Category Archives: Real Estate

Modon Holding ประกาศการลงทุนเชิงกลยุทธ์ใน Wellington Lifestyle Partners เพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอระดับโลกในการพัฒนาจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์สุดหรู

Logo

  •  Modon เข้าร่วมกลุ่มนักลงทุนเพื่อยกระดับสนามแข่งม้า Wellington International และพัฒนาจุดหมายปลายทางสุดหรูที่ผสานรวมอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย ธุรกิจบริการ และกีฬาในเมืองเวลลิงตัน ปาล์มบีชเคาน์ตี รัฐฟลอริดา
  •  เสริมความแข็งแกร่งให้กับ Modon ทั่วโลก และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้ในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสานขนาดใหญ่ ธุรกิจบริการ และไลฟ์สไตล์

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–26 พฤศจิกายน 2025

Modon Holding P.S.C (“Modon”) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงอาบูดาบี ในวันนี้ได้ประกาศการลงทุนเชิงกลยุทธ์ใน Wellington Lifestyle Partners (“WLP”) โดยเข้าร่วมกับกลุ่มนักลงทุนที่มีอยู่ในบริษัท

Aerial shot of Wellington International (Photo: AETOSWire)

ภาพถ่ายทางอากาศของสนามบินนานาชาติเวลลิงตัน (ภาพ: AETOSWire)

การลงทุนของ Modon จะสนับสนุนการพัฒนาสนามแข่งม้า Wellington International ในระยะยาว และนำไปสู่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับอัลตราลักชัวรีอันโดดเด่น ซึ่งประกอบด้วยที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ โรงแรมบูติก มาร์เก็ตเพลสเชิงพาณิชย์ และสนามกอล์ฟระดับแชมเปี้ยนชิพในเมืองเวลลิงตัน รัฐฟลอริดา ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ระดับโลกของกีฬาขี่ม้า โดยการลงทุนในครั้งนี้ถือเป็นการลงทุนโดยตรงครั้งแรกของ Modon ในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ขับเคลื่อนด้วยกีฬาขี่ม้าในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะช่วยเสริมพอร์ตการลงทุนระดับโลกที่มีอยู่ และช่วยตอกย้ำถึงกลยุทธ์ในการร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศชั้นนำเพื่อขยายธุรกิจไปทั่วโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับอัลตราลักชัวรี ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างสถานะของ Modon ในฐานะนักลงทุนที่ได้รับการยอมรับระดับโลกในโครงการอสังหาริมทรัพย์และโครงการไลฟ์สไตล์ขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าสูง

ด้วยการลงทุนครั้งนี้ Modon ได้เข้าร่วมกับกลุ่มนักลงทุนและผู้ประกอบการเดิมของ WLP เพื่อพัฒนาพอร์ตโฟลิโออสังหาริมทรัพย์ในหลากหลายประเภท ทั้งไลฟ์สไตล์และกีฬา โดยพอร์ตโฟลิโอนี้ประกอบด้วย Wellington International showgrounds ที่มีชื่อเสียงระดับโลก; The Wanderers Club คลับส่วนตัวสำหรับครอบครัวที่ให้บริการกอล์ฟ เทนนิส สระว่ายน้ำ และร้านอาหาร; The Wellington ชุมชนคลับที่พักอาศัยส่วนตัวแห่งใหม่ที่ประกอบด้วยบ้านพักระดับชั้นนำ 253 หลังที่จะเปิดตัวในปี 2028 พร้อมสนามกอล์ฟระดับแชมเปี้ยนชิพที่ออกแบบโดย David McLay Kidd และมาร์เก็ตเพลสแนวไลฟ์สไตล์ที่ได้รับการออกแบบอย่างมีแบบแผนที่ประกอบด้วยโรงแรมบูติกสุดหรู ที่พักอาศัย ร้านค้า สำนักงาน และร้านอาหารต่างๆ โดยสินทรัพย์เหล่านี้รวมกันเป็นแผนแม่บทระยะยาวเพื่อเสริมสร้างสถานะของเวลลิงตันในฐานะศูนย์กลางกีฬาขี่ม้าและการใช้ชีวิตที่หรูหราระดับโลก

การลงทุนครั้งนี้ยังรวมถึงข้อตกลงเกี่ยวกับสิทธิ์การใช้งานเชิงกลยุทธ์ที่อนุญาตให้ Modon สามารถใช้แบรนด์และทรัพย์สินทางปัญญาของ Wellington International ในตลาดเชิงกลยุทธ์สำคัญหลายแห่งได้ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาไลฟ์สไตล์และจุดหมายปลายทางของชุมชนในอนาคต ภายใต้ข้อตกลงนี้ Modon จะเป็นผู้สนับสนุนหลักของเทศกาลขี่ม้าฤดูหนาว (Winter Equestrian Festival) และเทศกาล Adequan® Global Dressage Festival (AGDF) ซึ่งเป็นการแข่งขันขี่ม้า/กระโดดและเดรสสาจที่ใหญ่ที่สุดและยาวนานที่สุดในโลก ที่ดึงดูดผู้ชมและผู้จัดแสดงสินค้ามากกว่า 250,000 รายในแต่ละปี

ฯพณฯ Jassem Mohamed Bu Ataba Al Zaabi ประธาน Modon Holding กล่าวว่า “การลงทุนเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Modon ที่จะลงทุนร่วมกับพันธมิตรระดับโลกที่มีวิสัยทัศน์เดียวกันในด้านความเป็นเลิศในการพัฒนาจุดหมายปลายทาง โดย Wellington Lifestyle Partners เป็นตัวแทนของความร่วมมืออันโดดเด่นที่ผสานความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ การขี่ม้า การบริการ และชุมชนที่ขับเคลื่อนด้วยกีฬา การขยายธุรกิจของเราไปยังสหรัฐอเมริกา ถือเป็นการตอกย้ำบทบาทของ Modon ในการส่งมอบจุดหมายปลายทางที่ยั่งยืน ซึ่งเปี่ยมด้วยคุณภาพ นวัตกรรม และความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรม”

Bill O’Regan ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท Modon Holding กล่าวเสริมว่า “ความร่วมมือของเรากับ Wellington Lifestyle Partners สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ Modon ในการพัฒนาจุดหมายปลายทางไลฟ์สไตล์แบบบูรณาการที่ผสมผสานชุมชน กีฬา และการต้อนรับขับสู้ ซึ่ง Wellington International ได้รับการยอมรับทั่วโลกในด้านความเป็นเลิศด้านการขี่ม้า และความร่วมมือนี้ถือเป็นโอกาสอันมีค่าในการแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญด้านการดำเนินงาน การวางแผนหลัก และการออกแบบ โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเสริมพอร์ตโฟลิโอของเราในเกาะ Hudayriyat, Ras El Hekma และ La Zagaleta ที่ได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Modon ในการส่งมอบจุดหมายปลายทางระดับโลกที่เปลี่ยนแปลงชีวิต”

Mark Bellissimo ผู้ก่อตั้ง Wellington Lifestyle Partners กล่าวว่า “การผนวก Modon Holding เข้ากับ Wellington Lifestyle Partners จะนำมาซึ่งความเชี่ยวชาญอันโดดเด่น ด้วยประสบการณ์การพัฒนาจุดหมายปลายทางระดับโลกของ Modon, ความเป็นผู้นำของ Doug McMahon และ NEXUS ในการพัฒนาชุมชนระดับลักชัวรี และนักขี่ม้า Murray Kessler ในตำแหน่งซีอีโอของ Wellington International เราจึงอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมือนใครในการเร่งวิสัยทัศน์ของเราเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ด้านคุณภาพสำหรับจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์การขี่ม้าที่นี่ในเวลลิงตัน”

เกี่ยวกับ Modon:

Modon เป็นบริษัทโฮลดิ้งระดับนานาชาติ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อาบูดาบี (ADX) เราเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเมือง สร้างสรรค์งานออกแบบและประสบการณ์ที่โดดเด่นเหนือความคาดหมายอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจหลักของเราประกอบด้วยอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจบริการ การจัดการสินทรัพย์ การลงทุน กิจกรรม และการท่องเที่ยว เป้าหมายของเราคือการส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนในระยะยาว เพื่อสร้างรากฐานสำหรับการใช้ชีวิตอัจฉริยะและเชื่อมต่อถึงกัน

เกี่ยวกับ Wellington Lifestyle Partners:

Wellington Lifestyle Partners (WLP) ตั้งอยู่ที่เมืองเวลลิงตัน โดยได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนเอกชน ได้แก่ Mark Bellissimo, Lisa Lourie, Roger Smith, Jeff Skoll, Mike Smith และ NEXUS Luxury Collection โดย WLP เป็นบริษัทบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจบริการ และกีฬาที่มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ ภายใต้การนำของ Douglas McMahon ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ Paige Nuñez ที่เป็นประธาน โดย WLP ได้บริหารพอร์ตโฟลิโอต่างๆ ซึ่งรวมถึง The Wellington ซึ่งเป็นสโมสรที่พักอาศัยส่วนตัวแห่งใหม่, สนามแสดงสินค้า Wellington International, The Wanderers Club และมาร์เก็ตเพลสเชิงพาณิชย์ที่มีเสน่ห์ ซึ่งรวมถึงโรงแรมบูติกสุดหรู ที่พักอาศัย ร้านค้า สำนักงาน และร้านอาหารต่างๆ โดย WLP มุ่งมั่นที่จะลงทุนในเวลลิงตันต่อไปอีกหลายชั่วอายุคน และสนับสนุนให้เวลลิงตันเป็นจุดหมายปลายทางด้านกีฬาขี่ม้าชั้นนำของโลก www.wlpfl.com

เกี่ยวกับ Wellington International:

Wellington International ก่อตั้งขึ้นในปี 1974 ครอบคลุมพื้นที่กว่า 200 เอเคอร์ ใจกลางเมืองเวลลิงตัน รัฐฟลอริดา และมีชื่อเสียงไปทั่วโลกในฐานะจุดหมายปลายทางชั้นนำด้านกีฬาขี่ม้า ในแต่ละปี สนามแห่งนี้ดึงดูดนักขี่ม้าและนักท่องเที่ยวจาก 50 รัฐของสหรัฐอเมริกา และกว่า 55 ประเทศ มีการจัดการแข่งขันและกิจกรรมระดับโลกตลอดทั้งปี สถานที่แห่งนี้ผสมผสานสนามกีฬาและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับขี่ม้าที่ทันสมัยเข้ากับการต้อนรับระดับวีไอพี ร้านอาหาร และประสบการณ์การค้าปลีก โดยมีส่วนช่วยสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจให้กับเศรษฐกิจของปาล์มบีชเคาน์ตีมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีผ่านการท่องเที่ยว การจ้างงาน และการลงทุนทั่วโลก

ที่มา: AETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/20251125937208/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Salma El Baghdadi, +971555082994
modonholding@webershandwick.com

press@modon.com
ir@modon.com
www.modon.com

ที่มา: Modon


Marjan และ RAK Hospitality Holding ประกาศการควบรวมกิจการครั้งสำคัญเพื่อกำหนดอนาคตของราสอัลไคมาห์ในฐานะจุดหมายปลายทางระดับโลกด้านไลฟ์สไตล์และการลงทุน

Logo

ราสอัลไคมาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–22 ตุลาคม 2025

Marjan ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบกรรมสิทธิ์ในราสอัลไคมาห์ และ RAK Hospitality Holding หน่วยงานด้านการลงทุนและพัฒนาของรัฐบาลในเอมิเรตส์ ประกาศการควบรวมกิจการเชิงกลยุทธ์ครั้งสำคัญ เพื่อสร้างองค์กรที่เป็นหนึ่งเดียวซึ่งดำเนินงานภายใต้ Marjan

Marjan and RAK Hospitality Holding Announce Landmark Merger To Shape The Future Of Ras Al Khaimah As A Global Destination For Lifestyle And Investment (Photo: AETOSWire)

Marjan และ RAK Hospitality Holding ประกาศการควบรวมกิจการครั้งสำคัญเพื่อกำหนดอนาคตของราสอัลไคมาห์ในฐานะจุดหมายปลายทางระดับโลกด้านไลฟ์สไตล์และการลงทุน (ภาพ: AETOSWire)

การควบรวมกิจการครั้งนี้ผสานความเชี่ยวชาญด้านการบริการระดับโลกเข้ากับกลยุทธ์การพัฒนาที่ดินอย่างมีวิสัยทัศน์ เพื่อจัดตั้งองค์กรที่พร้อมรับอนาคตแบบไดนามิก Marjan จะบูรณาการในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การดำเนินงานด้านการบริการ และประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ไว้ภายใต้องค์กรเดียว โดยมุ่งสู่การเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในเอมิเรตส์ตอนเหนือ

ในการประกาศการควบรวมกิจการ ชีคอาห์เหม็ด บิน ซาอุด บิน ซาคร์ อัล กาซิมี ประธานบริษัท Marjan กล่าวว่า “วิสัยทัศน์ RAK 2030 ได้กำหนดความทะเยอทะยานของเอมิเรตส์ในการเป็นผู้บุกเบิกในภูมิภาคนี้ในด้านความเป็นอยู่และโอกาสที่เติบโต ด้วยวิสัยทัศน์นี้ การควบรวมกิจการจะสร้างงานที่มีคุณค่าสูงสำหรับชาวเอมิเรตส์ พัฒนาขีดความสามารถของประเทศ และเสริมสร้างสถานะของเราในฐานะผู้นำแห่งโอกาสและนวัตกรรม เราพร้อมร่วมกันสร้างชุมชนที่เจริญรุ่งเรือง ซึ่งจะนำวิสัยทัศน์อันแน่วแน่ของเอมิเรตส์ในการสร้างความเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืนมาสู่ชีวิต”

โครงการพัฒนาในอนาคตของ Marjan ได้แก่ เกาะ Al Marjan, RAK Central, หาด Marjan และแผนแม่บท Jebel Jais ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย เสริมสร้างประสบการณ์การเดินทางและการพักผ่อน และดึงดูดโอกาสการลงทุนที่หลากหลาย การควบรวมกิจการครั้งนี้สนับสนุนเป้าหมายของ RAK Vision 2030 ที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยว 3.5 ล้านคนต่อปี และบรรลุยอดห้องพักโรงแรมเกือบ 20,000 ห้อง

อับดุลลาห์ อัล อับดูลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม กล่าวว่า “Marjan จะวางตำแหน่งราสอัลไคมาห์ให้เป็นศูนย์กลางด้านไลฟ์สไตล์และการลงทุนระดับโลกแห่งอนาคต”

การควบรวมกิจการครั้งนี้ช่วยให้ Marjan สามารถขับเคลื่อนเอมิเรตส์ไปสู่บทต่อไปของการเติบโต ส่งเสริมการนำเสนอไลฟ์สไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ และดึงดูดผู้มีความสามารถและการลงทุนระดับโลก

เกี่ยวกับ Marjan

Marjan เป็นบริษัทด้านการลงทุน การบริการ และไลฟ์สไตล์ในราสอัลไคมาห์ นิยามใหม่ของการพัฒนาจุดหมายปลายทาง ด้วยการผสมผสานการวางแผนหลักอันมีวิสัยทัศน์เข้ากับการบริการระดับโลกและการใช้ชีวิตในชุมชนที่มีชีวิตชีวา ในฐานะผู้ขับเคลื่อนโครงการอันทรงเกียรติอย่างเกาะ Al Marjan, ชายหาด Marjan, RAK Central และเกาะ Wynn Al Marjan ที่กำลังจะเปิดตัว Marjan กำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของราสอัลไคมาห์ให้กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่มีชีวิตชีวา ยั่งยืน และน่าอยู่ที่สุดในโลกสำหรับนักลงทุน ผู้อยู่อาศัย และนักท่องเที่ยว

*ที่มา: AETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20251022275206/en

Contacts

Nivine William | Burson
Nivine.william@bursonglobal.com

ที่มา: Marjan

Marjan ประกาศเปิดตัวเมืองชายหาดแห่งใหม่ Marjan Beach ที่มีการผสมผสานพื้นที่การใช้งานที่หลากหลาย

Logo

ราสอัลไคมาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–02 ตุลาคม 2025

Marjan ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบกรรมสิทธิ์ในราสอัลไคมาห์ ประกาศเปิดตัว Marjan Beach ที่เป็นจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ในเมืองชายหาดที่มีการผสมผสานพื้นที่การใช้งานที่หลากหลาย โครงการนี้ตั้งเป้าดึงดูดการลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในหลากหลายด้าน อาทิ ไลฟ์สไตล์ อสังหาริมทรัพย์ และการบริการ และช่วยเร่งผลักดันวิสัยทัศน์ RAK 2030 โดย Marjan Beach จะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการพัฒนา RAK ในฐานะจุดหมายปลายทางการลงทุนและเป็นประตูสู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนอันดับหนึ่งของภูมิภาค และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการใช้ชีวิตริมน้ำในกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC)

Marjan Announces New Mixed-Use Beach Town Destination, Marjan Beach (Photo: AETOSWire)

Marjan ประกาศเปิดตัวเมืองชายหาดแห่งใหม่ Marjan Beach ที่มีพื้นที่การใช้งานแบบผสมผสาน (ภาพ: AETOSWire)

จุดหมายปลายทางแห่งนี้ได้รับการออกแบบอย่างมีกลยุทธ์เพื่อมอบการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างการเข้าถึงและการอยู่อาศัย มอบไลฟ์สไตล์สุดหรูให้กับทั้งผู้อยู่อาศัยและนักท่องเที่ยว เมื่อโครงการแล้วเสร็จ โครงการนี้จะมีห้องพักโรงแรม 12,000 ห้อง และที่พักอาศัย 22,000 ยูนิต โดยคาดว่าจะมีประชากรกว่า 74,000 คน และแรงงาน 32,000 คนในโครงการ โดยโครงการพัฒนาที่มีการผสมผสานพื้นที่การใช้งานที่หลากหลายนี้ได้รับการออกแบบให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากถึง 180,000 คนต่อปี ซึ่งสะท้อนถึงบทบาททั้งในฐานะชุมชนที่อยู่อาศัยที่เจริญรุ่งเรืองและจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำ โครงการนี้ประกอบด้วยแปดทำเลที่โดดเด่น ครอบคลุมพื้นที่ 85 ล้านตารางฟุตของผังเมืองหลัก มีพื้นที่ติดชายหาดยาวสามกิโลเมตร และพื้นที่สีเขียวเปิดโล่ง 6.5 ล้านตารางฟุต เพื่อให้มั่นใจว่าธรรมชาติและความสะดวกสบายในเมืองจะคงอยู่อย่างสมดุล

Marjan Beach ตั้งอยู่เหนืออ่าวอาหรับและเกาะอัลมาร์จัน ใกล้กับโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังมากมาย อาทิ เกาะวินน์ อัลมาร์จัน, หมู่บ้านอัลฮัมรา และเขตเศรษฐกิจราสอัลไคมาห์ นอกจากนี้ จุดหมายปลายทางแห่งนี้ยังสามารถเดินทางสู่ทางหลวงสายหลักได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมงานปรับปรุงถนนที่กำลังดำเนินการอยู่ ที่จะช่วยยกระดับการเชื่อมต่อกับทุกพื้นที่ของประเทศ การพัฒนาอย่างยั่งยืนนี้ประกอบด้วยที่พักอาศัย โรงแรม สำนักงาน ศูนย์รวมความบันเทิง และสถาบันการศึกษา เพื่อมอบวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพและมุ่งเน้นความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คน

เกี่ยวกับ Marjan

Marjan เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบกรรมสิทธิ์ในราสอัลไคมาห์ระดับมืออาชีพ รับผิดชอบการพัฒนาโครงการที่ก้าวล้ำ เช่น เกาะอัลมาร์จัน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยกระดับราสอัลไคมาห์ให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวและการลงทุนชั้นนำของภูมิภาค ด้วยพันธกิจในการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำ เมือง และภูเขา ที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเอมิเรตส์ Marjan จึงใช้กลยุทธ์การวางผังแม่บทเพื่อใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของราสอัลไคมาห์ และวางรากฐานสำหรับการขยายตัวในอนาคตของเอมิเรตส์ โดย Marjan สามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่านชุมชนที่ได้รับการวางแผนแม่บทระดับโลกในราสอัลไคมาห์ และทำให้เอมิเรตส์กลายเป็นศูนย์กลางการลงทุนและการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งได้

ที่มา : AETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/20251002312828/en

Contacts

Nivine William
Burson
nivine.william@bursonglobal.com
 

ราสอัลไคมาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นหนึ่งในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตเร็วที่สุดในตะวันออกกลางอย่างปฏิเสธไม่ได้ และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม

Logo

ราสอัลไคมาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–19 สิงหาคม 2025

ราสอัลไคมาห์กำลังเผชิญกับภาวะเฟื่องฟูของตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่สุดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยได้รับคำแนะนำจากวิสัยทัศน์อันก้าวไกลของ His Highness Sheikh Saud bin Saqr Al Qasimi สมาชิกสภาสูงสุดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และผู้ปกครองเมืองราสอัลไคมาห์

Guided by a bold strategic vision and a comprehensive master plan, Ras Al Khaimah’s real estate sector is experiencing unprecedented growth, attracting global investors eager to be part of the Emirate’s journey towards sustainable development. (Photo: AETOSWire)

ด้วยวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์อันโดดเด่นและแผนแม่บทที่ครอบคลุม ภาคอสังหาริมทรัพย์ของราสอัลไคมาห์กำลังเผชิญกับการเติบโตอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนของเอมิเรตส์ (ภาพ: AETOSWire)

เอมิเรตส์กำลังปรับเปลี่ยนเส้นขอบฟ้าของตน ขณะเดียวกันก็สร้างเศรษฐกิจที่ยืดหยุ่นและหลากหลาย ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการวางแผนที่ดี ความยั่งยืน การยกระดับคุณภาพชีวิต และการพัฒนาระดับโลก

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยอดขายและราคาอสังหาริมทรัพย์ในราสอัลไคมาห์พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก โดยได้รับแรงหนุนจากโครงการด้านการบริการ พาณิชย์ และที่อยู่อาศัยจำนวนมาก โดยมีการคาดการณ์ว่าจำนวนประชากรจะเพิ่มสูงขึ้นจาก 0.4 ล้านคนเป็น 0.65 ล้านคนภายในปี 2030 ซึ่งคาดว่าจะสร้างความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นประมาณ 45,000 ยูนิต การเติบโตอย่างยั่งยืนนี้เกิดจากเศรษฐกิจที่มีความหลากหลาย กฎระเบียบที่เอื้อต่อนักลงทุน รวมถึงการเข้ามาของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกในตลาด เช่น Emaar, Aldar และ Ellington ควบคู่ไปกับบริษัทชั้นนำในท้องถิ่นอย่าง Marjan, Al Hamra และ RAK Properties

สิ่งสำคัญที่สุดในการปฏิรูปเมืองราสอัลไคมาห์คือเกาะอัลมาร์จาน ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางริมน้ำชั้นนำที่กำลังก้าวหน้าในอุตสาหกรรมนี้ ภายใต้การนำของซีอีโอ Eng. Abdullah Al Abdooli และเป็นที่ตั้งของแบรนด์สุดหรูมากมาย อาทิ Wynn, JW Marriott, Nobu, Missoni และ The Address โดยมาร์จานกำลังขยายธุรกิจด้วยการพัฒนาย่านการค้า RAK Central ซึ่งเป็นศูนย์กลางอเนกประสงค์ที่ผสมผสานธุรกิจ ไลฟ์สไตล์ และนวัตกรรมเข้าไว้ด้วยกัน

Al Hamra ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งนำโดยซีอีโอ Benoy Kurien ยังคงสร้างมาตรฐานการใช้ชีวิตแบบบูรณาการอย่างต่อเนื่องด้วยบ้านกว่า 4,000 หลังใน Al Hamra Village รวมถึงสนามกอล์ฟ และชุมชนที่มีชีวิตชีวาที่มีผู้อยู่อาศัยกว่า 10,000 คน พร้อมด้วยโครงการใหญ่ต่างๆ เช่น Waldorf Astoria Residences, Falcon Island และ Al Hamra Waterfront

นอกจากนี้ตามแนวชายฝั่ง RAK Properties กำลังพัฒนาโครงการ Mina ซึ่งเป็นโครงการหลักเพื่อยกระดับชายฝั่งของเอมิเรตส์ โดยเป็นที่ตั้งของรีสอร์ตระดับรางวัลอย่าง Anantara และ InterContinental นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่นๆ อีก เช่น Nikki Beach และ Four Seasons ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา

“วิสัยทัศน์สำหรับราสอัลไคมาห์กำลังกลายเป็นความจริง” กล่าวโดย Abdulaziz Abdullah Al Zaabi ประธานบริษัท RAK Properties “เรากำลังสร้างสภาพแวดล้อมที่มีชีวิตชีวาและยั่งยืน ซึ่งดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก”

Sameh Muhtadi ซีอีโอของบริษัท กล่าวว่า “เราได้เห็นความสนใจทั่วโลกในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และโมเมนตัมนี้จะยังคงดำเนินต่อไป”

ดาวน์โหลด:
วิดีโอยาว: RAK Real Estate.mp4
วิดีโอสั้น: RAK Real Estate short.mp4
รูปภาพ: อสังหาริมทรัพย์

*ที่มา: AETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/20250819507313/en

Contacts

Steven McCombe
media@rakmediaoffice.ae

ที่มา: Ras Al Khaimah Government Media Office

สถาปนิกชั้นนำของอาเซียนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศเดินทางเยือนประเทศออสเตรเลียเพื่อกระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–05 พฤษภาคม 2025

สถาปนิกชั้นนำจาก 5 โครงการที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ BlueScope Steel Architectural Awards ASEAN ได้เดินทางมาเยือนออสเตรเลียในเดือนเมษายนที่ผ่านมาเพื่อเฉลิมฉลองความเป็นเลิศด้านการออกแบบ ความสามารถในการก่อสร้าง รวมถึงการแบ่งปันการเรียนรู้ต่างๆ โดยรางวัลดังกล่าวจัดขึ้นโดย NS BlueScope ร่วมกับองค์กรที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรม อาทิ Association of Siamese Architects under Royal Patronage (ASA), Ikatan Arsitek Indonesia (IAI), University of Architecture Ho Chi Minh City (UAH), ACG Media Group ของมาเลเซีย และ AustCham Singapore

ASEAN winners with Daniel Bourke of fjcstudio at the Warships Pavilion, Australian National Maritime Museum

ผู้ได้รับรางวัลจากอาเซียนกับ Daniel Bourke จาก fjcstudio ที่ Warships Pavilion, Australian National Maritime Museum

โดยสถาปนิกและผู้ชนะจากอาเซียน ได้เยี่ยมชมโครงการโครงสร้างเหล็กที่ทันสมัยที่สุดบางแห่งของออสเตรเลีย อาทิเช่น Darling Quarter และ Australian National Maritime Museum ในเมืองซิดนีย์ และที่เมืองบริสเบน มีการเยี่ยมชมสะพาน Kangaroo Point, Brisbane Convention & Exhibition Centre และ UQ Sustainability Walk ที่ University of Queensland ซึ่งโครงการเหล่านี้หลายๆ โครงการมีการใช้ผลิตภัณฑ์เหล็กของ BlueScope® เช่น เหล็กเคลือบสี COLORBOND® และเหล็ก XLERPLATE® ที่ให้ความทนทาน ความหลากหลาย และความสวยงาม ที่ช่วยให้การออกแบบสถาปัตยกรรมที่ยอดเยี่ยมเกิดขึ้นได้จริง โดยได้รับความอนุเคราะห์ จาก fjcstudio ในซิดนีย์และ Cox Architecture ในบริสเบน ในการบรรยายและ เยี่ยมชมสถาปตยกรรมดังกล่าว

Richard Coulson ประธานคณะกรรมการบริหาร Cox Architecture และหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินรางวัลอาเซียนเมื่อปีที่ผ่านมา กล่าวว่านี่เป็นโอกาสที่ดีในการจัดแสดงการออกแบบของออสเตรเลีย ขณะเดียวกันก็ได้เรียนรู้จากบริษัทสถาปัตยกรรมชั้นนำบางแห่งในอาเซียนด้วย

“เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากที่ได้ต้อนรับสถาปนิกและผู้ชนะจากอาเซียน และนำเสนอขั้นตอนการออกแบบล่าสุดและโซลูชันเหล็กขั้นสูงที่ใช้ในออสเตรเลีย เราสนุกกับการพูดคุยที่สร้างสรรค์ รวมถึงได้มีการแบ่งปันแนวคิดและปรัชญาต่างๆ มากมาย”

นอกจากการเยี่ยมชมสถานที่และพูดคุยกับผู้นำแนวปฏิบัติแล้ว สถาปนิกและผู้ชนะจากอาเซียน ยังได้เข้าร่วมงาน Australian Architecture Conference 2025 ที่ Sydney Opera House อีกด้วย ซึ่งได้พบปะแลกเปลี่ยนกับสถาปนิกชั้นนำจากออสเตรเลียและทั่วโลก โดยได้เข้าร่วมการนำเสนอในหัวข้อต่างๆ อาทิเช่น AI และการออกแบบที่ลดการปล่อยคาร์บอนไปจนถึงอาคารสูงและอนาคตของศูนย์กลางเมือง

Ar. Melvyn J Kanny ผู้อำนวยการของบริษัท MJ Kanny Architect ในมาเลเซีย เป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าร่วมการเยี่ยมชมครั้งนี้ กล่าวถึงการเยือนครั้งนี้ จะช่วยกระตุ้นให้มีการสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับ สถาปนิกในอาเซียน

“ทัวร์ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมในการเรียนรู้จากชุมชนสถาปัตยกรรมของออสเตรเลียและทั่วโลก รวมถึงแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับผลงานที่ยอดเยี่ยมบางส่วนที่เกิดขึ้นในอาเซียน 'Circle of Excellence in Steel Architectural Design' ของเรา ซึ่งประกอบไปด้วยผู้ชนะรางวัลอาเซียนครั้งแรก โดยจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีการจัดงานครั้งต่อไป ซึ่งจะเป็นการสร้างรากฐานที่สมบูรณ์แบบสำหรับชุมชนที่แข็งแกร่งที่สามารถมีส่วนสนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันของอุตสาหกรรม ของเราได้มากขึ้น”

ตัวแทนในการเดินทางครั้งนี้ ได้แก่ ผู้แทนจาก:

 – บริษัท Arkiskape Sdn. Bhd. (มาเลเซีย)
 – บริษัท MJ Kanny Architect (มาเลเซีย)
 – บริษัท Razin Architects Sdn. Bhd. (มาเลเซีย)
 – Ar. Naksit Wisetmora (ประเทศไทย)
 – Studio Sifah (ประเทศไทย)

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ NS BlueScope โปรดคลิกที่นี่

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250504099078/en

Contacts

James Li | รองประธาน ฝ่ายการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ, NS BlueScope Pte. Ltd.
โทร. +65 6832 3512 | มือถือ +65 9626 2750
อีเมล james.li@bluescope.com | เว็บไซต์ www.nsbluescope.com
A 238B Thomson Road, #17-01 Novena Square Tower B, Singapore 307685

ที่มา: NS BLUESCOPE



Almal Real Estate Development เปิดตัว ‘The One by Almal’ – นำเสนอมาตรฐานใหม่ของการอยู่อาศัยในสไตล์รีสอร์ตระดับโลกทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Logo

บาหลี, อินโดนีเซีย–(BUSINESS WIRE)–15 พฤษภาคม 2025

Almal Real Estate Development ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่มีชื่อเสียงด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับหรู ประกาศเปิดตัว 'The One by Almal' ในบาหลี อินโดนีเซีย การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการก้าวสู่ระดับสากลของ Almal ภายใต้แผนงานขยายธุรกิจในปี 2030 ที่มองไปข้างหน้า โดยมีโครงการเพิ่มเติมที่กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการสำหรับประเทศไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ เซเชลส์ และมอริเชียส

The One by Almal (Photo: AETOSWire)

The One by Almal (ภาพ: AETOSWire)

'The One by Almal' นำเสนอแนวคิดการอยู่อาศัยแบบรีสอร์ตที่พักอาศัยซึ่งกำหนดมาตรฐานใหม่ระดับโลก โดยผสมผสานที่พักอาศัย วิลล่า และทาวน์เฮาส์สุดพิเศษเข้ากับบริการรีสอร์ตที่คัดสรรมาอย่างดี โปรแกรมสุขภาพแบบองค์รวม และจุดหมายปลายทางการรับประทานอาหารอันเป็นเอกลักษณ์อย่างลงตัว โดยโครงการแรกของแบรนด์ในนูซาดูอาจะนำเสนอไลฟ์สไตล์ริมชายหาดที่ยกระดับขึ้น ซึ่งออกแบบมาสำหรับผู้อยู่อาศัยและนักเดินทางที่มีรสนิยมดี

“Almal ไม่ได้แค่ขยายกิจการ เรากำลังกำหนดอนาคตของการใช้ชีวิตแบบรีสอร์ตทั่วโลก” กล่าวโดย Dmitriy Starovoitov ผู้ก่อตั้ง Almal Real Estate Development “การเข้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเราถือเป็นกลยุทธ์ และสร้างขึ้นจากความสำเร็จที่พิสูจน์แล้วของเราในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเราสร้างสถิติและมาตรฐานใหม่สำหรับโครงการด้านการบริการและที่พักอาศัยระดับหรู”

ผลงานที่น่าประทับใจของ Almal ได้แก่ โครงการต่างๆ เช่น The Unexpected Al Marjan Island Hotel & Residence ในราสอัลไคมาห์ ซึ่งได้รับการยกย่องว่ามียอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และ Harrisoni Villas ในดูไบ ซึ่งเป็นคอลเลกชันวิลล่าริมชายหาดสุดพิเศษที่มีมูลค่ากว่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อหลัง นอกจากนี้ ผู้พัฒนายังอยู่เบื้องหลังแนวคิด The Smart Space ซึ่งจะเป็นศูนย์ธุรกิจนอกแผนแห่งแรกของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Almal ที่จะนำเสนอประเภทสินทรัพย์ใหม่ให้กับตลาดโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง

เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์การขยายตัว Almal ยังคงปรับปรุงการเข้าถึงพอร์ตโฟลิโอของตนต่อไปผ่านช่องทางการลงทุนที่ปรับแต่งได้หลากหลาย การเปิดตัวแอป 'The One' ที่กำลังจะมีขึ้นเร็วๆ นี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์นี้ โดยมอบช่องทางดิจิทัลที่โปร่งใสและคล่องตัวให้กับนักลงทุนเพื่อสำรวจโอกาสในอนาคตในพอร์ตโฟลิโอระดับโลกที่กำลังเติบโตของแบรนด์

“พันธกิจของเราไม่ได้จำกัดอยู่แค่การส่งมอบการพัฒนาที่โดดเด่นเท่านั้น แต่เรายังมุ่งหวังที่จะสร้างการเชื่อมโยงที่มีความหมายกับนักลงทุน พันธมิตร และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมที่มีแนวคิดเหมือนกัน ซึ่งมีความหลงใหลในนวัตกรรมและความเป็นเลิศเช่นเดียวกับเรา” Starovoitov กล่าวเสริม

The One by Almal ถือเป็นก้าวสำคัญต่อไปในพันธกิจของบริษัทในการกำหนดนิยามการใช้ชีวิตที่หรูหราบนเวทีระดับโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.almal-investments.comและ www.theonebyalmal.com

ที่มา: AETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/20250515599411/en

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ:
Oksana Vitkovska, หัวหน้าฝ่ายการตลาด
ov@almal-investments.com

ที่มา: Almal Real Estate Development

Lone Star Funds ประกาศขาย Tokyo β ที่เป็นพอร์ตโฟลิโออสังหาริมทรัพย์เพื่อการเช่าในประเทศญี่ปุ่น

Logo

ดัลลาส & นิวยอร์ก & ลอนดอน & โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–02 เมษายน 2025

Lone Star Funds (“Lone Star”) ประกาศวันนี้ว่าบริษัทในเครือของ Lone Star Real Estate Fund VI, L.P. ได้ดำเนินการขาย Tokyo β (“Tokyo Beta”) ซึ่งเป็นสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ให้เช่าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียวสำเร็จแล้ว

Tokyo Beta ก่อตั้งโดย Lone Star หลังจากเข้าซื้อสินเชื่อด้อยคุณภาพในญี่ปุ่นสำเร็จกว่าหนึ่งพันรายการระหว่างต้นปี 2020 ถึงปลายปี 2022 หลังจากการซื้อกิจการ Lone Star ได้ปรับโครงสร้างการจัดการแชร์เฮ้าส์เกือบ 1,200 ห้องจากผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์รายบุคคลมากกว่า 200 ราย เพื่อปรับกระบวนการทำงานบนแพลตฟอร์มเดียวที่ประสานงานกันสำหรับหน่วยเช่าราคาไม่แพงที่ออกแบบและใช้งานโดยคนทำงานรุ่นใหม่และนักศึกษา

ปัจจุบัน จำนวนห้องให้เช่าทั้งหมดในพอร์ตโฟลิโอ Tokyo Beta ที่รีแบรนด์แล้วมีมากกว่า 16,000 ห้อง ซึ่งประกอบด้วยสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว บริการใหม่ที่เปิดตัวเมื่อไม่นานนี้ ได้แก่ แอปให้เช่าบนสมาร์ทโฟน การเช็คอินและเช็คเอาท์ที่ง่ายขึ้น สาธารณูปโภคและอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อการเดินทาง ซึ่งทั้งหมดนี้เพื่อดึงดูดผู้เช่ารุ่นใหม่ในภูมิภาค

“การประกาศในวันนี้เป็นผลจากการทำงานหลายปีในการปรับโครงสร้างและฟื้นฟูพอร์ตโฟลิโอนี้ให้ประสบความสำเร็จ เพื่อทำให้ที่นี่กลายเป็นชุมชนการเช่าที่น่าดึงดูดใจที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว” กล่าวโดย Jérôme Foulon หัวหน้าฝ่ายอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ระดับโลกของ Lone Star

“พอร์ตโฟลิโอนี้ได้เน้นย้ำให้เห็นถึงความเต็มใจและความสามารถของ Lone Star ในการพัฒนาธุรกิจที่แข็งแกร่งและมีแนวโน้มดี โดยไม่เพียงแต่ให้บริการแก่ผู้ลงทุนของเราเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่ได้รับการปรับปรุง” Mitsuo Matsunaga หัวหน้า Lone Star ในญี่ปุ่นกล่าวเสริม

แพลตฟอร์มการลงทุนของ Lone Star ในญี่ปุ่นได้ลงทุนอย่างแข็งขันในประเทศมาเป็นเวลากว่า 28 ปี ในช่วงเวลาดังกล่าว Lone Star ได้ทุ่มทุน 9.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการซื้อสินทรัพย์ในภูมิภาคจากการลงทุนเกือบ 90 ครั้ง ทำให้ Lone Star เป็นหนึ่งในนักลงทุนที่กระตือรือร้นที่สุดในภูมิภาค

เกี่ยวกับ Lone Star

Lone Star เป็นบริษัทไพรเวทอิควิตี้ชั้นนำที่ให้คำปรึกษาแก่กองทุนที่ลงทุนในหุ้นของบริษัท สินเชื่อ อสังหาริมทรัพย์ และสินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆ ทั่วโลก นับตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนแรกในปี 1995 บริษัท Lone Star ได้จัดตั้งกองทุนไพรเวทอิควิตี้ 25 กองทุน โดยมีเงินทุนรวมประมาณ 95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ บริษัทจัดกองทุนเป็น 3 ชุด ได้แก่ ชุด Opportunity Fund ชุด Commercial Real Estate Fund และชุด U.S. Residential Mortgage Fund โดย Lone Star ลงทุนในนามของหุ้นส่วนจำกัด ซึ่งรวมถึงนักลงทุนสถาบัน เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนความมั่งคั่งของรัฐ รวมถึงมูลนิธิและเงินบริจาคที่สนับสนุนการวิจัยทางการแพทย์ การศึกษาระดับสูง และสาเหตุการกุศลอื่นๆ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Lone Star Funds โปรดไปที่ www.lonestarfunds.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

mediarelations@lonestarfunds.com

ที่มา: Lone Star Funds

Madison International Realty เดินหน้าขยายธุรกิจในเอเชียด้วยสำนักงานแห่งใหม่ในเกาหลีใต้ และแต่งตั้ง Jun Park เป็น Country Head

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–25 มีนาคม 2025

Madison International Realty, บริษัทไพรเวทอิควิตี้ชั้นนำด้านอสังหาริมทรัพย์ ประกาศว่าบริษัทได้ขยายธุรกิจในเอเชีย ด้วยการแต่งตั้ง Jun Park ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเกาหลีใต้ และเปิดสำนักงานแห่งแรกในประเทศ สำนักงานแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ในย่านใจกลางกรุงโซล จะเป็นสำนักงานระดับโลกแห่งที่แปดของ Madison และเป็นแห่งที่สองในเอเชีย หลังจากเปิดสำนักงานในสิงคโปร์เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว

Park จะร่วมงานกับ Madison เพื่อเป็นผู้นำในการยกระดับปฏิสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับนักลงทุนในเกาหลีใต้จากสำนักงานแห่งใหม่ในกรุงโซล ซึ่งจะมีกำหนดเปิดทำการในไตรมาสที่ 2 ในฐานะส่วนหนึ่งของทีมผู้นำระดับสูง Park จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Ron Dickerman ประธานและผู้ก่อตั้ง Madison รวมถึง Evan Abrams และ Michael Siefert หัวหน้าร่วมระดับโลกด้านตลาดทุนหุ้นของบริษัท รวมถึง Yichao Mark หัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชีย เพื่อพัฒนากลยุทธ์ระยะยาวของบริษัทเพื่อการเติบโตในภูมิภาคนี้ ในเบื้องต้นจะประกอบด้วยการให้บริการในพื้นที่แก่ลูกค้าที่มีอยู่ของ Madison ในเกาหลีใต้ ขณะเดียวกันก็แสวงหาการขยายความสัมพันธ์กับนักลงทุนในประเทศและทั่วภูมิภาค ในระยะยาว Park จะทำงานร่วมกับบริษัทเพื่อประเมินศักยภาพของกลยุทธ์การจัดสรรเงินทุนในภูมิภาค

Park มีประสบการณ์มากกว่า 14 ปีในด้านการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ การเงิน และการลงทุนภาคเอกชน เขาร่วมงานกับ Madison จาก Hyundai Marine and Fire Insurance (HDMF) ซึ่งเขาเป็นผู้นำแผนกการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในฐานะหัวหน้าทีม โดยบริหารจัดการสินทรัพย์ทางเลือกมูลค่ากว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่นั่น เขารับผิดชอบด้านการลงทุนและภาระผูกพันด้านทุนในธุรกรรมประมาณ 100 รายการ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 2.4 พันล้านดอลลาร์ในสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์หลายประเภท รวมถึงศูนย์ข้อมูล Park สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจจาก UCLA ปริญญาโทสาขาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อมจาก KAIST และปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมโยธาจากมหาวิทยาลัย Hanyang

“เอเชียเป็นตลาดที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์สำหรับการเติบโตในอนาคตของเมดิสัน และการประกาศในวันนี้ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งในการบรรลุความทะเยอทะยานของเราในการขยายธุรกิจในภูมิภาคนี้ เรามีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งในเกาหลีใต้ และการแต่งตั้ง Jun ควบคู่ไปกับการเปิดสำนักงานในกรุงโซลถือเป็นก้าวต่อไปของบริษัทของเรา ซึ่งช่วยให้เรากระชับความสัมพันธ์เหล่านั้นให้แข็งแกร่งขึ้นโดยการแสดงตนในท้องถิ่น ซึ่งหมายความว่าเราสามารถทำงานใกล้ชิดกับพวกเขามากยิ่งขึ้นเพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายของพวกเขา ในขณะเดียวกัน Jun จะพยายามขยายฐานลูกค้าของเรา ในช่วงเวลาที่ตลาดสหรัฐอเมริกาและยุโรปอยู่ในวงจรที่ส่งผลดีต่อกลยุทธ์การลงทุนที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา ผมตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับ Jun และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับเขาเข้าสู่ทีม Madison” Ronald Dickerman ผู้ก่อตั้งและประธาน Madison International Realty กล่าว

Madison International Realty เชี่ยวชาญในการจัดหาโซลูชั่นสภาพคล่องให้กับนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่ทั่วโลก บริษัทเข้าซื้อหุ้นบางส่วนและถือหุ้นร่วมทุนในอสังหาริมทรัพย์และพอร์ตโฟลิโอชั้นนำในภาคส่วนที่เลือกและตลาดหลักในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และยุโรปตะวันตก นอกจากนี้ Madison ยังให้บริการโซลูชั่นด้านหุ้นแก่แพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการรักษาสินทรัพย์ ขยายพอร์ตการลงทุน และ/หรือระดมทุนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เกี่ยวกับ Madison International Realty

Madison International Realty (www.madisonint.com) คือผู้ให้บริการสภาพคล่องชั้นนำแก่นักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก Madison จัดหาเงินทุนสำหรับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์และนักลงทุนที่ต้องการสร้างรายได้จากหุ้นทุนที่ฝังอยู่ แทนที่พันธมิตรด้านทุนที่กำลังมองหาทางออก บริษัทจัดหาเงินทุนสำหรับการเพิ่มทุน การซื้อหุ้นส่วนทุนและการเพิ่มทุน และเข้าซื้อกิจการร่วมทุน หุ้นส่วนจำกัด นอกจากนี้ Madison ยังจัดหาเงินทุนเพื่อการเติบโตเชิงกลยุทธ์ให้กับแพลตฟอร์มการดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ในตลาดระดับกลางที่จัดตั้งขึ้น โดยมองหาการเร่งการเติบโตและโครงการการลงทุน Madison มีสำนักงานในนิวยอร์ก ลอสแอนเจลิส ลอนดอน ลักเซมเบิร์ก อัมสเตอร์ดัม สิงคโปร์ และแฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งบริษัทดำเนินงานภายใต้ชื่อ Madison International Realty GmbH

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

FTI Consulting
John Olds / Ellie Perham-Marchant
MadisonUS@fticonsulting.com
+1 (978) 914-3573

ที่มา: Madison International Realty

ROSHN Group เปิดตัวการขายสำหรับ ALMANAR ชุมชนบูรณาการเต็มรูปแบบแห่งแรกในมักกะห์ อัล มุการ์รามะฮ์

Logo

  • ALMANAR จะนำการใช้ชีวิตในชุมชนแบบบูรณาการของ ROSHN มาสู่มักกะห์ อัล มุการ์รามะฮ์ โดยนำเสนอบ้านใหม่มากกว่า 700 หลังสำหรับการขายในชุดแรก
  • ด้วยบ้านหลากหลายสไตล์ที่ตั้งอยู่ในทำเลที่สามารถเดินไปยังสิ่งอำนวยความสะดวกสำคัญต่างๆ ได้ ALMANAR รับรองว่าผู้พักอาศัยจะได้รับความสะดวกสบายและมีคุณภาพชีวิตที่ดี

ริยาด ซาอุดีอาระเบีย–(BUSINESS WIRE)–17 กุมภาพันธ์ 2025

ROSHN Group ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ ชั้นนำของซาอุดีอาระเบียและบริษัท PIF ได้เปิดตัวการขายชุดแรกสำหรับ ALMANAR ซึ่งเป็นชุมชนแห่งแรกในมักกะห์ โดย ALMANAR ได้นำเสนอวิถีชีวิตใหม่ ผสมผสานกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่สำคัญรวมถึงไลฟ์สไตล์ต่างๆ โดยตั้งอยู่ในเขตอัลฮารามที่ห่างจากมัสยิดอัลฮารามเพียง 20 นาที และ ALMANAR จะขยายโครงการต่างๆ ของ ROSHN ไปทั่วราชอาณาจักร

ROSHN Group launches sales for ALMANAR, its first fully integrated community in Makkah Al-Mukarramah (Photo: AETOSWire)

ROSHN Group เปิดตัวการขายสำหรับ ALMANAR ชุมชนบูรณาการเต็มรูปแบบแห่งแรกในมักกะห์ อัล มุการ์รามะฮ์ (ภาพ: AETOSWire)

โดย ALMANAR นำเสนอการขายครั้งแรกด้วยบ้านเดี่ยว 727 หลังในหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ทาวน์เฮาส์ 3 ถึง 4 ห้องนอน และดูเพล็กซ์ ไปจนถึงวิลล่า 4 ถึง 5 ห้องนอน รวมถึงวิลล่า C10 ที่ใหญ่ที่สุดของ ROSHN Group โดยบ้านทุกหลังใน ALMANAR มีห้องครัวทันสมัยพร้อมสีสันที่เข้ากันรวมถึงที่จอดรถที่ร่มรื่นและสะดวกสบาย โดยลูกค้าสามารถเยี่ยมชมวิลล่าตัวอย่างของ ALMANAR ได้ที่ศูนย์การขายในสถานที่จริง

ชุมชน ALMANAR ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ที่ติดกับประตูมักกะห์ ห่างจากมัสยิดอัลฮารามเพียง 20 นาที และห่างจากสนามบินนานาชาติ King Abdulaziz ในเมืองเจดดาห์ไม่ถึง 1 ชั่วโมง โดยชุมชน ALMANAR มีพื้นที่สีเขียวขจีเป็นศูนย์กลาง และมีพื้นที่สาธารณะเปิดโล่งมากกว่า 18% ของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่ง ALMANAR ได้ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนแบบไดนามิก และส่งเสริมการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดีและกระตือรือร้นด้วยเส้นทางเฉพาะสำหรับการเดินและปั่นจักรยาน

ชุมชนแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายและมีชีวิตชีวาซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของการพัฒนาของ ROSHN Group ที่เข้าถึงได้ง่ายจากทุกบ้านบนถนนที่มีคนเดินได้ รวมถึงศูนย์ขายปลีกและศูนย์การค้า โรงเรียน และมัสยิดในท้องถิ่นและมัสยิดจูมาห์ โดยชุมชน ALMANAR ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีเยี่ยมที่ประตูตะวันตกของมักกะห์ ระหว่างทางด่วนเก่าและใหม่ที่เชื่อมระหว่างเมืองกับเจดดาห์ที่เชื่อมต่อกันได้อย่างดีเยี่ยม

ชุมชน ALMANAR ได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิภาค โดยบ้านมีสไตล์สถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมและการประดับตกแต่งที่ทำจากวัสดุสมัยใหม่ที่ถ่ายทอดแก่นแท้และมรดกของภูมิภาคได้อย่างสวยงาม โดยความยั่งยืนยังเป็นหัวใจสำคัญของชุมชน ALMANAR ด้วยบ้านที่ให้การอนุรักษ์พลังงานและน้ำอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมด้วยเทคโนโลยีประหยัดพลังงานชั้นนำของอุตสาหกรรม รวมถึงฉนวนกันความร้อนที่ทันสมัย ​​และเครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพ

Dr. Khalid Johar รักษาการซีอีโอของ ROSHN Group กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้นำวิสัยทัศน์ของเราเกี่ยวกับวิถีชีวิตใหม่มาสู่มักกะห์เป็นครั้งแรก โดยนำเสนอมาตรฐานสูงสุดสำหรับชุมชนที่มีชีวิตชีวาและบูรณาการที่หน้าประตูเมืองศักดิ์สิทธิ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยทุกคน ด้วยชุมชน ALMANAR เราให้เกียรติการออกแบบสถาปัตยกรรมอันล้ำค่าของภูมิภาคในขณะที่โอบรับธรรมชาติ ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีโอกาสโอบรับวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี การเปิดตัวชุมชน ALMANAR ชุดแรกเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาจุดหมายปลายทางที่โดดเด่นซึ่งตอบสนองความต้องการและความปรารถนาที่หลากหลายของผู้อยู่อาศัยในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายวิสัยทัศน์ 2030 สำหรับการเป็นเจ้าของบ้านและคุณภาพชีวิตที่ดี”

*ที่มา: AETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54208053/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Abeer Alqahtani
aalqahtani@apcoworldwide.com

ที่มา: ROSHN Group