที่ล้ำสมัยที่สุด ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการสนับสนุนการต่อสู้และการรบในสนามรบ เช่น การอพยพผู้บาดเจ็บ การขนส่ง และ ISR และช่วยลดความต้องการกำลังคนในขณะเดียวกัน

The THeMIS Robotic combat vehicle with MIFIK can be utilized for a wide range of missions, including logistics  support, casualty evacuation, reconnaissance, and combat operations, making it an invaluable asset for modern armed forces. The vehicle can be found an stand number J17. (Photo: Business Wire)

ยานรบหุ่นยนต์ต่อสู้ THeMIS พร้อม MIFIK สามารถนำไปใช้ในภารกิจต่างๆ รวมถึงการสนับสนุนด้านการขนส่ง การอพยพผู้บาดเจ็บ การลาดตระเวน และการปฏิบัติการรบ ช่วยให้เป็นทรัพย์สินที่ประเมินค่าไม่ได้สำหรับทางกองทัพสมัยใหม่ ยานรบนี้สามารถพบได้ที่บูธหมายเลข J17 (Photo: Business Wire)

ตั้นแต่ปี 2019 เมื่อ THeMIS RCV เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย และต่อมาได้ผ่านการทดสอบโดยสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศและกองทัพบกไทย Milrem Robotics ได้รวบรวมความคิดเห็นของลูกค้าในการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ เพื่อให้สามารถใช้งาน RCV ในสนามรบแบบอัตโนมัติ

THeMIS RCV เปิดตัวในนิทรรศการ Defense & Security 2023 ได้รับการพัฒนาความสามารถด้านการใช้งานอัตโนมัติจากชุดฟังก์ชันอัจฉริยะของ Milrem Robotics หรือเรียกย่อว่า MIFIK โดยใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์และอัลกอริธึมการเรียนรู้ของเครื่องจักรที่ล้ำสมัย และช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนดการดำเนินงานของยานพาหนะให้ทำงานอัตโนมัติในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ช่วยลดความจำเป็นในการสั่งงานจากมนุษย์ลงได้เป็นอย่างมาก

ยานรบหุ่นยนต์พร้อม MIFIK สามารถนำไปใช้ในภารกิจต่างๆ รวมถึงการสนับสนุนด้านการขนส่ง การอพยพผู้บาดเจ็บ การลาดตระเวน และการปฏิบัติการรบ ช่วยให้เป็นทรัพย์สินที่ประเมินค่าไม่ได้สำหรับทางกองทัพสมัยใหม่ THeMIS RCV จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติการทางทหาร ในขณะเดียวกัน ก็จะลดความจำเป็นในการใช้กำลังคนจำนวนมากด้วยเช่นกัน ด้วยการทำงานตามปกติที่เป็นไปแบบอัตโนมัติและการเสริมขีดความสามารถในการสู้รบ

นอกจากนี้ ยังรวมถึงมาตรการด้านความปลอดภัยที่ได้รับการปรับปรุงโดยเซ็นเซอร์ขั้นสูง ระบบจดจำและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง และความสามารถในการสื่อสารแบบเรียลไทม์ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของยานพาหนะและบรรลุภารกิจให้สำเร็จ

ความมุ่งมั่นของ Milrem Robotics ในด้านนวัตกรรมและความเป็นเลิศส่งผลให้เกิดการพัฒนา RCV เพื่อเปลี่ยนแปลงการดำเนินการงานด้านการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยทั่วโลก เป้าหมายของเราคือ การเสริมกำลังกองทัพด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยซึ่งรับรองความปลอดภัยของบุคลากรและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินภารกิจ” Kuldar Väärsi, CEO ของ Milrem Robotics กล่าว

RCV ระบบอัตโนมัติขั้นสูงของเราแสดงถึงอนาคตของการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและการรักษาความปลอดภัย ด้วยระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้สามารถลดความต้องการกำลังคนลงได้ และเพิ่มขีดความสามารถของการปฏิบัติภารกิจ จึงทำให้สามารถช่วยให้ทางกองทัพสามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น” เขากล่าวเสริม

Milrem Robotics คือ ผู้พัฒนาและผู้วางระบบหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติชั้นนำของยุโรป มีสำนักงานในเอสโตเนีย ฟินแลนด์ สวีเดน เนเธอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา บริษัทมีชื่อเสียงในด้าน THeMIS และ Multiscope UGV รวมถึง Type-X Robotic Combat Vehicle และ MIFIK

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53715047/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
Gert Hankewitz
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและควบคุมการส่งออก
gert.hankewitz@milrem.com

แหล่งข้อมูล: Milrem Robotics

Powered by Business Wire

Cyble เปิดตัวโปรแกรม Managed Security Service Provider (MSSP) โดยเฉพาะ เพื่อเพิ่มศักยภาพของ MSSPs ชั้นนำของอุตสาหกรรม

Logo

แพลตฟอร์ม MSSP ที่ได้รับบริการจัดการของ Cyble ให้การมองเห็นแบบ 360 องศาแก่ลูกค้า ของแนวภัยคุกคาม

อัลฟาเรตตา, จอร์เจีย–(BUSINESS WIRE)–15 มิ.ย. 2565

Cyble ซึ่งเป็นผู้นำ ในด้านข่าวกรองภัยคุกคามทางไซเบอร์ทั่วโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Y Combinator มีความภูมิใจที่จะประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์มข่าวกรองภัยคุกคามล่าสุดสำหรับ Managed Security Service Providers (MSSP) ด้วยการใช้แพลตฟอร์มใหม่นี้ พันธมิตร Cyber MSSP สามารถได้รับประโยชน์จากแดชบอร์ดที่มีความครอบคลุม ซึ่งประกอบด้วยข่าวกรองภัยคุกคามขั้นสูงและการตรวจสอบและบรรเทาอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะเป็นเครื่องมือในการช่วยให้ทั้งลูกค้าและคู่ค้าสามารถทำงานควบคู่กันไปเพื่อการบรรลุเป้าหมายด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้

แพลตฟอร์มดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้พันธมิตร MSSP ของ Cyble ได้รับการควบคุมที่ดียิ่งขึ้นเพื่อการจัดหา กำหนดค่า และตรวจสอบบริการทั้งหมดที่มีให้โดย Cyble Vision ในฐานะที่เป็นชุดซอฟต์แวร์สำหรับลูกค้า การอัปเดตใหม่นี้นำเสนอคุณลักษณะต่าง ๆ เช่น คอนโซลการจัดการแบบผู้ดูแลระบบหลายคน การเข้าถึงแดชบอร์ดของผู้ใช้อย่างราบรื่นเพื่อให้เข้าใจการกระจายสินค้าและการเป็นเจ้าของของลูกค้าได้ง่ายขึ้น แดชบอร์ดและคอนโซลสำหรับการเข้าถึงส่วนกลาง และความสามารถในการจัดการและบำรุงรักษาแดชบอร์ดของผู้ใช้จากบัญชีของตนเอง นอกจากนี้ ยังช่วยให้สามารถติดตามการแจ้งเตือนลูกค้าทั้งหมดได้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการแทรกแซงตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อปกป้องทรัพย์สินและผลประโยชน์ของลูกค้า

Cyble Vision ซึ่งเป็นโซลูชั่นระดับองค์กรแบบที่ใช้ SaaS ของบริษัท โดยมีการใช้เทคโนโลยี AI และ ML ที่เป็นกรรมสิทธิ์เพื่อเพิ่มข้อมูลภัยคุกคามและแจ้งเตือนผู้ใช้ด้วยบริบทที่เพียงพอเพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงทางไซเบอร์และใช้มาตรการบรรเทาผลกระทบที่เหมาะสม วัตถุประสงค์เฉพาะของที่ Cyble คือการทำให้การป้องกันความเสี่ยงทางดิจิทัลเป็นสิ่งที่ลูกค้าจัดการได้เอง ผ่านการผสมผสานระหว่างระบบอัตโนมัติ การวิเคราะห์ของมนุษย์ และนวัตกรรม

Manish Chachada COO และผู้ร่วมก่อตั้ง Cyble กล่าวว่า “การเปิดตัวโปรแกรม MSSP ของเราซึ่งถือเป็นการพัฒนาที่สำคัญในการเดินทางของ Cyble จะช่วยให้พันธมิตรของเราสามารถขยายข้อมูลภัยคุกคามต่อ Cyble การบริการป้องกันความเสี่ยงทางดิจิทัลและความสามารถในการตรวจสอบ darkweb และอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตให้กับลูกค้าทั่วโลก เพื่อให้มั่นใจว่ามีการผสานรวมกับสภาพแวดล้อมของลูกค้าอย่างราบรื่น เรามุ่งมั่นอย่างเต็มที่สำหรับความต้องการของลูกค้าและคู่ค้าของเรา ความสามารถของโปรแกรม MSSP ของเราในการจัดหาแดชบอร์ดที่ใช้งานง่ายเพียงรายการเดียวให้กับผู้ใช้สำหรับการจัดการภัยคุกคามโดยการใช้ AI การไล่ล่าภัยคุกคามขั้นสูง และการบรรเทาผลกระทบ ต่างเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างต่างไปจากบริษัทคู่แข่งรายอื่น ”

“การเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับองค์กร เนื่องจากปัจจุบันความต้องการที่ไม่เคยมีมาก่อนในการจัดการกำจัดภัย การตอบสนองต่อเหตุการณ์ การให้คะแนนความเสี่ยงของบุคคลที่สาม และการเฝ้าติดตามความเสี่ยงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เป็นต้น โปรแกรม MSSP จะปูทางสำหรับการประหยัดต้นทุนด้วย ROI และการเข้าถึงของทัศนวิสัยที่ดีขึ้น ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน การควบคุม และระบบข่าวกรอง ที่ดำเนินการได้สำหรับลูกค้าของพันธมิตรของเรา” Mandar Patil รองประธานฝ่ายการตลาดระหว่างประเทศและความสำเร็จของลูกค้าที่ Cyble กล่าว

แพลตฟอร์ม MSSP มาพร้อมกับความสามารถในการตรวจจับภัยคุกคามที่อัปเกรดแล้วซึ่งสนับสนุนโดยนวัตกรรมที่ใช้ AI ความสามารถในการปรับขนาดที่ไม่จำกัด แพลตฟอร์มเปิดที่มีความสามารถในการผสานรวมอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ภายใต้ข้อบังคับความเป็นส่วนตัวของ GDPR ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวถูกประกาศออกมาไม่นานหลังจากการประกาศล่าสุดของ Cyble เกี่ยวกับการเป็นผู้ชนะใน 8 หมวดหมู่ของรางวัล Global InfoSec ประจำปีอันทรงเกียรติครั้งที่ 10 โดยนิตยสาร Cyber Defense Magazine (CDM) ซึ่งเป็นนิตยสารชั้นนำด้านการรักษาความปลอดภัยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของอุตสาหกรรม

“เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่จะเผยแพร่โมดูลหลักนี้ให้กับฐานพันธมิตรที่กว้างขึ้น และแทบรอไม่ไหวที่จะช่วยชุมชนองค์กรขนาดใหญ่ นี่คือผลลัพธ์ของการทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อออกแบบโซลูชันที่ปรับปรุงการตรวจจับภัยคุกคามและความสามารถในการบรรเทาเชิงรุกของลูกค้าของเรา คู่ค้า MSSP มองหาโซลูชันที่ปลอดภัย ครอบคลุม ใช้งานง่าย และปลอดภัย ที่ให้ข้อมูลภัยคุกคามและการป้องกันความเสี่ยงทางดิจิทัลที่ดีที่สุด โซลูชันของเราตอบโจทย์นั้น! เรามีความตื่นเต้นมาก ๆ และเราตั้งตารอที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับคู่ค้า MSSP เชิงยุทธศาสตร์ เพิ่มไปจากการเป็นพันธมิตรใหม่ทั่วโลกไปอีก” Beenu Arora ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Cyble กล่าว

เกี่ยวกับ Cyble

Cyble เป็นผู้ให้บริการ SaaS อัจฉริยะด้านภัยคุกคามระดับโลกที่ช่วยให้องค์กรปกป้องตนเองได้ จากอาชญากรรมในโลกไซเบอร์และการเปิดเผยบนเว็บ Surface, Deepweb และ Darkweb จุดเน้นหลักของ คือการช่วยให้องค์กรมองเห็นรอยเท้าความเสี่ยงทางดิจิทัลแบบเรียลไทม์ Cyble ได้รับการสนับสนุนจาก Blackbird Ventures, Xoogler และ Y Combinator ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ฤดูหนาวปี 2564 Cyble ยังได้รับการยอมรับจาก Forbes ให้เป็นหนึ่งใน 20 สุดยอดบริษัทสตาร์ทอัพด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ พร้อมกับการยอมรับในอุตสาหกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย Cyble มีสำนักงานใหญ่อยู่ในจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา และยังมีสำนักงานในดูไบ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ และอินเดีย Cyble มีสำนักงานอยู่ทั่วโลก

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Cyble โปรดไปที่ www.cyble.com.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220615005617/en/

ติดต่อ:

สอบถามสื่อ Cyble

อีเมล: enquiries@cyble.com

โทร: +1 678 379 3241

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

LDRA ประกาศการประชุมสุดยอดความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยระบบฝัง หรือ Embedded Safety & Security Summit (ESSS) 2565 ซึ่งเป็นงานแบบออนไลน์ อีกครั้งหนึ่ง เพื่อเปิดให้ผู้ชมทั่วโลกได้รับชมมากขึ้น

Logo

การประชุมชั้นนำระดับโลกครั้งที่ 7 จะจัดขึ้นในวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2565 ในหัวข้อ “การออกแบบระบบฝังตัวด้วยความคล่องตัว คุณภาพ ความมั่นคง และความปลอดภัย”

บังคาลอร์ อินเดีย–(BUSINESS WIRE)–9 พ.ย. 2564

LDRA ร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมและสมาคมต่าง ๆ ประกาศในวันนี้ว่างาน Embedded Safety & Security Summit (ESSS) 2565 ครั้งที่ 7 จะจัดขึ้นในวันที่ 15 มิถุนายน ในหัวข้อ “การออกแบบระบบสมองกลในระบบฝังตัวด้วยความคล่องตัว คุณภาพ ความมั่นคง และความปลอดภัย หรือ Designing Embedded Systems with Agility, Quality, Safety & Security” การประชุมและนิทรรศการจะเป็นแบบออนไลน์เสมือนจริงเป็นปีที่สองติดต่อกัน ซึ่งจะช่วยให้มีส่วนร่วมมากขึ้นในการพัฒนา ทดสอบ และรับรองระบบฝังตัวที่สำคัญต่อภารกิจต่าง ๆ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีล่าสุด

ด้วยความพยายามอย่างต่อเนื่องในการเพิ่มขีดความสามารถของชุมชนระบบฝังตัวและการเข้าถึงผู้ชมทั่วโลก ESSS 2565 มาพร้อมกับเซสชันให้ความรู้พิเศษ ได้แก่ แพลตฟอร์มออนไลน์แบบโต้ตอบ และการผสมผสานที่ลงตัวของเพื่อนร่วมงานในอุตสาหกรรมสำหรับการสร้างเครือข่าย โดย งานมุ่งเน้นไปที่สี่เส้นทางอุตสาหกรรม: การบินและการป้องกัน, ยานยนต์, อุตสาหกรรม และการแพทย์

Ian Hennell ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ LDRA กล่าวว่า “ไม่ว่าจะทางออนไลน์ หรือออฟไลน์  ESSS ช่วยให้เราสามารถสานต่อความพยายามของเราในการสนับสนุนอุตสาหกรรมระบบฝังตัวที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงและความปลอดภัยของการใช้งาน” “การประชุมที่ครอบคลุมครั้งนี้ให้ความรู้และทำให้ชุมชนทราบเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความจำเป็นในการสร้างคุณภาพในระบบแห่งอนาคต”

ESSS 2565 จะรวมเนื้อหาที่ให้โอกาสมีส่วนร่วมและที่ให้ข้อมูล ซึ่งรวมถึงการอภิปรายในหัวข้อ “การพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยมาตรฐานในโลกที่คล่องตัว” นอกจากนี้ยังจะรวมถึงเซสชันที่เป็นประเด็นสำคัญของอุตสาหกรรม และเซสชันทางเทคนิคที่กล่าวถึงชุมชนระบบฝังตัวทุกประเภท ตั้งแต่วิศวกรซอฟต์แวร์ ผู้มีอำนาจตัดสินใจ ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรอง ไปจนถึงตัวแทนจากรัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแล

Shinto Joseph ผู้อำนวยการ – South East Asia Operation, LDRA และผู้ประสานงานของ ESSS กล่าวว่า “ESSS 2565 จะรวบรวมผู้นำจากภาครัฐ นวัตกรรมเทคโนโลยี องค์กรธุรกิจ และมาตรฐาน เพื่อนำเสนอสถานะของการปฏิบัติงานและนวัตกรรมที่ช่วยผู้เชี่ยวชาญในการใช้ประโยชน์จาก เทคโนโลยีอัจฉริยะ การอภิปรายเกี่ยวกับการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยมาตรฐานในโลกที่คล่องตัวจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการเจาะจงเกี่ยวกับปัญหาที่ใกล้จะเกิดขึ้นที่อุตสาหกรรมต่าง ๆ กำลังจะเผชิญ รวมถึง EVs, UAVs, IIoTs, ระบบอัตโนมัติ เป็นต้น”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโอกาสในการสนับสนุน การส่งเอกสาร และการลงทะเบียนสำหรับ ESS 2565 โปรดไปที่ www.embedded-safety-security.com.

เกี่ยวกับ LDRA

กว่า 40 ปีแล้วที่ LDRA ได้พัฒนาและขับเคลื่อนตลาดซอฟต์แวร์ที่ทำการวิเคราะห์โค้ดและทดสอบซอฟต์แวร์โดยอัตโนมัติสำหรับตลาดด้านความปลอดภัย ภารกิจ ความมั่นคง และตลาดที่มีความสำคัญทางธุรกิจ การทำงานกับลูกค้าเพื่อให้ระบุและกำจัดข้อผิดพลาดได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และการปฏิบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรมอย่างครบถ้วน LDRA ติดตามข้อกำหนดผ่านการวิเคราะห์แบบสถิตและไดนามิก ไปจนถึงการทดสอบยูนิตและการตรวจสอบสำหรับแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่หลากหลาย ด้วยการเป็นที่รู้จักทั่วโลก LDRA มีสำนักงานใหญ่ในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา เยอรมนี และอินเดีย ควบคู่ไปกับเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายที่กว้างขวาง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชุดเครื่องมือ LDRA โปรดไปที่ http://www.ldra.com/.

เกี่ยวกับ ESSS®

การมุ่งเน้นไปที่ด้านความมั่งคงและการรักษาความปลอดภัยของระบบฝังตัวที่สำคัญ ทำให้ Embedded Safety & Security Summit (ESSS) เป็นเวทีพิเศษเฉพาะสำหรับชุมชนระบบฝังตัวทั้งหมดเพื่อเรียนรู้ โต้ตอบ และสร้างการเติบโต โดยทาง LDRA ขับเคลื่อนความคิดริเริ่มที่ประสบความสำเร็จด้วยการสนับสนุนจากพันธมิตร ลูกค้า หน่วยงานอุตสาหกรรมและวิชาชีพ และหน่วยงานรัฐบาล เรียนรู้เพิ่มเติมที่www.embedded-safety-security.com.

ผู้อ่านสามารถส่งคำถามไปที่:

Mark James

อีเมล: mark.james@ldra.com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20211108006207/en/

สื่อ:

Kelly Wanlass, Hughes Communications, Inc., ฝ่ายสื่อสัมพันธ์

โทร: +1 (801) 602-4723, อีเมล: kelly@hughescom.net

Mark James, LDRA, ผู้จัดการฝ่ายการตลาด

โทร: +44 (0) 151 649-9300, อีเมล: mark.james@ldra.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย