Veea จะสนับสนุนการนําโครงข่ายพลังงานเสมือนจริงที่ขับเคลื่อนด้วย AI ระดับโลกของ DeepGreenX ไปใช้ ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับเงินสนับสนุนจากสัญญาเช่าซื้อมูลค่า 140 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในอีก 5 ปีข้างหน้า
นิวยอร์กและปารีส
Pallion Group ผนวกความยืดหยุ่นและประสบการณ์ลูกค้าเข้ากับธุรกิจทองและเครื่องประดับที่เต็มไปด้วยพลวัตด้วย Boomi
กลุ่มแบรนด์ผลิตภัณฑ์โลหะมีค่าและเครื่องประดับของออสเตรเลียทั้งหกแบรนด์เสริมความแข็งแกร่งด้านประสบการณ์ลูกค้า ผ่านการเชื่อมต่อที่เชื่อถือได้และการมองเห็นข้อมูล (data visibility) เป็นการช่วยวางรากฐานสำหรับ AI ช่วยสร้าง
ซิดนีย์–(BUSINESS WIRE)–22 พฤศจิกายน 2024
วันนี้ Boomi™ ผู้นำด้านการบูรณาการอัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ ประกาศว่า Pallion Group บริษัทผลิตภัณฑ์โลหะมีค่าและเครื่องประดับของออสเตรเลีย ได้เสริมความแข็งแกร่งด้านความยืดหยุ่นและประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience : CX) ในทุกแบรนด์ของบริษัท และวางรากฐานสำหรับ AI ช่วยสร้าง (generative AI) โดยใช้ Boomi Enterprise Platform เป็นฐานสำหรับกลยุทธ์ด้านข้อมูล

Pallion Group ผนวกความยืดหยุ่นและประสบการณ์ลูกค้าเข้ากับธุรกิจทองและเครื่องประดับที่เต็มไปด้วยพลวัตด้วย Boomi (กราฟิก : Business Wire)
Pallion ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในซิดนีย์ เป็นบริษัทที่ประกอบด้วยแบรนด์ทั้งหมดหกแบรนด์ ที่จัดหา ผลิต จัดจำหน่าย ขาย และให้บริการการจัดเก็บที่ปลอดภัย สำหรับทองคำ เงิน และเครื่องประดับที่ผลิตตามสั่ง โดยให้บริการแก่องค์กรและบุคคล ในออสเตรเลีย ฮ่องกง และจีน บริษัทได้นำแพลตฟอร์มการบูรณาการในรูปแบบบริการ (Integration Platform as a Service : iPaaS) ของ Boomi มาใช้ เพื่อทำให้การเชื่อมต่อระหว่างระบบเทคโนโลยีง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้เกิดการมองเห็นข้อมูลทางการเงิน การค้า และห่วงโซ่อุปทานผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีความอ่อนไหวอย่างมาก
Simon Smith ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศกลุ่ม (Group Chief Information Officer : CIO) ของ Pallion Group กล่าวว่า “Pallion จัดหาโลหะมีค่าและเครื่องประดับมูลค่าสูง ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับการกำหนดราคาแบบพลวัตและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งยังมีข้อกำหนดด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวด เพราะในท้ายที่สุดแล้ว เราดูแลเงินของผู้คนและบริษัทต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงธนาคาร กองทุนบำนาญ และผู้ค้าปลีกรายใหญ่” “นั่นหมายความว่าเราต้องการให้มีช่วงเวลาให้บริการที่มีความต่อเนื่อง (consistent uptime) สำหรับระบบของเราและระหว่างระบบของเรา เพื่อให้มีการโฟลว์ของข้อมูลไปกลับแบบเรียลไทม์ ในขณะที่ทีมของเราสามารถดูข้อมูลลูกค้าแบบรวมศูนย์ในหน้าจอเดียวได้ Boomi ขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านข้อมูลของเราด้วยการมอบเฟรมเวิร์กการบูรณาการแบบ Hub-and-Spoke ที่สะอาด เพื่อเชื่อมต่อแพลตฟอร์มที่สำคัญต่อธุรกิจและรวมศูนย์ข้อมูลเพื่อให้ความต้องการนี้เป็นไปได้”
ตามที่คุณ Smith กล่าวนั้น Pallion ได้นำ Boomi Enterprise Platform มาใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 เพื่อให้การสนับสนุนฐานรากของการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (digital transformation) และเพื่อแทนที่ “ความยุ่งเหยิงแบบเส้นสปาเกตตี” (“spaghetti mess”) นับร้อยรายการ ของการบูรณาการในรูปแบบจุดต่อจุด (point-to-point integration) ที่ล้าสมัย แพลตฟอร์ม Boomi ได้ถูกใช้เพื่อเชื่อมต่อชุดการวางแผนทรัพยากรองค์กร (Enterprise Resource Planning : ERP) Microsoft Dynamics 365 และระบบการเงินและทรัพยากรบุคคล (Human Resources : HR) ของ Pallion และบริษัทยืนยันว่าการใช้ iPaaS จะปรับขนาดขึ้นได้ (scale up) เมื่อกลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลพัฒนาไป ในขณะเดียวกัน ข้อมูลที่ถูกนำเข้าโดยระบบของ Pallion ได้ถูกรวมศูนย์ไว้ใน Boomi DataHub แล้ว
คุณ Smith กล่าวว่า “Boomi ได้สร้างสภาพแวดล้อมที่เรามั่นใจว่าเราสามารถวางใจได้ ในการส่งข้อมูลไปยังบุคคลและสถานที่ที่ถูกต้อง อย่างปลอดภัย โดยไม่มีช่วงเวลาหยุดทำงาน (downtime) ครอบคลุมตั้งแต่การดำเนินงานด้านการผลิตไปจนถึงเว็บไซต์ที่ลูกค้าของเราใช้ในการซื้อโลหะมีค่าและเครื่องประดับ” “สิ่งนี้ได้ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า เนื่องจากข้อมูลที่ผู้ซื้อและทีมของเราเห็นจะมีความถูกต้องเสมอ หากมีปัญหาใด ๆ โมเดลการบูรณาการของ Boomi จะช่วยให้เราสามารถระบุและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว – กระบวนการที่เคยใช้เวลาหลายวันตอนนี้เสร็จสิ้นได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง”
Pallion ยังพบว่า ผลิตภาพเพิ่มขึ้นสูงมาก เนื่องจาก Boomi ช่วยให้บริษัทลดเวลาที่ต้องใช้ในการบำรุงรักษาและแก้ไขการบูรณาการแบบจุดต่อจุดลงได้อย่างมาก
นอกจากนี้ คุณ Smith กล่าวว่า Boomi Enterprise Platform ยังทำหน้าที่เป็น “ชั้นการเชื่อมต่อ” (abstraction layer) ทำให้มั่นใจได้ว่า การลงทุนด้านเทคโนโลยีเพิ่มเติมจะถูกบูรณาการเข้ากับกลุ่มบริษัทได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น โดยมีข้อมูลพร้อมใช้งานผ่าน Boomi DataHub สิ่งนี้มีความสำคัญในแผนกลยุทธ์ของ Pallion โดยบริษัทวางแผนที่จะนำ AI ช่วยสร้าง มาใช้ เพื่อให้พนักงานสามารถค้นข้อมูลของบริษัทโดยใช้ภาษาธรรมชาติได้ และในท้ายที่สุดเพื่อเร่งกระบวนการภายในต่าง ๆ และการบริการลูกค้า
David Irecki ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นของ Boomi กล่าวว่า “Pallion Group เป็นผู้ให้บริการแบรนด์ค้าปลีกที่มีชื่อเสียงที่สุดหลายแบรนด์ ตั้งแต่ Tiffany & Co ไปจนถึง Michael Hill Jewellery รวมถึงให้บริการแก่สถาบันการเงิน และประชาชนชาวออสเตรเลีย บริษัทเองยังได้ร่วมทำถ้วยรางวัล Melbourne Cup และ Australian Open และรถม้าพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ด้วย ลูกค้าของบริษัทย่อมคาดหวังประสบการณ์ที่ราบรื่นเมื่อต้องทำการตัดสินใจครั้งสำคัญในการซื้อผลิตภัณฑ์ Boomi ได้ช่วย Pallion ในการสร้างสภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้และยืดหยุ่น สำหรับแบรนด์ทุกแบรนด์ เพื่อให้ประสบการณ์ลูกค้าที่เหมาะสมที่สุด ในขณะเดียวกันก็รองรับข้อผูกพันด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวด ซึ่งกลุ่มบริษัทต้องปฏิบัติตาม”
ทรัพยากรเพิ่มเติม
- รับฟังจากลูกค้าของ Boomi จากทั่วทุกมุมโลก
- ค้นหาโซลูชันบน Boomi Discover
- สำรวจชุมชน Boomiverse
- ติดตาม Boomi ได้บน X, LinkedIn, Facebook และ YouTube
เกี่ยวกับ Boomi
Boomi ผู้นำด้านการบูรณาการอัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ ที่ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกสามารถปรับให้กระบวนการสำคัญต่าง ๆ เป็นระบบอัตโนมัติและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ทางธุรกิจได้เร็วขึ้น ด้วยการใช้ความสามารถขั้นสูงของปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) Boomi Enterprise Platform เชื่อมต่อระบบและจัดการโฟลว์ของข้อมูลด้วยการจัดการ API (API Management) การบูรณาการ (Integration) การจัดการข้อมูล (Data Management) และการประสานงานปัญญาประดิษฐ์ (AI Orchestration) ในโซลูชันครบวงจรเดียว ด้วยฐานลูกค้าที่กว่า 20,000 บริษัททั่วโลก และเครือข่ายพาร์ทเนอร์ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วกว่า 800 ราย Boomi กำลังปฏิวัติวิธีการที่องค์กรทุกขนาดบรรลุความคล่องตัวทางธุรกิจและความเป็นเลิศในการดำเนินงาน ค้นพบเพิ่มเติมได้ที่ boomi.com
ลิขสิทธิ์ของ Boomi, LP ปีค.ศ. 2024 “Boomi”, โลโก้ “B” และ Boomiverse เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP, บริษัทในเครือ หรือบริษัทย่อย ชื่อหรือเครื่องหมายอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย
ข้อมูลติดต่อ
สำหรับสื่อ :
Jasmine Ee
หัวหน้าฝ่ายความสัมพันธ์อินฟลูเอนเซอร์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นjasmine.ee@boomi.com
แหล่งที่มา : Boomi
สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54152750/en
Boomi ประกาศรายชื่อผู้ชนะรางวัล APJ Customer Innovation Award ประจำปี 2024
ซิดนีย์–(BUSINESS WIRE)–21 พฤศจิกายน 2024
ในวันนี้ Boomi™ ผู้นำด้านการบูรณาการและระบบอัตโนมัติอัจฉริยะได้ประกาศรายชื่อผู้ชนะรางวัล Asia Pacific and Japan (APJ) Customer Innovation Awards ประจำปี 2024 โดยมอบที่งาน Boomi World Tour ประจำปี 2024 ที่เมืองซิดนีย์

Boomi ประกาศรายชื่อผู้ชนะรางวัล APJ Customer Innovation Award ประจำปี 2024 (รูปภาพ: Business Wire)
ผู้ชนะได้รับเกียรติจากการคิดค้นนวัตกรรมด้วยการบูรณาการแอปพลิเคชันและข้อมูลลงในระบบปรับปรุงธุรกิจด้วย Boomi Enterprise Platform ผู้ชนะรางวัลในปีนี้ได้รับเลือกจากผลงานที่โดดเด่นในเกณฑ์ต่อไปนี้ คือ การแสดงผลกระทบต่อธุรกิจผ่านผลลัพธ์ที่โดดเด่นและใช้วัดผลได้ การผันเปลี่ยนสู่ระบบดิจิทัล โปรเจคต์นวัตกรรม ผลกระทบต่อสังคม การปรับปรุงให้ทันสมัย ความเป็นเลิศด้านการบูรณาการ และความเป็นเลิศด้านระบบอัตโนมัติ
ผู้ชนะรางวัลในปีนี้ได้แก่
- Norths Collective – รางวัลลูกค้าแห่งปีของ APJ (APJ Customer of the Year Award) — Norths Collective ขับเคลื่อนกลยุทธ์การผันเปลี่ยนสู่ระบบดิจิทัลของตนไปกับ Boomi โดยเชื่อมต่อระบบแยก รวมถึงรวมศูนย์กลางข้อมูลการดำเนินงานและสมาชิกของตน การบูรณาการนี้ช่วยสนับสนุนการตัดสินใจทางธุรกิจและมอบประสบการณ์สมาชิกแบบเฉพาะบุคคลอย่างยิ่งให้กับกลุ่มธุรกิจบริการที่ตั้งอยู่ในนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งแสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม รวมถึงอัตราการคลิกอีเมลที่เพิ่มขึ้นถึง 8 เท่า
- HEB Construction (HEB) – รางวัลความเป็นเลิศด้านธุรกิจ (Business Excellence Award) — HEB เพิ่มระดับการใช้งานแพลตฟอร์ม Boomi ของตนเพื่อดึงประสิทธิภาพเครื่องมือตรวจสอบถนนที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของบุคคลที่สามที่มีอยู่ให้ได้อย่างสูงสุด HEB ใช้ Boomi เพื่อบูรณาการเครื่องมือ AI เข้ากับระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) และแพลตฟอร์มการจัดการงานและทรัพย์สิน (WAM) ของรัฐบาลกลางและท้องถิ่น เพื่อให้ฝ่ายบำรุงรักษาและลูกค้าได้ข้อมูลเชิงลึกที่แม่นยำและทันท่วงทียิ่งขึ้น ซึ่งตามมาด้วยความสำเร็จขององค์กรในการนำ Boomi เข้ามาใช้เพื่อสร้างความสอดคล้องให้กับระบบการดำเนินงานในพื้นที่นิวซีแลนด์และบริษัทแม่ในระดับโลก
Uniting Care Queensland (UCQ) – รางวัลความเป็นเลิศด้านการดูแลสุขภาพ (Healthcare Excellence Award) — Uniting Care Queensland สามารถมอบบริการที่พึ่งพาและสเกลระดับได้ทั่วทั้งโรงพยาบาลทั้งสี่แห่งด้วย Boomi การตัดสินใจของ UCQ ในการเปลี่ยนแพลตฟอร์มบูรณาการแบบเดิมของตนไปเป็นแพลตฟอร์มของ Boomi ช่วยให้บริการตั้งแต่แผนกรังสีวิทยา แผนกพยาธิวิทยา และแผนกสูติกรรม ไปจนถึงบริการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนของรัฐบาล การรายงานตามกฎหมาย และบริการด้านอาหารได้รับการยกระดับและสามารถนำกลับมาใช้ได้ทั่วทั้งสถานที่ของบริษัท ในบรรดาระบบบูรณาการกว่า 110 ระบบนั้น แพลตฟอร์ม Boomi Enterprise ยังรองรับการประมวลผลทางการเงินในด้านการเรียกเก็บเงิน การขอเคลมสินไหม และการคืนเงินอีกด้วย
Toyota Motors Corporation Australia (TMCA) – รางวัลความเป็นเลิศด้านนวัตกรรม (Innovation Award) — TMCA ใช้แพลตฟอร์ม Boomi เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการเชื่อมต่อระหว่างระบบธุรกิจองค์กร รวมถึงการบูรณาการกับระบบบางระบบในเครือข่ายแฟรนไชส์ TMCA ในออสเตรเลีย ทั้งยังเปิดใช้งานผลิตภัณฑ์ดิจิทัลบางประเภทให้กับลูกค้าโตโยต้าอีกด้วย ซึ่งช่วยให้กลุ่มยานยนต์สามารถสร้างมุมมองรวมของข้อมูลลูกค้า และรองรับการเก็บบันทึกที่แม่นยำเพื่อให้เกิดกำกับดูแลที่ดีขึ้นและปรับปรุงผลลัพธ์ของประสบการณ์ลูกค้า ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมระบบ Back-End แบบนำมาใช้ซ้ำได้ในระบบบูรณาการ และ API รวมถึงการพัฒนาโค้ดด้วยรูปแบบ Asynchronous
- Toowoomba Regional Council (TRC) – รางวัลความเป็นเลิศด้านการส่งผลต่อสังคม (Social Impact Award) —TRC นำแพลตฟอร์ม Boomi มาใช้เพื่อปรับปรุงการส่งมอบบริการดิจิทัลให้แก่ผู้อยู่อาศัย รวมถึงคำขอด้านการบำรุงรักษา การชำระค่าน้ำ และแอปพลิเคชันพัฒนาที่อยู่อาศัย ด้วยการบูรณาการแบบฟอร์มบริการเข้ากับระบบต่างๆ มากมายของสภา ในตอนนี้ ผู้อยู่อาศัยจึงได้รับประโยชน์จากกระบวนการบนแอปพลิเคชันที่รองรับอุปกรณ์เคลื่อนที่และช่วยกรอกข้อมูลให้ล่วงหน้า ซึ่งช่วยลดเวลาในการกรอกคำร้องขอและปรับปรุงกระบวนการบริหารจัดการที่น่าเบื่อหน่ายสำหรับเจ้าหน้าที่สภาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
โทมัส ไล รองประธานและผู้จัดการทั่วไปของ APJ ที่ Boomi กล่าวว่า “ในช่วงปีที่ผ่านมา ระบบบูรณาการและระบบอัตโนมัติถือเป็นแรงผลักดันเบื้องหลังของการผันเปลี่ยนสู่ระบบดิจิทัล ซึ่งให้ความสำคัญไปที่ลูกค้าของเรา” ผู้ชนะรางวัล APJ ประจำปี 2024 เป็นตัวอย่างของบริษัทที่มีความมุ่งมั่นต่อผลลัพธ์ทางธุรกิจที่หลากหลาย ตั้งแต่การตัดสินใจที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ไปจนถึงการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เพิ่มขึ้น และการเพิ่มผลผลิต เรามีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงปฏิรูปภายในโปรเจกต์นวัตกรรมที่ได้รับการยกย่องในปีนี้”
เพื่อตอบสนองต่อจำนวนผู้ส่งผลงานที่มีคุณสมบัติสูงอย่างล้นหลามที่ส่งผลงานเข้าชิงรางวัล APJ Customer Innovation Awards ของปีนี้ Boomi จึงรู้สึกยินดีที่ได้ให้ความยอมรับและให้เกียรติผู้เข้าชิงทุกคนด้วยเช่นกัน ซึ่งลูกค้าที่ส่งผลงานแต่ละรายแสดงให้เห็นถึงความเป็นเลิศและงานที่โดดเด่นจากการใช้แพลตฟอร์ม Boomi Enterprise Platform
“ลูกค้าของเราสามารถสร้างผลกระทบในอุตสาหกรรมของตน ส่งมอบประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมในด้านผลผลิต และปรับปรุงประสบการณ์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและชุมชนของพวกเขาอย่างเห็นได้ชัด ด้วยการเชื่อมการลงทุนทางดิจิทัลของพวกเขากับแพลตฟอร์ม Boomi และการปรับปรุงการมองเห็นข้อมูลของพวกเขาให้ดีขึ้น” ไลกล่าว
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
- ดูข้อมูลเกี่ยวกับ Boomi Enterprise Platform
- Explore the Boomiverse Community
- ติดตาม Boomi ได้บน X (Twitter), LinkedIn, Facebook, และ YouTube
เกี่ยวกับ Boomi
Boomi เป็นผู้นำด้านระบบบูรณาการและระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ ซึ่งช่วยองค์กรทั่วโลกบูรณาการระบบอัตโนมัติและพัฒนากระบวนการที่สำคัญให้เป็นไปอย่างราบรื่นเพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ทางธุรกิจได้เร็วยิ่งขึ้น Boomi Enterprise Platform สามารถเชื่อมต่อระบบและจัดการกระแสข้อมูลด้วยการจัดการ API ระบบบูรณาการ การจัดการข้อมูล และการสั่งการ AI ได้อย่างไร้รอยต่อลงในโซโลชันครบวงจรเดียวด้วยการดึงความสามารถขั้นสูงของ AI Boomi ช่วยปฏิวัติวิธีการที่องค์กรทุกขนาดบรรลุความคล่องตัวทางธุรกิจและความเป็นเลิศในการปฏิบัติงานให้กับฐานลูกค้ามากกว่า 20,000 บริษัททั่วโลก และเครือข่ายพันธมิตรมากกว่า 800 รายที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ boomi.com
© 2024 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ 'B' และ Boomiverse เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทย่อยหรือบริษัทในเครือ สงวนลิขสิทธิ์ ชื่อหรือเครื่องหมายอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย
สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54152745/en
ข้อมูลติดต่อ
ข้อมูลติดต่อนักประชาสัมพันธ์
แจสมิน อี
หัวหน้าฝ่ายความสัมพันธ์กับผู้มีอิทธิพลทางความคิดของ APJ
jasmine.ee@boomi.com
แหล่งข้อมูล: Boomi.
ผู้นำด้านการเงินจากกว่า 20 ประเทศจะมาร่วมกันหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตที่ยั่งยืนที่การประชุมใหญ่ของ ABA ที่ไทเป
ไทเป ประเทศไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–21 พฤศจิกายน 2024
ตัวแทนมากกว่า 250 คนจากกว่า 20 ประเทศ รวมทั้งธนาคารกลาง สถาบันการเงิน บริษัทต่างๆ และองค์กรระหว่างประเทศ รวมตัวกันที่ไทเปเพื่อเข้าร่วมการประชุมใหญ่และการประชุมทางวิชาการของสมาคมธนาคารแห่งเอเชีย หรือ Asian Bankers Association (ABA) ครั้งที่ 40 งานนี้ชื่อว่า “ธนาคารเอเชีย: การเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตที่ยั่งยืน” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 ถึง 19 พฤศจิกายนที่โรงแรม Grand Hyatt Taipei ผู้เข้าร่วมพิธีเปิด ได้แก่ กัว จี้ฮวย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจของไต้หวัน และเผิง จินหลง ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลทางการเงิน โดยทั้งสองท่านได้กล่าวสุนทรพจน์และนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภาคการเงินและเทคโนโลยีของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

การประชุมใหญ่และการประชุมวิชาการของสมาคมธนาคารแห่งเอเชีย (ABA) ครั้งที่ 40 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่โรงแรม Grand Hyatt Taipei ผู้นำด้านการเงินกว่า 250 รายจากกว่า 20 ประเทศมารวมตัวกันที่ไทเป ผู้เข้าร่วมงานที่มีชื่อเสียง ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ กัว จี้ฮุ่ย (คนตรงกลาง) ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลทางการเงิน เผิง จินหลง (คนที่ 6 จากทางซ้าย) และประธานสมาคมธนาคารแห่งเอเชีย (ABA) กับรองประธาน CTBC Financial Holding แดเนียล หวู่ (คนที่ 6 จากทางขวา) (ภาพจากสมาคมธนาคารแห่งเอเชีย)
นายเจฟฟรีย์ คู ซีเนียร์ ผู้ก่อตั้ง CTBC Financial Holding ได้ก่อตั้งสมาคมธนาคารแห่งเอเชีย (ABA) เมื่อ 43 ปีที่แล้วเพื่อรับมือกับความท้าทายในระดับนานาชาติของไต้หวัน โดยสร้างเส้นทางสู่การทูตทางการค้าและเศรษฐกิจภาคเอกชน เหตุการณ์สำคัญครั้งนี้ยังถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในด้านการบูรณาการทางการเงินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอีกด้วย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น สมาคมธนาคารแห่งเอเชีย (ABA) ได้จัดการประชุมประจำปีในเมืองใหญ่ ๆ ของประเทศสมาชิกเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการแลกเปลี่ยนทางธุรกิจในภูมิภาค โดยก่อนหนา้นี้ไทเปเคยเป็นเจ้าภาพการประชุมในปี 1981 1998 2006 2010 และ 2015 ปีนี้ถือเป็นครั้งที่ 6 ที่งานนี้จัดขึ้นในไต้หวัน โดยเน้นย้ำถึงอิทธิพลและความเป็นผู้นำของ CTBC Bank ในภูมิภาค ไม่เพียงแต่ตัวแทนสำคัญจากอุตสาหกรรมการเงินระหว่างประเทศเท่านั้นที่เข้าร่วม แต่ยังมีทูตจากประเทศสมาชิกสมาคมธนาคารแห่งเอเชีย (ABA) ที่ประจำอยู่ในไต้หวันด้วย รวมถึงลี อึนโฮ ตัวแทนคณะผู้แทนเกาหลีในไทเป ยิป เว่ย เคียต ตัวแทนสำนักงานการค้าสิงคโปร์ในไทเป และหวู เตียน สุง ตัวแทนสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมเวียดนามในไทเป
แดเนียล หวู่ ประธานสมาคมธนาคารแห่งเอเชีย (ABA) และรองประธาน CTBC Financial Holding ได้เน้นย้ำถึงความท้าทายสำคัญที่อุตสาหกรรมการธนาคารต้องเผชิญในการเดินทางบนเส้นทางการผันเปลี่ยนสู่ระบบดิจิทัล ในขณะที่ความคาดหวังของลูกค้า รูปแบบการดำเนินงาน และเทคโนโลยีดิจิทัลยังคงพัฒนาต่อไป ธนาคารเองก็กำลังเปลี่ยนจากการดำเนินงานแบบดั้งเดิมไปสู่บริการดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยประสบการณ์ของลูกค้าเช่นกัน หวู่แสดงความมั่นใจในบทบาทของสมาคมธนาคารแห่งเอเชีย (ABA) ในฐานะแพลตฟอร์มระดับโลกในการสนับสนุนประเทศสมาชิกในการรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ ซึ่งช่วยให้ธนาคารบรรลุการผันเปลี่ยนสู่ระบบดิจิทัลได้สำเร็จ และมั่นใจได้ถึงความยั่งยืนในระยะยาว
การประชุมครั้งนี้มีการสนทนาอย่างเป็นกันเองระหว่างโธมัส ไนเดส ซึ่งเป็นรองประธานของบริษัท Blackstone Inc. และเคยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำอิสราเอลตั้งแต่ปี 2021 ถึง 2023 กับแดเนียล หวู่ ไนเดสได้เน้นย้ำถึงโอกาสและความท้าทายเฉพาะตัวของเอเชียในยุคหลังการระบาดใหญ่ โดยอาศัยประสบการณ์การทำงานอันยาวนานของเขา รวมถึงบทบาทอาวุโสที่ Morgan Stanley และประสบการณ์จากตำแหน่งรองเลขาธิการกระทรวงการต่างประเทศในสมัยประธานาธิบดีโอบามา นอกจากนี้ เขายังให้ข้อเสนอแนะถึงวิธีที่ภาคการธนาคารจะสามารถรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันและยั่งยืนได้ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์
ในวันแรกของการประชุมนั้น ราเชล เคา ประธานบริษัท CTBC Financial Holding ได้เป็นผู้แลการประชุมอภิปราย โดยได้มีการหารือกับฟิลิป เฉา ประธานบริษัท Bank SinoPac และนีเวน หวาง กรรมการผู้จัดการบริษัท KPMG Sustainability Consulting จำกัดในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมความยั่งยืนในทุกอุตสาหกรรม นอกจากนี้ เพีย เบอร์นาเด็ตต์ โรมัน ทายาค ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์ก็ได้ร่วมหารือกับไททัน เชีย หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยีการเงินของ CTBC และฟริดมัน วัง หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีดิจิทัลของ CTBC Bank ในหัวข้อ “การเปลี่ยนแปลงการธนาคารที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี” และ “การปรับจุดเน้นด้านลูกค้าและสังคมใหม่” โดยเป็นการหารือในเรื่องเทคโนโลยีและความท้าทายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผันเปลี่ยนสู่ระบบดิจิทัลภายในภาคการธนาคาร
โดยมีริชาร์ด คู หัวหน้าทีมเศรษฐศาสตร์ของ Nomura Research Institute ได้วิเคราะห์พลวัตทางการเงินและเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และจีนในวันที่สองของการประชุม ทั้งยังได้มีการหารือถึงการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการธนาคาร ระหว่างโทนี่ หยาง ประธานธนาคาร CTBC ลิโต วิลลานูเอวา รองประธานบริหารและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านนวัตกรรมและการมีส่วนร่วมของ Rizal Commercial Banking Corporation อัตซึชิ มาซูดะ ประธานสมาคมสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือในเอเชีย และวินายัก เอชวี หุ้นส่วนอาวุโสของ McKinsey & Co ด้วย การประชุมใหญ่และการประชุมวิชาการของสมาคมธนาคารแห่งเอเชีย (ABA) ครั้งที่ 40 ซึ่งจัดขึ้นร่วมกันโดยธนาคาร CTBC สมาคมธนาคารแห่งสาธารณรัฐจีน และสมาคมธนาคารแห่งเอเชีย (ABA) มุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเทคโนโลยีทางการเงินและความยั่งยืน ซึ่งผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกโดยตรงและสร้างกลยุทธ์ทางธุรกิจร่วมกันผ่านการพูดคุยอย่างเป็นกันเอง การประชุมอภิปรายระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน การอภิปรายแบบโต้ตอบ และการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษา
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย
สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: www.businesswire.com/news/home/54156310/en
ข้อมูลติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์│ธนาคาร CTBC จำกัด
ชื่อ: พาเมล่า เฉิน
อีเมล: pamela.chen@ctbcbank.com
เบอร์โทร: +886-2-3327-7777 Ext.6724
ลิงก์: https://www.ctbcholding.com/content/twhoo/zh_tw/index.html
แหล่งข้อมูล: CTBC HOLDING
Boomi ประกาศรายชื่อผู้ชนะรางวัลพาร์ทเนอร์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น ประจำปี 2024
ซิดนีย์–(BUSINESS WIRE)–20 พฤศจิกายน 2024
วันนี้ Boomi™ ผู้นำด้านการบูรณาการอัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ ประกาศรายชื่อผู้ชนะรางวัลพาร์ทเนอร์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น (APJ Partner Awards) ประจำปี 2024 ในงาน 2024 APJ Boomi Partner Summit ซึ่งจัดขึ้น ณ นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย รางวัลในปีนี้มอบให้แก่ Atturra (ASX : ATA), LTIMindtree (NSE : LTIM, BSE : 540005) และ Adaptiv ในฐานะพาร์ทเนอร์ผู้ทรงคุณค่าและมีวิสัยทัศน์ก้าวไกล ซึ่งประสบความสำเร็จในการใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์กับ Boomi เพื่อเร่งผลลัพธ์ทางธุรกิจให้แก่ลูกค้า

Boomi ประกาศรายชื่อผู้ชนะรางวัลพาร์ทเนอร์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น ประจำปี 2024 (กราฟิก : Business Wire)
ผู้ชนะรางวัลได้รับการคัดเลือกจากการใช้ความสามารถทั้งหมดของ Boomi Enterprise Platform เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม แก้ไขความท้าทายที่ซับซ้อน และสร้างผลกระทบเชิงบวกในด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมให้แก่ลูกค้า
Jim Fisher รองประธานฝ่ายพันธมิตรและช่องทางการจัดจำหน่าย ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นของ Boomi กล่าวว่า “พาร์ทเนอร์ของเราทั่วภูมิภาคกำลังยกระดับขีดความสามารถของ Boomi สู่จุดสูงสุดใหม่” “ด้วยความเชี่ยวชาญอันลึกซึ้ง พวกเขาได้มอบสภาพแวดล้อมข้อมูลที่มีการบูรณาการและมีความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งไม่เพียงแค่สามารถขับเคลื่อนระบบอัตโนมัติ แต่ยังช่วยให้สามารถทำการตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลนำ และยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า ความมุ่งมั่นในระดับนี้เป็นสิ่งจำเป็นต่อความสำเร็จของโครงการการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) ทุกโครงการ ไม่ว่าจะเป็นโครงการขนาดใหญ่หรือเล็ก พาร์ทเนอร์ผู้ทรงคุณค่าของเรายังคงเป็นผู้เปิดทาง แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทอย่างไม่หยุดยั้งในการสร้างโลกที่เชื่อมต่อกันมากขึ้นและส่งเสริมความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่ขึ้นในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี”
“รางวัลเหล่านี้เป็นโอกาสให้ Boomi ได้ยกย่องพาร์ทเนอร์ที่เคารพและฉลองให้กับผลงานอันน่าทึ่งในการส่งเสริมแบรนด์ของเราและส่งมอบสิ่งที่ Boomi สัญญา และเรามุ่งหวังที่จะสานต่อแรงขับเคลื่อนแห่งความสำเร็จนี้ไปพร้อมกับผู้ชนะรางวัลและผู้เข้าชิงทุกราย เพื่อเข้าสู่ปีอันน่าตื่นเต้นที่รอเราอยู่”
ผู้ชนะรางวัลประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น ปี 2024 แบ่งตามประเภท มีดังนี้ :
- พาร์ทเนอร์แห่งปี ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น – Atturra
- พาร์ทเนอร์แห่งปี ประจำภูมิภาคออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ – Atturra
- พาร์ทเนอร์แห่งปี ประจำภูมิภาคเอเชีย – LTIMindtree
- พาร์ทเนอร์เติบโตโดดเด่นแห่งปี ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น – Adaptiv
- พาร์ทเนอร์ด้านบริการแห่งปี ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น – Atturra
Boomi นำเสนอโซลูชันการบูรณาการอัจฉริยะและระบบอัตโนมัติแบบครบวงจรที่ช่วยองค์กรดิจิทัลสมัยใหม่ในการเร่งผลลัพธ์ทางธุรกิจ บริษัทให้บริการลูกค้ากว่า 20,000 ราย มีชุมชนผู้ใช้ที่เติบโตขึ้นกว่า 250,000 ราย และมีเครือข่ายพาร์ทเนอร์ทั่วโลกประมาณ 800 ราย
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมพาร์ทเนอร์ของ Boomi หรือค้นหาพาร์ทเนอร์จากทั่วโลกผ่านระบบนิเวศของ Boomi โดยเยี่ยมชมที่ Boomi.com/partners
ติดตาม Boomi ได้บน X (Twitter), LinkedIn, Facebook และ YouTube
เกี่ยวกับ Boomi
Boomi ผู้นำด้านการบูรณาการอัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ ที่ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกสามารถปรับให้กระบวนการสำคัญต่าง ๆ เป็นระบบอัตโนมัติและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ทางธุรกิจได้เร็วขึ้น ด้วยการใช้ความสามารถขั้นสูงของปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) Boomi Enterprise Platform เชื่อมต่อระบบและจัดการโฟลว์ของข้อมูลด้วยการจัดการ API (API Management) การบูรณาการ (Integration) การจัดการข้อมูล (Data Management) และการประสานงานปัญญาประดิษฐ์ (AI Orchestration) ในโซลูชันครบวงจรเดียว ด้วยฐานลูกค้าที่กว่า 20,000 บริษัททั่วโลก และเครือข่ายพาร์ทเนอร์ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วกว่า 800 ราย Boomi กำลังปฏิวัติวิธีการที่องค์กรทุกขนาดบรรลุความคล่องตัวทางธุรกิจและความเป็นเลิศในการดำเนินงาน ค้นพบเพิ่มเติมได้ที่ boomi.com
ลิขสิทธิ์ของ Boomi, LP ปีค.ศ. 2024 “Boomi”, โลโก้ “B” และ Boomiverse เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP, บริษัทในเครือ หรือบริษัทย่อย ชื่อหรือเครื่องหมายอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย
สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54152732/en
ข้อมูลติดต่อ
สำหรับสื่อ :
Jasmine Ee
หัวหน้าฝ่ายความสัมพันธ์อินฟลูเอนเซอร์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น
jasmine.ee@boomi.com
แหล่งที่มา : Boomi
ผู้คว้ารางวัล ASEAN Steel Architectural Awards ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกได้รับการประกาศชื่อในงานที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในมาเลเซีย
สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–19 พฤศจิกายน 2024
ผู้คว้ารางวัล BlueScope Steel Architectural Awards ASEAN ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกได้รับการประกาศชื่อในงานกาลาดินเนอร์ที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียในวันที่ 14 พฤศจิกายน หน่วยงานด้านอุตสาหกรรมที่ได้รับการยกย่องจำนวนมาก ทั้งสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ (ASA) จากประเทศไทย, Ikatan Arsitek Indonesia (IAI) จากประเทศอินโดนีเซีย, University of Architecture Ho Chi Minh City (UAH) จากประเทศเวียดนาม, ACG Media Group จากประเทศมาเลเซีย และ AustCham Singapore จากประเทศสิงคโปร์ได้ร่วมมือกับ NS BlueScope ในการจัดตั้งรางวัลนี้ขึ้นเพื่อยกย่องชื่นชมการใช้เหล็กกล้าอย่างสร้างสรรค์และล้ำสมัยในโครงการด้านสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้

(รูปภาพ: Business Wire)
รางวัลแบ่งออกเป็นห้าประเภท โดยจะมีการประกาศผู้คว้ารางวัลเพียงหนึ่งเดียวจากโครงการต่าง ๆ ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในแต่ละประเภท บริษัทจากประเทศมาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย และเวียดนามได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้เข้าชิงรอบสุดท้ายของ ASEAN โดยคัดเลือกจากผู้ชนะการแข่งขันภายในประเทศทั้งสิ้น 14 รายชื่อ โครงการต่าง ๆ ได้รับการประเมินจากความเป็นเลิศด้านการออกแบบ นวัตกรรม และความยั่งยืน โดยคณะกรรมการจะให้คะแนนจากคุณลักษณะด้านต่าง ๆ ตั้งแต่ความสวยงามไปจนถึงฟังก์ชันการใช้งานและประสิทธิภาพ และมุ่งเน้นเป็นพิเศษในเรื่องการช่วยเหลือชุมชนท้องถิ่นของผลงานนั้น ๆ
ผู้คว้ารางวัลในแต่ละประเภทมีดังนี้
- อุตสาหกรรม: The Industrial Foundry for Marine Vessels โดย Ar. Naksit Wisetmora
- พาณิชย์: รีสอร์ต Vana Vasa โดย M J Kanny Architect
- ที่พักอาศัย: LAAB is More โดย Studio Sifah
- สถาบันและอื่น ๆ: มัสยิด Daing Abdul Rahman โดย Razin Architects
- ความงามเหนือกาลเวลาของเหล็กกล้า COLORBOND®: ศูนย์ประชุม CIDB โดย Arkiskape
คุณ Connell Zhang ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของ NS BlueScope & China กล่าวว่า “งานประกาศรางวัลที่จัดขึ้นมาใหม่นี้จะช่วยให้ผลงานทางสถาปัตยกรรมจากเหล็กกล้าที่เหนือชั้นที่สุดบางแห่งในภูมิภาคของเราเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ในฐานะผู้นำวงการด้านโซลูชันเหล็กกล้าแบบทาสีและแบบเคลือบ เราภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนช่วยคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้กับวงการก่อสร้างและช่วยให้เกิดโครงการต่าง ๆ ที่สวยงามและผ่านการออกแบบมาเป็นอย่างดีเหล่านี้ ซึ่งส่งเสริมชุมชนของเราได้เป็นอย่างดีและยกระดับความยั่งยืน”
ผู้คว้ารางวัลได้รับการประกาศชื่อในงานประกาศรางวัลที่ Hilton Kuala Lumpur Hotel โดยมีตัวแทนราว 150 คนเข้าร่วมงาน ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติบางท่าน ซึ่งรวมถึงคุณ Danielle Heinecke ข้าหลวงใหญ่แห่งออสเตรเลียประจำมาเลเซีย คุณ Danielle Heinecke ได้ชื่นชมความสวยงามของบรรดาผลงานที่ชนะรางวัลและกล่าวถึงประโยชน์มากมายที่ผลงานเหล่านี้มีต่อชุมชนในพื้นที่
โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้คว้ารางวัล BlueScope Steel Architectural Awards ASEAN โดยคลิกที่นี่
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย
James Li | Vice President, Business Transformation, NS BlueScope Pte. Ltd.
T +65 6832 3512 | M +65 9626 2750
อีเมล james.li@bluescope.com | เว็บไซต์ www.nsbluescope.com
แหล่งที่มา: NS BLUESCOPE
สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54154173/en
SBC Medical Group Holdings ประกาศการเจรจาร่วมกันเกี่ยวกับสัญญาหลักเพื่อเข้าซื้อกิจการ Aesthetic Healthcare Holdings Pte. Ltd ซึ่งเป็นเจ้าของคลินิกเวชศาสตร์ความงามหลายแห่งในสิงคโปร์
Aesthetic Healthcare สร้างฐานที่มั่นคงเพื่อขยายธุรกิจสู่เอเชียและยกระดับความแข็งแกร่งให้กับการดำเนินงานของ SBC ในตลาดโลก
SBC จะใช้ประโยชน์จากการผนึกกำลังด้านการดำเนินงานและดำเนินกลยุทธ์การเติบโตเพื่อขยายธุรกิจในแนวดิ่งและเข้าถึงภูมิภาคใหม่
TOKYO
SBC Medical Group Holdings Inc. รายงานงบการเงินไตรมาส 3 ปี 2024
เออร์ไวน์ แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–14 พฤศจิกายน 2024
SBC Medical Group Holdings Incorporated (“SBC Medical” หรือ “บริษัท”) ซึ่งเป็นเจ้าของ ผู้ดําเนินการ และผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการและผลิตภัณฑ์สำหรับศูนย์บำบัดความงามระดับโลก ในวันนี้ได้ประกาศงบการเงินก่อนตรวจสอบไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024
งบการเงินที่สำคัญไตรมาส 3 ปี 2024
- รายได้รวม ในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 53 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 12% จาก 47 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2023
- รายได้รวม ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 160 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 23% จาก 131 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2023
- รายได้จากการดําเนินงาน ในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 13 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งลดลง 31% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2023
- ผลลัพธ์นี้ได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายค่าตอบแทนตามหุ้น 12.8 ล้านเหรียญสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจดทะเบียนของบริษัท
- รายได้จากการดําเนินงาน ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 65.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 40.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023
- ผลลัพธ์นี้ได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายค่าตอบแทนตามหุ้น 12.8 ล้านเหรียญสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจดทะเบียนของบริษัท
- EBITDA1 ซึ่งคํานวณโดยการนำค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจําหน่ายมาบวกกับรายได้จากการดําเนินงาน ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 68 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023 EBITDA margin อยู่ที่ 42% ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024
- รายได้สุทธิที่เป็นของ SBC Medical Group Holdings Incorporated ในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 2 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก 8 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2023
- รายได้สุทธิที่เป็นของ SBC Medical Group Holdings Incorporated ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 40 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 60% จาก 25 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2023
- จํานวนคลินิกพันธมิตร อยู่ที่ 224 แห่ง ณ วันที่ 30 กันยายน 2024 เพิ่มขึ้น 24 แห่งจากวันที่ 30 กันยายน 2023
1 EBITDA และ EBITDA Margin เป็นการวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP (ไม่ได้อยู่ในมาตรฐานบัญชี) สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP โปรดดูหัวข้อ “การใช้การวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP ” และตารางที่มีชื่อว่า “การกระทบยอดก่อนตรวจสอบของผลลัพธ์แบบ GAAP (ตามมาตรฐานบัญชี) และแบบ non-GAAP “
- จํานวนลูกค้า ในงวดสิบสองเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 4.3 ล้านราย ซึ่งเพิ่มขึ้น 13.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
- อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ต่อปี) ซึ่งหมายถึงกําไรสุทธิต่อปีที่เป็นของบริษัทหารด้วยค่าเฉลี่ยของส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2023 และ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 31% ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้น 1 จุดเปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
- กําไรต่อหุ้น (พื้นฐาน) ซึ่งหมายถึงกําไรสุทธิที่เป็นของบริษัทหารด้วยจํานวนหุ้นที่ชำระแล้วเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักอยู่ที่ 0.42 เหรียญสหรัฐในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้น 56% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
“การประกาศผลประกอบการครั้งแรกของเราในฐานะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ถือเป็นก้าวสําคัญสําหรับ SBC Medical หลังจากประสบความสำเร็จในการควบรวมธุรกิจกับ Pono Capital Two แล้ว SBC Medical เริ่มซื้อขายบน Nasdaq ภายใต้สัญลักษณ์ 'SBC' เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2024” Yoshiyuki Aikawa ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ SBC Medical กล่าว “ผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสนี้ โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 161 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งเพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และรายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 59% เน้นย้ำถึงผลกระทบเชิงบวกของแผนริเริ่มเชิงกลยุทธ์ของเรา เช่น การปรับโครงสร้างค่าสิทธิและการขยายเครือข่ายคลินิก นอกจากนี้ ด้วยงบดุลที่แข็งแกร่งซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเงินสด 137 ล้านเหรียญสหรัฐ เราจึงมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนโดยมีนโยบายเงินทุนที่ชัดเจน เราให้ความสําคัญกับผู้ถือหุ้นเป็นอย่างยิ่ง และยังคงให้ความสําคัญกับมูลค่าของผู้ถือหุ้นต่อไปผ่านผลตอบแทนที่สม่ำเสมอด้วยการเติบโตของธุรกิจที่แข็งแกร่ง การลงทุนต่อเชิงกลยุทธ์ และฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ถือหุ้นทุกคนรวมถึงนักลงทุนรายย่อยของเรา จะได้รับประโยชน์จากการเติบโตและความสําเร็จของเรา”
งบการเงินไตรมาส 3 ปี 2024
รายได้รวมในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 160 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 23% จาก 131 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2023 รายได้รวมในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 53 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 12% จาก 47 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2023 การเพิ่มขึ้นนี้มีสาเหตุหลักมาจากการที่บริษัทเริ่มเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าจากคลินิกแฟรนไชส์ของเรา และเนื่องจากการขยายของจํานวนคลินิกแฟรนไชส์ของเรา ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานทั้งหมดในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 56 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 20% จาก 47 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเที่ยบกับช่วงเดียวกันของปี 2023 ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานทั้งหมดในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 29 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 118% จาก 13 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2023 การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานทั้งหมดนั้นมีสาเหตุหลักมาจากการให้คําปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนและค่าธรรมเนียมวิชาชีพ ค่าตอบแทนตามหุ้น และค่าใช้จ่ายสํานักงานที่สูงขึ้น
EBITDA ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 68.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 22% จาก 56.3 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2023 สาเหตุหลักมาจากการเติบโตของรายได้ แต่หักล้างไปบางส่วนด้วยค่าปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนและค่าธรรมเนียมวิชาชีพ EBITDA ในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 14.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 36% จาก 23.3 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2023 สาเหตุหลักมาจากการให้คําปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนและค่าธรรมเนียมวิชาชีพ ค่าตอบแทนตามหุ้น และค่าใช้จ่ายสํานักงานที่สูงขึ้น
รายได้สุทธิในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 40.1 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก 24.3 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2023 การเพิ่มขึ้นดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากการเติบโตของรายได้รวม แต่หักล้างไปบางส่วนจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานทั้งหมด รายได้สุทธิในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 2.8 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก 8.1 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2023 การลดลงมีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานที่สูงขึ้น
ข้อมูลกระแสเงินสดและสภาพคล่องที่สำคัญ
ณ วันที่ 30 กันยายน 2024 SBC Medical ยังคงรักษาสถานะสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง โดยมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดรวม 137.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 103.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2023 การเพิ่มขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นถึงการสร้างเงินสดที่แข็งแกร่งจากกิจกรรมดําเนินงาน การจัดการการลงทุนอย่างรอบคอบ กลยุทธ์การจัดสรรเงินทุนที่มีวินัย
กระแสเงินสดจากการดําเนินงาน
เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดําเนินงานอยู่ที่ 27 ล้านเหรียญสหรัฐสในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 เพิ่มขึ้น 23% จาก 22 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023 การเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนหลักจากรายได้สุทธิที่เพิ่มขึ้น 15 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยได้รับแรงหนุนจากค่าใช้จ่ายค่าตอบแทนตามหุ้น 12.8 ล้านเหรียญสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ล่าสุดของบริษัท และการปรับปรุงในการจัดเก็บบัญชีลูกหนี้ ปัจจัยเชิงบวกเหล่านี้ถูกหักล้างไปบางส่วนด้วยการเปลี่ยนแปลงของบัญชีเจ้าหนี้และหนี้สินภาษี ซึ่งสะท้อนถึงการมุ่งเน้นของบริษัทในการบริหารจัดการเงินทุนหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมการดําเนินงานที่กําลังเติบโต
กระแสเงินสดจากการลงทุน
เงินสดสุทธิที่ใช้ในกิจกรรมการลงทุนมีมูลค่ารวม 5 ล้านเหรียญสหรัฐในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 ลดลงจาก 8 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023 ปัจจัยหลักหลักที่ส่งผลให้ลดลงนี้ ได้แก่ การชําระเงินในนามของบุคคลที่เกี่ยวข้องมูลค่า 5.2 ล้านเหรียญสหรัฐ บริษัทยังคงจัดสรรเงินทุนอย่างมีกลยุทธ์เพื่อใช้กับสินทรัพย์ที่มีผลกระทบสูงซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตในระยะยาว
กระแสเงินสดจากการจัดหาเงิน
เงินสดสุทธิที่ได้มาจากกิจกรรมจัดหาเงินมีมูลค่ารวม 11 ล้านเหรียญสหรัฐในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 เพิ่มขึ้นจาก 6 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023 ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้เพิ่มขึ้นนี้ ได้แก่ รายได้จากการปรับโครงสร้างทุนแบบย้อนกลับ สุทธิจากต้นทุนธุรกรรม 11.7 ล้านเหรียญสหรัฐ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสําคัญกับการเติบโตแบบยั่งยืนของบริษัทฯ ผ่านกระแสเงินสดจากการดําเนินงานมากกว่าการจัดหาเงินทุนจากภายนอก โดยไม่มีหนี้สินใหม่ที่มีนัยสำคัญเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว
ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน
กระแสเงินสดของ SBC Medical ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 0.5 ล้านเหรียญสหรัฐเนื่องจากค่าเงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ บริษัทฯ ยังคงติดตามความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และใช้กลยุทธ์เพื่อบรรเทาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของสกุลเงิน
ด้วยเงินสดสํารองที่แข็งแกร่งและกระแสเงินสดจากการดําเนินงานที่ดี SBC Medical มั่นใจในความสามารถในการตอบสนองความต้องการสภาพคล่องในระยะสั้น และจัดหาเงินทุนสําหรับความคิดริเริ่มการเติบโตในอนาคต ฝ่ายบริหารเชื่อว่าสถานะเงินสดในปัจจุบันควบคู่ไปกับกระแสเงินสดจากการดําเนินงานที่วางแผนไว้จะเพียงพอที่จะรองรับการดําเนินธุรกิจและการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของบริษัทในอีก 12 เดือนข้างหน้า
เกี่ยวกับ SBC Medical
SBC Medical ซึ่งมีสํานักงานใหญ่ในเมืองเออร์ไวน์ แคลิฟอร์เนีย และโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นเจ้าของและให้บริการด้านการจัดการและผลิตภัณฑ์แก่ศูนย์เสริมความงาม บริษัทมุ่งเน้นที่การให้บริการด้านการบริหารจัดการอย่างครบวงจรแก่คลินิกแฟรนไชส์เป็นหลัก ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียงความต้องการด้านการโฆษณาและการตลาดผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ (เช่น เครือข่ายโซเชียลมีเดีย) การบริหารจัดการพนักงาน (เช่น การสรรหาและการฝึกอบรม) การจองคิวสําหรับลูกค้าคลินิกแฟรนไชส์ การช่วยเหลือในการเช่าที่พักและการเช่าสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับพนักงานแฟรนไชส์ การก่อสร้างและการออกแบบคลินิกแฟรนไชส์ การจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ (ขายต่อ) การจัดหาผลิตภัณฑ์เครื่องสําอางให้กับคลินิกแฟรนไชส์เพื่อขายต่อให้กับลูกค้าคลินิก การออกใบอนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่อยู่ระหว่างรอรับสิทธิบัตรและไม่ได้จดสิทธิบัตร การใช้เครื่องหมายการค้าและตราสินค้า โซลูชั่นซอฟต์แวร์ไอที (รวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียงการให้คําปรึกษาทางการแพทย์ทางไกล) การจัดการโปรแกรมรางวัลสำหรับลูกค้าของคลินิกแฟรนไชส์ (โปรแกรมคะแนนความภักดีของลูกค้า) และเครื่องมือการชําระเงินสําหรับคลินิกแฟรนไชส์
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://sbc-holdings.com/
การใช้การวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP
บริษัทใช้การวัดผลแบบ non-GAAP เช่น EBITDA ในการประเมินผลการดําเนินงานและเพื่อวัตถุประสงค์ในการตัดสินใจทางการเงินและการดําเนินงาน บริษัทเชื่อว่าการวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP ช่วยระบุแนวโน้มที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจของบริษัท บริษัทเชื่อว่าการวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับผลการดําเนินงานของบริษัท เพิ่มความเข้าใจโดยรวมเกี่ยวกับผลการดําเนินงานในอดีตของบริษัทและแนวโน้มในอนาคต และช่วยให้มองเห็นตัวชี้วัดหลักที่ฝ่ายบริหารของบริษัทใช้ในการตัดสินใจทางการเงินและการดําเนินงานได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
การวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP ไม่ได้ถูกกําหนดไว้ภายใต้มาตรฐานบัญชีของสหรัฐอเมริกา (U.S. GAAP) และไม่ได้นําเสนอแบบ GAAP ของสหรัฐอเมริกาการวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP มีข้อจํากัดในเรื่องเครื่องมือวิเคราะห์ และเมื่อประเมินผลการดําเนินงาน กระแสเงินสด หรือสภาพคล่องของบริษัท นักลงทุนไม่ควรพิจารณาแยกออก หรือพิจารณาแทนผลขาดทุนสุทธิ กระแสเงินสดจากกิจกรรมการดําเนินงาน หรืองบกำไรขาดทุนอื่นๆ และข้อมูลกระแสเงินสดที่จัดทําขึ้นแบบ GAAP ของสหรัฐอเมริกา
บริษัทบรรเทาข้อจํากัดเหล่านี้โดยการกระทบยอดการวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP เข้ากับการวัดผลการดําเนินงานแบบ GAAP ของสหรัฐอเมริกาที่เทียบเคียงได้มากที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้ควรนำมาพิจารณาเมื่อประเมินผลการดําเนินงานของบริษัท
สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP โปรดดูตารางที่หัวข้อ “การกระทบยอดก่อนตรวจสอบของผลลัพธ์แบบ GAAP และแบบ non-GAAP”
ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต
ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตไม่ใช่ข้อเท็จจริงในอดีตหรือข้อความเกี่ยวกับสภาวะปัจจุบัน แต่เป็นเพียงการแสดงความเชื่อของบริษัทเกี่ยวกับเหตุการณ์และผลการดําเนินงานในอนาคตเท่านั้น ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วหลายสิ่งมีความไม่แน่นอนโดยและอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้สะท้อนถึงมุมมองปัจจุบันของบริษัท เกี่ยวกับผลการดําเนินงานทางการเงินของบริษัท การเติบโตของรายรับและรายได้ แนวโน้มและโอกาสทางธุรกิจ และแผนการจัดสรรเงินทุนและสภาพคล่อง ในบางกรณี ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตสามารถระบุได้ด้วยการใช้คําต่างๆ เช่น “อาจ” “ควร” “คาดหมายว่า” “คาดการณ์ว่า” “พิจารณา” “ประมาณการ” “เชื่อว่า” “มีแผนจะ” “คาดว่า” “ทำนาย” “อาจเป็นไปได้” หรือ “หวังว่า” หรือความหมายเชิงลบของคําเหล่านี้หรือคําที่คล้ายคลึงกัน บริษัทขอเตือนผู้อ่านว่าอย่าพึ่งพาข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตใดๆ มากเกินไป ซึ่งเป็นปัจจุบัน ณ วันที่เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์นี้เท่านั้น และอาจมีความเสี่ยง ความไม่แน่นอน สมมติฐาน หรือการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ต่างๆ ที่ยากต่อการคาดการณ์หรือวัดผลได้ ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเป็นความคาดหวังในปัจจุบันของฝ่ายบริหาร มิได้เป็นการรับรองการดําเนินงานในอนาคต บริษัทไม่มีภาระผูกพันหรือยอมรับภาระผูกพันใดๆ ในการเผยแพร่ข้อมูลอัปเดต หรือการแก้ไขข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตต่อสาธารณะ เพื่อสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในการคาดการณ์ หรือการเปลี่ยนแปลงในเหตุการณ์ เงื่อนไข หรือสถานการณ์ที่ข้อความดังกล่าวอ้างถึง เว้นแต่ตามที่กฎหมายกําหนด ปัจจัยที่อาจทําให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญจากการคาดการณ์ในปัจจุบันอาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว และบริษัทไม่สามารถคาดการณ์ได้ทั้งหมด ปัจจัยดังกล่าวรวมถึงการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ ธุรกิจ การแข่งขัน การตลาด และข้อกำหนดด้านกฎระเบียบในระดับโลก ระดับภูมิภาค หรือระดับท้องถิ่น รวมถึงปัจจัยต่างๆ ที่ระบุไว้ภายใต้หัวข้อ “ปัจจัยเสี่ยง” และที่อื่นๆ ในเอกสารที่บริษัทยื่นต่อสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา (“SEC”) ซึ่งสามารถเข้าถึงได้บนเว็บไซต์ของ SEC ที่ www.sec.gov
SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED งบดุลรวมที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ |
||||||||
30 กันยายน |
31 ธันวาคม |
|||||||
2024 |
2023 |
|||||||
สินทรัพย์ |
||||||||
สินทรัพย์หมุนเวียน: |
||||||||
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด |
$ |
137,393,070 |
$ |
103,022,932 |
||||
บัญชีลูกหนี้ |
1,944,604 |
1,437,077 |
||||||
บัญชีลูกหนี้– กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
27,835,179 |
33,676,672 |
||||||
สินค้าคงเหลือ |
1,985,883 |
3,090,923 |
||||||
ลูกหนี้สัญญาเช่าเงินทุน หมุนเวียน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
8,443,338 |
6,143,564 |
||||||
ลูกหนี้เงินให้กู้ยืมลูกค้า หมุนเวียน |
16,125,086 |
8,484,753 |
||||||
ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าและสินทรัพย์หมุนเวียนอื่น |
8,372,668 |
10,050,005 |
||||||
รวมสินทรัพย์หมุนเวียน |
202,099,828 |
165,905,926 |
||||||
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน: |
||||||||
ทรัพย์สินและอุปกรณ์สุทธิ |
13,194,414 |
13,582,017 |
||||||
สินทรัพย์ไม่มีตัวตนสุทธิ |
16,218,233 |
19,739,276 |
||||||
การลงทุนระยะยาว |
4,905,115 |
849,434 |
||||||
ค่าความนิยมสุทธิ |
3,545,391 |
3,590,791 |
||||||
ลูกหนี้สัญญาเช่าเงินทุน ไม่หมุนเวียน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
4,629,047 |
3,420,489 |
||||||
สินทรัพย์สิทธิการใช้สัญญาเช่าดําเนินงาน |
5,251,418 |
5,919,937 |
||||||
สินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี |
624,564 |
– |
||||||
ลูกหนี้เงินให้กู้ยืมลูกค้า ไม่หมุนเวียน |
6,590,301 |
6,444,025 |
||||||
การชําระคืนเงินต้นล่วงหน้าระยะยาว |
4,308,810 |
4,099,763 |
||||||
การลงทุนระยะยาวใน MCs – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
19,561,069 |
19,811,555 |
||||||
ทรัพย์สินอื่น |
15,550,402 |
15,442,058 |
||||||
รวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน |
94,378,764 |
92,899,345 |
||||||
รวมสินทรัพย์ |
$ |
296,478,592 |
$ |
258,805,271 |
||||
หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น |
||||||||
หนี้สินหมุนเวียน: |
||||||||
บัญชีเจ้าหนี้ |
$ |
14,873,829 |
$ |
26,531,944 |
||||
ส่วนของเงินกู้ยืมระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายใน 1 ปี |
136,683 |
156,217 |
||||||
ตั๋วเงินจ่าย หมุนเวียน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
10,202,360 |
3,369,203 |
||||||
รายได้รับล่วงหน้าจากลูกค้า |
565,495 |
2,074,457 |
||||||
รายได้รับล่วงหน้าจากลูกค้า – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
18,994,015 |
23,058,175 |
||||||
ภาษีเงินได้ค้างจ่าย |
8,000,808 |
8,782,930 |
||||||
หนี้สินตามสัญญาเช่าดําเนินงาน หมุนเวียน |
4,060,844 |
3,885,812 |
||||||
หนี้สินค้างจ่ายและหนี้สินหมุนเวียนอื่น |
12,054,047 |
21,009,009 |
||||||
เนื่องจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
3,532,453 |
3,583,523 |
||||||
รวมหนี้สินหมุนเวียน |
72,420,534 |
92,451,270 |
||||||
หนี้สินไม่หมุนเวียน: |
||||||||
เงินให้กู้ยืมระยะยาว |
686,470 |
1,062,722 |
||||||
ตั๋วเงินจ่าย ไม่หมุนเวียน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
11,659,022 |
11,948,219 |
||||||
หนี้สินภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี |
3,515,825 |
6,013,565 |
||||||
หนี้สินตามสัญญาเช่าดําเนินงาน ไม่หมุนเวียน |
1,528,972 |
2,444,316 |
||||||
หนี้สินอื่น |
1,147,345 |
1,074,930 |
||||||
รวมหนี้สินไม่หมุนเวียน |
18,537,634 |
22,543,752 |
||||||
รวมหนี้สิน |
90,958,168 |
114,995,022 |
||||||
ส่วนของผู้ถือหุ้น: |
||||||||
หุ้นบุริมสิทธิ (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.0001 เหรียญสหรัฐ จำนวนหุ้นที่ได้รับอนุญาต 20,000,000 หุ้น ไม่มีหุ้นที่ออกและชำระแล้ว ณ วันที่ 30 กันยายน 2024 และ 31 ธันวาคม 2023) (1) |
– |
– |
||||||
หุ้นสามัญ (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.0001 เหรียญสหรัฐ จำนวนหุ้นที่ได้รับอนุญาต 400,000,000 หุ้น หุ้นที่ออกและชำระแล้ว 103,020,816 หุ้น และ 94,192,433 หุ้น ณ วันที่ 30 กันยายน 2024 และ 31 ธันวาคม 2023) (1) |
10,302 |
9,419 |
||||||
ส่วนเกิน (ต่ำกว่า) มูลค่าหุ้น (1) |
60,825,115 |
36,879,281 |
||||||
ลูกหนี้หุ้นทุนซื้อคืน (หุ้นสามัญ 270,000 หุ้น) – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
(2,700,000 |
) |
– |
|||||
กำไรสะสม |
182,923,786 |
142,848,732 |
||||||
ขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่นสะสม |
(36,078,149 |
) |
(37,578,255 |
) |
||||
รวมส่วนของผู้ถือหุ้นของ Total SBC Medical Group Holdings Incorporated |
204,981,054 |
142,159,177 |
||||||
ส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม |
539,370 |
1,651,072 |
||||||
รวมส่วนของผู้ถือหุ้น |
205,520,424 |
143,810,249 |
||||||
รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น |
$ |
296,478,592 |
$ |
258,805,271 |
(1) |
ปรับปรุงย้อนหลังสําหรับผลกระทบของการปรับโครงสร้างทุนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเนื่องจากการรวมธุรกิจแบบย้อนกลับมีผลตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2024 |
SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED งบกําไรขาดทุนและงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ |
|||||||||||||||||||||||||||
สําหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน |
สําหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน |
||||||||||||||||||||||||||
2024 |
2023 |
2024 |
2023 |
||||||||||||||||||||||||
รายได้สุทธิ – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
$ |
51,209,243 |
$ |
45,119,709 |
$ |
152,718,488 |
$ |
125,336,653 |
|||||||||||||||||||
รายได้สุทธิ |
1,875,640 |
2,158,976 |
8,276,517 |
5,856,076 |
|||||||||||||||||||||||
รวมรายได้สุทธิ |
53,084,883 |
47,278,685 |
160,995,005 |
131,192,729 |
|||||||||||||||||||||||
ต้นทุนรายได้ตามจริง |
9,845,793 |
13,780,309 |
38,816,865 |
37,256,066 |
|||||||||||||||||||||||
กําไรขั้นต้น |
43,239,090 |
33,498,376 |
122,178,140 |
93,936,663 |
|||||||||||||||||||||||
ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงาน: |
|||||||||||||||||||||||||||
ค่าใช้จ่ายในการขาย ค่าใช้จ่ายทั่วไปและการบริหาร |
16,597,032 |
13,446,618 |
43,784,637 |
46,885,138 |
|||||||||||||||||||||||
ค่าตอบแทนตามหุ้น |
12,807,455 |
– |
12,807,455 |
– |
|||||||||||||||||||||||
ขาดทุนจากการยักยอก |
– |
28,516 |
– |
380,766 |
|||||||||||||||||||||||
รวมค่าใช้จ่ายในการดําเนินงาน |
29,404,487 |
13,475,134 |
56,592,092 |
47,265,904 |
|||||||||||||||||||||||
รายได้จากการดําเนินงาน |
13,834,603 |
20,023,242 |
65,586,048 |
46,670,759 |
|||||||||||||||||||||||
รายได้อื่น (ค่าใช้จ่าย): |
|||||||||||||||||||||||||||
รายได้จากดอกเบี้ย |
7,950 |
10,234 |
37,283 |
86,345 |
|||||||||||||||||||||||
ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย |
(5,466 |
) |
(3,978 |
) |
(15,898 |
) |
(37,380 |
) |
|||||||||||||||||||
รายได้อื่น |
65,922 |
1,138,869 |
721,894 |
3,875,723 |
|||||||||||||||||||||||
ค่าใช้จ่ายอื่น |
(795,158 |
) |
(98,314 |
) |
(2,746,450 |
) |
(581,239 |
) |
|||||||||||||||||||
กําไรจากการจําหน่ายของบริษัทย่อย |
– |
– |
3,813,609 |
– |
|||||||||||||||||||||||
รวมรายได้อื่น (ค่าใช้จ่าย) |
(726,752 |
) |
1,046,811 |
1,810,438 |
3,343,449 |
||||||||||||||||||||||
กำไรก่อนภาษีเงินได้ |
13,107,851 |
21,070,053 |
67,396,486 |
50,014,208 |
|||||||||||||||||||||||
ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ |
10,273,384 |
13,012,262 |
27,254,478 |
25,683,244 |
|||||||||||||||||||||||
กำไรสุทธิ |
2,834,467 |
8,057,791 |
40,142,008 |
24,330,964 |
|||||||||||||||||||||||
หัก: กําไรสุทธิ (ขาดทุน) ที่เกิดจากส่วนได้เสียที่ไม่มีอํานาจควบคุม |
1,573 |
(298,623 |
) |
66,954 |
(696,812 |
) |
|||||||||||||||||||||
กําไรสุทธิที่เป็นของ SBC Medical Group Holdings Incorporated |
$ |
2,832,894 |
$ |
8,356,414 |
$ |
40,075,054 |
$ |
25,027,776 |
|||||||||||||||||||
กําไร (ขาดทุน) เบ็ดเสร็จอื่น: |
|||||||||||||||||||||||||||
ส่วนปรับปรุงจากการแปลงค่าสกุลเงินต่างประเทศ |
20,783,646 |
(974,249 |
) |
1,543,245 |
(19,825,222 |
) |
|||||||||||||||||||||
การจําแนกประเภทกําไรทียังไม่เกิดขึ้นจากตราสารหนี้เผื่อขายเป็นกําไรสุทธิตามจริง สุทธิจากผลกระทบทางภาษีเป็นศูนย์และ (97,856) เหรียญสหรัฐ ในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 และ 2023 ตามลําดับ ไม่มีและ (97,856) เหรียญสหรัฐ ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 และ 2023 ตามลําดับ |
– |
(205,383 |
) |
– |
(8,760 |
) |
|||||||||||||||||||||
รวมกําไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ |
23,618,113 |
6,878,159 |
41,685,253 |
4,496,982 |
|||||||||||||||||||||||
หัก: กําไรขาดทุนเบ็ดเสร็จที่เกิดจากส่วนได้เสียที่ไม่มีอํานาจควบคุม |
180,093 |
(387,948 |
) |
110,093 |
(1,129,475 |
) |
|||||||||||||||||||||
กําไรขาดทุนเบ็ดเสร็จที่เป็นของ SBC Medical Group Holdings Incorporated |
$ |
23,438,020 |
$ |
7,266,107 |
$ |
41,575,160 |
$ |
5,626,457 |
|||||||||||||||||||
กําไรสุทธิต่อหุ้นที่เป็นของ SBC Medical Group Holdings Incorporated (1) |
|||||||||||||||||||||||||||
กำไรต่อหุ้นปรับลด |
$ |
0.03 |
$ |
0.09 |
$ |
0.42 |
$ |
0.27 |
|||||||||||||||||||
จำนวนหุ้นเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักที่ชำระแล้ว (1) |
|||||||||||||||||||||||||||
กำไรต่อหุ้นปรับลด |
95,095,144.00 |
94,192,433.00 |
94,495,533.00 |
94,192,433.00 |
|||||||||||||||||||||||
(1) |
ปรับปรุงย้อนหลังสําหรับผลกระทบของการปรับโครงสร้างทุนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเนื่องจากการรวมธุรกิจแบบย้อนกลับมีผลตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2024 |
SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED งบกระแสเงินสดรวมที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ |
||||||||
สําหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน |
||||||||
2024 |
2023 |
|||||||
กระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงาน |
||||||||
กำไรสุทธิ |
$ |
40,142,008 |
$ |
24,330,964 |
||||
การปรับเพื่อกระทบยอดกำไรสุทธิกับเงินสดสุทธิที่ได้จากกิจกรรมดําเนินงาน: |
||||||||
ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจําหน่าย |
2,867,781 |
9,688,640 |
||||||
ค่าใช้จ่ายการเช่าที่ไม่ใช่เงินสด |
2,908,990 |
2,424,220 |
||||||
สํารองหนี้เสีย (กลับรายการ) |
(127,196 |
) |
282,934 |
|||||
ค่าตอบแทนตามหุ้น |
12,807,455 |
– |
||||||
ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของทรัพย์สินและอุปกรณ์ |
– |
204,026 |
||||||
กําไรที่เกิดขึ้นจริงจากเงินลงทุนระยะสั้น |
– |
(223,164 |
) |
|||||
การเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนระยะยาว |
1,682,282 |
– |
||||||
กําไรจากการจําหน่ายของบริษัทย่อย |
(3,813,609 |
) |
– |
|||||
ขาดทุน (กําไร) จากการจําหน่ายทรัพย์สินและอุปกรณ์และสินทรัพย์ไม่มีตัวตน |
185,284 |
(249,532 |
) |
|||||
ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี |
(2,154,837 |
) |
(1,379,922 |
) |
||||
การเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์และหนี้สินจากการดําเนินงาน |
||||||||
บัญชีลูกหนี้ |
(804,000 |
) |
(924,061 |
) |
||||
บัญชีลูกหนี้ – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
4,971,911 |
(19,979,099 |
) |
|||||
สินค้าคงเหลือ |
763,075 |
(4,038,874 |
) |
|||||
ลูกหนี้สัญญาเช่าเงินทุน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
(3,430,267 |
) |
17,241,740 |
|||||
ลูกหนี้สินเชื่อของลูกค้า |
12,860,220 |
– |
||||||
ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าและสินทรัพย์หมุนเวียนอื่น |
902,230 |
8,173,153 |
||||||
การชําระคืนเงินต้นล่วงหน้าระยะยาว |
432,380 |
(1,991,626 |
) |
|||||
สินทรัพย์อื่น |
(348,178 |
) |
(1,884,352 |
) |
||||
บัญชีเจ้าหนี้ |
(10,511,619 |
) |
6,712,977 |
|||||
ตั๋วเงินจ่าย – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
(14,030,092 |
) |
– |
|||||
ความก้าวหน้าจากลูกค้า |
(1,401,437 |
) |
(681,973 |
) |
||||
รายได้รับล่วงหน้าจากลูกค้า – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
(3,565,778 |
) |
(7,430,332 |
) |
||||
ภาษีเงินได้ค้างจ่าย |
(549,446 |
) |
16,518,062 |
|||||
หนี้สินตามสัญญาเช่าดําเนินงาน |
(2,971,946 |
) |
(2,335,113 |
) |
||||
หนี้สินค้างจ่ายและหนี้สินหมุนเวียนอื่น |
(9,010,270 |
) |
298,743 |
|||||
ค่าใช้จ่ายชดเชยการเกษียณอายุค้างจ่าย – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
– |
(22,082,643 |
) |
|||||
หนี้สินอื่น |
81,290 |
79,215 |
||||||
เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดําเนินงาน |
27,886,231 |
22,753,983 |
||||||
กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุน |
||||||||
การซื้อทรัพย์สินและอุปกรณ์ |
(1,974,285 |
) |
(2,299,045 |
) |
||||
การซื้อสินทรัพย์ไม่มีตัวตน |
– |
(1,683,030 |
) |
|||||
การซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพ |
(1,700,000 |
) |
(1,000,000 |
) |
||||
การชําระคืนเงินต้นล่วงหน้าสําหรับทรัพย์สินและอุปกรณ์ |
(843,740 |
) |
(417,353 |
) |
||||
รายได้รับล่วงหน้าจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
(617,804 |
) |
(1,017,292 |
) |
||||
การชําระเงินในนามของบุคคลที่เกี่ยวข้องกัน |
(5,245,990 |
) |
– |
|||||
การซื้อเงินลงทุนระยะสั้น |
– |
(2,106,720 |
) |
|||||
การซื้อเงินลงทุนระยะยาว |
(331,496 |
) |
– |
|||||
เงินลงทุนระยะยาวใน MCs – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
– |
(26,780 |
) |
|||||
เงินสดที่ได้รับจากการเข้าซื้อกิจการของบริษัทย่อย สุทธิจากเงินสดที่ได้รับ |
– |
722,551 |
||||||
เงินกู้ยืมระยะยาวแก่ผู้อื่น |
(80,793 |
) |
(421,429 |
) |
||||
การชําระคืนจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
5,990,990 |
734,358 |
||||||
การชําระคืนจากผู้อื่น |
62,927 |
47,356 |
||||||
รายได้จากการขายเงินลงทุนระยะสั้น |
– |
4,125,813 |
||||||
รายได้จากการเวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิต |
– |
3,954,760 |
||||||
การจําหน่ายบริษัทย่อย สุทธิจากเงินสดที่จําหน่ายไป |
(815,819 |
) |
– |
|||||
รายได้จากการจําหน่ายทรัพย์สินและอุปกรณ์ |
1,971 |
8,046,007 |
||||||
เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน (ใช้ใน) |
(5,554,039 |
) |
8,659,196 |
|||||
กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน |
||||||||
การกู้ยืมจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
– |
12,310,106 |
||||||
รายได้จากการปรับโครงสร้างทุนแบบย้อนกลับ สุทธิจากต้นทุนการทําธุรกรรม |
11,707,417 |
– |
||||||
รายได้จากการออกหุ้นสามัญ |
– |
10 |
||||||
รายได้จากการใช้สิทธิของใบสําคัญแสดงสิทธิ |
31,374 |
– |
||||||
การชําระคืนเงินกู้ยืมระยะยาว |
(89,448 |
) |
(8,691,462 |
) |
||||
การชําระคืนให้แก่กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
(65,305 |
) |
(7,619,266 |
) |
||||
ถือว่าเป็นเงินสมทบที่เกี่ยวข้องกับการกําจัดทรัพย์สินและอุปกรณ์ |
– |
9,620,453 |
||||||
ถือว่าเป็นเงินสมทบที่เกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างองค์กร |
– |
642,748 |
||||||
เงินสดสุทธิจากกิจกรรมจัดหาเงิน |
11,584,038 |
6,262,589 |
||||||
ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ |
453,908 |
(11,982,793 |
) |
|||||
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดที่เพิ่มขึ้นสุทธิ |
34,370,138 |
25,692,975 |
||||||
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ ต้นงวด |
103,022,932 |
51,737,994 |
||||||
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ สิ้นงวด |
$ |
137,393,070 |
$ |
77,430,969 |
||||
การเปิดเผยข้อมูลกระแสเงินสดเพิ่มเติม |
||||||||
เงินสดที่จ่ายดอกเบี้ยจ่าย |
$ |
15,898 |
$ |
37,380 |
||||
เงินสดที่จ่ายภาษีเงินได้ |
$ |
31,332,123 |
$ |
12,608,072 |
||||
กิจกรรมจัดหาเงินและกิจกรรมลงทุนที่ไม่ใช่เงินสด |
||||||||
ทรัพย์สินและอุปกรณ์ที่โอนจากการชําระคืนเงินต้นล่วงหน้าระยะยาว |
$ |
164,781 |
$ |
7,681,830 |
||||
สินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่โอนจากการชําระคืนเงินต้นล่วงหน้าระยะยาว |
$ |
– |
$ |
17,666,115 |
||||
การชําระหนี้ให้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกันเกี่ยวกับการจําหน่ายทรัพย์สินและอุปกรณ์ |
$ |
– |
$ |
4,163,604 |
||||
สินทรัพย์สิทธิการเช่าดําเนินงานที่ได้รับจากการแลกเปลี่ยนกับหนี้สินตามสัญญาเช่าดําเนินงาน |
$ |
– |
$ |
1,029,518 |
||||
การวัดค่ามูลค่าใหม่ของหนี้สินตามสัญญาเช่าดำเนินงานและสินทรัพย์สิทธิการใช้อันเนื่องมาจากการแก้ไขสัญญาเช่า |
$ |
2,408,752 |
$ |
2,110,079 |
||||
การออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกันที่เกี่ยวข้องในการให้บริการสินเชื่อ |
$ |
20,398,301 |
$ |
– |
||||
การออกหุ้นสามัญให้แก่กิจการที่เกี่ยวข้องกันจากการแปลงหุ้นกู้แปลงสภาพ |
$ |
2,700,000 |
$ |
– |
||||
การออกหุ้นสามัญเป็นหุ้นจูงใจ |
$ |
34 |
$ |
– |
||||
การชําระคืนเงินกู้ให้แก่กิจการที่เกี่ยวข้องกับการออกหุ้นสามัญ |
$ |
– |
$ |
795 |
||||
การพิจารณาซื้อที่ไม่ใช่เงินสดสําหรับการซื้อสินทรัพย์ |
$ |
– |
$ |
705,528 |
SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED การกระทบยอดผลของ GAAP และ Non-GAAP ที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ |
||||||||||||||||
สําหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน |
สําหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน |
|||||||||||||||
2024 |
2023 |
2024 |
2023 |
|||||||||||||
รายได้จากการดําเนินงาน |
13,834,603 |
20,023,242 |
65,586,048 |
46,670,759 |
||||||||||||
ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจําหน่าย |
1,018,359 |
3,287,809 |
2,867,781 |
9,688,640 |
||||||||||||
EBITDA |
14,852,962 |
23,311,051 |
68,453,829 |
56,359,399 |
||||||||||||
อัตรากําไร EBITDA |
28 |
% |
49 |
% |
42 |
% |
43 |
% |
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย
ติดต่อ
ในเอเชีย:
SBC Medical Group Holdings Incorporated
Hikaru Fukui / Head of Investor Relations
E-mail: ir@sbc-holdings.com
ในสหรัฐอเมริกา:
ICR LLC
Bill Zima / Managing Partner
Email: bill.zima@icrinc.com
ที่มา: SBC Medical Group Holdings Incorporated.
STEERLife และ Callidus Research Laboratories สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อเร่งการพัฒนายาเชิงนวัตกรรม
เบงกาลูรู อินเดีย–(BUSINESS WIRE)–13 พฤศจิกายน 2024
STEERLife ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีการพัฒนายา และ Callidus Research Laboratories ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการพัฒนาสูตรยาที่มีประสบการณ์มากมายในการพัฒนายารักษาโรคอย่างครอบคลุม ได้สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อเร่งการพัฒนายาสำหรับตลาดทั่วโลก STEERLife เป็นแผนกหนึ่งของ STEER World
ความร่วมมือดังกล่าวเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีการอัดรีดด้วยความร้อน (HME) ขั้นสูงและการผลิตแบบต่อเนื่องของ STEERLife เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนายารักษาโรคของ Callidus เพื่อตอบสนองความต้องการทั่วโลกสำหรับสูตรยาและการพัฒนายาเชิงนวัตกรรม
STEERLife และ Callidus จะใช้ประโยชน์จากจุดแข็งร่วมกันเพื่อให้บริการพัฒนายาขั้นสูงแก่ลูกค้าทั่วโลกโดยใช้เทคโนโลยีการอัดรีดด้วยความร้อน (HME) ความร่วมมือนี้ทำให้ทั้งสององค์กรสามารถผสมผสานความรู้และทักษะเฉพาะทางของตนเข้าด้วยกันได้ ซึ่งนำไปสู่โซลูชันเชิงนวัตกรรมและข้อเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ความร่วมมือยังช่วยให้มีการแลกเปลี่ยนเครือข่าย การติดต่อ และการเข้าถึงตลาด ทำให้ทั้งสองบริษัทสามารถเข้าสู่ภูมิภาคและกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้ ความร่วมมือนี้จะตอบสนองความต้องการทั่วโลกสำหรับสูตรยารักษาโรครุ่นถัดไป โดยให้บริการแก่บริษัทยาสามัญและบริษัทยาที่มีแบรนด์
ความร่วมมือนี้ยังช่วยให้สามารถพัฒนายาแบบครบวงจรสำหรับสารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม (API) ที่ออกฤทธิ์แรงได้ด้วย นอกเหนือจากความสามารถที่เสริมซึ่งกันและกันแล้ว ความร่วมมือระหว่างองค์กรยังได้รับการขับเคลื่อนด้วยความมุ่งมั่นร่วมกันในการผลักดันขอบเขตของนวัตกรรมเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์แห่งอนาคตสำหรับตลาดทั่วโลก
“ความร่วมมือของเรากับ Callidus Research Laboratories ถือเป็นก้าวสำคัญในด้านนวัตกรรมเภสัชกรรม” Indu Bhushan ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ STEERLife กล่าว “ความร่วมมือนี้ช่วยให้ลูกค้ามีเทคโนโลยีสุดล้ำ ความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุม และความสามารถในการขยายขนาดที่ราบรื่น”
“การพัฒนานี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ STEERLife ในด้านความเป็นเลิศ นวัตกรรม และการส่งมอบคุณค่าที่ยอดเยี่ยม” คุณ Bhushan กล่าวเสริม
“การร่วมมือกับ STEERLife ช่วยเพิ่มความสามารถของเรา ทำให้เราสามารถนำเสนอโซลูชันเชิงนวัตกรรมที่ครอบคลุมให้กับบริษัทด้านเภสัชกรรมต่างๆ ทั่วโลกได้” Vardhaman Bafna ผู้ก่อตั้งร่วมและผู้อำนวยการของ Callidus Research Laboratories กล่าว “ความร่วมมือนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการผลักดันขอบเขต ส่งเสริมการเติบโต และปรับปรุงผลลัพธ์สำหรับผู้ป่วยผ่านโซลูชันทางเภสัชกรรมที่เปลี่ยนแปลงชีวิต”
เกี่ยวกับ STEERLife
STEERLife ซึ่งเป็นแผนกหนึ่งของ STEER World เป็นบริษัทด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพชั้นนำที่ปฏิวัติการผลิตและการบริโภคยารักษาโรคผ่านแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์สุดล้ำ ในฐานะบริษัทด้านเภสัชกรรมชั้นนำในอินเดียที่เปลี่ยนจากการผลิตเป็นชุดแบบดั้งเดิมเป็นการผลิตแบบต่อเนื่องและไม่มีการหยุดชะงัก STEERLife มอบโซลูชันด้านการดูแลสุขภาพที่ยอดเยี่ยม โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพ ประสิทธิภาพ และการให้ความสำคัญกับผู้ป่วย ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมความร่วมมือเชิงกลยุทธ์และการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเชิงนวัตกรรม
เกี่ยวกับ Callidus Research Laboratories
Callidus Research Laboratories เป็นบริษัทให้บริการพัฒนาสูตรยาที่ก่อตั้งและบริหารโดยทีมงานมืออาชีพจากอุตสาหกรรมเภสัชกรรม ซึ่งมีประวัติการให้บริการตลาดทั่วโลกที่ยอดเยี่ยม
ทีมงานของ Callidus ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความสามารถในการพัฒนารูปแบบยาต่างๆ และให้บริการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยารักษาโรคครบวงจรแก่ลูกค้าทั่วโลก
เราให้บริการครบวงจรในโปรแกรมพัฒนายาแก่พันธมิตรทั่วโลกของเรา ซึ่งประกอบด้วยการพัฒนาสูตรยา การพัฒนาเชิงวิเคราะห์ การศึกษาความคงตัว การถ่ายโอนเทคโนโลยี สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา และการสนับสนุนด้านกฎระเบียบ
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
Amit Jain, Myo Brand Partners, +91-9886062866
แหล่งข้อมูล: STEERLife
Medidata คว้าตำแหน่งสุดยอดผู้นำในการประเมิน PEAK Matrix® สำหรับผลิตภัณฑ์ระบบการจัดการการทดลองทางคลินิกด้านวิทยาศาสตร์สิ่งมีชีวิตที่ Everest Group จัดขึ้นเป็นครั้งแรก
นิวยอร์ก –(BUSINESS WIRE)–13 พฤศจิกายน 2024
Medidata (แบรนด์ Dassault Systèmes และผู้ให้บริการโซลูชันการทดลองทางคลินิกชั้นนำในวงการวิทยาศาสตร์สิ่งมีชีวิต) ได้รับยกย่องให้เป็นผู้นำในการประเมิน PEAK Matrix® สำหรับผลิตภัณฑ์ระบบการจัดการการทดลองทางคลินิกด้านวิทยาศาสตร์สิ่งมีชีวิตประจำปี 2024 ที่ Everest Group จัดขึ้นเป็นครั้งแรก รายงานนี้ได้ประเมินผู้ให้บริการ 13 รายโดยอิงตามผลลัพธ์ที่ผลิตภัณฑ์ของผู้ให้บริการเหล่านี้มีต่อตลาด และขีดความสามารถในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและประสบผลสำเร็จ
Rave CTMS จาก Medidata เป็นผู้นำวงการในการมอบบริการส่งข้อมูลผู้ป่วยแบบเรียลไทม์และราบรื่นที่พลิกโฉมระบบการติดตามผลการลงทะเบียน และช่วยให้สามารถตัดสินใจได้เร็วขึ้นและมีข้อมูลประกอบ ทั้งนี้ Rave CTMS ช่วยยกระดับการทำงานร่วมกัน ทำให้ไม่จำเป็นต้องลงรายการข้อมูลด้วยตนเอง และทำให้การทดลองเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นพร้อมความแม่นยำที่เหนือชั้น โดยช่วยให้ทีมศึกษาวิจัยเห็นข้อมูลต่าง ๆ ได้ในทันที
คุณ Tom Doyle ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Medidata กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับยกย่องให้เป็นผู้นำสูงสุดในด้าน CTMS จากทาง Everest Group” และ “รางวัลนี้ถือเป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของเราในการพลิกโฉมการวิจัยและตอกย้ำถึงกลยุทธ์ของเราในการนำเสนอประสบการณ์รูปแบบใหม่ผ่าน AI ที่จะปฏิวัติวิธีการออกแบบ วางแผน และจัดการการทดลองแบบครบวงจรขององค์กรต่าง ๆ พร้อมมอบผลลัพธ์สูงสุด”
คุณ Tom Doyle ยังกล่าวเสริมด้วยว่า “ในปี 2025 Medidata จะนำข้อมูลเชิงลึกจาก AI เข้ามาผสานรวมกับโซลูชันด้านการวางแผนและการดำเนินการวิจัย ช่วยให้สามารถจำลองการออกแบบการทดลอง ลดความยุ่งยากของกระบวนการ และยกระดับประสิทธิภาพให้ดีขึ้นได้”
Medidata เป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำในการประเมิน CTMS, การบันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) และการทดลองทางคลินิกแบบแยกจากศูนย์ (DCT) จาก Everest Group สำหรับ Rave EDC ของ Medidata, แพลตฟอร์ม Medidata และผลงานของทางบริษัทใน DCT
โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของเรา
เกี่ยวกับ Medidata
Medidata มุ่งพัฒนาการรักษาให้มีความอัจฉริยะยิ่งขึ้นและช่วยให้ผู้คนมีสุขภาพดีขึ้นผ่านโซลูชันดิจิทัลเพื่อสนับสนุนการทดลองทางคลินิก Medidata ได้พัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามาแล้ว 25 ปีจากการทดลองกว่า 34,000 ครั้งและผู้ป่วย 10 ล้านราย บริษัทนี้จึงมีความเชี่ยวชาญระดับแนวหน้าของวงการ ข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากการวิเคราะห์ และชุดข้อมูลการทดลองทางคลินิกที่ผ่าน ๆ มาในระดับผู้ป่วยที่ใหญ่ที่สุดในโลก แพลตฟอร์มแบบครบวงจรที่ราบรื่นของ Medidata ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้ที่ลงทะเบียนกว่า 1 ล้านคนจากลูกค้าประมาณ 2,200 ราย เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ป่วย เร่งคิดค้นนวัตกรรมทางคลินิก และนำการรักษาออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น Medidata ซึ่งเป็นแบรนด์ Dassault Systèmes(Euronext Paris: FR0014003TT8, DSY.PA) มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่นิวยอร์กซิตี และได้รับยกย่องให้เป็นผู้นำโดย Everest Group และ IDC โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.medidata.com และติดตามเราที่ @Medidata
เกี่ยวกับ Dassault Systèmes
Dassault Systèmes ช่วยเร่งให้มนุษย์มีความก้าวหน้ามากขึ้น เราให้บริการสภาพแวดล้อมเสมือนในการทำงานร่วมกับแก่ธุรกิจและผู้คนเพื่อคิดค้นนวัตกรรมที่ยั่งยืน เมื่อมีการสร้างประสบการณ์แบบ Virtual Twin ที่เหมือนกับโลกความเป็นจริงด้วยแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน 3DEXPERIENCE ของเรา ลูกค้าของเราก็จะสามารถปรับเปลี่ยนกระบวนการสร้างสรรค์ ผลิต และจัดการวงจรการใช้งานสำหรับผลิตภัณฑ์ของตนได้ และช่วยให้โลกใบนี้ยั่งยืนยิ่งขึ้นได้เป็นอย่างดี ความสวยงามของเศรษฐกิจประสบการณ์ (Experience Economy) ก็คือเศรษฐกิจแบบนี้จะคำนึงถึงมนุษย์เป็นสำคัญเพื่อประโยชน์ของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภค ผู้ป่วย และประชาชน ทั้งนี้ Dassault Systèmes ได้สร้างคุณค่าให้กับลูกค้ากว่า 350,000 รายการในทุกขนาด ทุกวงการ และในกว่า 150 ประเทศ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.3ds.com
© Dassault Systèmes สงวนสิทธิ์ทุกประการ 3DEXPERIENCE, โลโก้ 3DS, ไอคอน Compass, IFWE, 3DEXCITE, 3DVIA, BIOVIA, CATIA, CENTRIC PLM, DELMIA, ENOVIA, GEOVIA, MEDIDATA, NETVIBES, OUTSCALE, SIMULIA และ SOLIDWORKS คือเครื่องหมายการค้าเชิงพาณิชย์หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Dassault Systèmes ซึ่งเป็นบริษัทในยุโรป (Societas Europaea) ที่จัดตั้งภายใต้กฎหมายของฝรั่งเศส และมีการจดทะเบียนกับ Versailles Trade และหน่วยงานทะเบียนบริษัทภายใต้หมายเลข 322 306 440 หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและ/หรือประเทศอื่น ๆ เครื่องหมายการค้าอื่นทั้งหมดจะเป็นของเจ้าของรายนั้น ๆ การใช้เครื่องหมายการค้าใด ๆ ของ Dassault Systèmes หรือบริษัทในเครือจะต้องได้รับการอนุมัติอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรโดยชัดแจ้ง
เกี่ยวกับ Everest Group
Everest Group เป็นบริษัทด้านการวิจัยชั้นนำของโลก ซึ่งช่วยให้ผู้นำทางธุรกิจสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ การประเมิน PEAK Matrix® ของ Everest Group มาพร้อมการวิเคราะห์และข้อมูลเชิงลึกที่องค์กรต่าง ๆ ต้องใช้ประกอบการตัดสินใจครั้งสำคัญในการเลือกผู้ให้บริการระดับสากล ตำแหน่งที่ตั้ง รวมถึงผลิตภัณฑ์และโซลูชันภายในส่วนตลาดต่าง ๆ ในขณะเดียวกัน ผู้ให้บริการ ผลิตภัณฑ์ และโซลูชันเหล่านี้เองก็เลือกใช้ PEAK Matrix® ในการวัดและเทียบผลิตภัณฑ์ของตนกับผู้อื่นในวงการหรือตลาด โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมและเนื้อหาเชิงลึกที่ www.everestgrp.com
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย
ผู้ติดต่อ
ประชาสัมพันธ์ของ Medidata
Medidata.PR@3ds.com
นักวิเคราะห์สัมพันธ์
Medidata.AR@3ds.com
แหล่งที่มา: Medidata