Google Pay ในอินเดียลงนามข้อตกลงร่วมกัน (MoU) กับ NPCI International เพื่อการขยายของ UPI สู่ทั่วโลก

Logo

นิวเดลี–(BUSINESS WIRE)–18 มกราคม 2024

บริษัท Google India Digital Service (P) Limited และ NPCI International Payment Ltd (NIPL) ในเครือของบรรษัทการชำระเงินแห่งชาติของอินเดีย (NPCI) ได้ทำการลงนามเซ็นสัญญาข้อตกลงร่วมกัน (MoU) เพื่อขยายผลของระบบรับชำระและส่งเงินแบบ UPI ซึ่งจะนำความเปลี่ยนแปลงไปสู่ประเทศต่างๆ นอกเหนือจากประเทศอินเดีย

โดยข้อตกลงร่วมกัน (MoU) นี้มีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ ได้แก่ หนึ่งคือทำการขยายการใช้ระบบการชำระและส่งเงินแบบ UPI สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยู่นอกประเทศอินเดีย เพื่อให้พวกเขาสามารถทำธุรกรรมในต่างประเทศได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น สองคือช่วยในการสร้างระบบการชำระเงินดิจิทัลที่คล้ายกับ UPI ในประเทศอื่น ๆ เพื่อให้เป็นรูปแบบสำหรับการทำธุรกรรมทางการงานที่ราบรื่น และข้อสุดท้ายคือข้อตกลงร่วมกันนี้มีการให้ความสำคัญในการทำให้กระบวนการโอนเงินระหว่างประเทศเป็นเรื่องง่ายด้วยการใช้โครงสร้างของ UPI ซึ่งจะทำให้การแลกเปลี่ยนทางการเงินระหว่างประเทศเป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากขึ้น

วัตถุประสงค์ดังกล่าวนี้จะช่วยในการเร่งรัดให้ระบบรับชำระและส่งเงินแบบ UPI ได้รับการยอมรับในทั่วโลกมากขึ้น โดยการให้ผู้ประกอบการต่างประเทศได้มีโอกาสเข้าถึงลูกค้าจากอินเดียโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาเฉพาะสกุลเงินต่างประเทศ บัตรเครดิต หรือบัตร Forex เพื่อทำการชำระเงินดิจิทัล และจะทำให้มีตัวเลิกในการใช้แอปพลิเคชันที่รองรับระบบ UPI จากอินเดีย รวมไปถึง Google Pay ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับความมุ่งมั่นของบรรษัทการชำระเงินแห่งชาติของอินเดีย (NPCI) ในการเสริมสร้างบทบาทของอินเดียในเวทีการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก นอกจากนี้แล้ว ข้อตกลงร่วมกัน (MoU) นี้ยังจะมีส่วนสำคัญในการทำให้กระบวนการโอนเงินระหว่างประเทศเป็นเรื่องง่ายขึ้นโดยการลดความผูกขาดของช่องทางการโอนเงินอย่างที่เคยเป็นมา

ดีคชา เคาชาล, ผู้อำนวยการ, หุ้นส่วน, Google Pay ในอินเดีย กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะสนับสนุน NPCI International Payment Ltd (NIPL) ในการขยายขอบเขตการใช้งานระบบ UPI ไปสู่ตลาดระดับสากล และ Google Pay เองเต็มใจและรู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้ร่วมมือกับบรรษัทการชำระเงินแห่งชาติของอินเดีย (NPCI) และระบบการเงินภายใต้การควบคุมของหน่วยงาน โดยการร่วมมือนี้นั้นก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่จะช่วยยืนยันถึงการทำให้การชำระเงินเป็นเรื่องที่ง่าย ปลอดภัย และสะดวกสบาย ระบบรับชำระและส่งเงินแบบ UPI ได้แสดงให้โลกเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนที่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจเมื่อมีการใช้โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในระดับที่ประชากรสามารถทำงานร่วมกันได้ และทุกระบบเศรษฐกิจที่เข้าร่วมในเครือข่ายดังกล่าวจะสร้างแรงกระเพื่อมเกินกว่าผลรวมของบทบาทที่มันเป็น เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความร่วมมือระดับนี้”

ริเตช ชูกลา, ประธานบริหาร NPCI International Payment Ltd (NIPL) ในเครือของบรรษัทการชำระเงินแห่งชาติของอินเดีย (NPCI) กล่าวว่า “เรายินดีที่ได้ทำงานร่วมกับ Google Pay เพื่อผลักดันระบบ UPI ให้เข้าสู่เวทีโลก การวางกลยุทธ์ทางพันธมิตรนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้การทำธุรกรรมต่างประเทศสะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเท่านั้น แต่ยังจะช่วยให้เราสามารถขยายความรู้และความเชี่ยวชาญในการดำเนินการเกี่ยวกับระบบการชำระเงินดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จนี้ไปยังประเทศอื่น ๆ นอกจากนี้เรายังรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เปิดใช้งานเครือข่ายการโอนเงินระหว่างประเทศที่จะมีความราบรื่นและเชื่อมต่อกันมากขึ้นด้วยการขยายความสามารถในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศของระบบ UPI และด้วยความสำเร็จของระบบรับชำระและส่งเงินแบบ UPI ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นประจักษ์ในอินเดียนี้ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้สานต่อวิสัยทัศน์ของเราในการเปลี่ยนแปลงทัศนคติของการชำระเงินดิจิทัลทั่วโลก”

การขยายตัวไปยังทั่วโลกของระบบ UPI แสดงให้เห็นถึงขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งจะสร้างประสบการณ์การชำระเงินที่ราบรื่น ปลอดภัย และมีความคุ้มครองทางการเงินที่มีประสิทธิภาพสูงให้แก่ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อทั่วโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ NPCI International คลิกที่นี่

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ช่องทางติดต่อ

สำหรับสื่อ: corporate.communications@npci.org.in

แหล่งที่มา: NPCI International Payments Ltd

Timeline เป็นเทคโนโลยีชีวภาพที่มีอายุยืนยาวของสวิส ได้รับการสนับสนุนทางการเงินที่สําคัญ จากผู้นําอุตสาหกรรมระดับโลกเชิงกลยุทธ์ รวมถึง L’Oréal และ Nestlé

Logo

โลซาน, สวิตเซอร์แลนด์–(BUSINESS WIRE)–17 มกราคม 2024

Timeline เป็นบริษัท เทคโนโลยีชีวภาพด้านสุขภาพของผู้บริโภคในระดับแนวหน้า ในการพัฒนาโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อการสูงวัยอย่างมีสุขภาพดีและอายุยืนยาว ได้ประกาศในวันนี้ว่าบริษัทสามารถระดมทุนได้ 56 ล้านฟรังก์สวิส(66 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในการระดมทุน Series D ที่มีสมาชิกมากเกินไป นับเป็นก้าวสําคัญสําหรับบริษัท และรวมถึงการลงทุนเชิงกลยุทธ์จากสองผู้นําอุตสาหกรรมระดับโลก ได้แก่ L’Oréal และ Nestlé

Timeline Longevity Products (Photo: Timeline)

ผลิคภัณฑ์ที่มีอายุยืนยาวของ Timeline (ภาพ: Timeline)

การระดมทุนรอบนี้นําโดย BOLD (Business Opportunities for L'Oréal Development) ซึ่งเป็นกองทุนร่วมลงทุนด้านนวัตกรรมเชิงกลยุทธ์ของ L'Oréal Groupe ซึ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นของนักลงทุนในเทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทอย่าง Mitopure® เพื่อช่วยให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดีและยืนยาวขึ้น Mitopure® ได้รับการสนับสนุนในการวิจัยกว่า 15 ปี และได้ผ่านการทดสอบทางคลินิกแล้วว่า สามารถกําหนดเป้าหมายเส้นทางอายุยืนของเซลล์ที่สําคัญ โดยการรีไซเคิลและฟื้นฟูโรงไฟฟ้าของเซลล์ไมโตคอนเดรีย การทํางานของไมโตคอนเดรียอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งจําเป็นสําหรับการรักษาพลังงานของเซลล์ ซึ่งสนับสนุนความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การรับรู้ ความยืดหยุ่นของภูมิคุ้มกัน พลังผิว และประโยชน์ที่สําคัญอื่น ๆ โดยนำเสนอแนวทางที่ครอบคลุมในการส่งเสริมสุขภาพที่ดี

การสนับสนุนจากผู้นําในอุตสาหกรรมเหล่านี้ และเงินทุนที่ระดมทุนได้จะถูกนํามาใช้ เพื่อสร้าง Timeline ให้เป็นแบรนด์สุขภาพผู้บริโภคที่มีอายุยืนยาวชั้นนํา โดยการขยายด้านวิทยาศาสตร์ หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ และตลาดในภาคอาหาร ความงาม และสุขภาพ

“ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางหลายมิติที่ก้าวหน้า ซึ่งเราเชื่อมาโดยตลอดว่า จําเป็นต่อความก้าวหน้าที่มีความหมายสําหรับการมีอายุยืนยาวและสุขภาพที่ดี” Patrick Aebischer ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานของ Timeline กล่าว “ผมอยากจะขอบคุณ L’Oréal  Nestlé และนักลงทุนที่มีมายาวนานของเรา สําหรับความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาการมีอายุยืนที่มีรากฐานมาจากวิทยาศาสตร์ระดับสูงสุด”

“การมีอายุยืนยาวเป็นเรื่องของการมีสุขภาพที่ดีให้ยืนยาวขึ้น และ L’Oréal ได้ทํางานมาเป็นเวลาสิบปี เพื่อทําความเข้าใจและคาดการณ์ว่า สิ่งนี้อาจมีความหมายต่อความงามอย่างไร” Barbara Lavernos รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ดูแลฝ่ายวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยี ของ L’Oréal กล่าว “การมีอายุยืนยาวเป็นคําจํากัดความใหม่ของความงาม โดยเป็นการผสมผสานระหว่างสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่การถอดรหัสเครื่องหมายทางชีวภาพ ไปจนถึงการวิเคราะห์การสัมผัสภายนอก การลงทุนของเราใน Timeline เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสําหรับศักยภาพในการเปลี่ยนลักษณะสําคัญของการมีอายุยืนยาวมาสู่สุขภาพผิวและความงาม”

“เราเป็นผู้ลงทุนใน Timeline มาตั้งแต่ปี 2019 และยังคงประทับใจทีมงานเป็นอย่างมาก และยืนหยัดอยู่เบื้องหลังศักยภาพที่เทคโนโลยี Mitopure ยึดมั่นในโภชนาการเพื่อช่วยให้ผู้คนมีอายุยืนและสุขภาพดีขึ้น” Anna Mohl ซีอีโอของ Nestlé Health Science กล่าว “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ L’Oréal เข้าร่วมในฐานะนักลงทุนและพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ เพื่อนําเทคโนโลยีนี้ไปสู่จุดสูงสุดใหม่และขยายการใช้งาน”

เกี่ยวกับ Timeline

Timeline (บริษัทแม่ Amazentis) เป็นบริษัทผู้บุกเบิกด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพของสวิส ซึ่งมุ่งมั่นที่จะปฏิวัติอุตสาหกรรมการมีอายุยืนยาวด้วยส่วนผสม Mitopure® ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะที่ได้ผ่านการทดสอบทางคลินิกแล้ว Timeline นําเสนอแนวทางที่ครอบคลุมเพื่อสุขภาพของเซลล์ โดยผสมผสานคุณประโยชน์ของ Mitopure ไว้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรุ่นต่อไป และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพผิวเฉพาะที่ ด้วยความเชี่ยวชาญกว่าทศวรรษในการวิจัยวิทยาศาสตร์การสูงวัย Timeline มุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดด้านสุขภาพของมนุษย์ โดยมีส่วนช่วยให้ทุกคนมีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพที่ดีขึ้น บริษัทได้รับการสนับสนุนในการวิจัยกว่า 15 ปี โดยนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียง การศึกษาทางคลินิกหลายครั้ง สิทธิบัตรมากกว่า 50 รายการ และ Nestlé Health Science เป็นนักลงทุนตั้งแต่ปี 2019 ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ www.timelinenutrition.com

ติดต่อ

โปรดติอต่อ:

Chris Rinsch ประธานและผู้ร่วมก่อตั้ง Timeline

Federico Luna ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Timeline
press@timelinenutrition.com

ที่มา: Timeline

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53883838/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


NielsenIQ และ TransUnion ร่วมมือกันเพื่อสรรสร้างงานการโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมายด้วยข้อมูลการซื้อปลีกของลูกค้า

Logo

CHICAGO–(BUSINESS WIRE)–17 มกราคม 2024

NielsenIQ ผู้นำด้านการวัดผลและการวิเคราะห์ข้อมูลระดับโลก มีการประกาศสัญญาข้อตกลงที่มีกับ TruAudience® ซึ่งเป็นธุรกิจโซลูชันด้านการตลาดของ TransUnion (NYSE: TRU) เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลผู้บริโภคของ NielsenIQ เข้ากับพื้นที่แบบระบุตัวตนของพันธมิตรสำหรับการจำลองกลุ่มเป้าหมาย ความพยายามในการร่วมมือนี้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลของลูกค้าจาก NielsenIQ ด้านการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว (FMCG) และโซลูชันการระบุตัวตนของ TransUnion สำหรับการเชื่อมต่อข้อมูล เพื่อช่วยบริษัทด้านสื่อและ AdTech ให้สามารถสร้างแคมเปญที่มีผลตอบรับสูงสำหรับกลุ่มเป้าหมายจากการซื้อของผู้บริโภค

พันธมิตรความร่วมมือสามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคที่ผ่านมาในการใช้ประโยชน์จากข้อมูลด้านพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคแบบออฟไลน์สำหรับ FMCG ลูกค้าสามารถใช้ข้อมูลของ NielsenIQ เป็น “Seed Audience” เพื่อใช้ในการสร้างกลุ่มที่คล้ายกันตามข้อมูลประชากรและพฤติกรรมการซื้อ FMCG ไฮไลท์สำตัญของความร่วมมือในครั้งนี้ ได้แก่:

  • การกำหนดเป้าหมายอย่างแม่นยำเทียบได้กับเครือข่ายสื่อค้าปลีกการใช้ประโยชน์จากข้อมูลการซื้อช่วยให้บริษัทด้านสื่อและ AdTech สำหรับการสร้างโซลูชันสำหรับโอเพ่นเว็บ
  • ความเสถียรจากข้อมูลที่ล้าสมัย: ข้อมูลธุรกรรมยังคงไม่ได้รับผลกระทบจากข้อมูลที่ล้าสมัย และเมื่อวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลระบุตัวตนแบบออฟไลน์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งแสดงโดยกราฟข้อมูลระบุตัวตนของ TransUnion ซึ่งมีช่องทางสำหรับการกำหนดเป้าหมาย โดยคุกกี้และ ID โฆษณาบนมือถือจะหายไป
  • สเกลและความสามารถในการเข้าถึงระดับโลก: NielsenIQ เป็นผู้ให้บริการระดับโลกเพียงรายเดียวที่ให้ข้อมูลในสเกลนี้ ด้วย Full View™ ช่วยให้บริษัทด้านสื่อและ AdTech สามารถเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าได้อย่างไม่มีปัญหา และปรับแปลงความสามารถในการกำหนดเป้าหมายลูกค้า

“NielsenIQ สามารถเสริมศักยภาพให้บริษัทด้านสื่อและ adtech ให้สามารถบริการแก่แบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว FMCG ได้ดียิ่งขึ้น ด้วยข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุมและนำไปปฏิบัติได้จริง” Brett Jones รองประธานอาวุโส หัวหน้าฝ่ายความร่วมมือระดับโลกแบบแนวดิ่งของ NielsenIQ กล่าว “โดยการร่วมมือกับ TransUnion ในการเชื่อมโยงข้อมูลของเราเข้ากับแพลตฟอร์มสื่อ ช่วยให้เราอยู่ในตำแหน่งแนวหน้าในกำหนดอนาคตของการกำหนดเป้าหมายลูกค้า นำเสนอโซลูชันที่เน้นความเป็นส่วนตัว และปูทางสำหรับแคมเปญที่สร้างผลตอบรับที่ดีและประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น”

ในการใช้การระบุตัวตนของ TransUnion บริษัทด้านสื่อจะสามารถแก้ไขข้อมูลของ NielsenIQ ให้เหมาะสมกับมุมมองการระบุตัวตนของตัวเอง และเริ่มต้นสร้างฐานลูกค้าเป้าหมายได้ ในตลาดที่เปลี่ยนไปเป็นเครือข่ายสื่อค้าปลีก การทำงานร่วมกันนี้จะช่วยให้บริษัทสื่อและ AdTech สามารถกำหนดเป้าหมายประสิทธิภาพที่สูงยิ่งขึ้นสำหรับโอเพ่นเว็บได้

“ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ของเรากับ NielsenIQ นี้ จะช่วยให้นักการตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงเร็วและบริษัทสื่อสามารถนำเสนอประสบการณ์เฉพาะบุคคลได้ ราวกับว่าพวกเขามีข้อมูลของลูกค้าจากเครือข่ายสื่อค้าปลีก” Julie Clark รองประธานอาวุโส ฝ่ายสื่อและสันทนาการแนวดิ่งของ TransUnion กล่าว “เมื่อทำงานร่วมกัน เราจะสามารถสร้างภูมิทัศน์การโฆษณาที่มีแนวคิดก้าวหน้า ซึ่งให้ความสำคัญกับสิ่งที่เกี่ยวข้องกัน ประสิทธิผล และความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภค”

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของ NielsenIQ ในด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และการเข้าถึงขุมทรัพย์ข้อมูลของลูกค้าได้ที่ https://nielseniq.com/global/en/landing-page/media-adtech-hub/ สามารถทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับโซลูชันด้านการตลาดสำหรับ TruAudience ของ TransUnion ได้ที่ https://www.transunion.com/solution/truaudience

เกี่ยวกับ NIQ

NIQ เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านข่าวกรองของผู้บริโภค ซึ่งนำเสนอความเข้าใจที่ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค และเผยให้เห็นเส้นทางใหม่ในการเติบโต ในปี 2023 NIQ ได้รวมตัวกับ GfK เพื่อรวบรวมผู้นำอุตสาหกรรมทั้งสองระดับโลกที่ไม่มีใครเทียบได้ ด้วยข้อมูลการค้าปลีกแบบองค์รวมและข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคที่ครอบคลุมที่สุด—ช่วยให้สามารถส่งมอบผลการวิเคราะห์ขั้นสูงผ่านแพลตฟอร์มที่ล้ำสมัย—NIQ นำเสนอ Full View

NIQ เป็นบริษัทในเครือของ Advent International ที่มีการดำเนินงานในตลาดมากกว่า 100 แห่ง ครอบคลุมมากกว่า 90% ของประชากรโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ NIQ.com

เกี่ยวกับ TransUnion (NYSE:TRU)

TransUnion เป็นบริษัทด้านข้อมูลและข้อมูลเชิงลึกระดับโลก โดยมีพนักงานมากกว่า 12,000 คน และดำเนินงานในกว่า 30 ประเทศ เราสร้างความไว้วางใจได้โดยสร้างความน่าเชื่อถือในตัวแทนที่อยู่ในแต่ละตลาด โดยเรามีการสร้างภาพ Tru™ ในตัวแทนแต่ละคน ซึ่งประกอบด้วย มุมมองที่สามารถนำไปปฏิบัติได้สำหรับผู้บริโภค และมีการดูแลด้วยความเอาใจใส่ จากการเข้าซื้อกิจการและการลงทุนด้านเทคโนโลยี เราจึงมีการพัฒนาโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมซึ่งมีการขยายวงกว้างครอบคลุมรากฐานฝ่ายปฏิบัติการหลักที่แข็งแกร่งของเราไปสู่ด้านต่างๆ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลการตลาด การฉ้อโกง ความเสี่ยง และข้อมูลขั้นสูง เป็นผลให้ผู้บริโภคและธุรกิจสามารถทำธุรกรรมด้วยความมั่นใจที่สูงขึ้น และบรรลุผลสำเร็จ เราเรียกสิ่งนี้ว่า Information for Good® — และนำไปสู่โอกาสทางเศรษฐกิจ ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม และการเสริมสร้างศักยภาพส่วนบุคคลสำหรับผู้คนนับล้านทั่วโลก http://www.transunion.com/business

ติดต่อ

Media
Gillian Mosher, NIQ – Gillian.Mosher@NielsenIQ.com
David Blumberg, TransUnion – david.blumberg@transunion.com

แหล่งข้อมูล: NIQ

Xenco Medical เปิดตัว TrabeculeX Continuum ซึ่งเป็นการผสานรวมอย่างมีนัยสำคัญระหว่างสุขภาพดิจิทัลและวัสดุชีวภาพ ในงาน CES 2024 ที่ลาสเวกัส ซึ่งเป็นการประชุมเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Logo

SAN DIEGO–(BUSINESS WIRE)–16 มกราคม 2024

วันที่ 11 เดือนมกราคม Xenco Medical บริษัทเทคโนโลยีการแพทย์บุกเบิกได้เปิดตัวเทคโนโลยีที่ผสานรวมระหว่างสุขภาพดิจิทัลและวัสดุชีวภาพ โดยมีการจัดแสดง TrabeculeX Continuum™ ในงาน 2024 Consumer Electronics Show ที่ลาสเวกัส รัฐเนวาดา TrabeculeX Continuum เป็นสะพานเทคโนโลยีเชื่อมระหว่างออร์โธไบโอโลจิกส์และสุขภาพดิจิทัลแห่งแรก โดยเป็นการผสมผสานการปลูกถ่ายวัสดุชีวภาพและการฟื้นฟูหลังการผ่าตัดสำหรับผู้ป่วย ประกอบด้วย TrabeculeX Bioactive Matrix™ และ TrabeculeX Recovery App™ ที่ผ่านการรับรองจาก FDA เพื่อเพิ่มศักยภาพสำหรับศัลยแพทย์ในการปลูกถ่าย TrabeculeX Bioactive Matrix ที่ผ่านการรับรองจาก FDA ของ Xenco Medical เพื่อลงทะเบียนผู้ป่วยใน TrabeculeX Recovery App และสามารถใช้ในการตรวจสอบเพื่อการรักษาจากระยะไกล ตลอดจนวิดีโอและการส่งข้อความแบบอะซิงโครนัส TrabeculeX Continuum เป็นการผสานรวมเวชศาสตร์ฟื้นฟูและสุขภาพดิจิทัลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

On January 11th, trailblazing medical technology company Xenco Medical unveiled its convergent technology bridging Digital Health and Biomaterials by showcasing its TrabeculeX Continuum™ at the 2024 Consumer Electronics Show in Las Vegas, Nevada. Comprising the TrabeculeX Bioactive Matrix™ and the TrabeculeX Recovery App™, the TrabeculeX Continuum is the first technology-enabled bridge between orthobiologics and digital health, unifying a patient’s biomaterial implantation and postoperative journey. (Graphic: Business Wire)

เมื่อวันที่ 11 เดือนมกราคม Xenco Medical บริษัทเทคโนโลยีการแพทย์บุกเบิก ได้เปิดตัวเทคโนโลยีที่ผสานรวมระหว่างสุขภาพดิจิทัลและวัสดุขีวภาพ โดยมีการจัดแสดง TrabeculeX Continuum™ ในงาน 2024 Consumer Electronics Show ที่ลาสเวกัส รัฐเนวาดา TrabeculeX Continuum เป็นสะพานเทคโนโลยีเชื่อมระหว่างออร์โธไบโอโลจิกส์และสุขภาพดิจิทัลแห่งแรก โดยเป็นการผสมผสานการปลูกถ่ายวัสดุชีวภาพและการฟื้นฟูหลังการผ่าตัดสำหรับผู้ป่วย ประกอบด้วย TrabeculeX Bioactive Matrix™ และ TrabeculeX Recovery App™ (กราฟิก: Business Wire)

โดยมีการออกแบบมาเพื่อเพิ่มพูนความสามารถในการขึ้นรูปแบบไฮดรอกซีคาร์บอเนตอะพาไทต์ใน TrabeculeX Bioactive Matrix วัสดุชีวภาพที่สร้างขึ้นใหม่ใน TrabeculeX Continuum ได้รับการออกแบบมาอย่างประณีตโดย Xenco Medical เพื่อช่วยในการสร้างรูปกระดูกแบบสามมิติ โดยสถาปัตกรรมใหม่ของ TrabeculeX Bioactive Matrix เป็นการใช้ประโยชน์จากพื้นผิวที่ซับซ้อน เริ่มต้นที่ขนาดต่ำกว่าไมครอน และขยายไปยังโครงสร้างเนื้อเยื่อทั้งหมด TrabeculeX Recovery App เป็นการผสานรวมวิธีการปลูกถ่ายวัสดุชีวภาพเข้ากับการฟื้นฟูกายภาพอย่างเต็มรูปแบบ โดยเอื้อให้ศัลยแพทย์ที่ใช้ TrabeculeX Bioactive Matrix ในผู้ป่วยสามารถสั่งจ่ายยาและติดตามแผนการฟื้นฟูกายภาพเฉพาะด้านจากระยะไกล พร้อมความสามารถในการวิดีโอ และส่งข้อความแบบอะซิงโครนัส

“ในฐานะที่เป็นบริษัทเทคโนโลยีการผ่าตัดที่ไม่เพียงทุ่มเทให้กับการดูแลระหว่างการผ่าตัดของผู้ป่วยเท่านั้น แต่เรายังมุ่งเน้นการฟื้นตัวในระยะยาวด้วยเช่นกัน เรามุ่งมั่นที่จะขจัดอุปสรรคต่างๆ ที่เรามีอยู่ในปัจจุบันตั้งแต่การผ่าตัดไปจนถึงการฟื้นฟูกายภาพ ด้วย TrabeculeX Continuum เราขอแนะนำเทคโนโลยีการผสานรวมที่สามารถบันทึกทุกขั้นตอนในการรักษาผู้ป่วย แทนที่จะเป็นเพียงเฉพาะการดูแล” Jason Haider ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Xenco Medical กล่าว

ผู้บุกเบิกการประยุกต์ใช้งานวิทยาศาสตร์การผลิตวัสดุขั้นสูงและเครื่องมือสำหรับการผ่าตัด รวมถึงการออกแบบการปลูกถ่าย นวัตกรรมวิทยาศาสตร์การผลิตวัสดุของ Xenco Medical รวมถึงระบบการผ่าตัดคอมโพสิตโพลีเมอร์และการปลูกถ่ายไขสันหลังแบบโฟมไทเทเนียมไบโอมิเมติกได้รับการรับรองจากสถานพยาบาลทั่วประเทศ Xenco Medical ได้รับการยอมรับและเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำมากที่สุดในโลกจาก Fast Company Magazine ในปี 2023

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53882026/en

ติดต่อ

Melissa Russell
858-202-1505
info@xencomedical.com

แหล่งข้อมูล: Xenco Medical

‘Hilton for Business’ พลิกโฉมประสบการณ์การจัดการการเดินทางสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง

Logo

โปรแกรมระดับโลกได้เสนอแพลตฟอร์มการจองที่ครอบคลุมทั้ง ส่วนลด รางวัลความภักดี และเครื่องมือการจัดการโปรแกรมที่ใช้งานได้อย่างราบรื่น

MCLEAN, เวอร์จิเนีย–(BUSINESS WIRE)–17 มกราคม 2024

ในวันนี้ Hilton ได้เปิดตัว Hilton for Business  ซึ่งเป็นโปรแกรมการเดินทางแบบดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่เพิ่มศักยภาพให้กับมืออาชีพที่ดำเนินธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง เพื่อทำให้จัดการการเดินทางได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็เพิ่มรางวัลและส่วนลดสำหรับความภักดีของพวกเขาอีกด้วย

(Photo: Business Wire)

(Photo: Business Wire)

โปรแกรมระดับโลกนั้นนำเสนอชุดเครื่องมืออันครอบคลุมเพื่อปรับปรุงการจองการเดินทางเพื่อธุรกิจ สร้างประสบการณ์ที่ดีการจัดการ อีกทั้งมอบสิทธิประโยชน์ของ Hilton Honors ให้กับลูกค้าธุรกิจ รวมถึงพนักงานทั่วโลก

Hilton for Business ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น: ข้อมูลของ Hilton เปิดเผยว่ามี 75 เปอร์เซ็นต์ของลูกค้าธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่จองการเดินทางเพื่อธุรกิจของตนเองและจัดการการเดินทางภายในองค์กรด้วยตนเอง โดยไม่ได้จ้างบุคคลภายนอก รายงาน Hilton’s 2024 Trends Report เน้นย้ำว่า 80% ของนักเดินทางทั่วโลกยอมรับว่าการจองการเดินทางทั้งหมดทางออนไลน์ได้นั้นเป็นสิ่งสำคัญ

“ที่ Hilton เรารับฟังความต้องการของลูกค้าแล้วนำมาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อมอบประสบการณ์โรงแรมที่เหนือกว่าสำหรับทุกโอกาสในการเข้าพัก ซึ่งรวมถึงลูกค้าธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางของเราที่กำลังมองหาแพลตฟอร์มการเดินทางและสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิกที่ตรงกับความต้องการเฉพาะของพวกเขา และลดความยุ่งยากตั้งแต่การจองไปจนถึงการเรียกเก็บเงิน” Chris Silcock ประธานของ Global Brand and Commercial Services ของ Hilton กล่าว “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เปิดตัว Hilton for Business อย่างเป็นทางการในวันนี้ ซึ่งเป็นโซลูชันเชิงกลยุทธ์ของเราเพื่อเพิ่มประสบการณ์การเดินทางเพื่อธุรกิจให้กับลูกค้าและพนักงานของพวกเขา”

ขณะนี้ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางสามารถค้นพบประสบการณ์การเดินทางเพื่อธุรกิจที่ราบรื่นและขับเคลื่อนด้วยมูลค่ามากขึ้นโดยการมีส่วนร่วมกับ Hilton for Business ด้วยวิธีต่อไปนี้:

ส่วนลดทั่วทั้งพอร์ตโฟลิโอ

ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่เข้าร่วมกับ Hilton for Business จะได้รับส่วนลดสำหรับโรงแรมทั่วโลกของ Hilton จำนวน 7,400 แห่งทั้งบนเว็บไซต์และในแอป Hilton Honors

รางวัลการเดินทางสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและพนักงาน

ผ่านโปรแกรมนี้ บริษัทต่างๆ จะได้รับคะแนนโบนัสผ่านโปรแกรม Hilton’s award-winning loyalty อย่าง Hilton Honors สะสมคะแนนที่ได้รับรางวัลของ Hilton ซึ่งรวมถึง:

  • บริษัทที่ลงทะเบียนใน Hilton for Business จะได้รับคะแนนโบนัส Hilton Honors  7,500 คะแนน หลังจากที่สมาชิกโปรแกรมใดๆ เข้าพักโรงแรมครั้งแรกเสร็จสิ้น
  • หลังจากที่สมาชิกโปรแกรมเข้าพักทุกๆ 10 คืน บริษัทจะได้รับคะแนนโบนัส Hilton Honors 5,000 คะแนน คะแนนโบนัสเหล่านั้นจะอยู่ในบัญชีบริษัทของธุรกิจ และสามารถใช้เพื่อแจกจ่ายให้กับตนเองและ/หรือสมาชิกคนใดก็ได้ในโปรแกรม Hilton for Business
  • นักเดินทางเดี่ยว รวมทั้งเจ้าของและพนักงาน จะยังคงได้รับคะแนน Hilton Honors ส่วนตัวและสิทธิประโยชน์ทุกครั้งที่เข้าพัก

การเริ่มต้นใช้งานอย่างรวดเร็ว

เมื่อเข้าเยี่ยมชม Hilton.com/HiltonforBusiness เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางหรือผู้ดูแลการเดินทางสามารถลงทะเบียนตนเองและบริษัทของตนผ่านบัญชี Hilton Honors ของตนเอง เพื่อเข้าถึงระบบการจองและการจัดการการเดินทางแบบบริการตนเองที่ครอบคลุมและใช้งานง่าย เนื่องจากเข้าใจถึงความคับข้องใจที่ลูกค้าจำนวนมากต้องเจอกับกระบวนการลงทะเบียนที่ยาวและซับซ้อน การลงทะเบียนของ Hilton for Business จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อให้กระบวนการลงทะเบียนและการตรวจสอบยืนยันรวดเร็วขึ้น เมื่อลงทะเบียนแล้ว ลูกค้าและพนักงานจะสามารถเข้าถึงเว็บไซต์การจองและสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ ในขั้นตอนนั้น นักเดินทางแต่ละรายจะสามารถสร้างโปรไฟล์การเดินทางส่วนตัวและธุรกิจแยกกันภายในบัญชี Hilton Honors ของตนเอง ทำให้เกิดความแตกต่างและการจัดการระหว่างสองโปรไฟล์ได้อย่างราบรื่น

การจัดการโปรแกรมที่ราบรื่น

นอกเหนือจากการช่วยให้นักเดินทางในบริษัทสามารถจองราคาพิเศษได้อย่างง่ายดาย เจ้าของธุรกิจยังสามารถควบคุมได้อย่างเต็มที่ และสามารถมอบหมายการจัดการโปรแกรมให้กับผู้ดูแลระบบจำนวนเท่าใดก็ได้ และการเพิ่มพนักงานนั้นตรงไปตรงมา ยิ่งมีพนักงานรวมอยู่ในโครงการมากเท่าไร บริษัทก็จะยิ่งได้รับผลประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น ธุรกิจต่างๆ สามารถติดตามการใช้จ่ายที่กำลังจะเกิดขึ้น ตรวจสอบการใช้จ่ายที่ผ่านมา และทำความเข้าใจสิทธิประโยชน์ที่สะสมระหว่างการเดินทาง

ดูข้อมูลเพิ่มเติมหรือลงทะเบียนได้ที่ Hilton.com/HiltonforBusiness.

เกี่ยวกับ Hilton

Hilton (NYSE: HLT) เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านการบริการ โดยมีแบรนด์ระดับโลก 22 แบรนด์ใน portfolio ซึ่งประกอบด้วยที่พักเกือบ 7,400 แห่ง และห้องพักมากกว่า 1.1 ล้านห้อง ใน 124 ประเทศและดินแดน ด้วยความมุ่งมั่นที่จะตอบสนองตามวิสัยทัศน์ในการเติมเต็มโลกด้วยแสงสว่างและความอบอุ่นของการต้อนรับ Hilton ได้ต้อนรับแขกมากกว่า 3 พันล้านคนในประวัติศาสตร์กว่า 100 ปี และได้รับการยกย่องให้เป็นสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดอันดับ 1 ของโลกโดย Great Place to Work และ Fortune และได้รับการว่าเป็นผู้นำระดับโลกในด้านดัชนีความยั่งยืน Dow Jones Sustainability Indices เป็นเวลาเจ็ดปีติดต่อกัน Hilton ได้นำเสนอการปรับปรุงเทคโนโลยีชั้นนำของอุตสาหกรรมเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของแขก รวมถึงการแชร์ดิจิทัลคีย์ (Digital Key Share)การอัปเกรดห้องพักฟรีแบบอัตโนมัติ และความสามารถในการจองห้องที่มีประตูเชื่อมถึงกัน ด้วยโปรแกรมสะสมคะแนนฮิลตัน ออนเนอร์ส (Hilton Honors) ที่ได้รับรางวัล สมาชิกมากกว่า 173 ล้านคนที่จองโดยตรงกับ Hilton สามารถรับคะแนนสำหรับการเข้าพักในโรงแรม และรับประสบการณ์ที่เงินไม่สามารถซื้อได้ ด้วยฮิลตัน ออนเนอร์ส (Hilton Honors app)  ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นฟรี แขกสามารถจองการเข้าพัก เลือกห้อง เช็คอิน ปลดล็อคประตูด้วยดิจิทัลคีย์ (Digital Key)และเช็คเอาท์ ทั้งหมดนี้ได้ด้วยสมาร์ทโฟน เยี่ยมชม stories.hilton.com เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม และติดต่อกับ Hilton บน Facebook, Twitter, LinkedIn, Instagram และ YouTube.

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53876389/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Colleen Hart
การสื่อสารองค์กรระดับโลก
Colleen.Hart@hilton.com

ที่มา : Hilton

Aramco Digital และ Intel ตั้งเป้าที่จะร่วมมือกันจัดตั้งศูนย์พัฒนา Open RAN แห่งแรกของซาอุดิอาระเบีย

Logo

ดาห์ราน, ซาอุดิอาระเบีย–(BUSINESS WIRE)–15 มกราคม 2024

Aramco Digital และ Intel ประกาศเจตนารมณ์ที่จะจัดตั้งศูนย์พัฒนา Open RAN (Radio Access Network) แห่งแรกของซาอุดิอาระเบีย สิ่งอํานวยความสะดวกนี้คาดว่าจะขับเคลื่อนนวัตกรรม ส่งเสริมความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และมีส่วนสนับสนุนภูมิทัศน์การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในราชอาณาจักร

ความร่วมมือนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเร่งการพัฒนาและปรับใช้เทคโนโลยี Open RAN ซึ่งช่วยให้ราชอาณาจักรสามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมที่แข็งแกร่งและคล่องตัว โดยมุ่งเน้นที่การเร่งการแปลงเป็นดิจิทัลในอุตสาหกรรมต่างๆ ความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ 2030 ของซาอุดิอาระเบีย ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความหลากหลายทางเศรษฐกิจ

Open RAN ซึ่งเป็นกระบวนทัศน์ที่พัฒนาขึ้นในสถาปัตยกรรมเครือข่ายไร้สาย ช่วยให้เกิดความยืดหยุ่น ความสามารถในการทํางานร่วมกัน และนวัตกรรมที่มากขึ้น Aramco Digital นําเสนอความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความต้องการ และความทะเยอทะยานในการพัฒนาของราชอาณาจักร ตลอดจนโอกาสในการปรับใช้เทคโนโลยี Open RAN ควบคู่ไปกับมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ของภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจของราชอาณาจักร Intel ผู้บุกเบิกด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร นําความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยี Open RAN มาสู่ความร่วมมือกัน

จุดเด่นของความร่วมมือกัน:

1. **ศูนย์กลางนวัตกรรม:** ศูนย์พัฒนา Open RAN มีจุดมุ่งหมายที่จะทําหน้าที่เป็นศูนย์กลางนวัตกรรม ส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง Aramco Digital กับวิศวกร นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของ Intel

2. **การพัฒนาบุคคลากรในท้องถิ่น:** ศูนย์มีจุดมุ่งหมายที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาบุคลากรในท้องถิ่น โดยจัดให้มีการฝึกอบรมและประสบการณ์ตรงในสาขาที่พัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี Open RAN และการประมวลผลแบบเอดจ์

3. **ผลกระทบทางเศรษฐกิจ:** ความร่วมมือนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น ผ่านความคิดริเริ่มที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่กว้างขึ้นของวิสัยทัศน์ 2030

4. **ความร่วมมือระดับโลก:** ความร่วมมือใน Open RAN ระหว่าง Aramco Digital และ Intel คาดว่าจะขยายออกไปเกินขอบเขต โดยเชื่อมโยงซาอุดิอาระเบียเข้ากับภูมิทัศน์ระดับโลก ของการพัฒนาและการปรับใช้ Open RAN และ Edge

Tareq Amin ซีอีโอของ Aramco Digital กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของเรา ในการช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมในราชอาณาจักร ศูนย์พัฒนา Open RAN คาดว่าจะเป็นตัวเร่งให้เกิดวิวัฒนาการทางดิจิทัล โดยเป็นแพลตฟอร์มสําหรับการทํางานร่วมกัน การพัฒนาทักษะ และการสร้างระบบนิเวศเทคโนโลยีที่มีชีวิตชีวา หัวใจสําคัญของความร่วมมือนี้ คือการสร้างกลุ่มความสามารถในท้องถิ่นสำหรับเทคโนโลยี 5G ขั้นสูง และเทคโนโลยี 6G ในอนาคต”

“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมมือกันใน Open RAN กับ Aramco Digital และเพื่อรวมความสามารถทางเทคโนโลยีของ Intel ในด้านเครือข่าย การประมวลผลแบบเอดจ์ และซอฟต์แวร์ เข้ากับข้อมูลเชิงลึกในท้องถิ่นและความเป็นผู้นําในอุตสาหกรรมของ Aramco Digital เรามุ่งมั่นที่จะเร่งการปรับใช้โซลูชัน Open RAN แบบ edge-native ในซาอุดิอาระเบียและที่อื่น ๆ” [Sachin Katti รองประธานอาวุโสของ Intel และผู้จัดการทั่วไปของ Network and Edge Group] กล่าว

ศูนย์พัฒนา Open RAN มีแผนที่จะเริ่มดําเนินการในปี 2024 ซึ่งนับเป็นก้าวสําคัญในการเดินทางของซาอุดิอาระเบียสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี

เกี่ยวกับ Aramco Digital:

Aramco Digital เป็นบริษัทด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีในเครือของ Aramco ซึ่งเป็นบริษัท พลังงานและเคมีภัณฑ์ครบวงจรระดับโลก Aramco Digital มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและนวัตกรรมทางเทคโนโลยีในภาคส่วนต่างๆ

เกี่ยวกับ Intel:

Intel (NASDAQ: INTC) เป็นผู้นําระดับโลกในด้านนวัตกรรมการประมวลผล บริษัทออกแบบและสร้างเทคโนโลยีที่จําเป็น ซึ่งทําหน้าที่เป็นรากฐานสําหรับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของโลก

*ที่มา: AETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53882082/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Hosam M. Al-Gharib
media.inquires@aramcodigital.com

ที่มา: Aramco Digital

Korea Grand Sale 2024 เทศกาลช้อปปิ้งและการท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดของเกาหลีเริ่มขึ้นแล้ว

Logo

มหกรรมช้อปปิ้งระยะเวลา 50 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 มกราคมถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์

กรุงโซล เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–15 มกราคม 2024

Korea Grand Sale ซึ่งเป็นอีเวนต์ใหญ่ครั้งแรกในปีนี้โดยเป็นส่วนหนึ่งของ 2023-2024 Visit Korea Year พร้อมแล้วที่จะจุดประกาย “ช่วงเวลาสุดพิเศษในเกาหลี” ของคุณตั้งแต่วันที่ 11 มกราคมเป็นต้นไป

Korea Grand Sale 2024 runs from January 11th to February 29th, offering benefits and discounts across various areas, including K-travel, K-shopping, K-culture, and more. (Graphic: Visit Korea Committee)

Korea Grand Sale 2024 เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 มกราคมถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ โดยจะมอบสิทธิประโยชน์และส่วนลดในภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวเกาหลี การช้อปปิ้งในเกาหลี วัฒนธรรมเกาหลี และอีกมากมาย (กราฟิก: คณะกรรมการ Visit Korea)

เทศกาลที่น่าตื่นเต้นนี้พร้อมที่จะมอบสิทธิประโยชน์และส่วนลดในภาคส่วนต่างๆ ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวเกาหลี การช้อปปิ้งในเกาหลี และวัฒนธรรมเกาหลี ดื่มด่ำกับประสบการณ์ในแบบฉบับเกาหลีขนานแท้หลากหลายแขนง พร้อมด้วยโปรแกรมคอนเทนต์เกาหลีได้รับการคัดสรรมาเพื่ออีเวนต์นี้โดยเฉพาะ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53879288/en

ข้อมูลติดต่อ

คณะกรรมการ Visit Korea
Saeram Zeong
zeongs@smtown.com

แหล่งที่มา: คณะกรรมการ Visit Korea

Wemade ขอนำเสนอกิจกรรมปีใหม่ MIR4 ‘ค้นหาหิน Cintamani สีฟ้า’!

Logo

  • ร้านค้าแลกเปลี่ยนและกิจกรรมเช็คอินพร้อมให้เข้าร่วมกิจกรรมแล้วในขณะนี้ โดยสามารถรับไอเทมต่างๆ เช่น ‘กล่องของขวัญเซอร์ไพรส์มังกรเหลือง’ และ ‘ตั๋วแลกเปลี่ยนสโนว์บอร์ดดอกไม้ฤดูหนาว’
  • มีการเพิ่มอุปกรณ์สำรองในตำนานใหม่ ‘อุปกรณ์สำหรับโอนถ่าย’ ซึ่งจะเพิ่ม PHYS ATK และ Spell ATK เมื่อติดตั้ง

SEOUL, South Korea–(BUSINESS WIRE)–11 มกราคม 2024

เกม MMORPG MIR4 ยอดฮิตของ Wemade เริ่มต้นกิจกรรมปีใหม่ “ค้นหาหิน Cintamani สีฟ้า” เมื่อวันที่ 9 มกราคม

Wemade is organizing MIR4 New Year's event called

ในขณะนี้ Wemade กำลังดำเนินการจัดกิจกรรมปีใหม่ MIR4 ที่มีชื่อว่า “ค้นหาหิน Cintamani สีฟ้า” (กราฟิก: Wemade)

“ร้านค้าแลกเปลี่ยนหิน Cintamani สีฟ้าของ Mir” เปิดให้บริการแล้วใน MIR4 จนถึงวันจันทร์ที่ 22 เดือนมกราคม ผู้เล่นสามารถนำ “หิน Cintamani สีฟ้า” ที่ได้รับในระหว่างการไล่ล่าหาสมบัติสำหรับ NPC “(2024) Mir” ที่ค้นพบในเมืองใหญ่ของแต่ละพื้นที่ เพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนเป็นไอเทมอื่นๆ เช่น “รูปปั้นมังกรฟ้าในตำนาน” และ “กล่องของขวัญเซอร์ไพรซ์มังกรเหลือง” ซึ่งรวบรวมตั๋วคอลเล็กชันต่างๆ รวมทั้งมีการแจกเหรียญตรา Codex เพื่อใช้ในการบูสต์เอฟเฟกต์ต่างๆ เช่น EVA และ CRIT

กิจกรรม “เช็คอินมังกรฟ้า 14 วัน” จะดำเนินต่อจนถึงวันจันทร์ที่ 5 เดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับวันที่ผู้เล่นลงชื่อเข้าในระบบ มีรางวัลไอเทมมากมาย “[E] Dragonsteel Box” และ “ตั๋วแลกเปลี่ยนสโนว์บอร์ดดอกไม้ฤดูหนาว” ยิ่งไปกว่านั้น “ร้านเหรียญกิจกรรมแคลน” ยังคงเปิดให้บริการจนถึงวันอังคารที่ 23 เดือนมกราคม ผู้เล่นสามารถใช้เหรียญแคลนที่ได้รับจากกิจกรรมแคลนเพื่อซื้อ “[L] Mystic Enhancement Stone”, “Sarmati’s Transference Equipment Box” และอื่นๆ อีกมากมาย

มีการเพิ่มอุปกรณ์สำรองในตำนานใหม่ “อุปกรณ์ถ่ายโอน” อุปกรณ์ถ่ายโอนเป็นไอเทมที่ได้รับเมื่อผู้เล่นสร้างความสัมพันธ์กับแต่ละบุคคลจาก Outerworld ผ่าน Mirage Ship ตัวละครที่มีระดับ 100 ขึ้นไปสามารถติดตั้งได้ และ PHYS ATK และ Spell ATK จะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการติดตั้ง

จากการต่อสู้ของฉันสู่สงครามของเรา! สามารถดูรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับ MIR4 ได้ที่ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/53879332/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Wemade Co., Ltd. (112040: KOSDAQ)
Jennifer Jung, PR Manager
jennifer@wemade.com

แหล่งข้อมูล: Wemade Co., Ltd.

แซลมอนขึ้นแท่นธนาคารจดทะเบียนในฟิลิปปินส์

Logo

มะนิลา ฟิลิปปินส์ –(BUSINESS WIRE)–9 มกราคม 2024

แซลมอน บริษัทเทคโนโลยีทางการเงินที่มุ่งมั่นพัฒนาการเข้าถึงสินเชื่อ การออมและการลงทุนให้กับลูกค้าที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินกว่า 500 ล้านคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ประกาศการรับรองการอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการการเงินแห่งธนาคารกลางแห่งฟิลิปปินส์ (BSP) ให้ทำการถือครองหุ้นในธนาคารแห่งซานตาโรซา (ลากูน่า) ซึ่งถือเป็นสถาบันทางการเงินจดทะเบียนที่ได้รับความไว้วางใจในการให้บริการชาวฟิลิปปินส์ตั้งแต่ปี 2506

ทั้งนี้แซลมอนจะถือครองหุ้น 59.7% ของธนาคารแห่งซานตาโรซาเมื่อมีการบรรลุข้อตกลงในการถือครองหุ้นฉบับนี้ ซึ่งกระบวนการต่าง ๆ จะสิ้นสุดลงในอีกไม่กี่สัปดาห์ โดยใบรับรองการจดทะเบียนและรอยเท้านิเวศน์ของธนาคารแห่งซานตาโรซาจะทำให้แซลมอนสามารถเสนอขายผลิตภัณฑ์สินเชื่อและการกู้ยืมที่มีการบริหารจัดการโดยใช้เอไอให้กับลูกค้าทั่วประเทศ ทั้งนี้แซลมอนจะดำเนินธุรกิจทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ โดยสร้างความแตกต่างให้กับตนเองโดยการให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้าทุกระดับ ซึ่งลูกค้ากว่า 92% ของบริษัทแนะนำให้เพื่อนและครอบครัวใช้บริการของแซลมอน

การก้าวขึ้นมาเป็นธนาคารจดทะเบียนในตลาดหลักถือเป็นก้าวสำคัญทั้งสำหรับแซลมอนและฟิลิปปินส์ โดยแซลมอนได้จับมือกับบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินหลายแห่งที่ดำเนินธุรกิจสถาบันธนาคารจดทะเบียนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสัญญาความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มการเข้าถึงบริการธนาคารสมัยใหม่ในหมู่ชาวฟิลิปปินส์ที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินหลายล้านคนในภูมิภาคสำคัญ ๆ เช่น เมโทรมะนิลา เซบู และดาเวา ซึ่งแซลมอนวางแผนที่จะขยายสาขาใหม่อีกหลายสาขาตามความเห็นชอบของธนาคารกลางแห่งฟิลิปปินส์ โดยธุรกรรมทางการเงินถือเป็นการส่งเสริมโครงการเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธนาคารท้องถิ่นที่ริเริ่มโดยธนาคารกลางแห่งฟิลิปปินส์ในปี 2565 เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับภาคการธนาคารท้องถิ่นของประเทศและส่งเสริมการเติบโตแบบองค์รวมเพื่อรับมือกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาของประชากรชาวฟิลิปปินส์ที่มีความตื่นตัว พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ และมีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยี

“เรารู้สึกตื่นเต้นกับการพัฒนาการครั้งสำคัญซึ่งเป็นอีกก้าวที่สำคัญของแซลมอน และรู้สึกซาบซึ้งกับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางแห่งฟิลิปปินส์ และวิสัยทัศน์ของธนาคารในการขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการทางการเงินในประเทศ ข้อตกลงฉบับนี้จะช่วยให้เราเข้าถึงชุมชนด้อยโอกาสในฟิลิปปินส์ได้มากขึ้น โดยให้บริการทางการเงินที่ทันสมัย ยึดถือลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และเข้าถึงง่ายกับผู้คนมากขึ้น เรายังภาคภูมิใจกับความสัมพันธ์อันน่าอัศจรรย์ของเรากับทีมบริหารของธนาคารแห่งซานตาโรซา (ลากูน่า) และหมายมั่นที่จะสร้างสถาบันการเงินที่แข็งแกรงไปพร้อม ๆ กันเพื่อขยายการบริการให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศฟิลิปปินส์”

แซลมอนจะคงรักษาและยกระดับการให้บริการในรูปแบบออฟไลน์ของธนาคารไว้เช่นเดิม โดยอัดฉีดเงินทุนและเทคโนโลยีอย่างเพียงพอให้กับธนาคารเพื่อยกระดับการบริการให้กับลูกค้าทุกคน กลยุทธ์การยึดเอาลูกค้าเป็นศูนย์กลางของแซลมอน ที่เป็นที่ชื่นชมในกลุ่มลูกค้าปัจจุบัน จะมีการนำไปปรับใช้ให้ครอบคลุมทุกช่องทาง รวมถึงช่องทางออฟไลน์ด้วย

ติดต่อ
pr@fhl.world

ที่มา: Salmon

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

SingPost เปิดใช้งานการขนส่งโลจิสติกส์อีคอมเมิร์ซแบบเรียลไทม์ทั่วเอเชียแปซิฟิกด้วย Boomi

Logo

ทีมงาน SingPost ผู้ให้บริการไปรษณีย์และโลจิสติกส์อีคอมเมิร์ซชั้นนำ ร่วมมือกับ Boomi เพื่อเสริมการให้บริการแก่ลูกค้าใหม่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น 75  เปอร์เซนต์

SINGAPORE & CHESTERBROOK, Pa.–(BUSINESS WIRE)–10 มกราคม 2024

Boomi™ ผู้นำด้านการเชื่อมต่อและระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ ประกาศในวันนี้ว่า  Singapore Post Limited (SingPost) มีการร่วมมือกับ แพลตฟอร์ม Boomi เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและเพิ่มความเร็วในการให้บริการแก่ลูกค้าใหม่ได้เร็วยิ่งขึ้น เพื่อตอบรับเป้าหมายการปรับแปลงเป็นระบบดิจิทัล

SingPost Enables Real-Time eCommerce Logistics Delivery Across Asia Pacific With Boomi (Graphic: Business Wire)

SingPost เปิดใช้งานการขนส่งโลจิสติกส์อีคอมเมิร์ซแบบเรียลไทม์ทั่วเอเชียแปซิฟิกด้วย Boomi (กราฟิก: Business Wire)

ในขณะที่อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ทั่วโลกคาดว่า จะมีมูลค่าสูงถึง 6.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2023 รายได้จากอีคอมเมิร์ซเฉพาะในเอเชียคาดว่าจะสูงถึง 1.92 ล้านล้านเหรียญในปี 2024 ในฐานะผู้ให้บริการไปรษณีย์และโลจิสติกส์อีคอมเมิร์ซชั้นนำในเอเชียแปซิฟิก SingPost ให้บริการ 13 ตลาดทั่วจุดหมายปลายทางทั่วโลกถึง 220 แห่ง ด้วยเป้าหมายที่มุ่งเน้นการจัดส่งพัสดุอีคอมเมิร์ซทั้งในประเทศและต่างประเทศ SingPost ได้เริ่มโครงการปรับแปลงเป็นระบบดิจิทัล พร้อมกับการใช้งานเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงแพลตฟอร์มบูรณการข้อมูลที่ปรับแต่งได้ และ AI เชิงสร้างสรรค์

เพื่อปรับปรุงธุรกิจให้ทันสมัยท่ามกลางภูมิทัศน์ห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อน พร้อมการปรับปรุงความพึงพอใจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น SingPost จึงต้องการโซลูชันที่ปรับขนาดได้และมีประสิทธิภาพสำหรับการปรับแปลงข้อมูลและแผนที่ข้อมูล รวมถึงการจัดการบูรณาการและอินเทอร์เฟซโปรแกรมมิ่งสำหรับแอปพลิเคชัน (API)

“ข้อมูลเป็นรากฐานสำคัญสำหรับธุรกิจของเรา เราใช้ข้อมูลเพื่อประสานการจัดส่งโลจิสติกส์อีคอมเมิร์ซแบบครบวงจร โดยคำนึงถึงประสบการณ์ของลูกค้าเป็นหลัก เราต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า ลูกค้าของเราได้รับข้อมูลที่อัปเดตในทุกขั้นตอน ตั้งแต่สั่งซื้อสินค้าออนไลน์จนถึงสินค้ามาถึงหน้าประตูบ้าน” Noel Singgih, Group CIO ของ SingPost กล่าว

ในการตรวจสอบให้แน่ใจว่า ข้อมูลพร้อมใช้งาน และสามารถใช้งานได้แบบเรียลไทม์ เป็นส่วนสำคัญในเป้าหมายการปรับแปลงเป็นระบบดิจิทัลของ SingPost บริษัทต้องการยกเลิกการใช้ข้อมูลแบบแนวดิ่ง ปรับปรุงการกำกับดูแลข้อมูล และเปลี่ยนจากระบบเดิมที่ซ้ำซ้อน เพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสทางการตลาดและขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ SingPost ต้องการแพลตฟอร์มบูรณาการที่เสถียรและเชื่อถือได้สำหรับบริการ (iPaaS)

“เราต้องการแพลตฟอร์มบูรณาการเชิงกลยุทธ์สำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (EDI) และการผสานข้อมูลแบบ API เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและมีความยืดหยุ่นในการปรับขนาดสำหรับธุรกิจของเราและความต้องการตามฤดูกาล” Singgih กล่าว “ด้วยแพลตฟอร์ม Boomi ในปัจจุบัน เราสามารถเริ่มให้บริการแก่ลูกค้าใหม่ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นถึง 75 เปอร์เซนต์ จากที่เราต้องใช้เวลาห้าถึงหกสัปดาห์ ปัจจุบันเราใช้เวลาน้อยกว่าสองสัปดาห์ ความร่วมมือของเรากับ Boomi ช่วยให้เราสามารถปรับปรุงความโปร่งใสในการจัดส่งและการปฏิบัติตามคำสั่งซื้อของลูกค้า ช่วยให้เรามีความคล่องตัวยิ่งขึ้น และมีโอกาสทางการตลาดสูงขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดกลางและผู้ค้าปลีกอีคอมเมิร์ซ”

“ในโลกดิจิทัลที่เราเชื่อมต่อถึงกันโดยทั่ว การก้าวนำหน้าเป็นกุญแจสำคัญ Boomi ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมได้อย่างรวดเร็วและในวงกว้าง เพื่อให้บรรลุการปรับแปลงให้เป็นระบบดิจิทัลและสอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นพันธมิตรกับ SingPost ในการปรับแปลงบริษัทดิจิทัลแห่งแรก โดยมุ่งเน้นที่ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลแบบเรียลไทม์” Thomas Lai รองประธานและผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นของ Boomi กล่าว

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Boomi
Boomi มีเป้าหมายที่จะทำให้โลกนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้นโดยการเชื่อมโยงทุกคนเข้าด้วยกันกับทุกสิ่งและจากทุกที่ ในฐานะที่เป็นผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มบูรณาการบนระบบคลาวด์ในฐานะบริการ (iPaaS) และปัจจุบันเป็นบริษัทซอฟท์แวร์ที่ให้บริการ (SaaS) ชั้นนำระดับโลก Boomi มีฐานข้อมูลลูกค้าขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มบูรณาการและเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลกประมาณ 800 ราย – รวมถึง Accenture, Capgemini, SAP และ Snowflake องค์กรระดับโลกหันมาใช้แพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลของ Boomi ในการค้นหา จัดการ และผสานรวมข้อมูล ในขณะเดียวกัน ก็เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน กระบวนการ และผู้คนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ boomi.com

© 2023 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ ‘B’, และ Boomiverse เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทสาขาหรือบริษัทในเครือ สงวนลิขสิทธิ์ ชื่อหรือเครื่องหมายอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53866937/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สื่อ:
Jasmine Ee
Head of Media and Analyst Relations, APJ
jasmine.ee@boomi.com

แหล่งข้อมูล: Boomi, LP