Category Archives: Fashion

มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมรดกอันวิจิตรงดงาม: ร่วมเฉลิมฉลองวันครบรอบแห่งความรุ่งโรจน์ที่ Twin Jewellery Shows

Logo

HONG KONG–(BUSINESS WIRE)–30 มกราคม 2024

งานแสดง HKTDC Hong Kong International Jewellery Show และ HKTDC Hong Kong International Diamond, Gem & Pearl Show มีการเปิดแสดงมาเป็นครั้งที่ 40 และครั้งที่ 10 แล้วตามลำดับในปี 2024 ธีมของงานในปีนี้คือ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมรดกอันวิจิตรงดงาม นอกเหนือจากการแสดงความขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนมาอย่างยาวนานแล้ว เรายังหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจให้มีผู้เข้าร่วมในงานประจำนี้มากยิ่งขึ้น และร่วมกันสร้างก้าวต่อไปด้วยกัน

Be Part of the Splendid Legacy Celebrating the Anniversary of Brilliance at the Twin Jewellery Shows The HKTDC Hong Kong International Jewellery Show and HKTDC Hong Kong International Diamond, Gem & Pearl Show will reach their 40th and 10th milestones respectively in 2024. The theme of this year’s event is Be Part of the Splendid Legacy. Apart from thanking all parties for their long-standing support, we hope to encourage more industry players to join this annual event and build the next milestone together. HKTDC Marketplace App launches a new feature, allowing buyers to register, upload photo and travel document for a verified eBadge. No more waiting in line nor verification required at the registration counter. Website for Marketplace App: <a href=tinyurl.com/mpj32df9 Websites for the twin jewellery shows Hong Kong International Jewellery Show: hkjewelleryshow.hktdc.com Hong Kong International Diamond, Gem & Pearl Show: hkdgp.hktdc.com (Photo: Business Wire)” src=”https://mms.businesswire.com/media/20240117430908/en/2001216/4/2352352351616.jpg” />

มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมรดกอันวิจิตรงดงามในงาน Twin Jewellery Shows งานแสดง HKTDC Hong Kong International Jewellery Show และ HKTDC Hong Kong International Diamond, Gem & Pearl Show มีการเปิดแสดงมาเป็นครั้งที่ 40 และครั้งที่ 10 แล้วตามลำดับในปี 2024 ธีมของงานในปีนี้คือ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมรดกอันวิจิตรงดงาม นอกเหนือจากการแสดงความขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนมาอย่างยาวนานแล้ว เรายังหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจให้มีผู้เข้าร่วมในงานประจำปีนี้มากยิ่งขึ้น และร่วมกันสร้างก้าวต่อไปด้วยกัน แอป Marketplace ของ HKTDC เปิดตัวคุณสมบัติใหม่ ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อสามารถลงทะเบียน อัปโหลดภาพถ่าย และเอกสารการเดินทาง เพื่อเข้ารับ eBadge ที่ผ่านการยืนยัน ไม่จำเป็นต้องรอต่อแถวหรือตรวจสอบยืนยันที่เคาน์เตอร์ลงทะเบียนอีกต่อไป เว็บไซต์สำหรับแอป Marketplace: tinyurl.com/mpj32df9 เว็บไซต์สำหรับ twin jewellery shows Hong Kong International Jewellery Show: hkjewelleryshow.hktdc.com Hong Kong International Diamond, Gem & Pearl Show: hkdgp.hktdc.com (ภาพถ่าย: Business Wire)

งานแสดง

Click2Match

(แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ดำเนินการโดย AI)

The 2024 HKTDC Hong Kong International Jewellery Show (IJS)

29 ก.พ. – 4 มี.ค. ที่ Hong Kong Convention and Exhibition Centre

20 ก.พ. ถึง 11 มี.ค.

The 2024 HKTDC Hong Kong International Diamond, Gem & Pearl Show (IDGPS)

27 ก.พ. – 2 มี.ค. ที่ AsiaWorld-Expo

20 ก.พ. ถึง 11 มี.ค.

ในปีนี้ IJS จะมีการจัดธีมโซนต่างๆ มากมาย รวมถึง Hall of Extraordinary, Hall of Fame, และ Designer Galleria สำหรับ Hall of Extraordinary นั้น จะมีการจัดแสดงคอลเลคชันระดับไฮเอ็นด์ โดยประกอบด้วยเพชร อัญมณี หยก และไข่มุก ที่สวยงามน่าทึ่ง จากผู้จัดแสดงที่เป็นตัวแทนจากออสเตรเลีย จีนแผ่นดินใหญ่ เยอรมนี ฮ่องกง อินเดีย อิตาลี ญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ ไทย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา

Designer Galleria จะมีการจัดแสดงคอลเลคชันที่น่าดึงดูดใจจากนักออกแบบแฟชั่นแนวหน้าจากออสเตรเลีย จีนแผ่นดินใหญ่ ฝรั่งเศส ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน ไทย และสหรัฐอเมริกา

อัญมณีที่สวยงามจากหลายประเทศ เช่น เม็กซิโก และมาเลเซีย จะเข้าร่วมงานแสดง twin jewellery นี้อีกครั้ง The Hall of Fame จะมีการจัดแสดงแบรนด์ต่างประเทศที่น่าประทับใจมากมาย รวมถึง Giorgio Visconti จากอิตาลี Chete จากฮ่องกง Carrera Y Carrera จากสเปน และ Lao Feng Xiang จากจีนแผ่นดินใหญ่

IDGPS จะมีการจัดแสดงเพชรและไข่มุกน้ำดีเยี่ยม ตลอดจนอัญมณีและวัตถุดิบคุณภาพสูงสำหรับเครื่องประดับจากแหล่งต่างๆ ใน Hall of Fine Diamond, Treasures of Nature และ Treasures of Ocean

นอกจากนี้ งานแสดงยังมีโปรแกรมอื่นๆ อีกมากมาย อาทิเช่น ขบวนพาเหรดเครื่องประดับ การสัมมนา ฟอรั่มสำหรับผู้ซื้อ และกิจกรรมสร้างเครือข่าย ที่นำเสนอข้อมูลข่าวกรองทางการตลาดที่กำลังมาแรงแก่ผู้เข้าร่วมงานด้วยเช่นกัน

คุณสมบัติใหม่จากแอป Marketplace ของ HKTDC

แอป Marketplace ของ HKTDC เปิดตัวคุณสมบัติใหม่ ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อสามารถลงทะเบียน อัปโหลดภาพถ่าย และเอกสารการเดินทาง เพื่อเข้ารับ eBadge ที่ผ่านการยืนยัน ไม่จำเป็นต้องรอต่อแถวหรือตรวจสอบยืนยันที่เคาน์เตอร์ลงทะเบียนอีกต่อไป

เว็บไซต์สำหรับแอป Marketplace:
http://tinyurl.com/kwkkpmmc

เว็บไซต์สำหรับ Twin Jewellery Show
IJS: hkjewelleryshow.hktdc.com
IDGPS: hkdgp.hktdc.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53883830/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สอบถามข้อมูลสื่อ:
โปรดติดต่อฝ่ายแสดงนิทรรศการของ HKTDC:
Ken Tsang
โทร: (852) 2240 4136
อีเมล: ken.mc.tsang@hktdc.org

แหล่งข้อมูล: HKTDC

Tommy Hilfiger, Mercedes-AMG PETRONAS Formula One Team และ Awake NY เปิดตัวความร่วมมือที่ Miami Grand Prix

Logo

ความร่วมมือนี้ช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างโลกแห่งการแข่งรถและแฟชั่น ขณะเดียวกันก็เป็นเวทีสำหรับชุมชนที่ด้อยโอกาส

อัมสเตอร์ดัม –(BUSINESS WIRE)–4 พฤษภาคม 2023

Tommy Hilfiger ซึ่งมี PVH Corp. เป็นเจ้าของ [NYSE: PVH] ประกาศร่วมกับทีม Mercedes-AMG PETRONAS Formula One ว่าแบรนด์สตรีทแวร์ในนิวยอร์ก Awake NY ได้ร่วมกันสร้างคอลเลกชันและแคมเปญ Tommy x Mercedes-AMG F1 x Awake NY ใหม่ เปิดตัวในวันที่ 4 พฤษภาคม ก่อนการแข่งขัน Miami Grand Prix คอลเลกชันนี้ผสมผสานความรู้สึกสไตล์สตรีทของผู้ก่อตั้ง Awake NY Angelo Baque เข้ากับ TOMMY HILFIGER เพื่อสร้างสรรค์สุนทรียะ กลุ่มไอคอนไลฟ์สไตล์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์สปอร์ตที่กล้าที่จะแตกต่าง

Tommy Hilfiger, Mercedes-AMG PETRONAS Formula One Team and Awake NY Launch Collaboration at Miami Grand Prix

Tommy Hilfiger, Mercedes-AMG PETRONAS Formula One Team และ Awake NY เปิดตัวความร่วมมือที่ Miami Grand Prix

“ฉันเป็นแฟน F1 มาตั้งแต่เด็ก และเราได้ทำลายข้อตกลงในการเป็นหุ้นส่วนกับกีฬานี้มาตั้งแต่ยุค 90” Tommy Hilfiger กล่าว “ด้วยความร่วมมือนี้ เราต้องการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ต่อไปด้วยทั้งการออกแบบและจิตวิญญาณที่ไม่แบ่งแยก เพื่อสร้างมุมมองใหม่ที่กล้าหาญสำหรับผู้ชื่นชอบการแข่งขันรุ่นต่อไป”

Angelo Baque ผู้ชื่นชอบ Lewis Hamilton อย่างมากและเป็นแฟนของ Formula 1 สามารถมอบคุณค่าการออกแบบและรสนิยมของเขาให้กับชุมชน วัฒนธรรม และเมืองไมอามีเพื่อเฉลิมฉลองการแข่งขันกรังด์ปรีซ์สุดสัปดาห์ คอลเลกชันนี้นำเสนอวิสัยทัศน์ใหม่ของ Formula 1 ซึ่งมุมมองต่างๆ ปะทะกัน แรงบันดาลใจได้รับการจุดประกาย และยินดีต้อนรับทุกคนเข้าร่วมการแข่งขัน

“การเข้าชมคลังเอกสาร Tommy ของฉันจุดประกายความคิดถึงในวัยเยาว์ของฉันและเป็นแรงบันดาลใจมากมายในแนวทางของฉันในการรวบรวมคอลเลกชันนี้” Angelo Baque กล่าว “ความปรารถนาของฉันคือการตีความสตรีทแวร์และอเมริกาน่าอย่างแท้จริง ไม่เคยคิดเลยว่าเด็กชาวเอกวาดอร์คนนี้จากควีนส์ รัฐนิวยอร์ก ในหนึ่งล้านปีจะออกแบบชิ้นส่วนที่ Lewis Hamilton, George Russell และ Mercedes-AMG F1 สวมใส่อย่างภาคภูมิ การได้เห็น Tommy, Lewis และตัวฉันทำงานร่วมกันในโปรเจ็กต์นี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเรารุ่นเยาว์ในการทำความเข้าใจเรื่องการเป็นตัวแทน”

แคมเปญนี้ติดตามเรื่องราวของความมุ่งมั่น ความมุ่งมั่น และจิตวิญญาณที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับแชมป์เจ็ดสมัยและตำนาน F1 อย่าง Lewis Hamilton, George Russell ผู้ชนะ Grand-Prix และ Angelo Baque จาก Awake NY รวมถึง Mr. Tommy Hilfiger ในการเดินทางของแต่ละคน และคุณสมบัติของนักขับ Mercedes-AMG Petronas F1 Reserved, Mick Schumacher แคมเปญนี้ถ่ายโดย Adrienne Raquel และเนื้อหาวิดีโอถ่ายโดย Anthony Prince Leslie

สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของโครงการ People's Place ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มของ Tommy Hilfiger ที่มุ่งมอบโอกาสให้กับชุมชนที่ด้อยโอกาสในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ความร่วมมือนี้จะทำงานร่วมกับ Creatives Want Change (CWC) โดยเชิญผู้เข้าร่วม BIPOC เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันในไมอามีในวันที่ 7 พฤษภาคม Danae Harrison, Dayne Thompson และ Donald Whorley จาก CWC จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Angelo Baque บนกริดก่อนการแข่งขัน เพื่อสำรวจว่าการทำงานร่วมกันมีวิวัฒนาการอย่างไร ตั้งแต่แนวคิดไปจนถึงการผลิต

“การเปลี่ยนแปลงเป็นส่วนหนึ่งของทั้งกีฬาและชีวิตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในฐานะทีม เราเข้าใจถึงความสำคัญของการยอมรับสิ่งนี้ทั้งในและนอกเส้นทางเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม สร้างแรงบันดาลใจ และรับมือกับความท้าทายที่นำเสนอต่อเราอย่างต่อเนื่อง” Toto Wolff ซีอีโอและหัวหน้าทีมของทีม Mercedes-AMG PETRONAS F1 กล่าว “เราภูมิใจที่ได้เฉลิมฉลองคุณค่าที่มีร่วมกันผ่านความร่วมมือนี้ ไม่เพียงแค่สร้างคอลเลกชันที่โดดเด่นเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนและเน้นย้ำผู้สร้างจากชุมชนที่ด้อยโอกาสอีกด้วย”

คอลเลคชัน Tommy x Mercedes-AMG F1 x Awake NY ของสไตล์ที่รวมเพศทั้ง 7 แบบได้นำเสนอเนื้อหาหลักในเอกสารสำคัญอีกครั้งด้วยแรงบันดาลใจจากการแข่งรถและสุนทรียภาพบนท้องถนนของนิวยอร์ค แก่นแท้ของ Americana นำมาสู่การแข่งขัน Formula 1 ด้วยเสื้อแข่งเบสบอลสุดคลาสสิก ในขณะที่เสื้อยืดสำหรับการแข่งขัน Miami Grand Prix นั้นมีให้เลือกในสีชมพู diva น้ำมะนาวสีน้ำเงินไฟฟ้า และสีดำ โลโก้ของทีม Tommy, Awake NY และ Mercedes-AMG PETRONAS F1 อยู่บนเสื้อแขนยาว เสื้อโปโล เสื้อเบสบอล และเสื้อรักบี้ เสื้อยืดและเสื้อเบสบอลแสดงหมายเลขการแข่งของนักแข่ง โดยมี 44 ของ Lewis Hamilton และ 63 ของ George Russell ในขณะที่ Awake NY ยกย่องเป็นพิเศษโดยอ้างอิงถึงปี ’85 ซึ่งเป็นปีที่เปิดตัว Tommy Hilfiger Colorways ได้แก่ ซิกเนเจอร์ของ Tommy สีแดง ขาว และน้ำเงิน ในขณะที่ชิ้นส่วนของ Mercedes-AMG F1 แสดงจานสีหลักของทีมที่เป็นสีขาวดำและเน้นด้วยสีเขียว volt

“ตั้งแต่เริ่มต้นการเป็นหุ้นส่วนในปี 2018 เราได้ผลักดันขอบเขตของสิ่งที่เป็นไปได้อย่างต่อเนื่องโดยการสร้างช่วงที่โดดเด่น เน้นประเด็นสำคัญต่อทั้งสององค์กร และแบ่งปันเรื่องราวที่น่าทึ่ง” Richard Sanders ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของ ทีม Mercedes-AMG PETRONAS F1 “แคมเปญที่สร้างสรรค์นี้เป็นก้าวต่อไป ซึ่งสะท้อนถึงการทำงานของความคิดริเริ่มที่สำคัญ เช่น โครงการ People’s Place และ Accelerate 25ในขณะที่สร้างคอลเลกชันที่สะดุดตา”

คอลเลกชันจะวางจำหน่ายที่ Tommy.com, shop.mercedesamgf1.com, เลือกร้านค้า TOMMY HILFIGER  และแทร็กที่กำหนดในช่วงสุดสัปดาห์ Grand Prix ซึ่งกำลังจะมาถึง

เพื่อนของแบรนด์ได้รับเชิญให้เข้าร่วมชุมชนและสนทนาบนโซเชียลมีเดียโดยใช้แท็ก #TommyHilfiger, #TommyxMercedes-AMGF1xAwakeNY และ @TommyHilfiger

เกี่ยวกับ TOMMY HILFIGER

TOMMY HILFIGER คือหนึ่งในแบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก โดยยกระดับและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริโภคมาตั้งแต่ปี 1985 แบรนด์นี้สร้างสไตล์ที่โดดเด่นซึ่งมีชีวิตชีวาที่จุดตัดระหว่างความคลาสสิกและความใหม่ สร้างสรรค์ร่วมกับผู้คนที่หล่อหลอมวัฒนธรรมทั่วโลก TOMMY HILFIGER เฉลิมฉลองแก่นแท้ของสไตล์อเมริกันคลาสสิกพร้อมความทันสมัย Tommy Hilfiger นำเสนอคุณภาพและคุณค่าระดับพรีเมียมแก่ผู้บริโภคทั่วโลกภายใต้ไลฟ์สไตล์ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS โดยมีคอลเลกชันมากมาย เช่น ชุดกีฬาบุรุษ สตรีและเด็ก เดนิม เครื่องประดับ และรองเท้า Tommy Hilfiger มีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ต่อความยั่งยืนและการไม่แบ่งแยก

ยอดขายปลีกทั่วโลกของผลิตภัณฑ์ TOMMY HILFIGER มีมูลค่าประมาณ 9.3 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2021 และแบรนด์นี้ขับเคลื่อนโดยผู้ร่วมงานมากกว่า 16,000 รายทั่วโลก ซึ่งมีอยู่ใน 100 ประเทศและร้านค้าปลีกมากกว่า 2,000 แห่ง รวมถึงร้านค้าระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดเก็บที่ tommy.com PVH เข้าซื้อกิจการของ Tommy Hilfiger ในปี 2010 และยังคงดูแลแนวทางที่มุ่งเน้นในการขยายความเกี่ยวข้อง การมีอยู่ของแบรนด์ และการเติบโตในระยะยาวของแบรนด์ทั่วโลก

เกี่ยวกับ PVH Corp.

PVH เป็นหนึ่งในบริษัทแฟชั่นที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความชื่นชมมากที่สุดในโลก โดยเชื่อมต่อกับผู้บริโภคในกว่า 40 ประเทศ แบรนด์ที่โดดเด่นระดับโลกของเรา ได้แก่ Calvin Klein และ TOMMY HILFIGER ประวัติศาสตร์กว่า 140 ปีของเราสร้างขึ้นจากความแข็งแกร่งของแบรนด์ ทีมของเรา และความมุ่งมั่นของเราที่จะขับเคลื่อนแฟชั่นไปข้างหน้าเพื่อสิ่งที่ดี นั่นคือพลังของเรา นั่นคือพลังของ PVH

ติดตามเราบน Facebook, Instagram, Twitter และ LinkedIn

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53390947/en

รายชื่อติดต่อ

สื่อสัมพันธ์:
Tommy Hilfiger
Lyndsey Anderson
ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์ระดับโลก
Lyndsey.anderson@tommy.com

ที่มา: PVH Corp.

Valuence เปลี่ยนชื่อ Nanboya ธุรกิจรับซื้อสินค้าแบรนด์หรู เป็น ALLU สำหรับสาขาต่างๆ ในต่างประเทศ

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–20 ตุลาคม 2022

Valuence Group มอบคุณค่าที่เปลี่ยนแปลงชีวิต ซึ่งเหมาะสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกราย เป็นการส่งเสริมให้ทุกคนในโลกนี้ใช้ชีวิตอย่างเป็นตัวเองที่แท้จริง ทาง Valuence International Ltd. (เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน คุณ Susumu Muguruma ซึ่งเป็นผู้แทน) ได้ประกาศว่าบริษัทเปลี่ยนชื่อ Nanboya ทุกสาขาในต่างประเทศทั้งหมดไปเป็นชื่อทางการค้าว่า ALLU

เสริมสร้างการขายปลีกและการตลาดในต่างประเทศให้แข็งแกร่งขึ้น
นับตั้งแต่เปิดสำนักงานแห่งแรกในฮ่องกงเมื่อเดือนกรกฎาคม 2019 ทาง Valuence ก็ได้ขยายกิจการไปในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทมีสาขาทั้งหมด 34 แห่ง ใน 16 ประเทศ ทาง Valuence International กำลังขยายช่องทางการขายในต่างประเทศ รวมถึงเปิดตัว STAR BUYERS AUCTION ทางออนไลน์ ซึ่งเป็นการประมูล BtoB สำหรับตัวแทนจำหน่าย โดยธุรกิจการนำกลับมาใช้ใหม่ทั่วโลกสามารถเข้าร่วมการประมูลออนไลน์นี้ได้ นอกจากนี้บริษัทยังได้เปิดตัวแบรนด์ค้าปลีก ALLU สำหรับผู้บริโภคทั่วไปในสหรัฐฯ เพื่อขยายช่องทางการขายในต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น การเปลี่ยนชื่อจาก Nanboya เป็น ALLU มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางการตลาด และดึงดูดลูกค้าด้วยการนำเสนอแบรนด์แบบครบวงจรสำหรับการซื้อขาย โดยมีเป้าหมายเพื่อเปิดตัวการขายปลีกในประเทศต่างๆ ในอนาคต
ALLU หมายถึงทั้งหมดเพื่อคุณ และหมายถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการรับฟังลูกค้าเพื่อเสนอบริการที่หลากหลายขึ้น และเป็นคุณค่าที่เชื่อมโยงไปสู่อนาคต นอกจากนี้ บริษัทยังตัดสินใจรวมธุรกิจจัดซื้อสินค้าแบรนด์หรูในต่างประเทศและธุรกิจค้าปลีกภายใต้ชื่อแบรนด์ ALLU ที่คุ้นเคยอันเป็นที่รักของลูกค้าทั่วโลก

Valuence Group จะยังคงเปิดสถานที่รับซื้อภายใต้แบรนด์ ALLU ในต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้แบรนด์แข็งแกร่งขึ้นเพื่อขยายธุรกิจค้าปลีกต่อไปในแต่ละประเทศ

  • Valuence International Ltd. (https://www.valuence.inc/en/group/international/)
     
    • ก่อตั้งเมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2008 (ก่อตั้งกลุ่มบริษัท: กันยายน 2015)
    • ผู้แทนผู้อำนวยการและประธาน: Susumu Muguruma
    • สำนักงานใหญ่: ชั้น 16 อาคาร 5 เดอะเกทเวย์ ฮาร์เบอร์ซิตี้ เกาลูน ฮ่องกง
    • กลุ่มธุรกิจ: ซื้อขายสินค้าแบรนด์หรู โลหะมีค่า อัญมณี ฯลฯ

*Valuence International Ltd. เป็นกลุ่มบริษัทของ Valuence Holdings Inc. (รหัสหลักทรัพย์: TSE Growth Market 9270, https://www.valuence.inc/en/)

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

สอบถามข้อมูล:
สำนักงานประชาสัมพันธ์
Valuence Holdings Inc.
เบอร์: +81-3-4580-9983
อีเมล: media@valuence.inc

แหล่งข้อมูล: Valuence Holdings Inc.

ขอแนะนำคอลเลคชัน GUESS USA ประจำฤดูใบไม้ร่วงปี 2565

Logo

ลอสแองเจลิส–(BUSINESS WIRE)–17 ต.ค. 2565

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 เป็นต้นมา GUESS ได้มีวิสัยทัศน์ที่เป็นหนึ่งเดียวเกี่ยวกับ 'วิถีอเมริกัน' และการเป็นคลังเก็บรวบรวมผลงานของการออกแบบและภาพถ่ายขนาดใหญ่

Nicolai Marciano ได้นำ Eli Russell Linnetz ช่างภาพ มาสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้ GUESS USA ซึ่งเป็นแบรนด์ย่อยของ GUESS ในแคลิฟอร์เนีย คอลเลคชันเครื่องแต่งกายที่ออกแบบโดย Nicolai Marciano เป็นผลงานการสร้างสรรค์เชิงสุนทรียศาสตร์แบบอเมริกาตะวันตกผ่านการกำกับการถ่ายภาพโดย Linnetz – วิสัยทัศน์ของเขาผสมผสานกับพลังและทัศนคติของวัฒนธรรมอเมริกานา (Americana)

ตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงปี 2565 เป็นต้นไป คอลเลกชั่นนี้จำหน่ายผ่าน Slam Jam ซึ่งเป็นพันธมิตรระดับโลกของ GUESS USA แต่เพียงบริษัทเดียว โดยให้บริการแก่ผู้ค้าปลีกที่ได้รับการคัดเลือกทั่วโลก

“การได้รับแรงบันดาลใจจาก American Iconography ของแคมเปญ GUESS ในยุคแรก ทำให้คอลเล็กชั่นนี้เต็มไปด้วยชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่คุณจะพบได้ที่ร้านบูติกริมถนนในอเมริกา หนังแบบ (Distressed leathers) ยีนส์ซีด (faded denim) ขนสัตว์ฟอกแดด (sun-bleached furs) และฮาร์ดแวร์สีแตก (hardware cracking with paint)” — NICOLAI MARCIANO กล่าว

ความร่วมมือที่สอดประสานกันก่อให้เกิดคอลเล็กชันที่คัดสรรมาอย่างดีซึ่งรวมเอาคลังข้อมูล GUESS USA เอาไว้อย่างสมบูรณ์ ด้วยแรงบันดาลใจจากผลงานที่หาไม่ได้อีกแล้วที่ค้นพบในอาร์ตเวิร์กของ GUESS ที่ออกแบบในยุค 80, 90 และ 2000 ผลงานเหล่านี้ไม่เคยถูกนำไปผลิตเลย จวบจนถึงปัจจุบัน

ตั้งแต่แคมเปญการตลาดแรกสุดเป็นต้นมา GUESS ได้สนับสนุนสื่อการถ่ายภาพซึ่งบุกเบิกรูปแบบใหม่ของการโฆษณาและการสร้างแบรนด์ ซึ่งบางครั้งไม่ใช่แต่เพียงบนเสื้อผ้าเท่านั้น แต่งโฆษณาก็ยังขายไลฟ์สไตล์และความฝันแบบอเมริกัน ซึ่งเป็นธีมที่โดดเด่นในผลงานของ Eli Russell Linnetz อีกด้วย

“GUESS ใช้ภาพถ่ายเพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่น่าทึ่งเสมอ เรื่องราวที่ไม่เพียงแต่ใช้นำเสนอเสื้อผ้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทัศนคติและพลังงานอันน่าตื่นเต้นอีกด้วย” — ELI RUSSELL LINNETZ กล่าว

GUESS มีความจำเป็นที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่นที่มีวิสัยทัศน์เกี่ยวกับวิถีอเมริกัน การถ่ายภาพทั้งหมดดำเนินการโดย Eli Russell Linnetz  ผู้ซึ่งได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีเพื่อบันทึกแคมเปญ FA22 ของแบรนด์

ด้วยการอาศัยวิสัยทัศน์ของ Eli Russell Linnetz ในการนำคลังภาพถ่ายของ GUESS มาจินตนาการใหม่  Nicolai Marciano, Linnetz และ Slam Jam ได้ทำงานร่วมกันเพื่อกำหนดความเซ็กซี่และทัศนคติที่ผลักดันขอบเขตของคนรุ่นใหม่

เกี่ยวกับ GUESS?, Inc.

GUESS ก่อตั้งขึ้นในปี 2524 โดยเริ่มต้นจากการเป็นบริษัทกางเกงยีนส์และเติบโตจนกลายเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลก ปัจจุบัน Guess?, Inc. ออกแบบ ทำการตลาด จัดจำหน่าย และออกใบอนุญาตคอลเลกชั่นไลฟ์สไตล์ของเสื้อผ้าร่วมสมัย ผ้ายีนส์ กระเป๋าถือ นาฬิกา แว่นตา รองเท้า และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง  สินค้าของ Guess?จำหน่ายผ่านแบรนด์ Guess? ตลอดจนถึงร้านค้า ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าเฉพาะทางทั่วโลก บริษัทเปิดร้านค้าปลีกโดยตรงเป็นจำนวน 1,064 แห่ง ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2565 ในอเมริกา ยุโรป และเอเชีย พันธมิตรและผู้จัดจำหน่ายของบริษัทดำเนินการร้านค้าปลีกเพิ่มเติม 567 แห่งทั่วโลก  บริษัทและคู่ค้าและผู้จัดจำหน่ายได้ดำเนินการในประมาณ 100 ประเทศทั่วโลก ณ วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทได้ที่ www.guess.com.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20221017005040/en/

ติดต่อ:

Montana Wilkie

GUESS?, Inc.

212.852.0534

mwilkie@guess.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

การกลับมาของ Tommy Hilfiger สู่งาน New York Fashion Week

Logo

การเปิดตัว Tommy Hilfiger Fall 2022 ดึงดูดผู้ชมในการสำรวจแบรนด์ที่เชื่อมโยง IRL และการเชื่อมต่อเมตาเวิร์ส ในความต่อเนื่องของแพลตฟอร์ม “ดูเลย ซื้อเลย” หรือ “See Now, Buy Now” ที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม

ประสบการณ์ของแบรนด์แบบเรียลไทม์ปรากฏบนภูมิทัศน์มัลติมีเดียที่มีพลังสูงที่ย้ายผู้เข้าร่วมจากงาน Brooklyn waterfront event ไปยังโลกแห่งเกม Roblox gaming world และเข้าสู่แนวคิด phygital เชิงพาณิชย์แบบใหม่ทั่วโลก

อัมสเตอร์ดัม–(BUSINESS WIRE)–14 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

Tommy Hilfiger ซึ่งเป็นเจ้าของโดย PVH Corp. [NYSE: PVH] ประกาศการกลับมาที่งาน New York Fashion Week เป็นครั้งแรกในรอบสามปีด้วยงานรันเวย์เชิงประสบการณ์ที่จะเผยโฉมล่าสุด “See Now, Buy Now” คอลเลกชันฤดูใบไม้ร่วงปี 2022 ในขณะที่ดึงดูดผู้ชมทั้งทางกายภาพและทางดิจิทัลเข้าสู่โลกของแบรนด์ที่มีชีวิตชีวา

เอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่:: https://www.businesswire.com/news/home/20220714005034/en/

Tommy Hilfiger (Photo: Business Wire)

Tommy Hilfiger (ภาพ: Business Wire)

โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 11 กันยายน เวลา 19.00 น. ตามเวลาออมแสงตะวันออก (EDT) ประสบการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟได้รับแรงบันดาลใจจากฉากสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใครของนิวยอร์ก ศูนย์กลางของผู้คนและวัฒนธรรมย่อย การปะทะกันของ lo-fi และ hi-tech และการผสมผสานของสไตล์และความคิดสร้างสรรค์ อบอวลไปด้วยบรรยากาศและความเคร่งขรึมของมหานครนิวยอร์กที่เป็นบ้านเกิดของแบรนด์ TOMMY HILFIGER ซึ่งงานนี้จะเชื่อมโยงผู้คนผ่านช่วงเวลาแห่งความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติในงานแสดง IRL ที่ Skyline Drive-In ใน Brooklyn และในการเปิดใช้งานเมตาเวิร์สแบบคู่ขนาน

“เมื่อนึกถึงสถานที่ที่จะกลับเข้าสู่แฟชั่นวีคของเรา หัวใจของฉันได้ไปสู่วัฒนธรรมอันสร้างสรรค์ที่โดดเด่นของนิวยอร์กในทันที” Tommy Hilfiger กล่าว “นี่คือจุดที่แฟชั่น ศิลปะ ดนตรี และความบันเทิงมารวมกันเมื่อฉันเริ่มเข้าสู่วงการนี้ครั้งแรก และทุกวันนี้ แนวทางนี้ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้ฉันมีส่วนร่วมกับชุมชนอันล้ำสมัยที่สร้างประสบการณ์สร้างสรรค์ใหม่ ๆ ฤดูกาลนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการปะทะกันของการเก็บประวัติแรงบันดาลใจที่ฉันโปรดปรานด้วยแนวคิดงานไลฟ์สดใหม่และโลกเสมือนจริง ซึ่งเป็นการแสดงออกที่สมบูรณ์แบบของสิ่งที่เรายืนหยัดในขณะที่เราแสดงความเคารพต่อรากเหง้าของเราด้วยการกลับมาที่งาน NYFW”

การเปิดตัวแบรนด์มัลติมีเดียที่เป็นนวัตกรรมจะทำให้ TOMMY HILFIGER คอลเลกชันฤดูใบไม้ร่วงปี 2022 มีชีวิตชีวาขึ้น จากนิวยอร์กซิตี้สู่เมืองหลวงของยุโรปสู่เฉิงตู และสถานที่อื่น ๆ แนวคิดการค้าปลีกแบบใหม่ในร้านของ TOMMY HILFIGER ที่ได้รับการคัดเลือก และการเข้าซื้อกิจการกับพันธมิตรผู้ค้าส่งรายสำคัญทั่วโลกจะช่วยเสริมการแสดงสินค้าแบบ phygital ความร่วมมือกับผู้มีความสามารถระดับโลกจะเปิดตัวทั้งในและนอกรันเวย์ เพื่อเป็นเกียรติแก่รากฐานของ TOMMY HILFIGER

ในรายแรกของอุตสาหกรรม แคทวอล์ก “See Now, Buy Now” จะถูกสตรีมสดไปยังชุมชน Roblox ทั่วโลกที่มีผู้ใช้มากกว่า 50 ล้านคนต่อวัน พร้อมด้วยอวทาร์ที่แต่งกายใน TOMMY HILFIGER สไตล์ฤดูใบไม้ร่วงปี 2022 ซึ่งจะเข้าครอบครองเมืองเสมือนจริงที่รีมิกซ์ของนิวยอร์ก ทุกสไตล์ที่ฮิตบนรันเวย์แบบ physical จะสามารถซื้อได้ทั่วโลกผ่านแนวคิด “See Now, Buy Now” ของ Tommy Hilfiger รวมถึงผลิตภัณฑ์ดิจิทัลสุดพิเศษบน Roblox การเป็นพันธมิตรของแบรนด์กับแพลตฟอร์มลิขสิทธิ์ระดับโลกที่เปิดตัวในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2564 และยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องผ่านเฟสใหม่

เข้าร่วมการสนทนาบนโซเชียลมีเดียโดยใช้ #TommyHilfiger และ @TommyHilfiger

เกี่ยวกับ TOMMY HILFIGER

TOMMY HILFIGER เป็นหนึ่งในแบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก โดยยกระดับจิตใจและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้บริโภคมาตั้งแต่พ.ศ. 2528 แบรนด์ได้สร้างสรรค์สไตล์ที่มีความโดดเด่นมีชีวิตชีวาที่มาบรรจบกันของความคลาสสิกและความแปลกใหม่ ซึ่งสร้างสรรค์ร่วมกับผู้ที่กำลังหล่อหลอมวัฒนธรรมรอบโลก TOMMY HILFIGER เฉลิมฉลองแก่นแท้ของสไตล์อเมริกันคลาสสิกด้วยความทันสมัย Tommy Hilfiger นำเสนอคุณภาพและความคุ้มค่าระดับพรีเมียมแก่ผู้บริโภคทั่วโลกภายใต้ไลฟ์สไตล์ของ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS ด้วยคอลเลกชันที่หลากหลาย เช่น ชุดกีฬา ยีนส์ เครื่องประดับ และรองเท้าสำหรับสุภาพบุรุษ สุภาพสตรีและเด็ก Tommy Hilfiger มีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ต่อความยั่งยืนและการรวมความหลากหลาย

ยอดขายปลีกผลิตภัณฑ์ TOMMY HILFIGER ทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 9.3 พันล้านดอลลาร์ในปี พ.ศ. 2564 และแบรนด์ขับเคลื่อนโดยพนักงานกว่า 16,000 รายทั่วโลก นำเสนอใน 100 ประเทศและร้านค้าปลีกมากกว่า 2,000 แห่ง รวมถึงร้าน flagship ระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดที่ tommy.com  โดย PVH เข้าซื้อกิจการ Tommy Hilfiger ในปี พ.ศ. 2553 และยังคงดูแลแนวทางที่มุ่งเน้นเพื่อเพิ่มความเกี่ยวข้อง การแสดงตน และการเติบโตในระยะยาวทั่วโลกของแบรนด์

เกี่ยวกับ PVH Corp.

PVH เป็นแพลตฟอร์มการเติบโตสำหรับ Calvin Klein และ TOMMY HILFIGER ด้วยการผลักดันความแข็งแกร่งและความเกี่ยวข้องของแบรนด์ เรากำลังเชื่อมโยงแบรนด์ที่เป็นสัญลักษณ์ระดับโลกของเราให้ใกล้ชิดกับที่ที่ผู้บริโภคกำลังไปมากกว่าที่เคยเป็นมา ทั้งในปัจจุบันและกับคนรุ่นอนาคต ด้วยค่านิยมของเราและเปิดใช้งานโดยขนาดและการเข้าถึงทั่วโลก เรากำลังขับเคลื่อนแฟชั่นไปข้างหน้าให้คงอยู่ถาวร เป็นทีมที่มีวิสัยทัศน์เดียวและแผนเดียว นั่นคือพลังของเรา นั่นคือพลังของ PVH+

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220714005034/en/

ติดต่อ:

Tommy Hilfiger
Lyndsey Anderson
Senior Manager Global Communications & PR
Lyndsey.anderson@tommy.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

โครงการ Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ครั้งที่ 4 เรียกร้องให้ผู้ประกอบการทางสังคมเร่งสร้างการยอมรับความแตกต่างในวงการแฟชัน

Logo

โครงการนี้เชิญชวนผู้ประกอบการทางสังคมจากชุมชนที่ถูกมองข้ามในอดีตมาแบ่งปันความคิดสร้างสรรค์เพื่อรับโอกาสการสนับสนุนด้านเงินทุนและคำปรึกษา

อัมสเตอร์ดัม–(BUSINESS WIRE)–28 มีนาคม 2565

Tommy Hilfiger ซึ่งเป็นเจ้าของโดย PVH Corp. [NYSE: PVH] มีความยินดีที่จะประกาศเปิดรับสมัครผู้เข้าแข่งขันใน โครงการ Tommy HilfigerFashion Frontier Challenge ครั้งที่ 4 โครงการระดับโลกนี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนของ Tommy Hilfiger ในเรื่องการไม่สูญเสียโดยเปล่าประโยชน์และการเปิดรับทุกคน หรือ Waste Nothing and Welcome All โดยขยายและสนับสนุนเสียงจากผู้คนใหม่ ๆ ในวงการผู้ประกอบการทางสังคมที่กำลังสร้างนวัตกรรมเปลี่ยนชีวิตและปรับใช้งานได้เพื่อสร้างอนาคตของแฟชันที่ยอมรับความแตกต่างมากขึ้น

เอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220328005210/en/

Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge 3rd Edition Finale Event (Photo: Business Wire)

งานรอบสุดท้ายของโครงการ Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ครั้งที่ 3 (ภาพ: Business Wire)

เพื่อให้สอดคล้องกับพันธะสัญญาของ Tommy Hilfiger ที่มีต่อความแตกต่าง ความหลากหลาย และการรับรู้ถึงช่องว่างด้านความเสมอภาคและโอกาสที่เท่าเทียมกัน ผู้คนจากชุมชนที่ถูกมองข้ามในอดีต ได้แก่ คนผิวสี ชนพื้นเมือง ผู้คนผิวหลากสี (BIPOC) ผู้ทุพพลภาพ และผู้หญิง จึงได้รับการแนะนำให้สมัครโครงการในปีนี้ โดยสามารถส่งใบสมัครได้ภายในวันที่ 29 เมษายน 2565 ผ่านเว็บไซต์ https://platform.younoodle.com/competition/th_fashion_frontier_challenge_2022

Tommy Hilfiger กล่าวว่า “โครงการ Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge มีเป้าหมายเพื่อรวบรวมผู้ประกอบการจากทุกสาขาอาชีพ ความรู้ด้านการลงทุน และทรัพยากรเพื่อให้พวกเขาได้ปลดล็อกพลังพิเศษด้านนวัตกรรม ในฐานะผู้ประกอบการ ผมต้องการสร้างแบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลกที่รวมความแตกต่างของทุกคนไว้เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งเป็นปรัชญาที่จะถ่ายทอดสดผ่านโครงการนี้ ผมเชื่อจริง ๆ ว่าการร่วมมือกันจะทำให้เราสามารถขับเคลื่อนอนาคตของการเปลี่ยนแปลงที่มีคุณค่าและยั่งยืนได้”

รางวัลต่อไปนี้จะมอบให้กับผู้ชนะเพื่อสนับสนุนแนวคิดทางธุรกิจของพวกเขา:

  • เงินรางวัลรวม 200,000 ยูโร โดยแบ่งระหว่างผู้ชนะสองคน
  • เงินรางวัลเพิ่มเติม 15,000 ยูโรสำหรับผู้ที่ได้รับเลือกจากการโหวตของผู้ชม หรือ Audience's Favorite Vote
  • คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกของ Tommy Hilfiger
  • คำปรึกษาและหลักสูตร INSEAD ตลอดทั้งปี

Tommy Hilfiger กำลังเชิญชวนแฟน ๆ ของแบรนด์ให้เข้าร่วมโครงการในช่วงแรกในฐานะผู้ตัดสินผ่านทางดิจิทัล โดยพวกเขาจะช่วยคัดเลือกใบสมัครให้เหลือเพียง 50 อันดับแรก ผู้สมัครที่สนใจสามารถสมัครได้จนถึงวันที่ 20 เมษายน 2565 ผ่านเว็บไซต์ https://platform.younoodle.com/competition/consumer_vote_tommy_hilfiger_fashion_frontier_challenge_2022.

ผู้สมัคร 50 อันดับแรกจะถูกคัดเลือกให้เหลือผู้เข้ารอบ 6 คนผ่านขั้นตอนภายใน ผู้เข้ารอบสุดท้ายแต่ละคนจะได้รับเชิญให้พัฒนาแผนธุรกิจของตนต่อไปด้วยการสนับสนุนจาก Tommy Hilfiger และผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกก่อนการแข่งขันรอบสุดท้าย ด้วยการฝึกอบรมจากโค้ชสนามที่มีประสบการณ์ ผู้เข้ารอบสุดท้ายแต่ละคนจะนำเสนอแนวคิดต่อคณะกรรมการตัดสินและผู้ชมที่เป็นพนักงานของ Tommy Hilfiger ที่งาน Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge รอบสุดท้ายทั่วโลกในช่วงต้นปี 2566

Martijn Hagman ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Tommy Hilfiger Global และ PVH Europe กล่าวว่า “ที่ Tommy Hilfiger เราต้องการทำงานร่วมกับชุมชนต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรม การยอมรับความแตกต่าง และความหลากหลายเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว ในการจัดการแข่งขัน Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ครั้งที่ 4 นี้ เราตั้งตารอที่จะได้เห็นแนวคิดที่จะออกมาสนับสนุนชุมชนและช่วยสร้างอนาคตของแฟชัน”

นับตั้งแต่การริเริ่มโครงการในปี 2018, Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ได้มอบรางวัลมูลค่า 550,000 ยูโร เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการทั่วโลกในการนำความคิดสร้างสรรค์มาสู่ชีวิต เพื่อให้พวกเขาสามารถเปลี่ยนแปลงชุมชนได้อย่างแท้จริง ผู้ชนะรุ่นที่ 3 ได้แก่ Lalaland ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจากประเทศเนเธอร์แลนด์ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสร้างแบบจำลองสังเคราะห์ที่ปรับแต่งและรวบรวมความแตกต่างของชาติพันธุ์ต่าง ๆ และ UZURI K&Y ซึ่งเป็นแบรนด์รองเท้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจากประเทศรวันดาซึ่งใช้ยางรถยนต์รีไซเคิลจากภูมิภาคในทวีปแอฟริกาทางตอนใต้ของทะเลทรายสะฮารา และจ้างงานเยาวชนในท้องถิ่น Clothes to Good ซึ่งเป็นกิจการเพื่อสังคมในแอฟริกาใต้ที่สร้างงานและโอกาสทางธุรกิจขนาดเล็กสำหรับคนพิการผ่านการรีไซเคิลเสื้อผ้าสิ่งทอได้รับการโหวตจากผู้ชม หรือ Audience Favorite ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางความยั่งยืนของ Tommy Hilfiger ซึ่งขับเคลื่อนผ่านกลยุทธ์ Forward Fashion ของ PVH สามารถดูได้ที่ https://global.tommy.com/en_int/about-us-corporate-sustainability.

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge รวมถึงวิธีการสมัครได้ที่นี่: https://responsibility.pvh.com/tommy/fashion-frontier-challenge/

เชิญเพื่อนและผู้ติดตามของแบรนด์เข้าร่วมการสนทนาบนโซเชียลมีเดียโดยใช้ #TommyHilfiger และ @TommyHilfiger

เกี่ยวกับ Tommy Hilfiger 

TOMMY HILFIGER เป็นหนึ่งในแบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก โดยยกระดับจิตใจและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้บริโภคมาตั้งแต่ปี 2528 โดยผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับสิ่งใหม่เพื่อสร้างความสดใสให้กับอนาคต แบรนด์ได้ผสมผสานการแต่งตัวสไตล์เพรพพี้กับอเมริกานาเฮอริเทจด้วยมุมมองที่สดใหม่จากวัฒนธรรมป๊อปเพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์และคอลเลกชันที่น่าจดจำ ภายใต้วิสัยทัศน์ของ Mr. Hilfiger นั้น TOMMY HILFIGER ได้รวบรวมการเปลี่ยนแปลงที่สนุกสนานและจำเป็นในการขับเคลื่อนประสบการณ์ผู้บริโภคที่ดื่มด่ำและสร้างสรรค์ หัวใจของแบรนด์คือวิสัยทัศน์ Waste Nothing และ Welcome All ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ต่อความยั่งยืน การยอมรับความแตกต่าง ความหลากหลาย และวงจรที่ขับเคลื่อนทีมเพื่อสร้างอุตสาหกรรมแฟชันที่ดีขึ้น

ยอดขายปลีกผลิตภัณฑ์ TOMMY HILFIGER ทั่วโลกอยู่ที่เกือบ 7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2563 ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ของ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS ประกอบด้วยคอลเลกชั่นของสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี และเด็ก รองเท้าและเครื่องประดับ เครื่องสำอาง และกลุ่มผลิตภัณฑ์ลิขสิทธิ์ต่าง ๆ เช่น แว่นตา นาฬิกา และน้ำหอม Tommy Hilfiger Group ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ PVH Corp. ขับเคลื่อนจากพนักงานกว่า 16,000 คนทั่วโลก โดยมีเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่กว้างขวางครอบคลุม 100 ประเทศและร้านค้าปลีกมากกว่า 2,000 แห่ง รวมถึงร้านเรือธงระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดที่ tommy.com

เกี่ยวกับ PVH Corp

PVH เป็นหนึ่งในบริษัทแฟชันที่ใหญ่ที่สุดและได้รับการยกย่องมากที่สุดในโลก โดยเชื่อมต่อกับผู้บริโภคในกว่า 40 ประเทศ แบรนด์ระดับโลกที่โดดเด่นของเรา ได้แก่ Calvin Klein และ TOMMY HILFIGER ประวัติ 140 ปีของเราสร้างขึ้นจากความแข็งแกร่งของแบรนด์ ทีมงาน และความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนแฟชันไปข้างหน้าให้ดี นั่นคือพลังของเรา นั่นคือพลังของ PVH

ติดตามเราได้ทาง FacebookInstagramTwitter และ Linkedin

ดูเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220328005210/en/

ติดต่อ:

Tommy Hilfiger 
Virginia Ritchie 
รองประธานฝ่ายสื่อสารทั่วโลก
อีเมล: virginia.ritchie@tommy.com&nbsp;
โทร: +31 6 4318 4870

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย



Mary Kay Inc. ร่วมมือกับมูลนิธิ Arbor Day Foundation มุ่งมั่นที่จะปลูกป่าในประเทศจีนด้วยต้นไม้ 8,000 ต้นในปี 2565

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–11 มี.ค. 2565

ต้นไม้มีความสำคัญต่อการดำรงอยู่ของเรา และก็ทำหลายอย่างเพื่อหล่อเลี้ยงโลกของเราเอาไว้ ต้นไม้ทำให้น้ำและอากาศสะอาด ส่งเสริมสุขภาพของมนุษย์ แต่ต้นไม้กลับมักถูกมองข้าม ในวันนี้  Mary Kay ผู้สนับสนุนด้านความยั่งยืนระดับโลกได้ประกาศว่า พวกเขาจะสนับสนุนงานปลูกป่าของมูลนิธิ Arbor Day Foundation ในจังหวัดเหลียวหนิงทางใต้ของประเทศจีนต่อไป โดยมีแผนปลูกต้นไม้ 8,000 ต้นในปี 2565

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหาเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่ https://www.businesswire.com/news/home/20220310005962/en/

Logo for Arbor Day Foundation (Graphic: Mary Kay Inc.)

โลโก้ของ Arbor Day Foundation (ภาพ: Mary Kay Inc.)

ด้วยความพยายามในการทำงานร่วมกันของ Mary Kay และ Arbor Day Foundation ปัญหาเร่งด่วนที่โลกกำลังเผชิญกำลังได้รับการแก้ไขด้วยผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและวัดผลได้ จีนเป็นประเทศหนึ่งในโลกที่ได้รับผลกระทบจากการที่แผ่นดินกลายเป็นทะเลทรายมากที่สุด นับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา โครงการปลูกต้นไม้ของ Mary Kay ในภูมิภาคของมณฑลกานซูและทางตะวันตกของมณฑลเหลียวหนิงได้มุ่งเน้นไปที่การกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ การปรับปรุงคุณภาพของน้ำและเพิ่มปริมาณน้ำ พร้อม ๆ กับการดูดซับมลพิษทางอากาศ

ในเขต Minquin ในกานซู การแปรสภาพเป็นทะเลทรายมีสัดส่วนเกือบร้อยละ 95 ของพื้นที่ทั้งหมด ในขณะเดียวกัน ทางตะวันตกของมณฑลเหลียวหนิงก็เผชิญกับสภาพอากาศที่รุนแรง ปริมาณน้ำฝนที่ต่ำ และดินที่แห้งแล้ง การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพที่น่าตกใจในทั้งสองภูมิภาคนี้ไม่สามารถที่จะมองข้ามได้ อย่างไรก็ตาม การชะลออัตราการสูญพันธุ์และการปลูกพันธุ์พื้นเมืองสามารถช่วยปรับปรุงสถานการณ์นี้ให้ดีขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ

“การปลูกต้นไม้เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถจัดการกับปัญหาสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ของโลกได้” Wendy Wang ประธานของ Mary Kay เอเชียแปซิฟิกกล่าว “ด้วยการมุ่งเน้นความพยายามของเราในการปรับปรุงที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพของพื้นที่ที่ป่าถูกทำลาย เรากำลังปรับปรุงสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับเศรษฐกิจ เรากำลังลงทุนเพื่ออนาคตและเผยแพร่ความตระหนักรู้ว่าต้นไม้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชุมชนของเราเพื่อความเจริญรุ่งเรือง”

ไฮไลท์ผลกระทบระดับโลกและระดับท้องถิ่น:

  • Mary Kay ปลูกต้นไม้กว่า 1.2 ล้านต้นทั่วโลก โดยร่วมมือกับมูลนิธิ Arbor Day Foundation
  • ในประเทศจีน มีการปลูกต้นไม้ 22,500 ต้นในทั้งสองภูมิภาค: มณฑลกานซูกับป่ามองโกเลียส่วนใน และในมณฑลเหลียวหนิงตะวันตก
  • ผลประโยชน์สะสมสำหรับทั้งสองภูมิภาค:
    • คาร์บอน: กักเก็บ คาร์บอนไดออกไซด์ 22,602 เมตริกตัน – เท่ากับมีรถยนต์น้อยลง 4,913 คันบนท้องถนน*
    • น้ำ: หลีกเลี่ยงการเกิดน้ำไหลบ่าปริมาณ 421,830 แกลลอน หมายความว่า มีคนจำนวน 4,794 คน ที่ได้ใช้น้ำสะอาดเพิ่มขึ้น*
    • อากาศ: กำจัดมลพิษทางอากาศ 86 ตัน – เท่ากับออกซิเจนเพียงพอสำหรับ 5,625 คน*
  • มีการปลูกต้นไม้ 15,000 ต้นในจังหวัดกานซูและป่ามองโกเลียส่วนใน
  • มณฑลเหลียวหนิงตะวันตกปลูกต้นไม้แล้ว 7,500 ต้น

*คาดการณ์ในอีก 40 ปีข้างหน้า

เกี่ยวกับ Mary Kay Inc.

ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ฉีกกฎเกณฑ์รูปแบบเดิม ได้ก่อตั้งบริษัทด้านความงามของเธอเมื่อ 57 ปี ก่อน โดยมีเป้าหมายสามประการ คือ มอบโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และการทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น ความฝันดังกล่าวได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ยังทุ่มเทให้กับการค้นคว้าวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัยเครื่องสำอางค์สี น้ำหอม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงและครอบครัวด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงภายในครัวเรือน การทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และการส่งเสริมเด็ก ๆให้ทำตามความฝันของตน ดังนั้นวิสัยทัศน์อันดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ในคอนเซปท์ก้าวไปด้วยกันทีละลิปสติก ยังคงส่องสว่างนำทางต่อไป อ่านเพิ่มเติมที่  MaryKay.com

เกี่ยวกับ Arbor Day Foundation

มูลนิธิ Arbor Day Foundation ก่อตั้งขึ้นในปี 2515 และเติบโตขึ้นจนกลายเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ใหญ่ที่สุดที่อุทิศตนเพื่อการปลูกต้นไม้ โดยมีสมาชิก ผู้สนับสนุน และพันธมิตรที่มีคุณค่า มากกว่าหนึ่งล้านคน ตั้งแต่ปี 2515 เรื่อยมา มีการปลูกต้นไม้มากกว่า 350 ล้านต้นแล้ว ในละแวกบ้าน ชุมชน เมือง และป่าไม้ทั่วโลก วิสัยทัศน์ของเราคือการช่วยให้ผู้อื่นเข้าใจและใช้ต้นไม้เพื่อแก้ปัญหาทั่วโลกที่เราเผชิญอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงคุณภาพอากาศ คุณภาพน้ำ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การตัดไม้ทำลายป่า ความยากจน และความหิวโหย

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในมูลนิธิอนุรักษ์ที่ดำเนินงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก มูลนิธิ Arbor Day Foundation ให้ความรู้และมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและชุมชนทั่วโลกผ่านทางสมาชิก พันธมิตร และโครงการต่าง ๆ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ arborday.org.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220310005962/en/

ติดต่อ:

ฝ่ายสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.

marykay.com/newsroom

972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


ผู้ชนะการแข่งขัน Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ได้รับการยอมรับในการขับเคลื่อนนวัตกรรมทางสังคมและการมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมแฟชั่น

Logo

คณะกรรมการตัดสินซึ่งรวมถึง changemaker Yara Shahidi และ Mr. Tommy Hilfiger ได้มอบรางวัลมูลค่า 200,000 ยูโรและแพ็คเกจรางวัลการให้คำปรึกษาแก่บริษัทสตาร์ทอัพชาวรวันดาและชาวดัตช์ เพื่อสนับสนุนความพยายามในการพลิกโฉมภูมิทัศน์แฟชั่น

อัมสเตอร์ดัม–(BUSINESS WIRE)–14 มกราคม 2565

Tommy Hilfiger ซึ่งเป็นเจ้าของโดย PVH Corp. [NYSE: PVH] ยินดีที่จะประกาศให้ Lalaland และ UZURI K&Y เป็นผู้ชนะการแข่งขัน Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นโปรแกรมระดับโลกที่ออกแบบมาเพื่อค้นหาและสนับสนุนแนวคิดที่นำไปสู่ภูมิทัศน์แฟชั่นที่ครอบคลุมมากขึ้น งานเสมือนจริงรอบสุดท้ายของโปรแกรมได้จัดขึ้นในวันที่ 12-13 มกราคม โดยผู้เข้ารอบ 6 คนสุดท้ายได้นำเสนอแนวคิดของตนต่อคณะกรรมการอันทรงเกียรติ ผู้ชนะจะแบ่งปันเงินรางวัลมูลค่า 200,000 ยูโร และได้รับคำปรึกษาเป็นเวลาหนึ่งปีกับผู้เชี่ยวชาญภายในจาก Tommy Hilfiger และจาก INSEAD หนึ่งในโรงเรียนธุรกิจระดับบัณฑิตศึกษาชั้นนำและใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขายังได้รับตำแหน่งในโปรแกรม INSEAD ที่นำผู้คน วัฒนธรรม และความคิดมารวมกันเพื่อปลูกฝังผู้นำที่มีนวัตกรรม

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220113005825/en/

Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge (Photo: Business Wire)

Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge (ภาพ: Business Wire)

สตาร์ทอัพและสเกลอัพมากกว่า 430 รายจาก 22 ประเทศส่งแนวคิดของพวกเขาในเดือนมกราคม 2564 สำหรับความคิดริเริ่มนี้ ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนของ Tommy Hilfiger ในเรื่อง Waste Nothing and Welcome All โปรแกรมในปีนี้มุ่งมั่นที่จะขยายและสนับสนุนผู้ประกอบการคนผิวดำ ชนพื้นเมือง และคนผิวสี (BIPOC) ที่ทำงานเพื่อพัฒนาชุมชนของตน ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมอนาคตที่ครอบคลุมมากขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมแฟชั่น นับเป็นครั้งแรกที่แฟน ๆ ของแบรนด์ TOMMY HILFIGER สามารถเข้าร่วมในช่วงเริ่มต้นของความท้าทาย โดยที่พวกเขาลงคะแนนเสียงแบบดิจิทัลเพื่อช่วยจำกัดการใช้งานให้แคบลงเพื่อระบุผู้เข้ารอบสุดท้าย นอกเหนือจากผู้ร่วมงานของ Tommy Hilfiger ในงานรอบชิงชนะเลิศแล้ว พวกเขายังได้รับเชิญให้ลงคะแนนเสียงสำหรับแนวคิดที่ชื่นชอบของพวกเขาเพื่อมอบรางวัลเพิ่มอีก 15,000 ยูโรให้กับหนึ่งในผู้เข้ารอบสุดท้าย

“ความท้าทายที่เพิ่มขีดความสามารถนี้นำพาผู้ที่มีความกระตือรือร้นและขยันหมั่นเพียรด้วยแนวคิดใหม่ ๆ เกี่ยวกับวิธีสร้างอนาคตของแฟชั่นที่เราทุกคนตั้งตารอ” Tommy Hilfiger กล่าว “ทั้งนี้เป็นงานรอบชิงชนะเลิศที่น่าประทับใจ และผมภูมิใจที่ได้เดินทางต่อร่วมกับผู้ประกอบการที่นำเสนอโซลูชั่นที่ก้าวล้ำและสร้างผลกระทบซึ่งท้าทายวิธีที่เราคิด สร้าง และรังสรรค์”

Lalaland เป็นแพลตฟอร์มจากเนเธอร์แลนด์ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อสร้างแบบจำลองสังเคราะห์ที่ปรับแต่งและครอบคลุมของชาติพันธุ์ที่แตกต่าง โดยได้รับรางวัลมูลค่า 100,000 ยูโร Michael Musandu ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Lalaland กล่าวว่า “การสร้างเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ครอบคลุมและหลากหลายมากขึ้นนั้นเป็นหัวใจสำคัญของวิสัยทัศน์ของเราที่ Lalaland” “การเป็นส่วนหนึ่งของ Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge นำมาซึ่งข้อมูลเชิงลึกที่น่าเหลือเชื่อ และจะยกระดับโซลูชัน A.I. เพื่อเข้าถึงผู้คนมากกว่าที่เราจะจินตนาการได้ จากการมอบความสำเร็จนี้ ทีมงานของเราแทบรอไม่ไหวที่จะเพิ่มขีดความสามารถของประสบการณ์การชอปปิงออนไลน์ที่เป็นมิตร ที่ไม่มีผู้บริโภครายใดรู้สึกว่าเป็นคนกลุ่มน้อย”

UZURI K&Y แบรนด์รองเท้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจากรวันดาใช้ยางรถยนต์รีไซเคิลจากจากแอฟริกาใต้สะฮารา และจ้างงานเยาวชนในท้องถิ่น โดยได้รับรางวัล 100,000 ยูโรเช่นกัน “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้ชนะการแข่งขัน Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge” Kevine Kagirimpundu ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ UZURI K&Y กล่าว “ด้วยโอกาสนี้ได้ให้คำปรึกษา คำแนะนำเชิงกลยุทธ์ และทำให้เรามีเวทีในการแบ่งปันความฝันในการนำเสนอทางเลือกของรองเท้าที่ยั่งยืนจากแอฟริกาสู่ตลาดโลก เราทุ่มเทเพื่อผลักดันผลกระทบที่แท้จริงและสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนในวันนี้เพื่อสร้างอนาคตที่สะอาดขึ้น”

Clothes to Good เป็นกิจการเพื่อสังคมจากแอฟริกาใต้ที่สร้างโอกาสทางธุรกิจขนาดเล็กและงานสำหรับคนพิการผ่านการรีไซเคิลสิ่งทอ โดยได้รับรางวัล 15,000 ยูโร “เรารู้สึกมีความสุขที่ได้รับการยอมรับจากผู้ชม Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge มันเป็นประสบการณ์ที่เราจะไม่มีวันลืม” Tammy Greyling ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและนักอาชีวบำบัดของ Clothes to Good กล่าว “เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่รู้ว่าคนอื่นเชื่อในความฝันของเราที่จะสร้างความแตกต่างให้กับคนพิการและครอบครัวอย่างแท้จริง การได้รับรางวัลนี้จะช่วยให้ Clothes to Good สามารถสร้างธุรกิจขนาดเล็กและโอกาสในการทำงานต่อไปผ่านการรีไซเคิลสิ่งทอจากชุมชนแอฟริกาใต้”

กรรมการตัดสินที่ดูแลงาน Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge รอบชิงชนะเลิศได้แก่:

  • Mr. Tommy Hilfiger
  • Martijn Hagman ซีอีโอของ Tommy Hilfiger Global และ PVH Europe
  • Yara Shahidi นักแสดงหญิงที่ได้รับรางวัล โปรดิวเซอร์ และผู้นำการเปลี่ยนแปลงในองค์กร
  • Esther Verburg, รองกรรมการผู้จัดการ (EVP) ธุรกิจและนวัตกรรมที่ยั่งยืนของTommy Hilfiger Global และ PVH Europe
  • Adrian Johnson, Entrepreneur ผู้ประกอบการ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านการเป็นผู้ประกอบการ เทคโนโลยีและสื่อที่ INSEAD
  • Katrin Ley กรรมการผู้จัดการของ Fashion for Good และผู้ก่อตั้ง Curator of the Amsterdam Global Shapers Hub
  • Yvonne Bajela สมาชิกผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทการลงทุน Impact X Capital

การสมัครสำหรับรอบที่สี่ของ Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge จะเปิดรับในเดือนมีนาคม 2565 ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถรับข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อลงทะเบียนได้ที่นี่: https://platform.younoodle.com/competition/thffc_2022

พันธกิจของ Tommy Hilfiger คือการเป็นบริษัทด้านไลฟ์สไตล์ดีไซน์เนอร์ที่ยั่งยืนชั้นนำ ซึ่งมีวิสัยทัศน์ Wastes Nothing and Welcomes All ผ่านวิธีการสร้างผลิตภัณฑ์ จัดการการดำเนินงาน และเชื่อมต่อกับชุมชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางสู่ความยั่งยืนของ Tommy Hilfiger ซึ่งขับเคลื่อนโดยกลยุทธ์ Forward Fashion ของ PVH ได้ที่ https://responsibility.pvh.com/tommy/

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ได้ที่นี่: https://responsibility.pvh.com/tommy/fashion-frontier-challenge/

ขอเชิญเพื่อน ๆ และผู้ติดตามแบรนด์เข้าร่วมการสนทนาบนโซเชียลมีเดียโดยใช้ #TommyHilfiger และ @TommyHilfiger

เกี่ยวกับ Tommy Hilfiger

TOMMY HILFIGER ประกอบด้วยแบรนด์ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ดีไซน์เนอร์ระดับพรีเมียมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลก มุ่งเน้นการออกแบบและจำหน่ายเสื้อผ้าและชุดกีฬาคุณภาพสูงสำหรับบุรุษ คอลเลกชันเครื่องแต่งกายและชุดกีฬาสตรี เครื่องแต่งกายเด็ก คอลเลกชันเสื้อผ้าเดนิม ชุดชั้นใน (รวมถึงชุดคลุม ชุดนอน และชุดลำลองสำหรับใส่ในบ้าน) รองเท้าและเครื่องประดับ Tommy Hilfiger ยังเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ เช่น แว่นตา นาฬิกา น้ำหอม ชุดว่ายน้ำ ถุงเท้า เครื่องหนังชิ้นเล็ก ๆ ของใช้ภายในบ้าน รวมถึงกระเป๋าเดินทาง ไลน์ผลิตภัณฑ์ TOMMY JEANS ประกอบด้วยชุดยีนและรองเท้าสำหรับบุรุษและสตรี เครื่องประดับและน้ำหอม ผู้บริโภคทั่วโลกสามารถเลือกซื้อสินค้าภายใต้แบรนด์ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS ได้ที่เครือข่ายร้านค้าปลีกของ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS ที่มีอยู่มากมาย รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านค้าปลีกออนไลน์ และที่ tommy.com

เกี่ยวกับ PVH Corp.

PVH เป็นหนึ่งในบริษัทแฟชั่นที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกที่เชื่อมต่อกับผู้บริโภคในกว่า 40 ประเทศ แบรนด์ที่เป็นสัญลักษณ์ระดับโลกของเรา ได้แก่ Calvin Klein  และ  TOMMY HILFIGER  ประวัติความเป็นมาเวลา 140 ปีของเราได้สร้างขึ้นจากความแข็งแกร่งของแบรนด์ ทีมงานของเรา และความมุ่งมั่นของเราในการขับเคลื่อนแฟชั่นไปข้างหน้าได้ตลอดไป และทั้งหมดนี้คือพลังของเรา คือพลังของ PVH

ติดตามเราบน FacebookInstagramTwitter และ LinkedIn

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220113005825/en/

ติดต่อ:

สื่อ Tommy Hilfiger
Virginia Ritchie
รองประธานฝ่ายสื่อสารระดับโลก (Vice President, Global Communications)
อีเมล: virginia.ritchie@tommy.com
โทร: +31 6 4318 4870

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย






Mary Kay Inc. และมูลนิธิ Mary Kay Ash FoundationSM ฉลองเหตุการณ์สำคัญส่งท้ายปี 2564

Logo

แดลลัส–(BUSINESS WIRE)–8 มกราคม 2565

Mary Kay Inc. บริษัทพัฒนาผู้ประกอบการระดับโลกและผู้สนับสนุนด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและความยั่งยืนขององค์กร เปิดเผยเหตุการณ์ที่สำคัญส่งท้ายปี 2564 Mary Kay Inc. ได้สานต่อคำมั่นสัญญาที่ยาวนานหลายทศวรรษในการทำให้ชีวิตของผู้หญิงทั่วโลกให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และสร้างชุมชนให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220107005500/en/

Mary Kay was named a Silver Globee® Winner in 3 categories at the 13th Annual 2021 Golden Bridge Business and Innovation Awards. (Photo: Mary Kay Inc.)

Mary Kay ได้รับรางวัล Silver Globee® จาก 3 หมวดหมู่ในงาน Golden Bridge Business and Innovation Awards ประจำปี 2564 ครั้งที่ 13 (ภาพ: Mary Kay Inc.)

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความสำเร็จในปี 2564 ของ Mary Kay ในรายงานนี้

เหตุการณ์สำคัญส่งท้ายปี 2564

ความเป็นเลิศทางธุรกิจ

  • Mary Kay ได้รับ 58 รางวัลและเกียรติยศในปี 2564 ซึ่งรวมถึง: การรับมือกับโควิด (22 รางวัล) การยกย่องจากพันธมิตรในรายงานผลกระทบทางสังคม/รายงานประจำปี (4) ผู้บริหารของ Mary Kay ได้รับการยอมรับในด้านความเป็นผู้นำ (7) ความเป็นเลิศทางธุรกิจ (10) และสารคดีที่ได้รับรางวัล (4 รางวัล; 5 เรื่องคัดเลือก) นอกจากนี้ Mary Kay และ/หรือ Mary Kay Ash ผู้ก่อตั้งที่เป็นสัญลักษณ์ของบริษัท ยังได้แสดงไว้ในหนังสือ Harvard Business Case Studies 2 ฉบับ หนังสือเรียน 3 เล่ม และรายงานการวิจัย 1 ฉบับ
  • ประกาศแต่งตั้ง Wendy Wang เป็นประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยร้อยละ 54 ของทีมผู้บริหารทั่วโลกของ Mary Kay เป็นผู้หญิง
  • ฉลองครบรอบตลาดของ Mary Kay: Mary Kay ลิทัวเนีย (10 ปี) และ Mary Kay เยอรมนี (35 ปี)
  • ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งในนายจ้างขนาดกลางที่ดีที่สุดในอเมริกาประจำปี 2564 (America's Best Mid-Sized Employers 2021) โดยนิตยสาร Forbes

Mary Kay Global Design Studio & Digital Innovation เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า

  • Mary Kay Global Design Studio และ Glamhive ได้ประกาศในรายการเรียลลิตี้โชว์ของ TikTok ระดับโลกครั้งแรกตามสไตล์โดย Step & Repeat การประกวดแสดงความสามารถด้านห้องเสื้อผ้า การแต่งหน้า และทรงผมจากผู้ใช้ TikTok ทั่วโลก ผู้เข้าร่วมได้แสดงความสามารถของตนจากกว่า 30 ประเทศ และแคมเปญที่เป็นนวัตกรรมดังกล่าวได้นำเสนอใน UK Daily Mail, The Daily Front Row และ Vogue Business ซึ่งเน้นย้ำถึงแนวทางที่เป็นนวัตกรรมในการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ค่อนข้างใหม่
  • เปิดตัว Suite 13 ซึ่งเป็นประสบการณ์ด้านความงามที่ใช้ความเป็นจริงเสมือนเพื่อแปลงโฉมโชว์รูมเสมือนจริงแห่งแรกของบริษัทในรูปแบบดิจิทัล Mary Kay MirrorMe™ สำหรับการแต่งหน้าเสมือนจริง และแอป Mary Kay® Skin Analyzer เพื่อสแกนใบหน้าของคุณสำหรับกิจวัตรประจำวันในการดูแลผิวที่ปรับแต่งได้
  • เฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีในการร่วมมือกับ Luis Casco แอมบาสเดอร์ความงามระดับโลก

วิทยาศาสตร์เบื้องหลังแห่งความงาม

  • เปิดตัวผลิตภัณฑ์บำรุงผิว Clinical Solutions™ ซึ่งประกอบด้วย Mary Kay Clinical Solutions™ Retinol 0.5 และ Mary Kay Clinical Solutions™ Calm + Restore Facial Milk และได้รับการรับรองของสภาแพทย์ผิวหนัง
  • Dr. Michelle Hines, Ph.D. ผู้อำนวยการด้านการกำหนดสูตรผลิตภัณฑ์ของ Mary Kay ได้รับการประกาศให้เป็นประธานเลือกของสมาคมนักเคมีเครื่องสำอาง (SCC)
  • ในความร่วมมือกับ Society for Investigative Dermatology (SID) ได้ประกาศเงินช่วยเหลือด้านสุขภาพ/โรคผิวหนัง เงินช่วยเหลือจะมอบให้กับนักวิจัยที่ทำการศึกษานวัตกรรมด้านสุขภาพผิวหนังและโรคผิวหนังที่แปลกใหม่เพื่อค้นพบมุมมองใหม่และกลยุทธ์การหนุนเสริม
  • ประกาศรายชื่อผู้ได้รับทุนสนับสนุนการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์หลายทุน รวมถึง Society of Cosmetic Chemists และ Mary Kay Inc. – Madam CJ Walker Scholarships เพื่อสนับสนุนนักศึกษาชนกลุ่มน้อยที่ด้อยโอกาสซึ่งกำลังศึกษาระดับปริญญาตรีหรือบัณฑิตสาขาเคมี กายภาพ การแพทย์ เภสัชกรรม ชีวภาพ หรือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง และมอบทุน Girls in STEAM จำนวนห้าทุนให้กับเยาวชนหญิงที่กำลังมีส่วนร่วมในการวิจัยเชิงนวัตกรรม ผู้รับปี 2564 ได้แก่ Mylana Brodovska จากยูเครน; Selin Alara Ornek จากตุรกี; Jordan Reeves จากสหรัฐอเมริกา; Ivanna Hernandez จากโคลอมเบีย; และAllie Weber จากสหรัฐอเมริกา
  • เปิดตัวงานวิจัยในการประชุมด้านวิทยาศาสตร์เสมือนจริงหลายครั้ง งานวิจัยนี้รวมถึง: แบ่งปันงานวิจัยเกี่ยวกับกระบวนการปรับสภาพผิวแบบค่อยเป็นค่อยไปซึ่งช่วยเพิ่มความทนทานต่อเรตินอลที่บริสุทธิ์ที่มีความเข้มข้นสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ยังคงมอบคุณประโยชน์ต่อผิวที่สำคัญของเรตินอล นำเสนอข้อค้นพบสำหรับการใช้เฉพาะเรตินอลที่บริสุทธิ์เพื่อปรับปรุงจุดด่างดำที่เกิดจากการอักเสบของผิวในประชากรชาวเอเชีย และกลไกการปรับที่สัมพันธ์กับการทำงานของผิวชั้นนอกสุดที่ถือเป็นปราการปกป้องผิวในการช่วยบรรเทา 2 ความกังวลทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับผิวแพ้ง่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลกระทบทางสังคม/ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร (CSR)

  • ในปี 2564 Pink Changing LivesSM ทั่วโลกของ Mary Kay ได้ก่อให้เกิดโปรแกรมเสริมพลังสนับสนุนองค์กรนอกภาครัฐกว่า 15 แห่งทั่วโลก ตั้งแต่ปี 2551 โปรแกรมดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผู้หญิงมากกว่า 6 ล้านคนและครอบครัวโดยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ กว่า 3,000 แห่ง ด้วยเงินบริจาคกว่า 16 ล้านดอลลาร์
  • Mary Kay จีน: มณฑลเหอหนานของจีนได้รับผลกระทบจากอุทกภัยรุนแรงเนื่องจากน้ำท่วม ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 33 ราย สูญหายอีก 8 ราย อพยพผู้คน 200,000 ราย ผู้คนที่ได้รับผลกระทบ 3 ล้านคน และการสูญเสียทางเศรษฐกิจโดยตรงอยู่ที่ประมาณ 1.22 พันล้านหยวน Mary Kay จีน บริจาคผลิตภัณฑ์มูลค่า 1 ล้านหยวนให้กับสหพันธ์การกุศลมณฑลเหอหนาน
  • Mary Kay เยอรมนี: น้ำท่วมในยุโรปส่งผลกระทบต่อเยอรมนี ออสเตรีย เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์ และติดอันดับภัยอันตรายทางธรรมชาติที่ทำลายล้างมากที่สุดในยุโรปเหนือ Mary Kay เยอรมนีให้คำมั่นในการบริจาคเงิน 100,000 ยูโรเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ
  • Mary Kay สเปน: ในปี 2563-64 ร่วมมือกับ Fundación Vicente Ferrer เพื่อให้บริการดูแลสุขภาพแก่เด็กและครอบครัวในอินเดีย ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 (ในปี 2561) Mary Kay สเปนได้ให้เงินสนับสนุนในการสร้างโรงเรียนสำหรับเด็กในหมู่บ้านปากาดาลาวาริปัลลิ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตกาดิริ (อนันตปูร์) ของอินเดีย

การส่งเสริมพลังของผู้หญิง

  • ประกาศความมุ่งมั่นในการพัฒนาความเท่าเทียมทางเพศโดยเผยแพร่เอกสารแสดงจุดยืนต้อนรับกลยุทธ์ความเท่าเทียมทางเพศของคณะกรรมาธิการยุโรปสำหรับปี 2563 – 2568 และโดยการเข้าร่วมการประชุมยุคสมัยแห่งความเท่าเทียม (Generation Equality Forum) ในปารีสและ 5 แนวร่วมปฏิบัติการระดับโลกเพื่อเร่งความเท่าเทียมทางเพศภายในปี 2569
  • ในความร่วมมือกับองค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women), องค์การแรงงานระหว่างประเทศ(ILO) & WE Empower ได้มีการเผยแพร่เรื่อง “เสริมสร้างการสนับสนุนสำหรับผู้ประกอบการสตรีในการตอบสนองและการฟื้นตัวของโควิด-19 หรือ Strengthening Support for Women Entrepreneurs in COVID-19 Response and Recovery” ที่คณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรี (CSW65)
  • Mary Kay และมูลนิธิ Mary Kay Ash FoundationSM ได้รับการยอมรับในรายงานของหน่วยงานสหประชาชาติเพื่อความเท่าเทียมทางเพศและการส่งเสริมพลังของผู้หญิงในกิจกรรมของกองทุนแห่งสหประชาชาติเพื่อสนับสนุนการดำเนินการเพื่อยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงต่อคณะกรรมาธิการว่าด้วย สถานภาพสตรี (CSW65) และสภาสิทธิมนุษยชน

ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการยอมรับความแตกต่าง (DEI)

  • ประกาศร้อยละ 100 ตำแหน่งผู้อำนวยการขึ้นไปที่ประจำในสหรัฐฯ เสร็จสิ้นการฝึกอบรมอคติใต้สำนึกภาคบังคับ
  • เปิดเผยความหลากหลายทางเพศในข้อมูลสถานที่ทำงาน: ร้อยละ 54 ของทีมผู้บริหารทั่วโลกของ Mary Kay เป็นผู้หญิง; ร้อยละ 61 ของพนักงานทั่วโลกของ Mary Kay เป็นผู้หญิง และร้อยละ 54 ของตำแหน่งรองประธานขึ้นไปเป็นผู้หญิง; ร้อยละ 59 ของตำแหน่งผู้อำนวยการขึ้นไปเป็นผู้หญิง
  • ในความร่วมมือกับ Equal Rights Trust พันธมิตรระดับโลก ได้ประกาศเปิดตัวการวิจัยเชิงนวัตกรรมเกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมกันทางเพศในอัลกอริทึมและปัญญาประดิษฐ์ที่มีเป้าหมายเพื่อจัดการกับความเท่าเทียมและผลกระทบทางเพศของระบบอัลกอริทึมที่นำเสนอโดย Mary Kay

ความยั่งยืน

  • ประกาศกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลก: เติมเต็มชีวิตในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน แนวทางแบบองค์รวมของเราครอบคลุมเสาหลักสามประการของความยั่งยืน—เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม—ผ่านเสาหลัก 5 ประการ โดยกระตุ้นด้วยความมุ่งมั่น 15 ประการเพื่อส่งมอบทศวรรษแห่งการดำเนินการที่ยั่งยืน
  • เป็นผู้ลงนามในสาเหตุสำคัญสองประการในการปกป้องน่านน้ำของโลก: CEO Water Mandate และหลักการฟื้นฟูมหาสมุทรอย่างยั่งยืนภายใต้กรอบความร่วมมือการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ หรือ United Nations Global Compact’s Sustainable Ocean Principles
  • เข้าร่วมมูลนิธิ Ellen MacArthur Foundation ในฐานะสมาชิกของเครือข่าย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการเป็นธุรกิจหมุนเวียนที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น
  • Mary Kay เปิดตัวสารคดีเรื่องที่สอง Forest of Hope ในเดือนตุลาคมระหว่างการประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติปี 2564 (COP26) สารคดีดังกล่าวเน้นย้ำถึงผลงานของ Angelica นักต่อสู้อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในวัย 70 ​​ปี และผู้นำกลุ่มผู้ประกอบการสตรีที่มุ่งมั่นในการรักษาป่าไม้ของเมืองมอนเตร์เรย์
  • ด้วยความร่วมมือกับมูลนิธิ Arbor Day Foundation ในการริเริ่ม Time for Trees® initiative ได้ประกาศบรรลุความมุ่งมั่นในการปลูกต้นไม้ 100 ล้านต้นและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ปลูกต้นไม้รายใหม่ 5 ล้านคนภายในเดือนเมษายน 2565 ซึ่งสำเร็จลุล่วงไปหนึ่งปีก่อนกำหนด
  • Mary Kay ร่วมมือกับ Nature Conservancy มาตั้งแต่ปี 2534 ทั้งนี้ในปี 2564 Mary Kay สนับสนุนเจ็ดโครงการในหมู่เกาะโซโลมอน ออสเตรเลียตอนเหนือ นิวซีแลนด์ เขตชนบทของจีน เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา และแคนาดา

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเกือบ 60 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay Inc. ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม  Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขาด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลก โดยมุ่งเน้นที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว สร้างความสวยงามให้กับชุมชน และสนับสนุนให้เด็ก ๆ ได้ทำตามความฝันของพวกเขา วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกาย – และนำพาสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Mary Kay ได้ที่ www.MaryKayGlobal.com

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220107005500/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc.
Global Communications
newsroom.marykay.com
+1 972.687.5332
media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย