HanesBrands ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในบริษัท ที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกประจำปี 2564

Logo

การสมัครครั้งแรกกับ Ethisphere ทำให้บริษัทได้อยู่ในรายชื่อ 135 บริษัททั่วโลกที่ได้รับการยอมรับในการดำเนินธุรกิจที่มีจริยธรรม

วินสตัน-ซาเลม นอร์ทแคโรไลนา–(บิสิเนสไวร์)–23 ก.พ.2564

HanesBrands (NYSE: HBI) ผู้นำด้านการตลาดที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและเป็นผู้นำระดับโลกด้านเครื่องแต่งกายพื้นฐานในชีวิตประจำวันได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งใน บริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกปี 2563 โดย Ethisphere ผู้นำระดับโลกในการกำหนดและพัฒนามาตรฐานของธุรกิจที่มีจริยธรรม

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210223005687/en/

HanesBrands เป็นหนึ่งในผู้ผลิตเครื่องแต่งกายเพียงสองรายที่ได้รับการยอมรับจาก 135 บริษัทใน 22 ประเทศและ 47 อุตสาหกรรม  กระบวนการประเมินของ Ethisphere ประกอบด้วยคำถามมากกว่า 200 ข้อเกี่ยวกับวัฒนธรรม การปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม กิจกรรมด้านจริยธรรม และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ การกำกับดูแล ความหลากหลาย และการริเริ่มเพื่อสนับสนุนห่วงโซ่คุณค่าที่แข็งแกร่ง ในปีนี้ Ethisphere ยังได้ประเมินว่าความสามารถของผู้สมัครในการปรับตัวและตอบสนองต่อการระบาดด้านสุขภาพทั่วโลก ความปลอดภัย ความเสมอภาคและการไม่แบ่งแยก และความยุติธรรมในสังคม

“เรามีความมุ่งมั่นอย่างมากในการดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบและเราภูมิใจมากที่ได้รับการยอมรับจาก Ethisphere” ซีอีโอก Steve Bratspies ล่าว “รางวัลนี้เป็นผลมาจากพนักงาน 61,000 คนทั่วโลกที่มุ่งมั่นที่ดำเนินธุรกิจของเราในทางที่ถูกต้อง  ผู้บริโภครับรู้ได้ว่าเมื่อเขาเลือกเครื่องแต่งกายของเราพวกเขากำลังเลือกบริษัทที่มุ่งมั่นอย่างยิ่งต่อความยั่งยืน”

HBI มีความมุ่งมั่นมายาวนานในการเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจที่มีจริยธรรม  เมื่อเร็วๆ นี้ ทางบริษัทได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งใน 100 บริษัทที่ยั่งยืนที่สุดในประเทศเป็นปีที่สองโดย Barron's และได้รับคะแนนระดับผู้นำ A หลังจากสองปีที่ได้รับคะแนน A- ในรายงานการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของ CDP 2020  HBI ยังเป็นบริษัทเครื่องแต่งกายเพียงแห่งเดียวในประวัติศาสตร์ที่ได้รับรางวัล Energy Star Sustained Excellence จากสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา

ในเดือนตุลาคมปี 2563 HBI ได้ประกาศเป้าหมายด้านความยั่งยืนทั่วโลกสำหรับปี 2573 ซึ่งรวมถึงความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อมที่อิงวิทยาศาสตร์ เป้าหมายในการปรับปรุงชีวิตของผู้คนอย่างน้อย 10 ล้านคน และการใช้พลาสติกและวัตถุดิบที่ยั่งยืนในผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์  เป้าหมายดังกล่าวเปิดตัวผ่านเว็บไซต์ด้านความยั่งยืนใหม่ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มความโปร่งใสของบริษัทและการรายงานเกี่ยวกับตัวชี้วัดที่สำคัญ รวมถึงความหลากหลาย เกณฑ์มาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชน และการประเมินความเสี่ยงสำหรับนักลงทุน

“ในขณะที่เรารับมือกับความท้าทายที่ยากลำบากในปี 2563 เราได้เห็นบริษัทต่างๆ ที่เป็นผู้นำเหนือสถาบันอื่นๆ ในการได้รับความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียผ่านความยืดหยุ่นและความมุ่งมั่นในจริยธรรมและความซื่อสัตย์” Timothy Erblich CEO ของ Ethisphere กล่าว “บริษัท ที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกยังคงแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ในการมอบคุณค่าสูงสุดและการส่งผลดีต่อชุมชนที่พวกเขาให้บริการ  ขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่ HanesBrands ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลก”

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดของโลกและความมุ่งมั่นที่จะHanesBrand รับผิดชอบ

สถาบัน Ethisphere Institute

Ethisphere® Institute เป็นผู้นำระดับโลกในการกำหนดและพัฒนามาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่มีจริยธรรมขององค์กร ความไว้วางใจในตลาด และความสำเร็จทางธุรกิจ  Ethisphere มีความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งในการวัดและกำหนดมาตรฐานจริยธรรมโดยใช้ข้อมูลเชิงลึกซึ่งช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถปรับปรุงลักษณะขององค์กร วัดผล และปรับปรุงวัฒนธรรมของตน  Ethisphere ยกย่องความสำเร็จที่เหนือกว่าผ่านโครงการยกย่องบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกและมอบชุมชนผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมด้วย Business Ethics Leadership Alliance (BELA) ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ethisphere ได้ที่: https://ethisphere.com

HanesBrands

HanesBrands ซึ่งตั้งอยู่ในวินสตัน-ซาเลม นอร์ทแคโรไลนาเป็นผู้ขายชุดชั้นในและเครื่องแต่งกายพื้นฐานในชีวิตประจำวันในอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย และเอเชียแปซิฟิกชั้นนำที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม  บริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์เครื่องแต่งกายได้แก่ Hanes, Champion, Bonds, Maidenform, DIM, Bali, Playtex, Bras N Things, Nur Die/Nur Der, Alternative, L’eggs, JMS/Just My Size, Lovable, Wonderbra, Berlei และ Gear for Sports  บริษัทจำหน่ายเสื้อยืด ยกทรง กางเกงชั้นใน ชุดชั้นใน ถุงเท้า ชุดชั้นใน และชุดแอคทีฟที่ผลิตในห่วงโซ่ทุนต่ำระดับโลก บริษัทอยู่ใน Fortune 500 และเป็นสมาชิกของดัชนีหุ้น S&P 500 (NYSE:HBI) Hanes มีพนักงานประมาณ 61,000 คนในกว่า 40 ประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทที่ www.Hanes.com/corporate และห้องแถลงข่าวที่ https://newsroom.hanesbrands.com/ เชื่อมต่อกับบริษัทผ่านโซเชียลมีเดีย: Twitter (@hanesbrands), Facebook (www.facebook.com/hanesbrandsinc), Instagram (@hanesbrands) และ LinkedIn (@Hanesbrandsinc)

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210223005687/en/

ติดต่อ:

Carole Crosslin
(336) 671-3704
carole.crosslin@hanes.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Hillstone Networks ช่วยศูนย์ข้อมูลในการทำลายอุปสรรคด้านความปลอดภัย

Logo

X8180 ที่ในรูปแบบของ 3U ฟอร์มแฟคเตอร์ มอบประสิทธิภาพการทำงานที่สูง บริการด้านความปลอดภัย และประสิทธิภาพโดยรวม

ซานตาคลาร่า, แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–24 ก.พ. 2564

Hillstone Networks ผู้ให้บริการชั้นนำด้านความปลอดภัยเครือข่ายระดับองค์กรและโซลูชันการจัดการความเสี่ยง ได้ประกาศเกี่ยวกับความสำเร็จแบบกระโดดในด้านความปลอดภัยของศูนย์ข้อมูลด้วยผลิตภัณฑ์ Hillstone Networks X8180 นับจากวันนี้ลูกค้าจะสามารถรักษาความปลอดภัยเครือข่ายของตนด้วยประสิทธิภาพที่มากขึ้นแต่ใช้พลังงานที่ลดลง พร้อม ๆ ไปกับการเพิ่มขึ้นด้านความเสถียร ความสามารถในการปรับขนาด และความสามารถในการปรับแต่งที่อยู่ในรูปแบบของฟอร์มแฟคเตอร์ขนาดเล็ก

ภูมิทัศน์ด้านความปลอดภัยในปัจจุบันมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของการทำงานทางไกล การย้ายไปสู่ระบบคลาวด์ การแพร่กระจาย IoTและ การเพิ่มขึ้นของพื้นที่สำหรับการโจมตี

“ความปลอดภัยยังคงเป็นปัญหาอันดับ 1 ขององค์กร มันเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความปลอดภัยให้กับศูนย์ข้อมูล แต่ที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าในปัจจุบัน” Tim Liu, CTO และผู้ร่วมก่อตั้ง Hillstone Networks กล่าว “ เรารับฟังลูกค้าของเราและภูมิใจที่จะนำเสนอ x8180 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งที่ราคาไม่สูง”

X8180 ตัวนี้ได้ลด CAPEX และ OPEX ลง แต่ไม่ลดทอนคุณสมบัติระดับองค์กร ส่วนการใช้ 3RU ทำให้ได้ปริมาณงานต่อ RU ที่สูง และใช้พลังงาน  Gbps ต่ำต่อปริมาณงาน โดยมีสัดส่วนพลังงานต่อปริมาณงานอยู่ที่ 2.9  เมื่อใช้ระดับพลังงานภายใต้การใช้พลังงานสูงสุดที่ 1000W จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ให้บริการองค์กรขนาดใหญ่ รัฐบาล และเครือข่ายผู้ให้บริการ ทั้งนี้ X8180 มีวางจำหน่ายทั่วไปอย่างเต็มรูปแบบ และรองรับระบบเสมือนจริงจำนวนมาก และมาพร้อมกับคุณสมบัติที่สมบูรณ์แบบเพื่อปกป้องเครือข่ายศูนย์ข้อมูล

จุดเด่น

  • ขนาดเล็กแต่ประสิทธิภาพสูง: ปริมาณงานต่อหน่วยเวลา หรือ throughput อยู่ที่ 450 Gbps; 130 ล้านเซสชันพร้อมกัน และ 2.5 ล้านเซสชันใหม่ / วินาที
  • ขยายและปรับเปลี่ยนได้: อินเทอร์เฟซ 10/100GE พร้อมรองรับ 25/40GE ใช้งานได้กับระบบเสมือนมากถึง 1,000 ระบบ อาทิเช่น dual-stack, tunnel, DNS64 / NAT64 เป็นต้น
  • Intelligence2: สถาปัตยกรรมที่ยืดหยุ่นรองรับ SDS สามารถป้องกัน Botnet C&C ช่วยให้เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มคลาวด์อย่างราบรื่น

ข้อมูลเพิ่มเติม

สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์ทั้งหมดสำหรับ Hillstone X8180 ได้ ที่นี่

เกี่ยวกับ Hillstone Networks

โซลูชันการรักษาความปลอดภัยและการจัดการความเสี่ยงของเครือข่ายองค์กรของ Hillstone Networks ได้มอบการมองเห็นข้อมูลข่าวกรองและการป้องกัน เพื่อทำให้แน่ใจว่าองค์กรต่าง ๆ สามารถสังเกตเห็นและเข้าใจภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้อย่างทั่วถึง และสามารถดำเนินการตอบโต้ได้อย่างรวดเร็ว โซลูชันของ Hillstone ซึ่งได้รับการยอมรับจากนักวิเคราะห์ชั้นนำและได้รับความไว้วางใจจากองค์กรระดับโลก สามารถครอบคลุมทั่วทั้งองค์กรตั้งแต่ระดับแนวหน้าไปจนถึงระบบคลาวด์ และยังสามารถช่วยลดต้นทุนโดยรวมในการเป็นเจ้าของอีกด้วย หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมไปที่ www.hillstonenet.com

ติดต่อ:

Zeyao Hu

ผู้จัดการฝ่ายการตลาด

inquiry@hillstonenet.com

การจัดประชุมสัมมนาออนไลน์ (Online Symposium) โดย JETRO – สังคมแห่งอนาคตหลังจากความคาดหวังจากการระบาดใหญ่สำหรับงานเอ็กซ์โป 2568 และศักยภาพของภูมิภาคคันไซ โอซาก้า

Logo

โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–20 กุมภาพันธ์ 2564

องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) และสมาคมญี่ปุ่น เพื่องานแสดงสินค้าโลกปี 2568 จะมีการจัดงานสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อเรื่อง “Future Society after the Pandemic, EXPO 2025 และ the Potential of the Osaka Kansai Region” ในวันที่ 3 มีนาคม 2564 นี้

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210219005225/en/

(Graphic: Business Wire)

(กราฟิก: Business Wire)

นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ปัญหาสิ่งแวดล้อม และความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ การระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ยังกลายเป็นความท้าทายที่สำคัญระดับโลก ในการประชุมสัมมนาครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมจะร่วมหารือกันว่า งาน  EXPO 2025 Osaka Kansai สามารถมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร

ในส่วนแรกการประชุมสัมมนาร่วมทบทวนบทบาทและความสำคัญของงาน EXPO 2025 Osaka Kansai นอกเหนือจากการคาดการณ์ในอนาคตอันใกล้หลังจากการระบาดของโควิด-19 ส่วนที่สองจะเน้นไปที่ระบบนิเวศและฟังก์ชันนวัตกรรมของภูมิภาคคันไซ

รายละเอียดของงาน

วันที่: วันพุธที่ 3 มีนาคม 2564 เวลา 14:00-16:30 น. ตามเวลาของประเทศญี่ปุ่น (JST)
สถานที่: ออน์ไลน์ (การไลฟ์สตรีมมิ่งผ่าน Zoom)
ภาษา: ญี่ปุ่น อังกฤษ (การล่ามแบบพูดพร้อม)
ผู้จัดงาน: องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) สมาคมญี่ปุ่นเพื่องานแสดงสินค้าโลกปี 2568
ผู้ร่วมจัดงาน: สำนักงานเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมคันไซ
การลงทะเบียน: จากเว็บไซต์ (https://www.jetro.go.jp/en/events/20210303.html)

วาระการประชุม:

[กล่าวเปิดงาน]

Hiroyuki Ishige เลขาธิการ สมาคมญี่ปุ่นเพื่องานนิทรรศการโลกปี 2568 (Secretary-General, Japan Association for the 2025 World Exposition)

Nobuhiko Sasaki ประธานกรรมการและประธานบริหาร JETRO (Chairman and CEO, JETRO)

[คำปราศรัย]

“อนาคตเป็นสิ่งที่เราไม่รู้ แต่หลีกเลี่ยงไม่ได้ – ความร่วมมือคือทางออก” 

Richard Baldwin ศาสตราจารย์ คณะเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ สถาบันการศึกษา Graduate เจนีวา (Professor of International Economics, Graduate Institute, Geneva)
“สังคมแห่งอนาคต และงานเอ็กซ์โป 2568 โอซาก้า คันไซ” (“Future Society and EXPO 2025 Osaka Kansai”)

Hiroshi Ishiguro ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยโอซาก้า และ ATR Intelligent Robotics and Communication Laboratories

[การนำเสนอและการอภิปราย]

งานนำเสนอ 1 เรื่อง: “นวัตกรรมและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)”

Jonas Svensson หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลก UNOPS (Head of Global Innovation and Technology, UNOPS)

งานนำเสนอ 2: “แบบจำลอง Living Laboratory เพื่อร่วมสร้างนวัตกรรมที่ยั่งยืน” 

Matt van Leeuwen ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรม บริษัท SUNWAY Group (Chief Innovation Officer, SUNWAY group)

การอภิปราย: “ ในฐานะแพลตฟอร์มนวัตกรรมแบบเปิด ภูมิภาคคันไซจะร่วมมือกับสังคมโลก และมีส่วนช่วยในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ได้อย่างไร 

ผู้ร่วมอภิปราย:

-Yasuo Kitaoka ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร สำนักงาน Co-creation มหาวิทยาลัยโอซาก้า (Executive Assistant to the Director, Co-creation Bureau, Osaka University) ผู้อำนวยการแผนกนวัตกรรม (Director, Innovation Division)

-Yoshimasa Sakai ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์ สมาคมญี่ปุ่นเพื่องานแสดงสินค้าโลกปี 2568 (Director-General of Public Relations Strategy Bureau, Japan Association for the 2025 World Exposition)

-Jonas Svensson หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลก UNOPS (Head of Global Innovation and Technology, UNOPS)

-Chikara Takagishi  ผู้จัดการทั่วไปอาวุโสฝ่ายบริหารเมือง บริษัท Hankyu Hanshin Properties Corp. (Senior General Manager of Urban Management Division, Hankyu Hanshin Properties Corp.)

-Shogoro Fujiki ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร บริษัท Biome Inc. (Founder & CEO, Biome Inc.)

[กล่าวปิดงาน]

Takeshi Yonemura ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมคันไซ (Director-General, Kansai Bureau of Economy Trade and Industry)

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210219005225/en/

ติดต่อ:

JETRO Osaka
Toyokazu Fukuyama
อีเมล์: osc@jetro.go.jp
โทร: +81-6-4705-8604 (9:00-17:00 น. วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ยกเว้นวันหยุดราชการของญี่ปุ่น)

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


Guru IoT พัฒนาวีลแชร์ซึ่งขับเคลื่อนด้วยตัวเองแบบดิจิทัลสำหรับผู้ด้อยโอกาส

Logo

โซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–22 กุมภาพันธ์ 2564

Guru IoT (ประธาน Song Su-han) ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ Internet-of-Things จากเกาหลีกล่าวว่า ขณะนี้พวกเขากำลังพัฒนาระบบเคลื่อนที่อัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองโดยใช้ข้อมูลแผนที่ดิจิทัลแฝด หรือ digital-twin map data

เนื่องจากเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบันซึ่งใช้ในการเคลื่อนที่ด้วยตนเองนั้นใช้เซ็นเซอร์ LiDAR เพื่อสร้างแผนที่แบบเรียลไทม์จึงไม่สามารถผลิตขึ้นสำหรับตลาดมวลชน (mass market) ได้ แต่รถวีลแชร์แบบขับเคลื่อนด้วยตนเองที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลแผนที่ 3 มิติแบบดิจิทัลซึ่งอยู่ภายใต้การพัฒนาของ Guru IoT ได้ใช้เทคโนโลยีในการซิงโครไนซ์ข้อมูลแผนที่ที่เซิร์ฟเวอร์จัดเก็บภายในช่วงเวลาหนึ่งในเซิร์ฟเวอร์ซึ่งสามารถใช้แทนที่ข้อมูลเซ็นเซอร์ พร้อม ๆ ไปกับการปรับปรุงความแม่นยำในการขับขี่ด้วยตนเองด้วยการปรับเปลี่ยนข้อมูลเซ็นเซอร์

วีลแชร์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองของ Guru IoT สามารถนำทางผ่านฝูงชนหรือสิ่งกีดขวางทางกายภาพได้โดยการลดความเร็ว การหลีกเลี่ยงอุปสรรค และการหยุด นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยเช่นฟังก์ชั่นป้องกันการสั่นสะเทือนและการพลิกคว่ำที่ไม่มีในรถเข็นไฟฟ้าอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น รถเข็นหุ่นยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองสามารถรักษาความเร็วคงที่บนทางลาดชันโดยการให้คนขับดึงด้วยสองมือ หากผู้ขับขี่สูญเสียการยึดเกาะรถเข็นจะหยุดเอง

วีลแชร์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้เพิ่มความปลอดภัยด้วยการเพิ่มคุณสมบัติต่าง ๆ เช่นการบำรุงรักษาระยะปลอดภัยการเปลี่ยนโหมดการขับขี่ที่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเบรกฉุกเฉินและสัญญาณเตือนการทำงานผิดปกติตามมาตรฐานความปลอดภัยในการขับขี่ด้วยตนเองตามที่กระทรวงที่ดินและการขนส่งเสนอ ตลอดจนการตรวจสอบเส้นทางผ่านข้อมูลที่ซิงโครไนซ์กับเซิร์ฟเวอร์อีกด้วย

Song Su-han ประธาน Guru IoT กล่าวว่า“ วีลแชร์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองของเราเป็นตัวอย่างที่สำคัญในการแสดงให้เห็นว่าหุ่นยนต์และมนุษย์สามารถทำงานร่วมกันได้ดีจากมุมมองด้านการปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ พวกเราที่ Guru IoT จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ที่สามารถช่วยเหลือผู้คนได้มากขึ้นด้วยการผสมผสานแนวคิดดี ๆ เข้ากับเทคโนโลยีที่เรากำลังพัฒนาอยู่ “

ติดต่อ:

Guru IoT Co., Ltd.

Seongsu Yeo

+82-2-6953-9610

ssyeo@guruiot.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

หุ่นยนต์ดูแลสัตว์เลี้ยง PEDDY ดึงดูดความสนใจจากเจ้าของสัตว์เลี้ยง

Logo

โซล เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–18 กุมภาพันธ์ 2564

PEDDY หุ่นยนต์ดูแลสัตว์เลี้ยงที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากจากเจ้าของสัตว์เลี้ยงเพื่อเป็นของขวัญชิ้นเยี่ยมสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีค่าของพวกเขา

ตามที่สถาบันเศรษฐกิจชนบทของเกาหลี (KREI) ระบุว่าตลาดที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงในปี 2564 จะสูงขึ้นถึง 3,000.2 พันล้านวอนจาก 2,332.2 พันล้านวอนในปี 2560 ตลาดจะเติบโตเป็น 4,173.9 พันล้านวอนในปี 2565 และเป็น 6,005.5 พันล้านวอนภายในปี 2570 อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีสำหรับช่วงปี 2564-2570 อยู่ที่ประมาณ 14.5%

หุ่นยนต์ดูแลสัตว์เลี้ยงที่พัฒนาโดย Guru IoT เป็นบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ IoT ซึ่งเป็นเพื่อนเล่นที่ดีสำหรับแมวและสุนัขที่บ้าน โดยหลังจากวางสมาร์ทโฟนบนหุ่นยนต์และสร้างการเชื่อมต่อผ่านแอปแล้วจะมีฟังก์ชันการทำงานทั้งหมดของสมาร์ทโฟนเช่น วิดีโอแชทแบบเรียลไทม์ การบันทึกการเล่นวิดีโอเล่นซ้ำ การเล่นเพลงซ้ำ และการถ่ายภาพ ซึ่งมีอยู่ในหุ่นยนต์

นอกจากนี้ยังสามารถให้อาหารสัตว์เลี้ยงในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าตามจำนวนที่ต้องการ ด้วยเซ็นเซอร์ที่ตรวจจับอุณหภูมิ ความชื้น และเสียง โดยหุ่นยนต์สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว หรือจากเสียงเห่าของสุนัขหรือแมวเหมียวได้

เจ้าหน้าที่ของ Guru IoT กล่าวว่า “เนื่องจากจำนวนเจ้าของสัตว์เลี้ยงในเกาหลีมีมากกว่า 10 ล้านคน ระดับความนิยมของเครื่องใช้สัตว์เลี้ยงจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในฤดูใบไม้ผลิที่จะมาถึงนี้ เราขอแนะนำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงตัดสินใจซื้อหุ่นยนต์ดูแลสัตว์เลี้ยง PEDDY สำหรับให้เป็นเพื่อนของพวกเขา”

หุ่นยนต์พี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง PEDDY มีอยู่บนเว็บไซต์ของ Guru IoT (https://en.guruiot.com/)

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ:

Guru IoT Co., Ltd.
Seongsu Yeo
+82-2-6953-9610
ssyeo@guruiot.com

SYNERGY & iNube ร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อนำผู้ให้บริการด้านดิจิทัลและ E-insurance แบบใหม่มาสู่ธุรกิจประกันภัย

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–18 กุมภาพันธ์ 2564

SYNERGY Strategic Solutions Limited ผู้ให้บริการด้านการให้คำปรึกษาด้านดิจิทัลและอินชัวร์เทคในฮ่องกงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ iNube Software Solutions Pvt. Ltd. ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันการประกันภัยดิจิทัล เพื่อขยายข้อเสนอปัจจุบันสำหรับการประกันภัยด้วยผลิตภัณฑ์ดิจิทัลเฉพาะกลุ่มและแพลตฟอร์มการประกันภัยรายย่อย (micro-insurance) ที่เปิดใช้งานผ่านสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Insurance)

ความร่วมมือกับ iNube ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ SYNERGY สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบริการให้คำปรึกษาเท่านั้น แต่ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และโซลูชันสำเร็จรูปให้กับบริษัทประกันภัยทั่วฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เวียดนาม และไทย ด้วยความร่วมมือครั้งนี้หลายบริษัทคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นระหว่าง 20%-30% ตามเกณฑ์ที่เพิ่มขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า

ในส่วนของความร่วมมือดังกล่าว Pradeep Satya ประธานบริหารและผู้ก่อตั้ง SYNERGY กล่าวว่า “ด้วยเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญมากขึ้นในทุก ๆ ด้านของธุรกิจประกันภัย บริษัทประกันภัยแบบเดิมได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการเร่งการเดินทางสู่ดิจิทัลเพื่อให้ยังคงสามารถแข่งขันได้ในธุรกิจประกันภัยนี้ โดยยังมีความจำเป็นที่ต้องพัฒนาสำหรับโซลูชันหลักแบบแยกส่วน (Modular) และแนวคิดในการทำงานยุคใหม่ที่เน้นการตัดสินใจและทำงานอย่างรวดเร็ว (Agile) เรามองหาผลิตภัณฑ์หลักที่กำหนดค่าได้ง่าย ปรับใช้งานได้อย่างรวดเร็ว และดูแลรักษาง่าย กลุ่มผลิตภัณฑ์ของ iNube เหมาะสมอย่างยิ่งกับเรา ในขณะที่ลูกค้าของเราได้เริ่มต้นช่องทางการกระจายแบบใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แสดงความสนใจที่ตรงหรือใกล้เคียง (affinity) และ อีคอมเมิร์ซ (e-commerce) เราตั้งใจที่จะร่วมกันสร้างโซลูชันที่ดีที่สุดในระดับเดียวกันและหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เป็นพันธมิตรในการสร้างมูลค่าให้กับลูกค้าของเรา”

Vinodkumar A Iyer ประธานบริหารของ iNube Software Solutions ให้ความเห็นเกี่ยวกับการเป็นหุ้นส่วนกล่าวว่า “เมื่อรวมกับความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งและความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับอุตสาหกรรมประกันภัย ทำให้ iNube ได้นำเสนอโซลูชันซอฟต์แวร์ที่ทันสมัยซึ่งมีความสำคัญต่อความสำเร็จทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องของบริษัทประกันภัย ด้วยความร่วมมือครั้งนี้ iNube จะใช้ประโยชน์จากโอกาสที่ได้ในการเสริมสร้างสถานะในตลาดเอเชียและการค้นหาลูกค้าใหม่ สำหรับกลุ่ม Digital Insurance Solutions ของเรานั้นเมื่อรวมกับคำแนะนำของ SYNERGY ในด้านนวัตกรรมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเรา พวกเรามั่นใจในการร่างแผนงานที่จะช่วยให้เราเพิ่มคุณค่าและประโยชน์ให้กับลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ได้มากขึ้น เราตื่นเต้นมากกับความร่วมมือครั้งนี้และหวังว่าจะได้นำเสนอคุณค่าและประโยชน์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นให้กับธุรกิจประกันภัย”

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อเราที่ media@synergysolutions.asia

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210218005638/en/

ติดต่อ

Anita Bhat
media@synergysolutions.asia

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

“Aman Residences Tokyo” และแบรนด์โรงแรมใหม่ “Janu Tokyo”“ ไฮไลท์โครงการพัฒนาเมืองโทราโนมอน-อาซาบุได

Logo

Mori Building และ Aman Resorts จับมือเป็นพันธมิตรเพื่อโครงการพัฒนาครั้งสำคัญใจกลางโตเกียว

โตเกียว–(บิสิเนสไวร์)–18 ก.พ. 2564

Mori Building Co., Ltd. ผู้พัฒนาภูมิทัศน์เมืองชั้นนำของญี่ปุ่นประกาศการร่วมมือกับ Aman ผู้ให้บริการโรงแรมและรีสอร์ทหรูระดับโลกในโครงการ Toranomon-Azabudai Urban Redevelopment ซึ่งโครงการฟื้นฟูชีวิตชีวาให้แก่พื้นที่ขนาดใหญ่ในใจกลางกรุงโตเกียวที่จะแล้วเสร็จในปี 2566  ผลลัพธ์หลักสองประการของการเป็นหุ้นส่วนคือโครงการที่อยู่อาศัย Aman Residences, Tokyo และโรงแรมหรู Janu Tokyo ซึ่งเป็นแบรนด์ในเครือของ Aman และถือเป็นการเปิดตัวแบรนด์ Janu ในญี่ปุ่น

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210217006076/en/

Toranomon-Azabudai Project (image) (Graphic: Business Wire)

โครงการโทราโนมอน-อาซาบุได (ภาพ) (กราฟิก: บิสิเนสไวร์)

Shingo Tsuji ประธานและซีอีโอของ Mori Building กล่าวว่า “โตเกียวต้องเสริมสร้างแรงดึงดูดของตนหากจะประสบความสำเร็จในการแข่งขันกับเมืองใหญ่อื่นในโลก  Mori Building ได้จับมือกับ Aman ซึ่งดำเนินธุรกิจรีสอร์ตระดับโลกที่หลากหลายเพื่อมอบสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยและโรงแรมชั้นนำระดับโลกที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในโตเกียว ซึ่งผู้คนจะได้สัมผัสความกลมกลืนกับธรรมชาติ รวมถึงพบปะและสร้างแรงบันดาลใจที่สร้างสรรค์ให้แก่กัน  ด้วยการตระหนักถึง “สุขภาพในเมือง” Mori Building จะช่วยเพิ่มแรงดึงดูดของโตเกียว “

Vladislav Doronin ประธานและซีอีโอของ Aman และ Janu กล่าวว่า “การเปิดตัว Aman Residences ในเมืองแห่งแรกในญี่ปุ่นถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ของ Aman และพูดถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างแบรนด์ของเรากับประเทศนี้ซึ่งมีวัฒนธรรมที่วิเศษอย่างเหลือเชื่อ  การทำงานร่วมกับนักพัฒนาชั้นนำ Mori Building และการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการโทราโนมอน-อาซาบุไดเป็นโครงการพัฒนาที่ห้าของ Aman ในญี่ปุ่น ซึ่งนำเสนอที่พักพึงสำหรับเจ้าของ รวมถึงการเข้าถึงวิถีชีวิตแนว Aman  นอกจากนี้ยังเป็นการปูทางให้แก่ Janu Tokyo  ในศูนย์กลางแห่งวัฒนธรรมและศิลปะนี้ เราอยากเชื่อมโยงแขกกับใจกลางชุมชนที่มีชีวิตชีวาแห่งนี้และเปิดโอกาสให้กับการแสดงออกที่สร้างสรรค์”

Aman Residences, Tokyo – ประสบการณ์การอยู่อาศัยในเมืองที่ไม่มีใครเทียบได้

Aman Residences, Tokyo จะตั้งอยู่บนชั้น 54–64 ของ A District Tower ที่มีความสูง 330 เมตร โดยมีที่พัก 91 แห่งตามแบรนด์ของโรงแรมพร้อมบริการพิเศษรวมถึง Aman Spa สำหรับผู้พักอาศัยเท่านั้น (ขนาด 1,400 ตร.ม.)  บริการที่อบอุ่นและราบรื่นอันเป็นเอกลักษณ์ของ Aman จะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยเพลิดเพลินไปกับวิถีชีวิตที่เงียบสงบท่ามกลางวิวมหานครโตเกียวที่มีชีวิตชีวา  การออกแบบสถาปัตยกรรมตึกระฟ้าเป็นผลงานชั้นยอดของ Pelli Clarke Pelli Architects (สหรัฐอเมริกา) และการออกแบบภายในได้รับการสร้างสรรค์โดย Yabu Pushelberg (แคนาดา)

Janu Tokyo – แบรนด์ในเครือของ Amanเปิดตัวในญี่ปุ่น

Janu แบรนด์โรงแรมหรูของ Aman จะเปิดตัวในญี่ปุ่นกับ Janu Tokyo บนชั้น 1–13 ใน B-2 District Tower โรงแรมแห่งนี้ออกแบบโดย Denniston (มาเลเซีย) ภายใต้การนำของ Jean-Michel Gathy  นอกจากนี้ห้องพักสุดหรูทั้ง 120 ห้องมอบวิวของโซนกลางที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม Janu Tokyo จะมีสปาที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ( 3,500 ตร.ม.) พร้อมศูนย์ออกกำลังกาย ห้องอาหาร 6 แห่ง รวมถึงคาเฟ่และบาร์สำหรับการพักผ่อนและการสังสรรค์ทางธุรกิจ  Janu Tokyo จะต้อนรับแขกจากทั่วโลก

เกี่ยวกับ Aman

Aman ก่อตั้งขึ้นในปี 1988 ด้วยวิสัยทัศน์ในการสร้างสถานที่พักผ่อนที่เป็นส่วนตัวพร้อมการต้อนรับที่อบอุ่นและราบรื่นในแนวของบ้านส่วนตัวที่สง่างาม  Amanpuri (สถานที่แห่งความสงบสุข) แห่งแรกได้เปิดตัวแนวคิดของตนในภูเก็ต ประเทศไทยและตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Aman ได้เติบโตขึ้นจนครอบคลุมโรงแรมและรีสอร์ทอันเงียบสงบ 33 แห่งในจุดหมายปลายทาง 20 แห่งทั่วโลก โดยมีอีก 7 แห่งที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง  Aman ที่ต่อไปที่จะเปิดคือ Aman New York.  ในปี 2563 ได้มีการเปิดตัวแบรนด์โรงแรมใหม่ชื่อ Janu ซึ่งมีความหมายว่า จิตวิญญาณ' ในภาษาสันสกฤต  Janu นำเสนอบริการที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเป็นที่ที่มีการปฏิสัมพันธ์อย่างแท้จริงระหว่างผู้คน การตกแต่งแนวสนุกสนาน และสุขภาพทางสังคมเป็นหัวใจหลักของประสบการณ์  Janu มีเป้าหมายที่จะสร้างความสมดุลระหว่างสมองและหัวใจและจุดประกายให้กับจิตวิญญาณกลับมาอีกครั้ง  Janu เตรียมเปิดตัวโรงแรมถึงสามแห่งซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ได้แก่ที่มอนเตเนโกร (2022) อัลอูลาในซาอุดีอาระเบีย (2565) และโตเกียว (2566) รวมถึงโครงการหลายแห่งในอนาคต

เกี่ยวกับ Mori Building

Mori Building เป็นผู้พัฒนาเมืองแห่งนวัตกรรมที่ตั้งอยู่ในโตเกียว  บริษัทมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างแรงดึงดูดของเมืองโดยการสร้างและดูแลศูนย์กลางเมืองให้ปลอดภัย ยั่งยืน และเป็นสากลตามแนวคิด Vertical Garden City ที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับอาคารพาณิชย์ การศึกษา การพักผ่อนและที่อยู่อาศัย  แนวคิดนี้ถูกนำไปใช้ในโครงการระดับแนวหน้าของบริษัทหลายโครงการเช่น ARK Hills, Roppongi Hills และ Toranomon Hills ในโตเกียวและ Shanghai World Financial Center. Mori Building ยังดำเนินธุรกิจด้านการเช่าอสังหาริมทรัพย์ การบริหารโครงการ และการให้คำปรึกษา โปรดเยี่ยมชม www.mori.co.jp/en

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

ข่าวประชาสัมพันธ์ “Mori Building เปิดตัวโครงการฟอร์มยักษ์เพื่อฟื้นฟูใจกลางเมืองโตเกียว” เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2019:
https://www.mori.co.jp/en/img/ article / 190822.pdf

รายละเอียดโครงการ Toranomon-Azabudai: https://www.mori.co.jp/en/projects/toranomon_azabudai/img/fact_book.pdf

รูปและวีดีโอ Toranomon-Azabudai Project: https://www.youtube. com / watch? v = 5akVE7tWOto & feature = emb_logoบิล

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210217006076/en/

สอบถามข้อมูลสำหรับสื่อต่างประเทศ
Public Relations, Mori Building Co., Ltd. (ฝ่ายประชาสัมพันธ์)
Saori Asano
โทร +81 (0)3 6406 6606
แฟกซ์ +81 (0)3 6406 9306 
อีเมล koho@mori.co.jp 

Weber Shandwick Japan
Reina Matsushita (โทร: +81 (0)80 2375 0295),
Mayuko Harada (โทร: +81 (0)90 9006 4968)
หรือ Masashi Nonaka (โทร: +81 (0)80 1037 7879)
อีเมล moribldg@webershandwick.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย



Toshiba เปิดตัวฮาร์ดดิสก์ซีรีส์ MG09 ขนาดความจุ 18TB

Logo

ดีไซน์แบบ 9 ดิสก์เจเนอเรชันที่ 3 ที่ใช้ฮีเลียมปิดผนึกและนวัตกรรมการบันทึกที่นำพลังงานเข้ามาช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากความหนาแน่นของการจัดเก็บข้อมูลและประสิทธิภาพด้านพลังงานในระดับใหม่

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–18 กุมภาพันธ์ 2564

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (Toshiba) เปิดตัวฮาร์ดดิสก์ ซีรีส์ MG09 ขนาดความจุ 18TB[1]  ซึ่งเป็นฮาร์ดดิสก์รุ่นแรกของ Toshiba ที่มาพร้อมเทคโนโลยีการบันทึกที่นำพลังงานเข้ามาช่วย (EAMR) ฮาร์ดดิสก์ซีรีส์ MG09 ยังมาพร้อมดีไซน์แบบ 9 ดิสก์ที่ใช้ฮีเลียมปิดผนึกซึ่งเป็นเจเนอเรชันที่ 3 ของ Toshiba รวมถึงเทคโนโลยีบันทึกข้อมูลบนแผ่นจานแม่เหล็กด้วยคลื่นไมโครเวฟแบบ Flux Control (FC-MAMR) ที่ล้ำสมัยของ Toshiba เพื่อเพิ่มความหนาแน่นของการบันทึกข้อมูลบนแผ่นจากแม่เหล็ก (CMR) เป็น 2TB ต่อดิสก์ และทำให้ความจุรวมของฮาร์ดดิสก์สูงถึง 18TB

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหาในรูปแบบมัลติมีเดีย ดูเนื้อหาแบบเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210217006068/en/

Toshiba: 18TB MG09 Series hard disk drives (Photo: Business Wire)

Toshiba: ฮาร์ดดิสก์ซีรีส์ MG09 ความจุ 18TB (รูปภาพ: Business Wire)

การจัดส่งตัวอย่างฮาร์ดดิสก์ซีรีส์ MG09 ความจุ 18TB ให้กับลูกค้าคาดว่าจะสามารถเริ่มได้ในช่วงปลายเดือนมีนาคมของปี 2564 นี้

ฮาร์ดดิสก์ MG09 แบบ CMR ความจุ 18TB นี้มีขนาดความจุเพิ่มขึ้น 12.5% จากรุ่นก่อนหน้าที่มีความจุ 16TB และสามารถใช้ได้กับอุปกรณ์และระบบปฏิบัตการรุ่นต่าง ๆ ที่ครอบคลุมมากที่สุด ฮาร์ดดิสก์ MG09 ได้รับการปรับเปลี่ยนให้สามารถอ่านและเขียนข้อมูลทั้งแบบสุ่มและเรียงลำดับและรองรับการทำงานในดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งแบบปกติและบนคลาวด์ ประสิทธิภาพของฮารด์ดิสก์รุ่น MG09 อยู่ที่ 7,200rpm อัตราการรองรับภาระงานต่อปี[2] อยู่ที่ 550TB และใช้อินเทอร์เฟส SATA และ SAS ทั้งหมดนี้บรรจุอยู่ในฟอร์มแฟกเตอร์ขนาด 3.5 นิ้ว[3 ที่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม ปิดผนึกด้วยฮีเลียม และมีประสิทธิภาพทางพลังงาน

ฮาร์ดดิสก์ซีรีส์ MG09 ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Toshiba ที่ต้องการยกระดับการออกแบบฮาร์ดดิส์ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นต่ออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่ใช้กับเซิร์ฟเวอร์บนคลาวด์รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานของระบบจัดเก็บทั้งแบบวัตถุและไฟล์ ด้วยประสิทธิภาพด้านพลังงานที่มากขึ้นและความจุที่ 18TB ฮาร์ดดิสก์ซีรีส์ MG09 จึงช่วยให้โครงสร้างพื้นฐานของระบบจัดเก็บบนคลาวด์พัฒนาความหนาแน่นของหน่วยจัดเก็บให้สามารถลดค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนและปรับปรุงต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของหรือ TCO ให้ดีขึ้น ขณะที่การเติบโตข้องข้อมูลยังคงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ฮาร์ดดิสก์ MG09 ความจุ 18TB ที่มาพร้อมเทคโนโลยี FC-MAMR จะช่วยผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์และนักออกแบบโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลสามารถใช้ประโยชน์จากระบบจัดเก็บข้อมูลที่มีความหนาแน่นสูงขึ้นได้ในทั้งระบบคลาวด์ ไฮบริดคลาวด์ และแบบ rack-scale ที่ติดตั้งอยู่ ณ สถานที่

“ฮารด์ดิสก์ซีรีส์ MG09 ความจุ 18TB ใหม่จาก Toshiba มาพร้อมกับระดับความหนาแน่นของการจัดเก็บข้อมูลและประสิทธิภาพด้านพลังงานที่พัฒนาขึ้นเพื่อสำหรับลูกค้าโซลูชันระบบคลาวด์และสตอเรจของเราที่ให้ความสำคัญกับเรื่องต้นทุน เทคโนโลยี HDD ความหนาแน่นสูงของเราสามารถตอบโจทย์ทางด้าน TCO ซึ่งมีความสำคัญของลูกค้าได้ในราคาที่แสนประหยัด” Shuji Takaoka ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาดผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลของ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation กล่าว “ดีไซน์แบบ 9 ดิสก์ที่ใช้ฮีเลียมปิดผนึกซึ่งเป็นเจเนอเรชันที่ 3 ของเรามีพื้นฐานที่ผ่านการทดสอบภาคสนามเพื่อพัฒนาความจุให้ได้ถึง 18TB การเสริมเทคโนโลยี FC-MAMR ที่ล้ำสมัยของ Toshiba เข้ามาช่วยให้ความจุของฮารด์ดิสก์แบบ CMR เพิ่มสูงขึ้นถึง 18TB สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์และสภาพแวดล้อมการทำงานได้มากที่สุด”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ โปรดดูที่:
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/storage/product/data-center-enterprise/cloud-scale-capacity/articles/mg09-series.html

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กลุ่มฮาร์ดดิสก์ของ Toshiba ทั้งหมด โปรดดูที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

[1] คำจำกัดความของความจุ: 1 เทราไบต์ (TB) = 1 ล้านล้านไบต์ อย่างไรก็ตามความจุหน่วยเก็บข้อมูลอาจแตกต่างกันออกไปตามสภาพแวดล้อมการทำงานและการจัดรูปแบบ ความจุในการจัดเก็บ (รวมถึงตัวอย่างของไฟล์สื่อต่าง ๆ) จะแตกต่างกันไปตามขนาดไฟล์ การจัดรูปแบบ การตั้งค่า ซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการ และ/หรือแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า หรือเนื้อหาสื่อ ความจุที่ฟอร์แมตจริงอาจแตกต่างกันไป
[2] อัตราการรองรับงานต่อปีคือมาตรวัดข้อมูลตลอดทั้งปี และกำหนดโดยปริมาณของข้อมูลที่เขียน อ่าน หรือตรวจสอบตามคำสั่งของระบบโฮสต์
[3] “3.5 นิ้ว” หมายถึงลักษณะทางกายภาพหรือฟอร์มแฟกเตอร์ของฮาร์ดดิสก์ ซึ่งไม่ได้ระบุขนาดทางกายภาพของไดรฟ์

* ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาบริการ และข้อมูลการติดต่อ เป็นข้อมูล ณ ปัจจุบันในวันที่ประกาศ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
* ชื่อบริษัท สินค้าและบริการทั้งหมดที่กล่าวถึงในที่นี้อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ นั้น

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation เป็นบริษัทใหม่ที่เต็มไปด้วยพลังและประสบการณ์ นับตั้งแต่แยกตัวออกจากบริษัทเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2560 เราได้ก้าวสู่การเป็นหนึ่งในบริษัทผู้นำด้านอุปกรณ์ทั่วไป และได้นำเสนอโซลูชันเกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์ ระบบ LSIs และ ระบบ HDD อันโดดเด่นให้กับลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจของเรา
เรามีพนักงานจำนวน 24,000 คนทั่วโลก ซึ่งมีความตั้งใจร่วมกันที่จะเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ของเราให้ถึงระดับสูงสุด และให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า เพื่อส่งเสริมการสร้างสรรค์มูลค่าและตลาดใหม่ๆ ร่วมกัน เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเพิ่มยอดขายต่อปีซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 7.5 แสนล้านเยน (ราว 6.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ให้สูงขึ้น เพื่อสร้างอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210217006068/en/

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อ
Motohiro Ajioka
ฝ่ายวางแผนธุรกิจ
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
โทร: +81-3-3457-3576
อีเมล: semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ยานพาหนะสำหรับต่อสู้หรือ Combat Vehicle รุ่น Type-X Robotic ของ Milrem Robotics จะจัดแสดงในงาน IDEX ปี 2564

Logo

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–17 กุมภาพันธ์ 2564

Milrem Robotics ผู้นำด้านการพัฒนาหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติจะจัดแสดงยานพาหนะสำหรับต่อสู้ รุ่น Type-X Robotic เป็นครั้งแรกในงาน IDEX 2021

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210216006280/en/

The Type-X RCV is designed to support mechanized units and will become an intelligent wingman to main battle tanks and infantry fighting vehicles. (Photo: Business Wire)

Type-X RCV ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนหน่วยยานยนต์และจะกลายเป็นนักบินผู้ขับขี่เครื่องบินในตำแหน่งปีกข้างระบบอัจฉริยะควบคู่ไปกับรถถังหลักและยานพาหนะทหารสำหรับต่อสู้ (Photo: Business Wire)

Type-X RCV ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนหน่วยยานยนต์และจะกลายเป็นนักบินผู้ขับขี่เครื่องบินในตำแหน่งปีกข้างระบบอัจฉริยะควบคู่ไปกับรถถังหลักและยานพาหนะทหารสำหรับต่อสู้ มันจะสามารถรองรับภารกิจที่อันตรายที่สุดได้ ส่งผลให้ความเสี่ยงต่อการสูญเสียชีวิตลดลง

ยานรบหุ่นยนต์ตัวนี้สามารถติดตั้งปืนใหญ่ได้ถึง 50 มม. ดังนั้นมันจะให้อำนาจการยิงที่เท่าเดิมหรือมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับการใช้ยุทธวิธีแบบหน่วยติดตั้งยานรบทหารราบ

“ Type-X ให้วิธีการในการทำลายตำแหน่งป้องกันของศัตรูโดยสร้างความเสี่ยงน้อยที่สุดสำหรับกองทหารของตัวเอง หากรถ RCV สูญหาย การเอารถเข้าไปแทนที่จะเป็นแค่ความยุ่งยากเล็กน้อยทางลอจิสติกส์เท่านั้น แต่จะไม่มีการสูญเสียชีวิต” Kuldar Väärsi ซีอีโอของ Milrem Robotics กล่าว

RCV ของ Milrem Robotics จะมาพร้อมกับฟังก์ชันอัจฉริยะเช่น follow-me, waypoint navigation และการตรวจจับสิ่งกีดขวาง นอกจากนี้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก็จะเป็นส่วนหนึ่งของอัลกอริทึมด้วย อย่างไรก็ตามนวัตกรรมที่แท้จริงในครั้งนี้ได้แก่แนวทางใหม่และสร้างสรรค์ของ Milrem เพื่อให้สามารถควบคุมการทำงานจากระยะไกลด้วยความเร็วที่สูงขึ้นได้

ความเร็วสูงสุดของรถคือ 80 กม. / ชม. บนถนนลาดยางและ 50 กม. / ชม. บนถนนออฟโรด โดยรุ่น Type-X มีน้ำหนักเบา 12 ตันและให้กำลังสูง พร้อมการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพช่วยให้ความสามารถในด้านพื้นที่ที่เหนือกว่า และมาพร้อมความสูงแค่ 2.2 ม. และตัวเครื่องยนต์ด้านหลังที่สร้างความร้อนต่ำ

ในการสร้างหุ่นยนต์ Type-X Milrem โดยใช้ความรู้ที่ได้รับจากการพัฒนายานพาหนะภาคพื้นดินไร้คนขับ THeMIS โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนกองทหารที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งนั้น ปัจจุบันนี้ได้ถูกซื้อไปโดยสิบประเทศแล้ว ซึ่งรวมถึงสมาชิก NATO 7 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส นอร์เวย์ สหราชอาณาจักร เยอรมนี เอสโตเนีย เนเธอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา

Milrem Robotics เป็นผู้พัฒนาหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติชั้นนำของยุโรปและเป็นผู้นำของ iMUGS ซึ่งเป็นโครงการ 32,6 ล้านยูโร ที่ได้รับทุนจาก European Defense Industrial Development Program (EDIDP) ของคณะกรรมาธิการยุโรปเพื่อพัฒนาระบบภาคพื้นดินไร้คนขับที่ได้มาตรฐานยุโรป

รถคันนี้จะจัดแสดงที่สแตนด์หมายเลข B18 ของ John Cockerill ในฮอลล์ที่ 12

ชมวิดีโอของ Type-X: https://youtu.be/jQg4PLCZLdY

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน  businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210216006280/en/

ติดต่อ:

Gert Hankewitz

ผู้อำนวยการฝ่ายส่งออก

Gert.hankewitz@milrem.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Spotify ประกาศเพิ่มคณะกรรมการผู้บริหาร

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–16 กุมภาพันธ์ 2564

Spotify (NYSE: SPOT) ประกาศในวันนี้ว่า Mona Sutphen จะเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการผู้บริหารของ Spotify ในเดือนเมษายนปี 2564 ที่จะถึงนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการอนุมัติของผู้ถือหุ้น Ms. Sutphen เป็นที่ปรึกษาภาคเอกชนและเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง/ที่ปรึกษาของสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีหลายรายและเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาวในสมัยรัฐบาลโอบามา

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210216005146/en/

Mona Sutphen (Photo: Business Wire)

Mona Sutphen (ภาพ: Business Wire)

>

 “Mona ได้สะสมประสบการณ์การทำงานทั้งในภาครัฐและเอกชน โดยให้คำปรึกษาแก่ผู้นำเกี่ยวกับนโยบายภายในและระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา เทคโนโลยี เศรษฐศาสตร์มหภาคและการค้าระหว่างประเทศ และสิทธิมนุษยชน … และนั่นเป็นเพียงแค่ปัญหาเล็ก ๆ ของปัญหาที่ใหญ่กว่ามาก” Daniel Ek ผู้ก่อตั้ง Spotify ผู้บริหารและประธานคณะกรรมการ กล่าว “Mona จะนำมุมมองใหม่ๆ ที่มีค่ามาสู่คณะกรรมการ ในขณะที่เรามุ่งเน้นที่จะขับเคลื่อนกลยุทธ์ของเราไปข้างหน้าในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั่วโลก”

 “ดิฉันตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้ร่วมเป็นส่วนหนีงของคณะกรรมการผู้บริหารของ Spotify”  Ms. Sutphen กล่าว “Spotify เป็นพลังแห่งการปฏิวัติและเป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมที่น่าประทับใจในอุตสาหกรรมเพลง โดยการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของเนื้อหาทั่วโลก ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการและการขยายตัวอย่างต่อเนื่องนี้”

Ms. Sutphen ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาอาวุโสของ The Vistria Group ซึ่งเป็น บริษัทหุ้นเอกชนในชิคาโกและเป็นที่ปรึกษาร่วมทุนและผู้ร่วมก่อตั้งสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีหลายแห่ง ก่อนหน้านี้เป็นหุ้นส่วนของ Macro Advisory Partners (MAP) ซึ่งเธอนำแนวทางในการปฏิบัติของบริษัทในสหรัฐอเมริกาโดยให้คำปรึกษาแก่บริษัทชั้นนำระดับโลกเกี่ยวกับความเสี่ยงและโอกาสที่จะเกิดขึ้นใหม่ในหลากหลายภาคส่วน รวมถึงการควบคุมแพลตฟอร์มเทคโนโลยี กลยุทธ์การเข้าสู่ตลาด และพลวัตทางการเมืองและกฎระเบียบความเสี่ยงในสหรัฐอเมริกา จีน และยุโรป ก่อนหน้านี้ Ms. Sutphen ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการที่ UBS AG ซึ่งเป็นที่ที่เธอได้พัฒนาวิธีการใหม่ๆ สำหรับการประเมินความเสี่ยงทางการเมืองที่มีผลกระทบต่อตลาดทุน

ตั้งแต่ปี 2552 ถึงปี 2554 เธอดำรงตำแหน่งรองเสนาธิการฝ่ายนโยบายของประธานาธิบดีบารัค โอบามาในทำเนียบขาวในการพัฒนานโยบายและวาระการกำกับดูแลของฝ่ายบริหารรวมถึงนโยบายด้านเทคโนโลยี และดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการที่ปรึกษาข่าวกรองของประธานาธิบดีตั้งแต่ปี 2556-2559 Ms. Sutphen เป็นกรรมการอิสระของ Patten Energy และเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ของ Putnam Mutual Funds เธอเป็นสมาชิกของคณะกรรมการช่วยเหลือระหว่างประเทศและสิทธิมนุษยชน (International Rescue Committee and Human Rights First) และเป็นผู้ดูแลของวิทยาลัย Mount Holyoke ด้วย

การแต่งตั้งขึ้นอยู่กับการอนุมัติของผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญประจำปีของ Spotify ในวันที่ 21 เมษายน 2564 นี้

เกี่ยวกับ Spotify Technology S.A.

Spotify เป็นผู้ให้บริการสมัครสมาชิกสตรีมเสียงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดยมีคอมมิวนิตีที่มีผู้ใช้งานรายเดือนมากกว่า 345 ล้านคน และสมาชิกระดับพรีเมียม 155 ล้านคน ด้วยการปรากฏตัวใน 93 ตลาดและมากกว่า 70 ล้านเพลงรวมถึงรายการพ็อดคาสท์  2.2 ล้านรายการ เป็นการเปลี่ยนวิธีที่ผู้คนเข้าถึงและสามารถเพลิดเพลินกับเพลงและพ็อดคาสท์ได้

ดูเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210216005146/en/

ติดต่อนักลงทุนสัมพันธ์:
Bryan Goldberg
ir@spotify.com
investors.spotify.com

ติดต่อประชาสัมพันธ์:
Dustee Jenkins
press@spotify.com

แหล่งที่มา: Spotify Technology S.A.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย