Tag Archives: asia

งาน Eco Expo Asia จะเปิดตัวที่งาน AsiaWorld-Expo ปลายเดือนตุลาคมนี้เพื่อส่งเสริมเทคโนโลยีสีเขียว

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–14 ตุลาคม 2025

งาน Eco Expo Asia ครั้งที่ 20 ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมสีเขียวเพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอน” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-31 ตุลาคมที่ AsiaWorld-Expo ที่ดึงดูดผู้แสดงสินค้ากว่า 300 รายจาก 12 ประเทศและภูมิภาค โดยงานนี้จะเน้นไปที่ 3 หัวข้อหลัก ได้แก่ เศรษฐกิจหมุนเวียนและการจัดการขยะ การเดินทางอัจฉริยะและสีเขียว และบริการที่เกี่ยวข้องกับ ESG โดยนำเสนอโซลูชันที่หลากหลายเพื่อการปกป้องสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจสีเขียว

2025 ECO Expo Asia

งาน ECO Expo Asia 2025

Jenny Koo รองผู้อำนวยการบริหาร HKTDC กล่าวว่า “ในฐานะที่เป็นแพลตฟอร์มทางธุรกิจสำหรับ ESG และโซลูชันที่ยั่งยืน งานเอ็กซ์โปจะจัดแสดงผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีล่าสุดในด้านพลังงานใหม่ การใช้ชีวิตสีเขียว และการปกป้องสิ่งแวดล้อม ในปีนี้ งาน Eco Expo Asia จะดึงดูดผู้แสดงสินค้ากว่า 300 รายจาก 12 ประเทศและภูมิภาค โดยมีซัพพลายเออร์ภาครัฐจากจีนแผ่นดินใหญ่ รวมถึงประเทศในกลุ่มอาเซียนและประเทศแถบเส้นทางสายไหม เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมทั่วโลกคว้าโอกาสอันมหาศาลที่เกิดจากเศรษฐกิจสีเขียว”

กิจกรรมไฮไลท์อย่างงานประชุม Eco Asia Conference จะรวบรวมเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกมาแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมเร่งด่วน พร้อมกิจกรรมอื่นๆ ได้แก่ รางวัล FHKI Q-Mark Low Carbon Restaurant Award 2025, การประชุม Hydrogen Economy Forum ครั้งที่ 6 และการประชุม Experience Sharing Forum โดยในวันสุดท้ายของงานเอ็กซ์โปในวันที่ 31 ตุลาคม จะเป็นวันที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมฟรี ผู้เข้าชมงานสามารถเข้าร่วมสัมมนาและเวิร์กช็อปสีเขียวได้

ลงทะเบียนตอนนี้เพื่อรับสิทธิ์เข้าชมฟรี – https://tinyurl.com/4y5aymt7

เว็บไซต์: www.ecoexpoasia.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20251012131616/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

การสอบถามข้อมูลจากสื่อ:
โปรดติดต่อฝ่ายนิทรรศการของ HKTDC:
Ken Tsang / Samson Kong
โทร.: (852) 2240 4136 / 2240 4865
อีเมล: ken.mc.tsang@hktdc.org / samson.ph.kong@hktdc.org

ที่มา: Hong Kong Trade Development Council (HKTDC)

 

Mohammed Ben Sulayem ประธานสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (FIA) จะเป็นผู้นำด้านความปลอดภัย ความยั่งยืน และนวัตกรรมในการประชุม Asia Pacific Congress ที่จะจัดขึ้นในประเทศไทย

Logo

ปารีส–(BUSINESS WIRE)–02 ตุลาคม 2025

สหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (FIA) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลกีฬามอเตอร์สปอร์ตระดับโลกและสหพันธ์องค์กรโมบิลิตี้ทั่วโลก จะเดินทางมายังเชียงใหม่ ประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมการประชุม FIA Asia Pacific Congress ประจำปี

FIA Asia Pacific Congress Logo

โลโก้การประชุม FIA Asia Pacific Congress

การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นโดยราชสมาคมยานยนต์แห่งประเทศไทย ที่ได้รวบรวมผู้นำด้านโมบิลิตี้ของยานยนต์และมอเตอร์สปอร์ตจากทั่วภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก มาร่วมหารือเกี่ยวกับโครงการริเริ่มสำคัญๆ ด้านความปลอดภัยบนท้องถนน โมบิลิตี้อย่างยั่งยืน การเติบโตของกีฬาในระดับภูมิภาค รวมถึงนวัตกรรมด้านการขนส่ง โดยมี Mohammed Ben Sulayem ประธาน FIA เข้าร่วมด้วย

Mohammed Ben Sulayem ประธาน FIA กล่าวก่อนการเยือนประเทศไทยว่า: ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เข้าร่วมการประชุม FIA Asia Pacific Congress กับสมาชิกและพันธมิตรของเราที่เชียงใหม่ และผมตั้งหน้าตั้งตารอที่จะสานต่อความก้าวหน้าอันน่าประทับใจของภูมิภาคนี้ ทั้งในด้านโมบิลิตี้และกีฬา

เอเชียและแปซิฟิกเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดของสหพันธ์ฯ และความมุ่งมั่นของสมาชิกของเราที่นี่กำลังสร้างผลกระทบอย่างแท้จริง ตั้งแต่ถนนที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นและการขนส่งที่ยั่งยืน ไปจนถึงโอกาสใหม่ๆ สำหรับการแข่งขันในระดับรากหญ้าและในระดับอีลิท

การรวมตัวกันครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือทั่วภูมิภาค แบ่งปันความเชี่ยวชาญด้านโมบิลิตี้และมอเตอร์สปอร์ต และช่วยผลักดันลำดับความสำคัญร่วมกันของเราในด้านความปลอดภัย ความยั่งยืน และนวัตกรรม

ธีมของการประชุม FIA Asia Pacific Congress ปีนี้คือ สร้างสรรค์ บูรณาการ เร่งรัด: ขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับโมบิลิตี้และกีฬา โดยโปรแกรมดังกล่าวออกแบบมาเพื่อให้สโมสรสมาชิกมีกลยุทธ์ใหม่ๆ และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มโมบิลิตี้และกีฬาที่กำลังพัฒนา รวมถึงการมุ่งเน้นไปที่แนวปฏิบัติที่ยั่งยืน เส้นทางสู่ระดับรากหญ้าที่เข้าถึงได้ รวมถึงวิวัฒนาการของ AI และบทบาทของ AI ในภาคส่วนต่างๆ ของ FIA

งานนี้จัดขึ้นในขณะที่นวัตกรรมมอเตอร์สปอร์ตและโมบิลิตี้กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นทั่วภูมิภาค

ศรีลังกาเพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตชิงแชมป์เอเชียแปซิฟิก โดยมี 18 ชาติ และนักแข่ง 204 คนเข้าร่วม ขณะที่มาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน FIA ‘Arrive and Drive’ Karting World Cup ครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยในปี 2026 Formula 1 จะกลับมาจัดที่ออสเตรเลีย จีน และญี่ปุ่น ร่วมกับ WRC และ WEC ในญี่ปุ่น และ Formula E ในเซี่ยงไฮ้และโตเกียว ในส่วนของโมบิลิตี้ Safe Helmets for Asia Pacific Initiative (SHAP) ได้จัดเวิร์กช็อปครั้งแรกที่มะนิลาเมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีตัวแทนจากกัมพูชา จีน เนปาล ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม มาร่วมกันวางแผนเส้นทางใหม่สำหรับหมวกนิรภัยที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

โครงสร้างสโมสรสมาชิก FIA ถือเป็นแกนหลักของการกำกับดูแลและการดำเนินงานของสหพันธ์ โดยสโมสรสมาชิกแต่ละแห่งจะมีสิทธิ์ออกเสียงในการเลือกตั้งและการตัดสินใจด้านกฎระเบียบของ FIA สโมสรจะแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก โดยบางสโมสรทำหน้าที่ทั้งสองบทบาท:

  • สโมสรโมบิลิตี้ – ให้บริการด้านการเดินทางและเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของผู้ใช้ถนน โดยมุ่งเน้นด้านความปลอดภัยทางถนน การเดินทางและการท่องเที่ยว สิทธิผู้บริโภค และการเดินทางอย่างยั่งยืน
  • หน่วยงานกีฬาระดับชาติ (ASN) – กำกับดูแลและพัฒนากีฬามอเตอร์สปอร์ตในระดับชาติ รับผิดชอบกิจกรรมกีฬา ออกใบอนุญาต และมีส่วนร่วมในกฎระเบียบต่างๆ

ภายใน FIA มี 4 ภูมิภาคด้านโมบิลิตี้ และ 6 โซนกีฬา โดยการประชุม Asia Pacific Congress จะต้อนรับสโมสรสมาชิกจาก FIA ภูมิภาค II สมาชิก FIA ทั่วโลกประกอบด้วย 245 สโมสร ใน 149 ประเทศ เชื่อมโยงสมาชิกกว่า 80 ล้านคน

จบ

สหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (FIA) เป็นองค์กรกำกับดูแลกีฬามอเตอร์สปอร์ตระดับโลก และเป็นสหพันธ์องค์กรด้านโมบิลิตี้ทั่วโลก โดนเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนนวัตกรรมและส่งเสริมความปลอดภัย ความยั่งยืน และความเท่าเทียมกันในกีฬามอเตอร์สปอร์ตและโมบิลิตี้

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20251002874909/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

หากต้องการสอบถามข้อมูลสื่อ โปรดติดต่อ:
Geri Sherwin ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารของประธานและโมบิลิตี้: gsherwin@fia.com
Joseph Kidd เจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารของประธาน: jkidd@fia.com

ที่มา: FIA

Serco Asia Pacific ปรับปรุงการบูรณาการอย่างมีนัยสำคัญโดยใช้ Boomi AI Agents

Logo

Serco ได้เร่งกระบวนการส่งมอบการผสานการทำงานด้วย Boomi Scribe และ DesignGen ที่สามารถช่วยลดเวลาในการจัดทำเอกสารแบบบูรณาการได้เป็นอย่างมาก

ซิดนีย์–(BUSINESS WIRE)–29 กันยายน 2025

Boomi™ ซึ่งเป็นผู้นำด้านระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI ประกาศในวันนี้ว่า Serco ผู้ให้บริการสาธารณะระดับโลกกำลังใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม Boomi Enterprise เพื่อปลดล็อกนวัตกรรมที่รวดเร็วผ่าน AI เชิงสร้างสรรค์ เร่งการพัฒนาการบูรณาการ และส่งเสริมให้ผู้ใช้ทางธุรกิจที่มีความรับผิดชอบสามารถสร้างการบูรณาการพื้นฐานได้อย่างรวดเร็ว

ด้วยความมุ่งมั่นหลักในการให้บริการแก่รัฐบาลทั่วโลก การดำเนินงานของ Serco ในเอเชียแปซิฟิกนั้นครอบคลุมด้านการป้องกันประเทศ การดูแลสุขภาพ กระบวนการยุติธรรม รวมถึงบริการต่างๆ ในชุมชน โดย Serco ได้นำ Boomi มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้การดำเนินงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีความทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อช่วยปรับปรุงการไหลของข้อมูล ปรับปรุงการจัดการข้อมูลหลัก และลดความซับซ้อนของการเชื่อมต่อ API โดยแพลตฟอร์ม Boomi เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งเนื่องจากความง่ายในการเขียนโค้ด ใช้งานง่าย และความรวดเร็วในการสร้างและตรวจสอบการบูรณาการ

“เราใช้ Boomi สำหรับการบูรณาการระบบหลักมาโดยตลอด แต่สิ่งที่เราค้นพบในงาน Boomi World Tour Sydney ปีที่แล้วได้เปลี่ยนกรอบความคิดของสิ่งที่เป็นไปได้อย่างสิ้นเชิง” กล่าว โดย Kiran Narayan ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์และความสามารถด้านดิจิทัลของ Serco “เราตระหนักว่าเอเจนต์ AI ที่ทรงพลังของ Boomi อย่าง Boomi Scribe และ Boomi DesignGen อยู่ในลิขสิทธิ์ Boomi Enterprise Platform ของเราแล้ว ภายในเพียงไม่กี่นาที เราก็ได้ทดลองใช้งานจริง ช่วงเวลานั้นได้จุดประกายแนวคิดและการทำงานแบบใหม่ของเรา”

หลังจากงาน Serco ได้ระดมทีมงานบูรณาการอย่างรวดเร็วเพื่อทดสอบและนำ Boomi AI Agents มาใช้ ซึ่งใช้คำสั่งภาษาธรรมชาติเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถออกแบบและนำไปใช้ในการบูรณาการได้เร็วขึ้น

Boomi Scribe ได้ถูกนำมาใช้เป็นฐานเอกสารประกอบสำหรับการบูรณาการ โดยสร้างเอกสารที่เข้าใจง่ายเพื่อดูสิ่งที่อยู่เบื้องหลังอินเทอร์เฟซเฉพาะ ในขณะที่ Boomi DesignGen จะอนุญาตให้มีการสื่อสารระหว่างทีมต่างๆ ได้อย่างง่ายดายผ่านภาพ ซึ่งช่วยสร้างความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้เสียต่างๆ

“ก่อนหน้านี้ นักพัฒนาระบบบูรณาการต้องใช้เวลาประมาณสองถึงสามชั่วโมงในการเขียนเอกสารที่จัดรูปแบบให้เข้าใจง่ายสำหรับลูกค้า แต่ด้วย Boomi Scribe จะใช้เวลาเพียงแค่ 10 ถึง 15 นาที เท่านั้น” Kiran กล่าว

เมื่อเร็วๆ นี้ Serco ได้เสร็จสิ้นโครงการบูรณาการขนาดใหญ่สองโครงการ ซึ่งช่วยลดเวลาการจัดทำเอกสารลงอย่างมาก ซึ่งรวมถึงการประชุม การสนทนา และการสร้างเอกสารต่างๆ ก่อนหน้านี้ กระบวนการนี้ใช้เวลา 40 ถึง 60 ชั่วโมง แต่ด้วย Boomi AI Agents ปัจจุบัน Serco สามารถลดเวลาเฉลี่ยในการดำเนินการให้เสร็จสิ้นลงภายในเวลาเพียงแค่ 6 ถึง 12 ชั่วโมง

การบูรณาการเครื่องมือเหล่านี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ Serco APAC ได้เปลี่ยนเวิร์กโหลดการบูรณาการจากคลัสเตอร์รันไทม์ Boomi ที่โฮสต์ด้วยตนเองไปเป็น Boomi Managed Cloud Service (MCS) โดยมีแผนที่จะเปิดใช้งาน Boomi Event Streams สำหรับการรับส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์และการแจ้งเตือน โดยปัจจุบันผู้ให้บริการสาธารณะรายนี้กำลังมุ่งเน้นไปที่การใช้ประโยชน์จาก Boomi AI Agents ผ่าน Boomi Agentstudio

วิสัยทัศน์ของ Kiran ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์และความสามารถด้านดิจิทัลของ Serco คือการช่วยให้ผู้นำธุรกิจสามารถใช้ Boomi สำหรับการบูรณาการร่างเบื้องต้น เร่งกระบวนการส่งมอบ และปลดปล่อยทีมเทคนิคให้มุ่งเน้นไปที่งานที่ซับซ้อน “ด้วย Boomi เราสามารถขจัดปัญหาคอขวดได้โดยไม่สูญเสียการควบคุม” Kiran กล่าว “การเสริมศักยภาพให้ผู้ใช้ทางธุรกิจสามารถสร้างโมเดลในกรอบการทำงานที่มีการควบคุม จะช่วยเร่งความเร็วในการส่งมอบคุณค่าได้เป็นอย่างมาก”

แพลตฟอร์มนี้ยังรองรับเป้าหมายด้านคุณภาพของข้อมูลของ Serco ผ่านการใช้ Boomi DataHub และ Boomi API Management เพื่อความสมบูรณ์ของข้อมูลที่สม่ำเสมอและเรียบง่าย

“ความสำเร็จที่เราได้รับมาจนถึงตอนนี้ได้จุดประกายความตื่นเต้นให้กับผู้นำระดับสูงของเรา ไม่ว่าจะเป็น CIO ไปจนถึงหัวหน้าหน่วยธุรกิจต่างๆ” Kiran กล่าว

“เส้นทางของ Serco สะท้อนให้เห็นถึงอนาคตของการบูรณาการ: การเขียนโค้ดน้อย ขับเคลื่อนด้วย AI และเสริมพลังธุรกิจ” David Irecki ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นของ Boomi กล่าว “นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับทีมที่ขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว คิดอย่างมีกลยุทธ์ และมุ่งมั่นที่จะทำให้นวัตกรรมเป็นประชาธิปไตยทั่วทั้งองค์กร”

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

  • รับฟังจากลูกค้าทั่วโลกของ Boomi
  • ติดตาม Boomi ได้ทาง X, LinkedIn, Facebook และ YouTube

เกี่ยวกับ Boomi

Boomi ผู้นำด้านระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยให้องค์กรทั่วโลกสามารถเชื่อมต่อทุกสิ่ง จัดการกระบวนการอัตโนมัติ และเร่งผลลัพธ์ได้ โดยแพลตฟอร์ม Boomi Enterprise ซึ่งรวมถึง Boomi Agentstudio จะผสานรวมการบูรณาการและระบบอัตโนมัติเข้ากับการจัดการข้อมูล API และเอเจนต์ AI ไว้ในโซลูชันเดียวที่ครอบคลุม ด้วยความไว้วางใจจากลูกค้ากว่า 25,000 ราย และได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายพันธมิตรกว่า 800 ราย ทำให้ Boomi ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงแบบเอเจนต์ ช่วยให้องค์กรทุกขนาดสามารถบรรลุความคล่องตัว ประสิทธิภาพ และนวัตกรรมในระดับที่ดีขึ้นได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ boomi.com

© 2025 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ตัว 'B' และ Boomiverse เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทย่อยหรือบริษัทในเครือ สงวนลิขสิทธิ์ ชื่อหรือเครื่องหมายอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250928836452/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

รายชื่อผู้ติดต่อ
Jasmine Ee
หัวหน้าฝ่ายสัมพันธ์อินฟลูเอนเซอร์, APJ
jasmine.ee@boomi.com

ที่มา: Boomi

CTBC Holding ร่วมแบ่งปันความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมดิจิทัลและการป้องกันการฉ้อโกงในงาน Banking Summit Asia 2025

Logo

ไทเป, ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–16 กันยายน 2025

บริษัท CTBC Financial Holding จำกัด (CTBC Holding) ที่ได้รับเชิญจาก Financial Times และ The Banker สื่อสิ่งพิมพ์ชั้นนำระดับโลก ได้เข้าร่วมงาน Banking Summit Asia 2025 เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา โดยคุณ Titan Chia (賈景光) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศของ CTBC Holding ได้ร่วมเสวนาในหัวข้อหลักๆ ของการพัฒนานวัตกรรมบริการทางการเงินดิจิทัลควบคู่ไปกับการสร้างหลักประกันความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของข้อมูล พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ของ CTBC ในด้านดิจิทัล โดยคุณ Titan Chia เป็นตัวแทนเพียงคนเดียวที่มาจากภาคการเงินของไต้หวัน

Titan Chia (right), Chief Information Officer of CTBC Financial Holding, served as a speaker today at the “Banking Summit Asia 2025,” held in Asia for the first time, where he shared the company’s achievements in fraud prevention through digital innovation. / Courtesy of CTBC Financial Holding

Titan Chia (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ บริษัท CTBC Financial Holding เป็นวิทยากรในงาน “Banking Summit Asia 2025” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในเอเชีย โดยเขาได้ร่วมแบ่งปันความสำเร็จของบริษัทในการป้องกันการฉ้อโกงผ่านนวัตกรรมดิจิทัล / เครดิตภาพโดย CTBC Financial Holding

งาน Global Banking Summit ซึ่งจัดโดย Financial Times และ The Banker ร่วมกัน ถือเป็นหนึ่งในงานประชุมทางการเงินที่สำคัญที่สุดของโลก โดยปีนี้ถือเป็นการประชุมสุดยอดครั้งแรกในเอเชีย จัดขึ้นที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ฮ่องกง และสามารถดึงดูดผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินได้เกือบ 300 คนจากทั่วโลก ผู้จัดงานได้ร่วมเสวนากับ คุณ Titan Chia และ คุณเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีกสิกรไทย

คุณ Chia ย้ำว่าความท้าทายสำคัญของธนาคารในปัจจุบันคือการปกป้องความปลอดภัยของผู้ใช้ควบคู่ไปกับการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า เขากล่าวว่า CTBC Bank ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ CTBC Holding ได้นำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาระบบป้องกันการฉ้อโกงที่ออกแบบมาเพื่อรับประกันว่าทรัพย์สินของลูกค้าจะปลอดภัยและให้บริการได้อย่างราบรื่น

โมเดล “AI SKYNET” ที่พัฒนาโดย CTBC Holding สามารถตรวจจับการฉ้อโกงที่อาจเกิดขึ้นได้โดยการวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงเกือบ 300 รายการภายในเวลาเพียง 1 วินาที โดยในปี 2024 โมเดลนี้สามารถป้องกันการทุจริตได้เกือบ 2.8 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน และมีอัตราการเติบโตต่อปีอยู่ที่ 30% ส่วนในไตรมาสแรกของปี 2025 เพียงไตรมาสเดียว สัญญาณการฉ้อโกงได้ลดลงเหลือ 24% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

เพื่อสร้างเครือข่ายป้องกันการฉ้อโกงที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น CTBC Holding ได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมและเครือข่ายสังคมออนไลน์ LINE และร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุดไต้หวัน และสำนักงานอัยการเขตไทเป นอกจากนี้ CTBC Holding ยังทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานคณะทำงานพัฒนาแอปพลิเคชัน Fintech โดยเป็นผู้นำภาคการเงินของไต้หวันในการสร้างเครือข่ายความปลอดภัยระหว่างธนาคารเพื่อต่อสู้กับการฉ้อโกง

ในฐานะหนึ่งในธนาคารเอกชนที่มีความเป็นสากลมากที่สุดของไต้หวัน สาขาต่างประเทศของ CTBC Bank จึงได้รับการประสานงานจากสำนักงานใหญ่เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางเทคโนโลยีควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามนโยบายด้านกฎระเบียบท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวและป้องกันการฉ้อโกงข้ามพรมแดน ในอนาคต CTBC Bank วางแผนที่จะสำรวจการพัฒนา “ศูนย์ข้อมูลระดับภูมิภาค” โดยใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสขั้นสูงและกลไกการปกปิดตัวตนที่สอดคล้องตามมาตรฐาน เพื่อบูรณาการข้อมูลข้ามพรมแดนและเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันการฉ้อโกงให้ดียิ่งขึ้น

CTBC Holding เชื่อมั่นว่าความน่าเชื่อถือและความมั่นคงปลอดภัยทางดิจิทัลคือรากฐานสำคัญของการเงินยุคใหม่ ในอนาคต CTBC จะเดินหน้าพัฒนาการประยุกต์ใช้ AI บิ๊กดาต้า และเทคโนโลยีคลาวด์อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น และทำงานร่วมกับพันธมิตรทางการเงินระหว่างประเทศเพื่อส่งเสริมความมั่นคงปลอดภัยทางดิจิทัลและการพัฒนาที่ยั่งยืนทั่วทั้งเอเชีย

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250916711131/en

Contacts

ฝ่ายประชาสัมพันธ์, CTBC Bank
Ken Wang (+8862) 3327-7777#6712
Sherry Fang (+8862) 3327-7777#6711

ที่มา: CTBC Holding

จาก EHR ที่ขับเคลื่อนด้วย AI สู่การแชร์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ InterSystems Asia Healthcare Summit 2025 ชูอินโดนีเซียในฐานะผู้นำด้านสุขภาพดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Logo

ผู้นำระดับโลกและระดับท้องถิ่นรวมตัวกันที่จาการ์ตาเพื่อนำเสนอความก้าวหน้าที่กำลังพลิกโฉมการให้บริการด้านการดูแลสุขภาพและนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลทั่วทั้งภูมิภาค

จาการ์ตา, อินโดนีเซีย–(BUSINESS WIRE)–04 กันยายน 2025

InterSystems เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีข้อมูลเชิงสร้างสรรค์ที่บริหารจัดการข้อมูลสุขภาพมากกว่าหนึ่งพันล้านรายการทั่วโลก ได้จัดงาน Asia Healthcare Summit 2025 เมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีผู้นำจากภาครัฐ ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ และภาคเทคโนโลยีสารสนเทศมากกว่า 200 ราย ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับท้องถิ่นมาร่วมประชุม โดยได้ยกย่องอินโดนีเซียในฐานะสัญลักษณ์แห่งนวัตกรรมของการดูแลสุขภาพในเอเชีย ด้วยนโยบายที่ก้าวหน้า การลงทุนจากภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น และระบบนิเวศความร่วมมือที่เชื่อมโยงความเชี่ยวชาญระดับโลกเข้ากับนวัตกรรมในท้องถิ่น อินโดนีเซียกำลังก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสุขภาพดิจิทัลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจุดประกายความก้าวหน้าด้านการดูแลผู้ป่วยที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

ระบบการดูแลสุขภาพของอินโดนีเซียกำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในด้านความพร้อมทางดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยแผนงานการเปลี่ยนแปลงของกระทรวงสาธารณสุข และความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับข้อมูลที่เชื่อถือได้และทำงานร่วมกันได้ และระบบที่ขับเคลื่อนด้วย AI Terry Ragon, ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ InterSystems กล่าวว่า “เราอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านการประมวลผลในขณะที่เราเข้าสู่ยุค AI โดยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นศูนย์กลางของนวัตกรรม และในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ ลูกค้าของเราได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังส่งมอบการดูแลระดับโลกให้กับภูมิภาคนี้ด้วยเทคโนโลยีของเราอย่างไร”

แม้จะมีแรงผลักดันที่แข็งแกร่ง แต่ภาคการดูแลสุขภาพของเอเชียยังคงเผชิญกับความท้าทายต่างๆ มากมาย รวมถึงระบบเดิมที่กระจัดกระจาย ความรู้ด้านดิจิทัลที่ไม่สม่ำเสมอ และความกังวลของสาธารณชนเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล Luciano Brustia, กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ InterSystems กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงด้านการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องของอินโดนีเซียไม่ได้เป็นเพียงแค่ความสำเร็จในระดับชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้กับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอีกด้วย ภาวะผู้นำที่มองการณ์ไกล ความร่วมมือในอุตสาหกรรม และความพร้อมที่จะนำเทคโนโลยีที่ปลอดภัยและปรับขนาดได้มาใช้ กำลังจะสร้างมาตรฐานใหม่ให้เกิดขึ้น”

โซลูชันในโลกแห่งความเป็นจริง ผลกระทบที่พิสูจน์แล้ว

InterSystems ได้สาธิตวิธีการที่แพลตฟอร์มข้อมูล InterSystems IRIS for Health™ ของบริษัท รวบรวมข้อมูลจากหลายระบบแบบเรียลไทม์เพื่อ “สื่อสารในภาษาเดียวกัน” ที่พร้อมสำหรับ AI และการวิเคราะห์โดยไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานเดิม แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้โรงพยาบาลต่างๆ พัฒนาระบบให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่องโดยไม่เกิดการหยุดชะงัก ระบบบันทึกข้อมูลทางการแพทย์อิเล็กทรอนิกส์ InterSystems TrakCare® ซึ่งใช้งานโดยโรงพยาบาลและห้องปฏิบัติการชั้นนำหลายแห่งในอินโดนีเซีย ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มข้อมูลนี้ โซลูชันเหล่านี้ใช้มาตรฐานข้อมูลระดับโลก เช่น HL7® FHIR® ควบคู่ไปกับการสนับสนุนโครงการริเริ่มระดับชาติ เช่น SATUSEHAT

ในอินโดนีเซีย เทคโนโลยีของ InterSystems ได้ให้การสนับสนุนผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพชั้นนำมากมาย อาทิ Prodia, EMC Healthcare, Tzu Chi Hospital, EKA Hospital, Pondok Indah Group, Asia One Healthcare และ Bali International Hospital ความร่วมมือเหล่านี้ครอบคลุมเครือข่ายห้องปฏิบัติการระดับชาติและโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกระทรวงสาธารณสุขในการดูแลผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางและเชื่อมโยงถึงกัน

หนึ่งในไฮไลท์ของงานคือ EMC Healthcare ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในเอเชียที่นำ InterSystems Intellicare™ ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่มาใช้ โดยเป็นระบบ EHR แบบบูรณาการที่ขับเคลื่อนด้วย AI และสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มข้อมูลที่เชื่อถือได้ของ InterSystems เช่นกัน “IntelliCare ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้แพทย์ของเรามีเวลามากขึ้นในการให้ความสำคัญกับผู้ป่วย ในขณะที่ข้อมูลผู้ป่วยจะไหลอย่างปลอดภัยและรวดเร็ว เพื่อการตัดสินใจที่รอบด้าน” กล่าวโดย Jusup Halimi, ซีอีโอของ EMC Healthcare

Don Woodlock, หัวหน้าฝ่ายโซลูชันการดูแลสุขภาพระดับโลกของ InterSystems ได้กล่าวถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของ InterSystems เพื่อตอบโจทย์การไหลเวียนข้อมูลอย่างราบรื่นในระบบการดูแลสุขภาพ ซึ่งรวมถึงโซลูชัน Unified Care Record ที่ได้รับรางวัล Best in KLAS ประจำปี 2025 ในยุโรป สาขา Shared Care Records/HIE โดยได้นำเสนอตัวอย่างความสามารถใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นของ AI เชิงตัวแทนที่กำลังจะเปิดตัวใน InterSystems IntelliCare ที่จะช่วยให้ผู้ให้บริการดูแลสุขภาพมีผู้ช่วยที่สามารถช่วยวางแผนและดำเนินงานต่างๆ เพื่อประหยัดเวลาและช่วยในการตัดสินใจที่ดีขึ้น

ปฏิวัติวงการการดูแลสุขภาพในอินโดนีเซีย

อีกหนึ่งไฮไลท์ของงาน ดร. Noel Yeo, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์และปฏิบัติการที่ Bali International Hospital ซึ่งเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายน 2025 ใจกลางเขตเศรษฐกิจพิเศษซานูร์ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่ของบาหลีสำหรับการดูแลสุขภาพ ดร. Yeo ได้พูดคุยเกี่ยวกับวิธีที่โรงพยาบาลกำลังปฏิวัติการให้บริการดูแลสุขภาพในอินโดนีเซีย และบทบาทของ TrakCare ในการช่วยผลักดันขอบเขตใหม่ๆ ในการให้บริการดูแลสุขภาพ

การประชุมสุดยอดครั้งนี้มีการสาธิตผลิตภัณฑ์สดจาก InterSystems รวมถึงการให้คำปรึกษาด้วย AI และข้อมูลเชิงลึกของผู้ป่วย อวาตาร์ AI เพื่อสนับสนุนแพทย์ในการทำงานทั่วไป และการแบ่งปันข้อมูลที่ราบรื่นระหว่างภาคส่วนต่างๆ ของระบบนิเวศด้านสุขภาพและการดูแล ซึ่งช่วยเชื่อมช่องว่างระหว่างวิสัยทัศน์ด้านนโยบายและความเป็นจริงทางคลินิก โดยพันธมิตรด้านโซลูชันและบริการของ InterSystems จำนวน 10 รายได้ร่วมจัดแสดงใน Partner Pavilion รวมถึงกลุ่ม ST Engineering ซึ่งเป็นกลุ่มเทคโนโลยีระดับโลก การป้องกันประเทศ และวิศวกรรมที่เป็นพันธมิตรด้านการใช้งานและโซลูชันรายใหม่ล่าสุดของ InterSystems ในภูมิภาคอาเซียน

Tan Bin Ru, ประธานฝ่าย Enterprise Digital ของ ST Engineering กล่าวว่า “การผสานรวมระบบอัจฉริยะของเราเข้ากับแพลตฟอร์มข้อมูลด้านการดูแลสุขภาพของ InterSystems ทำให้ศูนย์บัญชาการ AGIL® Care ของเราช่วยเสริมสร้างความสามารถในการทำงานร่วมกันของโรงพยาบาล ประสิทธิภาพการดำเนินงาน และความยืดหยุ่นในการจัดการวิกฤตและการระบาดใหญ่”

InterSystems สรุปงานโดยแสดงความยินดีกับลูกค้าในเอเชียที่สร้างมาตรฐานใหม่ในด้านสุขภาพดิจิทัลด้วยการบรรลุการตรวจสอบขั้นที่ 6 หรือ 7 จาก HIMSS Electronic Medical Record Adoption Model (EMRAM) โดย Pondok Indah Hospital Group เป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในอินโดนีเซียที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน EMRAM ขั้นที่ 6 โดยในขณะนี้ได้บรรลุมาตรฐานขั้นที่ 7 แล้วสำหรับโรงพยาบาลทั้งสามแห่งในเครือ และ EMC Grha Kedoya เพิ่งได้รับการรับรองมาตรฐาน HIMSS EMRAM ขั้นที่ 6 รวมถึงสถาบันหัวใจแห่งชาติมาเลเซียที่ได้กลายเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในมาเลเซียที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน HIMSS EMRAM ขั้นที่ 6

โดยตัวแทนเห็นพ้องกันว่าการผสานรวมรข้อมูลที่ปลอดภัยและการนำระบบที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาใช้จะช่วยลดภาระงาน เร่งการวินิจฉัย และปรับปรุงการมีส่วนร่วมและผลลัพธ์ของผู้ป่วย โซลูชันเหล่านี้สนับสนุนวิสัยทัศน์ของรัฐบาลอินโดนีเซียโดยตรงในการสร้างระบบนิเวศสุขภาพดิจิทัลที่ปลอดภัย ครอบคลุม และให้ความสำคัญกับผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง

วิทยากรเน้นย้ำว่าเส้นทางข้างหน้าจำเป็นต้องสร้างสมดุลระหว่างความทะเยอทะยานทางเทคโนโลยีกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มีจริยธรรม การกำกับดูแลที่โปร่งใส ความปลอดภัยของข้อมูลที่แข็งแกร่ง และการดูแลที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ความพร้อมของอินโดนีเซียในการเป็นผู้นำนั้นเกิดจากการผสมผสานวิสัยทัศน์ของรัฐบาล ศักยภาพของภาคเอกชน และการเปิดกว้างต่อความร่วมมือระดับโลก

เกี่ยวกับ InterSystems

InterSystems เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีข้อมูลเชิงสร้างสรรค์ มอบรากฐานแบบครบวงจรสำหรับแอปพลิเคชันยุคใหม่สำหรับลูกค้าด้านการดูแลสุขภาพ การเงิน การผลิต และซัพพลายเชนในกว่า 80 ประเทศ แพลตฟอร์มข้อมูลของเราช่วยแก้ปัญหาด้านความสามารถในการทำงานร่วมกัน ความเร็ว และความสามารถในการปรับขนาดสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก เพื่อปลดล็อกพลังของข้อมูลและช่วยให้ผู้คนรับรู้ข้อมูลได้อย่างสร้างสรรค์ โดย InterSystems นั้นก่อตั้งขึ้นในปี 1978 มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศด้วยการสนับสนุนลูกค้าและพันธมิตรทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน InterSystems เป็นบริษัทเอกชนและมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่บอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ มีสำนักงาน 38 แห่งใน 28 ประเทศทั่วโลก ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.intersystems.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

รายชื่อผู้ติดต่อสื่อ
Lindsay Kiley
PR@intersystems.com

ที่มา: InterSystems

AV Access เปิดตัวระบบประชุมไร้สาย eShare W90 4K ในงาน InfoComm Asia 2025 ในประเทศไทย

Logo

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–18 กรกฎาคม 2025

AV Access จะเปิดตัวระบบประชุมไร้สาย eShare W90 4Kที่เป็นนวัตกรรมใหม่ในงาน InfoComm Asia 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 กรกฎาคม ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ โดย eShare W90 ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดความยุ่งยากในการติดตั้งสำหรับห้องประชุมและช่วยยกระดับการทำงานร่วมกันแบบไฮบริด นอกจากนี้ยังมอบโซลูชันแบบครบวงจรสำหรับพื้นที่ทำงานสมัยใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อ การแชร์เนื้อหา รวมถึงการควบคุมอุปกรณ์อีกด้วย

The eShare W90 4K wireless conferencing system is designed to simplify meeting room setup and enhance hybrid collaboration.

ระบบประชุมไร้สาย eShare W90 4K ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดความยุ่งยากในการติดตั้งสำหรับห้องประชุมและช่วยปรับปรุงการทำงานร่วมกันแบบไฮบริด

ที่บูท F19 บริษัท AV Access จะจัดแสดงผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อีกหลายรายการ ซึ่งรวมถึงโพรเซสเซอร์วิดีโอวอลล์ 4KVW24 2×4 4K, ระบบ HDMI ผ่าน IP แบบ ปลั๊กแอนด์เพลย์ (plug-and-play) 4KIP200 รวมถึงแท่นวาง KVM ซีรีส์ iDock ครบทุกรุ่น โดยโซลูชันเหล่านี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการนำเสนอเทคโนโลยีด้าน AV ประสิทธิภาพสูงและอเนกประสงค์ที่ออกแบบมาสำหรับองค์กร การศึกษา และสำนักงานที่บ้าน

การตั้งค่าที่คล่องตัวด้วย USB-C และจอแสดงผล 4K คู่

ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นที่บูท AV Access คือ ระบบประชุมไร้สาย eShare W90โดย eShare W90 ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดความยุ่งยากในการติดตั้งสำหรับห้องประชุม ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อและใช้งานระบบการประชุมที่ทันสมัยได้โดยการใช้สาย USB-C เพียงเส้นเดียว อินเทอร์เฟซแบบออลอินวันนี้จะช่วยให้สามารถส่งสัญญาณภาพและเสียง ชาร์จแล็ปท็อปด้วยกำลังไฟ 65 วัตต์ เข้าถึงเครือข่าย และถ่ายโอนข้อมูลได้สูงสุด 5Gbps ที่สามารถช่วยลดความยุ่งยากจากสายเคเบิลและอะแดปเตอร์หลายๆ ตัวได้

ด้วยเอาต์พุต HDMI คู่ ระบบจึงสามารถรองรับการเชื่อมต่อกับจอแสดงผลขนาดใหญ่สองจอ ให้ภาพคมชัดระดับ 4K และรูปแบบหน้าจอที่ยืดหยุ่น ส่วนโหมด Quad-View ที่เพิ่มเข้ามาใหม่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงภาพจากแหล่งข้อมูลต่างๆ พร้อมกันได้สูงสุดถึงสี่แหล่งบนหน้าจอเดียว ทำให้การเปรียบเทียบข้อเสนอแบบเคียงข้างกันหรือการนำเสนอแบบหลายผู้เข้าร่วมเป็นเรื่องง่าย

การประชุมไร้สายด้วยคลิกเดียว

eShare W90ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประชุมแบบไฮบริดด้วยการควบคุมอุปกรณ์ที่ใช้งานง่ายและไม่ต้องใช้สาย เมื่อใช้ร่วมกับดองเกิล USB-C eShare D30 ทำให้ผู้ใช้สามารถเสียบและกดปุ่มเพื่อเชื่อมต่อแบบไร้สายกับอุปกรณ์การประชุมผ่าน USB เช่น เว็บแคม BizEye P30 แบบเลนส์คู่ที่มี AI tracking ของ AV Access, ลำโพงแบบเดซี่เชน AnyCo A6, บาร์วิดีโอ AnyCo V8 หรืออุปกรณ์ต่อพ่วง USB ของบริษัทอื่นๆ และเริ่มการประชุมได้ทันที การตั้งค่าแบบเสียบต่อแล้วใช้ (plug-and-play) นี้จะช่วยลดความยุ่งยากของสายเชื่อมต่อ ลดเวลาในการติดตั้ง และไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือทางเทคนิคใดๆ ทำให้การประชุมมีประสิทธิภาพและราบรื่นยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ระบบยังรองรับการแชร์หน้าจอไร้สายได้อย่างราบรื่นผ่าน AirPlay, Miracast และดองเกิลในตัว ไม่ว่าจะนำเสนอจากแล็ปท็อป แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน ทำให้ผู้ใช้สามารถแคสต์เนื้อหาไปยังจอแสดงผลคู่ได้โดยตรงโดยไม่มีปัญหาเรื่องความเข้ากันได้ ด้วยพอร์ต Gigabit Ethernet แบบคู่ ทำให้ eShare W90 สามารถช่วยให้องค์กรแยกเครือข่ายภายนอกและเครือข่ายภายในออกจากกันได้ และยังช่วยปกป้องข้อมูลของบริษัท ในขณะเดียวกันก็รักษาการเข้าถึงที่สะดวกสบายสำหรับผู้มาเยือน

“เรามีความรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้จัดแสดงระบบประชุมไร้สาย eShare W90ในงาน InfoComm Asia 2025 โดยระบบนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตั้งสำหรับการประชุมและช่วยยกระดับประสบการณ์โดยรวม” Bill Liao ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ AV Access กล่าวสรุป

เกี่ยวกับ AV Access

AV Access เป็นผู้ผลิตมืออาชีพระดับโลกด้านผลิตภัณฑ์ Pro AV และ AV over IP ขั้นสูง ซึ่งรวมถึงตัวขยาย HDMI/KVM, ตัวแยกสัญญาณ, สวิตช์เชอร์, สวิตช์ KVM, โซลูชัน AV over IP, โซลูชันห้องประชุมไร้สาย ฯลฯ โดยนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท AV Access ได้ทุ่มเทมอบประสบการณ์ด้านภาพและเสียงที่ดีที่สุดให้แก่ผู้คนจำนวนมากด้วยผลิตภัณฑ์ AV ที่มีคุณภาพและผ่านการออกแบบมาเป็นอย่างดีในราคาที่สมเหตุสมผล โดย AV Access จะยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องในแวดวงสมาร์ทโฮม องค์กร การศึกษา การค้าปลีก ความบันเทิง การดูแลสุขภาพ และอื่นๆ ด้วยการวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่ง ห่วงโซ่อุปทานที่ทรงประสิทธิภาพ และทีมผู้บริหารที่ยอดเยี่ยม ทำให้ AV Access เป็นพันธมิตรที่ซื่อสัตย์ของคุณ! เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.avaccess.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/20250717094235/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

การติดต่อสำหรับสื่อ
ชื่อบริษัท: Actions Global (US) Inc
ผู้ติดต่อ: Shane Jiang
อีเมล: shane@avaccess.com
เว็บไซต์: https://www.avaccess.com/

ที่มา: AV Access
 

Black & Veatch เข้าร่วมการเสวนาในอุตสาหกรรม พิจารณาแนวทางที่เป็นไปได้เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานของเอเชียในงาน Energy Asia 2025

Logo

กัวลาลัมเปอร์, ประเทศมาเลเซีย–(BUSINESS WIRE)–10 มิถุนายน 2025

Black & Veatch ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่อมนุษย์ เตรียมนำเสนอแนวการประยุต์ใช้แนวปฏิบัติระดับสากลเพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านพลังงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทภายในการประชุมงาน Energy Asia 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 16-18 มิถุนายนท ณ.ศูนย์การประชุมกัวลาลัมเปอร์

“ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นและคลื่นความร้อนที่รุนแรงและยาวนานขึ้น ประเทศมาเลเซียและประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำเป็นต้องมีแนวทางการเปลี่ยนผ่านที่สามารถตอบโจทย์ทั้งเป้าหมายทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมดุล“

“Black & Veatch มุ่งมั่นที่จะนำประสบการณ์ด้านโครงสร้างพื้นฐานอย่างยั่งยืนที่สั่งสมมายาวนาน มาช่วยสนับสนุนภูมิภาคนี้ในการตอบสนองความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น ด้วยแหล่งพลังงานที่ปล่อยคาร์บอนต่ำหรือไม่มีคาร์บอนเลย” กล่าวโดย Jerin Raj กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Black & Veatch

ความร่วมมืออย่างลึกซึ้งกับผู้นำในอุตสาหกรรมจากภาคส่วนพลังงานและภาคส่วนอื่นๆ รวมถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ถือเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจดังกล่าว โดยในงานประชุมที่ประเทศมาเลเซีย Anand Pattani รองประธานและกรรมการผู้จัดการฝ่ายพลังงานระหว่างประเทศของ Black & Veatch จะร่วมอภิปรายเกี่ยวกับแนวทางที่โรงกลั่นแบบดั้งเดิมสามารถปรับตัวเพื่อแข่งขันได้ในโลกที่มีคาร์บอนต่ำ พร้อมนำเสนอแนวทางระดับโลกที่สามารถปรับใช้เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคด้านเทคนิค กฎระเบียบและการเงิน

สอดคล้องกับนโยบายของมาเลเซียในการลดการปล่อยคาร์บอน เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร และส่ง้สริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน Black & Veatch ได้ให้การสนับสนุนโครงการพลังงานในมาเลเซียมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ  1990 ครอบคลุมตั้งแต่วางแผนกลยุทธ์ การจัดสรรทรัพยากรและการลงทุน ไปจนถึงการดำเนินงานและการส่งมอบโครงการ

เกี่ยวกับ Black & Veatch

Black & Veatch เป็นบริษัทวิศวกรรม จัดหา จัดการที่ปรึกษา และก่อสร้างระดับโลกที่พนักงานเป็นเจ้าของทั้งหมด มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปีในการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านโครงสร้างพื้นฐานอย่างยั่งยืน นับตั้งแต่ปี 1915 บริษัทได้ช่วยลูกค้าทั่วโลกยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ด้วยการเสริมความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือให้กับโครงสร้างพื้นฐานและทรัพยากรด้านพลังงานที่สำคัญที่สุดของโลก

ติดตามเราได้ที่ www.bv.com และ LinkedIn, Facebook, X (Twitter) และ Instagram

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ข้อมูลผู้ติดต่อสำหรับสื่อ:
EMILY CHIA | +65 6335 6623 | Media@bv.com

ที่มา: Black & Veatch

Mitsui Chemicals Group เตรียมร่วมงาน ProPak Asia 2025

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–04 มิถุนายน 2025

กลุ่มบริษัท Mitsui Chemicals เตรียมเข้าร่วมงาน ProPak Asia 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11–14 มิถุนายน 2025 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) ประเทศไทย ณ ฮอลล์ 99 บูธ T65 โดยในปีนี้ กลุ่มบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์มากยิ่งขึ้น

ในปีนี้ กลุ่มบริษัท Mitsui Chemicals จะจัดแสดงต้นแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อให้ผู้เข้าชมสามารถสัมผัสและเรียนรู้โครงสร้างการใช้งานที่หลากหลาย ซึ่งพัฒนาขึ้นจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ โดยตรง สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งด้านประสิทธิภาพการใช้งานและความยั่งยืนในระยะยาว

รายละเอียดการจัดแสดง :

วันที่

11 ถึง 14 มิถุนายน 2025

สถานที่จัดงาน

ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) ประเทศไทย

บูท

Hall 99, T65

ผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่จัดแสดง:

ถุงพอลิโพรพิลีนพร้อมรีไซเคิลได้

  • ใช้วัสดุพอลิเมอร์ชนิดเดียว
  • ฟิล์ม BOPP ที่สามารถซีลได้และมีคุณสมบัติป้องกันการซึมผ่านของน้ำและอากาศ เพื่อช่วยลดการใช้พลาสติกใหม่

ถุงพอลิโอเลฟินพร้อมรีไซเคิลได้

  • เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นกรดสูง
  • เม็ดพลาสติก EVOLUE™ เกรดพิเศษ สามารถซีลได้ดีแม้ในสภาวะที่มีการปนเปื้อน
  • กาว TAKELAC™/TAKENATE™ เพื่อเสริมการยึดเกาะในการใช้งานที่รุนแรง

ฟิล์มที่มีคุณสมบัติการพับแน่น (Dead Fold)

  • ฟิล์มพอลิเอทิลีนดัดแปลงโดยใช้ผลิตภัณฑ์ของ Mitsui Chemicals
  • คงประสิทธิภาพการพับได้อย่างดีเยี่ยม
  • สามารถประยุกต์การใช้งานได้หลากหลาย

ฟิล์ม PCR ที่พิมพ์ได้ดี

  • ผลิตจากเม็ดพลาสติก Re’PRM™ ที่พัฒนาให้มีปรมาณเจลต่ำ และเพิ่มคุณภาพของการพิมพ์บนผิวของฟิล์ม
  • สำหรับเป็นบรรจุภัณฑ์นอกของผลิตภัณฑ์สินค้าสินค้าอุปโภค-บริโภคทั่วไป

ถุงโมโนพอลิเอทิลีนที่มีส่วนผสมของ PCR

ผลิตจากเม็ดพลาสติก Re’PRM™ และ EVOLUE™ คุณภาพสูง

เพิ่มคุณสมบัติในการซีลและปรับปรุงรูปลักษณ์ของบรรจุภัณฑ์

ช่วยให้เกิดความสมดุลระหว่างความยั่งยืนและความสวยงามของผลิตภัณฑ์

เกี่ยวกับ Mitsui Chemicals Group

บริษัท Mitsui Chemicals, Inc. (MCI) เป็นหนึ่งในบริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและวัสดุนวัตกรรม บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีฟังก์ชันการใช้งานใหม่ ๆ ซึ่งถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ ยานยนต์ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) การดูแลสุขภาพ สิ่งแวดล้อมและพลังงาน ตลอดจนบรรจุภัณฑ์

กลุ่มบริษัท Mitsui Chemicals มีบริษัทในเครือมากกว่า 20 แห่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ให้บริการและโซลูชันที่ตอบโจทย์กับความต้องการของอุตสาหกรรมหลากหลายประเภทในภูมิภาคนี้

เกี่ยวกับ Mitsui Chemicals Asia Pacific

บริษัท Mitsui Chemicals Asia Pacific, Ltd. (MCAP) ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2540 โดยทำหน้าที่เป็นสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของบริษัท Mitsui Chemicals, Inc. (MCI) ครอบคลุมพื้นที่อาเซียน เอเชียใต้ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และโอเชียเนีย

ในฐานะสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก MCAP มุ่งมั่นขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ ให้บริการด้านการจัดการและสนับสนุนเชิงกลยุทธ์แก่บริษัทในเครือและหน่วยธุรกิจในภูมิภาค พร้อมทั้งส่งมอบคุณค่าให้แก่ลูกค้า ด้วยการผสานจุดแข็งจากเครือข่ายของกลุ่มบริษัท Mitsui Chemicals ทั้งหมด

หมายเหตุ:

เนื้อหาในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ เป็นการแปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษเพื่อความสะดวกในการสื่อสารเท่านั้น
ต้นฉบับภาษาอังกฤษถือเป็นฉบับที่ถูกต้องและมีผลทางกฎหมายอย่างเป็นทางการ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการใช้อ้างอิง กรุณาอ้างอิงจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ

Contacts 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข่าวประชาสัมพันธ์นี้ กรุณาติดต่อ:

Eric Lim

ฝ่ายสื่อสารองค์กรและการตลาด

Mitsui Chemicals Asia Pacific, Ltd.

eric.lim@mitsuichemicals.com

ที่มา : บริษัท Mitsui Chemicals Asia Pacific, Ltd

ผู้นำอุตสาหกรรมสีเขียวระดับโลกรวมตัวกันในงาน Eco Expo Asia 2024

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–9 ตุลาคม 2024

Eco Expo Asia 2024 ซึ่งจัดขึ้นร่วมกันโดยองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกงและ Messe Frankfurt (HK) Ltd และร่วมจัดโดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมและนิเวศวิทยาของรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกง จะเปิดงานตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคมถึง 2 พฤศจิกายน ณ AsiaWorld-Expo ในฮ่องกง พร้อมเปิดให้บริการจับคู่ทางออนไลน์ “Click2Match” ระหว่างวันที่ 23 ตุลาคม – 9 พฤศจิกายน

Global Green Industry Leaders Unite at Eco Expo Asia 2024 (Photo: Business Wire)

ผู้นำอุตสาหกรรมสีเขียวระดับโลกรวมตัวกันในงาน Eco Expo Asia 2024 (ภาพ: Business Wire)

Eco Expo Asia มุ่งมั่นว่าจะเป็นโอกาสสุดพิเศษสำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่รัฐ นักวิชาการ และประชาชนทั่วไปที่จะมีส่วนร่วมกับความก้าวหน้าล่าสุดในด้านความยั่งยืนและเทคโนโลยีสีเขียว งาน Eco Expo Asia จะจัดขึ้นอีกครั้งภายใต้แนวคิด “การส่งเสริมนวัตกรรมสีเขียวเพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอน” โดยรวบรวมผู้ประกอบการชั้นนำจากอุตสาหกรรมสีเขียวต่าง ๆ มากมาย เพื่อช่วยสร้างอนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น

กิจกรรมในปีนี้จะประกอบด้วยหลากหลายผู้จัดแสดงจากจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยุโรป และอเมริกา ซึ่งจะนำเสนอเทคโนโลยีและโซลูชันล้ำสมัยในด้านพลังงานรูปแบบใหม่, การขนส่งสีเขียว, การเงินสีเขียวและบริการที่เกี่ยวข้องกับ ESG, การจัดการขยะและเศรษฐกิจหมุนเวียน, การบำบัดน้ำ และอื่น ๆ อีกมากมาย โซลูชันเหล่านี้ถือเป็นหลักชัยสำคัญในการส่งเสริมการเผยแพร่เทคโนโลยีพลังงานเชิงนวัตกรรมและโซลูชันการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกำหนดภูมิทัศน์ด้านพลังงานมุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืนและปล่อยคาร์บอนต่ำมากยิ่งขึ้น

มณฑลและเมืองหลายแห่ง รวมถึงกวางตุ้ง กวางโจว เซินเจิ้น กวางสี หูหนาน เซี่ยงไฮ้ มองโกเลียใน และมณฑลอานฮุยที่เพิ่งเข้าร่วม จะนำเสนอพร้อมโซนจัดแสดงในงานปีนี้ ภูมิภาคเหล่านี้จะนำเสนอเทคโนโลยีนวัตกรรมซึ่งมุ่งเป้าไปที่การรับมือกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ การเข้าร่วมของกลุ่มนานาชาติก็มีความคึกคักไม่แพ้กัน นอกเหนือจากแคนาดา ฟินแลนด์ และเนเธอร์แลนด์ที่กลับมาเข้าร่วมอีกครั้งแล้ว นอร์เวย์ที่เพิ่งเข้าร่วมงานในครั้งนี้ยังทำให้เวทีเสวนาระดับโลกเกี่ยวกับความยั่งยืนมีความเข้มข้นมากขึ้นอีกด้วย

การประชุม Eco Asia อันทรงเกียรติและฟอรัมเศรษฐกิจไฮโดรเจนครั้งที่ 5 จะประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้นำในอุตสาหกรรม และผู้เชี่ยวชาญจากหลายประเทศมาร่วมแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับหัวข้อสำคัญต่าง ๆ รวมถึงความยั่งยืนและเทคโนโลยีสีเขียว เจ้าหน้าที่ของรัฐจากประเทศในกลุ่มอาเซียนและประเทศตามเส้นทางสายไหม เช่น ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์ ศรีลังกา และเวียดนาม จะเข้าร่วมและแสดงการสนับสนุนต่อการประชุมครั้งนี้เช่นกัน

งานนิทรรศการจะเปิดโอกาสให้สาธารณชนเข้าชมในวันสุดท้ายเพื่อส่งเสริมการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผู้เข้าชมสามารถเข้าร่วมเวิร์กช็อปด้านสิ่งแวดล้อม สัมมนา ตลาดสีเขียว และแหล่งรวมงาน ESG

ลงทะเบียนตอนนี้เพื่อรับตรารับรองอิเล็กทรอนิกส์ฟรีของคุณ- :https://tinyurl.com/dxdynbn7

เว็บไซต์: https://tinyurl.com/yc3f3cmh

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54133617/en

ติดต่อ

สอบถามสื่อมวลชน:
กรุณาติดต่อฝ่ายนิทรรศการ HKTDC:
Ken Tsang / Kitty Wang
โทรศัพท์: (852) 22404136 / 22404874
อีเมล: ken.mc.tsang@hktdc.org / kitty.yc.wang@hktdc.org

ที่มา: องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง.