Category Archives: Travel & Leisure

การจัดอันดับของ OAG เผยให้เห็นว่ากัวลาลัมเปอร์ยังคงเป็นสนามบินที่มีการเชื่อมต่อมากที่สุดในเอเชียแปซิฟิก

Logo

การค้นพบที่สําคัญ

  • เอเชียแปซิฟิกเป็นที่ตั้งของ 3 ใน 5 ศูนย์กลางการบินระดับโลกชั้นนำ ได้แก่ KUL อันดับ 2 HND อันดับ 3 และ ICN อันดับ 5
  • กัวลาลัมเปอร์เป็นอันดับ 1 ที่มีเที่ยวบินราคาประหยัดเชื่อมต่อถึงกันมากที่สุด
  • การเติบโตของการเชื่อมต่อในเอเชียขยายตัวโดยมีศูนย์กลางการบินระดับโลก 17 แห่งจากทั้งหมด 50 แห่งในภูมิภาคนี้
  • โตเกียวนาริตะขยับขึ้น 45 อันดับมาอยู่ที่อันดับ 15 ของโลกจากอันดับที่ 60 ในปี 2023

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–11 กันยายน 2024

OAG แพลตฟอร์มข้อมูลชั้นนําสําหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก ได้เปิดตัว Megahubs 2024 ซึ่งเป็นการจัดอันดับสนามบินที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศมากที่สุด 50 อันดับแรกของโลก

OAG Megahubs ไม่เพียงแต่วิเคราะห์ จํานวนจุดหมายปลายทางทั้งหมดที่ ให้บริการเท่านั้น แต่ยังรวมถึง จํานวนการต่อเครื่องตามกําหนดการไปและกลับจากจุดหมายปลายทางระหว่างประเทศ รวมถึงการจัดอันดับตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกและสําหรับสายการบินราคาประหยัด

ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นที่ตั้งของ 3 ใน 5 ศูนย์กลางการบินชั้นนํา ได้แก่ กัวลาลัมเปอร์ (KUL) โตเกียวฮาเนดะ (HND) และโซลอินชอน (ICN) ซึ่งช่วยยืนยันว่าตลาดเหล่านี้กลับมาคึกคักอีกครั้งและมีแนวโน้มเติบโตต่อไป

การเติบโตของการเชื่อมต่อในเอเชียแพร่กระจายอย่างกว้างขวาง โดยมีศูนย์กลางการบินอีก 4 แห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ติดอยู่ในรายชื่อ (CGK, BKK, MNL และ SIN) และอีก 7 แห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ (NRT, PVG, HKG, FUK, CAN, TPE และ PEK) สนามบินนาริตะ ของโตเกียว (NRT) ทำสถิติก้าวกระโดดครั้งใหญ่เมื่อเทียบเป็นรายปี จากอันดับที่ 60 ในปี 2023 ขึ้นมาอยู่ที่อันดับที่ 15 ในปี 2024

สําหรับ การเชื่อมต่อราคาประหยัด สนามบินในเอเชียแปซิฟิกครองตําแหน่ง คิดเป็น 64% ของ LCC Megahubs 25 อันดับแรก กัวลาลัมเปอร์ (KUL) ครองอันดับหนึ่ง โดยให้บริการเชื่อมต่อราคาประหยัด 14,583 เส้นทางในจุดหมายปลายทาง 137 แห่ง AirAsia เป็นสายการบินที่โดดเด่นด้วยส่วนแบ่ง 35% ของเที่ยวบินทั้งหมดและ 48% ของความจุ LCC ทั้งหมด

มะนิลา (MNL) ขยับขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 2 ในรายชื่อ Low-Cost Megahubs ในปีนี้ แซงหน้าอินชอน (ICN) ด้วยอัตราส่วนการเชื่อมต่อกับจุดหมายปลายทางที่สูงถึง 97  แห่ง

“ในขณะที่เอเชียแปซิฟิกยังคงไต่อันดับสูงขึ้นในระดับโลก OAG Megahubs จึงสะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวที่เพิ่มขึ้นของการเดินทางทางอากาศระหว่างประเทศและความต้องการการเดินทางราคาประหยัดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เพิ่มขึ้น” Mayur Patel หัวหน้า ASPAC ของ OAG กล่าว

สําหรับข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมและวิธีการทั้งหมด โปรดดูการวิเคราะห์ ที่นี่

เกี่ยวกับ OAG

OAG เป็นแพลตฟอร์มข้อมูลชั้นนําสําหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเดินทางทั่วโลก ซึ่งขับเคลื่อนการเติบโตและนวัตกรรมของระบบนิเวศการเดินทางทางอากาศ โดยมีเครือข่ายข้อมูลเที่ยวบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2023 OAG ได้เข้าซื้อกิจการ Infare ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านข้อมูลการเดินทางทางอากาศของคู่แข่ง ปัจจุบัน OAG และ Infare ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มข้อมูลที่เชื่อถือได้มากที่สุดสําหรับการบิน

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

pressoffice@oag.com

ที่มา: OAG

ซาอุดีอาระเบียจัดแสดงการลงทุนด้านการท่องเที่ยวเชิงกลยุทธ์ ที่งาน IHIF Asia เปิดประตูสู่นักลงทุน

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–10 กันยายน 2024

ซาอุดีอาระเบียกําลังสร้างตัวเองให้เป็นผู้นําระดับโลกอย่างรวดเร็วในด้านการท่องเที่ยว โดยความสําเร็จอันน่าทึ่งของซาอุดิอาระเบียในปี 2023 ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมนี้ ความก้าวหน้าครั้งนี้จัดแสดงให้เห็นอย่างเต็มที่ในงาน IHIF Asia International Hospitality Investment Forum ที่ฮ่องกง ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวของซาอุดีอาระเบียได้เน้นย้ำถึงศักยภาพอันมหาศาลสําหรับนักลงทุนต่างชาติ ในการใช้ประโยชน์จากภาคการท่องเที่ยวของซาอุดีอาระเบียที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วและมีความหลากหลาย

Tareq Al-Shaghrood, General Manager of Investment Planning and Attraction, speaking at IHIF Asia (Photo: AETOSWire)

Tareq Al-Shaghrood ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายวางแผนการลงทุนและสถานที่ท่องเที่ยว กล่าวในงาน IHIF Asia (ภาพ: AETOSWire)

ที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ของซาอุดีอาระเบียที่เป็นจุดตัดของสามทวีป และความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นกับเอเชีย ตอกย้ำถึงศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับโลก ในปี 2023 ซาอุดิอาระเบียต้อนรับนักท่องเที่ยวจากเอเชียมากกว่า 20.9 ล้านคน ซึ่งใช้จ่ายเงินรวมกัน 25.7 พันล้านดอลลาร์ การหลั่งไหลเข้าอย่างมีนัยสําคัญนี้เน้นย้ำถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของตลาดเอเชียที่มีต่อศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของซาอุดีอาระเบียและโอกาสอันน่าดึงดูดใจที่นำเสนอให้กับนักลงทุน ความน่าดึงดูดใจของซาอุดิอาระเบียต่อนักท่องเที่ยวชาวเอเชียนั้นเห็นได้จากการเติบโตอย่างมากของรายรับจากการท่องเที่ยว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่แข็งแกร่งสําหรับซาอุดีอาระเบียในฐานะจุดหมายปลายทางที่มีความหลากหลายและมั่งคั่งทางวัฒนธรรม

เพื่อใช้ประโยชน์จากแรงผลักดันนี้ ซาอุดิอาระเบียจึงได้เปิดตัวโครงการ Tourism Investment Enablers Program (TIEP) โดยมีโครงการ Hospitality Investment Enablers (HIE) ทําหน้าที่เป็นรากฐานที่สําคัญ HIE ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านที่พักในพื้นที่ท่องเที่ยวสําคัญอย่างมีนัยสําคัญ ส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 11 พันล้านดอลลาร์ และGDP ต่อปีเพิ่มขึ้น 4.3 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 ความคิดริเริ่มนี้ยังมีเป้าหมายที่จะสร้างงานใหม่ 120,000 ตําแหน่ง ซึ่งสนับสนุนเป้าหมายการกระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจในวงกว้างของซาอุดีอาระเบีย สิ่งจูงใจที่สําคัญ ได้แก่ การยกเว้นภาษีนิติบุคคล การลดภาษีมูลค่าเพิ่ม และการเข้าถึงที่ดินของรัฐบาลภายใต้เงื่อนไขที่เอื้ออำนวย ทําให้นักลงทุนเข้าสู่ตลาดได้ง่ายและคุ้มค่ายิ่งขึ้น

ไฮไลท์ของการเข้าร่วมของซาอุดีอาระเบียในงาน IHIF Asia คือการอภิปรายในหัวข้อ “Invest, Enable, Prosper: Empowering Tourism Destinations” การสนทนาแบบเป็นกันเองครั้งนี้นําโดย Mr. Tareq Al-Shaghrood ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายวางแผนการลงทุนและสถานที่ท่องเที่ยวของกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย ได้สํารวจแนวทางเชิงกลยุทธ์ของราชอาณาจักรในการพัฒนาระบบนิเวศการท่องเที่ยวระดับโลกที่มีความหลากหลาย “ความมุ่งมั่นของซาอุดีอาระเบียในการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่หลากหลาย ตั้งแต่มรดกทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเชิงผจญภัย ไปจนถึงการท่องเที่ยวที่หรูหราและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ได้รับการสนับสนุนจากกรอบแรงจูงใจและการสนับสนุนที่แข็งแกร่งสําหรับนักลงทุน วิสัยทัศน์ของเราคือการสนับสนุนและเสริมพลังให้กับผู้ร่วมเดินทางกับเราในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจถึงความเจริญรุ่งเรืองสําหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด” Al-Shaghrood กล่าว

ผลการดําเนินงานด้านการท่องเที่ยวระหว่างประเทศของซาอุดีอาระเบียในปี 2023 นั้นน่าประทับใจ โดยอยู่ในอันดับที่ 14 ของโลกในด้านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งเพิ่มขึ้น 11 อันดับเมื่อเทียบกับปี 2019 นอกจากนี้ ซาอุดิอาระเบียยังอยู่ในอันดับที่ 12 ของโลกในด้านรายได้จากการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ โดยขยับขึ้น 15 อันดับเมื่อเทียบกับปี 2019 จากข้อมูลของ UN Tourism Barometer (พฤษภาคม 2024) ซาอุดีอาระเบียอยู่ในอันดับหนึ่งในบรรดาจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด ในแง่ของอัตราการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ และรายได้จากการท่องเที่ยวเมื่อเทียบกับระดับก่อนเกิดโรคระบาด

ในขณะที่ซาอุดีอาระเบียยังคงก้าวขึ้นเป็นผู้นำจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว ราชอาณาจักรจึงเชิญชวนนักลงทุนจากทั่วโลกให้คว้าโอกาสที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ธรรมดานี้ ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ที่ตั้งเชิงกลยุทธ์ และความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ในการเติบโตอย่างยั่งยืน ซาอุดีอาระเบียจึงมอบโอกาสที่ไม่มีใครเทียบได้สําหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในตลาดที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและให้ผลตอบแทนสูง

*ที่มา: AETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54119274/en

ติดต่อ

Najla AlKhalifa

ที่ปรึกษาอาวุโสด้านการสื่อสาร
Najla@mt.gov.sa

ที่มา: กระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย

teamLab Planets TOKYO ได้รับการยอมรับจาก GUINNESS WORLD RECORDS™ ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลก (กลุ่มศิลปะเดียว) โดย “Athletics Forest” ขนาดใหญ่จะเปิดใหม่ในต้นปี 2025

Logo

teamLab Planets มีผู้เยี่ยมชม 2,504,264 รายระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2023 ถึง 31 มีนาคม 2024 ทำให้ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลกซึ่งอุทิศให้กับศิลปินเพียงคนเดียว

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–11 กรกฎาคม 2024

 teamLab Planets TOKYO DMM ที่โทโยสุ โตเกียว (ต่อไปนี้จะเรียกว่า teamLab Planets) ต้อนรับผู้เข้าชมทั้งหมด 2,504,264 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2023 ถึง 31 มีนาคม 2024 ความสำเร็จนี้ทำให้ GUINNESS WORLD RECORDS ให้การยอมรับว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุด (กลุ่มศิลปะเดี่ยว) ในโลก

teamLab Planets in Tokyo has been recognized by GUINNESS WORLD RECORDS™ as the most visited museum (single art group) in the world.(teamLab, Highlight video of teamLab Planets, Toyosu, Tokyo / Video: teamLab)

teamLab Planets ในโตเกียวได้รับการยอมรับจาก GUINNESS WORLD RECORDS™ ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลก (กลุ่มศิลปะเดียว) (teamLab, วิดีโอไฮไลท์ของ teamLab Planets, Toyosu, Tokyo / วิดีโอ: teamLab)

นอกจากนี้ teamLab Planets มีผู้เยี่ยมชมทั้งหมด 2,412,495 คนตั้งแต่เดือนมกราคมถึงธันวาคม 2023 (*1) เมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจ “The Art Newspaper Visitor Figures 2023” (*2) ซึ่งเปรียบเทียบจำนวนผู้เข้าชมในพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ทั่วโลก teamLab Planets แซงหน้าพิพิธภัณฑ์ที่มีศิลปินเดี่ยวอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ เช่น พิพิธภัณฑ์ Van Gogh ในอัมสเตอร์ดัม (ผู้เข้าชม 1,686,766 คน) และ พิพิธภัณฑ์ Picasso ในบาร์เซโลนา (ผู้เยี่ยมชม 1,047,094 คน)

teamLab Planets ยังอยู่ในอันดับที่ 5 ใน “Year in Search 2023” ของ Google สำหรับ “Most Popular Museums in the World” (*3), ตามหลังจากพิพิธภัณฑ์ Louvre (ปารีส), British Museum (ลอนดอน), Musée d'Orsay (ปารีส), และ Natural History Museum (ลอนดอน)

การยอมรับนี้เป็นรางวัล GUINNESS WORLD RECORDS ครั้งที่สองสำหรับพิพิธภัณฑ์ของ teamLab ตามหลังจากที่พิพิธภัณฑ์ teamLab Borderless: MORI Building DIGITAL ART MUSEUM ในโอไดบะ, โตเกียว ได้รับการยอมรับในปี 2019 โดยมีผู้เข้าชมถึง 2,198,284 คน (*4).

พื้นที่ใหม่ขนาดใหญ่ที่จะเปิดให้บริการตั้งแต่ต้นปี 2025

ในต้นปี 2025, teamLab Planets จะขยายพื้นที่อย่างมากด้วยการเพิ่มพื้นที่ศิลปะใหม่ที่สำคัญ พื้นที่ใหม่จะมีพื้นที่กีฬาสร้างสรรค์ “Athletics Forest,” โครงการการศึกษาแบบร่วมกัน “Future Park” และ “Catching and Collecting Forest” การขยายพื้นที่นี้จะรวมถึงศิลปะติดตั้งมากกว่า 10 ชิ้น เพิ่มความสมจริงในประสบการณ์ที่ teamLab Planets

ATHLETICS FOREST

Athletics Forest เป็นพื้นที่กีฬาสร้างสรรค์ที่มีแนวคิดในการเข้าใจโลกผ่านทางร่างกายและการคิดเกี่ยวกับโลกในแบบสามมิติ ผู้คนสามารถใช้ร่างกายทั้งหมดของพวกเขาเพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในพื้นที่สามมิติที่ซับซ้อนและท้าทายทางกายภาพของโลกแบบอินเตอร์แอคทีฟ

มนุษย์รับรู้โลกด้วยร่างกายและคิดด้วยร่างกาย เมื่อคุณสำรวจโลกสามมิติที่ซับซ้อนด้วยร่างกายของคุณเอง คุณจะรับรู้โลกในแบบสามมิติทางกายภาพ และความคิดของคุณก็จะกลายเป็นสามมิติ เราเริ่มโครงการนี้ Athletics Forest ด้วยความหวังที่จะเสริมสร้างการคิดแบบสามมิติและการคิดในมิติที่สูงขึ้น

ความตระหนักรู้ในเชิงพื้นที่กล่าวกันว่ามีความสัมพันธ์กับนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ ผมเติบโตในพื้นที่ชนบทและเล่นในภูเขา แต่ในสังคมและโรงเรียนปัจจุบัน ร่างกายถูกจำกัดให้อยู่นิ่งๆ ผมคิดว่าเมืองต่างๆ รายล้อมไปด้วยข้อมูลที่เป็นพื้นราบมากเกินไป เช่น หนังสือ โทรทัศน์ และหน้าจอสมาร์ทโฟน นั่นเป็นเหตุผลที่เราสร้างพื้นที่สามมิติที่เรียกร้องการใช้ร่างกายอย่างมาก มันเป็นพื้นที่ที่ผู้คนสามารถรับรู้ศิลปะด้วยร่างกายของพวกเขา

– Toshiyuki Inoko ผู้ก่อตั้ง teamLab

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดของ Athletics Forest:
https://www.teamlab.art/concept/athletics-forest/

FUTURE PARK

Future Park เป็นโครงการการศึกษาที่มีแนวคิดการสร้างสรรค์ร่วมกัน (co-creation) เป็นสวนสนุกที่ผู้คนสามารถเพลิดเพลินกับการสร้างโลกอย่างอิสระร่วมกับผู้อื่น ผลงานศิลปะเกิดขึ้นจากกระบวนการที่ผู้คนสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ร่วมกัน และเมื่อผู้คนยังคงสร้างสรรค์ร่วมกันต่อไป ผลงานศิลปะนั้นก็จะพัฒนาอย่างไม่สิ้นสุด

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดของ Future Park:

 https://www.teamlab.art/concept/future-park/

CATCHING AND COLLECTING FOREST

Catching and Collecting Forest เป็นพื้นที่การเรียนรู้ใหม่ที่มีแนวคิดการ จับ ศึกษา ปล่อย โดยที่ผู้คนสำรวจโลกด้วยร่างกายของพวกเขา ค้นพบ จับ และขยายความสนใจตามสิ่งที่พวกเขาจับได้ ผู้เข้าชมสำรวจด้วยสมาร์ทโฟน จับสิ่งมีชีวิตต่างๆ ศึกษามัน และสร้างหนังสือสะสมของตัวเอง

เมื่อผู้เข้าชมใช้กล้องของสมาร์ทโฟนดูสัตว์ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่และยิง Study Arrow ไปที่สัตว์ในมุมมองของกล้อง ลูกศรจะพุ่งออกจากโทรศัพท์เข้าสู่พื้นที่จริง เมื่อ Study Arrow ไปถึงสัตว์ สัตว์นั้นจะหายไปจากพื้นที่และถูกเพิ่มเข้าไปในคอลเลกชันของผู้เข้าชมในสมาร์ทโฟนของตัวเอง เมื่อผู้เข้าชมปัดสัตว์ที่จับได้ไปยังตำแหน่งที่เห็นในกล้องของแอป สัตว์นั้นจะถูกปล่อยและกลับไปยังตำแหน่งนั้น

การสำรวจทางกายภาพร่วมกับผู้อื่น การค้นพบและจับบางสิ่ง และใช้โอกาสนี้เพื่อขยายความสนใจตามสิ่งที่จับได้ นี่คือสิ่งที่เราได้ทำตามธรรมชาติมาเป็นเวลานานในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

สำหรับมนุษยชาติ การจับและรวบรวมเป็นเรื่องสนุก การศึกษา และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต”

– Toshiyuki Inoko ผู้ก่อตั้ง teamLab

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดของ Catching and Collecting Forest:
https://www.teamlab.art/concept/catching/

เกี่ยวกับ teamLab Planets

ในการจัดอันดับการค้นหาประจำปี “Year in Search 2023” ของ Google ทาง teamLab Planets ได้รับการจัดอันดับใน 5 อันดับแรกสำหรับ “Most Popular Museums in the World” (*3) ท่ามกลางพิพิธภัณฑ์โลกที่มีประวัติศาสตร์มากกว่าหลายศตวรรษ ทาง teamLab Planets เป็นพิพิธภัณฑ์เดียวจากประเทศญี่ปุ่นที่ติดอันดับนี้ นอกจากนี้ teamLab Planets ยังได้รับการเลือกเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดในโตเกียวเป็นระยะเวลาสองปีติดต่อกันโดย Honichi Lab (Visit Japan Lab) ใน “Ranking of Popular Tourist Attractions Among Foreign Visitors: Tokyo Edition” (*5) จากทั้งหมด 2,662 แหล่งท่องเที่ยวในโตเกียว

ยิ่งกว่านั้น ทาง teamLab Planets ยังได้รับความชื่นชมจากทั่วโลก อย่างเช่น การได้เป็นที่แรกของประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับรางวัล “Asia's Leading Tourist Attraction 2023” ในงาน World Travel Awards ซึ่งเป็นงานประกาศรางวัลที่เรียกได้ว่าเป็นรางวัลออสการ์ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

แนวคิด TeamLab Planets

พร้อมกับผู้อื่น ลงตัวทั้งร่างกาย รับรู้ด้วยร่างกาย และกลายเป็นหนึ่งกับโลก

teamLab Planets เป็นพิพิธภัณฑ์ที่คุณเดินผ่านน้ำและสวนที่คุณกลายเป็นหนึ่งกับดอกไม้ ประกอบด้วยผลงานศิลปะขนาดใหญ่ 4 พื้นที่และสวน 2 พื้นที่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยทีมศิลปะ collective teamLab

ผู้คนเดินเท้าเปล่าและจมอยู่ในผลงานศิลปะที่ใหญ่ให้กับร่างกายทั้งหมดพร้อมกับผู้อื่น ผลงานศิลปะเปลี่ยนแปลงภายใต้การมีอยู่ของคน ทำให้เกิดความสับสนในการรับรู้ของขอบเขตระหว่างตัวเองกับผลงานศิลปะ ผู้คนอื่นๆ ยังสร้างการเปลี่ยนแปลงในผลงานศิลปะเช่นกัน ทำให้ขอบเขตระหว่างตัวเองกับผลงานศิลปะสับสนกัน และสร้างความต่อเนื่องระหว่างตัวเอง ศิลปะ และผู้อื่น

เว็บไซต์ทางการ: teamlab.art.planets

ข้อมูลำหรับผู้เยี่ยมชม

teamLab Planets TOKYO DMM
Toyosu, Tokyo (6-1-16 Toyosu, Koto-ku, Tokyo)
https://maps.app.goo.gl/QVs4a34HD9qnvjUo8

เปิด: ทุกวัน 9:00 – 22:00
ปิด: วันพุธที่ 7 สิงหาคมและวันพุธที่ 4 กันยายน
*เข้าได้ช้าสุดหนึ่งชั่วโมงก่อนปิด

*เวลาเปิด-ปิดอาจมีการเปลี่ยนแปลง

*โปรดตรวจสอบราคาตั๋วจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

ร้านขายตั๋ว teamLab Planets TOKYO DMM

https://teamlabplanets.dmm.com

ชุดข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน
https://www.dropbox.com/sh/ir7d2aui794eo6z/AAChbzX5wPsQm8cgkQ2ViFD4a?dl=0

*1. ข้อมูลการใช้ตั๋วของผู้เข้าชม teamLab Planets (1 มกราคม 2023 – 31 ธันวาคม 2023)

*2. The Art Newspaper (2024) 'Visitor Figures 2023: The 100 most popular art museums in the world—blockbusters, bots and bounce-backs'. The Art Newspaper, 26 มีนาคม อ่านได้ที่:
https://www.theartnewspaper.com/2024/03/26/the-100-most-popular-art-museums-in-the-world-2023

*3 “artnet (2023) 'These Were the Most Popular Museums in the World, According to Google’s “Year in Search”'. artnet, 20 ธันวาคม อ่านได้ที่:
https://news.artnet.com/art-world/google-trends-top-museums-teamlab-ark-encounter-2411845

*4 ข่าวประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสถิติโลกด้านจำนวนผู้เข้าชม อ่านได้ที่::
https://prtimes.jp/main/html/rd/p/000000776.000007339.html

*5 Honichi Lab (2024) 'The Most Popular Tourist Spots in Tokyo Among Foreign Visitors in 2024: Asakusa Temple Ranks 3rd, and 1st Place is?'. Honichi Lab, 21 พฤษภาคม อ่านได้ที่:
https://honichi.com/news/2024/05/21/202405_inboundranking_tokyo/

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54092083/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

แผนกประชาสัมพันธ์ teamLab Planets

E-MAIL: pr-info@planets.art
For interview enquiries: https://forms.gle/fAtnDKLpQKFME6XR9

ที่มา: PLANETS Co., Ltd.


Cvent ประกาศสถานที่จัดประชุมชั้นนำและโรงแรมสำหรับจัดประชุมชั้นนำในเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2024

Logo

การจัดอันดับประจำปีที่ได้รับการยกย่องในอุตสาหกรรมแนะนำโรงแรมที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับธุรกิจ MICE รวมถึงสถานที่จัดประชุมที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลก

SINGAPORE–(BUSINESS WIRE)–14 พฤษภาคม 2024

ในวันนี้ Cvent ผู้ให้บริการเทคโนโลยีในการจัดการประชุม จัดอีเว้นท์ ชั้นนำในอุตสาหกรรม และการประชาสัมพันธ์ ประกาศรายชื่อ สถานที่จัดประชุมยอดนิยม และ โรงแรมสำหรับจัดประชุมชั้นนำสำหรับเอเชียแปซิฟิก (APAC) รายการเหล่านี้ ซึ่งรวมถึงการจัดอันดับภูมิภาคสำหรับอเมริกาเหนือ ยุโรป และตะวันออกกลาง และแอฟริกา จะได้รับการรวบรวมจากการจัดกิจกรรมผ่านการจัดหา เครือข่ายซัพพลายเออร์ Cvent ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการจัดหาสถานที่จัดงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก จะมีการจัดหาธุรกิจ MICE ที่มีมูลค่าสูงกว่า 16 พันล้านเหรียญสหรัฐผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของ Cvent ในปี 2023

รายชื่อยอดนิยมประจำปีของ Cvent กลายเป็นแหล่งข้อมูลสำหรับผู้จัดงานอีเว้นท์ทั่วโลกที่กำลังมองหาโรงแรมและสถานที่สำหรับจัดอีเว้นท์ บริษัทมีการจัดงานแถลงข่าวสดที่ IMEX Frankfurt เพื่อแชร์รายละเอียดเชิงลึกเพิ่มเติม และแนะนำโรงแรมและสถานที่ด้วยตัวเอง

สถานที่จัดประชุมยอดนิยมของ Cvent | ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

เมืองติดอันดับยอดนิยม 10 อันดับแรกยังคงรักษาอันดับไว้ได้อย่างสม่ำเสมอเมื่อเทียบเป็นรายปี โดยสิงคโปร์ยังคงรักษาอันดับ 1 จากปี 2023 เมืองที่ติด 10 อันดับแรกแห่งใหม่คือ เซี่ยงไฮ้ (อันดับ 10) กรุงเทพมหานคร (อันดับ 2) โตเกียว (อันดับ 4) กัวลาลัมเปอร์ (อันดับ 7) และภูเก็ต (อันดับ 9) ต่างก็ติดอันดับที่ดีขึ้นใน 10 อันดับแรกจากปี 2023

สถานที่จัดประชุมยอดนิยม 10 อันดับแรก

1. สิงคโปร์

2. กรุงเทพ ประเทศไทย

3. ซิดนีย์ นิวเซาธ์เวลส์ (ออสเตรเลีย)

4. โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

5. เมลเบิร์น วิกตอเรีย (ออสเตรเลีย)

6. โซล เกาหลีใต้

7. กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

8. บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย

9. ภูเก็ต ประเทศไทย

10. เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน

Dr Edward Koh กรรมการบริหาร ฝ่ายการจัดประชุม และการเดินทาง คณะกรรมการการท่องเที่ยวสิงคโปร์ กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นสถานที่จัดการประชุมระดับต้นๆ ในเอเชียของ Cvent เป็นครั้งที่หก นับตั้งแต่ปี 2016 สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง ความปลอดภัย ความสามารถในการเข้าถึงสูง และการมุ่งเน้นในนวัตกรรม และความยั่งยืนของสิงคโปร์ ช่วยให้นครรัฐสามารถสร้างชื่อเสียงในฐานะสถานที่จัดอีเว้นท์ทางธุรกิจที่มีชีวิตชีวาและน่าสนใจ ด้วยการสนับสนุนของผู้ถือหุ้นและพันธมิตรโดยเฉพาะในอุตสาหกรรม เรามุ่งมั่นที่จะอำนวยความสะดวกและมีส่วนร่วมในความสำเร็จสำหรับผู้วางแผนการประชุมในสิงคโปร์ ช่วยให้สามารถขับเคลื่อนผลที่มีความหมายและยั่งยืนผ่านธุรกิจการจัดประชุม”

“ช่างเป๋นการรับรองที่ยอดเยี่ยมสำหรับซิดนีย์ที่ได้รับเกียรติให้เป็นเมืองเจ้าภาพงานธุรกิจชั้นนำ 3 อันดับแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” Lyn Lewis-Smith, CEO ของ Business Events Sydney (BESydney) กล่าว “Cvent มีบทบาทสำคัญในการแนะนำสถานที่ที่น่าประทับใจ เช่น ซิดนีย์ มาสู่มือนักวางแผนโดยตรง การได้รับเกียรตินี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงเครือข่ายที่น่าประทับใจของโรงแรม สถานที่จัดงาน และซัพพลายเออร์ โดยร่วมมือกับนักวางแผนงานอีเว้นท์เพื่อทำให้อีเว้นท์เป็นจริงขึ้นมา ซิดนีย์เป็นเมืองที่สวยงามตามธรรมชาติและเป็นมิตร มีการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของมรดก First Nations วัฒนธรรมร่วมสมัย และการวิจัยที่เจริญรุ่งเรือง รวมถึงภาคส่วนอุตสาหกรรม – เป็นส่วนผสมที่เหมาะสมทั้งหมดที่จะจุดประกายแรงบันดาลใจและเชื่อมโยงสำหรับตัวแทนในท้องถิ่นและระดับโลกที่มีลักษณะเหมือนกัน”

โรงแรมสำหรับจัดประชุมติดอันดับยอดนิยมของ Cvent | ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

JW Marriott Hotel Singapore South Beach ก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 ในปีนี้ โรงแรมตั้งอยู่ใกล้กับย่านศูนย์กลางธุรกิจ มีการแสดงภาพและเสียงที่ล้ำสมัย พร้อมพื้นที่จัดประชุมที่มีความยืดหยุ่น ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับนักวางแผนงานอีเว้นท์ โรงแรมใหม่ที่ติด 10 อันดับแรก ได้แก่ Hilton Tokyo (อันดับ 4), Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park (อันดับ 5), voco Orchard Singapore (อันดับ 7), Hilton Kuala Lumpur (อันดับ 8) และ Sheraton Grand Sydney Hyde Park (อันดับ 9)

โรงแรมสำหรับจัดประชุม 10 อันดับยอดนิยม

1. JW Marriott Hotel Singapore South Beach

2. Shangri-La Singapore

3. Hyatt Regency Sydney

4. Hilton Tokyo

5. Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park

6. Fairmont Singapore

7. voco Orchard Singapore

8. Hilton Kuala Lumpur

9. Sheraton Grand Sydney Hyde Park

10. Hilton Singapore Orchard

หากต้องการดูข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่จัดประชุมยอดนิยมทั้งหมดของ Cvent และโรงแรมสำหรับจัดประชุมยอดนิยมของ Cvent ระดับโลก คลิกที่นี่

ระเบียบวิธีการ

สำหรับ สถานที่จัดประชุมยอดนิยมของ Cvent Cvent มีการประเมินเมืองต่างๆ กว่า 12,500 แห่งทั่วโลกที่จดทะเบียนไว้ใน เครือข่ายซัพพลายเออร์ของ Cvent (CSN) มีการติดตามกิจกรรมต่างๆ ระหว่างเดือนมกราคม ปี 2023 ถึงเดือนธันวาคม ปี 2023 มีการจัดอันดับโดยพิจารณาตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ได้แก่ จำนวนคืนที่พักในห้องพักทั้งหมดที่มีการจองไว้ จำนวนคำขอใบเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (RFPs) เฉพาะที่ส่งผ่าน marketplace ไปยังสถานที่ต่างๆ ภายในเมือง มูลค่ารวมของ RFP ที่มีการนำส่ง และมูลค่ารางวัลตามจริงสำหรับการประชุมที่มีการจองไว้

สำหรับ โรงแรมสำหรับจัดประชุมยอดนิยมของ Cvent Cvent มีการประเมินโรงแรมที่มีการดำเนินธุรกิจผ่าน CSN ระหว่างเดือนมกราคม ปี 2023 ถึงเดือนธันวาคม ปี 2023 โดยมีการจัดอันดับที่พักตามเกณฑ์ต่างๆ รวมถึงคำขอใบเสนอราคาทั้งหมด (RFPs) RFP ที่ได้รับรางวัล จำนวนคืนที่พักในห้องพักทั้งหมด จำนวนคืนที่พักในห้องพักที่ได้รับรางวัล ส่วนแบ่งการตลาดหลักๆ ในเขตเมืองใหญ่ อัตราการแปลงสกุลเงิน และอัตราการตอบรับ เกณฑ์ดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สะท้อนถึงโรงแรมสำหรับจัดประชุมชั้นนำในอเมริกาเหนือ ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้อย่างแม่นยำที่สุด

เกี่ยวกับเครือข่ายซัพพลายเออร์ของ Cvent

เครือข่ายซัพพลายเออร์ของ Cvent ประกอบด้วยโรงแรม รีสอร์ท และสถานที่จัดอีเว้นท์พิเศษมากกว่า 300,000 แห่ง เป็นฐานข้อมูลรายละเอียดสถานทีที่ใหญ่ที่สุดและแม่นยำที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีการจัดหาธุรกิจ MICE มูลค่ามากกว่า 16 ล้านเหรียญสหรัฐผ่านเครือข่ายการจัดหาของ Cvent ในปี 2023 CSN มีรายชื่อของโรงแรมและสถานที่อื่นๆ ใน 18 ภาษา ซึ่งสามารถค้นหาและกรองตามลักษณะและเกณฑ์มากกว่า 200 รายการ CSN เป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม Cvent ที่ครอบคลุม ซึ่งนำเสนอโซลูชันที่โรงแรมและสถานที่ต่างๆ ใช้เพื่อดำเนินธุรกิจ MICE และธุรกิจการเดินทางขององค์กร และมีส่วนร่วมกับเครือข่ายนักวางแผนทั่วโลกกว่า 125,000 รายที่ไว้วางใจ Cvent การจัดหาโรงแรมและสถานที่ และจัดการอีเว้นท์ต่างๆ

เกี่ยวกับ Cvent

Cvent เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีการประชุม อีเว้นท์ และการประชาสัมพันธ์ชั้นนำ โดยมีพนักงานมากกว่า 4,800 คน และลูกค้า 22,000 รายทั่วโลก ณ วันที่ 31 เดือนธันวาคม ปี 2023 บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 1999 โดยมีการนำเสนอแพลตฟอร์มการตลาดและการจัดการงานอีเว้นท์ที่ครอบคลุม และนำเสนอ marketplace ระดับโลกที่ผู้เชี่ยวชาญด้านงานอีเว้นท์มีการร่วมมือกันกับสถานที่ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าดึงดูดและน่าประทับใจ แพลตฟอร์มการตลาดและการจัดการงานอีเว้นท์ Cvent ที่ครอบคลุมนำเสนอโซลูชันซอฟต์แวร์แก่ผู้จัดงานอีเว้นท์และนักการตลาดสำหรับการลงทะเบียนงานอีเว้นท์ออนไลน์ การเลือกสถานที่ การตลาดและการจัดการงานอีเว้นท์ โซลูชันเสมือนจริงและในสถานที่ และการมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วม โรงแรมและสถานที่ต่างๆ ใช้โซลูชันซัพพลายเออร์และสถานที่ของ Cvent เพื่อเอาชนะใจลูกค้า MICE และธุรกิจการเดินทางขององค์กรผ่านแพลตฟอร์มการจัดหาของ Cvent สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Cvent.com/in

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สำหรับการสอบถามข้อมูลด้านสื่อ โปรดติดต่อ:
Sucharita Das
อีเมล: Sucharita.das@cvent.com
มือถือ: +91 9899128886

แหล่งข้อมูล: Cvent

ศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่นเปิดตัวเว็บไซต์อย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยเพิ่มฐานข้อมูลใหม่และเนื้อหาการสัมภาษณ์

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–07 พฤษภาคม 2024

ศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น (AJC) ต่ออายุเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ (https://www.asean.or.jp/) ในหน้าแรกของเว็บไซต์แสดงสโลแกนใหม่ของ AJC: “Building Bridges, Connecting Heart to Heart” พร้อมภาพประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายและจิตวิญญาณของความร่วมมือระหว่างอาเซียนและญี่ปุ่น

The ASEAN-Japan Centre relaunches official website: New database and interview content added (Graphic: Business Wire)

ศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่นเปิดตัวเว็บไซต์อย่างเป็นทางการอีกครั้ง: เพิ่มฐานข้อมูลใหม่และเนื้อหาการสัมภาษณ์ (กราฟิก: Business Wire)

นอกจากการจัดแสดงและรายงานกิจกรรมของ AJC แล้ว เว็บไซต์ใหม่ยังนำเสนออินโฟกราฟิก 'ASEAN-Japan Basic Information at a Glance' ซึ่งเป็นฐานข้อมูลอาเซียนที่ให้การเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับการค้าและการลงทุนของอาเซียน รวมถึงตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจขั้นพื้นฐาน และค่าดัชนีความได้เปรียบที่ปรากฏRCA) รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น ภาพรวมของจํานวนนักท่องเที่ยวในภูมิภาค  และเนื้อหาสัมภาษณ์ 'The People of ASEAN-Japan' ที่นําเสนอเรื่องราวของผู้คนที่เชื่อมโยงผู้คนในภูมิภาคอาเซียน-ญี่ปุ่น เว็บไซต์นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้คนจํานวนมากขึ้นมีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่นบน พื้นฐานของความไว้วางใจจากมุมมองที่แตกต่างกัน เนื้อหาจะได้รับการอัปเดตเป็นครั้งคราว

เป็นเวลากว่า 40 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1981 AJC ได้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองภูมิภาคผ่านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน การเปิดตัวเว็บไซต์อีกครั้งถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบหกปี AJC ได้ถือเอามิตรภาพและความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่นปีที่ 50 ในปี 2023 เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ ตามคําแถลงวิสัยทัศน์ “หุ้นส่วนที่เชื่อถือได้” ที่ผู้นําของประเทศสมาชิกอาเซียนและญี่ปุ่นนํามาใช้ในการประชุมสุดยอดที่ระลึก AJC มีเป้าหมายที่จะกระชับความสัมพันธ์ “จากใจถึงใจ” ระหว่างอาเซียนและญี่ปุ่นให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และร่วมกันสร้างสังคมที่สงบสุข ยั่งยืน ครอบคลุม และเจริญรุ่งเรือง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53966401/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น (AJC) PR Unit

Tomoko Miyauchi (MS)

URL: https://www.asean.or.jp/
TEL: +81 (0)3-5402-8118

Email: toiawase_ga@asean.or.jp

ที่มา: ASEAN-Japan Centre

เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติซอนจู ครั้งที่ 25 จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 1 เดือนพฤษภาคม ที่ Jeonju ประเทศเกาหลี

Logo

เทศกาลนี้จะมีการฉายภาพยนตร์ นิทรรศการพิเศษ และการแสดงต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 10 เดือนพฤษภาคม

JEONJU, South Korea–(BUSINESS WIRE)–19 เมษายน 2024

ในเดือนพฤษภาคมนี้ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติซอนจู ครั้งที่ 25 จะมีการจัดขึ้นที่ Jeonju เมืองที่มีคนเกาหลีมากที่สุด เทศกาลนี้จะมีการฉายภาพยนตร์ 232 เรื่อง หนังสั้น และภาพยนตร์อัลเทอร์เนทีฟ จาก 43 ประเทศ

The 25th Jeonju International Film Festival is to be held in Jeonju. (Photo: JEONJU CITY)

เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติซอนจู ครั้งที่ 25 จะมีการจัดขึ้นที่ Jeonju (ภาพถ่าย: JEONJU CITY)

เมือง JEONJU (นายกเทศมนตรี Woo Beom-ki) ประกาศว่า เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติซอนจู ซึ่งเป็นประเพณีประจำปีที่เป็นที่ชื่นชอบใน Jeonju ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักสำหรับนักท่องเที่ยวชาวเอเชียเพื่อเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์อันยาวนานและศาสตร์การทำอาหาร จะมีการนำเสนอโปรแกรมที่ได้รับการปรับปรุงในปีนี้เพื่อร่วมฉลองครบรอบ 25 ปี

การเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีสำหรับเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ Jeonju ภายใต้ธีม “Beyond the Frame” โดยสโลแกนนี้สื่อถึงความมุ่งมั่นของเทศกาลเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดและเปิดกว้างสำหรับความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ โดยจะมีการดูแลจัดการทั้งโปรแกรม สถานที่ และกิจกรรมต่างๆ พร้อมส่งเสริมเครือข่ายระหว่างผู้สร้างภาพยนตร์แต่ละค่ายและอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในท้องถิ่น นอกจากนี้ ยังเป็นการรักษาจิตวิญญาณแห่งการสำรวจและนวัตกรรมอันเป็นเอกลักษณ์

เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติซอนจูเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 10 เดือนพฤษภาคม โดยเปิดฉากด้วย “All the Long Nights” (2024) โดย Miyake Sho และปิดท้ายด้วย “Matt and Mara” (2024) โดย Kazik Radwanski ในระหว่างช่วงเทศกาลนี้ จะมีการฉายภาพยนตร์ทั้งหมด 232 เรื่อง รวมถึงภาพยนตร์สารคดี 162 เรื่อง และหนังสั้น 70 เรื่อง โดยทั้งหมดได้รับการคัดเลือกผ่านกระบวนการเข้าแข่งขัน การคัดเลือกในครั้งนี้มีภาพยนตร์ 10 เรื่องจากการแข่งขันระดับนานาชาติ การแข่งขันภายในเกาหลี และหมวดหมู่พิเศษสำหรับภาพยนตร์ที่ไม่มีการจำกัดข้อกำหนด

นิทรรศการพิเศษหัวข้อ “See Again: 25+50” ซึ่งจัดขึ้นร่วมกับหอภาพยนตร์เกาหลี เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปี ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ของปีนี้ นิทรรศการนี้จะมีการจัดแสดงผลงานในช่วงแรกของผู้กำกับชาวเกาหลีชื่อดังอย่าง Ryu Seung-wan, Bong Joon-ho, Jeong Ji-woo, และ Hong Sang-soo ควบคู่ไปกับการบูรณะภาพยนตร์เกาหลีสุดคลาสสิกเป็นดิจิทัลล่าสุด รวมถึง “The Widow” (1955) โดยผู้กำกับหญิงนักบุกเบิกของเกาหลี Park Nam-ok และ “Mist” (1967) โดย Kim Su-yong

เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 10 ปีของนิทรรศการอันเป็นเอกลักษณ์ของเทศกาล “'100 Films 100 Posters'” จะมีการนำเสนอผลงานพิเศษของ Pixar ที่สร้างสรรค์ร่วมกันกับ Disney

ยังมีการจัดกิจกรรมเสริมต่างๆ อันน่าประทับใจ เช่น นิทรรศการหอภาพยนตร์ ซึ่งจะจัดขึ้นที่สถานที่ท่องเที่ยวอันลือชื่อของ Jeonju

“เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ Jeonju ได้กลายเป็นกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่สำคัญในเอเชีย” Woo Beom-ki ประธานคณะกรรมการจัดเทศกาลภาพยนตร์กล่าว “เราตั้งเป้าที่จะเป็นตัวเร่งการเติบโตของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับโลก ซึ่งจะทำให้ Jeonju กลายเป็นสถานที่สำคัญในวงการภาพยนตร์ระดับนานาชาติ”

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

JEONJU CITY
Ho-jin Park
+82-63-281-2226
mirano10@korea.kr

แหล่งข้อมูล: JEONJU CITY

ซาอุดีอาระเบียเน้นย้ำโครงการริเริ่มการลงทุนด้านการท่องเที่ยวที่งาน International Hospitality Investment Forum

Logo

ริยาด, ซาอุดีอาระเบีย–(BUSINESS WIRE)–18 เมษายน 2024

กระทรวงการท่องเที่ยวของซาอุดิอาระเบียกำลังเข้าร่วมเวทีสำคัญที่ International Hospitality Investment Forum (IHIF) โดยนำเสนอโอกาสพิเศษสำหรับนักลงทุนทั่วโลกในการเจาะลึกภูมิทัศน์การท่องเที่ยวที่เจริญรุ่งเรืองของราชอาณาจักร ด้วยจุดเด่นของโครงการส่งเสริมการลงทุนด้านการท่องเที่ยว (TIEP) ที่เพิ่งประกาศไปเมื่อเร็วๆ นี้ ซาอุดีอาระเบียกำลังผลักดันเป้าหมายวิสัยทัศน์ปี 2030 อย่างแข็งขันในการเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลกสำหรับนักลงทุนและนักท่องเที่ยว

Mr. Mahmoud Abdullhadi, Deputy Minister of Destinations Enablement. (Photo: AETOSWire)

Mr. Mahmoud Abdullhadi รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงส่งเสริมการท่องเที่ยว (ภาพ: AETOSWire)

การนำเสนอเชิงกลยุทธ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ภาคการท่องเที่ยวของซาอุดีอาระเบียเฉลิมฉลองหลักชัยอันน่าทึ่งที่มีผู้มาเยือน 100 ล้านคนในปี 2023 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเจ็ดปี ถือเป็นก้าวสำคัญสู่ความหลากหลายทางเศรษฐกิจ และเน้นย้ำถึงการมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นของภาคส่วนนี้ต่อ GDP ของประเทศ Hospitality Investment Enablers (HIE) ซึ่งเป็นโครงการหลัก ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการริเริ่มของ TIEP มีเป้าหมายที่จะใช้ประโยชน์จากแรงผลักดันนี้ โดยวางแผนการลงทุนแบบเข้มข้นในภาคส่วนการบริการที่มีมูลค่าสูงถึง 4.2 หมื่นล้านริยาลซาอุดีอาระเบียในจุดหมายปลายทางหลักๆ ซึ่งคาดว่าจะสร้างงานใหม่ได้ถึง 120,000 ตำแหน่งภายในปี 2030

ผู้เข้าร่วมงาน IHIF กำลังจับตาดูแผนการของซาอุดีอาระเบียในการขยายขีดความสามารถด้านที่พักอย่างมาก ราชอาณาจักรตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนห้องพักในโรงแรมเป็นมากกว่า 500,000 ห้อง และตั้งเป้าที่จะต้อนรับผู้มาเยือน 150 ล้านคนต่อปีภายในปี 2030 HIE ถือเป็นแกนหลักของความทะเยอทะยานเหล่านี้ ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มพลังให้กับภาคการบริการด้วยการนำเสนออุปทานคลื่นลูกใหม่ในสถานที่ท่องเที่ยวเป้าหมาย และช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับบริการการท่องเที่ยวที่หลากหลายของราชอาณาจักรอย่างมีนัยสำคัญ

ความคิดริเริ่มนี้ได้รับการสนับสนุนจากชุดตัวขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์ ซึ่งรวมถึงการเข้าถึงที่ดินของรัฐบาลภายใต้เงื่อนไขที่น่าพอใจ การปรับปรุงกระบวนการพัฒนาโครงการ และการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบที่มุ่งลดอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดและต้นทุนการดำเนินงาน แนวทางที่ครอบคลุมนี้คาดว่าจะกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมที่สำคัญภายในราชอาณาจักร โดยคาดการณ์ว่าการลงทุนของภาคเอกชนจะสูงถึง 42.3 พันล้านริยาลซาอุดีอาระเบีย และคาดการณ์ว่าจีดีพีต่อปีจะเพิ่มขึ้น 16.4 พันล้านซาราห์ภายในปี 2030

การมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของซาอุดิอาระเบียใน IHIF มีเป้าหมายเพื่อแสดงให้เห็นว่าราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียเป็นเขตแดนการลงทุนที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ โดยเน้นย้ำถึงโอกาสที่สร้างรายได้ในภาคการท่องเที่ยวและการบริการ เวทีระดับโลกนี้เป็นเวทีที่สมบูรณ์แบบสำหรับกระทรวงการท่องเที่ยวในการสร้างความร่วมมือที่ยั่งยืน และเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของราชอาณาจักรในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ส่งเสริมการเติบโตที่ยั่งยืน และให้การสนับสนุนที่แข็งแกร่งแก่นักลงทุน

ด้วยการมีส่วนร่วมนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวของซาอุดิอาระเบียไม่ได้เพียงแต่นำเสนอโอกาสในการลงทุนเท่านั้น แต่ยังเชิญชวนให้โลกเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางอันทะเยอทะยานของซาอุดีอาระเบียเพื่อกำหนดบรรทัดฐานการท่องเที่ยวระดับโลกใหม่ นักลงทุนควรคว้าโอกาสที่ไม่มีใครเทียบได้ในการร่วมมือกับราชอาณาจักร เนื่องจากเป็นการปูทางสู่ความเป็นเลิศด้านการท่องเที่ยวยุคใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์การเปลี่ยนแปลงของวิสัยทัศน์ 2030

ที่มาAETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: www.businesswire.com/news/home/53937233/en

ติดต่อ

Najla Alkhalifa
สื่อและการสื่อสาร
Najla@mt.gov.sa

ที่มา: กระทรวงการท่องเที่ยวของซาอุดิอาระเบีย