Category Archives: Finance

Fitch Learning ตกลงเข้าซื้อ Moody’s Analytics Learning Solutions และ Canadian Securities Institute

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–14 สิงหาคม 2025

Fitch Learning ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านการเรียนรู้ทางการเงินและการรับรองวิชาชีพ ประกาศในวันนี้ว่า ได้ลงนามข้อตกลงกับ Moody's เพื่อเข้าซื้อกิจการสองแห่งของบริษัท ได้แก่ Moody's Analytics Learning Solutions (MALS) ผู้ให้บริการการฝึกอบรมสินเชื่อระดับโลก และ Canadian Securities Institute (CSI) ผู้ให้บริการชั้นนำด้านการรับรองวิชาชีพสำหรับอุตสาหกรรมบริการทางการเงินของแคนาดา

การเข้าซื้อกิจการจะช่วยเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้าด้วยการนำเสนอบริการทางการเงินที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการพัฒนาอาชีพและการรับรองวิชาชีพ รวมถึงโซลูชันการเรียนรู้สำหรับธนาคารพาณิชย์ ธนาคารเพื่อผู้บริโภค และการจัดการการลงทุน

“ข้อตกลงนี้ช่วยตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นในด้านการพัฒนาทักษะและการพัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเนื่องในภาคบริการทางการเงิน ขณะที่องค์กรต่างๆ ลงทุนด้านการเรียนรู้และพัฒนามากขึ้น เพื่อส่งเสริมการรักษาพนักงานและศักยภาพของพนักงาน โซลูชันของเราจะช่วยเสริมศักยภาพให้กับทีมงาน รวมถึงช่วยขับเคลื่อนการเติบโตขององค์กรในท้ายที่สุด” Andreas Karaiskos ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Fitch Learning กล่าว

เงื่อนไขของธุรกรรมนี้ไม่ได้รับการเปิดเผย คาดว่าการเข้าซื้อกิจการจะเสร็จสิ้นในไตรมาสที่สี่หลังจากปฏิบัติตามเงื่อนไขการปิดตามปกติแล้ว รวมถึงการได้รับการอนุมัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

“การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับความมุ่งมั่นของเราในการเสริมสร้างความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับตลาดการเงินที่มีความซับซ้อนมากขึ้น การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยขยายขอบเขตการศึกษาทางการเงินและมอบคุณค่าและโอกาสที่ยิ่งใหญ่กว่าให้กับโลก เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะให้บริการนักศึกษาและลูกค้าของเราอย่างต่อเนื่อง และยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่สู่ชุมชนของ Fitch Learning” คุณ Karaiskos กล่าวสรุป

เกี่ยวกับ Fitch Learning
Fitch Learning ร่วมมือกับลูกค้าเพื่อเสริมสร้างความรู้ พัฒนาทักษะ และยกระดับการดำเนินงาน โดยมอบผลลัพธ์ทางธุรกิจเชิงบวก ด้วยศูนย์ต่างๆ อยู่ในศูนย์กลางทางการเงินที่มีชื่อเสียง ได้แก่ นิวยอร์ก โทรอนโต ลอนดอน ดูไบ ริยาด สิงคโปร์ และฮ่องกง Fitch Learning มุ่งมั่นที่จะเข้าใจความต้องการที่ซับซ้อนของลูกค้าในตลาดการเงินทั่วโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดย Fitch Learning มีหลักสูตรประกาศนียบัตรด้านการเงินเชิงปริมาณ (CQFi) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านการศึกษาทางการเงินเชิงปริมาณขั้นสูง และสถาบันผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อระดับโลก ซึ่งอุทิศตนเพื่อพัฒนาความเป็นเลิศด้านการศึกษาและมาตรฐานสินเชื่อทั่วโลก Fitch Learning เป็นส่วนหนึ่งของ Fitch Group ที่เป็นผู้นำระดับโลกด้านบริการข้อมูลทางการเงิน มีการดำเนินงานใน 30 ประเทศ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Fitch Learning พัฒนาบุคลากรทางการเงินทั่วโลก ให้ไปที่ www.fitchlearning.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ:
Alayna Francis
+44 20 3530 1098
alayna.francis@thefitchgroup.com

Cristina Bermudez
Cristina.bermudez@thefitchgroup.com
+1 305-613-5814

ที่มา: Fitch Learning

Anchorage Digital ร่วมมือกับ Ethena Labs เปิดตัว Stablecoin ตัวแรกที่สอดคล้องกับ GENIUS และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลกลาง

Logo

ซานฟรานซิสโก–(BUSINESS WIRE)–24 กรกฎาคม 2025

Anchorage Digital ซึ่งเป็นที่ตั้งของธนาคารคริปโตแห่งแรกและแห่งเดียวที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลกลาง ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Ethena Labs ผู้สร้าง USDe และ USDtb เพื่อนำ USDtb เข้าสู่สหรัฐฯ ในฐานะ Stablecoin ตัวแรกที่มีเส้นทางที่ชัดเจนในการปฏิบัติตาม GENIUS Act ที่เพิ่งประกาศใช้ ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ของอเมริกาในการควบคุมการออก Stablecoin

การเปิดตัวครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่จะใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มการออก Stablecoin ของ Anchorage Digital ซึ่งเป็นโซลูชันแบบครบวงจรสำหรับสถาบันต่างๆ ในการเปิดตัวและแจกจ่ายเงินดิจิทัลดอลลาร์ที่ได้รับการควบคุมอย่างเต็มรูปแบบ การตัดสินใจของ Anchorage Digital ที่จะร่วมมือกับ Ethena ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนาระบบและผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและปฏิบัติตามข้อกำหนด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสถาบันสามารถเข้าถึงข้อได้เปรียบเฉพาะตัวของสินทรัพย์ดิจิทัล ถือเป็นก้าวสำคัญในการปรับนวัตกรรมให้สอดคล้องกับกฎระเบียบในระบบการเงินของสหรัฐฯ

ภายใต้ความร่วมมือนี้ USDtb stablecoin ซึ่งปัจจุบันออกในต่างประเทศ จะออกในสหรัฐอเมริกาโดย Anchorage Digital Bank ซึ่งจะทำให้ Anchorage Digital Bank เป็นผู้นำด้านการออก stablecoin ในสหรัฐอเมริกาสำหรับสถาบันที่กำลังมองหาเงินดิจิทัลดอลลาร์ที่เป็นไปตามกฎระเบียบ สามารถตั้งโปรแกรมได้ และสอดคล้องกับมาตรฐานการกำกับดูแลสูงสุดที่กำหนดโดย GENIUS Act การออก stablecoin นี้ภายใต้กรอบการทำงานที่สอดคล้องกับสหรัฐอเมริกา ช่วยให้การบูรณาการเข้ากับระบบการเงินของสหรัฐอเมริกาเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น และช่วยให้สถาบันต่างๆ มีช่องทางการถือครอง USDtb ที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลมากขึ้น

“การผ่านร่างพระราชบัญญัติ GENIUS มอบความชัดเจนด้านกฎระเบียบที่ช่วยให้สถาบันที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลกลางอย่าง Anchorage Digital Bank สามารถมีส่วนร่วมในระบบนิเวศของ Stablecoin ได้อย่างเต็มที่ เรามีความภูมิใจที่ได้สนับสนุน Ethena ในการนำผลิตภัณฑ์ของพวกเขาเข้าสู่สหรัฐอเมริกา ซึ่งจะช่วยสร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นที่มากขึ้นให้แก่พันธมิตรของพวกเขา ในขณะที่ Stablecoin กำลังกลายเป็นรากฐานสำคัญของการเงินยุคใหม่ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ Stablecoin จะต้องสร้างขึ้นบนโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัย เป็นไปตามข้อกำหนด และสร้างขึ้นให้ใช้งานได้ยาวนาน” — Nathan McCauley ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Anchorage Digital

“แม้ว่าเราจะเห็นความต้องการ USDtb ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว แต่เราคาดหวังว่าการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ GENIUS จะช่วยให้พันธมิตรและผู้ถือครองของเราสามารถขยายการใช้งาน USDtb ได้อย่างมั่นใจและครอบคลุมผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์มใหม่ๆ อย่างมีนัยสำคัญ การร่วมมือกับ Anchorage Digital ซึ่งเป็นธนาคารคริปโตแห่งเดียวในสหรัฐอเมริกาที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลกลาง จะช่วยเสริมสร้างรากฐานที่จำเป็นต่อการขยายขนาดผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง โดยไม่กระทบต่อความเร็ว ความยืดหยุ่น และความน่าเชื่อถือ” — Guy Young ซีอีโอของ Ethena Labs

Stablecoins กำลังกลายเป็นหัวใจสำคัญของอนาคตทางการเงินอย่างรวดเร็ว ทั้งในอเมริกาและทั่วโลก โดยขับเคลื่อนทุกสิ่งตั้งแต่การชำระเงินแบบเรียลไทม์และการชำระเงินข้ามพรมแดน ไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานฟินเทคยุคใหม่และตลาดแบบกระจายศูนย์ Anchorage Digital ช่วยให้มั่นใจได้ว่าชั้นพื้นฐานของการเงินยุคใหม่นี้สร้างขึ้นจากความไว้วางใจ ความยืดหยุ่น และความเป็นผู้นำของสหรัฐอเมริกา ด้วยการทำให้การออกสกุลเงินดิจิทัลมีความปลอดภัย ปรับขนาดได้ และมีการควบคุม

เกี่ยวกับ Ethena Labs

คือผู้สร้าง USDe และ USDtb และเป็นผู้สนับสนุนโปรโตคอล Ethena Ethena คือโปรโตคอลเบื้องหลัง USDe ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ใหญ่เป็นอันดับสามและเติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยมูลค่า TVL มากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบันที่ครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้ DeFi ที่ใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่ง ควบคู่ไปกับการผสานรวมกับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ที่ใหญ่ที่สุดและแอปพลิเคชัน DeFi รายใหญ่ Ethena Labs ได้รับการสนับสนุนจาก Fidelity, Franklin Templeton, Dragonfly, Binance Labs, Bybit และ OKX และอื่นๆ

เกี่ยวกับ Anchorage Digital

Anchorage Digital คือแพลตฟอร์มคริปโตระดับโลกที่ช่วยให้สถาบันต่างๆ สามารถมีส่วนร่วมในสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านการซื้อขาย การวางหลักประกัน การดูแลสินทรัพย์ การกำกับดูแล การชำระเงิน การออก Stablecoin และโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยชั้นนำของอุตสาหกรรม Anchorage Digital เป็นที่ตั้งของ Anchorage Digital Bank N.A. ซึ่งเป็นธนาคารคริปโตแห่งเดียวที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลกลางในสหรัฐอเมริกา และยังให้บริการแก่สถาบันต่างๆ ผ่าน Anchorage Digital Singapore ซึ่งได้รับอนุญาตจากธนาคารกลางสิงคโปร์ Anchorage Digital NY ซึ่งได้รับ BitLicense จากกรมบริการทางการเงินนิวยอร์ก และกระเป๋าเงิน Porto ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินที่ดูแลสินทรัพย์ด้วยตนเองของ Anchorage Digital เมื่อเร็วๆ นี้ Anchorage Digital Bank ได้กลายเป็นธนาคารผู้ออก Stablecoin แห่งเดียวในสหรัฐอเมริกาที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลกลางและสอดคล้องกับมาตรฐาน GENIUS ด้วยการออก GENIUS บริษัทได้รับเงินทุนสนับสนุนจากสถาบันชั้นนำมากมาย อาทิ Andreessen Horowitz, GIC, Goldman Sachs, KKR และ Visa โดยมีมูลค่า Series D มากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ Anchorage Digital ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 ที่ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย มีสำนักงานในนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก, ปอร์โต โปรตุเกส, สิงคโปร์ และซูฟอลส์ รัฐเซาท์ดาโคตา เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ anchorage.com, บน X @Anchorage และบน LinkedIn

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Anchorage Digital
press@anchorage.com
 
Ethena Labs
Nate Johnson
Ethena-August@augustco.com
+1 323-892-5554

ที่มา: Anchorage Digital

Multiply Group เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการ Tendam เพิ่ม EBITDA จากการดำเนินงานเป็นสองเท่า และขยายฐานธุรกิจทั่วโลก

Logo

  • Tendam คือกลุ่มธุรกิจเครื่องแต่งกายที่มีส่วนแบ่งตลาดใหญ่เป็นอันดับสองของสเปน และเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจเครื่องแต่งกายแบบ Omnichannel ชั้นนำของยุโรป
  • แบรนด์แฟชั่นที่มีชื่อเสียง 12 แบรนด์ของ Tendam นำเสนอความหลากหลายและการเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ ซึ่งช่วยให้กลุ่มบริษัทมีสถานะในอุตสาหกรรมที่เน้นผู้บริโภคที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
  • ธุรกรรมดังกล่าวมีมูลค่า 5.6 พันล้านเดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (1.3 พันล้านยูโร) ที่ส่งผลให้ Multiply Group ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นสำคัญในธุรกิจค้าปลีกและเครื่องแต่งกายระดับโลก

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มาดริด ลอนดอน ลักเซมเบิร์ก และปารีส–(BUSINESS WIRE)–24 กรกฎาคม 2025

Multiply Group (ADX: MULTIPLY) เป็นบริษัทโฮลดิ้งด้านการลงทุนที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่อาบูดาบี ซึ่งลงทุนและดำเนินธุรกิจทั่วโลก ได้เสร็จสิ้นการลงทุนครั้งใหญ่ครั้งแรกในยุโรปแล้วในวันนี้ ด้วยการเข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ใน Tendam ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเครื่องแต่งกายที่ใหญ่เป็นอันดับสองของสเปนตามส่วนแบ่งทางการตลาด1 ข้อตกลงนี้ทำให้ EBITDA จากการดำเนินงานของ Multiply เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหลังการรวมกิจการ และขยายโมเดลการเข้าซื้อกิจการที่โดดเด่น ปลดล็อกศักยภาพผ่านเงินทุนและเทคโนโลยี และมอบความเป็นผู้นำตลาดอย่างยั่งยืน

Multiply Group Completes Acquisition of Tendam, Doubling Operational EBITDA and Expanding Global Footprint (Photo: AETOSWire)

Multiply Group เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการ Tendam เพิ่ม EBITDA จากการดำเนินงานเป็นสองเท่าและขยายฐานธุรกิจทั่วโลก (ภาพ: AETOSWire)

ในฐานะหนึ่งในกลุ่มบริษัทเครื่องแต่งกายแบบ Omnichannel ชั้นนำของยุโรป Tendam มีการบริหารจุดขายมากกว่า 1,800 แห่ง และดำเนินโครงการสร้างความภักดีทางดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จในกว่า 80 ตลาด รวมถึงสเปน โปรตุเกส ฝรั่งเศส สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และลาตินอเมริกา ทำให้บริษัทมีสถานะที่ดีในแวดวงค้าปลีกที่กำลังพัฒนา ตั้งแต่แฟชั่นราคาประหยัดไปจนถึงสไตล์พรีเมียม กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของบริษัทประกอบด้วย 12 แบรนด์ชั้นนำ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ผ่านแบรนด์แฟชั่นชั้นนำต่างๆ เช่น Women’secret, Springfield, Cortefiel และ Pedro del Hierro เป็นต้น

ในปัจจุบัน Multiply มีส่วนแบ่งส่วนใหญ่ 67.91% ใน Castellano Investments S.À R.L. (“บริษัท”) (เจ้าของ Tendam Brands S.A.U. และบริษัทย่อยอื่นๆ) โดยที่ Llano Holdings S.À R.L. และ Arcadian Investments S.À R.L. ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนของ CVC Funds และ PAI Partners ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย

ด้วยการลงทุนครั้งนี้ Multiply Group ขยายการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เน้นผู้บริโภค และสร้างสถานะในภาคค้าปลีกและเครื่องแต่งกาย โดยที่ Tendam ได้กลายเป็นธุรกิจแพลตฟอร์มภายใต้แนวค้าปลีกและเครื่องแต่งกายของ Multiply

Multiply จะเป็นผู้นำในการเติบโตระยะต่อไปของ Tendam การเติบโตนี้ขึ้นอยู่กับการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศในยุโรป ลาตินอเมริกา และตะวันออกกลาง การนำ AI มาใช้ในทุกแง่มุมของธุรกิจ ตั้งแต่การจัดหาไปจนถึงการดำเนินงานของลูกค้า จะช่วยสนับสนุนการเติบโตนี้ และจะใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีอยู่แล้ว นอกจากนี้ Multiply จะสนับสนุนธุรกิจในการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) แบบเจาะจง เพื่อเปิดตัวแบรนด์และหมวดหมู่สินค้าใหม่ๆ

Samia Bouazza ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มและกรรมการผู้จัดการของ Multiply Group กล่าวว่า “การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ถือเป็นการก้าวเข้าสู่กลยุทธ์ของ Multiply Group ในภาคค้าปลีกและเครื่องแต่งกาย ด้วยการเข้าถือครองหุ้นควบคุมในแพลตฟอร์ม Omnichannel ชั้นนำ เรากำลังลงทุนในรูปแบบธุรกิจที่มุ่งเน้นอนาคตและมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทีมผู้บริหารที่โดดเด่น แพลตฟอร์มนี้สร้างขึ้นจากแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับ มอบความคล่องตัวและวิสัยทัศน์ในการขยายธุรกิจไปยังหมวดหมู่ใหม่ๆ และขยายแบรนด์เกิดใหม่ทั่วโลก ด้วยความเชี่ยวชาญของเราในการสร้างความร่วมมือ ด้วยการนำ AI มาใช้ และการขับเคลื่อนการควบรวมและซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์ เราพร้อมแล้วที่จะเร่งการเติบโตและสร้างมูลค่าระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้นของเรา”

จากมุมมองเชิงกลยุทธ์ การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้มอบโอกาสอันสำคัญให้กับ Multiply Group ในการใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มแบรนด์ที่แข็งแกร่งและประสิทธิภาพที่พิสูจน์แล้วของ Tendam เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต โดยได้รับการสนับสนุนจากแรงหนุนจากผู้บริโภคที่เอื้ออำนวยในตลาดค้าปลีกเครื่องแต่งกายระดับโลก

Jaume Miquel ประธานและซีอีโอของ Tendam เน้นย้ำว่า “วันนี้เรากำลังเริ่มต้นยุคใหม่ ผู้ถือหุ้นและทีมผู้บริหารจะร่วมกันนำศักยภาพของ Tendam มาใช้อย่างเต็มที่ เพื่อขยายแบรนด์ของเราไปสู่รูปแบบ ตลาด และช่องทางใหม่ๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงและเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อสร้างการเติบโตและผลกำไรที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ผ่านระบบนิเวศแบรนด์แบบ Omnichannel ที่โดดเด่นและไม่มีใครเทียบได้”

ตั้งแต่ปี 2020 ด้วยทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ Tendam มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับรูปแบบธุรกิจในตลาดหลักๆ ควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2025 บริษัทรายงานยอดขาย 12 เดือนล่าสุดอยู่ที่ 1.4 พันล้านยูโร และกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ซึ่งคำนวณโดยใช้มาตรฐาน IFRS 16 อยู่ที่ 340.7 ล้านยูโร

Multiply Group ได้รับคำแนะนำจาก Greenhill (บริษัทในเครือ Mizuho), Hogan Lovells และ KPMG เกี่ยวกับธุรกรรมนี้ Castellano และผู้ถือหุ้นปัจจุบันได้รับคำแนะนำจาก Uria Menendez Ramón Hermosilla Abogados และ Latham & Watkins LLP เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายของ Tendam ในธุรกรรมนี้

เกี่ยวกับ MULTIPLY GROUP

Multiply Group PJSC เป็นบริษัทโฮลดิ้งด้านการลงทุนที่มีฐานอยู่ในอาบูดาบี ซึ่งลงทุนและดำเนินงานในธุรกิจที่สร้างการเปลี่ยนแปลงและสร้างรายได้ทั่วโลก

Multiply Group เป็นที่รู้จักในเรื่องแนวคิดการเติบโตที่โดดเด่น และจะยังคงนำเงินทุนไปลงทุนในสองสาขาหลักที่แตกต่างกัน โดยทั้งสองสาขาใช้แนวทางการลงทุนที่มีวินัย และรับรองการสร้างมูลค่าที่สม่ำเสมอและยั่งยืนสำหรับผู้ถือหุ้นของเราในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว

Multiply ดำเนินธุรกิจและการลงทุนเชิงกลยุทธ์ระยะยาว ซึ่งปัจจุบันลงทุนและดำเนินงานในธุรกิจยานพาหนะ พลังงานและสาธารณูปโภค สื่อและการสื่อสาร สุขภาพและความงาม และค้าปลีกและเครื่องแต่งกาย การลงทุนแบบ Anchor จะให้ผลตอบแทนระยะยาวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนำไปสู่การเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติม

Multiply+ เป็นกลุ่มบริษัทที่มีส่วนร่วมในการลงทุนตามโอกาสและไม่แบ่งแยกภาคส่วน โดยส่วนใหญ่ผ่านการถือหุ้นส่วนน้อยในตลาดเอกชนและตลาดสาธารณะ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ไปที่ www.multiply.ae

เกี่ยวกับ Tendam

Tendam เป็นผู้ค้าปลีกเสื้อผ้าสำเร็จรูปแบบหลายแบรนด์และแบบ Omnichannel ชั้นนำของยุโรป และเป็นผู้เล่นรายใหญ่อันดับสองของสเปนเมื่อพิจารณาจากส่วนแบ่งตลาด Tendam ดำเนินธุรกิจในกลุ่มตลาดมวลชนระดับพรีเมียม และสร้างขึ้นบนระบบนิเวศแบบบูรณาการที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางและขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ปัจจุบันบริษัทมีแบรนด์ของตนเอง 12 แบรนด์ ได้แก่ Women’secret, Springfield, Cortefiel, Pedro del Hierro, Hoss Intropia, Slowlove, High Spirits, Dash and Stars, OOTO, HI&BYE, Milano และเสื้อผ้าเด็ก Springfield Kids นอกจากนี้ Tendam ยังจำหน่ายแบรนด์บุคคลที่สามที่คัดสรรมาเกือบ 200 แบรนด์ ผ่านแพลตฟอร์ม Omnichannel หลากหลายแบรนด์

ปัจจุบัน Tendam ดำเนินธุรกิจในกว่า 80 ประเทศ ผ่านจุดขายมากกว่า 1,800 แห่ง (รวมถึงร้านค้าที่บริหารงานโดยตรง มุมร้านค้า และแฟรนไชส์) และออนไลน์ โดยมีเว็บไซต์ 33 แห่งสำหรับ 8 แบรนด์ของบริษัท แอปพลิเคชัน 6 แอปพลิเคชัน รวมถึงเว็บไซต์และตลาดออนไลน์อื่นๆ ของบริษัท โดยสามารถดูเว็บไซต์บริษัทของ Tendam ได้ที่ www.tendam.es

1 การเข้าซื้อกิจการของ Tendam ในบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาจะไม่มีผลบังคับใช้จนกว่าจะได้รับอนุมัติจากหน่วยงานการแข่งขันที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าจะได้รับในเร็วๆ นี้

ที่มา: AETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/20250723669640/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:

W assim El Jurdi
Multiply Group
อีเมล: wassim@multiply.ae

Rawad Khattar
Weber Shandwick
โทร.: +971 56 336 2131
อีเมล: rkhattar@webershandwick.com

ที่มา: Multiply Group

Expensify ขยายการสนับสนุนทั่วโลกสำหรับบัตรองค์กร ภาษา การเรียกเก็บเงิน และการจ่ายเงินคืน

Logo

ปัจจุบัน SuperApp ทางการเงินรองรับบัตรองค์กรจากธนาคารหลายพันแห่งทั่วโลก รวมถึงการอัปเกรดระหว่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ จำนวนมาก

พอร์ตแลนด์, รัฐออริกอน –(BUSINESS WIRE)–25 มิถุนายน 2025

Expensify, Inc (Nasdaq: EXFY), ซึ่งเป็น SuperApp จัดการทางการเงินสำหรับการใช้จ่าย การเดินทาง และบัตรองค์กร ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ขยายการสนับสนุนระหว่างประเทศอย่างครอบคลุมทั่วทั้งแพลตฟอร์ม การเปิดตัวครั้งนี้รวมถึงการรองรับการนำเข้าบัตรองค์กรจากธนาคารมากกว่า 10,000 แห่งทั่วโลก มีความสามารถในหลากหลายภาษา การเรียกเก็บเงินตามสกุลเงินยูโร การจ่ายเงินคืนระหว่างประเทศใน Expensify ใหม่ รวมถึงการเข้าถึงเวอร์ชันเบต้าสำหรับบัตร Expensify ทั่วสหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป และเร็วๆ นี้ในแคนาดา

การอัปเดตเหล่านี้ถือเป็นก้าวสำคัญในกลยุทธ์ระดับโลกของ Expensify ที่ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ทั่วโลกสามารถจัดการค่าใช้จ่ายและบัตรได้รวดเร็วและราบรื่นมากกว่าที่เคยเป็นโดยอยู่ภายในแพลตฟอร์มเดียว

“ขณะนี้ บริษัทต่างๆ ทั่วโลกสามารถจัดการค่าใช้จ่าย บัตร การจ่ายเงินคืน และอื่นๆ ได้ทั้งหมดภายใน Expensify” กล่าวโดย David Barrett ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Expensify

ไฮไลท์ของการขยายตัวระหว่างประเทศในปัจจุบัน:

  •  ขยายการรองรับบัตรองค์กรด้วยธนาคารใหม่มากกว่า 10,000 แห่งทั่วโลกที่บูรณาการเพื่อการนำเข้าและการกระทบยอดที่ราบรื่น
  •  การแปลภาษาที่นอกเหนือจากภาษาอังกฤษและภาษาสเปนใน Expensify ใหม่ ยังมีการรองรับภาษาเพิ่มอีก 10 ภาษา รวมถึงภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี และญี่ปุ่น
  •  การเรียกเก็บเงินตามสกุลเงินยูโร สมาชิกสามารถชำระค่าสมัครสมาชิก Expensify เป็นสกุลเงินยูโรได้ (นอกเหนือจาก USD, GBP, AUD และ NZD)
  •  การสนับสนุนการจ่ายเงินคืนทั่วโลก เพื่อถอนเงินจากบัญชีธนาคารธุรกิจในสกุลเงิน USD, CAD, GBP, EUR และ AUD และฝากเงินเข้าบัญชีธนาคารใน (เกือบทุกประเทศ) ประเทศใดก็ได้ที่ Expensify ใหม่
  •  Expensify Card เวอร์ชันเบต้า เปิดให้บริการแล้วในสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป และกำลังจะมีการสนับสนุนในแคนาดาเร็วๆ นี้

“วันนี้เป็นวันสำคัญ ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยที่จะบอกว่าทุกอย่างที่เราทำมาหลายปีล้วนเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งนี้ โดยนำเสนอวิธีที่เร็วที่สุดในการจัดการค่าใช้จ่ายของคุณ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลกก็ตาม” Barrett กล่าวเสริม

สมาชิกสามารถเลือกใช้เวอร์ชันเบต้าที่เกี่ยวข้องได้โดยติดต่อผู้จัดการบัญชีของตนหรือติดต่อได้ที่ concierge@expensify.com

เกี่ยวกับ Expensify

Expensify ช่วยให้ผู้คนกว่า 15 ล้านคนทั่วโลกติดตามค่าใช้จ่าย จองการเดินทาง คืนเงินให้กับพนักงาน จัดการบัตรองค์กร ส่งใบแจ้งหนี้ และชำระค่าใช้จ่ายได้ทั้งหมดในที่เดียว ไม่ว่าคุณจะประกอบอาชีพอิสระ ดำเนินธุรกิจขนาดเล็ก กำลังจัดการทีม หรือดูแลการเงินระดับโลก ให้ Expensify จัดการการเดินทางและค่าใช้จ่ายของคุณอย่างรวดเร็วในการแชท

คำชี้แจงเชิงคาดการณ์

คำชี้แจงบางข้อในข่าวเผยแพร่ฉบับนี้ถือเป็นคำชี้แจงเชิงคาดการณ์ตามความหมายของบทบัญญัติ “safe harbor” ของ Private Securities Litigation Reform Act of 1995 คำชี้แจงทั้งหมดที่อยู่ในข่าวเผยแพร่ฉบับนี้ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงในอดีตควรได้รับการพิจารณาว่าเป็นคำชี้แจงเชิงคาดการณ์ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง คำชี้แจงเกี่ยวกับการเปิดตัว ความสำเร็จ และผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากความพยายามขยายกิจการทั่วโลกของ Expensify คำชี้แจงเชิงคาดการณ์เหล่านี้มีพื้นฐานมาจากความคาดหวังในปัจจุบันของฝ่ายบริหาร คำชี้แจงเหล่านี้ไม่ใช่คำมั่นสัญญาหรือการรับประกัน แต่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่ทราบและไม่ทราบ ความไม่แน่นอน และปัจจัยสำคัญอื่นๆ ที่อาจทำให้ผลลัพธ์ ประสิทธิภาพ หรือความสำเร็จที่แท้จริงของ Expensify แตกต่างไปจากผลลัพธ์ ประสิทธิภาพ หรือความสำเร็จในอนาคตใดๆ ที่ระบุหรือเป็นนัยในคำชี้แจงเชิงคาดการณ์ รวมถึงความเสี่ยงที่กล่าวถึงในเอกสารที่ Expensify ยื่นต่อ SEC รวมถึงรายงานประจำปีของ Expensify ในแบบฟอร์ม 10-K และรายงานไตรมาสที่ตามมาในแบบฟอร์ม 10-Q Expensify ไม่ผูกพันที่จะอัปเดตคำแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ต่อสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นผลมาจากเหตุการณ์ในอนาคต ข้อมูลใหม่ หรืออื่นใด ยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Daniel Vidal, press@expensify.com

ที่มา: Expensify, Inc.

DDC Enterprise ประกาศระดมทุนสูงสุด 528 ล้านดอลลาร์เพื่อเร่งกลยุทธ์ Bitcoin Treasury

Logo

ทุ่มเงินทุนก้อนสำคัญให้กับการซื้อ Bitcoin โดยเฉพาะ ทำให้ DDC ก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกในการถือครอง Bitcoin

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–17 มิถุนายน 2025

บริษัท DDC Enterprise Limited (NYSE: DDC) (“DDC” หรือ “บริษัท”) ได้ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ทำข้อตกลงซื้อหลักทรัพย์ 3 ฉบับ รวมมูลค่ารวมสูงสุดถึง 528 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้แก่บริษัท ก่อนหักค่าธรรมเนียมตัวแทนจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการเสนอขาย นักลงทุน ได้แก่ Anson Funds, Animoca Brands, Kenetic Capital, และเครือข่ายกองทุนสถาบันชั้นนำและนักลงทุน Bitcoin รายบุคคล เงินทุนที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้เกือบทั้งหมดจะใช้เพื่อขยายคลัง Bitcoin ของบริษัท การระดมทุนครั้งสำคัญนี้ ซึ่งถือเป็นการระดมทุน Bitcoin เพื่อจุดประสงค์เดียวครั้งใหญ่ที่สุดของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) อีกทั้งยังคาดว่าจะช่วยเร่งภารกิจของ DDC ในการก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในบริษัทที่ถือครอง Bitcoin ที่มีมูลค่าสูงสุดแห่งหนึ่ง

This transformative financing – among the largest single-purpose Bitcoin raises by any NYSE-listed company – accelerates DDC's mission to establish one of the most valuable corporate Bitcoin holdings.

การจัดหาเงินทุนอันเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ – ถือเป็นการระดมทุน Bitcoin เพื่อจุดประสงค์เดียวครั้งใหญ่ที่สุดโดยบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาด NYSE – จะช่วยเร่งภารกิจของ DDC ในการสร้างการถือครอง Bitcoin ในองค์กรที่มีมูลค่าสูงที่สุดแห่งหนึ่ง

โครงสร้างการระดมทุนเชิงกลยุทธ์: ความเชื่อมั่นของสถาบันในระดับขนาดใหญ่

  •  การลงทุนในหุ้น PIPE มูลค่า 26 ล้านเหรียญสหรัฐ
    บริษัทได้ทำข้อตกลงการจองซื้อกับนักลงทุนชั้นนำ ได้แก่ Animoca Brands, Kenetic Capital, Jack Liu, Matthew Liu (ผู้ร่วมก่อตั้ง Origin Protocol) และกองทุนสถาบันชั้นนำอื่นๆ รวมถึงนักลงทุน Bitcoin รายบุคคล โดย DDC คาดว่าจะออกหุ้นสามัญ Class A จำนวนสูงสุด 2,435,169 หุ้นในราคาเฉลี่ย 10.30 ดอลลาร์ต่อหุ้น โดยหุ้นที่ออกให้นี้จะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดการซื้อขายเป็นระยะเวลา 180 วัน
     
     
  •  ตั๋วเงินแปลงสภาพที่มีหลักประกันมูลค่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐและการจัดสรรหุ้นแบบส่วนตัวมูลค่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐ
    โดยมี Anson Funds เป็นผู้ลงทุน ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนสถาบันที่มีสำนักงานในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ตราสารหนี้แปลงสภาพที่มีหลักประกันนี้ไม่มีดอกเบี้ยและจะครบกำหนดชำระใน 24 เดือน ตามข้อตกลง บริษัทจะออกตราสารหนี้ที่มีมูลค่าต้นรวม 25 ล้านดอลลาร์เป็นงวดแรก โดยมีศักยภาพเพิ่มเติมอีก 275 ล้านดอลลาร์สำหรับการเบิกถอนครั้งต่อไปตามข้อตกลงร่วมกันของทั้งสองฝ่าย Anson Funds กำลังซื้อหุ้นสามัญประเภท A จำนวน 307,693 หุ้นในราคา 2 ล้านดอลลาร์ในการเสนอขายแบบส่วนตัวพร้อมกัน
     
     
  •  วงเงินสินเชื่อผ่านการออกหุ้นจำนวน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
     วงเงินสินเชื่อผ่านการออกหุ้นมูลค่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ (“ELOC”) ซึ่งได้รับการค้ำประกันโดย Anson Funds เช่นกัน ออกแบบมาเพื่อให้ DDC มีความยืดหยุ่นสูงสุดในการเข้าถึงเงินทุนสำหรับการจัดเก็บ BTC เฉพาะ ด้วย ELOC เมื่อเริ่มดำเนินการในอนาคตหลังจากลงทะเบียน บริษัทสามารถปรับจังหวะตลาดให้เหมาะสมและสามารถซื้อ BTC ได้อย่างสม่ำเสมอตามดุลยพินิจของฝ่ายบริหาร

รายได้รวมส่วนใหญ่จากการระดมทุนจะถูกนำไปใช้เพื่อซื้อ Bitcoin

คำกล่าวของ Norma Chu ผู้ก่อตั้ง ประธานและซีอีโอของ DDC Enterprise

“วันนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับ DDC Enterprise และผู้ถือหุ้นของเรา เงินทุนจำนวนสูงถึง 528 ล้านดอลลาร์นี้ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันที่ได้รับการยอมรับทั้งจากภาคการเงินแบบดั้งเดิมและแนวหน้าของสินทรัพย์ดิจิทัล ถือเป็นพันธกิจอันแข็งแกร่งในการดำเนินกลยุทธ์การสะสม Bitcoin ขององค์กรที่ทะเยอทะยานทั่วโลก วิสัยทัศน์ของเราชัดเจน: เรากำลังสร้างคลัง Bitcoin ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก”

Ms. Chu กล่าวต่อว่า “เงินทุนนี้คาดว่าจะผลักดันให้ DDC กลายเป็นหนึ่งในผู้ถือ Bitcoin รายใหญ่ระดับโลก การลงทุนนี้โดย Anson Funds และกลุ่มนักลงทุน PIPE ถือเป็นการยืนยันบทบาทสำคัญของ Bitcoin ในงบดุลขององค์กรในอนาคตได้เป็นอย่างดี ที่ DDC เราจะจัดสรรเงินทุนนี้ด้วยวินัยของสถาบันและความเชื่อมั่นที่ไม่สั่นคลอน เพื่อเสริมสร้างตำแหน่งของเราในฐานะสะพานเชื่อมชั้นนำระหว่างตลาดทุนระดับโลกและระบบนิเวศ Bitcoin DDC Enterprise มีตำแหน่งที่แข็งแกร่งในฐานะเครื่องมือซื้อขายหุ้นสาธารณะที่ชัดเจนสำหรับการเปิดรับ Bitcoin อย่างเข้มข้นและการสร้างมูลค่า ฉันจะมุ่งเน้นไปที่การเติบโตของคลัง BTC ของเราและมอบผลตอบแทน BTC ที่น่าดึงดูดให้กับผู้ถือหุ้นของเราอย่างต่อเนื่อง”

Maxim Group LLC ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแต่เพียงผู้เดียวในการเสนอขาย การปิดการขายขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตามเงื่อนไขการปิดการขายตามปกติ

ข่าวเผยแพร่ฉบับนี้ไม่ถือเป็นข้อเสนอขายหรือการชักชวนให้ซื้อหลักทรัพย์เหล่านี้ และจะไม่มีการขายหลักทรัพย์เหล่านี้ในรัฐหรือเขตอำนาจศาลใด ๆ ที่การเสนอ การชักชวน หรือการขายดังกล่าวจะถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายก่อนการจดทะเบียนหรือการได้รับคุณสมบัติภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐดังกล่าวหรือเขตอำนาจศาลอื่นใด

เกี่ยวกับ DDC Enterprise

DDC Enterprise Limited (NYSE: DDC) เป็นผู้นำการปฏิวัติคลัง Bitcoin ขององค์กรในขณะที่ยังคงรักษารากฐานของตนในฐานะแพลตฟอร์มอาหารเอเชียชั้นนำระดับโลก บริษัทได้วางตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ให้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองหลัก โดยดำเนินกลยุทธ์การสะสมที่ก้าวร้าว ในขณะที่ยังคงขยายพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์อาหารต่างๆ อย่างต่อเนื่อง – รวมถึง DayDayCook, Nona Lim และ Yai's Thai – ปัจจุบัน DDC อยู่แถวหน้าของบริษัทมหาชนที่นำ Bitcoin เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสถาปัตยกรรมทางการเงินของตน

คำเตือนเกี่ยวกับข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า

ข้อความบางส่วนในประกาศฉบับนี้เป็นข้อความที่มีลักษณะคาดการณ์ถึงอนาคต

นักลงทุนสามารถระบุคำกล่าวที่มีลักษณะคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้ได้จากคำหรือวลี เช่น “อาจ” “จะ” “คาดหวัง” “คาดการณ์ล่วงหน้า” “มุ่งหวัง” “ประมาณการ” “ตั้งใจ” “วางแผน” “เชื่อว่า” “มีแนวโน้มที่จะ” “ศักยภาพ” “ดำเนินต่อไป” หรือสำนวนอื่นๆ ที่คล้ายกัน ตัวอย่างของคำกล่าวที่มีลักษณะคาดการณ์ล่วงหน้า ได้แก่ คำกล่าวที่เกี่ยวข้องกับแนวโน้มทางธุรกิจ การสะสม Bitcoin และเป้าหมายและกิจกรรมในอนาคตของบริษัทภายใต้ธุรกรรมทางการเงินที่อธิบายไว้ข้างต้น รวมถึงคำกล่าวเกี่ยวกับการปิดการเสนอขายและการบรรลุเงื่อนไขการปิดและการใช้รายได้ในการเสนอขาย คำกล่าวเหล่านี้อาจมีความไม่แน่นอนและความเสี่ยง รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงปัจจัยเสี่ยงที่กล่าวถึงในส่วนปัจจัยเสี่ยงและในส่วนการหารือและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการเกี่ยวกับสภาพทางการเงินและผลการดำเนินงานของแบบฟอร์ม 20-F, 6-K และรายงานอื่นๆ รวมถึงแบบฟอร์ม 6-K ซึ่งพร้อมสำเนาเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมข้างต้น เพื่อยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“SEC”) และมีให้บริการที่www.sec.govแม้ว่าบริษัทเชื่อว่าความคาดหวังที่แสดงไว้ในคำชี้แจงเชิงคาดการณ์เหล่านี้มีความสมเหตุสมผล แต่บริษัทไม่สามารถรับรองได้ว่าความคาดหวังดังกล่าวจะออกมาถูกต้อง และบริษัทขอเตือนนักลงทุนว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงอาจแตกต่างไปจากผลลัพธ์ที่คาดการณ์ไว้อย่างมาก และขอแนะนำให้นักลงทุนพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อผลลัพธ์ในอนาคตในเอกสารที่บริษัทยื่นต่อ SEC ปัจจัยเพิ่มเติมมีการหารือในเอกสารที่บริษัทยื่นต่อ SEC ซึ่งสามารถดูได้ที่www.sec.govบริษัทไม่มีภาระผูกพันที่จะต้องอัพเดตหรือแก้ไขแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ต่อสาธารณะใดๆ เพื่อสะท้อนถึงเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในภายหลัง หรือการเปลี่ยนแปลงความคาดหวังของบริษัทที่เกิดขึ้นหลังจากวันที่นี้ ยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250616739727/en

Contacts

สำหรับฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ของ Bitcoin:
Yujia Zhai | ddc@orangegroupadvisors.com
สื่อ: pr@daydaycook.com

ที่มา: DDC Enterprise Limited

 

KBRA ขยายฐานการดำเนินงานทั่วโลกด้วยการเปิดสำนักงานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแห่งแรกในโตเกียว

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–13 มิถุนายน 2025

KBRA ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับเครดิตระดับโลกที่ให้บริการครบวงจร มีความยินดีที่จะประกาศถึงก้าวสำคัญในการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในระดับนานาชาติ นั่นคือการเปิดสำนักงานแห่งใหม่ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ฐานปฏิบัติการแห่งใหม่ของ KBRA ในโตเกียวซึ่งเป็นฐานแห่งแรกของบริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่สะท้อนถึงการเติบโตแบบก้าวกระโดดของบริษัทในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในฐานะผู้นำด้านความคิด ผู้ริเริ่มนวัตกรรม และผู้บุกเบิกในการจัดอันดับตราสารสินเชื่อเอกชนและสินเชื่อกองทุนในระดับโลก ซึ่งจะส่งผลให้ KBRA แข็งแกร่งขึ้นในภูมิภาคและกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าในเอเชีย ตลอดจนฐานนักลงทุนด้านสินเชื่อเอกชนและตลาดทุนที่ซับซ้อนของญี่ปุ่น

โตเกียวเป็นสำนักงานใหม่ล่าสุดของ KBRA ซึ่งปัจจุบันมีสำนักงาน 7 แห่งในอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชียแปซิฟิก นอกเหนือจากสำนักงาน 4 แห่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเปิดดำเนินการในปี 2023 ในนิวยอร์ก เพนซิลเวเนีย แมริแลนด์ และสำนักงานในชิคาโก ซึ่งเปิดดำเนินการในปี 2023 แล้ว KBRA ยังมีสำนักงานในเมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ ซึ่งเปิดดำเนินการในปี 2017 และสำนักงานใหญ่ในลอนดอน ซึ่งเปิดดำเนินการในปี 2019

KBRA มีความยินดีที่จะต้อนรับบุคลากรสำคัญหลายตำแหน่งเพื่อรองรับการขยายตัวในญี่ปุ่น โดย Yuuichi Hino จะเข้าร่วมในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติตามกฎระเบียบประจำประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะนำประสบการณ์อันยาวนานในการนำทางสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบของญี่ปุ่นมาใช้ และ Miki Monroe-Sheridan ยังเข้าร่วมในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ซึ่งเธอจะเป็นผู้นำความพยายามในการทำงานร่วมกับผู้เข้าร่วมตลาดในท้องถิ่น และเสริมสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาคของ KBRA ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Peter Connolly ผู้อำนวยการอาวุโสในทีมสินเชื่อโครงสร้างจะย้ายจากสำนักงานนิวยอร์กของ KBRA ไปยังโตเกียวเพื่อช่วยสนับสนุนการครอบคลุมการวิเคราะห์และการมีส่วนร่วมของลูกค้า

“เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะประกาศเปิดตัวสำนักงานแห่งใหม่ในโตเกียว ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่ KBRA ขยายขอบข่ายการให้บริการไปทั่วโลก เพื่อมอบการวิจัยอันยอดเยี่ยมและข้อมูลเชิงลึกที่เป็นอิสระและรอบคอบให้กับกลุ่มนักลงทุนสถาบันที่กำลังขยายตัวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงการวิเคราะห์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลของเราในด้านสินเชื่อภาคเอกชน การเงินที่มีโครงสร้าง และด้านอื่นๆ ของตลาดทุน” กล่าวโดย Kate Kennedy หัวหน้าร่วมฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ KBRA “เรามุ่งหวังที่จะสร้างสะพานเชื่อมกับผู้เล่นในตลาดที่ตั้งอยู่ในเอเชียแปซิฟิก และนำความสอดคล้องในการวิเคราะห์ ความโปร่งใส และมุมมองของเราไปสู่ภาคส่วนตลาดสินเชื่อระดับโลกที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและมักจะมีความซับซ้อน”

ทั่วทั้งตลาดสินเชื่อ รวมถึงสินทรัพย์ทางการเงินที่มีโครงสร้าง สินเชื่อเอกชน สินเชื่อกองทุน บริษัท สถาบันทางการเงิน รัฐบาล บริษัทประกันภัยและภาคส่วนอื่น ๆ ทาง KBRA มีอัตราการออกสินเชื่อมากกว่า 3.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐจากการจัดอันดับมากกว่า 80,000 รายการจากองค์กรที่ได้รับการจัดอันดับมากกว่า 6,300 แห่ง

KBRA เป็นผู้นำในตลาดเอกชนและการจัดอันดับและการประเมินสินเชื่อเพื่อการเงินของกองทุน บริษัทได้ดำเนินการประเมินสินเชื่อหรือการจัดอันดับสินเชื่อมากกว่า 3,500 รายการสำหรับผู้กู้ในตลาดระดับกลางในพอร์ตโฟลิโอสินเชื่อเอกชน นอกจากนี้ KBRA ยังได้ออกการจัดอันดับสำหรับธุรกรรมการเงินของกองทุนมากกว่า 250 รายการและธุรกรรมการเงินที่ได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์เอกชนมากกว่า 200 รายการ ตลอดจนธุรกรรมตราสารหนี้ป้อนมากกว่า 200 รายการและบริษัทพัฒนาธุรกิจ 34 แห่ง KBRA ยังรักษาการจัดอันดับสินเชื่อให้กับผู้จัดการสินทรัพย์เอกชนชั้นนำ 54 รายของโลก และจัดอันดับภาระผูกพันสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันในตลาดระดับกลางและสินเชื่อเอกชนมากกว่า 100 รายการ และสินเชื่อเอกชน ทุนส่วนตัว หรือสินเชื่อรองอื่นๆ อีกหลายสิบรายการ

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้การจัดอันดับของ KBRA แตกต่าง ให้ไปที่ www.engagewith.kbra.com

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้สะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจในปัจจุบันของบริษัท และไม่สะท้อนถึงการอนุมัติจากสำนักงานบริการทางการเงินของญี่ปุ่น (JFSA) ในฐานะหน่วยงานจัดอันดับเครดิต และไม่ได้มีเจตนาจะสื่อเป็นนัยว่า KBRA Japan ได้รับอนุญาตจาก JFSA ในขณะนี้ KBRA Japan กำลังแสวงหาการอนุมัติดังกล่าว แต่ยังไม่ได้รับอนุมัติ เนื้อหาของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลง และบริษัทจะแจ้งข้อมูลอัปเดตตามความเหมาะสม

เกี่ยวกับ KBRA

KBRA เป็นหนึ่งในสถาบันจัดอันดับเครดิตที่สำคัญ ซึ่งจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และสหราชอาณาจักร KBRA ได้รับการยอมรับให้เป็นสถาบันจัดอันดับเครดิตที่มีคุณสมบัติในไต้หวัน และยังเป็นองค์กรจัดอันดับเครดิตที่ได้รับการแต่งตั้งสำหรับการจัดอันดับการเงินแบบมีโครงสร้างในแคนาดาอีกด้วย ในฐานะสถาบันจัดอันดับเครดิตที่ให้บริการครบวงจร นักลงทุนสามารถใช้การจัดอันดับของ KBRA เพื่อวัตถุประสงค์ด้านเงินทุนตามกฎหมายได้ในเขตอำนาจศาลหลายแห่ง

หมายเลขเอกสาร : 1009927

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ

Adam Tempkin, ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสาร
+1 646-731-1347
adam.tempkin@kbra.com

ที่มา: Kroll Bond Rating Agency, LLC

Multiply Group จุดประกายให้กับโลกด้วยการเปิดตัว Multiply Media Group เพื่อสร้างฐานการผลิตสื่อที่ทรงพลังที่มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

Logo

  •  Multiply Media Group (MMG) ได้ผนวกรวม BackLite Media, Viola Media และ Media 247 เพื่อจัดการพอร์ตโฟลิโอสื่อกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดและพรีเมียมที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วยจำนวนหน่วยโฆษณากว่า 3,000 หน่วย
  •  กลุ่มสื่อที่เพิ่งรวมเข้าด้วยกันใหม่จะทำหน้าที่เป็นฐานเปิดตัวในการคว้าโอกาสในระดับภูมิภาคและระดับโลกในส่วนของสื่อ ประกอบด้วย ซาอุดีอาระเบีย สหราชอาณาจักร ยุโรป และสหรัฐอเมริกา
  •  MMG จะกำหนดภูมิทัศน์สื่อของภูมิภาคใหม่ผ่านนวัตกรรม ขนาด และความร่วมมือเชิงกลยุทธ์
  •  MMG เปิดตัวที่การประชุมประจำปีขององค์กร World Out of Home Organization (WOO) ในเม็กซิโกซิตี้

อาบูดาบี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–06 มิถุนายน 2025

Multiply Group (ADX: MULTIPLY) บริษัทโฮลดิ้งเพื่อการลงทุนที่ตั้งอยู่ในอาบูดาบี เปิดตัว Multiply Media Group (MMG) ในวันนี้ โดยรวมบริษัทสื่อนอกบ้าน (OOH) ชั้นนำสามแห่งภายใต้พอร์ตโฟลิโอของบริษัทเข้าด้วยกันเพื่อสร้างฐานการผลิตสื่อที่แข็งแกร่งแห่งใหม่ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ การรวมตัวกันของ BackLite Media, Viola Media และ Media 247 ภายใต้ Multiply Media Group ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะกำหนดอนาคตของสื่อที่ใช้เทคโนโลยีในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และที่อื่นๆ

Multiply Group lights up the world with the launch of Multiply Media Group, creating a media powerhouse headquartered in the UAE (Photo: AETOSWire)

Multiply Group จุดประกาย.ให้กับโลกด้วยการเปิดตัว Multiply Media Group เพื่อสร้างฐานการผลิตสื่อที่ทรงพลังที่มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ภาพ: AETOSWire)

Samia Bouazza GCEO และกรรมการผู้จัดการของ Multiply Group กล่าวว่า: การเปิดตัว Multiply Media Group ถือเป็นการรวมตัวของสื่อที่สำคัญที่สุดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ การรวบรวมสินทรัพย์สื่อชั้นนำของตลาดไว้ภายใต้กลุ่มเดียวที่ขับเคลื่อนด้วย AI และเทคโนโลยี เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการสร้างมูลค่าในระยะยาวและผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น โดย MMG วางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับความทะเยอทะยานระดับโลก และกลยุทธ์การลงทุนที่มองไปข้างหน้าของเรา

MMG เปิดตัวที่การประชุมประจำปีขององค์กร World Out of Home Organization (WOO) ในเม็กซิโกซิตี้ และขณะเดียวกันก็จุดประกายให้กับโลกด้วยการเข้าซื้อกิจการสื่อ DOOH ที่สำคัญทั่วโลก ส่องแสงสว่างให้กับเมืองและจอภาพต่างๆ ทั่วโลกด้วยการแสดงตัวตนที่โดดเด่น การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนถึงการขยายตัวทั่วโลกของ Multiply Group บริษัทโฮลดิ้งมูลค่า 7.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ IHC ที่เป็นบริษัทโฮลดิ้งที่มีมูลค่าสูงที่สุดในตะวันออกกลางด้วยมูลค่าตลาดมากกว่า 240 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยกลุ่มที่รวมเข้าด้วยกันใหม่นี้จะทำหน้าที่เป็นฐานในการคว้าโอกาสในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติที่เกิดขึ้นในภาคส่วนสื่อผ่านธุรกิจในพอร์ตโฟลิโอของ MMG

MMG จะขับเคลื่อนประสิทธิภาพและนวัตกรรมในภาคส่วนสื่อ OOH โดยปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์สื่อของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ผ่านขนาด, AI และความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ เพื่อบรรลุภารกิจ โดย MMG จะลงทุนในสินทรัพย์สื่อที่มีศักยภาพสูง กระตุ้นการเติบโตด้วยนวัตกรรม และสร้างการทำงานร่วมกันในพอร์ตโฟลิโอผ่านการลงทุนเชิงกลยุทธ์

Jawad Hassan หัวหน้าฝ่ายสื่อและการสื่อสารที่ Multiply Group กล่าวว่า: “เป็นเวลาหลายปีแล้วที่กลยุทธ์การเติบโตที่ทะเยอทะยานของ Multiply Group สำหรับภาคส่วนสื่อได้พาเราจากกลุ่มธุรกิจที่รวมเอาผู้นำในอุตสาหกรรมสามรายเข้าด้วยกันจนกลายมาเป็นกำลังสำคัญในสื่อที่มีศักยภาพมหาศาลในการกำหนดภูมิทัศน์สื่อระดับภูมิภาคทั้งหมดใหม่ในรูปแบบที่จะสร้างผลกระทบในทันทีและมูลค่าในระยะยาวให้กับลูกค้า ผ่าน MMG เราพร้อมที่จะรับเอาเทรนด์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทการเปลี่ยนแปลงของ AI และเราจะมองหาการลงทุนในเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องที่ช่วยให้เราสร้างแคมเปญที่สร้างสรรค์และมีพลวัต

ขนาดของ MMG ประกอบด้วยหน่วยโฆษณา 3,000 หน่วยทั่วสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงสินทรัพย์พรีเมียมมากกว่า 75 รายการบนถนน Sheikh Zayed ของดูไบ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากข้อตกลงความร่วมมือระยะยาวกับ Road and Transport Authority (RTA) (Mada Media) ในดูไบและ The Department of Municipalities & Transport (DMT) ในอาบูดาบี

James Bicknell ซีอีโอของ Multiply Media Group กล่าวว่า: “Multiply Media Group เปิดตัวในฐานะพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงในสื่อนอกบ้าน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญที่รวมเอาสินทรัพย์สื่อเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดของภูมิภาคไว้ภายใต้วิสัยทัศน์ที่ชัดเจนหนึ่งเดียว ด้วย MMG เราไม่ได้แค่ขยายขนาดเท่านั้น แต่เรากำลังขยายขนาดอย่างชาญฉลาด พันธกิจของเราชัดเจน นั่นคือ การนำเสนอบริบทในระดับขนาดใหญ่ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในจุดที่สำคัญอย่างแท้จริงในเวลาที่สำคัญที่สุด โดย MMG ได้รับการออกแบบมาให้คล่องตัว นำโดยข้อมูล และบูรณาการอย่างลึกซึ้ง ทำให้ลูกค้าของเราสามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายด้วยความเกี่ยวข้อง การตอบสนอง และการตอบสนองที่มากขึ้นกว่าที่เคย ซึ่งสิ่งนี้เป็นมากกว่าสื่อ มันคือโมเมนตัม

การเปิดตัว MMG เกิดขึ้นตามข้อตกลงเชิงกลยุทธ์ล่าสุดระหว่างกลุ่มธุรกิจสื่อแนวตั้งของ Multiply Group และ Al Arabia, Arabian Contracting Services Company (Al Arabia) เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (JV) เพื่อลงทุนในภาคส่วนโฆษณากลางแจ้ง (OOH) ทั่วโลก Multiply Group ยังได้ประกาศบันทึกข้อตกลง (MoU) ล่าสุดกับ Saudi Media Company (SMC) โดยทั้งสองการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์นี้เน้นย้ำถึงศักยภาพในการขยายตัวทั่วโลกของแบรนด์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Multiply

สื่ออื่นๆ ของ Multiply Group รวมถึง Yieldmo ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโฆษณาบนมือถือตามบริบท และ Firefly ซึ่งเป็นบริษัทดิจิทัล Taxi-Top ชั้นนำของอเมริกาเหนือ กลุ่มบริษัทได้เข้าซื้อกิจการ Viola Communications ซึ่งเป็นบริษัทการตลาดและการสื่อสารในปี 2021

เกี่ยวกับ MULTIPLY GROUP

Multiply Group PJSC เป็นบริษัทโฮลดิ้งการลงทุนที่มีฐานอยู่ในอาบูดาบี ซึ่งลงทุนและดำเนินงานในธุรกิจที่สร้างการเปลี่ยนแปลงและสร้างรายได้ทั่วโลก

Multiply Group เป็นที่รู้จักจากแนวคิดการเติบโตที่โดดเด่น และจะยังคงจัดสรรเงินทุนให้กับสองสาขาที่แตกต่างกัน โดยทั้งสองสาขาใช้แนวทางการลงทุนที่มีวินัย และมั่นใจว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มที่สม่ำเสมอและยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นของเราในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว:

Multiply การลงทุนและการดำเนินการในแนวตั้งเชิงกลยุทธ์ระยะยาว ซึ่งปัจจุบันลงทุนและดำเนินการในธุรกิจการเดินทาง พลังงานและสาธารณูปโภค สื่อและการสื่อสาร สุขภาพและความงาม และการค้าปลีกและเครื่องแต่งกาย การลงทุนหลักจะให้รายได้ประจำในระยะยาว ผ่านการซื้อกิจการเพิ่มเติม

Multiply+ กลุ่มบริษัทยังดำเนินการลงทุนตามโอกาสและไม่แบ่งตามภาคส่วน โดยส่วนใหญ่ผ่านการถือหุ้นส่วนน้อยในตลาดเอกชนและตลาดของรัฐ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.multiply.ae

เกี่ยวกับ Multiply Media Group

Multiply Media Group (MMG) เป็นบริษัทสื่อชั้นนำที่มุ่งมั่นในการขับเคลื่อนประสิทธิภาพและนวัตกรรมในทุกภาคส่วน ความมุ่งมั่นของเราไร้ขีดจำกัด แต่แนวทางของเราชัดเจน เราลงทุนในสินทรัพย์สื่อที่มีศักยภาพสูง กระตุ้นการเติบโตผ่านนวัตกรรม และสร้างการทำงานร่วมกันในพอร์ตโฟลิโอของเราผ่านการลงทุนเชิงกลยุทธ์และความเป็นผู้นำที่ชาญฉลาด

MMG ประกอบด้วย BackLite Media, Viola Media, Media 247 และ Purple Printing ซึ่งเมื่อรวมกันแล้ว จะสามารถสร้างระบบนิเวศแบบบูรณาการขึ้นเพื่อนำเสนอสเกลในขนาดต่างๆ ความแม่นยำ และมูลค่าที่ยั่งยืนขึ้น

MMG ให้ความชัดเจนที่จำเป็นในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายในอุตสาหกรรม ผ่านการลงทุนที่มุ่งเป้าไปที่เทคโนโลยี บุคลากร และนวัตกรรม เราพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่พร้อมสำหรับอนาคต โดยคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าก่อนที่ความต้องการเหล่านั้นจะเกิดขึ้น ด้วยการจัดแนวความสามารถให้สอดคล้องกันทั่วทั้งกลุ่ม เราทวีคูณผลกระทบ เร่งนวัตกรรม และขับเคลื่อนการเติบโตในระยะยาว

ผลกระทบมากขึ้น นวัตกรรมมากขึ้น โมเมนตัมที่มากขึ้น

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.mmg.global

ที่มา: AETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250606708480/en

Contacts

Wassim El Jurdi
Multiply Group
+971561059595
wassim@multiply.ae

Rawad Khattar
Weber Shandwick
+971563362131
rkhattar@webershandwick.com

ที่มา: Multiply Media Group

ผู้ปกครองเมืองเข้าร่วมการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่างเมืองราสอัลไคมาห์และเมืองไมอามีเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่างๆ

Logo

  •  ชีคซาอุด บิน ซัคร์ อัล กาซิมี:เรามุ่งหวังที่จะสร้างความร่วมมือแบบไดนามิกที่สะท้อนถึงค่านิยมร่วมและวิสัยทัศน์ที่ทะเยอทะยานของเราสำหรับอนาคต
  •  การวางผังเมืองและความปลอดภัยสาธารณะ การส่งเสริมธุรกิจและการท่องเที่ยว การพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึงเทคโนโลยีสมาร์ทซิตี้ในพื้นที่ที่ครอบคลุมโดยข้อตกลง

ราสอัลไคมาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–19 พฤษภาคม 2025

ชีคซาอุด บิน ซัคร์ อัล กาซิมี สมาชิกสภาสูงสุดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และผู้ปกครองเมืองราสอัลไคมาห์ ในวันนี้ ทรงเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่างเมืองราสอัลไคมาห์และเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา เพื่อเสริมสร้างและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่างๆ ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน

Ras Al Khaimah Ruler attends signing of MoU between Ras Al Khaimah and Miami to enhance cooperation across sectors (Photo: AETOSWire)

ผู้ปกครองเมืองราสอัลไคมาห์เข้าร่วมการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างเมืองราสอัลไคมาห์และไมอามีเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่างๆ (ภาพ: AETOSWire)

ข้อตกลงดังกล่าวลงนามโดยที่ปรึกษาอาวุโสของชีคซาอุด ฯพณฯ โมฮัมเหม็ด ฮัสซัน ออมราน อัลชามซี และนายกเทศมนตรีเมืองไมอามี ฟรานซิส ซัวเรซ

ชีคซาอุดกล่าว: “ข้อตกลงนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ของความร่วมมือระหว่างเมืองราสอัลไคมาห์และเมืองไมอามี แม้ว่าจะเป็นการสานต่อมิตรภาพและความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่ยาวนานระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และสหรัฐอเมริกาก็ตาม โดยการสนับสนุนความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนที่มากขึ้น เราจะเปิดเส้นทางใหม่สำหรับนวัตกรรม การลงทุน และการเจรจาทางวัฒนธรรม เรามุ่งหวังที่จะสร้างความร่วมมือแบบไดนามิกที่สะท้อนถึงค่านิยมร่วมและวิสัยทัศน์ที่ทะเยอทะยานของเราสำหรับอนาคต”

ผ่านทางบันทึกความเข้าใจ เมืองราสอัลไคมาห์และไมอามีตั้งใจที่จะสร้างความสัมพันธ์ความร่วมมือในหลายภาคส่วนและหลายพื้นที่ที่มีความสนใจร่วมกัน รวมถึงการวางผังเมืองและความปลอดภัยสาธารณะ การส่งเสริมธุรกิจและการท่องเที่ยว เทคโนโลยีเมืองอัจฉริยะ นวัตกรรมและการเริ่มต้นธุรกิจ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ

ในระหว่างการประชุม การหารือยังเน้นที่การเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน รวมถึงบริษัทสหรัฐฯ ที่มีอยู่มากมายในเมืองราสอัลไคมาห์ เช่น Hilton, Guardian Glass และ Caresoft Global ชีคซาอุดยังเน้นย้ำถึงภูมิทัศน์เศรษฐกิจที่คึกคักของเมืองและโอกาสในการลงทุนที่เมืองนี้เสนอเพื่อสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจและนวัตกรรม

นายกเทศมนตรีซัวเรซแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อชีคซาอุดสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยชื่นชมความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และสหรัฐอเมริกา และข้อตกลงที่จะเป็นบทใหม่ที่น่าตื่นเต้นในความสัมพันธ์ระหว่างเมืองราสอัลไคมาห์และเมืองสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา

 ที่มา: AETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250519654773/en

Contacts

การสอบถามสำหรับสื่อ:
Steven McCombe
 media@rakmediaoffice.ae

ที่มา: Ras Al Khaimah Government Media Office

Sidra Capital ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของ Bursa Suq Al-Sila’

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–19 พฤษภาคม 2025

Sidra Capitalได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของ Bursa Suq Al-Sila’ (BSAS) ในฐานะผู้ซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งถือเป็นการเข้าร่วมระดับเดียวกับธนาคารกลาง ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำระดับโลก และสถาบันการเงินระหว่างประเทศหลายแห่ง

BSAS เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในมาเลเซีย ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการบริหารสภาพคล่องและการจัดหาเงินทุนตามหลักการอิสลามสำหรับสถาบันการเงินอิสลาม BSAS กลายเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำสำหรับธุรกรรม Tawarruq มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันประมาณ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 20 ล้านเหรียญสหรัฐตอนเปิดตัวในปี 2009

“Sidra Capital เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในด้านการบริหารสินทรัพย์ตามหลักศาสนาอิสลาม โดยเน้นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และการเงินส่วนบุคคล ในขณะที่เรากำลังขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เราเห็นโอกาสใหญ่สำหรับโซลูชันที่สอดคล้องกับหลักชะรีอะห์ การเข้าถึงโดยตรงกับแพลตฟอร์มที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับธุรกรรม Tawarruq ช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันของเรา” Ghassan Soufiรองประธานกรรมการ Sidra Capital กล่าว

“Tawarruq หรือสินค้าโภคภัณฑ์มูราบาฮะ เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ใช้งานได้จริงสำหรับข้อจำกัดทางชะรีอะห์เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน เนื่องจากเรามุ่งมั่นที่จะเข้าสู่ตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมากขึ้น การเข้าถึง BSAS จึงช่วยเพิ่มความสามารถในการปิดดีลได้อย่างรวดเร็วและคุ้มค่ามากขึ้น”Arif Rahimประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Sidra Capital Singapore กล่าวเสริม

โดยปกติแล้ว ธุรกรรม Tawarruq ในสินเชื่ออิสลามจะดำเนินการผ่านนายหน้า หรือตัวกลางที่ทำหน้าที่ซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ระดับโลก เช่น London Metal Exchange การก่อตั้ง BSAS ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Bursa Malaysia Berhad ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ช่วยให้สถาบันการเงินสามารถซื้อขายโดยตรงบนแพลตฟอร์มได้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการตัดตัวกลางออก และใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยสนับสนุน

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

แหล่งที่มา: AETOSWire

Contacts

Sarah Abuzeid
ฝ่านสื่อสารองค์กร
prandmarketing@sidracap.com

ที่มา: Sidra Capital

SBC Medical Group Holdings ประกาศผลประกอบการทางการเงินไตรมาสแรกของปี 2025

Logo

เออร์ไวน์, แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–15 พฤษภาคม 2025

SBC Medical Group Holdings Incorporated (NASDAQ: SBC, “SBC Medical” หรือ “บริษัท”) ซึ่งเป็นเจ้าของ ผู้ดําเนินการ และผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการและผลิตภัณฑ์สำหรับศูนย์บำบัดความงามระดับโลก ในวันนี้ได้ประกาศงบการเงินงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2025

ไฮไลท์ไตรมาสแรกปี 2025

  •  รายได้รวม อยู่ที่ 47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลง 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
  •  รายได้จากการดําเนินงาน อยู่ที่ 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  •  รายได้สุทธิที่เป็นของ SBC Medical Group อยู่ที่ 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  •  กําไรต่อหุ้น ซึ่งหมายถึงกําไรสุทธิที่เป็นของบริษัทหารด้วยจํานวนหุ้นที่ชำระแล้วเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักอยู่ที่ 0.21 ดอลลาร์สหรัฐ ในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2025 ซึ่งเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  •  EBITDA1 ซึ่งคํานวณโดยการนำค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจําหน่าย ผลขาดทุนจากการด้อยค่ามาบวกกับรายได้จากการดําเนินงาน อยู่ที่ 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลง 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว EBITDA margin 1 อยู่ที่ 52% ในไตรมาสแรกของปี 2025 เทียบกับ 46% ในไตรมาสแรกของปี 2024
  •  อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น ซึ่งหมายถึงกําไรสุทธิต่อปีที่เป็นของบริษัทหารด้วยค่าเฉลี่ยของส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 มีนาคม 2025 อยู่ที่ 41% ซึ่งลดลง 10 จุดเปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  •  จํานวนคลินิกพันธมิตร อยู่ที่ 251 แห่ง ณ วันที่ 31 มีนาคม 2025 ซึ่งเพิ่มขึ้น 36 แห่งจากวันที่ 31 มีนาคม 2024
  •  จํานวนลูกค้า2 ในงวดสิบสองเดือนที่ผ่านมาสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2025 อยู่ที่ 6.1 ล้านราย ซึ่งเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  •  อัตราการกลับมาใช้บริการซ้ำของลูกค้า3 ที่เข้ารับบริการคลินิกของแฟรนไชส์สองครั้งขึ้นไปอยู่ที่ 71%

1 EBITDA และ EBITDA Margin เป็นมาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP โปรดดูหัวข้อ “การใช้มาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP” และตารางที่มีชื่อว่า “การกระทบยอดผลลัพธ์ของ GAAP และ Non-GAAP ที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ“
2 จำนวนลูกค้าจะนับรวมลูกค้าของคลินิกแบรนด์ SBC, Rize CliniGc และ Gorilla Clinic แต่ไม่นับรวมลูกค้าของ AHH Clinics
3 จำนวนลูกค้าจะนับรวมลูกค้าของคลินิกแบรนด์ SBC, Rize Clinic และ Gorilla Clinic แต่ไม่นับรวมลูกค้าของ AHH Clinics และไม่รวมการให้คำปรึกษาฟรี

Yoshiyuki Aikawa ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ SBC Medical กล่าวว่า “SBC กำลังเตรียมการอย่างแข็งขันสำหรับการขยายตัวเชิงกลยุทธ์โดยการปรับปรุงแพลตฟอร์ม เพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างผลกำไร และทำให้ธุรกิจมีความมั่นคงผ่านกลยุทธ์ราคาที่ปรับปรุงใหม่และปรับตัวตามพลวัตของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ในไตรมาสแรกของปี 2025 เรายินดีที่ได้เห็นการขยายตัวของ Medical Corporations (MCs) ได้รับความสนใจในกลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์ ​​การจัดซื้อ และการให้เช่าของเรา เนื่องจากความต้องการบริการทางการแพทย์ด้านความงามทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน การลดลงของรายได้ในไตรมาสนี้สะท้อนถึงการยุติธุรกิจจัดหาพนักงานและการขายกิจการ Sky Net Academy (“SNA”) และ SBC Kijimadaira Resort เป็นหลัก (“Kijimadaira”) ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงนี้ อัตรากำไรจากการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นจาก 45% ในไตรมาสแรกของปี 2024 เป็น 51% ในไตรมาสแรกของปี 2025 นอกจากนี้ รายได้สุทธิที่เป็นของ SBC Medical Group ยังเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของการเปลี่ยนแปลงและการดำเนินการตามรูปแบบธุรกิจของเรา ในขณะที่เราเดินหน้าต่อไป เรายังคงมั่นใจในความสามารถของเราในการสร้างรูปแบบแฟรนไชส์ที่ปรับขนาดได้ ขณะเดียวกันก็เร่งการขยายตัวในตลาดในประเทศและต่างประเทศ ขับเคลื่อนมูลค่าระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้นและวางตำแหน่งให้บริษัทสามารถคว้าโอกาสในอนาคตได้”

ผลประกอบการทางการเงินไตรมาสแรกของปี 2025

รายได้รวมอยู่ที่ 47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งสะท้อนถึงผลกระทบเชิงลบจากการยุติธุรกิจจัดหาพนักงานและการขายบริษัทย่อย ซึ่งถูกชดเชยบางส่วนจากความต้องการวัสดุและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของบริษัททางการแพทย์

กำไรสุทธิสำหรับสามเดือนที่สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2025 อยู่ที่ 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับ 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเดียวกันของปี 2024 การเพิ่มขึ้นนี้ส่วนใหญ่มาจากผลกระทบของกำไรพิเศษที่เกี่ยวข้องกับการครบกำหนดของกรมธรรม์ประกันชีวิต

EBITDA อยู่ที่ 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ที่ลดลงหลังจากการยุติธุรกิจจัดหาพนักงานและการเลิกรวมกิจการของ SNA และ Kijimadaira

เกี่ยวกับ SBC Medical

SBC Medical ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองเออร์ไวน์ รัฐแคลิฟอร์เนีย และกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นเจ้าของและให้บริการจัดการและผลิตภัณฑ์แก่ศูนย์รักษาความงาม บริษัทมุ่งเน้นในการให้บริการจัดการที่ครอบคลุมแก่คลินิกแฟรนไชส์เป็นหลัก ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงความต้องการด้านการโฆษณาและการตลาดบนแพลตฟอร์มต่างๆ (เช่น เครือข่ายโซเชียลมีเดีย) การจัดการพนักงาน (เช่น การสรรหาและการฝึกอบรม) การจองสำหรับลูกค้าของคลินิกแฟรนไชส์ ​​ความช่วยเหลือในการเช่าที่พักและการเช่าสถานที่สำหรับพนักงานแฟรนไชส์ ​​การก่อสร้างและการออกแบบคลินิกแฟรนไชส์ ​​การจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์และวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ (การขายต่อ) การจัดหาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางให้กับคลินิกแฟรนไชส์เพื่อขายต่อให้กับลูกค้าของคลินิก ใบอนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่อยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตรและยังไม่ได้จดสิทธิบัตร การใช้เครื่องหมายการค้าและตราสินค้า โซลูชันซอฟต์แวร์ไอที (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการปรึกษาทางการแพทย์ทางไกล) การจัดการโปรแกรมสะสมคะแนนสำหรับลูกค้าของคลินิกแฟรนไชส์ ​​(โปรแกรมสะสมคะแนนสำหรับลูกค้า) และเครื่องมือการชำระเงินสำหรับคลินิกแฟรนไชส์

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ https://sbc-holdings.com/

การใช้มาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP

บริษัทใช้มาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP เช่น EBITDA ในการประเมินผลการดำเนินงานและเพื่อวัตถุประสงค์ในการตัดสินใจทางการเงินและการดำเนินงาน บริษัทเชื่อว่ามาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP ช่วยระบุแนวโน้มพื้นฐานในธุรกิจ บริษัทเชื่อว่ามาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับผลการดำเนินงานของบริษัท ช่วยเพิ่มความเข้าใจโดยรวมเกี่ยวกับประสิทธิภาพในอดีตและแนวโน้มในอนาคตของบริษัท และทำให้มองเห็นตัวชี้วัดหลักที่ฝ่ายบริหารของบริษัทใช้ในการตัดสินใจทางการเงินและการดำเนินงานได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

มาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP ไม่ได้ถูกกำหนดไว้ภายใต้ U.S. GAAP และไม่ได้ถูกนำเสนอตาม U.S. GAAP มาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP มีข้อจำกัดในการใช้เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ และเมื่อประเมินผลการดำเนินงาน กระแสเงินสด หรือสภาพคล่องของบริษัท นักลงทุนไม่ควรพิจารณามาตรการเหล่านี้โดยแยกส่วนหรือใช้แทนการขาดทุนสุทธิ กระแสเงินสดที่ได้จากกิจกรรมการดำเนินงาน หรืองบกำไรขาดทุนรวมและข้อมูลกระแสเงินสดอื่นๆ ที่จัดทำตาม U.S. GAAP

บริษัทบรรเทาข้อจำกัดเหล่านี้โดยการปรับมาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP ให้สอดคล้องกับมาตรการประสิทธิภาพตาม U.S. GAAP ที่สามารถเปรียบเทียบได้มากที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้ควรนำมาพิจารณาเมื่อประเมินประสิทธิภาพของบริษัท

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP โปรดดูตารางที่หัวข้อ “การปรับปรุงผลการดำเนินงานที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบตาม GAAP และผลการดำเนินงานที่ไม่ใช่ GAAP”

คำชี้แจงเชิงคาดการณ์

ข่าวเผยแพร่ฉบับนี้มีคำกล่าวที่มองไปข้างหน้า คำกล่าวที่มองไปข้างหน้าไม่ใช่ข้อเท็จจริงในอดีตหรือคำกล่าวที่แสดงถึงสภาพปัจจุบัน แต่เป็นเพียงความเชื่อของบริษัทเกี่ยวกับเหตุการณ์และผลการดำเนินงานในอนาคต ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วหลายกรณีมีความไม่แน่นอนโดยเนื้อแท้และอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท คำกล่าวที่มองไปข้างหน้าเหล่านี้สะท้อนมุมมองปัจจุบันของบริษัทเกี่ยวกับประสิทธิภาพทางการเงินของบริษัท การเติบโตของรายได้และกำไร แนวโน้มและโอกาสทางธุรกิจ แผนการจัดสรรเงินทุนและสภาพคล่อง ในบางกรณี คำกล่าวที่มองไปข้างหน้าสามารถระบุได้โดยการใช้คำ เช่น “อาจ” “ควร” “คาดหวัง” “คาดการณ์ล่วงหน้า” “พิจารณา” “ประมาณการ” “เชื่อว่า” “วางแผน” “คาดการณ์” “ทำนาย” “ศักยภาพ” หรือ “หวัง” หรือคำเชิงลบของคำเหล่านี้หรือคำที่คล้ายคลึงกัน บริษัทขอเตือนผู้อ่านอย่าพึ่งพาคำกล่าวที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าอย่างมากเกินไป ซึ่งเป็นข้อมูลล่าสุดในวันที่เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เท่านั้น และอาจมีความเสี่ยง ความไม่แน่นอน สมมติฐาน หรือการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ต่างๆ ที่ยากต่อการคาดเดาหรือวัดผลได้ คำกล่าวที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้มีพื้นฐานมาจากการคาดการณ์ปัจจุบันของฝ่ายบริหาร และไม่รับประกันผลการดำเนินงานในอนาคต บริษัทไม่ดำเนินการหรือยอมรับภาระผูกพันใดๆ ที่จะเผยแพร่ข้อมูลอัปเดตหรือแก้ไขคำกล่าวที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าต่อสาธารณะเพื่อสะท้อนการเปลี่ยนแปลงในการคาดการณ์ของบริษัทหรือการเปลี่ยนแปลงในเหตุการณ์ เงื่อนไข หรือสถานการณ์ที่คำกล่าวดังกล่าวอ้างอิง ยกเว้นในกรณีที่กฎหมายกำหนด ปัจจัยที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างไปจากการคาดการณ์ปัจจุบันอย่างมากอาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว และบริษัทไม่สามารถคาดการณ์ปัจจัยทั้งหมดได้ ปัจจัยดังกล่าวรวมถึงการเปลี่ยนแปลงในระดับโลก ระดับภูมิภาค หรือระดับท้องถิ่น สภาวะเศรษฐกิจ ธุรกิจ การแข่งขัน การตลาด และกฎระเบียบ และปัจจัยต่างๆ ที่ระบุไว้ภายใต้หัวข้อ “ปัจจัยเสี่ยง” และในที่อื่นๆ ในเอกสารที่บริษัทยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (the “SEC”) ซึ่งสามารถเข้าถึงได้บนเว็บไซต์ของ SEC ที่ www.sec.gov

SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED
งบดุลรวมที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ

 31 มีนาคม

 2025

 31 ธันวาคม

 2024

 สินทรัพย์

 สินทรัพย์หมุนเวียน:

เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด

$

132,055,823

$

125,044,092

บัญชีลูกหนี้

1,633,456

1,413,433

บัญชีลูกหนี้– กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

30,557,912

28,846,680

สินค้าคงเหลือ

1,694,765

1,494,891

ลูกหนี้สัญญาเช่าเงินทุน หมุนเวียน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

7,281,088

5,992,585

ลูกหนี้เงินให้กู้ยืมลูกค้า หมุนเวียน

8,903,724

10,382,537

ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าและสินทรัพย์หมุนเวียนอื่น

32,970,169

11,276,802

 รวมสินทรัพย์หมุนเวียน

 215,096,937

 184,451,020

 สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน:

ทรัพย์สินและอุปกรณ์สุทธิ

8,523,351

8,771,902

สินทรัพย์ไม่มีตัวตนสุทธิ

1,543,779

1,590,052

การลงทุนระยะยาวสุทธิ

3,703,699

3,049,972

ค่าความนิยมสุทธิ

4,780,616

4,613,784

ลูกหนี้สัญญาเช่าเงินทุน ไม่หมุนเวียน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

10,648,402

8,397,582

สินทรัพย์สิทธิการใช้สัญญาเช่าดําเนินงาน

5,152,104

5,267,056

สินทรัพย์สิทธิการใช้สัญญาเช่าทางการเงิน

522,055

สินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี

2,513,653

9,798,071

ลูกหนี้เงินให้กู้ยืมลูกค้า ไม่หมุนเวียน

4,525,883

5,023,551

การชําระคืนเงินต้นล่วงหน้าระยะยาว

1,922,709

1,745,801

การลงทุนระยะยาวใน MCs – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

18,691,785

17,820,910

สินทรัพย์อื่น

6,980,816

15,553,453

 รวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน

 69,508,852

 81,632,134

 รวมสินทรัพย์

 $

 284,605,789

 $

 266,083,154

 หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น

 หนี้สินหมุนเวียน:

บัญชีเจ้าหนี้

$

17,854,422

$

13,875,179

บัญชีเจ้าหนี้ – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

1,141,762

659,044

ส่วนของเงินกู้ยืมระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายใน 1 ปี

66,950

96,824

ตั๋วเงินและเจ้าหนี้อื่นหมุนเวียน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

1,422,976

26,255

รายได้รับล่วงหน้าจากลูกค้า

525,497

820,898

รายได้รับล่วงหน้าจากลูกค้า – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

10,155,134

11,739,533

ภาษีเงินได้ค้างจ่าย

1,624,002

18,705,851

หนี้สินตามสัญญาเช่าดําเนินงาน หมุนเวียน

4,131,154

4,341,522

หนี้สินตามสัญญาเช่าทางการเงิน หมุนเวียน

157,532

หนี้สินค้างจ่ายและหนี้สินหมุนเวียนอื่น

8,564,250

8,103,194

เจ้าหนี้จากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน

2,822,537

2,823,590

 รวมหนี้สินหมุนเวียน

 48,466,216

 61,191,890

SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED
งบดุลรวมที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ — (ต่อ)

 31 มีนาคม

 2025

 31 ธันวาคม

 2024

 หนี้สินไม่หมุนเวียน:

เงินให้กู้ยืมระยะยาว

6,798,045

6,502,682

ตั๋วเงินและเจ้าหนี้อื่นไม่หมุนเวียน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

12,413

5,334

หนี้สินภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี

346,432

926,023

หนี้สินตามสัญญาเช่าดําเนินงาน ไม่หมุนเวียน

1,312,819

1,241,526

หนี้สินตามสัญญาเช่าทางการเงิน ไม่หมุนเวียน

195,572

หนี้สินอื่น

1,151,857

1,193,541

 รวมหนี้สินไม่หมุนเวียน

 9,817,138

 9,869,106

 รวมหนี้สิน

 58,283,354

 71,060,996

 ส่วนของผู้ถือหุ้น:

หุ้นบุริมสิทธิ (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.0001 ดอลลาร์สหรัฐ จำนวนหุ้นที่ได้รับอนุญาต 20,000,000 หุ้น ไม่มีหุ้นที่ออกและชำระแล้ว ณ วันที่ 31 มีนาคม 2025 และ 31 ธันวาคม 2024)

หุ้นสามัญ (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.0001 ดอลลาร์สหรัฐ จำนวนหุ้นที่ได้รับอนุญาต 400,000,000 หุ้น หุ้นที่ออกและชำระแล้ว 103,881,251 และ 103,020,816 หุ้น, 103,611,251 และ 102,750,816 หุ้น ณ วันที่ 31 มีนาคม 2025 และ 31 ธันวาคม 2024 ตามลำดับ)

10,388

10,302

ส่วนเกิน (ต่ำกว่า) มูลค่าหุ้น

62,513,837

62,513,923

หุ้นทุนซื้อคืน (ราคาทุน 270,000 หุ้น ณ วันที่ 31 มีนาคม 2025 และ 31 ธันวาคม 2024)

(2,700,000

)

(2,700,000

)

กำไรสะสม

210,965,453

189,463,007

ขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่นสะสม

(44,343,412

)

(54,178,075

)

 รวมส่วนของผู้ถือหุ้นของ SBC Medical Group Holdings Incorporated

 226,446,266

 195,109,157

ส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม

(123,831

)

(86,999

)

 รวมส่วนของผู้ถือหุ้น

 226,322,435

 195,022,158

 รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น

 $

 284,605,789

 $

 266,083,154

หมายเหตุประกอบเป็นส่วนสำคัญของงบการเงินรวมที่ไม่ได้รับการตรวจสอบนี้

SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED
งบกำไรขาดทุนรวมและ
งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ

 สําหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่
 31 มีนาคม

 2025

 2024

รายได้สุทธิ – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

$

45,257,145

$

50,470,207

รายได้สุทธิ

2,071,556

4,337,835

 รวมรายได้สุทธิ

 47,328,701

 54,808,042

ต้นทุนรายได้ (รวมต้นทุนรายได้จากกิจการที่เกี่ยวข้องกันจำนวน 3,456,928 ดอลลาร์สหรัฐและ 1,797,359 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับงวดสามเดือนที่สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2025 และ 2024 ตามลำดับ)

9,595,617

15,288,667

 กําไรขั้นต้น

 37,733,084

 39,519,375

 ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงาน:

ค่าใช้จ่ายในการขาย ค่าใช้จ่ายทั่วไปและการบริหาร

13,531,010

15,058,490

 รวมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

 13,531,010

 15,058,490

 รายได้จากการดำเนินงาน

 24,202,074

 24,460,885

 รายได้อื่น (ค่าใช้จ่าย):

Iรายได้จากดอกเบี้ย รายได้จากดอกเบี้ย รายได้จากดอกเบี้ย

55,333

17,689

ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย

(6,207

)

(3,008

)

รายได้อื่น รายได้อื่น รายได้อื่น

151,328

349,681

ค่าใช้จ่ายอื่น

(1,697,259

)

(1,436,656

)

กำไรจากการไถ่ถอนกรมธรรม์ประกันชีวิต

8,746,138

กําไรจากการจําหน่ายของบริษัทย่อย

3,813,609

 รวมรายได้อื่น

 7,249,333

 2,741,315

 กำไรก่อนภาษีเงินได้

 31,451,407

 27,202,200

ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้

9,959,457

8,451,984

 กำไรสุทธิ

 21,491,950

 18,750,216

หัก: ขาดทุนสุทธิที่เกิดจากส่วนได้เสียที่ไม่มีอํานาจควบคุม

(10,496

)

(7,536

)

 กําไรสุทธิที่เป็นของ SBC Medical Group Holdings Incorporated

 $

 21,502,446

 $

 18,757,752

 กําไร (ขาดทุน) เบ็ดเสร็จอื่น:

ส่วนปรับปรุงจากการแปลงค่าสกุลเงินต่างประเทศ

$

9,808,327

$

(10,193,852

)

 รวมกําไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ

 31,300,277

 8,556,364

หัก: ขาดทุนเบ็ดเสร็จที่เกิดจากส่วนได้เสียที่ไม่มีอํานาจควบคุม

(36,832

)

(92,000

)

 กําไรขาดทุนเบ็ดเสร็จที่เป็นของ SBC Medical Group Holdings Incorporated

 $

 31,337,109

 $

 8,648,364

 กําไรสุทธิต่อหุ้นที่เป็นของ SBC Medical Group Holdings Incorporated*

กำไรต่อหุ้นพื้นฐานและปรับลดแล้ว

$

0.21

$

0.20

 จำนวนหุ้นเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักที่ชำระแล้ว*

จำนวนหุ้นพื้นฐานและปรับลดแล้ว

103,276,637

94,192,433

*

ปรับปรุงย้อนหลังสําหรับผลกระทบของการเพิ่มทุนแบบย้อนกลับในวันที่ 17 กันยายน 2024

หมายเหตุประกอบเป็นส่วนสำคัญของงบการเงินรวมที่ไม่ได้รับการตรวจสอบนี้

SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED
งบกระแสเงินสดรวมที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ

 สําหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่

 31 มีนาคม

 2025

 2024

 กระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงาน

กำไรสุทธิ

$

21,491,950

$

18,750,216

 การปรับเพื่อกระทบยอดกำไรสุทธิกับเงินสดสุทธิที่ได้จากกิจกรรมดําเนินงาน:

ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจําหน่าย

628,304

1,018,477

ค่าใช้จ่ายการเช่าที่ไม่ใช่เงินสด

985,184

1,052,123

สํารองเผื่อขาดทุนสินเชื่อ

25,102

152,579

การเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนระยะยาว

140,581

938,511

กําไรจากการจําหน่ายของบริษัทย่อย

(3,813,609

)

กำไรจากการไถ่ถอนกรมธรรม์ประกันชีวิต

(8,746,138

)

กำไรจากการจำหน่ายทรัพย์สินและอุปกรณ์

(12,375

)

ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้รอตัดบัญชี (ผลประโยชน์)

7,016,227

(360,582

)

 การเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์และหนี้สินจากการดําเนินงาน

บัญชีลูกหนี้

(147,925

)

(383,254

)

บัญชีลูกหนี้ – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

(295,505

)

4,775,935

สินค้าคงเหลือ

(124,279

)

(34,802

)

ลูกหนี้สัญญาเช่าทางการเงิน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

(2,779,253

)

(814,608

)

ลูกหนี้สินเชื่อของลูกค้า

4,501,760

2,858,633

ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าและสินทรัพย์หมุนเวียนอื่น   

(3,150,243

)

610,059

การชําระคืนเงินต้นล่วงหน้าระยะยาว

98,164

138,212

สินทรัพย์อื่น

318,351

(328,818

)

บัญชีเจ้าหนี้

3,235,017

(8,937,435

)

บัญชีเจ้าหนี้ – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

441,481

ตั๋วเงินจ่าย – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

(548,077

)

(1,104,968

)

รายได้รับล่วงหน้าจากลูกค้า

(328,791

)

(1,451,008

)

รายได้รับล่วงหน้าจากลูกค้า – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

(2,114,829

)

(161,936

)

ภาษีเงินได้ค้างจ่าย

(17,635,239

)

(6,552,783

)

หนี้สินตามสัญญาเช่าดําเนินงาน

(1,036,605

)

(1,067,196

)

หนี้สินค้างจ่ายและหนี้สินหมุนเวียนอื่น

63,764

(1,604,603

)

หนี้สินอื่น

(98,005

)

3,032

 เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดําเนินงาน

 1,928,621

 3,682,175

 กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุน

การซื้อทรัพย์สินและอุปกรณ์

(253,725

)

(702,281

)

การซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพ

(1,700,000

)

การชําระคืนเงินต้นล่วงหน้าสําหรับทรัพย์สินและอุปกรณ์

(501,253

)

รายได้รับล่วงหน้าจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน

(367,579

)

การซื้อเงินลงทุนระยะยาว

(635,145

)

เงินกู้ยืมระยะยาวแก่ผู้อื่น

(12,783

)

(44,865

)

การชําระคืนจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน

70,000

215,000

การชําระคืนจากผู้อื่น

30,680

21,422

การจําหน่ายบริษัทย่อย สุทธิจากเงินสดที่จําหน่ายไป

(815,819

)

รายได้จากการจําหน่ายทรัพย์สินและอุปกรณ์

323,419

 เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน

 (978,807

 )

 (3,394,122

 )

SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED
งบกระแสเงินสดรวมที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ — (ต่อ)

 สําหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่
31 มีนาคม

 2025

 2024

 กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน

การกู้ยืมจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน

15,000

การชําระคืนเงินกู้ยืมระยะยาว

(55,873

)

(30,354

)

การชำระคืนหนี้สินเช่าซื้อทางการเงิน

(223,454

)

การชําระคืนให้แก่กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

(16,053

)

(9,873

)

 เงินสดสุทธิจากกิจกรรมจัดหาเงิน

 (280,380

 )

 (40,227

 )

ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

6,342,297

(7,089,208

)

 เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดที่เพิ่มขึ้นสุทธิ

 7,011,731

 (6,841,382

 )

 เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ ต้นงวด

 125,044,092

 103,022,932

 เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ สิ้นงวด

 $

 132,055,823

 $

 96,181,550

 การเปิดเผยข้อมูลกระแสเงินสดเพิ่มเติม

เงินสดที่จ่ายดอกเบี้ยจ่าย

$

6,207

$

3,008

เงินสดที่จ่ายภาษีเงินได้

$

20,577,290

$

16,172,526

 กิจกรรมจัดหาเงินและกิจกรรมลงทุนที่ไม่ใช่เงินสด

ทรัพย์สินและอุปกรณ์ที่โอนจากการชําระคืนเงินต้นล่วงหน้าระยะยาว

$

125,287

$

สินทรัพย์สิทธิการเช่าดําเนินงานที่ได้รับจากการแลกเปลี่ยนกับหนี้สินตามสัญญาเช่าดําเนินงาน

$

102,599

$

สินทรัพย์สิทธิการเช่าทางการเงินที่ได้รับจากการแลกเปลี่ยนกับหนี้สินตามสัญญาเช่าทางการเงิน

$

581,129

$

การวัดค่ามูลค่าใหม่ของหนี้สินตามสัญญาเช่าดำเนินงานและสินทรัพย์สิทธิการใช้อันเนื่องมาจากการแก้ไขสัญญาเช่า

$

358,358

$

1,078,611

การออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกันที่เกี่ยวข้องในการให้บริการสินเชื่อ

$

1,922,224

$

10,951,451

การออกหุ้นสามัญเป็นหุ้นจูงใจ

$

86

$

รายรับจากการไถ่ถอนกรมธรรม์ประกันชีวิต

$

17,735,717

$

หมายเหตุประกอบเป็นส่วนสำคัญของงบการเงินรวมที่ไม่ได้รับการตรวจสอบนี้

การกระทบยอดระหว่าง GAAP กับมาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP

SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED
การกระทบยอดผลลัพธ์ของ GAAP และ Non-GAAP ที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ

 สําหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม

 2025

 2024

รายได้รวมสุทธิ

$

47,328,701

$

54,808,042

รายได้จากการดำเนินงาน

24,202,074

24,460,885

ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจําหน่าย

628,304

1,018,477

 EBITDA

24,830,378

25,479,362

 EBITDA margin

52

%

46

%

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ในเอเชีย:
SBC Medical Group Holdings Incorporated
Hikaru Fukui / หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์
อีเมล: ir@sbc-holdings.com

ในสหรัฐอเมริกา:
ICR LLC
Bill Zima / หุ้นส่วนผู้จัดการ
อีเมล: bill.zima@icrinc.com

ที่มา: SBC Medical Group Holdings Incorporated