Category Archives: Technology

Gansu Hengyuan Dongli New Energy Limited Company เข้าร่วมการประชุมซัมมิทด้านพลังงานอนาคตของโลก และประกาศแผนการลงทุนด้านอุตสาหกรรม

Logo

ABU DHABI–(BUSINESS WIRE)–21 เมษายน 2024

ตั้งแต่วันที่ 15 ถึง 20 เดือนเมษายน ปี 2024 ตัวแทนของรัฐบาลมณฑล Gansu และหน่วยงานรัฐบาลเมือง Jiuquan ได้เข้าร่วมการประชุมซัมมิทด้านพลังงานอนาคตของโลกที่อาบูดาบี รวมทั้งมีการเยือนดูไบและซาอุดีอาระเบียด้วย ในช่วงเวลานี้ Gansu Hengyuan Dongli New Energy Limited Company ได้ลงนามในสัญญากับผู้ซื้อพลังงานแสงอาทิตย์จากต่างประเทศหลายราย ซึ่งถือเป็นการเปิดช่องทางการขายใหม่ระหว่างประเทศสำหรับบริษัทผลิตพลังงานเซลล์แสงอาทิตย์แบบใหม่ของจีน

Hengyuan Dongli New Energy President Xian Xiaoli Signs Contract at the World Future Energy Summit, Abu Dhabi (Photo: Business Wire)

“Xian Xiaoli ประธานบริษัท Hengyuan Dongli New Energy ลงนามในสัญญาในการประชุมซัมมิทด้านพลังงานอนาคตของโลกที่อาบูดาบี (ภาพถ่าย: Business Wire)”

ผู้นำมณฑล Gansu และนายกเทศมนตรีของ Jiuquan เข้าร่วมพิธีลงนามในดูไบ ในพิธีลงนาม Ms. Xian Xiaoli ประธานบริษัทของ Gansu Hengyuan Dongli New Energy Limited Company กล่าวว่า “'การสร้างโลกสีเขียวและเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน' เป็นเป้าหมายการพัฒนาของ Gansu Hengyuan Dongli New Energy Limited Company และ 'ให้ความสำคัญในเทคโนโลยีและมุ่งเน้นในคุณภาพ' เป็นมาตรฐานที่ Hengyuan Dongli ยึดถืดมาตลอดในการสำรวจตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ”

Gansu Hengyuan Dongli New Energy Limited Company ตอบสนองต่อความคำเรียกร้องเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับ “การลดระดับคาร์บอนและการปรับความเป็นกลางของคาร์บอน” โครงการสร้างฐานโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ขนาด 6GW ที่บริษัทลงทุนในเมือง Jiuquan ครอบคลุมพื้นที่ 152 mu ด้วยเงินลงทุนประมาณ 4 พันล้านหยวน (553 ล้านเหรียญสหรัฐโดยประมาณ) ซึ่งสายการผลิตขนาด 2.4GW ได้เสร็จสมบูรณ์และเปิดดำเนินการแล้ว สายการผลิตที่เหลืออยู่ในระหว่างการก่อสร้าง บริษัทวางแผนที่จะลงทุนในโครงการสร้างฐานแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงขนาด 5GW เพิ่มเติม โดยครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 240 mu ด้วยเงินลงทุนประมาณ 4 พันล้านหยวน (553 ล้านเหรียญสหรัฐโดยประมาณ). ในการจัดตั้งห่วงโซ่อุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์สำหรับพลังงานใหม่ Hengyuan วงปิดแบบครบวงจร และสร้างสวนสาธิตอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์สำหรับพลังงานใหม่ โดยบริษัทมีแผนการที่จะสร้างโรงงานผลิตอินเวอร์เตอร์ โรงงานผลิตแผงยึดเซลล์แสงอาทิตย์ และโรงงานผลิตสายไฟและสายเคเบิลในลำดับต่อไป โดยครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 160 mu และด้วยเงินลงทุนประมาณ 2 พันล้านหยวน

โมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ Hengyuan มุ่งเน้นในเอาท์พุทพลังไฟสูงและมีความน่าเชื่อถือเป็นอย่างยิ่ง รวมถึงสามารถลดต้นทุนของระบบโดยรวมและเพิ่มรายได้ของนักลงทุนอย่างมีนัยะสำคัญ บริษัทมีการใช้อุปกรณ์สำหรับสายการผลิตอัจฉริยะประสิทธิภาพสูงล่าสุด เพื่อตอบสนองข้อกำหนดเฉพาะต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ เช่น  182 และ 210 โดยบริษัทมีการร่วมมือในเชิงลึกกับองค์กรที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เพื่อร่วมกันส่งเสริมการวิจัยและการพัฒนา รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีด้านพลังงานใหม่ นอกเหนือจากนี้ บริษัทยังได้จัดตั้งสถาบันวิจัยเทคโนโลยีด้านพลังงานใหม่ในเมือง Jiuquan มณฑล Gansu ซึ่งนำโดยทีมผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการระดับชาติจากจีน โดยมุ่งเน้นการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานใหม่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการอัปเกรดอย่างต่อเนื่อง และการดำเนินการซ้ำในเทคโนโลยีอุตสาหกรรมระดับองค์กรอย่างต่อเนื่อง รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานใหม่อย่างรวดเร็วในภูมิภาคท้องถิ่น และแม้กระทั่งภูมิภาคตะวันตกพร้อมบริการ

นี่เป็นผลลัพธ์จากวิสัยทัศน์การพัฒนาของ Gansu Hengyuan Dongli New Energy Limited Company เกี่ยวกับพลังงานใหม่จากเซลล์แสงอาทิตย์ ซึ่งมีฐานที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของจีน โดยให้บริการครอบคลุมทั้งประเทศ และเอเชียกลาง แม้กระทั่งตลาดโลกด้วยเช่นกัน

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53939513/en

ติดต่อ

บริษัท: Gansu Hengyuan Dongli New Energy Limited Company
ติดต่อ: Meng Lu
อีเมล: Salesoffice@hengyuannewenergy.com
เว็บไซต์: www.hengyuannewenergy.com
https://www.youtube.com/watch?v=gzeTRyUS3sk
โทร: +86156 2023 3138

แหล่งข้อมูล: Hengyuan Dongli New Energy

Photo Captions:

“Xian Xiaoli ประธานบริษัท Hengyuan Dongli New Energy ลงนามในสัญญาในการประชุมซัมมิทด้านพลังงานอนาคตของโลกที่อาบูดาบี (ภาพถ่าย: Business Wire)”

“พิธีลงนาม Hengyuan Dongli New Energy ในการประชุมซัมมิทด้านพลีงงานอนาคตของโลกที่อาบูดาบี (ภาพถ่าย: Business Wire)”


MidOcean Energy ของ EIG เข้าซื้อหุ้นร้อยละ 20 ใน Peru LNG แล้ว

Logo

วอชิงตัน–(BUSINESS WIRE)–23 เมษายน 2024

บริษัทก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) MidOcean Energy (“MidOcean” หรือ ในที่นี้จะเรียกโดยย่อว่า “บริษัท”) ที่ก่อตั้งและบริหารจัดการโดย EIG ซึ่งเป็นนักลงทุนสถาบันชั้นนำในภาคพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก ได้ประกาศในวันนี้เกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้เพื่อซื้อหุ้น 20 เปอร์เซ็นต์ของ SK Earthon (“SK”) ใน Peru LNG (“PLNG”) ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้ดำเนินการโรงงานส่งออก LNG แห่งแรกในอเมริกาใต้

สินทรัพย์ของ PLNG ประกอบด้วยโรงงานแปรรูปก๊าซธรรมชาติที่มีกำลังการผลิต 4.45 ล้านเมตริกตันต่อปี (mmtpa), ท่อส่งยาว 408 กม. ที่เจ้าของเป็นเจ้าของเองซึ่งมีกำลังการผลิต 1,290 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (mmcf/d), ถังเก็บขนาด 130,000 ลบ.ม. จำนวน 2 ถัง, เป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์ของท่าเรือทางทะเลยาว 1.4 กม.  และสถานที่ขนถ่ายรถบรรทุก  ด้วยความจุสูงถึง 19.2 mmcf/d  ภายใต้การดำเนินการโดย Hunt Oil Company PLNG เป็นหนึ่งในโรงงานผลิต LNG เพียงสองแห่งในละตินอเมริกา ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองปัมปา เมลโชริต้า ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้จากเมืองลิมาไป 170 กม.

De la Rey Venter ซีอีโอของ MidOcean Energy กล่าวว่า “การเสร็จสิ้นการลงทุนครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่เราได้พยายามสร้างพอร์ตโฟลิโอสินทรัพย์ LNG ให้หลากหลายและและมีความยืดหยุ่นในระดับโลก PLNG ซึ่งเป็นผู้ส่งออก LNG เพียงแห่งเดียวในอเมริกาใต้ จึงมีความโดดเด่นในตลาดโลก นอกจากนั้น PLNG ยังมีบทบาทสำคัญในการจัดหาก๊าซและ LNG ให้กับลูกค้าในเปรู เราหวังว่าจะได้เป็นหุ้นส่วนที่แข็งแกร่งกับผู้ร่วมทุนของ PLNG และจะรักษาผลกระทบเชิงบวกของ PLNG ต่อไปในหลายปีข้างหน้า”

การทำธุรกรรมนี้เสร็จสมบูรณ์หลังจากการประกาศล่าสุดของ MidOcean เกี่ยวกับการลงทุนเชิงกลยุทธ์โดย Mitsubishi Corporation และการเสร็จสมบูรณ์ในการเข้าซื้อกิจการของ Tokyo Gas Co. Ltd. ในโครงการ LNG แบบบูรณาการของออสเตรเลีย

ในการทำธุรกรรมของ MidOcean ครั้งนี้ Morgan Stanley ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแต่เพียงผู้เดียว และ Latham & Watkins ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมาย

ข้อมูลเกี่ยวกับ EIG

EIG คือนักลงทุนสถาบันชั้นนำในภาคพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก ซึ่งมีมูลค่าภายใต้การบริหาร 22.9 พันล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2566 โดย EIG เชี่ยวชาญในการลงทุนภาคเอกชนในด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับพลังงานในระดับโลก ตลอดระยะเวลาดำเนินการ 41 ปี EIG ได้ทุ่มเงินกว่า 47.1 พันล้านดอลลาร์ให้กับภาคพลังงานผ่านโครงการหรือบริษัทมากกว่า 405 แห่งใน 42 ประเทศใน 6 ทวีป ลูกค้าของ EIG ประกอบด้วยแผนบำนาญ บริษัทประกันภัย กองทุนการกุศล มูลนิธิ และกองทุนความมั่งคั่งชั้นนำหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา เอเชีย และยุโรป EIG มีสำนักงานใหญ่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยมีสำนักงานอยู่ในฮูสตัน ลอนดอน ซิดนีย์ รีโอเดจาเนโร ฮ่องกง และโซล

ข้อมูลเกี่ยวกับ MidOcean Energy

MidOcean Energy ซึ่งเป็นบริษัท LNG ที่ก่อตั้งและบริหารจัดการโดย EIG มุ่งมั่นที่จะสร้างพอร์ตโฟลิโอ LNG ระดับโลกที่มีความหลากหลาย ยืดหยุ่น คุ้มทุน ที่แข่งขันกับคาร์บอนได้ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อของ EIG ที่มีต่อ LNG ในฐานะตัวขับเคลื่อนที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน และความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของ LNG ซึ่งถือว่าเป็นทรัพยากรพลังงานเชิงกลยุทธ์ในทางภูมิศาสตร์การเมือง  MidOcean Energy นำโดย De la Rey Venter ผู้คร่ำหวอดในวงการอุตสาหกรรมมาเป็นเวลา 26 ปี ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารอาวุโสหลายตำแหน่ง รวมถึงตำแหน่ง Global Head of LNG ของ Shell Plc ด้วย

ท่านสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของ EIG ที่ www.eigpartners.com หรือเว็บไซต์ของ MidOcean Energy ที่ www.midoceanenergy.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ข้อมูลในการติดต่อ EIG

เอฟจีเอส โกลบอล

 เคลลี่ คิมเบอร์ลี / แบรนดอน เมสซินา
+1 212-687-8080
EIG@fgsglobal.com

ที่มา: EIG

KnowBe4 ซื้อกิจการ Egress

Logo

การเพิ่มโซลูชันการรักษาความปลอดภัยอีเมลบนคลาวด์ของ Egress ลงในชุดผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมของ KnowBe4 จะสร้างแพลตฟอร์มความปลอดภัยทางไซเบอร์ขั้นสูงที่ใหญ่ที่สุดและขับเคลื่อนด้วย AI สําหรับการจัดการความเสี่ยงของมนุษย์

แทมปา เบย์ ฟอลริดา–(BUSINESS WIRE)–24 เมษายน 2024

KnowBe4 ผู้ให้บริการการฝึกอบรมการตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก และแพลตฟอร์มฟิชชิ่งจําลอง ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ทําข้อตกลงขั้นสุดท้ายเพื่อซื้อกิจการ Egress ซึ่งเป็นผู้นําด้านการรักษาความปลอดภัยอีเมลบนคลาวด์ที่ปรับเปลี่ยนได้และบูรณาการ ชุดการรักษาความปลอดภัยอีเมลอัจฉริยะของ Egress มีชุดเครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่ปรับขนาดได้ และเปิดใช้งาน AI พร้อมความสามารถในการเรียนรู้แบบปรับเปลี่ยนได้ เพื่อช่วยป้องกัน ปกป้อง และคุ้มครององค์กรจากภัยคุกคามความปลอดภัยทางไซเบอร์ของอีเมลที่ซับซ้อน ไม่มีการเปิดเผยเงื่อนไขเพิ่มเติมของการทําธุรกรรม

องค์กรต่างๆ ทั่วโลกพยายามดิ้นรนเพื่อควบคุมการละเมิดข้อมูลตามพฤติกรรม โดย 74 เปอร์เซ็นต์ของเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบของมนุษย์ ตามรายงานการตรวจสอบการละเมิดข้อมูลของ Verizon การเข้าซื้อกิจการ Egress นั้น KnowBe4 วางแผนที่จะนําเสนอแพลตฟอร์มเดียวที่รวบรวมข่าวกรองภัยคุกคามแบบไดนามิก โดยนําเสนอการรักษาความปลอดภัยอีเมลที่ใช้ AI และการฝึกอบรมที่ปรับแต่งโดยอัตโนมัติตามความเสี่ยง

“อนาคตของการรักษาความปลอดภัยคือการควบคุมที่ขับเคลื่อนด้วย AI ส่วนบุคคล และการฝึกสอนแบบเรียลไทม์ ด้วยการให้บริการแพลตฟอร์มเดียวจาก KnowBe4 และ Egress ลูกค้าของเราจะได้รับประโยชน์จากการตรวจจับภัยคุกคามโดยรวมที่แตกต่าง เพื่อนําหน้าภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่พัฒนาอยางต่อเนื่อง และส่งเสริมวัฒนธรรมการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง” Stu Sjouwerman ซีอีโอของ KnowBe4 กล่าว “ในฐานะพันธมิตรการบูรณาการมานานกว่าหนึ่งปี โดยมีความสอดคล้องทางปรัชญาและวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ถือเป็นความก้าวหน้าตามธรรมชาติสําหรับทั้งสองบริษัทในการยกระดับการจัดการความเสี่ยงของมนุษย์และการรักษาความปลอดภัยอีเมลบนคลาวด์ไปอีกขั้น”

“KnowBe4 และ Egress มีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการส่งมอบการรักษาความปลอดภัยที่ปรับให้เหมาะสม และเกี่ยวข้องกับพนักงานแต่ละคน” Tony Pepper ซีอีโอของ Egress กล่าว “หนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่องค์กรต้องเผชิญคือ การระบุอย่างแม่นยําว่าใครคือต้นตอของการประนีประนอมรายต่อไป และเพราะเหตุใด ด้วยการรวมข่าวกรองและการวิเคราะห์จากแอปพลิเคชันแบบบูรณาการ บริษัทต่างๆ จะได้รับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าทั่วทั้งระบบนิเวศไซเบอร์ ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถมุ่งเน้นไปที่ความเสี่ยงที่สําคัญที่สุดได้”

การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากความสําเร็จที่สําคัญสําหรับทั้งสองบริษัทจนถึงปี 2024 KnowBe4 เพิ่งประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์ม AI-native Artificial Intelligence Defense Agents (AIDA) ซึ่งรวมเอาตัวแทน AI ขั้นสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความเร็ว รางวัลที่โดดเด่นล่าสุด ได้แก่ การได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ชนะซอฟต์แวร์ยอดนิยมโดย G2 และผู้ชนะ รางวัล Energage's Top Workplaces USA ในปี 2024 ในขณะเดียวกัน Egress ได้เปิดตัวกล่องจดหมาย Automated Abuse Mailbox ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เมื่อต้นเดือนเมษายน และได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงนวัตกรรมด้านความปลอดภัยแห่งปี (Computing Security Excellence Awards), โซลูชันการรักษาความปลอดภัยอีเมลที่ดีที่สุด โซลูชันป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลที่ดีที่สุด (SC Awards Europe) และสถานที่ทํางานที่ดีที่สุดในสหราชอาณาจักร (Great Places to Work 2024)

การทําธุรกรรมนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า ภายใต้เงื่อนไขการปิดตามธรรมเนียมและการอนุมัติตามกฎระเบียบ

Egress ได้รับการสนับสนุนจาก FTV Capital และ AlbionVC Citi ทําหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินพิเศษของ Egress และ Orrick ขณะที่ Herrington & Sutcliffe LLP ทําหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมายของ Egress

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ KnowBe4 โปรดไปที่ www.knowbe4.com สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Egress โปรดไปที่ www.egress.com

เกี่ยวกับ KnowBe4

KnowBe4 ผู้ให้บริการการฝึกอบรมการตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก และแพลตฟอร์มฟิชชิ่งจําลอง ถูกใช้ในองค์กรมากกว่า 65,000 แห่งทั่วโลก ก่อตั้งโดย Stu Sjouwerman ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีและความปลอดภัยของข้อมูล KnowBe4 ช่วยให้องค์กรจัดการกับองค์ประกอบด้านความปลอดภัยของมนุษย์ โดยการสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับแรนซัมแวร์ การฉ้อโกงของ CEO และกลยุทธ์วิศวกรรมสังคมอื่น ๆ ผ่านแนวทางใหม่ในการฝึกอบรมการตระหนักรู้ด้านความปลอดภัย Kevin Mitnick ผู้ล่วงลับ ไปแล้ว ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และหัวหน้าเจ้าหน้าที่แฮ็คของ KnowBe4 ได้ช่วยออกแบบการฝึกอบรม KnowBe4 ตามกลยุทธ์วิศวกรรมสังคมที่ได้รับการบันทึกไว้อย่างดีของเขา องค์กรต่างๆ พึ่งพา KnowBe4 ในการระดมผู้ใช้ปลายทางเป็นแนวป้องกันสุดท้าย และไว้วางใจแพลตฟอร์ม KnowBe4 เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยและลดความเสี่ยงของมนุษย์

เกี่ยวกับ Egress

เนื่องจากภัยคุกคามขั้นสูงยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราตระหนักดีว่าผู้คนมีความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดต่อความปลอดภัยขององค์กร และมีความเสี่ยงมากที่สุดเมื่อใช้อีเมล

Egress เป็นแพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยอีเมลบนคลาวด์เพียงแพลตฟอร์มเดียว ที่ประเมินความเสี่ยงของมนุษย์อย่างต่อเนื่อง และปรับการควบคุมนโยบายแบบไดนามิก เตรียมลูกค้าให้พร้อมสําหรับการป้องกันการโจมตีแบบฟิชชิ่งขั้นสูง และการละเมิดข้อมูลขาออกก่อนที่จะเกิดขึ้น Egress ใช้ประโยชน์จากแมชชีนเลิร์นนิงตามบริบทและโครงข่ายประสาทเทียม ด้วยการผสานรวมอย่างราบรื่นโดยใช้สถาปัตยกรรม API แบบ Cloud-Native Egress ให้การปกป้องอีเมลที่ได้รับการปรับปรุง การมองเห็นความเสี่ยงของมนุษย์อย่างลึกซึ้ง และเวลาในการประเมินมูลค่าทันที

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Kathy Wattman
Kathyw@knowbe4.com
(727) 474-9950 หรือ
PR@KnowBe4.com

ที่มา: KnowBe4

SMART Modular Technologies เปิดตัวการ์ดเสริม CXL ตระกูลใหม่สําหรับการขยายหน่วยความจําในเซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูง

Logo

Add-in Cards CXL ของ SMART ช่วยให้ศูนย์ข้อมูล บริการคลาวด์ และผู้ให้บริการ HPC สามารถขยายความจุหน่วยความจําสําหรับแอปพลิเคชันการประมวลผลที่ใช้หน่วยความจํามากได้อย่างง่ายดายและคุ้มค่า

นวร์ก แคลิฟอร์เนีย

Kioxia สุ่มตัวอย่าง อุปกรณ์หน่วยความจําแฟลชแบบฝัง UFS Ver. 4.0 รุ่นล่าสุด

Logo

ขนาดแพ็คเกจที่เล็กลง การปรับปรุงประสิทธิภาพช่วยให้ผู้ใช้ ได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นบนแอปพลิเคชันมือถือ

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–23 เมษายน 2024

Kioxia Corporation ผู้นําระดับโลกในด้านโซลูชันหน่วยความจํา ประกาศในวันนี้ว่าได้เริ่มสุ่มตัวอย่าง (1) อุปกรณ์หน่วยความจําแฟลชแบบฝังUniversal Flash Storage (2) (UFS) Ver. 4.0 รุ่นล่าสุด ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้รองรับความจุ 256 กิกะไบต์ (GB), 512GB และ 1 เทราไบต์ (TB) เหมาะอย่างยิ่งสําหรับแอปพลิเคชันมือถือยุคหน้าที่หลากหลาย รวมถึงสมาร์ทโฟนระดับแนวหน้า

Latest generation UFS Ver. 4.0 embedded flash memory devices (Graphic: Business Wire)

อุปกรณ์หน่วยความจําแฟลชแบบฝัง UFS Ver. 4.0 รุ่นล่าสุด (กราฟิก: Business Wire)

ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ UFS ใหม่ ช่วยให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการเชื่อมต่อ 5G ส่งผลให้การดาวน์โหลดเร็วขึ้น ลดเวลาแฝง และประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีขึ้น ขนาดบรรจุภัณฑ์ที่เล็กลงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่บอร์ด และความยืดหยุ่นในการออกแบบ

คุณสมบัติที่สําคัญ ได้แก่ :

  • การปรับปรุงความเร็วในการอ่าน / เขียนมากกว่ารุ่นก่อนหน้า (3): การเขียนตามลําดับประมาณ +15%, การเขียนแบบสุ่ม +50% และการอ่านแบบสุ่ม +30%
  • ขนาดบรรจุภัณฑ์ลดลงจากรุ่นก่อนหน้า(4): ขนาดบรรจุภัณฑ์คือ 9 มม. x 13 มม. และความหนาของบรรจุภัณฑ์คือ 0.8 มม. (256GB และ 512GB) และ 0.9 มม. (1TB) ส่งผลให้ลดลงประมาณ 18% เมื่อเทียบกับขนาดบรรจุภัณฑ์ทั่วไป (11 มม. x 13 มม.)

Kioxia เป็นบริษัทแรกที่แนะนําเทคโนโลยี UFS(5) และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง อุปกรณ์ UFS Ver. 4.0 ล่าสุดผสานรวมหน่วยความจําแฟลช BiCS FLASH™ 3D ที่เป็นนวัตกรรมของบริษัทและตัวควบคุมไว้ในแพ็คเกจมาตรฐาน JEDEC UFS 4.0 ประกอบด้วย MIPI M-PHY 5.0 และ UniPro 2.0 และรองรับความเร็วอินเทอร์เฟซตามทฤษฎีสูงสุด 23.2 กิกะบิตต่อวินาที (Gbps) ต่อเลน หรือ 46.4 Gbps ต่ออุปกรณ์ UFS 4.0 สามารถใช้งานร่วมกับ UFS 3.1 รุ่นเก่าได้

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง:
UFS 4.0 – ออกแบบมาสําหรับการจัดเก็บข้อมูลบนมือถือรุ่นต่อไป

หมายเหตุ:
(1) การจัดส่งตัวอย่างอุปกรณ์ขนาด 256GB และ 512GB เริ่มต้นในเดือนนี้ โดยอุปกรณ์ขนาด 1TB มีกําหนดจะตามมาหลังเดือนมิถุนายน 2024 ข้อมูลจําเพาะของตัวอย่างอาจแตกต่างจากผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์

(2) Universal Flash Storage (UFS) เป็นหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์สําหรับผลิตภัณฑ์หน่วยความจําแบบฝัง ที่สร้างขึ้นตามข้อกําหนดมาตรฐาน JEDEC UFS เนื่องจากอินเทอร์เฟซแบบอนุกรม UFS จึงรองรับการสื่อสารแบบสองทางสมบูรณ์ ซึ่งช่วยให้สามารถอ่านและเขียนพร้อมกันระหว่างหน่วยประมวลผลโฮสต์ และอุปกรณ์ UFS

(3) อุปกรณ์ 512GB รุ่นก่อนหน้าของ Kioxia Corporation หมายเลข “THGJFLT2E46BATP”.

(4) เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ UFS 4.0 รุ่นก่อนหน้าของ Kioxia

(5) การจัดส่งตัวอย่างครั้งแรกของ Kioxia Corporation ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2013
https://www.kioxia.com/en-jp/business/news/2013/20130208-1.html

ในการกล่าวถึงผลิตภัณฑ์ Kioxia ทุกครั้ง: ความหนาแน่นของผลิตภัณฑ์จะถูกระบุตามความหนาแน่นของชิปหน่วยความจําภายในผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่จํานวนความจุหน่วยความจําที่ผู้ใช้ปลายทางสามารถจัดเก็บข้อมูลได้ ความจุที่ผู้บริโภคใช้งานได้จะลดลง เนื่องจากพื้นที่ข้อมูลโอเวอร์เฮด การจัดรูปแบบ บล็อกที่ไม่ดี และข้อจํากัดอื่น ๆ และอาจแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์โฮสต์และแอปพลิเคชัน สําหรับรายละเอียด โปรดดูข้อมูลจําเพาะของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง คําจํากัดความของ 1KB = 2^10 ไบต์ = 1,024 ไบต์ คําจํากัดความของ 1Gb = 2^30 บิต = 1,073,741,824 บิต คําจํากัดความของ 1GB = 2^30 ไบต์ = 1,073,741,824 ไบต์ 1Tb = 2^40 บิต = 1,099,511,627,776 บิต

1Gbps คํานวณเป็น 1,000,000,000 บิต/วินาที ความเร็วในการอ่านและเขียนเป็นค่าที่ดีที่สุดที่ได้รับในสภาพแวดล้อมการทดสอบเฉพาะที่ Kioxia และ Kioxia รับประกันทั้งความเร็วในการอ่านและเขียนในอุปกรณ์แต่ละเครื่อง ความเร็วในการอ่านและเขียนอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่ใช้และขนาดไฟล์ที่อ่านหรือเขียน

ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทบุคคลที่สาม

เกี่ยวกับ Kioxia
Kioxia เป็นผู้นําระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจํา ซึ่งทุ่มเทให้กับการพัฒนา การผลิต และการขายหน่วยความจําแฟลชและโซลิดสเทตไดรฟ์ (SSD) ในเดือนเมษายนปี 2017 Toshiba Memory รุ่นก่อนได้แยกตัวออกจาก Toshiba Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นหน่วยความจําแฟลช NAND ในปี 1987 Kioxia มุ่งมั่นที่จะยกระดับโลกด้วย “หน่วยความจํา” โดยนําเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบที่สร้างทางเลือกให้กับลูกค้าและคุณค่าตามความทรงจําเพื่อสังคม BiCS FLASH™ เทคโนโลยีหน่วยความจําแฟลช 3 มิติที่เป็นนวัตกรรมของ Kioxia กําลังกําหนดอนาคตของการจัดเก็บข้อมูลในแอปพลิเคชันที่มีความหนาแน่นสูง รวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง พีซี SSD ยานยนต์ และศูนย์ข้อมูล

สอบถามข้อมูลลูกค้า:
Kioxia Group
สํานักงานขายทั่วโลก
https://business.kioxia.com/en-jp/buy/global-sales.html

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจําเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลการติดต่อ ถูกต้อง ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53946110/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สอบถามข้อมูลสื่อ:
Kioxia Corporation
Sales Strategic Planning Division
Satoshi Shindo
โทร: +81-3-6478-2404

ที่มา: Kioxia Corporation

Formlabs เปิดตัว Form 4 เครื่องพิมพ์ 3 มิติที่เร็วที่สุดและเชื่อถือได้มากที่สุดสำหรับการสร้างต้นแบบผ่านการผลิต

Logo

Form 4 ส่งมอบชิ้นส่วนส่วนใหญ่ได้ภายในสองชั่วโมง เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและราคาไม่แพงสำหรับมืออาชีพในการทำให้ไอเดียของตนเป็นจริง

มุมไบ, อินเดีย–(BUSINESS WIRE)–18 เมษายน 2024

Formlabs ผู้นำด้านการพิมพ์ 3 มิติ วันนี้ได้ประกาศเปิดตัว Form 4 และ Form 4B ซึ่งสร้างมาตรฐานใหม่ในการพิมพ์ 3 มิติด้วยเรซินระดับมืออาชีพด้วยระบบการพิมพ์ Low Force Display™ (LFD) ใหม่ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Formlabs ความเร็วในการพิมพ์ที่เร็วขึ้นสูงสุด 5 เท่าของ Form 4 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับมืออาชีพ ช่วยให้พวกเขารับความเสี่ยงด้านการออกแบบและเร่งเวลาออกสู่ตลาดได้

The new resin 3D printer by Formlabs- Form 4 Ecosystem. Produce parts at blazing speed, incredible precision and unmatched accuracy (Photo: Business Wire)

เครื่องพิมพ์ 3 มิติเรซินรุ่นใหม่โดย Formlabs- Form 4 Ecosystem ผลิตชิ้นส่วนด้วยความเร็วสูง ความแม่นยำอันน่าทึ่ง และความแม่นยำที่ไม่มีใครเทียบได้ (รูปภาพ: Business Wire)

“Form 4 ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญสำหรับภาพรวมการพิมพ์ 3 มิติทั้งหมด” Max Lobovsky ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Formlabs กล่าว “เราสร้างขึ้นจากความแข็งแกร่งและข้อมูลเชิงลึกที่รวบรวมจากเครื่องพิมพ์มากกว่า 130,000 เครื่องในตลาดและชิ้นส่วนมากกว่า 300 ล้านชิ้นที่พิมพ์เพื่อส่งมอบ Form 4 ซึ่งเป็นเครื่องพิมพ์ SLA ที่ดีที่สุดของเราเท่าที่เคยมีมา ทั้งความน่าเชื่อถือและความเร็วระดับใหม่จะเปลี่ยนวิธีที่ลูกค้าของเราพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่”

จุดเด่นของฟอร์ม 4

  • ความเร็วในการพิมพ์ที่รวดเร็วเป็นพิเศษ: สามารถพิมพ์งานส่วนใหญ่ได้ภายในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงด้วยเทคโนโลยี Masked Stereolithography (mSLA) ซึ่งเร็วกว่า Form 3+ ถึงห้าเท่า
  • ระบบการพิมพ์ LFD™: โดดเด่นด้วยไฟแบ็คไลท์กำลังสูงเป็นพิเศษ พื้นผิวการพิมพ์ที่เป็นเอกสิทธิ์ Light Processing Unit 4 (LPU 4) และแทงค์เรซินสองชั้น
  • ความน่าเชื่อถือที่ไม่มีใครเทียบได้: อัตราความสำเร็จในการพิมพ์ระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม มั่นใจได้ด้วยการตั้งค่าที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว การทำความร้อนที่แม่นยำ การตรวจจับแรง และการตรวจจับเศษวัสดุ
  • คุณภาพการพิมพ์อันน่าทึ่ง: พิกเซล 50 ไมครอน แสงที่มีการคอลลิเมตสูง การปรับพิกเซลให้เรียบขั้นสูง และรองรับการสัมผัสเบาๆ
  • การทำงานที่ใช้งานง่าย: เส้นโค้งการเรียนรู้ที่ง่ายดายพร้อมการจัดการเรซินอัตโนมัติ การเปลี่ยนวัสดุทันที และแพลตฟอร์มการสร้างการปลดปล่อยอย่างรวดเร็ว
  • ต้นทุนต่อชิ้นส่วนลดลง 40%: เพิ่มความสามารถในการจ่ายด้วยถังเรซินที่มีอายุการใช้งานยาวนาน ราคาเรซินที่ลดลง ปริมาณการพิมพ์ที่มากขึ้น และปริมาณงานที่สูงขึ้น

วัสดุชั้นนำของอุตสาหกรรม

Formlabs เปิดตัวเรซินใหม่ 6 ชนิดใน คลังข้อมูลชั้นนำของอุตสาหกรรม รวมถึงเรซินเอนกประสงค์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ และตัวเลือกพิเศษ เช่น Fast Model Resin, Precision Model Resin เพื่อรองรับอุตสาหกรรมทันตกรรม ฟอร์ม 4 ได้รับการตรวจสอบแล้วว่าใช้วัสดุอื่นๆ กว่า 17 รายการจากคลังข้อมูล พร้อมด้วยวัสดุที่เข้ากันได้ทางชีวภาพเพิ่มเติมอีก 15 รายการซึ่งเข้ากันได้กับฟอร์ม 4B

ติดต่อเราได้ที่ apac.sales@formlabs.com สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Formlabs

Formlabs ช่วยให้บุคคลสามารถบรรลุความคิดของตนเองผ่านโซลูชั่นการพิมพ์ 3 มิติระดับมืออาชีพ ตั้งอยู่ในเมืองซอเมอร์วิลล์ รัฐแมสซาชูเซตส์ และมีการดำเนินงานทั่วโลก ผลงานของ Formlabs ประกอบด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ SLA และ SLS กระบวนการหลังการประมวลผล และโซลูชันการผลิตแบบอัตโนมัติ ไปที่ https://formlabs.com/asia/ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:

https://www.businesswire.com/news/home/53933172/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ติดต่อสื่อ
press@formlabs.com

ที่มา: Formlabs

การเดินทางบทใหม่ของ Medisca: Sanjay D. Goorachurn ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

Logo

มอนทรีออล –(BUSINESS WIRE)–17 เมษายน 2024

Medisca บริษัทระดับโลกที่เชี่ยวชาญด้านเภสัชภัณฑ์ส่วนบุคคลยินดีที่ได้ประกาศการแต่งตั้ง Sanjay D. Goorachurn เป็น CEO คนใหม่ของบริษัท ในฐานะผู้ก่อตั้ง Tony Dos Santos และ Maria Zaccardo ได้เปลี่ยนบทบาทของตนไปเป็นที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ในตำแหน่งประธานและรองประธานตามลำดับ ประจวบกับวันครบรอบ 35 ปีของบริษัท ทำให้การตัดสินใจครั้งนี้กลายเป็นหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์ของ Medisca

Left to right: Tony Dos Santos, Founder | Maria Zaccardo, Co-founder | Sanjay D. Goorachurn, CEO (Photo: Business Wire)

ซ้ายไปขวา: ผู้ก่อตั้ง Tony Dos Santos | ผู้ก่อตั้งร่วม Maria Zaccardo | ซีอีโอ Sanjay D. Goorachurn (รูปภาพ: Business Wire)

ในปี 1989 Medisca ได้เปิดประตูสู่โลกในฐานะทีมสามคนที่มีผลิตภัณฑ์เพียงสองอย่าง พร้อมกับวิสัยทัศน์ที่จะอุดช่องโหว่ในการดูแลผู้ป่วย และในทุกวันนี้ Medisca ก็ได้กลายเป็นผู้นำระดับโลกในด้านเภสัชภัณฑ์ส่วนบุคคลที่มีสถานประกอบการมากกว่า 10 แห่งที่กระจายอยู่ใน 5 ประเทศ และมีบุคลากรกว่า 450 คน Medisca มีสินค้าที่ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์มากกว่า 2,000 รายการที่สามารถตอบสนองความต้องการด้านการดูแลสุขภาพได้อย่างหลากหลาย

“ด้วยประสบการณ์กว่า 35 ปี Medisca ผ่านการพัฒนามาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ด้วยการยึดมั่นในบุคลากรและวัฒนธรรมการเป็นผู้ประกอบการที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย” Dos Santos กล่าว “เมื่อมีประสบการณ์และทักษะอันเป็นเอกลักษณ์ของ Sanjay มาสมทบ เราจึงมั่นใจได้ว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางบทใหม่สำหรับ Medisca”

ในฐานะนักกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา ผู้ผ่านประสบการณ์มากว่า 30 ปี ทำให้ Goorachurn ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในนักวางกลยุทธ์ IP ชั้นนำของโลก ซึ่งได้ทำงานร่วมกับผู้บริหารระดับอาวุโสของบริษัทของรัฐและเอกชนหลายแห่งอย่างใกล้ชิดเพื่อเพิ่มมูลค่าเชิงพาณิชย์ให้กับนวัตกรรมและสินทรัพย์ IP ของบริษัทจนถึงขีดสุด ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของ Goorachurn และประสบการณ์การทำงานในการขยายการเติบโตสำหรับบริษัทที่มีความซับซ้อนในระดับโลกทำให้ Dos Santos และ Zaccardo ต้องดึงตัวเขากลับมาในปี 2016 เมื่อเขาเข้าร่วมกับทีม Medisca ในฐานะที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์

“ความเป็นมาของ Sanjay กับ Medisca เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เราตัดสินใจเลื่อนตำแหน่งเขาเป็น CEO คนใหม่ของเรา” Dos Santos กล่าว “ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา Sanjay ได้สร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับบุคลากรที่ Medisca หลายคนและแนะนำเราไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในบางครั้ง รวมถึงการพัฒนาและการปกป้องนวัตกรรมสำคัญของเรา ดังนั้น CEO คนใหม่ของบริษัทจึงไม่ได้เป็นเพียงบุคคลที่สามารถผลักดันให้เราก้าวไปข้างหน้า แต่ยังต้องมีค่านิยมพื้นฐานเดียวกันที่กำหนดตัวตนของเราอีกด้วย”

“เป้าหมายของผมคือการอนุรักษ์มรดกสืบทอดการเป็นผู้ประกอบการของ Tony และ Maria รวมถึงนำวิสัยทัศน์ของบริษัทไปเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาสุขภาพสำหรับทุกคน” Goorachurn กล่าว “ผมจะมุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพของบุคลากรที่ Medisca สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นสัดส่วนมากขึ้นสำหรับการเติบโตเชิงกลยุทธ์ สร้างความร่วมมือที่สำคัญ และใช้ประโยชน์จากความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมที่ทำให้ Medisca โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง พร้อมไปถึงการขยายตัวตนของเราในระดับโลก”

เกี่ยวกับ Medisca

Medisca เป็นผู้นำระดับโลกด้านเภสัชภัณฑ์ส่วนบุคคลและโซลูชันห่วงโซ่อุปทานเภสัชภัณฑ์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1989 โดยมีผลิตภัณฑ์มากมายกว่า 2,000 รายการจากคลังสูตรยาที่คิดค้นขึ้นเองและเป็นกรรมสิทธิ์อีกกว่า 10,000 สูตร ประกอบกับความเชี่ยวชาญและการให้บริการการประกอบตัวยา การให้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง การทดสอบเชิงวิเคราะห์ และอื่น ๆ อีกมากมาย การให้บริการโซลูชันที่เป็นเลิศในภาพส่วนด้านสุขภาพที่มีความหลากหลายทั่วโลก ทำให้ Medisca สามารถอุดช่องโหว่ในการดูแลสุขภาพและเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาสุขภาพสำหรับทุกคนได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.medisca.com และติดตามเราบน LinkedInFacebook, และ YouTube

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53933380/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Medisca Communications
communications@medisca.com
1-800-665-6334

ที่มา: Medisca

Xsolla Curine Academy และ Universiti Malaya ผสานความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลขั้นสูงสำหรับคอมพิวเตอร์เกม แอนิเมชัน และ VR/AR

Logo

KUALA LUMPUR, Malaysia–(BUSINESS WIRE)–11 เมษายน 2024

Xsolla Curine Academy and Universiti Malaya มีความยินดีที่จะประกาศความร่วมมือด้านการวิจัยและการริเริ่มร่วมกันเพื่อมุ่งเน้นนวัตกรรมที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องสำหรับคอมพิวเตอร์เกม แอนิเมชัน และ Virtual/Augmented Reality (VR/AR)

Left: Mr. Kaveh Wong Tz Toe, Founder / Director of Xsolla Curine Academy Sdn. Bhd.; Right: Professor Dr. Chan Chee Seng, Dean of Faculty of Computer Science & Information Technology (FCSIT) UM, shake hands after signing the Letter of Intent for joint collaboration. (Photo: Business Wire)

ซ้าย: Mr. Kaveh Wong Tz Toe ผู้ก่อตั้ง / ผู้อำนวยการของ Xsolla Curine Academy Sdn. Bhd.; ขวา: Professor Dr. Chan Chee Seng คณบดีคณะวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (FCSIT) UM จับมือกันหลังลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงในการร่วมมือกัน (ภาพถ่าย: Business Wire)

การมุ่งเน้นเชิงกลยุทธ์สำหรับคอมพิวเตอร์เกม แอนิเมชัน และ VR/AR นี้สอดคล้องกับภูมิทัศน์ดิจิทัลที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีเหล่านี้ในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยการรวบรวมความเชี่ยวชาญในแขนงสาขาเหล่านี้ Xsolla Curine Academy และ Universiti Malaya มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนนวัตกรรม สร้างสรรค์โครงการที่มีผลดีต่ออุตสาหกรรม และบ่มเพาะผู้มีความสามารถและทักษะเฉพาะด้านที่ปรับแต่งเพื่อให้เหมาะกับความต้องการในอนาคต

“เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้เริ่มต้นความร่วมมือกับ Universiti Malaya ความร่วมมือในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ นวัตกรรม และการแสวงหาความรู้ร่วมกัน เรามุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมอย่างมากในการพัฒนาการวิจัยและการฝึกอบรมที่ก้าวหน้าด้วยกัน พร้อมส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์” David Stelzer ประธานของ Xsolla กล่าว

Professor Dr. Chan Chee Seng, Dean คณบดีคณะวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ  Universiti Malaya กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นตัวอย่างการอุทิศตนของเราเพื่อสร้างความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับผู้นำในอุตสาหกรรม ด้วยการผสานรวมความเข้มงวดทางวิชาการของ Universiti Malaya เข้ากับข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรมของ Xsolla Curine Academy เราคาดหวังที่จะสามารถผลิตผลงานวิจัยที่มีประสิทธิภาพและส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เตรียมพร้อมนักศึกษาในการรับมือกับความท้าทายในอนาคต

“ด้วยความร่วมมือกันในครั้งนี้ Xsolla Curine Academy จะได้รับเชิญให้เข้าร่วมโปรแกรม Elite@UM ด้วย โดยนักศึกษาจะมีส่วนร่วมในงานวิจัยที่ล้ำสมัย ได้รับประสบการณ์จากการทำงานร่วมกัน และรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม โปรแกรมนี้จะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับนักศึกษาในการสำรวจและสร้างนวัตกรรมสำหรับคอมพิวเตอร์เกม แอนิเมชัน และ VR/AR เพื่อความสำเร็จในอาชีพการงานของพวกเขาในอนาคต

“ในการมุ่งเน้นความร่วมมือกันในเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยนี้ Xsolla Curine Academy และ Universiti Malaya ยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมดิจิทัล และเตรียมพร้อมนักศึกษาเพื่อให้สามารถก้าวสู่โลกดิจิทัลในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ” เขากล่าวเสริม

ในขณะที่ความร่วมมือระหว่าง Xsolla Curine Academy และ Universiti Malaya มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ องค์กรทั้งสองก็มุ่งมั่นที่จะสร้างผลดีระยะยาวต่อภูมิทัศน์การวิจัย การสอน และนวัตกรรม ความร่วมมือนี้เป็นการปูทางเพื่อความก้าวหน้าในอนาคต และสนับสนุนการเติบโตของสังคมบนฐานความรู้

สามารถเข้าดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Xsolla Curine Academy ได้ที่: xsolla.pub/XCA

เกี่ยวกับ Xsolla Curine Academy:

Xsolla Curine Academy เป็นผู้นำในการส่งเสริมนวัตกรรมดิจิทัลและความเป็นเลิศ ด้วยโปรแกรมขั้นสูง ความร่วมมือกันในการวิจัย และความร่วมมือกันในอุตสาหกรรม Academy ส่งเสริมศักยภาพของบุคลากรให้พร้อมในภูมิทัศน์ดิจิทัลที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา xcdev.com

เกี่ยวกับ Universiti Malaya:

UM เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศ หลังจากการผ่านพระราชบัญญัติสำหรับ University of Malaya ในปี 1961 โดยรัฐสภา UM ได้รับการยอมรับให้เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ UM ตามที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในปัจจุบัน ได้รับการจัดตั้งให้เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐอย่างเป็นทางการสำหรับ Federation of Malaya เมื่อวันที่ 1 เดือนมกราคม ปี 1962

UM ประกอบด้วยสองสถาบันการศึกษา สิบสี่คณะ สองสถาบัน และศูนย์การศึกษาหนึ่งแห่ง โดยครอบคลุมด้านการแพทย์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยยังเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลเพื่อการศึกษาแห่งแรกและใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย – UMMC นอกเหนือจากนี้ ยังมีการจัดตั้ง Research Cluster ขึ้นเพื่อขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางความรู้เพิ่มเติม พร้อมการให้ความสำคัญต่อการวิจัยโดยการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศในศูนย์การเรียนรู้หลายแห่ง

UM ขึ้นสู่อันดับที่ 65 ในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก Quacquarelli Symonds World University Rankings (QS-WUR) 2024 โดยก้าวขึ้น 5 อันดับจากปีก่อนหน้า UM ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน 5% ของอันดันแรกจากสถาบัน 1,503 แห่งที่ได้รับการจัดอันดับโดย QS และยังคงเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดใน 28 อันดับของมาเลเซีย และเป็นติดอันดับสามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ um.edu.my

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่www.businesswire.com/news/home/53928306/en

ติดต่อ

ผู้ติดต่อด้านสื่อสำหรับ Xsolla Curine Academy:
Derrick Stembridge
Global Director of Public Relations, Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

ผู้ติดต่อด้านสื่อสำหรับ Universiti Malaya:
Mastura Mohamad Yusoff
Media Relations Officer, Corporate Communications Centre
masturayusoff@um.edu.my / 013-3773 207

แหล่งข้อมูล: Xsolla Curine Academy


SMART Modular Technologies เปิดตัวโมดูลหน่วยความจำ Zefr ZDIMM ที่มีประสิทธิภาพความน่าเชื่อถือสูงพิเศษสำหรับการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ต้องการสมรรถนะสูง

Logo

นวร์ก แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–03 เมษายน 2024

SMART Modular Technologies, Inc. (“SMART”) หรือแผนกของ SGH (Nasdaq: SGH) ร่วมกับผู้นำโซลูชันอุปกรณ์หน่วยความจำ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล SSD และผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลไฮบริด เปิดตัวโซลูชันอุปกรณ์หน่วยความจำ  หรือแรมที่ใช้โมดูลแบบ Zefr™ ZDIMM™ โมดูล ZDIMM เหมาะสำหรับศูนย์ข้อมูล ศูนย์ข้อมูลระดับไฮเปอร์สเกล แพลตฟอร์มที่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง และสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่มีการใช้งานหน่วยความจำขนาดใหญ่ซึ่งต้องใช้ทรัพยากรทุกส่วนของแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ปัจจัยสำคัญสำหรับศูนย์ข้อมูลคือประสิทธิภาพความน่าเชื่อถือของหน่วยความจำ เพราะหากเกิดเหตุระบบขัดข้อง ก็จะทำให้มีค่าใช้จ่ายที่สูงตามมา โมดูล ZDIMM มีลักษณะของเมนบอร์ด (Form factor) ทั้งในรูปแบบ DDR4-3200 และ DDR5-5600 และในรูปแบบดิสก์ความหนาแน่นสูง (HD) ให้บริการ

SMART Modular’s Zefr ZDIMM ultra-high reliability memory modules are ideally suited for data centers, hyperscalers, high performance computing (HPC) platforms and other environments that run large memory applications. (Photo: Business Wire)

มดูลหน่วยความจำ Zefr ZDIMM ที่มีความน่าเชื่อถือสูงเป็นพิเศษของ SMART Modular เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับศูนย์ข้อมูล ไฮเปอร์สเกลเลอร์ แพลตฟอร์มการประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC) และสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่ใช้งานแอปพลิเคชันหน่วยความจำขนาดใหญ่ (รูปภาพ: Business Wire)

โมดูล ZDIMM ใช้การประมวลผลหน้าจอ Zefr ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของ SMART ซึ่งให้ประสิทธิภาพของช่วงเวลาที่ระบบทำงานและความน่าเชื่อถือในระดับสูงสุด โดยทั่วไปจะสามารถทำงานได้ดีกว่าหน่วยความจำโมดูลมาตรฐานอุตสาหกรรมถึง 90%  โมดูล ZDIMM จะทำงานผ่านการประมวลผลหน้าจอที่จำลองสภาวะโลกจริง ซึ่งเป็นการรับรองถึงความทนทานและความสามารถในการกลับคืนสู่การทำงานปกติของโมดูล ZDIMM สำหรับการทำงานของคอมพิวเตอร์ที่ต้องการสมรรถนะสูง

“จำนวนของเสียต่อการผลิตหนึ่งล้านชิ้น หรือ DPPM ตามมาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับโมดูล DRAM อยู่ในช่วง 3,000 ถึง 5,000 ชิ้น สำหรับโมดูล Zefr ZDIMM จะมี DPPM อยู่ในช่วง 200 ถึง 300 ชิ้น ประสิทธิภาพความน่าเชื่อถือสูงพิเศษนี้มีค่ามากต่อสภาพแวดล้อมที่การประมวลผลข้อมูลมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด โดยช่วงเวลาที่ระบบทำงานมีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดและค่าความเสียหายจากช่วงเวลาที่ระบบขัดข้องสามารถเพิ่มขึ้นสูงได้อย่างรวดเร็ว” Tom Quinn รองประธานอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ SMART กล่าว

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหน่วยความจำ Zefr ZDIMM ของ SMART โปรดดูที่ DDR4 ZDIMM และ DDR5 ZDIMM ดูที่ smartm.com หรือติดต่อ info@smartm.com

Zefr, ZDIMM, รูปแบบอักษร “S” และ “SMART” รวมถึง “SMART Modular Technologies” เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ SMART Modular Technologies, Inc. เครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนอื่น ทั้งหมดถือเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ครอบครองเครื่องหมายนั้น

เกี่ยวกับ SMART Modular Technologies

เป็นเวลามากกว่า 30 ปีที่ SMART Modular Technologies ช่วยให้ลูกค้าจากทั่วโลกได้ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงผ่านการออกแบบ การพัฒนา และการนำเทคโนโลยี advanced packaging มาใช้ในโซลูชันอุปกรณ์หน่วยความจำที่ใช้ความชำนาญพิเศษ ผลงานอันโดดเด่นของเรามีตั้งแต่เทคโนโลยีชั้นนำที่ทันสมัย ไปจนถึงผลิตภัณฑ์หน่วยความจำแฟลชและ DRAM ที่มีมาก่อนหน้า เราให้บริการโซลูชันสำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลและหน่วยความจำที่ได้มาตรฐาน ทนทานและสามารถปรับให้เหมาะสมได้ ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการการใช้งานที่หลากหลายในตลาดที่มีการเติบโตสูงได้

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:

https://www.businesswire.com/news/home/53915134/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

ติดต่อฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์
Arthur Sainio
Director, DRAM Product Marketing
SMART Modular Technologies
39870 Eureka Dr., Newark, CA 94583
+1 (510) 364-3647
info@smartm.com

ติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์
John Crook
Sr. Marketing Communications Specialist
SMART Modular Technologies
John.Crook@smartm.com

ที่มา: SMART Modular Technologies, Inc.

MidOcean Energy ของ EIG ประกาศการลงทุนเชิงกลยุทธ์จาก Mitsubishi Corporation

Logo

Anchor Investment ตอกย้ำความสำเร็จของกลยุทธ์การเติบโตของ MidOcean

วอชิงตัน–(BUSINESS WIRE)–02 เมษายน 2024

MidOcean Energy (“MidOcean”) เป็นบริษัทก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ระดับโลกที่ก่อตั้งและบริหารจัดการโดย EIG ซึ่งเป็นนักลงทุนสถาบันชั้นนำในภาคพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก ได้ประกาศการลงทุนเชิงกลยุทธ์โดย Mitsubishi Corporation (“Mitsubishi Corp”) ในวันนี้ การลงทุนของ Mitsubishi Corp จะช่วยเร่งกลยุทธ์ของ MidOcean เพื่อสร้างบริษัท LNG บูรณาการระดับโลกที่มี ‘pure play’ คุณภาพสูง อีกทั้งมีความหลากหลาย

Mitsubishi Corp มีบทบาทอย่างแข็งขันในภาคส่วน LNG มานานกว่า 50 ปี โดยมีการลงทุนครอบคลุมถึง 12 โครงการใน 8 ประเทศ ความร่วมมือครั้งนี้ยิ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นของทั้งสองบริษัทที่มีต่อ LNG และบทบาทของบริษัทในฐานะผู้ขับเคลื่อนที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน Mitsubishi Corp มีเป้าหมายที่จะพัฒนาธุรกิจเพื่อบรรลุสังคมที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน ขณะเดียวกันก็ตอบสนองความรับผิดชอบในฐานะซัพพลายเออร์พลังงานที่มั่นคง และตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้าอีกด้วย

การลงทุนครั้งนี้ทำให้ฐานนักลงทุนระดับบลูชิพของ MidOcean ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และต่อยอดจากแรงผลักดันที่สำคัญของ MidOcean นับตั้งแต่เปิดตัวในช่วงปลายปี 2022 เมื่อไม่นานมานี้ MidOcean ได้ประกาศปิดการเข้าซื้อหลักทรัพย์โครงการ LNG ของออสเตรเลียจาก Tokyo Gas

De la Rey Venter ซีอีโอของ MidOcean Energy กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ Mitsubishi Corp จะเข้าร่วมในฐานะนักลงทุนหลักใน MidOcean Energy ซึ่ง Mitsubishi Corp เป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรม LNG ระดับโลก และได้แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญและการมองการณ์ไกลในการระบุโอกาสอันมีค่าอย่างต่อเนื่อง การลงทุนของพวกเขาเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพื้นฐานที่แข็งแกร่งของตลาด LNG และกลยุทธ์ของ MidOcean ในการสร้างแพลตฟอร์มการเติบโตในระยะยาวที่สามารถแข่งขันได้สำหรับนักลงทุน”

R. Blair Thomas ประธานและซีอีโอของ EIG กล่าวว่า “การต้อนรับบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอย่าง Mitsubishi Corp ในฐานะนักลงทุนหลักและพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ช่วยเร่งความก้าวหน้าของ MidOcean ในการสร้างบริษัท LNG ระดับโลกขนาดใหญ่และบริสุทธิ์ ความต้องการในการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานของโลกมีส่วนทำให้ความต้องการ LNG ทั่วโลกเติบโตอย่างรวดเร็ว และเราหวังว่าจะได้ดำเนินการต่อไปตามโอกาสที่น่าสนใจและสำคัญนี้ร่วมไปกับนักลงทุนและพันธมิตรของเรา”

เกี่ยวกับ EIG
EIG คือนักลงทุนสถาบันชั้นนำในภาคพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก โดยมีมูลค่าภายใต้การบริหาร $22.9 พันล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2023 โดย EIG เชี่ยวชาญในการลงทุนภาคเอกชนในด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับพลังงานในระดับโลก ในช่วงประวัติศาสตร์ 41 ปี EIG ได้ทุ่มเงินกว่า $47.1 พันล้านดอลลาร์ให้กับภาคพลังงานผ่านโครงการหรือบริษัทมากกว่า 405 แห่งใน 42 ประเทศใน 6 ทวีป ลูกค้าของ EIG ประกอบด้วยสำนักแผนบำนาญ บริษัทประกันภัย กองทุนการกุศล มูลนิธิ และกองทุนความมั่งคั่งชั้นนำหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา เอเชีย และยุโรป EIG มีสำนักงานใหญ่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยมีสำนักงานอยู่ในฮูสตัน ลอนดอน ซิดนีย์ รีโอเดจาเนโร ฮ่องกง และโซล

เกี่ยวกับ MidOcean Energy
MidOcean Energy ซึ่งเป็นบริษัท LNG ที่ก่อตั้งและบริหารจัดการโดย EIG มุ่งมั่นที่จะสร้างหลักทรัพย์ LNG ระดับโลกที่มีความหลากหลาย มีความยืดหยุ่น มีต้นทุนและคาร์บอนที่แข่งขันได้ โดยสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อของ EIG ที่มีต่อ LNG ในฐานะตัวขับเคลื่อนที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงพลังงาน และความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของ LNG ในฐานะทรัพยากรพลังงานเชิงกลยุทธ์เชิงภูมิรัฐศาสตร์ MidOcean Energy นำโดย De la Rey Venter ผู้คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมมา 26 ปี ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารอาวุโสหลายตำแหน่ง ซึ่งรวมถึง Global Head of LNG ของ Shell Plc

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ EIG ที่ www.eigpartners.com หรือเว็บไซต์ของ MidOcean Energy ที่ www.midoceanenergy.com

เกี่ยวกับ Mitsubishi Corporation
Mitsubishi Corp ดำเนินธุรกิจที่หลากหลายครอบคลุมหลายอุตสาหกรรมและดูแลโดยกลุ่มธุรกิจเฉพาะอุตสาหกรรม 8 กลุ่ม ได้แก่ พลังงานสิ่งแวดล้อม โซลูชันวัสดุ ทรัพยากรแร่ การพัฒนาเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน การเคลื่อนย้าย อุตสาหกรรมอาหาร การสร้างชีวิตอัจฉริยะ (Smart-Life) และโซลูชันพลังงาน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท Mitsubishi Corporation ได้ที่ www.mitsubishicorp.com/jp/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

FGS Global
Kelly Kimberly / Brandon Messina
+1 212-687-8080
EIG@fgsglobal.com

แหล่งที่มา: EIG