Category Archives: Featured

Milrem Robotics จัดแสดง RCV ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ล้ำสมัยที่สุดในนิทรรศการ Defense & Security ในกรุงเทพ

Logo

กรุงเทพ–(BUSINESS WIRE)–6 พฤศจิกายน 2023

ในนิทรรศการ Defense & Security ที่กรุงเทพ Milrem Robotics ผู้พัฒนาหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติชั้นนำของยุโรป มีการจัดแสดงยานรบหุ่นยนต์ต่อสู้อัตโนมัติ (RCV) THeMIS ที่ล้ำสมัยที่สุด ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการสนับสนุนการต่อสู้และการรบในสนามรบ เช่น การอพยพผู้บาดเจ็บ การขนส่ง และ ISR และช่วยลดความต้องการกำลังคนในขณะเดียวกัน

The THeMIS Robotic combat vehicle with MIFIK can be utilized for a wide range of missions, including logistics  support, casualty evacuation, reconnaissance, and combat operations, making it an invaluable asset for modern armed forces. The vehicle can be found an stand number J17. (Photo: Business Wire)

ยานรบหุ่นยนต์ต่อสู้ THeMIS พร้อม MIFIK สามารถนำไปใช้ในภารกิจต่างๆ รวมถึงการสนับสนุนด้านการขนส่ง การอพยพผู้บาดเจ็บ การลาดตระเวน และการปฏิบัติการรบ ช่วยให้เป็นทรัพย์สินที่ประเมินค่าไม่ได้สำหรับทางกองทัพสมัยใหม่ ยานรบนี้สามารถพบได้ที่บูธหมายเลข J17 (Photo: Business Wire)

ตั้นแต่ปี 2019 เมื่อ THeMIS RCV เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย และต่อมาได้ผ่านการทดสอบโดยสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศและกองทัพบกไทย Milrem Robotics ได้รวบรวมความคิดเห็นของลูกค้าในการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ เพื่อให้สามารถใช้งาน RCV ในสนามรบแบบอัตโนมัติ

THeMIS RCV เปิดตัวในนิทรรศการ Defense & Security 2023 ได้รับการพัฒนาความสามารถด้านการใช้งานอัตโนมัติจากชุดฟังก์ชันอัจฉริยะของ Milrem Robotics หรือเรียกย่อว่า MIFIK โดยใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์และอัลกอริธึมการเรียนรู้ของเครื่องจักรที่ล้ำสมัย และช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนดการดำเนินงานของยานพาหนะให้ทำงานอัตโนมัติในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ช่วยลดความจำเป็นในการสั่งงานจากมนุษย์ลงได้เป็นอย่างมาก

ยานรบหุ่นยนต์พร้อม MIFIK สามารถนำไปใช้ในภารกิจต่างๆ รวมถึงการสนับสนุนด้านการขนส่ง การอพยพผู้บาดเจ็บ การลาดตระเวน และการปฏิบัติการรบ ช่วยให้เป็นทรัพย์สินที่ประเมินค่าไม่ได้สำหรับทางกองทัพสมัยใหม่ THeMIS RCV จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติการทางทหาร ในขณะเดียวกัน ก็จะลดความจำเป็นในการใช้กำลังคนจำนวนมากด้วยเช่นกัน ด้วยการทำงานตามปกติที่เป็นไปแบบอัตโนมัติและการเสริมขีดความสามารถในการสู้รบ

นอกจากนี้ ยังรวมถึงมาตรการด้านความปลอดภัยที่ได้รับการปรับปรุงโดยเซ็นเซอร์ขั้นสูง ระบบจดจำและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง และความสามารถในการสื่อสารแบบเรียลไทม์ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของยานพาหนะและบรรลุภารกิจให้สำเร็จ

ความมุ่งมั่นของ Milrem Robotics ในด้านนวัตกรรมและความเป็นเลิศส่งผลให้เกิดการพัฒนา RCV เพื่อเปลี่ยนแปลงการดำเนินการงานด้านการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยทั่วโลก เป้าหมายของเราคือ การเสริมกำลังกองทัพด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยซึ่งรับรองความปลอดภัยของบุคลากรและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินภารกิจ” Kuldar Väärsi, CEO ของ Milrem Robotics กล่าว

RCV ระบบอัตโนมัติขั้นสูงของเราแสดงถึงอนาคตของการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและการรักษาความปลอดภัย ด้วยระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้สามารถลดความต้องการกำลังคนลงได้ และเพิ่มขีดความสามารถของการปฏิบัติภารกิจ จึงทำให้สามารถช่วยให้ทางกองทัพสามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น” เขากล่าวเสริม

Milrem Robotics คือ ผู้พัฒนาและผู้วางระบบหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติชั้นนำของยุโรป มีสำนักงานในเอสโตเนีย ฟินแลนด์ สวีเดน เนเธอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา บริษัทมีชื่อเสียงในด้าน THeMIS และ Multiscope UGV รวมถึง Type-X Robotic Combat Vehicle และ MIFIK

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53715047/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
Gert Hankewitz
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและควบคุมการส่งออก
gert.hankewitz@milrem.com

แหล่งข้อมูล: Milrem Robotics

Powered by Business Wire

หกทศวรรษแห่งการอุทิศตน: Mary Kay เผยแพร่รายงานเชิงลึกเกี่ยวกับด้านที่สำคัญต่อความยั่งยืนอย่างมีนัยสำคัญ

Logo

รายงานพิเศษเกี่ยวกับความยั่งยืน ประจำปี 2023’ เน้นย้ำผลกระทบที่มีต่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจของ Global Beauty Brand ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา

DALLAS–(BUSINESS WIRE)–2 พฤศจิกายน 2023

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนระดับโลกด้านความยั่งยืนและการดูแลองค์กร เผยแพร่ “รายงานพิเศษเกี่ยวกับความยั่งยืน ประจำปี 2023” โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของแบรนด์ ในการยกระดับชีวิตของผู้หญิงและรับประกันอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีชองแบรนด์นี้ Mary Kay มีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความร่วมมือระดับโลกกับผู้ถือหุ้นหลัก และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนขององค์กรสหประชาชาติ เพื่อเสริมสร้างความก้าวหน้าในด้านที่สำคัญต่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ

Mary Kay details its unwavering commitment to enriching lives and ensuring a sustainable future for all in its latest report. (Asset Source: Mary Kay Inc.)

Mary Kay เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ในการยกระดับชีวิตของผู้หญิงและรับประกันอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคนในรายงานล่าสุด (แหล่งข้อมูล: Mary Kay Inc.)

“ความยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงคำคำหนึ่งสำหรับพวกเรา – แต่มีการสานต่อเป็นโครงสร้างที่สำคัญว่า เรามีจุดยืนอย่างไรในฐานะแบรนด์” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “ในขณะที่เราเฉลิมฉลองความสำเร็จของเราในปีนี้ เรายังคงมีความแน่วแน่ในภารกิจของเรา เรามุ่งมั่นที่จะมีความรับผิดชอบมากขึ้นในการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม เพื่อให้มั่นใจว่า Mary Kay ไม่เพียงเพิ่มพลังให้แก่ผู้หญิง แต่ยังมีการปกป้องบ้านที่เราอยู่ร่วมกันอีกด้วย”

ในโลกที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว Mary Kay เป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง โดยสนับสนุนพลังของผู้หญิง ในขณะเดียวกัน มีความตระหนักถึงการขับเคลื่อนที่ผู้หญิงมีส่วนสำคัญในการกำหนดเศรษฐกิจโลก และผลักดันการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญด้านความยั่งยืน รายงานประจำปี 2023 เน้นย้ำถึงโครงการริเริ่มทั่วโลกที่ขับเคลื่อนโดยผู้หญิง:

ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

  • ทรัพยากรพื้นฐานและมีค่า: น้ำ
  • พลังของผู้หญิงในการอนุรักษ์
  • แกนนำผู้หญิงในการฟื้นฟูมหาสมุทร

ความยั่งยืนทางสังคม

  • การพลิกโฉมหน้าวิทยาศาสตร์ระดับโลก
  • ปลดปล่อยศักยภาพผู้ประกอบการสตรีอย่างเต็มที่
  • ป้องกันอย่างทรงพลัง
  • เป็นผู้นำในการวิจัยโรคมะเร็งในสตรี

ความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ

  • ความหลากหลายและไม่แบ่งแยก: ผู้ขับเคลื่อนหลักในนวัตกรรมผลิตภัณฑ์
  • เพิ่มศักยภาพให้กับผู้ประกอบการสตรีกว่าล้านคนทั่วโลก
  • เป็นผู้บุกเบิกการวิจัยความเท่าเทียมทางเพศในอัลกอริทึมและปัญญาประดิษฐ์

รายงานเป็นไปตาม รายงานความยั่งยืนและผลกระทบทางสังคมประจำปี 2020-2022 ของ Mary Kay ซึ่งครอบคลุมเสาหลักสามประการของความยั่งยืน ได้แก่ เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay คลิก ที่นี่

เกี่ยวกับ Mary Kay

จากอดีต สู่ปัจจุบัน และตลอดไป Mary Kay Ash หนึ่งในผู้ก้าวข้ามกำแพงวัฒนธรรมดั้งเดิม และเป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์ความงามตามความฝันของเธอในเท็กซัส เมื่อปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียว นั่นคือ การทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทระดับโลกที่มีพนักงานขายอีสระหลายล้านคน ในกว่า 35 ประเทศ เป็นเวลากว่า 60 ปีแล้วที่การเปิดโอกาสของ Mary Kay ได้ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของผู้หญิงในการกำหนดอนาคตของตัวเองผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงาม และการผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อในการรักษาโลกของเราให้แก่คนรุ่นต่อไป ปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งและการละเมิดในครอบครัว และสนับสนุนให้เยาวชนได้ทำตามความฝันของพวกเขา สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราได้ที่ FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ที่ Twitter

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53711947/en

ติดต่อ

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

แหล่งข้อมูล: Mary Kay Inc.

Bolt.Earth และ Taizhou Chinv Science and Technology Development Co., Ltd กระชับความร่วมมือที่มีมายาวนาน เพื่อปฏิวัติระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า

Logo

ขับเคลื่อนอย่างชาญฉลาด เชื่อมต่อการขับขี่ อนาคตของระบบการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ากำลังจะเปิดเผย

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–2 พฤศจิกายน 2023

Bolt.Earth บริษัทในสิงคโปร์ที่เป็นผู้บุกเบิกตลาดระบบปฏิบัติการ EV ที่เชื่อมต่อกัน ได้กระชับความร่วมมือกับ Chinv ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านการออกแบบและผลิตรถจักรยานยนต์ EV 2 ล้อ พวกเขาตั้งเป้าที่จะกำหนดนิยามใหม่แห่งอนาคตของการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในงาน EICMA 2023 ที่ Fiera Milano-Rho Milan ในปีนี้ ร่วมเป็นสักขีพยานในการทำงานร่วมกันของความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบของ Chinv และหน่วยปฏิบัติการอันชาญฉลาดของ Bolt.Earth ซึ่งผสานความร่วมมือกันมานานหลายปีเพื่อสร้างประสบการณ์ EV ที่ไม่เคยมีมาก่อน

Driving Innovation: Bolt.Earth and Chinv Redefine the Future of Electric Mobility at EICMA 2023 (Graphic: Business Wire)

การขับเคลื่อนนวัตกรรม: Bolt.Earth และ Chinv กำหนดนิยามใหม่แห่งอนาคตของการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในงาน EICMA 2023 (รูปภาพ: Business Wire)

เนื่องจากความร่วมมือที่มีมาอย่างยาวนาน จึงคาดว่าการเปิดตัว Bolt.Earth Blaze ใหม่ที่งาน EICMA 2023 จะเป็นช่วงเวลาสำคัญของวงการรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก Bolt.Earth Blaze คือแพลตฟอร์มการชาร์จที่รวดเร็วที่ออกแบบมาเพื่อกำหนดกระบวนทัศน์การชาร์จ EV ใหม่ นวัตกรรมนี้ช่วยลดระยะเวลาการชาร์จลงอย่างมาก ทำให้การขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าสะดวกและเข้าถึงได้มากขึ้น

Jyotiranjan Harichandan ผู้ร่วมก่อตั้ง Bolt.Earth กล่าวว่า “การเดินทางของเรากับ Chinv ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง ความร่วมมือครั้งนี้สร้างขึ้นจากวิสัยทัศน์ร่วมกันและนวัตกรรมที่ไม่หยุดยั้ง ถือเป็นการกำหนดนิยามใหม่ของการขนส่งที่ยั่งยืน ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมของ Chinv ในการออกแบบและพัฒนาฮาร์ดแวร์ ผสมผสานกับการชาร์จและการทำงานของยานพาหนะของเรา กำลังวางรากฐานสำหรับอนาคต

การบรรจบกันของโซลูชันซอฟต์แวร์ขั้นสูงของ Bolt.Earth และความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบและพัฒนาฮาร์ดแวร์ของ Chinv แสดงให้เห็นถึงสัญญาณของช่วงการเปลี่ยนแปลงเพื่อการขนส่งที่ยั่งยืน การร่วมทุนครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้มั่นใจว่ารถยนต์เหล่านี้มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและมีความเหนือกว่าใครทางเทคโนโลยี

Ms. Xu Duo (Rita) ประธาน Chinv กล่าวว่า “การเป็นพันธมิตรของเรากับ Bolt.Earth แสดงให้เห็นถึงการก้าวไปสู่อีกระดับที่ชาญฉลาดและยั่งยืนยิ่งขึ้นอย่างกล้าหาญ ศักยภาพในการปฏิวัติวงการ EV นั้นยิ่งใหญ่ และเราพร้อมที่จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงนี้ด้วยกัน

เข้าร่วมกับเราที่ EICMA 2023 ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายนถึง 12 พฤศจิกายนที่ Fiera Milano-Rho Milan โดยที่ Bolt.Earth จะจัดแสดงข้อเสนอล่าสุดของพวกเขาที่บูธหมายเลข C-49 ในฮอลล์หมายเลข 14 ร่วมกับ Chinv พร้อมด้วยประสบการณ์เสมือนจริงที่น่าทึ่ง

เกี่ยวกับ Chinw

Chinv ก่อตั้งขึ้นในฮ่องกงเมื่อปี 2006 และดำเนินกิจการภายใต้แบรนด์ต่างๆ มากมาย รวมถึง “OKLA” สำหรับยานพาหนะไฟฟ้า, “Motrac” สำหรับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน, “O-Town” สำหรับเสื้อผ้า, “OKLATEC” สำหรับการวิจัยและพัฒนา และ “CHINV” สำหรับไฟและชิ้นส่วนไฟฟ้า เรากำหนดแนวทางการขับเคลื่อนของเราใหม่และกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับการคมนาคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก และมีเป้าหมายในการพัฒนาโซลูชันการขนส่งที่สะอาดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

OKLATEC มีประสบการณ์ด้านการวิจัยและพัฒนาในการออกแบบรถจักรยานยนต์มากกว่า 50 คัน (ตั้งแต่ ICE ไปจนถึง EV) สำหรับลูกค้าทั่วโลก จากการสำเร็จเป้าหมายที่สำคัญเหล่านี้ Chinv ประสบความสำเร็จในการสนับสนุนการเปิดตัวแบรนด์หลายแบรนด์ในระดับการบูรณาการที่หลากหลายทั้งด้านไฟฟ้าและเครื่องกล ครอบคลุมตั้งแต่รถจักรยานยนต์ EV ความเร็วต่ำไปจนถึงประสิทธิภาพสูง ด้วยเหตุนี้ Chinv จึงกลายเป็นโซลูชันแบบครบวงจรในห่วงโซ่อุปทานของรถจักรยานยนต์ EV

เกี่ยวกับ Bolt.Earth

Bolt.Earth มีภารกิจในการผลักดันตลาดเกิดใหม่ไปสู่การขับเคลื่อนที่สะอาดยิ่งขึ้น บริษัทใช้กลุ่มมาตรวัดความเร็วอัจฉริยะแบบฝังที่ล้ำสมัยซึ่งจะกำหนดประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าของคุณใหม่ กลุ่มมาตรวัดความเร็วและหน่วยแสดงผลของ Bolt.Earth ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบาย โดยใช้ระบบปฏิบัติการของ Bolt.Earth เพื่อนำเสนอเครื่องมือการจัดการยานพาหนะ ข้อมูลสำคัญ ข้อควรระวังในการป้องกันการโจรกรรม และตัวเลือกการปรับแต่งเพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่ชาญฉลาด เชื่อมต่อ และทันสมัย นอกจากนี้ Bolt.Earth ยังเปิดใช้งานเครือข่ายการชาร์จ EV แบบ peer-to-peer ที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย โดยมีจุดชาร์จมากกว่า 30,000 แห่งใน 1,100 เมือง พวกเขานำเสนอโซลูชันการชาร์จสำหรับบุคคล ธุรกิจ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ผู้ประกอบการยานพาหนะ และรัฐบาล หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชัน โปรดไปที่ bolt.earth

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53723980/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ติดต่อสำหรับสื่อMarketing@bolt.earth

ที่มา: Bolt.Earth

SYNTAGMA CAPITAL เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการ Aginode ซื่งเป็นบริษัทย่อยด้าน LAN/ศูนย์ข้อมูล (“LAN/DC”) และ โทรคมนาคม/ไฟเบอร์ (“FTTx”) ของ Nexans SA (Euronext Paris: NEX)

Logo

บรัสเซลส์–(BUSINESS WIRE)–2 พฤศจิกายน 2023

วันนี้ Syntagma Capital ประกาศว่าบริษัทได้เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการ Aginode (https://www.aginode.net) ที่มีชื่อเดิมว่า Nexans Telecom & Data

บริษัทให้บริการออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายโซลูชันการเชื่อมต่ออัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยีใยแก้วนำแสงและทองแดงไปยังศูนย์ข้อมูล อาคารอัจฉริยะ และผู้ให้บริการโทรคมนาคม โดยได้เปลี่ยนชื่อเป็น Aginode เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ในปี 2022 บริษัททำรายได้ได้ประมาณ 200 ล้านยูโรในกว่า 100 ประเทศ เนื่องจากมีโรงงานอุตสาหกรรม 8 แห่งในฝรั่งเศส เบลเยียม เยอรมนี กรีซ โมร็อกโก และจีน และมีพนักงานประมาณ 680 คนทั่วโลก

“Syntagma มีความยินดีที่จะประกาศในวันนี้ว่าได้เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการ Aginode ซึ่งถือเป็นบริษัทแห่งที่สองในพอร์ตโฟลิโอของกองทุน ตลาดควบรวมกิจการ (M&A) ยังคงท้าทาย และความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเราในการก้าวผ่านช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน และยังคงจัดหาโซลูชันการถอนทุนที่รวดเร็วและแน่นอน รวมถึงคัดเลือกการจัดสรรเงินทุนของเราอย่างพิถีพิถันในขณะเดียวกัน” Sebastien Kiekert Le Moult หุ้นส่วนผู้จัดการของ Syntagma กล่าว

“เรารู้สึกตื่นเต้นกับศักยภาพของ Aginode และหวังว่าจะได้ร่วมมือกับฝ่ายบริหารเพื่อขับเคลื่อนบริษัทไปสู่ความสำเร็จใหม่ๆ ในอนาคต” Frank Coenen หุ้นส่วนของ Syntagma กล่าว

ทีมงานของ Syntagma ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ ได้แก่ Sebastien Kiekert Le Moult (หุ้นส่วนผู้จัดการ), Frank Coenen (หุ้นส่วน), Benjamin Dahan (หุ้นส่วน), João Pilecco (รองประธานอาวุโส), Ludovic Ruffenach (ผู้ร่วมงานอาวุโส) และ Alicia Azéma (นักวิเคราะห์อาวุโส)

Syntagma ได้รับคำแนะนำโดย Willkie Farr Gallagher (Hugo Nocerino, Ji-Soo Kim, Rudy Merlet, Faustine Viala, Charles Bodreau, Charles-Antoine Erignac, Jordan Pontal), PwC Transaction (Eric Douheret, Clément Meudec, François-Xavier Bornet, Edouard Bitton ), PwC Tax and Legal (Anne-Valerie Attias-Assouline, Mathieu Norest, Morgane Croisier, Aurélie Cluzel-d'Andlau, Claire Pascal Oury), Roland Berger (Victor Marcais, Yaroslav Stetsenko) และ ERM (Maryelle Ouvrard, ChinChin Lim)

เกี่ยวกับ Syntagma Capital
Syntagma ลงทุนในบริษัทต่าง ๆ ที่สามารถได้รับประโยชน์จากความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติงานจริง เพื่อเร่งการเติบโตและปรับปรุงประสิทธิภาพสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด เราเป็นผู้ปฏิบัติงานจริงที่มีประสบการณ์ในการทำงานและจัดการบริษัทต่าง ๆ ในระดับโลก โดยใช้ประโยชน์จากทรัพยากรภายในองค์กรของเราเพื่อพัฒนากลยุทธ์ให้ประสบความสำเร็จ ดำเนินการเพื่อให้บรรลุศักยภาพสูงสุดและสร้างมูลค่าระยะยาวที่ยั่งยืน Syntagma ลงทุนและดำเนินการบริษัทต่าง ๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรมโดยเน้นเฉพาะตลาดวัสดุ เคมี อุตสาหกรรมและธุรกิจบริการ รวมถึงการผลิต การกระจายสินค้า การขนส่งและโลจิสติกส์ การเช่าอุปกรณ์ บริการโลหะ และอุตสาหกรรมอื่น ๆ Syntagma ซึ่งเป็นผู้ลงนามใน UN PRI มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามมาตรฐาน ESG ระดับสูงในการลงทุนทั้งหมดของบริษัท และตั้งอยู่ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่: https://syntagmacapital.com

ติดต่อ

Marie Ciparisse
+32 (0)2 315 70 12
mciparisse@syntagmacapital.com

แหล่งข้อมูล: Syntagma Capital

Powered by Business Wire

Resolian เข้าซื้อกิจการ Denali Medpharma บริษัทให้บริการวิจัยทางคลินิก (CRO) ด้านการวิเคราะห์ทางชีวภาพในจีน

Logo

MALVERN, Pa. & CHONGQING, จีน–(BUSINESS WIRE)–1 พฤศจิกายน 2023

Resolian บริษัทให้บริการวิจัยทางคลินิก (CRO) ด้านการวิเคราะห์ทางชีวภาพระดับโลกที่เชี่ยวชาญการเมแทบอลิซึมของยาและเภสัชจลนศาสตร์สำหรับโมเลกุลขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ได้เข้าซื้อกิจการ Denali Medpharma ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการวิจัยทางคลินิก (CRO) ด้านการวิเคราะห์ทางชีวภาพชั้นนำของจีน ขณะนี้ Resolian จึงมีห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ทางชีวภาพในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และจีน บริษัทสามารถริเริ่มโครงการใน 4 ทวีป และถ่ายโอนวิธีการที่ผ่านการตรวจสอบแล้วไปยังห้องปฏิบัติการต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้การทดลองรักษาโรคสามารถขยายไปยังปลายทางทั้งหมด โดยไม่ต้องเปลี่ยนบริษัทให้บริการวิจัยทางคลินิก (CRO) ด้านการวิเคราะห์ทางชีวภาพ

“กลยุทธ์ของ Denali ที่เพิ่มเข้ามาจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของเราอย่างมีนัยสำคัญและเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งของเราในตลาดโลก” Patrick Bennett ซีอีโอของ Resolian กล่าว “ผู้ก่อตั้งและทีมนักวิทยาศาสตร์หลักของ Denali ได้รับการยอมรับในระดับสากลในด้านการวิจัยทางเภสัชกรรมและการวิเคราะห์การพัฒนา และเรารู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษที่จะได้นำความเชี่ยวชาญด้านโอลิโก, mRNA และไลโปโซมของ Denali มาพัฒนาผลงานบริการของ Resolian เราหวังว่าจะใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของบริษัทที่กำลังเติบโตของเราเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนให้กับลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเราต่อไปได้”

“ทีม Denali รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับ Resolian” ดร. Min Meng ซีอีโอของ Denali กล่าว “Denali ก่อตั้งขึ้นในจีนโดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ทางชีวภาพที่ได้รับการฝึกอบรมจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งบริษัทมีห้องปฏิบัติการอันล้ำสมัย เพื่อให้บริการที่เป็นเลิศแก่ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ เราตั้งตารอที่จะสานต่อประวัติผลงานนี้ และนำเสนอขีดความสามารถและความยืดหยุ่นในการวิจัยที่เหนือชั้นยิ่งขึ้นในฐานะส่วนหนึ่งของ Resolian”

เกี่ยวกับ Resolian

Resolian (เดิมทีมีชื่อว่า Alliance Pharma Inc. และ Drug Development Solutions Ltd.) เป็นบริษัทที่ให้บริการปฏิบัติการวิจัยชั้นนำระดับโลกด้าน GxP และการวิเคราะห์ทางชีวภาพแบบไม่ควบคุม การเมแทบอลิซึมของยา/เภสัชจลนศาสตร์ (DMPK) และการวิเคราะห์ GMP CMC และวัสดุศาสตร์โดยเฉพาะ บริษัทมีผู้เชี่ยวชาญกว่า 500 รายทั่วสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร จีน และออสเตรเลีย ช่วยให้รับรองผลลัพธ์ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสูงสุดในการปฏิบัติตามกฎระเบียบตลอดกระบวนการพัฒนายา ห้องปฏิบัติการเฉพาะของ Resolian มีการติดตั้งเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ตอบสนองความต้องการของโครงการขั้นก่อนการวิจัยและการวิจัยทางคลินิกทุกขนาด

เกี่ยวกับ Denali Medpharma

Denali เป็นบริษัทผู้ให้บริการวิจัยทางคลินิก (CRO) ด้านการวิเคราะห์ทางชีวภาพที่ตั้งอยู่ในจีน ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ Resolian Bioanalytics บริษัทมีพนักงานประจำ 70 คน โดยทีมผู้บริหารหลักมีประสบการณ์การทำงานอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรม CRO ของสหรัฐอเมริกาและจีน และมีเครื่องมือที่ทันสมัยที่สุดในโลก ระบบประกันคุณภาพของ Denali ได้รับการจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ทางชีวภาพในประเทศและต่างประเทศอย่างเคร่งครัด Denali มีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นผู้นำอุตสาหกรรมในด้านการวิเคราะห์ทางชีวภาพของยาโอลิโกนิวคลีโอไทด์และวัคซีน mRNA (PK/PD และ ADA), ยาไลโปโซม (ยาในรูปอิสระและเอนแคปซูเลชัน), การตรวจวิเคราะห์ที่มีความไวสูงเป็นพิเศษสำหรับยาสูดดม และการตรวจตัวชี้วัดทางชีวภาพ เป็นต้น

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20231101490232/en/

ติดต่อ

Lindsey Langemeier
ฝ่ายการตลาด SCORR
+1 402-405-4269
lindsey@scorrmarketing.com

แหล่งข้อมูล: Resolian

เริ่มจำหน่ายวัสดุสแตนเลสสำหรับเข็มฉีดยาไปยังยุโรปและจีน มีคุณสมบัติเป็นไปตามกฎระเบียบองค์ประกอบโคบอลต์ของกฎระเบียบด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์แห่งยุโรป

Logo

NK-304LCO” เกรดเหล็กดั้งเดิมของ NIPPON KINZOKU

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–1 พฤศจิกายน 2023

NIPPON KINZOKU CO., LTD (โตเกียว: 5491) (สำนักงานใหญ่: เขตมินาโตะ โตเกียว) จำหน่ายสแตนเลส “NK-304LCO” สำหรับเข็มฉีดยาในเดือนพฤศจิกายน 2020 ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นไปตามกฎระเบียบองค์ประกอบโคบอลต์ของกฎระเบียบด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์แห่งยุโรป (MDR) ที่มีผลบังคับใช้ในเดือนพฤษภาคม 2021 และจะเปลี่ยนแปลงโดยสมบูรณ์ในวันที่ 31 ธันวาคม 2028
บริษัทต้องการประกาศให้ทราบว่าขณะนี้เรากำลังดำเนินการขยายการจำหน่ายไปยังตลาดต่างประเทศ

Stability of the welded part of the bare tube and cutting surface of the material, which will not rupture even when thinly drawn: The ratio between the fractured and sheared surfaces is agreed to facilitate welding by medical device manufacturers. The same end-face properties are supplied for the entire coil length (0.2 mm: approx. 4,000 M). (Graphic: Business Wire)

ความทนทานของส่วนท่อเปลือยที่เชื่อมติดกันและพื้นผิวหน้าตัดของวัสดุที่จะไม่แตกร้าวแม้ว่าจะยืดออกมาจนบาง ผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์เห็นตรงกันว่าสัดส่วนระหว่างพื้นผิวที่แตกหักและพื้นผิวที่ถูกตัดทำให้เชื่อมได้ง่ายขึ้น พื้นผิวด้านปลายของความยาวขดลวดทั้งหมดมีคุณสมบัติเดียวกัน (0.2 มม.: ประมาณ 4,000 ม.) (ภาพ: Business Wire)

MDR เป็นกฎระเบียบด้านการทำการตลาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ในยุโรป และเป็นระบบการอนุมัติที่เข้มงวดกว่ากฎระเบียบเครื่องมือแพทย์ (MDD) ปัจจุบัน MDR ระบุกฎระเบียบว่าด้วยการจำแนกประเภท การติดฉลาก และการบรรจุสารและสารผสม (CLP) ให้กำหนดปริมาณส่วนประกอบโคบอลต์ (Co) ที่มีอยู่ในสแตนเลสเป็นสารก่อมะเร็งว่าต้องมีปริมาณน้อยกว่า 0.1%

สแตนเลส NK-304NKM ทั่วไปสำหรับเข็มฉีดยาเป็นสแตนเลสที่ปรับให้เข้ากับปริมาณตามที่กฏระเบียบควบคุมได้ยาก แต่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เราจึงได้ออกแบบโลหะผสม (การปรับองค์ประกอบ) อันเป็นผลมาจากการหารือกับผู้ผลิตวัตถุดิบจนทำให้เราสามารถจัดหาวัสดุได้สำเร็จ

ปัจจุบัน เราได้เริ่มจำหน่ายวัสดุที่ควบคุมด้วยโคบอลต์ในปริมาณที่เทียบเท่าประมาณ 3% ให้กับลูกค้าที่ใช้สแตนเลสของเราสำหรับเข็มฉีดยา การเปลี่ยนแปลงตาม MDR โดยสมบูรณ์ถูกเลื่อนออกไปจากเดิมเดือนพฤษภาคม 2024 เป็นเดือนธันวาคม 2028 ขณะนี้ปริมาณการจำหน่ายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากแนวทางด้านกฎระเบียบของผู้ผลิตทางการแพทย์แต่ละราย แต่มีการสอบถามจากตลาดยุโรปและจีนเพิ่มมากขึ้น และได้เริ่มจัดส่งตัวอย่างแล้ว

ปัจจุบันมีการใช้งาน NK-304NKM ทั่วโลกและได้รับเลือกให้เป็นวัสดุที่เลือกใช้สำหรับเข็มอินซูลินประเภท “เส้นผ่านศูนย์กลางบาง” เช่น “เข็มที่ฉีดแล้วไม่เจ็บ” และเข็มสำหรับการใช้งานด้านความงาม ส่วนแบ่งยอดขาย (*1) ของวัสดุสำหรับเข็มฉีดยาของเราอยู่ที่ประมาณ 49% ในญี่ปุ่นและ 59% ในต่างประเทศ (*2) โดยมีส่วนแบ่งเฉลี่ยประมาณ 55% และคุณภาพที่เหนือกว่าใครของเราได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในตลาดเข็มฉีดยา นอกจากการมีส่วนแบ่งการตลาดที่สูงแล้ว ยังมีการคาดว่ายอดขายในตลาดจีนและอินเดียจะขยายตัวขึ้นในอนาคต เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น

*1: บริษัทในประเทศและต่างประเทศ 32 แห่ง ที่เราสำรวจในเดือนตุลาคม 2023
*2: ประเทศหลักๆ ในต่างประเทศ ได้แก่ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกาหลีใต้ จีน อินเดีย และสหภาพยุโรป

คุณสมบัติของ NK-304LCO

ความสามารถในการแปรรูปโดยไม่แตกร้าวแม้ในอัตราการยืดที่สูง

เข็มฉีดยาผลิตขึ้นโดยการเชื่อมขอบของวัสดุแล้วยืดท่อดิบให้เป็นท่อบางๆ ตัวอย่างเช่น เข็มอินซูลินเป็นการยืดท่อดิบที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4.0 มม. และความหนาของผนัง 0.2 มม. จากนั้นให้ความร้อนและยืดหลายครั้งตามลำดับ จนมีเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก 0.18 มม. และความหนาของผนัง 0.05 มม. “ความสามารถในการแปรรูปโดยไม่แตกร้าวแม้ในขณะที่ใช้อัตราการยืดสูง” และ “ความทนทานของส่วนท่อเปลือยที่เชื่อมติดกันที่ไม่แตกหักแม้ว่าจะยืดออกมาจนบาง” นั้นจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในกระบวนการนี้

คลิกที่นี่เพื่อดูข้อความฉบับเต็ม
https://www.nipponkinzoku.co.jp/images/2023/10/91820e9f51d3ddb70d9857d1cacfef53-1.pdf

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53693368/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ฝ่ายพัฒนาการขาย
NIPPON KINZOKU CO., LTD.
อีเมล: nikkin-overseas@nipponkinzoku.co.jp
https://www.nipponkinzoku.co.jp/en/inquiry

แหล่งข้อมูล: NIPPON KINZOKU CO., LTD.

Simon Thailand ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่ที่กรุงเทพ ประเทศไทย

Logo

BANGKOK–(BUSINESS WIRE)–31 ตุลาคม 2023

Simon Thailand กลุ่มอุตสาหกรรมที่เชี่ยวชาญด้านโซลูชันเทคโนโลยีสำหรับระบบแสงสว่าง ระบบควบคุมแสงสวาง การเชื่อมต่อและอุปกรณ์ไฟฟ้ เฉลิมฉลองการเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่ที่กรุงเทพ เมื่อวันที่ 26 เดือนตุลาคม ปี 2023

  Mr. Sergio Vives ประธาน Simon Group และ Mr. Esteban Bretcha, CEO ของ Simon Group ต่างกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของแบรนด์และคุณค่าองค์กรของ Simon และอวยพรให้แก่อนาคตที่สดใสสำหรับพันธมิตรผู้ค้าปลีกในประเทศไทย พร้อมกับสมาชิกคณะกรรมการ Mr Nicolás de Trincheria, Mr Ricard Aubert และ Mr Rafel Serra รวมถึง Mr. Jack Zhu ประธานบริษัท Simon Asia Pacific ได้เข้าร่วมในพิธีเปิดด้วยเช่นกัน พร้อมกันนั้น Mr. Derek Dai ผู้อำนวยการ Simon Asia-Pacific และผู้จัดการMs Shanshan Weiตัวแทนจำหน่ายช่องทางร้านค้าปลีกของSimon Thailand ได้ร่วมแบ่งปันกลยุทธ์ทางการตลาดและการส่งเสริมการขาย Simon group เป็นคณะกรรมการรับรอง Certifiedให้กับบริษัท วินเทอร์สวีท จำกัดอย่างเป็นทางการในฐานะผู้จัดจำหน่ายช่องทางค้าปลีกและมีการมอบรางวัลให้แก่ผู้ค้าปลีก 7 รายสำหรับผลงานในปี 2023 ด้วยเช่นกัน

ในขณะเดียวกัน มีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์หลักต่างๆ เช่น สวิตช์และเต้ารับ โซลูชันระบบแสงสว่างและโซลูชันบ้านอัจฉริยะ เพื่อให้ลูกค้ามีความเข้าใจเกี่ยวกับ Simon อย่างละเอียดมากขึ้น และเพื่อสร้างเสริมความมั่นใจในการร่วมมือกับ Simon มีการประชุมโดยรวมตัวแทนจำหน่าย มากก่วา200 รายจากทั่วประเทศซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม และได้รับคำสั่งซื้อใหม่เป็นจำนวนมากภายในงาน

นี่เป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Simon ในประเทศไทย แผนการในอนาคตของ Simon Group ในประเทศไทยจะมุ่งเน้นไปที่การขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการที่มีการเปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคในประเทศไทย บริษัทยังคงเปิดรับความร่วมมือในรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลาย และพร้อมในการลงทุนตามความจำเป็น เพื่อสนับสนุนพันธมิตรและใช้ประโยชน์จากโอกาสทางธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่เสมอ

เกี่ยวกับ SIMON

Simon Electric ก่อตั้งขึ้นในปี 1916 และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน โดยเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่เชี่ยวชาญด้านโซลูชันเทคโนโลยีสำหรับระบบแสงสว่าง ระบบควบคุมแสงสวาง การเชื่อมต่อและอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับสัญญาโครงการ (ระบบค้าปลีก โรงแรม สถานที่ทำงาน) และโครงการที่อยู่อาศัย Simon คงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการออกแบบและนวัตกรรมในทุกสาขา จึงทำให้ได้รับ National Design Award จากกระทรวงเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และความสามารถในการแข่งขันในโอกาสครบรอบ 100 ปี บริษัทมีการดำเนินงานในกว่า 120 ประเทศ ทีมงาน Simon Group ประกอบด้วยบุคลากรกว่า 4,000 คนทั่วโลก โดยมีโรงงานอยู่ใน 15 ประเทศ โดย 10 แห่งในนั้นเป็นศูนย์การผลิต

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

info@simon-apac.com

แหล่งข้อมูล: Simon Electric

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53712665/en

Wemade อัปเดตระบบการพัฒนาทักษะตัวละครใหม่ “ลูกแก้ววิญญาณปีศาจ” สำหรับเกม MIR4

Logo

  • ไอเท็มที่เพิ่มค่าสเตตัสตัวละครและทักษะการต่อสู้ สามารถใช้ได้สูงสุด 5 ชิ้นตั้งแต่ตัวละครเลเวล 123
  • ค่าสเตตัสเพิ่มเติมสำหรับการไปถึงลูกแก้ววิญญาณปีศาจเลเวล 3, 6 และ 9 และทักษะเฉพาะสำหรับการไปถึงเลเวลสูงสุดเลเวล 12
  • จัดกิจกรรมที่สามารถแลกลูกอมฟักทองจากการล่าเป็นกล่องของขวัญยินดีจากมังกรทอง

โซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE )–31 ตุลาคม 2023

Wemade ได้อัปเดตเนื้อหาการพัฒนาทักษะตัวละครใหม่ “ลูกแก้ววิญญาณปีศาจ” สำหรับเกม MMORPG MIR4 ที่โด่งดังเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม

Wemade updated new growth content Magical Soul Orb for its blockbuster MMORPG MIR4. Magical Soul Orbs are items that increase character stats and combat skills. (Graphic: Wemade)

Wemade อัปเดตเนื้อหาการพัฒนาทักษะตัวละครใหม่ “ลูกแก้ววิญญาณปีศาจ” สำหรับเกม MMORPG MIR4 ที่โด่งดัง ลูกแก้ววิญญาณปีศาจเป็นไอเท็มที่เพิ่มค่าสเตตัสตัวละครและทักษะการต่อสู้ (รูปภาพ: Wemade)

ลูกแก้ววิญญาณปีศาจเป็นไอเท็มที่เพิ่มค่าสเตตัสตัวละครและทักษะการต่อสู้ สามารถใช้ลูกแก้ววิญญาณปีศาจได้สูงสุด 5 ชิ้นตามลำดับเมื่อตัวละครมีเลเวลถึง 123, 133, 143, 153 และ 163

ผู้ใช้สามารถใช้วัตถุพัฒนาทักษะตัวละครพิเศษหรือหินวิญญาณอีปิค และลูกแก้ววิญญาณปีศาจอีปิคเพื่อเพิ่มเลเวลของลูกแก้ววิญญาณปีศาจ เมื่อถึงลูกแก้ววิญญาณปีศาจเลเวล 3, 6 และ 9 จะได้รับค่าสเตตัสแบบสุ่ม เช่น การป้องกันกายภาพและการเพิ่มความเสียหายจากการโจมตี ผู้ใช้ยังสามารถเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้เป็นค่าสเตตัสที่ต้องการได้ด้วย “ม้วนคาถาระบุคุณสมบัติลูกแก้ววิญญาณปีศาจ” และทรัพยากร เมื่อถึงเลเวลสูงสุดที่ 12 ทักษะลูกแก้ววิญญาณปีศาจที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น การโจมตีทางกายภาพ และการฟื้นฟู MP จะถูกนำไปใช้

กิจกรรม “ร้านค้าแลกเปลี่ยนลูกอมฟักทองของตาแก่ฮัน” จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคมถึง 13 พฤศจิกายน ผู้ใช้จะสามารถนำไอเท็ม “ลูกอมฟักทอง” ที่ได้รับจากการล่ามอนสเตอร์ไปยัง NPC ตาแก่ฮันขนหัวลุก เพื่อแลกเป็น “ศิลาเสริมพลังแห่งมังกรศักดิ์สิทธิ์ตำนาน” และ “กล่องของขวัญยินดีจากมังกรทอง” ที่มีตั๋วอัญเชิญต่างๆ กิจกรรม “เช็คชื่อ 7 วันของตาแก่ฮัน” ที่จัดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันจะแจกไอเท็มต่างๆ เช่น “กล่องวัตถุดิบเลื่อนขั้นตำนาน”

นอกจากนี้ “ร้านค้าเหรียญโบราณกิจกรรม” จะเปิดให้บริการจนถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน ผู้ใช้สามารถซื้อไอเท็มต่างๆ เช่น “รูปปั้นมังกรฟ้าตำนาน” และ “กล่องเสริมสภาวะร่างกายตำนาน” โดยใช้เหรียญโบราณที่ได้รับจากประตูมิติ และเรด

จากการต่อสู้ของฉันสู่สงครามของเรา! ดูรายละเอียดเกี่ยวกับ MIR4 ได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53712534/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Wemade Co., Ltd. (112040: KOSDAQ)
Jennifer Jung ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
jennifer@wemade.com

ที่มา: Wemade Co., Ltd.

itel เตรียมเปิดตัว itel A70 เพื่อรุดหน้าเข้าสู่ตลาดสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น

Logo

เซินเจิ้น, จีน–(BUSINESS WIRE)–30 ตุลาคม 2023

Itel ซึ่งเป็นแบรนด์อุปกรณ์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่เชื่อถือได้ ภาคภูมิใจที่จะประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟน itel A70 ที่หลายคนรอคอย อุปกรณ์อันล้ำสมัยนี้กำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น โดยผสมผสานความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอันน่าทึ่งเข้ากับประสิทธิภาพสูง เพื่อรองรับผู้ใช้ในตลาดเกิดใหม่โดยเฉพาะ

itel Geared to Rattle Entry-level Markets by Launching Revolutionizing Smartphone itel A70 (Graphic: Business Wire)

itel เตรียมเปิดตัว itel A70 เพื่อรุดหน้าเข้าสู่ตลาดสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น (รูปภาพ: Business Wire)

itel A70 มาพร้อมฟีเจอร์ที่น่าประทับใจมากมาย ครั้งนี้ถือเป็นอีกครั้งหนึ่งของ itel ที่สามารถทำตามความมุ่งมั่นของแบรนด์เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้แก่ทุกคน โดยมุ่งเน้นราคาที่เข้าถึงได้ ประสิทธิภาพสูง และประสบการณ์ผู้ใช้ที่ยอดเยี่ยมเป็นหลัก

หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นนั้นได้แก่พื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ถึง 256GB ROM ที่สามารถจัดเก็บภาพถ่ายได้มากถึง 40,000 ภาพ อีกทั้งยังมาพร้อม Extended RAM ที่เพิ่มขึ้นสูงถึง 4+8GB ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของโทรศัพท์ ลดเวลาเรียกใช้งานแอปลงถึง 60% และทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

คุณสมบัติเด่นอีกประการของรุ่นใหม่นี้คือหน้าจอขนาดใหญ่ HD+ ขนาด 6.6 นิ้วที่คมชัดเป็นพิเศษมาพร้อมเทคโนโลยี Dynamic Bar ให้การแสดงภาพขนาดใหญ่ที่สมจริงด้วยอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 90% นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นได้อย่างรวดเร็ว เช่น สถานะแบตเตอรี่ สายเรียกเข้า และสถานะการปลดล็อค โดยไม่ต้องเปิดแอป ช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้สมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น

สำหรับผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพ itel A70 มีกล้อง Super HDR ที่มีความละเอียด 13MP ที่สามารถจับภาพช่วงเวลาต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ในที่ย้อนแสง การระบุฉากแบบมัลติอัตโนมัติของกล้องช่วยเพิ่มการลดไฮไลท์ ส่งผลให้ได้ภาพถ่ายย้อนแสงที่คมชัดและสดใสยิ่งขึ้น กล้องเซลฟี่ AI Portrait ความละเอียด 8MP พร้อมไฟฉายด้านหน้าแบบนุ่มนวลและ AI Beauty ยังช่วยให้ถ่ายภาพเซลฟี่ออกมาได้สวยน่าทึ่งทุกภาพด้วย

Itel A70 ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh และการเชื่อมต่อ Type-C ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ Octa Core ขั้นสูง ทำให้สามารถนำทางผ่านแอปต่างๆ ได้อย่างลื่นไหลสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน อุปกรณ์นี้ทำงานบนระบบ OS 13 ใหม่ ที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Smart Link+ ช่วยลดความหน่วงลง 20% เพิ่มความเสถียรของสัญญาณและการซ่อมแซมเครือข่ายอัตโนมัติในพื้นที่ที่มีการเชื่อมต่อไม่ดี

แนวทางการผลิตอิสระของ itel ช่วยลดต้นทุนการผลิต การจัดหา และการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะลงอย่างมาก ผลประโยชน์ด้านต้นทุนเหล่านี้ทำให้ itel A70 สามารถมอบประสบการณ์สมาร์ทโฟนที่ยอดเยี่ยมให้แก่ผู้บริโภคได้ในราคาพื้นฐาน นี่ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความทุ่มเทของ itel ในการสร้างเทคโนโลยีขั้นสูงที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้

โปรดคอยติดตามการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ itel A70 ซึ่งจะมีการเปิดเผยข้อมูลจำเพาะและรายละเอียดราคาทั้งหมด

https://www.itel-life.com/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53702036/en

รายชื่อติดต่อ

Willa Cai
Marketing@itel-mobile.com

ที่มา: itel

1337 ผงาดพร้อมเงิน 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการสร้างระบบนิเวศของอินฟลูเอนเซอร์รายย่อยที่ขับเคลื่อนด้วย AI

Logo

การระดมทุนจากนักลงทุนอิสระ (Angel Investor) ที่เกี่ยวข้องกับ LVMH และ Hugging Face ทำให้ 1337 ตั้งเป้าที่จะคิดค้นวิธีที่ผู้คนมีส่วนร่วมกับ AI เพื่อประโยชน์ที่ดี

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–26 ตุลาคม 2023

1337 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Generative AI ที่มุ่งมั่นที่จะเชื่อมโยงชุมชนเฉพาะกลุ่มผ่านความสนใจเฉพาะบุคคล ได้ปรากฏตัวในวันนี้พร้อมประกาศการระดมทุนรอบ Pre-Seed มูลค่า 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีทั้งนักลงทุน อันได้แก่ Credo Ventures, GFR Fund, Treble Capital, Roosh Ventures และบุคคลทั่วไป รวมถึง Clément Delangue ผู้เป็น CEO ของ Hugging Face และ Natalia Vodianova นักลงทุนด้านผลกระทบ

(Photo: Business Wire)

(Photo: Business Wire)

บริษัท 1337 ที่ออกเสียงได้ว่า “Leet” (เป็นการยกย่องถึงวัฒนธรรมการเล่นเกมในยุคแรก ๆ และวัฒนธรรมของแฮ็กเกอร์) ยังได้เปิดตัวระบบนิเวศของอินฟลูเอนเซอร์รายย่อยที่ขับเคลื่อนด้วย AI หรือที่เรียกว่า “Entities” แต่ละเอนทิตีมีทักษะและความสนใจเฉพาะตัว และมีเป้าหมายที่จะเชื่อมต่อ ให้ความรู้ รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจให้กับชุมชนเฉพาะกลุ่มทางออนไลน์ ปัจจุบัน 1337 กำลังเปิดตัวเอนทิตีใหม่ 50 รายการในเวอร์ชันเบต้า และชุมชนครีเอเตอร์ทั่วโลกสำหรับการร่วมสร้างเอนทิตีในอนาคต

1337 วางแผนที่จะใช้เงินทุนใหม่นี้เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มที่มีความสามารถในการปรับขนาด ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการขยายระบบนิเวศเอนทิตีไปยังชุมชนเฉพาะหลายพันกลุ่มในอนาคตอันใกล้นี้ พร้อมกับขยายชุมชนครีเอเตอร์ทั่วโลกในขณะเดียวกันด้วย

การระดมทุนของ 1337 เกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งการเติบโตอย่างเต็มที่และช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้นสำหรับเศรษฐกิจมนุษย์แบบดิจิทัล ซึ่ง Gartner คาดการณ์ว่าจะพัฒนาไปสู่ตลาดที่มีมูลค่า 125 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2035

“ชุมชนเฉพาะกลุ่มเป็นตัวแทนของผู้ชมจำนวนมากทางออนไลน์” Jenny Dearing ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ 1337 กล่าว  “1337 กำลังสร้างวิธีการใหม่สำหรับสมาชิกชุมชนที่มีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งเหล่านี้ในการทำงานร่วมกันและมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน ด้วยการเพิ่มโมเดลภาษาขนาดใหญ่หลายรูปแบบ  เรามองว่าเอนทิตีที่เรากำลังสร้างเป็นแนวทาง เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อกันที่มากขึ้นระหว่างผู้คนและชุมชน และระหว่างชุมชนและแบรนด์โดยตรงในท้ายที่สุด”

ทีมผู้นำ 1337 ประกอบด้วย Jenny Dearing, Robin Raszka, Jan Maly และที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ รวมถึง Bailey Richardson อดีตหัวหน้าฝ่ายชุมชนของ Instagram ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำทั้งฝ่ายการตลาดและชุมชนที่ Substack

Robin Raszka ผู้ก่อตั้ง 1337 ก่อนหน้านี้ได้ก่อตั้ง Alter ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้าน AI สำหรับผู้บริโภคที่เขาสร้างขึ้นในปี 2017 ด้วยเงินลงทุน 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และขายให้กับ Google ในปี 2022 ในราคา 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ก่อนที่จะมี Alter เขาเป็นนักออกแบบผลิตภัณฑ์ของบริษัทสตาร์ทอัพ AI Summly ซึ่ง Yahoo เข้าซื้อกิจการด้วยมูลค่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2013

“ในอนาคตของโซเชียลมีเดีย เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงไปสู่การปรับเปลี่ยนในแบบเฉพาะบุคคลขั้นสูง และการสร้างเนื้อหาสังเคราะห์ร่วมกัน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากหลักการโอเพ่นซอร์ส โดยจำลองชีพจรดิจิทัลของเอนทิตี AI เหล่านี้ด้วยจิตวิญญาณของมนุษย์  เอนทิตี 1337 กำลังบุกเบิกการเปลี่ยนแปลงนี้” Robin Raszka ผู้ก่อตั้ง 1337 กล่าว  “เรากำลังคิดค้นวิธีที่ผู้คนมีส่วนร่วมกับ AI ครีเอเตอร์ และแบรนด์เพื่อประโยชน์ที่ดี”

ด้วยเงินทุนใหม่นี้ 1337 กำลังกระตุ้นให้เกิดการสร้างชุมชนออนไลน์ที่มีชีวิตชีวามากขึ้นเพื่อช่วยสร้างอนาคตที่ทุกคนจะได้รับการยกย่องและการสนับสนุน

“ปัจจุบันแอปพลิเคชันที่ทรงพลังที่สุดของ LLM และโมเดล AI สร้างรูปภาพจากข้อความ (Diffusion Model) นั้นก่อตั้งขึ้นภายในขอบเขตของความคิดสร้างสรรค์และการเชื่อมต่อของมนุษย์ สิ่งนี้สนับสนุนความเชื่อมั่นของเราว่าคลื่นลูกต่อไปของ AI จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อภูมิทัศน์ของโซเชียลมีเดีย อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อครีเอเตอร์ ผู้ติดตาม และผู้ลงโฆษณาเหมือนกัน” Karolina Mrozkova หุ้นส่วนทั่วไปของ Credo Ventures และนักลงทุนกล่าว “เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้สนับสนุน Robin, Jenny, Jan และทีมงานของ 1337 ทุกคนในภารกิจของพวกเขาในการปฏิวัติการสร้างเนื้อหาและการเชื่อมต่อในโลกของโซเชียลมีเดียและอื่น ๆ”

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม https://1337.org

เกี่ยวกับ 1337

1337 เป็นแพลตฟอร์ม Generative AI ที่ที่มุ่งมั่นที่จะเชื่อมโยงชุมชนเฉพาะกลุ่มผ่านความสนใจเฉพาะบุคคล 1337 กำลังค้นหาวิธีการใหม่ในการร่วมสร้างสรรค์ด้วย AI ผ่านเอนทิตีที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยสนับสนุนแนวทางที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโอเพ่นซอร์สที่ส่งเสริมให้ผู้คนมีส่วนร่วมกับครีเอเตอร์ แบรนด์ในรูปแบบการทำงานร่วมกัน

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53666536/en

รายชื่อติดต่อ

1337@archetype.co

ที่มา: 1337