Tag Archives: productivity

APO Productivity Databook 2025 : การเติบโตและผลิตภาพในเอเชีย ปี 1970–2035

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–08 ตุลาคม 2025

องค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย (APO) เปิดตัว APO Productivity Databook 2025 ฉบับที่ 18 ซึ่งนำเสนอการวิเคราะห์ที่สอดคล้องกันเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจและผลิตภาพของเอเชียตั้งแต่ปี 1970 ถึงปี 2023 พร้อมการคาดการณ์ถึงปี 2035 โดยฉบับปี 2025 นี้ครอบคลุมเศรษฐกิจเอเชีย 33 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วยเศรษฐกิจเอเชียที่เป็นสมาชิก APO 21 ประเทศ และประเทศที่ไม่ใช่สมาชิก 12 ประเทศ และอ้างอิงถึงประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วที่สำคัญเพื่อการเปรียบเทียบ เช่น ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ส่วนอัฟกานิสถานและมัลดีฟส์เพิ่งได้รับการจัดตั้งขึ้นใหม่ในปีนี้

ฐานข้อมูลผลิตภาพของ APO (APO-PDB) ปี 2025 ฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยอ้างอิงการเปรียบเทียบระดับต่างๆ กับเกณฑ์มาตรฐานความเท่าเทียมของอำนาจซื้อของโครงการเปรียบเทียบระหว่างประเทศปี 2021 และบูรณาการฐานข้อมูลด้านแรงงานที่ปรับคุณภาพของเอเชีย (AQALI) และฐานข้อมูลด้านทรัพยากรธรรมชาติของเอเชีย (ANRD) เพื่อยกระดับการวัดคุณภาพแรงงานและที่ดินหรือทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ การปรับปรุงเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างฐานข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของทุน แรงงาน และผลิตภาพปัจจัยรวม (TFP) ต่อการเติบโตของเอเชีย ฐานข้อมูลนี้ยังนำเสนอบัญชีผลิตภาพระดับภูมิภาคสำหรับ Asia27 (APO21 บวกอัฟกานิสถาน ภูฏาน บรูไน จีน มัลดีฟส์ และเมียนมาร์) อาเซียน (สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) เอเชียตะวันออก และ SAARC (สมาคมความร่วมมือแห่งภูมิภาคเอเชียใต้) เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบระดับภูมิภาคได้อย่างสอดคล้องกัน

จุดเด่นของ APO Productivity Databook 2025

  •  แนวโน้มผลิตภาพกว่า 50 ปี และการมองไปข้างหน้าถึงปี 2035: ติดตามการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของเอเชียตั้งแต่ปี 1970 ถึงปี 2023 พร้อมด้วยการคาดการณ์ถึงปี 2035
  •  ขยายความครอบคลุมระดับภูมิภาคด้วยการรวมอัฟกานิสถานและมัลดีฟส์เป็นครั้งแรก: นำเสนอบัญชีผลิตภาพระดับภูมิภาคสำหรับ Asia27, ASEAN, East Asia และ SAARC
  •  การวัดเชิงลึกยิ่งขึ้นด้วยคุณภาพแรงงานและทรัพยากรธรรมชาติ: นำ AQALI 2025 และ ANRD 2025 มาใช้เพื่อปรับปรุงการประมาณค่า TFP ใน APO-PDB 2025
  •  การวิเคราะห์อุปสงค์และอุปทานแบบบูรณาการด้วยวิธีการที่โปร่งใส: นำเสนอการแยกย่อยของผลผลิตด้านแรงงาน (ต่อคนงานและต่อชั่วโมง) ความต้องการและโครงสร้างอุตสาหกรรม รวมถึงรายได้จากกะการทำงานจริง โดยได้รับการสนับสนุนด้วยวิธีการที่สอดคล้องกันและเอกสารแบบเปิด

ตัวอย่างข้อมูล:

APO Productivity Databook 2025 มีให้บริการทั้งในรูปแบบดิจิทัลและสิ่งพิมพ์ สามารถเข้าถึงและดาวน์โหลดได้ฟรีจากลิงก์ด้านล่างนี้
https://doi.org/10.61145/GENB1427

ฐานข้อมูลผลิตภาพของ APO ปี 2025 มีบัญชีผลิตภาพที่ครอบคลุมสำหรับ 27 ประเทศในเอเชีย และสามารถเข้าถึงได้จากลิงก์ด้านล่างนี้
https://www.apo-tokyo.org/productivitydatabook/

เกี่ยวกับ APO

องค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย (APO) เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลระดับภูมิภาคที่อุทิศตนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพผลผลิตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกผ่านความร่วมมือซึ่งกันและกัน องค์การไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมือง ไม่แสวงหากำไร และไม่เลือกปฏิบัติ ก่อตั้งขึ้นในปี 1961 โดยมีสมาชิกผู้ก่อตั้ง 8 ราย ปัจจุบัน APO ประกอบด้วยเศรษฐกิจสมาชิก 21 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ กัมพูชา สาธารณรัฐจีน ฟิจิ ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สปป.ลาว มาเลเซีย มองโกเลีย เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ศรีลังกา ไทย ตุรกี และเวียดนาม

APO กำลังกำหนดทิศทางอนาคตของภูมิภาคโดยส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของสมาชิกผ่านบริการให้คำแนะนำด้านนโยบายระดับชาติ ซึ่งทำหน้าที่เป็นกลุ่มนักคิด ริเริ่มสร้างศักยภาพสถาบัน และการแบ่งปันความรู้เพื่อเพิ่มผลผลิต 

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20251007777758/en

Contacts

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อหน่วยข้อมูลดิจิทัล APO: pr@apo-tokyo.org
เว็บไซต์: https://www.apo-tokyo.org

ที่มา: Asian Productivity Organization


เส้นทางที่เป็นไปได้สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน: APO เปิดตัวกลยุทธ์ Green Productivity 2.0 ที่การประชุม Workshop Meeting ของผู้นำกลุ่ม NPO ครั้งที่ 65

Logo

นาดี ฟิจิ–(BUSINESS WIRE)–28 ตุลาคม 2024

องค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย (The Asian Productivity Organization – APO) ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop Meeting – WSM) ของผู้นำในกลุ่มองค์กรเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ (NPO) ครั้งที่ 65 ในเมืองนาดี ประเทศฟิจิตั้งแต่วันที่ 23 ถึง 25 ตุลาคม งานประจำปีนี้จัดขึ้นโดยรัฐบาลฟิจิ โดยมีหัวหน้ากลุ่ม NPO และที่ปรึกษา 51 คนจากสมาชิก APO 19 ประเทศ เพื่อช่วยกันกำหนดอนาคตของการผลิตที่ยั่งยืนในภูมิภาค โดยมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์การเพิ่มผลผลิตสีเขียว (Green Productivity – GP) และปัญญาประดิษฐ์ (AI)

(Photo: Business Wire)

(รูปภาพ: Business Wire)

เซสชั่นเปิดงานครั้งแรกได้รับเกียรติจากการมาเยือนของรองนายกรัฐมนตรีมาโนอา เซรู นาคาอุซาบาเรีย คามิคามิกาของฟิจิ ซึ่งเน้นย้ำถึงการต้องเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เหมือนใครของประเทศหมู่เกาะในการสร้างสมดุลการเติบโตทางเศรษฐกิจกับการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศอย่างเร่งด่วน เขากล่าวว่า “ในฐานะชาวเกาะที่วิถีชีวิตถูกคุกคามจากผลกระทบที่รุนแรงมากขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยตรง ชาวฟิจิรู้สึกถึงแรงกดดันสองประการในการแสวงหาการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในขณะที่พยายามบรรเทาผลกระทบด้านลบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปด้วยกัน”

ไฮไลท์ของการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้คือการเปิดตัวกลยุทธ์ Green Productivity 2.0 ของ APO: รายงานจาก The Road Ahead ศาสตราจารย์โยอิชิโร มัตสึโมโตะ ที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีประจำกระทรวงการต่างประเทศ (MOFA) ของญี่ปุ่น และสมาชิกสภาที่ปรึกษาการเพิ่มผลผลิตสีเขียว (GPA) ของ APO ได้นำเสนอวิวัฒนาการของแนวคิดการเพิ่มผลผลิตสีเขียว (Green Productivity – GP) นับตั้งแต่ APO เริ่มต้นขึ้นในปี 1994 รายงานฉบับนี้นำเสนอแผนงานที่มีแนวคิดก้าวหน้าสำหรับรัฐบาล ธุรกิจ และบุคคลทั่วไปในการนำกลยุทธ์ GP 2.0 มาใช้ โดยผสานประสิทธิภาพการผลิตเข้ากับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม การนำเสนอจากผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงดร. ชินซู ลิน ประธานคณะทำงานด้านเทคนิคเกี่ยวกับ GP 2.0 และตัวแทนจาก Korea Development Institute (KDI) และ MOFA ของญี่ปุ่นช่วยเน้นย้ำว่าการนำกลยุทธ์การเพิ่มผลผลิตสีเขียว (GO) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาบูรณาการจะสามารถส่งเสริมการเติบโตที่ยั่งยืนในภูมิภาคได้อย่างไร

ประธานาธิบดีฟิจิเอชอี ราตู วิเลียม ไมวาลิลี คาโตนิเวียร์ได้เป็นผู้กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานเลี้ยงต้อนรับซึ่งจัดโดยประธาน APO ปี 2024-25 และผู้อำนวยการฟิจิโจเน มาริติโน่ เนมานี่ เขาเรียกร้องให้มีความร่วมมือระหว่างประเทศมากขึ้นเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและเน้นย้ำบทบาทของ GP ในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน “มาร่วมกันควบคุมพลังการผลิตเพื่อปกป้องโลกของเรา” เขาเร่งเร้า โดยเน้นย้ำถึงความทุ่มเทของฟิจิในการเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก นอกจากนี้ เนมานี ประธาน APO ก็ยังได้ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมสภาที่ปรึกษาการเพิ่มผลผลิตสีเขียว (GPA) ของ APO จากศาสตราจารย์เรียวอิจิ ยามาโมโตะ ซึ่งฝากเชื้อเชิญมาโดยศาสตราจารย์มัตสึโมโตะอีกด้วย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของฟิจิในการพัฒนาความคิดริเริ่มด้านความยั่งยืนในระดับภูมิภาค

นอกจากนี้ การประชุม WSM ยังมีเซสชั่นการวางแผนเชิงกลยุทธ์ซึ่งผู้นำในกลุ่ม NPO หารือเกี่ยวกับแผนโครงการสำหรับปี 2025 และ 2026 ด้วย แผนเหล่านี้มุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนสมาชิก APO ในการใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์การเพิ่มผลผลิตสีเขียว (GO) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อจัดการกับความท้าทายด้านการผลิตที่เร่งด่วน และกำหนดรูปแบบการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ขององค์กรหลังวิสัยทัศน์ปี 2025

ในขณะที่ภูมิภาคเผชิญกับความท้าทายระดับโลกอย่างต่อเนื่อง การประชุม WSM ครั้งที่ 65 ก็ได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำของ APO ในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคม ทั้งยังเสริมสร้างความมุ่งมั่นร่วมกันของเศรษฐกิจสมาชิกเพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่ออนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นอีกด้วย

เกี่ยวกับ APO

Asian Productivity Organization (APO) เป็นองค์กรร่วมระหว่างรัฐบาลระดับภูมิภาคที่มุ่งมั่นเพื่อปรับปรุงผลิตภาพในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกผ่านความร่วมมือร่วมกัน โดยไม่มีความเกี่ยวข้องด้านการเมือง ไม่แสวงหาผลกำไร และไม่เลือกปฏิบัติ APO ก่อตั้งขึ้นในปี 1961 โดยมีสมาชิกผู้ก่อตั้งแปดประเทศ และปัจจุบันประกอบด้วยประเทศสมาชิก 21 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ กัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ฟิจิ ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย อิหร่าน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สปป.ลาว มาเลเซีย มองโกเลีย เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ศรีลังกา ไทย เตอร์กิเย และเวียดนาม

APO มีการดำเนินการเพื่ออนาคตของภูมิภาคโดยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศสมาชิก ผ่านบริการให้คำปรึกษาด้านนโยบายระดับชาติ ทำหน้าที่เป็นคลังความคิด มีโครงการริเริ่มเพื่อสร้างขีดความสามารถระดับสถาบัน และแบ่งปันความรู้เพื่อเพิ่มผลิตภาพ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54142727/en

ติดต่อ

หากต้องการรายละเอียด โปรดติดต่อ:
Digital Information Unit, APO: pr@apo-tokyo.org เว็บไซต์: https://www.apo-tokyo.org

แหล่งข้อมูล: Asian Productivity Organization (APO)

APO Productivity Databook 2024 : แนวโน้มเศรษฐกิจและการคาดการณ์ถึงปี 2035

Logo

โตเกียว–(Business Wire)–23 ตุลาคม 2024

องค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย (APO) เปิดตัว APO Productivity Databook 2024 ฉบับที่ 17 นำเสนอการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจและผลิตภาพตั้งแต่ปี 1970 ถึง 2022 พร้อมการคาดการณ์ถึงปี 2035 ครอบคลุมเศรษฐกิจเอเชีย 31 ประเทศ รวมถึงสมาชิก APO 21 ประเทศ และเศรษฐกิจอ้างอิงระดับโลกที่สำคัญ เช่น ออสเตรเลีย สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา

(Graphic: Business Wire)

(กราฟิก : Business Wire)

หนังสือข้อมูลนี้อ้างอิงจาก ฐานข้อมูลผลิตภาพของ APO ซึ่งบูรณาการ ฐานข้อมูล Asia QALI สำหรับปัจจัยแรงงานที่ปรับคุณภาพ และรวมข้อมูลทรัพยากรแร่และพลังงาน นับเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญสำหรับผู้กำหนดนโยบาย ผู้นำธุรกิจ และนักวิจัยในการทำความเข้าใจภูมิทัศน์เศรษฐกิจของภูมิภาคและสนับสนุนการตัดสินใจที่อิงข้อมูล ด้วยวิธีการที่เข้มงวด หนังสือเล่มนี้ช่วยให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียระบุโอกาสและความท้าทายสำหรับการวางแผนเศรษฐกิจเชิงกลยุทธ์ได้อย่างน่าเชื่อถือ

จุดเด่นของ APO Productivity Databook 2024

  • บัญชีผลิตภาพโดยละเอียด : เปรียบเทียบสมาชิก APO กับเกณฑ์อ้างอิงระดับภูมิภาค แสดงบทบาทของทุน ปัจจัยแรงงาน และผลิตภาพปัจจัยรวม (TFP) ในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ
  • การฟื้นตัวในภาคส่วนสำคัญ : เศรษฐกิจสมาชิกอย่างไต้หวัน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และเวียดนาม แสดงความยืดหยุ่นท่ามกลางการหยุดชะงักจากโควิด-19
  • แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจและผลิตภาพ : ระหว่างปี 1970 ถึง 2022 เอเชียประสบการเติบโตของผลิตภาพที่เปลี่ยนแปลงอย่างมาก นำโดยเศรษฐกิจอย่างสาธารณรัฐจีน (ROC) อินเดีย และญี่ปุ่น ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการเติบโตของ TFP ในช่วงเวลานี้
  • ผลการดำเนินงานรายภาคส่วน : สมาชิก APO บางประเทศแสดงการเติบโตที่แข็งแกร่งในภาคการผลิต ขณะที่ภาคเกษตรยังคงมีความสำคัญ โดยการเพิ่มผลิตภาพได้รับแรงหนุนจากการลงทุนในทุนและเทคโนโลยีมากขึ้น

APO Productivity Databook 2024 มีให้บริการทั้งในรูปแบบดิจิทัลและสิ่งพิมพ์ สามารถเข้าถึงและดาวน์โหลดได้ฟรีจากลิงก์ด้านล่างนี้

https://doi.org/10.61145/SQVZ2821

APO Productivity Database 2024 เครื่องมือออนไลน์ที่ให้ข้อมูลผลิตภาพของ 31 ประเทศในเอเชียและเกณฑ์มาตรฐานจากกลุ่มเศรษฐกิจทั่วโลก ได้มีการอัปเดตและเข้าถึงได้จากลิงก์ด้านล่างนี้

https://www.apo-tokyo.org/productivitydatabook/

เกี่ยวกับ APO

องค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย (APO) เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลระดับภูมิภาคที่มุ่งมั่นปรับปรุงผลิตภาพในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกผ่านความร่วมมือระหว่างกัน เป็นองค์กรที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่แสวงหากำไร และไม่เลือกปฏิบัติ ก่อตั้งขึ้นในปี 1961 โดยมีสมาชิกผู้ก่อตั้ง 8 ประเทศ ปัจจุบัน APO ประกอบด้วยเศรษฐกิจสมาชิก 21 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ กัมพูชา สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ฟิจิ ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี ลาว มาเลเซีย มองโกเลีย เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ศรีลังกา ไทย ทูร์เคีย และเวียดนาม

APO กำลังกำหนดอนาคตของภูมิภาคโดยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของสมาชิกผ่านบริการให้คำปรึกษานโยบายระดับชาติ ทำหน้าที่เป็นคลังสมอง ริเริ่มการเสริมสร้างศักยภาพองค์กร และการแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อเพิ่มผลิตภาพ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: 

https://www.businesswire.com/news/home/54137427/en

ข้อมูลติดต่อ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ :

หน่วยข้อมูลดิจิทัลของ APO : pr@apo-tokyo.org เว็บไซต์ : https://www.apo-tokyo.org

แหล่งที่มา : องค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย (APO)