Tag Archives: 2022

Milliken & Company ฉลองครบรอบ 5 ปีสำหรับความคืบหน้าในรายงานความยั่งยืนประจำปี 2022 “FOR HUMANKIND”

Logo

การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ที่ได้รับการยืนยันแล้วสะท้อนถึงผลกระทบด้านความยั่งยืนทั่วโลกในระยะสั้นและระยะยาวของบริษัท

สปาร์ตันเบิร์ก –(BUSINESS WIRE)–19 เมษายน 2023

Milliken & Company ผู้ผลิตระดับโลกที่มีความหลากหลายเผยแพร่รายงานความยั่งยืนประจำปีฉบับที่ 5 ซึ่งมีชื่อว่า “For HumanKind” ในวันนี้ รายงานติดตามความคืบหน้าของ Milliken เกี่ยวกับเป้าหมายความยั่งยืนปี 2025 ซึ่งเดิมกำหนดไว้ในปี 2019 และให้ข้อมูลพื้นฐานเริ่มต้นสำหรับเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ซึ่งได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการในปี 2022 รายงานแสดงให้เห็นว่าความยั่งยืนส่งผลต่อธุรกิจของ Milliken ในปัจจุบันอย่างไร และเป็นส่วนสำคัญต่ออนาคตของบริษัท

Milliken's sustainability report, entitled

รายงานความยั่งยืนของ Milliken เรื่อง “For HumanKind” ซึ่งแบ่งปันความคืบหน้าในช่วงเวลาห้าปีสำหรับเป้าหมายความยั่งยืนของบริษัท (ภาพ: Business Wire)

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20230419005301/en/

การประกาศของ Milliken สำหรับเป้าหมายระยะสั้นและยาวของบริษัทเพื่อบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ได้เพิ่มมิติใหม่ให้กับความพยายามเพื่อความยั่งยืนของบริษัท Milliken เป็นหนึ่งใน 50 บริษัทแรกของโลกและบริษัทแรกในเซาท์แคโรไลนาที่มีเป้าหมายบนพื้นฐานวิทยาศาสตร์ซึ่งได้รับการอนุมัติจากโครงการริเริ่ม Science Based Targets (SBTi) ที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติ เป้าหมายเหล่านี้ได้รวมกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนอีก 12 เป้าหมายที่ Milliken กำหนดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการทำงานกับผู้คน ผลิตภัณฑ์ของบริษัทและโลกใบนี้โดยมองผ่านผลประโยชน์ของมนุษย์และวิทยาศาสตร์

“นับเป็นแรงบันดาลใจที่ได้เห็นสิ่งที่เราทำสำเร็จในเวลาเพียงไม่กี่ปี เราทราบดีว่าเราสามารถเดินหน้าต่อไปได้ในขณะที่เราระดมผู้ร่วมงาน ผู้ถือหุ้น พันธมิตร และลูกค้าของเราให้เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาความท้าทายที่เร่งด่วนที่สุดของโลก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” Halsey Cook ประธานและซีอีโอของ Milliken กล่าว “งานของเรายังไม่สิ้นสุด และเราทราบดีว่าการทำงานเป็นทีมเป็นกุญแจสำคัญในการเร่งนวัตกรรมที่จะปลดล็อกความสำเร็จ ไม่เพียงแต่สำหรับตัวเราเอง แต่สำหรับมนุษยชาติทั้งหมด”

นอกจากนี้ ในปี 2022 Milliken ยังประกาศว่าจะยุติการใช้ PFAS ในเส้นใยและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปในกลุ่มผลิตภัณฑ์สิ่งทอ โดยจะยุติในเดือนธันวาคม 2022 เพื่อให้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาพลาสติกที่หมดอายุการใช้งาน มูลนิธิองค์กรของ Milliken ซึ่งเป็นมูลนิธิเพื่อการกุศลของ Milliken & Company ได้ลงทุนในศูนย์พันธมิตรการรีไซเคิลเพื่อพฤติกรรมและผลกระทบที่ยั่งยืน ซึ่งนำเสนอโซลูชันที่จับต้องได้เพื่อเพิ่มอัตราการรีไซเคิลในครัวเรือนของสหรัฐฯ ความหลากหลายในทีมผู้บริหารของ Milliken ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 10% ตั้งแต่ปี 2018 โดยคิดเป็นความหลากหลายทางเพศ 36% และความหลากหลายทางเชื้อชาติ/ชาติพันธุ์ 17% โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Milliken ยังบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่จัดทำดัชนีลง 25% ในการดำเนินงานในปีนี้ และตอนนี้จะมุ่งเน้นไปที่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากขึ้นตามเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์

Kasel Knight รองประธานอาวุโสของ Milliken และที่ปรึกษาทั่วไปกล่าวว่า “ความพยายามด้านความยั่งยืนของเรายังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เมื่อเปลี่ยนจากเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์แบบองค์รวมมากขึ้น” “เราภูมิใจในสิ่งที่เราประสบความสำเร็จในปี 2022 และเรามั่นใจว่าเราจะปรับปรุงความพยายามของเราด้วยโอกาสใหม่ ๆ ในการดำเนินตามเป้าหมายในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกสำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป”

สามารถดูรายงานความยั่งยืนของ Milliken ปี 2022 ได้ที่ milliken.com/sustainability ควบคู่ไปกับทรัพยากรการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์และรายงานของปีก่อนหน้าเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Miliken

Milliken & Company เป็นผู้นำด้านการผลิตระดับโลกที่มุ่งเน้นด้านวัสดุศาสตร์เพื่อมอบความก้าวหน้าแห่งอนาคตในวันนี้ Milliken สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยยกระดับชีวิตของผู้คนและนำเสนอโซลูชันสำหรับลูกค้าและชุมชน ตั้งแต่โมเลกุลระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมไปจนถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน  จากสิทธิบัตรหลายพันรายการและกลุ่มผลิตภัฑณ์ที่มีการนำไปใช้ในธุรกิจสิ่งทอ เคมีพิเศษ พื้น และการดูแลสุขภาพ บริษัทใช้ความรู้สึกร่วมกันในความซื่อสัตย์และความเป็นเลิศเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกสำหรับรุ่นต่อรุ่น สำรวจเพิ่มเติมเกี่ยวกับใจที่อยากรู้อยากเห็นของ Milliken และวิธีแก้ปัญหาที่ได้รับแรงบันดาลใจได้ที่ milliken.com และบน Facebook, Instagram และ LinkedIn

ดูต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20230419005301/en/

เนื้อหาใจความในภาษาตน้ ฉบับของขา่ วประชาสัมพันธฉ์ บับนี้เป็นฉบับทเี่ ชอื่ ถอื ไดแ้ละเป็นทางการ การแปลต ้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออ านวยความสะดวกเท่านั้น และควรน าไปเทียบเคียงอ ้างอิง กับเนื้อหาในภาษาต ้นฉบับ ซงึ่ เป็นฉบับเดยี วทมี่ ผี ลทางกฎหมาย

ติดต่อเรา

Betsy Sikma
betsy.sikma@milliken.com
864.909.7908

ที่มา: Milliken & Company

Huawei เปิดเผยรายงานประจำปี 2022: การดำเนินงานที่มั่นคง การอยู่รอดอย่างยั่งยืน และการพัฒนา

Logo

เซินเจิ้น จีน–(BUSINESS WIRE)–10 เมษายน 2023

Huawei เปิดเผยรายงานประจำปี 2022 ในวันนี้ บริษัทรายงานการดำเนินงานที่มั่นคงตลอดปี 2022 โดยสร้างรายได้ 642.3 พันล้านหยวน และกำไรสุทธิ 35.6 พันล้านหยวน Huawei ยังคงเพิ่มความแข็งแกร่งในการลงทุนด้าน R&D โดยมีค่าใช้จ่ายประจำปี 161.5 พันล้านหยวนในปี 2022 ซึ่งคิดเป็น 25.1% ของรายได้ประจำปีของบริษัท และทำให้ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาทั้งหมดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีค่ามากกว่า 977.3 พันล้านหยวน

(Photo: Huawei)

(Photo: Huawei)

“ในปี 2022 สภาพแวดล้อมภายนอกที่ท้าทายและปัจจัยที่ไม่ใช่ตลาดยังคงส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ Huawei” Eric Xu ประธานหมุนเวียนตามวาระของ Huawei กล่าวในงานแถลงข่าวรายงานประจำปีของบริษัท “ท่ามกลางมรสุมนี้ เรายังคงก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อรักษาความต่อเนื่องทางธุรกิจและให้บริการลูกค้า นอกจากนี้ เรายังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอเพื่อรักษาความอยู่รอดของเรา และวางรากฐานสำหรับการพัฒนาในอนาคต”

นอกจากนี้ Sabrina Meng ที่เป็น CFO ของ Huawei ยังเข้าร่วมงานด้วย เธอกล่าวว่า “แม้จะมีแรงกดดันอย่างมากในปี 2022 แต่ผลประกอบการทางธุรกิจโดยรวมของเราก็ยังคงเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ณ สิ้นปี 2022 อัตราส่วนหนี้สินของเราอยู่ที่ 58.9% และยอดเงินสดสุทธิของเราอยู่ที่ 176.3 พันล้านหยวน นอกจากนี้ สินทรัพย์รวมของเรามียอดคงเหลือถึงหนึ่งล้านล้านหยวน ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยสินทรัพย์หมุนเวียน เช่น เงินสด เงินลงทุนระยะสั้น และสินทรัพย์การดำเนินงาน สถานะทางการเงินของเรายังคงแข็งแกร่งและมีความยืดหยุ่นสูง ในปี 2022 การใช้จ่ายด้าน R&D ทั้งหมดของเราอยู่ที่ 161.5 พันล้านหยวน ซึ่งคิดเป็น 25.1% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Huawei ในช่วงเวลาแห่งความกดดัน เรากดดันก็จริงแต่ก็เต็มไปด้วยความมั่นใจ”

ในปี 2022 รายได้จากธุรกิจผู้ให้บริการ องค์กร และผู้บริโภคของ Huawei อยู่ที่ 284 พันล้านหยวน 133.2 พันล้านหยวน และ 214.5 พันล้านหยวนตามลำดับ

Huawei เป็นผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งในการเติบโตไปพร้อมกับพันธมิตรในระบบนิเวศ และเชื่อว่าการเปิดกว้างและการทำงานร่วมกันจะนำไปสู่ความสำเร็จร่วมกัน บริษัทยังคงใช้ความสามารถของแพลตฟอร์มในพอร์ตโฟลิโอ HarmonyOS, Kunpeng, Ascend และคลาวด์ โดยมุ่งเน้นที่การปรับปรุงประสบการณ์ของนักพัฒนา ตลอดจนการเปิดใช้งานและสนับสนุนพันธมิตรระบบนิเวศในทุกด้าน ปัจจุบัน Huawei ทำงานร่วมกับนักพัฒนามากกว่า 9 ล้านคนและพันธมิตรระบบนิเวศกว่า 40,000 ราย เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมที่อิงกับระบบนิเวศและสร้างมูลค่าที่มากขึ้นให้กับลูกค้า

“ปี 2023 จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความอยู่รอดและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของ Huawei” Xu กล่าว “ดอกบ๊วยมีแนวโน้มจะงดงามยิ่งขึ้นจากฤดูหนาวอันหนาวเหน็บ ทุกวันนี้ Huawei ก็เหมือนดอกบ๊วย แม้ว่าจะเป็นความจริงที่เรามีแรงกดดันมากมายรออยู่ข้างหน้า แต่เราก็มีสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดี พร้อมโอกาสในการเติบโต พอร์ตโฟลิโอธุรกิจที่ยืดหยุ่น ความได้เปรียบในการแข่งขันที่ไม่เหมือนใคร ความไว้วางใจที่ยั่งยืนจากลูกค้าและพันธมิตรของเรา และความกล้าที่จะลงทุนอย่างมากใน R&D เรามั่นใจในความสามารถของเราที่จะอยู่เหนือความท้าทายใด ๆ ที่เข้ามา โดยวางรากฐานที่มั่นคงเพื่อความอยู่รอดและการพัฒนาที่ยั่งยืน”

งบการเงินทั้งหมดในรายงานประจำปี 2022 ได้รับการตรวจสอบอย่างแน่ชัดโดย KPMG ซึ่งเป็นบริษัทบัญชีระดับบิกโฟร์ระดับนานาชาติ หากต้องการดาวน์โหลดรายงานประจำปี 2022 โปรดไปที่ https://www.huawei.com/en/annual-report/2022

หมายเหตุ: อัตราแลกเปลี่ยนปิดปี 2022 คือ US$1.00 = CNY6.9533

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/53371516/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

corporate.comms@huawei.com

ที่มา: Huawei

Techtronic Industries มอบผลลัพธ์ที่แข็งแกร่งประจำปี 2022

Logo

อัตรากำไรขั้นต้นขยายเป็น 39.3% EBIT เพิ่มขึ้นเป็น 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–1 มีนาคม 2023

บริษัทอุปกรณ์ไฟฟ้า การดูแลพื้นและทำความสะอาดระดับโลก บริษัท Techtronic Industries จำกัด (“TTI” หรือ “กลุ่มบริษัท”) (รหัสหุ้น: 669, สัญลักษณ์ ADR: TTNDY) มีความยินดีที่จะประกาศผลการรวมบัญชีที่ตรวจสอบแล้วของบริษัทและบริษัทในเครือสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2022 TTI แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของรูปแบบธุรกิจในปี 2022 ในสภาพแวดล้อมการดำเนินงานที่ท้าทายมากขึ้น หลังจากเพิ่มฐานรายได้เกือบสองเท่าจากปี 2018 ถึง 2021 กลุ่มบริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 2.8% ในสกุลเงินท้องถิ่นในปี 2022 เนื่องจากการเติบโตที่ไม่ธรรมดาของธุรกิจ MILWAUKEE

  • ธุรกิจ MILWAUKEE ที่สำคัญที่สุดของเราเติบโต 21.8% ในสกุลเงินท้องถิ่น
  • กระแสเงินสดอิสระเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังจนถึงสิ้นปีที่ 329 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นสำหรับปีที่ 14 ติดต่อกันเป็น 39.3% เพิ่มขึ้น 54 คะแนนพื้นฐาน

สรุปผลการดำเนินงานทางการเงินปี 2022

2022 *ล้าน

ดอลลาร์สหรัฐ

2021 ล้าน

ดอลลาร์สหรัฐ’

การเปลี่ยนแปลง

รายได้

13,254

13,203

+0.4%

อัตรากำไรขั้นต้น

39.3

%

38.8

%

+54bps

EBIT

1,201

1,192

+0.8%

กำไรส่วนที่เป็นของเจ้าของบริษัท

1,077

1,099

(2.0

%)

กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (เซ็นต์สหรัฐ)

58.86

60.04

(2.0

%)

เงินปันผลต่อหุ้น (ประมาณ US cents)

23.81

23.81

อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 14 จาก 38.8% ในปี 2021 เป็น 39.3% ในปี 2022 TTI EBIT เพิ่มขึ้น 0.8% เป็น 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐโดยมีอัตรากำไรเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 9.1% กำไรสุทธิลดลง 2.0% เป็น 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐเนื่องจากดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น กำไรต่อหุ้นลดลง 2.0% เป็น 58.86 เซนต์ กลุ่มบริษัทสร้างกระแสเงินสดอิสระ 329 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีการปรับปรุงอย่างมากในครึ่งปีหลัง เงินทุนหมุนเวียนจนถึงยอดขายสิ้นปีนี้อยู่ที่ 21.2% เทียบกับ 20.9% ในปีที่แล้ว สิ่งสำคัญคือ จำนวนวันของสินค้าสำเร็จรูปคงคลังลดลง 3 วันเป็น 113 วัน ณ สิ้นปี

ธุรกิจอุปกรณ์ไฟฟ้าของ TTI ซึ่งคิดเป็น 93.0% ของยอดขายทั้งหมด เติบโต 5.5% ในสกุลเงินท้องถิ่น MILWAUKEE เติบโตขึ้น 21.8% ในสกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งชดเชยการลดลงของธุรกิจผู้บริโภคและธุรกิจทำความสะอาดพื้นของเรา ในธุรกิจอุปกรณ์ไฟฟ้า TTI สร้างการเติบโตในระดับเลขสองหลักในระดับต่ำในยุโรปและ ROW พร้อมกับการเติบโตในเชิงบวกในธุรกิจหลักในอเมริกาเหนือ

คณะกรรมการแนะนำให้จ่ายเงินปันผลครั้งสุดท้ายที่ 90.00 เซนต์ฮ่องกง (ประมาณ 11.58 เซนต์สหรัฐ) ต่อหุ้น เมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่ 95.00 เซนต์ฮ่องกง (ประมาณ 12.23 เซนต์สหรัฐ) ต่อหุ้น ส่งผลให้เงินปันผลทั้งปีอยู่ที่ 185.00 เซนต์ฮ่องกง (ประมาณ 23.81 เซนต์สหรัฐ) ต่อหุ้น เช่นเดียวกับปีที่แล้ว

Mr. Horst Pudwill ประธาน TTI กล่าวว่า “ด้วยกระแสเงินสดอิสระที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งและงบดุลที่แข็งแกร่ง TTI อยู่ในสถานะที่ดีที่จะขยายตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรม มืออาชีพ และผู้บริโภคทั่วโลก เรามีความมั่นใจอย่างสูงในความสามารถของเราในการเดินหน้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดและสร้างผลงานที่เหนือกว่าตลาดในปี 2023”

Mr. Joseph Galli ซีอีโอของ TTI แสดงความคิดเห็นว่า “TTI อยู่ในสถานะที่ดีที่จะทำผลงานได้ดีกว่าตลาดในปี 2023 เราไม่เพียงกำหนดขนาดฐานต้นทุน SG&A ที่เหมาะสมเท่านั้น แต่ยังปรับปรุงตำแหน่งค่าโสหุ้ยคงที่ของเราและจัดการระดับการผลิตของเราอย่างรอบคอบในขณะเดียวกันก็พัฒนาสายผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นนวัตกรรม”

เกี่ยวกับ TTI

TTI เป็นผู้นำระดับโลกในด้านเทคโนโลยีไร้สาย ซึ่งครอบคลุมถึงเครื่องมือไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้ากลางแจ้ง ผลิตภัณฑ์ดูแลพื้นและทำความสะอาดสำหรับ DIY ผู้บริโภค มืออาชีพ และผู้ใช้อุตสาหกรรมในบ้าน การก่อสร้าง การบำรุงรักษา อุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัทมีรากฐานที่สร้างขึ้นจากปัจจัยขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์ 4 ประการ อันได้แก่ แบรนด์ที่ทรงพลัง ผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรม บุคลากรที่ยอดเยี่ยม และความเป็นเลิศในการดำเนินงาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ระยะยาวที่กว้างขวางในการพัฒนาเทคโนโลยีไร้สาย กลยุทธ์การเติบโตระดับโลกของการแสวงหานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อย่างไม่ลดละทำให้ TTI ก้าวขึ้นสู่แถวหน้าของอุตสาหกรรมในขณะที่ยังคงรักษามาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลในระดับสูง กลุ่มผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพของ TTI ได้แก่ เครื่องมือไฟฟ้า MILWAUKEE, AEG และ RYOBI, อุปกรณ์เสริมและเครื่องมือช่าง, ผลิตภัณฑ์กลางแจ้ง RYOBI และ HOMELITE, ผลิตภัณฑ์เค้าโครงและเครื่องมือวัด EMPIRE และผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นทำความสะอาดพื้น HOOVER, ORECK, VAX และ DIRT DEVIL

TTI ก่อตั้งขึ้นในปี 1985 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในปี 1990 และเป็นหนึ่งในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี Hang Seng, ดัชนีมาตรฐานความยั่งยืนขององค์กร Hang Seng, ดัชนี FTSE RAFITM All-World 3000, ดัชนี FTSE4 Good Developed และ MSCI ดัชนี ACWI หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.ttigroup.com

เครื่องหมายการค้าทั้งหมดที่ระบุไว้นอกเหนือจาก AEG และ RYOBI เป็นของกลุ่มบริษัท AEG เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ AB Electrolux (มหาชน) และใช้ภายใต้ใบอนุญาต RYOBI เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Ryobi Limited และใช้ภายใต้ใบอนุญาต

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สำหรับคำถามเกี่ยวกับนักลงทุนสัมพันธ์:

หน้าหลัก
นักลงทุนสัมพันธ์ TTI
โทรศัพท์: +1 (954) 541-9660
อีเมล: ir@ttihq.com

เอเชีย/แปซิฟิก
นักลงทุนสัมพันธ์ TTI
โทรศัพท์: +(852) 2402 6888
อีเมล: ir@tti.com.hk

ที่มา: บริษัท Techtronic Industries จำกัด

Midea Group ได้รับรางวัล 2022 Forbes China สุดยอด 50 ธุรกิจอุตสาหกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

Logo

ฝอซาน, จีน–(BUSINESS WIRE)–15 กุมภาพันธ์ 2023

ในช่วงต้นปีนี้ Forbes ได้เผยแพร่รายชื่อ “2022 Forbes China สุดยอด 50 ธุรกิจอุตสาหกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน”  ซึ่งมี Midea Group รวมอยู่ในรายชื่อดังกล่าวด้วยเนื่องจากผลงานที่โดดเด่นในด้านการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความเป็นกลางทางคาร์บอน การพัฒนาที่ยั่งยืน และโครงสร้างแบบ ESG

Midea Group Awarded as 2022 Forbes China TOP 50 Sustainable Development Industrial Enterprises (Graphic: Business Wire)

Midea Group ได้รับรางวัล 2022 Forbes China สุดยอด 50 ธุรกิจอุตสาหกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Graphic: Business Wire)

การประเมินมุ่งเน้นไปที่ตัวชี้วัดอย่างเฉพาะเจาะจง 5 มิติ ได้แก่ “ระบบการจัดการ นวัตกรรมทางเทคโนโลยี ผลประโยชน์ที่ครอบคลุม การจัดสรรทรัพยากร รวมไปถึงการสาธิตและส่งเสริม” บริษัทที่ได้รับเลือกในปีนี้คือบริษัทอุตสาหกรรมทั้งหมดที่ก่อตั้งมาอย่างน้อย 10 ปี และมีรายได้ต่อปีมากกว่า 100 พันล้านหยวน พร้อมกับมีการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาที่เพิ่มขึ้นประมาณ 50% เมื่อเทียบเป็นรายปี พวกเขายังแสดงให้เห็นถึงข้อได้เปรียบที่สำคัญเหนือคู่ค้าในระดับโลกและมีเทคโนโลยีล้ำสมัยซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดในโลก
ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา Midea ได้ปรับปรุงและทำให้ระบบการจัดการการพัฒนาอย่างยั่งยืนของตนสมบูรณ์แบบ โดยได้ผสานแนวคิดของการพัฒนาอย่างยั่งยืนไว้ในแทบทุกขั้นตอนของการผลิตและการดำเนินงาน ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการทำตามความมุ่งมั่นที่จะสร้างคุณค่าร่วมกันกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้สำเร็จ

Midea Shunde Industrial Park ใช้ระบบ PV แบบกระจาย อุปกรณ์จัดเก็บพลังงาน อุปกรณ์ HVAC ประสิทธิภาพสูง (รวมถึงยูนิตเชื่อมต่อ MDV8 หลายตัว) ลิฟต์อัจฉริยะดิจิทัล LINVOL โมดูลการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ และสายการผลิตอัตโนมัติเพื่อทำให้การเป็นสำนักงานสีเขียวและการผลิตคาร์บอนโดยมีต้นทุนต่ำสำเร็จ ความพยายามดังกล่าวนำไปสู่การรับรองโดย LEED & WELL ด้วยแพลตฟอร์มดิจิทัลของ iBUILDING ระบบการจัดการคาร์บอนและระบบโครงข่ายไฟฟ้าของ Midea Shunde Industrial Park ได้รับการผนวกรวมเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ และยังบรรลุถึงความเป็นกลางทางคาร์บอนในพื้นที่สำนักงานอีกด้วย

ปัจจุบันโรงงาน Midea Chongqing ได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสีเขียวและประหยัดพลังงานมากกว่า 15 รายการ แอปพลิเคชันฉากดิจิทัล 8 รายการ การรับรองและการให้คำปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม 3 รายการ และยังมีการเข้าถึงระบบข้อมูลมากกว่า 10 ระบบ และยังเพิ่มสัดส่วนของพลังงานสะอาดและไฟฟ้าสีเขียวอย่างมีนัยสำคัญด้วยการติดตั้งแผง PV บนหลังคา ผนังอาคารที่มีแผงโซลาร์เซลล์แสงอาทิตย์แบบบูรณาการ และไฟถนนพลังงานแสงอาทิตย์ นอกจากนี้ โรงงาน Midea Chongqing ยังได้รับใบรับรองคาร์บอนเป็นกลาง PAS2060 ทำให้กลายเป็นหนึ่งในโรงงานต้นแบบที่ปลอดคาร์บอนแห่งแรกของ Midea

ด้วยคำแนะนำจากการให้คำปรึกษาด้านคาร์บอนขั้นสูงสุด โรงงาน Midea Jingzhou ได้สร้างเส้นทางปลอดคาร์บอนซึ่งประกอบด้วยสี่ขั้นตอน ได้แก่ การวางแผนและการออกแบบ การก่อสร้าง การดำเนินงาน และการปฏิรูป นอกจากนี้ บริษัทยังใช้โซลูชันคาร์บอนเป็นศูนย์ที่สำคัญเพื่อให้ได้รับการรับรองทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและเรื่องคาร์บอนเป็นศูนย์ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพและการจัดการพลังงานดังกล่าว ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและการบำรุงรักษาจะลดลง 30% และการใช้พลังงานของโรงงานจะลดลง 5-20% โดยทั้งหมดนี้คือความพยายามในการลดคาร์บอน

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ดูเวอร์ชันต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20230213005693/en/

ติดต่อ

Lori Luo   luory17@midea.com

 

แหล่งที่มา: Midea Group

สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมไอทีแห่งปูซานประสบความสำเร็จในโครงการฝึกอบรม ASEAN-ROK XR ปี 2022

Logo

  • โครงการฝึกอบรม ASEAN-ROK XR ที่มีระยะเวลา 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 2 ธันวาคม เสร็จสิ้นลงแล้ว
  • มีเจ้าหน้าที่จากกลุ่มประเทศอาเซียน ได้แก่ กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม และเนปาล จำนวน 19 คน เข้าร่วมโครงการ
  • ส่งเสริมโครงการความร่วมมืออาเซียน-เกาหลีผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูล XR และ Metaverse ระหว่างประเทศ

ปูซาน เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–18 มกราคม 2023

สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมไอทีแห่งปูซาน (ประธาน Jeong Mun-Seob) ประกาศเสร็จสิ้นโครงการฝึกอบรม ASEAN-ROK XR โดยมีผู้เข้าร่วม 19 คนจากองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ตลอดจนเจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นที่ ASEAN-ROK ICT Convergence Village ในเมืองปูซาน

ในช่วงห้าวันตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายนถึงวันที่ 2 ธันวาคม ทีมงานได้พัฒนามาตรการความร่วมมือเฉพาะระหว่างเกาหลีและอาเซียนในด้าน XR และเทคโนโลยี metaverse

โครงการฝึกอบรมนี้จัดขึ้นโดยสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมไอทีแห่งปูซาน ศูนย์ข้อมูลและเครือข่ายระหว่างประเทศสำหรับมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภายใต้การอุปถัมภ์ของ UNESCO (อธิบดี Kim Ji-Sung) และองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยว สำหรับเมืองในเอเชียแปซิฟิก (เลขาธิการ Woo Kyoung-Ha)

โครงการฝึกอบรมนี้จัดขึ้นเพื่อพัฒนาความร่วมมือในด้านการท่องเที่ยว XR และมรดกทางวัฒนธรรมระหว่างเกาหลีและประเทศในอาเซียน โครงการประกอบด้วยการฝึกอบรมทฤษฎี XR/Metaverse การแนะนำกรณีศึกษาของการท่องเที่ยวเกาหลี XR/Metaverse และการบรรจบกันของมรดกทางวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมเทคโนโลยี การเยี่ยมชมโรงงานและบริษัทที่สำคัญในเกาหลี และการเขียนข้อเสนอโครงการร่วมกันโดยทีมงานและที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

ผู้เข้ารับการฝึกอบรมประกอบด้วยสมาชิก 19 คนจากสี่ประเทศในอาเซียน (กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม) และเนปาลจาก ICT องค์กรที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว และรัฐบาลท้องถิ่น โดยจากความรู้ที่ได้รับจากโครงการฝึกอบรม พวกเขาได้เสนอโครงการความร่วมมือในด้านการท่องเที่ยวและมรดกทางวัฒนธรรม

ข้อเสนอโครงการความร่วมมือทั้งหมดเก้ารายการมาจากโครงการฝึกอบรม ได้แก่

1) กัมพูชา, นครวัด, การพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อส่งเสริมการตระหนักรู้เกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรม, FIND ANGKOR

2) อินโดนีเซีย Metatourism ในเมืองบาตู

3) เนปาล การให้ข้อมูลเกี่ยวกับทัวร์เสมือนจริงผ่านการเปลี่ยนแปลงของภูมิภาคเนปาล

4) มาเลเซีย พิพิธภัณฑ์มีชีวิตในรัฐซาราวักในโลกความเป็นจริงอันสมบูรณ์

5) มาเลเซีย AIVACHI (ข้อมูลมรดกทางวัฒนธรรมของผู้ช่วยเสมือนปัญญาประดิษฐ์)

6) มาเลเซีย แกลเลอรีการท่องเที่ยวอัจฉริยะไทปิง (TAIPING SMART TOURISM GALLERY)

7) เวียดนาม การเล่าเรื่องเพื่อส่งเสริม UNESCO ICH ผ่าน VR อย่างเทศกาล Giong ของคนเวียดนามในวัด Phu Dong และวัด Soc

8) เวียดนาม การประยุกต์ใช้ XR-METAVERSE ในการอนุรักษ์อาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่ในนครโฮจิมินห์และเมืองไฮฟอง

9) เวียดนาม การแปลงข้อมูลโบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์และมรดกทางวัฒนธรรมใน Long An ไปสู่รูปแบบดิจิทัล

ผู้เชี่ยวชาญจะหารือเกี่ยวกับโครงการที่มีแนวโน้มมากที่สุดซึ่งจะได้รับโปรโมตเป็น 'โครงการความร่วมมือเกาหลี-อาเซียน XR' ในปีหน้า

Jeong Mun-Seob ประธานและซีอีโอของ BIPA กล่าวว่า “ผ่านโครงการฝึกอบรมนี้ เราได้ขยายความเป็นไปได้ของความร่วมมือในด้าน XR และ metaverse กับเกาหลีและอาเซียน ความร่วมมือเกาหลี-อาเซียน XR คาดว่าจะเพิ่มโอกาสให้กับบริษัทเกาหลีในการเข้าสู่ตลาด ตลอดจนส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างเกาหลีและประเทศในอาเซียนผ่านเครือข่ายที่ขยายออกไป “

Kim Ji-Sung ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลและเครือข่ายระหว่างประเทศสำหรับมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกภายใต้การอุปถัมภ์ของ UNESCO กล่าวว่า “ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่เร็วขึ้นตั้งแต่การระบาดของ COVID-19 ความพยายามผสานรวมเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น XR และ metaverse กับมรดกทางวัฒนธรรมกำลังได้รับความสนใจ โครงการฝึกอบรมนี้จะขยายโอกาสให้คนรุ่นหลังในอาเซียนได้มีส่วนร่วมกับความสนใจในการคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรม”

“XR·Metaverse เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ได้รับความสนใจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว เมื่อเร็ว ๆ นี้ TPO ยังประสบความสำเร็จในการประชุมสามัญครั้งที่ 10 ภายใต้หัวข้อการฟื้นฟูการท่องเที่ยวและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการส่งเสริมการท่องเที่ยว” กล่าวโดย Woo Kyoung-Ha เลขาธิการองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวสำหรับเมืองในเอเชียแปซิฟิก (TPO) “เราจะพยายามต่อไปเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของผู้เข้ารับการฝึกอบรมและเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างเกาหลีและอาเซียนบนพื้นฐานความร่วมมือระหว่างสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมไอทีแห่งปูซานและ TPO”

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมไอทีแห่งปูซาน
Hanah
+82-51-783-1170
hanah@busanit.or.kr
http://www.busanit.or.kr/

แหล่งที่มา: Busan IT Industry Promotion Agency

eCloudvalley อยู่ในอันดับที่ 18 ซึ่งเป็น MSP บนคลาวด์สาธารณะ 250 อันดับแรกของโลกในปี 2022 อ้างอิงตาม ChannelE2E

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–17 มกราคม 2023

จากข้อมูลของ ChannelE2E นั้น eCloudvalley Digital Technology อยู่ในอันดับที่ 18 ใน MSP (Managed Service Providers) บนคลาวด์สาธารณะ 250 อันดับแรกของโลกในปี 2022 ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา eCloudvalley ได้รับการแต่งตั้งให้อยู่ในรายชื่อที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกติดต่อกันเป็นปีที่ห้า และรักษาตำแหน่ง MSP 20 อันดับแรกของโลก รายการ MSP บนคลาวด์สาธารณะ 250 อันดับแรกของ ChannelE2E ได้ระบุและยกย่องผู้ให้บริการที่มีการจัดการชั้นนำ (MSP) ที่สนับสนุนลูกค้าบน Amazon Web Services (AWS), Microsoft Azure, Google Cloud Platform (GCP) และแพลตฟอร์มคลาวด์อื่น ๆ

eCloudvalley ในฐานะ AWS Premier Tier Services Partner ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในด้านความเชี่ยวชาญในการบริการระบบคลาวด์ที่มีการจัดการ ตั้งแต่ปี 2016 eCloudvalley ได้ผ่านการตรวจสอบ AWS MSP เป็นประจำทุกปี และได้รับความพึงพอใจของลูกค้า 96% สำหรับบริการด้านเทคนิคตาม “แบบสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า eCloudvalley MSP ปี 2021”

เมื่อเทคโนโลยีคลาวด์กลายเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ การจัดการคลาวด์จึงเป็นส่วนสำคัญในการลงทุนด้านไอที เมื่อเร็ว ๆ นี้ Gartner คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายของผู้ใช้ปลายทางบนคลาวด์สาธารณะทั่วโลกจะสูงถึงเกือบ 600 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2023 ซึ่งบริการการจัดการและรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์นั้นคาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 22% ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงถึงประมาณ 41.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ

คุณ Linda Lin ผู้จัดการทั่วไปของ Cloud BU ของ eCloudvalley กล่าวว่า “เมื่อเผชิญกับสภาพแวดล้อมระบบคลาวด์ที่ซับซ้อนมากขึ้น องค์กรต่าง ๆ ควรจัดลำดับความสำคัญของการปรับคลาวด์ให้เหมาะสม สภาพแวดล้อมคลาวด์ที่ปลอดภัย และการฝึกอบรมผู้มีความสามารถพิเศษบนคลาวด์ บริการ eCloudvalley MSP มีทีมงานที่ชำนาญพร้อมวิศวกรที่ผ่านการรับรองมากมาย เมื่อรวมกับทีม MSP ของเราและ “Atlas” แพลตฟอร์มการจัดการคลาวด์ที่พัฒนาขึ้นเอง เรามั่นใจในการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาของเราที่จะช่วยลูกค้าเพิ่มประสิทธิภาพด้านไอทีด้วยการจัดการคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น”

บริษัท eCloudvalley จึงมุ่งมั่นที่จะให้บริการคลาวด์ระดับองค์กร ในปี 2022 บริษัทได้รับรางวัล AWS Specialized Partner of the Year (ASEAN) พร้อมด้วยลูกค้าที่แน่นหนา ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์บน AWS ทำให้ eCloudvalley ให้บริการแอปพลิเคชันระบบคลาวด์ที่หลากหลาย รวมถึงบริการที่มีการจัดการ, การรักษาความปลอดภัย, AI, DevOps, การจัดการคาร์บอน, ERP และ CRM

เกี่ยวกับ eCloudvalley

บริษัท eCloudvalley คือ AWS Premier Tier Services Partner ซึ่งในวันนี้ เราได้รับการรับรองระดับมืออาชีพของ AWS มากกว่า 600 รายการ ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ที่ยิ่งใหญ่ถึงความน่าเชื่อถือและการใช้งานจริงของโซลูชันของเรา ในฐานะพันธมิตรที่เกิดในระบบคลาวด์ที่มุ่งเน้นไปที่บริการของ AWS ทั้งหมด เรามีพนักงานที่เชี่ยวชาญมากกว่า 600 คน ซึ่งประจำอยู่ทั่วโลก ทั้งไต้หวัน จีน ฮ่องกง / มาเก๊า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม

เรียนรู้เกี่ยวกับ eCloudvalley : https://www.ecloudvalley.com/en/p/about-ecloudvalley

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

มีเดีย

Siaoyu Chien siaoyu.chien@ecloudvalley.com
Cathy Ye cathy.ye@ecloudvalley.com

แหล่งที่มา: eCloudvalley

CTBC Holding ฉลองผลการดำเนินงานที่ทำลายสถิติในปี 2022

Logo

ไทเป ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–6 มกราคม 2023

CTBC Holding ทำผลงานที่เหนือกว่า โดยสร้างสถิติด้วยการคว้ารางวัลใหญ่ 290 รางวัลในปี 2022 ความสำเร็จรวมถึงการคว้ารางวัล Taiwan Banking and Finance Best Practice Awards 7 รางวัล และ James Chen ประธาน CTBC Holding ยังเป็นผู้นำธุรกิจชาวไต้หวันคนแรกที่ได้รับรางวัล CEO แห่งปีประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดย International Data Corp (IDC) บริษัทวิเคราะห์ชั้นนำระดับโลกที่เชี่ยวชาญด้านการวิจัยตลาดเทคโนโลยีสารสนเทศ ในแง่ของอันดับความน่าเชื่อถือ Moody’s Investors Service ได้ยืนยันอันดับเครดิตของ CTBC Financial และ CTBC Bank ที่ A3 และ A1 ตามลำดับ โดยยังคงรักษาตำแหน่งของ CTBC Holding ให้เป็นแบรนด์ชั้นนำในแง่ของคุณภาพธุรกิจและความสามารถระดับมืออาชีพ

CTBC Holding celebrates record-breaking performance in 2022 (Photo: Business Wire)

CTBC Holding ฉลองผลการดำเนินงานที่ทำลายสถิติในปี 2022 (ภาพ: Business Wire)

James Chen ประธาน CTBC Holding กล่าวว่า CTBC ล้ำหน้ากว่าใครในการนำความคิดริเริ่มใหม่ ๆ มาใช้และนำเสนอชุดบริการทางการเงินที่ครอบคลุมผ่านการรวมทรัพยากรจากบริษัทสาขาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าสังเกตว่าผลการดำเนินงานของ CTBC Bank ยังคงมีเสถียรภาพตลอดปี 2022 และเป็นธนาคารแห่งเดียวที่ปฏิบัติตามข้อกำหนดค่าธรรมเนียมเงินกองทุนสำหรับธนาคารที่มีความสำคัญเชิงระบบภายในประเทศของไต้หวัน (D-SIBs) ก่อนปี 2025 โดยครองตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมการธนาคารของไต้หวัน

จาก 290 รางวัลที่ CTBC Holding ได้รับนั้นรวมถึงรางวัลอันทรงเกียรติระดับนานาชาติและระดับภูมิภาค 41 รางวัล ในขณะที่ CTBC bank โชว์ผลงานโดดเด่นคว้ารางวัลกลับบ้านกว่า 180 รางวัล นอกจากนี้ ธนาคารยังได้รับรางวัล Renewable Energy M&A Deal of the Year, Global และ Global Finance’s Sustainable Finance Awards โดย CTBC ยังมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการเงินดิจิทัลมาอย่างยาวนาน ดังนั้น จึงนำแนวคิด “Phygital Banking” มาใช้ที่สาขา 152 แห่งทั่วไต้หวัน เพื่อตอบสนองความต้องการบริการทางการเงินดิจิทัลในยุคหลังการระบาดใหญ่

ในฐานะสมาชิกของ Alliance of Sustainable Finance Pioneers นั้น CTBC Holding มุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ที่กำหนดโดยสหประชาชาติและส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในไต้หวัน นอกจากนี้ ในปี 2022 Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ได้เลือกให้ CTBC Holding เป็นส่วนประกอบของดัชนี DJSI World อีกครั้ง และจัดอยู่ในดัชนี DJSI Emerging Markets เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน ในอนาคต CTBC Holding จะยังคงรักษาจิตวิญญาณของแบรนด์ที่ว่า “เราคือครอบครัวเดียวกัน” และมุ่งมั่นที่จะให้บริการทางการเงินที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53155903/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์│CTBC Bank Co., Ltd.
ชื่อ: Pamela Chen
อีเมล: pamela.chen@ctbcbank.com
โทร: +886-2-3327-7777 ต่อ 6724

แหล่งที่มา: CTBC Holding

Mary Kay Inc. ประกาศรางวัล เหตุการณ์สำคัญ และความสำเร็จตลอดทั้งปี 2022

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–29 ธันวาคม 2022

ชมดอกไม้ไฟสีชมพูเนื่องจาก Mary Kay Inc. กำลังฉลองความสำเร็จประจำปี ตลอดปี 2022 บริษัทผู้ประกอบการชั้นนำระดับโลกแห่งนี้ได้ต่อยอดนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์ผิวหนัง สานต่อความยั่งยืนและความพยายามในการสร้างผลกระทบทางสังคม และได้รับรางวัลอันทรงเกียรติสำหรับธุรกิจและความเป็นผู้นำ เป็นสิ่งที่สวยงามและเป็นข้อพิสูจน์ว่าแบรนด์ที่มีอายุเกือบ 60 ปียังคงเป็นผู้นำสำหรับผู้หญิงทั่วโลก

ด้านล่างนี้คือความสำเร็จบางส่วนจากตลอดปี 2022 คลิกที่นี่เพื่อดูรายการทั้งหมด

แนวทาง (ETHOS) และ ระบบนิเวศ (ECOSYSTEM): ความเป็นเลิศทางธุรกิจ

สถานที่ที่ดีในการทำงาน

  • Resume.io เผยแพร่อันดับของ “บริษัทที่พนักงานไม่อยากออก” โดย Mary Kay อยู่ในอันดับที่ 8 บริษัทอื่น ๆ ได้แก่ Virgin Atlantic, Merck & Co. และ Thomson Reuters
  • Mary Kay ได้รับรางวัลนายจ้างดีเด่นสี่รางวัลทั่วยุโรปและมาเลเซียจาก Kincentric
  • Mary Kay ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งในนายจ้างขนาดกลางที่ดีที่สุดในอเมริกาประจำปี 2022 โดย Forbes
  • Deloitte เสนอชื่อ Mary Kay ให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีการจัดการยอดเยี่ยมของสหรัฐอเมริกาประจำปี 2022
  • Mary Kay China ได้รับรางวัล “นายจ้างดีเด่นแห่งปี” โดย Yidian Zixun
  • Mary Kay China ได้รับรางวัล “ต้นแบบนวัตกรรมทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยมในประเทศจีนระหว่างปี 2021-2022” ในการประชุม China Business Innovation Conference ครั้งที่ 9 สำหรับ Mary Kay Beauty Consultant ในฐานะต้นแบบร่วมสมัยของโอกาสในการสร้างรายได้ที่ยืดหยุ่น
  • Mary Kay China ได้รับรางวัล “นายจ้างแพลตฟอร์มการพัฒนาอาชีพที่ดีที่สุด” จาก China Business Journal
  • Mary Kay China ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรณีปฏิบัติ DEI ใน “การขับเคลื่อน DEI ให้เป็นคู่มือแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในปี 2022” ที่รวบรวมโดย Page Group ด้วยการร่วมมือกับ sHero
  • Mary Kay China ได้รับรางวัล “สุดยอดบริษัทชั้นนำสำหรับสตรี” จาก sHero
  • Mary Kay Poland ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งใน “นายจ้างดีเด่นประจำปี 2022” ของโปแลนด์โดยนิตยสาร Financial
  • Mary Kay Czech Republic / Slovakia ได้รับรางวัล “นายจ้างดีเด่น” จากโครงการ Kincentric Best Employers
  • Mary Kay Belarus ได้รับรางวัล “รางวัลบริษัทเครื่องสำอางขายตรงอันดับหนึ่ง” จากรางวัลระดับชาติประจำปี “อันดับหนึ่ง” ของเบลารุส
  • Mary Kay Spain ได้รับรางวัล “นายจ้างดีเด่น” จากโครงการ Kincentric Best Employers
  • Mary Kay Europe ได้รับรางวัล “นายจ้างดีเด่น” จากโครงการ Kincentric Best Employers
  • Mary Kay Malaysia ได้รับรางวัล “นายจ้างดีเด่น” จากโครงการ Kincentric Best Employers

ประสิทธิผลขององค์กร

  • Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการได้ขยายบทบาทของเธอในการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนกลยุทธ์ดิจิทัลของบริษัทเพื่อให้เป็นธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น โดยฟังก์ชันด้านไอทีทั้งหมดจะรายงานให้เธอทราบ
  • Nathan Moore ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายขายและการตลาดทั่วโลก และรับหน้าที่ดูแลตลาดของ Mary Kay ทั้งหมดทั่วโลกที่สนับสนุนที่ปรึกษาด้านความงามของ Mary Kay
  • Chaun Harper ขยายบทบาทของเขาเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ซัพพลายเชน โดยมีหน้าที่รับผิดชอบเพิ่มเติมสำหรับฟังก์ชันการจัดซื้อโดยตรงและการทำสัญญาจ้างผลิต
  • Dr. Lucy Gildea ขยายบทบาทของเธอไปสู่ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และวิทยาศาสตร์ โดยหน้าที่เพิ่มเติมของเธอ ได้แก่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ กลยุทธ์และการวางแผนกลุ่มผลิตภัณฑ์ การพัฒนากระบวนการและการพาณิชย์ (PrD&C) วิศวกรรมบรรจุภัณฑ์ (PE) และการปฏิบัติตาม R&D

การให้ความสำคัญกับความเป็นผู้นำ

  • David Holl ประธานเจ้าหน้าที่บริหารได้รับรางวัล Bravo Leadership Award จาก Direct Selling News
  • Julia Simon ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายและเลขานุการบริษัทได้รับรางวัล Robert H. Dedman Award for Ethics & Law จาก Texas General Counsel Forum อีกทั้ง Simon ยังทำหน้าที่เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ที่สนับสนุนความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างของพนักงานในองค์กร
  • Sheryl Adkins-Green หัวหน้าเจ้าหน้าที่รับฟังประสบการณ์จริงจากทั้งลูกค้าและพนักงานในบริษัท ได้รับเลือกให้เป็น Dallas 500 โดย D CEO ซึ่งยกย่องผู้นำที่มีอิทธิพลในเท็กซัสตอนเหนือ

วิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงาม

  • ผู้รับทุน 6 คนจากทั่วโลกได้รับทุนที่สร้างขึ้นเพื่อยกระดับหญิงสาวในสาขา STEAM และสนับสนุนให้พวกเธอสานต่อความหลงใหลและอาชีพการงาน
  • Mary Kay ร่วมมือกับ Society for Investigative Dermatology มอบทุนวิจัยสุขภาพผิวหนัง/โรคผิวหนัง 4 ทุนแก่นักวิจัยหญิง
  • Mary Kay ได้รับรางวัล Gold Stevie Award สำหรับ “COVID: Most Valuable Product” สำหรับเจลทำความสะอาดมือที่งาน American Business Awards ประจำปีครั้งที่ 20

นวัตกรรมดิจิทัล

  • Mary Kay® App ได้รับการเสนอชื่อให้เข้ารอบสุดท้ายในหมวดนวัตกรรมเทคโนโลยีโดย Direct Selling Association
  • Mary Kay China RC Store เป็นกรณีศึกษาทางธุรกิจที่โดดเด่นในการวิจัย “การเชื่อมโยงระหว่างเพศในยุคดิจิทัล” ซึ่งริเริ่มร่วมกันโดยวิทยาลัยสังคมศาสตร์เซี่ยงไฮ้และองค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ

วัตถุประสงค์และผลกระทบทางสังคม: ตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

การเสริมสร้างพลังอำนาจและความเท่าเทียมของผู้หญิง

  • สนับสนุนโดย Mary Kay สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศจัดการแข่งขันนวัตกรรมแบบเปิด โดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญได้เลือกแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดทางดิจิทัล 10 ข้อและโซลูชันดิจิทัลเพื่อสร้างระบบนิเวศที่รวมเพศมากขึ้นสำหรับสตาร์ทอัพและสเกลอัพเพื่อจัดการกับอุปสรรคมากมายที่ผู้ประกอบการสตรีต้องเผชิญกับการพัฒนาเทคโนโลยี
  • Mary Kay China ริเริ่ม “Pearl Retrieval Project” ซึ่งอุทิศเพื่อช่วยเหลือเด็กผู้หญิงจากภูมิหลังที่ด้อยโอกาสให้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายโดยได้รับโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพและเท่าเทียมกัน
  • Mary Kay China Independent Beauty Consultants ได้รับรางวัล “Women's Power” จาก Sohu.com บริษัทอินเทอร์เน็ตของจีน
  • Deborah Gibbins กล่าวสุนทรพจน์ในงานที่จัดโดย Women’s Entrepreneurship Accelerator (WEA) ในเจนีวา (สวิตเซอร์แลนด์) ในหัวข้อ “ระบบนิเวศนวัตกรรมสำหรับทุกเพศ”
  • Julia Simon ทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินระหว่างงาน We Empower UN SDG Challenge Pitch Night ซึ่งจัดโดย Diane von Furstenberg ที่สตูดิโอของเธอในนิวยอร์กในเดือนกันยายน นำโดย Vital Voices และ Global Futures Laboratory ที่ Arizona State University การแข่งขันนี้เป็นการยกย่องผู้ประกอบการสตรี 5 รายที่พัฒนา SDGs ในชุมชนของตน และให้ผู้ได้รับรางวัลได้รับการฝึกอบรมเสริมสร้างศักยภาพและติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญทางธุรกิจจากทั่วโลก ผู้ชนะในปี 2022 คือ Yetunde Ayo-Oyalowo ผู้ก่อตั้ง Market Doctors ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพแก่ผู้คนกว่า 120,000 คนใน 12 รัฐในไนจีเรีย
  • ด้วยการสนับสนุนโดย Mary Kay สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศได้พัฒนาโครงการเพื่อจัดการกับช่องว่างทักษะด้านดิจิทัลทางเพศโดยให้ผู้หญิงและเด็กหญิงเข้าถึงโมดูลการเรียนรู้คุณภาพสูงฟรีซึ่งจำเป็นต่อความก้าวหน้าในเศรษฐกิจดิจิทัล
  • Mary Kay ประกาศผลของโครงการหมู่บ้านนำร่อง SDG ในประเทศจีน (2017-2021) พร้อมเปิดตัวรายงานผลกระทบในระยะที่ 1 วิดีโอ และบล็อกโพสต์ โครงการหมู่บ้านนำร่อง SDG ก่อตั้งขึ้นใน Waipula ประเทศจีน โดย Mary Kay โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ศูนย์การแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและเทคนิคระหว่างประเทศของจีน มูลนิธิการพัฒนาสตรีจีน และพันธมิตรในท้องถิ่น
  • โครงการหมู่บ้านนำร่อง SDG เข้ารอบสุดท้ายสำหรับรางวัล Reuters Events Responsible Business Awards ภายใต้หมวด “SDG Pioneer Award”
  • Women’s Entrepreneurship Accelerator (WEA) ซึ่งก่อตั้งโดย Mary Kay ร่วมกับหน่วยงาน 6 แห่งของสหประชาชาติ ประกาศเปิดตัวโปรแกรมรับรองการเป็นผู้ประกอบการออนไลน์ฟรีเป็นครั้งแรกที่พัฒนาโดย International Trade Center (ITC) SheTrades
  • การบริจาคเงิน 10 ล้านหยวนของ Mary Kay China และ Entrepreneurship Program ของ Mary Kay Women ให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการสตรีกว่า 46,157 รายใน 23 มณฑลของจีน เพื่อสนับสนุนธุรกิจและเพิ่มรายได้ให้สตรีกว่า 84,000 คน โปรแกรมจะเปลี่ยนเป็น Mulan Acceleration Plan และรวมการสร้างความสามารถนอกเหนือจากสินเชื่อธุรกิจแบบดั้งเดิม
  • Mary Kay สนับสนุน Network for Teaching Entrepreneurship (NFTE) World Series of Innovation (WSI) สำหรับปีการศึกษา 2021-22 ทีมผู้ประกอบการเพื่อสังคมเกิดใหม่ 21 ทีมได้รับรางวัลมูลค่ารวม 16,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับวิธีแก้ปัญหาที่เสนอสำหรับความท้าทาย 7 ประการของ WSI ซึ่งแต่ละทีมมุ่งเน้นไปที่การพัฒนา SDG ผู้สนับสนุนความท้าทายด้านนวัตกรรมทั้งเจ็ด ได้แก่ Bank of the West, Citi Foundation, Mary Kay, Saint-Gobain North America, Ernst & Young, LLP (EY), Maxar Technologies และ PIMCO
  • องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และ WEA เปิดตัวการประเมินการพัฒนาผู้ประกอบการสตรี (WED) ในเม็กซิโก ซึ่งจัดทำโดย Mary Kay หัวข้อ “Evaluación de las condiciones marco para el desarrollo empresarial de la mujer, Sectores de comercio e industria en la Ciudad de México ”

ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการอยู่ร่วมกัน (DEI)

  • ฝ่ายกฎหมายของ Mary Kay ได้รับรางวัล Magna Stella Award จากความพยายามของ DEI โดย Texas General Counsel Forum
  • Mary Kay China ได้รับรางวัล Prime Employer for Women Gold Award และ Driving DEI China Best Practices Award ในพิธีมอบรางวัล sHero ปี 2022
  • ด้วยความร่วมมือกับ Equal Rights Trust ทำให้ Mary Kay ได้ช่วยเริ่มต้น “Algorithmic Discrimination Initiative” ซึ่งเป็นโครงการวิจัยและสนับสนุนรูปแบบใหม่เพื่อรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับรูปแบบการเลือกปฏิบัติที่เกิดจากการใช้ปัญญาประดิษฐ์และระบบการตัดสินใจด้วยอัลกอริทึม
  • ในการประชุม SCC75 ประจำปีของสมาคมนักเคมีเครื่องสำอาง (SCC) คุณ A'Lelia Bundles เหลนของ Madam C.J. Walker และ ดร. Michelle Hines ผู้อำนวยการฝ่ายกำหนดสูตรผลิตภัณฑ์ที่ Mary Kay ได้มอบทุนการศึกษา Madam C.J. Walker สำหรับนักเรียนชนกลุ่มน้อยที่มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำลังศึกษาระดับอุดมศึกษาในสาขาวิชา STEM ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องสำอางและอุตสาหกรรมการดูแลผิวหน้าและผิวกาย
  • Mary Kay เข้าร่วม UN Global Compact Target Gender Equality Accelerator เพื่อติดตามการปรึกษาหารือกลยุทธ์ความเท่าเทียมทางเพศของ UN Global Compact ในเดือนมิถุนายน 2021 เพื่อดำเนินการอย่างลงลึกยิ่งขึ้นตามหลักการเสริมสร้างพลังอำนาจสตรี และเพื่อเสริมสร้างการสนับสนุนของบริษัทใน SDG 5.5 ซึ่งเรียกร้องให้สตรีมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ และโอกาสที่เท่าเทียมกันในการเป็นผู้นำภายในปี 2030

การจัดซื้อจัดจ้างที่ตอบสนองต่อเพศสภาพและความหลากหลายของซัพพลายเออร์

  • Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ได้ลงนามในเอกสารสรุปการสนับสนุนการจัดซื้อจัดจ้างที่ตอบสนองต่อสตรีเพศของ UN ในหัวข้อ “คุณค่าเชิงกลยุทธ์ของการจัดซื้อจัดจ้าง เหตุใดการจัดซื้อตามเพศจึงสมเหตุสมผลทางธุรกิจ
  • Mary Kay ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น Silver Champion ปี 2022 สำหรับความหลากหลายและการอยู่ร่วมกันของซัพพลายเออร์ สำหรับความมุ่งมั่นในการสร้างความหลากหลายและการรวมซัพพลายเออร์ทั่วโลกเกี่ยวกับการใช้จ่าย นโยบาย และขั้นตอนที่ครอบคลุมที่เพิ่มขึ้น เคียงข้างกับ Bayer, Eaton Corporation, Goldman Sachs และ Marriott International
  • Julia Simon ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ที่สนับสนุนความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างของพนักงานในองค์กร พูดในงาน UN Women Europe and Central Asia (ECA) และ KAGIDER เกี่ยวกับผลการสำรวจ GRP ที่จัดทำโดย IPSOS ในตุรกี เพื่อทำความเข้าใจอุปสรรคที่ผู้ประกอบการสตรีต้องเผชิญ Simon เรียกร้องให้ภาคเอกชนและภาครัฐนำกลยุทธ์การจัดซื้อที่คำนึงถึงเพศสภาพมาใช้

การวิจัยโรคมะเร็ง

  • Mary Kay Ash FoundationSM ประกาศมอบเงินสนับสนุน 1 ล้านดอลลาร์แก่นักวิจัย 10 คนซึ่งทำการวิจัยที่ก้าวล้ำเกี่ยวกับมะเร็งที่ส่งผลต่อผู้หญิงจากสถาบันวิจัยมะเร็งและมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ
  • Dr. Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และวิทยาศาสตร์ รับรางวัล Cancer Support Community North Texas Thrive Award ในนามของมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation
  • มูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation ร่วมกับ Harold C. Simmons Comprehensive Cancer Center ที่ UT Southwestern Medical Center ในดัลลาส ประกาศรายชื่อผู้ได้รับทุนนักวิจัยหลังปริญญาเอกระหว่างประเทศในสมาคมวิจัยโรคมะเร็ง ซึ่งก็คือ Dr. Maria del Rosario Chica Parrado นักศึกษาหลังปริญญาเอกด้านชีววิทยาจากมาลากา ประเทศสเปน

ความรุนแรงตามเพศสภาพ (GBV) และความรุนแรงในครอบครัว (DV)

  • Mary Kay ได้รับการยอมรับในเอกสารสำคัญ “การจัดการกับความรุนแรงทางเพศที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง: โอกาสของภาคเอกชนในการมีส่วนร่วม” ที่เผยแพร่ใน UNGA 77 โดย UN Action against Sexual Violence in Conflict Network ซึ่งเป็นหน่วยงานของ UN 21 หน่วยงานที่ทำงานเพื่อป้องกันและตอบสนองต่อความรุนแรงทางเพศที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งและองค์กรที่มุ่งมั่นทำความดี
  • ที่คณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรี (CSW66) รายงานประจำปี 2022 ของกองทุน UN Trust Fund เพื่อยุติความรุนแรงต่อสตรีเกี่ยวกับกิจกรรมปี 2021 ยกย่องมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation และความพยายามของ Mary Kay ในการขจัดความรุนแรงต่อสตรีและเด็กผู้หญิง ร่วมกับรัฐบาลจาก 15 ประเทศและคณะกรรมการสตรีแห่งชาติ 9 แห่งของสหประชาชาติ
  • Mary Kay และมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation สนับสนุนคำแนะนำ GBV สำหรับโปรแกรมการพัฒนาของ CARE ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้งานได้จริงสำหรับการดำเนินการแทรกแซง GBV คุณภาพสูงในพื้นที่ผลกระทบของ CARE ในบริบทที่กำลังพัฒนา
  • Instituto Mary Kay ได้รับการยอมรับจาก Assistiação Brasileira de Venda Direta (ABEVD) สำหรับแคมเปญปี 2021 ของพวกเขาที่สร้างความตระหนักรู้ต่อความรุนแรงทางเพศ “Sinal Vermelho”

การตอบสนองต่อสภาวะฉุกเฉิน

  • ร่วมกับแถลงการณ์สนับสนุน Mary Kay ได้ประกาศการบริจาคให้กับสภากาชาดเพื่ออุทธรณ์วิกฤตมนุษยธรรมยูเครน
  • Mary Kay ได้รับรางวัล American Red Cross Corporate Partner Award สำหรับการตอบสนองต่อความขัดแย้งในยูเครน
  • มูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation ได้รับรางวัล Bronze Stevie Award จากความพยายามบรรเทาทุกข์จากโควิด 19 ที่งาน American Business Awards ประจำปีครั้งที่ 20
  • ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 โครงการการกุศลของ Mary Kay China ได้จัดสรรเงิน 1,049,800 หยวน เพื่อจัดหาวัสดุป้องกันและเครื่องยังชีพให้กับ 73 ชุมชนใน 15 เมืองเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด 19

ผลกระทบต่อสังคมโลกและชุมชนท้องถิ่น

  • Mary Kay อยู่ในอันดับที่ 91 ใน Purpose Power Index นี่เป็นการทำซ้ำครั้งที่สามของการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดที่เคยวัดการรับรู้ถึงจุดประสงค์ของแบรนด์ โดยอิงจากการให้คะแนนส่วนบุคคลมากกว่า 20,500 รายการจากผู้บริโภคและพนักงานกว่า 5,500 คนในสหรัฐฯ ซึ่งครอบคลุมแบรนด์ต่าง ๆ กว่า 200 แบรนด์

ความยั่งยืนและ ESG: ยกระดับชีวิตในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

  • Mary Kay เข้าร่วมในงานที่จัดโดยสำนักเลขาธิการภูมิภาค Coral Triangle Initiative on Coral Reefs, Fisheries, and Food Security (CTI-CFF) การอภิปรายหัวข้อ “ผู้นำสตรีปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพที่ถูกคุกคามของสามเหลี่ยมปะการังและสัตว์ใกล้สูญพันธุ์” เน้นย้ำถึงนวัตกรรมและการดำเนินงานที่ดำเนินการโดยผู้นำสตรีทั่วทั้งสามเหลี่ยมปะการังในการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล
  • ที่คณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรี (CSW66) Women’s Entrepreneurship Accelerator (WEA) เป็นเจ้าภาพจัดเสวนาเรื่อง “การลงทุนในผู้ประกอบการสตรีเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ”
  • สารคดี Forest of Hope ติดตาม Doña Angelica นักรบระบบนิเวศวัย 71 ปี และทีมหญิงล้วนจาก Mujeres Unidas Para La Conservacion De Laguna Sanchez ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรพันธมิตรของ The Nature Conservancy ในเม็กซิโก ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับเลือกอย่างเป็นทางการสำหรับเทศกาลภาพยนตร์สิทธิด้านสิ่งแวดล้อมแห่งรัฐนอร์ทดาโคตาและเทศกาลภาพยนตร์สตรีนานาชาติฮอตสปริงส์ ภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ผลิตโดย Mary Kay ร่วมกับ The Nature Conservancy และเขียนบท กำกับ และอำนวยการสร้างโดยทีมงานหญิงล้วน ก่อนหน้านี้ได้รับการเสนอชื่อให้เข้ารอบรองชนะเลิศในเทศกาล Films for the Forest

ผู้บริหารจัดการน้ำ

  • Mary Kay เข้าร่วมในการปรึกษาหารือกับรัฐบาลของเนเธอร์แลนด์และทาจิกิสถาน เพื่อช่วยกำหนดบทบาทของภาคเอกชนในวาระปฏิบัติการด้านน้ำและการประชุมด้านน้ำของสหประชาชาติปี 2023
  • Mary Kay เข้าร่วมการเสวนาเรื่อง “Making Waves: Women in Water Conservation” ร่วมกับ The Nature Conservancy การสนทนาเสมือนจริงมุ่งเน้นไปที่ผู้นำสตรีจากทั่วโลกที่ลุกขึ้นมาเผชิญกับความท้าทายและเป็นผู้นำความพยายามในการฟื้นฟูสุขภาพของมหาสมุทรของเรา

ความโปร่งใสและการสนับสนุน (การรายงานด้วยตนเองและการอัปเดต)

  • Mary Kay ทำเครื่องมือวิเคราะห์ช่องว่างระหว่างเพศของหลักการเสริมพลังสตรี และแบ่งปันผลการวิจัยกับ BSR ซึ่งเป็นองค์กรผู้เชี่ยวชาญในความรับผิดชอบขององค์กร เกี่ยวกับวิธีที่ผู้เชี่ยวชาญสามารถส่งต่อผลลัพธ์ จากการวิเคราะห์นโยบายและแนวทางปฏิบัติของ Mary Kay ในสายงานธุรกิจต่าง ๆ คะแนนของ Mary Kay อยู่ในหมวด “Achiever” ขั้นตอนต่อไปคือการจัดการกับช่องว่างที่เหลืออยู่ในการดำเนินการตามหลักการเสริมสร้างพลังอำนาจสตรี (WEPs)
  • Mary Kay ส่งความคืบหน้าเกี่ยวกับคำมั่นสัญญาที่มีต่อ Generation Equality Action Coalitions รุ่นที่ 5 Mary Kay ลงทะเบียนเข้าร่วม Action Coalitions ที่ Generation Equality Action Forum ในเดือนกรกฎาคม 2021
  • Mary Kay ส่งรายงานความคืบหน้าของ UN Global Compact Communication ซึ่งพิจารณาหมวดความยั่งยืนดังนี้ ธรรมาภิบาล สิทธิมนุษยชน แรงงาน สิ่งแวดล้อม และการต่อต้านการทุจริต

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash หนึ่งในผู้ที่ทำสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้สำเร็จ ได้ก่อตั้งบริษัทความงามในฝันของเธอในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมผู้หญิงในการเดินทางสู่อิสรภาพทางเศรษฐกิจผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน การสร้างเครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอาง อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ยกระดับความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการทารุณกรรมในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และสนับสนุนให้เด็ก ๆ ทำตามความฝันของพวกเขา สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com หรือค้นหาเราบน FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

ติดต่อ

Mary Kay Inc. Corporate Communications 
marykay.com/newsroom 
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

แหล่งที่มา: Mary Kay

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay Inc. เผยแพร่รายงานความยั่งยืนและผลลัพธ์ทางสังคมประจำปี 2020 – 2022

Logo

รายงานเน้นความยั่งยืนทั่วโลกและผลลัพธ์ทางสังคมของแบรนด์ความงามในตำนานจนถึงปี 2030

DALLAS–(BUSINESS WIRE)–15 ธันวาคม 2022

วันนี้ Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนระดับโลกด้านความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร ได้เผยแพร่รายงานรายละเอียดความคืบหน้าเกี่ยวกับ Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow (ELTFAST) ซึ่งเป็นโครงการความยั่งยืนระดับโลกของแบรนด์

Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow extends Mary Kay's vision to 2030 and beyond. (Credit: Mary Kay Inc.)

การสร้างคุณค่าให้ชีวิตในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนช่วยขยายวิสัยทัศน์ของ Mary Kay ไปจนถึงปี 2030 และปีต่อ ๆ ไป(เครดิต: Mary Kay Inc.)

“เราภูมิใจในความก้าวหน้าที่เราได้ทำบนเส้นทางแห่งความยั่งยืนของเราจนถึงตอนนี้ และเราได้รับแรงบันดาลใจในการดูว่าการกระทำของเราในวันนี้จะจัดการกับความท้าทายระดับโลกสำหรับคนรุ่นอนาคตได้อย่างไร” กล่าวโดย Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. “Mary Kay มีการดำเนินงานในเกือบ 35 ประเทศ ซึ่งเราถือว่านั่นคือความสำเร็จและความรับผิดชอบ การทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนคือแผนงานของเราในการสนับสนุนกลยุทธ์ทางธุรกิจของเรา ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนชุมชนที่เราดำเนินธุรกิจ”

การสร้างคุณค่าให้ชีวิตในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนช่วยขยายวิสัยทัศน์ของ Mary Kay ไปจนถึงปี 2030 และปีต่อ ๆ ไป ซึ่งช่วยสร้างภาพว่า “ดูดี” เป็นอย่างไรสำหรับ Mary Kay ที่ปรึกษาอิสระด้านความงาม ลูกค้า และที่สำคัญที่สุดคือโลกใบนี้ การสร้างคุณค่าให้ชีวิตในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนได้รับการพัฒนาโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญของ Mary Kay และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ ทำให้ Mary Kay เป็นส่วนสำคัญของแนวร่วมระดับโลกเพื่อรับประกันอนาคตที่ดีกว่า

สามารถดูรายงานฉบับเต็มปี 2020 – 2022 ได้ที่นี่ บทสรุปสำหรับผู้บริหารของรายงานมีอยู่ที่นี่

นับตั้งแต่เปิดตัว ELTFAST ในปี 2020 Mary Kay มีความก้าวหน้าอย่างมากในการบรรลุเป้าหมาย แม้ว่าจะมีความท้าทายมากมายจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 รายงานปี 2022 ให้รายละเอียดเกี่ยวกับความพยายามตั้งแต่ปี 2020 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของทศวรรษแห่งการดำเนินการ และเป็นเครื่องยืนยันถึงแรงผลักดันของบริษัทในการส่งมอบการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน

ความเป็นเลิศทางธุรกิจ

  • มุ่งเน้นที่การรักษาวัฒนธรรมของบริษัท Mary Kay ได้รับรางวัลนายจ้าง/สถานที่ทำงานยอดเยี่ยม 13 รางวัล และอยู่ในอันดับที่ 8 ของรายการ “The Companies Employees Don’t Want to Leave” ซึ่งเผยแพร่โดย Resume.io
  • เปิดเผยข้อมูลความหลากหลายทางเพศในการเป็นผู้นำ: ทีมผู้บริหารเป็นผู้หญิง 54% ผู้จัดการและตำแหน่งที่สูงกว่าเป็นผู้หญิง 59% โดย 62% ของพนักงานทั้งหมดเป็นผู้หญิง
  • ในปี 2021 ได้คะแนนการมีส่วนร่วมของพนักงาน 75% ซึ่งเพิ่มขึ้น 6% จากแบบสำรวจการมีส่วนร่วมทั้งหมดในปี 2019 (ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกสำหรับการมีส่วนร่วมของพนักงาน 10%)
  • 38 บริษัทที่ได้รับรางวัลในด้านความเป็นเลิศทางธุรกิจ ผลกระทบต่อสังคม และความยั่งยืน
  • Deloitte เสนอชื่อให้ Mary Kay Inc. เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีการจัดการยอดเยี่ยมประจำปี 2022 ของสหรัฐอเมริกา

การดูแลผลิตภัณฑ์

  • ได้รับการรับรองจาก Forest Stewardship Council (FSC) (สหรัฐอเมริกาเท่านั้น) การรับรอง FSC รับรองว่าผลิตภัณฑ์มาจากป่าที่มีการจัดการอย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งให้ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ
  • 12% ของซัพพลายเออร์ทางอ้อมของเราเป็นผู้หญิง ชนกลุ่มน้อย หรือมีทหารผ่านศึกเป็นเจ้าของ (สหรัฐอเมริกาเท่านั้น)
  • ได้รับการรับรองน้ำมันปาล์ม 88% และเมล็ดในปาล์ม 72%
  • จัดการประชุมสุดยอดซัพพลายเออร์ที่มุ่งเน้นความยั่งยืนที่สำนักงานใหญ่ทั่วโลก
  • ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นแชมป์เหรียญเงินประจำปี 2022 สำหรับความหลากหลายและการอยู่ร่วมกันของซัพพลายเออร์
  • ได้รับการเสนอชื่อและอนุมัติให้เป็นสมาชิกของคณะกรรมการขับเคลื่อนสำหรับ SPICE (กลุ่มผู้ผลักดันบรรจุภัณฑ์ยั่งยืนในกลุ่มอุตสาหกรรมความงาม)

การผลิตที่มีความรับผิดชอบ

  • สนับสนุนมูลนิธิ Arbor Day ในโครงการปลูกป่าทั่วโลกสามโครงการในบราซิล มาดากัสการ์ และสหรัฐอเมริกา
  • วิเคราะห์การใช้น้ำเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องโดยมีแผนติดตั้งมาตรวัดการไหลของน้ำใหม่
  • สนับสนุนโครงการ Global Reefs ของ The Nature Conservancy ผ่านโครงการผลกระทบที่ไม่ซ้ำกัน 12 โครงการ
  • เข้าร่วม Ocean Stewardship Coalition ของ UN Global Compact
  • โรงงานผลิต/R&D ของ Richard R. Rogers (R3) ประกาศว่าได้ผ่านการรับรอง OSHA VPP Star Re-Certification โดยไม่มีข้อค้นพบและคำแนะนำใด ๆ
  • ได้รับการรับรอง OSHA Star Re-Certification

การเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้หญิง

  • เผยแพร่ “การนำร่องการพัฒนาที่ยั่งยืนเชิงพื้นที่ (SDG Localization) ในระดับหมู่บ้าน: โครงการลดความยากจนและการพัฒนาที่ยั่งยืนที่เน้นสตรีในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน” รายงานผลกระทบ (ระยะที่ 1: 2017-2021)
  • ทำให้เครื่องมือวิเคราะห์ช่องว่างระหว่างเพศตามหลักการเสริมพลังของผู้หญิง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าร่วมในตัวเร่งความเท่าเทียมทางเพศเป้าหมายของ UN Global Compact
  • ยกระดับความเป็นผู้นำของผู้หญิงในอุตสาหกรรมประมงในเม็กซิโกผ่านโครงการ 8 โครงการที่ดำเนินการโดย The Nature Conservancy
  • ขับเคลื่อนการเปิดตัวโครงการผู้ประกอบการฟรีในหกภาษาทั่วโลก พัฒนาโดย International Trade Center SheTrades Initiative
  • มอบทุนสนับสนุน STEAM 14 ทุนแก่หญิงสาวทั่วโลกที่มีความฝันในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ STEAM
  • เข้าร่วมโครงการความเสมอภาคทางเพศเป้าหมายของ UN Global Compact เพื่อดำเนินการตามหลักการเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้หญิงให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
  • ส่งแบบสำรวจเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพันธกรณีในแนวร่วมปฏิบัติการสร้างความเท่าเทียม โดยการค้นพบนี้สะท้อนให้เห็นในรายงานความรับผิดชอบด้านความเท่าเทียมกันของการสร้างสตรีแห่งสหประชาชาติประจำปี 2022

ผลลัพธ์ทางสังคม

  • ตั้งแต่ปี 2008 Pink Changing Lives ได้ส่งผลกระทบต่อผู้หญิงและครอบครัวของพวกเธอมากกว่า 6 ล้านคน โดยร่วมมือกับองค์กรกว่า 3,250 องค์กร และบริจาคเงินกว่า 17 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในปี 2022 โครงการส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมได้สนับสนุนองค์กรพัฒนาเอกชนกว่า 20 แห่งทั่วโลก
  • Mary Kay และ Mary Kay Ash Foundation สนับสนุนการพัฒนาและการเปิดตัว “GBV Guidance for Development Programs” และการเปิดตัวใน 10 ประเทศที่เข้ามามีส่วนร่วม ตลอดจนการจัดตั้ง Community of Practice ที่มีสมาชิก 240 คนใน 16 ประเทศจนถึงปัจจุบัน
  • เงินสนับสนุนของ Mary Kay และ Mary Kay Ash Foundation ช่วยให้กองทุน UN Trust เปลี่ยนชีวิตของผู้หญิงและเด็กผู้หญิงจำนวน 54,822 คนที่รอดชีวิตจากความรุนแรงผ่านโครงการ 157 GBV ใน 68 ประเทศในห้าภูมิภาค รวมถึงผู้หญิงและเด็กผู้หญิงที่พิการ ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงผู้พลัดถิ่นในประเทศหรือผู้ลี้ภัย และผู้หญิงและเด็กผู้หญิงที่เป็นชนพื้นเมือง
  • บริจาคเงินกว่า 1.3 ล้านดอลลาร์ให้กับองค์กรระดับโลกที่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้หญิง

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash หนึ่งในผู้ที่ทำสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้สำเร็จ ได้ก่อตั้งบริษัทความงามในฝันของเธอในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมผู้หญิงในการเดินทางสู่อิสรภาพทางเศรษฐกิจผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน การสร้างเครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอาง อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ยกระดับความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการทารุณกรรมในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และสนับสนุนให้เด็ก ๆ ทำตามความฝันของพวกเขา สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com หรือค้นหาเราบน FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53023640/en

ติดต่อ

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

แหล่งที่มา: Mary Kay Inc.






ทีเอ็มบีธนชาต จับมือ เค-เฟรช ร่วมกันคว้ารางวัล SMEs Excellence Awards 2022 การันตีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการธุรกิจ เพื่อต่อยอดการเติบโตลูกค้า SME

Logo

กรุงเทพฯ–(Thai Business News on behalf of ttb)–6 ธันวาคม 2565

img

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี  นำโดย นางพาจนา รุจิเรข (ซ้าย) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริหารความสัมพันธ์ลูกค้าบรรษัทธุรกิจ พร้อมด้วย นางวราภรณ์ มนัสรังษี (ขวา) กรรมการ บริษัท เค-เฟรช จำกัด ร่วมรับรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “SMEs Excellence Awards 2022” ประเภทธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งจัดโดย สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) นับเป็นรางวัลประกาศเกียรติคุณสูงสุดที่มอบให้แก่ผู้ประกอบการ SME ที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการองค์กรแบบองค์รวมที่มีมาตรฐานคุณภาพ และมีศักยภาพในการแข่งขันทั้งในประเทศและระดับสากลได้อย่างยั่งยืน งานดังกล่าวจัดขึ้น ณ ห้องคริสตัล ฮอลล์ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก อะลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น กรุงเทพฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้

นางพาจนา รุจิเรข กล่าวว่า ธนาคารในฐานะเป็นพันธมิตรที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจและอยู่เคียงข้างธุรกิจของลูกค้าในทุกช่วงการเติบโต มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในความสำเร็จของ เค-เฟรช ในการคว้ารางวัลอันทรงเกียรติครั้งนี้ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการบริหารองค์กรอย่างมาก โดยที่ผ่านมา ธนาคารไม่เพียงแต่ให้แหล่งเงินทุนที่เหมาะสมและเพียงพอ แต่ยังเป็นที่ปรึกษาดูแลลูกค้าแบบองค์รวม เพื่อช่วยยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และเติบโตอย่างยั่งยืน

ด้านนางวราภรณ์ มนัสรังษี กล่าวว่า รางวัลทรงเกียรตินี้สร้างความภาคภูมิใจให้กับบริษัทฯ เป็นอย่างมาก เพราะเป็นรางวัลการันตีศักยภาพของบริษัทที่มีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน ซึ่ง ทีทีบี เป็นที่ปรึกษาช่วยผลักดันและให้การสนับสนุนอย่างดีมาโดยตลอด ทำให้บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากน้ำมะพร้าวน้ำหอมให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถเติบโตและแข่งขันในตลาดโลกได้ต่อไป

* * * * * *

#ให้ชีวิตการเงินดีทั้งวันนี้และอนาคต

#เปลี่ยนเพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น #ttb #MakeREALChange

* * * * * *