Tag Archives: summit

อนาคตถูกกำหนดไว้สำหรับยุคใหม่ของการท่องเที่ยวด้วยการเปิดตัว TOURISE Summit ครั้งแรก

Logo

  •  ผู้แทนเกือบ 8,000 คนได้ลงทะเบียนเข้าร่วมการประชุม TOURISE Summit ครั้งแรก ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 พฤศจิกายน
  •  วิทยากรระดับโลก 140 ท่าน ตอบรับเข้าร่วม

ริยาด, ซาอุดีอาระเบีย –(BUSINESS WIRE)–11 พฤศจิกายน 2025

ด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะแก้ไขกฎเกณฑ์การเดินทางใหม่ การประชุม TOURISE Summit ครั้งแรก ภายใต้การอุปถัมภ์ของเจ้าชาย Mohammed bin Salman bin Abdulaziz Al Saud มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรี ได้เปิดอย่างเป็นทางการในวันนี้ โดย H.E. Ahmed Al Khateeb รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียและประธาน TOURISE

His Excellency Ahmed Al Khateeb, Saudi Arabia's Minister of Tourism and Chairman of TOURISE, opens the inaugural TOURISE Summit in Riyadh.

H.E. Ahmed Al Khateeb รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียและประธาน TOURISE เป็นประธานเปิดการประชุม TOURISE Summit ครั้งแรกในริยาด

TOURISE จะเป็นผู้นำยุคใหม่ของการท่องเที่ยวโลก โดยรวบรวมรัฐมนตรี ผู้แทน และผู้มีวิสัยทัศน์จากทั่วโลกในฐานะแพลตฟอร์มชั้นนำที่มุ่งสร้างอนาคตของการท่องเที่ยวทั่วโลก

งาน TOURISE จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 พฤศจิกายน 2025 ทันทีหลังจากการประชุมสมัชชาใหญ่ด้านการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 50 โดยมุ่งปรับโฉมรูปแบบการปฏิสัมพันธ์ของภาคส่วนต่างๆ เพื่อค้นหาโอกาสที่คู่แข่งจะกลายเป็นพันธมิตร การลงทุนจะได้รับการปรับให้เหมาะสมที่สุด และการรวมกลุ่มที่กระจัดกระจายจะมาบรรจบกัน งานนี้มีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนแนวคิดที่กล้าหาญให้กลายเป็นวิธีแก้ปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริง และกระตุ้นความคิดริเริ่มที่จะกำหนดทิศทางของภาคการท่องเที่ยวโลกในอีก 50 ปีข้างหน้า

ในสุนทรพจน์เปิดงานวันนี้ H.E. Ahmed Al Khateeb ได้กล่าวว่า ไม่เคยมีช่วงเวลาใดที่เร่งด่วนหรือเหมาะสมยิ่งไปกว่าการผสานรวมภาคส่วนต่างๆ เพื่อกำหนดทิศทางการท่องเที่ยวโลก โดยภาคการท่องเที่ยวได้ฟื้นตัวขึ้นสู่จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวและการลงทุนจากต่างประเทศสูงกว่าระดับก่อนเกิดการระบาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ฯพณฯ ได้เตือนว่าในขณะเดียวกัน ภาคส่วนนี้กำลังเผชิญกับความท้าทายและโอกาสที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ประกอบด้วย การพลิกผันทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงจากรุ่นสู่รุ่นด้วยการเดินทางที่ยั่งยืนและเน้นประสบการณ์ และความจำเป็นในการสร้างความยืดหยุ่นในการรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม รวมถึงความแตกแยกที่เพิ่มมากขึ้นทั่วโลก

ฯพณฯ ตระหนักดีว่า TOURISE ได้มาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญนี้ เมื่อโลกกำลังแสวงหารูปแบบใหม่ๆ ความร่วมมือใหม่ๆ และแนวทางแก้ไขปัญหาใหม่ๆ

“TOURISE เป็นมากกว่าแค่งานอีเวนต์ โดยเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการดำเนินการที่เราจะร่วมกันแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่จำกัดศักยภาพของการท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน หนึ่งในนั้นคือความท้าทายด้านทักษะ การลงทุน โครงสร้างพื้นฐาน ความยั่งยืน และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล นี่คือพื้นที่ที่เราจะร่วมมือกันเพื่อมอบผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผลตอบแทนสำหรับนักลงทุน จุดหมายปลายทางที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และประสบการณ์ที่คุ้มค่าสำหรับนักเดินทาง รวมถึงอาชีพและความเจริญรุ่งเรืองสำหรับชุมชนเมื่อมีความต้องการเดินทางเพิ่มมากขึ้น เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่เรามาที่นี่เพื่อลงมือทำ นั่นคือเหตุผลที่ TOURISE ยังคงอยู่”

ตลอดระยะเวลาสามวัน TOURISE จะเป็นเจ้าภาพจัดเสวนาและเสวนาสำคัญๆ มากมาย โดยมีผู้นำระดับโลกจากหลากหลายภาคส่วนเข้าร่วม วิทยากรระดับโลกที่มีชื่อเสียง ประกอบด้วย:

  • Ariane Gorin ซีอีโอ Expedia
  • เอกอัครราชทูต Patricia Espinosa ผู้ก่อตั้ง onepoint5
  • Gloria Guevara รักษาการซีอีโอ สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก
  • Shaikha Nasser Al Nowais เลขาธิการใหญ่ฝ่ายการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติคนใหม่
  • Luis Maroto ซีอีโอ Amadeus
  • Francis Suarez นายกเทศมนตรีเมืองไมอามี
  • Paul Griffiths ซีอีโอ ท่าอากาศยานดูไบ
  • Lucia Penrod ผู้ร่วมก่อตั้งและเจ้าของ Nikki Beach
  • Sébastien Bazin ซีอีโอ Accor
  • Eduardo Santander ซีอีโอ คณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งยุโรป (ETC)
  • Harvey Goldsmith CBE ผู้ก่อตั้ง Nvisible Productions
  • Thomas Woldbye ซีอีโอ สนามบินฮีทโธรว์
  • Steve Hafner ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ Kayak.com

รายชื่อวิทยากรดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า TOURISE ได้รวบรวมผู้นำจากภาคส่วนต่างๆ ที่ไม่ค่อยได้เห็นมารวมกันอย่างไร ทำให้เกิดความร่วมมือที่แหวกแนวและไร้ขอบเขต การบรรจบกันเหล่านี้ไม่เพียงแต่แปลกใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องยนต์สำหรับรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ประสบการณ์การเดินทางที่ดีขึ้น การพัฒนาจุดหมายปลายทางอย่างยั่งยืนและกลยุทธ์การลงทุนต่างๆ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้จากแพลตฟอร์มที่หลากหลายและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเช่นนี้เท่านั้น

การประชุม Summit นี้จะครอบคลุมถึงคำถามสำคัญๆ ที่กำหนดอนาคตของการเดินทางใหม่ ตั้งแต่ประสบการณ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และขอบเขตที่ไร้แรงเสียดทาน ไปจนถึงการออกแบบจุดหมายปลายทาง การลงทุน และการแข่งขันเพื่อผู้เดินทางในอนาคต และเปลี่ยนคำถามเหล่านั้นให้เป็นการกระทำผ่านบทสนทนาของรัฐมนตรีที่ทรงพลัง บทสนทนาในห้องประชุม ปาฐกถาหลักบนเวทีหลัก รวมถึงการจัดแสดงนวัตกรรม

ผู้ชนะรางวัล TOURISE Awards ครั้งแรกจะได้รับการประกาศในเย็นวันนี้เช่นกัน โดยจะมอบรางวัลให้แก่สถานที่ที่เป็นตัวอย่างของจุดหมายปลายทางที่ยอดเยี่ยมและตอบสนองความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงไปของนักเดินทางยุคใหม่

ภายใต้การสนับสนุนจากกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย TOURISE จะเป็นมากกว่าการประชุมสุดยอดสามวัน แต่เป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง สิ่งสำคัญคือ การสนทนาที่เกิดขึ้นในริยาดจะดำเนินต่อไปตลอดทั้งปี ผ่านความร่วมมือและความร่วมมือข้ามภาคส่วน เพื่อเปลี่ยนแนวคิดที่กล้าหาญให้กลายเป็นโซลูชันที่ใช้งานได้จริง

เกี่ยวกับ TOURISE

TOURISE เป็นแพลตฟอร์มชั้นนำของโลกที่สร้างขอบเขตใหม่ให้กับการท่องเที่ยวทั่วโลก

การประชุม TOURISE Summit ครั้งแรก ที่ขับเคลื่อนโดยกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 พฤศจิกายน 2025 ที่ริยาด โดย TOURISE จะรวบรวมผู้มีวิสัยทัศน์จากภาครัฐ ภาคธุรกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว และเทคโนโลยี เพื่อนำเสนอโครงการริเริ่มที่มีผลกระทบสูงและข้อตกลงต่างๆ ที่จะช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะช่วยพลิกโฉมอุตสาหกรรมและสร้างภาคการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เป็นธรรม และมุ่งเน้นอนาคต

TOURISE มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมในเชิงกายภาพและครอบคลุมทุกช่องทางดิจิทัล โดยจะรับประกันการมีส่วนร่วมในวงกว้างจากทั่วโลก ควบคู่ไปกับการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุดสำหรับผู้ที่มีวิสัยทัศน์ในการกำหนดอนาคตของการท่องเที่ยวโลก หลังจากการประชุมสุดยอด TOURISE จะขยายขอบเขตเป็นแพลตฟอร์มตลอดทั้งปีที่ซึ่งแนวคิดที่โดดเด่นจะกลายเป็นทางออกในโลกแห่งความเป็นจริง

นี่คือจุดกำเนิดของการท่องเที่ยวในอีก 50 ปีข้างหน้า เมื่อร่วมมือกัน เราจะไม่มีวันหยุดยั้ง

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TOURISE ได้ที่ www.TOURISE.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20251111716065/en

Contacts

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ: media@TOURISE.com

ที่มา: TOURISE


CTBC Holding ร่วมแบ่งปันความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมดิจิทัลและการป้องกันการฉ้อโกงในงาน Banking Summit Asia 2025

Logo

ไทเป, ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–16 กันยายน 2025

บริษัท CTBC Financial Holding จำกัด (CTBC Holding) ที่ได้รับเชิญจาก Financial Times และ The Banker สื่อสิ่งพิมพ์ชั้นนำระดับโลก ได้เข้าร่วมงาน Banking Summit Asia 2025 เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา โดยคุณ Titan Chia (賈景光) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศของ CTBC Holding ได้ร่วมเสวนาในหัวข้อหลักๆ ของการพัฒนานวัตกรรมบริการทางการเงินดิจิทัลควบคู่ไปกับการสร้างหลักประกันความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของข้อมูล พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ของ CTBC ในด้านดิจิทัล โดยคุณ Titan Chia เป็นตัวแทนเพียงคนเดียวที่มาจากภาคการเงินของไต้หวัน

Titan Chia (right), Chief Information Officer of CTBC Financial Holding, served as a speaker today at the “Banking Summit Asia 2025,” held in Asia for the first time, where he shared the company’s achievements in fraud prevention through digital innovation. / Courtesy of CTBC Financial Holding

Titan Chia (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ บริษัท CTBC Financial Holding เป็นวิทยากรในงาน “Banking Summit Asia 2025” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในเอเชีย โดยเขาได้ร่วมแบ่งปันความสำเร็จของบริษัทในการป้องกันการฉ้อโกงผ่านนวัตกรรมดิจิทัล / เครดิตภาพโดย CTBC Financial Holding

งาน Global Banking Summit ซึ่งจัดโดย Financial Times และ The Banker ร่วมกัน ถือเป็นหนึ่งในงานประชุมทางการเงินที่สำคัญที่สุดของโลก โดยปีนี้ถือเป็นการประชุมสุดยอดครั้งแรกในเอเชีย จัดขึ้นที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ฮ่องกง และสามารถดึงดูดผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินได้เกือบ 300 คนจากทั่วโลก ผู้จัดงานได้ร่วมเสวนากับ คุณ Titan Chia และ คุณเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีกสิกรไทย

คุณ Chia ย้ำว่าความท้าทายสำคัญของธนาคารในปัจจุบันคือการปกป้องความปลอดภัยของผู้ใช้ควบคู่ไปกับการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า เขากล่าวว่า CTBC Bank ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ CTBC Holding ได้นำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาระบบป้องกันการฉ้อโกงที่ออกแบบมาเพื่อรับประกันว่าทรัพย์สินของลูกค้าจะปลอดภัยและให้บริการได้อย่างราบรื่น

โมเดล “AI SKYNET” ที่พัฒนาโดย CTBC Holding สามารถตรวจจับการฉ้อโกงที่อาจเกิดขึ้นได้โดยการวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงเกือบ 300 รายการภายในเวลาเพียง 1 วินาที โดยในปี 2024 โมเดลนี้สามารถป้องกันการทุจริตได้เกือบ 2.8 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน และมีอัตราการเติบโตต่อปีอยู่ที่ 30% ส่วนในไตรมาสแรกของปี 2025 เพียงไตรมาสเดียว สัญญาณการฉ้อโกงได้ลดลงเหลือ 24% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

เพื่อสร้างเครือข่ายป้องกันการฉ้อโกงที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น CTBC Holding ได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมและเครือข่ายสังคมออนไลน์ LINE และร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุดไต้หวัน และสำนักงานอัยการเขตไทเป นอกจากนี้ CTBC Holding ยังทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานคณะทำงานพัฒนาแอปพลิเคชัน Fintech โดยเป็นผู้นำภาคการเงินของไต้หวันในการสร้างเครือข่ายความปลอดภัยระหว่างธนาคารเพื่อต่อสู้กับการฉ้อโกง

ในฐานะหนึ่งในธนาคารเอกชนที่มีความเป็นสากลมากที่สุดของไต้หวัน สาขาต่างประเทศของ CTBC Bank จึงได้รับการประสานงานจากสำนักงานใหญ่เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางเทคโนโลยีควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามนโยบายด้านกฎระเบียบท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวและป้องกันการฉ้อโกงข้ามพรมแดน ในอนาคต CTBC Bank วางแผนที่จะสำรวจการพัฒนา “ศูนย์ข้อมูลระดับภูมิภาค” โดยใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสขั้นสูงและกลไกการปกปิดตัวตนที่สอดคล้องตามมาตรฐาน เพื่อบูรณาการข้อมูลข้ามพรมแดนและเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันการฉ้อโกงให้ดียิ่งขึ้น

CTBC Holding เชื่อมั่นว่าความน่าเชื่อถือและความมั่นคงปลอดภัยทางดิจิทัลคือรากฐานสำคัญของการเงินยุคใหม่ ในอนาคต CTBC จะเดินหน้าพัฒนาการประยุกต์ใช้ AI บิ๊กดาต้า และเทคโนโลยีคลาวด์อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น และทำงานร่วมกับพันธมิตรทางการเงินระหว่างประเทศเพื่อส่งเสริมความมั่นคงปลอดภัยทางดิจิทัลและการพัฒนาที่ยั่งยืนทั่วทั้งเอเชีย

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250916711131/en

Contacts

ฝ่ายประชาสัมพันธ์, CTBC Bank
Ken Wang (+8862) 3327-7777#6712
Sherry Fang (+8862) 3327-7777#6711

ที่มา: CTBC Holding

จาก EHR ที่ขับเคลื่อนด้วย AI สู่การแชร์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ InterSystems Asia Healthcare Summit 2025 ชูอินโดนีเซียในฐานะผู้นำด้านสุขภาพดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Logo

ผู้นำระดับโลกและระดับท้องถิ่นรวมตัวกันที่จาการ์ตาเพื่อนำเสนอความก้าวหน้าที่กำลังพลิกโฉมการให้บริการด้านการดูแลสุขภาพและนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลทั่วทั้งภูมิภาค

จาการ์ตา, อินโดนีเซีย–(BUSINESS WIRE)–04 กันยายน 2025

InterSystems เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีข้อมูลเชิงสร้างสรรค์ที่บริหารจัดการข้อมูลสุขภาพมากกว่าหนึ่งพันล้านรายการทั่วโลก ได้จัดงาน Asia Healthcare Summit 2025 เมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีผู้นำจากภาครัฐ ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ และภาคเทคโนโลยีสารสนเทศมากกว่า 200 ราย ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับท้องถิ่นมาร่วมประชุม โดยได้ยกย่องอินโดนีเซียในฐานะสัญลักษณ์แห่งนวัตกรรมของการดูแลสุขภาพในเอเชีย ด้วยนโยบายที่ก้าวหน้า การลงทุนจากภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น และระบบนิเวศความร่วมมือที่เชื่อมโยงความเชี่ยวชาญระดับโลกเข้ากับนวัตกรรมในท้องถิ่น อินโดนีเซียกำลังก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสุขภาพดิจิทัลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจุดประกายความก้าวหน้าด้านการดูแลผู้ป่วยที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

ระบบการดูแลสุขภาพของอินโดนีเซียกำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในด้านความพร้อมทางดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยแผนงานการเปลี่ยนแปลงของกระทรวงสาธารณสุข และความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับข้อมูลที่เชื่อถือได้และทำงานร่วมกันได้ และระบบที่ขับเคลื่อนด้วย AI Terry Ragon, ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ InterSystems กล่าวว่า “เราอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านการประมวลผลในขณะที่เราเข้าสู่ยุค AI โดยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นศูนย์กลางของนวัตกรรม และในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ ลูกค้าของเราได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังส่งมอบการดูแลระดับโลกให้กับภูมิภาคนี้ด้วยเทคโนโลยีของเราอย่างไร”

แม้จะมีแรงผลักดันที่แข็งแกร่ง แต่ภาคการดูแลสุขภาพของเอเชียยังคงเผชิญกับความท้าทายต่างๆ มากมาย รวมถึงระบบเดิมที่กระจัดกระจาย ความรู้ด้านดิจิทัลที่ไม่สม่ำเสมอ และความกังวลของสาธารณชนเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล Luciano Brustia, กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ InterSystems กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงด้านการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องของอินโดนีเซียไม่ได้เป็นเพียงแค่ความสำเร็จในระดับชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้กับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอีกด้วย ภาวะผู้นำที่มองการณ์ไกล ความร่วมมือในอุตสาหกรรม และความพร้อมที่จะนำเทคโนโลยีที่ปลอดภัยและปรับขนาดได้มาใช้ กำลังจะสร้างมาตรฐานใหม่ให้เกิดขึ้น”

โซลูชันในโลกแห่งความเป็นจริง ผลกระทบที่พิสูจน์แล้ว

InterSystems ได้สาธิตวิธีการที่แพลตฟอร์มข้อมูล InterSystems IRIS for Health™ ของบริษัท รวบรวมข้อมูลจากหลายระบบแบบเรียลไทม์เพื่อ “สื่อสารในภาษาเดียวกัน” ที่พร้อมสำหรับ AI และการวิเคราะห์โดยไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานเดิม แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้โรงพยาบาลต่างๆ พัฒนาระบบให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่องโดยไม่เกิดการหยุดชะงัก ระบบบันทึกข้อมูลทางการแพทย์อิเล็กทรอนิกส์ InterSystems TrakCare® ซึ่งใช้งานโดยโรงพยาบาลและห้องปฏิบัติการชั้นนำหลายแห่งในอินโดนีเซีย ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มข้อมูลนี้ โซลูชันเหล่านี้ใช้มาตรฐานข้อมูลระดับโลก เช่น HL7® FHIR® ควบคู่ไปกับการสนับสนุนโครงการริเริ่มระดับชาติ เช่น SATUSEHAT

ในอินโดนีเซีย เทคโนโลยีของ InterSystems ได้ให้การสนับสนุนผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพชั้นนำมากมาย อาทิ Prodia, EMC Healthcare, Tzu Chi Hospital, EKA Hospital, Pondok Indah Group, Asia One Healthcare และ Bali International Hospital ความร่วมมือเหล่านี้ครอบคลุมเครือข่ายห้องปฏิบัติการระดับชาติและโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกระทรวงสาธารณสุขในการดูแลผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางและเชื่อมโยงถึงกัน

หนึ่งในไฮไลท์ของงานคือ EMC Healthcare ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในเอเชียที่นำ InterSystems Intellicare™ ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่มาใช้ โดยเป็นระบบ EHR แบบบูรณาการที่ขับเคลื่อนด้วย AI และสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มข้อมูลที่เชื่อถือได้ของ InterSystems เช่นกัน “IntelliCare ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้แพทย์ของเรามีเวลามากขึ้นในการให้ความสำคัญกับผู้ป่วย ในขณะที่ข้อมูลผู้ป่วยจะไหลอย่างปลอดภัยและรวดเร็ว เพื่อการตัดสินใจที่รอบด้าน” กล่าวโดย Jusup Halimi, ซีอีโอของ EMC Healthcare

Don Woodlock, หัวหน้าฝ่ายโซลูชันการดูแลสุขภาพระดับโลกของ InterSystems ได้กล่าวถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของ InterSystems เพื่อตอบโจทย์การไหลเวียนข้อมูลอย่างราบรื่นในระบบการดูแลสุขภาพ ซึ่งรวมถึงโซลูชัน Unified Care Record ที่ได้รับรางวัล Best in KLAS ประจำปี 2025 ในยุโรป สาขา Shared Care Records/HIE โดยได้นำเสนอตัวอย่างความสามารถใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นของ AI เชิงตัวแทนที่กำลังจะเปิดตัวใน InterSystems IntelliCare ที่จะช่วยให้ผู้ให้บริการดูแลสุขภาพมีผู้ช่วยที่สามารถช่วยวางแผนและดำเนินงานต่างๆ เพื่อประหยัดเวลาและช่วยในการตัดสินใจที่ดีขึ้น

ปฏิวัติวงการการดูแลสุขภาพในอินโดนีเซีย

อีกหนึ่งไฮไลท์ของงาน ดร. Noel Yeo, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์และปฏิบัติการที่ Bali International Hospital ซึ่งเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายน 2025 ใจกลางเขตเศรษฐกิจพิเศษซานูร์ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่ของบาหลีสำหรับการดูแลสุขภาพ ดร. Yeo ได้พูดคุยเกี่ยวกับวิธีที่โรงพยาบาลกำลังปฏิวัติการให้บริการดูแลสุขภาพในอินโดนีเซีย และบทบาทของ TrakCare ในการช่วยผลักดันขอบเขตใหม่ๆ ในการให้บริการดูแลสุขภาพ

การประชุมสุดยอดครั้งนี้มีการสาธิตผลิตภัณฑ์สดจาก InterSystems รวมถึงการให้คำปรึกษาด้วย AI และข้อมูลเชิงลึกของผู้ป่วย อวาตาร์ AI เพื่อสนับสนุนแพทย์ในการทำงานทั่วไป และการแบ่งปันข้อมูลที่ราบรื่นระหว่างภาคส่วนต่างๆ ของระบบนิเวศด้านสุขภาพและการดูแล ซึ่งช่วยเชื่อมช่องว่างระหว่างวิสัยทัศน์ด้านนโยบายและความเป็นจริงทางคลินิก โดยพันธมิตรด้านโซลูชันและบริการของ InterSystems จำนวน 10 รายได้ร่วมจัดแสดงใน Partner Pavilion รวมถึงกลุ่ม ST Engineering ซึ่งเป็นกลุ่มเทคโนโลยีระดับโลก การป้องกันประเทศ และวิศวกรรมที่เป็นพันธมิตรด้านการใช้งานและโซลูชันรายใหม่ล่าสุดของ InterSystems ในภูมิภาคอาเซียน

Tan Bin Ru, ประธานฝ่าย Enterprise Digital ของ ST Engineering กล่าวว่า “การผสานรวมระบบอัจฉริยะของเราเข้ากับแพลตฟอร์มข้อมูลด้านการดูแลสุขภาพของ InterSystems ทำให้ศูนย์บัญชาการ AGIL® Care ของเราช่วยเสริมสร้างความสามารถในการทำงานร่วมกันของโรงพยาบาล ประสิทธิภาพการดำเนินงาน และความยืดหยุ่นในการจัดการวิกฤตและการระบาดใหญ่”

InterSystems สรุปงานโดยแสดงความยินดีกับลูกค้าในเอเชียที่สร้างมาตรฐานใหม่ในด้านสุขภาพดิจิทัลด้วยการบรรลุการตรวจสอบขั้นที่ 6 หรือ 7 จาก HIMSS Electronic Medical Record Adoption Model (EMRAM) โดย Pondok Indah Hospital Group เป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในอินโดนีเซียที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน EMRAM ขั้นที่ 6 โดยในขณะนี้ได้บรรลุมาตรฐานขั้นที่ 7 แล้วสำหรับโรงพยาบาลทั้งสามแห่งในเครือ และ EMC Grha Kedoya เพิ่งได้รับการรับรองมาตรฐาน HIMSS EMRAM ขั้นที่ 6 รวมถึงสถาบันหัวใจแห่งชาติมาเลเซียที่ได้กลายเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในมาเลเซียที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน HIMSS EMRAM ขั้นที่ 6

โดยตัวแทนเห็นพ้องกันว่าการผสานรวมรข้อมูลที่ปลอดภัยและการนำระบบที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาใช้จะช่วยลดภาระงาน เร่งการวินิจฉัย และปรับปรุงการมีส่วนร่วมและผลลัพธ์ของผู้ป่วย โซลูชันเหล่านี้สนับสนุนวิสัยทัศน์ของรัฐบาลอินโดนีเซียโดยตรงในการสร้างระบบนิเวศสุขภาพดิจิทัลที่ปลอดภัย ครอบคลุม และให้ความสำคัญกับผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง

วิทยากรเน้นย้ำว่าเส้นทางข้างหน้าจำเป็นต้องสร้างสมดุลระหว่างความทะเยอทะยานทางเทคโนโลยีกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มีจริยธรรม การกำกับดูแลที่โปร่งใส ความปลอดภัยของข้อมูลที่แข็งแกร่ง และการดูแลที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ความพร้อมของอินโดนีเซียในการเป็นผู้นำนั้นเกิดจากการผสมผสานวิสัยทัศน์ของรัฐบาล ศักยภาพของภาคเอกชน และการเปิดกว้างต่อความร่วมมือระดับโลก

เกี่ยวกับ InterSystems

InterSystems เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีข้อมูลเชิงสร้างสรรค์ มอบรากฐานแบบครบวงจรสำหรับแอปพลิเคชันยุคใหม่สำหรับลูกค้าด้านการดูแลสุขภาพ การเงิน การผลิต และซัพพลายเชนในกว่า 80 ประเทศ แพลตฟอร์มข้อมูลของเราช่วยแก้ปัญหาด้านความสามารถในการทำงานร่วมกัน ความเร็ว และความสามารถในการปรับขนาดสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก เพื่อปลดล็อกพลังของข้อมูลและช่วยให้ผู้คนรับรู้ข้อมูลได้อย่างสร้างสรรค์ โดย InterSystems นั้นก่อตั้งขึ้นในปี 1978 มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศด้วยการสนับสนุนลูกค้าและพันธมิตรทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน InterSystems เป็นบริษัทเอกชนและมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่บอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ มีสำนักงาน 38 แห่งใน 28 ประเทศทั่วโลก ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.intersystems.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

รายชื่อผู้ติดต่อสื่อ
Lindsay Kiley
PR@intersystems.com

ที่มา: InterSystems

Mary Kay Inc. เป็นหัวหอกสำคัญของความพยายามในการอนุรักษ์มหาสมุทร ณ การประชุม World Ocean Summit ประจำปีครั้งที่ 11

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–04 เมษายน 2024

Mary Kay Inc. ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านการเสริมพลังสตรี และผู้สนับสนุนความยั่งยืนอย่างแข็งขัน ได้เป็นแนวหน้าสำคัญของความพยายามในการอนุรักษ์มหาสมุทรระดับโลกอีกครั้ง แบรนด์ความงามแห่งนี้มีความภาคภูมิใจที่ได้เข้าร่วมการประชุม World Ocean Summit & Expo ประจำปีครั้งที่ 11 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ระหว่างวันที่ 11-13 มีนาคม ในฐานะผู้สนับสนุนระดับทองแดงเป็นปีที่สองติดต่อกัน Mary Kay แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการส่งเสริมเศรษฐกิจสีน้ำเงินอย่างยั่งยืนในฐานะตัวแทนภาคเอกชน และผ่านความร่วมมืออันยาวนานกับ องค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติระดับโลก (The Nature Conservancy – TNC)

Sandra Silva, General Manager of Mary Kay in Portugal, shared insights on the crucial need for collaborative efforts in marine conservation and highlighted the impact of incorporating gender perspectives in initiatives tackling climate change challenges and biodiversity loss. (Photo: Mary Kay Inc.)

Sandra Silva ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay ในโปรตุเกส แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความจำเป็นสำคัญสำหรับความพยายามร่วมกันในการอนุรักษ์ทางทะเล และเน้นย้ำถึงผลกระทบของการผสมผสานมุมมองทางเพศสภาพในโครงการริเริ่มการจัดการกับความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ (รูปภาพ: Mary Kay Inc.)

งานประชุม World Ocean Summit & Expo ประจำปี ซึ่งจัดโดย Economist Impact มีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญกว่า 200 คนและผู้ฟังจากต่างประเทศที่หลากหลายเข้าร่วมในการอภิปราย เวิร์คช็อป และเซสชัน “How to” ที่มีความหมาย การชุมนุมเหล่านี้มุ่งเน้นไปที่แนวทางแก้ไขที่สามารถนำไปปฏิบัติได้เพื่อรับมือกับความท้าทายในมหาสมุทรอย่างเร่งด่วนที่สุด โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของความพยายามร่วมกันในภาคส่วนต่างๆ

Sandra Silva ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay ในโปรตุเกส มีบทบาทอย่างแข็งขันในการอภิปราย หัวข้อ “การพัฒนาโครงการที่อิงธรรมชาติสีฟ้า (Developing Blue Nature-based Projects) “ Silvaได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความจำเป็นสำคัญสำหรับความพยายามร่วมกันในการอนุรักษ์ทางทะเล และเน้นย้ำถึงผลกระทบของการผสมผสานมุมมองทางเพศสภาพในโครงการริเริ่มการจัดการกับความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ

“การมีส่วนร่วมของ Mary Kay ในการประชุม World Ocean Summit ในปีนี้ไม่เพียงแต่เป็นการตอกย้ำความทุ่มเทของเราในการอนุรักษ์มหาสมุทรเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการเน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของผู้หญิงในความพยายามเหล่านี้ด้วย” Silva กล่าว “เราเชื่อว่าการกระทำร่วมกันของเราในปัจจุบันมีส่วนสำคัญต่อการอนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเล ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดออกจากการประชุมสุดยอดด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันใหม่ การมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์ที่สามารถดำเนินการได้ และโซลูชั่นที่ป้องกันเสียงเพื่อยกระดับการดูแลมหาสมุทร”

Dr. Lizzie Mcleod ผู้อำนวยการมหาสมุทรระดับโลกของThe Nature Conservancy แสดงความขอบคุณสำหรับความสัมพันธ์ระยะยาวและมีผลกระทบต่อ Mary Kay “ความร่วมมือที่แข็งแกร่งของเราถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังของการผนึกกำลังกันทั่วทั้งชุมชนวิทยาศาสตร์และภาคเอกชนเพื่อปรับปรุงสุขภาพของมหาสมุทร การสนับสนุนของ Mary Kay ในโครงการริเริ่มด้านการอนุรักษ์ทางทะเล รวมถึงโครงการ Super Reefs ในปาเลา เป็นตัวอย่างหนึ่งของความพยายามร่วมกันของเรา เพื่อให้แน่ใจว่ามหาสมุทรมีสุขภาพที่ดีและฟื้นตัวได้”

Mary Kay ได้ทำงานเพื่อยกระดับสุขภาพของมหาสมุทรและความตระหนักรู้เกี่ยวกับแนวปะการังผ่านการสนับสนุน The Nature Conservancy มาเป็นเวลา 37 ปี โครงการล่าสุดบางโครงการ ได้แก่ การฟื้นฟู Super Reef (Super Reef restoration) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และโครงการอื่นๆ ในฮาวาย ปาเลา หมู่เกาะมาร์แชลล์ และเบลีซ โครงการเหล่านี้สอดคล้องกับพันธกิจของ Mary Kay ที่ไม่เพียงแต่ทำให้ชีวิตดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังรับประกันความยืนยาวและสุขภาพของสภาพแวดล้อมทางทะเลสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไป

คุณรู้หรือไม่?

  • Mary Kay เริ่มสนับสนุน The Nature Conservancy (TNC) ในปี 1987 และปัจจุบันได้มีส่วนร่วมในโครงการต่างๆ มานานกว่าสามทศวรรษในโครงการอนุรักษ์ 100 โครงการทั่วโลก
  • ในฐานะส่วนหนึ่งของภารกิจในการอนุรักษ์ผืนดินและน้ำของโลก TNC ตั้งเป้าที่จะอนุรักษ์มหาสมุทร 4 พันล้านเฮกตาร์ภายในปี 2030 ซึ่งรวมถึงแนวปะการังด้วย
  • จากบทความมากกว่า 1,500 รายการที่ตีพิมพ์เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์แนวปะการังในประเทศ OECD ผู้เขียน 33% เป็นผู้หญิง1
  • 13-24% ของตำแหน่งอาวุโสในภาควิทยาศาสตร์ทางทะเลของสหภาพยุโรปเป็นผู้หญิง1
  • 90% ของผู้หญิงในอุตสาหกรรมประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำมีส่วนร่วมในงานที่มีรายได้น้อยหรือไม่ได้รับค่าจ้างมากกว่า1

เกี่ยวกับ Mary Kay

จากตอนนั้นถึงตอนนี้และตลอดไป (Then. Now. Always.) หนึ่งในผู้ทำลายเพดานกระจกแบบเดิม Mary Kay Ash ก่อตั้งบริษัทเพื่อความงามในฝันของเธอในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือการทำให้ชีวิตผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทระดับโลกที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ เป็นเวลากว่า 60 ปีแล้วที่โอกาสโดย Mary Kay ได้เพิ่มขีดความสามารถของผู้หญิงในการกำหนดอนาคตของตนเองผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอางที่มีสี อาหารเสริม รวมไปถึงน้ำหอมที่ทันสมัย Mary Kay เชื่อในการรักษาโลกของเราไว้ให้คนรุ่นอนาคต ปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งและการทารุณกรรมในครอบครัว และสนับสนุนให้เยาวชนทำตามความฝันของพวกเขา เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com หรือค้นหาเราได้ใน Facebook Instagram และ LinkedIn หรือติดตามเราใน X (formerly Twitter)

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy

เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ผืนดินและผืนน้ำที่ทุกชีวิตต้องพึ่งพา ด้วยแนวทางทางวิทยาศาสตร์ เราสร้างสรรค์โซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมภาคพื้นดินเพื่อรับมือกับความท้าทายที่ยากที่สุดของโลก เพื่อให้ธรรมชาติและผู้คนสามารถเจริญเติบโตร่วมกันได้ เรากำลังจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การอนุรักษ์ผืนดิน น้ำ และมหาสมุทรในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน การจัดหาอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน และช่วยทำให้เมืองต่างๆ มีความยั่งยืนมากขึ้น การทำงานใน 76 ประเทศและดินแดน —37 แห่งโดยผลกระทบด้านการอนุรักษ์โดยตรง และอีก 39 แห่งผ่านพันธมิตร — เราใช้แนวทางการทำงานร่วมกันที่มีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น รัฐบาล ภาคเอกชน และพันธมิตรอื่นๆ เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press ในทวิตเตอร์

1 แหล่งที่มา : https://impact.economist.com/ocean/sustainable-ocean-economy/valuing-women-in-the-blue-economy-for-international-womens-day

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53921920/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Mary Kay Inc. การสื่อสารองค์กร

marykay.com/newsroom 
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

แหล่งที่มา: Mary Kay Inc.


ASOCIO Digital Summit 2023 ปูทางสู่ความร่วมมือทางดิจิทัลในอนาคต

Logo

SEOUL, South Korea–(BUSINESS WIRE)–16 พฤศจิกายน 2023 

ASOCIO Digital Summit 2023 ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 23 ปีที่เกาหลี เมื่อวันที่ 14 และ 15 พฤศจิกายน ปิดฉากความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่

งานนี้จัดขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมในการเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในยุคดิจิทัลทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย ผลของการประชุมสุดยอดครั้งนี้รวมไปถึงการเปิดตัว “Digital Asia Initiative” ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ครอบคลุมเพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้ดิจิทัลในเอเชีย และการยกย่องและชมเชยบริษัทและสถาบันที่มีคุณูปการสำคัญด้านนวัตกรรมดิจิทัลในภูมิภาคนี้

ASOCIO Digital Summit เป็นองค์กรเอกชนที่ประกอบด้วยสมาคมไอทีจาก 24 ประเทศในเอเชียและโอเชียเนีย สมาพันธ์อุตสาหกรรมสารสนเทศเกาหลี (FKII) เป็นหนึ่งในสมาชิกขององค์กรและเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของเกาหลี ประเทศสมาชิกต่าง ๆ ผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพจัดงาน ASOCIO Digital Summit ซึ่งเป็นเวทีความร่วมมือระดับภูมิภาคและการแลกเปลี่ยนความรู้ในภาคเทคโนโลยีดิจิทัล

งานในปีนี้จัดขึ้นในธีม “Digital Asia: Our Vision for Co-Prosperity” ได้ต้อนรับผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีจากต่างประเทศที่มีผลงานทำลายสถิติกว่า 220 ราย เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลยุทธ์ นโยบาย ตลาด และเทคโนโลยีดิจิทัล

ในการประชุมสามัญทั่วไปเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ASOCIO ได้รับรองและประกาศ “Digital Asia Initiative” ซึ่งนำเสนอวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นร่วมกันระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการส่งเสริมนวัตกรรมดิจิทัลทั่วภูมิภาคเอเชีย

โครงการริเริ่มนี้เป็นโครงการที่นำเสนอข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำที่เก็บรวบรวมโดย ASOCIO ซึ่งเป็นกลุ่มองค์กรที่เกี่ยวข้องกับไอทีจาก 24 ประเทศ ให้กับรัฐบาล ธุรกิจ และองค์กรระหว่างประเทศภายในภูมิภาคเอเชีย เพื่อเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจอันเป็นผลมาจากเทคโนโลยีดิจิทัล โครงการมีจุดมุ่งหมายเพื่อร่วมมือกันจัดการกับความท้าทายที่มีร่วมกัน เช่น ความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล ความปลอดภัย และการเชื่อมต่อ และเพื่อกำหนดระเบียบดิจิทัลใหม่โดยส่งเสริมการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ และสร้างบรรทัดฐานดิจิทัลอันแข็งแกร่ง

Digital Asia Initiative ครอบคลุมหัวข้อสำคัญ 10 หัวข้อ ได้แก่ การกระจายความเท่าเทียมทางดิจิทัล การอำนวยความสะดวกในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในชีวิต การส่งเสริมการศึกษาด้านไอทีเพื่อการเติบโต การหมุนเวียนความสามารถของพนักงานด้านไอที การส่งเสริมบริการดิจิทัลข้ามพรมแดนที่ราบรื่น การยกระดับความปลอดภัยทางดิจิทัล การให้คุณค่ากับความเป็นส่วนตัว การสร้างบรรทัดฐานดิจิทัล การสร้างสังคมดิจิทัลที่ยั่งยืน และการเสริมสร้างความร่วมมือทางดิจิทัลในเอเชีย

บริษัทและองค์กรเกาหลี 8 แห่งได้รับการยกย่องในพิธีมอบรางวัล ASOCIO ICT Awards ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ผู้ชนะรางวัลจากเกาหลี ได้แก่ MarkAny, LG UPlus, สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมไอทีแห่งชาติ (National IT Industry Promotion Agency), Elice, Severance Hospital, WooKyoung Information Technology, SK Inc. และ Supercoder (ทีมที่สอง)

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สมาพันธ์อุตสาหกรรมสารสนเทศเกาหลี
asocio@fkii.org

แหล่งข้อมูล: สมาพันธ์อุตสาหกรรมสารสนเทศเกาหลี

b-ex Inc. เป็นบริษัทญี่ปุ่นแห่งแรกในการประชุม World Biodiversity Summit ที่มุ่งมั่นในโครงการริเริ่มที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมความงาม

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–10 ตุลาคม 2023

b-ex Inc. (สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ เขตเซตากายะ โตเกียว ภายใต้ CEO Toshihiro Fukui) ซึ่งธุรกิจหลักคือการพัฒนาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระดับมืออาชีพสำหรับร้านเสริมสวยและช่องทางผู้บริโภค ได้เข้าร่วมการประชุม World Biodiversity Summit (WBS) ณ นิวยอร์ก ในวันที่ 21 กันยายน 2023
งานนี้จัดขึ้นร่วมกับเซสชันที่ 78 ของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA78) เป็นการประชุมระดับนานาชาติที่จัดโดยมูลนิธิสภาพภูมิอากาศโลก (WCF) ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและส่งเสริมการเจรจาระหว่างภาครัฐและเอกชน การประชุมฉบับแรกจัดขึ้นที่เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ ในปี 2021 การประชุมครั้งที่ 3 ในปีนี้ได้รวบรวมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียประมาณ 200 รายจากบริษัทและองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

b-ex CEO, Toshihiro Fukui (Photo: Business Wire)

ซีอีโอของ b-ex, Toshihiro Fukui (รูปภาพ: Business Wire)

b-ex ซึ่งเป็นบริษัทญี่ปุ่นแห่งแรกที่เข้าร่วมใน WBS โดยมี CEO Toshihiro Fukui เป็นตัวแทน เราได้นำความพยายามของเราไปสู่สังคมปราศจากคาร์บอน เช่น การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขนส่งผลิตภัณฑ์ และการลดการใช้พลาสติกสำหรับบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ เรายังแสดงความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับร้านทำผมเพื่อส่งเสริมเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และมุ่งมั่นที่จะเป็น “กลุ่มบริษัทความงามที่สะอาดและมืออาชีพอันดับ 1 ของเอเชีย”

ข้อความจาก Toshihiro Fukui ซีอีโอของ b-ex

รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เข้าร่วม WBS ในฐานะบริษัทญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกและได้มีโอกาสบรรยาย ในระหว่างการนำเสนอ ผมหยิบยกประเด็นขึ้นมาว่าเมื่อคำนวณปริมาณน้ำที่ใช้ในร้านทำผมทั่วประเทศญี่ปุ่น จะอยู่ที่ประมาณ 137 ล้านลิตรต่อวัน ผู้เข้าร่วมจำนวนมากแสดงความเห็นว่าแม้จะไปร้านทำผมปีละหลายครั้ง แต่พวกเขาก็ไม่ได้ตระหนักถึงปัญหาความหลากหลายทางชีวภาพที่เกิดจากสถานประกอบการเหล่านี้ ความคิดริเริ่มด้านความยั่งยืนกำลังแยกออกจากการจัดการร้านเสริมสวย b-ex มีเป้าหมายไม่เพียงแต่ในการจัดหาผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังสนับสนุนการจัดการร้านทำผมที่ยั่งยืนในอนาคต จึงเป็นผู้นำในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในอุตสาหกรรมความงาม เรามุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกันเพื่อเอาชนะความท้าทายทั้งหมดและปรารถนาให้การกระทำของเราทำหน้าที่เป็นตัวเร่งไม่เฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมความงามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในวงกว้างในญี่ปุ่นด้วย

หากต้องการชมวิดีโอกรุณาคลิกที่นี่:
https://www.b-ex.inc/en/news/index_news20230922.html

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53576760/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

b-ex Inc.
Yuko Fujishima
press@b-experience.com
+81-3-6757-4080

ที่มา: b-ex Inc.

อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัย การวิจัย การแพทย์ของจีนผงาดขึ้นแท่นอันดับต้น ๆ ของโลก: ปิดการประชุม International Skin Health Summit ปี 2023 ของ BOTANEE

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–12 กรกฎาคม 2023

Guo Zhenyu ประธานและผู้อำนวยการของ BOTANEE Group กล่าวว่า “ในปี 2015 เราได้ปรากฏตัวครั้งแรกในงานประชุมแพทย์ผิวหนังระดับโลกที่แวนคูเวอร์ (Vancouver WCD) ด้วยแบรนด์หลัก WINONA หลังจากผ่านไปแปดปี WINONA ได้กลายเป็นแบรนด์ชั้นนำของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เน้นการใช้งานในประเทศจีน เราได้รับเชิญให้เข้าร่วมในงานประชุมแพทย์ผิวหนังระดับโลก (WCD) ถึง 3 ครั้งในปีนี้ และได้นำเสนอแบรนด์หลัก 4 แบรนด์ ผมหวังว่าหลังจาก 4 ปีผ่านไป แบรนด์เหล่านี้จะสร้างผลกระทบใหม่ๆ ให้กับงานประชุมแพทย์ผิวหนังระดับโลก (WCD) ทั้งในด้านวิชาการ เทคนิค คลินิก และผลกระทบทางสังคม”

2023 BOTANEE International Skin Health Summit (Photo: Business Wire)

2023 BOTANEE International Skin Health Summit (Photo: Business Wire)

ในระหว่างงานประชุมแพทย์ผิวหนังระดับโลก (WCD) ที่สิงคโปร์ BOTANEE Group ได้จัดงาน International Skin Health Summit ปี 2023 ในเวลาเดียวกัน โดยนำ 4 แบรนด์ได้แก่ WINONA, WINONA Baby, AOXMED และ Beforteen ขึ้นสู่เวทีโลกเป็นครั้งแรก ซึ่งแสดงถึงความแข็งแกร่งทางวิชาชีพขององค์กรแพทย์ผิวหนังชั้นนำของจีน

ศาสตราจารย์ He Li คณบดีผู้บริหารโรงพยาบาลโรคผิวหนังของโรงพยาบาลในเครือแห่งแรกของ Kunming Medical University ได้แบ่งปันประสบการณ์ในการประชุมนี้ เธอกล่าวว่าผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งและลดกระแบบ โฟร์ อิน วัน ที่มาพร้อมการซ่อมแซมเกราะป้องกันผิว ต้านการอักเสบ ลดการผลิตเม็ดสี และปรับปรุงการไหลเวียนของจุลภาค สามารถให้ผลการรักษาที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อใช้ภายนอกในช่วงที่มีฝ้าทั้งในระยะ active และ stable

จากข้อมูลระบาดวิทยาที่มีอยู่ อัตราความชุกของโรคภูมิแพ้ผิวหนัง (AD) ในเด็กอายุ 1-7 ปีในประเทศจีนอยู่ที่ 12.94% และอัตราความชุกของโรคภูมิแพ้ผิวหนัง (AD) ในทารกอายุ 1-12 เดือนอยู่ที่ 30.48% ศาสตราจารย์ Ma Lin ผู้อำนวยการแผนกโรคผิวหนังของโรงพยาบาลเด็กปักกิ่ง ในเครือของ Capital Medical University ชี้ให้เห็นว่า WINONA Baby Cream สามารถใช้เป็นครีมบำรุงประจำวันเพื่อผิวที่เนียนนุ่ม เพื่อป้องกันโรคภูมิแพ้ผิวหนัง (AD) ในเด็กในระยะทุเลาได้ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่เด็กจะเกิดโรคภูมิแพ้ผิวหนัง (AD) ซ้ำได้อย่างมากโดยคงผลการรักษาไว้

ด้วยการทำซ้ำอย่างต่อเนื่องของตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อผลที่มีประสิทธิภาพและความต้องการของผู้บริโภค BOTANEE ยังมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการสร้างแบรนด์ ด้วยเหตุนี้ AOXMED จึงเป็นผลงานวิจัยและพัฒนาอันชาญฉลาดของ BOTANEE มานานกว่าสิบปี ซึ่งยืนหยัดในการสำรวจเทคโนโลยีล้ำสมัยและวิทยาศาสตร์ที่อิงตามหลักฐานสำหรับการบริโภคหลักสองประการในด้านความงามทางการแพทย์และชีวิตประจำวัน และนำเสนอโซลูชั่นการฟื้นฟูผิวที่เชื่อมโยงความงามทางการแพทย์และความงามที่ทำได้ที่บ้านไว้ด้วยกัน

ในตอนท้ายของฟอรัม ผู้เชี่ยวชาญได้อภิปรายถึงวิธีการทำให้การวินิจฉัยสิวระดับสูงของแพทย์ลงลึกไปถึงระดับรากหญ้า Beforteen ได้ให้แนวทางแก้ไขในเรื่องนี้ ในฐานะแบรนด์รักษาสิวน้องใหม่ที่เปิดตัวโดย BOTANEE Beforteen และทีมผู้เชี่ยวชาญได้ทำกรณีศึกษามากกว่าหนึ่งล้านเคส และเมื่อรวมกับเซสชั่นการให้คำปรึกษาด้วย AI พวกเขาสามารถนำเสนอ “อาหาร+ยา+การแต่งหน้า” ในแบบเฉพาะบุคคลแก่ผู้ใช้แต่ละรายตามประเภทสิวต่างๆ

ตามรายงานประจำปี 2022 ของ BOTANEE บริษัทได้ลงทุนประมาณ 255 ล้านหยวนในค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 124.96% เมื่อเทียบเป็นรายปี และมีอัตราการวิจัยและพัฒนา (R&D) สูงถึง 5.08% ในปีนี้ โรงงานกลางแห่งใหม่ของ BOTANEE ซึ่งมีมูลค่าเกือบ 500 ล้านหยวน ได้เริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งจะช่วยส่งเสริมคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการพัฒนาอย่างยั่งยืนของแบรนด์ต่อไป

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53448575/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Wu Ling
อีเมล: wuling@winona.cn
เว็บไซต์: https://www.botanee.com.cn/index.html

แหล่งที่มา: BOTANEE Group

Mary Kay เน้นย้ำถึงความสำคัญของความเป็นผู้นำของผู้หญิงและการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในการอนุรักษ์ที่งาน World Ocean Summit 2023 ซึ่งจัดโดย Economist Impact

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–22 มีนาคม 2023 

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนระดับโลกด้านความยั่งยืนขององค์กรและผู้ลงนามในหลักการมหาสมุทรที่ยั่งยืนของ UN Global Compact ยังคงมีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์มหาสมุทร ในเดือนกุมภาพันธ์ แบรนด์ความงามนี้ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มที่ล้ำสมัยและเป็นมิตรกับผู้ใช้ โดยนำเสนอคำแนะนำอันทรงคุณค่า เครื่องมือสนับสนุนการตัดสินใจ และความรู้เชิงปฏิบัติสำหรับผู้ปฏิบัติงานทางทะเล หลังจากการประกาศ เมื่อไม่นานมานี้ Mary Kay ได้เข้าร่วมงาน World Ocean Summit และ Expo 2023 ครั้งที่ 10 ที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ซึ่งจัดโดย Economist Impact

Sandra Silva, Mary Kay Portugal’s General Manager participates on a panel on the topic of

Sandra Silva ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay Portugal เข้าร่วมการอภิปรายในหัวข้อ “Putting Coral Reef Restoration at the Heart of Ocean Conservation Action” ที่งาน World Ocean Summit ที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส (เครดิต: Mary Kay Inc.)

World Ocean Summit เป็นงานระดับโลกประจำปีที่รวบรวมภาคส่วนกว้างที่สุดของชุมชนมหาสมุทร ตั้งแต่ธุรกิจและการเงินไปจนถึงรัฐบาล ผู้กำหนดนโยบายระดับชาติและระดับนานาชาติ ภาคประชาสังคม และสถาบันการศึกษา ผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 1,500 คนจากกว่า 100 ประเทศเข้าร่วมการประชุมสุดยอดสามวัน โดยมีวิทยากร 188 คนกล่าวถึงความท้าทายเร่งด่วนที่สุดที่มหาสมุทรต้องเผชิญ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และมลพิษ

Sandra Silva ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay Portugal เป็นหนึ่งในผู้ร่วมอภิปรายที่โดดเด่นในการอภิปราย Putting Coral Reef Restoration at the Heart of Ocean Conservation Action” ของการประชุมสุดยอด ซึ่งเธอได้เข้าร่วมกับวิทยากรที่มีชื่อเสียงคนอื่น ๆ เช่น Yabanex Batista จาก Global Fund for Coral Reefs (สหประชาชาติ), Tom Moore จาก King Abdullah University of Science and Technology (ซาอุดีอาระเบีย) และ Deborah Brosnan จาก Deborah Brosnan & Associates

Silva เน้นย้ำถึงความสำคัญของการอนุรักษ์มหาสมุทร โดยกล่าวว่า “มหาสมุทรมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของผู้คนหลายพันล้านคน และเราทุกคนมีบทบาทในการอนุรักษ์มหาสมุทรและเศรษฐกิจที่ได้จากมหาสมุทรอย่างยั่งยืน Mary Kay สนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถของผู้หญิงในทุกด้านของชีวิตและธุรกิจ รวมถึงความสมบูรณ์ของโลกของเรา”

Martin Koehring หัวหน้าฝ่ายโครงการ World Ocean Initiative ของ Economist Impact กล่าวว่า “การรักษาโมเมนตัมต่อปฏิบัติการในมหาสมุทร ซึ่งรวมถึงผ่านการประชุมสุดยอดและสื่อสิ่งพิมพ์ของเรานั้นมีความสำคัญ ในปีนี้ การประชุมสุดยอดได้ผลักดันความก้าวหน้าโดยนำเสนอการประชุมข้ามอุตสาหกรรมเพื่อใช้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกันและส่งเสริมการมีส่วนร่วมข้ามภาคส่วน การมีส่วนร่วมของ Mary Kay ใน World Ocean Summit และ Expo 2023 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการอนุรักษ์มหาสมุทรและความทุ่มเทในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน”

โครงการ World Ocean Initiative เปลี่ยนโมเมนตัมและจุดโฟกัสของ World Ocean Summit ให้เป็นโครงการตลอดทั้งปีในมหาสมุทรที่ขับเคลื่อนความสามารถทั้งหมดของ Economist Impact โดยผสมผสานความเฉลียวฉลาดของคลังความคิดเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ของแบรนด์สื่อเพื่อดึงดูดผู้ชมที่มีอิทธิพลทั่วโลก โครงการ World Ocean Initiative พยายามที่จะให้ความกระจ่าง กระตุ้น และปลูกฝังการทำงานร่วมกันที่ดีขึ้นระหว่างธุรกิจ ผู้กำหนดนโยบาย นักลงทุน นักวิทยาศาสตร์ และองค์กรพัฒนาเอกชน เพื่อแสวงหาแนวทางแก้ไขสำหรับความท้าทายและโอกาสในมหาสมุทรที่เร่งด่วนที่สุด

Mary Kay ทำงานเพื่อยกระดับสุขภาพของมหาสมุทรและการรับรู้แนวปะการังผ่านการเป็นพันธมิตรกับ The Nature Conservancy มานานกว่า 32 ปี หนึ่งในโครงการสำคัญที่ Mary Kay สนับสนุนเรียกว่า “Super Reefs” ซึ่งระบุ ปกป้อง และสร้างเครือข่ายแนวปะการังทั่วโลกที่มีความยืดหยุ่นสูงที่สามารถอยู่รอดได้ในมหาสมุทรที่ร้อนขึ้น

Dr. Elizabeth McLeod จาก The Nature Conservancy กล่าวว่า “ทีม Super Reefs รวบรวมรัฐบาลและชุมชนแนวปะการัง พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์มหาสมุทร การอนุรักษ์ และการจัดการจาก Woods Hole Oceanographic Institution, Stanford University และ The Nature Conservancy พร้อมด้วยการสนับสนุนจากภาคเอกชนจาก Mary Kay ในช่วงเวลาวิกฤตในประวัติศาสตร์ของแนวปะการัง”

คลิกที่นี่เพื่อชมการอภิปราย Putting Coral Reef Restoration At The Heart Of Ocean Conservation Action

คุณรู้หรือไม่?

  • CEO Water Mandate เป็นความคิดริเริ่มของ UN Global Compact ที่ระดมผู้นำทางธุรกิจเกี่ยวกับน้ำ สุขอนามัย และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (Mary Kay เป็นผู้ลงนามและเข้าร่วมในเดือนกุมภาพันธ์ 2021)
  • หลักการด้านมหาสมุทรที่ยั่งยืน ซึ่งจัดทำขึ้นโดยปรึกษาหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกว่า 300 ราย ได้จัดทำกรอบแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจที่มีความรับผิดชอบในภาคส่วนและภูมิภาคต่าง ๆ พวกเขาสร้างและเสริมหลักการสิบประการของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แรงงาน สิ่งแวดล้อม และการต่อต้านการทุจริต (Mary Kay เป็นผู้ลงนามและเข้าร่วมในเดือนกุมภาพันธ์ 2021)
  • มหาสมุทรมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจที่มีสุทธิเป็นศูนย์ มีความยืดหยุ่น และมีความเท่าเทียมกัน และส่งมอบวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนในปี 2030 ทั้งหมด ชุมชนธุรกิจทั่วโลกมีความรับผิดชอบร่วมกันในการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อรักษามหาสมุทรที่ดี (Mary Kay เป็นสมาชิกและเข้าร่วมในเดือนสิงหาคม 2022)

เกี่ยวกับ MARY KAY

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 1963 โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือเติมเต็มชีวิตให้กับผู้หญิง ความฝันนั้นได้เบ่งบานกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราบน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ผืนดินและผืนน้ำที่ทุกชีวิตต้องพึ่งพา ด้วยแนวทางทางวิทยาศาสตร์ เราได้สร้างวิธีแก้ปัญหาที่เป็นนวัตกรรมบนพื้นฐานสำหรับความท้าทายที่ยากที่สุดในโลกของเรา เพื่อให้ธรรมชาติและผู้คนสามารถเติบโตไปด้วยกันได้ เรากำลังจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อนุรักษ์ผืนดิน น้ำ และมหาสมุทรในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน จัดหาอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน และช่วยให้เมืองมีความยั่งยืนมากขึ้น เราทำงานใน 76 ประเทศและดินแดน 37 แห่งโดยผลกระทบด้านการอนุรักษ์โดยตรง และ 39 แห่งโดยคู่ค้า เราใช้วิธีการทำงานร่วมกันที่มีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น รัฐบาล ภาคเอกชน และพันธมิตรอื่น ๆ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press บน Twitter

เกี่ยวกับโครงการ World Ocean Initiative

World Ocean Initiative ของ Economist Impact สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจมหาสมุทรที่ยั่งยืนโดยจัดการกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ทะเลของเราเผชิญ ซึ่งก็คือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และมลพิษ ตลอดทั้งปีและที่งาน World Ocean Summit ซึ่งเป็นเรือธงของเรา เราสร้างแรงบันดาลใจในการคิดที่กล้าหาญ เริ่มความร่วมมือใหม่ ๆ และสำรวจการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อดาวเคราะห์สีฟ้าที่สมบูรณ์ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ impact.economist.com/ocean

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53366240/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

ที่มา: Mary Kay Inc.








Mary Kay จุดประกายแห่งฝันให้กับผู้นำพลังหญิงรุ่นใหม่จากหลักสูตร STEAM ที่งาน Youth Summit

Logo

Young Women’s Preparatory Network / Irma Lerma Rangel Young Women’s Leadership School Students ร่วมเฉลิมฉลองวันแห่ง STEAM อันแสนพิเศษเพื่อจุดไฟแห่งฝันในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำแห่งแวดวง STEAM

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–14 กุมภาพันธ์ 2023

Mary Kay Inc. บริษัทระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจเพื่อสนับสนุนการศึกษาและเสริมสร้างขีดความสามารถให้กับผู้หญิง ได้เชิญเด็กหญิงวัยรุ่น 25 คนจาก Young Women’s Preparatory Network (YWPN) / Irma Lerma Rangel Young Women’s Leadership School ประจำเขตพื้นที่การศึกษาของโรงเรียนเอกชนดัลลาส มาเพื่อศึกษาดูงาน และสร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับผู้หญิงในแวดวง STEAM ซึ่งในกิจกรรมนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ร่วมกันเฉลิมฉลองวันสตรีและเด็กหญิงในวงการวิทยาศาสตร์สากล (International Day of Women and Girls in Science) เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาด้วย

Mary Kay Inc. welcomed students from the Irma Lerma Rangel Young Women’s Leadership School to R3 for a STEAM themed summit exploring being a woman in STEAM. (Photo: Mary Kay Inc.)

Mary Kay Inc. ขอต้อนรับนักศึกษาจาก Irma Lerma Rangel Young Women’s Leadership School สู่ R3 เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดในหัวข้อ STEAM เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นเพศหญิงในวงการ STEAM (รูปภาพ: Mary Kay Inc.)

โดยบรรดานักเรียนสาววัยมัธยมได้ใช้เวลาทั้งวันที่ศูนย์การผลิต/R&D Richard R. Rogers ของ Mary ในเลวิสวิลล์ ที่เท็กซัส ซึ่งทุกคนได้เยี่ยมชมอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกสุดทันสมัย ทั้งยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับแง่มุมต่าง ๆ ของกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตร STEAM ในบริษัทด้านความงามครบวงจรระดับโลก นอกจากการเยี่ยมชมบริษัทและการผลิตในส่วนต่าง ๆ แล้วนักเรียนนักศึกษายังได้ร่วมรับฟังการอภิปรายจากผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ ของ STEAM ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้หญิงเก่งจากหลากสาขาอาชีพ ในการอภิปรายครั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ เช่น การคิดค้นนวัตกรรมต้นน้ำ การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยีสารสนเทศ การวิจัยผลิตภัณฑ์ การวางแผนกลยุทธ์การจัดสรรทรัพยากร และการพัฒนา ส่วนในช่วงบ่ายนักเรียนจะได้เข้าร่วมรับประทานอาหารกลางวันพร้อมกับให้คำปรึกษาถึงโอกาสในเส้นทางอาชีพสายต่าง ๆ ของผู้หญิงในแวดวง STEAM ไปจนถึงการให้แรงบันดาลใจด้านการงานอาชีพเป็นรายบุคคล รวมทั้งวิธีกระตุ้น เตรียมพร้อม และสนับสนุนเด็กหญิงวัยรุ่นให้กล้าออกไปไล่ล่าความฝันในแวดวง STEAM อย่างเต็มภาคภูมิ

“Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างขีดความสามารถและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงเจเนอเรชันใหม่ให้กล้าออกไปไล่ล่าท้าทายความฝันของตน เพราะโลกยุคต่อไปจะขับเคลื่อนด้วยเหล่าผู้คนจาก STEAM” Dr. Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และวิทยาศาสตร์ของ Mary Kay กล่าว “ผู้หญิงจัดเป็นแรงงานที่มีบทบาทน้อยมากในแวดวง STEAM แต่เราสามารถลดช่องว่างนี้ได้ด้วยการให้โอกาสในการเรียนรู้และเปิดรับสิ่งต่าง ๆ ซึ่งมีความสำคัญต่อเด็กหญิงวัยรุ่นเพื่อส่งเสริมให้พวกเธอกล้าออกไปตามความฝันและสำรวจเส้นทางสายอาชีพในแวดวง STEAM ที่พวกเธอสนใจอย่างเต็มที่”

Young Women’s Preparatory Network คือหน่วยงานไม่แสวงหากำไรซึ่งร่วมมือกับเขตพื้นที่การศึกษาทั่วรัฐเท็กซัสเพื่อสร้างเครือข่ายโรงเรียนหญิงล้วนของรัฐและโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โรงเรียนในเครือ YWPN จะตั้งอยู่ในเขตชุมชนเมืองที่มีความยากลำบาก แต่มีประวัติด้านผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา และมีอัตราการสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาไปจนถึงการเข้าเรียนต่อระดับวิทยาลัยที่น่าพึงพอใจ YWPN ได้สร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ/เอกชนแห่งแรกขึ้นที่เขตพื้นที่การศึกษาของโรงเรียนเอกชนดัลลาส ด้วยการเปิด Irma Lerma Rangel Young Women’s Leadership School ขึ้นในปี 2004

“เราดีใจเป็นอย่างยิ่งที่บรรดาเด็กสาววัยรุ่นของเราได้มีส่วนร่วมในวันแห่งการเชื่อมโยงถึงกันอย่างมีความหมายระหว่างเหล่าอนาคตของชาติกับบรรดาหญิงแกร่งแห่งแวดวง STEAM และเราขอขอบคุณ Mary Kay เป็นอย่างสูงที่ทำให้โอกาสดี ๆ เช่นนี้เกิดขึ้นจริงได้” Lynn McBee ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแห่ง Young Women’s Preparatory Network กล่าว “ผู้นำในโลกอนาคตเหล่านี้คือบรรดาหญิงสาวที่เฉลียวฉลาดและมีพรสวรรค์อย่างเต็มเปี่ยม การที่พวกเธอได้รับโอกาสในการพบปะกับบรรดาหญิงเก่งที่ประสบความสำเร็จในเส้นทางสาย STEAM และได้เห็นว่าพวกเธอสามารถสร้างแรงกระเพื่อมในแง่บวกให้กับสังคมได้มากแค่ไหน ยิ่งเป็นการจุดประกายฝันให้พวกเธอก้าวไปได้ไกลขึ้น ไขว่คว้าความสำเร็จได้มากขึ้น และหวังว่าสักวันพวกเธอจะสามารถเปลี่ยนโลกด้วยศาสตร์แห่ง STEAM ที่พวกเธอเรียนรู้มาเกือบครึ่งค่อนชีวิต”

Mary Kay ขอเฉลิมฉลองและสนับสนุนเหล่าหญิงสาวทุกคนที่กล้ากำหนดอนาคตของตนเองผ่านความเป็นผู้นำ การสร้างสรรค์นวัตกรรม และความมุ่งมั่นที่จะก้าวหน้าในวงการ STEAM เพราะสำหรับวงการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์มีผู้หญิงเพียง 28% เท่านั้นที่โลดแล่นอยู่ในวงการนี้ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก [1] จึงเป็นหน้าที่ของทางบริษัทที่จะสืบทอดปณิธานของ Mary Kay เพื่อสนับสนุนหญิงสาววัยแรกแย้มให้มีความกล้าในการลุกขึ้นมาไล่ล่าฝันในสายอาชีพ STEAM และเป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนาชีวิตของผู้หญิงทุกคนจากทั่วทุกมุมโลก

[1]แหล่งที่มา
National Girls Collaborative Project (2022). The State of Girls and Women in Stem. https://ngcproject.org/resources/state-girls-and-women-stem

เกี่ยวกับ Mary Kay Inc.

Mary Kay Ash คือผู้หญิงคนแรก ๆ ที่กล้าทลายกำแพงที่กดทับความก้าวหน้าของสตรีเพศด้วยการก่อตั้งบริษัทด้านความงามในฝันของเธอเมื่อปี 1963 ด้วยปณิธานอันแน่วแน่ว่าต้องการเพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตของผู้หญิง เมื่อเวลาผ่านไปความฝันของเธอค่อย ๆ เบ่งบานจากบริษัทขนาดเล็ก ค่อย ๆ ขยายตัวกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีสมาชิกในหน่วยงานขายอิสระกระจายอยู่ตัวอยู่ในกว่า 35 ประเทศทั่วโลก และในฐานะที่บริษัทแห่งนี้เป็นบริษัทที่มีฝันอยากช่วยพัฒนาผู้ประกอบการทำให้ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเสริมขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในเส้นทางที่พวกเธอเลือกเดิน ผ่านการพัฒนาการศึกษา ให้คำปรึกษา ให้การสนับสนุน สร้างเครือข่ายและนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อผู้หญิง นอกจากนี้ Mary Kay ยังยอมอุทิศทรัพย์สินส่วนตัวเพื่อการลงทุนในวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความสวยความงาม และการผลิตสกินแคร์ สีเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และน้ำหอมที่ทันสมัย เพราะ Mary Kay เชื่อว่าการเพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตในวันนี้จะนำไปสู่พรุ่งนี้ที่ยั่งยืน เธอจึงร่วมมือกับบริษัทต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นด้านการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนงานวิจัยด้านมะเร็ง พัฒนาด้านความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัว ส่งเสริมด้านความงามให้กับชุมชนของเรา และสนับสนุนอย่างสุดหัวใจให้เด็ก ๆ กล้าออกไปตามความฝัน หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมให้เข้าไปที่ marykayglobal.com หรือค้นหาเราได้ที่ FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ที่ Twitter

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53320643/en

ช่องทางติดต่อ

Mary Kay Inc. Global Communications
newsroom.marykay.com
+1.972.687.5332
media@mkcorp.com

ที่มา: Mary Kay Inc.


Mary Kay Inc. จัดทำกรณีศึกษาทางธุรกิจเพื่อการจัดซื้อจัดจ้างที่มีความเสมอภาคทางเพศสภาพ ณ การประชุมซัมมิทด้านความหลากหลาย (Diversity Summit) ในกรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก

Logo

Mary Kay สนับสนุนโครงการความหลากหลายของซัพพลายเออร์และการจัดซื้อจัดจ้างที่มีความเสมอภาคทางเพศสภาพเพื่อกลยุทธ์ที่ทรงพลังสำหรับการเติบโตที่ยั่งยืนอย่างมีส่วนร่วม

DALLAS–(BUSINESS WIRE)–20 ตุลาคม 2022

Mary Kay ผู้เป็นแชมป์มาอย่างยาวนานและผู้ให้การสนับสนุนระดับโลกในด้านการเสริมสร้างพลังสตรีและความเท่าเทียมทางเพศ นำเสนอความโปร่งใสในการดำเนินการด้านการจัดซื้อจัดจ้างที่มีความเสมอภาคทางเพศสภาพ (GRP) ณ การประชุมซัมมิทด้านความหลากหลาย (Diversity Summit) ในกรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก ซึ่ง Startup Disrupt เป็นเจ้าภาพเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2022 ณ Clam-Gallas Palace ที่มีการปรับปรุงใหม่ การประชุมซัมมิทนี้เป็นการประชุมแบบผสมผสานที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปด้านความหลากหลาย ความเสมอภาค และการมีส่วนร่วม (DEI) ซึ่งรวมผู้บรรยายหลักมากกว่า 50 คน จากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ภาครัฐ และภาคธุรกิจ งานนี้จัดขึ้นภายใต้การอุปถัมภ์ของประธานาธิบดีเช็กของสภาสหภาพยุโรป ที่ปราก เมืองหลวงแห่งสาธารณรัฐเช็ก และสถานทูตสหรัฐฯ ในสาธารณรัฐเช็ก

“Studies show that women entrepreneurs tend to reinvest up to 90% of their earnings in their families and communities, thus linking inclusive economic growth directly to development,” says Virginie Naigeon-Malek, Mary Kay Inc. Global Head of Sustainability and Social Impact. (Credit: Mary Kay Inc.)

“จากการศึกษาพบว่า ผู้ประกอบการหญิงมีแนวโน้มที่จะลงทุนมากถึง 90% ของรายได้ของครอบครัวและชุมชน ซึ่งเชื่อมโยงการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีส่วนร่วมเข้ากับการพัฒนาเศรษฐกิจโดยตรง” กล่าวโดย Virginie Naigeon-Malek, Mary Kay Inc. หัวหน้าฝ่ายความยั่งยืนและกลยุทธ์ทางสังคม (เครดิต: Mary Kay Inc.)

วิทยากรและผู้นำทางความคิด ได้แก่ Alyssa Carson ผู้คลั่งไคล้อวกาศชาวอเมริกัน, Helena Dalli กรรมาธิการยุโรปเพื่อความเท่าเทียม, Lenka Simerská จากกระทรวงแรงงานและกิจการสังคมแห่งสาธารณรัฐเช็ก, Denisa Linhartová จากคณะกรรมาธิการโอลิมปิกแห่งสาธารณรัฐเช็ก, นักเศรษฐศาสตร์ Danuše Nerudová, Lea Lundblad จาก Apple, Rebeca Grattan จาก Avast และ Virginie Naigeon-Malek จาก Mary Kay Inc. ได้มีการแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกในหัวข้อสำคัญ ๆ เช่น

• การใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศแบบ DEI กับเป้าหมายทางธุรกิจ

• การพัฒนาและรักษาวัฒนธรรมของบริษัทแบบ DEI

• การออกแบบและนวัตกรรมเพื่อคนทุกคน

• การเสริมสร้างพลังสตรี

“จุดประสงค์ของการประชุมซัมมิทด้านความหลากหลาย (Diversity Summit) คือเพื่อให้เรารวบรวมความคิดที่เฉียบแหลมที่สุดในหน่วยงานส่วนบุคคล ภาครัฐ และภาคเอกชน และเพื่อรวมเสียงของพวกเขาในการชุมนุมที่หนักแน่นต่อความเท่าเทียมทางเพศ ไม่เพียงแต่ในสาธารณรัฐเช็กและยุโรปเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทั่วโลก เรารู้ว่าการลดความเหลื่อมล้ำนั้นช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและพัฒนาสังคมให้ยั่งยืนและแข็งแกร่ง ซึ่งเปิดโอกาสให้คนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ได้เติมเต็มศักยภาพของพวกเขา” กล่าวโดย Patrik Juránek ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Startup Disrupt

Virginie Naigeon-Malek หัวหน้าฝ่ายความยั่งยืนและผลลัพธ์ทางสังคมระดับโลกที่ Mary Kay Inc. เป็นหนึ่งในวิทยากรผู้พูดประเด็นสำคัญในหัวข้อการเสริมสร้างอำนาจทางเศรษฐกิจของสตรี โดยเธอได้สร้างกรณีศึกษาทางธุรกิจเพื่อรวมซัพพลายเออร์หญิงด้านการบริการและสินค้าไว้ในห่วงโซ่คุณค่า (value chain) ระดับโลกเพื่อกลยุทธ์อันทรงพลังสำหรับบริษัทต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนและผลลัพธ์ทางสังคม

องค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) ให้คำจำกัดความการจัดซื้อจัดจ้างที่มีความเสมอภาคทางเพศสภาพ1 ว่าเป็น “การเลือกการบริการ สินค้า หรืองานสาธารณะอย่างยั่งยืนจากวิสาหกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของหรือที่นำโดยผู้หญิง และธุรกิจที่มีความเสมอภาคทางเพศสภาพ อย่างผู้ที่มีนโยบายและแนวปฏิบัติที่มีความเสมอภาคทางเพศสภาพสำหรับพนักงานและห่วงโซ่อุปทาน” ในภูมิภาคยุโรป มีผู้หญิงเป็นผู้ประกอบการน้อยกว่าหนึ่งในสามของผู้ประกอบการทั้งหมด จากการศึกษาพบว่าแม้ว่าผู้หญิงจะได้รับเงินลงทุนเพียงครึ่งเดียวเมื่อเทียบกับผู้ชาย แต่บริษัทของพวกเขาก็สร้างรายได้เพิ่มขึ้นสองเท่าสำหรับการลงทุนในแต่ละดอลลาร์2

“การลงทุนในธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของและการรวมพวกเขาในห่วงโซ่อุปทานระดับโลกไม่เพียงแต่เป็นสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่ฉลาดที่ควรทำสำหรับองค์กรด้วย เมื่อซัพพลายเออร์หญิงทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น ครอบครัวของพวกเขา ชุมชนท้องถิ่น และเศรษฐกิจของประเทศก็จะได้รับประโยชน์ จากการศึกษาพบว่า ผู้ประกอบการหญิงมีแนวโน้มที่จะลงทุนมากถึง 90% ของรายได้ของครอบครัวและชุมชน ซึ่งเชื่อมโยงการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีส่วนร่วมเข้ากับการพัฒนาเศรษฐกิจโดยตรง ธุรกิจสตรีจำเป็นต้องมีฐานรากที่เท่าเทียมกันในขณะที่แข่งขันเพื่อโอกาสในการทำสัญญา” กล่าวโดย Virginie Naigeon-Malek, Mary Kay Inc. หัวหน้าฝ่ายความยั่งยืนและผลลัพธ์ทางสังคม

ดูวิดีโอเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของ Mary Kay ที่มีต่อความหลากหลายและการไม่แบ่งแยกซัพพลายเออร์ (SDI) และการจัดซื้อจัดจ้างที่มีความเสมอภาคทางเพศสภาพ

“จากความสำเร็จของการประชุมวิชาการระดับนานาชาติสำหรับอนาคตที่ยั่งยืน เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ Startup Disrupt อีกครั้ง ซึ่งทำให้ Diversity อยู่ในอันดับต้น ๆ ของวาระการประชุมระดับโลก ทั้งยังส่งเสริมการเจรจาระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด และมีส่วนร่วมกับชุมชนของเรา เราทุกคนจำเป็นต้องทำงานร่วมกันด้วยแนวคิดเชิงนวัตกรรมเพื่อขจัดอุปสรรคในการเสริมสร้างอำนาจและความเท่าเทียมของสตรี” กล่าวโดย Edita Szaboova, ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay สาธารณรัฐเช็กและสโลวาเกีย

รู้หรือไม่

• 1 ใน 3 ของธุรกิจทั่วโลกเป็นของผู้หญิง

• อย่างไรก็ตาม โดยเฉลี่ยแล้ว ธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของทั่วโลกได้มีส่วนร่วมน้อยกว่า 1% ของค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมดของบริษัทขนาดใหญ่และรัฐบาล

• จากการประเมินพบว่าสำนักงานจัดซื้อจัดจ้างขององค์กรควรบริหารค่าเฉลี่ย 64 เปอร์เซ็นต์ของค่าใช้จ่ายองค์กรทั้งหมดของบริษัท

ที่มา: Vazquez, E.A & A.J. Sherman. (2013). Buying for Impact: How to Buy from Women and Change the World. Charleston, South Carolina: Advantage

เกี่ยวกับ MARY KAY

Mary Kay Ash หนึ่งในผู้ผลิตฝ้าเพดานกระจกรุ่นดั้งเดิม ก่อตั้งบริษัทความงามในฝันของเธอในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือทำให้ชีวิตของผู้หญิงมีคุณค่ามากขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในเส้นทางของพวกเธอผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย ​​เครื่องสำอางสำหรับการแต่งหน้า อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการทารุณกรรมในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com หรือบน FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ใน Twitter

เกี่ยวกับ STARTUP DISRUPT

Startup Disrupt ก่อตั้งขึ้นในปี 2020 และมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือธุรกิจและผู้ขัดขวางทางเทคโนโลยีให้เปลี่ยนวิธีคิดแบบ 'เก่า' ในอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ และการบริการ เราเป็นกลุ่มผู้สนใจสตาร์ทอัพที่มุ่งมั่นสู่อนาคตที่ต้องการช่วยเหลือผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ วิศวกร นักพัฒนา นักประดิษฐ์ด้านเทคโนโลยี และคนอื่น ๆ ให้ประสบความสำเร็จ จุดประสงค์ของ Startup Disrupt คือการเป็นแพลตฟอร์มสตาร์ทอัพที่ออกแบบมาเพื่อให้ความรู้ แรงบันดาลใจ และเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการ ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ ผู้สร้างนวัตกรรมเทคโนโลยี และชุมชนสตาร์ทอัพทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ https://www.startupdisrupt.com/

1 UN Women. (2022). “Procurement’s Strategic Value: Why Gender-responsive Procurement Makes Business Sense.” New York: UN Women.

2 “Funding Women Entrepreneurs: How to Empower Growth.” (June 2020). Prepared for: The European Commission By: Innovation Finance Advisory.

ติดต่อ

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or 
media@mkcorp.com

แหล่งข้อมูล: Mary Kay Inc.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย