All posts by Jasmine

ธนาคาร Mizuho เร่งปฏิบัติตามมาตรฐาน ISO 20022 และปรับปรุงระบบการชำระเงินให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วย Boomi

Logo

สถาบันการเงินจะลดเวลาในการเริ่มต้นใช้งานลง เพิ่มความสามารถในการปรับขนาดตามภูมิภาค และปกป้องลูกค้าจากการหยุดชะงักของกฎระเบียบ

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–14 พฤศจิกายน 2025

Boomi ผู้นำด้านระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI ประกาศในวันนี้ว่า ธนาคาร Mizuho ได้นำแพลตฟอร์ม Boomi Enterpriseมาใช้งานเพื่อเร่งการปฏิบัติตามมาตรฐาน ISO 20022 และปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

โครงการนี้ช่วยให้การเริ่มต้นใช้งานของลูกค้าราบรื่นขึ้น ด้วยคำสั่งชำระเงินที่ง่ายขึ้น และความสามารถในการปรับขนาดเพื่อรองรับอนาคต ทั้งหมดนี้เพื่อปกป้องลูกค้าจากความซับซ้อนของการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบต่างๆ

ธนาคาร Mizuho เป็นส่วนหนึ่งของ Mizuho Financial Group หนึ่งในสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดำเนินธุรกิจครอบคลุมทั้งธนาคารเพื่อลูกค้าองค์กร ธนาคารเพื่อลูกค้ารายย่อย และธนาคารเพื่อการลงทุน ขณะที่อุตสาหกรรมบริการทางการเงินกำลังเปลี่ยนผ่านจากระบบการส่งข้อความ SWIFT MT แบบเดิมไปสู่มาตรฐาน ISO 20022 ธนาคารจึงได้เล็งเห็นโอกาสที่จะก้าวไปไกลกว่าการปฏิบัติตามข้อกำหนด และใช้การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นจุดเริ่มต้นเพื่อยกระดับผลลัพธ์ให้กับลูกค้า

“เราทราบดีว่าการเปลี่ยนผ่านสู่มาตรฐาน ISO 20022 อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานประจำวันของลูกค้า แทนที่จะผลักภาระความซับซ้อนนั้นให้พวกเขา เรากลับตัดสินใจรับผิดชอบแทน” Andy Nam ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศประจำภูมิภาคของธนาคาร Mizuho กล่าว “โครงการนี้จะช่วยให้ลูกค้าของเรายังคงใช้รูปแบบไฟล์ที่คุ้นเคยได้ต่อไป ในขณะที่เราจะจัดการการแปลงไฟล์อย่างแนบเนียนเบื้องหลัง ความเรียบง่ายแบบนี้ต้องอาศัยความซับซ้อนของระบบแบ็กเอนด์ขั้นสูง”

แทนที่จะต้องให้ลูกค้าปรับปรุงระบบของตนเองให้ทันสมัยเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ Mizuho เลือกที่จะละทิ้งภาระทางเทคนิคทั้งหมด โดยลงทุนในพอร์ทัลบริการตนเองที่สามารถรองรับรูปแบบใดๆ ก็ได้ ไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ และจัดการการแปลและการตรวจสอบโดยอัตโนมัติ

ด้วย Boomi ทำให้ Mizuho ได้แทนที่เครื่องมือแปลงไฟล์ที่หลากหลายและซับซ้อนในสาขาต่างๆ ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยอินเทอร์เฟซเดียวที่ผสานรวมเป็นหนึ่งเดียว พอร์ทัลบนเว็บนี้ช่วยให้ลูกค้าสามารถอัปโหลดหรือป้อนคำสั่งชำระเงินด้วยตนเองได้ทั้งในรูปแบบเดิมและรูปแบบ ISO 20022 โดยแพลตฟอร์มแบบใช้โค้ดน้อยของ Boomi นั้นจะช่วยจัดการการแปลง การตรวจสอบความถูกต้อง และการส่งมอบคำสั่งแต่ละคำสั่งอย่างปลอดภัย ช่วยลดความซับซ้อนของขั้นตอนการใช้งานและลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลงอย่างมาก

แพลตฟอร์มใหม่นี้ช่วยให้ Mizuho สามารถลดระยะเวลาในการเริ่มต้นใช้งานของลูกค้าลงได้เป็นอย่างมากจากหลายเดือนเหลือเพียงไม่กี่สัปดาห์ ขณะเดียวกันก็สนับสนุนการหาลูกค้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดต้นทุนในการให้บริการลง โซลูชันนี้เปิดให้บริการในตลาดสำคัญๆ ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแล้ว และกำลังขยายการให้บริการไปยังพื้นที่อื่นๆ ของธนาคารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

“การดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาอันรวดเร็วถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ แต่ความสำเร็จที่แท้จริงคือสิ่งที่โครงการนี้ทำให้เกิดขึ้น” Andy กล่าวเสริม “เราได้สร้างรากฐานที่ปรับขนาดได้ ซึ่งไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังสามารถปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงครั้งถัดไปของวงการธนาคารดิจิทัลได้อีกด้วย”

โครงการริเริ่มนี้ได้กลายเป็นต้นแบบสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้สามารถส่งเสริมความคล่องตัว นวัตกรรม และผลลัพธ์ที่ดีขึ้นสำหรับลูกค้าในสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน Mizuho กำลังมองหาการต่อยอดความสำเร็จนี้ โดยสำรวจการพัฒนาขีดความสามารถด้านดิจิทัลเพิ่มเติมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าองค์กรที่หลากหลายยิ่งขึ้นทั่วภูมิภาค

“การปรับปรุงระบบชำระเงินให้ทันสมัยไม่ได้เกิดขึ้นในสภาวะสุญญากาศ แต่จำเป็นต้องประสานระบบเก่าและระบบใหม่เข้าด้วยกันในลักษณะที่ไม่ส่งผลกระทบต่อบริการที่สำคัญยิ่งต่อภารกิจ” David Irecki ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นของ Boomi กล่าว “แนวทางของธนาคาร Mizuho ผสมผสานการปฏิบัติตามกฎระเบียบเข้ากับการให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นศูนย์กลาง การผนวกมาตรฐาน ISO 20022 เข้ากับกลยุทธ์การบูรณาการที่ยืดหยุ่น ช่วยให้ธนาคารสามารถเตรียมความพร้อมสำหรับการดำเนินงานในอนาคตและปลดล็อกวิธีการใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมในระดับขนาดใหญ่”

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Boomi

Boomi ผู้นำด้านระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยให้องค์กรทั่วโลกเชื่อมต่อทุกสิ่ง จัดการกระบวนการอัตโนมัติ และเร่งผลลัพธ์ โดยแพลตฟอร์ม Boomi Enterprise ซึ่งรวมถึง Boomi Agentstudio จะผสานการบูรณาการและระบบอัตโนมัติเข้ากับการจัดการข้อมูล API และ AI Agent ไว้ในโซลูชันเดียวที่ครอบคลุม โดยทาง Boomi ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ากว่า 25,000 ราย และได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายพันธมิตรกว่า 800 ราย ซึ่งกำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงแบบ Agentic ที่จะช่วยให้องค์กรทุกขนาดมีความคล่องตัว มีประสิทธิภาพ และมีนวัตกรรมในระดับที่กว้างกว่าเดิม ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ boomi.com

© 2025 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ ‘Boomi’, โลโก้ ‘B’ และ Boomiverse เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Boomi, LP หรือบริษัทสาขาหรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ สงวนลิขสิทธิ์ ชื่อหรือเครื่องหมายอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20251113295012/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ:
Jasmine Ee
หัวหน้าฝ่ายสัมพันธ์อินฟลูเอนเซอร์, APJ
jasmine.ee@boomi.com

ที่มา: Boomi

InterSystems เปิดตัว HealthShare AI Assistant เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดึงข้อมูลและการมีส่วนร่วมทางคลินิกด้วย Conversational Intelligence

Logo

ความสามารถใหม่ที่จะช่วยให้แพทย์สามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ป่วยทั้งหมดได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น

บอสตัน–(BUSINESS WIRE)–12 พฤศจิกายน 2025

InterSystemsผู้ให้บริการเทคโนโลยีข้อมูลเชิงสร้างสรรค์ที่ขับเคลื่อนข้อมูลสุขภาพมากกว่า 1 พันล้านรายการทั่วโลก ประกาศเปิดตัว InterSystems HealthShare AI Assistant ซึ่งใช้ความสามารถของ AI เชิงสร้างสรรค์ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือแพทย์ ผู้จัดการเคส และผู้ดูแลระบบในการเข้าถึงและทำความเข้าใจข้อมูลของผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็วและใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น

โดยสร้างขึ้นมาจากรากฐานที่เชื่อถือได้ของ InterSystems HealthShare Unified Care Record (UCR) ทำให้ HealthShare AI Assistant สามารถนำเสนออินเทอร์เฟซแบบสนทนาที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสืบค้น สรุป และนำทางบันทึกสุขภาพระยะยาวที่ซับซ้อนได้อย่างปลอดภัยโดยใช้คำสั่งภาษาธรรมชาติ โดย AI Assistant สามารถสืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูลทางคลินิกที่หลากหลายหลายนับพันแหล่ง และใช้ประโยชน์จาก AI เชิงสร้างสรรค์เพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้องและนำเสนอข้อมูลผ่านจอแสดงผลมาตรฐานอุตสาหกรรม ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ป่วยที่ครอบคลุม รวมถึงข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น

ความสามารถหลักบางประการของ HealthShare AI Assistant ประกอบด้วย

  • อินเทอร์เฟซการสนทนา ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถามคำถามทางคลินิกหรือขอสรุปข้อมูลของผู้ป่วยด้วยภาษาง่ายๆ โดยสามารถมอบข้อมูลเชิงลึกที่กระชับและเข้าใจในบริบทได้ทันที
  • คำเตือนที่สร้างไว้ล่วงหน้าและกำหนดเอง ให้คำแนะนำเริ่มต้นที่ผ่านการคัดสรรทางคลินิก และช่วยให้องค์กรสามารถสร้างการกำหนดค่าตามบทบาทที่ปรับแต่งได้
  • การตรวจสอบแหล่งที่มา เชื่อมโยงคำตอบที่สร้างโดย AI ทุกครั้งกับแหล่งข้อมูลที่ได้รับการยืนยัน ส่งเสริมความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือทางคลินิก
  • การบูรณาการแบบไร้รอยต่อ ดำเนินการภายใน HealthShare Clinical Viewer และแอปพลิเคชั่นนำทางโดยทำให้ผู้ช่วยฝังอยู่ในเวิร์กโฟลว์ตามธรรมชาติของผู้ใช้
  • ธรรมาภิบาลที่ครอบคลุม ใช้โปรไฟล์ข้อมูลที่กำหนดค่าได้ การควบคุมการเข้าถึงตามบทบาท และการติดตามการตรวจสอบแบบเต็มรูปแบบเพื่อรองรับการใช้งาน AI ที่ปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ

“AI ในระบบการดูแลสุขภาพต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานความน่าเชื่อถือ ความสามารถในการทำงานร่วมกัน และข้อมูลที่เชื่อถือได้” Don Woodlock หัวหน้าฝ่ายโซลูชันการดูแลสุขภาพระดับโลกของ InterSystems กล่าว “HealthShare AI Assistant จะช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์เข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้นจากภายในเวิร์กโฟลว์ที่มีอยู่ ช่วยลดภาระทางความคิด เพิ่มประสิทธิภาพ และให้แพทย์สามารถมุ่งเน้นไปที่การดูแลผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่”

โครงการนำร่องของ HealthShare AI Assistant แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพและความพึงพอใจของผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การศึกษาการใช้งานที่ดำเนินการร่วมกับ Healthix ที่เป็นศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านสาธารณสุขที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา แสดงให้เห็นว่า AI Assistant สามารถช่วยปรับปรุงขั้นตอนการทำงานของแพทย์ได้ดีขึ้น ลดเวลาในการตรวจสอบบันทึก และแสดงข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์และสามารถดำเนินการได้ทันที

“การรวบรวมข้อมูลจากสถานพยาบาลกว่า 9,000 แห่ง สำหรับผู้ป่วยกว่า 21 ล้านคน มาพร้อมกับข้อมูลจำนวนมหาศาล” Todd Rogow ซีอีโอของ Healthix กล่าว “ด้วย HealthShare AI Assistant ผู้ใช้บริการทางการแพทย์ของเราจะมีเครื่องมือที่สามารถดึงข้อมูลสรุปทางคลินิกที่ผ่านการตรวจสอบแล้วได้ทันที โดยดึงมาจากข้อมูลย้อนหลังหลายปี มอบมุมมองแบบองค์รวมเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วย ณ เวลาที่เข้ารับการรักษา”

HealthShare AI Assistant เป็นส่วนหนึ่งของชุดผลิตภัณฑ์ InterSystems HealthShare ที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันของข้อมูลและการเชื่อมต่อการดูแลสุขภาพในกว่า 80 ประเทศ โดยความสามารถ AI ใหม่นี้พร้อมใช้งานทันทีสำหรับผู้ใช้ HealthShare ในภูมิภาคที่รองรับ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม www.InterSystems.com/HealthShare

เกี่ยวกับ InterSystems
InterSystems เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีข้อมูลเชิงสร้างสรรค์ มอบรากฐานที่เป็นหนึ่งเดียวสำหรับแอปพลิเคชันยุคใหม่สำหรับลูกค้าด้านการดูแลสุขภาพ การเงิน การผลิต และซัพพลายเชนในกว่า 80 ประเทศ แพลตฟอร์มข้อมูลของเราจะช่วยแก้ปัญหาด้านความสามารถในการทำงานร่วมกัน ความเร็ว และความสามารถในการปรับขนาดสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก เพื่อปลดล็อกพลังของข้อมูลและเปิดโอกาสให้ผู้คนได้รับข้อมูลในรูปแบบที่สร้างสรรค์ InterSystems ก่อตั้งขึ้นในปี 1978 โดยมีความมุ่งมั่นในการมุ่งสู่ความเป็นเลิศด้วยการสนับสนุนลูกค้าและพันธมิตรทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน InterSystems เป็นบริษัทเอกชนและมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ มีสำนักงาน 38 แห่งใน 28 ประเทศทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม InterSystems.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ InterSystems:
Zach Keating
pr@intersystems.com
617.551.5158

ที่มา: InterSystems

TOURISE ประกาศการลงทุนในพอร์ตโฟลิโอมูลค่า 113 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเร่งอนาคตการท่องเที่ยว

Logo

การทำข้อตกลงที่มีผลกระทบอย่างสูงในการประชุมสุดยอด TOURISE ครั้งแรกนี้ จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้เงินทุนข้ามภาคส่วนเพื่อการเติบโตในระบบนิเวศการท่องเที่ยวระดับโลก

ริยาด, ซาอุดีอาระเบีย–(BUSINESS WIRE)–12 พฤศจิกายน 2025

TOURISE แพลตฟอร์มระดับโลกที่มุ่งมั่นสร้างอนาคตใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ประกาศในวันนี้ว่า ได้กระตุ้นพอร์ตการลงทุนมูลค่ารวม 113 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการประชุมสุดยอด TOURISE ครั้งแรก ณ กรุงริยาด ความสำเร็จครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงพันธกิจของ TOURISE ในการปลดล็อกข้อตกลงมูลค่าสูง ด้วยการรวมตัวของผู้นำภาครัฐและเอกชนด้านการท่องเที่ยว เทคโนโลยี การลงทุน และความยั่งยืน เพื่อกำหนดแผนงานร่วมกันสำหรับ 50 ปีข้างหน้าของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก

His Excellency Ahmed Al Khateeb, Saudi Arabia's Minister of Tourism and Chairman of TOURISE announces USD 113 BN of investment portfolios catalyzed at the inaugural TOURISE Summit.

ฯพณฯ Ahmed Al Khateeb รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียและประธานบริษัท TOURISE ได้ประกาศเปิดตัวพอร์ตการลงทุนมูลค่า 113 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในงาน TOURISE Summit ครั้งแรก

การลงทุนในพอร์ตโฟลิโอที่ประกาศออกมานี้ครอบคลุมทุกแง่มุมของเศรษฐกิจนักท่องเที่ยว ได้แก่ ร้านค้าปลีกหรู ที่พักโรงแรมยุคใหม่ การพัฒนาแบบบูรณาการขนาดใหญ่ที่นำโดยประสบการณ์ การดูแลสุขภาพ ข้อเสนอด้านจุดหมายปลายทางและไลฟ์สไตล์ การพัฒนาบุคลากร และแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI ต่างๆ ด้วยความมุ่งมั่นเหล่านี้จะช่วยกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับสิ่งที่เป็นไปได้และสิ่งที่จำเป็น เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการท่องเที่ยวในอนาคตและออกแบบการเดินทางของนักเดินทางในรูปแบบใหม่

บริษัทในระดับนานาชาติและในระดับท้องถิ่นบางแห่งได้ประกาศพอร์ตโฟลิโอของตนที่เป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนมูลค่า 113 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ นี้ ประกอบด้วย Melia Hotels, BWH Hotels, GOCO Hospitality, Cenomi, Radisson, Earth Hotels, Delonix & Ocean Link, AlFozan Holding, Al Kathiri Holding, Alothaim และ Knowledge Economic City

การผสมผสานโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งเข้ากับทุนมนุษย์ การผสมผสานข้อมูล การออกแบบ และการบริการ จะช่วยปลดล็อกคุณค่าใหม่ๆ ทั่วทั้งระบบนิเวศการท่องเที่ยว สร้างโอกาสงานใหม่ๆ และมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจและมีเป้าหมายชัดเจนในวงกว้าง โดยเหนือสิ่งอื่นใด หลายๆ โครงการนั้นมุ่งเน้นไปที่ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งตอกย้ำถึงความสามารถในการแข่งขันในระดับนานาชาติและความเป็นที่ต้องการของซาอุดีอาระเบียในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก ที่ซึ่งวัฒนธรรม นวัตกรรม และบริการระดับโลกมาบรรจบกัน และส่งสัญญาณไปยังพันธมิตรและนักลงทุนว่านี่คือยุคใหม่ของการเติบโตด้านการท่องเที่ยว

การลงทุนเป็นจุดเริ่มต้นบทต่อไปของเศรษฐกิจการท่องเที่ยวระดับโลก

ฯพณฯ Ahmed Al-Khateeb รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและประธานคณะกรรมการ TOURISE กล่าวว่า “TOURISE จะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่นำนักลงทุน ผู้กำหนดนโยบาย และนักนวัตกรรมมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว โดยเปลี่ยนวิสัยทัศน์ให้กลายเป็นความร่วมมือที่คุ้มค่าทางการเงินและข้อตกลงที่สร้างผลกระทบสูง เรากำลังนิยามเศรษฐกิจของนักเดินทางทั้งหมดใหม่ ขับเคลื่อนด้วย AI โดยสร้างขึ้นมาจากความเป็นเลิศด้านจุดหมายปลายทางและประสบการณ์ต่างๆ ร่วมกัน และออกแบบมาเพื่อให้เกิดการเติบโตและขยายโอกาสไปทั่วทั้งระบบนิเวศ”

การประกาศในวันนี้ถือเป็นการตอกย้ำถึงวัตถุประสงค์ในการก่อตั้ง TOURISE นั่นคือการรวมตัวผู้มีอำนาจตัดสินใจและผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อเร่งสร้างความร่วมมือในเชิงปฏิรูป และเปลี่ยนความทะเยอทะยานให้เป็นการกระทำผ่านการทำข้อตกลงที่มีผลกระทบสูง การประกาศในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นนี้ในระบบนิเวศการท่องเที่ยว ช่วยตอกย้ำว่า TOURISE ได้รวบรวมผู้คนที่ใช่ในเวลาที่เหมาะสม เพื่อขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเดินทาง การเชื่อมต่อ และการเติบโตของโลก

เกี่ยวกับ TOURISE

TOURISE เป็นแพลตฟอร์มชั้นนำของโลกที่สร้างขอบเขตใหม่ให้กับการท่องเที่ยวทั่วโลก

การประชุมสุดยอด TOURISE ครั้งแรก ซึ่งขับเคลื่อนโดยกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 พฤศจิกายน 2025 ณ กรุงริยาด โดย TOURISE ได้รวบรวมผู้มีวิสัยทัศน์จากภาครัฐ ภาคธุรกิจ การลงทุน และภาคการศึกษา เพื่อมาร่วมกันพัฒนานวัตกรรมที่จะขับเคลื่อนโครงการริเริ่มที่สร้างผลกระทบแบบองค์รวม รวมถึงข้อตกลงเชิงปฏิรูปที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรมและสร้างภาคการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เป็นธรรม และมุ่งเน้นอนาคต

TOURISE มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมในเชิงกายภาพและครอบคลุมทุกช่องทางดิจิทัล โดยจะรับประกันการมีส่วนร่วมในวงกว้างจากทั่วโลก ควบคู่ไปกับการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุดสำหรับผู้ที่มีวิสัยทัศน์ในการกำหนดอนาคตของการท่องเที่ยวโลก หลังจากการประชุมสุดยอด TOURISE จะขยายขอบเขตเป็นแพลตฟอร์มที่ดำเนินกิจกรรมตลอดทั้งปีที่ซึ่งแนวคิดที่โดดเด่นจะกลายเป็นทางออกในโลกแห่งความเป็นจริง

นี่คือจุดกำเนิดของการท่องเที่ยวในอีก 50 ปีข้างหน้า เมื่อร่วมมือกัน จะไม่มีอะไรหยุดยั้งเราได้

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TOURIST โปรดไปที่ www.TOURISE.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20251111666032/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

media@tourise.com

ที่มา: TOURISE

อนาคตถูกกำหนดไว้สำหรับยุคใหม่ของการท่องเที่ยวด้วยการเปิดตัว TOURISE Summit ครั้งแรก

Logo

  •  ผู้แทนเกือบ 8,000 คนได้ลงทะเบียนเข้าร่วมการประชุม TOURISE Summit ครั้งแรก ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 พฤศจิกายน
  •  วิทยากรระดับโลก 140 ท่าน ตอบรับเข้าร่วม

ริยาด, ซาอุดีอาระเบีย –(BUSINESS WIRE)–11 พฤศจิกายน 2025

ด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะแก้ไขกฎเกณฑ์การเดินทางใหม่ การประชุม TOURISE Summit ครั้งแรก ภายใต้การอุปถัมภ์ของเจ้าชาย Mohammed bin Salman bin Abdulaziz Al Saud มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรี ได้เปิดอย่างเป็นทางการในวันนี้ โดย H.E. Ahmed Al Khateeb รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียและประธาน TOURISE

His Excellency Ahmed Al Khateeb, Saudi Arabia's Minister of Tourism and Chairman of TOURISE, opens the inaugural TOURISE Summit in Riyadh.

H.E. Ahmed Al Khateeb รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียและประธาน TOURISE เป็นประธานเปิดการประชุม TOURISE Summit ครั้งแรกในริยาด

TOURISE จะเป็นผู้นำยุคใหม่ของการท่องเที่ยวโลก โดยรวบรวมรัฐมนตรี ผู้แทน และผู้มีวิสัยทัศน์จากทั่วโลกในฐานะแพลตฟอร์มชั้นนำที่มุ่งสร้างอนาคตของการท่องเที่ยวทั่วโลก

งาน TOURISE จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 พฤศจิกายน 2025 ทันทีหลังจากการประชุมสมัชชาใหญ่ด้านการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 50 โดยมุ่งปรับโฉมรูปแบบการปฏิสัมพันธ์ของภาคส่วนต่างๆ เพื่อค้นหาโอกาสที่คู่แข่งจะกลายเป็นพันธมิตร การลงทุนจะได้รับการปรับให้เหมาะสมที่สุด และการรวมกลุ่มที่กระจัดกระจายจะมาบรรจบกัน งานนี้มีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนแนวคิดที่กล้าหาญให้กลายเป็นวิธีแก้ปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริง และกระตุ้นความคิดริเริ่มที่จะกำหนดทิศทางของภาคการท่องเที่ยวโลกในอีก 50 ปีข้างหน้า

ในสุนทรพจน์เปิดงานวันนี้ H.E. Ahmed Al Khateeb ได้กล่าวว่า ไม่เคยมีช่วงเวลาใดที่เร่งด่วนหรือเหมาะสมยิ่งไปกว่าการผสานรวมภาคส่วนต่างๆ เพื่อกำหนดทิศทางการท่องเที่ยวโลก โดยภาคการท่องเที่ยวได้ฟื้นตัวขึ้นสู่จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวและการลงทุนจากต่างประเทศสูงกว่าระดับก่อนเกิดการระบาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ฯพณฯ ได้เตือนว่าในขณะเดียวกัน ภาคส่วนนี้กำลังเผชิญกับความท้าทายและโอกาสที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ประกอบด้วย การพลิกผันทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงจากรุ่นสู่รุ่นด้วยการเดินทางที่ยั่งยืนและเน้นประสบการณ์ และความจำเป็นในการสร้างความยืดหยุ่นในการรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม รวมถึงความแตกแยกที่เพิ่มมากขึ้นทั่วโลก

ฯพณฯ ตระหนักดีว่า TOURISE ได้มาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญนี้ เมื่อโลกกำลังแสวงหารูปแบบใหม่ๆ ความร่วมมือใหม่ๆ และแนวทางแก้ไขปัญหาใหม่ๆ

“TOURISE เป็นมากกว่าแค่งานอีเวนต์ โดยเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการดำเนินการที่เราจะร่วมกันแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่จำกัดศักยภาพของการท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน หนึ่งในนั้นคือความท้าทายด้านทักษะ การลงทุน โครงสร้างพื้นฐาน ความยั่งยืน และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล นี่คือพื้นที่ที่เราจะร่วมมือกันเพื่อมอบผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผลตอบแทนสำหรับนักลงทุน จุดหมายปลายทางที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และประสบการณ์ที่คุ้มค่าสำหรับนักเดินทาง รวมถึงอาชีพและความเจริญรุ่งเรืองสำหรับชุมชนเมื่อมีความต้องการเดินทางเพิ่มมากขึ้น เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่เรามาที่นี่เพื่อลงมือทำ นั่นคือเหตุผลที่ TOURISE ยังคงอยู่”

ตลอดระยะเวลาสามวัน TOURISE จะเป็นเจ้าภาพจัดเสวนาและเสวนาสำคัญๆ มากมาย โดยมีผู้นำระดับโลกจากหลากหลายภาคส่วนเข้าร่วม วิทยากรระดับโลกที่มีชื่อเสียง ประกอบด้วย:

  • Ariane Gorin ซีอีโอ Expedia
  • เอกอัครราชทูต Patricia Espinosa ผู้ก่อตั้ง onepoint5
  • Gloria Guevara รักษาการซีอีโอ สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก
  • Shaikha Nasser Al Nowais เลขาธิการใหญ่ฝ่ายการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติคนใหม่
  • Luis Maroto ซีอีโอ Amadeus
  • Francis Suarez นายกเทศมนตรีเมืองไมอามี
  • Paul Griffiths ซีอีโอ ท่าอากาศยานดูไบ
  • Lucia Penrod ผู้ร่วมก่อตั้งและเจ้าของ Nikki Beach
  • Sébastien Bazin ซีอีโอ Accor
  • Eduardo Santander ซีอีโอ คณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งยุโรป (ETC)
  • Harvey Goldsmith CBE ผู้ก่อตั้ง Nvisible Productions
  • Thomas Woldbye ซีอีโอ สนามบินฮีทโธรว์
  • Steve Hafner ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ Kayak.com

รายชื่อวิทยากรดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า TOURISE ได้รวบรวมผู้นำจากภาคส่วนต่างๆ ที่ไม่ค่อยได้เห็นมารวมกันอย่างไร ทำให้เกิดความร่วมมือที่แหวกแนวและไร้ขอบเขต การบรรจบกันเหล่านี้ไม่เพียงแต่แปลกใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องยนต์สำหรับรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ประสบการณ์การเดินทางที่ดีขึ้น การพัฒนาจุดหมายปลายทางอย่างยั่งยืนและกลยุทธ์การลงทุนต่างๆ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้จากแพลตฟอร์มที่หลากหลายและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเช่นนี้เท่านั้น

การประชุม Summit นี้จะครอบคลุมถึงคำถามสำคัญๆ ที่กำหนดอนาคตของการเดินทางใหม่ ตั้งแต่ประสบการณ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และขอบเขตที่ไร้แรงเสียดทาน ไปจนถึงการออกแบบจุดหมายปลายทาง การลงทุน และการแข่งขันเพื่อผู้เดินทางในอนาคต และเปลี่ยนคำถามเหล่านั้นให้เป็นการกระทำผ่านบทสนทนาของรัฐมนตรีที่ทรงพลัง บทสนทนาในห้องประชุม ปาฐกถาหลักบนเวทีหลัก รวมถึงการจัดแสดงนวัตกรรม

ผู้ชนะรางวัล TOURISE Awards ครั้งแรกจะได้รับการประกาศในเย็นวันนี้เช่นกัน โดยจะมอบรางวัลให้แก่สถานที่ที่เป็นตัวอย่างของจุดหมายปลายทางที่ยอดเยี่ยมและตอบสนองความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงไปของนักเดินทางยุคใหม่

ภายใต้การสนับสนุนจากกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย TOURISE จะเป็นมากกว่าการประชุมสุดยอดสามวัน แต่เป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง สิ่งสำคัญคือ การสนทนาที่เกิดขึ้นในริยาดจะดำเนินต่อไปตลอดทั้งปี ผ่านความร่วมมือและความร่วมมือข้ามภาคส่วน เพื่อเปลี่ยนแนวคิดที่กล้าหาญให้กลายเป็นโซลูชันที่ใช้งานได้จริง

เกี่ยวกับ TOURISE

TOURISE เป็นแพลตฟอร์มชั้นนำของโลกที่สร้างขอบเขตใหม่ให้กับการท่องเที่ยวทั่วโลก

การประชุม TOURISE Summit ครั้งแรก ที่ขับเคลื่อนโดยกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 พฤศจิกายน 2025 ที่ริยาด โดย TOURISE จะรวบรวมผู้มีวิสัยทัศน์จากภาครัฐ ภาคธุรกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว และเทคโนโลยี เพื่อนำเสนอโครงการริเริ่มที่มีผลกระทบสูงและข้อตกลงต่างๆ ที่จะช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะช่วยพลิกโฉมอุตสาหกรรมและสร้างภาคการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เป็นธรรม และมุ่งเน้นอนาคต

TOURISE มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมในเชิงกายภาพและครอบคลุมทุกช่องทางดิจิทัล โดยจะรับประกันการมีส่วนร่วมในวงกว้างจากทั่วโลก ควบคู่ไปกับการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุดสำหรับผู้ที่มีวิสัยทัศน์ในการกำหนดอนาคตของการท่องเที่ยวโลก หลังจากการประชุมสุดยอด TOURISE จะขยายขอบเขตเป็นแพลตฟอร์มตลอดทั้งปีที่ซึ่งแนวคิดที่โดดเด่นจะกลายเป็นทางออกในโลกแห่งความเป็นจริง

นี่คือจุดกำเนิดของการท่องเที่ยวในอีก 50 ปีข้างหน้า เมื่อร่วมมือกัน เราจะไม่มีวันหยุดยั้ง

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TOURISE ได้ที่ www.TOURISE.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20251111716065/en

Contacts

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ: media@TOURISE.com

ที่มา: TOURISE


ปฏิญญาริยาดว่าด้วยอนาคตของการท่องเที่ยวกับการกำหนดแผนงาน 50 ปี ในการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 26 ด้านการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติที่ได้ปิดฉากลงแล้วที่ซาอุดีอาระเบีย

Logo

ริยาด, ซาอุดีอาระเบีย–(BUSINESS WIRE)–11 พฤศจิกายน 2025

การประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติครั้งที่ 26 สิ้นสุดลงในวันนี้ด้วยการรับรองปฏิญญาริยาดว่าด้วยอนาคตของการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศสมาชิกในการส่งเสริมความร่วมมือกันในอีก 50 ปีข้างหน้า

26th UN Tourism General Assembly

สมัชชาใหญ่ด้านการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 26

ปฏิญญาฉบับนี้ได้ตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำของราชอาณาจักรในด้านการท่องเที่ยวระดับโลกและเป็นศูนย์กลางการตัดสินใจครั้งสำคัญที่เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม เนื่องจากปฏิญญาอันเป็นก้าวสำคัญนี้พร้อมที่จะมีบทบาทสำคัญในการผลักดันวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนในปี 2030 โดยมุ่งเน้นไปที่ความยั่งยืน นวัตกรรมดิจิทัล การบูรณาการ AI และเศรษฐกิจการท่องเที่ยวแบบครอบคลุม

ปฏิญญาริยาดว่าด้วยอนาคตของการท่องเที่ยว คือแผนงานร่วมกันเพื่อกำหนดทิศทางของภาคส่วนนี้ในอีกครึ่งศตวรรษข้างหน้า ในด้านความยั่งยืน การมีส่วนร่วม และนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ ปฏิญญานี้เน้นย้ำถึงการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ ความยืดหยุ่น และการเสริมสร้างศักยภาพของชุมชนท้องถิ่น กำหนดวิสัยทัศน์เพื่อให้มั่นใจว่าการท่องเที่ยวยังคงเป็นพลังขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความเข้าใจทางวัฒนธรรม และการดูแลสิ่งแวดล้อมทั่วโลก

็H.E. Ahmed Al Khateeb รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว กล่าวว่า “จากริยาด เราจะก้าวจากการประกาศสู่การปฏิบัติ ด้วยข้อตกลงที่ลงนาม ณ ที่นี้และแพลตฟอร์มที่เรากำลังเปิดตัว เราจะช่วยระดมการลงทุน ยกระดับทักษะบุคลากร ยกระดับธุรกิจ SME ของเราสู่ดิจิทัล รวมถึงการปกป้องวัฒนธรรมและธรรมชาติ ในฐานะที่เป็นที่ตั้งของสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติประจำภูมิภาคตะวันออกกลาง ราชอาณาจักรแห่งนี้จึงจะยังคงจัดการประชุมพันธมิตรและส่งมอบผลลัพธ์ที่วัดผลได้ ดังนั้น การท่องเที่ยวจึงยังคงเป็นสะพานเชื่อมระหว่างประเทศต่างๆ และเป็นแรงขับเคลื่อนความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน”

การรับรองปฏิญญาฉบับนี้เป็นสัญญาณถึงความมุ่งมั่นอีกครั้งของประชาคมนานาชาติในการผลักดันให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างเต็มที่จากการท่องเที่ยวโดยที่เรายังคงมุ่งสู่เป้าหมายด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) นอกจากนี้ยังเป็นการแสดงถึงความเชื่อมั่นต่อบทบาทของซาอุดีอาระเบียในฐานะผู้อำนวยความสะดวกในการเจรจาและเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่สำหรับความร่วมมือ

ในการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 26 ด้านการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติ ผู้แทนยังได้ให้สัตยาบันการแต่งตั้ง Shaikha Nasser Al Nowais ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการองค์การการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติคนต่อไป ซึ่งเป็นสตรีคนแรกและมีสัญชาติ GCC ที่จะเป็นผู้นำองค์กร โดยวาระการดำรงตำแหน่งของเธอจะเริ่มต้นในต้นปี 2026

สมัชชาใหญ่ยังตรงกับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ TOURISE ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มระดับโลกใหม่ที่ริเริ่มโดยซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมุ่งเน้นการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน และขับเคลื่อนนวัตกรรมในภาคการท่องเที่ยวทั่วโลก โดย TOURISE จะเป็นเวทีสำหรับผู้นำภาครัฐและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภาคเอกชนในการทำงานร่วมกันเพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล การลงทุนที่สร้างผลกระทบ ความยั่งยืน และการพัฒนากำลังคน เพื่อให้มั่นใจว่าภาคส่วนนี้มีความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสในอนาคต

เกี่ยวกับกระทรวงการท่องเที่ยว

กระทรวงการท่องเที่ยวเป็นผู้นำในการพัฒนาภาคการท่องเที่ยวของซาอุดีอาระเบีย ตามวิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบีย 2030 พันธกิจของกระทรวงคือ การส่งเสริมการเติบโตทั่วทั้งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่กำลังเฟื่องฟูของซาอุดีอาระเบีย สนับสนุนการกระจายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ และผลักดันให้ซาอุดีอาระเบียเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับโลก กระทรวงได้ปลดล็อกศักยภาพของภาคการท่องเที่ยวด้วยการร่างนโยบายและกฎระเบียบที่เป็นนวัตกรรม ส่งเสริมสภาพแวดล้อมการลงทุนที่น่าดึงดูดใจ เสริมศักยภาพภาคเอกชน และฝึกอบรมบุคลากรที่มีความสามารถในประเทศเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม เป็นผู้นำ และปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของซาอุดีอาระเบีย

เกี่ยวกับการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติ

องค์การการท่องเที่ยวโลก (การท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติ) เป็นหน่วยงานเฉพาะทางของสหประชาชาติที่ดูแลการท่องเที่ยว โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบ ความยั่งยืน และการเข้าถึงได้อย่างทั่วถึง ด้วยความร่วมมือกับ 160 ประเทศสมาชิก สมาชิกสมทบ 6 ประเทศ และสมาชิกภาคีกว่า 500 ประเทศ การท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติมุ่งมั่นที่จะวางตำแหน่งการท่องเที่ยวให้เป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจ การพัฒนาแบบมีส่วนร่วม และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

เกี่ยวกับ UNTGA

สมัชชาใหญ่เป็นการประชุมหลักขององค์การการท่องเที่ยวโลก (การท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติ)

โดยจะมีการจัดประชุมทุกสองปีเพื่ออนุมัติงบประมาณและแผนงาน และอภิปรายประเด็นสำคัญเกี่ยวกับภาคส่วนการท่องเที่ยว ทุกสี่ปีจะมีการเลือกตั้งเลขาธิการ สมัชชาใหญ่ประกอบด้วยประเทศสมาชิกและสมาชิกสมทบ สมาชิกสมทบและตัวแทนจากองค์กรระหว่างประเทศอื่นๆ เข้าร่วมในฐานะผู้สังเกตการณ์

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20251111034542/en

Contacts

สำหรับการสอบถามจากสื่อ: Media-Center@mt.gov.sa

ที่มา: Ministry of Tourism Saudi Arabia
 

Kirin: การพัฒนาส่วนผสมหมักจากเชอร์รี่กาแฟเพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัสและกลิ่นหอมที่จะช่วยส่งเสริมความยั่งยืนของฟาร์มกาแฟ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และแก้ไขปัญหาทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–10 พฤศจิกายน 2025

สถาบันเครื่องดื่มแห่งอนาคตของ Kirin Holdings Co., Ltd. ประสบความสำเร็จในการพัฒนาส่วนผสมที่ผ่านการหมักจากเชอร์รี่กาแฟ*1 ด้วยการนำเชอร์รี่กาแฟ*1 ซึ่งมักถูกทิ้งทั้งเนื้อและเปลือกกาแฟมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนความยั่งยืนของฟาร์มกาแฟและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ด้วยคุณสมบัติในการเสริมรสชาติและกลิ่นหอม ส่วนผสมนี้จึงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการช่วยเพิ่มความพึงพอใจในการดื่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่ำได้ โดนเราจะยังคงแสวงหาแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาสังคมที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ต่อไป
 *1 เชอร์รี่กาแฟเป็นผลสีแดงของต้นกาแฟ โดยเมล็ดของเชอร์รี่กาแฟนี้สามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการทำกาแฟได้

Coffee cherries

เชอร์รี่กาแฟ

1. วัตถุประสงค์และความเป็นมาของการพัฒนา

หลังจากสกัดเมล็ดกาแฟ ซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับเมล็ดกาแฟแล้ว จะมีเยื่อและเปลือกกาแฟเชอร์รีจำนวนมากจากแหล่งผลิตทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกทิ้งไป ส่วนต่างๆ เหล่านี้มีสารประกอบต่างๆ ในปริมาณสูง เช่น คาเฟอีนและโพลีฟีนอล ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อระบบนิเวศและภาระทางสิ่งแวดล้อม เช่น มลพิษทางน้ำและดิน ในขณะที่บางภูมิภาคได้เริ่มดำเนินการต่างๆ เช่น การทำปุ๋ยหมักหรือการนำเปลือกกาแฟแห้งมาใช้เป็นส่วนผสมอาหาร*2 แต่หลายภูมิภาคยังคงดำเนินการกำจัดเปลือกเชอร์รี่กาแฟต่อไปเนื่องจากความท้าทายทางด้านเทคนิค เศรษฐกิจ และกฎระเบียบต่างๆ นอกจากนี้ ปัญหาระดับโลกยังคงมีอยู่เกี่ยวกับรายได้ที่ไม่แน่นอนของไร่กาแฟ ซึ่งเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น ราคากาแฟที่ผันผวนและผลผลิตที่ต่ำเนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานทางการเกษตรที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศโคลอมเบียที่มีการจัดเก็บภาษีสิ่งแวดล้อมสำหรับการกำจัดเมล็ดเชอร์รี่กาแฟ ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระทางเศรษฐกิจให้กับไร่กาแฟ ด้วยเหตุนี้ ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีเครื่องดื่ม Kirin (ปัจจุบันคือศูนย์วิจัยอนาคตของเครื่องดื่ม) จึงได้ศึกษาการใช้เชอร์รี่กาแฟอย่างมีประสิทธิภาพมาตั้งแต่ปี 2018
 *2 ตัวอย่างได้แก่ ชา “Cascara” ที่ทำจากเปลือกเชอร์รี่กาแฟแห้ง

2. รายละเอียดการพัฒนาและความสำเร็จ

ด้วยการนำเทคโนโลยีการเพิ่มกลิ่นไวน์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Kirin ซึ่งเดิมทีพัฒนาขึ้นมาสำหรับไวน์ ทำให้เกิดส่วนผสมใหม่ขึ้นจากการหมักน้ำผลไม้สกัดและทำให้เข้มข้นขึ้นจากเชอร์รี่กาแฟโดยใช้แบคทีเรียกรดแลคติกและยีสต์ โดยพบว่าวัตถุดิบที่ผ่านการหมักนี้จะช่วยเพิ่มคุณสมบัติทางประสาทสัมผัสต่างๆ เช่น ความอบอุ่น ลักษณะการหมัก สัมผัสของแอลกอฮอล์ กลิ่นผลไม้ และความเข้มข้น ในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์หลากหลายชนิด

การยอมรับของแบรนด์ “Kirin Tokusei”

จากผลสำรวจความพึงพอใจ*3 จากการใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มพร้อมดื่ม (RTD)*4 พบว่ามีการพัฒนาที่ดีขึ้นในด้านความพึงพอใจโดยรวม เช่น “ความพึงพอใจ” และ “คุณภาพระดับพรีเมียม” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเพิ่มความพึงพอใจในการดื่ม ด้วยเหตุนี้ เราจึงเริ่มนำส่วนผสมนี้มาใช้ในเครื่องดื่มแบบพร้อมดื่มแบรนด์ “Kirin Tokusei” โดยนำไปใช้ในเครื่องดื่ม “Kirin Tokusei Melon Soda Sour (ข้อเสนอแบบจำกัดเวลา)” ที่วางจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม 2025 และ “Kirin Tokusei Mikan Cider Sour (ข้อเสนอแบบจำกัดเวลา)*5” ที่มีกำหนดวางจำหน่ายในวันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน
 *3 การสำรวจของบริษัทที่ดำเนินการในเดือนมิถุนายน 2024 ในกลุ่มผู้ชายและผู้หญิงอายุ 35-59 ปี (จำนวน 90 คน)
 *4 ย่อมาจาก Ready to Drink เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่สามารถดื่มได้ทันทีหลังจากเปิด
 *5 ผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวใหม่จาก “Kirin Tokusei” ที่มอบ “รสชาติระดับพรีเมียมที่รังสรรค์มาอย่างพิถีพิถัน” — “Kirin Tokusei Mikan Cider Sour (เวลาจำกัด)”! (ในญี่ปุ่นเท่านั้น)

ผลกระทบจากการสำรวจความพึงพอใจในการใช้เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์*6

การสำรวจโดยใช้เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ที่มีส่วนผสมนี้ยืนยันว่า “มีสัมผัสในปากที่ดีขึ้น” และ “รสชาติที่ดีขึ้น” ซึ่งชี้ให้เห็นถึงศักยภาพในการเพิ่มความพึงพอใจในการดื่มสำหรับเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่ำ
 *6 ผลสำรวจที่ดำเนินการในเดือนพฤษภาคม 2023 ในกลุ่มผู้ชายและผู้หญิงอายุ 30-59 ปี ที่ต้องการรสชาติที่แท้จริงในเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (จำนวน 51 คน)

3. การพัฒนาในอนาคต

  • เรามุ่งหวังที่จะมีส่วนในการสนับสนุนความยั่งยืนของฟาร์มกาแฟผ่านรายได้ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการลดขยะ โดยนำเชอร์รี่กาแฟซึ่งปัจจุบันถูกทิ้งไปแล้วมาใช้เป็นส่วนผสมที่มีคุณค่า และขยายการใช้งานให้มากขึ้น
  • เนื่องจากคุณลักษณะเฉพาะของส่วนผสมนี้ เช่น “สัมผัสในปากที่ดีขึ้น” และ “รสชาติที่ดีขึ้น” ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถเพิ่มความพึงพอใจในการดื่มเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่ำได้ เราจึงสำรวจการนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์และผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ต่ำในฐานะแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์

4. มุมมองของนักพัฒนา

  • Sayaka Tsuji สถาบันเครื่องดื่มแห่งอนาคต ฝ่ายวิจัยและพัฒนา
  •  ความคิดของเธอเกี่ยวกับการพัฒนานี้ได้รับการตีพิมพ์ในหมายเหตุ:
     https://note-kirinbrewery.kirin.co.jp/n/n038ee61f11eb (ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น)

 เกี่ยวกับ Kirin Holdings

Kirin Holdings Company Limited (TOKYO:2503) เป็นบริษัทระดับนานาชาติที่ดำเนินกิจการในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม), กลุ่มยา (ธุรกิจยา) และกลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ (ธุรกิจวิทยาศาสตร์สุขภาพ) ทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลก
Kirin Holdings มีรากฐานมาจาก Japan Brewery ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1885 ต่อมาในปี 1907 บริษัทได้เปลี่ยนชื่อเป็น Kirin Brewery นับแต่นั้นมา บริษัทได้ขยายธุรกิจโดยใช้เทคโนโลยีหลักในการหมักและเทคโนโลยีชีวภาพ และเข้าสู่ธุรกิจยาในช่วงทศวรรษ 1980 ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ยังคงเป็นศูนย์กลางการเติบโตระดับโลก ในปี 2007 Kirin Holdings ได้ก่อตั้งขึ้นในฐานะบริษัทโฮลดิ้ง และปัจจุบันกำลังมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจวิทยาศาสตร์สุขภาพ
ภายใต้วิสัยทัศน์ 2027 ของ Kirin Group (KV 2027) ซึ่งเป็นแผนบริหารระยะยาวที่เปิดตัวในปี 2019 Kirin Group มุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็น “ผู้นำระดับโลกด้าน CSV* เพื่อสร้างมูลค่าครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มไปจนถึงอุตสาหกรรมยา” ในอนาคต Kirin Group จะยังคงใช้จุดแข็งเพื่อสร้างมูลค่าทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจผ่านการดำเนินธุรกิจ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในด้านมูลค่าองค์กร
*การสร้างมูลค่าร่วม: มูลค่าเพิ่มร่วมกันสำหรับผู้บริโภคและสังคมโดยรวม

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/20251109805401/en

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อมวลชน
ฝ่ายสื่อสารองค์กร
Kirin Holdings Company, Limited
Nakano Central Park South, 4-10-2 Nakano, Nakano-ku, Tokyo
+81-3-6837-7028
การสอบถามสำหรับสื่อ | KIRIN – Kirin Holdings Company, Limited
https://www.kirinholdings.com/en/
kirin-cc@kirin.co.jp

ที่มา: Kirin Holdings Company, Limited


AUTEL ได้ขับเคลื่อนสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าความเร็วสูงที่เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ

Logo

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–10 พฤศจิกายน 2025

AUTEL ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ได้ร่วมมือกับ ZEEKR แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมภายใต้ Geely และ Evolt ที่เป็นบริษัทชั้นนำด้านการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เพื่อส่งมอบสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าความเร็วสูง “ZEEKR Power @centralwOrld” ในใจกลางย่านธุรกิจและไลฟ์สไตล์ของกรุงเทพฯ

AUTEL's state-of-the-art MaxiCharger DS480 (Air-cooled)

MaxiCharger DS480 อันล้ำสมัยของ AUTEL (ระบายความร้อนด้วยอากาศ)

สถานีชาร์จใหม่นี้มาพร้อมกับเทคโนโลยี MaxiCharger DS480 (ระบายความร้อนด้วยอากาศ) สุดล้ำสมัยของ AUTEL โดย MaxiCharger DS480 ได้รับการออกแบบมาให้จ่ายไฟได้สูงสุด 400 กิโลวัตต์ ที่ช่วยให้ ZEEKR 7X รถยนต์รุ่นล่าสุดของ ZEEKR สามารถชาร์จเต็มได้ภายในเวลาเพียง 15 นาที

สถานีแห่งนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อความสะดวก การมองเห็น และความปลอดภัย โดยผสานระบบการจัดการการชาร์จอัจฉริยะของ AUTEL ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบสถานะการชาร์จ วางแผนเส้นทาง และชำระเงินได้อย่างราบรื่นผ่านแอป Evolt

“ความร่วมมือครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ AUTEL ในการนำเสนอโซลูชันการชาร์จที่ทันสมัย ​​เชื่อถือได้ และใช้งานง่ายสู่เขตเมือง” Henry He ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าว “เราภูมิใจที่ได้ขับเคลื่อนสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าความเร็วสูงแห่งนี้ และสนับสนุนการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย”

ในช่วงเปิดตัวตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม 2025 เจ้าของรถ ZEEKR สามารถเพลิดเพลินไปกับการชาร์จไฟฟรี ที่จะช่วยเน้นย้ำถึงประสบการณ์การใช้งานระดับพรีเมียมของสถานี และเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ AUTEL ที่จะมอบโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จไฟที่มีประสิทธิภาพสูงและยั่งยืน

AUTEL ยังคงขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยการมอบโซลูชันที่รองรับการนำพลังงานสะอาดมาใช้ การเดินทางในเมืองที่มีประสิทธิภาพ และประสบการณ์เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าที่ราบรื่นในทุกตลาดทั่วโลก

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/20251109589109/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ฝ่ายขายและการตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก:
FiFi Huang
marketing.jp@autel.com

ที่มา: AUTEL

สมัชชาใหญ่ด้านการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติครั้งที่ 26 เปิดฉากที่ Riyadh

Logo

  • การท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีแห่งความร่วมมือระดับโลก โดยมีผู้นำจากทั่วอุตสาหกรรมมารวมตัวกันเพื่อกำหนดอนาคตของการท่องเที่ยว
  •  ท่าน Ahmed Al Khateeb รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว ราชอาณาจักรจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างงานที่ทรงพลังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และ GDP เติบโตสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
  •  เลขาธิการการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติ Zurab Pololikashvili – “สมัชชาใหญ่ด้านการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติรวมตัวผู้นำด้านการท่องเที่ยวจากทั่วโลกเพื่อกำหนดวาระและสร้างภาคส่วนที่มีนวัตกรรมและครอบคลุมมากขึ้น ที่ Riyadh เราจะกำหนดวาระด้านการท่องเที่ยวสำหรับปีต่อๆ ไป

RIYADH, Saudi Arabia–(BUSINESS WIRE)–08 พฤศจิกายน 2025

การประชุมสมัชชาใหญ่ว่าด้วยการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 26 ได้เปิดฉากขึ้นในวันนี้ ที่ Riyadh ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของภูมิภาคคณะมนตรีความร่วมมือแห่งรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) และเป็นการประชุมสมัชชาใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การก่อตั้งองค์การการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติเมื่อ 50 ปีก่อน คณะผู้แทนจากประเทศสมาชิกกว่า 160 ประเทศ ทั้งรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ระดับสูง และผู้นำจากภาคอุตสาหกรรมและภาคประชาสังคม จะมารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองความร่วมมือระหว่างประเทศ 5 ทศวรรษ ภายใต้หัวข้อ “การท่องเที่ยวที่ขับเคลื่อนด้วย AI: นิยามอนาคตใหม่””

26th UN Tourism General Assembly kicks off in Riyadh

สมัชชาใหญ่ด้านการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 26 เปิดฉากที่ Riyadh

การประชุมสมัชชานี้จัดขึ้นโดยกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย โดยมีความร่วมมือและการวางแผนอย่างกว้างขวาง ร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติและพันธมิตรมากมาย ความร่วมมือนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของซาอุดีอาระเบียในการพัฒนาอุตสาหกรรมและส่งเสริมการเจรจาที่ทรงประสิทธิภาพบนเวทีโลก

เป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษที่การท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติได้ส่งเสริมโอกาสทางเศรษฐกิจ ความเข้าใจข้ามวัฒนธรรม และสันติภาพผ่านการเดินทาง ด้วยการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอย่างรวดเร็วของภาคส่วนนี้ที่กำลังปรับเปลี่ยนรูปแบบการค้นหา จอง และสัมผัสประสบการณ์จุดหมายปลายทางของผู้คน การประชุมสมัชชาในปีนี้จึงมุ่งเน้นไปที่การสร้างความมั่นใจว่า AI จะให้บริการแก่ผู้คนและสถานที่ต่างๆ ที่สนับสนุนงาน ธุรกิจขนาดเล็ก การดูแลจุดหมายปลายทาง และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ผู้แทนจะเข้าร่วมการประชุมใหญ่สี่เซสชั่น การประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจเจ็ดคณะต่างๆ และการประชุมสภาบริหารสมัยที่ 124 และ 125 ซึ่งเป็นสภาบริหารสูงสุดขององค์กร วาระการประชุมนี้ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการหารือเกี่ยวกับวิธีที่ปัญญาประดิษฐ์และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลจะช่วยเร่งการเติบโตอย่างยั่งยืนและครอบคลุม และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการท่องเที่ยวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ท่าน Ahmed Al Khateeb รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว กล่าวว่า “ซาอุดีอาระเบียมีความภูมิใจที่ได้ต้อนรับทั่วโลกสู่การประชุมสมัชชาใหญ่ด้านการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 26 ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีแห่งความร่วมมือระดับโลกและความก้าวหน้าร่วมกันของการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติ สัปดาห์นี้ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเรา ซึ่งเป็นโอกาสที่จะกำหนดทิศทางการเติบโตของการท่องเที่ยวในทศวรรษข้างหน้า ความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ความยั่งยืนที่มากขึ้น การลงทุนด้านทุนมนุษย์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI

การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนที่ทรงพลังที่สุดของโลกในการสร้างความเจริญรุ่งเรืองและความเข้าใจ อันได้แก่ การสร้างงาน การสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก และการเชื่อมโยงวัฒนธรรม ภายใต้วิสัยทัศน์ 2030 ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียมุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นใจว่าการเติบโตนี้จะยังคงขับเคลื่อนโอกาสและการมีส่วนร่วม และต้อนรับโลกด้วยจิตวิญญาณแห่งการต้อนรับแบบซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นสิ่งที่นิยามตัวตนของเรา”

เลขาธิการการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติ Zurab Pololikashvili กล่าวว่า “สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติด้านการท่องเที่ยวรวมตัวผู้นำด้านการท่องเที่ยวจากทั่วโลกเพื่อกำหนดวาระและสร้างภาคส่วนที่มีนวัตกรรมและครอบคลุมมากขึ้น ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เริ่มต้นด้วยการประชุมสมาชิกพันธมิตรที่หลากหลายและเปี่ยมด้วยพลังของเรา และต่อด้วยการประชุมสมัชชาใหญ่ของเรา Riyadh จะแสดงให้เห็นถึงพลังของการท่องเที่ยวในฐานะตัวขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง ความทันสมัย ​​และโอกาส ในการดำเนินการร่วมกัน ช่วยให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากพลังของเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก สร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจ และสร้างงานให้กับผู้คนหลายล้านคนทั่วโลก”

โดยกำหนดการประชุมครั้งแรกจะมีขึ้นในวันนี้ Riyadh พร้อมที่จะต้อนรับโลกด้วยสถานที่จัดงานอันทันสมัยและภาคส่วนการต้อนรับที่มีชีวิตชีวา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของซาอุดีอาระเบียในการมีส่วนร่วมและความเป็นเลิศระดับโลก

ในฐานะเจ้าภาพการประชุมสมัชชาใหญ่สมัยที่ 26 ซาอุดีอาระเบียยังคงเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนการเติบโต ความยั่งยืน และความร่วมมือพหุภาคีภายใต้กรอบขององค์การการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติ ความร่วมมืออันยาวนานระหว่างซาอุดีอาระเบียและหน่วยงานสหประชาชาตินั้นโดดเด่นด้วยการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน ความคิดริเริ่มร่วมกันที่สร้างผลกระทบ และเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย อาทิ การเปิดสำนักงานภูมิภาคตะวันออกกลางแห่งแรกขององค์การการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติที่ Riyadh และการดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีบริหารของซาอุดีอาระเบียสองสมัยในปี พ.ศ. 2023 และ พ.ศ. 2024

เกี่ยวกับกระทรวงการท่องเที่ยว

กระทรวงการท่องเที่ยวเป็นผู้นำในการพัฒนาภาคการท่องเที่ยวของซาอุดีอาระเบีย ตามวิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบีย 2030 พันธกิจของกระทรวงคือ การส่งเสริมการเติบโตทั่วทั้งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่กำลังเฟื่องฟูของซาอุดีอาระเบีย สนับสนุนการกระจายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ และผลักดันให้ซาอุดีอาระเบียเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับโลก กระทรวงได้ปลดล็อกศักยภาพของภาคการท่องเที่ยวด้วยการร่างนโยบายและกฎระเบียบที่เป็นนวัตกรรม ส่งเสริมสภาพแวดล้อมการลงทุนที่น่าดึงดูดใจ เสริมศักยภาพภาคเอกชน และฝึกอบรมบุคลากรที่มีความสามารถในประเทศเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม เป็นผู้นำ และปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของซาอุดีอาระเบีย

เกี่ยวกับการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติ

องค์การการท่องเที่ยวโลก (การท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติ) เป็นหน่วยงานเฉพาะทางของสหประชาชาติที่ดูแลการท่องเที่ยว โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบ ความยั่งยืน และการเข้าถึงได้อย่างทั่วถึง ด้วยความร่วมมือกับ 160 ประเทศสมาชิก สมาชิกสมทบ 6 ประเทศ และสมาชิกภาคีกว่า 500 ประเทศ การท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติมุ่งมั่นที่จะวางตำแหน่งการท่องเที่ยวให้เป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจ การพัฒนาแบบมีส่วนร่วม และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

เกี่ยวกับ UNTGA

สมัชชาใหญ่เป็นการประชุมหลักขององค์การการท่องเที่ยวโลก (การท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติ)

โดยจะมีการจัดประชุมทุกสองปีเพื่ออนุมัติงบประมาณและแผนงาน และอภิปรายประเด็นสำคัญเกี่ยวกับภาคส่วนการท่องเที่ยว ทุกสี่ปีจะมีการเลือกตั้งเลขาธิการ สมัชชาใหญ่ประกอบด้วยประเทศสมาชิกและสมาชิกสมทบ สมาชิกสมทบและตัวแทนจากองค์กรระหว่างประเทศอื่นๆ เข้าร่วมในฐานะผู้สังเกตการณ์

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้

ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20251107012471/en

Contacts

หากต้องการสอบถามข้อมูลด้านสื่อ: Media-Center@mt.gov.sa

ที่มา: Ministry of Tourism Saudi Arabia

คุนหมิงกำลังกลายเป็นเมืองปลายทางอันดับหนึ่งของจีนสำหรับการบริโภคภายในประเทศ

Logo

คุนหมิง ประเทศจีน–(BUSINESS WIRE)–08 พฤศจิกายน 2025

คุนหมิงซึ่งตั้งอยู่ที่จุดตัดระหว่างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง กำลังก้าวขึ้นมาเป็นเมืองจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งของจีนสำหรับการบริโภคขาเข้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวจากเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามแถลงการณ์ล่าสุดของสำนักงานพาณิชย์คุนหมิง

The glittering and vibrant nightscape of Kunming, China.

ทัศนียภาพยามค่ำคืนอันระยิบระยับและมีชีวิตชีวาของเมืองคุนหมิง ประเทศจีน

ด้วยสภาพอากาศที่อบอุ่น วัฒนธรรมที่เป็นมิตร และการเชื่อมต่อที่แน่นแฟ้น คุนหมิงจึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับหนึ่งในประเทศจีนสำหรับนักเดินทางจากสิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย เวียดนาม และประเทศอื่นๆ เที่ยวบินตรงจากเมืองหลวงสำคัญๆ ในภูมิภาคใช้เวลาเพียงสองถึงห้าชั่วโมง ขณะที่ทางรถไฟจีน-ลาวก็มอบความสะดวกสบายในการเดินทางข้ามพรมแดนแบบ “เช้าถึงเย็น” เมื่อผสานกับนโยบายปลอดวีซ่าฉบับใหม่ของจีน และการเดินทางผ่านแดนแบบไม่ต้องขอวีซ่า 144 ชั่วโมงของคุนหมิง เมืองนี้จึงกำลังนิยามการเดินทางแบบไม่ต้องวางแผนในภูมิภาคนี้ใหม่

เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้จ่าย คุนหมิงได้เปิดตัวบัตร “Kunming PASS – Spring City Privilege Card” ซึ่งรวมระบบขนส่งสาธารณะ จุดชมวิว และส่วนลดช้อปปิ้งไว้ในบัตรเดียว ปัจจุบันเขตการค้าหลัก 6 แห่ง รองรับบัตร Visa, Mastercard และ UnionPay อย่างเต็มรูปแบบ ขณะที่โรงแรมและร้านอาหารชั้นนำก็รองรับการชำระเงินด้วยเงินสดในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ บาทไทย และริงกิตมาเลเซีย การเชื่อมต่อกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดนกับ TrueMoney (ประเทศไทย), Touch ’n Go (มาเลเซีย) และ Momo (เวียดนาม) กำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบ เพื่อให้การชำระเงินผ่านมือถือง่ายดายเหมือนอยู่ที่บ้าน

นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึง “คู่มือการบริโภคเมืองแห่งฤดูใบไม้ผลิ” ได้หลายภาษา และในศูนย์บริการตลอด 24 ชั่วโมงที่สนามบิน สถานีรถไฟ และห้างสรรพสินค้า เพื่อการแปลภาษาและวางแผนการเดินทาง ขณะเดียวกัน จุดคืนภาษีใน 6 ย่านช้อปปิ้ง รวมถึงถนนหนานปิง และเมืองเก่าคุนหมิง ก็มีทั้งสินค้าแบบหรูหราและสินค้าพื้นเมืองอย่างดอกไม้ กาแฟ และเห็ดป่า โดยระบบ “คืนเงินทันที” ใหม่นี้จะช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถสะสมเงินคืนได้โดยตรงที่ร้านค้า ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายที่สูงขึ้น

ย่านธุรกิจ 77 แห่งของคุนหมิงได้นำเสนอชีวิตเมืองอันหลากหลาย ตั้งแต่ตลาดกลางคืนอันคึกคักในตรอกหนานเฉียง ไปจนถึงความงดงามของดอกไม้ในตลาดดอกไม้โต้วหนาน โดยแคมเปญ “การบริโภคขาเข้า” รายเดือนนำเสนอบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์พร้อมส่วนลดโรงแรม ร้านอาหาร และตั๋วโดยสาร

เพื่อให้มั่นใจว่าผู้มาเยือนจะได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่น คุนหมิงได้จัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจและบริการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทผู้บริโภค 30 นาทีในภาษาต่างๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

คุนหมิงเปลี่ยนความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์ให้กลายเป็นความเชื่อมโยงทางอารมณ์ พร้อมวางตำแหน่งตัวเองให้เป็นศูนย์กลางการบริโภคระดับนานาชาติที่มีชีวิตชีวา เป็น “เมืองแห่งฤดูใบไม้ผลิ” ที่อบอุ่นสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนจากเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/20251108948460/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์: EncycloVision (Shenzhen) Brand Communication Co., Ltd.
Eason Zhou
อีเมล: evisionsinfo@gmail.com

ที่มา: Kunming Bureau of Commerce

นักพัฒนาเกมสามารถเสริมสร้างความภักดีและความปลอดภัยของผู้เล่นได้แล้วด้วยระบบนิเวศ Fintech ที่ขยายตัวของ Xsolla ในช่วงเทศกาลวันหยุดนี้

Logo

การขยายของ Xsolla Gold, โปรแกรมสะสมแต้ม Xsolla Pay และโทเค็นเครือข่ายจะสร้างกรอบการทำงานแบบรวมสำหรับธุรกรรมที่ปลอดภัยและคุ้มค่า

ลอสแอนเจลิส–(BUSINESS WIRE)–06 พฤศจิกายน 2025

Xsolla บริษัทเกมคอมเมิร์ซระดับโลกที่ช่วยเหลือนักพัฒนาในการเปิดตัว พัฒนา และสร้างรายได้จากเกม วันนี้ประกาศขยายระบบนิเวศฟินเทคด้วยชุดวิธีการชำระเงินใหม่ที่ Xsolla เป็นเจ้าของ ซึ่งทันเวลาสำหรับช่วงเทศกาลลดราคาในช่วงวันหยุดที่คึกคัก ซึ่งเป็นช่วงที่ธุรกรรมมีปริมาณสูง โดยโซลูชันการชำระเงินที่เชื่อถือได้นั้นเป็นสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จ โซลูชันเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักพัฒนาเสริมสร้างความภักดีของผู้เล่น ลดความยุ่งยากในการทำธุรกรรม และรักษาประสบการณ์การชำระเงินที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ในตลาดทั่วโลก

(Graphic: Xsolla)

(กราฟิก: Xsolla)

ในขณะที่อุตสาหกรรมเกมกำลังเข้าสู่ช่วงพีคของการใช้จ่ายตามฤดูกาล และมุ่งเน้นการรักษาความภักดีของผู้เล่น Xsolla ยังคงลงทุนในนวัตกรรมฟินเทคที่เชื่อมโยงทุกแง่มุมของการพาณิชย์ รางวัล และความปลอดภัย พอร์ตโฟลิโอการชำระเงินที่ Xsolla เป็นเจ้าของประกอบด้วยบัตรของขวัญ Xsolla Gold (ทั้งแบบบัตรแข็งและบัตรดิจิทัล) และโปรแกรมสะสมคะแนน Xsolla Pay ซึ่งออกแบบมาเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่น ส่งเสริมการชำระเงินที่ปลอดภัย และมอบคุณค่าที่มากขึ้นให้กับนักพัฒนาและผู้เล่นเกม นอกจากนี้ Xsolla ยังเสริมสร้างความปลอดภัยในการทำธุรกรรมด้วยการใช้ Network Token ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงของอุตสาหกรรมที่ช่วยเพิ่มอัตราการอนุมัติการชำระเงินและปกป้องข้อมูลสำคัญ

คุณสมบัติหลักของวิธีการชำระเงินใหม่ที่เป็นของ Xsolla ได้แก่

  •  Xsolla Gold:
    • Xsolla Gold เป็นบัตรของขวัญแบรนด์ Xsolla สำหรับใช้ในเกม กำลังขยายสาขาไปยังร้านค้าปลีก 10,000 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา เพื่อมอบทางเลือกใหม่ๆ ให้กับผู้เล่นในการมอบเกมและคอนเทนต์ในเกมเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลวันหยุดนี้ การขยายสาขาครั้งนี้ช่วยลดความจำเป็นที่นักพัฒนาจะต้องสร้างบัตรของขวัญแบรนด์ของตนเอง ทำให้เป็นโซลูชันที่สมบูรณ์แบบสำหรับการมอบของขวัญดิจิทัลแบบเร่งด่วน
    • Xsolla Gold จะเปิดให้บริการข้ามพรมแดน ซึ่งก่อนหน้านี้จำกัดเฉพาะการใช้จ่ายเป็นดอลลาร์สหรัฐ เท่านั้น โดยปัจจุบันสามารถใช้จ่ายได้ทั่วโลก พร้อมการแปลงเป็นสกุลเงินท้องถิ่นได้อย่างราบรื่น ทำให้ผู้เล่นในทุกประเทศและทุกสกุลเงินสามารถใช้งานได้
  •  โปรแกรมสะสมแต้ม Xsolla Pay: โปรแกรมสะสมแต้มนี้จะผสานรวมเข้ากับ Xsolla Pay ซึ่งเป็นโปรแกรมชำระเงินแบบเร่งรัดภายใต้แบรนด์ Xsolla ที่จะมอบรางวัลให้กับผู้เล่นทุกครั้งที่ซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลวันหยุด ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้เล่นมียอดใช้จ่ายและมอบของขวัญสูงสุด การสะสมแต้มในแต่ละธุรกรรมจะช่วยกระตุ้นให้ผู้เล่นกลับมาซื้อซ้ำหลังจากเทศกาลวันหยุด เปลี่ยนจากผู้ซื้อครั้งเดียวให้กลายเป็นแฟนพันธุ์แท้ในระยะยาว สำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ นี่เป็นโอกาสที่จะใช้ประโยชน์จากยอดธุรกรรมที่พุ่งสูงขึ้นตามฤดูกาล พร้อมกับสร้างความภักดีที่ยั่งยืน การรักษาฐานลูกค้า และธุรกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น
  •  โทเค็นเครือข่าย: การแทนที่หมายเลขบัตรดิบด้วยโทเค็นอัปเดตอัตโนมัติที่ปลอดภัยจาก Visa และ Mastercard ช่วยให้นักพัฒนาลดการฉ้อโกงได้สูงสุดถึง 30% อัตราการอนุมัติสามารถเพิ่มขึ้นได้ 3-7% และมั่นใจได้ว่าการชำระเงินแบบต่อเนื่องจะราบรื่น แม้ในขณะที่บัตรหมดอายุหรือมีการออกบัตรใหม่ เมื่อผู้เล่นใช้จ่ายมากขึ้นในช่วงเทศกาลวันหยุด ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นนี้จะช่วยรับประกันประสบการณ์การชำระเงินที่ราบรื่นและเชื่อถือได้ทั่วโลก

“นวัตกรรมเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการสร้างรากฐานการชำระเงินที่เชื่อถือได้สำหรับระบบนิเวศเกมระดับโลก” Chris Hewish ประธานบริษัท Xsolla กล่าว “การเป็นเจ้าของและขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีการเงินของเรา ช่วยให้นักพัฒนาสามารถมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นและคุ้มค่า ซึ่งจะเปลี่ยนธุรกรรมในชีวิตประจำวันให้กลายเป็นเครือข่ายผู้เล่นที่ยั่งยืน”

ด้วยการพัฒนารูปแบบการชำระเงินของตนเอง Xsolla กำลังก้าวหน้าตามวิสัยทัศน์ระยะยาวในการทำให้การค้าเกมทั่วโลกง่ายขึ้นโดยมอบเครื่องมือทั้งหมดที่พันธมิตรต้องการเพื่อเชื่อมต่อกับผู้เล่นมากขึ้น ขับเคลื่อนรายได้ที่ยั่งยืน และมอบประสบการณ์ที่ทำให้ผู้เล่นเกมมีส่วนร่วมและมีแรงบันดาลใจ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการชำระเงินของ Xsollaได้ที่ xsolla.pro/RNPM25

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทพาณิชย์ระดับโลกที่มีเครื่องมือและบริการอันแข็งแกร่งเพื่อช่วยนักพัฒนาแก้ไขปัญหาสำคัญต่างๆ ของอุตสาหกรรมวิดีโอเกม ตั้งแต่เกมอินดี้ไปจนถึงเกมระดับ AAA บริษัทต่างๆ ร่วมมือกับ Xsolla เพื่อช่วยระดมทุน จัดจำหน่าย ทำการตลาด และสร้างรายได้ให้กับเกมของพวกเขา ด้วยความเชื่อมั่นในอนาคตของวิดีโอเกม Xsolla มุ่งมั่นในพันธกิจที่จะเชื่อมโยงโอกาสต่างๆ เข้าด้วยกัน และจัดหาทรัพยากรใหม่ๆ ให้กับเหล่าครีเอเตอร์อย่างต่อเนื่อง โดย Xsolla มีสำนักงานใหญ่และจดทะเบียนในลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย โดยดำเนินงานในฐานะผู้ค้าเกม และได้ช่วยเหลือนักพัฒนาเกมมากกว่า 1,500 คน ให้เข้าถึงผู้เล่นได้มากขึ้นและขยายธุรกิจไปทั่วโลก ด้วยเส้นทางสู่ผลกำไรและหนทางสู่ชัยชนะที่มากขึ้น นักพัฒนาเกมจึงมีทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเพลิดเพลินไปกับเกม

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ xsolla.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/20251106730479/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ
Derrick Stembridge
รองประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ระดับโลกของ Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

ที่มา: Xsolla