Category Archives: General News

Bok Dok, Kaniva, Kasty, Kelly & Co’s และ Pramy ติดอันดับผู้ชนะรางวัล World Branding Awards Animalis Edition ประจำปี 2025-2026 ที่กรุงเวียนนา

Logo

LONDON–(BUSINESS WIRE)–04 กรกฎาคม 2025

รางวัล World Branding Awards Animalis Edition ประจำปี 2025-2026 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 โดยรวบรวมแบรนด์สัตว์เลี้ยงและแบรนด์สัตว์ชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลก แบรนด์เหล่านี้ได้รับการยกย่องถึงความสำเร็จที่โดดเด่น โดยได้รับการยอมรับในฐานะผู้ชนะระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก

จะมีการจัดงานพิธีมอบรางวัลขึ้นที่ Hofburg Palace อันทรงเกียรติในกรุงเวียนนา โดยมีผู้ชนะรางวัลจากหลากหลายประเภท เช่น อาหารสัตว์เลี้ยง ร้านค้าปลีก ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ นิทรรศการสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ Mounia Berrada-Gouzi เป็นเจ้าภาพจัดงานที่มีความเชี่ยวชาญสูง โดยงานนี้จะปิดท้ายด้วยการเฉลิมฉลองความเป็นเลิศของแบรนด์อย่างยิ่งใหญ่

“รางวัล World Branding Awards Animalis Edition เป็นการยกย่องแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุด ซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างแท้จริงในใจและความคิดของผู้บริโภค ในคืนนี้ เราร่วมเฉลิมฉลองแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก มีค่านิยมที่สร้างแรงบันดาลใจและความภักดี และแสดงถึงความเป็นเลิศในอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงกัน” Richard Rowles ประธาน World Branding Forum กล่าว

จากแบรนด์กว่า 950 แบรนด์ที่ได้รับการเสนอชื่อจากผู้บริโภคกว่า 80,000 คนในแบบสำรวจออนไลน์ทั่วโลก มีเพียง 105 แบรนด์ชั้นนำจาก 25 ประเทศเท่านั้นที่ได้รับตำแหน่งผู้ชนะ การได้รับรางวัล World Branding Award ถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญที่ช่วยเสริมสร้างสถานะผู้นำในอุตสาหกรรม

ผู้ชนะระดับทั่วโลก ได้แก่ Frontline (เยอรมนี), Kit Cat (สิงคโปร์), KONG (สหราชอาณาจักร), Sheba (สหรัฐอเมริกา), และ Whiskas (สหรัฐอเมริกา) ได้พิสูจน์ถึงความเป็นเลิศและการสร้างแบรนด์อย่างไร้ที่ติ

ผู้ชนะจากประเทศไทย ได้แก่ Bok Dok, Jinny, Kaniva, Kasty, Kelly & Co’s และ Pramy ผู้ชนะระดับประเทศอื่นๆ ได้แก่ Bamboodles (สหราชอาณาจักร), CIAO (ญี่ปุ่น), Cooper and Gracie (สหราชอาณาจักร), Delibest (สวิตเซอร์แลนด์), Heads Up For Tails (อินเดีย), Nutriment Natural Treats (สหราชอาณาจักร), OhMyPet! Expo (มาเลเซีย), Pampered Pets (สิงคโปร์), Petio (ญี่ปุ่น), Powercat (มาเลเซีย), Topbreed (ฟิลิปปินส์), และ Vancat (ตุรกี) เป็นต้น

แบรนด์ที่ชนะเลิศระดับภูมิภาค ได้แก่ Alps Natural (มาเลเซีย), EHEIM (เยอรมนี) และ Hikari (ญี่ปุ่น) แบรนด์เหล่านี้ได้รับการโหวตในฐานะที่เป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคชื่นชอบใน 4 ประเทศขึ้นไปภายในพื้นที่ 3 แห่งขึ้นไปในภูมิภาคทางภูมิศาสตร์ที่เฉพาะเจาะจง

เมื่องานประกาศรางวัล World Branding Awards Animalis Edition ประจำปี 2025-2026 สิ้นสุดลง งานประกาศรางวัล World Branding Awards Global Edition ที่ทุกคนรอคอยก็จะกลับมาบนเวทีอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ awards.brandingforum.org

เกี่ยวกับ WORLD BRANDING AWARDS

World Branding Awards เป็นรางวัลระดับแนวหน้าของ World Branding Forum ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีการจดทะเบียน รางวัลดังกล่าวมอบให้เป็นเกียรติแก่ความสำเร็จของแบรนด์ที่ดีที่สุดในโลก

โซเชียลมีเดีย

Facebook: https://www.facebook.com/worldbrandingforum/

Twitter: https://twitter.com/WorldBranding

Instagram: https://www.instagram.com/worldbranding/

LinkedIn: https://linkedin.com/company/world-branding-forum

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

EDITORIAL CONTACT
อีเมล: editorial@brandingforum.org

ที่มา: World Branding Awards

หนึ่ง สอง สามซ้ำอีก: Mary Kay Inc. ได้รับการขนานนามให้เป็นแบรนด์ขายตรงอันดับ 1 ของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางตกแต่งสีของโลกสามปีติดต่อกัน

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–23 มิถุนายน 2025

สิ่งดีๆ มักมาในสามประการ: แบรนด์ความงามระดับไอคอนและบริษัทผู้ประกอบการระดับโลก Mary Kay Inc. ได้รับการขนานนามให้เป็นแบรนด์ขายตรงอันดับ 1 ของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางตกแต่งสีของโลก1 จาก Euromonitor International อีกครั้งเป็นปีที่สามติดต่อกัน

Ryan Rogers, Chief Executive Officer of Mary Kay states:

Ryan Rogers ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Mary Kay กล่าวว่า “การได้รับเลือกให้เป็นแบรนด์ขายตรงอันดับ 1 ของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางตกแต่งสีของโลกติดต่อกันสามปีซ้อนจาก Euromonitor International ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของ Mary Kay ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่นี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการวิจัยและพัฒนาและการตลาดตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและความงามที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและเป็นที่ชื่นชอบไปทั่วโลก เหนือสิ่งอื่นใด ความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นถึงพลังการเปลี่ยนแปลงของที่ปรึกษาความงามอิสระของเราที่ขับเคลื่อนความสำเร็จนี้ไปทั่วโลก” (เครดิตภาพโดย: Mary Kay Inc.)

Euromonitor International เป็นผู้ให้บริการข้อมูลเชิงธุรกิจระดับโลก การวิเคราะห์ตลาด และข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคชั้นนำ โดยมีประสบการณ์ในการทำการวิจัยตลาดในกว่า 100 ประเทศมานานกว่า 50 ปี

“การได้รับเลือกให้เป็นแบรนด์ขายตรงอันดับ 1 ของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางตกแต่งสีของโลกจาก Euromonitor International สามปีติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของ Mary Kay” กล่าวโดย Ryan Rogers ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Mary Kay “ความสำเร็จที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการวิจัยและพัฒนาตลอดหลายปีที่ผ่านมาและความพยายามทางการตลาดเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและความงามที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและเป็นที่ชื่นชอบไปทั่วโลก เหนือสิ่งอื่นใด ความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงของที่ปรึกษาความงามอิสระของเราที่ขับเคลื่อนความสำเร็จนี้ไปทั่วโลก”

นอกจากจะได้รับการยอมรับในระดับโลกแล้ว Mary Kay ยังได้รับการยกย่องให้เป็น:

  • แบรนด์เครื่องสำอางสำหรับใบหน้าอันดับ 1 ในลาตินอเมริกา*
  • แบรนด์ผลิตภัณฑ์สำหรับริมฝีปากอันดับ 1 ในลาตินอเมริกา*
  • แบรนด์เครื่องสำอางตกแต่งสีอันดับ 1 ในเม็กซิโก*
  • แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางตกแต่งสีอันดับ 1 ในเม็กซิโก*

Sarah Boumphrey ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยระดับโลกของ Euromonitor International กล่าวว่า “รางวัลที่เรามอบให้สะท้อนถึงมาตรฐานความเป็นเลิศสูงสุดในอุตสาหกรรมที่เราติดตาม รวมถึงอุตสาหกรรมความงามและการขายตรง ผู้ได้รับรางวัลได้รับการยอมรับผ่านกระบวนการประเมินที่เข้มงวดซึ่งขับเคลื่อนด้วยข้อมูลที่มีจากการวิจัยอิสระ การวิเคราะห์ตลาดระดับโลก และความเชี่ยวชาญในหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ ทาง Euromonitor รู้สึกภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับบริษัทชั้นนำ เช่น Mary Kay และความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานและคุณภาพในภูมิทัศน์ที่มีการแข่งขันสูง”

ด้วยการมีสาขาอยู่ในกว่า 40 ตลาดและที่ปรึกษาความงามอิสระหลายล้านคนทั่วโลก Mary Kay ยังคงกำหนดมาตรฐานด้านความงามที่โดดเด่นและส่งมอบผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยมีผลิตภัณฑ์ยอดนิยมหลายรายการที่มีส่วนทำให้ Mary Kay ขึ้นแท่นอันดับ 1 รวมถึงผลิตภัณฑ์ดูแลผิว TimeWise® อันโด่งดัง ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว Clinical Solutions® ที่ได้รับการรับรองจากแพทย์ผิวหนัง น้ำยาล้างเครื่องสำอางรอบดวงตาแบบปราศจากน้ำมัน Mary Kay® ที่เหล่าอินฟลูเอนเซอร์และคนมีชื่อเสียงต่างชื่นชอบ มาสคาร่า Mary Kay® Ultimate Mascara™ ลิปกลอส Mary Kay Unlimited® และอายไลเนอร์กันน้ำ Mary Kay® เป็นต้น

ในปี 2024 เพียงปีเดียว Mary Kay ได้รับรางวัลความงามถึง 65 รางวัลทั่วโลก นอกจากการได้รับการยอมรับอันดับ 1 จาก Euromonitor International แล้ว ล่าสุด Mary Kay ติดอันดับที่ 11 ใน Women’s Wear Daily Beauty Inc. จาก 100 บริษัทความงามชั้นนำประจำปี 2024

ผลิตภัณฑ์ Mary Kay จำหน่ายโดยที่ปรึกษาความงามอิสระชั้นนำที่ให้บริการเฉพาะบุคคลแก่ลูกค้าทั้งแบบตัวต่อตัวและออนไลน์ที่ www.MaryKay.com และบนช่องทางโซเชียลและสื่อดิจิทัล

รางวัล Euromonitor เป็นการตอกย้ำให้ Mary Kay เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดในโลก โดยมีรูปแบบธุรกิจและภารกิจขององค์กรที่มุ่งเน้นในการส่งเสริมศักยภาพผู้หญิง เปลี่ยนแปลงชีวิต และช่วยปกป้องทรัพยากรธรรมชาติของเรา

คุณรู้หรือไม่ว่า :

  •  น้ำยาล้างเครื่องสำอางรอบดวงตาแบบปราศจากน้ำมัน Mary Kay® หนึ่งชิ้นจะถูกขายออกไปทั่วโลกทุกๆ 5 นาที2
  •  Mary Kay ถือครองสิทธิบัตรเกือบ 1,500 ฉบับทั่วโลกสำหรับผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโอระดับโลก3
  • ศูนย์การผลิต/R&D ระดับโลก Richard R. Rogers (R3) อันทันสมัยของ Mary Kay ที่ตั้งอยู่ในเมืองลูอิสวิลล์ รัฐเท็กซัส มีกำลังการผลิตสูงถึง 1.1 ล้านชิ้นต่อวัน
  •  62% ของทีมวิจัยและพัฒนาของ Mary Kay ทั่วโลกเป็นผู้หญิง 4
  •  81% ของทีมการตลาดและสตูดิโอสร้างสรรค์ระดับโลกของ Mary Kay เป็นผู้หญิง5
  •  30% ของสมาชิกฝ่ายขายที่เริ่มต้นธุรกิจ Mary Kay ในปีที่ผ่านมามีอายุต่ำกว่า 35 ปี6

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash ผู้ก่อตั้งแบรนด์ความงามในฝันของเธอในเท็กซัสเมื่อปี 1963 โดยมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือการทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทระดับโลกที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 40 ตลาด เป็นเวลากว่า 60 ปีแล้วที่โอกาสของ Mary Kay ได้ส่งเสริมให้ผู้หญิงกำหนดอนาคตของตนเองผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay มุ่งมั่นที่จะลงทุนในด้านวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เครื่องสำอางสี อาหารเสริม และน้ำหอมที่ล้ำสมัย Mary Kay เชื่อในการอนุรักษ์โลกของเราไว้สำหรับคนรุ่นต่อไป ปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งและการล่วงละเมิดในครอบครัว และสนับสนุนให้เยาวชนเดินตามความฝันของตนเอง เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราได้บน Facebook, Instagram และ LinkedIn หรือติดตามเราบน X.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

_____________________________

1 “ที่มา Euromonitor International Limited; Beauty and Personal Care ฉบับปี 2025, ยอดขายตามมูลค่าที่ RSP, ข้อมูลปี 2024”

* “ที่มา Euromonitor International Limited; Beauty and Personal Care ฉบับปี 2025, ยอดขายตามมูลค่าที่ RSP, ข้อมูลปี 2024”

2 ที่มา: Mary Kay Inc., ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2024 สำหรับ 12 เดือนที่ผ่านมา โดยอิงตามจำนวนหน่วยที่ขาย

3 ที่มา: Mary Kay Inc., ณ ปี 2025

4 ที่มา: Women Representation and Leadership at Mary Kay (พฤษภาคม 2025)

5 ที่มา: Women Representation and Leadership at Mary Kay (พฤษภาคม 2025)

6 ที่มา: Mary Kay Inc., ข้อมูลสหรัฐฯ ปี 2024

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/20250623000452/en

Contacts

ฝ่ายสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

ที่มา: Mary Kay Inc.


Smoke Free Sweden: ซองนิโคตินสำหรับการใช้ในช่องปากเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับผู้หญิงในความสำเร็จด้านการปลอดควันบุหรี่ของสวีเดน

Logo

ผลการศึกษาครั้งแรกเผยว่า ซองบุหรี่ที่เป็นมิตรต่อผู้หญิงนั้นช่วยเปลี่ยนแปลงการต่อสู้กับบุหรี่

สตราสบูร์ก, ฝรั่งเศส–(BUSINESS WIRE)–17 มิถุนายน 2025

งานวิจัยใหม่จาก Smoke Free Swedenเผยว่าซองนิโคตินสำหรับการใช้ในช่องปากถือเป็นตัวเปลี่ยนเกมของสวีเดนในเส้นทางการเป็นประเทศปลอดควันบุหรี่แห่งแรกของโลก และยังช่วยขับเคลื่อนความสำเร็จที่ไม่เคยมีมาก่อนในกลุ่มผู้หญิงอีกด้วย

รายงานPower in a Pouch ที่เปิดตัวเมื่อวันนี้ในเมืองสตราสบูร์ก แสดงให้เห็นว่าซองบุหรี่นี้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำคัญที่ทำให้สาธารณสุขของสวีเดนประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงที่สามารถเลิกบุหรี่ได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิผลมากกว่าที่เคย

นับตั้งแต่มีการเปิดตัวในปี 2016 ซองบุหรี่แบบปลอดยาสูบ

  • ช่วยเร่งการลดการสูบบุหรี่ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยอัตราการเลิกบุหรี่ในผู้หญิงเพิ่มขึ้นเกือบ 200%
  • มีประสิทธิภาพเหนือกว่าผลิตภัณฑ์ช่วยเลิกบุหรี่อื่นๆ ทั้งหมด โดยผู้หญิงจัดอันดับให้ซองนิโคตินนี้สูงกว่าบุหรี่ไฟฟ้าเกือบสามเท่า และสูงกว่าหมากฝรั่ง 56%
  • ได้รับการระบุจากการวิจัยว่าเป็นผลิตภัณฑ์ช่วยเลิกบุหรี่ที่อดีตผู้สูบบุหรี่ทุกคนต้องการเพื่อกลับมาเป็นคนที่สะอาด คำนึงถึงสังคม และปราศจากการตีตรา
  • ผลักดันให้ผู้หญิงสูบบุหรี่ลดลง 49% ทั้งๆ ที่มีอัตราการเลิกต่ำกว่าผู้ชายในอดีต

“หลักฐานนั้นชัดเจนมากว่าซองนิโคตินเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการช่วยผู้สูบบุหรี่ โดยเฉพาะผู้หญิงให้เลิกบุหรี่” ดร. Marewa Glover นักวิทยาศาสตร์ด้านพฤติกรรมจากนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นผู้เขียนร่วมรายงานกล่าว

“ข้อมูลด้านสุขภาพและคำรับรองจากผู้หญิงแสดงให้เห็นว่าซองบุหรี่มีความปลอดภัย เป็นที่ยอมรับในสังคม และเหมาะกับวิถีชีวิตสมัยใหม่ ซองบุหรี่เหล่านี้สามารถใช้งานได้จริง มีประสิทธิผล และเป็นความหวังสูงสุดของเราสำหรับอนาคตที่ปราศจากควันบุหรี่”

กลยุทธ์การลดอันตรายของสวีเดนมีความแตกต่างจากแนวทางที่เข้มงวดในที่อื่นๆ แทนที่จะห้ามผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยกว่า สวีเดนกลับยอมรับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ โดยยอมรับว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มาก

ปัจจุบันอัตราการสูบบุหรี่ของสวีเดนอยู่ที่ 5.3% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานปลอดบุหรี่ที่ 5% เล็กน้อย อัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งปอดในผู้ชายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของสหภาพยุโรป 61% และอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งทั้งหมดต่ำกว่า 34%

ดร. Delon Human ผู้เขียนร่วมรายงานเตือนว่าการควบคุมที่มากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อการเพิ่มขึ้นเหล่านี้ โดยเฉพาะต่อผู้หญิง

“การห้ามที่ไม่เหมาะสมกำลังปิดกั้นการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยชีวิตได้” ดร. Human ผู้นำของกลุ่ม Smoke Free Sweden และอดีตเลขาธิการสมาคมการแพทย์โลกกล่าว

“นั่นไม่ใช่แค่เพียงนโยบายที่แย่เท่านั้น แต่ยังเป็นหายนะด้านสาธารณสุขอีกด้วย ผู้หญิงควรได้รับความช่วยเหลือในการเลิกบุหรี่ที่ได้ผลดีที่สุด”

ดร. Glover กล่าวเสริมว่า “เมื่อผู้หญิงสามารถเลือกทางเลือกที่สะอาดและปราศจากอคติ อัตราการเลิกบุหรี่ก็จะพุ่งสูงขึ้น การปฏิเสธการเข้าถึงบุหรี่ก็เท่ากับเป็นการประณามคนรุ่นต่อไปที่ต้องเผชิญกับความตายอันเนื่องมาจากการสูบบุหรี่”

“ผู้กำหนดนโยบายจะต้องปฏิบัติตามแนวทางของสวีเดน หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องมีส่วนรู้เห็นในเหตุการณ์การเสียชีวิตที่สามารถป้องกันได้ในวงกว้าง”

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

info@smokefreesweden.org

ที่มา: Smoke Free Sweden

Kao เผยแพร่รายงานแบบบูรณาการของ Kao ประจำปี 2025

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–13 มิถุนายน 2025

Kao Corporation (TOKYO:4452) ได้เผยแพร่รายงานแบบบูรณาการของ Kao ประจำปี 2025 บนเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งเสนอภาพรวมที่ครอบคลุมเกี่ยวกับความคิดริเริ่ม และทิศทางเชิงกลยุทธ์ของบริษัทให้กับผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย
รายงานแบบบูรณาการของ Kao ประจำปี 2025

The cover visual represents our “moonshot.” It embodies our commitment to achieving the ambitious goal of a sustainable society for future generations.

ภาพปกแสดงถึงเป้าหมายแบบ “moonshot ” ของเรา ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการบรรลุเป้าหมายอันทะเยอทะยานในการสร้างสังคมที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไป

เพื่อบรรลุแผนระยะกลาง “K27” Kao ตั้งเป้าที่จะสร้างตัวตนที่ไม่เหมือนใครที่ขาดไม่ได้ให้กับใครในโลก และกำลังดำเนินกลยุทธ์ Global Sharp Top ในปีงบประมาณ 2024 Kao บรรลุเป้าหมายด้วยการเสริมสร้างการจัดการผลตอบแทนต่อการลงทุนของนักลงทุน (ROIC) และลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่งและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

รายงานฉบับนี้นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความคืบหน้าของ Kao ภายใต้ K27 โดยเน้นย้ำถึงวิธีที่พนักงานที่ทุ่มเทของ Kao สร้างมูลค่าใหม่ๆ และสร้างผลกระทบที่สำคัญอย่างแข็งขันผ่านกลยุทธ์ Global Sharp Top และแนวทางทีม Scrum แบบคล่องตัว นอกจากนี้ รายงานยังระบุถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องของ Kao ในการรับมือกับความท้าทายที่กล้าหาญ โดยใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์เฉพาะตัวเพื่อแก้ไขปัญหาสังคมระดับโลกและช่วยทำให้โลกของ Kirei ที่ทุกชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนเกิดขึ้นจริง

Kao หวังว่ารายงานฉบับนี้จะทำให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และส่งเสริมให้เกิดการสนทนาและความร่วมมือที่มีความหมาย บริษัทมุ่งมั่นที่จะนำข้อเสนอแนะและข้อมูลเชิงลึกจากพันธมิตรที่หลากหลายมาใช้อย่างจริงจัง ในขณะที่ยังคงพัฒนาผลงานเชิงบวกต่อสังคมและคุณค่าขององค์กรต่อไป

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
รายงานความยั่งยืนของ Kao ประจำปี 2025

เกี่ยวกับแผน Kirei Lifestyle
ในช่วง 130 ปีที่ผ่านมา Kao ได้มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คน และช่วยให้พวกเขาตระหนักถึงวิถีชีวิตที่ยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งก็คือวิถีชีวิตแบบ Kirei คำว่า “kirei” ในภาษาญี่ปุ่นนั้นหมายถึงสิ่งที่สะอาด เป็นระเบียบ และสวยงามในคราวเดียวกัน สำหรับบริษัท Kao แนวคิดของคำว่า “kirei” นี้ไม่เพียงแต่หมายถึงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทัศนคติด้วย ซึ่งก็คือความปรารถนาที่จะสร้างสรรค์ความสวยงามให้กับตัวเอง ผู้อื่น และโลกธรรมชาติรอบตัวเรา บริษัท Kao Group มุ่งมั่นที่จะบรรลุวิถีชีวิตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยในเดือนเมษายน 2019 Kao Group ได้จัดทำกลยุทธ์ ESG ที่เรียกว่า Kirei Lifestyle Plan และภายในปี 2030 Kao Group มีเป้าหมายที่จะส่งเสริมให้ผู้คนอย่างน้อย 1 พันล้านคนมีชีวิตที่สวยงามยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัท Kao ยังมุ่งมั่นที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ 100% ของบริษัทสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรชีวิต ซึ่งวิทยาศาสตร์ระบุว่าโลกธรรมชาติของเราสามารถดูดซับได้อย่างปลอดภัย
กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ความยั่งยืนของ Kaoเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Kao
Kao ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนตัวและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน เครื่องสำอาง และสารเคมีเฉพาะทางจากประเทศญี่ปุ่น สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูงเพื่อการดูแลและเสริมสร้างความสมบูรณ์ให้กับชีวิตของผู้คนและโลกใบนี้ ผ่านแบรนด์ต่างๆ เช่นผงซักฟอก Attack ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว Bioré และ Jergens ผลิตภัณฑ์สุขอนามัย, Laurier เครื่องสำอาง Curél, SENSAI และ MOLTON BROWN และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม Oribe Kao เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วทั้งเอเชีย อเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เมื่อรวมกับธุรกิจเคมีภัณฑ์ซึ่งมีส่วนสนับสนุนอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท Kao สร้างยอดขายได้ประมาณ 1,630 พันล้านเยนต่อปี Kao มีพนักงานประมาณ 32,600 คนทั่วโลกและมีประวัติในการคิดค้นนวัตกรรมมานานกว่า 130 ปี ในฐานะองค์กรที่จัดหาผลิตภัณฑ์ที่ผู้คนใช้ในชีวิตประจำวัน Kao Group จึงมีความรับผิดชอบในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์อย่างจริงจังตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ซึ่งได้ระบุไว้ในกลยุทธ์ ESG ของ Kao หรือแผน Kirei Lifestyle ที่เปิดตัวในปี 2019
กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ Kao Groupเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/20250609991718/en

Contacts

หากต้องการสอบถามข้อมูลสื่อ โปรดติดต่อ:
ประชาสัมพันธ์
Kao Corporation
corporate_pr@kao.com

ที่มา: Kao Corporation


Populous เข้าซื้อ Fentress Architects ขยายพอร์ตโฟลิโอด้านการบินทั่วโลก

Logo

แคนซัสซิตี้ รัฐมิสซูรี–(BUSINESS WIRE)–07 มิถุนายน 2025

Populous บริษัทออกแบบชื่อดังระดับโลกที่เชี่ยวชาญด้านสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาและความบันเทิง ประกาศในวันนี้ว่า ได้เข้าซื้อกิจการ Fentress Architects ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเดนเวอร์ ผู้นำระดับโลกด้านโครงการการบินต่างๆ ที่เป็นสัญลักษณ์และอาคารสาธารณะที่โดดเด่น อาทิ ศูนย์การประชุม พิพิธภัณฑ์ และสถานที่ของรัฐบาล

Los Angeles International Airport. Designed by Fentress Architects.

Los Angeles International Airport ออกแบบโดย Fentress Architects

การเข้าซื้อเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้เป็นการรวมตัวของสองชื่อที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในวงการสถาปัตยกรรม โดยผสมผสานความเชี่ยวชาญที่ไม่มีใครทัดเทียมของ Populous ในการออกแบบประสบการณ์ที่น่าจดจำเข้ากับผลงานที่ได้รับรางวัลของ Fentress ในด้านสถานที่สำคัญทางการบิน ชุมชน และวัฒนธรรม การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะขยายขอบเขตและขนาดของบริการที่ Populous สามารถนำเสนอให้กับลูกค้าทั่วโลกได้อย่างมาก

Bruce Miller ประธานและซีอีโอระดับโลกของ Populous ให้ความเห็นว่า:

“เรามุ่งมั่นที่จะขยายขอบเขตการปฏิบัติงานของเราให้กว้างขวางยิ่งขึ้น Fentress Architects เป็นที่รู้จักมานานแล้วในด้านสถาปัตยกรรมการบินและสาธารณะที่มีวิสัยทัศน์ คุณภาพการออกแบบที่ยอดเยี่ยม และความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ การที่ทีมการบินของเราผนึกกำลังกับ Fentress เพื่อก่อตั้ง Fentress Studios ที่เป็นบริษัทในเครือ Populous ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความมุ่งมั่นของเราในด้านคุณภาพการออกแบบ

การเพิ่มความเชี่ยวชาญและฐานลูกค้าของ Fentress ให้กับพอร์ตโฟลิโอการบินและการขนส่งระดับโลกของ Populous รวมไปถึงการทำงานร่วมกันในด้านการออกแบบศูนย์ประชุม จะทำให้เราสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตของการออกแบบที่เน้นที่ผู้คน และเพิ่มผลกระทบในระดับโลกของเราในภาคส่วนเหล่านั้นได้”

Fentress Architects ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1980 และได้ออกแบบสถานที่สำคัญทางสถาปัตยกรรมมูลค่ากว่า 52,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก รวมถึงสนามบินนานาชาติเดนเวอร์ สนามบินนานาชาติอินชอน ศูนย์การประชุมไมอามีบีช และพิพิธภัณฑ์นาวิกโยธินแห่งชาติ บริษัทนี้มีชื่อเสียงในด้านการสร้างสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืน สอดคล้องกับบริบท และเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับชุมชนที่ให้บริการ

Curt Fentress ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าแผนกออกแบบของ Fentress Architects กล่าวว่า “Populous ยึดมั่นในคุณค่าของความเป็นเลิศด้านการออกแบบและการคิดที่เน้นที่ผู้คนเช่นเดียวกับเรา เราจะร่วมกันกำหนดนิยามใหม่ของสถาปัตยกรรมที่ดีและความสามารถในการจุดประกายการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจผ่านการออกแบบที่สร้างแรงบันดาลใจสำหรับผู้คนต่อไป”

Fentress Architects จะเปลี่ยนชื่อเป็น Fentress Studios ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Populousโดยสตูดิโอดังกล่าวจะยังคงมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองเดนเวอร์และวอชิงตัน ดี.ซี. การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมศักยภาพของ Populous ในด้านการบิน การขนส่ง และการออกแบบภาคสาธารณะ

เกี่ยวกับ Populous

Populous เป็นบริษัทออกแบบระดับโลกที่เริ่มต้นจากความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการดึงดูดผู้คนให้มารวมตัวกันด้วยสิ่งที่พวกเขารัก ผ่านประสบการณ์ที่ดึงดูดทุกประสาทสัมผัสและขยายอารมณ์บริสุทธิ์ที่แบ่งปันในช่วงเวลาแห่งชีวิตมนุษย์ ในช่วง 40 กว่าปีที่ผ่านมา บริษัทได้ออกแบบโครงการมากกว่า 3,500 โครงการ มูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในตลาดเกิดใหม่และตลาดที่มีอยู่แล้ว บริการที่ครอบคลุมของ Populous ได้แก่ สถาปัตยกรรม การออกแบบภายใน การวางแผนและการวางซ้อนงานอีเว้นท์ สภาพแวดล้อมต่างๆ ที่ประกอบด้วยตราสินค้า การค้นหาเส้นทางและกราฟิกต่างๆ การวางแผนและการออกแบบเมือง สถาปัตยกรรมภูมิทัศน์ การออกแบบเกี่ยวกับการบินและการขนส่ง การบริการและการให้คำปรึกษาด้านการออกแบบที่ยั่งยืน โดย Populous มีพนักงานมากกว่า 1,500 คนในสำนักงานทั่วโลก 32 แห่งในสี่ทวีป โดยมีศูนย์ภูมิภาคในแคนซัสซิตี้ ลอนดอน และบริสเบน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.populous.com

เกี่ยวกับ Fentress Architects

Fentress Architects คือบริษัทออกแบบระดับนานาชาติที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์งานสถาปัตยกรรมที่สร้างสรรค์ ยั่งยืน และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยผลงานของบริษัทได้แก่ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ Tom Bradley ที่สนามบิน LAX, ศาลฎีกาแห่งรัฐโคโลราโด Ralph L. Carr และสถานทูตนอร์เวย์

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/ 20250606849000/en

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ
Kim Wallace Carlson | ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสาร ภูมิภาคอเมริกา
kim.wallacecarlson@populous.com
โทร.: +1 816 329 4468

Charlie Brooks | ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารระดับโลก
charlie.brooks@populous.com
โทร.: +44 (0)7881 268501

ที่มา: Populous














Mitsui Chemicals Group เตรียมร่วมงาน ProPak Asia 2025

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–04 มิถุนายน 2025

กลุ่มบริษัท Mitsui Chemicals เตรียมเข้าร่วมงาน ProPak Asia 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11–14 มิถุนายน 2025 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) ประเทศไทย ณ ฮอลล์ 99 บูธ T65 โดยในปีนี้ กลุ่มบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์มากยิ่งขึ้น

ในปีนี้ กลุ่มบริษัท Mitsui Chemicals จะจัดแสดงต้นแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อให้ผู้เข้าชมสามารถสัมผัสและเรียนรู้โครงสร้างการใช้งานที่หลากหลาย ซึ่งพัฒนาขึ้นจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ โดยตรง สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งด้านประสิทธิภาพการใช้งานและความยั่งยืนในระยะยาว

รายละเอียดการจัดแสดง :

วันที่

11 ถึง 14 มิถุนายน 2025

สถานที่จัดงาน

ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) ประเทศไทย

บูท

Hall 99, T65

ผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่จัดแสดง:

ถุงพอลิโพรพิลีนพร้อมรีไซเคิลได้

  • ใช้วัสดุพอลิเมอร์ชนิดเดียว
  • ฟิล์ม BOPP ที่สามารถซีลได้และมีคุณสมบัติป้องกันการซึมผ่านของน้ำและอากาศ เพื่อช่วยลดการใช้พลาสติกใหม่

ถุงพอลิโอเลฟินพร้อมรีไซเคิลได้

  • เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นกรดสูง
  • เม็ดพลาสติก EVOLUE™ เกรดพิเศษ สามารถซีลได้ดีแม้ในสภาวะที่มีการปนเปื้อน
  • กาว TAKELAC™/TAKENATE™ เพื่อเสริมการยึดเกาะในการใช้งานที่รุนแรง

ฟิล์มที่มีคุณสมบัติการพับแน่น (Dead Fold)

  • ฟิล์มพอลิเอทิลีนดัดแปลงโดยใช้ผลิตภัณฑ์ของ Mitsui Chemicals
  • คงประสิทธิภาพการพับได้อย่างดีเยี่ยม
  • สามารถประยุกต์การใช้งานได้หลากหลาย

ฟิล์ม PCR ที่พิมพ์ได้ดี

  • ผลิตจากเม็ดพลาสติก Re’PRM™ ที่พัฒนาให้มีปรมาณเจลต่ำ และเพิ่มคุณภาพของการพิมพ์บนผิวของฟิล์ม
  • สำหรับเป็นบรรจุภัณฑ์นอกของผลิตภัณฑ์สินค้าสินค้าอุปโภค-บริโภคทั่วไป

ถุงโมโนพอลิเอทิลีนที่มีส่วนผสมของ PCR

ผลิตจากเม็ดพลาสติก Re’PRM™ และ EVOLUE™ คุณภาพสูง

เพิ่มคุณสมบัติในการซีลและปรับปรุงรูปลักษณ์ของบรรจุภัณฑ์

ช่วยให้เกิดความสมดุลระหว่างความยั่งยืนและความสวยงามของผลิตภัณฑ์

เกี่ยวกับ Mitsui Chemicals Group

บริษัท Mitsui Chemicals, Inc. (MCI) เป็นหนึ่งในบริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและวัสดุนวัตกรรม บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีฟังก์ชันการใช้งานใหม่ ๆ ซึ่งถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ ยานยนต์ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) การดูแลสุขภาพ สิ่งแวดล้อมและพลังงาน ตลอดจนบรรจุภัณฑ์

กลุ่มบริษัท Mitsui Chemicals มีบริษัทในเครือมากกว่า 20 แห่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ให้บริการและโซลูชันที่ตอบโจทย์กับความต้องการของอุตสาหกรรมหลากหลายประเภทในภูมิภาคนี้

เกี่ยวกับ Mitsui Chemicals Asia Pacific

บริษัท Mitsui Chemicals Asia Pacific, Ltd. (MCAP) ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2540 โดยทำหน้าที่เป็นสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของบริษัท Mitsui Chemicals, Inc. (MCI) ครอบคลุมพื้นที่อาเซียน เอเชียใต้ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และโอเชียเนีย

ในฐานะสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก MCAP มุ่งมั่นขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ ให้บริการด้านการจัดการและสนับสนุนเชิงกลยุทธ์แก่บริษัทในเครือและหน่วยธุรกิจในภูมิภาค พร้อมทั้งส่งมอบคุณค่าให้แก่ลูกค้า ด้วยการผสานจุดแข็งจากเครือข่ายของกลุ่มบริษัท Mitsui Chemicals ทั้งหมด

หมายเหตุ:

เนื้อหาในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ เป็นการแปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษเพื่อความสะดวกในการสื่อสารเท่านั้น
ต้นฉบับภาษาอังกฤษถือเป็นฉบับที่ถูกต้องและมีผลทางกฎหมายอย่างเป็นทางการ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการใช้อ้างอิง กรุณาอ้างอิงจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ

Contacts 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข่าวประชาสัมพันธ์นี้ กรุณาติดต่อ:

Eric Lim

ฝ่ายสื่อสารองค์กรและการตลาด

Mitsui Chemicals Asia Pacific, Ltd.

eric.lim@mitsuichemicals.com

ที่มา : บริษัท Mitsui Chemicals Asia Pacific, Ltd

Mary Kay Inc. มอบทุน 10 ทุนแก่นวัตกรรุ่นเยาว์ในงาน Regeneron International Science and Engineering Fair ประจำปี 2025

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–29 พฤษภาคม 2025

Mary Kay Inc. ซึ่งเป็นองค์กรระดับโลกที่สนับสนุนการศึกษาของสตรีรุ่นเยาว์และส่งเสริมให้เยาวชนเดินตามความฝันในด้าน STEM ได้รับรางวัล Special Awards Organization อีกครั้งเป็นปีที่สองในงาน Regeneron International Science and Engineering Fair (Regeneron ISEF) ที่เมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ โดยมอบทุนสนับสนุนจำนวน 10 ทุน รวมมูลค่าเกือบ 10,000 เหรียญสหรัฐฯ ให้แก่นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายที่มีความโดดเด่นด้านโครงการสร้างสรรค์ต่างๆ ตั้งแต่การค้นหาวิธีรักษามะเร็งที่ส่งผลต่อสตรี ไปจนถึงนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน และการปกป้องทรัพยากรที่มีค่าที่สุดของโลกเรา

Kristin Dasaro, Director, Package Engineering and Sustainability at Mary Kay, greets Brazilian cancer researcher, Carolina de Araujo Pereira da Silva, who received back-to-back awards from Mary Kay for innovative findings in the malignancy of tumors. (Photo Credit: Mary Kay Inc.)

Kristin Dasaro ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมบรรจุภัณฑ์และความยั่งยืนของ Mary Kay กล่าวต้อนรับนักวิจัยโรคมะเร็งชาวบราซิล Carolina de Araujo Pereira da Silva ผู้ได้รับรางวัลจาก Mary Kay ติดต่อกัน 2 ปีจากการค้นพบเชิงนวัตกรรมเกี่ยวกับมะเร็ง (เครดิตภาพ: Mary Kay Inc.)

ในแต่ละปี งานนี้มีผู้เข้าร่วมเกือบ 2,000 คนจากกว่า 60 ประเทศ โดยมีรางวัลรวมมูลค่ารวมกว่า 9 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมไปถึงคำเชิญไปร่วมงานขององค์กรและวิชาการกับผู้นำระดับโลกด้าน STEM

เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ75 ปี จึงได้จัดโครงการ ISEF ขึ้น ซึ่งเป็นโครงการของ Society for Science โดยเป็นการแข่งขัน STEM ระดับก่อนอุดมศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผ่านเครือข่ายระดับโลกของงานวิทยาศาสตร์ในระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค และระดับชาติ นักเรียนหลายล้านคนได้รับการสนับสนุนให้สำรวจความหลงใหลในการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ ในแต่ละฤดูใบไม้ผลิ กลุ่มนักเรียนเหล่านี้จะได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้เข้ารอบสุดท้ายและได้รับโอกาสในการแข่งขันชิงรางวัลและทุนการศึกษามูลค่าประมาณ 9 ล้านเหรียญสหรัฐในงาน Regeneron ISEF ประจำปี

Carrissa Dowdy ผู้จัดการฝ่ายกำหนดสูตรผลิตภัณฑ์ของ Mary Kay กล่าวว่า “ความเฉลียวฉลาด ความหลงใหล และนวัตกรรมที่ผู้นำ STEM รุ่นเยาว์เหล่านี้แสดงให้เห็นนั้นน่าทึ่งมาก ผลงานของพวกเขามีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม ขับเคลื่อนความก้าวหน้าอย่างยั่งยืน และเร่งให้เกิดความก้าวหน้าครั้งสำคัญในสาขาต่างๆ เช่น การวิจัยโรคมะเร็ง วิทยาศาสตร์วัสดุ และวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม Mary Kay รู้สึกภูมิใจที่ได้ยืนหยัดเคียงข้างพวกเขาในการกำหนดอนาคตของ STEM”

 พบกับผู้นำ STEM ที่เป็นนักศึกษา

 1.

 Pragathi Kasani-Akula (จอร์เจีย สหรัฐอเมริกา)

 Multi-Color Magneto-Fluorescent Nanoarchitectures สำหรับการระบุเอ็กโซโซมของมะเร็งเต้านมชนิด Triple Negative อย่างมีเป้าหมาย

 2.

 Grace Liu (นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา)

 การประเมินความไม่เท่าเทียมกันทางเพศอันเนื่องมาจากการตัดสินใจภายใต้ความไม่แน่นอนในการเป็นผู้ประกอบการ: การวิเคราะห์ข้อมูลแบบกลุ่ม

 3.

 Alina Albeik (เวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา)

 ผลกระทบของเรสเวอราทรอลต่อการรักษาความจำใน Dugesia tigrina

 4.

 Kaili Tseng and Leila Gheysar (แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา)

 เปปไทด์ต้านจุลชีพ Bombyx mori: ตัวเร่งปฏิกิริยาใหม่และยั่งยืนสำหรับการยับยั้งการเจริญเติบโตและการตายของเซลล์มะเร็ง

 5.

 Elisabeth Fischermann and Tom Kressbach (บาวาเรีย เยอรมนี)

 ตามล่าหาอนุมูลอิสระด้วยปฏิกิริยาแสงสีฟ้า

 6.

 Ela Doruk Korkmaz (Istanbul, Turkey)

การตรวจสอบผลกระทบต่อต้านมะเร็งที่อาจเกิดขึ้นของเอ็กโซโซมที่ได้จากเมล็ดกาแฟผ่านฤทธิ์ต้านการแพร่กระจายและการกระตุ้นอะพอพโทซิสของเซลล์มะเร็งผิวหนังเมลาโนมาผ่านเส้นทางการส่งสัญญาณโปรตีนไคเนสที่กระตุ้นด้วยไมโตเจน

 7.

 Carolina de Araujo Pereira da Silva* (ริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล)

 ซาลิโนไมซินเป็นโมเลกุลฮอร์จันที่พุ่งเป้าไปที่มะเร็งที่เกิดจาก Mn ในเนื้องอกที่ลุกลาม

 8.

 Sofia Nunes (มารันเยา บราซิล)

 การพัฒนาสูตรผิวหนังเทียมราคาประหยัดสำหรับการสร้างเซลล์ใหม่และการรักษาอาการไหม้รุนแรง

 9.

 Margareth Ac-ac (เนกรอส โอเรียนทัล ประเทศฟิลิปปินส์)

 SKIMP: อุปกรณ์ตรวจจับมะเร็งผิวหนังแบบพกพาด้วยปัญญาประดิษฐ์ – เครือข่ายประสาทเทียมแบบ Convolutional (CNN) พร้อมโปรแกรมแจ้งเตือนมะเร็งผิวหนังที่ใช้ Python

10.

 Kamila Rotger-Costas and Miranda Sanz-Alvarez (กวยนาโบและคากัวส เปอร์โตริโก)

 EcoReishiFlex: นวัตกรรมพลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายได้อย่างยั่งยืน ผลิตจากโพลีแซ็กคาไรด์จากเห็ดหลินจือ

* Carolina de Araujo Pereira da Silva เป็นผู้ได้รับทุน Mary Kay Young Women ด้าน STEM ถึงสองครั้งจากผลงานที่โดดเด่นของเธอในสาขาการวิจัยโรคมะเร็ง เงินรางวัลประจำปี 2024 ของเธอถูกนำไปใช้เพื่อสนับสนุนโครงการที่เธอเสนอ – Rock the Metals! Investigating Manganese as a Trigger of Malignancy and Metal Transporters as Targets in Cancer Treatment ซึ่งทำให้ผลงานที่ได้รับรางวัลประจำปี 2025 ของเธอได้รับการยกระดับขึ้น

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash ผู้ก่อตั้งแบรนด์ความงามในฝันของเธอในเท็กซัสเมื่อปี 1963 โดยมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือการทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทระดับโลกที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 40 ตลาด เป็นเวลากว่า 60 ปีแล้วที่โอกาสของ Mary Kay ได้ส่งเสริมให้ผู้หญิงกำหนดอนาคตของตนเองผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay มุ่งมั่นที่จะลงทุนในด้านวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เครื่องสำอางสี อาหารเสริม และน้ำหอมที่ล้ำสมัย Mary Kay เชื่อในการอนุรักษ์โลกของเราไว้สำหรับคนรุ่นต่อไป ปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งและการล่วงละเมิดในครอบครัว และสนับสนุนให้เยาวชนเดินตามความฝันของตนเอง เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราได้บน Facebook, Instagram และ LinkedIn หรือติดตามเราบน X.

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250528325390/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ฝ่ายสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.
newsroom.marykay.com
972.687.5332 or media@mkcorp.com

ที่มา: Mary Kay Inc.


การประชุมสภาบริหาร APO ครั้งที่ 67 ในอินโดนีเซีย กำหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์สำหรับวิสัยทัศน์ด้านผลิตภาพที่เป็นหนึ่งเดียว

Logo

จาการ์ตา, อินโดนีเซีย–(BUSINESS WIRE)–26 พฤษภาคม 2025

องค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย (APO) จัดการประชุมสภาบริหาร (GBM) ครั้งที่ 67 ระหว่างวันที่ 20–22 พฤษภาคม 2025 ที่จาการ์ตา โดยมีรัฐบาลสาธารณรัฐอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ โดยการประชุมประจำปีครั้งนี้มีผู้แทนจากรัฐบาลสมาชิก APO มากกว่า 50 คนเข้าร่วมหารือเกี่ยวกับทิศทางเชิงกลยุทธ์ของ APO และรับรองความน่าเชื่อถือ ประสิทธิผล และความเกี่ยวข้องขององค์กรอย่างต่อเนื่องท่ามกลางภูมิทัศน์ด้านผลิตภาพที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

Heads of delegations and the Minister of Manpower of the Republic of Indonesia (center, seated) at the 67th GBM.

หัวหน้าคณะผู้แทนและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกำลังคนของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย (นั่งตรงกลาง) ในการประชุม GBM ครั้งที่ 67

การประชุม GBM ครั้งที่ 67 มีการเปลี่ยนแปลงผู้นำที่สำคัญมากมาย ผู้อำนวยการ APO ประจำอินเดีย Amardeep Singh Bhatia เข้ารับตำแหน่งประธาน APO ประจำปี 2025–26 แทนผู้อำนวยการ APO ประจำฟิจิ Jone Maritino Nemani นอกจากนี้ Agung Nur Rohmad ผู้อำนวยการ APO ประจำอินโดนีเซีย และ Dr. Mohammad Saleh Owlia ผู้อำนวยการ APO ประจำสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ยังได้รับแต่งตั้งเป็นรองประธานคนแรกและคนที่สองตามลำดับ

คณะกรรมการบริหารแสดงความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่องต่อความเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ก้าวหน้าของ Dr. Indra Pradana Singawinata เลขาธิการคนปัจจุบัน ซึ่งได้รับการเสนอชื่อโดยรัฐบาลอินโดนีเซีย โดยเลือกให้เขาดำรงตำแหน่งเลขาธิการเป็นสมัยที่สองตั้งแต่เดือนกันยายน 2025 ถึงเดือนกันยายน 2028

ในคำกล่าวเปิดงาน ประธาน APO Bhatia ได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของอินเดียที่มีต่อวิสัยทัศน์ของ APO ที่จะเติบโตอย่างครอบคลุม ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม และยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในฐานะสมาชิกผู้ก่อตั้ง APO นอกจากนี้ เขายังยืนยันถึงความมุ่งมั่นของอินเดียในการเสริมสร้างประสิทธิภาพของสถาบันและแนวทางเชิงกลยุทธ์ของ APO ผ่านการดำรงตำแหน่งประธาน และชื่นชมความคืบหน้าที่สำคัญที่เกิดขึ้นในการพัฒนาระบบนิเวศ Green Productivity (GP) 2.0

การประชุมเปิดงาน GBM ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกำลังคนของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ศาสตราจารย์ Yassierli โดยในสุนทรพจน์เปิดงาน รัฐมนตรีศาสตราจารย์ Yassierli ได้เน้นย้ำถึงความเร่งด่วนในการตอบสนองร่วมกันต่อภูมิทัศน์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีลักษณะเด่นคือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ การหยุดชะงักของเทคโนโลยี และแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เพิ่มขึ้น ภายใต้เงื่อนไขดังกล่าว ไม่ควรมองผลผลิตเป็นการแข่งขันระหว่างประเทศ แต่ควรมองเป็นการเดินทางร่วมกันที่หยั่งรากลึกในความเคารพซึ่งกันและกัน ความรู้ร่วมกัน และความสามัคคี ศาสตราจารย์ Yassierli ได้กล่าวถึงบทบาทสำคัญของ APO ในการอำนวยความสะดวกให้เกิดความสามัคคีในหมู่สมาชิกโดยทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับความร่วมมือในทางปฏิบัติผ่านโซลูชันที่เกี่ยวข้องในท้องถิ่นและได้รับข้อมูลระดับโลก เช่น GP

การประชุม GBM ครั้งที่ 67 นำเสนอการหารือเชิงลึกในประเด็นสำคัญเชิงกลยุทธ์หลายประการเพื่อกำหนดทิศทางของ APO ในปีต่อๆ ไป โดยประเด็นสำคัญในการประชุมนี้ คือ การหารือเกี่ยวกับกรอบวิสัยทัศน์ของ APO หลังปี 2025 ซึ่งจะวางรากฐานสำหรับกิจกรรมของ APO ต่อจากปี 2025 นอกจากนี้ ยังมีการหารือเกี่ยวกับการพัฒนาระบบนิเวศ GP 2.0 และคณะกรรมการบริหารยินดีกับคำแนะนำจากการประชุมประจำปีของ Green Productivity Advisory Council ซึ่งจัดขึ้นที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 14 ถึง 15 เมษายน 2025

หัวข้อสำคัญอื่นๆ รวมถึงการแก้ไขที่เสนอต่อสูตรการสนับสนุนสมาชิกตามคำแนะนำของคณะทำงานเพื่อให้แน่ใจว่าการจัดหาเงินทุนของ APO จะยุติธรรมและยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีการหารือเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการเสริมสร้างความสามารถด้านดิจิทัลของสำนักงานเลขาธิการผ่านระบบที่ได้รับการปรับปรุงและขยายการเข้าถึงบริการของ APO นอกจากนี้ GBM ยังได้ทบทวนความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขตามการประเมินของบุคคลภายนอกที่เป็นอิสระ ซึ่งยืนยันถึงความมุ่งมั่นของ APO ที่มีต่อธรรมาภิบาล ความโปร่งใส และประสิทธิภาพของสถาบัน นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์สำคัญอื่นๆ อีก ได้แก่ การรับรองสถาบันรับรองการพัฒนาของฟิลิปปินส์ให้ดำเนินการตามแผน Productivity Specialist และการขยายขอบเขตของสถาบันรับรองระดับชาติของอินโดนีเซีย GBM ยังต้อนรับผู้สังเกตการณ์จากองค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติและกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังของสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน ซึ่งแสดงถึงการมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นของ APO กับองค์กรที่ไม่ใช่สมาชิกและองค์กรระหว่างประเทศที่ดำเนินการในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

การประชุม GBM ครั้งที่ 67 ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงได้สิ้นสุดลงด้วยข้อความแสดงความยินดี โดยคณะกรรมการบริหารได้ต้อนรับการประกาศของประธาน APO Bhatia อย่างอบอุ่นเกี่ยวกับความพร้อมของอินเดียในการเป็นเจ้าภาพการประชุม GBM ครั้งที่ 68 ในปี 2026

เกี่ยวกับ APO

APO เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลที่มุ่งมั่นในการปรับปรุงเพื่อเพิ่มผลผลิตและการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกผ่านบริการให้คำแนะนำด้านนโยบาย ความคิดริเริ่มในการสร้างศักยภาพ การแบ่งปันความรู้ และความร่วมมือ โดยเป็นองค์กรที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่แสวงหากำไร และไม่เลือกปฏิบัติ

APO ก่อตั้งขึ้นในปี 1961 โดยมีสมาชิกผู้ก่อตั้ง 8 ประเทศ ปัจจุบันมีสมาชิกอยู่ 21 ประเทศ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: 
https://www.businesswire.com/news/home/20250526891094/en

Contacts

องค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย (APO)
ติดต่อ: pr@apo-tokyo.org
เว็บไซต์: https://www.apo-tokyo.org

ที่มา: The Asian Productivity Organization

การถ่ายทอดสดการประชุมสัมมนาผู้บริโภคระดับนานาชาติที่โทคุชิมะจะจัดขึ้นในวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 2025

Logo

จังหวัดโทคุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–12 พฤษภาคม 2025

จังหวัดโทคุชิมะจะจัด “การประชุมนานาชาติเพื่อผู้บริโภคในจังหวัดโทคุชิมะ” ในวันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน โดยรวบรวมผู้นำด้านผู้บริโภคจากญี่ปุ่นและต่างประเทศ รวมถึงเยาวชนที่จะเป็นผู้นำรุ่นต่อไปที่มีจริยธรรม การประชุมครั้งนี้จะเน้นการอภิปรายอย่างคึกคักเกี่ยวกับความคิดริเริ่มต่างๆ ที่สามารถส่งต่อไปยังอนาคตได้ เช่น “การส่งเสริมการบริโภค” เช่น การลดขยะอาหารและส่งเสริมการผลิตและการบริโภคในท้องถิ่น

Reference: International Forum held in 2023

แหล่งอ้างอิง : ฟอรั่มนานาชาติจัดขึ้นในปี ค.ศ. 2023

ปีนี้ถือเป็นวันครบรอบ 10 ปีของการกำเนิดเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในปี ค.ศ. 2015 ความตระหนักรู้และการกระทำของแต่ละบุคคลของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในการสร้างสังคมที่ยั่งยืน? และตอนนี้เรามีเวลาเหลืออีก 5 ปีก่อนถึงเส้นตายสำหรับการบรรลุเป้าหมาย SDGs ขั้นตอนต่อไปของเราคืออะไร?

ในวันสัมมนาจะมีการประชุมสัมมนาหลากหลายหัวข้อดังนี้

  • สำหรับปาฐกถาพิเศษ บริษัท มารูฮะ นิชิโรซึ่งเป็นบริษัทเอกชนแห่งแรกของโลกที่ประสบความสำเร็จในการเพาะเลี้ยงปลาทูน่าครีบน้ำเงินครบวงจร จะนำเสนอความพยายามของตนในการบรรลุเป้าหมาย SDGs
  • ต่อไปจะเป็นการประชุมเยาวชนระดับโลกซึ่งนักศึกษาจากจังหวัดโทคุชิมะ ออสเตรเลีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย จะร่วมกันอภิปรายภายใต้หัวข้อเรื่อง “การบริโภคอาหารอย่างมีจริยธรรม”
  • ในที่สุด จะมีการหารือเกี่ยวกับนโยบายผู้บริโภค ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายผู้บริโภคจากญี่ปุ่น ไทย เกาหลีใต้ และฮ่องกง ซึ่งมีเที่ยวบินตรงมายังจังหวัดโทคุชิมะ ภายใต้หัวข้อเรื่อง “แนวทางของหน่วยงานบริหารผู้บริโภคสู่สังคมที่ยั่งยืน”

การประชุมสัมมนานี้จะถ่ายทอดสดผ่านทางเว็บไซต์ด้านล่างนี้

เราหวังว่าการอภิปรายที่นี่จะนำไปสู่การพัฒนานโยบายผู้บริโภคระดับนานาชาติที่สำคัญและส่งเสริมพฤติกรรมผู้บริโภคสู่สังคมที่ยั่งยืนทั่วโลก

เว็บไซต์: สัมมนาผู้บริโภคนานาชาติที่จังหวัดโทคุชิมะ
https://www.pref.tokushima.lg.jp/en/world.consumer.symposium/2025/

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  

https://www.businesswire.com/news/home/20250511609959/en  

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

สำหรับสอบถามข้อมูล
กลุ่มงานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กองนโยบายผู้บริโภค
ฝ่ายกิจการสังคมและสิ่งแวดล้อม
รัฐบาลจังหวัดโทคุชิมะ
โทร: +81-(0)88-621-2499
อีเมล: shohishaseisakuka@pref.tokushima.lg.jp

ที่มา: Tokushima Prefectural Government

เปิดตัวระบบการจัดอันดับคาร์บอนต่ำสำหรับซีเมนต์และคอนกรีตระบบแรกของโลก

Logo

  • ระบบระดับโลกที่มุ่งหวังในการกระตุ้นให้เกิดการจัดหาวัสดุก่อสร้างที่ยั่งยืนมากขึ้น
  • โดยระบบจะทำให้เกิดความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ และช่วยให้รัฐบาลและธุรกิจต่างๆ ระบุและซื้อซีเมนต์รวมถึงคอนกรีตที่ยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่มีการใช้มากที่สุดในโลกรองจากน้ำ

ลอนดอน–(BUSINESS WIRE)–24 เมษายน 2025

สมาคมซีเมนต์และคอนกรีตโลก (GCCA) ประกาศเปิดตัวระบบการจัดอันดับคาร์บอนต่ำ (LCR) สำหรับซีเมนต์และคอนกรีตซึ่งเป็นระบบการจัดอันดับระดับโลกที่โปร่งใสระบบแรกที่ช่วยให้สามารถระบุซีเมนต์และคอนกรีตตามปริมาณคาร์บอนได้ ระบบการจัดอันดับนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ลูกค้าจัดลำดับความสำคัญของความยั่งยืนเมื่อเลือกวัสดุก่อสร้างโดยใช้มาตราส่วน AA ถึง G ที่ชัดเจนและใช้งานง่าย

GCCA Low Carbon Ratings for Cement and Concrete

ที่มา: Global Cement and Concrete Association

โดยได้รับแรงบันดาลใจจากโครงการประเมินที่เป็นที่รู้จัก เช่น ใบรับรองประสิทธิภาพการใช้พลังงานของสหภาพยุโรปและระบบการจัดอันดับพลังงานในบ้านของสหรัฐอเมริกา โดย LCR เป็นเครื่องมือที่เรียบง่าย โปร่งใส และสามารถปรับเปลี่ยนได้ ซึ่งช่วยให้ผู้สร้าง สถาปนิก รัฐบาล นักวางแผน และผู้บริโภคทั่วโลกสามารถเลือกตัดสินใจได้อย่างรอบรู้และยั่งยืนมากขึ้น

Thomas Guillot ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ GCCA กล่าวว่า: ซีเมนต์และคอนกรีตเป็นรากฐานของชีวิตสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอาคารที่เราอาศัยและทำงาน ถนนที่เราใช้สัญจร และโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับน้ำสะอาดและพลังงานสีเขียว ในขณะที่ความต้องการในการก่อสร้างที่ยั่งยืนทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น ความจำเป็นในการมีความโปร่งใสมากขึ้นเกี่ยวกับปริมาณคาร์บอนของวัสดุก่อสร้างจึงมีความสำคัญมากกว่าที่เคย

ระบบการจัดอันดับคาร์บอนต่ำของเรารองรับแนวทางการจัดซื้อที่ยั่งยืนมากขึ้น และจะช่วยส่งเสริมให้ห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดนั้นเร่งกระบวนการลดคาร์บอน

ระบบการจัดอันดับได้รับการออกแบบมาให้จดจำได้ง่าย โดยมีกราฟิกที่เรียบง่ายซึ่งระบุการจัดอันดับของผลิตภัณฑ์ได้อย่างชัดเจน ระบบการจัดอันดับคาร์บอนสำหรับซีเมนต์และคอนกรีตนั้นมีความสม่ำเสมอและสามารถเปรียบเทียบได้ ประเทศต่างๆ สามารถใช้การจัดอันดับระดับโลกตามที่มีอยู่ หรือปรับใช้หากการคำนวณคาร์บอนในท้องถิ่นแตกต่างจากบรรทัดฐานระดับโลก

Riccardo Savigliano หัวหน้าหน่วยระบบพลังงานและการลดคาร์บอน UNIDO กล่าวว่า: นี่ถือเป็นก้าวสำคัญในการประสานคำจำกัดความระดับโลกสำหรับซีเมนต์และคอนกรีตที่มีการปล่อยคาร์บอนต่ำเพื่อสนับสนุนการลดคาร์บอน

โครงการก่อสร้างที่โดดเด่นมักจะแสดงให้เห็นถึงการใช้ซีเมนต์และคอนกรีตที่มีการปล่อยคาร์บอนต่ำ อุตสาหกรรมนี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง การเปิดตัวระบบการจัดอันดับระดับโลกนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญบนเส้นทางสู่ความยั่งยืนที่มากขึ้น

Marlène Dance – ผู้เชี่ยวชาญด้านการลดคาร์บอนและการออกแบบที่ยั่งยืน Bouygues Bâtiment International กล่าวว่า: เราเชื่อว่าระบบการจัดอันดับคาร์บอนที่สอดคล้องกันทั่วโลกที่สามารถนำไปใช้ในทุกประเทศและใช้โดยซัพพลายเออร์คอนกรีตทุกราย จะเป็นตัวเปลี่ยนเกม

เราเห็นว่าเครื่องมือที่เรียบง่ายและใช้งานง่ายซึ่งออกแบบมาสำหรับทีมก่อสร้างนั้นมีคุณค่ามาก เครื่องมือนี้จะช่วยให้ทีมงานในไซต์งานของเราเข้าใจและจัดการปริมาณคาร์บอนจากคอนกรีตที่พวกเขาใช้ได้ดีขึ้น

Mr Guillot กล่าวเสริมว่า: ด้วยระบบการจัดอันดับนี้ รัฐบาล ผู้กำหนดนโยบาย และภาคเอกชนสามารถให้ความสำคัญกับซีเมนต์และคอนกรีตที่มีคาร์บอนต่ำในกระบวนการจัดซื้อ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ภาคอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยคาร์บอนในวัสดุก่อสร้างที่จำเป็นเหล่านี้มากยิ่งขึ้น

หมายเหตุถึงบรรณาธิการ

ระบบการจัดอันดับนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้กับคำประกาศผลิตภัณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม (EPD) ซึ่งตามคำจำกัดความแล้วจะต้องได้รับการตรวจสอบจากบุคคลที่สาม

ระบบการจัดอันดับใช้คำจำกัดความเชิงตัวเลขในหน่วยของคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อตันของซีเมนต์และต่อลูกบาศก์เมตรของผลิตภัณฑ์คอนกรีต (ECO2e /m3) ซึ่งเรียกอีกอย่างว่าศักยภาพในการทำให้โลกร้อน (GWP) ซึ่งคำนวณตามมาตรฐานการประกาศผลิตภัณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม (EPD) คำจำกัดความของผลิตภัณฑ์เหล่านี้สำหรับการปล่อยคาร์บอน “คาร์บอนต่ำ” และ “เกือบเป็นศูนย์” ได้รับแรงบันดาลใจจากคำจำกัดความการผลิตซีเมนต์โดยสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศและแผนงานอุตสาหกรรมซีเมนต์และคอนกรีต GCCA 2050 สำหรับคอนกรีตสุทธิเป็นศูนย์

ระบบการจัดอันดับซีเมนต์ของ GCCA สามารถนำไปใช้ได้ในประเทศต่างๆ โดยเยอรมนีเป็นตัวอย่างที่ใช้งานได้จริง กระทรวงเศรษฐกิจและการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศของรัฐบาลกลางเยอรมนีและ VDZ (สมาคมซีเมนต์เยอรมนี) ได้พัฒนาระบบที่สอดคล้องกับระบบ GCCA อย่างสมบูรณ์ และได้นำไปปฏิบัติแล้ว

GCCA ทำงานร่วมกับ Clean Energy Ministerial Industrial Deep Decarbonisation Initiative (IDDI) และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อสร้างชุดคำจำกัดความที่ใช้ได้ทั่วโลกสำหรับคอนกรีต ซึ่งพร้อมใช้งานในประเทศส่วนใหญ่ หากประเทศใดมีแนวทางปฏิบัติในการนับคาร์บอนของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างออกไป ก็สามารถปรับการจัดอันดับได้ ซึ่งระบบนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วในสหราชอาณาจักร

การจัดอันดับซีเมนต์และคอนกรีตของ GCCA สามารถใช้กับฐานข้อมูลอ้างอิงและเป้าหมายระดับประเทศและระดับท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนการจัดซื้อคาร์บอนต่ำ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/20250424485662/en

Contacts

Paul Adeleke
Paul.Adeleke@gccassocation.org