Tag Archives: award

Kioxia คว้ารางวัล Lifetime Achievement Award จาก FMS จากผลงานการคิดค้นแฟลช NAND แบบ 3 มิติ

Logo

ทีมพัฒนาของ Kioxia คว้ารางวัลจากการคิดค้นเทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลชแบบ 3 มิติ BiCS FLASH อันล้ำสมัย

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–25 กรกฎาคม 2024

Kioxia Corporation ซึ่งเป็นผู้คิดค้นหน่วยความจำแฟลชแบบ NAND คว้ารางวัล Lifetime Achievement Award ประจำปี 2024 จาก FMS: the Future of Memory and Storage โดยทีมวิศวกรรมจาก Kioxia ซึ่งได้แก่คุณฮิเดอากิ อาโอจิ, เรียวตะ คัตสึมาตะ, มาซารุ คิโตะ, มาซารุ คิโดะ และฮิโรยาสึ ทานากะ จะขึ้นรับรางวัลอันทรงเกียรตินี้จากผลงานการพัฒนาและจัดจำหน่ายหน่วยความจำแฟลชแบบ 3 มิติรายแรก เทคโนโลยีอันล้ำสมัยนี้ได้กลายมาเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการใช้งานทางคอมพิวเตอร์ต่างๆ มากมาย ซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง, พีซี, SSD, ศูนย์ข้อมูล, AI และอุตสาหกรรม

Kioxia นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับเทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลชแบบ 3 มิติ BiCS FLASHTM ที่งาน VLSI Symposium เมื่อปี 2007 โดยหลังจากประกาศตัวต้นแบบไป Kioxia ก็เดินหน้าพัฒนาเพื่อยกระดับเทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อการผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งในที่สุดก็ได้เปิดตัวหน่วยความจำแฟลชแบบ 3 มิติ 48 ชั้นขนาด 256 กิกะบิต (Gb) ตัวแรกของโลกไปเมื่อปี 2015

“การคิดค้นหน่วยความจำแฟลชแบบ 3 มิติของ Kioxia ได้พลิกโฉมการจัดเก็บข้อมูลไป เปลี่ยนจากการยกระดับเทคโนโลยีที่มีอยู่เดิมมาเป็นโซลูชันสุดล้ำที่ตอบโจทย์ระบบคอมพิวเตอร์ยุคใหม่” คุณ Chuck Sobey ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานทั่วไปของ FMS กล่าว “เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอผลงานอันสำคัญนี้ และอยากจะเห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”

หน่วยความจำแฟลชแบบ 3 มิติ BiCS FLASH มาพร้อมโครงสร้างแบบวางซ้อน 3 มิติที่ช่วยเพิ่มความจุและยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน หน่วยความจำรูปแบบนี้ได้พลิกโฉมแวดวงธุรกิจการจัดเก็บข้อมูลไปจากเดิม เทคโนโลยีนี้ช่วยให้เกิดโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลที่มีความหนาแน่นสูงขึ้นพร้อมรักษาความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพไว้ดังเดิม ซึ่งช่วยยกระดับขีดความสามารถให้กับศูนย์ข้อมูล อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภค และอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆ ได้เป็นอย่างมาก ทั้งยังเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับเทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลชอีกด้วย เทคโนโลยี BiCS FLASH ของ Kioxia ใช้การวางซ้อนแบบแนวตั้ง (Vertical stacking) ซึ่งขจัดข้อจำกัดที่พบในแฟลช NAND เชิงระนาบ ช่วยเปิดทางให้เกิดการพัฒนาโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลหน่วยความจำต่างๆ ในอนาคต ทั้งยังช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ของ Kioxia Corporation ในฐานะผู้นำวงการอีกด้วย

“นวัตกรรมทางเทคนิคของหน่วยความจำแฟลชแบบ 3 มิติจาก Kioxia นับเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่” คุณอัตสึชิ อิโนอุเอะ รองประธานและผู้บริหารด้านเทคโนโลยีจากแผนกหน่วยความจำของ Kioxia Corporation กล่าว “เทคโนโลยีของเราทำให้เพื่อนร่วมวงการได้มองเห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ ช่วยให้หน่วยความจำแฟลชสามารถเพิ่มความหนาแน่นของการจัดเก็บข้อมูลต่อเซลล์ ดาย และแพ็กเกจได้อย่างมาก ผมตื่นเต้นที่จะได้เห็นความสำเร็จของเราได้รับการยอมรับ และหวังว่าจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีกหลายปีต่อจากนี้ครับ”

“เพื่อนๆ วิศวกรใน Kioxia ต่างเป็นแรงบันดาลใจให้ผม ไม่เพียงแต่ในเรื่องความสำเร็จทางเทคโนโลยี แต่ยังรวมถึงความมุ่งมั่นที่จะยกระดับวงการโดยอาศัยการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้งและคอยช่วยเหลือผู้ที่ทำงานด้านเทคโนโลยีรอบๆ ตัว” คุณเรียวตะ คัตสึมาตะ วิศวกรอาวุโสจากศูนย์พัฒนาหน่วยความจำขั้นสูงของ Kioxia Corporation กล่าว “ผลงานของเราไม่เพียงแต่สร้างความเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง แต่ยังช่วยให้คนในวงการหันมาสนใจการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ และร่วมมือกันอีกด้วย ผมดีใจมากที่ได้เห็นผู้คนยอมรับในความเป็นผู้นำและวิสัยทัศน์นี้”

เทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลชแบบ 3 มิตินี้ยังคว้ารางวัล Imperial Invention Prize จาก National Commendation for Invention ประจำปี 2020 ในประเทศญี่ปุ่น และได้รับรางวัล Award for Science and Technology ประจำปี 2023 จาก The Commendation for Science and Technology โดยกระทรวงการศึกษา วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีของประเทศญี่ปุ่น รวมถึงรางวัล IEEE Andrew S. Grove Award ประจำปี 2021

หมายเหตุ:

ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทภายนอก

เกี่ยวกับ Kioxia

Kioxia เป็นผู้นำระดับโลกในด้านโซลูชันหน่วยความจำ มุ่งเน้นด้านการพัฒนา ผลิต และจัดจำหน่ายหน่วยความจำแฟลชและไดรฟ์แบบโซลิดสเตต (SSD) โดยเฉพาะ เมื่อเดือนเมษายนปี 2017 บริษัท Toshiba Memory ซึ่งเป็นชื่อเดิมได้แยกตัวจาก Toshiba Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นหน่วยความจำแฟลช NAND เมื่อปี 1987 บริษัท Kioxia มุ่งมั่นที่จะพัฒนาโลกใบนี้ให้ดียิ่งขึ้นด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบต่างๆ ที่ช่วยให้ลูกค้าได้มีสิทธิ์เลือกและส่งมอบประโยชน์ให้กับสังคมผ่านหน่วยความจำต่างๆ ทั้งนี้ เทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลชแบบ 3 มิติอันล้ำสมัยของ Kioxia อย่าง BiCS FLASH™ มีส่วนช่วยในการยกระดับการจัดเก็บข้อมูลสำหรับการใช้งานที่มีความหนาแน่นสูงแบบต่างๆ ซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง, พีซี, SSD, ยานยนต์ และศูนย์ข้อมูล

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ผู้ติดต่อ

โคตะ ยามาจิ
ประชาสัมพันธ์
Kioxia Corporation
+81-3-6478-2319
kioxia-hd-pr@kioxia.com

แหล่งที่มา: Kioxia Corporation

NS BlueScope Malaysia เปิดตัว Architectural Award 2024 เพื่อฉลองความสวยงาม ความแข็งแรง และนวัตกรรมในเหล็กกล้า

Logo

กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย–(BUSINESS WIRE)–08 กรกฎาคม 2024

NS BlueScope Malaysia Sdn Bhd กำลังเปิดรับลงทะเบียนผู้ชิงรางวัล BlueScope Steel Architectural Awards ครั้งที่หนึ่งในมาเลเซีย (BSAA MY) โครงการมอบรางวัลใหม่เปิดตัวบนสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียทั่วทั้งมาเลเซีย แม้ว่า NS BlueScope จะเปิดตัวโครงการรางวัลที่เท่าเทียมกันในตลาดหลักอื่น ๆ ของ ASEAN ก็ตาม รางวัลนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อฉลองความเป็นเลิศและนวัตกรรมการใช้เหล็กกล้าอย่างหลากหลายในด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

BlueScope Steel Architectural Awards มาพร้อมกับหัวข้อ “ความแข็งแรงที่สวยงาม” และจะมุ่งเน้นไปที่โครงการที่ดูมีระดับและสวยงาม ซึ่งให้ความสำคัญกับนวัตกรรมด้านสถาปัตยกรรมเหล็กกล้าเชิงสร้างสรรค์ โดยมีรางวัลที่เปิดให้ลงทะเบียนทั้งหมด 5 หมวดหมู่ ได้แก่ อุตสาหกรรม การพาณิชย์ ที่อยู่อาศัย สถาบัน อื่น ๆ และความสวยงามอันยั่งยืนของเหล็กกล้า COLORBOND®

“เป้าหมายของเราในโครงการรางวัลใหม่นี้คือการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานของอุตสาหกรรมเพื่อความเป็นเลิศในการใช้เหล็กกล้าทางสถาปัตยกรรรม เราจะบรรลุเป้าหมายนี้ด้วยการจัดแสดงโครงการก่อสร้างที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งใช้วัสดุเหล็กกล้าหรือโซลูชัน BlueScope เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่น่าประทับใจอย่างแท้จริง ด้วยวิธีนี้ เราจะสามารถเพิ่มความตระหนักว่าเหล็กกล้าที่ทันสมัยสามารถสร้างประโยชน์ให้กับการออกแบบเชิงสถาปัตยกรรม พร้อมกับเป็นรากฐานของโครงการล้ำสมัยในภาคส่วนสถาปัตยกรรมของมาเลเซียได้อย่างไร” Mr. Ken Wong รองประธานกรรมการฝ่ายการตลาดของ NS BlueScope Malaysia กล่าว “สำหรับสถาปนิกทุกคนที่มีโครงการเหล็กกล้าที่คู่ควรในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ นี่คือโอกาสที่จะได้แสดงผลงานของคุณและคว้ารางวัล!”

BSAA MY จะคัดเลือกผู้ชนะ 3 รายสำหรับแต่ละหมวดหมู่ โดยมีตำแหน่ง Gold, Silver และ Bronze โครงการที่ได้รับเลือกเป็นผู้ชนะ Gold Winners จาก BSAA MY จะเข้าสู่รอบถัดไปเพื่อแข่งขันชิงรางวัล BlueScope Steel Architectural Awards 2024 ASEAN ซึ่งจะต้องแข่งขันกับผู้ชนะ Gold Winners รายอื่น ๆ จากอินโดนีเซีย ไทย และเวียดนามเพื่อคว้ารางวัล ASEAN สูงสุดที่ระดับภูมิภาค การมีโครงการรางวัลทั้งระดับชาติและระดับภูมิภาคจะสร้างแรงกระตุ้นให้สถาปนิก นักออกแบบ และผู้พัฒนาเข้าใจความอเนกประสงค์และนวัตกรรมที่สามารถนำเหล็กกล้าไปใช้ได้ อีกทั้งยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นและยกระดับการยอมรับการใช้เหล็กกล้าในประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย

คณะกรรมการจะคัดเลือกโครงการตามเกณฑ์หลัก 4 ข้อ: ความเป็นเลิศในการออกแบบ ชุมชนและความเป็นมนุษย์ นวัตกรรม และความยั่งยืน

BlueScope Steel Architectural Awards Malaysia ครั้งที่หนึ่งรอบสุดท้ายจะจัดขึ้นในวันที่ 20 กันยายน 2024 หากต้องการส่งผลงาน กรุณาเข้าสู่ระบบที่ www.steelpedia.com.my/bluescope-steel-architectural-award-2024

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ NS BlueScope Malaysia โปรดเข้าชม www.nsbluescope.com/my

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54090870/en

ผู้ติดต่อ

James Li
โทรศัพท์ +65 6832 3512
อีเมล james.li@bluescope.com 

ที่มา: NS BlueScope Malaysia

Pacific Prime Thailand คว้ารางวัล International Broker Award ที่มียอดขายสูงสุดจาก AXA

Logo

BANGKOK–(BUSINESS WIRE)–17 พฤษภาคม 2024

Pacific Prime บริษัทนายหน้าประกันภัยระหว่างประเทศ ได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะคว้ารางวัลยอดขายสูงสุดจาก AXA – International Broker Award 2024 ในวันที่ 25 เดือนเมษายน ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ประเทศไทย โดยมีการจัดพิธีมอบรางวัล AXA Awards 2024 ในธีม “Journey to the Everest” พร้อมนักแสดงชั้นนำทุกคนมาร่วมเฉลิมฉลองช่วงเวลานี้แห่งปี

From left to right: Claude Seigne (CEO of AXA Thailand), Naambo Shivute (Key Account Manager of Pacific Prime), Ricky Batten (General Manager of Pacific Prime) (Photo: Business Wire)

จากซ้ายไปขวา: Claude Seigne (CEO ของ AXA Thailand), Naambo Shivute (ผู้จัดการฝ่ายลูกค้าหลักของ Pacific Prime), Ricky Batten (ผู้จัดการทั่วไปของ Pacific Prime) (ภาพถ่าย: Business Wire)

รางวัลอันทรงเกียรตินี้เป็นการยกย่องความมุ่งมั่นของ Pacific Prime ในการสร้างยอดขายสูงสุดในตลาด ประกันสุขภาพส่วนบุคคล  (IPMI) ตลอดปีที่ผ่านมา โดยแสดงถึงความรู้ การบริการ และความเป็นมืออาชีพที่ไม่มีใครเทียบได้ในอุตสาหกรรม

Ricky Batten ผู้จัดการทั่วไป และ Naambo Shivute ผู้จัดการฝ่ายลูกค้าหลักของ Pacific Prime รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับรางวัลนี้ในนามของทีมงานทุกคน ผมขอขอบคุณทีมงาน AXA ทุกคนที่ให้การสนับสนุน รางวัลนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในการนำเสนอโซลูชันการประกันภัยที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการรักษาพยาบาลสำหรับลูกค้าของเรา แต่อย่างไรก็ตาม นี่ยังห่างไกลจากจุดหมายปลายทางของเรา โดยเราจะยังคงปรับปรุงกระบวนการประกันภัยสำหรับลูกค้าของเราอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับ AXA และก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยการบริการลูกค้าเฉพาะด้าน เพื่อบรรลุความสำเร็จตามที่เราตั้งมั่นไว้

การเฉลิมฉลองในครั้งนี้ไม่เพียงเฉพาะมีการประดับสายรุ้งและดอกไม้เท่านั้น แต่ยังเป็นงานการมอบตำแหน่ง CEO โดย Claude Seigne จะอำลาตำแหน่ง และมอบตำแหน่งให้กับ Guillaume Mirabud การเปลี่ยนแปลงในระดับผู้บริหารนี้เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด แต่ความร่วมมือระหว่าง Pacific Prime และ AXA จะยังคงมั่นคงอยู่เสมอ โดยจะมีการนำพาทั้งสององค์กรไปสู่ความสำเร็จอย่างแน่นอน

เกี่ยวกับ Pacific Prime

Pacific Prime ก่อตั้งขึ้นในปี 2000 โดยเป็นนายหน้าประกันภัยและผู้เชี่ยวชาญด้านผลประโยชน์สำหรับพนักงานระดับโลกที่ได้รับรางวัล ซึ่งนำเสนอโซลูชันการประกันภัยส่วนบุคคลและองค์กร ด้วยเบี้ยประกันภายใต้การบริหารมูลค่า 750 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปัจจุบัน Pacific Prime กลายเป็นตัวแทนด้านผลประโยชน์สำหรับพนักงานรายใหญ่อันดับสามในเอเชียแปซิฟิก หลังจากการเข้าซื้อกิจการตัวแทนของ CXA Group ในปี 2021 บริษัทนายหน้านี้มีพนักงานมากกว่า 1,000 คน และมีสำนักงาน 15 แห่งทั่วโลก รวมถึงฮ่องกง สิงคโปร์ จีน ไทย มาเลเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย

สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Pacific Prime ได้ที่: https://www.pacificprime.com/corporate

เกี่ยวกับ AXA Group

AXA เป็นบริษัทประกันภัยและบริการทางการเงินระดับโลกที่มีการดำเนินงานในกว่า 60 ประเทศ ด้วยการมุ่งเน้นที่นวัตกรรมและการให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง AXA นำเสนอโซลูชันการประกันภัย การลงทุน และการจัดการสินทรัพย์ที่หลากหลายและครอบคลุมสำหรับลูกค้าส่วนบุคคลและลูกค้าธุรกิจ ด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการดำเนินงานตามแนวทางปฏิบัติด้านการลงทุนที่ยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ AXA มีการให้บริการลูกค้ากว่าหลายล้านรายทั่วโลก โดยให้คำแนะนำและให้การสนับสนุนส่วนบุคคลผ่านเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญ ตัวแทน และพันธมิตรอย่างกว้างขวาง

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.axa.co.th

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53989006/en

ติดต่อ

Stephen Ho
Chief Marketing Officer
Pacific Prime
+852 3589 0508

แหล่งข้อมูล: Pacific Prime

Hytera คว้ารางวัล ICCAs Award ประจำปี 2024 ด้วยโซลูชัน MCS

Logo

ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–16 พฤษภาคม 2024

Hytera Communications (SZSE: 002583) ผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านเทคโนโลยีและโซลูชันการสื่อสารระดับมืออาชีพ ได้รับรางวัล ICCAs 2024 Award สาขา “การใช้การสื่อสารที่สำคัญในอุตสาหกรรม การผลิต การขุดทรัพยากร การสำรวจน้ำมันและก๊าซ” เพื่อเป็นการให้เกียรติ MCS และ TETRA Systems ที่เชื่อมต่อกันของ Hytera Communications สำหรับผู้ผลิตเหล็กชั้นนำ โดยพิธีมอบรางวัล International Critical Communications Awards (ICCAs) ประจำปี 2024 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ Intercontinental Festival City ในดูไบ

ICCAs 2024 Award displayed at CCW exhibition (Photo: Business Wire)

ICCAs 2024 Award แสดงที่ CCW exhibition (รูปภาพ: Business Wire)

รางวัลนี้เชิดชู MCS และ TETRA Systems ที่เชื่อมต่อกันของ Hytera ซึ่งถูกนำไปใช้งานโดย Baoshan Iron & Steel Co., Ltd. (Baosteel) โดยก่อนหน้านี้ Baosteel ซึ่งเป็นบริษัทที่ติดอันดับ Fortune Global 500 ปฏิบัติงานด้วยระบบ TETRA ที่ติดตั้งในปี 2007 ไม่สามารถตอบสนองความต้องการประยุกต์ใช้บรอดแบนด์ที่เพิ่มสูงขึ้นในขณะที่อุตสาหกรรมก้าวหน้าในด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลและระบบอัตโนมัติ โดย Hytera ได้อัปเกรดระบบของ Baosteel ด้วยเทคโนโลยี TETRA ล่าสุด และผสานรวมระบบ TETRA ที่ได้รับการอัปเดตเข้ากับบริการสำหรับภารกิจสำคัญแบบผสานการทำงาน (MCS) ซึ่งช่วยเพิ่มผลผลิตและความปลอดภัยให้กับพนักงานมากกว่า 3,000 คน การผสานรวมนี้ทำให้มีความครอบคลุมของการสื่อสารที่ครบถ้วนกระบวนความ ช่วยให้สามารถสื่อสารตามความต้องการได้ ในขณะเดียวกันก็ตอบสนองความต้องการระดับสูงสำหรับการส่งข้อมูลมัลติมีเดียด้วย

Hytera มอบเทอร์มินัลสองโหมดและอุปกรณ์อัจฉริยะ 5G XSecure ให้กับ Baosteel เพื่อขยายการใช้งานของการเชื่อมต่อโครงข่ายสองเครือข่ายเพิ่มเติม อุปกรณ์เหล่านี้สามารถลงทะเบียนได้ทั้งบนเครือข่าย LTE และเครือข่าย TETRA พร้อมกัน ซึ่งทำให้สามารถมีบริการการสื่อสารแบบเรียลไทม์บนเครือข่ายสาธารณะ MCS และเครือข่าย TETRA ส่วนตัว การดำเนินการนี้ช่วยลดภาระของบุคลากรฝ่ายปฏิบัติการและบำรุงรักษาที่อาจต้องพกพาอุปกรณ์หลายเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิทยุที่ทนทานนี้จะสลับระหว่างเครือข่ายแนร์โรว์แบนด์และบรอดแบนด์โดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องมีการแทรกแซงด้วยตนเอง รองรับบริการต่างๆ เช่น การโทรส่วนตัวและการโทรแบบกลุ่ม ข้อความ และแอปพลิเคชันมัลติมีเดีย

อุปกรณ์อัจฉริยะ 5G XSecure PNC560 ของ Hytera (Hytera 5G XSecure Smart Device PNC560) เพิ่มประสิทธิผลและประสิทธิภาพของผู้ใช้ ตั้งแต่พนักงานออฟฟิศไปจนถึงพนักงานแนวหน้า ด้วยระบบ MCS ของ Hytera PNC560 สามารถสื่อสารกับวิทยุ PDT, DMR หรือ TETRA ผ่านเครือข่าย LTE หรือ 5G ซึ่งช่วยให้สามารถสื่อสารแบบตัวต่อตัวหรือแบบตัวต่อกลุ่มได้ทันทีทุกที่ในโลกเพื่อแบ่งปันข้อความ รูปภาพ และคลิปวิดีโอ

ระบบ MCS ของ Hytera ปรับปรุงประสิทธิภาพการสื่อสารและการผลิตของ Baosteel โดยการทำให้แน่ใจว่าการสื่อสารและการทำงานร่วมกันจะเป็นไปอย่างราบรื่นระหว่างพนักงาน ที่สำคัญกว่านั้นคือระบบ MCS ของ Hytera สอดคล้องกับมาตรฐานภารกิจสำคัญของ 3GPP อย่างสมบูรณ์ โดยครอบคลุม MCPTT, MCVideo และ MCData แนวทางนี้ทำให้มั่นใจได้ถึงการสื่อสารที่เชื่อถือได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เพื่อรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปในอนาคต Hytera ทำให้สามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่การประยุกต์ใช้บรอดแบนด์ได้อย่างง่ายดายผ่านการเชื่อมต่อระหว่าง MCS และ TETRA Systems ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพขั้นตอนการทำงาน และสนับสนุนความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน.

Dylan Liu ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ Hytera กล่าวว่า “การได้รับรางวัล ICCA ปี 2024 เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราต่อนวัตกรรมทางเทคโนโลยี Hytera เป็นผู้นำในด้านการใช้งาน MCS ในหลายอุตสาหกรรม เช่น รถไฟและสาธารณูปโภค ทีมงานจะยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมและพัฒนาสายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของเราต่อไป”

เกี่ยวกับ Hytera

Hytera Communications Corporation Limited เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชันการสื่อสารระดับมืออาชีพชั้นนำระดับโลก ด้วยความสามารถด้านเสียง วิดีโอ และข้อมูล เรามอบการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว ปลอดภัยยิ่งขึ้น และหลากหลายยิ่งขึ้นให้ผู้ใช้ทางธุรกิจและผู้ใช้ที่มีภารกิจที่สำคัญ เราทำให้โลกมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้นโดยการช่วยให้ลูกค้าของเราประสบความสำเร็จมากขึ้นทั้งในด้านการปฏิบัติงานประจำวันและการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:

https://www.businesswire.com/news/home/53994318/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

lele.yao@hytera.com

แหล่งที่มา: Hytera Communications Corporation Limited

พิธีมอบรางวัล 2024 Japan Prize Award จัดขึ้นโดยมีสมเด็จพระจักรพรรดิและจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่นเข้าร่วม

Logo

ศาสตราจารย์ Sir Brian J. Hoskins และศาสตราจารย์ John Michael Wallace ในสาขาทรัพยากร พลังงาน สิ่งแวดล้อม และโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม

ศาสตราจารย์ Ronald M. Evans ในสาขาวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ทางเภสัชศาสตร์

TOKYO–(BUSINESS WIRE)–23 เมษายน 2024

Japan Prize Foundation (ประธาน: Hiroshi Komiyama) ได้จัดพิธีมอบรางวัลเมื่อวันอังคารที่ 16 เดือนเมษายน ที่โรงแรมอิมพีเรียลโตเกียวในเขตชิโยดะ กรุงโตเกียว เพื่อมอบรางวัล Japan Prize ให้กับนักวิทยาศาสตร์ที่สร้างสรรค์ผลงานที่น่าทึ่ง และประสบความสำเร็จในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับโลก และมีส่วนสำคัญในการตระหนักถึงสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองเพื่อมวลมนุษยชาติ

ศาสตราจารย์ Sir Brian J. Hoskins (UK) และศาสตราจารย์ John Michael Wallace (USA) ผู้ชนะเลิศในสาขาทรัพยากร พลังงาน สิ่งแวดล้อม และโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม และศาสตราจารย์ Ronald M. Evans (USA) ผู้ชนะเลิศในสาขาวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ทางเภสัชศาสตร์ เข้าร่วมพิธีมอบรางวัล โดยแต่ละสาขาจะได้รับเงินรางวัล 100 ล้านเยน พร้อมประกาศนียบัตรและเหรียญรางวัล

ในแต่ละปี ผู้ชนะเลิศ Japan prize มาจากการเสนอชื่อจากนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรที่มีชื่อเสียงกว่า 15,500 คนจากทั่วโลก และจะมีการตัดสินโดยการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ปี สำหรับปี For 2024 มูลนิธิได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 130 รายสำหรับสาขาทรัพยากร พลังงาน สิ่งแวดล้อม และโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม และ 198 รายสำหรับสาขาวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ทางเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศในปีนี้ได้รับการคัดเลือกจากผู้สมัครทั้งสิ้น 328 คน

พิธีมอบรางวัลในปีนี้มีแขกเข้าร่วมประมาณ 150 คน เริ่มจากสมเด็จพระจักรพรรดิและจักรพรรดินี หัวหน้าหน่วยงานภาครัฐสามสาขาและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนจากองค์กรทางสังคมอื่นๆ สมเด็จพระจักรพรรดิทรงพระราชทานพระราชดำรัส ตามด้วยสุนทรพจน์จากผู้ชนะเลิศทั้งสาม และคำกล่าวแสดงความยินดีจาก Hidehisa Otsuji ประธานรัฐสภา

สามารถเข้าชมพิธีมอบรางวัลในปีนี้ได้จากลิงก์ด้านล่าง

ภาษาญี่ปุ่น: https://www.youtube.com/live/9u7k6Al_MlU?si=B8EhDuvEByzFlTKB
ภาษาอังกฤษ: https://www.youtube.com/live/FsNvb9V0ODo?si=vAlfPk94QvCq4Iac

เกี่ยวกับ Japan Prize

การก่อตั้ง Japan Prize ในปี 1981 มาจากแรงบันดาลใจจากความปรารถนาของรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อสร้างรางวัลที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งจะสนับสนุนการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั่วโลก ด้วยการสนับสนุนจากเงินบริจาคจำนวนมาก มูลนิธิ Japan Prize ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะรัฐมนตรีในปี 1983 Japan Prize เป็นรางวัลที่มอบให้กับนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรจากทั่วโลก ซึ่งมีการสร้างสรรค์ผลงานที่น่าทึ่งและประสบความสำเร็จในการช่วยพัฒนาสาขาของตนเอง และเป็นส่วนสำคัญในการตระหนักถึงสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองเพื่อมวลมนุษยชาติ นักวิจัยในทุกสาขาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะมีสิทธิ์เข้าแข่งขัน โดยจะมีการคัดเลือกสองสาขาในแต่ละปี โดยคำนึงถึงแนวโน้มปัจจุบันในการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยหลักการแล้ว จะมีเพียงหนึ่งคนในแต่ละสาขาที่จะได้รับรางวัล และได้รับประกาศนียบัตร เหรียญรางวัล และเงินรางวัล พิธีมอบรางวัลในแต่ละปีจะมีสมเด็จพระจักรพรรดและจักรพรรดินี หัวหน้าหน่วยงานภาครัฐสามสาขาและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนจากองค์กรทางสังคมอื่นๆ เข้าร่วม

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลเผยแพร่ในครั้งนี้:
The Japan Prize Public Relations Office
อีเมล: japanprize@ml.prap.co.jp

แหล่งข้อมูล: The Japan Prize Foundation

Boomi ประกาศผู้ชนะเลิศได้รับรางวัล APJ 2023 Partner Award

Logo

Boomi ยกย่องพันธมิตรที่อุทิศตนช่วยเหลือลูกค้าในการสร้างผลประกอบการที่ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น

SYDNEY–(BUSINESS WIRE)–14 พฤศจิกายน 2023

Boomi™ ผู้นำด้านการเชื่อมต่ออัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ ประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัล 2023 Asia-Pacific and Japan (APJ) Partner Awards ในงาน Boomi World Tour Sydney รางวัลนี้เพื่อเชิดชูพันธมิตรด้านนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จในการใช้ประโยชน์จาก Boomi เพื่อสร้างผลประกอบการที่ดียิ่งขึ้นสำหรับลูกค้า

Boomi Announces APJ 2023 Partner Award Winners (Graphic: Business Wire)

Boomi ประกาศผู้ชนะเลิศได้รับรางวัล APJ 2023 Partner Award (ภาพถ่าย: Business Wire)

การคัดเลือกผู้ชนะเลิศจะพิจารณาจากวิธีการในการใช้ แพลตฟอร์ม Boomi ในวงกว้าง เพื่อสร้างสรรค์ความคิดและนวัตกรรม ขอบเขต และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือสังคม

Atturra (ASX:ATA) ผู้ให้บริการด้านไอทีสัญชาติออสเตรเลีย ได้รับรางวัล APJ Partner of the Year, A/NZ Partner of the Year และ APJ Practice Excellence Partner of the Year โดย Atturra เป็นพันธมิตรของ Boomi มาอย่างยาวนาน และมีการนำเสนอโครงการต่างๆ ด้วยความร่วมมือกับ Boomi ในด้านการบูรณาการ การเชื่อมต่อข้อมูล และระบบอัตโนมัติ แก่องค์กรในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงสาธารณูปโภค ภาครัฐ และการศึกษา

ผู้ชนะเลิศรางวัลพันธมิตรในปีนี้เพิ่มเติม ได้แก่:

  • Asia Partner of the Year: Deloitte HK
  • Japan Partner of the Year: NRI
  • APJ Partner on Boomi: LTI Mindtree

“พันธมิตรของเราเป็นส่วนสำคัญในการสร้างโลกที่เชื่อมโยงกันในโครงการที่มีการนำเสนอทั่วทั้ง APJ” Jim Fisher รองประธานฝ่าย Alliances & Channels ของ APJ ที่ Boomi กล่าว “โครงการปรับแปลงทางดิจิทัลทุกโครงการต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเชิงลึกเพื่อนำเสนอสภาพแวดล้อมเชิงบูรณาการ เสริมสร้างระบบอัตโนมัติ และส่งเสริมการตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก เพื่อให้ลูกค้าของเราได้รับผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีที่สุด และมีผลเชิงบวกสำหรับผู้ประกอบการ ผู้ชนะเลิศรางวัล APJ Partner Award เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและรับประกันความสำเร็จของลูกค้า”

ในฐานะบริษัทซอฟท์แวร์และบริการ (SaaS) ชั้นนำระดับโลก Boomi นำเสนอโซลูชันระบบอัตโนมัติอัจฉริยะแบบครบวงจรที่ช่วยให้องค์กรดิจิทัลที่ทันสมัยสามารถเพิ่มผลลัพธ์ทางธุรกิจให้เร็วยิ่งขึ้น ปัจจุบันนี้ บริษัทมีการบริการแก่ลูกค้าประมาณ 20,000 ราย มีเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลกประมาณ 800 ราย และทำงานร่วมกับผู้ให้บริการระบบคลาวด์ระดับไฮเปอร์สเกลรายใหญ่ที่สุด

Boomi ได้รับการนำเสนออยู่ในรายชื่อบริษัทเทคโนโลยีที่มีนวัตกรรมและเติบโตเร็วที่สุดใน Deloitte Technology Fast 500™ และ Inc. 5000 ในอเมริกา โดย Boomi ได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้นำใน Gartner® Magic Quadrant™ for Integration Platform as a Service (iPaaS), Worldwide สำหรับ IDC MarketScape: Worldwide Cloud Integration Software and Services (iPaaS) 2023 Vendor Assessment ถึงเก้าครั้งติดต่อกัน และได้รับตำแหน่งผู้นำด้านการดำเนินการใน Forrester Wave™: Integration Platforms As A Service, Q3 2023 นอกจากนี้ Boomi ยังได้รับ การจัดอันดับ 5 ดาว อันทรงเกียรติเป็นเวลาสองปีติดต่อกันใน CRN Partner Program Guide ซึ่งเป็นโปรแกรมที่โดดเด่นที่สุดจากผู้จำหน่ายเทคโนโลยีชั้นนำในอุตสาหกรรมที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมและบริการที่ยืดหยุ่นผ่านช่องทางไอที

สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมพันธมิตรของ Boomi หรือค้นหาพันธมิตรจากระบบนิเวศทั่วโลกของ Boomi ได้ที่ boomi.com/partners

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Boomi

Boomi มีเป้าหมายที่จะทำให้โลกนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้นด้วยการเชื่อมโยงทุกคนเข้ากับทุกสิ่งจากทุกที่ เป็นผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มบูรณาการระบบคลาวด์แบบบริการ (iPaaS) และในปัจจุบัน เป็นบริษัทซอฟท์แวร์ที่ให้บริการ (SaaS) ชั้นนำระดับโลก Boomi มีฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มบูรณาการและมีเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลกประมาณ 800 ราย – รวมถึง Accenture, Capgemini, Deloitte, SAP และ Snowflake องค์กรระดับโลกหันมาใช้แพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลของ Boomi เพื่อค้นหา จัดการ และประสานรวมข้อมูล ในขณะเดียวกัน ก็มีการเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน กระบวนการ และผู้คนเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ boomi.com

© 2023 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ ‘B’, และ Boomiverse เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทสาขา หรือบริษัทในเครือ สงวนลิขสิทธิ์ ชื่อหรือเครื่องหมายอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53790748/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ:
Jasmine Ee
Head of Media and Analyst Relations, APJ
jasmine.ee@boomi.com

แหล่งข้อมูล: Boomi

ผู้ผลิตสมาร์ทดิสเพลย์ ที่ดีที่สุดของไต้หวัน เฉิดฉายในงาน SDIA Award 2022

Logo

กรุงไทเป ไต้หวัน –(BUSINESS WIRE)–11 พฤศจิกายน 2022

เพื่อเป็นการส่งเสริมผู้ผลิตสมาร์ทดิสเพลย์ของไต้หวันให้ก้าวทันเทคโนโลยีแสดงผลชั้นนำ Smart Display Industry Alliance หรือ SDIA จึงได้จัดงาน SDIA Award ปี 2022 ขึ้นมา โดยจะมอบรางวัลระดับ Gold, Silver, Bronze รวมถึง Prize of Excellence ให้แก่ผู้ชนะที่เข้าเกณฑ์การประเมินรางวัล เกณฑ์ดังกล่าวประกอบด้วยความสามารถทางการตลาด, ความเป็นนวัตกรรม, เทคโนโลยี, งานวิจัย, ขีดความสามารถในการพัฒนา และศักยภาพตัวต้นแบบ เป้าหมายคือการยกย่องผู้ผลิตที่มีส่วนร่วม ซึ่งพวกเขาได้ลงทุนขยายเทคโนโลยีการแสดงผลชั้นนำ และยกระดับการแข่งขันด้านภาพกับการตลาดในอุตสาหกรรมการแสดงผลของไต้หวัน

Taiwan’s top smart display companies selected for 2022 SDIA Award (Photo: Business Wire)

Taiwan’s top smart display companies selected for 2022 SDIA Award (Photo: Business Wire)

คณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมของกระทรวงเศรษฐการเป็นผู้ก่อตั้ง SDIA ในปี 2021 องค์กรนี้ทำหน้าที่สร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านวิชาการของมหาวิทยาลัยรัฐภาคอุตสาหกรรม รวมถึงกลไกการบูรณาการการดำเนินงาน, เสริมความเข้มแข็งข้ามภาคการผลิต, หน่วยงานสากล, การผนวกรวมหลากหลายสาขาวิชา และขีดความสามารถในการเพิ่มการแข่งขันระดับสากลของไต้หวันในเทคโนโลยีสมาร์ทดิสเพลย์ รวมถึงสนับสนุนความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรมเพื่อเปลี่ยนอุตสาหกรรมแสดงผลจากห่วงโซ่อุตสาหกรรมเดี่ยว เป็นระบบนิเวศอุตสาหกรรม

ในปีนี้ มีการมอบรางวัลให้บริษัทที่ดำเนินโครงการอันยอดเยี่ยมที่เน้นเทคโนโลยีการแสดงผลชั้นนำ ผู้ได้รับรางวัลระดับ Gold ได้แก่ AUO Corporation, Innolux Corporation, และ PlayNitride Display Co., Ltd สำหรับรางวัลระดับ Silver มอบให้กับ E Ink Holdings Inc., Lextar Electronics Corporation, และ Darwin Precisions Corporation ส่วนผู้ได้รับรางวัลระดับ Bronze คือ PanelSemi Corporation, WiseChip Semiconductor Inc., และ InnoCare Optoelectronics Corp. และรางวัล Prize of Excellence มอบให้กับ Taiwan Nanocrystals Inc., General Interface Solution Limited และ GIO Optoelectronics Corp.

AUO Corporation เป็นผู้สร้างหน้าจอแสดงผล Micro LED แบบม้วนได้ขนาด 14.6 นิ้ว ครั้งแรกของโลก ด้วยความคมชัดระดับสูงสุด มีการใช้เทคโนโลยีถ่ายโอนความเร็วระดับสูงให้ได้ความหนาแน่นของพิกเซลสูงระดับอัลตราที่ 202 ppi ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้มีความโดดเด่นทั้งในแง่ขนาดและความคมชัด กระบวนการผลิตยังมีการดำเนินการด้วยพลังงานสะอาดนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยประหยัดและลดการบริโภคพลังงาน จอแสดงผลแบบม้วนได้ยังเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับพื้นที่ภายในยานพาหนะด้วย

Innolux Corporation นำเสนอโซลูชันภาพทางการแพทย์อัจฉริยะ 3 มิติ แบบมองเห็นด้วยตาเปล่า ผสานกับสิทธิบัตรพิเศษเฉพาะของ Innolux – เทคโนโลยีการแสดงผลไลท์ฟีลด์ภาพแบบ Volume N3D และอัลกอริทึม ทำให้ระบบสามารถอ่านข้อมูลภาพรังสีส่วนตัดได้โดยตรง ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถตีความข้อมูลได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น

PlayNitride Display Co., Ltd อาศัยการใช้เมตาเวิร์สอันเป็นที่สนใจทั่วทั้งอุตสาหกรรม ในการเปิดตัวจอแสดงผล
ไมโครแบบมีสีเต็มรูปแบบ ขนาด 0.49 นิ้ว/4,536 ppi เมตาเวิร์ส ซึ่งเป็นเกรดสูงสุดในอุตสาหกรรมปัจจุบัน และสามารถใช้กับแว่นตา AR ได้ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแสดงผลช่วยยกระดับประสบการณ์เมตาเวิร์ส

บริษัทเทคโนโลยีแสดงผลมีความเข้มแข็งในตัวเอง SDIA จะช่วยผู้ผลิตอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมการแสดงผล ให้เปลี่ยนแปลงและอัปเกรดพร้อมเป้าหมายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าที่สูงขึ้น หรือระบบ และบริการบูรณาการแอปพลิเคชัน สิ่งนี้จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาแอปพลิเคชันและโซลูชันในหลากหลายสาขา เพื่อนำทฤษฎีไปปฏิบัติจริงให้เกิดการขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการแสดงผลอัจฉริยะในภาพรวม และการอัปเกรดให้ไปถึงเป้าหมายในการสร้างพอร์ตอุตสาหกรรม

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/52966218/en

ข้อมูลติดต่อ

Smart Display Industrial Alliance, SDIA
อีเมล: IDB.SDIA@itri.org.tw
โทรศัพท์: +886-2-27001910

แหล่งที่มา: Smart Display Industrial Alliance

NielsenIQ BASES ประกาศผู้ชนะรางวัล Design Impact Award ประจำปี 2565

Logo

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–21 กรกฎาคม 2565

NielsenIQ มีความยินดีที่จะประกาศรายชื่อผู้รับรางวัล Design Impact Award โดย NielsenIQ BASES ครั้งที่ 7 ประจำปี 2565 สำหรับอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค (CPG) โดยการแข่งขันระดับโลกนี้เป็นการยกย่องชื่นชมบรรจุภัณฑ์ที่ถูกนำมาปรับดีไซน์ใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยมรวมถึงอิทธิพลทางธุรกิจที่บรรจุภัณฑ์นั้นมีต่อบริษัท สำหรับผู้ชนะปีนี้ประกอบด้วยแบรนด์ต่าง ๆ ที่มีบรรจุภัณฑ์ล้ำสมัยและสร้างสรรค์ พร้อมมีแนวคิดด้านการออกแบบที่สะท้อนวิสัยทัศน์ของแบรนด์ไปพร้อมกับอำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อ

แบรนด์ต่าง ๆ 60 แบรนด์ได้ส่งผลงานการปรับดีไซน์บรรจุภัณฑ์เข้ามา และทีม NielsenIQ BASES ได้นำข้อมูล Retail Measurement Sales (RMS) ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทมาใช้เพื่อพิจารณาว่าแบรนด์ใดที่สามารถแสดงให้เห็นถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้นหลังมีการเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ที่มีการปรับดีไซน์ใหม่ นอกเหนือจากการนำข้อมูล RMS มาประเมินแล้ว NielsenIQ ยังได้ทำแบบสำรวจพฤติกรรมของผู้ซื้อสินค้า 15,000 คนเพื่อประเมินผลงานแต่ละรายการตลอดเส้นทางการเลือกซื้อสินค้าของผู้ซื้อ โดยมีการประเมินผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นเพื่อพิจารณาว่าบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์นั้นมีลักษณะที่น่าดึงดูดและสามารถแยกออกจากสินค้าอื่นได้ง่ายเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถค้นหาผลิตภัณฑ์บนชั้นวางและชักชวนให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าชิ้นนั้นหรือไม่ ผลปรากฏว่ามีผู้ชนะ 10 รายในหมวดหมู่สินค้าอุปโภคบริโภคชนิดต่าง ๆ ที่มีการออกแบบอันยอดเยี่ยมและยอดขายที่เพิ่มขึ้นซึ่งสามารถวัดได้

Andrea Fraboni ผู้ดำรงตำแหน่งรองประธานและ Global Leader ทีม BASES Design Solutions ของ NielsenIQ กล่าวว่า “ทีมของเราตื่นเต้นที่ได้สนับสนุนและส่งเสริมแบรนด์ที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจผู้นำเสนอบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการออกแบบอย่างแปลกใหม่และสวยงาม ซึ่งช่วยกระตุ้นการเติบโตของแบรนด์และความสำเร็จทางด้านการเงิน ผู้ชนะปีนี้ได้ทำให้เห็นว่าการปรับดีไซน์บรรจุภัณฑ์สามารถช่วยพลิกโฉมและยกระดับสิ่งที่แบรนด์ให้ความสำคัญมากที่สุดได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างไร บริษัทเหล่านี้ทำได้อย่างสมบูรณ์แบบและเราตื่นเต้นที่จะได้แสดงความสำเร็จอันยอดเยี่ยมของพวกเขา”

ผู้ชนะรางวัล Design Impact Award โดย NielsenIQ BASES ประจำปี 2565* มีดังนี้

  • L’usine Sliced Multigrain Bread (บริษัทแม่: Almarai; ประเทศ: ซาอุดิอาระเบีย)
  • Coors Light Beer (บริษัทแม่: Molson Coors Beverage Company; ดีไซน์เอเจนซี่: Soulsight; ประเทศ: สหรัฐอเมริกา)
  • Brooke's Oros Beverages (บริษัทแม่: Tiger Brands; ดีไซน์เอเจนซี่: Just Design; ประเทศ: แอฟริกาใต้)
  • Cadbury Old Gold Chocolate (บริษัทแม่: Mondelez International; ดีไซน์เอเจนซี่: Bulletproof; ประเทศ: ออสเตรเลีย)
  • Lucozade Energy Drink (บริษัทแม่: Suntory; ประเทศ: สหราชอาณาจักร)
  • Nescafé Artesano Coffee (บริษัทแม่: Nestlé; ประเทศ: โคลอมเบีย)
  • SSENSE Herbal Tea (บริษัทแม่: SSENSE; ดีไซน์เอเจนซี่: Pigeon; ประเทศ: แคนาดา)
  • Turin Chocolate (บริษัทแม่: Mars; ประเทศ: เม็กซิโก)
  • Speed Stick & Lady Speed Stick (บริษัทแม่: Colgate-Palmolive; ดีไซน์เอเจนซี่: Dragon Rouge BZ; ประเทศ: เม็กซิโก)
  • Lay's Potato Chips (บริษัทแม่: PepsiCo; ดีไซน์เอเจนซี่: PEP Global Design Team; ประเทศ: แอฟริกาใต้)

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันวิจัยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ รางวัล NielsenIQ BASES Design Impact Award และเรียนรู้จากผู้ชนะประจำปีนี้ได้ที่หน้าเว็บของ BASES Design Impact Award

*ชื่อผลิตภัณฑ์และชื่อบริษัททั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของชื่อนั้น ๆ ไม่มีข้อผูกพันหรือการอนุญาตทั้งในชัดแจ้งหรือโดยปริยาย

เกี่ยวกับ NielsenIQ

NielsenIQ คือบริษัทบริการด้านข้อมูลระดับโลก ผู้ส่งมอบการวัดด้านผู้บริโภคและการค้าปลีกที่มีมาตรฐานระดับชั้นนำ ผ่านความเข้าใจที่เข้าถึง สมบูรณ์ และนำไปดำเนินการต่อได้มากที่สุดของผู้บริโภคกลุ่ม omnichannel ทั่วโลกที่กำลังพัฒนาไปข้างหน้า NielsenIQ คือที่มาของความมั่นใจสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เรารับใช้ และผู้บุกเบิกที่กำหนดนิยามใหม่ให้กับการวัดด้านผู้บริโภคและการค้าปลีกแห่งศตวรรษถัดไป ข้อมูล ข้อมูลเชิงลึกที่เชื่อมโยงกัน และการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ของเราช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคและค้าปลีก โดยพาบริษัทเหล่านั้นเข้าถึงชุมชนที่พวกเขารับใช้มากขึ้น รวมถึงช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทเหล่านั้น

NielsenIQ เป็นบริษัทในเครือ Advent International มีการดำเนินงานในกว่า 90 ตลาด ครอบคลุมมากกว่า 90% ของประชากรโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ NielsenIQ.com

ติดต่อ:

สื่อ 
Gillian Mosher 
Gillian.Mosher@nielseniq.com 
647-282-9714

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย