Tag Archives: android

Hytera เปิดตัว PDC690 วิทยุ Dual-Mode บนระบบ Android เสริมศักยภาพการสื่อสารภารกิจสำคัญ

Logo

เซินเจิ้น ประเทศจีน –(BUSINESS WIRE)–21 ตุลาคม 2025

Hytera คือผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชันการสื่อสารระดับมืออาชีพชั้นนำระดับโลก วันนี้ทางบริษัทได้ทำการเปิดตัว PDC690 วิทยุแบบ Dual-Mode ที่ทนทานซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของมืออาชีพระดับแนวหน้า โดย PDC690 ผสานความสามารถของสมาร์ทโฟนเข้ากับความเชื่อมั่นของวิทยุสื่อสารสองทางที่เป็นเสมือน lifeline ของผู้ปฏิบัติงาน โดยรวมการสื่อสารทั้งเสียงและข้อมูลภารกิจไว้ในอุปกรณ์เดียว ช่วยให้ทีมสามารถเชื่อมต่อ รับข้อมูล และพร้อมปฏิบัติภารกิจภาคสนามได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Hytera Dual-Mode Rugged Radio PDC690

วิทยุ PDC690 ที่ทนทานแบบ Dual-mode ของ Hytera

เจ้าหน้าที่ด่านหน้าต้องการการสื่อสารที่ไว้ใจได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอุปกรณ์หรือเครือข่าย” กล่าวโดย Chris Ma ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ Hytera Smart Terminal BU “PDC690 มาพร้อมการเชื่อมต่อหลายโหมดที่เสถียร เสียงคมชัด การระบุตำแหน่งที่แม่นยำ การชาร์จผ่าน USB Type-C และระบบบริหารจัดการอุปกรณ์ที่เรียบง่าย ช่วยให้ทีมสามารถโฟกัสกับการปฏิบัติงานและการช่วยชีวิตได้เต็มที่

การเชื่อมต่อและการทำงานร่วมกันที่ยืดหยุ่น

PDC690 สามารถใช้งานร่วมกับ Narrowband Trunking, WLAN และ เครือข่าย LTE สาธารณะและส่วนตัว โดยวิทยุจะเลือกเครือข่ายที่เหมาะสมที่สุดอย่างชาญฉลาดโดยพิจารณาจากความแรงของสัญญาณและบริบทในการทำงาน ตัววิทยุสามารถรักษาการเชื่อมต่อเสียงและมัลติมีเดียแบบเรียลไทม์ได้แม้ในสภาวะที่สัญญาณอ่อนแรง โดยการใช้โซลูชั่นที่รวดเร็วของ Hytera ซึ่งประกอบไปด้วยเครือข่ายเฉพาะกิจ ณ จุดเกิดเหตุและการทำงานแบบ Direct-Mode นอกจากนี้อุปกรณ์ยังสามารถทำงานร่วมกับระบบของบุคคลที่สามได้ ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการดำเนินงานร่วมกันระหว่างระบบที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งคงไว้ซึ่งความคุ้มค่าของการลงทุนเดิมของสถาบัน

การรับรู้สถานการณ์และมัลติมีเดีย

PDC690 สร้างขึ้นเพื่อเวิร์กโฟลว์ฉุกเฉินสมัยใหม่ โดยการ​ผสานระบบเสียงที่สำคัญต่อภารกิจเข้ากับการบันทึกภาพและวิดีโอบนอุปกรณ์ เพื่อการรายงานสถานการณ์และการรวบรวมหลักฐานอย่างทันที อุปกรณ์รองรับการระบุตำแหน่งภายนอกอาคารด้วยระบบ GNSS ระบบนำทางด้วยดาวเทียมจากหลายประเทศ (GPS, Galileo, GLONASS, QZSS, BDS และ A-GPS) เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการติดตามตำแหน่งในสภาพแวดล้อมกลางแจ้ง ในขณะที่การระบุตำแหน่งภายในอาคารใช้งานผ่าน LBS และ WLAN ซึ่งให้ข้อมูลตำแหน่งที่รวดเร็วและแม่นยำเพื่อปรับปรุงการประสานงานและความปลอดภัย

การออกแบบที่ทนทานและเสียงที่ยอดเยี่ยม

PDC690 สร้างขึ้นเพื่อรองรับสำหรับสภาพแวดล้อมที่รุนแรง ตรงตามมาตรฐาน MIL-STD-810G สำหรับการป้องกันการตกกระแทกและแรงกระแทก และระดับ IP68 สำหรับการป้องกันฝุ่นและน้ำ โดยตัวอุปกรณ์มาพร้อมกับน้ำหนักเบาที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ หน้าจอสัมผัสที่ตอบสนองฉับไว การชาร์จเร็วด้วย USB Type-C และรองรับการใช้งานกับพาวเวอร์แบงค์สำหรับภารกิจที่ยาวนาน ในขณะที่ประสิทธิภาพของเสียงนั้นได้รับการปรับปรุงให้เหมาะสมสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง ด้วยระบบตัดเสียงรบกวนโดย AI, ระบบป้องกันลม และฟีเจอร์ป้องกันเสียงหอนใกล้สนามในระยะ 30 เซนติเมตร ซึ่งช่วยลดเสียงสะท้อนเมื่อผู้ใช้พูดในระยะใกล้ได้

ระบบนิเวศแอนดรอยด์และการจัดการที่คล่องตัว

PDC690 ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เต็มรูปแบบ รองรับทั้งแอปพลิเคชันของ Hytera และแอปพลิเคชันจากภายนอก ทำให้สามารถรองรับการดำเนินงานภายในระบบ เช่น การสั่งการ (dispatch) ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) การจัดการเหตุการณ์ (incident management) และกระบวนการทำงานอื่น ๆ ที่สามารถปรับแต่งได้ ระบบนิเวศของอุปกรณ์เสริมที่ครอบคลุม ได้แก่ PTT ไร้สาย, ไมโครโฟนลำโพงระยะไกล และอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ ทำให้มั่นใจได้ว่าการผสานรวมจะมีความยืดหยุ่น นอกจากนี้ระบบ MDM Pro ของ Hytera จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการยานพาหนะ ด้วยการตั้งค่าและควบคุมระยะไกล, การอัปเดตเฟิร์มแวร์ OTA, การจัดการสิทธิ์, การตรวจสอบสถานะอุปกรณ์ และการแจ้งเตือนข้อผิดพลาด ที่จะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มระยะเวลาการทำงานให้สูงสุดได้

เกี่ยวกับ Hytera

Hytera Communications Corporation Limited (SZSE: 002583) คือผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชันการสื่อสารระดับมืออาชีพชั้นนำระดับโลก โดย Hytera ให้บริการผู้ใช้ทั่วโลกมากว่าสามทศวรรษด้วยนวัตกรรมวิทยุสื่อสารสองทาง ระบบสื่อสารแบบผสมผสาน PMR และ LTE ระบบสื่อสารแบบติดตั้งรวดเร็ว กล้องติดตัว ห้องควบคุม และอื่นๆ อีกมากมาย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.hytera.com/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20251020574181/en

Contacts

lele.yao@hytera.com

ที่มา: Hytera Communications Corporation Limited

แอปมือถือของ eM Client พร้อมใช้งานโดยทั่วไปแล้ว พร้อมชุดเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วย AI สำหรับ iOS และ Android

Logo

แอปครบวงจรที่รวมการสื่อสารและการจัดระเบียบเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น

ปราก–(BUSINESS WIRE)–08 ตุลาคม 2025

eM Client แอปอีเมลไคลเอ็นต์ยุคใหม่ที่สร้างขึ้นเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ได้ประกาศว่าฟีเจอร์ต่างๆ ของแอปมือถือสำหรับ iOS และ Android พร้อมใช้งานแล้ว การเปิดตัวครั้งนี้ได้นำชุดโปรแกรมเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแบบครบวงจรของบริษัทมาสู่อุปกรณ์มือถือ โดยมีการผสานรวมอีเมล ปฏิทิน รายชื่อติดต่อ งาน และบันทึกต่างๆ ไว้ในประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น แอปนี้ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือ AI ในตัวที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเขียนอีเมลและตอบกลับได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้การสื่อสารในชีวิตประจำวันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

“ด้วย eM Client สำหรับอุปกรณ์มือถือ ผู้คนไม่จำเป็นต้องจัดการหลายๆ แอปพร้อมกันเพียงเพื่อให้เป็นระเบียบอีกต่อไป” กล่าวโดย Michal Bürger ซีอีโอของ eM Client “ทุกอย่างรวมอยู่ในที่เดียว และ AI จะช่วยให้การสื่อสารและการทำงานระหว่างเดินทางรวดเร็วกว่าที่เคย เราได้ออกแบบแอปนี้เพื่อมอบประสบการณ์อันทรงพลังที่ผู้ใช้สามารถไว้วางใจได้บนเดสก์ท็อป ซึ่งตอนนี้ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับอุปกรณ์มือถือแล้ว”

ทุกสิ่งที่คุณต้องการ ทั้งหมดในแอปเดียว

ด้วยการเปิดตัวครั้งนี้ eM Client ได้รวบรวมเครื่องมือและส่วนเสริมต่างๆ ที่ผู้ใช้เรียกร้องมากที่สุดไว้ในประสบการณ์บนอุปกรณ์มือถือเพียงเครื่องเดียว โดยผู้ใช้จะได้รับประโยชน์จาก

  •  สิ่งจำเป็นในการเพิ่มประสิทธิภาพ : จัดการปฏิทิน รายชื่อติดต่อ งาน และบันทึกต่างๆ ควบคู่ไปกับอีเมลในแอปเดียว ฟีเจอร์ปฏิทินจะประกอบด้วยมุมมองหลายมุมมอง พร้อมการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์เพื่อติดตามการประชุมต่างๆ โดยรายชื่อติดต่อจะช่วยมอบการจัดการบัญชีที่ซิงโครไนซ์ การดำเนินการทันทีสำหรับการโทรหรืออีเมล รวมถึงประวัติการสื่อสารและไฟล์แนบต่างๆ นอกจากนี้ งานและบันทึกต่างๆ จะซิงค์กันเพื่อรวบรวมกำหนดเวลาและไอเดียต่างๆ ไว้ในที่เดียว
  •  ความช่วยเหลือที่ขับเคลื่อนด้วย AI : เขียนร่างหรือตอบกลับอย่างรวดเร็วด้วยเครื่องมือ AI แบบบูรณาการ จากการนำฟีเจอร์อัจฉริยะเดียวกันจากเดสก์ท็อปมาสู่อุปกรณ์มือถือ ผู้ใช้สามารถแปลหรือตรวจสอบอีเมลได้อย่างทันที สร้างข้อความปฏิเสธหรือขอข้อมูลเพิ่มเติมอย่างสุภาพได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว หรือสร้างข้อความตอบกลับแบบกำหนดเองได้ด้วยการป้อนข้อความแจ้งเตือนของตนเอง โดย AI จะช่วยปรับปรุงข้อความทั่วไปให้มีประสิทธิภาพและรับรองการตอบกลับที่เข้าใจบริบท เพื่อให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในทุกที่ทุกเวลา
  •  ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ได้รับการปรับปรุง : อินเตอร์เฟซผู้ใช้ (UI) ที่ปรับให้เหมาะกับแท็บเล็ตสำหรับ Android และ iPad จะมอบรูปแบบที่ใกล้เคียงกับเดสก์ท็อปมากขึ้น พร้อมตัวเลือกในการปักหมุดหรือการยุบแผงเพื่อการอ่านที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ขนาดตัวอักษรที่สามารถปรับได้ การจัดเรียงรายการที่ยืดหยุ่น รวมถึงการอัปเกรดประสิทธิภาพของ iOS ที่จะช่วยให้มั่นใจได้ถึงประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นและตอบสนองได้ดีในทุกอุปกรณ์

ตลาดเครื่องมือเพิ่มผลผลิต AI กำลังเติบโตอย่างมาก โดยมีสัญญาณการขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญอย่างน้อยที่สุดในช่วงปี 2030-2034 องค์กรในอุตสาหกรรมต่างๆ กำลังลงทุนในโซลูชันเหล่านี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเวิร์กโฟลว์และการสื่อสาร ด้วยการฝัง AI ลงในแอปมือถือโดยตรง ทาง eM Client จึงนำความก้าวหน้าเหล่านี้มาสู่อีเมลและการทำงานร่วมกันในชีวิตประจำวัน

ความพร้อมใช้งาน

ในตอนนี้แอปมือถือของ eM Client พร้อมให้บริการทั่วโลกแล้วสำหรับ iOS และ Android โดยผู้ใช้เดิมจะได้รับการอัปเดตโดยอัตโนมัติ ขณะที่ผู้ใช้ใหม่สามารถตั้งค่าแอปได้ภายในไม่กี่คลิก โดยระบบตรวจจับบัญชีอัตโนมัติและฟีเจอร์นำเข้าข้อมูลผ่าน QR จะช่วยให้การตั้งค่าการถ่ายโอนจากเวอร์ชันเดสก์ท็อปสามารถทำได้อย่างง่ายดาย

ต้นปีนี้ eM Client ได้เปิดตัว eM Client 10.3 พร้อมการปรับปรุง UI ในหลายๆ ด้าน รวมไปถึงการรวมฟีเจอร์ต่างๆ ที่เป็นที่ต้องการอย่างมากจากผู้ใช้ Postbox ในอดีต เช่น โปรไฟล์ กลุ่มบัญชี และปุ่มลัดบนแป้นพิมพ์อื่นๆ โดยปลายปีที่แล้ว eM Client ได้เข้าซื้อกิจการ Postbox Inc.ที่เป็นบริษัทแอปพลิเคชันอีเมลในสหรัฐอเมริกา การเข้าซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้ได้ช่วยยกระดับบริการของ eM Client ไปสู่ฐานผู้ใช้ที่กว้างขึ้น และยังช่วยยกระดับประสิทธิภาพและประสิทธิผลของผู้ใช้ในการจัดการอีเมลอีกด้วย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม www.emclient.com/mobile-features

เกี่ยวกับ eM Client

eM Client (www.emclient.com) ก่อตั้งขึ้นในปี 2006 โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจน นั่นคือการพัฒนาโปรแกรมอีเมลไคลเอ็นต์ที่ทันสมัย ​​เข้ากันได้กับเทคโนโลยีล่าสุด และสามารถรองรับผู้ให้บริการอีเมลรายใหญ่ทุกราย โดย eM Client ได้รับความไว้วางใจจากธุรกิจกว่า 100,000 แห่ง และผู้ใช้กว่า 2,500,000 คนทั่วโลก eM Client คือโซลูชันอีเมลสำหรับองค์กรธุรกิจอันทรงพลังและยังเป็นเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสำหรับบริษัททุกๆ ขนาด

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ
10Fold สำหรับ eM Client
emclient@10fold.com

ที่มา: eM Client

SG Entertech เปิดตัว ‘Snack VR’ แพลตฟอร์ม VR ขนาดเล็กสุดล้ำสำหรับ Android พร้อมขยายธุรกิจสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Logo

การผสมผสานระหว่างเนื้อหาเกม VR การท่องเที่ยว และการศึกษา ช่วยเปิดโอกาสในการเป็นพันธมิตรระหว่างธุรกิจแบบ B2G และแบบ B2B

โซล ประเทศเกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–16 กันยายน 2025

SG Entertech Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพด้าน VR ของเกาหลีใต้ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2019 ได้ประกาศเปิดตัว Snack VR อย่างเป็นทางการทั่วโลก ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม VR ขนาดเล็กสุดล้ำสำหรับตลาดต่างประเทศ

Snack VR is an innovative VR mini-platform that operates in just 5㎡ of space, presenting a new business model expandable across tourism, education, and cultural sectors (Photo: SG Entertech Co., Ltd.)

Snack VR คือแพลตฟอร์ม VR ขนาดเล็กสุดล้ำที่สามารถทำงานในพื้นที่เพียง 5 ตร.ม. โดยมีการนำเสนอรูปแบบธุรกิจใหม่ที่สามารถขยายได้ที่ครอบคลุมทั้งภาคการท่องเที่ยว การศึกษา และวัฒนธรรม (ภาพ: SG Entertech Co., Ltd.)

การเปิดตัวครั้งล่าสุดนี้ได้ก้าวข้ามผ่านข้อจำกัดของอุตสาหกรรมอาร์เคด VR แบบดั้งเดิมด้วยแพลตฟอร์ม VR ที่ไม่ต้องใช้คนที่ต้องการพื้นที่เพียง 5 ตร.ม. โดยมีการนำเสนอรูปแบบธุรกิจใหม่สำหรับภาคการท่องเที่ยว การศึกษา และวัฒนธรรม

ฟีเจอร์หลักและข้อดีต่างๆ

  •  ประสิทธิภาพในด้านพื้นที่ด้วยขนาดกะทัดรัดพิเศษ : สามารถติดตั้งและใช้งานได้ภายในพื้นที่เพียง 5 ตร.ม.
  •  ลดต้นทุนในการดำเนินงาน : ประหยัดต้นทุน 70% ด้วยระบบอัตโนมัติ
  •  ระบบการชำระเงินแบบไร้คน : การดำเนินการกึ่งอัตโนมัติผ่านบัตรเครดิตหรือการชำระเงินผ่านมือถือ
  •  รองรับผู้เล่นหลายคน : ประสบการณ์ VR พร้อมกันสำหรับผู้ใช้สูงสุด 2 คน
  •  ใช้งานได้หลากหลายวัตถุประสงค์ : เหมาะสำหรับสถานที่ท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์ ห้างสรรพสินค้า สถาบันการศึกษา และร้านค้าปลีก
  •  การอัปเดตเนื้อหา : การให้บริการเนื้อหาเกมและประสบการณ์อย่างต่อเนื่องผ่านพันธมิตรต่างๆ

รายชื่อเนื้อหา VR ที่โดดเด่น

  •  การต่อสู้ด้วยปืน : เกมยิงปืนแบบ 1 ต่อ 1
  •  เคาน์เตอร์แอ็ทแท็ค : เกมยิงป้องกันแห่งอนาคต
  •  โชคชะตาที่ไร้ขอบเขต : เกม RPG แนวแฟนตาซีแอ็คชันที่เน้นกลยุทธ์
  •  กล่องจดหมายโปสการ์ด VR : ประสบการณ์ที่เน้นการท่องเที่ยวเพื่อการส่งเสริมจุดหมายปลายทาง
  •  ประสบการณ์ศิลปะ VR เกี่ยวกับการวาดภาพ : โครงการการศึกษาที่เชื่อมโยงกับศิลปินเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

PyoKook Sun ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ SG Entertech กล่าวว่า “Snack VR ไม่ใช่แค่อุปกรณ์เล่นเกม VR ธรรมดาๆ แต่เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การศึกษา และวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน เรามุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดความบันเทิงดิจิทัลระดับภูมิภาค ด้วยการนำเสนอโซลูชัน VR ที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูง ร่วมกับผู้เล่นในท้องถิ่นทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

กลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ปัจจุบัน SG Entertech กำลังอยู่ระหว่างการปรึกษาหารือเกี่ยวกับความร่วมมือกับคณะกรรมการการท่องเที่ยว สำนักงานการศึกษา ห้างสรรพสินค้า เครือโรงแรม และพิพิธภัณฑ์ในประเทศต่างๆ ในเอเชียใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผ่านรูปแบบการออกใบอนุญาตและเอเจนซี่ โดยบริษัทจะช่วยให้ธุรกิจและสถาบันในท้องถิ่นสามารถมีส่วนร่วมในโครงการ VR ได้อย่างง่ายดาย

บริษัทเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนรายย่อยได้เข้าสู่อุตสาหกรรม VR ด้วยค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ต่ำ ขณะเดียวกันก็มอบโอกาสในการร่วมมือแบบ B2G แก่สถาบันภาครัฐในภาคการท่องเที่ยวและการศึกษาเพื่อคว้าโอกาสจากโครงการที่นำโดยรัฐบาล นอกจากนี้ บริษัทยังช่วยเหลือแบรนด์และผู้ค้าปลีกระดับโลกต่างๆ ในการพัฒนากลยุทธ์ด้านการตลาดเชิงประสบการณ์ผ่านการขยายธุรกิจแบบ B2B อีกด้วย

เกี่ยวกับ SG Entertech

SG Entertech มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ศูนย์สนับสนุนการเติบโตขององค์กร XR ในเขตมาโป กรุงโซล โดยมีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโซลูชัน VR แบบผสานรวมสำหรับการท่องเที่ยว การศึกษา วัฒนธรรม และความบันเทิง โดยมีการคาดการณ์ว่า SG Entertech จะเป็นผู้เล่นหลักในการขับเคลื่อนการนำ VR มาใช้ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250915132571/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

SG Entertech Co., Ltd.
Josh Pyo, CEO
kodk@sgentertec.co.kr

ที่มา: SG Entertech Co., Ltd.

Xsolla Mobile SDK เพิ่มความคล่องตัวในการชำระเงินในแอป รวมทั้งการชำระเงินสำหรับการจัดจำหน่ายทางเลือกนอกร้านบนแพลตฟอร์ม iOS และ Android

Logo

เพิ่มขีดความสามารถให้กับนักพัฒนาด้วยตัวเลือกการบูรณาการภายใต้แพลตฟอร์มการจัดจำหน่ายแบบดิจิทัลล่าสุดสำหรับแนวทางแอปมือถือ

LOS ANGELES–(BUSINESS WIRE)–18 กรกฎาคม 2024

Xsolla บริษัทค้าวิดีโอเกมระดับโลก ประกาศเปิดตัวชุดพัฒนาซอฟต์แวร์มือถือ (Mobile Software Development Kit – SDK) ไม่ว่าคุณจะต้องการขยายตัวเลือกการชำระเงิน เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง/นอกร้านค้า หรือเพียงเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้จากเกมของคุณ Xsolla Mobile SDK คือประตูสู่การบรรลุเป้าหมายเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล การเปิดตัวในครั้งนี้นำเสนอโซลูชันที่สำคัญสำหรับยุค DMA ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาทั่วโลกสามารถผสานรวมเกมบนแพลตฟอร์ม Android และ iOS เข้ากับโซลูชันการชำระเงินและร้านค้าบนเว็บทั่วโลกได้อย่างราบรื่น การผสานรวมดังกล่าวช่วยเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้จากเกมมือถือทั่วโลกเป็นอย่างมาก และปลดล็อกช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ นักพัฒนาเกม เช่น Gaijin Network LTD (Crossout), Artstorm (Modern Warships), LINGCHAI (HONG KONG) LIMITED (Fantasy Tales: Sword and Magic) และ ULTRAHORSE (SquadBlast) มีการใช้ Xsolla SDK เพื่อสร้างรายได้จากเกมของตนเองอยู่แล้วในขณะนี้

(Graphic: Xsolla)

(กราฟิก: Xsolla)

การเปิดตัว Xsolla Mobile SDK สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายล่าสุดทั่วโลก รวมถึงในสหภาพยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Digital Markets Act (DMA) และการยืนยันการเปิดตัวในญี่ปุ่นและสหราชอาณาจักรในปี 2025 การเปลี่ยนแปลงนี้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาที่สำคัญในตลาดดิจิทัล ช่วยให้นักพัฒนามีช่องทางการสร้างรายได้ใหม่ๆ เพื่อช่วยขับเคลื่อนผลกำไรที่สูงขึ้นด้วยการข้ามขีดจำกัดของ App Store แบบดั้งเดิม

Mobile SDK ของ Xsolla ช่วยให้สามารถทำธุรกรรมนนอกร้านได้

Mobile SDK ของ Xsolla ปรับปรุงกระบวนการสำหรับนักพัฒนาที่กำลังมองหาโซลูชันการจัดจำหน่ายภายนอก Google Play และ App Store SDK ช่วยให้ Pay Station เป็นตัวเลือกหลักในการรับชำระเงินสำหรับธุรกรรมนอกร้าน นักพัฒนา Android สามารถรวมเข้ากับ APK ที่มีการเผยแพร่ด้วยตัวเอง โดยมีการเผยแพร่กับพันธมิตรช่องทางที่สนับสนุนวิธีการเรียกเก็บเงินอื่น นอกจากนี้ ยังได้รับการปรับแต่งสำหรับการจัดจำหน่ายทางเว็บและตลาดแอปสำหรับแอปที่ผ่านการรับรอง iOS นอกเหนือจากนั้น ยังสามารถเข้ากันได้กับเอ็นจิ้นเกมต่างๆ ตั้งแต่ Unity จนถึง Native ทำให้เป็นเครื่องมือที่หลากหลายและมีคุณค่าสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการปรับปรุงประสบการณ์การชำระเงินในเกม Xsolla Mobile SDK ส่งเสริมร้านค้าบนเว็บเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การจัดจำหน่ายนอกร้าน

Mobile SDK ของ Xsolla  ปรับแต่งธุรกรรมในร้านค้าให้สอดคล้องกับข้อกำหนดภายใต้ DMA

ฟีเจอร์ของ SDK ประกอบด้วยการผสานรวมเข้ากับเกมได้อย่างราบรื่น ซึ่งรองรับโดย Google Play Billing Library หรือการผสานรวม Apple StoreKit Mobile SDK ของ Xsolla มีฟังก์ชันเพิ่มเติมหรือแทนที่ตัวเลือกการเรียกเก็บเงินที่มีการปรับแต่งเพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของ Google Play (UCB) และ Apple ภายใต้ Digital Markets Act (DMA) ด้วยเกม Mobile SDK ของ Xsolla  สามารถรองรับการชำระเงินด้วยวิธีการชำระเงินในท้องถิ่นได้มากกว่า 700 วิธีในเขตแดนมากกว่า 200 โซน

เมื่อมีกฎระเบียบใหม่เกิดขึ้น SDK นี้รับประกันการขยายรูปแบบการเรียกเก็บเงินใหม่ได้อย่างราบรื่น ในขณะเดียวกัน ก็สามารถคงความสอดคล้องกับข้อกำหนดแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนโดย Xsolla Pay Station ในภูมิภาคอื่นๆ

“ด้วยการเปิดตัว Mobile SDK ของเรา Xsolla ยืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนนักพัฒนาเกมบนมือถือผ่านเศรษฐกิจดิจิทัลและกฎระเบียบที่กำลังพัฒนา” David Stelzer ประธานของ Xsolla กล่าว “เราอยู่ที่นี่เพื่อช่วยนักพัฒนาในการสำรวจการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบและการปฎิบัติตามกฎระเบียบได้อย่างง่ายดาย โดยมอบเครื่องมือในการขยายตัวเลือกการชำระเงิน ลดต้นทุนค่าคอมมิชชัน และผลักดันผลกำไรที่มากขึ้นสำหรับเกมมือถือของพวกเขาในที่สุด”

Xsolla Mobile SDK สำหรับ Android ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่พร้อมใช้งานสำหรับนักพัฒนาทั่วโลกตั้งแต่วันนี้ รองรับ iOS ในการเข้าถึงก่อนใครสำหรับการดำเนินงานภายในสหภาพยุโรป

นักพัฒนาสามารถเข้าถึง SDK และคำแนะนำในการบูรณาการโดยละเอียดได้ที่นี่:

พอร์ทัลนักพัฒนาของ Xsolla
Xsolla Mobile SDK

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทค้าวิดีโอเกมระดับโลกที่มีชุดเครื่องมือและบริการที่เสถียรและทรงพลังซึ่งออกแบบมาสำหรับอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2005 Xsolla ได้ช่วยเหลือนักพัฒนาเกมและผู้เผยแพร่ทุกขนาดหลายพันรายในการระดมทุน การตลาด เปิดตัว และสร้างรายได้จากเกมของพวกเขาทั่วโลกและบนหลายแพลตฟอร์ม ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมในการค้าเกม ภารกิจของ Xsolla คือ การแก้ปัญหาความซับซ้อนของการจัดจำหน่าย การตลาด และการสร้างรายได้ทั่วโลก เพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราสามารถเข้าถึงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ได้มากขึ้น สร้างรายได้มากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์กับนักเล่นเกมทั่วโลก บริษัทมีสำนักงานใหญ่และจดทะเบียนในลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย และมีสำนักงานในมอนทรีออล ลอนดอน เบอร์ลิน ปักกิ่ง กวางเจา โซล โตเกียว กัวลาลัมเปอร์ ราลี และเมืองต่างๆ ทั่วโลก Xsolla รองรับเกมสำคัญต่างๆ เช่น Valve, Take-Two, KRAFTON, Nexters, NetEase, Playstudios, Playrix, miHoYo และอีกมากมาย

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมหรือเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่: xsolla.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/54095718/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Derrick Stembridge
Global Director of Public Relations, Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

แหล่งข้อมูล: Xsolla