Tag Archives: company

Greencross Pet Wellness Company ได้ยกระดับการปรับแต่งตามความต้องการส่วนบุคคลและประสิทธิภาพด้านไอทีด้วย Boomi

Logo

องค์กรด้านสุขภาพสัตว์เลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียได้ปรับปรุงกระบวนการส่งมอบทางไอที เร่งการสร้างโปรไฟล์สัตว์เลี้ยงดิจิทัล และลดภาระงานในการบูรณาการระหว่างทีมต่างๆ

ซิดนีย์–(BUSINESS WIRE)–14 พฤศจิกายน 2025

Boomi ผู้นำด้านระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI ประกาศในวันนี้ว่า Greencross Pet Wellness Company (GPWC) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Petbarn กำลังใช้แพลตฟอร์ม Boomi Enterpriseเพื่อรองรับแพลตฟอร์มโปรไฟล์สัตว์เลี้ยงดิจิทัล ปรับปรุงการปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้า และปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติงานในธุรกิจค้าปลีก อีคอมเมิร์ซ สัตวแพทย์ และบริการไอที

ด้วยพนักงานมากกว่า 6,000 คน และระบบนิเวศที่ครอบคลุมร้าน Petbarn กว่า 250 สาขา คลินิก Greencross Vets กว่า 140 แห่ง ศูนย์เฉพาะทางและศูนย์ฉุกเฉิน 24 แห่ง ร้านกรูมมิ่ง 132 แห่ง โรงเรียนฝึกสุนัข 114 แห่ง สถานฌาปนสถาน 4 แห่ง ศูนย์อาบน้ำสุนัขแบบ DIY 166 แห่ง ศูนย์อาบน้ำสุนัขเคลื่อนที่ 20 แห่ง และศูนย์พยาธิวิทยาเฉพาะทาง Vepalabs ซึ่งให้บริการคลินิกสัตวแพทย์ทั่วประเทศ โดย GPWC เป็นบริษัทดูแลสัตว์เลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย องค์กรต้องการแพลตฟอร์มบูรณาการเชิงกลยุทธ์เพื่อแทนที่การเชื่อมต่อแบบจุดต่อจุดมากกว่า 150 จุด และให้การมองเห็นแบบเรียลไทม์ว่าระบบต่างๆ ทำงานร่วมกันอย่างไร

“การมีจุดมองเห็นเพียงจุดเดียวได้เปลี่ยนแปลงวิธีการจัดการในการบูรณาการระบบของเราไปอย่างสิ้นเชิง” Jamie Sparrow ผู้จัดการฝ่ายระบบธุรกิจของ GPWC กล่าว “สิ่งที่เคยเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานานและกระจัดกระจาย ตอนนี้ได้รวมศูนย์และเชื่อถือได้ ทำให้ทีมของเรามีเวลามากขึ้นในการมุ่งเน้นไปที่งานที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม”

หนึ่งในโครงการที่โดดเด่นที่ Boomi ขับเคลื่อนคือแพลตฟอร์มโปรไฟล์สัตว์เลี้ยงดิจิทัลของ GPWC ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้างโปรไฟล์ส่วนตัวสำหรับสัตว์เลี้ยงของตนได้บนแอปพลิเคชันและเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของ Petbarn โดยแพลตฟอร์มแบบบูรณาการนี้ช่วยให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการรักษาอย่างทันท่วงที ดูคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ปรับแต่งให้เหมาะกับสัตว์เลี้ยง และเข้าถึงบริการที่เกี่ยวข้องตามความต้องการของสัตว์เลี้ยงได้

“การปรับแต่งประสบการณ์ของลูกค้าให้ตรงกับความต้องการนั้นเริ่มต้นจากการวางรากฐานที่ถูกต้อง” Sparrow กล่าว “การมีโปรไฟล์สัตว์เลี้ยงแบบบูรณาการช่วยให้เราสามารถมอบบริการที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้นในทุกจุดสัมผัส ตั้งแต่คำแนะนำที่ปรับแต่งให้เหมาะกับลูกค้าไปจนถึงการแจ้งเตือนด้านสุขภาพที่ทันท่วงที”

นอกจากนี้ Boomi ยังช่วยให้ GPWC สามารถสร้างมาตรฐานแนวทางการบูรณาการระหว่างทีมต่างๆ ได้ด้วยพิมพ์เขียวของนักพัฒนาที่ส่งเสริมการนำกลับมาใช้ใหม่ การตรวจสอบ และความสม่ำเสมอในการส่งมอบ

“การลงทุนของเราในรูปแบบการบูรณาการที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ช่วยเร่งการส่งมอบอย่างมาก เราจึงสามารถเปิดตัวความสามารถใหม่ๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซ้ำซ้อนน้อยลง และมั่นใจมากขึ้นว่าความสามารถเหล่านี้จะสามารถขยายขนาดได้” Sparrow กล่าว

ปัจจุบัน Boomi รองรับการบูรณาการข้อมูลและการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจในระบบคลังสินค้า, แพลตฟอร์ม HR, การจัดเก็บสินค้า และบริการดิจิทัลของ GPWC โดยมีแอปพลิเคชัน 15 ตัวที่บูรณาการผ่านแพลตฟอร์ม Boomi Enterprise

ในอนาคต GPWC วางแผนที่จะขยายการใช้งาน Boomi เพื่อสนับสนุนภารกิจเชิงกลยุทธ์ใหม่ๆ รวมถึงการซิงโครไนซ์ข้อมูลหลักข้ามแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดตัว MDM ที่กว้างขึ้น การประสานไฟล์และการตรวจสอบแบบมีโครงสร้างเพื่อลดการกำกับดูแลด้วยตนเอง การวางแผนการกู้คืนหลังเกิดเหตุการณ์รุนแรงเพื่อให้มั่นใจถึงความยืดหยุ่นของแพลตฟอร์ม และการตรวจสอบทั่วทั้งระบบเพื่อตรวจสอบการเคลื่อนย้ายและความสมบูรณ์ของข้อมูล

“Greencross Pet Wellness Company ได้พิสูจน์แล้วว่าประสบการณ์ของลูกค้าจะแข็งแกร่งเพียงใดขึ้นอยู่กับระบบที่อยู่เบื้องหลัง” David Irecki ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นของ Boomi กล่าว “ตั้งแต่การปรับแต่งสัตว์เลี้ยงให้ตรงกับความต้องการไปจนถึงความยืดหยุ่นของแพลตฟอร์ม Boomi ภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับ GPWC เพื่อมอบประสบการณ์ที่ชาญฉลาดและเชื่อมต่อกันมากขึ้นทั่วทั้งระบบนิเวศการดูแลสัตว์เลี้ยง”

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Boomi

Boomi ผู้นำด้านระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยให้องค์กรทั่วโลกเชื่อมต่อทุกสิ่ง จัดการกระบวนการอัตโนมัติ และเร่งผลลัพธ์ โดยแพลตฟอร์ม Boomi Enterprise ซึ่งรวมถึง Boomi Agentstudio จะผสานการบูรณาการและระบบอัตโนมัติเข้ากับการจัดการข้อมูล API และ AI Agent ไว้ในโซลูชันเดียวที่ครอบคลุม โดยทาง Boomi ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ากว่า 25,000 ราย และได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายพันธมิตรกว่า 800 ราย ซึ่งกำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงแบบ Agentic ที่จะช่วยให้องค์กรทุกขนาดมีความคล่องตัว มีประสิทธิภาพ และมีนวัตกรรมในระดับที่กว้างกว่าเดิม ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ boomi.com

© 2025 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ ‘Boomi’, โลโก้ ‘B’ และ Boomiverse เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Boomi, LP หรือบริษัทสาขาหรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ สงวนลิขสิทธิ์ ชื่อหรือเครื่องหมายอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20251113869004/en 

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ:
Jasmine Ee
หัวหน้าฝ่ายสัมพันธ์อินฟลูเอนเซอร์, APJ
jasmine.ee@boomi.com

ที่มา: Boomi

TVS Motor Company เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในงาน EICMA ที่ได้โชว์วิสัยทัศน์ระดับโลก

Logo

ผลิตภัณฑ์ใหม่ 6 รายการ “Norton ใหม่ที่กลับมาอีกครั้ง, เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ, หมวกกันน็อคที่รองรับเทคโนโลยีการแสดงผลข้อมูลบนหน้าจอแบบ AR, อุปกรณ์เสริมใหม่ๆ และแผนงานในยุโรป ซึ่งได้ช่วยตอกย้ำการปรากฏตัวในงานแสดงรถจักรยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกของ TVSM

มิลาน–(BUSINESS WIRE)–05 พฤศจิกายน 2025

TVS Motor Company (TVSM) ที่เป็นผู้นำระดับโลกด้านการผลิตยานพาหนะสองล้อและสามล้อ ได้ขึ้นเวทีในงาน EICMA 2025 โดยเป็นการเปิดตัวครั้งแรกที่ถือเป็นงานแสดงรถจักรยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่จัดแสดงที่โดดเด่น ทาง TVS ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 6 รายการ ทั้งระบบส่งกำลัง ICE และระบบส่งกำลังความร้อน, อุปกรณ์ช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง รวมถึงหมวกกันน็อคที่รองรับเทคโนโลยีการแสดงผลข้อมูลบนหน้าจอแบบ AR, อุปกรณ์เสริมใหม่สุดล้ำ, เทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ช่วยยกระดับการเชื่อมต่อระหว่างผู้ขับขี่และยานพาหนะ และแผนงานการขยายธุรกิจในยุโรป

TVS top leadership team posing with the global showcases at EICMA. From L to R: TVS M1-S, TVS X, TVS eFX three O, TVS RTX 300 and RTX 300 BTO, TVS Tangent RR Concept and RTR HyprStunt Concept.

ทีมผู้บริหารระดับสูงของ TVS ถ่ายภาพร่วมกับโชว์เคสระดับโลกที่งาน EICMA จากซ้ายไปขวา: TVS M1-S, TVS X, TVS eFX three O, TVS RTX 300 และ RTX 300 BTO, TVS Tangent RR Concept และ RTR HyprStunt Concept

ในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรากฏตัวครั้งแรกของ TVSM ที่งาน EICMA Sudarshan Venu ประธาน TVS Motor Company กล่าวว่า “TVS เป็นธุรกิจที่สั่งสมมากว่า 100 ปี ที่มุ่งมั่นในการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า คุณภาพ และให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและเทคโนโลยี ปัจจุบัน เราเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ชั้นนำของโลก โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่สำคัญในกว่า 50 ประเทศ รายได้ 35 เปอร์เซ็นต์ของเรามาจากนอกประเทศอินเดีย การเปิดตัวของ TVSM ครั้งแรกที่งาน EICMA ได้ช่วยตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการให้บริการลูกค้าในยุโรปด้วยความมุ่งมั่น ความแม่นยำ และความภาคภูมิใจ ด้วยศักยภาพของพอร์ตโฟลิโอที่มีอยู่ การเปิดตัวรถจักรยานยนต์ใหม่ 6 รุ่น ศักยภาพจากศูนย์ความเป็นเลิศ 4 แห่งในอินเดีย สิงคโปร์ โบโลญญา และสหราชอาณาจักร รวมถึง Norton รุ่นใหม่ที่กลับมาอีกครั้ง เราพร้อมที่จะสร้างบทใหม่แล้ว

การจัดแสดงผลิตภัณฑ์ของ TVSM ในงาน EICMA นำโดย (ก) TVS RTX 300 – มาตรฐานใหม่ในกลุ่มรถทัวร์ริ่งผจญภัย (ข) TVS X – ยานพาหนะไฟฟ้าที่พัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ คล่องตัว และมีพลศาสตร์ อัดแน่นด้วยนวัตกรรมใหม่ที่เป็นนวัตกรรมแรกในกลุ่ม (ค) TVS M1-S – สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแม็กซี่รุ่นแรกของบริษัท (ง) Tangent RR Concept – จักรยานซูเปอร์สปอร์ตสุดล้ำสมัยพร้อมซับเฟรมแบบโมโนค็อก (จ) TVS eFX three O – แนวคิดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุดของบริษัท และ (ฉ) TVS RTR HyprStunt Concept – แนวคิดใหม่ที่ปฏิวัติวงการสำหรับมอเตอร์ไซค์สปอร์ตในเมืองในชีวิตประจำวัน

ในการกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิด EICMA Peyman Kargar ประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศของ TVS Motor Company กล่าวว่า การได้เข้าร่วมงาน EICMA ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญยิ่งในการเริ่มต้นบทใหม่อันกล้าหาญของบริษัท เรื่องราวของเราสะท้อนถึงความเป็นเลิศทางวิศวกรรม ความน่าเชื่อถือ และความมุ่งมั่น สำหรับเรา การขับเคลื่อนไม่ใช่การเคลื่อนที่ แต่คืออารมณ์ อิสรภาพ และการเชื่อมต่อ เราตระหนักดีว่ายุโรปไม่ได้เป็นเพียงแค่ตลาด แต่เป็นสถานที่ที่เฉลิมฉลองอารมณ์และความเป็นเลิศในการขับเคลื่อน ดังนั้นเราจึงไม่เพียงแต่นำเสนอผลิตภัณฑ์ TVSM เท่านั้น แต่ยังรวมถึงแบรนด์ Norton อันเป็นตำนานอีกด้วย เราไม่ได้เพียงแค่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ยังรวมถึงอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ทันสมัยที่สุด อุปกรณ์ขับขี่ คุณสมบัติการเชื่อมต่อ อุปกรณ์เสริม และการดูแลลูกค้าระดับโลก เราพร้อมที่จะขยายธุรกิจไปยังประเทศใหม่ๆ ในยุโรป และเราจะอยู่เคียงข้างคุณในระยะยาว

โชว์เคสของ TVSM ที่งาน EICMA 2025
(รายละเอียดผลิตภัณฑ์และข้อมูลจำเพาะแนบมาด้วย)

ที่ติดกับพาวิลเลี่ยนของ TVS คือ Norton รุ่น “ใหม่” ที่กลับมาอีกครั้ง ได้รับการสร้างขึ้นบนคุณค่าเหนือกาลเวลาทั้งในด้านดีไซน์ ความคล่องตัว และรายละเอียดต่างๆ รังสรรค์ขึ้นใหม่เพื่อนักขี่รุ่นใหม่ ในตลอดห้าปีที่ผ่านมา TVSM ได้ลงทุนไปกว่า 200 ล้านปอนด์เพื่อกอบกู้แบรนด์ระดับตำนาน ซึ่งสร้างขึ้นจากประวัติศาสตร์ นวัตกรรม และความรุ่งโรจน์ในการแข่งขันที่ยาวนานถึง 127 ปี ตอนนี้ Norton พร้อมแล้วที่จะนิยามมอเตอร์ไซค์ระดับพรีเมียมใหม่!

จากมอเตอร์ไซค์สมรรถนะสูงไปจนถึงสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่สร้างนิยามใหม่ให้กับวงการมอเตอร์ไซค์ระดับกลางและการเดินทางในเมืองเพื่อตอบสนองความต้องการของชาวยุโรป

รถยนต์คันแรกจากทั้งหมด 6 คันที่จะเปิดตัวในยุโรปคือ TVS RTX 300 มาตรฐานใหม่สำหรับการท่องเที่ยวผจญภัย สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม RT-XD4 ผสานดีเอ็นเอการแข่งแรลลี่ของ TVS เข้ากับดีไซน์อันประณีตและความสะดวกสบายที่เหมาะสำหรับนักสำรวจยุคใหม่ ไม่ว่าจะพิชิตเส้นทางขรุขระในยุโรปหรือเดินทางผ่านช่องเขาแอลป์ TVS RTX 300 ก็มอบความสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างสมรรถนะและความสมดุล TVS RTX 300 โดยจะวางจำหน่ายในอิตาลีในไตรมาสแรกของปี 2026 ในราคา 5,199 ยูโร

ด้วยพันธกิจหลักในการขับเคลื่อนอย่างยั่งยืนสำหรับทุกคน รถยนต์ไฟฟ้าคู่นี้จึงโดดเด่นด้วย — TVS X และ TVS M1-S สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ผสานรวมความคิดสร้างสรรค์ระดับโลก ความเฉลียวฉลาดแบบเอเชีย และความประณีตแบบยุโรป ออกแบบมาเพื่อผู้ขับขี่ในเมืองที่มีรสนิยม ออกแบบโดยทีมงานของเราที่ศูนย์ความเป็นเลิศแห่งสิงคโปร์ TVS M1-S คือการก้าวกระโดดครั้งสำคัญสู่อนาคตแห่งการเดินทางในเมือง ดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถสกู๊ตเตอร์ขนาดใหญ่ มอบความสะดวกสบายและรูปลักษณ์ที่โดดเด่นบนท้องถนน มอเตอร์ขนาด 12.5 กิโลวัตต์ ช่วยให้รถสามารถทำความเร็วจาก 0-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 3.7 วินาที ด้วยความเร็วสูงสุด 105 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และแบตเตอรี่ขนาด 4.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง โดยจะเปิดตัวในยุโรปภายในสิ้นปี 2026

โดย TVS X ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ถือกำเนิดขึ้นด้วยระบบไฟฟ้า ออกแบบ พัฒนา และผลิตในอินเดียเพื่อลูกค้าทั่วโลก TVS X คือยานยนต์ที่เพรียวบางและปราดเปรียวตามหลักอากาศพลศาสตร์ อัดแน่นด้วยนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ทั้งระบบส่งกำลัง สถาปัตยกรรม และการเชื่อมต่อของรถยนต์ไฟฟ้า ผสานความคล่องตัวและการควบคุมที่เหนือชั้น มาพร้อม Android Auto ระบบนำทาง Google Maps และระบบอินโฟเทนเมนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย Qualcomm ที่จะนิยามประสบการณ์การขับขี่ที่เชื่อมต่อใหม่ โดยจะเปิดตัวในยุโรปภายในสิ้นปี 2026

TVS RTR HyprStunt Concept ออกแบบมาเพื่อการขับขี่ผาดโผนอย่างแม่นยำและการขับขี่ในเมืองที่ดุดัน นี่คือการแสดงออกทางกลไกอันโดดเด่นที่สร้างมาตรฐานใหม่ในด้านการขับขี่ที่เบา คล่องตัว และพร้อมสำหรับการขับขี่ในเมือง

เผยโฉมแนวคิดมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่สองรุ่นเพื่อเป็นตัวอย่างในอนาคต TVS Tangent RR Concept ใหม่ล่าสุดและ TVS eFX three O TVS Tangent RR Concept คือผู้บุกเบิกการออกแบบซูเปอร์สปอร์ตสุดล้ำสมัยที่ผสานประสบการณ์กว่าสี่ทศวรรษในวงการแข่งของ TVS Racing ไว้ด้วยกัน ซับเฟรมแบบโมโนค็อกผลิตจากวัสดุผสมอัจฉริยะที่ช่วยยกระดับอากาศพลศาสตร์และเพิ่มประสิทธิภาพ

TVS eFX three O พลิกโฉมสมรรถนะของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า สู่มาตรฐานใหม่แห่งการขับขี่บนท้องถนน ออกแบบมาเพื่อนักขี่ในเมืองยุคใหม่ รูปลักษณ์ล้ำสมัยถ่ายทอดพลังไฟฟ้าผ่านดีไซน์ที่กระชับ เรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ ชาญฉลาดแต่แฝงไว้ด้วยความดุดัน

ในงาน EICMA ทาง TVS Motor ได้เปิดตัวหมวกกันน็อคที่รองรับเทคโนโลยีการแสดงผลข้อมูลบนหน้าจอ (Heads Up Display – HUD) แบบ AR ที่ได้ร่วมมือกับ Aegis Rider สตาร์ทอัพสัญชาติสวิส โดยหมวกกันน็อค Aegis Rider Vision นี้จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถจดจ่ออยู่กับถนนได้อย่างต่อเนื่อง และใช้เทคโนโลยีการยึดติดกับพื้นที่รวมถึงเทคโนโลยี AR เพื่อแสดงข้อมูลสำคัญผ่านหน้าจอที่เป็นเทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรเป็นครั้งแรก โดยจอแสดงผลแบบ AR จะช่วยเพิ่มการรับรู้สถานการณ์ด้วยการนำทางแบบเรียลไทม์ การแจ้งเตือนอันตราย และการแจ้งเตือนการโทร โดยไม่รบกวนผู้ขับขี่ ที่นับเป็นก้าวกระโดดครั้งสำคัญในการยกระดับประสบการณ์การขับขี่และการเชื่อมต่ออัจฉริยะ

ในบรรดาเทคโนโลยีเชื่อมต่อที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความเข้ากันได้ระหว่างผู้ขับขี่และยาหนะ ทาง TVSM ได้แสดงให้เห็นถึงการผสานการทำงานของ Android Auto เข้ากับ TVS X โดยชุดอุปกรณ์เชื่อมต่อนี้จะมอบการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ง่ายดาย การนำทางอัจฉริยะ การโทรแบบแฮนด์ฟรี และความบันเทิงผ่าน Google Assistant ที่ผสานรวมความต้องการของชีวิตในเมืองยุคใหม่เข้ากับการเดินทางที่ราบรื่นได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ ยังมี TVS iQube ที่ผสานเข้ากับสมาร์ทวอทช์ ซึ่งจะช่วยกำหนดนิยามใหม่ของการเชื่อมต่อระหว่างผู้ขับขี่กับยานพาหนะ การผสานการทำงานนี้จะช่วยให้เข้าถึงข้อมูลอัปเดตที่สำคัญแบบเรียลไทม์ ซึ่งรวมถึงสถานะยานพาหนะ ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแบตเตอรี่ แรงดันลมยาง การแจ้งเตือนด้านความปลอดภัย และฟีเจอร์ต่างๆ ของสมาร์ทวอทช์

ไลน์ผลิตภัณฑ์อันหลากหลายของ TVS Motor Company ในงาน EICMA 2025 ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ชั้นนำในตลาดที่หลากหลาย ที่ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงความสามารถอันเหนือชั้นของบริษัทในการให้บริการแก่ผู้ขับขี่ทุกกลุ่ม ซึ่งรวมถึง TVS Jupiter, TVS NTORQ, TVS Raider และ TVS iQube โดยสปอร์ตไบค์ขนาดกลางรุ่นเรือธงของ TVSM ประกอบด้วย TVS RR 310 แบบฟูลแฟริ่ง และ TVS RTR 310 สปอร์ตไบค์แนวสตรีทเนคเก็ตไบค์ พร้อมด้วย TVS RR 310 รุ่นคาร์บอนไฟเบอร์ลิมิเต็ดอิดิชั่น และ TVS RTR 310 รุ่นสั่งผลิตตามสั่ง โดย TVSM ได้จัดแสดง TVS Ronin roadster สองรุ่น ได้แก่ รุ่นมาตรฐาน และรุ่นพร้อมชุดอุปกรณ์เสริมครบครัน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบสไตล์นีโอเรโทร โดยทั้งสองรุ่นนั้นดูหรูหราและล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีจักรยานไฟฟ้าก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากเช่นกัน

นอกจากนี้ TVSM ยังได้จัดแสดงสินค้าพรีเมียมและอุปกรณ์เสริมมากมายที่สะท้อนให้เห็นถึงมรดกแห่งการแข่งรถและเสน่ห์แห่งไลฟ์สไตล์ ประกอบด้วยทั้งหมวกกันน็อคคุณภาพสูง อุปกรณ์ขับขี่ กระเป๋าเป้สะพายหลังสำหรับใส่น้ำ อินเตอร์คอมบลูทูธ และเสื้อผ้าไลฟ์สไตล์ในหลากหลายสไตล์ ทั้งเสื้อยืด เสื้อสเวตเชิ้ต หมวกแก๊ป และแจ็คเก็ตหนัง

เกี่ยวกับ TVS Motor Company

บริษัท TVS Motor (BSE:532343 และ NSE: TVSMOTOR) เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์สองล้อและสามล้อที่มีชื่อเสียงระดับโลก มุ่งมั่นพัฒนาความก้าวหน้าผ่านการเดินทางที่ยั่งยืน ด้วยโรงงานผลิตที่ทันสมัยสี่แห่งในอินเดียและอินโดนีเซีย และรากฐานอันยาวนานกว่า 100 ปี จากความไว้วางใจ คุณค่า และความมุ่งมั่นที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ บริษัทภูมิใจที่ได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงสุดที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ผ่านกระบวนการที่ทันสมัยและยั่งยืน โดย TVS Motor เป็นบริษัทรถจักรยานยนต์เพียงแห่งเดียวที่ได้รับรางวัล Deming Prize อันทรงเกียรติ ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นผู้นำในหมวดหมู่ต่างๆ จากการสำรวจของ J.D. Power IQS & APEAL และการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าของ J.D. Power Norton Motorcycles ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเรา โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหราชอาณาจักร และเป็นหนึ่งในแบรนด์รถจักรยานยนต์ที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ที่สุดในโลก นอกจากนี้ TVS e-bike Company AG ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเราในด้านยานพาหนะไฟฟ้าส่วนบุคคลยังเป็นผู้นำในตลาดจักรยานยนต์ไฟฟ้าในสวิตเซอร์แลนด์ บริษัท TVS Motor มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับให้กับลูกค้าในกว่า 90 ประเทศที่เราดำเนินการ

TVS เปิดตัวรถทัวร์ริ่งแรลลี่ผจญภัยระดับโลก RTX 300 ที่ EICMA

TVS RTX 300 คือมาตรฐานใหม่สำหรับนักผจญภัยที่นำความแม่นยำในการแข่งขันและความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันมาไว้ในแพลตฟอร์มเดียว โดยได้รับการสร้างขึ้นจากแพลตฟอร์ม RT-XD4 ที่ได้ผสานดีเอ็นเอของการแข่งรถแรลลี่ของ TVS เข้ากับดีไซน์ที่ประณีตและความสะดวกสบายที่เหมาะสำหรับนักสำรวจยุคใหม่ ไม่ว่าจะพิชิตเส้นทางขรุขระในยุโรปหรือเดินทางผ่านช่องเขาแอลป์ TVS RTX 300 ก็สามารถมอบความสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างสมรรถนะและความสมดุลได้

ขุมกำลังทางวิศวกรรม

TVS RTX 300 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ DOHC ระบายความร้อนด้วยของเหลว มีความจุขนาด 299.1 ซีซี ให้กำลัง 36 แรงม้า แรงบิด 28.5 นิวตันเมตร โดยให้แรงบิดทันทีและการควบคุมที่เหนือชั้นบนทุกสภาพพื้นผิว เฟรมเหล็กกล้าน้ำหนักเบาแบบถักและสวิงอาร์มอะลูมิเนียมที่จะมอบความคล่องตัว พร้อมเกียร์ 6 สปีดที่มาพร้อมกับระบบช่วยออกตัวและสลิปเปอร์คลัตช์ที่จะช่วยให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่นบนทุกสภาพพื้นผิวที่ท้าทาย

การออกแบบเพื่อการผจญภัย

ระยะห่างจากพื้นสูง (200 มม.) และเบาะนั่งขนาด 835 มม. ที่เข้าถึงง่าย ที่จะช่วยมอบความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ที่หลากหลาย แฮนด์บาร์ที่กว้างขึ้น เบาะนั่งตั้งตรง และถังน้ำมันที่ออกแบบมาอย่างประณีตยังช่วยมอบความสะดวกสบายในการขับขี่ระยะไกล ดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวแต่สมดุล พร้อมระบบไฟส่องสว่างแบบปรับได้และสัญลักษณ์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งขันแรลลี่แบบมินิมอล

การเชื่อมต่ออัจฉริยะ

อินเทอร์เฟซ SmartXonnect ที่มีการเพิ่มระบบช่วยเหลือการนำทาง การทำแผนที่เส้นทางแบบบล็อก และระบบจัดเก็บเอกสารดิจิทัล ด้วยระบบสั่งการด้วยเสียง การผสานรวมกับ GoPro และการติดตามแบบเรียลไทม์ ทำให้ TVS RTX 300 เป็นจักรยานทัวร์ริ่งที่เชื่อมต่ออย่างแนบแน่นกับผู้ขับขี่

ข้อมูลจำเพาะและคุณสมบัติหลัก

เครื่องยนต์: 299.1 ซีซี สูบเดียว, ระบายความร้อนด้วยของเหลว, DOHC
กำลัง/แรงบิด: 36 PS @ 9000 rpm, 28.5 Nm @ 7000 rpm
เกียร์ : เกียร์ 6 สปีด, สลิปเปอร์คลัตช์, ควิกชิฟเตอร์
แชสซี: เฟรมโครงเหล็กถัก, สวิงอาร์มหล่ออะลูมิเนียม
ระบบกันสะเทือน: โช้ค USD แบบปรับได้ โช้คเดี่ยวที่มีระยะยุบตัว 180 มม.
ความสูงเบาะ: 835 มม. ระยะห่างจากพื้น: 200 มม.
เทคโนโลยี: SmartXConnect: การมิเรอร์แผนที่, การควบคุม GoPro, TPMS, การควบคุมด้วยเสียง/เพลง

TVS บุกเบิกเส้นทางใหม่ด้วย 3 คอนเซ็ปต์สุดโดดเด่นที่งาน EICMA

ในงาน EICMA 2025 TVS Motor Company ได้เริ่มต้นบทใหม่ที่น่าตื่นเต้นบนเส้นทางอันยาวนานแห่งสมรรถนะ นวัตกรรม และการเชื่อมต่อกับผู้ขับขี่ ผู้นำแห่งนวัตกรรมนี้คือ 3 คอนเซ็ปต์สุดล้ำ ได้แก่ TVS Tangent RR Concept, TVS eFX three O electric concept และ TVS RTR HyprStunt Concept

เมื่อรวมกันแล้ว โมเดลเหล่านี้คือเสาหลักแห่งวิสัยทัศน์ใหม่ของ TVS Motor Company ที่ให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่เป็นหัวใจสำคัญของนวัตกรรม สมรรถนะ และความตื่นเต้นเร้าใจในชีวิตประจำวัน โมเดลเหล่านี้แต่ละรุ่นได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ที่สมจริงที่ขยายขอบเขตการขับขี่มอเตอร์ไซค์ให้กับผู้ชมทั่วโลก

TVS Tangent RR Concept จะถ่ายทอดมรดกแห่งการแข่งรถของ TVSM ผสมผสานอารมณ์สปอร์ตดิบๆ เข้ากับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ออกแบบมาเพื่อผู้ที่แสวงหาความเร้าใจในสนามแข่งทุกครั้งที่ขับขี่ พร้อมนำเอกลักษณ์ของ DNA แห่งแชมป์เปี้ยนชิพมาสู่ท้องถนน ด้วยซับเฟรมแบบโมโนค็อกที่ผลิตจากวัสดุคอมโพสิตอัจฉริยะ ทำให้มีน้ำหนักเบาและลู่ลมสูง TVS Tangent RR Concept สร้างความเชื่อมโยงอันโดดเด่นระหว่างมนุษย์ เครื่องจักร และความปรารถนาที่จะไปให้เร็วกว่า ไกลกว่า ในทุกๆ วัน ผู้ขับขี่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกแห่งตำนาน มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่ให้ความสำคัญกับสมรรถนะอันล้ำสมัย อะดรีนาลีน และแรงบันดาลใจ

TVS eFX three O ได้พลิกโฉมนิยามของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าด้วยพลังขับเคลื่อนที่เงียบ ทรงพลัง และนุ่มนวลเป็นพิเศษ พลิกโฉมการเดินทางในชีวิตประจำวันและการพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ ออกแบบมาเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการขับขี่มอเตอร์ไซค์บนท้องถนน ด้วยรูปลักษณ์ล้ำสมัยที่ถ่ายทอดพลังไฟฟ้าผ่านดีไซน์ที่กระชับ เรียบง่าย แต่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ อัจฉริยะ และทรงพลัง โดย TVS eFX three O สามารถตอบโจทย์ผู้ขับขี่ที่มองหาประสบการณ์การเดินทางแห่งอนาคต และโดดเด่นเหนือใครด้วยการมอบทั้งความยั่งยืนและความเพลิดเพลิน รูปทรงที่ล้ำสมัยนี้ผสานความลื่นไหลอันโดดเด่น รังสรรค์ขึ้นจากอุโมงค์ลมและงานออกแบบดิจิทัล

ส่วนขับขี่เต็มรูปแบบที่ผสานรวมระบบ SmartXonnect ได้อย่างราบรื่น ครอบคลุมการวินิจฉัยการขับขี่ การทำแผนที่แบบเรียลไทม์ และการจัดการพลังงานผ่านสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์สวมใส่ ลายเซ็นไฟ Halo แบบลอยตัว ที่เป็นวงแหวนบางๆ ลอยอยู่รอบตัวเทคโนโลยีการมองเห็นแห่งอนาคต เหมือนกับดวงตาที่สามที่มอบวิสัยทัศน์แห่งอนาคต

RTR HyprStunt Concept ได้สร้างคลื่นลูกใหม่แห่งวงการมอเตอร์ไซค์สปอร์ตในเมือง ออกแบบมาเพื่อผู้ที่ชื่นชอบรถมอเตอร์ไซค์หัวใจวัยรุ่นและคนเมืองโดยเฉพาะ ออกแบบมาเพื่อการขับขี่ผาดโผนอย่างแม่นยำและการขับขี่แบบดุดันในเมือง โดย TVS RTR HyprStunt Concept ได้เน้นย้ำถึงความโดดเด่นบนท้องถนน สัมผัสได้ถึงความเป็นเจ้าของในทุกโค้ง และการขับขี่ในชีวิตประจำวันที่ไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพ แต่ยังน่าตื่นเต้นเร้าใจอีกด้วย

รถต้นแบบเหล่านี้ล้วนเป็นเสมือนสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจของ TVS Motor Company เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์และความปรารถนาของผู้ขับขี่ที่เปลี่ยนแปลงไป รถต้นแบบ TVS Tangent RR Concept, eFX three O และ TVS RTR HyprStunt Concept ต่างวางตำแหน่งให้ TVS เป็นผู้นำไม่เพียงแต่ในด้านสมรรถนะ แต่ยังเป็นผู้นำในการสร้างประสบการณ์การขับขี่มอเตอร์ไซค์แห่งยุคใหม่ มอบประสบการณ์ความตื่นเต้นเร้าใจ อะดรีนาลีน และความเป็นหนึ่งเดียวกันของสองล้อให้แก่ผู้ขับขี่ทุกคน ตั้งแต่ผู้ที่ชื่นชอบรถรุ่นเก๋าไปจนถึงนักสำรวจเมือง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20251105242034/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Kanika Mehta <kanika.mehta@tvsmotor.com>

ที่มา: TVS Motor Company





Xenco Medical ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในโลกโดยนิตยสาร Fast Company เป็นครั้งที่สอง

Logo

แซนดีเอโก–(BUSINESS WIRE)–20 มีนาคม 2025

บริษัทเทคโนโลยีการแพทย์ผู้บุกเบิก Xenco Medical ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในโลกโดยนิตยสาร Fast Company อีกครั้ง รายชื่อประจำปีอันทรงเกียรตินี้ยกย่องบริษัทชั้นนำที่มีเทคโนโลยีก้าวล้ำซึ่งกำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ Xenco Medical เคยได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในโลกโดย Fast Company ในปี 2023 และในปี 2025 บริษัทได้รับเกียรตินี้อีกครั้ง ทำให้ Xenco Medical เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการยอมรับในรายการที่ทรงคุณค่านี้มากกว่าหนึ่งครั้ง ด้วยการคัดเลือกจากบริษัทเทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก การติดอันดับดังกล่าวถือเป็นเกียรติสูงสุดที่บริษัทสามารถได้รับจากนวัตกรรมของตน Xenco Medical เป็นผู้บุกเบิกในการประยุกต์ใช้วัสดุศาสตร์กับการออกแบบอุปกรณ์และเครื่องมือศัลยกรรม โดยมีผลงานนวัตกรรมที่ล้ำสมัย เช่น รากฟันเทียมชีวลอกเลียนแบบ วัสดุชีวภาพเพื่อการฟื้นฟู และเครื่องมือศัลยกรรมที่ทำจากพอลิเมอร์คอมโพสิต ซึ่งเสริมประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ล้ำสมัย ตั้งแต่ระบบติดตามการรักษาระยะไกลหลังการผ่าตัดไปจนถึงการจำลองศัลยกรรมล่วงหน้าแบบโฮโลกราฟิก นิตยสาร Fast Company กล่าวในแถลงการณ์ว่า “รายชื่อของปีนี้เน้นย้ำถึงธุรกิจที่กำลังกำหนดทิศทางอุตสาหกรรมและวัฒนธรรม ผ่านนวัตกรรมที่ช่วยให้เกิดความก้าวหน้าครั้งสำคัญในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ”

Xenco Medical has once again been named one of the World’s Most Innovative Companies by Fast Company Magazine in its acclaimed 2025 list. Xenco Medical was previously named one of the World’s Most Innovative Companies in 2023.

Xenco Medical ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในโลกโดย Fast Company Magazine อีกครั้งในรายชื่อประจำปี 2025 ที่ได้รับการยกย่องอย่างสูง โดยก่อนหน้านี้ Xenco Medical เคยได้รับเกียรตินี้มาแล้วในปี 2023

“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งและซาบซึ้งอย่างสุดซึ้งที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในโลกโดย Fast Company อีกครั้ง เรามุ่งมั่นที่จะเดินหน้าพัฒนาวงการสาธารณสุขอย่างไม่หยุดยั้ง ผ่านนวัตกรรมสหวิทยาการที่ขับเคลื่อนด้วยแนวคิดว่า ทุกการแทรกแซงทางการแพทย์ต้องทำงานร่วมกันเพื่อการดูแลสุขภาพในระยะยาว” Jason Haider ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Xenco Medical กล่าว

ขจัดอุปสรรคที่มักทำให้การดูแลศัลยกรรมเป็นระบบแยกส่วน Xenco Medical ได้นำเทคโนโลยี TrabeculeX Continuum มาใช้เพื่อผสานศักยภาพในการกระตุ้นการสร้างกระดูกของวัสดุชีวภาพฟื้นฟูเข้ากับโปรแกรมกายภาพบำบัดเฉพาะบุคคลที่ขับเคลื่อนด้วยแพลตฟอร์มฟื้นฟูอัจฉริยะ AI ด้วยแรงบันดาลใจจากหลักการ Mechanotransduction นวัตกรรมของ Xenco Medical ได้บูรณาการเทคโนโลยี Orthobiologics เข้ากับ Digital health สร้างความเชื่อมโยงไร้รอยต่อระหว่างช่วงระหว่างการผ่าตัดและการฟื้นฟูหลังผ่าตัด เทคโนโลยี TrabeculeX Continuum ยังช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถติดตามระดับความเจ็บปวดของผู้ป่วย การปฏิบัติตามโปรแกรมฟื้นฟู และพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวผ่านการประเมินท่าทางด้วย AI ได้จากระยะไกล เสริมสร้างความร่วมมืออย่างต่อเนื่องระหว่างแพทย์และผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายวัสดุชีวภาพฟื้นฟูของ Xenco Medical

Xenco Medical ได้พลิกโฉมแนวทางสู่ระบบสาธารณสุขที่เน้นคุณค่าเป็นศูนย์กลางผ่านเทคโนโลยีล้ำสมัยของตนในฐานะผู้นำผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมอุปกรณ์การแพทย์ “รายชื่อ Most Innovative Companies ของเราไม่เพียงแต่นำเสนอภาพรวมของนวัตกรรมในปัจจุบัน แต่ยังเป็นคู่มือสำหรับอนาคต” กล่าวโดยFast Companyบรรณาธิการบริหาร Brendan Vaughan กล่าวต่อว่า “ปีนี้ เราให้การยกย่องบริษัทที่นำ AI มาใช้ในเชิงลึกและมีความหมาย แบรนด์ที่เปลี่ยนลูกค้าให้กลายเป็นแฟนพันธุ์แท้ด้วยการมอบประสบการณ์ที่เกินความคาดหมาย และผู้ท้าชิงที่นำเสนอแนวคิดอันกล้าหาญและสร้างการแข่งขันที่สำคัญในอุตสาหกรรมของตน ในช่วงเวลาที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บริษัทเหล่านี้กำลังกำหนดทิศทางสู่อนาคต” รายชื่อ World’s Most Innovative Companies ประจำปี 2025 ได้รับการประกาศโดย Fast Company Magazine เมื่อวันที่ 18 มีนาคมของปีนี้ และจะมีพิธีมอบรางวัลและงานกาล่าจัดขึ้นที่ Javits Center ในนครนิวยอร์กในวันที่ 5 มิถุนายน

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: www.businesswire.com/news/home/20250320679002/en

Contacts

Melissa Russell
858-202-1505
info@xencomedical.com

ที่มา: Xenco Medical

บริษัท Hassana Investment Company และ EIG ลงนามในบันทึกความเข้าใจด้านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในโครงการเพื่อการเปลี่ยนผ่านด้านโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานในตะวันออกกลาง

Logo

ความร่วมมือนี้ส่งเสริมเป้าหมายที่มีร่วมกันเพื่อการลงทุนในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียและภูมิภาคอื่นๆ ด้วยกองทุนเฉพาะในระดับภูมิภาคมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐของ EIG

ริยาด ซาอุดีอาระเบีย และวอชิงตัน–(BUSINESS WIRE)–31 ตุลาคม 2024

บริษัท Hassana Investment Company (Hassana) และ EIG ซึ่งเป็นผู้ลงทุนทางสถาบันชั้นนำในภาคส่วนพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อแสดงความร่วมมือในโครงการเพื่อการเปลี่ยนผ่านด้านโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานในตะวันออกกลาง ผ่านกองทุนเฉพาะในระดับภูมิภาคของ EIG ซึ่งตั้งเป้าไว้ที่ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ Hassana กำลังพิจารณาที่จะเป็นผู้ลงทุนหลัก โดยมีการจัดสรรเงินสูงสุด 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

(Photo: Business Wire)

(ภาพจาก Business Wire)

บันทึกความเข้าใจฉบับนี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นร่วมกันระหว่าง EIG กับ Hassana ในการขยายพอร์ตการลงทุนเพื่อการเปลี่ยนผ่านด้านโครงสร้างพื้นฐานและด้านพลังงานในระดับท้องถิ่นและระดับภูมิภาค โดยส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากนักลงทุนต่างชาติและกระตุ้นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนเป้าหมายจากวิสัยทัศน์ 2030 ของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงไปสู่โซลูชันพลังงานที่สะอาดและยั่งยืนในระดับภูมิภาคที่กว้างไกลขึ้น

บันทึกความเข้าใจดังกล่าวได้รับการลงนามโดยนาย Saad bin Abdulmohsen Al-Fadly ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท Hassana และนาย R. Blair Thomas ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท EIG

Al-Fadly กล่าวว่า “Hassana มีความยินดีที่จะขยายความร่วมมือกับ EIG ซึ่งเป็นผู้นำในภาคส่วนพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก โดยข้อตกลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของทั้งสองบริษัทในการผลักดันให้เกิดการเติบโตทางการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียและภูมิภาคอื่นๆ”

Thomas กล่าวว่า “เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ Hassana ในโครงการท่อส่งน้ำมัน Pearl ในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และตอนนี้เราก็มุ่งหวังที่จะยกระดับความสัมพันธ์ของเราขึ้นไปสู่อีกระดับหนึ่ง”

เขาเสริมว่า “เราเชื่อว่าการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานจะเป็นหนึ่งในประเด็นการลงทุนที่สำคัญในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า อีกทั้งนักลงทุนแนวหน้าจำเป็นต้องทำงานร่วมกันเพื่อพยายามส่งมอบระบบพลังงานที่เชื่อถือได้ ราคาไม่แพง และมีความยั่งยืนตามที่สังคมต้องการ ดังนั้นเราจึงมุ่งมั่นที่จะทำให้ได้ตามที่พูด”

Abdulaziz Al-Gudaimi ประธานฝ่ายปฏิบัติการทางตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือของ EIG กล่าวว่า “Hassanaและ EIG ยังคงสร้างความแตกต่างให้กับวงการพลังงานของตะวันออกกลางอย่างต่อเนื่อง เรามุ่งมั่นที่จะสร้างอนาคตที่ยั่งยืน กระตุ้นเศรษฐกิจ และเสริมสร้างความมุ่งมั่นของภูมิภาคที่มีต่อโซลูชันพลังงานสะอาดในอีกหลายปีข้างหน้าผ่านการจัดสรรเงินทุนให้กับโครงการเพื่อการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่ล้ำสมัย”

เกี่ยวกับ Hassana Investment Company

Hassana Investment Company เป็นผู้จัดการการลงทุนขององค์การประกันสังคมซาอุดีอาระเบียหรือ GOSI โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการกว่า 1.2 ล้านล้านริยัลซาอุดีอาระเบีย (หรือ 320,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) Hassana เป็นผู้บริหารกองทุนบำเหน็จบำนาญที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมีพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายในประเภทสินทรัพย์ต่างๆ ทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค และระดับโลก

Hassana มีเป้าหมายที่จะลงทุนในระยะยาวโดยใช้แนวทางที่รอบคอบ กระบวนการที่แข็งแกร่ง และบุคลากรระดับโลก เพื่อให้แน่ใจว่าพอร์ตโฟลิโอของบริษัทจะอยู่ในตำแหน่งที่จะมอบผลลัพธ์การลงทุนที่ดีที่สุด โดยมีความต้องการที่จะตอบสนองต่อความต้องการทางเงินบำนาญในอนาคตของชาวซาอุดีอาระเบียทุกชั่วรุ่น

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่: www.hassana.com.sa

เกี่ยวกับ EIG

EIG เป็นผู้ลงทุนสถาบันชั้นนำในภาคพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 24,900 ล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2024 บริษัท EIG เองมีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนภาคเอกชนในภาคพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทั่วโลก โดยตลอดระยะเวลา 42 ปีที่ผ่านมานั้น EIG ได้ทุ่มเงินกว่า 48,600 ล้านดอลลาร์ให้กับภาคพลังงานผ่านโครงการหรือบริษัทจำนวน 414 แห่งใน 44 ประเทศจาก 6 ทวีป ลูกค้าของ EIG ได้แก่ แผนเกษียณอายุชั้นนำหลายแห่ง บริษัทประกันภัย กองทุนบริจาค มูลนิธิ และกองทุนความมั่งคั่งของรัฐในสหรัฐอเมริกา เอเชีย และยุโรป ทั้งนี้ EIG มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงวอชิงตันดีซี และมีสำนักงานในฮูสตัน ลอนดอน ซิดนีย์ ริโอเดอจาเนโร ฮ่องกง และโซล สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่เว็บไซต์ของ EIG ที่ www.eigpartners.com.

หมายเหตุ: ปัจจุบัน กองทุนเฉพาะในภูมิภาคของ EIG มีให้บริการเฉพาะนักลงทุนในตลาดโลกแห่งอาบูดาบี, อาร์เจนตินา, ออสเตรเลีย, ออสเตรีย, บาฮามาส, บาห์เรน, เบลเยียม, เบอร์มิวดา, บราซิล, หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน, บรูไน, แคนาดา, หมู่เกาะเคย์แมน, ชิลี, จีน, โคลอมเบีย, คอสตาริกา, ไซปรัส, สาธารณรัฐเช็ก, เดนมาร์ก, ศูนย์การเงินนานาชาติดูไบ, เอกวาดอร์, ประเทศสมาชิก EEA, เอลซัลวาดอร์, เอสโตเนีย, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, กรีซ, กัวเตมาลา, เกิร์นซีย์, ฮ่องกง, ไอซ์แลนด์, อินเดีย, อินโดนีเซีย, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ญี่ปุ่น, เจอร์ซีย์, คูเวต, เลบานอน, ลิเบีย, ลิกเตนสไตน์, มาเลเซีย, หมู่เกาะมาร์แชลล์, เม็กซิโก, โมนาโก, โมร็อกโก, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, โอมาน, ปานามา, เปรู, ฟิลิปปินส์, โปแลนด์, โปรตุเกส, กาตาร์, รัสเซีย, ซาอุดีอาระเบีย, สิงคโปร์, แอฟริกาใต้, เกาหลีใต้, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, ไต้หวัน, ไทย, ตุรกี, ยูเครน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สหราชอาณาจักร, อุรุกวัย และเวียดนาม

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54143888/en

การติดต่อ

ผู้ติดต่อด้านสื่อ
Sard Verbinnen & Co.
Kelly Kimberly / Brandon Messina
+1 212-687-8080
EIG-SVC@sardverb.com

ที่มา: EIG


MidOcean Energy ของ EIG ดำเนินการซื้อหุ้นเพิ่ม 15% ใน Peru LNG จาก Hunt Oil Company เสร็จสิ้นแล้ว

Logo

วอชิงตัน–(BUSINESS WIRE)–24 ตุลาคม 2024

MidOcean Energy (ต่อจากนี้เรียกว่า “MidOcean” หรือ “บริษัท”) บริษัทแก๊สธรรมชาติเหลว (LNG) ที่จัดตั้งและบริหารจัดการโดย EIG สถาบันลงทุนชั้นนำในภาคส่วนพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก ประกาศในวันนี้ว่าได้ดำเนินการตามข้อตกลงที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ในการซื้อหุ้นเพิ่มอีก 15% ใน Peru LNG (“PLNG”) จาก  Hunt Oil Company (ต่อจากนี้เรียกว่า “Hunt”) จนเสร็จสมบูรณ์แล้ว

ขณะนี้ หุ้นของ MidOcean ใน PLNG จึงคิดเป็น 35% โดยที่ Hunt จะยังคงเป็นผู้ดำเนินงานของ PLNG

PLNG เป็นเจ้าของและดำเนินงานเฉพาะโรงงานส่งออก LNG ในอเมริกาใต้ ซึ่งตั้งอยู่ใน Pampa Melchorita ห่างจากทางใต้ของกรุงลิมา ประเทศเปรู 170 กิโลเมตร สินทรัพย์ของ PLNG ประกอบด้วยโรงงานแปรสภาพแก๊สธรรมชาติให้เหลวที่มีขีดความสามารถในการแปรสภาพที่ 4.45 ล้านตันต่อปี (mmtpa), ระบบสายท่อ 408 กิโลเมตรภายใต้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์ที่มีความสามารถอยู่ที่ 1,290 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (mmcf/d), ถังจัดเก็บขนาด 130,000 ลูกบาศก์เมตร (m3) จำนวน 2 ถัง, สถานีขนส่งทางทะเลภายใต้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์ 1.4 กิโลเมตร และสถานที่บรรจุลงรถที่มีขีดความสามารถสูงสุดที่ 19.2 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (mmcf/d) PLNG อยู่ภายใต้การดำเนินงานของ Hunt และเป็นหนึ่งในโรงงานผลิต LNG จำนวนเพียง 2 แห่งในลาตินอเมริกา

Morgan Stanley ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ให้คำปรึกษาทางการเงินแก่ MidOcean โดยเฉพาะเกี่ยวกับการทำธุรกรรมครั้งนี้ และ Latham & Watkins ก็เป็นผู้ให้คำปรึกษาทางกฎหมาย โดยที่ Bracewell LLP ทำหน้าที่เป็นผู้ให้คำปรึกษาทางกฎหมายแก่ Hunt

เกี่ยวกับ MidOcean Energy

MidOcean Energy บริษัท LNG ที่จัดตั้งและบริหารจัดการโดย EIG มุ่งเป้าสร้างกลุ่มหลักทรัพย์ LNG ในระดับสากลที่มีความหลากหลาย ยืดหยุ่น และสามารถแข่งขันด้านต้นทุนและการปล่อยคาร์บอน ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อของ EIG ที่เชื่อว่า LNG เป็นปัจจัยสำคัญที่จะเอื้อในการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานและเชื่อว่าความสำคัญของ LNG ในฐานะแหล่งพลังงานเชิงกลยุทธ์ภูมิรัฐศาสตร์จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ MidOcean Energy อยู่ภายใต้การบริหารของ De la Rey Venter ผู้ชำนาญการในอุตสาหกรรมเป็นระยะเวลา 26 ปีที่เคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงมาอย่างหลากหลาย รวมถึง Global Head of LNG ที่ Shell Plc.

เกี่ยวกับ EIG

EIG เป็นสถาบันลงทุนชั้นนำในภาคส่วนพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกที่มีมูลค่า 24.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายใต้การบริหารจัดการ ณ วันที่ 30 มิถุนายน โดย EIG มีความเชี่ยวชาญพิเศษด้านการลงทุนเอกชนในด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทั่วโลก ตลอดระยะเวลา 42 ปีที่ดำเนินการมา EIG ลงทุนไปกว่า 48.6 พันล้านดอลลาร์ในภาคส่วนพลังงานผ่าน 413 โครงการหรือบริษัทใน 42 ประเทศ 6 ทวีป ลูกค้าของ EIG รวมถึงบริษัทประกันบำนาญ ประกันชีวิต ประกันสะสมทรัพย์ มูลนิธิ กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา เอเชีย และยุโรป สำนักงานใหญ่ของ EIG อยู่ในวอชิงตัน ดี.ซี. และมีสำนักงานอยู่ในฮิวสตัน ลอนดอน ซิดนีย์ รีโอเดจาเนโร ฮ่องกง และโซล

เกี่ยวกับ Hunt Oil Company

Hunt ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1934 และเป็นหนึ่งในบริษัทเอกเทศที่เป็นเจ้าของโดยเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา บริษัทจัดตั้งอยู่ในแดลลัส รัฐเท็กซัส ซึ่งมีสถานที่ปฏิบัติการหลักอยู่ในเปรู สหรัฐอเมริกา และภูมิภาคเคอร์ดิสถานในอิรัก รวมถึงมีโครงการสำรวจในตูนิเซียและโมร็อกโก โดย Hunt นั้นเป็นบริษัทสำรวจที่ดำเนินการในระดับนานาชาติและได้ทำการขุดเจาะมาแล้วในทุกทวีป ยกเว้นแอนตาร์กติกา

หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่เว็บไซต์ของ MidOcean Energy ที่ www.midoceanenergy.com หรือเว็บไซต์ของ EIG ที่ www.eigpartners.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

ข้อมูลติดต่อ EIG/MidOcean
FGS Global
Kelly Kimberly / Brandon Messina
+1 212-687-8080
EIG@fgsglobal.com

ข้อมูลติดต่อ Hunt
Paul Schulze
+1 214-978-8534
publicaffairs@huntconsolidated.com

แหล่งที่มา: EIG

MidOcean Energy ของ EIG จะซื้อกรรมสิทธิ์ Peru LNG เพิ่มเติม 15% จาก Hunt Oil Company

Logo

Aramco นักลงทุนเชิงกลยุทธ์ของ MidOcean จัดหาเงินทุนเพื่อการลงทุน

วอชิงตัน–(BUSINESS WIRE)–16 กันยายน 2024

MidOcean Energy (“MidOcean” หรือ “บริษัท”), บริษัทก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่ก่อตั้งและบริหารจัดการโดย EIG ซึ่งเป็นนักลงทุนสถาบันชั้นนำในภาคพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก และ Hunt Oil Company (“Hunt”) ประกาศในวันนี้ว่าพวกเขาได้ทำข้อตกลงขั้นสุดท้ายโดย MidOcean จะกรรมสิทธิ์ Peru LNG (“PLNG”) เพิ่มเติม 15% จาก Hunt

หลังจากปิดธุรกรรม กรรมสิทธิ์ PLNG ของ MidOcean จะเพิ่มขึ้นจาก จะเพิ่มขึ้นจาก 20% เป็น 35% Aramco มีบทบาทสำคัญในการทำธุรกรรมครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบสถานะทางเทคนิคและเชิงพาณิชย์ที่สำคัญ ตลอดจนการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักในการอนุมัติธุรกรรม การทำธุรกรรมนี้จะได้รับเงินทุนทั้งหมดจาก Aramco ซึ่งจะเพิ่มกรรมสิทธิ์ MidOcean ของตนเป็น 49% การลงทุนเพิ่มเติมของ Aramco ใน MidOcean จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งของ MidOcean และ Aramco ในตลาด LNG ทั่วโลก และจะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายได้มีโอกาสสัมผัสโครงการส่งออก LNG แห่งเดียวในอเมริกาใต้เพิ่มเติม สัดส่วนการถือหุ้นทางอ้อมของ Aramco ใน PLNG จะเท่ากับ 17.2% นอกจาก EIG และ Aramco แล้ว Mitsubishi Corporation ยังลงทุนใน MidOcean ท่ามกลางนักลงทุนระดับบลูชิปรายอื่นๆ

กรรมสิทธิ์ PLNG ของ Hunt จะลดลงจาก 50% เป็น 35% และ Hunt จะยังคงเป็นผู้ดำเนินการของ PLNG หลังการทำธุรกรรม Hunt ยังคงถือกรรมสิทธิ์ 25.2% ในโครงการต้นน้ำ Camisea ในเปรู Hunt ลงทุนในเปรูมาตั้งแต่ปี 2000 และมุ่งมั่นที่จะสานต่อประวัติศาสตร์อันยาวนานของการลงทุนในเปรู และความเป็นเลิศในการดำเนินงานในโครงการ PLNG

PLNG เป็นเจ้าของและดำเนินการโรงงานส่งออก LNG แห่งเดียวในอเมริกาใต้ ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Pampa Melchorita ห่างจากกรุงลิมา ประเทศเปรู ไปทางใต้ 170 กิโลเมตร สินทรัพย์ของ PLNG ประกอบด้วยโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวที่มีกำลังการผลิต 4.45 ล้านตันต่อปี ท่อส่งก๊าซความยาว 408 กิโลเมตรที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ PLNG โดยสมบูรณ์ซึ่งมีกำลังการผลิต 1,290 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ถังเก็บขนาด 130,000 ลูกบาศก์เมตรจำนวน 2 ถัง ท่าเรือทางทะเลความยาว 1.4 กิโลเมตรที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ PLNG โดยสมบูรณ์ และสถานที่บรรทุกสินค้าด้วยรถบรรทุกที่มีความจุสูงถึง 19.2 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดย PLNG จะได้รับการดำเนินการโดย Hunt และเป็นหนึ่งในโรงงานผลิต LNG เพียงสองแห่งในละตินอเมริกา

De la Rey Venter ผู้เป็น CEO ของ MidOcean กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน PLNG ซึ่งเป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ MidOcean ในการสร้างพอร์ตโฟลิโอ LNG ระดับโลก ที่หลากหลาย และมีความยืดหยุ่น ความเชื่อของเราต่อพื้นฐานระยะยาวของตลาด LNG และในจุดแข็งของจุดยืนอันเป็นเอกลักษณ์ของ PLNG ในฐานะโรงงานส่งออก LNG เพียงแห่งเดียวในอเมริกาใต้ที่ยังคงแน่วแน่ เราตั้งตารอที่จะกระชับความร่วมมือของเรากับ Hunt Oil และผู้ร่วมทุน PLNG รายอื่นๆ และยังคงสนับสนุนผลกระทบเชิงบวกของโครงการต่อตลาดพลังงานของเปรูต่อไป”

Mark Gunnin ผู้เป็น CEO ของ Hunt กล่าวว่า “เรามุ่งเน้นไปที่การเตรียมโครงการ PLNG สำหรับอนาคต และโอกาสในการนำ MidOcean เข้ามาเป็นพันธมิตรถือเป็นกลยุทธ์ที่ดีในการทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น”

Morgan Stanley ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแต่เพียงผู้เดียวของ MidOcean ในการทำธุรกรรมครั้งนี้ และ Latham & Watkins ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย Bracewell LLP ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมายของ Hunt

เกี่ยวกับ EIG
EIG คือนักลงทุนสถาบันชั้นนำในภาคพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก ซึ่งกำลังบริหารเงินลงทุนจำนวน 24.9 พันล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2024 โดย EIG เชี่ยวชาญในการลงทุนภาคเอกชนในด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับพลังงานในระดับโลก ในตลอดช่วงระยะเวลา 42 ปี EIG ได้ทุ่มเงินกว่า 48.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับภาคพลังงานผ่านโครงการ 413 โครงการหรือบริษัทใน 42 ประเทศในหกทวีป ลูกค้าของ EIG ประกอบด้วยกองทุนเงินบำนาญ บริษัทประกันภัย กองทุนการกุศล มูลนิธิ และกองทุนความมั่งคั่งชั้นนำหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา เอเชีย และยุโรป EIG มีสำนักงานใหญ่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และมีสำนักงานในฮูสตัน ลอนดอน ซิดนีย์ รีโอเดจาเนโร ฮ่องกง และโซล

เกี่ยวกับ MidOcean Energy
MidOcean Energy ซึ่งป็นบริษัท LNG ที่ก่อตั้งและบริหารจัดการโดย EIG มุ่งมั่นที่จะสร้างพอร์ตโฟลิโอ LNG ระดับโลกที่มีความหลากหลาย ยืดหยุ่น คุ้มทุน และเป็นคู่แข่งกับคาร์บอนได้ เป้าหมายของ MidOcean Energy สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อของ EIG ที่มีต่อ LNG ในฐานะตัวขับเคลื่อนที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงพลังงาน และความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของ LNG ในฐานะทรัพยากรพลังงานเชิงกลยุทธ์เชิงภูมิรัฐศาสตร์ MidOcean Energy นำโดย De la Rey Venter ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมานานเป็นเวลา 26 ปี ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารอาวุโสหลายตำแหน่ง ซึ่งรวมถึงหัวหน้าฝ่าย LNG ระดับโลกของ Shell Plc

เกี่ยวกับ Hunt Oil Company
Hunt ก่อตั้งขึ้นในปี 1934 โดยเป็นหนึ่งในบริษัทน้ำมันและก๊าซอิสระที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา พื้นที่ปฏิบัติการหลักของบริษัทตั้งอยู่ในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ในเปรู สหรัฐอเมริกา และภูมิภาคเคอร์ดิสถานของอิรัก รวมถึงโครงการสำรวจในตูนิเซียและโมร็อกโก Hunt เป็นบริษัทสำรวจระดับนานาชาติที่กระตือรือร้น และได้ขุดเจาะในทุกทวีปนอกเหนือจากทวีปแอนตาร์กติกา

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่เว็บไซต์ของ EIG ที่ www.eigpartners.com หรือเว็บไซต์ของ MidOcean Energy ที่ www.midoceanenergy.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

ข้อมูลติดต่อ EIG
FGS Global
Kelly Kimberly / Brandon Messina
+1 212-687-8080
EIG@fgsglobal.com

ข้อมูลติดต่อ Hunt
Paul Schulze
+1 214-978-8534
publicaffairs@huntconsolidated.com

แหล่งที่มา: EIG