Category Archives: Technology

NielsenIQ เปิดตัวโซลูชันสื่อค้าปลีกเพื่อสร้างรายได้จากสินทรัพย์และการวัดค่าแบบ ROI สำหรับผู้ค้าปลีก

Logo

NielsenIQ Activate ช่วยให้ผู้ค้าปลีกใช้ประโยชน์จากข้อมูลของตนเองเพื่อเร่งกระแสรายได้ใหม่

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–16 พฤษภาคม 2565

วันนี้ NielsenIQ บริษัทผู้ให้บริการด้านข้อมูลระดับโลก ประกาศเปิดตัว NielsenIQ Activate โซลูชันการให้บริการทางด้านซอฟต์แวร์ (SaaS) ที่ช่วยให้ผู้ค้าปลีกเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ผ่านสื่อการค้าปลีกและข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าที่ครอบคลุมซึ่งกระตุ้นนักช้อปด้วยข้อเสนอโปรโมชันเฉพาะบุคคล

NielsenIQ Activate ประกอบด้วยแอปพลิเคชันเฉพาะสำหรับการสร้างผู้ชมที่กำหนดเป้าหมายแบบไฮเปอร์ การจัดการข้อเสนอและการโฆษณา และการวัดผลแบบ end-to-end เครื่องมือการให้บริการแบบ SaaS เป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม NielsenIQ Connect ที่จะช่วยให้ผู้ค้าปลีกสร้างรายได้ที่ยั่งยืนโดยสร้างรายได้จากสินทรัพย์สื่อการค้าปลีกผ่านช่องทางจริงและทางดิจิทัล นอกจากนี้ผู้ค้าปลีกจะสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือกับแบรนด์และแจ้งให้พวกเขาทราบถึงข้อมูลเชิงลึกที่พวกเขาต้องการเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า ดำเนินการตามข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้น และวัดค่าแบบ ROI ในกิจกรรมของพวกเขาในทุกช่องทาง

“เรามุ่งมั่นที่จะสานต่อสิ่งที่เราทำไว้โดยกำหนดศตวรรษหน้าของการวัดผลผู้บริโภคและการค้าปลีก” Xavier Facon ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อค้าปลีกระดับโลกของ NielsenIQ กล่าว “NielsenIQ Activate รวบรวมความสามารถในการบรรลุมุมมองที่ละเอียดของลูกค้าในทุกช่องทาง และรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความเสี่ยงและโอกาสสำหรับการโฆษณาไว้ในแพลตฟอร์มเดียว วิธีนี้จะช่วยให้ผู้ค้าปลีกเปิดตัวแคมเปญได้อย่างง่ายดายโดยอิงจากการสร้างกลุ่มเป้าหมายที่คาดการณ์ได้ และรวบรวมการวัดผลเกี่ยวกับผลกระทบของโฆษณาในทุกช่องทางในขณะที่สอดคล้องกับแบรนด์พันธมิตร”

NielsenIQ Activate ตระหนักดีว่าผู้ค้าปลีกทุกรายมีความแตกต่างกัน โดยช่วยให้ผู้ค้าปลีกสามารถนำสื่อค้าปลีกมาใช้เองและมีความยืดหยุ่นในการผสานรวมเข้ากับระบบนิเวศส่วนบุคคลของตน นอกจากนี้ผู้ค้าปลีกจะสามารถสร้างบุคลิกและผู้ชมที่แม่นยำจากคุณลักษณะของลูกค้านับพันราย รับข้อมูลเชิงลึกจากทุกช่องทางที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพื่อการตัดสินใจที่ดีขึ้น ลดเวลาในการเปิดตัวและวัดผลการมีส่วนร่วมของลูกค้าที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลในแบบเรียลไทม์ ทั้งในสื่อที่เป็นเจ้าของเองและสื่อภายนอก และปรับให้สอดคล้องกับแบรนด์ที่ลูกค้าต้องการเพื่อเพิ่มการสร้างรายได้จากสื่อและข้อมูล

“NielsenIQ กำลังขยายการเติบโตในระดับโลก และสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับศตวรรษหน้าของการวัดผลผู้บริโภคและการค้าปลีกที่รวดเร็ว คล่องแคล่วว่องไว และเชื่อมโยงถึงกัน” David Johnson ประธานฝ่ายค้าปลีกระดับโลกของ NielsenIQ กล่าว “ตลาดกำลังพัฒนา และเป็นงานของเราที่จะทำให้แน่ใจว่าอุตสาหกรรมการวัดผลมีวิวัฒนาการไปตามกาลเวลา ในฐานะบริษัทผู้ให้บริการด้านข้อมูลชั้นนำระดับโลกในอุตสาหกรรมนี้ เรามีความแข็งขันในการนำเสนอแนวค้าปลีกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าของเราได้อย่างแม่นยำ”

การรวมความสามารถจากการเข้าซื้อกิจการล่าสุด Precima และ CiValue ทำให้ NielsenIQ Activate รองรับความสามารถในการปรับแต่งเฉพาะบุคคลที่เพิ่มมากขึ้นจากความสามารถหลักของ NielsenIQ ซึ่งอุตสาหกรรมค้าปลีกต้องพึ่งพาการตัดสินใจที่สำคัญและประสบการณ์เฉพาะบุคคล NielsenIQ ยังคงเป็นผู้ชนะเลิศในด้านการเปลี่ยนแปลงผ่านผลิตภัณฑ์ค้าปลีกและโปรแกรมการทำงานร่วมกัน ทำให้ผู้ค้าปลีกและแบรนด์ต่าง ๆ เพิ่มส่วนแบ่งในกระเป๋าเงินของพวกเขาโดยใช้ข้อมูลลูกค้าและข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ และเสริมอำนาจพวกเขาด้วยชุดการเปิดใช้งานที่เหมาะสมเพื่อดำเนินการและวัดค่า

“โซลูชันที่เรียบง่ายและใช้งานง่ายของ CiValue และ Precima ใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและวิทยาศาสตร์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อรวมกับการวัดประสิทธิภาพทั่วโลกของ NielsenIQ จะเชื่อมโยงผู้ค้าปลีกเข้ากับผู้ผลิต CPG อย่างแท้จริง” Beni Basel ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ CiValue กล่าว “ไม่มีแพลตฟอร์มอื่นใดที่สามารถช่วยให้ผู้ค้าปลีกและแบรนด์ทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มมูลค่าของลูกค้าด้วยแพลตฟอร์มแบบ AI ที่เรียบง่ายและใช้งานง่าย ซึ่งวางลูกค้าให้เป็นศูนย์กลางของการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ NielsenIQ Activate กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ https://nielseniq.com/global/en/solutions/nielseniq-activate/.

เกี่ยวกับ NielsenIQ

NielsenIQ เป็นผู้นำในด้านการให้บริการมุมมองที่สมบูรณ์ที่สุดเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลก NielsenIQ ขับเคลื่อนโดยแพลตฟอร์มข้อมูลผู้บริโภคที่ก้าวล้ำและความสามารถในการวิเคราะห์ที่หลากหลาย ทำให้บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคและผู้ค้าปลีกชั้นนำของโลกสามารถตัดสินใจได้อย่างกล้าหาญและมั่นใจ

NielsenIQ ใช้ชุดข้อมูลที่ครอบคลุมและการวัดผลธุรกรรมทั้งหมดอย่างเท่าเทียมกัน ช่วยให้ลูกค้ามีมุมมองเชิงคาดการณ์ล่วงหน้าเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในแพลตฟอร์มการค้าปลีกทั่วทั้งหมด ระบบปรัชญาเปิดของเราในการรวมข้อมูลนั้นยังช่วยให้ชุดข้อมูลผู้บริโภคมีอิทธิพลมากที่สุดในโลก NielsenIQ มอบความจริงที่สมบูรณ์

NielsenIQ เป็นบริษัทในเครือ Advent International มีการดำเนินงานในเกือบ 100 ตลาด ครอบคลุมมากกว่า 90% ของประชากรโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ NielsenIQ.com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220516005072/en/

ติดต่อ:

Gillian Mosher
VP, Communication
647-282-9714
Gillian.Mosher@nielseniq.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Hytera เปิดตัววิทยุ PDC680 แบบ Dual-mode รุ่นใหม่ที่ทนทานเพื่อเร่งให้เกิดประสบการณ์อัจฉริยะด้านความปลอดภัยสาธารณะ

Logo

เซินเจิ้น จีน–(BUSINESS WIRE)–12 พฤษภาคม 2565

Hytera ประกาศเปิดตัววิทยุ PDC680 แบบ Dual-mode รุ่นใหม่ที่ทนทาน ซึ่ง PDC680 รวมวิทยุสื่อสาร DMR ที่สำคัญต่อภารกิจเข้าด้วยกันกับสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบแอนดรอยด์ไว้ในอุปกรณ์เครื่องเดียว โดยใช้ประโยชน์จากพลังของเทคโนโลยีแนร์โรว์แบนด์และบรอดแบนด์เพื่อให้บริการการโทรด้วยเสียง การส่งวิดีโอ และการกำหนดตำแหน่งที่สำคัญต่อภารกิจ ชุดวิทยุที่ทนทานแบบ dual-mode นี้มีระบบแอนดรอยด์ 10 และประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ขั้นสูงเพื่อปรับประสบการณ์ผู้ใช้ให้เหมาะสมที่สุด

เอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220502005534/en/

Hytera Launches the New Dual-mode Rugged Radio PDC680 to Accelerate the Public Safety Intelligent Experience (Graphic: Business Wire)

Hytera เปิดตัววิทยุ PDC680 แบบ Dual-mode ที่ทนทานเพื่อเร่งให้เกิดประสบการณ์อัจฉริยะด้านความปลอดภัยสาธารณะ (กราฟิก: Business Wire)

PDC680 เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์วิทยุที่ทนทานแบบ dual-mode ของ Hytera ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้ง่าย การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์บนปุ่มกดและปุ่มอัจฉริยะ และการออกแบบโมดูลาร์บน Ul ทำให้ผู้เผชิญเหตุคนแรกทำงานด้วยมือเดียวได้ง่ายขึ้น อัตรา IP68 ของวิทยุ (จมอยู่ใต้น้ำลึก 2 เมตรเป็นเวลา 4 ชั่วโมง) และการรับรอง ESD IEC Level 4 ทำให้มั่นใจได้ว่าเครื่องจะทำงานได้อย่างน่าเชื่อถือในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง

วิทยุมืออาชีพที่ทนทานนี้ถูกสร้างมาเพื่อให้การสื่อสารทางวิทยุแบบ push-to-talk ที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายและคาดเดาไม่ได้ ทั้งยังให้เสียงที่คมชัดอย่างไม่เคยมีมาก่อนด้วยการตัดเสียงรบกวนแบบ Al-based แม้อยู่ในตัวเมืองที่มีเสียงดังที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถสลับระหว่างเครือข่าย DMR และเครือข่าย LTE ได้โดยอัตโนมัติ การลงทะเบียนกับทั้งสองเครือข่ายโดยใช้ ID เดียวกัน PDC680 สามารถสลับไปยังเครือข่ายที่เหมาะสมที่สุดได้โดยอัตโนมัติ เพื่อมอบการสื่อสารด้วยเสียงที่ราบรื่นและเชื่อถือได้ทุกที่ทั้งในสถานที่ร่มและกลางแจ้ง

PDC680 รวมการสื่อสารที่สำคัญต่อภารกิจที่เชื่อถือได้เข้าด้วยกันกับความสามารถบรอดแบนด์สำหรับแอปพลิเคชันที่ให้ข้อมูลที่จำเป็นเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ในด้านความปลอดภัยสาธารณะตอบสนองต่อสถานการณ์ใด ๆ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถจับภาพและวิดีโอในสถานที่แล้วส่งไปยังวิทยุหรือศูนย์บัญชาการอื่นในแบบเรียลไทม์เพื่อปรับปรุงแก้ไขการรับรู้สถานการณ์ อุปกรณ์นี้ยังมีคุณสมบัติ Smart MDM ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถจัดการวิทยุเป็นกลุ่มหมู่ได้

PDC680 เป็นวิทยุอัจฉริยะ ใช้งานง่าย และทนทาน ทำงานได้อย่างน่าเชื่อถือ แม้ในสภาวะที่ท้าทายที่สุด โดยช่วยให้ผู้เผชิญเหตุคนแรกทำงานอย่างปลอดภัยและปกป้องชีวิต

ด้วยการเปิดตัว PDC680 สู่ตลาดโลก Hytera มุ่งมั่นที่จะเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการหลอมรวมของตลาดด้านวิทยุสื่อสาร

กลุ่มผลิตภัณฑ์วิทยุที่ทนทานแบบ dual-mode ของ Hytera ขณะนี้รวมถึงวิทยุแบบ hand-held รุ่น PDC680, PTC680, PTC760 และ PDM680 วิทยุที่ทนทานแบบ dual-mode ทั้งหมดได้รับการอัปเดตเป็นแอนดรอยด์ 10 แล้ว ช่วยให้ผู้ใช้มีวิธีใหม่ในการควบคุมความเป็นส่วนตัว ปรับแต่งวิทยุ และทำงานให้เสร็จลุล่วงได้

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิทยุที่ทนทานแบบ dual-mode ของ Hytera สามารถเยี่ยมชมได้ที่: https://bit.ly/3vUNvuw

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220502005534/en/

ติดต่อ:

Lingran Tao
Lingran.Tao@hytera.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Onapsis ประกาศข้อเสนอใหม่เพื่อเริ่มต้นการรักษาความปลอดภัยอย่างรวดเร็วสำหรับลูกค้า SAP

Logo

บริษัทมอบข้อเสนอการจัดการช่องโหว่ใหม่เพื่อช่วยให้องค์กรที่มีข้อจำกัดด้านทรัพยากรต่อสู้กับการโจมตีที่กำลังเพิ่มขึ้นในแอปพลิเคชัน SAP ที่มีความสำคัญต่อภารกิจ

บอสตัน–(BUSINESS WIRE)–10 พ.ค. 2565

Onapsis, ผู้นำด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของแอปพลิเคชันที่มีความสำคัญต่อธุรกิจและการปฏิบัติตามข้อกำหนด ประกาศเปิดตัว Onapsis Assess Baseline  โดยในโลกที่แอปพลิเคชันที่มีความสำคัญต่อธุรกิจถูกโจมตีทุกวัน ๆ ข้อเสนอใหม่นี้จะช่วยเร่งความสามารถขององค์กรในการเริ่มต้นโปรแกรมการจัดการช่องโหว่ SAP โดยปรับให้สอดคล้องกับ SAP Security Baseline

การเติบโตแบบทวีคูณของแรนซัมแวร์แบบกำหนดเป้าหมายและการคุกคามที่เพิ่มขึ้นของสงครามไซเบอร์ อันเนื่องมาจากความขัดแย้งระดับโลกหมายความว่า องค์กรต่าง ๆ ต้องประเมินอีกครั้งว่าพวกเขาสามารถรักษาความปลอดภัยให้กับระบบที่สำคัญที่สุดของพวกเขาได้อย่างไร ท่ามกลางแนวโน้มของภัยคุกคามที่มีการพัฒนาต่อเนื่องและที่รุนแรงมากขึ้น บริษัทต่าง ๆ ต่างพยายามตามให้ทันกับการแก้ไขช่องโหว่จำนวนที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ผู้คุกคามใช้เพื่อเข้าถึงแอปพลิเคชันที่มีความสำคัญต่อธุรกิจ  การใช้ Onapsis Assess Baseline ช่วยให้บริษัททุกขนาดสามารถเร่งให้เกิดมูลค่าที่คุ้มค่ากับเวลา โดยการปรับใช้งานง่ายขึ้นด้วยโมเดล SaaS ใหม่แบบ zero-footprint และมุ่งเน้นไปที่ชุดช่องโหว่ที่สำคัญที่เป็นเป้าหมายหลักเป็นอันดับแรกในความพยายามที่จะให้การรับรองด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ตลอดจนถึงด้านความสอดคล้องและความพร้อมใช้งานของแอปพลิเคชัน SAP เมื่อใดที่องค์กรพร้อมที่จะดำเนินการมากกว่านี้ Onapsis Assess Baseline สามารถเสนอการขยายขอบเขตเพิ่มเติมสำหรับการจัดการช่องโหว่ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งรวมไปถึงการขยายความสามารถในการตรวจสอบภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องและการทดสอบความปลอดภัยของแอปพลิเคชัน อีกด้วย

ประโยชน์ที่สำคัญขององค์กรจากการใช้ Onapsis Assess Baseline

  • ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการด้วยการปรับใช้แบบเร่งรัด: ไม่ว่าจะในระบบคลาวด์  ณ สถานที่ หรือผ่านแพลตฟอร์ม SaaS ของ Onapsis ก็ตาม Assess Baseline นำเสนอการปรับใช้และการใช้งานที่รวดเร็วด้วยการสแกนแบบไม่ทิ้งร่องรอย zero footprint scanning
  • ร่นระยะเวลาในการจัดการช่องโหว่ของ SAP: ผู้ใช้ Onapsis SaaS สามารถสแกนด้วย Assess Baseline เทียบกับข้อกำหนดพื้นฐานด้านความปลอดภัยที่ SAP แนะนำสำหรับระบบ SAP ขององค์กรภายไม่กี่ชั่วโมง การสแกนนำเสนอบริบทที่มีประสิทธิภาพเกี่ยวกับจุดอ่อนที่สำคัญ คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการบรรเทาจุดอ่อน และได้รับความมั่นใจว่าจะมีการอุดช่องโหว่ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาอันมีค่าของทรัพยากร.
  • เทคโนโลยีที่ขยายและเติบโตได้เรื่อย ๆ พร้อมไปกับคุณ: ปรับใช้ในที่ที่คุณต้องการ สแกนทั่วทั้งแนว SAP เริ่มต้นจากขนาดเล็กและกำหนดเป้าหมายระบบที่สำคัญที่สุดก่อน จากนั้นจึงขยายขอบเขตการรักษาความปลอดภัยทั่วทั้งองค์กรตามเงื่อนไขของคุณ

Mariano Nunez ซีอีโอของ Onapsis กล่าวว่า “การรักษาความปลอดภัยให้กับแอปพลิเคชันที่มีความสำคัญทางธุรกิจต่อองค์กรนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายอยู่เสมอ แต่ปัจจุบันองค์กรเหล่านี้ยิ่งเผชิญกับภัยมากขึ้นไปอีก มากกว่าที่เคยเป็นมาในอดีต เนื่องจากภัยคุกคามที่ซับซ้อนมุ่งเป้าไปที่ระบบ Enterprise Resource Planning (ERP)  เราประสบความสำเร็จในการช่วยเหลือองค์กรที่ใหญ่ที่สุดและซับซ้อนที่สุดในโลกในการรวมแอพพลิเคชั่นทางธุรกิจเข้ากับโปรแกรมการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และการปฏิบัติตามข้อกำหนด ตอนนี้ Assess Baseline ช่วยให้ลูกค้าที่เริ่มต้นใช้งานโปรแกรมรักษาความปลอดภัยแอปพลิเคชัน SAP สามารถเริ่มต้นการปกป้องแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ”

แพลตฟอร์ม Onapsis ช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับแอปพลิเคชัน SAP ที่สำคัญ ๆ ที่ช่วยให้เศรษฐกิจโลกดำเนินต่อไป แพลตฟอร์มนี้สร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อมอบการจัดการช่องโหว่ให้ได้ผล การตรวจจับภัยคุกคามขั้นสูง การตรวจสอบโค้ดที่กำหนดเอง และการปฏิบัติตามข้อกำหนดอัตโนมัติที่ช่วยให้องค์กรระดับโลกสามารถเร่งการริเริ่มทางธุรกิจและการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลได้ แพลตฟอร์ม Onapsis ได้รับการออกแบบอย่างลึกซึ้งจากการใช้ข้อมูลข่าวกรองภัยคุกคามและคำแนะนำด้านความปลอดภัยล่าสุดจาก Onapsis Research Labs ซึ่งเป็นทีมชั้นนำในตลาดนี้ ซึ่งได้ค้นพบช่องโหว่สำหรับการโจมตีแบบซีโร่เดย์มากกว่า 800 รายการ และมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งเตือน CERT ที่สำคัญทั่วโลกหลายรายการ

Steve Biskie ผู้นำด้านความเสี่ยงด้าน ERP และระบบอัตโนมัติของ RSM US LLP กล่าวว่า “ภูมิทัศน์ภัยคุกคามในปัจจุบันต้องใช้แนวทางแบบองค์รวมในการรักษาความปลอดภัยแอปพลิเคชัน SAP ที่มีความสำคัญต่อธุรกิจ อย่างเช่น ซอฟต์แวร์ ERP เป็นต้น เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่ได้เห็น Onapsis เดินหน้าสร้างสรรค์โซลูชั่นอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือบริษัทต่าง ๆ ในเส้นทางแห่งการเติบโตด้านการรักษาความปลอดภัย การใช้ Baseline ใหม่สามารถช่วยปูทางให้องค์กรจำนวนมากขึ้นมีจุดเริ่มต้นในการจัดการช่องโหว่สำหรับแอปพลิเคชัน SAP ที่สามารถช่วยรักษาข้อมูลที่สำคัญและรักษาแอปพลิเคชันของพวกเขาให้ปลอดภัยและเป็นไปตามข้อกำหนด”

ท่านจะเข้าร่วมการประชุม SAP Sapphire หรือเปล่า โปรดเยี่ยมชมบูธ Onapsis เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม: #PA219

หากต้องการนัดเวลาพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ Onapsis ขณะอยู่ที่งาน Sapphire โปรดไปที่: https://onapsis.com/sapphire-22

เกี่ยวกับ Onapsis

Onapsis ปกป้องแอปพลิเคชันที่มีความสำคัญต่อธุรกิจซึ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ตั้งแต่คอร์ไปจนถึงคลาวด์ โซลูชันการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และการปฏิบัติตามข้อกำหนดของบริษัท The Onapsis Platform นำเสนอการจัดการช่องโหว่ การตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคาม การรับประกันการเปลี่ยนแปลง และการปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างต่อเนื่องสำหรับแอปพลิเคชันที่มีความสำคัญต่อธุรกิจจากผู้ขายชั้นนำ เช่น SAP, Oracle, Salesforce และแพลตฟอร์ม SaaS อื่น ๆ

Onapsis มีสำนักงานใหญ่ในเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ โดยมีสำนักงานสาขาอยู่ที่ ไฮเดลเบิร์ก เยอรมนี และบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา บริษัทภูมิใจให้บริการแบรนด์ชั้นนำของโลกมากกว่า 300 แบรนด์ รวมถึงบริษัทร้อยละ 20 ของ Fortune 100, บริษัท 6 ใน 10 บริษัทยานยนต์ชั้นนำ,บริษัทเคมี  5 จาก 10 อันดับแรก, บริษัทเทคโนโลยี 10 อันดับแรก 4 แห่ง และบริษัทน้ำมันและก๊าซ 3 บริษัทจาก 10 อันดับแรก

แพลตฟอร์ม Onapsis ขับเคลื่อนโดย Onapsis Research Labs ซึ่งเป็นทีมที่รับผิดชอบในการค้นพบและบรรเทาช่องโหว่การโจมตีจากซีโร่เดย์มากกว่า 800 รายการในแอปพลิเคชันที่มีความสำคัญต่อธุรกิจ การวิจัยและแพลตฟอร์มภัยคุกคามของเราขยายวงกว้างผ่านบริษัทที่ปรึกษาและตรวจสอบชั้นนำ เช่น Accenture, Deloitte, IBM, PwC และ KPMG จึงทำให้โซลูชัน Onapsis เป็นมาตรฐานในการช่วยให้องค์กรปกป้องคลาวด์ ไฮบริด และข้อมูลภายในองค์กรที่มีความสำคัญต่อธุรกิจ ตลอดจนถึงข้อมูลและกระบวนการต่าง ๆ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เชื่อมต่อกับเราได้ที่ Twitter หรือ LinkedIn, หรือเยี่ยมชมเราได้ที่ https://onapsis.com/.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220510005214/en/

ติดต่อ:

ฝ่ายสื่อสาร 10Fold สำหรับ Onapsis

Mariah Simank, 512-971-3702

Onapsis@10fold.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mawi DNA Technologies เปิดตัว NextSWAB™ เพื่อผลการทดสอบโควิด-19 ที่แม่นยำและน่าเชื่อถือมากขึ้น

Logo

เฮย์เวิร์ด แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–10 พฤษภาคม 2565

Mawi DNA Technologies (Mawi) บริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มุ่งเน้นการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมสำหรับการเก็บตัวอย่างทางชีวภาพ ได้เปิดตัว NextSWAB™ ซึ่งเป็นไม้สวอปพลาสติกใช้สำหรับทางการแพทย์ 100% ที่ออกแบบและผลิตในสหรัฐอเมริกา Mawi เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เพื่อตอบสนองต่อปัญหาการขาดแคลนไม้สวอปสำหรับตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้รับการออกแบบสำหรับการเก็บรวบรวมที่มีประสิทธิภาพสูงโดยไม่มีโอกาสในการปนเปื้อนจากกาวหรือเส้นใยที่ใช้ในไม้สวอปพันสำลีและไนลอนที่อาจยับยั้งการตรวจด้วย PCR ปัจจุบัน NextSWAB™ ได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับการเก็บตัวอย่างทางจมูกด้วยการตรวจสอบสำหรับตัวอย่างประเภทอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง

“อุปกรณ์เก็บตัวอย่างปลอดเชื้อ NextSWAB™ มีความยาวถึงหกนิ้วโดยมีการออกแบบส่วนหัวที่ไม่เหมือนใครอยู่ที่ปลายสุด” Dr. Bassam El-Fahmawi ซีอีโอของ Mawi กล่าว “หัวไม้สวอปมีสองช่องคั่นด้วยผนังกั้นที่เก็บรวบรวมในจมูกซึ่งสามารถใส่ลงใน transport media ที่ใช้เก็บตัวอย่างชั่วคราวด้วยการเขย่าเบา ๆ หัวที่ยืดหยุ่นได้พอดีเข้ากับช่องได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เก็บตัวอย่างจากจมูกส่วนหน้าโดยผู้ใช้รู้สึกไม่สบายน้อยที่สุดที่เพียงพอสำหรับผลลัพธ์ที่มีความหมาย” Dr. El-Fahmawi กล่าวเสริม

NextSWAB™ สามารถใช้ได้กับหลอดเก็บตัวอย่างจำนวนมาก ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเก็บรวบรวมตัวอย่างสวอปหลายชิ้นในหลอดเดียว อย่างไรก็ตามเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทั้งนี้จะมีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับเทคโนโลยีการเก็บตัวอย่าง iSWAB-Microbiome-EL ของ Mawi ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถข้ามขั้นตอนการสกัด RNA ในการทดสอบระดับโมเลกุลของโควิด-19 ได้ คุณสามารถเพิ่มการเก็บตัวอย่างทางจมูกที่สองลงในหลอดเดียวกันเพื่อสร้างตัวอย่างที่มีความเข้มข้นมากขึ้นเพื่อปรับปรุงความน่าเชื่อถือโดยรวมของการทดสอบ ซึ่ง NextSWAB™ พร้อมใช้งานและไม่จำเป็นต้องมีการเตรียมการใด ๆ สำหรับการรวบรวมตัวอย่าง

“NextSWAB™ ของเราเก็บตัวอย่างครบถ้วนลงใน transport media ที่ใช้เก็บตัวอย่างโดยไม่จำเป็นต้องมีไม้สวอปส่งไปพร้อมกับตัวอย่าง” Dr. El-Fahmawi ชี้ให้เห็น “จากนั้นตัวอย่างของเหลวที่มีความเข้มข้นครบถ้วนสามารถนำไปประมวลผลได้อย่างรวดเร็วด้วยระบบเตรียมตัวอย่างแบบหุ่นยนต์หรือขั้นตอนการทำงานในห้องปฏิบัติการใด ๆ ในระหว่างการทดสอบ R&D เบื้องต้น การออกแบบส่วนหัวที่อยู่ระหว่างรอการจดสิทธิบัตรและเป็นเอกลักษณ์ได้แสดงให้เห็นประสิทธิภาพในการเก็บรวบรวมตัวอย่างทางจมูก (mid-turbinate และ anterior nares) ที่สูงกว่าการเก็บตัวอย่างสวอปแบบ flocked swabs” เขากล่าว

ด้วยความต้องการไม้สวอบสำหรับเก็บรวบรวมตัวอย่างของโควิด-19 แนวทางห่วงโซ่อุปทานสำหรับ NextSWAB™ จึงมีความน่าเชื่อถือและมีเสถียรภาพด้วยโครงสร้างขึ้นรูปพลาสติกและการผลิตในสหรัฐอเมริกา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ NextSWAB™ สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.mawidna.com

เกี่ยวกับ Mawi DNA Technologies

Mawi DNA Technologies ก่อตั้งขึ้นในปี 2556 เป็นผู้พัฒนาและให้บริการเชิงพาณิชย์ด้านเทคโนโลยี iSWAB ซึ่งเป็นระบบที่มีความล้ำสมัยสำหรับการเก็บตัวอย่างทางชีวภาพ พันธกิจของ Mawi คือการรักษาความสมบูรณ์ของตัวอย่างไม่ว่าจะมาจากส่วนไหนของโลกที่อุณหภูมิห้องปกติ เพื่อให้เห็นความหลากหลายที่แท้จริงของตัวอย่างจากต่างพื้นที่ทางภูมิศาสตร์และกลุ่มประชากร ภายใต้เครื่องหมายการค้า At Mawi, The Future of Biosampling is Here™ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่ http://www.mawidna.com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220510005587/en/

ติดต่อ:

นักลงทุน:
Jerome David, VP of Sales and Marketing
510-256-5186, j.david@mawidna.com

ติดต่อสื่อ:
Susan Tellem, APR, RN, BSN
310-313-3444, text or call 310-613-3504 susan@tellemgrodypr.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Sangfor Newsletter นำเสนองานวิจัยของ Gartner® ชื่อ The Cloud Strategy Cookbook 2564

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–11 พ.ค. 2565

Sangfor Technologies ผู้จำหน่าย IT Infrastructure และโซลูชั่นด้านความปลอดภัยชั้นนำระดับโลกที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่เชี่ยวชาญในด้าน Cybersecurity และ Cloud Computing Sangfor ได้ทำงานกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ รวมทั้งพัฒนาข้อเสนอที่ดีอยู่แล้ว ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราทั่วโลกสามารถทำให้การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลเป็นไปอย่างปลอดภัยและง่ายขึ้น

Cloud Strategy Cookbook 2021 โดย Gartner เป็นการจัดเตรียม “Virtual Template” ให้กับ Infrastructure พื้นฐานและ Operation manager สำหรับการจัดทำเอกสารการวางกลยุทธ์ระบบคลาวด์ที่ดี ซึ่งจะตอบคำถาม “อะไร” และ “ทำไม” ที่เกี่ยวข้องกับการ Implement และ การนำระบบคลาวด์ไปใช้

งานวิจัยของ Gartner พบข้อมูลที่น่าสนใจหลายประการ ดังนี้

  • องค์กรที่ไม่มีการวางกลยุทธ์ระบบคลาวด์ (Cloud Strategy) จะมีแนวโน้มในการประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจน้อยกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับองค์กรที่มี Cloud Stategy
  • มีการวางกลยุทธ์ระบบคลาวด์  (Cloud Strategy) ที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับหลักการและการจัดลำดับความสำคัญในการวางกลยุทธ์อื่น ๆ ได้ เช่น การวาง Data center, การจัดการระบบ Security รวมไปถึงออกแบบสถาปัตยกรรมของ Cloud
  • องค์กรมักไม่มีการวาง Exit strategy แม้ว่าจะเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของ Cloud Strategy

Cloud Strategy Cookbook ให้คำแนะนำและ Guidelines สำหรับผู้นำด้าน Infrastructure and Operation (I&O) ในการสร้างแผนกลยุทธ์ระบบคลาวด์ “ที่เป็นปัจจุบัน” สำหรับการย้ายขึ้นระบบคลาวด์และแผนการ Implement ให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของธุรกิจหลัก (Core business strategy) อย่างมีประสิทธิภาพ แนวทางของ Cloud Strategy Cookbook แบ่งแผนกลยุทธ์ระบบคลาวด์ออกเป็น 5 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ บทสรุปสำหรับผู้บริหาร(Executive Summary), แนวทางพื้นฐาน(Baselines), การระดมสมอง(Brainstorming), หลักการ(Principles) และคลังทรัพยากร(Inventory) รวมถึงการปรับให้สอดคล้องกับกลยุทธ์และองค์ประกอบที่สนับสนุน

เพื่อให้ตอบโจทย์ The Cloud Strategy Cookbook  Sangfor Newsletter สามารถช่วยตอบคำถามเรื่องการ implement ระบบคลาวด์ “อย่างไร” ให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงเสนอวิธีการการเตรียมตัวก่อนย้ายไปยังระบบคลาวด์ เพื่อทำให้การดำเนินการเป็นไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

  • การระบุวัตถุประสงค์ในการนำระบบคลาวด์ไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ สำหรับผู้นำด้าน infrastructure and operation (I&O) เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายขององค์กร
  • เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล องค์กรควรเริ่มที่จะเปลี่ยนมาใช้ระบบคลาวด์ รวมไปถึงเริ่มที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจหลัก(Core business)
  • การเลือก Cloud partner ที่มีประสบการณ์และหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายส่วนเกิน(unexpected costs) ที่อาจเกิดขึ้นจากกระบวนการ implementation and operation (I&O)

ท่านสามารถศึกษาข้อมูลรายงานของ Gartner เพิ่มเติมได้ที่ Sangfor Newletter คลิก ที่นี่

แหล่งที่มา: Gartner Research Note

The Cloud Strategy Cookbook G00741474 เผยแพร่เมื่อ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 โดยนักวิเคราะห์: David Smith

GARTNER เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนและเครื่องหมายบริการของ Gartner, Inc. เท่านั้น

และ/หรือ สงวนลิขสิทธิ์ให้บริษัทในเครือที่สหรัฐอเมริกาหรือต่างประเทศใช้ได้เท่านั้น

Sangfor Managed Cloud Services

Sangfor Managed Cloud Services มอบความสะดวกสบายและความยืดหยุ่นในการใช้งานระบบ Public Cloud ด้วยความสามารถด้านการรักษาความปลอดภัย(security), การควบคุม(control) และ Professional service โดยผู้เชี่ยวชาญจาก Private Cloud ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นระบบคลาวด์ที่ดีที่สุดสำหรับองค์กรขนาดเล็ก(SME)

Sangfor ให้บริการ Distributed Data Centers ให้กับลูกค้าทั่วโลก ด้วย Infrastructure-as-a-Service (IaaS), Platform-as-a-Service (PaaS) รวมถึง Dedicated resource/Data security และการรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มรูปแบบกับด้วย security responsibilities model แบบใหม่ กล่าวได้ว่าเป็น Local Public Cloud ที่มีความปลอดภัยไม่ต่างจาก Private Cloud เลยทีเดียว

เปลี่ยนมาใช้ Sangfor Managed Cloud Services เพื่อทำให้องค์กรของท่านมุ่งไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสร้างมูลค่าทางธุรกิจให้มากยิ่งขึ้น

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Sangfor Managed Cloud Services

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ www.sangfor.com.

ดูเวอร์ชั่นต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220506005142/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ:

Sunny Sun

marketing@sangfor.com

+8675586560605

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Hillstone Networks ได้รับรางวัล “Customers’ Choice หรือ ขวัญใจผู้บริโภค” ดีเด่น จากรายงาน Network Firewalls Report หัวข้อ “Voice of the Customer หรือ เสียงของผู้บริโภค” ของ Gartner® Peer Insights™ เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

Logo

บริษัทที่ได้รับรางวัล Customers’ Choice ต้องได้คะแนนเฉลี่ยตลาดโดยรวมกับคะแนนความสนใจของผู้ใช้และการยอมรับโดยเฉลี่ยของตลาด ในระดับที่เท่ากับเกณฑ์หรือสูงกว่า

ซานตาคลารา แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–11 พ.ค. 2565

Hillstone Networks ผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันการป้องกันโครงสร้างพื้นฐาน ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้รับรางวัล “Customers' Choice หรือ ขวัญใจผู้บริโภค” ดีเด่น ประจำปี 2565 จากรายงาน Gartner Peer Insights หัวข้อ Gartner Peer Insights ‘Voice of the Customer’: Network Firewalls ทั้งนี้ “Gartner Peer Insights เป็นแพลตฟอร์มที่ตรวจสอบและให้คะแนนแบบ peer review ที่ไม่คิดค่าใช้จ่าย ที่ออกแบบมาสำหรับซอฟต์แวร์องค์กร และผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านบริการ”

ในรายงานนี้ ผู้จำหน่าย ซึ่งรวมถึง Hillstone Networks “ที่อยู่ในจตุภาคขวาบนของควอแดรนต์ 'Voice of the Customer' ได้รับรางวัลระดับดีเด่นในหัวข้อ Gartner Peer Insights Customers’ Choice ซึ่งแสดงด้วยตราสัญลักษณ์ Customers’ Choice หรือที่แปลว่า ขวัญใจผู้บริโภค กิจการที่จะได้รับการยอมรับเช่นนี้ต้องได้คะแนนเฉลี่ยตลาดโดยรวม กับคะแนนความสนใจของผู้ใช้และการยอมรับโดยเฉลี่ยของตลาด ในระดับที่ผ่านเกณฑ์หรือสูงกว่า

“นอกเหนือไปจากการนำเสนอโซลูชันความปลอดภัยเครือข่ายระดับนวัตกรรม ที่ได้รับการพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพแล้ว Hillstone Networks ยังมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้า” Tim Liu ผู้ร่วมก่อตั้งและ CTO ของ Hillstone Networks กล่าว “ในการได้รับการยอมรับในระดับดีเด่นจากหัวข้อ 'ขวัญใจผู้บริโภค' เราเชื่อว่ามันเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของเราในการให้บริการที่ยอดเยี่ยมและสนับสนุนลูกค้าของเราเพื่อให้บริษัทของพวกเขาปลอดภัย”

ข้อค้นพบที่สำคัญสำหรับ Hillstone Networks ในรายงาน Gartner Peer Insights “Voice of the Customer” Network Firewalls ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ได้แก่

  • Hillstone Networks ได้รับคะแนน “ความเต็มใจที่จะแนะนำบริการต่อไป” ร้อยละ 100 จากผู้ใช้
  • ร้อยละ 85 ของผู้ใช้ Hillstone ที่สำรวจให้คะแนนบริษัท 5 ดาวเต็ม
  • ประสบการณ์การสนับสนุนของ Hillstone Networks ได้รับคะแนน 4.9 จาก 5 คะแนน จาก 94 รีวิว
  • ประสบการณ์การขายของ Hillstone Networks ได้รับคะแนน 4.9 จาก 5 คะแนน จาก 93 รีวิว

หากต้องการอ่านรายงาน Gartner Peer Insights “Voice of the Customer” Network Firewalls ปี 2565 คลิก ที่นี่

Hillstone Networks ได้สร้างชื่อเสียงในด้าน “การรักษาความปลอดภัยที่ได้ผล” ด้วยลูกค้าทั่วโลกกว่า 23,000 ราย และโซลูชันที่ใช้งานง่ายครอบคลุม SD-WAN, ZTNA, Microsegmentation, CWPP, NDR ตลอดจนถึง XDR ทั้งนี้ Hillstone Networks ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งในผู้มีวิสัยทัศน์ใน Gartner Magic Quadrant™ สำหรับ Network Firewalls และได้รับการยอมรับมาเป็นเวลาแปดปีติดต่อกันแล้ว

Gartner, Gartner Peer Insights 'Voice of the Customer': Network Firewalls, Peer Contributors, 29 เมษายน 2565 *

Gartner, Magic Quadrant for Network Firewalls, โดย Rajpreet Kaur, Jeremy D'Hoinne, Nat Smith, Adam Hils, 1 พฤศจิกายน 2564

Gartner และ Magic Quadrant เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Gartner, Inc. และ/หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ และได้รับอนุญาตให้ใช้ ณ ที่นี้ สงวนลิขสิทธิ์

เกี่ยวกับ Gartner Peer Insight

เนื้อหา Gartner Peer Insights ประกอบด้วยความคิดเห็นของผู้ใช้ปลายทางแต่ละรายโดยอิงจากประสบการณ์ของพวกเขาเอง และไม่ควรตีความว่าเป็นข้อความตามข้อเท็จจริง และไม่ได้แสดงถึงมุมมองของ Gartner หรือบริษัทในเครือ ทั้งนี้ Gartner ไม่ได้รับรองผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใด ๆ ที่ปรากฎในเนื้อหานี้ และไม่รับประกันใด ๆ ทั้งโดยชัดแจ้งหรือโดยนัยเกี่ยวกับเนื้อหานี้ เกี่ยวกับความถูกต้องหรือความครบถ้วนสมบูรณ์ รวมถึงการรับประกันความสามารถในการซื้อขายหรือความเหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะ

Peer Insights เป็นเครื่องหมายการค้าของ Gartner, Inc. และ/หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ และได้รับอนุญาตให้ใช้ณ ที่นี้ สงวนลิขสิทธิ์

Customers’ Choice ของ Gartner Peer Insights ประกอบขึ้นจากความคิดเห็นส่วนตัวของบทวิจารณ์ การให้คะแนน และข้อมูลของผู้ใช้ปลายทางแต่ละราย โดยใช้วิธีการเก็บข้อมูลแบบที่เป็นเอกสาร สิ่งนี้ไม่ได้เป็นตัวแทนของความคิดเห็น และไม่ถือเป็นการรับรองโดย Gartner หรือบริษัทในเครือใด ๆ ทั้งสิ้น

เกี่ยวกับ Hillstone Networks

โซลูชันการป้องกันโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการพิสูจน์แล้วของ Hillstone Networks ช่วยให้องค์กรและผู้ให้บริการมีทัศนวิสัยและความชาญฉลาดในการดูแลอย่างครอบคลุม ทำความเข้าใจอย่างถี่ถ้วน และดำเนินการอย่างรวดเร็วต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์แบบหลายชั้นและหลายขั้นตอน ทั้งนี้ Hillstone ได้คะแนนที่ดีจากนักวิเคราะห์ชั้นนำและได้รับความไว้วางใจจากบริษัทระดับโลก Hillstone ช่วยปกป้องตั้งแต่ระบบ egde ไปสู่ระบบคลาวด์ด้วยต้นทุนรวมของการเป็นเจ้าของที่ถูกลง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.hillstonenet.com.

ติดต่อสำหรับสื่อ

Zeyao Hu

+1 4085086750

inquiry@hillstonenet.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Murata Manufacturing: เซ็นเซอร์ดินแบบ 31 ช่วยเพิ่มผลผลิตและคุณภาพพืชผลสูงสุดใน Smart Agriculture

Logo

เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น–(บิสิเนสไวร์)–09 พฤษภาคม, 2022

Murata Manufacturing Co., Ltd. (TOKYO:6981) (ISIN:JP3914400001) ได้เปิดตัวเซ็นเซอร์ดินแบบสามในหนึ่งเดียวที่มีความแม่นยำสูงสำหรับการเกษตรแบบยั่งยืนที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล  ด้วยการตรวจสอบค่าการนำไฟฟ้า (EC) ปริมาณน้ำและอุณหภูมิของดินไปพร้อมๆ กัน เซ็นเซอร์ช่วยให้เกษตรกรเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของพืชผลได้สูงสุดในขณะที่ลดทรัพยากร เช่น น้ำและปุ๋ย

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220508005001/en/

[Murata Manufacturing Co., Ltd.] soil sensor (Photo: Business Wire)

[Murata Manufacturing Co., Ltd.] เซ็นเซอร์ดิน (ภาพ: Business Wire)

ปลายเซ็นเซอร์ดินมีกริดอิเล็กโทรดไวพิเศษ 9 อันที่ให้การวัดค่า EC ของดินอย่างสม่ำเสมอ อิเล็กโทรดเหล่านี้ใช้อัลกอริธึมเฉพาะในการวัดและเปรียบเทียบค่า EC ของน้ำในรูพรุน ซึ่งเป็นน้ำที่อยู่ระหว่างอนุภาคในดิน กับปริมาตรของสารอาหารตามธรรมชาติของดินและปุ๋ยที่เติม  การวัดค่า EC เหล่านี้ไม่ได้รับผลกระทบจากความชื้นในดิน ซึ่งจะช่วยขจัดความไม่แน่นอนในดิน และมีส่วนในการปรับปรุงคุณภาพและผลผลิตพืชผลด้วยการใส่ปุ๋ยให้เหมาะสม

การรู้ปริมาณน้ำในดินยังช่วยให้ผู้ปลูกสามารถทดน้ำในดินได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที ช่วยประหยัดน้ำ เช่นเดียวกับการตรวจสอบสภาพดิน เซ็นเซอร์ที่ทนทานและเชื่อถือได้สามารถตรวจสอบคุณภาพน้ำในแม่น้ำและทะเลสาบได้

Yoshiyuki Oba ผู้พัฒนา Murata กล่าวว่า “เราได้ทำการทดสอบสาธิตโดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับดินของเราในทุ่งนาและพืชผลต่างๆ เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพ  การใช้ข้อมูลเพื่อการจัดการและการควบคุม เซ็นเซอร์ดินมีส่วนช่วยในการประหยัดแรงงานในงานเกษตรกรรม และลดการสูญเสียทรัพยากรอันมีค่า เช่น น้ำและปุ๋ย พวกเขายังมีส่วนช่วยในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เช่น ปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น ความเสียหายของเกลือ และปัญหาด้านอาหารที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก”

เซ็นเซอร์เหล่านี้สามารถป้องกันฝุ่นและน้ำตามมาตรฐาน IP68 รวมถึงการกันสนิมสำหรับใช้ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เซ็นเซอร์วัดระดับดินประสิทธิภาพสูงและประหยัดพลังงานเหล่านี้สามารถทำงานด้วยแบตเตอรี่ AA สามก้อนนานกว่าครึ่งปี หากช่วงการวัดคือทุกๆ 30 นาที เซ็นเซอร์หลายอินเทอร์เฟซยังรองรับ UART, RS232E, RS485, SDI-12 และ RS485 MODBUS ทำให้เข้ากันได้กับระบบการจัดการพืชผลที่มีอยู่

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่: https://www.murata.com/en-global/products/sensor/soil

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220508005001/ th/

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
Murata Manufacturing Co., Ltd.
Wakana Nakamura, prsec_mmc@murata.com 
Corporate Communications Department (ฝ่ายสื่อสารองค์กร)

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

NTHU จัดพิธีเปิดหลักสูตรเตรียมแพทย์

Logo

ซินจู๋ ไต้หวัน–(บิสิเนสไวร์)– 05 พ.ค. 2565

ในวันที่ 30 มีนาคม NTHU ได้จัดพิธีเปิดหลักสูตร Post-baccalaureate Program in Medicine โดย Hocheng Hong ประธาน NTHU กล่าวว่าโปรแกรมใหม่จะฝึกนักเรียนให้เผชิญกับความท้าทายของวันพรุ่งนี้โดยเน้นที่พื้นฐานของวิทยาศาสตร์การแพทย์แห่งอนาคต ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) บิ๊กดาต้า และอินเทอร์เน็ตบนคลาวด์

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220504005503/en/

The opening ceremony for the Post-baccalaureate Program in Medicine. (Photo: National Tsing Hua University)

พิธีเปิดหลักสูตร Post-baccalaureate Program in Medicine (ภาพ: มหาวิทยาลัยแห่งชาติ Tsing Hua)

ประธาน Hocheng ชี้ให้เห็นว่าการผสมผสานของการแพทย์และเทคโนโลยีใหม่เป็นคลื่นแห่งอนาคต เขายังตั้งข้อสังเกตอีกว่าความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของ NTHU ที่มีต่อพื้นฐานการแพทย์ ควบคู่ไปกับโรงพยาบาล NTHU ที่จะสร้างขึ้นที่สนามบิน Taoyuan Aerotropolis จะช่วยให้นักศึกษาได้รับการศึกษาที่ครอบคลุมในด้านการรักษาพยาบาลเบื้องต้น

Yang Wen-ke หัวหน้าฝ่ายบริหารในเขตซินจู๋กล่าวว่าอุทยานวิทยาศาสตร์ Hsinchu ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 42 ปีที่แล้ว และปีที่แล้วมีมูลค่าการผลิตอยู่ที่ 1.58 ล้านล้านเหรียญไต้หวัน ชี้ให้เห็นว่า NTHU มีบทบาทสำคัญในความสำเร็จของอุทยานแห่งนี้ เขายืนยันว่าขณะนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเปิดตัวโปรแกรมที่เน้นด้านการแพทย์ที่แม่นยำและการดูแลทางการแพทย์ด้วย AI

หลักสูตรหลังปริญญาตรีสาขาแพทยศาสตร์เป็นของวิทยาลัยชีววิทยาศาสตร์ คณบดีคือ Kao Ruey-ho ซึ่งกล่าวว่านักเรียนชุดแรกจะรวมถึงนักเรียนที่ได้รับทุนสาธารณะยี่สิบสามคน โดยสิบหกคนจะประจำอยู่ในกลุ่มวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ และเจ็ดคนในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ

คณบดี Kao ยังกล่าวอีกว่าโครงการได้แต่งตั้งคณาจารย์ประจำและแต่งตั้งร่วมแล้วกว่า 100 คน และอุปกรณ์ที่จำเป็นทั้งหมดจะพร้อมใช้งานในไม่ช้า รวมถึงห้องผ่าที่มีโต๊ะผ่าเก้าแห่ง โดยมีหลักสูตรที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล  คณบดี Kao สังเกตว่าแผนกการแพทย์ในไต้หวันมักจะแบ่งหลักสูตรออกเป็นวิชาอิสระ เช่น สรีรวิทยา เภสัชวิทยา พยาธิวิทยา โรคหัวใจ โรคไต และระบบทางเดินปัสสาวะ ในทางตรงกันข้าม โปรแกรมของ NTHU ใช้แนวทางเชิงระบบมากกว่า ซึ่งรวมหลักสูตรพื้นฐานและหลักสูตรทางคลินิกเข้าด้วยกัน เช่นเดียวกับในหลักสูตรเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือดซึ่งรวมเอาส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น เภสัชวิทยา

โดยเป็นอดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาล Tzu Chi ในฮัวเหลียน คณบดี Kao กล่าวว่าการลงทะเบียนนักเรียนที่มีพื้นฐานด้านวิศวกรรมไฟฟ้า วิทยาการคอมพิวเตอร์ วัสดุศาสตร์ และวิศวกรรมเคมี โครงการนี้จะเพิ่มความหลากหลายของการศึกษาทางการแพทย์ในไต้หวัน ในขณะที่สร้างแพทย์ผู้บุกเบิกเพื่อตอบสนองความต้องการของอนาคต

ผู้อำนวยการโครงการคือ Chou Hung-hsueh ซึ่งเคยเป็นผู้อำนวยการภาควิชาแพทยศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Chang Gung  ผู้อำนวยการ Chou กล่าวว่าเขาคาดหวังให้นักเรียนในโครงการนี้มีสำนึกในพันธกิจที่เข้มแข็ง และเต็มใจที่จะทำงานในพื้นที่ของไต้หวันซึ่งขาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เพียงพอ  นอกจากนี้ เขายังชี้ให้เห็นว่าหลักสูตรนี้รวมถึงหลักสูตรในสาขาวิชามนุษยศาสตร์การแพทย์ โดยเน้นที่บทบาทของแพทย์ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากภาครัฐ เพื่อ “สร้างแพทย์ที่รู้วิธีดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม”

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220504005503/en/

ติดต่อ:

Holly Hsueh
NTHU
(886)3-5162006
hoyu@mx.nthu.edu.tw

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Hanhwa คว้าเงินทุน 140 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียจาก GEM เพื่อเตรียมเข้าสู่การเป็นบริษัทมหาชน

Logo

บริษัทกำลังดำเนินการเพื่อแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนในปีหน้าบนตลาดหลักทรัพย์

เมลเบิร์น, ออสเตรเลีย–(BUSINESS WIRE)–02 พฤษภาคม 2565

Hanhwa Aus Pty Ltd (“Hanhwa”) ผู้ผลิตยานยนต์ระดับโลกมีความยินดีที่จะประกาศว่า บริษัทได้ลงนามในข้อตกลง กับ GEM Global Yield LLC SCS (“GGY”) ซึ่งเป็นกลุ่มการลงทุนทางเลือกเอกชนในลักเซมเบิร์ก เพื่อจัดการข้อตกลงจองซื้อหุ้นมูลค่าสูงถึง 140 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียเป็นระยะเวลา 36 เดือนให้แก่ Hanhwa หลังจากการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ข้อตกลงการจองซื้อหุ้นจะช่วยให้ Hanhwa สามารถถอนเงินโดยการออกหุ้นสามัญให้กับ GEM โดย Hanhwa จะควบคุมระยะเวลาและจำนวนสูงสุดของการเบิกถอนดังกล่าวและไม่มีภาระผูกพันในการเบิกถอนขั้นต่ำ Hanhwa จะออกใบสำคัญแสดงสิทธิให้กับ GEM เพื่อซื้อหุ้นสามัญของบริษัทได้ถึง 5.2% ทันทีที่มีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

เกี่ยวกับ Hanhwa

นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 2559 ในเมืองวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย Hanhwa Aus Pty Ltd. (“Hanhwa”) เป็นบริษัท OEM/วิศวกรรมและการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยียานยนต์ระดับโลกที่ก่อตั้งขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์ ผ่านรูปแบบการจัดจำหน่ายโดยตรง โดยมีความยืดหยุ่นตามคำขอพิเศษจากบริษัทยานยนต์ทั่วโลก

Hanhwa มีผลิตภัณฑ์ชั้นนำของโลกจึงสามารถเป็นพันธมิตรกับหน่วยงานระดับโลกที่มีชื่อเสียง เช่น อิซูซุ โตโยต้า เมอร์เซเดส-เบนซ์ ฟูโซ วอลโว โดยนำเข้าสินค้าไปยังสถานที่ดังกล่าว รวมถึงสหภาพยุโรปและกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (ซาอุดีอาระเบีย คูเวต โอมาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ และบาห์เรน

ผลิตภัณฑ์หลัก ๆ ของ Hanhwa ครอบคลุมเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสาระความบันเทิง เทเลเมติกส์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ Hanhwa ยังมีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดกับกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยได้ดำเนินงานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเพื่อลงทุนและพัฒนาในโซลูชันและจอแสดงผลการควบคุมยานพาหนะไฟฟ้าสำหรับตลาดรถบรรทุกไฟฟ้า การพัฒนายานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทำให้ความต้องการชิ้นส่วนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของยานยนต์เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากรถยนต์เริ่มเปลี่ยนจุดเน้นไปที่ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การขับเคลื่อนด้วยตัวเอง และการแบ่งปันรถใช้งาน โดยรถยนต์กำลังปรับตัวและเปลี่ยนแปลงจาก “การขนส่ง” ให้กลายเป็น “อุปกรณ์สำหรับขนย้าย” ที่มีความเชื่อมโยงอย่างมากกับนวัตกรรมทางเทคโนโลยี

บริษัทแม่ของ Hanhwa Aus Hanhwa ซึ่งก็คือ Hightech Co. Ltd (Hanhwa Korea) ก่อตั้งขึ้นในปี 2541 และเริ่มจัดหาส่วนประกอบเครื่องเสียงรถยนต์ เครื่องมือ และการจัดหาฝาครอบแผงด้านหน้าให้กับผู้ผลิตเครื่องเสียงรถยนต์ในญี่ปุ่น และยังพัฒนาและจัดหาเครื่องเสียงรถยนต์/ชุดสายไฟสำหรับรถบางรุ่นโดยเฉพาะ

ในฐานะโรงงานผลิต พวกเขามีบทบาทสำคัญในการผลิตผลิตภัณฑ์หลักในเกาหลีใต้ และช่วยให้ Hanhwa Aus กลายเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำในแง่ของปริมาณการขาย Hanwha Korea ให้ความช่วยเหลือ Hanwha Aus ในการรักษาชื่อเสียงอันโด่งดังด้านชิ้นส่วนยานยนต์ทั่วโลก และขยายไปสู่เขตตลาดใหม่ ๆ

Ryan Lee ประธานกรรมการบริหารของ Hanwha Aus Pty Ltd. กล่าวว่า “พันธกิจด้านเงินทุนจำนวน 140 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียจาก GEM ซึ่งเป็นพันธมิตรของเรา ได้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งและเร่งแผนการเติบโต 5 ปีในการก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายยานยนต์ชั้นนำของออสเตรเลียเพื่อขยายสู่ระดับโลกต่อไป เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มของเราจะขับเคลื่อนต่อไปผ่านการจัดการเงินทุนนี้ และ GEM จะช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดด้านกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์และวัตถุประสงค์ระยะยาวของบริษัท เรามีความยินดีที่โครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราจะได้รับการปรับปรุงเพื่อปลดล็อกมูลค่าและเร่งการขยายตัว ซึ่งจะยังคงปรับปรุงรูปแบบที่ประสบความสำเร็จของเราต่อไป โดยการเติบโตของรายได้ปีต่อปีในปี 2564 อยู่ที่ 174% ทีมผู้บริหารของ Hanhwa รู้สึกตื่นเต้นที่จะใช้ประโยชน์จากการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ASX เพื่อให้ลูกค้าปัจจุบันและอนาคตของเรามีอุปกรณ์และความคุ้มค่าที่ดีที่สุดในภาคส่วนนี้”

เกี่ยวกับ GEM

Global Emerging Markets (“GEM”) เป็นกลุ่มการลงทุนทางเลือกที่มีมูลค่า 3.4 พันล้านดอลลาร์ โดยมีการดำเนินงานในปารีส นิวยอร์ก และบาฮามาส GEM จัดการชุดเครื่องมือเพื่อการลงทุนที่หลากหลาย ซึ่งมุ่งเน้นไปยังตลาดเกิดใหม่ และได้ทำธุรกรรมไปแล้วกว่า 520 รายการใน 80 ประเทศ เครื่องมือการลงทุนแต่ละแบบมีระดับการควบคุมการปฏิบัติงาน ผลตอบแทนที่ปรับตามความเสี่ยง และโปรไฟล์สภาพคล่องที่แตกต่างกัน กลุ่มกองทุนและเครื่องมือการลงทุนช่วยให้ GEM และพันธมิตรได้รับโอกาส เช่น การเข้าซื้อกิจการกองทุนหุ้น Small-Mid Cap การลงทุนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของภาคเอกชน และเลือกการลงทุนร่วม

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.gemny.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ busi9nesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220501005034/en/

ติดต่อ:

Hanhwa: www.hanhwa.com.au , ryan@hanhwainternational.com
GEM: www.gemny.com , jbonnefoy@gemny.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Toshiba เปิดตัวไมโครคอนโทรลเลอร์ ARM® Cortex®-M3 กลุ่ม M3H ใหม่สำหรับคลาสขั้นสูงตระกูล TXZ+TM

Logo

มีการปรับให้เหมาะสมกับการควบคุมหลักของอุปกรณ์สำหรับการอุปโภคบริโภคและอุตสาหกรรม และการควบคุมมอเตอร์

คาวาซากิ, ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–26 เมษายน 2565

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) เริ่มผลิตไมโครคอนโทรลเลอร์ชนิดใหม่ 21 ประเภทใน กลุ่ม M3H เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับ คลาสขั้นสูงตระกูล TXZ+™ ที่ผ่านกระบวนการผลิตขนาด 40 นาโนเมตร ผลิตภัณฑ์กลุ่ม M3H ประกอบด้วย ARM® Cortex®-M3 core ที่ทำงานด้วยความเร็วสูงสุดถึง 120MHz โดยผสานรวมหน่วยความจำแบบแฟลชรหัสขนาดสูงสุด 512KB และหน่วยแฟลชข้อมูลขนาดสูงสุด 32KB ที่เขียนซ้ำได้ถึง 100K ครั้งต่อรอบ ไมโครคอนโทรลเลอร์เหล่านี้ยังมีอินเตอร์เฟซและตัวเลือกการควบคุมมอเตอร์ที่หลากหลาย เช่น UART, I2C, Encoder และ การควบคุมมอเตอร์ที่ตั้งโปรแกรมได้ กลุ่ม M3H เหมาะสำหรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ เช่น มอเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และอุปกรณ์เกี่ยวกับอุตสาหกรรม

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดียดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220425005036/en/

Toshiba: New M3H Group of ARM(R) Cortex(R)-M3 Microcontrollers in the TXZ+(TM) Family Advanced Class (Graphic: Business Wire)

Toshiba: ไมโครคอนโทรลเลอร์ ARM® Cortex®-M3 กลุ่ม M3H ใหม่สำหรับคลาสขั้นสูงตระกูล TXZ+(TM) (กราฟิก: Business Wire)

เพื่อตอบสนองต่อความหลากหลายของอุปกรณ์สำหรับการอุปโภคบริโภค ผลิตภัณฑ์กลุ่ม M3H ใหม่นี้จะมีฟังก์ชันการสื่อสารที่ยกระดับขึ้น ซึ่งรวมอยู่ใน UART, TSPI, I2C และ DMAC 2 หน่วย นอกจากนี้ ไดรเวอร์ LCD แบบดิจิทัลยังถูกรวมเข้าด้วยกันเพื่อลดจำนวนส่วนประกอบสำหรับฟังก์ชันการแสดงผล อำนวยความสะดวกในการปรับคอนทราสต์ และทำให้แน่ใจว่ามีการจัดวางบอร์ดที่ยืดหยุ่น

อุปกรณ์เหล่านี้รองรับแอปพลิเคชันการตรวจจับที่หลากหลายด้วยตัวแปลงอนาล็อก/ดิจิทัล ขนาด 12 บิต (ADC) ที่มีความแม่นยำสูง ซึ่งช่วยให้สามารถตั้งค่าตัวอย่างและเวลาสำหรับช่องสัญญาณอินพุต ADC แต่ละช่องด้วยจำนวนสูงสุดถึง 21 ช่อง นอกจากนี้ยังมีโซลูชันที่เหมาะสมสำหรับการควบคุมมอเตอร์ AC และมอเตอร์ DC แบบ brushless ร่วมกับวงจรควบคุมมอเตอร์แบบตั้งโปรแกรมขั้นสูงที่สามารถทำงานได้แบบซิงโครนัสกับตัวแปลงอนาล็อก/ดิจิทัล ขนาด 12 บิที่มีความเร็วและความแม่นยำสูง

ฟังก์ชันการวินิจฉัยตนเองที่รวมอยู่ในอุปกรณ์สำหรับ ROM, RAM, ADC และ Clock ช่วยให้ลูกค้าได้รับการรับรองความปลอดภัยในการใช้งาน IEC60730 คลาส B

เอกสารกำกับโปรมแกรม ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ตัวอย่างพร้อมตัวอย่างการใช้งานจริง และซอฟต์แวร์ไดรเวอร์ที่ควบคุมอินเตอร์เฟซสำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วงแต่ละชนิด สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ของ Toshiba บอร์ดประเมินผลและสภาพแวดล้อมการพัฒนาจัดทำขึ้นจากการร่วมมือกับพันธมิตรในระบบนิเวศทั่วโลกของ Arm

คุณสมบัติที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ใหม่

  • Arm Cortex-M3 core ประสิทธิภาพสูง ทำงานที่ความถี่สูงสุด 120MHz
  • มีการปรับให้เหมาะสมสำหรับอุปกรณ์สำหรับการอุปโภคบริโภคที่มีหน่วยความจำและรายการแพ็คเกจที่หลากหลาย
  • ฟังก์ชันการวินิจฉัยตนเองสำหรับความปลอดภัยในการทำงาน IEC60730 คลาส B

การใช้งาน

  • ใช้สำหรับการควบคุมหลักของอุปกรณ์สำหรับการอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ของเล่น อุปกรณ์สำนักงาน อุปกรณ์ดูแลสุขภาพ ฯลฯ
  • ใช้สำหรับการควบคุมอุปกรณ์เกี่ยวกับโรงงาน

ข้อมูลจำเพาะ

กลุ่มผลิตภัณฑ์

M3H group

CPU core

ARM Cortex-M3 
‒ หน่วยปกป้องหน่วยความจำ (MPU)

ความถี่การใช้งานสูงสุด

120MHz

Oscillator ภายใน

10MHz (+/-1%)

หน่วยความจำภายใน

แฟลช (รหัส)

256KB/384KB/512KB 
(เขียนรหัสซ้ำได้ถึง 100,000 ครั้ง)

แฟลช (ข้อมูล)

32KB (เขียนรหัสซ้ำได้ถึง 100,000 ครั้ง)

RAM

64KB (พร้อมบิตเพิ่ม) และ RAM สำรองขนาด 2KB

พอร์ต I/O

57 to 135

สัญญาณอินเตอร์รัพท์จากภายนอก

12 to 23

ตัวควบคุม DMA (DMAC)

คำขอเข้าถึง DMA: 2 หน่วย มีปัจจัย 54 ถึง 64 และตัวกระตุ้นภายในและภายนอก

ฟังก์ชันจับเวลา

T32A

ตัวจับเวลา 32 บิต
(8 ช่องสัญญาณเป็นตัวจับเวลา 32 บิตหรือ 16 ช่องเป็นตัวจับเวลา 16 บิต)

RTC

นาฬิกาเรียลไทม์: 1 ช่อง

ฟังก์ชันการสื่อสาร

UART

การสื่อสารแบบอนุกรมแบบอะซิงโครนัส: 7 ถึง 8 ช่อง

I2C

อินเตอร์เฟซ I2C: 2 ถึง 4 ช่อง

TSPI

อินเตอร์เฟซอุปกรณ์ต่อพ่วงแบบอนุกรม: 1 ถึง 5 ช่อง

ฟังก์ชันอนาล็อก

12-bit AD converter

12 ถึง 21 ช่องอินพุต

ตัวแปลงอนาล็อกเป็นดิจิทัลขนาด 8 บิต

2 ช่อง

การควบคุมมอเตอร์

A-ENC

วงจรอินพุตเข้ารหัสขั้นสูง: 1 ช่อง

A-PMD

วงจรควบคุมมอเตอร์ขั้นสูงที่ตั้งโปรแกรมได้: 1 ช่อง

อุปกรณ์ต่อพ่วงอื่น ๆ

RMC

ตัวประมวลผลสัญญาณรีโมตคอนโทรล 1 ช่อง

CRC

การคำนวณกระแสลัดวงจร 1 ช่อง CRC32, CRC16

DLCD

ตัวควบคุมจอแสดงผล LCD แบบ Non-Bias Drive: 40 segments × 4 commons (สูงสุด)

ฟังก์ชันระบบ

SIWDT

1 ช่อง

LVD

วงจรตรวจจับกระแสไฟฟ้า: 1 ช่อง

OFD

ตัวตรวจจับความถี่ Oscillation: 1 ช่อง

ฟังก์ชัน On-chip debug

Serial Wire / JTAG

แรงดันไฟฟ้าใช้งาน

2.7 ถึง 5.5 โวลต์ จ่ายไฟจากแหล่งเดียว

แพ็ตเกจ / ขา

LQFP144 (20มม. x 20มม. ระยะพิชต์ 0.5มม.) 
LQFP128 (14มม. x 14มม. ระยะพิชต์ 0.4มม.) 
LQFP128 (14มม. x 20มม. ระยะพิชต์ 0.5มม.) 
LQFP100 (14มม. x 14มม. ระยะพิชต์ 0.5มม.) 
LQFP100 (14มม. x 20มม. ระยะพิชต์ 0.65มม.) 
LQFP80 (12มม. x 12มม. ระยะพิชต์ 0.5มม.) 
LQFP64 (10มม. x 10มม. ระยะพิชต์ 0.5มม.)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ 
M3H Group

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับไมโครคอนโทรลเลอร์ของ Toshiba ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ 
Microcontrollers

* Arm และ Cortex เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Arm limited (หรือบริษัทในเครือ) ในสหรัฐอเมริกาและ/หรือทั่วโลก 
* TXZ+™ เป็นเครื่องหมายการค้าของ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation 
* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทที่เกี่ยวข้อง

* ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาด้านบริการ และข้อมูลการติดต่อ เป็นข้อมูล ณ ปัจจุบันในวันที่ประกาศ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้.

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ระดับแถวหน้าผู้จัดหาโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และการจัดเก็บที่มีความก้าวล้ำ รวบรวมประสบการณ์และนวัตกรรมที่สะสมมากว่าครึ่งศตวรรษ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ ระบบ LSIs และ HDD อันโดดเด่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของเรา 
พนักงานทั้ง 23,000 คนจากทั่วโลกของ TDSC มุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ของเราให้ถึงระดับสูงสุด และให้ความสำคัญกับการทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า เพื่อส่งเสริมการสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ ๆ ร่วมกัน ด้วยยอดขายต่อปีที่สูงกว่า 8.5 แสนล้านเยน (7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในขณะนี้ TDSC หวังที่จะได้มีส่วนสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับผู้คนทั่วโลก 
เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220425005036/en/

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับลูกค้า
ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์ MCU และอุปกรณ์ดิจิทัล 
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อ
Chiaki Nagasawa 
ฝ่ายการตลาดดิจิทัล 
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation 
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย