Tag Archives: company

APU Company ปรับใช้ Boomi เพื่อสนับสนุนการปรับแปลงทางดิจิทัลและการเติบโตระดับโลก

Logo

  • Boomi ช่วยการดำเนินงานของผู้ผลิตเครื่องดื่มระดับโลกของ Mongolia ในฐานะองค์กรที่ใช้ข้อมูลเป็นแรงดันขับเคลื่อนหลัก โดยปรับปรุงการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพและขจัดความซับซ้อน
  • APU Company มีการใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มของ Boomi ในการบูรณาการระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) โลจิสติกส์ และระบบทรัพยากรมนุษย์ รวมถึงแอปพลิเคชันระบบคลาวด์สำหรับองค์กรที่เชื่อมต่อกันมากขึ้นได้อย่างง่ายดาย

SINGAPORE & ULAANBAATAR, Mongolia–(BUSINESS WIRE)–16 พฤศจิกายน 2023

Boomi™ ผู้นำด้านการเชื่อมต่อและระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ ประกาศในวันนี้ว่า APU Company บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมและเครื่องดื่ม (APU) เปิดตัวการใช้ แพลตฟอร์ม Boomi ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยเฟรมเวิร์ก API แบบปรับแต่ง เพื่อปรับปรุงมุมมองภาพรวมการดำเนินการและประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน เร่งการเปิดตัวสู่ตลาด และขจัดความเสี่ยงทางเทคนิค นี่เป็นหัวใจสำคัญในความพยายามปรับแปลงเป็นบริษัทดิจิทัลและบุกตลาดต่างประเทศของ APU

APU Company Deploys Boomi to Underpin Digital Transformation and Global Growth (Graphic: Business Wire)

APU Company ปรับใช้ Boomi ในการปรับแปลงเป็นระบบดิจิทัลและเพื่อการเติบโตระดับโลก (กราฟิก: Business Wire)

APU ก่อตั้งขึ้นในปี 1924 และมีสถานะที่โดดเด่นในฐานะหนึ่งในองค์กรที่มีอายุยาวนานที่สุดขงอมองโกเลีย และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอย่างน่าภาคภูมิใจ ด้วยผลงานที่น่าประทับใจสำหรับผลิตภัณฑ์กว่า 35 แบรนด์ รวมถึงผลิตภัณฑ์นม น้ำอัดลม และเบียร์ องค์กรยังมี Heineken เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่อีกด้วย โดยบริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะขยายตลาดระดับโลก โดยมีแผนส่งออกแบรนด์ระดับพรีเมียมไปยังแปดประเทศในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ในการผลักดันเป้าหมายให้ประสบความสำเร็จ APU จึงเปิดกว้างเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล โดยดำเนินการตามความคิดริเริ่มด้านเทคโนโลยีและกระบวนการระบบอัตโนมัติต่างๆ อย่างแข็งขัน

ด้วยแอปพลิเคชันใหม่ๆ ที่มีการปรับใช้ทั่วทุกธุรกิจที่กำลังเติบโต APU มีการปรับใช้แพลตฟอร์มบูรณาการแบบบริการของ Boomi (iPaaS) ในการเชื่อมต่อระบบหลัก ลดความซับซ้อนในการโยกย้ายระบบคลาวด์ไปยัง Microsoft Azure รวบรวมข้อมูลแบบรวมศูนย์เพื่อแจ้งการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ และสร้างลิงก์ดิจิทัลโดยตรงไปยังบุคคลที่สามโดยใช้ API และข้อมูลแบบเปิด

“การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของ APU มีการเน้นย้ำองค์ประกอบที่สำคัญสองประการ ได้แก่ ความสามารถในการปรับปรุงการดำเนินงาน รวมถึงการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และสร้างรากฐานสำหรับการเชื่อมต่อกับลูกค้า ซัพพลายเออร์ พันธมิตร ธนาคาร และภาครัฐ เพื่อให้การจัดซื้อจัดหา การชำระเงิน ตลอดจนรายงานภาษีและการปฏิบัติตามข้อกำหนดเป็นไปโดยอัตโนมัติ” Mr. Munkhbat Luvsanbyamba หัวหน้าฝ่ายบริการแอปพลิเคชันของ APU กล่าว “Boomi เป็นส่วนสำคัญในความสามารถของเราเพื่อการใช้ประโยชน์จากข้อมูลแบบเปิดและดำเนินการองค์ประกอบเหล่านี้ในขณะนี้ เช่นเดียวกับการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต การบูรณาการที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเพื่อการตัดสินใจ และขจัดความซ้ำซ้อน รวมถึงความเสี่ยงเมื่อเราเปลี่ยนเป็นองค์กรดิจิทัล”

APU เลือก Boomi เนื่องจากได้รับการพิสูจน์แล้วว่า เป็นโซลูชันที่คุ้มค่า ใช้งานง่าย และปรับขนาดได้ เมื่อประเมินเทียบกับตัวเลือกจากผู้ให้บริการรายอื่น บริษัทใช้แพลตฟอร์มของ Boomi ซึ่งประกอบด้วย Boomi APIs และความสามารถในการจัดการ API เพื่อบูรณาการระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร Oracle (ERP) โลจิสติกส์ และทรัพยากรบุคคล (HR) ควบคู่ไปกับระบบปฏิบัติการเพิ่มเติมและแอปพลิเคชันบนระบบคลาวด์ การดำเนินการดังกล่าวได้เข้ามาแทนที่การบูรณาการ point-to-point แบบเดิม ซึ่งใช้เวลานานและมีความซับซ้อนในการจัดการการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของ APU

สภาพแวดล้อมการเชื่อมต่อของ Boomi ช่วยให้ APU สามารถพัฒนาคลังข้อมูลซึ่งแอปพลิชันจำนวนมากสามารถดึงใช้ข้อมูลได้ บริษัทยังวางแผนที่จะใช้ประโยชน์จาก Boomi Master Data Hub (MDH) ในการสร้างภาพรวมข้อมูลแบบ 360 องศา คงรักษา ‘บันทึกข้อมูลที่สำคัญ’ และจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างครอบคลุม

ที่สำคัญ Boomi ยังมีการเปิดใช้งาน APU เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมข้อมูลแบบเปิด ซึ่งจะทำให้ APU ‘พร้อมในการเชื่อมต่อ’ กับบุคคลที่สามเพื่อแบ่งปันข้อมูลสำคัญ ตัวอย่างเช่น ขณะนี้ระบบสามารถเชื่อมโยงกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อวัตถุประสงค์ด้านกฎระเบียบ ภาษี และการรายงาน กับธนาคารต่างๆ เพื่อเข้าถึงการชำระเงินสำหรับผู้ขายและลูกค้า รวมถึงร้านค้าปลีกและการโรงแรม เพื่อการจัดซื้อจัดหาที่ง่ายดาย

Atturra ผู้ให้บริการโซลูชันที่ปรึกษาและไอทีชั้นนำสัญชาติออสเตรเลีย เป็นผู้นำการออกแบบ วางโครงสร้างสถาปัตยกรรม ลากรนำความสามารถในการบูรณาการใหม่ของ APU ไปใช้ และให้บริการให้คำปรึกษาและจัดการอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนวัตถุประสงค์การปรับแปลงของบริษัท

“เพื่อให้ APU กลายเป็นองค์กรที่ใช้ข้อมูลเป็นแรงดันขับเคลื่อนหลัก เห็นได้ชัดว่า แนวทางใหม่ในการบูรณาการเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อลดความซับซ้อนในการดำเนินงานด้านเทคโนโลยีและลดความเสี่ยงทั้งหมดที่จะเกิดขึ้น” Jason Frost ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริหารจัดการด้านข้อมูลและบูรณาการของ Atturra “โดยการใช้แพลตฟอร์ม Boomi เป็นแกนหลัก Atturra ได้พัฒนาเฟรมเวิร์ก ‘API-fication’ ที่ได้มาตรฐาน มีความยืดหยุ่น และปรับขนาดได้ เพื่อเชื่อมต่อระบบ แอปพลิเคชัน และข้อมูลของ APU ได้อย่างรวดเร็วด้วย API ที่นำมาใช้ซ้ำได้ สิ่งนี้ช่วยให้ APU สามารถจัดการปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นและจุดเชื่อมต่อได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น จึงเร่งการออกสู่ตลาดสำหรับบริการใหม่ๆ ที่เปิดตัวเพื่อช่วยในการขับเคลื่อนธุรกิจและเสริมสร้างการเติบโตสำหรับพันธมิตร”

“Mongolia กำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล และ APU ก็เป็นหนึ่งในผู้นำที่มุ่งเน้นรากฐานที่เชื่อมโยงกัน เพื่อก้าวไปสู่บริษัทที่ใช้ข้อมูลเป็นแรงดันขับเคลื่อนหลัก” Thomas Lai รองประธาน APJ ของ Boomi กล่าว “ด้วยสภาพแวดล้อมแบบบูรณาการ APU พร้อมสำหรับการขยายขอบเขตทางดิจิทัลอย่างเด่นชัด ใช้ประโยชน์จาก API เพื่อปรับปรุงธุรกิจที่กำลังเติบโต และพิสูจน์ให้เห็นถึงวิธีในการมีส่วนร่วมและทำธุรกรรมกับพันธมิตรและลูกค้าในอนาคต”

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Boomi

Boomi มีเป้าหมายที่จะทำให้โลกนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้นโดยการเชื่อมโยงทุกคนเข้ากับทุกสิ่งจากทุกที่ โดยเป็นผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มบูรณาการระบบคลาวด์ในฐานะบริการ (iPaaS) และปัจจุบันเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ให้บริการ (SaaS) ชั้นนำระดับโลก โดยมีฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้ให้บริการแพลตฟอร์มบูรณาการ และมีเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลกประมาณ 800 ราย – รวมถึง Accenture, Capgemini, Deloitte, SAP และ Snowflake องค์กรระดับโลกหันมาใช้แพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลนี้ของ Boomi เพื่อค้นหา จัดการ และประสานข้อมูล ในขณะเดียวกัน ก็มีการเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน กระบวนการ และผู้คน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถเข้าดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ boomi.com

© 2023 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ ‘B’ และ Boomiverse เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทในเครือ หรือบริษัทสาขา สงวนลิขสิทธิ์ ชื่อหรือเครื่องหมายอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53809436/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Jasmine Ee
Head of Media and Analyst Relations, APJ
jasmine.ee@boomi.com

แหล่งข้อมูล: Boomi

TVS Motor Company และ BMW Motorrad เฉลิมฉลอง 10 ปีแห่งความรุ่งโรจน์ของการเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ของพวกเขา ในการส่งมอบแรงบันดาลใจระดับโลก

Logo

บังกาลอร์ อินเดีย–(BUSINESS WIRE)–16 สิงหาคม 2023

ต้นฉบับการเป็นหุ้นส่วนที่เป็นแบบอย่างในอุตสาหกรรมรถสองล้อ TVS Motor Company และ BMW Motorrad เฉลิมฉลอง 10 ปีอันรุ่งโรจน์ของการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ยาวนานของพวกเขา ครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบ เทคโนโลยี การแบ่งปันความรู้ และการพัฒนาแพลตฟอร์มร่วมกันสำหรับลูกค้าทั่วโลก ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างบริษัททั้งสองได้อยู่ในเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ทั่วโลก

TVS Motor และ BMW Motorrad ลงนามความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระยะยาวในเดือนเมษายน 2013 เพื่อผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดต่ำกว่า 500cc สำหรับตลาดทั่วโลก ความร่วมมือนี้ส่งผลให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์สี่รายการบนแพลตฟอร์ม 310cc ได้แก่ BMW G 310 R, BMW 310 GS, BMW G310 RR และรถจักรยานยนต์เรือธงของ TVS Motor, TVS Apache RR 310 ด้วยจำนวนลูกค้ากว่า 140,000 ราย รถจักรยานยนต์ภายใต้ความร่วมมือนี้จึงเป็นที่ยอมรับในตลาดชั้นนำต่าง ๆ เช่น สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ละตินอเมริกา ญี่ปุ่น จีน และอินเดีย

ความสำเร็จของความร่วมมือนี้เป็นก้าวสำคัญในการขยับขยายความร่วมมือของทั้งสองบริษัทในเดือนธันวาคม 2021 เพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งนี้ TVS Motor และ BMW Motorrad กำลังร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่และเทคโนโลยีแห่งอนาคต ซึ่งรวมถึง EV นอกจากนี้ ในฐานะส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ที่ขยายออกไปนี้ ขอบเขตของ TVS Motor ยังรวมถึงการออกแบบและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ BMW Motorrad ในอนาคต การส่งมอบคุณภาพระดับโลก การจัดการห่วงโซ่อุปทาน และความเป็นอุตสาหกรรม

เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เฉลิมฉลองเหตุการณ์สำคัญครั้งประวัติศาสตร์ในการเดินทางร่วมกับ BMW Motorrad ความสัมพันธ์อันยาวนานนับทศวรรษของ TVS Motor กับ BMW Motorrad เป็นข้อพิสูจน์ถึงค่านิยมร่วมกันของเราในด้านนวัตกรรม คุณภาพ ความพึงพอใจของลูกค้า ความสามารถด้านวิศวกรรม และการมุ่งเน้นที่การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นแรงบันดาลใจทั่วโลก เราได้บรรลุจุดสุดยอดแห่งความสำเร็จร่วมกันด้วยการกำเนิดของแบรนด์ที่เป็นสัญลักษณ์ ซึ่งรวมถึง TVS Apache RR 310, BMW G310 RR, BMW G 310 R, BMW 310 GS ที่มีจำหน่ายในตลาดกว่า 100 แห่ง ด้วยการขยับขยายความร่วมมือนี้ไปสู่เทคโนโลยีแห่งอนาคตและโซลูชันการสัญจรที่ยั่งยืน เรากำลังหารือกันเพื่อขยายเครือข่ายการผลิตของเราออกไปนอกอินเดีย เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตภายใต้ความร่วมมือนี้ รวมถึง BMW CE 02 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ เราตั้งตารอที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดในการพัฒนาแพลตฟอร์มที่มุ่งสู่ตลาดใจกลางเมืองทั่วโลกและผู้บริโภครุ่นต่อไปที่ยอดเยี่ยม”Mr. KN Radhakrishnan กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท TVS Motor Company

การครบรอบ 10 ปีนี้เป็นบทพิสูจน์ที่น่าประทับใจถึงความสำเร็จและความแข็งแกร่งของความร่วมมือระหว่าง BMW Motorrad และ TVS Motor สิ่งที่เริ่มต้นเมื่อ 10 ปีที่แล้วได้พัฒนาเป็นเรื่องราวความสำเร็จที่ไม่ธรรมดา การทำงานร่วมกันที่แข็งแกร่งของเราได้นำไปสู่การพัฒนาข้อเสนอที่น่าประทับใจในกลุ่มเครื่องยนต์ต่ำกว่า 500cc นับตั้งแต่เปิดตัว BMW G 310 R และ BMW G 310 GS รุ่นสูบเดี่ยวยังคงได้รับความนิยมอย่างไม่มีใครเทียบได้ และกลายเป็นเสาหลักของความสำเร็จทั่วโลกของ BMW Motorrad การขยับขยายความร่วมมือนี้ไปสู่เทคโนโลยีแห่งอนาคตและโซลูชันการสัญจรที่ยั่งยืน ซึ่งรวมถึงผลงานชิ้นเอกที่มีเอกลักษณ์และไฟฟ้าเต็มรูปแบบ BMW CE 02 จึงเป็นขั้นตอนที่สอดคล้องกันในการกำหนดอนาคตร่วมกับ TVS Motor Company”ดร. Markus Schramm หัวหน้า BMW Motorrad

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Nikita Verma: Nikita.verma@tvsmotor.com

แหล่งที่มา: TVS Motor Company

LogiNext ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ค้าปลีกที่ บริษัท Cp Axtra Public Company Limited

Logo

การยอมรับกระบวนการแปลงข้อมูลไปสู่รูปแบบดิจิทัลอย่างรวดเร็วทั่วโลกกำลังสร้างกระบวนทัศน์ใหม่ของประสบการณ์ลูกค้าในโลกค้าปลีกแบบหลายช่องทางในปัจจุบัน LogiNext เป็นแนวหน้าของการปฏิวัติทางดิจิทัลในการผลักดันประสบการณ์ลูกค้าที่เหนือกว่าสำหรับองค์กรต่างๆ

กรุงเทพมหานคร–(BUSINESS WIRE)–10 สิงหาคม 2023

LogiNext แพลตฟอร์มระบบอัตโนมัติด้านลอจิสติกส์ระดับโลกที่ใช้ AI เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการเป็นพันธมิตรกับบริษัท Cp Axtra Public Company Limited ผู้ดำเนินการ Makro ซึ่งเป็นผู้ค้าส่งอันดับหนึ่งของประเทศไทย และ Lotus’s ผู้ค้าปลีกชั้นนำ

การใช้งาน LogiNext อยู่ระหว่างเร่งการปรับปรุงในการดำเนินการจัดส่งและประสบการณ์ของลูกค้าสำหรับ Makro และ Lotus โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปรับปรุงการมอบหมายคำสั่งซื้อ การจัดการยานพาหนะ การวางแผนการเดินทาง การกำหนดเส้นทาง การหยิบและบรรจุหีบห่อ การมองเห็นคำสั่งซื้อและการวิเคราะห์และข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุม ซึ่งได้ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินการด้านห่วงโซ่อุปทานโดยรวมสำหรับ Makro และ Lotus สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ Cp Axtra ปรับขนาดได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคตอีกด้วย

ด้วยพันธกิจในการเป็นผู้ค้าปลีก B2B และ B2C อันดับหนึ่งในเอเชียที่ผสมผสานทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อตอบสนองความต้องการในแต่ละวันของลูกค้าด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และการดำเนินงานที่เป็นเลิศ ร่วมกับผู้คนและพันธมิตรในแนวทางที่ยั่งยืน Cp Axtra มุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรทางเทคโนโลยีที่ดีที่สุดเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าอย่างไร้รอยต่อผ่านแพลตฟอร์มแบบหลายช่องทาง

Dhaval Thanki รองประธาน APAC & MEA ของ LogiNext กล่าวว่า “Cp Axtra ให้ความสำคัญกับลูกค้าอย่างไม่ย่อท้อ และแนวทางเชิงกลยุทธ์ในการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการจัดส่งนั้นเกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์แบบในบริบทของสิ่งที่แพลตฟอร์มของเราแก้ปัญหาให้กับพวกเขา” เขายังกล่าวเสริมอีกว่า “LogiNext ช่วยให้ธุรกิจของ Makro และ Lotus ได้รับประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีลอจิสติกส์ใหม่ล่าสุดและยิ่งใหญ่ที่สุดเพื่อพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังลดต้นทุนการจัดส่ง และขับเคลื่อนการเติบโต”

Paul Stephen Howe หัวหน้ากลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศบริษัท Cp Axtra Public Company Limited กล่าวว่า “LogiNext ให้บริการโซลูชันระบบอัตโนมัติด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร (end-to-end) ซึ่งช่วยให้เราดำเนินการจัดส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก” เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “ด้วย LogiNext ที่เปิดใช้งานการแปลงข้อมูลไปสู่รูปแบบดิจิทัลและการมองเห็นแบบเรียลไทม์ในการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ของเรา เราจึงสามารถมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ราบรื่นให้กับลูกค้าของเรา ในขณะที่เชื่อมโลกออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันได้”

เทคโนโลยีของ LogiNext กำลังปฏิวัติการดำเนินงานด้านลอจิสติกส์ทั่วโลก ทำให้ธุรกิจต่างๆ สามารถปรับปรุงการดำเนินงานด้านลอจิสติกส์ ปรับเส้นทางให้เหมาะสม และปรับปรุงประสบการณ์โดยรวมของลูกค้า ด้วยการติดตามตามเวลาจริง การวิเคราะห์ขั้นสูง และความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพ บริษัทต่างๆ สามารถนำทางภูมิทัศน์ด้านลอจิสติกส์ที่ซับซ้อนได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ

ในขณะที่อุตสาหกรรมการค้าปลีกมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง LogiNext ยังคงมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและเสริมศักยภาพให้ธุรกิจต่างๆ ยอมรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าปลายทาง ด้วยการใช้ประโยชน์จากระบบอัตโนมัติและข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล บริษัทต่างๆ สามารถปลดล็อกระดับใหม่ของความเป็นเลิศในการดำเนินงาน เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดได้

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Shreyas Mulgund
รองประธานฝ่ายการตลาด LogiNext
โทรศัพท์มือถือ: +91-9819399139
อีเมล์: shreyas.m@loginextsolutions.com

แหล่งที่มา: LogiNext

Milliken & Company ฉลองครบรอบ 5 ปีสำหรับความคืบหน้าในรายงานความยั่งยืนประจำปี 2022 “FOR HUMANKIND”

Logo

การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ที่ได้รับการยืนยันแล้วสะท้อนถึงผลกระทบด้านความยั่งยืนทั่วโลกในระยะสั้นและระยะยาวของบริษัท

สปาร์ตันเบิร์ก –(BUSINESS WIRE)–19 เมษายน 2023

Milliken & Company ผู้ผลิตระดับโลกที่มีความหลากหลายเผยแพร่รายงานความยั่งยืนประจำปีฉบับที่ 5 ซึ่งมีชื่อว่า “For HumanKind” ในวันนี้ รายงานติดตามความคืบหน้าของ Milliken เกี่ยวกับเป้าหมายความยั่งยืนปี 2025 ซึ่งเดิมกำหนดไว้ในปี 2019 และให้ข้อมูลพื้นฐานเริ่มต้นสำหรับเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ซึ่งได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการในปี 2022 รายงานแสดงให้เห็นว่าความยั่งยืนส่งผลต่อธุรกิจของ Milliken ในปัจจุบันอย่างไร และเป็นส่วนสำคัญต่ออนาคตของบริษัท

Milliken's sustainability report, entitled

รายงานความยั่งยืนของ Milliken เรื่อง “For HumanKind” ซึ่งแบ่งปันความคืบหน้าในช่วงเวลาห้าปีสำหรับเป้าหมายความยั่งยืนของบริษัท (ภาพ: Business Wire)

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20230419005301/en/

การประกาศของ Milliken สำหรับเป้าหมายระยะสั้นและยาวของบริษัทเพื่อบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ได้เพิ่มมิติใหม่ให้กับความพยายามเพื่อความยั่งยืนของบริษัท Milliken เป็นหนึ่งใน 50 บริษัทแรกของโลกและบริษัทแรกในเซาท์แคโรไลนาที่มีเป้าหมายบนพื้นฐานวิทยาศาสตร์ซึ่งได้รับการอนุมัติจากโครงการริเริ่ม Science Based Targets (SBTi) ที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติ เป้าหมายเหล่านี้ได้รวมกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนอีก 12 เป้าหมายที่ Milliken กำหนดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการทำงานกับผู้คน ผลิตภัณฑ์ของบริษัทและโลกใบนี้โดยมองผ่านผลประโยชน์ของมนุษย์และวิทยาศาสตร์

“นับเป็นแรงบันดาลใจที่ได้เห็นสิ่งที่เราทำสำเร็จในเวลาเพียงไม่กี่ปี เราทราบดีว่าเราสามารถเดินหน้าต่อไปได้ในขณะที่เราระดมผู้ร่วมงาน ผู้ถือหุ้น พันธมิตร และลูกค้าของเราให้เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาความท้าทายที่เร่งด่วนที่สุดของโลก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” Halsey Cook ประธานและซีอีโอของ Milliken กล่าว “งานของเรายังไม่สิ้นสุด และเราทราบดีว่าการทำงานเป็นทีมเป็นกุญแจสำคัญในการเร่งนวัตกรรมที่จะปลดล็อกความสำเร็จ ไม่เพียงแต่สำหรับตัวเราเอง แต่สำหรับมนุษยชาติทั้งหมด”

นอกจากนี้ ในปี 2022 Milliken ยังประกาศว่าจะยุติการใช้ PFAS ในเส้นใยและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปในกลุ่มผลิตภัณฑ์สิ่งทอ โดยจะยุติในเดือนธันวาคม 2022 เพื่อให้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาพลาสติกที่หมดอายุการใช้งาน มูลนิธิองค์กรของ Milliken ซึ่งเป็นมูลนิธิเพื่อการกุศลของ Milliken & Company ได้ลงทุนในศูนย์พันธมิตรการรีไซเคิลเพื่อพฤติกรรมและผลกระทบที่ยั่งยืน ซึ่งนำเสนอโซลูชันที่จับต้องได้เพื่อเพิ่มอัตราการรีไซเคิลในครัวเรือนของสหรัฐฯ ความหลากหลายในทีมผู้บริหารของ Milliken ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 10% ตั้งแต่ปี 2018 โดยคิดเป็นความหลากหลายทางเพศ 36% และความหลากหลายทางเชื้อชาติ/ชาติพันธุ์ 17% โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Milliken ยังบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่จัดทำดัชนีลง 25% ในการดำเนินงานในปีนี้ และตอนนี้จะมุ่งเน้นไปที่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากขึ้นตามเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์

Kasel Knight รองประธานอาวุโสของ Milliken และที่ปรึกษาทั่วไปกล่าวว่า “ความพยายามด้านความยั่งยืนของเรายังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เมื่อเปลี่ยนจากเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์แบบองค์รวมมากขึ้น” “เราภูมิใจในสิ่งที่เราประสบความสำเร็จในปี 2022 และเรามั่นใจว่าเราจะปรับปรุงความพยายามของเราด้วยโอกาสใหม่ ๆ ในการดำเนินตามเป้าหมายในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกสำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป”

สามารถดูรายงานความยั่งยืนของ Milliken ปี 2022 ได้ที่ milliken.com/sustainability ควบคู่ไปกับทรัพยากรการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์และรายงานของปีก่อนหน้าเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Miliken

Milliken & Company เป็นผู้นำด้านการผลิตระดับโลกที่มุ่งเน้นด้านวัสดุศาสตร์เพื่อมอบความก้าวหน้าแห่งอนาคตในวันนี้ Milliken สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยยกระดับชีวิตของผู้คนและนำเสนอโซลูชันสำหรับลูกค้าและชุมชน ตั้งแต่โมเลกุลระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมไปจนถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน  จากสิทธิบัตรหลายพันรายการและกลุ่มผลิตภัฑณ์ที่มีการนำไปใช้ในธุรกิจสิ่งทอ เคมีพิเศษ พื้น และการดูแลสุขภาพ บริษัทใช้ความรู้สึกร่วมกันในความซื่อสัตย์และความเป็นเลิศเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกสำหรับรุ่นต่อรุ่น สำรวจเพิ่มเติมเกี่ยวกับใจที่อยากรู้อยากเห็นของ Milliken และวิธีแก้ปัญหาที่ได้รับแรงบันดาลใจได้ที่ milliken.com และบน Facebook, Instagram และ LinkedIn

ดูต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20230419005301/en/

เนื้อหาใจความในภาษาตน้ ฉบับของขา่ วประชาสัมพันธฉ์ บับนี้เป็นฉบับทเี่ ชอื่ ถอื ไดแ้ละเป็นทางการ การแปลต ้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออ านวยความสะดวกเท่านั้น และควรน าไปเทียบเคียงอ ้างอิง กับเนื้อหาในภาษาต ้นฉบับ ซงึ่ เป็นฉบับเดยี วทมี่ ผี ลทางกฎหมาย

ติดต่อเรา

Betsy Sikma
betsy.sikma@milliken.com
864.909.7908

ที่มา: Milliken & Company

Milliken & Company Garners ได้รับรางวัลบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกประจำปี 2023

Logo

SPARTANBURG, S.C.–(BUSINESS WIRE)–13 มีนาคม 2023

เป็นปีที่สิบเจ็ดติดต่อกัน Milliken & Company ผู้ผลิตระดับโลกที่มีความหลากหลายได้รับการยอมรับจาก Ethisphere ซึ่งเป็นผู้นำในการกำหนดและยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม เป็นหนึ่งใน บริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกประจำปี 2023 Milliken เป็นหนึ่งในผู้ได้รับรางวัล 135 รายจาก 19 ประเทศและ 46 อุตสาหกรรม และเป็นหนึ่งในผู้ได้รับรางวัลเพียง 6 รายที่ปรากฏในรายชื่อบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกทุกปี นับตั้งแต่ก่อตั้งรางวัลในปี 2007

Milliken is a 17-time World's Most Ethical Companies honor, one of only six companies included on the list each year since it was first published. (Graphic: Business Wire)

Milliken ได้รับรางวัลบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกถึง 17 ครั้ง โดยเป็นหนึ่งในหกบริษัทเท่านั้นที่รวมอยู่ในรายชื่อในแต่ละปีตั้งแต่เผยแพร่ครั้งแรก (ภาพ: Business Wire)

Halsey Cook ประธานและซีอีโอของ Milliken & Company กล่าวว่า “ที่ Milliken เราได้รับการชี้นำจากความมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งที่ถูกต้อง” “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการยอมรับอีกครั้ง และเราภูมิใจในความซื่อตรงที่แข็งแกร่งที่ขับเคลื่อนทีมระดับโลกของเรา”

การทำสิ่งที่ถูกต้องเป็นการกระตุ้นให้ Milliken กล้าที่จะก้าวต่อไปในพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลาย ตามแนวทางของค่านิยมหลัก 5 ประการ ได้แก่ ความซื่อสัตย์ ความเป็นเลิศ นวัตกรรม ความยั่งยืน และบุคลากร Milliken ทำงานเพื่อเป็นผู้นำในการผลิตที่มีความรับผิดชอบและยั่งยืน เป้าหมายความยั่งยืนปี 2025 กำหนดการทำงานของบริษัทกับผลิตภัณฑ์ พนักงาน และโลก นอกจากนี้ Milliken เพิ่งประกาศเส้นทางสู่อนาคตสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ด้วย โครงการริเริ่ม Science Based Targets (SBTi) อนุมัติเป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์ในระยะสั้นและระยะยาว

“Milliken เป็นส่วนหนึ่งของผู้ได้รับรางวัลบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกในช่วง 17 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุตสาหกรรมรายเดียวที่ได้รับรางวัล 17 ครั้ง” Erica Salmon Byrne ซีอีโอของ Ethisphere กล่าว “เราขอชมเชยทีมงานทั้งหมดในความทุ่มเทของพวกเขาในการสร้างผลกระทบที่แท้จริงให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของพวกเขา และความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำที่ยึดตามค่านิยมที่เป็นแบบอย่าง”

ดัชนีจริยธรรมประจำปี 2023 ของ Ethisphere ซึ่งเป็นการรวบรวมบริษัทที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้รับรางวัลบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกประจำปีนี้ มีผลประกอบการดีกว่าดัชนีของบริษัทขนาดใหญ่ที่เทียบเคียงได้ 13.6 จุดเปอร์เซ็นต์ในช่วงระยะเวลาห้าปี

วิธีการและการให้คะแนน

บนพื้นฐานของความฉลาดทางจริยธรรมที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Ethics Quotient® กระบวนการประเมินบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกประกอบด้วยคำถามมากกว่า 200 ข้อเกี่ยวกับวัฒนธรรม แนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม กิจกรรมด้านจริยธรรมและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ การกำกับดูแล ความหลากหลาย และความคิดริเริ่มที่สนับสนุนห่วงโซ่คุณค่าที่แข็งแกร่ง กระบวนการนี้ทำหน้าที่เป็นกรอบการดำเนินงานเพื่อรวบรวมและจัดทำแนวทางปฏิบัติชั้นนำขององค์กรในอุตสาหกรรมต่างๆ และทั่วโลก

ผู้ได้รับเกียรติ

หากต้องการดูรายชื่อผู้ได้รับรางวัลในปีนี้ทั้งหมด โปรดไปที่เว็บไซต์บริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลก  https://worldsmostethicalcompanies.com/honorees/

 เกี่ยวกับ Milliken

Milliken & Company เป็นผู้นำด้านการผลิตระดับโลกที่มุ่งเน้นด้านวัสดุศาสตร์เพื่อมอบความก้าวหน้าแห่งอนาคตในวันนี้ จากโมเลกุลระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมไปจนถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน Milliken สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยยกระดับชีวิตของผู้คนและนำเสนอโซลูชั่นสำหรับลูกค้าและชุมชน จากสิทธิบัตรหลายพันรายการและพอร์ตโฟลิโอที่มีการนำไปใช้ในธุรกิจสิ่งทอ เคมีพิเศษ พื้น และการดูแลสุขภาพ บริษัทใช้ความรู้สึกร่วมกันในความซื่อสัตย์และความเป็นเลิศเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกสำหรับรุ่นต่อรุ่น ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคิดที่อยากรู้อยากเห็นของ Milliken และวิธีแก้ปัญหาที่ได้รับแรงบันดาลใจได้ที่ milliken.com และบน FacebookInstagramและ LinkedIn

เกี่ยวกับ Ethisphere

Ethisphere เป็นผู้นำระดับโลกในการกำหนดและยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมซึ่งช่วยส่งเสริมลักษณะเฉพาะขององค์กร ความไว้วางใจในตลาด และความสำเร็จทางธุรกิจ Ethisphere มีความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งในการวัดและกำหนดมาตรฐานจริยธรรมหลักโดยใช้ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ซึ่งช่วยให้บริษัทต่างๆ ปรับปรุงคุณลักษณะขององค์กร Ethisphere ยกย่องความสำเร็จที่เหนือกว่าผ่านโปรแกรมการยกย่อง World's Most Ethical Companies® จัดชุมชนผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมด้วย Business Ethics Leadership Alliance (BELA) และแสดงแนวโน้มและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในด้านจริยธรรมด้วย นิตยสาร Ethisphere Ethisphere ยังช่วยพัฒนาประสิทธิภาพทางธุรกิจผ่านการประเมิน คำแนะนำ และเกณฑ์มาตรฐานเทียบกับข้อมูลที่ไม่มีใครเทียบได้: ชุดข้อมูลความฉลาดทางวัฒนธรรมที่มุ่งเน้นไปที่วัฒนธรรมด้านจริยธรรมและแสดงการตอบสนองของพนักงาน 2+ ล้านคนทั่วโลก และชุดข้อมูลความฉลาดทางจริยธรรม ซึ่งมีจุดข้อมูลมากกว่า 200 จุดที่เน้นหลักปฏิบัติด้านจริยธรรม การปฏิบัติตามกฎระเบียบ สังคม และธรรมาภิบาลของบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ https://ethisphere.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53359967/en

ติดต่อ

Betsy Sikma
betsy.sikma@milliken.com
864.909.7908

ที่มา: Milliken & Company

 

Milliken & Company มุ่งมั่นสู่อนาคตที่มีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

Logo

SBTi ตั้งเป้าหมายที่อิงหลักวิทยาศาสตร์ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิของบริษัทเป็นศูนย์ภายในปี 2050

SPARTANBURG, S.C.–(BUSINESS WIRE)–19 ตุลาคม 2022

Milliken & Company ผู้ผลิตระดับโลกที่มีความหลากหลายประกาศว่าเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ตามหลักวิทยาศาสตร์ได้รับการอนุมัติโดย Science Based Targets initiative (SBTi) ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ SBTi เป็นกลุ่มองค์กรระหว่างประเทศที่อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือบริษัทต่าง ๆ ในการกำหนดเป้าหมายการลดการปล่อยมลพิษที่สอดคล้องกับภูมิอากาศวิทยาและความตกลงปารีส (Paris Agreement)

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นแบบมัลติมีเดีย สามารถดูฉบับเต็มได้ที่นี่ https://www.businesswire.com/news/home/20221019005053/en/

“ที่ Milliken ความยั่งยืนคือค่านิยมหลัก” กล่าวโดย Halsey Cook ประธานและซีอีโอของ Milliken & Company “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังสร้างแรงกดดันต่อชุมชน บริษัท และโลกของเรา ถึงเวลาต้องดำเนินการอย่างมี เป้าหมายแล้ว”

SBTi คำนวณว่าบริษัทต่าง ๆ ที่มุ่งมั่นจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในสายการผลิตตามภูมิอากาศวิทยา ขณะนี้คิดเป็นมูลค่า 38 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลก Milliken เป็นหนึ่งใน 50 บริษัทแรกทั่วโลกที่บรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ตามหลักวิทยาศาสตร์ที่ได้รับอนุมัติ และเข้าร่วมกลุ่มบริษัทมากกว่า 1,300 แห่งที่ได้ให้คำมั่นสัญญาที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์โดยใช้มาตรฐาน SBTi Corporate Net-Zero ของปี 2021 Milliken เป็นบริษัทแรกที่ได้รับการอนุมัติในเซาท์แคโรไลนา ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ทั่วโลกของ Milliken

Kasel Knight ที่ปรึกษาทั่วไปและหัวหน้าฝ่ายความยั่งยืนของ Milliken กล่าวว่า “ไม่ใช่ว่าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ทั้งหมดจะเหมือนกัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ Milliken มุ่งมั่นที่จะทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์อย่างแท้จริงทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่า (value chain) ภายในปี 2050 จากปีฐาน 2018” “ด้วยการทำงานร่วมกับ SBTi ความมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ควบคู่ไปกับเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวของเราที่ได้รับการอนุมัติ จะได้รับการตรวจสอบอย่างเต็มที่ด้วยหลักวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุดในระดับโลก”

“เราภูมิใจที่ Milliken เป็นผู้นำงานนี้” กล่าวสรุปโดย Cook “เป้าหมายของเราช่วยให้ทีมงานของเรามากกว่า 8,000 คนลดความเสี่ยง ลดผลกระทบ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุมต้นทุน และค้นพบวิธีการใหม่ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์”

เกี่ยวกับ Milliken

Milliken & Company เป็นผู้นำด้านการผลิตระดับโลกที่มุ่งเน้นด้านวัสดุศาสตร์เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าในวันพรุ่งนี้ ตั้งแต่โมเลกุลชั้นนำของอุตสาหกรรมไปจนถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน Milliken สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ยกระดับชีวิตของผู้คนและนำเสนอวิธีแก้ปัญหาสำหรับลูกค้าและชุมชน ด้วยสิทธิบัตรหลายพันรายการและแฟ้มภาพผลงานที่มีการประยุกต์ใช้ในธุรกิจสิ่งทอ เคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ ผลิตภัณฑ์ปูพื้น และการดูแลสุขภาพ บริษัทใช้ความรู้สึกร่วมกันของความซื่อสัตย์และความเป็นเลิศเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับโลกมาหลายชั่วอายุคน สามารถดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคิดที่กระหายใคร่รู้ของ Milliken และวิธีแก้ปัญหาที่สร้างแรงบันดาลใจได้ที่ milliken.com และบน FacebookInstagram, LinkedIn และ Twitter

เกี่ยวกับ Science Based Targets initiative

Science Based Targets initiative (SBTi) เป็นองค์กรระดับโลกที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดเป้าหมายที่มีความทะเยอทะยานในการลดการปล่อยมลพิษตามภูมิอากาศวิทยาล่าสุด โดยมุ่งเน้นที่การเร่งรัดให้บริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงครึ่งหนึ่งก่อนปี 2030 และบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ก่อนปี 2050 ความคิดริเริ่มนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง CDP, ข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact), สถาบันทรัพยากรโลก (WRI) และกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) และหนึ่งในพันธกรณีของ We Mean Business Coalition

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20221019005053/en/

ติดต่อ

Betsy Sikma
betsy.sikma@milliken.com
864.909.7908

ที่มา: Milliken & Company

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Boomi คว้ารางวัล Best CEOs for Diversity และ Best Company for Career Growth ติด 50 อันดับแรกในประเภทบริษัทที่ใหญ่ที่สุด

Logo

  • David Meredith คว้ารางวัล Best CEOs for Diversity เป็นปีที่สองติดต่อกัน; เข้าร่วมกับผู้ได้รับรางวัลซีอีโอที่ติดอันดับปี 2022 จาก Microsoft และ Adobe
  • รางวัลดังกล่าวเป็นไปตามธุรกรรมมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ เพื่อมาเป็นบริษัทแบบ standalone และการแต่งตั้งผู้นำเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการมุ่งเน้นระดับโลกในการว่าจ้างสมาชิกทีม Boomi ใหม่หลายร้อยคน เพื่อรองรับการเติบโตของลูกค้าอย่างรวดเร็วของบริษัท

เชสเตอร์บรูค เพนซิลเวเนีย–(BUSINESS WIRE)–19 กรกฎาคม 2022

BoomiTM ผู้นำด้านการเชื่อมต่ออัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ ในวันนี้คว้าสองรางวัลจาก Comparably แพลตฟอร์มด้านวัฒนธรรมในสถานที่ทำงานและชื่อเสียงของแบรนด์องค์กรชั้นนำ ในประเภทบริษัทที่ใหญ่ที่สุดพร้อมกับผู้ได้รับรางวัลรายอื่น ๆ ในปี 2022 อย่างเช่น Microsoft, Adobe, IBM, Uber, Uber และ SADA ซึ่งได้รับเกียรติจากรางวัล Best CEOs for Diversity และ Best Company for Career Growth อ้างอิงจากผลตอบรับของพนักงานที่ไม่เปิดเผยตัวจากพนักงานทั่วโลกมากกว่า 1,700 คน Boomi ติด 50 อันดับแรกของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดสำหรับความมุ่งมั่นและความสำเร็จในด้านความหลากหลายและความก้าวหน้าในอาชีพ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220719005282/en/

Boomi Wins Comparably Awards for Best CEOs for Diversity and Best Company for Career Growth in Largest Company Category (Graphic: Business Wire)

Boomi คว้ารางวัลจาก Comparably สำหรับ Best CEOs for Diversity และ Best Company for Career Growth ในประเภทบริษัทที่ใหญ่ที่สุด (กราฟิก: Business Wire)

“ที่ Comparably เราให้รางวัลที่โปร่งใสในสถานที่ทำงาน” Jason Nazar ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Comparably กล่าว “รางวัลเหล่านี้ช่วยให้พนักงานสามารถแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกส่วนตัวเกี่ยวกับวัฒนธรรมของบริษัท ซึ่งให้รางวัลและเน้นย้ำถึงบริษัทอย่าง Boomi ที่ทำงานได้อย่างโดดเด่นและจัดเตรียมพนักงานให้ประสบความสำเร็จ”

Comparably คัดเลือกผู้ชนะด้วยการประเมินการให้คะแนนของพนักงานที่ไม่เปิดเผยตัวตนกว่า 15 ล้านคนจากบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 70,000 แห่ง พนักงานของ Boomi จัดอันดับโอกาสในการพัฒนาทางวิชาชีพ อย่างเช่น ความก้าวหน้าในอาชีพที่มีเป้าหมาย การให้คำปรึกษา และผลตอบรับที่มีคุณค่าในระดับที่สูง ซึ่งนำไปสู่การเป็นที่ยอมรับของ Boomi ท่ามกลางรางวัล Best Companies for Career Growth ในการมอบรางวัล Best CEOs for Diversity แก่ Boomi โดย Comparably ประเมินการให้คะแนนของ Meredith จากพนักงาน Boomi รางวัลแห่งปี 2022 สำหรับ Meredith ถือเป็นปีที่สองติดต่อกันที่ได้รับตำแหน่งที่สำคัญนี้

“ในฐานะบริษัทให้บริการด้านซอฟต์แวร์ (SaaS) ระดับโลกที่เป็นผู้นำด้านธุรกิจและมีการเติบโตสูง Boomi มุ่งมั่นที่จะสร้างและรักษาประสบการณ์ของพนักงานระดับโลก” Shawn Maurice ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลของ Boomi กล่าว “เราดำเนินชีวิตตามคติพจน์ที่ว่า ‘การจ้างคนดี’ และค่านิยมหลักที่เป็นเอกลักษณ์ของเราคือ Go Beyond, Play for Each Other, Create Awesome Things, Own It, and Build Trust ในที่สุดความสำเร็จของ Boomi อยู่ในมือของสมาชิกในทีมของเรา และเราให้ความสำคัญกับการสร้างและดูแลสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการพัฒนาและความเป็นอยู่ที่ดี ตลอดจนส่งเสริมให้พวกเขากล้าแสดงออกและค้นหาแนวทางแก้ไขปัญหาใหม่ ๆ ที่สร้างสรรค์เพื่อรับมือกับความท้าทาย รางวัลเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันถึงวัฒนธรรมของบริษัทที่โด่งดังของ Boomi ในขณะที่เรายังคงลงทุนในบุคลากรของเราต่อไป”

ในฐานะผู้บุกเบิกและผู้นำธุรกิจของการให้บริการแพลตฟอร์มบูรณาการ (iPaaS) แบบ cloud-native เมื่อเร็ว ๆ นี้ Boomi มีลูกค้ามากกว่า 20,000 ราย ซึ่งสร้างสถิติอุตสาหกรรมสำหรับฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่าย iPaaS บริษัทมีชุมชนผู้ใช้ที่กำลังเติบโตซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 100,000 ราย เครือข่ายทั่วโลกที่มีพันธมิตรมากกว่า 800 ราย และหนึ่งในอาเรย์ที่ใหญ่ที่สุดของผู้รวมระบบ (GSIs) ระดับโลกในด้าน iPaaS แพลตฟอร์มแบบ low-code ของ Boomi ช่วยให้องค์กรในทุกอุตสาหกรรมเชื่อมต่อแอปพลิเคชันข้อมูล ปรับปรุงประสิทธิภาพเวิร์กโฟลว์ และมอบประสบการณ์ลูกค้าแบบบูรณาการมากขึ้น

Boomi ได้รับตำแหน่งผู้นำใน Gartner® Magic Quadrant™ สำหรับ Enterprise Integration Platform as a Service (EiPaaS) เป็นเวลาแปดปีติดต่อกัน

บริษัทเพิ่งได้รับรางวัล Gold Globee® Award ในประเภท Platform as a Service (PaaS) และได้รับรางวัลมากมายสำหรับการเป็นนายจ้างที่ได้รับเลือก รวมถึงการได้รับรายชื่อล่าสุดว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดของนิตยสาร Inc. Magazine

สำหรับรายชื่อตำแหน่งงานที่เปิดรับในทีม Boomi ดูรายละเอียดได้ที่ careers page บนเว็บไซต์ Boomi

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบของ Gartner:

Gartner, Magic Quadrant for Enterprise Integration Platform as a Service, Eric Thoo, Keith Guttridge, Bindi Bhullar, Shameen Pillai, Abhishek Singh, 29 กันยายน 2021

Gartner ไม่รับรองผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใด ๆ ที่ปรากฎในเอกสารการวิจัย และไม่แนะนำให้ผู้ใช้เทคโนโลยีเลือกเฉพาะผู้ขายที่มีคะแนนสูงสุดหรือกำหนดตำแหน่งอื่น ๆ สิ่งพิมพ์วิจัยของ Gartner ประกอบด้วยความคิดเห็นขององค์กรวิจัยของ Gartner และไม่ควรตีความว่าเป็นข้อเท็จจริง Gartner ปฏิเสธการรับประกันทั้งหมด ไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยนัย ในส่วนที่เกี่ยวกับการวิจัยนี้ รวมถึงการรับประกันความสามารถในการซื้อขายหรือความเหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะ GARTNER และ Magic Quadrant เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนและเครื่องหมายบริการของ Gartner, Inc. และ/หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ และได้รับอนุญาตให้ใช้ในที่นี้ สงวนลิขสิทธิ์ หมายเหตุ: Boomi เป็นที่รู้จักในชื่อ Dell Boomi ตั้งแต่ปี 2014 ถึง 2019

เกี่ยวกับ Boomi

Boomi เชื่อมต่อทุกคนกับทุกสิ่งและทุกที่โดยทันทีทันใดด้วยแพลตฟอร์มแบบ cloud-native ที่รวมเป็นหนึ่งเดียว เปิดกว้าง และชาญฉลาด การให้บริการแพลตฟอร์มบูรณาการ (iPaaS) ของ Boomi ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า 20,000 รายทั่วโลกในด้านความเร็ว ความสะดวกในการใช้งาน และต้นทุนรวมที่ลดลงในการเป็นเจ้าของ ในฐานะผู้บุกเบิกการขับเคลื่อนการใช้ข้อมูลอย่างชาญฉลาด วิสัยทัศน์ของ Boomi คือการทำให้ลูกค้าและพันธมิตรสามารถค้นหา จัดการ และประสานข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ในขณะที่เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน กระบวนการ และผู้คนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.boomi.com

เกี่ยวกับ Comparably

Comparably เป็นแพลตฟอร์มวัฒนธรรมสถานที่ทำงานและชื่อเสียงของแบรนด์องค์กรชั้นนำที่มีการจัดอันดับพนักงานที่ไม่เปิดเผยตัวตนมากกว่า 15 ล้านคนจากบริษัท 70,000 แห่ง ด้วยข้อมูลที่ครอบคลุมมากที่สุดในองค์กรขนาดใหญ่และ SMB ในเกือบ 20 ประเภทสถานที่ทำงานที่แตกต่างกัน อ้างอิงตามเพศ เชื้อชาติ อายุ ประสบการณ์ อุตสาหกรรม สถานที่ การศึกษา ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม SaaS ที่ใช้มากที่สุดสำหรับการสร้างแบรนด์นายจ้างและเว็บไซด์บุคคลที่สามที่เชื่อถือได้ สำหรับวัฒนธรรมสถานที่ทำงานและค่าตอบแทน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษาของ Comparably และรางวัล Best Places to Work ประจำปี ดูรายละเอียดได้ที่ Comparably News

เกี่ยวกับ Comparably Awards

Comparably Awards เป็นงานประจำปีที่เน้นถึงบริษัทและซีอีโอที่โดดเด่นที่สุดใน 16 ประเภทวัฒนธรรมในที่ทำงานที่แตกต่างกันตลอดทั้งปี นับตั้งแต่เปิดตัวในปลายปี 2017 รางวัลดังกล่าวได้มาจากความคิดเห็นด้านความเชื่อมั่นจากพนักงานปัจจุบันที่ให้คะแนนนายจ้างโดยไม่เปิดเผยตัวตนบน Comparably.com ในช่วงระยะเวลาย้อนกลับไป 12 เดือน พนักงานสามารถตอบคำถามแบบมีโครงสร้าง (ใช่/ไม่ใช่ จริง/เท็จ มาตราส่วน 1-10 และรูปแบบตัวเลือกหลายตัวเลือก) ซึ่งครอบคลุมหัวข้อสถานที่ทำงาน 16 หัวข้อ แต่ละคำตอบจะได้รับคะแนนเป็นตัวเลขและเปรียบเทียบกับบริษัทที่มีขนาดใกล้เคียงกัน ชุดข้อมูลสุดท้ายของผู้ชนะรวบรวมจากการจัดอันดับกว่า 15 ล้านคนจากบริษัท 70,000 แห่ง

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220719005282/en/

ติดต่อ:

สื่อ:
Kristen Walker
Global Corporate Communications
kristenwalker@boomi.com
+1-415-613-8320

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Milliken & Company ติดตามความคืบหน้าในโครงการความยั่งยืนในรายงานความยั่งยืนประจำปีครั้งที่สี่

Logo

สปาร์ตันเบิร์ก รัฐเซาท์แคโรไลนา–(BUSINESS WIRE)–22 เม.ย. 2565

วันนี้ Milliken & Company ผู้ผลิตระดับโลกที่มีความหลากหลายได้เผยแพร่รายงานความยั่งยืนประจำปีฉบับที่สี่ ซึ่งเป็นองค์ประกอบการรายงานที่สำคัญสำหรับความคืบหน้าของบริษัทในการมุ่งสู่เป้าหมายความยั่งยืนปี 2568 โดยในปี 2562 Milliken ได้กำหนดเป้าหมายด้านความยั่งยืนเอาไว้ 12 ประการ โดยมุ่งเน้นที่บุคลากร ผลิตภัณฑ์ และโลกใบนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการบรรลุเป้าหมายการมีสุขภาพที่ดีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ตามแนวทางของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ เป้าหมายทั้ง 12 ประการนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในด้านความยั่งยืนในทุกรูปแบบ

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหาเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220422005043/en/

Milliken's fourth annual Sustainability Report highlights the company's progress toward its 2025 Sustainability Goals. (Photo: Business Wire)

รายงานความยั่งยืนประจำปีครั้งที่สี่ของ Milliken เน้นย้ำถึงความคืบหน้าของบริษัทในการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนปี 2568 (ภาพ: Business Wire)

ในปี พ.ศ. 2564 Milliken ได้เลิกใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงหลักหลังจากทุ่มเงิน 25 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างพลังงานความร้อนร่วม ซึ่งผสมผสานการผลิตไอน้ำและพลังงานเข้าด้วยกัน  ที่สำคัญ Milliken ยังเพิ่มความหลากหลายของทีมผู้บริหารในสหรัฐฯ อีกร้อยละ 8 และได้ประกาศว่าขณะนี้กลุ่มผลิตภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโอทั้งหมดของบริษัทมีคาร์บอนเป็นศูนย์แล้ว

“จุดประสงค์ร่วมและความเชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์ทำให้ Milliken มีเอกลักษณ์พิเศษ ” Halsey Cook ประธานและซีอีโอของ Milliken & Company กล่าว “เราไม่เพียงแต่ทำเต็มความสามารถในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกรอบตัวเราเท่านั้น แต่ยังมีความรับผิดชอบในการสร้างอนาคตที่มีสุขภาพดีขึ้นสำหรับคนรุ่นนี้และคนรุ่นต่อ ๆ ไป อีกด้วย”

รายงาน Global Reporting Initiative (GRI) ซึ่งเป็นรายงานฉบับที่สี่ของ Milliken ที่เสร็จสมบูรณ์ตามมาตรฐาน Core ให้รายละเอียดเกี่ยวกับความก้าวหน้าด้านความยั่งยืนแบบองค์รวมที่เกิดขึ้นในปี 2564 ความพยายามเหล่านี้รวมถึง:

  • บันทึกเหตุการณ์ความปลอดภัยหยุดงานเพื่อความปลอดภัยไปเป็นศูนย์จากวิกฤติ COVID-19
  • บันทึกชั่วโมงอาสาสมัคร 27,000 ชั่วโมง ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท
  • ร่วมมือกับกลุ่มต่าง ๆ เช่น Accelerating Circularity, Polypropylene Coalition, PureCycle Technologies และ Alliance to End Plastic Waste เพื่อให้ความเชี่ยวชาญของเราในการแก้ปัญหาการสิ้นสุดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์
  • อัปเกรดระบบแสงสว่างเป็นไฟ LED ในโรงงานผลิต 13 แห่ง ลดการปล่อย GHG 3,000 เมตริกตัน และบรรลุครึ่งหนึ่งของเป้าหมายเพื่อแปลงไฟส่องสว่างในโรงงานผลิตทั้งหมดเป็น LED ภายในสิ้นปี 2566 และ
  • เพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียนเป็น 97,608 MWh/ปี คิดเป็นมากกว่า ร้อยละ 97 ของเป้าหมายปี 2568 ที่ 100,000 MWh/ปี

Kasel Knight รองประธานอาวุโสและที่ปรึกษาทั่วไปกล่าวว่า “หน้าปกของรายงานประจำปีนี้เป็นภาพจากสารคดีเรื่อง Everest ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องจริงอันน่าทึ่งของทีมนักปีนเขาสี่คนที่ขึ้นไปบนยอดเขา “Milliken และ Polartec กำลังสนับสนุนการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องนี้อีกครั้งในวันครบรอบ 25 ปี สำหรับเรา เรื่องราวการทำงานเป็นทีม ความหวัง และความอุตสาหะนี้เหมาะสมกับรายงานปี 2564 ของเราเป็นอย่างมาก เป้าหมายของเราสูงส่ง แต่การทำงานร่วมกัน ทำให้เรารู้ว่าเราจะประสบความสำเร็จในวันพรุ่งนี้ที่สดใสและที่มีสุขภาพดีขึ้นได้”

หากต้องการดูรายงานฉบับสมบูรณ์ โปรดไปที่คลังความรู้ Milliken's Sustainability ที่นี่

เกี่ยวกับ Milliken

Milliken & Company เป็นผู้นำด้านการผลิตระดับโลกที่มุ่งเน้นด้านวิทยาศาสตร์วัสดุเพื่อนำเสนอความก้าวหน้าสำหรับวันหน้า Milliken  ใช้ตั้งแต่โมเลกุลชั้นนำของอุตสาหกรรมไปจนถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ยกระดับชีวิตของผู้คนและนำเสนอโซลูชั่นสำหรับลูกค้าและชุมชน ด้วยสิทธิบัตรหลายพันรายการและพอร์ตโฟลิโอที่มีการใช้งานทั่วทั้งธุรกิจสิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ปูพื้น เคมี และการดูแลสุขภาพ บริษัทใช้ความรู้สึกร่วมกันของความซื่อสัตย์และความเป็นเลิศเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกจากรุ่นสู่รุ่น ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคิดที่อยากรู้อยากเห็นของ Milliken และโซลูชันที่เป็นแรงบันดาลใจได้ที่ milliken.com และที่ Facebook, Instagram, LinkedIn กับ Twitter.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220422005043/en/

ติดต่อ:

Betsy Sikma

betsy.sikma@milliken.com

864.909.7908

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Milliken & Company ได้รับเลือกให้เป็นบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลกปี 2565 เป็นปีที่ 16 ติดต่อกัน

Logo

รายชื่อรางวัลด้านจริยธรรมขั้นสุดท้ายถือเป็นการยกย่องที่โดดเด่นสำหรับผู้ผลิตที่หลากหลาย

สปาร์ตันเบิร์ก เซาท์แคโรไลนา–(BUSINESS WIRE)–15 มีนาคม 2565

Milliken & Company ได้รับการยกย่องจากสถาบัน Ethisphere ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในการกำหนดและพัฒนามาตรฐานการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลกปี 2565 หรือ 2022 World’s Most Ethical Companies ผู้ผลิตระดับโลกที่มีความหลากหลาย ซึ่งมีมากกว่า 60 แห่งและพนักงานประมาณ 8,000 รายทั่วโลก เป็นหนึ่งในหกบริษัทที่ได้รับรางวัลเกียรติคุณตามหลักจริยธรรมอันทรงเกียรติทุกปีตั้งแต่เริ่มก่อตั้งรางวัล

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220315005184/en/

Milliken is one of six companies included on the list for the last 16 years. (Graphic: Business Wire)

Milliken เป็นหนึ่งในหกบริษัทที่มีอยู่ในรายชื่อในช่วง 16 ปีที่ผ่านมา (กราฟิก: Business Wire)

“สถาบัน Ethisphere และโปรแกรมบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลกเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่สำคัญสำหรับวิธีการดำเนินธุรกิจของเรา” Halsey Cook ประธานและซีอีโอของ Milliken & Company กล่าว “การได้รับการยกย่องนี้เป็นเวลาถึง 16 ปีติดต่อกันเป็นการตอกย้ำถึงวัฒนธรรมและความมุ่งมั่นของสมาชิกทีม Milliken ทั่วโลก มันคือสิ่งที่เราเป็น”

ในปี 2565 มีผู้ได้รับรางวัล 136 คน ครอบคลุม 22 ประเทศและ 45 อุตสาหกรรม Milliken เป็นหนึ่งในผู้ผลิตอุตสาหกรรมเจ็ดราย ด้วยการประเมินภายใต้ระบบ Ethics Quotient® ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของสถาบัน Ethisphere กระบวนการประเมินบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลกที่จะได้รับคะแนนจากการให้ข้อมูลผ่านคำถามมากกว่า 200 ข้อเกี่ยวกับวัฒนธรรม บทบาททางสิ่งแวดล้อมและสังคม บทบาททางจริยธรรม การกำกับดูแลกิจการ และการสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมที่แข็งแกร่ง กระบวนการนี้ทำหน้าที่เป็นกรอบการดำเนินงานเพื่อรวบรวมและประมวลแนวทางปฏิบัติชั้นนำขององค์กรในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และทั่วโลก

การดำเนินงานของ Milliken ในฐานะหนึ่งในบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลกแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยตระหนักว่าจริยธรรมนั้นยึดถือความสำเร็จระยะยาวของบริษัทสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด

“ขอแสดงความยินดีกับ Milliken ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลกเป็นครั้งที่ 16” Timothy Erblich ซีอีโอของสถาบัน Ethisphere กล่าว “เราขอชมเชยทีมงาน Milliken ทั้งหมดสำหรับความสำเร็จที่สำคัญอย่างแท้จริงและความมุ่งมั่นของพวกเขาในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกและยั่งยืนโดยการสร้างวัฒนธรรมแห่งจริยธรรมและวัตถุประสงค์อย่างตั้งใจ”

ผู้ได้รับเกียรติ

รายชื่อบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลกปี 2565 สามารถดูได้ที่นี่

เกี่ยวกับ Milliken

บริษัท Milliken & Company เป็นผู้นำด้านการผลิตระดับโลกที่มุ่งเน้นด้านวัสดุศาสตร์เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าในวันพรุ่งนี้ จากอุตสาหกรรมโมเลกุลชั้นนำไปจนถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน Milliken สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ยกระดับชีวิตของผู้คนและนำเสนอโซลูชั่นสำหรับลูกค้าและชุมชน ด้วยสิทธิบัตรหลายพันรายการและพอร์ตโฟลิโอที่มีการใช้งานในวงการอุตสาหกรรมสิ่งทอ วัสดุปูพื้น เคมีพิเศษ และการดูแลสุขภาพ บริษัทใช้ความรู้สึกร่วมกันของความซื่อสัตย์และความเป็นเลิศเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกหลายยุคสมัย ค้นหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดที่น่าสนใจและแรงบันดาลใจในการแก้ไขปัญหาของบริษัท Milliken ได้ที่ milliken.com และบน FacebookInstagramLinkedIn และ Twitter.

เกี่ยวกับสถาบัน Ethisphere

สถาบัน Ethisphere® เป็นผู้นำระดับโลกในการกำหนดและยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม ซึ่งกระตุ้นคุณลักษณะขององค์กร ความไว้วางใจในตลาด และความสำเร็จทางธุรกิจ สถาบัน Ethisphere มีความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งในการวัดและกำหนดมาตรฐานจริยธรรมหลักโดยใช้ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลซึ่งช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ได้ปรับปรุงลักษณะองค์กรและวัดผลและปรับปรุงวัฒนธรรม ทั้งนี้สถาบัน Ethisphere ยกย่องความสำเร็จที่เหนือกว่าผ่านโปรแกรมการยกย่องบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลก และมอบชุมชนผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมด้วย Business Ethics Leadership Alliance (BELA) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถาบัน Ethisphere สามารถค้นหาได้ที่: https://ethisphere.com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220315005184/en/

ติดต่อสื่อ
Betsy Sikma, Milliken
betsy.sikma@milliken.com
864.909.7908

Anne Walker, Ethisphere
Anne.Walker@Ethisphere.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย