Category Archives: Finance

Blackstone และ TPG เข้าซื้อกิจการของ Hologic ด้วยราคาสูงถึง 79 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น

Logo

ผู้ถือหุ้นของ Hologic จะได้รับเงินสด 76 เหรียญสหรัฐต่อหุ้นพร้อมสิทธิในมูลค่าตามเงื่อนไขสูงสุด 3 เหรียญสหรัฐต่อหุ้นเมื่อบรรลุเป้าหมายรายได้ที่กำหนด

คิดเป็น 46% ของมูลค่าพรีเมียมจากราคาปิดของ Hologic ในวันซื้อขายสุดท้ายก่อนรายงานข่าวเกี่ยวกับธุรกรรมที่เป็นไปได้

ธุรกรรมนี้รวมถึงการลงทุนส่วนน้อยที่สำคัญจาก ADIA และ GIC

ธุรกรรมนี้จะช่วยให้ Hologic เสริมสร้างความเป็นผู้นำในด้านสุขภาพสตรีและเร่งการเติบโต

MARLBOROUGH, Mass. & NEW YORK & SAN FRANCISCO & FORT WORTH, Texas–(BUSINESS WIRE)–21 ตุลาคม 2025

Hologic, Inc. (Nasdaq: HOLX) ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้เข้าสู่ข้อตกลงขั้นสุดท้ายในการเข้าซื้อกิจการโดยกองทุนที่บริหารจัดการโดย Blackstone (“Blackstone”) และ TPG ในการทำธุรกรรมที่มีมูลค่าสูงถึง 79 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากิจการสูงถึง 18,300 ล้านเหรียญสหรัฐ1

ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงนี้ Blackstone และ TPG จะเข้าซื้อหุ้น Hologic ที่ยังคงค้างอยู่ทั้งหมดในราคาหุ้นละ 76 ดอลลาร์สหรัฐ บวกกับสิทธิในมูลค่าตามสัญญาที่ไม่สามารถซื้อขายได้ (CVR) เพื่อรับหุ้นสูงสุด 3 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น โดยแบ่งจ่ายเป็นสองงวดๆ ละไม่เกิน 1.50 เหรียญสหรัฐ รวมเป็นเงินสดทั้งสิ้นไม่เกิน 79 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น CVR ที่ไม่สามารถซื้อขายได้นี้จะออกให้แก่ผู้ถือหุ้น Hologic ณ เวลาปิดการซื้อขาย และจะชำระคืนทั้งหมดหรือบางส่วนหลังจากบรรลุเป้าหมายรายได้ทั่วโลกบางประการสำหรับธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพเต้านมของ Hologic ในปีงบประมาณ 2026 และ 2027

ราคาซื้อรวมนี้คิดเป็นมูลค่าเพิ่มประมาณ 46% ของราคาปิดของ Hologic ณ วันที่ 23 พฤษภาคม 2025 ซึ่งเป็นวันซื้อขายเต็มวันสุดท้ายก่อนที่จะมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการทำธุรกรรมที่อาจเกิดขึ้นกับ Hologic ธุรกรรมนี้รวมถึงการลงทุนในส่วนน้อยจำนวนมากจากบริษัทย่อยที่ Abu Dhabi Investment Authority (“ADIA”) และบริษัทในเครือของ GIC

“วันนี้ถือเป็นบทใหม่ที่น่าตื่นเต้นสำหรับ Hologic ขณะที่เราผนึกกำลังกับทีมงานที่ยอดเยี่ยมของ Blackstone และ TPG” Stephen P. MacMillan ประธาน กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Hologic กล่าว “ด้วยทรัพยากร ความเชี่ยวชาญ และความมุ่งมั่นในการดูแลสุขภาพสตรี Blackstone และ TPG จะช่วยเร่งการเติบโตของเราและเพิ่มขีดความสามารถในการส่งมอบเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่สำคัญให้แก่ลูกค้าและผู้ป่วยทั่วโลก ธุรกรรมนี้มอบคุณค่าที่คุ้มค่าและรวดเร็วให้กับผู้ถือหุ้นของ Hologic ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทของพนักงานของเราที่ทุ่มเททำงานอย่างหนักจนทำให้เหตุการณ์สำคัญนี้เกิดขึ้นได้”

Ram Jagannath กรรมการผู้จัดการอาวุโสของ Blackstone กล่าวว่า “Hologic เป็นผู้นำระดับโลกที่โดดเด่นในการพัฒนาสุขภาพสตรี ด้วยชื่อเสียงอันยาวนานในด้านอุปกรณ์การแพทย์และผลิตภัณฑ์วินิจฉัยโรคคุณภาพสูงและล้ำสมัย เราติดตามบริษัทอย่างใกล้ชิดมาหลายปี และชื่นชมผลกระทบเชิงบวกที่เทคโนโลยีอันเปลี่ยนแปลงชีวิตของบริษัทมีต่อผู้ป่วยหลายล้านคนทั่วโลก เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับพนักงานที่มีความสามารถและความสามารถสูง ควบคู่ไปกับ TPG เพื่อลงทุนในการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์และการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ Hologic ต่อไป”

“ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมของ Hologic กำลังพัฒนาการตรวจจับและการดูแลเพื่อพัฒนาผลลัพธ์ด้านสุขภาพสำหรับผู้หญิงทั่วโลก” John Schilling ผู้อำนวยการบริหาร หุ้นส่วนผู้จัดการร่วมของ TPG Capital กล่าว “การลงทุนในนวัตกรรมการดูแลสุขภาพเป็นหัวใจสำคัญของ TPG มานานหลายทศวรรษ และ Hologic ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะดึงความเชี่ยวชาญเชิงลึกของเรามาสนับสนุนการพัฒนาโซลูชันยุคใหม่ที่จะส่งเสริมผลลัพธ์ทางคลินิกที่แข็งแกร่งและยกระดับการดูแลผู้ป่วยต่อไป เราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับทีมงาน Hologic และ Blackstone ในบทใหม่ที่น่าตื่นเต้นนี้”

การอนุมัติ เวลา และรายละเอียดธุรกรรม

คาดว่า ธุรกรรมนี้จะเสร็จสิ้นภายในครึ่งแรกของปีปฏิทิน 2026 โดยขึ้นอยู่กับการอนุมัติของผู้ถือหุ้นของ Hologic การได้รับการอนุมัติตามกฎระเบียบที่จำเป็น และการปฏิบัติตามเงื่อนไขการปิดบัญชีอื่นๆ ตามปกติ คณะกรรมการบริหารของ Hologic ได้มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติข้อตกลงการควบรวมกิจการ และขอแนะนำให้ผู้ถือหุ้นของ Hologic ลงคะแนนเสียงเพื่ออนุมัติธุรกรรมและรับรองข้อตกลงการควบรวมกิจการ

Blackstone และ TPG ได้รับเงินทุนสนับสนุนสำหรับธุรกรรมนี้แล้ว โดยได้ส่งมอบหนังสือแสดงเจตจำนงทางการเงินจาก Citi, Bank of America, Barclays, Royal Bank of Canada และ SMBC ให้แก่ Hologic และหนังสือแสดงเจตจำนงทางการเงินจากกองทุนต่างๆ ที่ Blackstone และ TPG ให้คำแนะนำ ซึ่งเมื่อพิจารณาจากงบดุลของบริษัทแล้ว ถือว่าเพียงพอสำหรับเงินทุนสำหรับราคาซื้อกิจการและชำระค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง ณ วันปิดบัญชี คาดว่ากลยุทธ์การลงทุนในหุ้นเอกชนของ Blackstone สำหรับนักลงทุนรายย่อยจะเป็นส่วนหนึ่งของธุรกรรมนี้เช่นกัน TPG กำลังลงทุนใน Hologic ผ่านทาง TPG Capital ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการลงทุนในหุ้นเอกชนของบริษัทในสหรัฐอเมริกาและยุโรป

เมื่อธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์ จะมีการถอดหุ้นสามัญของ Hologic ออกจากตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq บริษัทจะยังคงมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมือง Marlborough รัฐ Massachusetts และจะยังคงดำเนินงานภายใต้ชื่อและแบรนด์ Hologic ต่อไป

ข้อตกลงการควบรวมกิจการประกอบด้วยระยะเวลา “go-shop” 45 วัน ซึ่งในระหว่างนั้น Hologic และที่ปรึกษาอาจขอ พิจารณา และเจรจาข้อเสนอการเข้าซื้อกิจการทางเลือกอื่นจากบุคคลที่สาม คณะกรรมการบริหารของ Hologic มีสิทธิ์ยกเลิกข้อตกลงการควบรวมกิจการเพื่อเข้าทำธุรกรรมที่ให้ข้อเสนอที่เหนือกว่า โดยอยู่ภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขของข้อตกลงการควบรวมกิจการ ไม่สามารถรับประกันได้ว่ากระบวนการนี้จะส่งผลให้เกิดข้อเสนอที่เหนือกว่าหรือไม่ Hologic ไม่มีเจตนาที่จะเปิดเผยข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับกระบวนการนี้ เว้นแต่และจนกว่า Hologic จะพิจารณาว่าการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวมีความเหมาะสมหรือจำเป็น

ผลประกอบการทางการเงินไตรมาสที่สี่ของ Hologic

ตามที่ประกาศเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม Hologic วางแผนที่จะรายงานผลประกอบการทางการเงินสำหรับไตรมาสที่สี่ของปีงบประมาณ 2025 ผ่านทางข่าวประชาสัมพันธ์ในวันที่ 3 พฤศจิกายน เนื่องจากธุรกรรมที่ประกาศในวันนี้ Hologic ไม่มีเจตนาที่จะให้คำแนะนำทางการเงินสำหรับปีงบประมาณ 2026 ในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับต่อไป นอกจากนี้ Hologic ยังไม่มีแผนที่จะประชุมผู้ถือหุ้นใดๆ ในระหว่างที่ธุรกรรมยังอยู่ระหว่างการพิจารณา บริษัทวางแผนที่จะยื่นแบบฟอร์ม 10-K สำหรับปีงบประมาณ 2025 ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ในปลายเดือนพฤศจิกายน

ที่ปรึกษา

Goldman Sachs & Co. LLC ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแต่เพียงผู้เดียวให้กับ Hologic และ Wachtell, Lipton, Rosen & Katz ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมายให้กับบริษัท Citi ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแต่เพียงผู้เดียว Kirkland & Ellis LLP ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมาย และ Ropes & Gray ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านกฎระเบียบด้านการดูแลสุขภาพให้กับกลุ่มบริษัทที่นำโดย Blackstone และ TPG

เกี่ยวกับ Hologic

Hologic, Inc. เป็นผู้นำระดับโลกด้านสุขภาพสตรี ที่มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ​​ซึ่งสามารถตรวจจับ วินิจฉัย และรักษาโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมยกระดับมาตรฐานการดูแลรักษาทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Hologic โปรดเยี่ยมชม www.hologic.com

เกี่ยวกับ Blackstone

Blackstone คือผู้จัดการสินทรัพย์ทางเลือกที่ใหญ่ที่สุดในโลก Blackstone มุ่งมั่นที่จะสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจให้กับนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย ด้วยการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทที่บริษัทลงทุน สินทรัพย์ภายใต้การบริหารของ Blackstone มูลค่า 1.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบด้วยกลยุทธ์การลงทุนระดับโลกที่มุ่งเน้นด้านอสังหาริมทรัพย์ ไพรเวทอิควิตี้ สินเชื่อ โครงสร้างพื้นฐาน ชีววิทยาศาสตร์ หุ้นเติบโต กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.blackstone.com. ติดตาม @blackstone ที่ LinkedIn, X (Twitter), และ Instagram

เกี่ยวกับ TPG

TPG เป็นบริษัทจัดการสินทรัพย์ทางเลือกชั้นนำระดับโลก ก่อตั้งขึ้นที่ซานฟรานซิสโกในปี 1992 โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 261 พันล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมด้วยทีมลงทุนและทีมปฏิบัติการทั่วโลก TPG ลงทุนในกลยุทธ์ที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งการลงทุนในหุ้นเอกชน ผลกระทบ สินเชื่อ อสังหาริมทรัพย์ และโซลูชันทางการตลาด กลยุทธ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเราขับเคลื่อนด้วยความร่วมมือ นวัตกรรม และการมีส่วนร่วม ทีมงานของเราผสานรวมประสบการณ์อันล้ำลึกด้านผลิตภัณฑ์และภาคส่วนต่างๆ เข้ากับความสามารถและความเชี่ยวชาญที่กว้างขวาง เพื่อพัฒนาข้อมูลเชิงลึกที่แตกต่าง และเพิ่มมูลค่าให้กับนักลงทุนกองทุน บริษัทในเครือ ทีมผู้บริหาร และชุมชนของเรา

ประกาศเกี่ยวกับข้อความเชิงคาดการณ์

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วย “ข้อความเชิงคาดการณ์” ตามความหมายของบทบัญญัติ “Safe Harbor” ของพระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคลของสหรัฐอเมริกา ปี 1995 ข้อความเชิงคาดการณ์อาจระบุได้โดยใช้คำต่างๆ เช่น “อาจจะ” “จะ” “ควร” “อาจจะ” “จะ” “คาดหวัง” “วางแผน” “ตั้งใจ” “คาดการณ์ล่วงหน้า” “เชื่อว่า” “ประมาณการ” “คาดการณ์” “คาดการณ์” “คาดการณ์” “มีแนวโน้ม” “อนาคต” “กลยุทธ์” “ศักยภาพ” “แสวงหา” “เป้าหมาย” หรือสำนวนอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งทำนายหรือบ่งชี้เหตุการณ์หรือแนวโน้มในอนาคต หรือไม่ใช่ข้อความที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีต ข้อความเชิงคาดการณ์เหล่านี้รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง ข้อความเกี่ยวกับผลประโยชน์และระยะเวลาในการปิดการควบรวมกิจการ ข้อความเชิงคาดการณ์เหล่านี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ Hologic กำหนดขึ้น ณ วันที่ระบุในที่นี้ และอยู่ภายใต้ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนทั้งที่ทราบและไม่ทราบ ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างอย่างมากจากที่คาดการณ์ไว้

ข้อความเชิงคาดการณ์เหล่านี้อาจมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนหลายประการที่อาจส่งผลเสียต่อธุรกิจและโอกาสทางธุรกิจของ Hologic และทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างไปจากที่คาดการณ์ไว้อย่างมาก ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ระยะเวลา การได้รับ และข้อกำหนดและเงื่อนไขของการอนุมัติจากหน่วยงานรัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลที่จำเป็นใดๆ สำหรับธุรกรรมที่เสนอ ซึ่งอาจทำให้การดำเนินการตามธุรกรรมที่เสนอล่าช้าหรือทำให้คู่สัญญาฝ่ายต่างๆ ยกเลิกธุรกรรมที่เสนอ การเกิดขึ้นของเหตุการณ์ การเปลี่ยนแปลง หรือสถานการณ์อื่นใดที่อาจทำให้ข้อตกลงการควบรวมกิจการที่ทำขึ้นเกี่ยวกับธุรกรรมที่เสนอสิ้นสุดลง ความเป็นไปได้ที่ผู้ถือหุ้นของ Hologic อาจไม่อนุมัติธุรกรรมที่เสนอ ความเสี่ยงที่คู่สัญญาฝ่ายต่างๆ ในข้อตกลงการควบรวมกิจการอาจไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขของธุรกรรมที่เสนอได้ทันเวลาหรือไม่สามารถปฏิบัติตามได้เลย ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการหยุดชะงักของเวลาบริหารจัดการจากการดำเนินธุรกิจที่กำลังดำเนินอยู่อันเนื่องมาจากธุรกรรมที่เสนอ ความเสี่ยงที่การประกาศใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมที่เสนออาจส่งผลกระทบในทางลบต่อราคาตลาดของหุ้นสามัญของ Hologic ความเสี่ยงจากต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดใดๆ อันเป็นผลมาจากธุรกรรมที่เสนอ ความเสี่ยงจากการฟ้องร้องใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมที่เสนอ ความเสี่ยงที่ธุรกรรมที่เสนอและการประกาศอาจส่งผลกระทบในทางลบต่อความสามารถของ Hologic ในการรักษาและจ้างบุคลากรสำคัญ และการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า ผู้ขาย พันธมิตร พนักงาน ผู้ถือหุ้น และความสัมพันธ์ทางธุรกิจอื่นๆ รวมถึงผลการดำเนินงานและธุรกิจโดยรวม และความเสี่ยงที่ผู้ถือหุ้น CVR จะได้รับเงินน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้สำหรับ CVR หลังจากธุรกรรมที่เสนอเสร็จสิ้น ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างอย่างมากจากผลลัพธ์ที่คาดการณ์ไว้ในข้อความเชิงคาดการณ์ รวมอยู่ในรายงานประจำปีของ Hologic ในแบบฟอร์ม 10-K สำหรับปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 28 กันยายน 2567 ซึ่งยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“ SEC ”) เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ปี 2024 รายงานประจำไตรมาสในแบบฟอร์ม 10-Q รายงานปัจจุบันในแบบฟอร์ม 8-K และเอกสารอื่นๆ ที่ Hologic ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) เป็นครั้งคราว เอกสารเหล่านี้ (หากมี) สามารถดูได้ที่ส่วนนักลงทุนสัมพันธ์บนเว็บไซต์ของ Hologic ที่ https://investors.hologic.com หรือบนเว็บไซต์ของ SEC ได้ที่ https://www.sec.gov หากความเสี่ยงใดๆ เหล่านี้เกิดขึ้นจริง หรือสมมติฐานใดๆ เหล่านี้พิสูจน์ได้ว่าไม่ถูกต้อง ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างอย่างมากจากผลลัพธ์ที่บ่งชี้โดยนัยในข้อความเชิงคาดการณ์เหล่านี้ อาจมีความเสี่ยงเพิ่มเติมที่ Hologic ไม่ทราบในปัจจุบัน หรือที่ Hologic เชื่อว่าไม่มีนัยสำคัญ ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างไปจากที่ระบุไว้ในข้อความเชิงคาดการณ์ ข้อความเชิงคาดการณ์ที่รวมอยู่ในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้จัดทำขึ้นเฉพาะ ณ วันที่ในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เท่านั้น Hologic ขอปฏิเสธภาระผูกพันหรือคำมั่นสัญญาใดๆ ในการเผยแพร่ข้อมูลอัปเดตหรือการแก้ไขใดๆ ของข้อความดังกล่าวที่นำเสนอในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ต่อสาธารณะ เพื่อสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงความคาดหวัง หรือการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในเหตุการณ์

ข้อมูลเพิ่มเติมและแหล่งข้อมูล

พร้อมข้อเสนอการเข้าซื้อกิจการ Hologic โดยบริษัทในเครือของ Blackstone Inc. และ TPG Capital นั้น Hologic จะยื่นคำชี้แจงของ Hologic (“ คำชี้แจง ”) Hologic วางแผนที่จะส่งหนังสือมอบฉันทะฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับธุรกรรมที่เสนอไปยังผู้ถือหุ้น HOLOGIC ขอแนะนำให้ท่านอ่านหนังสือมอบฉันทะและเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องที่ยื่นหรือจะยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อย่างละเอียดถี่ถ้วนทันทีที่มีเอกสารดังกล่าว รวมถึงการแก้ไขเพิ่มเติมหรือเอกสารเพิ่มเติมใดๆ ของเอกสารเหล่านี้ เนื่องจากเอกสารเหล่านี้จะมีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ HOLOGIC, BLACKSTONE INC., TPG CAPITAL ธุรกรรมที่เสนอ และเรื่องที่เกี่ยวข้อง ท่านสามารถขอรับสำเนาหนังสือมอบฉันทะและเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (หากมี) ที่ Hologic ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ฟรีที่เว็บไซต์ที่ดูแลโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ www.sec.gov นอกจากนี้ คุณยังสามารถรับสำเนาคำชี้แจงของผู้ถือหุ้นและเอกสารอื่นๆ (เมื่อมีให้บริการ) ที่ Hologic ยื่นต่อ SEC ได้ฟรี โดยเข้าไปที่ส่วนนักลงทุนสัมพันธ์ในเว็บไซต์ของ Hologic ที่ https://investors.hologic.com หรือติดต่อฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ของ Hologic ได้ที่ investors@hologic.com หรือหมายเลขโทรศัพท์ 858-410-8904

ผู้เข้าร่วมการร้องขอ

Hologic และกรรมการและเจ้าหน้าที่บริหารอาจถือได้ว่าเป็นผู้มีส่วนร่วมในการร้องขอมอบอำนาจจากผู้ถือหุ้นของ Hologic ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมที่เสนอ

ข้อมูลเกี่ยวกับกรรมการและเจ้าหน้าที่บริหารของ Hologic รวมถึงคำอธิบายถึงผลประโยชน์โดยตรงหรือโดยอ้อมของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นการถือครองหลักทรัพย์หรือวิธีอื่นใด ได้ระบุไว้ (i) ในคำแถลงมอบอำนาจที่ชัดเจนของ Hologic สำหรับการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2025 ซึ่งรวมถึงภายใต้หัวข้อ “ข้อเสนอหมายเลข 1 – การเลือกตั้งกรรมการ” “เจ้าหน้าที่บริหาร” “การหารือและวิเคราะห์ค่าตอบแทน” “ตารางค่าตอบแทนของผู้บริหาร” “การถือครองหลักทรัพย์ของกรรมการและเจ้าหน้าที่บริหาร” และ “ความสัมพันธ์บางประการและธุรกรรมกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง” ซึ่งได้ยื่นต่อ SEC เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2025 และสามารถดูได้ที่ https://www.sec.gov/ix?doc=/Archives/edgar/data/859737/000114036125001287/ny20038205x1_def14a.htm และ (ii) ในขอบเขตที่การถือครองหลักทรัพย์ของ Hologic โดยกรรมการหรือเจ้าหน้าที่บริหารมีการเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่จำนวนเงินที่ระบุไว้ในคำแถลงมอบอำนาจที่ชัดเจนของ Hologic สำหรับการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2025 การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้หรือจะสะท้อนให้เห็นในคำชี้แจงเบื้องต้นเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์โดยชอบธรรมของหลักทรัพย์ในแบบฟอร์ม 3 คำชี้แจงการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์โดยชอบธรรมในแบบฟอร์ม 4 หรือคำชี้แจงประจำปีเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์โดยชอบธรรมในแบบฟอร์ม 5 ที่ยื่นต่อ SEC ซึ่งสามารถดูได้ที่ผลการค้นหา EDGAR https://www.sec.gov/edgar/browse/?CIK=0000859737&owner=only

ข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับผู้เข้าร่วมในการขอใช้สิทธิ์มอบฉันทะ และรายละเอียดเกี่ยวกับผลประโยชน์โดยตรงและโดยอ้อมของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นการถือครองหลักทรัพย์หรืออื่นๆ จะระบุไว้ในคำแถลงสิทธิ์มอบฉันทะและเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อเอกสารดังกล่าวพร้อมเผยแพร่ ท่านสามารถขอรับสำเนาเอกสารเหล่านี้ได้ฟรีตามที่อธิบายไว้ข้างต้น

แหล่งข้อมูล: Hologic, Inc.

1 อ้างอิงจากหุ้นจำนวน 228 ล้านหุ้น เงินสดและการลงทุนระยะสั้นมูลค่า 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐในงบดุลของ Hologic และหนี้ของ Hologic มูลค่า 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ณ วันที่ 27/9/2025

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/20251021765122/en 

Contacts

สำหรับ Hologic

รายชื่อติดต่อสำหรับสื่อ:
Bridget Perry
ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสารองค์กร
(+1) 508.263.8654
bridget.perry@hologic.com

Brunswick Group
Hologic@brunswickgroup.com

รายชื่อติดต่อสำหรับผู้ลงทุน:
Michael Watts
รองประธานบริษัท ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์
(+1) 858.410.8514
michael.watts@hologic.com

สำหรับ Blackstone
Matt Anderson ( Matthew.Anderson@Blackstone.com )
หรือ
Hallie Dewey ( Hallie.Dewey@Blackstone.com )
หรือ
Jennifer Heath ( Jennifer.Heath@Blackstone.com )

สำหรับ TPG
Luke Barrett และ Courtney Power
media@tpg.com

ที่มา: Hologic, Inc.

Multiply Group ประกาศแผนการเข้าซื้อกิจการ 2PointZero และ Ghitha Holding ผ่านการแลกเปลี่ยนหุ้น

Logo

  • การเข้าซื้อกิจการที่เสนอนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่กว้างขึ้นของ Multiply Group เพื่อขยายขนาด เพิ่มการทำงานร่วมกันของพอร์ตโฟลิโอ และขับเคลื่อนมูลค่าในระยะยาว
  • 2PointZero นำเสนอสินทรัพย์ที่ปรับขนาดได้ครอบคลุมทั้งด้านพลังงาน เหมืองแร่ และบริการทางการเงินต่างๆ ขณะที่ Ghitha Holding นำเสนอแพลตฟอร์มด้านอาหารและการเกษตรที่หลากหลาย
  • ธุรกรรมดังกล่าวยังคงขึ้นอยู่กับการอนุมัติของผู้ถือหุ้นและหน่วยงานกำกับดูแล โดยจะมีการประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมเมื่อกระบวนการตรวจสอบเสร็จสิ้น

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–15 ตุลาคม 2025

Multiply Group (ADX: MULTIPLY) บริษัทโฮลดิ้งเพื่อการลงทุนที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในอาบูดาบี ซึ่งลงทุนและดำเนินธุรกิจทั่วโลก ประกาศเมื่อวันนี้ว่าคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติข้อเสนอในการซื้อกิจการ 2PointZero และ Ghitha Holding ผ่านธุรกรรมแลกเปลี่ยนหุ้น

ภายใต้เงื่อนไขที่เสนอ Multiply Group จะเสนอขายหุ้นเพื่อเข้าซื้อกิจการ 2PointZero และ Ghitha Holding ตามด้วยการออกหุ้นใหม่เพื่อดำเนินการให้ธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์ ปัจจุบันธุรกรรมนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาและยังคงต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นและหน่วยงานกำกับดูแล

2PointZero เป็นบริษัทลงทุนที่มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลง พร้อมสินทรัพย์ที่ปรับขนาดได้ในด้านพลังงาน เหมืองแร่ และบริการทางการเงิน โดยทำหน้าที่เป็นผู้ขับเคลื่อน AI และตัวเร่งการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่ขับเคลื่อนอนาคตที่ชาญฉลาดและยั่งยืนยิ่งขึ้น และ Ghitha Holding เป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำที่ครอบคลุมภาคเกษตรกรรม การผลิตอาหาร และการจัดจำหน่าย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ธุรกิจเหล่านี้เมื่อรวมกันแล้วถือเป็นจุดแข็งที่เสริมกันทั้งในภาคพลังงานและภาคผู้บริโภค ซึ่งเป็นสองเสาหลักของทุกเศรษฐกิจ ช่วยขับเคลื่อนชีวิตประจำวัน และผลักดันการเปลี่ยนผ่านระดับโลกไปสู่ระบบที่สะอาดและชาญฉลาดยิ่งขึ้น

คาดว่าธุรกรรมนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและการลงทุนทั่วทั้งพอร์ตโฟลิโอของ Multiply Group ด้วยการรวมสินทรัพย์เสริมเข้าด้วยกันภายใต้แพลตฟอร์มจดทะเบียนเดียว

Syed Basar Shueb ประธานบริษัท Multiply Group ให้ความเห็นว่า “ธุรกรรมนี้แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการตามธรรมชาติของกลยุทธ์พอร์ตโฟลิโอของเรา ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขยายขนาดและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแพลตฟอร์มที่เราสร้างขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ข้อเสนอของ Multiply ในการเข้าซื้อกิจการ 2PointZero และ Ghitha สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางเชิงกลยุทธ์ของเราในการสร้างมูลค่า และการมุ่งเน้นในระยะยาวของเราในการสร้างองค์กรการลงทุนที่สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก ซึ่งช่วยมอบมูลค่าที่ยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้น”

Samia Bouazza ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มและกรรมการผู้จัดการของ Multiply Group กล่าวเสริมว่า “การควบรวมกิจการเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้เป็นมากกว่าการรวมงบดุล แต่เป็นการบรรจบกันของวิสัยทัศน์ จุดประสงค์ เงินทุน ธีมหลัก และทีมงานที่โดดเด่น เรากำลังร่วมกันก่อตั้งกลุ่มการลงทุนที่สมดุลและหลากหลายมูลค่า 120,000 ล้านเดอร์แฮม ครอบคลุมธุรกิจพลังงาน อาหาร โลจิสติกส์ บรรจุภัณฑ์ เหมืองแร่ เครื่องแต่งกาย สื่อ การเดินทาง และความงาม เรามุ่งมั่นที่จะให้บริการมนุษย์ 1 พันล้านคนทั่วโลกผ่านบริษัทเหล่านี้ ซึ่งกระจายอยู่ใน 85 ประเทศ เป้าหมายของเราคือการเพิ่มผลกำไรทั้งแบบออร์แกนิกและแบบไม่ออร์แกนิก เพื่อปลดล็อกคุณค่าด้วย AI และมอบผลตอบแทนระยะยาวที่สม่ำเสมอให้แก่ผู้ถือหุ้นของเรา

ธุรกรรมนี้จะดำเนินการผ่านการแลกเปลี่ยนหุ้น โดย Multiply Group จะออกหุ้นใหม่ประมาณ 23.36 พันล้านหุ้นเพื่อเข้าซื้อกิจการ 2PointZero และ Ghitha Holding ส่งผลให้ทุนจดทะเบียนของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 2.8 พันล้านเดอร์แฮม เป็น 8.64 พันล้านเดอร์แฮม เมื่อเสร็จสิ้น บริษัทที่ควบรวมกิจการจะมีหุ้นจำนวน 34.56 พันล้านหุ้น ซึ่งถือเป็นการขยายฐานทุนของ Multiply Group อย่างมีนัยสำคัญ

การเข้าซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์ผ่านการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งนี้ยังคงต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นและหน่วยงานกำกับดูแล โดยจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมหลังจากกระบวนการตรวจสอบเสร็จสิ้น

เกี่ยวกับ MULTIPLY GROUP

Multiply Group PJSC เป็นบริษัทโฮลดิ้งเพื่อการลงทุนที่ตั้งอยู่ในอาบูดาบี ซึ่งลงทุนและดำเนินงานในธุรกิจที่พลิกโฉมและสร้างกระแสเงินสดทั่วโลก

Multiply Group เป็นที่รู้จักในด้านแนวคิดการเติบโตที่โดดเด่น โดยจะยังคงจัดสรรเงินทุนไปยังสองธุรกิจที่แตกต่างกัน ซึ่งทั้งสองธุรกิจจะดำเนินไปอย่างมีวินัยในการลงทุน และมั่นใจว่าจะสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนและสม่ำเสมอให้กับผู้ถือหุ้นของเราทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว:

Multiply นำเสนอการลงทุนและการดำเนินงานในธุรกิจเชิงกลยุทธ์ระยะยาว ปัจจุบันลงทุนและดำเนินงานในธุรกิจการเดินทาง พลังงาน สื่อและการสื่อสาร สุขภาพและความงาม ค้าปลีกและเครื่องแต่งกาย และบรรจุภัณฑ์ การลงทุนแบบ Anchor สร้างรายได้ประจำระยะยาว ซึ่งนำไปสู่การเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติม

Multiply+ ขยายขอบเขตการดำเนินงานทั่วโลกของเรา ด้วยการลงทุนครอบคลุมทุกภาคส่วนและทุกประเภทสินทรัพย์ โดยมีเป้าหมายเดียว นั่นคือการปลดล็อกผลตอบแทนผ่านการจัดสรรเงินทุนอย่างมีวินัย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.multiply.ae

*ที่มา: AETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Wassim El Jurdi
Multiply Group
อีเมล: wassim@multiply.ae

Rawad Khattar
Weber Shandwick
อีเมล: rkhattar@webershandwick.com

ที่มา: Multiply Group

CTBC Holding ร่วมแบ่งปันความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมดิจิทัลและการป้องกันการฉ้อโกงในงาน Banking Summit Asia 2025

Logo

ไทเป, ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–16 กันยายน 2025

บริษัท CTBC Financial Holding จำกัด (CTBC Holding) ที่ได้รับเชิญจาก Financial Times และ The Banker สื่อสิ่งพิมพ์ชั้นนำระดับโลก ได้เข้าร่วมงาน Banking Summit Asia 2025 เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา โดยคุณ Titan Chia (賈景光) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศของ CTBC Holding ได้ร่วมเสวนาในหัวข้อหลักๆ ของการพัฒนานวัตกรรมบริการทางการเงินดิจิทัลควบคู่ไปกับการสร้างหลักประกันความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของข้อมูล พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ของ CTBC ในด้านดิจิทัล โดยคุณ Titan Chia เป็นตัวแทนเพียงคนเดียวที่มาจากภาคการเงินของไต้หวัน

Titan Chia (right), Chief Information Officer of CTBC Financial Holding, served as a speaker today at the “Banking Summit Asia 2025,” held in Asia for the first time, where he shared the company’s achievements in fraud prevention through digital innovation. / Courtesy of CTBC Financial Holding

Titan Chia (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ บริษัท CTBC Financial Holding เป็นวิทยากรในงาน “Banking Summit Asia 2025” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในเอเชีย โดยเขาได้ร่วมแบ่งปันความสำเร็จของบริษัทในการป้องกันการฉ้อโกงผ่านนวัตกรรมดิจิทัล / เครดิตภาพโดย CTBC Financial Holding

งาน Global Banking Summit ซึ่งจัดโดย Financial Times และ The Banker ร่วมกัน ถือเป็นหนึ่งในงานประชุมทางการเงินที่สำคัญที่สุดของโลก โดยปีนี้ถือเป็นการประชุมสุดยอดครั้งแรกในเอเชีย จัดขึ้นที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ฮ่องกง และสามารถดึงดูดผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินได้เกือบ 300 คนจากทั่วโลก ผู้จัดงานได้ร่วมเสวนากับ คุณ Titan Chia และ คุณเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีกสิกรไทย

คุณ Chia ย้ำว่าความท้าทายสำคัญของธนาคารในปัจจุบันคือการปกป้องความปลอดภัยของผู้ใช้ควบคู่ไปกับการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า เขากล่าวว่า CTBC Bank ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ CTBC Holding ได้นำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาระบบป้องกันการฉ้อโกงที่ออกแบบมาเพื่อรับประกันว่าทรัพย์สินของลูกค้าจะปลอดภัยและให้บริการได้อย่างราบรื่น

โมเดล “AI SKYNET” ที่พัฒนาโดย CTBC Holding สามารถตรวจจับการฉ้อโกงที่อาจเกิดขึ้นได้โดยการวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงเกือบ 300 รายการภายในเวลาเพียง 1 วินาที โดยในปี 2024 โมเดลนี้สามารถป้องกันการทุจริตได้เกือบ 2.8 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน และมีอัตราการเติบโตต่อปีอยู่ที่ 30% ส่วนในไตรมาสแรกของปี 2025 เพียงไตรมาสเดียว สัญญาณการฉ้อโกงได้ลดลงเหลือ 24% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

เพื่อสร้างเครือข่ายป้องกันการฉ้อโกงที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น CTBC Holding ได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมและเครือข่ายสังคมออนไลน์ LINE และร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุดไต้หวัน และสำนักงานอัยการเขตไทเป นอกจากนี้ CTBC Holding ยังทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานคณะทำงานพัฒนาแอปพลิเคชัน Fintech โดยเป็นผู้นำภาคการเงินของไต้หวันในการสร้างเครือข่ายความปลอดภัยระหว่างธนาคารเพื่อต่อสู้กับการฉ้อโกง

ในฐานะหนึ่งในธนาคารเอกชนที่มีความเป็นสากลมากที่สุดของไต้หวัน สาขาต่างประเทศของ CTBC Bank จึงได้รับการประสานงานจากสำนักงานใหญ่เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางเทคโนโลยีควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามนโยบายด้านกฎระเบียบท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวและป้องกันการฉ้อโกงข้ามพรมแดน ในอนาคต CTBC Bank วางแผนที่จะสำรวจการพัฒนา “ศูนย์ข้อมูลระดับภูมิภาค” โดยใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสขั้นสูงและกลไกการปกปิดตัวตนที่สอดคล้องตามมาตรฐาน เพื่อบูรณาการข้อมูลข้ามพรมแดนและเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันการฉ้อโกงให้ดียิ่งขึ้น

CTBC Holding เชื่อมั่นว่าความน่าเชื่อถือและความมั่นคงปลอดภัยทางดิจิทัลคือรากฐานสำคัญของการเงินยุคใหม่ ในอนาคต CTBC จะเดินหน้าพัฒนาการประยุกต์ใช้ AI บิ๊กดาต้า และเทคโนโลยีคลาวด์อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น และทำงานร่วมกับพันธมิตรทางการเงินระหว่างประเทศเพื่อส่งเสริมความมั่นคงปลอดภัยทางดิจิทัลและการพัฒนาที่ยั่งยืนทั่วทั้งเอเชีย

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250916711131/en

Contacts

ฝ่ายประชาสัมพันธ์, CTBC Bank
Ken Wang (+8862) 3327-7777#6712
Sherry Fang (+8862) 3327-7777#6711

ที่มา: CTBC Holding

KBRA ขยายการดำเนินงานในโตเกียวด้วยการแต่งตั้ง Yasu Iwasa เป็นหัวหน้าฝ่ายญี่ปุ่น

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–16 กันยายน 2025

KBRA เป็นผู้นำด้านการจัดอันดับเครดิตและการวิจัยระดับโลก มีความยินดีที่จะประกาศแต่งตั้ง Yasumitsu “Yasu” Iwasa ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายญี่ปุ่น ซึ่งช่วยตอกย้ำเส้นทางการเติบโตในเอเชีย หลังจากได้จัดตั้งสำนักงานในโตเกียวเพื่อเชิงกลยุทธ์ในเดือนมกราคม 2025 ที่ผ่านมา

สำนักงานโตเกียวของ KBRA สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการขยายฐานการดำเนินงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของนักลงทุนชาวญี่ปุ่นในตลาดสินเชื่อทั้งในภาครัฐและเอกชน โดยปัจจุบัน ทีมงานของเรามีความพร้อมในการเติบโตและมีอิทธิพลอย่างต่อเนื่อง และสามารถให้บริการแก่นักลงทุนทั่วทั้งในและต่างประเทศ

Yasu Iwasa มีประสบการณ์เกือบ 30 ปี ในด้านวาณิชธนกิจและการจัดการสินทรัพย์ โดยเคยดำรงตำแหน่งระดับสูงในสถาบันการเงินระดับโลกชั้นนำในญี่ปุ่น ล่าสุด เขาดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายญี่ปุ่นและกรรมการผู้จัดการที่ Impax Asset Management ที่เป็นผู้นำในการเปิดตัวและการเติบโตของการดำเนินงานในญี่ปุ่น นอกจากบทบาทผู้นำในระดับบริหารแล้ว เขายังเคยทำหน้าที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ในทีมจัดจำหน่ายอีกด้วย โดยระหว่างปี 2014 ถึง 2021 Yasu ได้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายญี่ปุ่นที่ Fullerton Fund Management ที่เป็นบริษัทจัดการสินทรัพย์ในเครือ Temasek Group โดยเขาเริ่มต้นอาชีพการทำงานที่ Goldman Sachs ได้ทำงานด้านตราสารอนุพันธ์และการจัดโครงสร้างตราสารทุนเป็นเวลาประมาณ 12 ปี ซึ่งประสบการณ์นี้ได้ช่วยสร้างความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งของเขาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก

Yasu สำเร็จการศึกษาปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และปริญญาตรีสาขารัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเอสเซ็กซ์ในสหราชอาณาจักร

“ญี่ปุ่นเป็นตลาดนักลงทุนที่สำคัญและมีความซับซ้อน” Kate Kennedy กรรมการผู้จัดการอาวุโสและหัวหน้าร่วมฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ KBRA กล่าว “เครือข่ายที่ลึกซึ้งของ Yasu ประกอบกับความเข้าใจเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับฉากทัศน์สินเชื่อในภาคเอกชนทั่วโลก ร่วมกับประสบการณ์ในการเปิดตัวการดำเนินงานด้านการจัดการสินทรัพย์ ทำให้เขามีความพร้อมอย่างยิ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนภารกิจของเราในภูมิภาคนี้”

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้นำในการดำเนินงานของ KBRA ในญี่ปุ่น” คุณ Iwasa กล่าว “ฉากทัศน์สินเชื่อในภาคเอกชนกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และความมุ่งมั่นของ KBRA ในด้านความโปร่งใส การวิเคราะห์ที่เข้มข้น รวมถึงการให้บริการที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรกนั้น สอดคล้องกับความต้องการของนักลงทุนที่นี่อย่างสมบูรณ์แบบ ผมตั้งหน้าตั้งตารอที่จะร่วมมือกับพนักงานปัจจุบันของเราที่โตเกียวที่ประกอบด้วย Miki Monroe-Sheridan หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ, Yuuichi Hino หัวหน้าฝ่ายกำกับดูแลกิจการญี่ปุ่น รวมถึง Peter Connolly ผู้อำนวยการอาวุโส เพื่อช่วยสร้างสถานะที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นของเราในประเทศญี่ปุ่น”

ที่ KBRA พันธกิจของเรามุ่งเน้นไปที่การประเมินสินเชื่อที่โปร่งใสและมองการณ์ไกล ที่สามารถช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและรอบรู้ ในฐานะผู้นำด้านการจัดอันดับสินเชื่อในภาคเอกชน ทาง KBRA จะผสานรวมข้อมูลเชิงลึกเชิงวิเคราะห์เข้ากับบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการและความเข้มงวดด้านระเบียบวิธี เนื่องจากความต้องการสินเชื่อในภาคเอกชนทั่วโลกที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น ญี่ปุ่นจึงเป็นโอกาสเชิงกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจและตอบสนองต่อความต้องการสินเชื่อทางเลือกที่เพิ่มสูงขึ้น ด้วยความชัดเจนและความสม่ำเสมอที่นักลงทุนคาดสามารถหวังได้จาก KBRA

เกี่ยวกับ KBRA

KBRA เป็นหนึ่งในสถาบันจัดอันดับเครดิตที่สำคัญ ซึ่งจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และสหราชอาณาจักร KBRA ได้รับการยอมรับให้เป็นสถาบันจัดอันดับเครดิตที่มีคุณสมบัติในไต้หวัน และยังเป็นองค์กรจัดอันดับเครดิตที่ได้รับการแต่งตั้งสำหรับการจัดอันดับการเงินแบบมีโครงสร้างในแคนาดาอีกด้วย ในฐานะสถาบันจัดอันดับเครดิตที่ให้บริการครบวงจร นักลงทุนสามารถใช้การจัดอันดับของ KBRA เพื่อวัตถุประสงค์ด้านเงินทุนตามกฎหมายได้ในเขตอำนาจศาลหลายแห่ง

ID เอกสาร: 1011259

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ

Adam Tempkin, ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสาร
+1 646-731-1347
adam.tempkin@kbra.com

ที่มา: Kroll Bond Rating Agency, LLC

Veritas Capital ปิดการระดมทุนกองทุนหลักลำดับที่เก้าด้วยวงเงินสูงสุดที่กำหนดไว้ที่ 1.44 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

Logo

การระดมทุนนี้เพิ่มขึ้น 35% จากกองทุน Fund VIII ทำให้สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการของ Veritas มีมูลค่ามากกว่า 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ซึ่งสานต่อภารกิจของบริษัทในการปฏิรูปเทคโนโลยีและธุรกิจที่สอดคล้องกับภาครัฐ

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–10 กันยายน 2025

Veritas Capital (“Veritas”) เป็นนักลงทุนชั้นนำที่เชื่อมโยงเทคโนโลยีและภาครัฐเข้าด้วยกัน ประกาศปิดการระดมทุนครั้งสุดท้ายของกองทุน Veritas Capital Fund IX (“กองทุน IX”) ด้วยยอดเงินลงทุนรวม 1.44 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ กองทุน IX มียอดจองซื้อเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมาก โดยมีความต้องการเกินกว่าวงเงินสูงสุดที่กำหนดไว้ และสูงกว่าเป้าหมายเริ่มต้นที่ 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ การระดมทุนครั้งนี้เพิ่มขึ้น 35% จากกองทุน VIII ซึ่งปิดการระดมทุนที่ 1.07 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 โดยการปิดการระดมทุนครั้งนี้ทำให้ Veritas สามารถบริหารจัดการสินทรัพย์ได้มากกว่า 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในทุกกลยุทธ์ของบริษัท ซึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะนักลงทุนชั้นนำที่มุ่งเน้นด้านเทคโนโลยี

“กองทุน IX ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Veritas และผมมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งในทีมงานและพันธมิตรที่ยั่งยืนที่ทำให้ความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นได้” กล่าวโดย Ramzi Musallam ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและหุ้นส่วนผู้จัดการของ Veritas “ท่ามกลางสภาพแวดล้อมการระดมทุนที่ท้าทายที่สุดครั้งหนึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความต้องการกองทุน IX ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นเครื่องยืนยันถึงกลยุทธ์และแพลตฟอร์มของเราอย่างชัดเจน ในขณะที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในการกำหนดอนาคตของความมั่นคงแห่งชาติ ในการยกระดับการให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ รวมถึงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในวงกว้าง กองทุนนี้จะช่วยให้เราสามารถขยายผลกระทบ คว้าโอกาสใหม่ๆ และผลักดันนวัตกรรมในจุดที่สำคัญที่สุดต่อไปได้”

กองทุน IX ขับเคลื่อน Veritas ให้มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจที่จำเป็นและมีความยืดหยุ่นในตลาดที่มีกฎระเบียบสูง ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ภาคส่วนเหล่านี้กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ซอฟต์แวร์ ข้อมูล และ AI กำลังปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงานของสังคม แพลตฟอร์มของ Veritas สร้างขึ้นจากความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทรัพย์สินทางปัญญาที่เป็นกรรมสิทธิ์ และกลยุทธ์ที่ทำซ้ำได้ โดยออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อนมูลค่าในตลาดที่ซับซ้อนและมีความสำคัญระดับโลก

ความเป็นผู้นำและผลงานของ Veritas ได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจัดอันดับ 10 อันดับแรกของโลกโดย HEC Paris–Dow Jones เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน และได้รับการเสนอชื่อให้เป็นบริษัทซื้อกิจการที่มีผลงานดีที่สุดในอเมริกาโดย Preqin ในปี 2023

เกี่ยวกับ Veritas Capital

Veritas เป็นนักลงทุนด้านเทคโนโลยีมายาวนาน มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการมากกว่า 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และมุ่งเน้นไปที่บริษัทที่ดำเนินธุรกิจที่เชื่อมโยงระหว่างเทคโนโลยีและภาครัฐ บริษัทลงทุนในบริษัทต่างๆ ที่ให้บริการด้านผลิตภัณฑ์ บริการ และซอฟต์แวร์ที่สำคัญต่อภารกิจ โดยเน้นที่เทคโนโลยีและโซลูชันที่ใช้เทคโนโลยี แก่ลูกค้าภาครัฐและภาคเอกชนทั่วโลก Veritas มุ่งมั่นที่จะสร้างมูลค่าโดยการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของบริษัทที่ลงทุนด้วยวิธีการทั้งแบบออร์แกนิกและแบบอนินทรีย์ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกในสาขาที่สำคัญยิ่ง เช่น การดูแลสุขภาพ การศึกษา พลังงาน และความมั่นคงแห่งชาติ ถือเป็นหัวใจสำคัญของบริษัท Veritas ภูมิใจที่ได้ดูแลสินทรัพย์ทั้งในระดับชาติและระดับโลก การพัฒนาคุณภาพของการดูแลสุขภาพควบคู่ไปกับการลดต้นทุน การพัฒนาระบบการศึกษา การเร่งการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน และการปกป้องประเทศชาติและพันธมิตรของเรา ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.veritascapital.com

การที่ Veritas ได้รับรางวัลหรือการจัดอันดับใดๆ ที่อ้างอิงในที่นี้ ไม่ได้บ่งชี้ถึงประสบการณ์ของนักลงทุนรายบุคคลที่มีต่อ Veritas หรือผลการดำเนินงานในอนาคตของกองทุน Veritas แต่อย่างใด การจัดอันดับและรางวัลดังกล่าวไม่ควรถือเป็นคำแนะนำหรือการประเมินธุรกิจการจัดการการลงทุนของ Veritas โดยสามารถอ่านประกาศสำคัญ ข้อสงวนสิทธิ์ และรายละเอียดเกี่ยวกับรางวัลหรือการจัดอันดับใดๆ ที่อ้างอิงได้ที่นี่

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Veritas Capital:
 
สื่อใหม่
Prosek Partners
Pro-Veritas@Prosek.com

ที่มา: Veritas Capital

ท่ามกลางความต้องการวีซ่านิวซีแลนด์ที่เพิ่มสูงขึ้น ทาง Greener Pastures New Zealand จึงได้เปิดตัวกองทุนเพื่อการลงทุนในกีวีฟรุตใหม่

Logo

กองทุนนี้มุ่งเป้าไปที่ภาคการเกษตรชั้นนำของนิวซีแลนด์ โดยเปิดโอกาสให้กับผู้ที่ต้องการขอวีซ่าถาวรในนิวซีแลนด์ผ่านการลงทุน

โอ๊คแลนด์, นิวซีแลนด์–(BUSINESS WIRE)–09 กันยายน 2025

Greener Pastures New Zealand เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนและไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรแห่งแรกของนิวซีแลนด์ ในวันนี้ได้ประกาศเปิดตัวกองทุนกีวีฟรุตของ Greener Pastures โดยกองทุนนวัตกรรมนี้จะช่วยให้บุคคลและครอบครัวต่างๆ ที่ต้องการพำนักถาวรในนิวซีแลนด์ผ่านวีซ่า Active Investor Plus หรือที่มักเรียกกันว่า “Golden Visa” ของนิวซีแลนด์ สามารถตอบโจทย์ความต้องการด้านการลงทุนด้วยการเข้าร่วมเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศ โดยกองทุนนี้จะลงทุนในภาคส่วนกีวีฟรุตของนิวซีแลนด์โดยเฉพาะ รวมถึงการเป็นเจ้าของที่ดินที่มีผลผลิตสูง เช่น สวนกีวีฟรุต รวมถึงหุ้นใน Zespri ที่เป็นผู้ส่งออกและจำหน่ายกีวีฟรุตรายใหญ่ที่สุดของโลก

Greener Pastures New Zealand ได้เปิดตัวเมื่อต้นปีนี้ โดยมอบเส้นทางที่ครอบคลุมสู่การพำนักอาศัยสำหรับบุคคลและครอบครัวที่มีสินทรัพย์สุทธิสูงผ่านโครงการวีซ่า Active Investor Plus เนื่องจากความต้องการวีซ่าเพื่อการลงทุนของนิวซีแลนด์ที่เพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางความสนใจจากทั่วโลกในการใช้ชีวิตอย่างมั่นคงและมีคุณภาพสูง ทำให้ Greener Pastures มีความโดดเด่นในฐานะที่เป็นบริษัทเดียวที่นำเสนอบริการครบวงจร ซึ่งรวมถึงการลงทุนที่ผ่านการรับรอง การอำนวยความสะดวกด้านวีซ่า รวมถึงการวางแผนด้านไลฟ์สไตล์ส่วนบุคคล ที่ครอบคลุมถึงการจัดหาที่เรียนในโรงเรียน การจัดหาอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการบูรณาการด้านชุมชนต่างๆ

“เรามีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัวกองทุนกีวีฟรุตของ Greener Pastures” กล่าวโดย Dominic Jones กรรมการผู้จัดการของ Greener Pastures New Zealand “กองทุนนี้ช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถตอบสนองต่อความต้องการด้านการลงทุนสำหรับวีซ่า Active Investor Plus ผ่านการลงทุนในหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นภาคส่วนที่สร้างมูลค่ามหาศาลให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมาอย่างยาวนาน ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ชั้นนำให้กับโลก กีวีฟรุตเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้บริโภค เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการลงทุนในภาคส่วนนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับประเทศนิวซีแลนด์ อุตสาหกรรมนี้เป็นหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จของนิวซีแลนด์มาอย่างยาวนาน และแนวโน้มในอนาคตของภาคส่วนนี้นั้นน่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก”

ความรู้เชิงสถาบันของ Greener Pastures New Zealand เกี่ยวกับภาคเกษตรกรรมนั้นเกิดมาจากความเชี่ยวชาญทางด้านการเงินอย่างลึกซึ้งในตลาดการลงทุนของประเทศ ประกอบกับความผูกพันทั้งโดยส่วนตัวและครอบครัวที่มีต่อการเกษตร เกษตรกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมกีวีฟรุต โดยก่อนที่จะเริ่มต้นอาชีพในสายงานธนาคารและการเงินในลอนดอน รวมถึงการก่อตั้ง Origin Capital Partners ที่เป็นบริษัทจัดการกองทุนที่มีชื่อเสียงและเป็นบริษัทแม่ของ Greener Pastures New Zealand นั้น Jones ได้เติบโตในชนบทของนิวซีแลนด์ โดยมีรากฐานมาจากครอบครัวในอุตสาหกรรมกีวีฟรุตและผลิตภัณฑ์นมที่ผ่านมาหลายรุ่น เขามองว่ามรดกทางการเกษตรของนิวซีแลนด์นั้นเป็นหัวใจสำคัญของอัตลักษณ์และความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ โดยสมาชิกคณะกรรมการของ Greener Pastures New Zealand และ Origin Capital Partners นั้นมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในด้านการลงทุนส่วนบุคคล รวมถึงการกำกับดูแลในอุตสาหกรรมกีวีฟรุตมาเป็นเวลานานหลายปี

กองทุนกีวีฟรุตของ Greener Pastures ประกอบด้วยที่ดินในนิวซีแลนด์ที่ให้ผลผลิตสูงในรูปแบบของสวนกีวีเป็นหลัก โดยกองทุนจะเข้าซื้อสวนกีวีที่มีอยู่แล้วหรือพัฒนาสวนใหม่จากที่ดินเปล่า ที่มอบโอกาสพิเศษให้กับเหล่านักลงทุนในการปฏิบัติตามเกณฑ์การลงทุนของวีซ่าผ่านการเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ดินอันทรงคุณค่า อุตสาหกรรมกีวีของนิวซีแลนด์นั้นมีประวัติที่แข็งแกร่งในการสร้างมูลค่า โดยผลตอบแทนรวมจากที่ดินที่ปลูกกีวีนั้นให้ผลตอบแทนสูงกว่าภาคการเกษตรอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากข้อได้เปรียบเชิงโครงสร้างที่ยั่งยืน

กองทุนนี้ถือเป็นกองทุนที่สามที่ Greener Pastures New Zealand และ Origin Capital Partners ระดมทุนและบริหารจัดการในภาคธุรกิจกีวีฟรุต โดยกองทุนสองกองทุนแรกรวมกันนั้นจัดอยู่ในกลุ่มธุรกิจกีวีฟรุตที่ใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ ที่บริหารจัดการสินทรัพย์มากกว่า 225 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์

กองทุนกีวีฟรุตของ Greener Pastures เป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนลำดับที่สองจาก Greener Pastures New Zealand ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองข้อกำหนดวีซ่า Active Investor Plus นอกจากนี้ บริษัทยังมีกองทุน Greener Pastures Diversified Fund ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะสำหรับวีซ่าประเภทนี้ โดยให้การลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำในตลาดหุ้นบริษัทเอกชนที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงตราสารหนี้นอกตลาดอีกด้วย

เกี่ยวกับ Greener Pastures New Zealand

Greener Pastures New Zealand เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนและไลฟ์สไตล์แบบบูรณาการแห่งแรกของนิวซีแลนด์ ที่ให้คำปรึกษาแก่คู่รักและครอบครัวชาวต่างชาติที่มีความมั่งคั่งสูงผ่านโครงการวีซ่า Active Investor Plus (AIP) ในฐานะบริษัทในเครือของ Origin Capital Partners โดยบริษัทนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ปรับแต่งตามความต้องการและการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ เพื่อให้มั่นใจว่าการย้ายถิ่นฐานมายังนิวซีแลนด์จะราบรื่น มีกลยุทธ์ ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดย Greener Pastures ได้ช่วยให้พลเมืองโลกสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนในหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าปรารถนาที่สุดของโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.greenerpastures.nz

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ: greenerpastures@misfittoyscomms.com

ที่มา: Greener Pastures New Zealand

1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดไป: การปฏิวัติองค์กรของ Halo ได้เปิดตัวแล้วสำหรับองค์กรระดับโลกที่ได้รับเลือก

Logo

ลอนดอน–(BUSINESS WIRE)–08 กันยายน 2025

Halo ผู้นำอิสระด้านการจัดการบริการองค์กร (ESM) วันนี้ประกาศเปิดตัว “1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดไปซึ่งเป็นแพ็คเกจองค์กรใหม่ที่โดดเด่นที่รับประกันค่าใช้จ่ายใบอนุญาต ESM ที่แน่นอนและคาดการณ์ได้ตลอดอายุการใช้งานให้กับองค์กร พร้อมทั้งมอบการใช้งานที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ความคล่องตัวที่มากขึ้น และระดับความร่วมมือที่ผู้จำหน่ายแบบดั้งเดิมไม่สามารถเทียบได้

ทำไมต้องตอนนี้

องค์กรขนาดใหญ่หลายแห่งติดอยู่ในสัญญามูลค่าเจ็ดหลักกับแพลตฟอร์มเดิม ซึ่งต้องเผชิญกับต้นทุนค่าลิขสิทธิ์ที่พุ่งสูงขึ้น การเปิดตัวโครงการที่ล่าช้า และเงื่อนไขที่ไม่ยืดหยุ่น โปรแกรม 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดไป ของ Halo จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้โดยตรง:

  •  โปร่งใส ราคายุติธรรม คาดการณ์มูลค่า ACV ไว้ที่ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดไป
  •  การใช้งานรวดเร็วกว่าที่คุณคิดมาก – การเปิดตัวองค์กรหลักที่ส่งมอบในกรอบเวลาที่ไม่เคยมีมาก่อน
  •  ความร่วมมือที่แท้จริง กับการจัดการระยะยาวที่สร้างขึ้นจากผลลัพธ์ที่วัดผลได้และการส่งมอบมูลค่าอย่างต่อเนื่อง
  •  สัญญาที่ยืดหยุ่น – ออกได้ทุกเมื่อโดยไม่มีค่าปรับ
  •  ทุนสนับสนุนนวัตกรรมอันทรงเกียรติ สำหรับเงินทุนทั้งหมดเพื่อครอบคลุมการโยกย้ายจากแพลตฟอร์มปัจจุบัน
  •  ไม่มีการชำระเงินจนกว่าการย้ายข้อมูลจะเสร็จสมบูรณ์และสัญญาปัจจุบันหมดอายุ

โอกาสสุดพิเศษ

1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดไป: การปฏิวัติองค์กรของ Halo มี ให้เฉพาะองค์กรที่มีพนักงานมากกว่า 20,000 คน หรือตัวแทนฝ่ายบริการมากกว่า 1,000 คนเท่านั้น การเข้าร่วมต้องอยู่บนพื้นฐานการสมัครเข้าร่วมอย่างเคร่งครัด เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ที่เริ่มใช้งานในช่วงแรกจะได้รับความสนใจและอิทธิพลอย่างเหนือชั้นต่อแผนงานของ Halo

ผู้เข้าร่วมจะได้รับประโยชน์จาก:

  •  ราคาคงที่ตลอดชีพที่ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง ไม่มีการอัพเซลล์
  •  การติดตั้งใช้งานได้เร็วกว่าที่คิดพร้อมความสามารถที่พิสูจน์แล้วในการจัดการบริการระดับองค์กรได้ในเวลาอันรวดเร็ว
  •  การผสานรวมและการกำหนดค่าความปลอดภัยที่ออกแบบเฉพาะ
  •  มีอิทธิพลโดยตรงต่อลำดับความสำคัญด้านนวัตกรรมของ Halo
  •  เงินทุนสนับสนุนการย้ายผ่านทุนนวัตกรรมเพื่ออำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนผ่านและเร่งการสร้างมูลค่าให้เร็วขึ้น

นี่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชั่วอายุคนที่จะปรับเปลี่ยนวิธีคิดขององค์กรเกี่ยวกับการจัดการบริการ กล่าวโดย Paul Hamilton ซีอีโอของ Halo การกำหนดราคาที่คาดการณ์ได้ตลอดชีพ และการมอบทุนสนับสนุนนวัตกรรมที่เอื้อเฟื้อเพื่อรองรับภาระหนักในการย้ายระบบ ช่วยให้เรามอบความมั่นใจและช่องทางให้ลูกค้าองค์กรเริ่มต้นของเราได้หลุดพ้นจากแพลตฟอร์มเก่าที่มีข้อจำกัดและมีราคาแพงเกินไป

ความพิเศษเฉพาะที่มาพร้อมวัตถุประสงค์

ด้วยการจำกัดจำนวนลูกค้า “1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดไป” Halo รับประกันว่าผู้เข้าร่วมทุกรายในช่วงแรกจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ทรัพยากรระดับพรีเมียม และความสามารถในการกำหนดอนาคตของ Enterprise Service Management ควบคู่ไปกับทีมผู้นำของ Halo

เกี่ยวกับ Halo

Halo คือบริษัท SaaS เอกชนที่ก่อตั้งโดยผู้ก่อตั้ง นิยามใหม่ของ Enterprise Service Management โดย Halo สร้างขึ้นบนหลักการของความโปร่งใส ความยุติธรรม และความร่วมมือระยะยาว ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถส่งมอบบริการที่ดีขึ้น รวดเร็วขึ้น โดยไม่มีข้อจำกัดจากรูปแบบผู้ให้บริการแบบเดิม

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแพ็กเกจ Halo Enterprise ได้ที่ https://usehalo.com/enterprise-package

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/ 20250908530996/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ: Richard Horvath – Richard.horvath@imaginehalo.com

ที่มา: Halo

Fitch Learning ตกลงเข้าซื้อ Moody’s Analytics Learning Solutions และ Canadian Securities Institute

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–14 สิงหาคม 2025

Fitch Learning ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านการเรียนรู้ทางการเงินและการรับรองวิชาชีพ ประกาศในวันนี้ว่า ได้ลงนามข้อตกลงกับ Moody's เพื่อเข้าซื้อกิจการสองแห่งของบริษัท ได้แก่ Moody's Analytics Learning Solutions (MALS) ผู้ให้บริการการฝึกอบรมสินเชื่อระดับโลก และ Canadian Securities Institute (CSI) ผู้ให้บริการชั้นนำด้านการรับรองวิชาชีพสำหรับอุตสาหกรรมบริการทางการเงินของแคนาดา

การเข้าซื้อกิจการจะช่วยเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้าด้วยการนำเสนอบริการทางการเงินที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการพัฒนาอาชีพและการรับรองวิชาชีพ รวมถึงโซลูชันการเรียนรู้สำหรับธนาคารพาณิชย์ ธนาคารเพื่อผู้บริโภค และการจัดการการลงทุน

“ข้อตกลงนี้ช่วยตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นในด้านการพัฒนาทักษะและการพัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเนื่องในภาคบริการทางการเงิน ขณะที่องค์กรต่างๆ ลงทุนด้านการเรียนรู้และพัฒนามากขึ้น เพื่อส่งเสริมการรักษาพนักงานและศักยภาพของพนักงาน โซลูชันของเราจะช่วยเสริมศักยภาพให้กับทีมงาน รวมถึงช่วยขับเคลื่อนการเติบโตขององค์กรในท้ายที่สุด” Andreas Karaiskos ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Fitch Learning กล่าว

เงื่อนไขของธุรกรรมนี้ไม่ได้รับการเปิดเผย คาดว่าการเข้าซื้อกิจการจะเสร็จสิ้นในไตรมาสที่สี่หลังจากปฏิบัติตามเงื่อนไขการปิดตามปกติแล้ว รวมถึงการได้รับการอนุมัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

“การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับความมุ่งมั่นของเราในการเสริมสร้างความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับตลาดการเงินที่มีความซับซ้อนมากขึ้น การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยขยายขอบเขตการศึกษาทางการเงินและมอบคุณค่าและโอกาสที่ยิ่งใหญ่กว่าให้กับโลก เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะให้บริการนักศึกษาและลูกค้าของเราอย่างต่อเนื่อง และยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่สู่ชุมชนของ Fitch Learning” คุณ Karaiskos กล่าวสรุป

เกี่ยวกับ Fitch Learning
Fitch Learning ร่วมมือกับลูกค้าเพื่อเสริมสร้างความรู้ พัฒนาทักษะ และยกระดับการดำเนินงาน โดยมอบผลลัพธ์ทางธุรกิจเชิงบวก ด้วยศูนย์ต่างๆ อยู่ในศูนย์กลางทางการเงินที่มีชื่อเสียง ได้แก่ นิวยอร์ก โทรอนโต ลอนดอน ดูไบ ริยาด สิงคโปร์ และฮ่องกง Fitch Learning มุ่งมั่นที่จะเข้าใจความต้องการที่ซับซ้อนของลูกค้าในตลาดการเงินทั่วโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดย Fitch Learning มีหลักสูตรประกาศนียบัตรด้านการเงินเชิงปริมาณ (CQFi) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านการศึกษาทางการเงินเชิงปริมาณขั้นสูง และสถาบันผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อระดับโลก ซึ่งอุทิศตนเพื่อพัฒนาความเป็นเลิศด้านการศึกษาและมาตรฐานสินเชื่อทั่วโลก Fitch Learning เป็นส่วนหนึ่งของ Fitch Group ที่เป็นผู้นำระดับโลกด้านบริการข้อมูลทางการเงิน มีการดำเนินงานใน 30 ประเทศ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Fitch Learning พัฒนาบุคลากรทางการเงินทั่วโลก ให้ไปที่ www.fitchlearning.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ:
Alayna Francis
+44 20 3530 1098
alayna.francis@thefitchgroup.com

Cristina Bermudez
Cristina.bermudez@thefitchgroup.com
+1 305-613-5814

ที่มา: Fitch Learning

Anchorage Digital ร่วมมือกับ Ethena Labs เปิดตัว Stablecoin ตัวแรกที่สอดคล้องกับ GENIUS และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลกลาง

Logo

ซานฟรานซิสโก–(BUSINESS WIRE)–24 กรกฎาคม 2025

Anchorage Digital ซึ่งเป็นที่ตั้งของธนาคารคริปโตแห่งแรกและแห่งเดียวที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลกลาง ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Ethena Labs ผู้สร้าง USDe และ USDtb เพื่อนำ USDtb เข้าสู่สหรัฐฯ ในฐานะ Stablecoin ตัวแรกที่มีเส้นทางที่ชัดเจนในการปฏิบัติตาม GENIUS Act ที่เพิ่งประกาศใช้ ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ของอเมริกาในการควบคุมการออก Stablecoin

การเปิดตัวครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่จะใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มการออก Stablecoin ของ Anchorage Digital ซึ่งเป็นโซลูชันแบบครบวงจรสำหรับสถาบันต่างๆ ในการเปิดตัวและแจกจ่ายเงินดิจิทัลดอลลาร์ที่ได้รับการควบคุมอย่างเต็มรูปแบบ การตัดสินใจของ Anchorage Digital ที่จะร่วมมือกับ Ethena ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนาระบบและผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและปฏิบัติตามข้อกำหนด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสถาบันสามารถเข้าถึงข้อได้เปรียบเฉพาะตัวของสินทรัพย์ดิจิทัล ถือเป็นก้าวสำคัญในการปรับนวัตกรรมให้สอดคล้องกับกฎระเบียบในระบบการเงินของสหรัฐฯ

ภายใต้ความร่วมมือนี้ USDtb stablecoin ซึ่งปัจจุบันออกในต่างประเทศ จะออกในสหรัฐอเมริกาโดย Anchorage Digital Bank ซึ่งจะทำให้ Anchorage Digital Bank เป็นผู้นำด้านการออก stablecoin ในสหรัฐอเมริกาสำหรับสถาบันที่กำลังมองหาเงินดิจิทัลดอลลาร์ที่เป็นไปตามกฎระเบียบ สามารถตั้งโปรแกรมได้ และสอดคล้องกับมาตรฐานการกำกับดูแลสูงสุดที่กำหนดโดย GENIUS Act การออก stablecoin นี้ภายใต้กรอบการทำงานที่สอดคล้องกับสหรัฐอเมริกา ช่วยให้การบูรณาการเข้ากับระบบการเงินของสหรัฐอเมริกาเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น และช่วยให้สถาบันต่างๆ มีช่องทางการถือครอง USDtb ที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลมากขึ้น

“การผ่านร่างพระราชบัญญัติ GENIUS มอบความชัดเจนด้านกฎระเบียบที่ช่วยให้สถาบันที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลกลางอย่าง Anchorage Digital Bank สามารถมีส่วนร่วมในระบบนิเวศของ Stablecoin ได้อย่างเต็มที่ เรามีความภูมิใจที่ได้สนับสนุน Ethena ในการนำผลิตภัณฑ์ของพวกเขาเข้าสู่สหรัฐอเมริกา ซึ่งจะช่วยสร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นที่มากขึ้นให้แก่พันธมิตรของพวกเขา ในขณะที่ Stablecoin กำลังกลายเป็นรากฐานสำคัญของการเงินยุคใหม่ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ Stablecoin จะต้องสร้างขึ้นบนโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัย เป็นไปตามข้อกำหนด และสร้างขึ้นให้ใช้งานได้ยาวนาน” — Nathan McCauley ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Anchorage Digital

“แม้ว่าเราจะเห็นความต้องการ USDtb ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว แต่เราคาดหวังว่าการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ GENIUS จะช่วยให้พันธมิตรและผู้ถือครองของเราสามารถขยายการใช้งาน USDtb ได้อย่างมั่นใจและครอบคลุมผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์มใหม่ๆ อย่างมีนัยสำคัญ การร่วมมือกับ Anchorage Digital ซึ่งเป็นธนาคารคริปโตแห่งเดียวในสหรัฐอเมริกาที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลกลาง จะช่วยเสริมสร้างรากฐานที่จำเป็นต่อการขยายขนาดผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง โดยไม่กระทบต่อความเร็ว ความยืดหยุ่น และความน่าเชื่อถือ” — Guy Young ซีอีโอของ Ethena Labs

Stablecoins กำลังกลายเป็นหัวใจสำคัญของอนาคตทางการเงินอย่างรวดเร็ว ทั้งในอเมริกาและทั่วโลก โดยขับเคลื่อนทุกสิ่งตั้งแต่การชำระเงินแบบเรียลไทม์และการชำระเงินข้ามพรมแดน ไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานฟินเทคยุคใหม่และตลาดแบบกระจายศูนย์ Anchorage Digital ช่วยให้มั่นใจได้ว่าชั้นพื้นฐานของการเงินยุคใหม่นี้สร้างขึ้นจากความไว้วางใจ ความยืดหยุ่น และความเป็นผู้นำของสหรัฐอเมริกา ด้วยการทำให้การออกสกุลเงินดิจิทัลมีความปลอดภัย ปรับขนาดได้ และมีการควบคุม

เกี่ยวกับ Ethena Labs

คือผู้สร้าง USDe และ USDtb และเป็นผู้สนับสนุนโปรโตคอล Ethena Ethena คือโปรโตคอลเบื้องหลัง USDe ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ใหญ่เป็นอันดับสามและเติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยมูลค่า TVL มากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบันที่ครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้ DeFi ที่ใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่ง ควบคู่ไปกับการผสานรวมกับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ที่ใหญ่ที่สุดและแอปพลิเคชัน DeFi รายใหญ่ Ethena Labs ได้รับการสนับสนุนจาก Fidelity, Franklin Templeton, Dragonfly, Binance Labs, Bybit และ OKX และอื่นๆ

เกี่ยวกับ Anchorage Digital

Anchorage Digital คือแพลตฟอร์มคริปโตระดับโลกที่ช่วยให้สถาบันต่างๆ สามารถมีส่วนร่วมในสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านการซื้อขาย การวางหลักประกัน การดูแลสินทรัพย์ การกำกับดูแล การชำระเงิน การออก Stablecoin และโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยชั้นนำของอุตสาหกรรม Anchorage Digital เป็นที่ตั้งของ Anchorage Digital Bank N.A. ซึ่งเป็นธนาคารคริปโตแห่งเดียวที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลกลางในสหรัฐอเมริกา และยังให้บริการแก่สถาบันต่างๆ ผ่าน Anchorage Digital Singapore ซึ่งได้รับอนุญาตจากธนาคารกลางสิงคโปร์ Anchorage Digital NY ซึ่งได้รับ BitLicense จากกรมบริการทางการเงินนิวยอร์ก และกระเป๋าเงิน Porto ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินที่ดูแลสินทรัพย์ด้วยตนเองของ Anchorage Digital เมื่อเร็วๆ นี้ Anchorage Digital Bank ได้กลายเป็นธนาคารผู้ออก Stablecoin แห่งเดียวในสหรัฐอเมริกาที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลกลางและสอดคล้องกับมาตรฐาน GENIUS ด้วยการออก GENIUS บริษัทได้รับเงินทุนสนับสนุนจากสถาบันชั้นนำมากมาย อาทิ Andreessen Horowitz, GIC, Goldman Sachs, KKR และ Visa โดยมีมูลค่า Series D มากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ Anchorage Digital ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 ที่ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย มีสำนักงานในนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก, ปอร์โต โปรตุเกส, สิงคโปร์ และซูฟอลส์ รัฐเซาท์ดาโคตา เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ anchorage.com, บน X @Anchorage และบน LinkedIn

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Anchorage Digital
press@anchorage.com
 
Ethena Labs
Nate Johnson
Ethena-August@augustco.com
+1 323-892-5554

ที่มา: Anchorage Digital

Multiply Group เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการ Tendam เพิ่ม EBITDA จากการดำเนินงานเป็นสองเท่า และขยายฐานธุรกิจทั่วโลก

Logo

  • Tendam คือกลุ่มธุรกิจเครื่องแต่งกายที่มีส่วนแบ่งตลาดใหญ่เป็นอันดับสองของสเปน และเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจเครื่องแต่งกายแบบ Omnichannel ชั้นนำของยุโรป
  • แบรนด์แฟชั่นที่มีชื่อเสียง 12 แบรนด์ของ Tendam นำเสนอความหลากหลายและการเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ ซึ่งช่วยให้กลุ่มบริษัทมีสถานะในอุตสาหกรรมที่เน้นผู้บริโภคที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
  • ธุรกรรมดังกล่าวมีมูลค่า 5.6 พันล้านเดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (1.3 พันล้านยูโร) ที่ส่งผลให้ Multiply Group ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นสำคัญในธุรกิจค้าปลีกและเครื่องแต่งกายระดับโลก

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มาดริด ลอนดอน ลักเซมเบิร์ก และปารีส–(BUSINESS WIRE)–24 กรกฎาคม 2025

Multiply Group (ADX: MULTIPLY) เป็นบริษัทโฮลดิ้งด้านการลงทุนที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่อาบูดาบี ซึ่งลงทุนและดำเนินธุรกิจทั่วโลก ได้เสร็จสิ้นการลงทุนครั้งใหญ่ครั้งแรกในยุโรปแล้วในวันนี้ ด้วยการเข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ใน Tendam ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเครื่องแต่งกายที่ใหญ่เป็นอันดับสองของสเปนตามส่วนแบ่งทางการตลาด1 ข้อตกลงนี้ทำให้ EBITDA จากการดำเนินงานของ Multiply เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหลังการรวมกิจการ และขยายโมเดลการเข้าซื้อกิจการที่โดดเด่น ปลดล็อกศักยภาพผ่านเงินทุนและเทคโนโลยี และมอบความเป็นผู้นำตลาดอย่างยั่งยืน

Multiply Group Completes Acquisition of Tendam, Doubling Operational EBITDA and Expanding Global Footprint (Photo: AETOSWire)

Multiply Group เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการ Tendam เพิ่ม EBITDA จากการดำเนินงานเป็นสองเท่าและขยายฐานธุรกิจทั่วโลก (ภาพ: AETOSWire)

ในฐานะหนึ่งในกลุ่มบริษัทเครื่องแต่งกายแบบ Omnichannel ชั้นนำของยุโรป Tendam มีการบริหารจุดขายมากกว่า 1,800 แห่ง และดำเนินโครงการสร้างความภักดีทางดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จในกว่า 80 ตลาด รวมถึงสเปน โปรตุเกส ฝรั่งเศส สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และลาตินอเมริกา ทำให้บริษัทมีสถานะที่ดีในแวดวงค้าปลีกที่กำลังพัฒนา ตั้งแต่แฟชั่นราคาประหยัดไปจนถึงสไตล์พรีเมียม กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของบริษัทประกอบด้วย 12 แบรนด์ชั้นนำ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ผ่านแบรนด์แฟชั่นชั้นนำต่างๆ เช่น Women’secret, Springfield, Cortefiel และ Pedro del Hierro เป็นต้น

ในปัจจุบัน Multiply มีส่วนแบ่งส่วนใหญ่ 67.91% ใน Castellano Investments S.À R.L. (“บริษัท”) (เจ้าของ Tendam Brands S.A.U. และบริษัทย่อยอื่นๆ) โดยที่ Llano Holdings S.À R.L. และ Arcadian Investments S.À R.L. ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนของ CVC Funds และ PAI Partners ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย

ด้วยการลงทุนครั้งนี้ Multiply Group ขยายการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เน้นผู้บริโภค และสร้างสถานะในภาคค้าปลีกและเครื่องแต่งกาย โดยที่ Tendam ได้กลายเป็นธุรกิจแพลตฟอร์มภายใต้แนวค้าปลีกและเครื่องแต่งกายของ Multiply

Multiply จะเป็นผู้นำในการเติบโตระยะต่อไปของ Tendam การเติบโตนี้ขึ้นอยู่กับการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศในยุโรป ลาตินอเมริกา และตะวันออกกลาง การนำ AI มาใช้ในทุกแง่มุมของธุรกิจ ตั้งแต่การจัดหาไปจนถึงการดำเนินงานของลูกค้า จะช่วยสนับสนุนการเติบโตนี้ และจะใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีอยู่แล้ว นอกจากนี้ Multiply จะสนับสนุนธุรกิจในการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) แบบเจาะจง เพื่อเปิดตัวแบรนด์และหมวดหมู่สินค้าใหม่ๆ

Samia Bouazza ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มและกรรมการผู้จัดการของ Multiply Group กล่าวว่า “การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ถือเป็นการก้าวเข้าสู่กลยุทธ์ของ Multiply Group ในภาคค้าปลีกและเครื่องแต่งกาย ด้วยการเข้าถือครองหุ้นควบคุมในแพลตฟอร์ม Omnichannel ชั้นนำ เรากำลังลงทุนในรูปแบบธุรกิจที่มุ่งเน้นอนาคตและมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทีมผู้บริหารที่โดดเด่น แพลตฟอร์มนี้สร้างขึ้นจากแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับ มอบความคล่องตัวและวิสัยทัศน์ในการขยายธุรกิจไปยังหมวดหมู่ใหม่ๆ และขยายแบรนด์เกิดใหม่ทั่วโลก ด้วยความเชี่ยวชาญของเราในการสร้างความร่วมมือ ด้วยการนำ AI มาใช้ และการขับเคลื่อนการควบรวมและซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์ เราพร้อมแล้วที่จะเร่งการเติบโตและสร้างมูลค่าระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้นของเรา”

จากมุมมองเชิงกลยุทธ์ การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้มอบโอกาสอันสำคัญให้กับ Multiply Group ในการใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มแบรนด์ที่แข็งแกร่งและประสิทธิภาพที่พิสูจน์แล้วของ Tendam เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต โดยได้รับการสนับสนุนจากแรงหนุนจากผู้บริโภคที่เอื้ออำนวยในตลาดค้าปลีกเครื่องแต่งกายระดับโลก

Jaume Miquel ประธานและซีอีโอของ Tendam เน้นย้ำว่า “วันนี้เรากำลังเริ่มต้นยุคใหม่ ผู้ถือหุ้นและทีมผู้บริหารจะร่วมกันนำศักยภาพของ Tendam มาใช้อย่างเต็มที่ เพื่อขยายแบรนด์ของเราไปสู่รูปแบบ ตลาด และช่องทางใหม่ๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงและเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อสร้างการเติบโตและผลกำไรที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ผ่านระบบนิเวศแบรนด์แบบ Omnichannel ที่โดดเด่นและไม่มีใครเทียบได้”

ตั้งแต่ปี 2020 ด้วยทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ Tendam มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับรูปแบบธุรกิจในตลาดหลักๆ ควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2025 บริษัทรายงานยอดขาย 12 เดือนล่าสุดอยู่ที่ 1.4 พันล้านยูโร และกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ซึ่งคำนวณโดยใช้มาตรฐาน IFRS 16 อยู่ที่ 340.7 ล้านยูโร

Multiply Group ได้รับคำแนะนำจาก Greenhill (บริษัทในเครือ Mizuho), Hogan Lovells และ KPMG เกี่ยวกับธุรกรรมนี้ Castellano และผู้ถือหุ้นปัจจุบันได้รับคำแนะนำจาก Uria Menendez Ramón Hermosilla Abogados และ Latham & Watkins LLP เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายของ Tendam ในธุรกรรมนี้

เกี่ยวกับ MULTIPLY GROUP

Multiply Group PJSC เป็นบริษัทโฮลดิ้งด้านการลงทุนที่มีฐานอยู่ในอาบูดาบี ซึ่งลงทุนและดำเนินงานในธุรกิจที่สร้างการเปลี่ยนแปลงและสร้างรายได้ทั่วโลก

Multiply Group เป็นที่รู้จักในเรื่องแนวคิดการเติบโตที่โดดเด่น และจะยังคงนำเงินทุนไปลงทุนในสองสาขาหลักที่แตกต่างกัน โดยทั้งสองสาขาใช้แนวทางการลงทุนที่มีวินัย และรับรองการสร้างมูลค่าที่สม่ำเสมอและยั่งยืนสำหรับผู้ถือหุ้นของเราในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว

Multiply ดำเนินธุรกิจและการลงทุนเชิงกลยุทธ์ระยะยาว ซึ่งปัจจุบันลงทุนและดำเนินงานในธุรกิจยานพาหนะ พลังงานและสาธารณูปโภค สื่อและการสื่อสาร สุขภาพและความงาม และค้าปลีกและเครื่องแต่งกาย การลงทุนแบบ Anchor จะให้ผลตอบแทนระยะยาวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนำไปสู่การเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติม

Multiply+ เป็นกลุ่มบริษัทที่มีส่วนร่วมในการลงทุนตามโอกาสและไม่แบ่งแยกภาคส่วน โดยส่วนใหญ่ผ่านการถือหุ้นส่วนน้อยในตลาดเอกชนและตลาดสาธารณะ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ไปที่ www.multiply.ae

เกี่ยวกับ Tendam

Tendam เป็นผู้ค้าปลีกเสื้อผ้าสำเร็จรูปแบบหลายแบรนด์และแบบ Omnichannel ชั้นนำของยุโรป และเป็นผู้เล่นรายใหญ่อันดับสองของสเปนเมื่อพิจารณาจากส่วนแบ่งตลาด Tendam ดำเนินธุรกิจในกลุ่มตลาดมวลชนระดับพรีเมียม และสร้างขึ้นบนระบบนิเวศแบบบูรณาการที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางและขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ปัจจุบันบริษัทมีแบรนด์ของตนเอง 12 แบรนด์ ได้แก่ Women’secret, Springfield, Cortefiel, Pedro del Hierro, Hoss Intropia, Slowlove, High Spirits, Dash and Stars, OOTO, HI&BYE, Milano และเสื้อผ้าเด็ก Springfield Kids นอกจากนี้ Tendam ยังจำหน่ายแบรนด์บุคคลที่สามที่คัดสรรมาเกือบ 200 แบรนด์ ผ่านแพลตฟอร์ม Omnichannel หลากหลายแบรนด์

ปัจจุบัน Tendam ดำเนินธุรกิจในกว่า 80 ประเทศ ผ่านจุดขายมากกว่า 1,800 แห่ง (รวมถึงร้านค้าที่บริหารงานโดยตรง มุมร้านค้า และแฟรนไชส์) และออนไลน์ โดยมีเว็บไซต์ 33 แห่งสำหรับ 8 แบรนด์ของบริษัท แอปพลิเคชัน 6 แอปพลิเคชัน รวมถึงเว็บไซต์และตลาดออนไลน์อื่นๆ ของบริษัท โดยสามารถดูเว็บไซต์บริษัทของ Tendam ได้ที่ www.tendam.es

1 การเข้าซื้อกิจการของ Tendam ในบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาจะไม่มีผลบังคับใช้จนกว่าจะได้รับอนุมัติจากหน่วยงานการแข่งขันที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าจะได้รับในเร็วๆ นี้

ที่มา: AETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/20250723669640/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:

W assim El Jurdi
Multiply Group
อีเมล: wassim@multiply.ae

Rawad Khattar
Weber Shandwick
โทร.: +971 56 336 2131
อีเมล: rkhattar@webershandwick.com

ที่มา: Multiply Group