Category Archives: Technology

จากการทำนาข้าวสู่ไบโอชาร์: Greenery นำเสนอเกษตรกรรมคาร์บอนต่ำเชิงนวัตกรรมที่ COP29

Logo

Greenery บริษัทด้านเทคโนโลยีสภาพอากาศที่นำเสนอโซลูชันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ จะนำเสนอโซลูชันนวัตกรรมสำหรับเกษตรกรรมคาร์บอนต่ำในการประชุมภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศครั้งที่ 29 (COP29) ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศอาเซอร์ไบจานในปีนี้

โซล ประเทศเกาหลีใต้ (BUSINESS WIRE)–06 พฤศจิกายน 2024

Greenery, Inc. จะจัดงานสัมมนาและนิทรรศการในหัวข้อการเปลี่ยนผ่านสู่เกษตรกรรมและการเลี้ยงสัตว์คาร์บอนต่ำที่ Korea Pavilion ในเขตบลูโซนของ COP29 ระหว่างวันที่ 11 ถึง 13 พฤศจิกายน

A low-carbon farming project at Haenam, South Korea (Image: Greenery)

โครงการเกษตรกรรมคาร์บอนต่ำที่แฮนัม ประเทศเกาหลีใต้ (ภาพ: Greenery)

Greenery, Inc. บริษัทด้านเทคโนโลยีสภาพอากาศซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเกาหลีใต้ ให้บริการที่ปรึกษาด้านการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ รวมถึงการวางแผนการดำเนินการด้านสภาพอากาศ การประเมินวงจรชีวิต (LCA) และการจัดการความเสี่ยงด้านสภาพอากาศ

ในเดือนตุลาคมปีนี้ Greenery ได้เปิดตัว ENVION ซึ่งเป็นโซลูชันซอฟต์แวร์ LCA ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกโดยละเอียดเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ตลอดวงจรชีวิต โดย ENVION นั้นได้ยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเจรจากับยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมระดับโลกแล้ว

นอกจากนี้ Greenery ยังดำเนินการในส่วนของ POPLE ซึ่งเป็นศูนย์รับรองเครดิตคาร์บอนแบบสมัครใจและเป็นตลาดกลางด้วย โดยสำนักงานเลขาธิการ POPLE ยังคงรักษามาตรฐานในระดับสูงสำหรับการตรวจสอบเครดิตและให้ความราบรื่นในการทำธุรกรรมต่างๆ ในตลาด

ในงาน COP29 นี้ ทาง Greenery จะแนะนำวิธีการใหม่ๆ ในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านกรณีศึกษาสองกรณีในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การเกษตรคาร์บอนต่ำในงานสัมมนาวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้

กรณีศึกษากรณีแรกจะศึกษาระบบการทำฟาร์มอัจฉริยะซึ่งพัฒนาขึ้นเป็นโปรแกรมเรือธงร่วมกันโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และไอซีทีของเกาหลีใต้กับหน่วยงานสังคมสารสนเทศแห่งชาติ ระบบการทำฟาร์มนี้สามารถลดทั้งการปล่อยก๊าซมีเทนและประหยัดน้ำได้จากการตรวจสอบระดับน้ำในนาข้าวแบบเรียลไทม์

ในกรณีศึกษากรณีที่สอง ทาง Greenery จะสาธิตว่าของเสียจากปศุสัตว์ ซึ่งเป็นแหล่งสำคัญของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากฟาร์ม สามารถแปลงเป็นไบโอชาร์ได้อย่างไร ไบโอชาร์เป็นคำผสมระหว่างคำว่า “biomass (ชีวมวล)” และ “charcoal (ถ่านไม้)” ซึ่งสามารถกักเก็บคาร์บอนได้นานประมาณหนึ่งร้อยปี ทำให้มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยลดก๊าซคาร์บอนได้

การบรรยายในงานสัมมนาจะประกอบด้วยการอภิปรายกลุ่มเกี่ยวกับเทคโนโลยีล้ำสมัยและวิธีการลดปริมาณคาร์บอนจากภาคเกษตรกรรม โดยมี Saskia Sanders ที่ปรึกษาอาวุโสด้านนโยบายของสำนักงานเกษตรแห่งสหพันธรัฐสวิตเซอร์แลนด์, Pankaj Kumam ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการของ Enviance และ Soojeong Myeong หัวหน้าคณะนักวิจัยของสถาบันสิ่งแวดล้อมเกาหลีเข้าร่วมการหารือในครั้งนี้ด้วย

ในช่วงนิทรรศการที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 ถึง 13 พฤศจิกายน ผู้เข้าร่วมจะได้รับชมการนำเสนอที่น่าสนใจเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านการเกษตรที่ยั่งยืนต่างๆ

“การประชุมของภาคีต่างๆ ได้รวบรวมผู้นำระดับโลกเพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขสำหรับอนาคตที่ยั่งยืน” Yoosik Hwang ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Greenery กล่าว “เราอยู่ที่นี่เพื่อแสดงให้เห็นว่าภาคเกษตรกรรมไม่ได้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาภาวะโลกร้อนเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญของแนวทางแก้ไขอีกด้วย”

COP29 ถือเป็นการประชุมครั้งล่าสุดของกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) ซึ่งรัฐบาลและองค์กรต่างๆ ทั่วโลกจะมารวมตัวกันเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่เร่งด่วน การประชุมในปีนี้ที่ประเทศอาเซอร์ไบจานจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการเจรจาระดับโลกเกี่ยวกับการบรรเทาก๊าซเรือนกระจกและความยั่งยืน

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54147821/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Greenery, Inc.
Na Yeon Kim
+82-2-6274-3600
annettenayeon@greenery.im

ที่มา: Greenery, Inc.


SMART Modular ขอแนะนำ SSD T6EN ที่ทนทาน ความเร็วสูง ความจุสูง และความปลอดภัยสูง สำหรับการบิน การป้องกันประเทศ และการใช้งานในอุตสาหกรรม

Logo

SSD ใหม่เป็นวิวัฒนาการล่าสุดของผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลแบบแฟลชที่ทนทานของ SMART

NEWARK, Calif.–(BUSINESS WIRE)–04 พฤศจิกายน 2024

SMART Modular Technologies®, Inc. (“SMART”) ซึ่งเป็นแบรนด์ของ Penguin Solutions, Inc. (Nasdaq: PENG) และเป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ ไดรฟ์โซลิดสเตต และผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลแบบไฮบริดแบบบูรณาการ ประกาศเปิดตัวแฟลชไดรฟ์ T6EN PCIe/NVMe ที่ทนทานรุ่นใหม่สำหรับการบิน การป้องกันประเทศ และการใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ โดย SSD ตระกูลใหม่นี้มีจำหน่ายในรูปแบบ U.2, E1.S และ M.2 2280 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ปลายทางมีความยืดหยุ่นมากขึ้นตามความต้องการในการใช้งานและการกำหนดค่าเฉพาะของตน

SMART Modular's new ruggedized T6EN PCIe/NVMe flash drives for aerospace, defense, and industrial applications are available in a broad range of capacities and three form factors. (Photo: Business Wire)

แฟลชไดรฟ์ T6EN PCIe/NVMe ที่ทนทานรุ่นใหม่ของ SMART Modular สำหรับการใช้งานด้านการบิน การป้องกันประเทศ และอุตสาหกรรมต่างๆ มีจำหน่ายในความจุที่หลากหลายและมีสามฟอร์มแฟคเตอร์ (รูปภาพ: Business Wire)

T6EN SSD เหล่านี้มีความจุสูงสุดถึง 15TB (เทราไบต์) สำหรับเวอร์ชัน U.2 และสูงสุดถึง 8TB สำหรับเวอร์ชัน E1.S และ M.2 2280 โดยทั้งสามเวอร์ชันนี้ใช้หน่วยความจำแฟลช 3D TLC

“SSD T6EN ใหม่ของเรามอบชุดคุณสมบัติที่ทนทานและสมบูรณ์พร้อมทั้งอัลกอริธึมความปลอดภัยที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเรา ทริกเกอร์การลบข้อมูล และการป้องกันการเขียนด้วยฮาร์ดแวร์” Mike Guzzo ผู้อำนวยการอาวุโสของผลิตภัณฑ์แฟลช RUGGED™ ของ SMART อธิบาย

การส่งมอบ SSD ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นนั้นเริ่มต้นในขั้นตอนการออกแบบ ซึ่ง SMART กำหนดระยะขอบที่สูงขึ้นสำหรับการกำหนดเส้นทางสัญญาณ แผงวงจรพิมพ์ที่หนาขึ้น และตัวเครื่องที่ทนทานยิ่งขึ้น ในระหว่างกระบวนการออกแบบและการพัฒนา SMART จะคัดเลือกเฉพาะส่วนประกอบที่มีความน่าเชื่อถือที่สูงที่สุดและทำการทดสอบแบบบูรณาการอย่างลึกซึ้ง ซึ่งรวมถึงการทดสอบการเบิร์นอิน 8 ชั่วโมงภายใต้การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิในช่วงกว้าง เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามข้อกำหนดทั้งหมดสำหรับการจัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยและทนทาน

T6EN SSD ทุกเวอร์ชันมีการเข้ารหัสแบบ AES-XTS 256 บิต ที่สามารถปกป้องข้อมูลที่เขียนลงในไดรฟ์โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังรองรับ OPAL 2.0 ซึ่งเป็นโปรโตคอลความปลอดภัยมาตรฐานอุตสาหกรรมเพื่อป้องกันข้อมูลบน SSD ที่ไม่ให้ผู้ใช้ที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าถึงได้

จากมุมมองของสภาพแวดล้อมการทำงาน T6EN SSD ของ SMART ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ทำงานภายใต้อุณหภูมิและสภาวะการทำงานที่รุนแรงเพื่อรองรับแอปพลิเคชันที่ต้องการความน่าเชื่อถือ ความทนทาน และการจัดเก็บหน่วยความจำที่ปลอดภัย สำหรับเลเยอร์ในการป้องกันเพิ่มเติมต่อปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม การเคลือบแบบคอนฟอร์มัลเป็นตัวเลือกที่เราใช้งานสำหรับในทุกรุ่นเพื่อให้การป้องกันเพิ่มเติมสำหรับความชื้น การเปลี่ยนอุณหภูมิฉับพลัน ไฟฟ้าสถิตย์ การสั่นสะเทือน และการปนเปื้อน

สำหรับข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ T6EN ฉบับสมบูรณ์และข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่โซลูชันที่ทนทานของ SMART ได้ที่ smartm.com

Penguin Solutions, “S”, “SMART” รวมถึง “SMART Modular Technologies” และ “RUGGED” เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนที่เป็นเจ้าของโดยกลุ่มบริษัทที่เป็นเจ้าของโดย Penguin Solutions, Inc. ส่วนเครื่องหมายการค้าอื่นๆ ทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับ SMART Modular Technologies, Inc.

บริษัทในเครือ Penguin Solutions

SMART Modular Technologies ช่วยให้ลูกค้าทั่วโลกสามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงได้ผ่านการออกแบบ พัฒนา และบรรจุภัณฑ์ขั้นสูงของโซลูชันหน่วยความจำแบบบูรณาการ ผลิตภัณฑ์ของเราประกอบด้วยเทคโนโลยีหน่วยความจำล้ำสมัยในปัจจุบันไปจนถึงผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูล DRAM และ Flash แบบมาตรฐานและแบบดั้งเดิม เป็นเวลากว่าสามทศวรรษที่เรามอบโซลูชันหน่วยความจำและที่จัดเก็บข้อมูลแบบมาตรฐาน ทนทาน และกำหนดเอง ซึ่งตอบสนองความต้องการของแอปพลิเคชันที่หลากหลายในตลาดที่มีการเติบโตสูง www.smartm.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54146332/en

ติดต่อ

ข้อมูลติดต่อฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์
Michael Guzzo
SMART Modular Technologies
ผู้อำนวยการอาวุโส
+1 (602) 524-0299
michael.guzzo@smartm.com

ข้อมูลติดต่อฝ่ายสื่อ
John Crook
SMART Modular Technologies
การสื่อสารการตลาด
+1 (510) 474 8326
john.crook@smartm.com

Morris Yang
SMART Modular Technologies
ผู้จัดการฝ่ายการตลาด
+886 (2) 7705-2770
apac@smartm.com

Maureen O’Leary
Penguin Solutions
ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสาร
+1 (602) 330-6846
pr@penguinsolutions.com

แหล่งที่มา: SMART Modular Technologies, Inc.

Black & Veatch ได้รับเลือกให้เป็นวิศวกรที่ปรึกษาของเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมในมาเลเซียตะวันออก

Logo

โรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนงาน Sarawak Gas Roadmap ซึ่งมีความสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายของรัฐซาราวักในการเพิ่มเศรษฐกิจเป็นสองเท่าภายในปี 2030

รัฐซาราวัก, มาเลเซีย –(BUSINESS WIRE)–05 พฤศจิกายน 2024

Black & Veatch  ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ได้รับเลือกให้เป็นวิศวกรที่ปรึกษาของเจ้าของโรงไฟฟ้ากังหันก๊าซพลังความร้อนร่วม Miri (Miri CCGT) ของ PETROS Power Sdn Bhd (PETROS Power) ในรัฐซาราวัก ประเทศมาเลเซีย

โรงไฟฟ้า Miri CCGT จะเป็นทางเลือกที่ปล่อยมลพิษน้อยกว่าโรงไฟฟ้าแบบถ่านหิน ซึ่งโรงไฟฟ้า Miri CCGT นั้นคาดว่าจะมีกำลังการผลิต 500 เมกะวัตต์ (MW) และมีวัตถุประสงค์เพื่อจ่ายไฟฟ้าให้กับระบบสายส่งไฟฟ้าของรัฐซาราวัก

“ความรู้ด้านกฎและมาตรฐานทางวิศวกรรมระดับนานาชาติและเฉพาะประเทศ ตลอดจนโครงสร้างสัญญาของ Black & Veatch ช่วยลดความเสี่ยงด้านต้นทุนและกำหนดเวลาของโครงการอย่างเป็นระบบ เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการจะดำเนินไปได้อย่างแน่นอน”  Narsingh Chaudhary ประธาน Black & Veatch ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและอินเดียกล่าว “Black & Veatch มอบความมั่นใจให้กับลูกค้าที่มีความก้าวหน้า เช่น PETROS Power ว่าผู้รับเหมาด้านวิศวกรรม การจัดซื้อจัดจ้าง และการก่อสร้าง (EPC) จะส่งมอบโครงการตามคำมั่นสัญญาได้อย่างคุ้มค่ากับต้นทุน โดยการเชื่อมช่องว่างระหว่างมาตรฐานทางวิศวกรรมที่แตกต่างกัน”

Black & Veatch จะให้ความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค ความรู้ และการถ่ายทอดเทคโนโลยี และการสนับสนุนสำหรับการจัดการและบริหารสัญญาทางด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ การก่อสร้าง และการทดสอบระบบ (EPCC)

Black & Veatch มีประสบการณ์อันยาวนานในการออกแบบและสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมสำหรับสถานที่ต่างๆ รวมถึงสถานที่ใหม่ การขยายโรงไฟฟ้าพลังไอน้ำที่มีอยู่ และการแปลงโรงไฟฟ้าแบบวงจรธรรมดา ( Simple cycle) ที่มีอยู่ให้เป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม

ติดต่อ Contact Black & Veatch สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Black & Veatch

Black & Veatch เป็นบริษัทวิศวกรรม จัดซื้อ ที่ปรึกษา และก่อสร้างระดับโลกที่พนักงานเป็นเจ้าของ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยมีประสบการณ์ด้านนวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนมานานกว่า 100 ปี ตั้งแต่ปี 1915 เราได้ช่วยให้ลูกค้าของเราพัฒนาชีวิตของผู้คนทั่วโลกโดยเน้นที่ความยืดหยุ่นและความน่าเชื่อถือของสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของเรา ติดตามเราได้ที่ www.bv.com และใน LinkedIn Facebook X (Twitter) และ Instagram

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ข้อมูลการติดต่อสำหรับสื่อ:
EMILY CHIA | +65 6335 6623 P | Chialp@bv.com
อีเมลสื่อตลอด 24 ชั่วโมง| Media@bv.com

แหล่งที่มา: Black & Veatch

อาบูดาบีเปิดตัว SteerAI บริษัทเทคโนโลยีใหม่ที่เตรียมเปลี่ยนโฉมยานยนต์อุตสาหกรรมให้กลายเป็นยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ

Logo

ชุดซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ขั้นสูงของ SteerAI ช่วยให้ยานยนต์อุตสาหกรรมขับเคลื่อนอัตโนมัติได้

บริษัทใหม่ซึ่งขับเคลื่อนโดย VentureOne ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการค้าของ ATRC จะเริ่มต้นด้วยยานยนต์ภาคพื้นดินและขยายออกไปสู่ท้องทะเล

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–04 พฤศจิกายน 2024

VentureOne ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการค้าของสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (Advanced Technology Research Council – ATRC) ได้เปิดตัว SteerAI ซึ่งเป็นระบบการขับเคลื่อนขั้นสูงที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่จะแปลงโฉมยานยนต์อุตสาหกรรมมาตรฐานให้กลายเป็นยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติได้

Abu Dhabi unveils SteerAI, a new tech venture set to transform industrial vehicles into autonomous powerhouses (Photo: AETOSWire)

อาบูดาบีเปิดตัว SteerAI ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนด้านเทคโนโลยีใหม่ที่จะเปลี่ยนโฉมยานยนต์อุตสาหกรรมให้กลายเป็นโรงงานผลิตยานยนต์ไร้คนขับ (รูปภาพ: AETOSWire)

SteerAI ใช้ชุดฮาร์ดแวร์ ชุดซอฟต์แวร์ และระบบการจัดการกองยานพาหนะเพื่อให้บริการทั้งภาคโลจิสติกส์และการป้องกันประเทศ รวมถึงเพื่อให้ยานยนต์ภาคพื้นดินขับเคลื่อนอัตโนมัติสามารถรับมือกับภารกิจที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูง ช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากร และปกป้องภารกิจที่ต้องใช้มนุษย์ โดยเทคโนโลยีของ SteerAI นั้นได้รับการพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยี (Technology Innovation Institute – TII) ที่เป็นหน่วยงานวิจัยประยุกต์ของ ATRC

H.E. Faisal Al Bannai ที่ปรึกษาประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเลขาธิการ ATRC กล่าวว่า “การเปิดตัว SteerAI ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความเป็นผู้นำของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในด้านเทคโนโลยีอัตโนมัติ ที่ ATRC วิสัยทัศน์ของเราคือการผลักดันขอบเขตของนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และ SteerAI เป็นตัวอย่างว่าเราเปลี่ยนการวิจัยที่ก้าวล้ำให้กลายเป็นโซลูชันในโลกแห่งความเป็นจริงที่สร้างผลกระทบที่เป็นรูปธรรมได้อย่างไร”

“เราไม่ได้สร้างยานยนต์อัตโนมัติแต่เพียงอย่างเดียว แต่เราได้สร้าง ‘สมอง’ ของยานยนต์อัตโนมัติขึ้นมาด้วย” ดร. Najwa Aaraj ซีอีโอของ TII กล่าว “อัลกอริทึมการนำทางขั้นสูงทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ที่ล้ำสมัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบโมดูลาร์ที่มีประสิทธิภาพที่สามารถทำงานกับยานยนต์ได้ทุกประเภท และมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการเคลื่อนที่ของเรา”

ยานยนต์อัตโนมัติที่ขับเคลื่อนโดยระบบของ SteerAI จะสามารถทำงานได้อย่างสม่ำเสมอและแม่นยำระหว่างจุดนำทางโดยมีเวลาหยุดทำงานที่น้อยที่สุด ชุดซอฟต์แวร์ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ยานพาหนะตอบสนองต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว หลบเลี่ยงสิ่งกีดขวาง และทำงานได้อย่างราบรื่นแม้ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย รวมถึงพื้นที่ที่ยังไม่ได้อยู่ในแผนที่

นอกจากจะช่วยให้สามารถเคลื่อนที่ได้โดยอัตโนมัติเต็มรูปแบบแล้ว ซอฟต์แวร์ของ SteerAI ยังอำนวยความสะดวกในการจัดการกองยานพาหนะจากระยะไกล การวางแผนและการตรวจสอบภารกิจ ตลอดจนการวิเคราะห์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเพื่อให้แน่ใจว่ายานพาหนะถูกนำไปใช้และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Reda Nidhakou รักษาการ CEO ของ VentureOne กล่าวว่า “การเปิดตัว SteerAI ถือเป็นก้าวสำคัญในการเดินทางของเราในการสร้างผลกระทบเชิงบวกผ่านการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โดยความต้องการด้านการเคลื่อนที่ในด้านโลจิสติกส์และการป้องกันประเทศนั้นเข้มข้น ซับซ้อน และมีค่าใช้จ่ายสูง ระบบอัตโนมัติที่ไม่ขึ้นกับยานพาหนะของเราจะช่วยกำหนดประสิทธิภาพและความแม่นยำในการปฏิบัติงานใหม่ในขณะที่ปกป้องทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดของบริษัท นั่นคือบุคลากรของบริษัท ภารกิจของเราคือการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินการของพวกเขา”

SteerAI เป็นโครงการที่สองที่ VentureOne เปิดตัว โดย AI71 ที่ได้เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2023 นั้น ได้สร้างโซลูชันทางธุรกิจโดยใช้โมเดล Falcon generative AI ของ TII

*แหล่งข้อมูลAETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54145916/en

ติดต่อ

Audrey Fernandes
Audrey.fernandes@edelman.com

แหล่งข้อมูล: สภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (Advanced Technology Research Council)

NielsenIQ (NIQ) แต่งตั้ง Steen Lomholt-Thomsen เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์

Logo

Lomholt-Thomsen มุ้งเน้นที่การเติบโตและกลยุทธ์ด้านลูกค้าในระดับโลก

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–01 พฤศจิกายน 2024

NIQ ที่เป็นบริษัทด้านข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภคชั้นนำของโลก ได้ประกาศแต่งตั้ง Steen Lomholt-Thomsen เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์คนใหม่ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2024 โดย Steen จะขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านลูกค้าและส่งเสริมการเติบโตในระดับโลก เนื่องจาก NielsenIQ ขยายขีดความสามารถเพื่อมอบข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญยิ่งต่อภารกิจในมุมมองที่ครอบคลุมที่สุดของพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค โดยความสามารถด้าน AI ของ NIQ ร่วมกับสินทรัพย์ข้อมูลหลัก รวมถึงการดำเนินงานระดับโลกที่ไม่มีใครเทียบได้นั้นอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมือนใครเพื่อมอบ Full View™ ให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นมุมมองที่ครอบคลุมที่สุดของพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค

Steen Lomholt-Thomsen NIQ Chief Commercial Officer (Photo: Business Wire)

Steen Lomholt-Thomsen NIQ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ (รูปภาพ: Business Wire)

Steen มีประสบการณ์มากมายในการเป็นผู้นำการเติบโตของรายได้และความเป็นเลิศในการดำเนินงานในองค์กรระดับโลกที่ซับซ้อน อาทิ BullWall, Clarivate และ Aveva และเคยดำรงตำแหน่งผู้นำในบริษัทต่างๆ เช่น IBM, HP และ IHS (ปัจจุบันคือ S&P Global) โดยเขามีความเข้าใจในตลาดระดับโลก การมีส่วนร่วมของลูกค้า ซอฟต์แวร์ และเทคโนโลยีอย่างลึกซึ้ง และจะสานต่อภารกิจของ NIQ ในการส่งเสริมให้ธุรกิจต่างๆ สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่ถูกต้องได้

Tracey Massey ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ NIQ กล่าวว่า “NIQ ดำเนินงานในกว่า 90 ประเทศทั่วโลก โดย Steen เป็นผู้นำที่ได้ผ่านการพิสูจน์มาแล้วและมีประวัติในด้านความสำเร็จในอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย รวมถึงประสบการณ์ของเขาในด้านความเป็นเลิศในการปฏิบัติงานและการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าทำให้เขาเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะบรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของเรา”

Lomholt-Thomsen กล่าวว่า “ผมตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมงานกับ NIQ และจะช่วยส่งมอบข้อมูลเชิงลึกรวมถึงการวิเคราะห์ผู้บริโภคที่ล้ำหน้าที่สุดในอุตสาหกรรมสู่ตลาด ผมตั้งตารอที่จะร่วมงานกับลูกค้าที่ยอดเยี่ยมของเราและช่วยให้พวกเขาไปถึงจุดสูงสุดจากการใช้ประโยชน์จากข้อมูลและความสามารถของ NIQ”

Steen จะประจำอยู่ที่สำนักงานของ NIQ ที่เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

เกี่ยวกับ NIQ

NielsenIQ (NIQ) เป็นบริษัทด้านข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภคชั้นนำของโลก ซึ่งมอบความเข้าใจที่ครอบคลุมที่สุดเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคและเปิดเผยเส้นทางใหม่ๆ สู่การเติบโต โดย NIQ ได้รวมตัวกับ GfK ในปี 2023 โดยการนำผู้นำอุตสาหกรรมทั้งสองที่มีการเข้าถึงทั่วโลกที่ไม่มีใครเทียบได้มาอยู่รวมกัน ปัจจุบัน NIQ มีการดำเนินงานในกว่า 95 ประเทศ ครอบคลุม 97% ของ GDP ด้วยการอ่านข้อมูลค้าปลีกแบบองค์รวมและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภคที่ครอบคลุมที่สุด ซึ่งนำเสนอด้วยการวิเคราะห์ขั้นสูงผ่านแพลตฟอร์มที่ทันสมัย ทำให้ NIQ สามารถมอบ Full View™ แก่ลูกค้าได้

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.niq.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สื่อ:
Sweta Patra
swetapatra@nielseniq.com

แหล่งข้อมูล: NIQ

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54145329/en

CRH พัฒนาฟาร์มกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าให้กับโรงงานปูนซีเมนต์ในโรมาเนีย

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–01 พฤศจิกายน 2024

CRH (NYSE: CRH) ที่เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันวัสดุก่อสร้าง ได้พัฒนาฟาร์มกังหันลมแห่งใหม่เพื่อผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้กับโรงงานปูนซีเมนต์ Medgidia ในประเทศโรมาเนีย ฟาร์มกังหันลมแห่งนี้เป็นแห่งแรกในประเทศที่ผลิตไฟฟ้าให้กับโรงงานปูนซีเมนต์โดยเฉพาะ ฟาร์มกังหันลมจะตอบสนองความต้องการด้านพลังงานต่อปีของโรงงาน Medgidia ได้อย่างมีนัยสำคัญ และยังสามารถช่วยลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นได้ ในขณะเดียวกันก็มีส่วนสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดของโรมาเนียอีกด้วย

(Photo: Business Wire)

(รูปภาพ: Business Wire)

Eunice Heath ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความยั่งยืนของ CRH กล่าวว่า “นี่คือโครงการพลังงานสะอาดที่สำคัญของ CRH และเป็นหนึ่งในหลายๆ วิธีที่เรากำลังช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ยืดหยุ่นและยั่งยืนมากขึ้น การสร้างฟาร์มกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าให้กับหนึ่งในโรงงานปูนซีเมนต์ของเราแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการลดการปล่อยคาร์บอนและจัดหาโซลูชันวัสดุก่อสร้างที่มีคาร์บอนต่ำให้กับลูกค้าของเรา เพื่อช่วยตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของการก่อสร้าง”

CRH ได้ลงทุนอย่างแข็งขันในพลังงานสะอาดเพื่อช่วยให้สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์และโซลูชันคาร์บอนต่ำให้กับลูกค้าได้ โดยการเพิ่มการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ในการดำเนินงาน รวมถึงการผลิตไฟฟ้าหมุนเวียนในสถานที่ CRH กำลังก้าวสำคัญในการบรรลุเป้าหมายชั้นนำของอุตสาหกรรมในการลดการปล่อยคาร์บอนลงร้อยละ 30 ภายในปี 2030

โครงการดังกล่าวเริ่มต้นในเดือนสิงหาคม 2023 และปัจจุบันฟาร์มกังหันลมได้ดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ซึ่งประกอบด้วยกังหันลม 5 ตัว ที่มีกำลังการผลิตที่ติดตั้งแล้วทั้งหมดประมาณ 30 เมกะวัตต์ และมีกำลังการผลิตสุทธิต่อปีประมาณ 80 กิกะวัตต์ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานของประเทศโรมาเนียได้ 40,000 ตัน

เกี่ยวกับ CRH

CRH (NYSE: CRH, LSE: CRH) เป็นผู้ให้บริการโซลูชันวัสดุก่อสร้างชั้นนำที่สร้าง เชื่อมต่อ และปรับปรุงโลกของเรา CRH มีพนักงานประมาณ 78,500 คน ในสถานที่ปฏิบัติงานประมาณ 3,390 แห่งใน 28 ประเทศ และเป็นผู้นำตลาดทั้งในอเมริกาเหนือและยุโรป ในฐานะพันธมิตรที่สำคัญสำหรับโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและสาธารณูปโภคที่สำคัญ การก่อสร้างที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยที่ซับซ้อน และโซลูชันการใช้ชีวิตกลางแจ้ง ผลิตภัณฑ์วัสดุ และบริการที่มีมูลค่าเพิ่มที่ไม่เหมือนใครของ CRH ได้ช่วยส่งมอบสภาพแวดล้อมที่ยืดหยุ่นและยั่งยืนยิ่งขึ้น บริษัทได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมโดยหน่วยงานจัดอันดับด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG) โดย CRH เป็นบริษัทในกลุ่ม Fortune 500 มีหุ้นของบริษัทจดทะเบียนใน NYSE และ LSE สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่: www.crh.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

media@crh.com

แหล่งข้อมูล: CRH

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54145959/en


Medidata เปิดตัวโซลูชั่นแบบชุดเพื่อสนับสนุนการทดลองด้านมะเร็งวิทยาและวัคซีน ซึ่งจะช่วยเร่งการออกแบบและการดำเนินการศึกษา

Logo

ข้อเสนอใหม่จะรวมเทคโนโลยี Medidata ที่หลากหลายและการเรียนรู้จากการทดลองนับพันครั้งที่ผ่านมา เพื่อให้จัดการการศึกษาสำหรับการศึกษาในระยะที่ 2 และ 3 ในด้านการรักษาที่ระบุได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยสนับสนุนแนวทางของ FDA สำหรับการออกแบบและการดำเนินการศึกษาโดยคำนึงถึงผู้ป่วยเป็นหลัก

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–31 ตุลาคม 2024

Medidata ซึ่งเป็นแบรนด์ของ Dassault Systèmes และผู้ให้บริการโซลูชั่นการทดลองทางคลินิกชั้นนำสำหรับอุตสาหกรรมชีววิทยาศาสตร์ ได้เปิดตัวข้อเสนอแบบชุดใหม่ 2 ชุดเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในด้านการวิจัยมะเร็งวิทยาและวัคซีน Medidata Oncology Solutions และ Medidata Vaccine Solutions สนับสนุนแนวทางของ FDA ที่มุ่งเน้นจุดสิ้นสุดของการศึกษาที่คำนึงถึงผู้ป่วยเป็นหลัก การออกแบบการทดลองที่ปรับเปลี่ยนได้ และความหลากหลายในการทดลอง การรวมส่วนประกอบของการทดลองที่สำคัญ เช่น ผลลัพธ์ที่รายงานโดยผู้ป่วยแบบเรียลไทม์และการจัดการภาพ โซลูชั่นแบบชุดเหล่านี้จะช่วยผู้สนับสนุนโดยการลดความซับซ้อนในการทดลอง เร่งการตัดสินใจ และปรับปรุงการประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการรักษา

“การทดลองด้านมะเร็งวิทยาและวัคซีนเผชิญกับความท้าทายอย่างมากในการสรรหาผู้ป่วยที่หลากหลาย การดำเนินการที่รวดเร็ว และการรักษาและติดตามความปลอดภัยของผู้ป่วย” Joseph Schmidt ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Medidata กล่าว “การทำให้ความสามารถแบบชุดใหม่เหล่านี้พร้อมใช้งานสำหรับลูกค้าจะช่วยให้เราสามารถส่งมอบโซลูชั่นที่สร้างขึ้นจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญอันกว้างขวางของ Medidata ในด้านการรักษาที่สำคัญทั้งสองนี้ ชุดเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถดำเนินการขั้นตอนที่ซับซ้อนของการศึกษาเหล่านี้ได้ ในขณะเดียวกันก็ช่วยพัฒนาการรักษาที่ช่วยชีวิตได้ด้วย”

Medidata มีประสบการณ์ด้านมะเร็งวิทยาและวัคซีนมากกว่า 25 ปี และมีชุดข้อมูลการทดลองทั่วโลกที่ใหญ่ที่สุด โดยได้ทำการศึกษาด้านมะเร็งวิทยาประมาณ 9,000 ครั้งและการทดลองวัคซีน 750 ครั้ง ในปี 2023 มีการบันทึกว่า 93% ของการอนุมัติยารักษามะเร็งดำเนินการผ่าน Medidata บริษัทยังอยู่ในแนวหน้าของ COVID-19 โดยสนับสนุนการทดลองหลายร้อยครั้ง รวมถึงการพัฒนาวัคซีน mRNA ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดชนิดหนึ่งที่ใช้ต่อสู้กับไวรัส

โซลูชันทั้งสองนี้มอบระบบนิเวศข้อมูลแบบรวมศูนย์โดยการบูรณาการ Medidata Rave EDC, Medidata eCOA, Medidata Rave Imaging, Medidata Clinical Data Studio และ Health Record Connect โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชุดโซลูชั่นมะเร็งวิทยาและวัคซีนใหม่ของ Medidata ที่หน้าหลักด้านการรักษาของเรา

เกี่ยวกับ Medidata

Medidata ขับเคลื่อนการรักษาที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้นและทำให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดีขึ้นผ่านโซลูชั่นดิจิทัลเพื่อสนับสนุนการทดลองทางคลินิก Medidata เฉลิมฉลอง 25 ปีของนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในการทดลองมากกว่า 34,000 ครั้งและผู้ป่วย 10 ล้านราย โดยนำเสนอความเชี่ยวชาญระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยการวิเคราะห์ และชุดข้อมูลการทดลองทางคลินิกที่ผ่านมาในระดับผู้ป่วยที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนมากกว่า 1 ล้านรายจากลูกค้าประมาณ 2,200 รายไว้วางใจในแพลตฟอร์มที่ไร้รอยต่อและครบวงจรของ Medidata ในการปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ป่วย เร่งการค้นพบทางคลินิก และนำการรักษาออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น Medidata ซึ่งเป็นแบรนด์ของ Dassault Systèmes (Euronext Paris: FR0014003TT8, DSY.PA) มีสำนักงานใหญ่อยู่ในนครนิวยอร์กและได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำโดย Everest Group และ IDC ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.medidata.com และติดตามเราได้ที่ @Medidata

เกี่ยวกับ Dassault Systèmes

Dassault Systèmes เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับความก้าวหน้าของมนุษย์ เรามอบสภาพแวดล้อมเสมือนจริงที่ทำงานร่วมกันให้กับธุรกิจและผู้คนเพื่อจินตนาการถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน การสร้างประสบการณ์เสมือนจริงที่เป็นคู่ขนานกับโลกแห่งความเป็นจริงด้วยแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE และแอปพลิเคชั่นต่างๆ ของเราจะช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถกำหนดนิยามใหม่ให้กับกระบวนการสร้างสรรค์ การผลิต และการจัดการวงจรชีวิตของข้อเสนอของลูกค้าได้ และด้วยเหตุนี้จึงมีผลอย่างมากในการทำให้โลกยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ความงามของเศรษฐกิจประสบการณ์คือเศรษฐกิจที่คำนึงถึงมนุษย์เป็นหลักเพื่อประโยชน์ของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภค ผู้ป่วย และพลเมือง Dassault Systèmes มอบคุณค่าให้กับลูกค้ามากกว่า 350,000 รายในอุตสาหกรรมทุกขนาดในกว่า 150 ประเทศ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.3ds.com

© Dassault Systèmes สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด 3DEXPERIENCE, โลโก้ 3DS, ไอคอนเข็มทิศ, IFWE, 3DEXCITE, 3DVIA, BIOVIA, CATIA, CENTRIC PLM, DELMIA, ENOVIA, GEOVIA, MEDIDATA, NETVIBES, OUTSCALE, SIMULIA และ SOLIDWORKS เป็นเครื่องหมายการค้าเชิงพาณิชย์หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Dassault Systèmes ซึ่งเป็นบริษัทในยุโรป (Societas Europaea) ที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายฝรั่งเศส และจดทะเบียนกับสำนักงานทะเบียนการค้าและบริษัทแวร์ซายส์ภายใต้หมายเลข 322 306 440 หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและ/หรือประเทศอื่นๆ เครื่องหมายการค้าอื่นๆ ทั้งหมดเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง การใช้เครื่องหมายการค้าของ Dassault Systèmes หรือบริษัทในเครือต้องได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Medidata PR
Medidata.PR@3ds.com

ความสัมพันธ์กับนักวิเคราะห์
medidata.AR@3ds.com

แหล่งข้อมูล: Medidata

บริษัท Hassana Investment Company และ EIG ลงนามในบันทึกความเข้าใจด้านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในโครงการเพื่อการเปลี่ยนผ่านด้านโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานในตะวันออกกลาง

Logo

ความร่วมมือนี้ส่งเสริมเป้าหมายที่มีร่วมกันเพื่อการลงทุนในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียและภูมิภาคอื่นๆ ด้วยกองทุนเฉพาะในระดับภูมิภาคมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐของ EIG

ริยาด ซาอุดีอาระเบีย และวอชิงตัน–(BUSINESS WIRE)–31 ตุลาคม 2024

บริษัท Hassana Investment Company (Hassana) และ EIG ซึ่งเป็นผู้ลงทุนทางสถาบันชั้นนำในภาคส่วนพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อแสดงความร่วมมือในโครงการเพื่อการเปลี่ยนผ่านด้านโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานในตะวันออกกลาง ผ่านกองทุนเฉพาะในระดับภูมิภาคของ EIG ซึ่งตั้งเป้าไว้ที่ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ Hassana กำลังพิจารณาที่จะเป็นผู้ลงทุนหลัก โดยมีการจัดสรรเงินสูงสุด 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

(Photo: Business Wire)

(ภาพจาก Business Wire)

บันทึกความเข้าใจฉบับนี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นร่วมกันระหว่าง EIG กับ Hassana ในการขยายพอร์ตการลงทุนเพื่อการเปลี่ยนผ่านด้านโครงสร้างพื้นฐานและด้านพลังงานในระดับท้องถิ่นและระดับภูมิภาค โดยส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากนักลงทุนต่างชาติและกระตุ้นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนเป้าหมายจากวิสัยทัศน์ 2030 ของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงไปสู่โซลูชันพลังงานที่สะอาดและยั่งยืนในระดับภูมิภาคที่กว้างไกลขึ้น

บันทึกความเข้าใจดังกล่าวได้รับการลงนามโดยนาย Saad bin Abdulmohsen Al-Fadly ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท Hassana และนาย R. Blair Thomas ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท EIG

Al-Fadly กล่าวว่า “Hassana มีความยินดีที่จะขยายความร่วมมือกับ EIG ซึ่งเป็นผู้นำในภาคส่วนพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก โดยข้อตกลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของทั้งสองบริษัทในการผลักดันให้เกิดการเติบโตทางการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียและภูมิภาคอื่นๆ”

Thomas กล่าวว่า “เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ Hassana ในโครงการท่อส่งน้ำมัน Pearl ในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และตอนนี้เราก็มุ่งหวังที่จะยกระดับความสัมพันธ์ของเราขึ้นไปสู่อีกระดับหนึ่ง”

เขาเสริมว่า “เราเชื่อว่าการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานจะเป็นหนึ่งในประเด็นการลงทุนที่สำคัญในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า อีกทั้งนักลงทุนแนวหน้าจำเป็นต้องทำงานร่วมกันเพื่อพยายามส่งมอบระบบพลังงานที่เชื่อถือได้ ราคาไม่แพง และมีความยั่งยืนตามที่สังคมต้องการ ดังนั้นเราจึงมุ่งมั่นที่จะทำให้ได้ตามที่พูด”

Abdulaziz Al-Gudaimi ประธานฝ่ายปฏิบัติการทางตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือของ EIG กล่าวว่า “Hassanaและ EIG ยังคงสร้างความแตกต่างให้กับวงการพลังงานของตะวันออกกลางอย่างต่อเนื่อง เรามุ่งมั่นที่จะสร้างอนาคตที่ยั่งยืน กระตุ้นเศรษฐกิจ และเสริมสร้างความมุ่งมั่นของภูมิภาคที่มีต่อโซลูชันพลังงานสะอาดในอีกหลายปีข้างหน้าผ่านการจัดสรรเงินทุนให้กับโครงการเพื่อการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่ล้ำสมัย”

เกี่ยวกับ Hassana Investment Company

Hassana Investment Company เป็นผู้จัดการการลงทุนขององค์การประกันสังคมซาอุดีอาระเบียหรือ GOSI โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการกว่า 1.2 ล้านล้านริยัลซาอุดีอาระเบีย (หรือ 320,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) Hassana เป็นผู้บริหารกองทุนบำเหน็จบำนาญที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมีพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายในประเภทสินทรัพย์ต่างๆ ทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค และระดับโลก

Hassana มีเป้าหมายที่จะลงทุนในระยะยาวโดยใช้แนวทางที่รอบคอบ กระบวนการที่แข็งแกร่ง และบุคลากรระดับโลก เพื่อให้แน่ใจว่าพอร์ตโฟลิโอของบริษัทจะอยู่ในตำแหน่งที่จะมอบผลลัพธ์การลงทุนที่ดีที่สุด โดยมีความต้องการที่จะตอบสนองต่อความต้องการทางเงินบำนาญในอนาคตของชาวซาอุดีอาระเบียทุกชั่วรุ่น

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่: www.hassana.com.sa

เกี่ยวกับ EIG

EIG เป็นผู้ลงทุนสถาบันชั้นนำในภาคพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 24,900 ล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2024 บริษัท EIG เองมีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนภาคเอกชนในภาคพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทั่วโลก โดยตลอดระยะเวลา 42 ปีที่ผ่านมานั้น EIG ได้ทุ่มเงินกว่า 48,600 ล้านดอลลาร์ให้กับภาคพลังงานผ่านโครงการหรือบริษัทจำนวน 414 แห่งใน 44 ประเทศจาก 6 ทวีป ลูกค้าของ EIG ได้แก่ แผนเกษียณอายุชั้นนำหลายแห่ง บริษัทประกันภัย กองทุนบริจาค มูลนิธิ และกองทุนความมั่งคั่งของรัฐในสหรัฐอเมริกา เอเชีย และยุโรป ทั้งนี้ EIG มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงวอชิงตันดีซี และมีสำนักงานในฮูสตัน ลอนดอน ซิดนีย์ ริโอเดอจาเนโร ฮ่องกง และโซล สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่เว็บไซต์ของ EIG ที่ www.eigpartners.com.

หมายเหตุ: ปัจจุบัน กองทุนเฉพาะในภูมิภาคของ EIG มีให้บริการเฉพาะนักลงทุนในตลาดโลกแห่งอาบูดาบี, อาร์เจนตินา, ออสเตรเลีย, ออสเตรีย, บาฮามาส, บาห์เรน, เบลเยียม, เบอร์มิวดา, บราซิล, หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน, บรูไน, แคนาดา, หมู่เกาะเคย์แมน, ชิลี, จีน, โคลอมเบีย, คอสตาริกา, ไซปรัส, สาธารณรัฐเช็ก, เดนมาร์ก, ศูนย์การเงินนานาชาติดูไบ, เอกวาดอร์, ประเทศสมาชิก EEA, เอลซัลวาดอร์, เอสโตเนีย, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, กรีซ, กัวเตมาลา, เกิร์นซีย์, ฮ่องกง, ไอซ์แลนด์, อินเดีย, อินโดนีเซีย, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ญี่ปุ่น, เจอร์ซีย์, คูเวต, เลบานอน, ลิเบีย, ลิกเตนสไตน์, มาเลเซีย, หมู่เกาะมาร์แชลล์, เม็กซิโก, โมนาโก, โมร็อกโก, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, โอมาน, ปานามา, เปรู, ฟิลิปปินส์, โปแลนด์, โปรตุเกส, กาตาร์, รัสเซีย, ซาอุดีอาระเบีย, สิงคโปร์, แอฟริกาใต้, เกาหลีใต้, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, ไต้หวัน, ไทย, ตุรกี, ยูเครน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สหราชอาณาจักร, อุรุกวัย และเวียดนาม

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54143888/en

การติดต่อ

ผู้ติดต่อด้านสื่อ
Sard Verbinnen & Co.
Kelly Kimberly / Brandon Messina
+1 212-687-8080
EIG-SVC@sardverb.com

ที่มา: EIG


Toshiba เริ่มจัดส่งตัวอย่าง IC ไดรเวอร์เกตสำหรับมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงแบบไม่มีแปรงถ่านสามเฟสสำหรับการใช้งานยานยนต์ที่หลากหลาย

Logo

คาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–31 ตุลาคม 2024

ในวันนี้ บริษัท Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) ได้เริ่มจัดหาตัวอย่างทางวิศวกรรมของ IC ไดร์เวอร์เกต [1] “TB9084FTG” สำหรับมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงแบบไม่มีแปรงถ่านสามเฟสที่ขับเคลื่อนฟังก์ชันบนบอร์ดที่จำเป็น รวมถึงการใช้งานระบบตัวถังรถยนต์ [2] ปั๊มไฟฟ้า และมอเตอร์แครื่องกำเนิดไฟฟ้า[3]

Toshiba: TB9084FTG, a gate driver IC for three-phase brushless DC motors in diverse automotive applications. (Graphic: Business Wire)

Toshiba: TB9084FTG เป็น IC ไดรเวอร์เกตสำหรับมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงแบบไม่มีแปรงถ่านสามเฟสในการใช้งานยานยนต์ที่หลากหลาย (ภาพกราฟิก: Business Wire)

ชิ้นส่วนยานยนต์ที่เคยควบคุมด้วยกลไกหลายชิ้นในปัจจุบันได้ถูกเปลี่ยนเป็นแบบไฟฟ้า และยานยนต์ส่วนใหญ่นั้นใช้มอเตอร์ไฟฟ้าจำนวนมาก รวมถึงมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ในระบบตัวรถยนต์อีกด้วย การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ยังทำให้มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงแบบไม่มีแปรงถ่านซึ่งเงียบกว่าและใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้นสามารถแทนที่มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงแบบมีแปรงถ่านได้

TB9084FTG ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยนำเสนอฟังก์ชัน IC ไดร์เวอรเกตที่จำเป็นขั้นต่ำสำหรับการใช้งานยานยนต์ (the minimum required gate driver IC functions for automotive applications) และรองรับการใช้งานมอเตอร์ยานยนต์ในขอบเขตที่กว้างขึ้นร่วมกับอุปกรณ์ภายนอก เช่น MOSFET แหล่งจ่ายไฟ IC ไมโครคอนโทรลเลอร์ และการสื่อสาร PHY [4] การเปลี่ยนแปลงใดๆ ในข้อกำหนดระบบของลูกค้าสามารถรองรับได้โดยการแทนที่อุปกรณ์ภายนอกที่เกี่ยวข้อง ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการออกแบบระบบได้อย่างมาก

ฟังก์ชันการลดขนาดช่วยให้สามารถใช้งานแพ็คเกจที่เล็กที่สุดในอุตสาหกรรม[5] ได้ นั่นคือ P-VQFN36-0606-0.50 ขนาด 6 มม.×6 มม. และยังมีส่วนทำให้อุปกรณ์มีขนาดเล็กลงอีกด้วย นอกจากนี้ แพ็คเกจยังมีโครงสร้างด้านข้างที่เปียกน้ำได้[6] ช่วยให้ตรวจสอบด้วยสายตาได้ง่ายเพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือของข้อต่อที่บัดกรี

Toshiba จะยังคงขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ IC ไดรเวอร์เกตต่อไปโดยการประเมินความต้องการของตลาดและปรับปรุงฟังก์ชันของผลิตภัณฑ์ โดยจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ขยายขอบเขตการใช้ไฟฟ้าและปรับปรุงความปลอดภัยของอุปกรณ์ยานยนต์

หมายเหตุ:
[1] ไดร์เวอร์สำหรับขับเคลื่อน MOSFET
[2] การใช้งานต่างๆ เช่น ประตูเลื่อนปรับไฟฟ้า ประตูท้ายปรับไฟฟ้า (ประตูท้ายไฟฟ้า) เบาะนั่งปรับไฟฟ้า
[3] การใช้งานที่ผสานฟังก์ชันการเพิ่มกำลัง (มอเตอร์) และการสร้างกำลัง (เครื่องกำเนิดไฟฟ้า) ของรถยนต์ไฮบริด
[4] PHY (ทางกายภาพ): อินเทอร์เฟซในเลเยอร์ทางกายภาพภายในมาตรฐานการสื่อสารในยานพาหนะ
[5] เป็น IC ไดรเวอร์เกตสำหรับมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงแบบไม่มีแปรงถ่านสามเฟสที่มีฟังก์ชันเดียว การสำรวจของ Toshiba ณ เดือนกันยายน 2024
[6] รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ด้านตะกั่ว โครงสร้างเทอร์มินัลที่ช่วยให้สามารถติดตั้งระบบตรวจสอบด้วยแสงอัตโนมัติ (AOI) บนแผงวงจรได้

การใช้งาน

อุปกรณ์ยานยนต์

  • การใช้งานระบบตัวถัง ปั๊มไฟฟ้า มอเตอร์เครื่องกำเนิดไฟฟ้า

คุณสมบัติ

  • ความคล่องตัวสูงเนื่องจากลดฟังก์ชัน IC ของไดรเวอร์เกตสำหรับมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงแบบไม่มีแปรงถ่านสามเฟส
  • บรรจุภัณฑ์ขนาดเล็ก
  • พินเอาต์พุตช่องเดียวซึ่งสามารถขับเคลื่อน Nch-MOSFET ได้
  • สามารถทำงานเป็นไดรเวอร์เกตสำหรับฮาล์ฟบริดจ์สามช่อง

ติดตามลิงก์ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ IC ไดรเวอร์เกตใหม่
Automotive Gate-Driver IC for Three-Phase Brushless Motors: TB9084FTG

ติดตามลิงก์ด้านล่างเพื่อดูภาพรวมที่สมบูรณ์ของผลิตภัณฑ์ที่มีไดรเวอร์เกต แหล่งจ่ายไฟ IC ไมโครคอนโทรลเลอร์ และการสื่อสาร PHY
Toshiba Launches SmartMCD™ Series Gate Driver ICs with Embedded Microcontroller

ข้อมูลจำเพาะหลัก

หมายเลขชิ้นส่วน

TB9084FTG

มอเตอร์ที่รองรับ

มอเตอร์แบบไม่มีแปรงถ่านสามเฟส

จำนวนช่องสัญญาณบริดจ์สามเฟส/ฮาล์ฟบริดจ์

1 ช่อง / 3 ช่อง

ฟังก์ชั่นหลัก

ฟังก์ชันไดรเวอร์เกต 6 ช่อง (ซิงก์และซอร์ส)

ฟังก์ชันไดรเวอร์เกต 1 ช่อง (ซอร์สเท่านั้น)

เครื่องขยายสัญญาณการทำงานสำหรับการตรวจจับกระแสมอเตอร์ 1 ช่อง การสื่อสาร SPI

ฟังก์ชันหยุดฉุกเฉินของมอเตอร์

การตรวจจับข้อผิดพลาดหลัก

การตรวจจับแรงดันไฟฟ้าต่ำเกินไปของแหล่งจ่ายไฟ การตรวจจับแรงดันไฟฟ้าเกินของปั๊มชาร์จ การปิดระบบความร้อน การตรวจจับ VDS ของ MOSFET การตรวจจับข้อผิดพลาดในการสื่อสาร SPI

ค่าคะแนนสูงสุดที่แน่นอน(Ta=25°C,

เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น)

แรงดันไฟฟ้าแหล่งจ่ายไฟ VB

Vb  (V)

-0.3 ถึง 28(DC)

28 ถึง 40(≤1s)

แรงดันไฟฟ้าแหล่งจ่ายไฟ VCC

Vcc  (V)

-0.3 ถึง 6

อุณหภูมิแวดล้อมในการทำงานTa  (°C)

-40 ถึง 150

ช่วงการใช้งาน

(Tj=-40 to 175°C)

แรงดันไฟฟ้าแหล่งจ่ายไฟ VB

Vb  (V)

5.7 ถึง 28

แรงดันไฟฟ้าแหล่งจ่ายไฟ VCC

Vcc  (V)

3.0 ถึง 5.5

บรรจุภัณฑ์

P-VQFN36-0606-0.50

ความน่าเชื่อถือ

จะต้องผ่านเกณฑ์ AEC-Q100(เกรด0)

ติดตามลิงก์ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ IC ไดรเวอร์มอเตอร์แบบไม่มีแปรงถ่านสำหรับยานยนต์ของ Toshiba
Automotive Brushless Motor Driver ICs

ติดตามลิงก์ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปกรณ์ยานยนต์ของ Toshiba
Automotive Devices

* SmartMCD™ เป็นเครื่องหมายการค้าของ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทที่เกี่ยวข้อง
* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลการติดต่อ เป็นข้อมูลล่าสุดในวันที่ประกาศ แต่สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงและโซลูชันการจัดเก็บข้อมูล มีประสบการณ์และนวัตกรรมมากกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอเซมิคอนดักเตอร์แบบแยกส่วน ระบบ LSI และผลิตภัณฑ์ HDD ที่โดดเด่นให้แก่ลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ

พนักงาน 19,400 คนทั่วโลกมีความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุด และส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในการสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ร่วมกัน บริษัทมุ่งหวังที่จะสร้างและมีส่วนสนับสนุนเพื่ออนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนในทุกแห่งหน
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54143639/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สอบถามข้อมูลสำหรับลูกค้า
แผนกขายและการตลาดอุปกรณ์อะนาล็อกและยานยนต์
Tel: +81-44-548-2219
ติดต่อเรา

สอบถามข้อมูลสำหรับสื่อ
Chiaki Nagasawa
แผนกการตลาดดิจิตอล
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

แหล่งที่มา: Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Medidata และ Cogstate ร่วมเป็นพันธมิตรทางกลยุทธ์เพื่อพลิกโฉมการทดลองทางคลินิกด้านระบบประสาท ด้วยการประเมินผลลัพธ์ทางคลินิก (eCOA) และโซลูชันสำหรับแพทย์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และการวิเคราะห์ขั้นสูง

Logo

การทำงานร่วมกันที่ขับเคลื่อนด้วยวิทยาศาสตร์ช่วยปรับปรุงการประเมินทางระบบประสาทและคุณภาพของข้อมูลปลายทาง ยกระดับประสบการณ์ของผู้ประเมินและผู้ป่วย และผสานนวัตกรรมจากแอป Medidata เข้ากับความสามารถของ Cogstate

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–29 ตุลาคม 2024

Medidata แบรนด์ของ Dassault Systèmes และผู้ให้บริการโซลูชันการทดลองทางคลินิกรายใหญ่ในอุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ประกาศความร่วมมือกับ Cogstate ผู้นำด้านโซลูชันระบบประสาท เพื่อปรับโฉมการทดลองทางคลินิกและการวัดผลลัพธ์สำหรับโรคในระบบประสาทส่วนกลาง (CNS) ครอบคลุมโรคทางระบบประสาทเสื่อม โรคจิตเวช ความผิดปกติทางการเคลื่อนไหว และโรคพัฒนาการทางระบบประสาทหายากอื่นๆ

ทั้งสองบริษัทจะร่วมกันมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจาก Medidata eCOA (การประเมินผลลัพธ์ทางคลินิกแบบอิเล็กทรอนิกส์) ที่ช่วยให้ลูกค้าเริ่มการทดลองได้เร็วขึ้นและเพิ่มประสบการณ์ที่เหมาะสมสำหรับผู้ประเมิน ซึ่งรวมถึงการทำให้เส้นทางการประเมินของผู้ประเมินเป็นไปอย่างราบรื่นผ่านแอปบนอุปกรณ์มือถือเดียว และชุดโซลูชันการประกันคุณภาพข้อมูลที่ครอบคลุมสำหรับการประเมินระบบประสาทส่วนกลาง (CNS)

ความร่วมมือนี้ตอบโจทย์ความซับซ้อนของการทดลองทางคลินิกสำหรับระบบประสาทส่วนกลาง (CNS) โดยการมอบแพลตฟอร์มแบบครบวงจรสำหรับการประเมินและการกำกับดูแล CNS ด้วยการผสานแพลตฟอร์มชั้นนำของอุตสาหกรรมจาก Medidata  เข้ากับการประเมินการรับรู้ทางดิจิทัลที่ผ่านการรับรอง การฝึกอบรมผู้ประเมินผู้เชี่ยวชาญ และโซลูชันการติดตามจาก Cogstate ความร่วมมือนี้จะช่วยให้การเก็บข้อมูลมีคุณภาพสูงขึ้น มีประสิทธิภาพ และแม่นยำมากยิ่งขึ้น

ด้วยการใช้ Medidata App ซึ่งเป็นโซลูชันบนมือถือที่ทรงพลังสำหรับการใช้งานในสถานที่ร่วมกับ Medidata Rave EDC และฟีเจอร์ Medidata eCOA ที่ออกแบบมาเพื่อการทดลอง CNS ผู้ประเมินจะสามารถจัดการการศึกษาได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น เริ่มต้นการเข้าพบผู้ป่วย และดำเนินการประเมิน CNS ที่ซับซ้อนบนแท็บเล็ตในสถานที่ นอกจากนี้ แอปยังมีการเก็บข้อมูลที่พัฒนาขึ้น ซึ่งรวมถึงการควบคุมและการนำทางที่ดีขึ้น ตัวเลือกการจดบันทึกที่ยืดหยุ่น (พิมพ์ตัวอักษร เขียนด้วยมือ และบันทึกภาพจากโน้ตภายนอก) และฟีเจอร์บันทึกเสียงพร้อมการถอดความอัจฉริยะเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการให้คะแนนและลดภาระของผู้ประเมิน

ลูกค้ากลุ่มชีวเภสัชกรรมและผู้ประเมินจะได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงการประเมิน ClinRO, ePRO และ PerfO ทั้งหมดผ่านอุปกรณ์เดียว ซึ่งรวมถึงชุดการประเมินดิจิทัลที่ผ่านการรับรองของ Cogstate ทำให้เห็นภาพรวมที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นของผลลัพธ์ของผู้ป่วย ผู้ประเมินเพียงแค่ทำการประเมิน CNS โดยข้อมูลจะถูกส่งตรงไปยัง Rave EDC และเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มการติดตามผู้ประเมินของ Cogstate เพื่อการตรวจทานที่ทันท่วงทีและการจัดการคำถามของผู้ประเมิน ช่วยให้เริ่มการทดลองได้เร็วขึ้น ตรวจสอบคุณภาพข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น และลดความซับซ้อนในกระบวนการสำหรับผู้ประเมิน

“ลักษณะเชิงอัตนัยของการประเมินผู้ป่วยและความเป็นไปได้ของความแปรปรวนของข้อมูลเป็นความท้าทายสำคัญในงานทดลองทางคลินิกของ CNS” Anthony Costello ซีอีโอของ Medidata กล่าว “ด้วยความพยายามร่วมกันของเรา โดยใช้ความเชี่ยวชาญเชิงลึกของ Medidata ในด้าน eCOA, AI และเซ็นเซอร์ จะทำให้เรายกระดับมาตรฐานคุณภาพข้อมูลปลายทางสูงสุด ทำให้การจัดตั้งการทดลอง CNS เป็นเรื่องง่ายขึ้น และใช้ระบบตรวจสอบอัตโนมัติในข้อความการประเมินผู้ป่วยเพื่อลดภาระของทีมวิจัยและลดความเสี่ยงของข้อผิดพลาดให้ได้มากที่สุด”

นอกเหนือจาก Medidata eCOA แล้ว ชุด CNS ของ Medidata ยังผสานเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ขั้นสูงและการวิเคราะห์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายเฉพาะของการทดลองเหล่านี้ โดยใช้ Medidata Sensor Cloud, AI และ myMedidata ทำให้นักวิจัยสามารถเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลชีวภาพและพฤติกรรมได้อย่างหลากหลาย ผลที่ได้คือพวกเขาสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลลัพธ์ของผู้ป่วยได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันยังมอบประสบการณ์การทดลองทางคลินิกที่มุ่งเน้นผู้ป่วยสูงสุดผ่านพอร์ทัลเดียวตลอดชีวิต

“ความสามารถในการส่งมอบข้อมูลที่แม่นยำและเชื่อถือได้เป็นสิ่งสำคัญต่อการทำความเข้าใจและการรักษาโรคทางระบบประสาทที่ซับซ้อน” Brad O’Connor ซีอีโอของ Cogstate กล่าว “การรวมกันอย่างมีกลยุทธ์ของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีอยู่ในความร่วมมือระหว่าง Cogstate และ Medidata จะช่วยให้เราสามารถนำเสนอนวัตกรรมคุณภาพข้อมูลที่ไม่เหมือนใคร เพื่อการตัดสินใจในงานทดลองทางคลินิกที่มีข้อมูลมากขึ้นและผลลัพธ์ที่ดีกว่าสำหรับผู้ป่วย”

Cogstate และ Medidata กำลังทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างวิธีการที่ทันสมัยในการใช้เทคโนโลยี CNS ยกระดับการเก็บข้อมูล และปรับปรุงเครื่องมือการประเมินผู้ป่วย

ผู้นำจาก Medidata และ Cogstate จะนำเสนอการบรรยายและการอภิปรายในงาน Medidata NEXT New York โดยจะแบ่งปันรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความร่วมมือรวมถึงความก้าวหน้าล่าสุดในการปรับปรุงการทดลองทางคลินิกของ CNS

เกี่ยวกับ Medidata

Medidata กำลังพัฒนาการรักษาที่ชาญฉลาดและส่งเสริมสุขภาพที่ดีขึ้นผ่านโซลูชันดิจิทัลเพื่อสนับสนุนการทดลองทางคลินิก โดยเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำในกว่า 34,000 การทดลองและผู้ป่วย 10 ล้านคน Medidata มอบความเชี่ยวชาญชั้นนำในอุตสาหกรรม ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยการวิเคราะห์ และชุดข้อมูลการทดลองทางคลินิกระดับผู้ป่วยที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนมากกว่า 1 ล้านคนจากลูกค้าประมาณ 2,200 รายไว้วางใจแพลตฟอร์มที่ไร้รอยต่อและครบวงจรของ Medidata เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ป่วย เร่งการค้นพบทางคลินิก และนำการรักษาออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น Medidata เป็นแบรนด์ของ Dassault Systèmes (Euronext Paris: FR0014003TT8, DSY.PA) ตั้งอยู่ในนครนิวยอร์กและได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำโดย Everest Group และ IDC เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.medidata.com และติดตามเราได้ที่ @Medidata

เกี่ยวกับ Dassault Systèmes

Dassault Systèmes เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับความก้าวหน้าของมนุษย์ เราจัดเตรียมสภาพแวดล้อมเสมือนจริงที่ร่วมมือกันให้กับธุรกิจและผู้คนเพื่อจินตนาการถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน โดยการสร้างประสบการณ์เสมือนจริงของโลกจริงผ่านแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน 3DEXPERIENCE ของเรา ลูกค้าของเราสามารถนิยามกระบวนการสร้าง การผลิต และการจัดการวงจรชีวิตของข้อเสนอของพวกเขาใหม่ และมีผลกระทบที่มีความหมายในการทำให้โลกยั่งยืนมากขึ้น ความสวยงามของเศรษฐกิจประสบการณ์คือการที่มันเป็นเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นมนุษย์เพื่อประโยชน์ของทุกคน ทั้งผู้บริโภค ผู้ป่วย และพลเมืองทั่วไป Dassault Systèmes นำคุณค่าให้กับลูกค้ามากกว่า 350,000 รายจากทุกขนาดในทุกอุตสาหกรรม มากกว่า 150 ประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม www.3ds.com

© Dassault Systèmes สงวนลิขสิทธิ์ 3DEXPERIENCE, โลโก้ 3DS, ไอคอนเข็มทิศ, IFWE, 3DEXCITE, 3DVIA, BIOVIA, CATIA, CENTRIC PLM, DELMIA, ENOVIA, GEOVIA, MEDIDATA, NETVIBES, OUTSCALE, SIMULIA และ SOLIDWORKS เป็นเครื่องหมายการค้าเชิงพาณิชย์หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Dassault Systèmes บริษัทจากยุโรป (Societas Europaea) ที่จดทะเบียนตามกฎหมายฝรั่งเศส และจดทะเบียนกับทะเบียนการค้าและบริษัทของ Versailles ภายใต้หมายเลข 322 306 440 หรือบริษัทในเครือของบริษัทในสหรัฐอเมริกาหรือประเทศอื่นๆ เครื่องหมายการค้าอื่นๆ ทั้งหมดเป็นของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง การใช้เครื่องหมายการค้าของ Dassault Systèmes หรือบริษัทในเครือต้องได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัทเท่านั้น

เกี่ยวกับ Cogstate

Cogstate Ltd (ASX:CGS) เป็นบริษัทเทคโนโลยีทางระบบประสาทชั้นนำที่มุ่งเน้นการปรับปรุงการประเมินสุขภาพสมองเพื่อก้าวหน้าในการพัฒนายาใหม่และเพื่อให้สามารถมองเห็นข้อมูลเชิงคลินิกได้เร็วขึ้นในระบบสาธารณสุข เทคโนโลยีของ Cogstate ให้การทดสอบทางปัญญาที่ใช้คอมพิวเตอร์ซึ่งรวดเร็ว เชื่อถือได้ และมีความไวสูง พร้อมสนับสนุนโซลูชันการประเมินผลลัพธ์ทางคลินิกอิเล็กทรอนิกส์ (eCOA) เพื่อแทนที่การประเมินผลด้วยกระดาษที่มีค่าใช้จ่ายสูงและมีข้อผิดพลาดด้วยการเก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์ มากว่า 20 ปี ทาง Cogstate มีความภาคภูมิใจที่ได้สนับสนุนความต้องการในการวิจัยที่ทันสมัยของบริษัทชีวเภสัชกรรมและสถาบันการศึกษาชั้นนำ รวมถึงความต้องการการดูแลทางคลินิกของแพทย์และผู้ป่วยทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ Cogstate.com หรือติดตามเราบน LinkedIn และ Twitter

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ Medidata
Medidata.PR@3ds.com

นักวิเคราะห์สัมพันธ์
medidata.AR@3ds.com

ที่มา: Medidata.