Mercer เผยค่าเฉลี่ยเงินเดือนในประเทศไทยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.2% ในปี 2026

Logo

ข่าวประชาสัมพันธ์

ข้อมูลติดต่อสำหรับสื่อมวลชน
Fei Tierney
Marsh McLennan
โทรศัพท์: +65 98009984
อีเมล: fei.tierney@mmc.com

วันที่ 19 ธันวาคม 2025—Mercer ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือ Marsh McLennan (NYSE: MMC) และเป็นผู้นำระดับโลกในการช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายด้านการลงทุน กำหนดทิศทางอนาคตของการทำงาน และยกระดับผลลัพธ์ด้านสุขภาพและการเกษียณอายุของพนักงาน เผยว่าค่าเฉลี่ยเงินเดือนของพนักงานในประเทศไทยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.2% ในปี 2026 สูงกว่าเล็กน้อยจาก 5% ในปี 2025

การสำรวจค่าตอบแทนรวม (Total Remuneration Survey) ปี 2025 ของ Mercer จัดทำการวิเคราะห์แนวโน้มและนโยบายด้านค่าตอบแทนในตำแหน่งงานมากกว่า 5,400 ตำแหน่ง จากบริษัทกว่า 815 แห่งในประเทศไทยที่ครอบคลุมทุกภาคอุตสาหกรรม ซึ่งผลการวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่าแม้อัตราการเพิ่มขึ้นของเงินเดือนจะชะลอลงเมื่อเทียบกับปี 2025 แต่เกือบทุกบริษัทที่เข้าร่วมการสำรวจ (99.6%) มีแผนจะปรับขึ้นเงินเดือนในปี 2026 ใกล้เคียงกับ 99.7% ในปี 2025

จากการวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่าปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อการปรับขึ้นเงินเดือนในปี 2026 ได้แก่ การแข่งขันเพื่อดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถ โดยเฉพาะในหลายภาคส่วนที่ต้องการทักษะเฉพาะทาง และการให้ความสำคัญกับค่าตอบแทนตามผลงาน (merit-based compensation) อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยองค์กรต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับทั้งประสิทธิภาพการทำงานและความคุ้มค่าในด้านต้นทุน ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาในมุมอุตสาหกรรมนั้น ภาคพลังงานเป็นผู้นำด้วยอัตราการเพิ่มขึ้นของเงินเดือนเฉลี่ยที่คาดไว้ที่ 6.0% รองลงมาคือกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่ 5.7% และกลุ่มยานยนต์ที่ 5.5%

ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่มีท้าทายอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อโครงสร้างแรงงานในปัจจุบัน ทำให้ในปี 2025 มีจำนวนพนักงานประจำลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งต่ำกว่าระดับในปี 2021 ที่เป็นช่วงการระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ผลกระทบดังกล่าวแตกต่างกันไปในแต่ละอุตสาหกรรม ตัวอย่างเช่น ในภาคพลังงานและวิทยาศาสตร์ชีวภาพ (Life Sciences) ที่มีจำนวนพนักงานประจำเพิ่มขึ้น

เพื่อตอบสนองต่อตลาดแรงงานที่มีการแข่งขันสูง รวมถึงความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงไป รายงานยังชี้ให้เห็นว่า บริษัทต่าง ๆ ในประเทศไทยกำลังวางแผนปรับกลยุทธ์ด้านค่าตอบแทนในปีหน้า โดยปัจจุบัน 95.3% ขององค์กรที่เข้าร่วมการสำรวจมีแผนจูงใจระยะสั้น เช่น โบนัส ขณะที่สัดส่วนของบริษัทที่เสนอแรงจูงใจระยะยาว เช่น หุ้นพนักงาน เพิ่มขึ้นจาก 19.3% ในปี 2024 เป็น 38.2% ในปี 2025

นอกจากนี้ยังมีบริษัทจำนวนเพิ่มมากขึ้น (23.5%) ได้นำเสนอสวัสดิการแบบยืดหยุ่นเป็นส่วนหนึ่งของแพ็กเกจค่าตอบแทนสำหรับพนักงาน โดยมีทั้งการประกันสุขภาพ (89.5%) สมาชิกสันทนาการ/สปอร์ตคลับ (76.6%) และการตรวจสุขภาพ (64.9%) เป็นองค์ประกอบสิทธิประโยชน์และบริการหลักภายใต้แผนสวัสดิการแบบยืดหยุ่น

คุณธีระ เหล่าลัทธพล ผู้นำด้าน Data Intelligence & Academy Solution ของ Mercer ประเทศไทย กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลเห็นได้ชัดมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการปรับโครงสร้างองค์กรในประเทศไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เมื่อกลยุทธ์องค์กรพัฒนาไปอย่างรวดเร็วควบคู่กับนวัตกรรมด้านทรัพยากรบุคคล ข้อมูลจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้องค์กรยังคงสามารถแข่งขันได้ในตลาดแรงงาน รวมถึงสามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของพนักงานที่มีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อที่องค์กรจะสามารถดึงดูดและรักษาบุคลากรชั้นนำไว้ได้ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนมากขึ้น”

เกี่ยวกับ Mercer
Mercer เป็นบริษัทในเครือของ Marsh McLennan (NYSE: MMC) ผู้นำระดับโลกในการสนับสนุนลูกค้าให้บรรลุเป้าหมายด้านการลงทุน กำหนดอนาคตของการทำงาน และยกระดับผลลัพธ์ด้านสุขภาพและการเกษียณอายุของพนักงาน โดย Marsh McLennan เป็นผู้นำระดับโลกด้านการบริหารความเสี่ยง กลยุทธ์ และบุคลากร โดยให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าในกว่า 130 ประเทศทั่วโลก ผ่านธุรกิจหลักทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ Marsh, Guy Carpenter, Mercer และ Oliver Wyman ซึ่ง Marsh McLennan มีความมุ่งมั่นในการช่วยให้องค์กร “มั่นใจในการเติบโตอย่างยั่งยืน” ผ่านมุมมองเชิงลึกและการให้คำปรึกษาที่สร้างผลลัพธ์จริง ซึ่งองค์กรมีรายได้ต่อปีมากกว่า 24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และพนักงานกว่า 90,000 คนทั่วโลก ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ mercer.com หรือติดตามข่าวสารทาง LinkedIn และ X