Tag Archives: 2025

Xsolla ได้รับการยกย่องให้เป็น “ผู้ให้บริการชำระเงินแห่งปี” ในงาน GamingonPhone Awards ประจำปี 2025

Logo

นวัตกรรมการชำระเงินระดับโลกชั้นนำของอุตสาหกรรมได้รับการยอมรับว่าช่วยขับเคลื่อนการค้าบนเกมมือถือได้ราบรื่นทั่วโลก

ลอสแอนเจลิส–(BUSINESS WIRE)–24 ตุลาคม 2025

Xsolla บริษัทพาณิชย์เกมวิดีโอระดับโลกที่ช่วยให้นักพัฒนาเปิดตัว ขยาย และสร้างรายได้จากเกมของพวกเขา ได้ประกาศในวันนี้ว่าบริษัทได้รับการยกย่องให้เป็น “ผู้ให้บริการชำระเงินแห่งปี” ในงาน GamingonPhone Awards 2025 ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย ซึ่งยกย่องถึงความเป็นเลิศและนวัตกรรมด้านเกมมือถือในอุตสาหกรรมทั่วโลก

Graphic: Xsolla

กราฟิก: Xsolla

รางวัล GamingonPhone Awards ยกย่องผลงานที่ยอดเยี่ยมในวงการเกมมือถือ และยกย่องบริษัทที่สร้างสรรค์อนาคตแห่งความบันเทิงแบบอินเทอร์แอคทีฟด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และผลกระทบต่อชุมชน รางวัลในปีนี้มีมากกว่า 30 สาขา และได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากอุตสาหกรรม สื่อ และผู้เล่นต่างๆ ทั่วโลก

การที่ Xsolla ได้รับเลือกให้เป็นผู้ให้บริการชำระเงินแห่งปี ได้ช่วยตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของบริษัทในการทำให้การค้าขายทั่วโลกง่ายขึ้นสำหรับนักพัฒนาและผู้เผยแพร่ทุกขนาด โดยโซลูชันการชำระเงินอันแข็งแกร่งและโซลูชันร้านค้าออนไลน์ชั้นนำของบริษัทนั้นช่วยให้ผู้สร้างเกมมือถือสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ เพิ่มอัตราการแปลงลูกค้า และส่งมอบธุรกรรมที่ราบรื่นผ่านช่องทางการชำระเงินมากกว่า 1,000 วิธีในกว่า 200 ภูมิภาค

“นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ Xsolla ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้ให้บริการชำระเงินแห่งปี” Berkley Egenes ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและการเติบโตของ Xsolla กล่าว “รางวัลนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทีมงานในการสร้างสรรค์โซลูชันที่ทำให้การชำระเงินเป็นเรื่องง่ายและเชื่อมโยงอย่างมีความหมายระหว่างนักพัฒนาและผู้เล่นทั่วโลก เรายังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนพาร์ทเนอร์ของเราด้วยทุกสิ่งที่พวกเขาต้องการเพื่อการเปิดตัว การเติบโต และชัยชนะ ด้วยการทำให้การค้าเกมระดับโลกเข้าถึงได้ง่ายขึ้นและคุ้มค่ามากขึ้น”

การยอมรับดังกล่าวได้ช่วยเน้นย้ำถึงอิทธิพลที่ขยายตัวของ Xsolla บนมือถือ ซึ่งการสร้างรายได้โดยตรงถึงผู้บริโภค ความยืดหยุ่นในการชำระเงินตามภูมิภาค และประสบการณ์ข้ามแพลตฟอร์มที่เป็นหนึ่งเดียวกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่นักพัฒนาเชื่อมต่อกับผู้เล่น

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประกาศให้ Xsolla เป็น “ผู้ให้บริการชำระเงินแห่งปี” ในงาน GamingonPhone Awards 2025 โปรดไปที่ https://xsolla.com/blog/xsolla-wins-payment-service-provider-of-the-year-2025

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทพาณิชย์ระดับโลกที่มีเครื่องมือและบริการอันแข็งแกร่งเพื่อช่วยนักพัฒนาแก้ไขปัญหาสำคัญต่างๆ ของอุตสาหกรรมวิดีโอเกม ตั้งแต่เกมอินดี้ไปจนถึงเกมระดับ AAA บริษัทต่างๆ ร่วมมือกับ Xsolla เพื่อช่วยระดมทุน จัดจำหน่าย ทำการตลาด และสร้างรายได้ให้กับเกมของพวกเขา ด้วยความเชื่อมั่นในอนาคตของวิดีโอเกม Xsolla มุ่งมั่นในพันธกิจที่จะเชื่อมโยงโอกาสต่างๆ เข้าด้วยกัน และจัดหาทรัพยากรใหม่ๆ ให้กับเหล่าครีเอเตอร์อย่างต่อเนื่อง โดย Xsolla มีสำนักงานใหญ่และจดทะเบียนในลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย โดยดำเนินงานในฐานะผู้ค้าเกม และได้ช่วยเหลือนักพัฒนาเกมมากกว่า 1,500 คน ให้เข้าถึงผู้เล่นได้มากขึ้นและขยายธุรกิจไปทั่วโลก ด้วยเส้นทางสู่ผลกำไรและหนทางสู่ชัยชนะที่มากขึ้น นักพัฒนาเกมจึงมีทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเพลิดเพลินไปกับเกม

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ xsolla.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/20251020588866/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ
Derrick Stembridge
รองประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ระดับโลก Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

ที่มา: Xsolla






CyberArk ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้นำในรายงาน Gartner® Magic Quadrant™ ประจำปี 2025 สำหรับการจัดการการเข้าถึงที่มีสิทธิพิเศษ

Logo

  • CyberArk ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำเป็นครั้งที่เจ็ดติดต่อกัน
  • CyberArk มองว่าการยอมรับดังกล่าวเป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์และนวัตกรรมของบริษัทในตลาด PAM
  • แพลตฟอร์ม CyberArk Identity Security จะช่วยรักษาความปลอดภัยข้อมูลประจำตัวทั้งหมดด้วยระบบควบคุมสิทธิ์ที่ทันสมัย

นิวตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ และเพทาช ติกวา ประเทศอิสราเอล–(BUSINESS WIRE)–16 ตุลาคม 2025

CyberArk (NASDAQ: CYBR) ผู้นำระดับโลกด้านการรักษาความปลอดภัยข้อมูลประจำตัวประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้รับเลือกให้เป็นผู้นำในรายงาน Gartner® Magic Quadrant™ ประจำปี 2025 สำหรับการจัดการการเข้าถึงที่มีสิทธิพิเศษ1 โดย CyberArk ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำเป็นครั้งที่เจ็ดติดต่อกัน และอยู่ในอันดับสูงสุดในด้านวิสัยทัศน์ที่ครอบคลุม ซึ่งจากมุมมองของบริษัท สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ CyberArk ในการกำหนดอนาคตของการจัดการสิทธิ์การเข้าถึงแบบมีสิทธิพิเศษ (PAM) ที่ทุกข้อมูลประจำตัวจะได้รับการปกป้องด้วยการเข้าถึงที่ยืดหยุ่นตามความต้องการ การควบคุมสิทธิ์อัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยแบบรวมศูนย์ทั้งบนคลาวด์และระบบภายในองค์กร

รายงานนี้จะประเมินเครื่องมือที่จัดการสิทธิ์การเข้าถึงแบบมีสิทธิพิเศษสำหรับทั้งมนุษย์และเครื่องจักร โดยแพลตฟอร์ม CyberArk Identity Securityจะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลประจำตัวทั้งหมด ทั้งมนุษย์ เครื่องจักร และ AI ด้วยการควบคุมสิทธิ์ในระดับที่เหมาะสมจากแพลตฟอร์มเดียวที่รวมเป็นหนึ่งเดียว ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มนี้ โซลูชัน Privileged Access Managementของ CyberArk จะช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถรักษาความปลอดภัยของข้อมูลประจำตัว ความลับ และสิทธิ์การเข้าถึงที่มีเอกสิทธิ์ได้ในทุกสภาพแวดล้อม ตั้งแต่ภายในองค์กรไปจนถึงคลาวด์ ช่วยให้สามารถรักษาสิทธิ์การใช้งานแบบ Zero Standing Privileges ช่วยป้องกันการละเมิด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานได้อีกด้วย

“เราเชื่อว่าการที่ CyberArk ได้รับการยอมรับจาก Gartner ในฐานะผู้นำด้านการจัดการสิทธิ์การเข้าถึงแบบมีเอกสิทธิ์ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงวิสัยทัศน์ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรกของเราในการปกป้องข้อมูลประจำตัวทั้งหมด ทั้งมนุษย์ เครื่องจักร และ AI” กล่าวโดย Matt Cohen ซีอีโอของ CyberArk “CyberArk ยังคงกำหนดอนาคตของการจัดการสิทธิ์การเข้าถึงแบบมีเอกสิทธิ์ ผ่านนวัตกรรมที่ไม่หยุดนิ่ง การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา และการเข้าซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์ เนื่องจากข้อมูลประจำตัวในองค์กรจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ได้รับสิทธิ์การเข้าถึงแบบมีเอกสิทธิ์ องค์กรต่างๆ จึงจำเป็นต้องรักษาความปลอดภัยข้อมูลประจำตัวทั้งหมดในระดับที่สูงขึ้นด้วยระบบควบคุมสิทธิ์อัจฉริยะ แพลตฟอร์มความปลอดภัยข้อมูลประจำตัวที่ครอบคลุมและขับเคลื่อนด้วย AI ของ CyberArk ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้ ช่วยให้สามารถรับมือกับความท้าทายด้านความปลอดภัยข้อมูลประจำตัวที่สำคัญที่สุด และก้าวล้ำนำหน้าภัยคุกคามใหม่ๆ”

ด้วยแพลตฟอร์ม Identity Security ที่ได้รับรางวัล CyberArk จึงมอบความสามารถและบริการชั้นนำของตลาด:

  • ความครอบคลุมของแพลตฟอร์ม – แพลตฟอร์มที่ครอบคลุมของ CyberArk สร้างขึ้นเพื่อองค์กรยุคใหม่ พร้อมให้บริการทั้งแบบติดตั้งภายในองค์กรและแบบ SaaS ที่จะช่วยรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลประจำตัวทุกรูปแบบจากทุกสภาพแวดล้อม โดย CyberArk ได้รับการจัดอันดับความเป็นเลิศในด้านการจัดการสิทธิ์และการมอบหมายสิทธิ์ (PEDM), การจัดการสิทธิ์การเข้าถึงระยะไกล (RPAM), PAM สำหรับเครื่องจักร รวมถึงการจัดการบัญชีและเซสชันที่มีสิทธิพิเศษ (PASM)
  • นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง – CyberArk พัฒนานวัตกรรมที่นำออกสู่ตลาดเป็นรายแรก เพื่อรับมือกับภัยคุกคามของเอเจนต์ AI การปกป้องเวิร์กโหลด ความสามารถในการค้นพบ และความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นด้วยแพลตฟอร์ม CyberArk ถูกสร้างขึ้นมา โดย CyberArk CORA AIจะช่วยให้องค์กรสามารถตัดสินใจโดยอาศัยข้อมูลอย่างรอบรู้ และเร่งการรักษาความปลอดภัยข้อมูลประจำตัวทั่วทั้งองค์กรด้วยการตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามต่อข้อมูลประจำตัวได้อย่างรวดเร็ว
  • แพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ทั่วโลก – องค์กรกว่า 10,000 แห่งทั่วโลก รวมถึงกว่า 55% ของบริษัทใน Fortune 500 ต่างไว้วางใจโซลูชันของ CyberArk ในการปกป้องทรัพย์สินอันทรงคุณค่าที่สุด และตอบสนองข้อกำหนดด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบและความปลอดภัยที่สำคัญ โดย CyberArk ได้นำเสนอการดำเนินงานที่หลากหลายทางภูมิศาสตร์ พร้อมบริการจัดส่งเฉพาะพื้นที่ทั่วทุกภูมิภาค
  • ประสบการณ์ลูกค้าที่ยอดเยี่ยม – ด้วยคะแนนความพึงพอใจของลูกค้า (CSAT) มากกว่า 95% และคะแนนการสนับสนุนที่สูงอย่างต่อเนื่องใน Peer Insights ทำให้ CyberArk มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ลูกค้าในระดับสูงสุด
  • ผลตอบแทนจากการลงทุนที่พิสูจน์แล้ว – จากการศึกษาอิสระพบว่า ลูกค้าของ CyberArk ได้รับผลประโยชน์เฉลี่ยต่อปี 3.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อองค์กร และผลตอบแทนจากการลงทุนสามปีอยู่ที่ 309% ด้วยการใช้แนวทางการรักษาความปลอดภัยข้อมูลประจำตัวแบบคลาวด์เนทีฟที่ผสานรวม องค์กรต่างๆ สามารถปรับปรุงกระบวนการทำงานด้านไอทีและนักพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายเฉลี่ยได้ถึง 275,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อแอปพลิเคชันธุรกิจที่ได้รับการปกป้องทุกๆ 10 แอปพลิเคชันที่ CyberArk ช่วยปกป้อง

หากต้องการดาวน์โหลดสำเนาฟรีของ Gartner Magic Quadrant for Privileged Access Management ปี 2025 โปรดไปที่ https://lp.cyberark.com/gartner-mq-pam-2025.html

1 Gartner® Magic Quadrant™ สำหรับการจัดการการเข้าถึงที่มีสิทธิพิเศษ โดย Abhyuday Data, Paul Mezzera, Shubham Gera, Tarun Rohilla, Michael Kelley, 13 ตุลาคม 2025

ข้อสงวนสิทธิ์ของ Gartner
GARTNER เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนและเครื่องหมายบริการ และ MAGIC QUADRANT เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Gartner, Inc. และ/หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ และได้นำมาใช้ในที่นี้โดยได้รับอนุญาต สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด

Gartner ไม่รับรองผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใดๆ ที่ปรากฏในเอกสารเผยแพร่งานวิจัย และไม่แนะนำให้ผู้ใช้เทคโนโลยีเลือกเฉพาะผู้จำหน่ายที่ได้รับคะแนนสูงสุดหรือได้รับเครื่องหมายอื่นใด เอกสารเผยแพร่งานวิจัยของ Gartner ประกอบด้วยความคิดเห็นขององค์กรวิจัยของ Gartner และไม่ควรตีความว่าเป็นข้อเท็จจริง Gartner ขอปฏิเสธการรับประกันทั้งหมด ไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยนัย เกี่ยวกับงานวิจัยนี้ รวมถึงการรับประกันใดๆ เกี่ยวกับความสามารถในการขายหรือความเหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะ

เกี่ยวกับ CyberArk
CyberArk (NASDAQ: CYBR) คือผู้นำระดับโลกด้านการรักษาความปลอดภัยข้อมูลประจำตัว ที่ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรต่างๆ ทั่วโลกให้รักษาความปลอดภัยข้อมูลประจำตัวทั้งของมนุษย์และเครื่องจักรในองค์กรยุคใหม่ แพลตฟอร์มด้านการรักษาความปลอดภัยข้อมูลประจำตัวที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ CyberArk จะนำระบบควบคุมสิทธิ์อัจฉริยะมาใช้กับสำหรับทุกข้อมูลประจำตัว พร้อมการป้องกัน การตรวจจับ และการตอบสนองภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องตลอดวงจรชีวิตของการระบุตัวตน CyberArk จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถลดความเสี่ยงด้านปฏิบัติการและความปลอดภัย ด้วยการเปิดใช้งานระบบ Zero Trust และสิทธิ์การใช้งานน้อยที่สุด พร้อมความสามารถในการมองเห็นข้อมูลได้อย่างสมบูรณ์ ช่วยให้ผู้ใช้และข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงบุคลากร ฝ่ายไอที นักพัฒนา และเครื่องจักร สามารถเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ ได้อย่างปลอดภัยจากทุกที่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ cyberark.com

ลิขสิทธิ์ © 2025 CyberArk Software สงวนลิขสิทธิ์ ชื่อแบรนด์ ชื่อผลิตภัณฑ์ หรือเครื่องหมายการค้าอื่นๆ ทั้งหมดเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

นักลงทุนสัมพันธ์:
Kelsey Turcotte
CyberArk
617-558-2132
ir@cyberark.com

สื่อ:
Rachel Gardner
CyberArk
603-531-7229
press@cyberark.com

ที่มา: CyberArk

Xenco Medical ได้รับการยกย่องให้เป็นบริษัทอุปกรณ์การแพทย์/การวินิจฉัยแห่งปีในงานประกาศรางวัล Trailblazer Awards อันทรงเกียรติประจำปี 2025 ในนิวยอร์กซิตี้

Logo

ซานดิเอโก–(BUSINESS WIRE)–08 ตุลาคม 2025

Xenco Medical บริษัทเทคโนโลยีทางการแพทย์รุ่นบุกเบิก ได้รับการยกย่องให้เป็นบริษัทอุปกรณ์การแพทย์/การวินิจฉัยแห่งปี ในงานประกาศรางวัล PM360 Trailblazer Awards ประจำปี 2025 ซึ่งจัดขึ้นที่ Gotham Hall ในนิวยอร์กซิตี้ เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา โดยรางวัล Trailblazer Awards จัดขึ้นโดยองค์กรวิทยาศาสตร์ชีวภาพชั้นนำของโลกในแต่ละปี เพื่อยกย่ององค์กร ผู้นำ และโครงการริเริ่มต่างๆ ที่มีนวัตกรรมและทรงอิทธิพลที่สุดในการกำหนดอนาคตของการดูแลสุขภาพ โดย Xenco Medical ได้รับรางวัลสูงสุดในฐานะบริษัทแห่งปีในสาขาอุปกรณ์การแพทย์/การวินิจฉัย จากการพัฒนาอุปกรณ์ปลูกถ่ายแบบเลียนแบบชีวภาพ วัสดุชีวภาพแบบฟื้นฟูสภาพ และเครื่องมือผ่าตัดโพลิเมอร์คอมโพสิต ด้วยเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งกำหนดนิยามใหม่ของการดูแลผู้ป่วยผ่าตัด “ผู้ชนะในปีนี้แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมของเราแตกต่างอย่างชัดเจน นั่นคือ แนวคิดที่โดดเด่น นวัตกรรมที่ก้าวล้ำ และผลกระทบต่อโลก” กล่าวโดย Anna Stashower ซีอีโอและสำนักพิมพ์ PM360 “ผลงานของพวกเขาช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต ยกระดับการดูแล และขับเคลื่อนความก้าวหน้าที่สำคัญได้อย่างแท้จริง” ผู้ชนะรายอื่นๆ ในพิธีมอบรางวัลนี้ ประกอบด้วย Merck & Company ที่ได้รับรางวัลบริษัทเภสัชกรรม/เทคโนโลยีชีวภาพแห่งปี และ Vertex Pharmaceuticals ที่ได้รับรางวัลบริษัทเภสัชกรรม/เทคโนโลยีชีวภาพเฉพาะทางแห่งปี

On September 30th, 2025, Xenco Medical took home the top crown as Company of the Year in the Medical Device/Diagnostics category at the lauded Trailblazer Awards Ceremony in New York City’s Gotham Hall.

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2025 Xenco Medical ได้คว้ารางวัลบริษัทแห่งปีในประเภทอุปกรณ์การแพทย์/การวินิจฉัย ในงานประกาศรางวัล Trailblazer Awards ที่ Gotham Hall ในนิวยอร์กซิตี้

“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการยกย่องให้เป็นบริษัทแห่งปีในประเภทอุปกรณ์การแพทย์/การวินิจฉัย ในงาน Trailblazer Awards ประจำปี 2025 และเราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้นำศักยภาพอันล้นเหลือของวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างผลกระทบที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้ป่วยจำนวนนับไม่ถ้วนต่อไป” Jason Haider ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Xenco Medical กล่าว

ด้วยแรงบันดาลใจจากวิถีการถ่ายโอนเชิงกลภายในเซลล์ เทคโนโลยี TrabeculeX Continuum อันล้ำสมัยของ Xenco Medical นั้นได้ผสานศักยภาพในการสร้างกระดูกของวัสดุชีวภาพที่ฟื้นฟูตัวเองได้อย่างลงตัวกับการฟื้นฟูหลังการผ่าตัดที่ขับเคลื่อนด้วย AI ด้วยการช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถติดตามคะแนนความเจ็บปวด การปฏิบัติตามการฟื้นฟู และการฟื้นตัวของการเคลื่อนไหวจากระยะไกลผ่านการประเมินท่าทางที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้ โดย Xenco Medical ยังคงเดินหน้าในภารกิจต่างๆ เพื่อกำจัดอุปสรรคต่างๆ ที่พบเห็นได้โดยทั่วไปในการผ่าตัด

รางวัล Trailblazer Awards เป็นหนึ่งในรางวัลเกียรติยศสูงสุดในสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพที่ยกย่องความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมที่ก้าวล้ำ ธรรมาภิบาลองค์กร และความรับผิดชอบต่อสังคม โดยยกย่องบริษัทที่เป็นตัวอย่างความเป็นผู้นำและความคิดสร้างสรรค์ในระบบนิเวศการดูแลสุขภาพ โดย Xenco Medical ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอุปกรณ์การแพทย์ได้นำเสนอเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ ที่ช่วยตอกย้ำถึงแนวทางการดูแลสุขภาพที่เน้นคุณค่า ทาง Xenco Medical ได้ยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานของสถานพยาบาลอย่างก้าวกระโดดด้วยระบบปลูกถ่ายอุปกรณ์ผ่าตัดแบบใช้ครั้งเดียวที่มีการปรับปรุงใหม่ อุปกรณ์ผ่าตัดที่ปรับปรุงใหม่ด้านโลจิสติกส์ของ Xenco Medical จะช่วยลดระยะเวลาการหมุนเวียนของการผ่าตัดลงอย่างมาก โดยไม่จำเป็นต้องผ่านการฆ่าเชื้อและสามารถนำอุปกรณ์ปลูกถ่ายและอุปกรณ์กลับมาใช้ได้ใหม่ระหว่างการผ่าตัด โดยในเดือนมีนาคมของปีนี้ Xenco Medical ยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในโลกโดยนิตยสาร Fast Company เป็นครั้งที่สองอีกด้วย

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20251008490627/en

Contacts

Melissa Russell
858-202-1505
info@xencomedical.com

ที่มา: Xenco Medical

APO Productivity Databook 2025 : การเติบโตและผลิตภาพในเอเชีย ปี 1970–2035

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–08 ตุลาคม 2025

องค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย (APO) เปิดตัว APO Productivity Databook 2025 ฉบับที่ 18 ซึ่งนำเสนอการวิเคราะห์ที่สอดคล้องกันเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจและผลิตภาพของเอเชียตั้งแต่ปี 1970 ถึงปี 2023 พร้อมการคาดการณ์ถึงปี 2035 โดยฉบับปี 2025 นี้ครอบคลุมเศรษฐกิจเอเชีย 33 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วยเศรษฐกิจเอเชียที่เป็นสมาชิก APO 21 ประเทศ และประเทศที่ไม่ใช่สมาชิก 12 ประเทศ และอ้างอิงถึงประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วที่สำคัญเพื่อการเปรียบเทียบ เช่น ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ส่วนอัฟกานิสถานและมัลดีฟส์เพิ่งได้รับการจัดตั้งขึ้นใหม่ในปีนี้

ฐานข้อมูลผลิตภาพของ APO (APO-PDB) ปี 2025 ฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยอ้างอิงการเปรียบเทียบระดับต่างๆ กับเกณฑ์มาตรฐานความเท่าเทียมของอำนาจซื้อของโครงการเปรียบเทียบระหว่างประเทศปี 2021 และบูรณาการฐานข้อมูลด้านแรงงานที่ปรับคุณภาพของเอเชีย (AQALI) และฐานข้อมูลด้านทรัพยากรธรรมชาติของเอเชีย (ANRD) เพื่อยกระดับการวัดคุณภาพแรงงานและที่ดินหรือทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ การปรับปรุงเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างฐานข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของทุน แรงงาน และผลิตภาพปัจจัยรวม (TFP) ต่อการเติบโตของเอเชีย ฐานข้อมูลนี้ยังนำเสนอบัญชีผลิตภาพระดับภูมิภาคสำหรับ Asia27 (APO21 บวกอัฟกานิสถาน ภูฏาน บรูไน จีน มัลดีฟส์ และเมียนมาร์) อาเซียน (สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) เอเชียตะวันออก และ SAARC (สมาคมความร่วมมือแห่งภูมิภาคเอเชียใต้) เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบระดับภูมิภาคได้อย่างสอดคล้องกัน

จุดเด่นของ APO Productivity Databook 2025

  •  แนวโน้มผลิตภาพกว่า 50 ปี และการมองไปข้างหน้าถึงปี 2035: ติดตามการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของเอเชียตั้งแต่ปี 1970 ถึงปี 2023 พร้อมด้วยการคาดการณ์ถึงปี 2035
  •  ขยายความครอบคลุมระดับภูมิภาคด้วยการรวมอัฟกานิสถานและมัลดีฟส์เป็นครั้งแรก: นำเสนอบัญชีผลิตภาพระดับภูมิภาคสำหรับ Asia27, ASEAN, East Asia และ SAARC
  •  การวัดเชิงลึกยิ่งขึ้นด้วยคุณภาพแรงงานและทรัพยากรธรรมชาติ: นำ AQALI 2025 และ ANRD 2025 มาใช้เพื่อปรับปรุงการประมาณค่า TFP ใน APO-PDB 2025
  •  การวิเคราะห์อุปสงค์และอุปทานแบบบูรณาการด้วยวิธีการที่โปร่งใส: นำเสนอการแยกย่อยของผลผลิตด้านแรงงาน (ต่อคนงานและต่อชั่วโมง) ความต้องการและโครงสร้างอุตสาหกรรม รวมถึงรายได้จากกะการทำงานจริง โดยได้รับการสนับสนุนด้วยวิธีการที่สอดคล้องกันและเอกสารแบบเปิด

ตัวอย่างข้อมูล:

APO Productivity Databook 2025 มีให้บริการทั้งในรูปแบบดิจิทัลและสิ่งพิมพ์ สามารถเข้าถึงและดาวน์โหลดได้ฟรีจากลิงก์ด้านล่างนี้
https://doi.org/10.61145/GENB1427

ฐานข้อมูลผลิตภาพของ APO ปี 2025 มีบัญชีผลิตภาพที่ครอบคลุมสำหรับ 27 ประเทศในเอเชีย และสามารถเข้าถึงได้จากลิงก์ด้านล่างนี้
https://www.apo-tokyo.org/productivitydatabook/

เกี่ยวกับ APO

องค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย (APO) เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลระดับภูมิภาคที่อุทิศตนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพผลผลิตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกผ่านความร่วมมือซึ่งกันและกัน องค์การไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมือง ไม่แสวงหากำไร และไม่เลือกปฏิบัติ ก่อตั้งขึ้นในปี 1961 โดยมีสมาชิกผู้ก่อตั้ง 8 ราย ปัจจุบัน APO ประกอบด้วยเศรษฐกิจสมาชิก 21 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ กัมพูชา สาธารณรัฐจีน ฟิจิ ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สปป.ลาว มาเลเซีย มองโกเลีย เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ศรีลังกา ไทย ตุรกี และเวียดนาม

APO กำลังกำหนดทิศทางอนาคตของภูมิภาคโดยส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของสมาชิกผ่านบริการให้คำแนะนำด้านนโยบายระดับชาติ ซึ่งทำหน้าที่เป็นกลุ่มนักคิด ริเริ่มสร้างศักยภาพสถาบัน และการแบ่งปันความรู้เพื่อเพิ่มผลผลิต 

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20251007777758/en

Contacts

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อหน่วยข้อมูลดิจิทัล APO: pr@apo-tokyo.org
เว็บไซต์: https://www.apo-tokyo.org

ที่มา: Asian Productivity Organization


ชาร์จาห์ร่วมกับ Inclusion International เป็นเจ้าภาพจัดงาน World Congress 2025 ‘เราคือหนึ่งเดียวกัน’ ครั้งที่ 18 เป็นครั้งแรก ด้วยผู้เข้าร่วมกว่า 600 คน จาก 74 ประเทศ

Logo

ชาร์จาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–20 กันยายน 2025

เมืองชาร์จาห์เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม World Congress 2025 “เราคือหนึ่งเดียวกัน” ครั้งที่ 18 โดยเป็นครั้งแรกในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ภายใต้การอุปถัมภ์และการเป็นสักขีพยานของท่านชีค ดร. Sultan bin Mohammed Al Qasimi สมาชิกสภาสูงสุดและผู้ปกครองเมืองชาร์จาห์

Honorary Lifetime Membership certificate awarded to Sheikha Jameela bint Mohammed Al Qasimi by Inclusion International (Photo: AETOSWire)

Sheikha Jameela bint Mohammed Al Qasimi ได้รับประกาศนียบัตรสมาชิกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพจาก Inclusion International (ภาพ: AETOSWire)

งานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-17 กันยายน ณ ศูนย์นิทรรศการชาร์จาห์ ที่จัดโดย Sharjah City for Humanitarian Services (SCHS) และ Inclusion International โดยได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรเชิงกลยุทธ์อย่าง Sharjah Government Media Bureau การประชุมครั้งนี้มีวิทยากร 152 คน ที่ประกอบด้วยผู้พิทักษ์สิทธิตนเอง ครอบครัว ผู้เชี่ยวชาญ และผู้กำหนดนโยบายต่างๆ จาก 160 องค์กร ใน 74 ประเทศ โดยแบ่งเป็น 59 เซสชั่น และมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 600 คน

ในระหว่างงานนี้ Inclusion International ได้มอบสิทธิ์เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพแก่ Sheikha Jameela bint Mohammed Al Qasimi ประธาน Sharjah City for Humanitarian Services เพื่อเป็นการยกย่องคุณูปการอันสำคัญยิ่งต่อการเคลื่อนไหวในระดับโลกในการส่งเสริมศักยภาพของผู้ที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา และเสริมสร้างสิทธิและบทบาทของครอบครัวของพวกเขาในสังคม

รางวัลอันทรงเกียรตินี้เป็นเกียรติยศระดับนานาชาติที่มอบโดยเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งอุทิศตนเพื่อสิทธิของผู้พิการทางสติปัญญาและครอบครัว รางวัลนี้ทำให้ Sheikha Jameela Al Qasimi ได้รับการยกย่องอย่างสูงในฐานะบุคคลสำคัญระดับโลกที่มีส่วนช่วยผลักดันการคุ้มครอง การส่งเสริมศักยภาพ และการมีส่วนร่วมของผู้พิการทางสติปัญญาบนเวทีระหว่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ

Sheikha Jameela Al Qasimi กล่าวว่า การมอบสมาชิกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพโดย Inclusion International ถือเป็นการยกย่องอาณาจักรชาร์จาห์อันทรงเกียรติที่นำโดยฝ่าบาทผู้ปกครองเมืองชาร์จาห์ที่เป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ได้สร้างกรอบด้านมนุษยธรรมที่หยั่งรากลึกบนพื้นฐานของความยุติธรรม และให้ความสำคัญกับสิทธิและสวัสดิการของผู้พิการมาโดยตลอด

นอกจากนี้ เธอยังได้เน้นย้ำว่าเกียรติยศนี้ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงมรดกอันยั่งยืนของ SCHS โดยนับตั้งแต่ก่อตั้งมาได้ยืนหยัดเป็นสถาบันชั้นนำด้านความรู้และบริการเฉพาะทาง และเป็นแรงผลักดันหลักในเรื่องของความร่วมมือและการเป็นพันธมิตรระหว่างประเทศ

Sue Swenson ประธาน Inclusion International กล่าวชื่นชมชาร์จาห์ที่นำเสนอโมเดลที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการดูแลและเสริมสร้างศักยภาพให้กับผู้พิการทางสติปัญญา เธอกล่าวว่า “รัฐชาร์จาห์ได้แสดงให้เห็นว่าการลงทุนในนโยบายที่ครอบคลุมสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของแต่ละบุคคลและครอบครัวไปในทางที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน การเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมครั้งนี้ได้ช่วยตอกย้ำให้เห็นถึงบทบาทของชาร์จาห์ในฐานะพันธมิตรสำคัญในการกำหนดอนาคตระหว่างประเทศที่ครอบคลุมมากขึ้น”

การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมที่จัดขึ้นในทุกๆ สี่ปีในประเทศสมาชิก สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของชาร์จาห์ที่มีต่อหลักการของ Inclusion International อันได้แก่ การศึกษาแบบมีส่วนร่วม การมีส่วนร่วมของชุมชน การส่งเสริมความสำเร็จ ความเท่าเทียม และการคุ้มครองสิทธิต่างๆ โดยหลักการเหล่านี้ได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้จริงเป็นโครงการและนโยบายต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา

พิธีเปิดได้รับเกียรติจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงและบุคคลสำคัญในระดับนานาชาติ อาทิ ฯพณฯ Shaikh Mohamed bin Duaij Al Khalifa ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งบาห์เรน, Jamie Cooke ผู้อำนวยการบริหารของ Inclusion International, Hashem Taqi ประธานของ Inclusion International ประจำภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ และเจ้าชาย Mired bin Raad bin Zeid ประธานสภาสูงเพื่อสิทธิของคนพิการแห่งจอร์แดน

ที่มา: AETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/20250919788186/en

Contacts

Hussain Al Mulla
Hussain.AlMulla@SGMB.ae

ที่มา: Sharjah Government Media Bureau


CTBC Holding ร่วมแบ่งปันความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมดิจิทัลและการป้องกันการฉ้อโกงในงาน Banking Summit Asia 2025

Logo

ไทเป, ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–16 กันยายน 2025

บริษัท CTBC Financial Holding จำกัด (CTBC Holding) ที่ได้รับเชิญจาก Financial Times และ The Banker สื่อสิ่งพิมพ์ชั้นนำระดับโลก ได้เข้าร่วมงาน Banking Summit Asia 2025 เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา โดยคุณ Titan Chia (賈景光) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศของ CTBC Holding ได้ร่วมเสวนาในหัวข้อหลักๆ ของการพัฒนานวัตกรรมบริการทางการเงินดิจิทัลควบคู่ไปกับการสร้างหลักประกันความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของข้อมูล พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ของ CTBC ในด้านดิจิทัล โดยคุณ Titan Chia เป็นตัวแทนเพียงคนเดียวที่มาจากภาคการเงินของไต้หวัน

Titan Chia (right), Chief Information Officer of CTBC Financial Holding, served as a speaker today at the “Banking Summit Asia 2025,” held in Asia for the first time, where he shared the company’s achievements in fraud prevention through digital innovation. / Courtesy of CTBC Financial Holding

Titan Chia (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ บริษัท CTBC Financial Holding เป็นวิทยากรในงาน “Banking Summit Asia 2025” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในเอเชีย โดยเขาได้ร่วมแบ่งปันความสำเร็จของบริษัทในการป้องกันการฉ้อโกงผ่านนวัตกรรมดิจิทัล / เครดิตภาพโดย CTBC Financial Holding

งาน Global Banking Summit ซึ่งจัดโดย Financial Times และ The Banker ร่วมกัน ถือเป็นหนึ่งในงานประชุมทางการเงินที่สำคัญที่สุดของโลก โดยปีนี้ถือเป็นการประชุมสุดยอดครั้งแรกในเอเชีย จัดขึ้นที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ฮ่องกง และสามารถดึงดูดผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินได้เกือบ 300 คนจากทั่วโลก ผู้จัดงานได้ร่วมเสวนากับ คุณ Titan Chia และ คุณเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีกสิกรไทย

คุณ Chia ย้ำว่าความท้าทายสำคัญของธนาคารในปัจจุบันคือการปกป้องความปลอดภัยของผู้ใช้ควบคู่ไปกับการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า เขากล่าวว่า CTBC Bank ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ CTBC Holding ได้นำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาระบบป้องกันการฉ้อโกงที่ออกแบบมาเพื่อรับประกันว่าทรัพย์สินของลูกค้าจะปลอดภัยและให้บริการได้อย่างราบรื่น

โมเดล “AI SKYNET” ที่พัฒนาโดย CTBC Holding สามารถตรวจจับการฉ้อโกงที่อาจเกิดขึ้นได้โดยการวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงเกือบ 300 รายการภายในเวลาเพียง 1 วินาที โดยในปี 2024 โมเดลนี้สามารถป้องกันการทุจริตได้เกือบ 2.8 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน และมีอัตราการเติบโตต่อปีอยู่ที่ 30% ส่วนในไตรมาสแรกของปี 2025 เพียงไตรมาสเดียว สัญญาณการฉ้อโกงได้ลดลงเหลือ 24% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

เพื่อสร้างเครือข่ายป้องกันการฉ้อโกงที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น CTBC Holding ได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมและเครือข่ายสังคมออนไลน์ LINE และร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุดไต้หวัน และสำนักงานอัยการเขตไทเป นอกจากนี้ CTBC Holding ยังทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานคณะทำงานพัฒนาแอปพลิเคชัน Fintech โดยเป็นผู้นำภาคการเงินของไต้หวันในการสร้างเครือข่ายความปลอดภัยระหว่างธนาคารเพื่อต่อสู้กับการฉ้อโกง

ในฐานะหนึ่งในธนาคารเอกชนที่มีความเป็นสากลมากที่สุดของไต้หวัน สาขาต่างประเทศของ CTBC Bank จึงได้รับการประสานงานจากสำนักงานใหญ่เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางเทคโนโลยีควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามนโยบายด้านกฎระเบียบท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวและป้องกันการฉ้อโกงข้ามพรมแดน ในอนาคต CTBC Bank วางแผนที่จะสำรวจการพัฒนา “ศูนย์ข้อมูลระดับภูมิภาค” โดยใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสขั้นสูงและกลไกการปกปิดตัวตนที่สอดคล้องตามมาตรฐาน เพื่อบูรณาการข้อมูลข้ามพรมแดนและเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันการฉ้อโกงให้ดียิ่งขึ้น

CTBC Holding เชื่อมั่นว่าความน่าเชื่อถือและความมั่นคงปลอดภัยทางดิจิทัลคือรากฐานสำคัญของการเงินยุคใหม่ ในอนาคต CTBC จะเดินหน้าพัฒนาการประยุกต์ใช้ AI บิ๊กดาต้า และเทคโนโลยีคลาวด์อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น และทำงานร่วมกับพันธมิตรทางการเงินระหว่างประเทศเพื่อส่งเสริมความมั่นคงปลอดภัยทางดิจิทัลและการพัฒนาที่ยั่งยืนทั่วทั้งเอเชีย

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250916711131/en

Contacts

ฝ่ายประชาสัมพันธ์, CTBC Bank
Ken Wang (+8862) 3327-7777#6712
Sherry Fang (+8862) 3327-7777#6711

ที่มา: CTBC Holding

Nikkiso ตอบรับความต้องการอุปกรณ์จัดการแอมโมเนียที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมเปิดตัวปั๊มรุ่นใหม่ในงาน Gastech 2025

Logo

มิลาน–(BUSINESS WIRE)–09 กันยายน 2025

Nikkiso Clean Energy & Industrial Gases Group (Nikkiso CE&IG) ได้ประกาศในงาน Gastech Conference วันนี้ว่า บริษัทได้เปิดตัวปั๊มแอมโมเนียแบบจุ่มใต้น้ำรุ่นใหม่ที่ได้รับการออกแบบให้มีความปลอดภัยและเชื่อถือได้มากที่สุดในอุตสาหกรรม

แอมโมเนียเป็นส่วนประกอบสำคัญในปุ๋ย และถูกนำมาใช้เป็นตัวพาไฮโดรเจนสะอาดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ความต้องการในการจัดการแอมโมเนียก็เพิ่มขึ้นเช่นกันในภาคส่วนต่างๆ เช่น การผลิตไฟฟ้า โรงงานเคมี กองเรือขนส่ง รวมถึงท่าเรือส่งออก ทาง Nikkiso CE&IG จึงตอบสนองต่อความต้องการนี้ด้วยโซลูชันแรกที่ออกแบบมาเพื่อลดภาระการบำรุงรักษาทั่วไปสำหรับผู้ปฏิบัติงาน ด้วยโครงสร้างที่ปราศจากซีลต่างๆ บำรุงรักษาง่าย ปราศจากทองแดง รวมถึงระบบมอเตอร์ปั๊มแบบบูรณาการ

โดยปั๊มมีความสามารถในการส่งน้ำได้มากกว่า 2,500 ม.3 ต่อชั่วโมง และมีประวัติการบำรุงรักษาที่เป็นผู้นำของอุตสาหกรรม โดยชิ้นส่วนที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะทำให้ปั๊มมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นอย่างเห็นได้ชัดก่อนที่จะต้องมีการบำรุงรักษาใดๆ โดยมีระยะเวลาเฉลี่ยระหว่างการหยุดทำงานแต่ละครั้งสูงกว่า 16,000 ชั่วโมง

Emile Bado ประธานฝ่ายปั๊มของ Nikkiso CE&IG กล่าวว่า “ความต้องการแอมโมเนียในการใช้งานที่หลากหลายกำลังเพิ่มขึ้น เนื่องจากความสำคัญของแอมโมเนียในฐานะเชื้อเพลิงสะอาดทางเลือก บทบาทในภาคเกษตรกรรม และในฐานะตัวพาไฮโดรเจน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า เรามีความยินดีที่จะเปิดตัวปั๊มที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาที่พบได้บ่อยที่สุดจากผู้ปฏิบัติงานต้องเผชิญ

“เรามีความภาคภูมิใจในนวัตกรรมของ Nikkiso CE&IG และความพยายามในการผลิตปั๊มนี้ก็ไม่ต่างกัน ส่งผลให้ปั๊มนี้เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้านความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ การบำรุงรักษา และประสิทธิภาพ”

การเปิดตัวปั๊มนี้เกิดขึ้นจากความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมที่สั่งสมมาอย่างยาวนานของทั้ง Nikkiso CE&IG และ Nikkiso Co ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ในการให้บริการตลาดแอมโมเนียในหลากหลายรูปแบบ โดย Nikkiso CE&IG มีประสบการณ์กว่าสี่ทศวรรษในการสร้างปั๊มมอเตอร์แบบจุ่มสำหรับใช้กับแอมโมเนีย และเพิ่งได้รับการอนุมัติในหลักการสำหรับระบบจ่ายเชื้อเพลิงแอมโมเนียแบบใหม่ ควบคู่ไปกับเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนแบบอุณหภูมิแวดล้อมและแบบไฟฟ้าสำหรับแอมโมเนียที่สร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะทางที่มีอยู่และได้รับการพิสูจน์แล้ว ฝ่ายอุตสาหกรรมของ Nikkiso Co ได้สร้างปั๊มมอเตอร์แบบกระป๋องมากกว่า 7,000 ตัวสำหรับใช้ในการจัดการแอมโมเนีย และมีแผนจะเปิดตัวปั๊มแอมโมเนียเหลวสำหรับการผลิตพลังงานความร้อนในปีหน้า

หมายเหตุถึงบรรณาธิการ

Eric Sensat ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ – ปั๊มมอเตอร์แบบจุ่มใต้น้ำของ Nikkiso CE&IG จะมีการนำเสนอปั๊มแอมโมเนียแบบจุ่มใต้น้ำรุ่นใหม่นี้ที่บูทของ Nikkiso CE&IG (J14) เวลา 10.30 น. และ 13.30 น. ในวันพุธที่ 10 กันยายน 2025

เกี่ยวกับ Nikkiso Clean Energy & Industrial Gases Group

Nikkiso Clean Energy & Industrial Gases Group คือผู้ให้บริการชั้นนำด้านอุปกรณ์และโซลูชันไครโอเจนิกทั่วโลกที่ตอบสนองความต้องการของตลาดพลังงานคาร์บอนต่ำและก๊าซอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยผลิตภัณฑ์นวัตกรรมและโซลูชันที่ทำงานร่วมกัน เรามุ่งมั่นขับเคลื่อนอนาคตของตลาดพลังงาน การขนส่ง การเดินเรือ การบินและอวกาศ และก๊าซอุตสาหกรรม

กลุ่มบริษัทมีพนักงานมากกว่า 1,800 คนใน 12 ประเทศ และบริหารงานโดย Cryogenic Industries, Inc. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่ถือหุ้นโดย Nikkiso Co., Ltd (TSE: 6376)

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Nikkiso CE&IG Group ได้ที่ NikkisoCEIG.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

สื่อ
Ross Davidson
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารภายนอก
+44 (0)7946 930741
Ross.davidson@nikkisoceig.com
pr@nikkisoceig.com

ที่มา: Nikkiso Clean Energy & Industrial Gases Group

การประชุม EmPOWER AI 2025 ผนึกกำลังนวัตกรรมด้านพลังงานและ AI ร่วมสร้างโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะแห่งอนาคต

Logo

ซีอีโอของ Glean จะบรรยายปาฐกถาสำคัญ พร้อมรับฟังมุมมองจาก Ameren IL, APS, OG&E, SMUD, NV Energy, Itron, Infosys, AWS และบริษัทอื่นๆ

ลอสอัลโตส, แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–04 กันยายน 2025

Bidgelyจัดงานประชุมด้านข่าวกรองด้านพลังงานชั้นนำในชื่อว่า “EmPOWER AI” ในระหว่างวันที่ 16-18 กันยายน ณ เมืองนาปา รัฐแคลิฟอร์เนีย งานประชุมประจำปีนี้จะมีผู้เข้าร่วมจากบริษัทระดับโลกกว่า 40 แห่ง เพื่อจุดประกายการสนทนาเชิงวิพากษ์ระหว่างผู้นำด้านสาธารณูปโภค ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูล และผู้บริหารด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เกี่ยวกับบทบาทของ AI ที่กำลังปฏิวัติวงการนี้

Bidgely's EmPOWER AI, held September 16-18 in Napa, California, gathers over 40 global energy companies to explore how AI is revolutionizing the sector.

งาน EmPOWER AI ของ Bidgely จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-18 กันยายน ณ เมืองนาปา รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยรวบรวมบริษัทพลังงานระดับโลกกว่า 40 แห่ง เพื่อสำรวจว่า AI กำลังปฏิวัติวงการนี้อย่างไร

“งานนี้ถือเป็นเวทีสำคัญสำหรับการนำเสนอความก้าวหน้าด้าน AI ระลอกใหม่ของเรา โดยปีที่แล้ว Bidgely ได้เปิดตัวผลงานอันล้ำสมัยของเราในด้าน AI เชิงสร้างสรรค์ ส่วนในปีนี้ ผู้เข้าร่วมงานจะได้สัมผัสโซลูชัน AI ใหม่ล่าสุดอันทรงพลังของเราอีกครั้ง ซึ่งจะช่วยให้ผู้นำมีความยืดหยุ่นมากกว่าที่เคยในการนำ AI มาใช้ในธุรกิจสาธารณูปโภคต่างๆ” Abhay Gupta ซีอีโอของ Bidgely กล่าว “เราแทบรอไม่ไหวที่จะแบ่งปันความสำเร็จอันน่าทึ่งของลูกค้าและเปิดเผยถึงอนาคตของอุตสาหกรรมพลังงาน”

งาน EmPOWER AI ปีนี้จัดขึ้นโดย PacifiCorp ผู้ให้บริการโครงข่ายไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาตะวันตก และเป็นพันธมิตรกับ Bidgely มายาวนาน ภายในงานจะประกอบด้วยหัวข้อต่างๆ เกี่ยวกับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการแยกส่วนพลังงานที่ขับเคลื่อนด้วย AI การแบ่งส่วนตลาดและการมีส่วนร่วมของลูกค้ายุคใหม่ รวมถึงการวางแผนโครงข่ายไฟฟ้าและการใช้ไฟฟ้า โดยหัวข้อเหล่านี้จะมีการพูดคุยอย่างเข้มข้นจากบริษัทสาธารณูปโภคชั้นนำและผู้เชี่ยวชาญของ Bidgely วิทยากรหลักของ EmPOWER AI ในปีนี้ คือ Arvind Jain ผู้มีวิสัยทัศน์ด้าน AI ในสถานที่ทำงานและซีอีโอของ Glean ซึ่งจะมาพูดคุยถึงแนวทางที่บริษัทสาธารณูปโภคสามารถกำหนดทิศทางของ AI ในอนาคต

“EmPOWER AI มอบพื้นที่พิเศษที่ผู้เชี่ยวชาญจากทั่วทุกอุตสาหกรรมมารวมตัวกันเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับนวัตกรรม และเรียนรู้จากประสบการณ์ AI ของกันและกัน” Shawn Grant ผู้อำนวยการฝ่ายโซลูชันลูกค้าของ PacifiCorp กล่าว “นี่คือการแลกเปลี่ยนแบบเปิดที่เร่งให้เราทุกคนก้าวไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น ตั้งแต่ขอบเครือข่ายไปจนถึงศูนย์กลางของการเปลี่ยนแปลง”

การสนทนาในระดับโลกกับ Local Insight

กิจกรรม EmPOWER AI ‘Insights Tour’ ใหม่ ที่เริ่มต้นขึ้นในปี 2025 จะสิ้นสุดลงที่เมืองนาปา โดยรวบรวมบทสนทนาและข้อมูลเชิงลึกจากผู้เข้าร่วมกว่า 100 คน ณ สถานที่ต่างๆ ในแคนาดาและยุโรป กิจกรรมระดับภูมิภาคทั้งสองแห่งนี้ได้รวมตัวผู้ให้บริการสาธารณูปโภคและผู้บริหารเพื่อหารือเกี่ยวกับการทำลายกำแพงกั้นระหว่างลูกค้าและการวางแผนโครงข่ายไฟฟ้า โดยใช้กลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล โครงสร้างพื้นฐานการวัดขั้นสูง (AMI) 2.0 และ AI เชิงสร้างสรรค์ (GenAI) เพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถือของโครงข่ายไฟฟ้าและการมีส่วนร่วมของลูกค้า

“ผมคิดว่า EmPOWER AI เป็นกิจกรรมที่โดดเด่น พวกเขาเชิญผู้คนที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันและมีปัญหาคล้ายกันในอุตสาหกรรมของตนเองจากทั่วโลกมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น” Sumit Verma รองประธานฝ่ายประสบการณ์ลูกค้าของ TAQA Distribution ในอาบูดาบี กล่าว “ปัญหาของบริษัทหนึ่งอาจเป็นทางออกของอีกบริษัทหนึ่งก็ได้”

การสร้างเครือข่ายผู้บริหารและการพูดคุยอย่างตรงไปตรงมา

การประชุม EmPOWER AI ของ Bidgely เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสโซลูชันล่าสุดสำหรับความท้าทายที่สำคัญที่สุดของอุตสาหกรรมสาธารณูปโภค การประชุมนี้ผสมผสานวิสัยทัศน์ที่มองการณ์ไกลเข้ากับการประยุกต์ใช้งานจริงที่ภาคสาธารณูปโภคกำลังใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ตลอดงานจะมีการแบ่งปันมุมมองจากองค์กรต่างๆ เช่น Ameren Illinois, APS, OG&E, SMUD, NV Energy, Avista, Itron, AWS, Infosys และองค์กรชั้นนำด้านนวัตกรรมอื่นๆ ตลอดห่วงโซ่คุณค่าด้านพลังงาน

หัวข้อของเซสชันประกอบด้วย

  •  การย้ายลูกค้าจากขอบเครือข่ายไปสู่ศูนย์กลางแห่งนวัตกรรม
  •  เปลี่ยนโครงข่ายไฟฟ้าคงที่ของคุณให้เป็นระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ AI
  •  เร่งความสำเร็จของโครงการ EV ด้วย AI
  •  โหลดที่ชาญฉลาดขึ้น ใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดขึ้น: พลิกโฉมการออกแบบ TOU และอัตราค่าบริการ
  •  จาก AMI สู่ AI: การออกแบบเพื่ออนาคตด้วยปัญญาประดิษฐ์แบบกระจาย
  •  การพัฒนาความเสมอภาคและความสามารถในการซื้อโดยใช้ข้อมูล
  •  การคาดการณ์และเตรียมความพร้อมสำหรับการเติบโตของโครงข่ายไฟฟ้า 10 เท่า

เปิดลงทะเบียน EmPOWER AI 2025 แล้ว ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bidgely.com/empower-ai/

เกี่ยวกับ Bidgely

Bidgely คือบริษัท SaaS ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งกำลังเร่งสร้างอนาคตพลังงานสะอาด ด้วยการช่วยให้บริษัทพลังงานและผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับพลังงานโดยอาศัยข้อมูล โดยแพลตฟอร์ม UtilityAI™ ของ Bidgely นั้นขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของเราที่ได้รับการจดสิทธิบัตรที่จะแปลงข้อมูลของลูกค้าในหลากหลายมิติ เช่น การใช้พลังงาน ข้อมูลประชากร และปฏิสัมพันธ์ต่างๆ ให้เป็นข้อมูลเชิงลึกด้านพลังงานของผู้บริโภคที่แม่นยำและสามารถนำไปใช้ได้จริง เราใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้เพื่อมอบคำแนะนำเฉพาะบุคคลให้กับลูกค้าแต่ละราย ซึ่งปรับให้เหมาะกับความต้องการส่วนบุคคลและไลฟ์สไตล์ คุณลักษณะการใช้งาน รูปแบบพฤติกรรม แนวโน้มการซื้อ และอื่นๆ โดย Bidgely กำลังพัฒนานวัตกรรมมิเตอร์อัจฉริยะด้วยโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลสำหรับโซลาร์เซลล์ (PV) การตรวจจับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) การปรับเปลี่ยนโหลดและการจัดการการชาร์จตามพฤติกรรมของรถยนต์ไฟฟ้า การขโมยพลังงาน การคาดการณ์โหลดระยะสั้น การวิเคราะห์โครงข่ายไฟฟ้า และการออกแบบอัตราการใช้งาน (TOU) โดยระบบวิเคราะห์พลังงาน UtilityAI™ ของ Bidgely นั้นสามารถมอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการผลิตและการบริโภค เพื่อการวางแผนและกำหนดรูปแบบการใช้พลังงานสูงสุด (Peak Load) ที่ดีขึ้น พร้อมให้คำแนะนำที่ตรงจุดสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่มีมูลค่าเพิ่ม Bidgely ตั้งอยู่ที่ซิลิคอนแวลลีย์ มีสิทธิบัตรด้านพลังงานมากกว่า 16 ฉบับ เงินทุนกว่า 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลมากกว่า 30 คน และนำความหลงใหลใน AI มาสู่สาธารณูปโภค โดยให้บริการลูกค้าทั้งที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ทั่วโลก ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bidgely.com หรือบล็อกของ Bidgely ที่ bidgely.com/blog

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250904069383/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Christine Bennett
Bidgely
press@bidgely.com

ที่มา: Bidgely

จาก EHR ที่ขับเคลื่อนด้วย AI สู่การแชร์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ InterSystems Asia Healthcare Summit 2025 ชูอินโดนีเซียในฐานะผู้นำด้านสุขภาพดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Logo

ผู้นำระดับโลกและระดับท้องถิ่นรวมตัวกันที่จาการ์ตาเพื่อนำเสนอความก้าวหน้าที่กำลังพลิกโฉมการให้บริการด้านการดูแลสุขภาพและนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลทั่วทั้งภูมิภาค

จาการ์ตา, อินโดนีเซีย–(BUSINESS WIRE)–04 กันยายน 2025

InterSystems เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีข้อมูลเชิงสร้างสรรค์ที่บริหารจัดการข้อมูลสุขภาพมากกว่าหนึ่งพันล้านรายการทั่วโลก ได้จัดงาน Asia Healthcare Summit 2025 เมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีผู้นำจากภาครัฐ ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ และภาคเทคโนโลยีสารสนเทศมากกว่า 200 ราย ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับท้องถิ่นมาร่วมประชุม โดยได้ยกย่องอินโดนีเซียในฐานะสัญลักษณ์แห่งนวัตกรรมของการดูแลสุขภาพในเอเชีย ด้วยนโยบายที่ก้าวหน้า การลงทุนจากภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น และระบบนิเวศความร่วมมือที่เชื่อมโยงความเชี่ยวชาญระดับโลกเข้ากับนวัตกรรมในท้องถิ่น อินโดนีเซียกำลังก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสุขภาพดิจิทัลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจุดประกายความก้าวหน้าด้านการดูแลผู้ป่วยที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

ระบบการดูแลสุขภาพของอินโดนีเซียกำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในด้านความพร้อมทางดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยแผนงานการเปลี่ยนแปลงของกระทรวงสาธารณสุข และความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับข้อมูลที่เชื่อถือได้และทำงานร่วมกันได้ และระบบที่ขับเคลื่อนด้วย AI Terry Ragon, ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ InterSystems กล่าวว่า “เราอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านการประมวลผลในขณะที่เราเข้าสู่ยุค AI โดยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นศูนย์กลางของนวัตกรรม และในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ ลูกค้าของเราได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังส่งมอบการดูแลระดับโลกให้กับภูมิภาคนี้ด้วยเทคโนโลยีของเราอย่างไร”

แม้จะมีแรงผลักดันที่แข็งแกร่ง แต่ภาคการดูแลสุขภาพของเอเชียยังคงเผชิญกับความท้าทายต่างๆ มากมาย รวมถึงระบบเดิมที่กระจัดกระจาย ความรู้ด้านดิจิทัลที่ไม่สม่ำเสมอ และความกังวลของสาธารณชนเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล Luciano Brustia, กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ InterSystems กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงด้านการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องของอินโดนีเซียไม่ได้เป็นเพียงแค่ความสำเร็จในระดับชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้กับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอีกด้วย ภาวะผู้นำที่มองการณ์ไกล ความร่วมมือในอุตสาหกรรม และความพร้อมที่จะนำเทคโนโลยีที่ปลอดภัยและปรับขนาดได้มาใช้ กำลังจะสร้างมาตรฐานใหม่ให้เกิดขึ้น”

โซลูชันในโลกแห่งความเป็นจริง ผลกระทบที่พิสูจน์แล้ว

InterSystems ได้สาธิตวิธีการที่แพลตฟอร์มข้อมูล InterSystems IRIS for Health™ ของบริษัท รวบรวมข้อมูลจากหลายระบบแบบเรียลไทม์เพื่อ “สื่อสารในภาษาเดียวกัน” ที่พร้อมสำหรับ AI และการวิเคราะห์โดยไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานเดิม แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้โรงพยาบาลต่างๆ พัฒนาระบบให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่องโดยไม่เกิดการหยุดชะงัก ระบบบันทึกข้อมูลทางการแพทย์อิเล็กทรอนิกส์ InterSystems TrakCare® ซึ่งใช้งานโดยโรงพยาบาลและห้องปฏิบัติการชั้นนำหลายแห่งในอินโดนีเซีย ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มข้อมูลนี้ โซลูชันเหล่านี้ใช้มาตรฐานข้อมูลระดับโลก เช่น HL7® FHIR® ควบคู่ไปกับการสนับสนุนโครงการริเริ่มระดับชาติ เช่น SATUSEHAT

ในอินโดนีเซีย เทคโนโลยีของ InterSystems ได้ให้การสนับสนุนผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพชั้นนำมากมาย อาทิ Prodia, EMC Healthcare, Tzu Chi Hospital, EKA Hospital, Pondok Indah Group, Asia One Healthcare และ Bali International Hospital ความร่วมมือเหล่านี้ครอบคลุมเครือข่ายห้องปฏิบัติการระดับชาติและโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกระทรวงสาธารณสุขในการดูแลผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางและเชื่อมโยงถึงกัน

หนึ่งในไฮไลท์ของงานคือ EMC Healthcare ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในเอเชียที่นำ InterSystems Intellicare™ ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่มาใช้ โดยเป็นระบบ EHR แบบบูรณาการที่ขับเคลื่อนด้วย AI และสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มข้อมูลที่เชื่อถือได้ของ InterSystems เช่นกัน “IntelliCare ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้แพทย์ของเรามีเวลามากขึ้นในการให้ความสำคัญกับผู้ป่วย ในขณะที่ข้อมูลผู้ป่วยจะไหลอย่างปลอดภัยและรวดเร็ว เพื่อการตัดสินใจที่รอบด้าน” กล่าวโดย Jusup Halimi, ซีอีโอของ EMC Healthcare

Don Woodlock, หัวหน้าฝ่ายโซลูชันการดูแลสุขภาพระดับโลกของ InterSystems ได้กล่าวถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของ InterSystems เพื่อตอบโจทย์การไหลเวียนข้อมูลอย่างราบรื่นในระบบการดูแลสุขภาพ ซึ่งรวมถึงโซลูชัน Unified Care Record ที่ได้รับรางวัล Best in KLAS ประจำปี 2025 ในยุโรป สาขา Shared Care Records/HIE โดยได้นำเสนอตัวอย่างความสามารถใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นของ AI เชิงตัวแทนที่กำลังจะเปิดตัวใน InterSystems IntelliCare ที่จะช่วยให้ผู้ให้บริการดูแลสุขภาพมีผู้ช่วยที่สามารถช่วยวางแผนและดำเนินงานต่างๆ เพื่อประหยัดเวลาและช่วยในการตัดสินใจที่ดีขึ้น

ปฏิวัติวงการการดูแลสุขภาพในอินโดนีเซีย

อีกหนึ่งไฮไลท์ของงาน ดร. Noel Yeo, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์และปฏิบัติการที่ Bali International Hospital ซึ่งเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายน 2025 ใจกลางเขตเศรษฐกิจพิเศษซานูร์ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่ของบาหลีสำหรับการดูแลสุขภาพ ดร. Yeo ได้พูดคุยเกี่ยวกับวิธีที่โรงพยาบาลกำลังปฏิวัติการให้บริการดูแลสุขภาพในอินโดนีเซีย และบทบาทของ TrakCare ในการช่วยผลักดันขอบเขตใหม่ๆ ในการให้บริการดูแลสุขภาพ

การประชุมสุดยอดครั้งนี้มีการสาธิตผลิตภัณฑ์สดจาก InterSystems รวมถึงการให้คำปรึกษาด้วย AI และข้อมูลเชิงลึกของผู้ป่วย อวาตาร์ AI เพื่อสนับสนุนแพทย์ในการทำงานทั่วไป และการแบ่งปันข้อมูลที่ราบรื่นระหว่างภาคส่วนต่างๆ ของระบบนิเวศด้านสุขภาพและการดูแล ซึ่งช่วยเชื่อมช่องว่างระหว่างวิสัยทัศน์ด้านนโยบายและความเป็นจริงทางคลินิก โดยพันธมิตรด้านโซลูชันและบริการของ InterSystems จำนวน 10 รายได้ร่วมจัดแสดงใน Partner Pavilion รวมถึงกลุ่ม ST Engineering ซึ่งเป็นกลุ่มเทคโนโลยีระดับโลก การป้องกันประเทศ และวิศวกรรมที่เป็นพันธมิตรด้านการใช้งานและโซลูชันรายใหม่ล่าสุดของ InterSystems ในภูมิภาคอาเซียน

Tan Bin Ru, ประธานฝ่าย Enterprise Digital ของ ST Engineering กล่าวว่า “การผสานรวมระบบอัจฉริยะของเราเข้ากับแพลตฟอร์มข้อมูลด้านการดูแลสุขภาพของ InterSystems ทำให้ศูนย์บัญชาการ AGIL® Care ของเราช่วยเสริมสร้างความสามารถในการทำงานร่วมกันของโรงพยาบาล ประสิทธิภาพการดำเนินงาน และความยืดหยุ่นในการจัดการวิกฤตและการระบาดใหญ่”

InterSystems สรุปงานโดยแสดงความยินดีกับลูกค้าในเอเชียที่สร้างมาตรฐานใหม่ในด้านสุขภาพดิจิทัลด้วยการบรรลุการตรวจสอบขั้นที่ 6 หรือ 7 จาก HIMSS Electronic Medical Record Adoption Model (EMRAM) โดย Pondok Indah Hospital Group เป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในอินโดนีเซียที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน EMRAM ขั้นที่ 6 โดยในขณะนี้ได้บรรลุมาตรฐานขั้นที่ 7 แล้วสำหรับโรงพยาบาลทั้งสามแห่งในเครือ และ EMC Grha Kedoya เพิ่งได้รับการรับรองมาตรฐาน HIMSS EMRAM ขั้นที่ 6 รวมถึงสถาบันหัวใจแห่งชาติมาเลเซียที่ได้กลายเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในมาเลเซียที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน HIMSS EMRAM ขั้นที่ 6

โดยตัวแทนเห็นพ้องกันว่าการผสานรวมรข้อมูลที่ปลอดภัยและการนำระบบที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาใช้จะช่วยลดภาระงาน เร่งการวินิจฉัย และปรับปรุงการมีส่วนร่วมและผลลัพธ์ของผู้ป่วย โซลูชันเหล่านี้สนับสนุนวิสัยทัศน์ของรัฐบาลอินโดนีเซียโดยตรงในการสร้างระบบนิเวศสุขภาพดิจิทัลที่ปลอดภัย ครอบคลุม และให้ความสำคัญกับผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง

วิทยากรเน้นย้ำว่าเส้นทางข้างหน้าจำเป็นต้องสร้างสมดุลระหว่างความทะเยอทะยานทางเทคโนโลยีกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มีจริยธรรม การกำกับดูแลที่โปร่งใส ความปลอดภัยของข้อมูลที่แข็งแกร่ง และการดูแลที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ความพร้อมของอินโดนีเซียในการเป็นผู้นำนั้นเกิดจากการผสมผสานวิสัยทัศน์ของรัฐบาล ศักยภาพของภาคเอกชน และการเปิดกว้างต่อความร่วมมือระดับโลก

เกี่ยวกับ InterSystems

InterSystems เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีข้อมูลเชิงสร้างสรรค์ มอบรากฐานแบบครบวงจรสำหรับแอปพลิเคชันยุคใหม่สำหรับลูกค้าด้านการดูแลสุขภาพ การเงิน การผลิต และซัพพลายเชนในกว่า 80 ประเทศ แพลตฟอร์มข้อมูลของเราช่วยแก้ปัญหาด้านความสามารถในการทำงานร่วมกัน ความเร็ว และความสามารถในการปรับขนาดสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก เพื่อปลดล็อกพลังของข้อมูลและช่วยให้ผู้คนรับรู้ข้อมูลได้อย่างสร้างสรรค์ โดย InterSystems นั้นก่อตั้งขึ้นในปี 1978 มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศด้วยการสนับสนุนลูกค้าและพันธมิตรทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน InterSystems เป็นบริษัทเอกชนและมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่บอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ มีสำนักงาน 38 แห่งใน 28 ประเทศทั่วโลก ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.intersystems.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

รายชื่อผู้ติดต่อสื่อ
Lindsay Kiley
PR@intersystems.com

ที่มา: InterSystems

SBC Medical จะเข้าร่วมการประชุม H.C. Wainwright และการประชุม Emerging Growth ในเดือนกันยายน 2025

Logo

เออร์ไวน์, แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–03 กันยายน 2025

SBC Medical Group Holdings Incorporated (Nasdaq: SBC) (“SBC Medical”) ผู้ให้บริการระดับโลกด้านบริการให้คำปรึกษาและบริหารจัดการที่ครอบคลุมแก่บริษัททางการแพทย์และคลินิกต่างๆ ประกาศว่าจะเข้าร่วมการประชุมนักลงทุนที่มีชื่อเสียงในหลายๆ งานตลอดเดือนกันยายน 2025 โดย SBC Medical จะนำเสนอข้อมูลจำนวนมากและจัดการประชุมแบบตัวต่อตัวกับนักลงทุนสถาบัน

สรุปการเข้าร่วมการประชุมนักลงทุนของบริษัทมีดังนี้:

  1.  การประชุม H.C. Wainwright
     วิทยากรหลัก: Hikaru Fukui (หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์)
     วันที่: 8 กันยายน 2025
     ลิงก์: https://hcwevents.com/annualconference/
     
     
  2.  การประชุม Emerging Growth (การนำเสนอขนาดใหญ่)
     วิทยากรหลัก: Yuya Yoshida (ผู้อำนวยการ, CFO, COO)
     วันที่: 25 กันยายน 2025 เวลา 9:05 – 9:35 น. ตามเวลาตะวันออก
     ลิงก์: https://goto.webcasts.com/starthere.jsp?ei=1717091&tp_key=c78a55764a&sti=sbc

เกี่ยวกับ SBC Medical

SBC Medical มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองเออร์ไวน์ รัฐแคลิฟอร์เนีย และโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นเจ้าของและให้บริการด้านการจัดการและผลิตภัณฑ์แก่ศูนย์ความงาม บริษัทมุ่งเน้นการให้บริการด้านการจัดการที่ครอบคลุมแก่คลินิกแฟรนไชส์เป็นหลัก ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงความต้องการด้านการโฆษณาและการตลาดผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ (เช่น เครือข่ายโซเชียลมีเดีย) การจัดการพนักงาน (เช่น การสรรหาบุคลากรและการฝึกอบรม) การสำรองที่นั่งสำหรับลูกค้าของคลินิกแฟรนไชส์ ​​การช่วยเหลือเกี่ยวกับการเช่าที่พักและการเช่าสถานที่สำหรับพนักงานของแฟรนไชส์ ​​การก่อสร้างและการออกแบบคลินิกแฟรนไชส์ ​​การจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์และวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ (การขายต่อ) การจัดหาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางให้กับคลินิกแฟรนไชส์เพื่อขายต่อให้กับลูกค้าของคลินิก การอนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ทั้งที่อยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตรและที่ยังไม่ได้จดสิทธิบัตร การใช้เครื่องหมายการค้าและตราสินค้า โซลูชันซอฟต์แวร์ไอที (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการให้คำปรึกษาทางการแพทย์ทางไกล) การจัดการโปรแกรมสะสมคะแนนสำหรับลูกค้าของคลินิกแฟรนไชส์ ​​(โปรแกรมสะสมคะแนนสำหรับลูกค้า) และเครื่องมือการชำระเงินสำหรับคลินิกแฟรนไชส์

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://sbc-holdings.com/  

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

SBC Medical Group Holdings Incorporated (เอเชีย)
Hikaru Fukui / หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ อีเมล: ir@sbc-holdings.com

ICR LLC (ในสหรัฐอเมริกา)
Bill Zima / หุ้นส่วนผู้จัดการ อีเมล: bill.zima@icrinc.com

ที่มา: SBC Medical Group Holdings Incorporated