Category Archives: Technology

INNORULES เตรียมเข้าสู่ตลาดการเงินเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลังคว้าโปรเจ็กต์ด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันจากบริษัทประกันญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุด

Logo

โซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–08 กรกฎาคม 2564

INNORULES (ซีอีโอ, Kil Kon Kim) ประกาศว่าบริษัทได้จัดหาระบบจัดการข้อมูล Digital Decision Manager (DDM) ของบริษัทให้กับโปรเจ็กต์นวัตกรรมแห่งอนาคตของหนึ่งในบริษัทประกันที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยได้เปิดระบบเพื่อทำงานในระยะแรกไปแล้ว

INNORULES’ Digital Product Manager (DPM) is a product information management system that supports the development of new products quickly and easily by disassembling and assembling the product information, structure and attributes. INNORULES, a Korean professional developer of Business Rule Engine, supplied the Digital Product Manager to the innovative digital transformation project of one of the biggest insurance companies in Japan. INNORULES is planning to expand into the South East Asian financial market upon this opportunity. (Graphic: Business Wire)

Digital Product Manager (DPM) ของ INNORULES เป็นระบบจัดการข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่รองรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วโดยการรื้อและประกอบข้อมูล โครงสร้าง และคุณสมบัติเฉพาะของผลิตภัณฑ์ INNORULES ผู้พัฒนา Business Rule Engine มืออาชีพจากเกาหลี เป็นผู้จัดหาระบบจัดการข้อมูล Digital Product Manager ให้กับโปรเจ็กต์ด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันที่มีความก้าวล้ำของหนึ่งในบริษัทประกันที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และ INNORULES วางแผนที่จะใช้โอกาสนี้ขยายสู่ตลาดการเงินของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (กราฟิก: Business Wire)

INNORULES คือผู้พัฒนาโซลูชัน Business Rule Engine (BRE) อย่างมืออาชีพ ซึ่งโซลูชัน BRE นี้จะทำหน้าที่ลดความซับซ้อนของงานต่าง ๆ รวมทั้งปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพการทำงานของโครงสร้างระบบให้ดีขึ้น บริษัทด้านการเงินในเกาหลีหลายแห่ง รวมถึงบริษัทประกัน นายหน้า และธนาคารต่างเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของ INNORULES

สำหรับบริษัทญี่ปุ่นแห่งนี้ ได้เตรียมโปรเจ็กต์แห่งอนาคตนี้มาตั้งแต่ปี 2559 โดยเป็นโปรเจ็กต์ที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปี ซึ่งมีเงินลงทุนราว 1.746 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

บริษัทญี่ปุ่นรายนี้ได้พบกับผลิตภัณฑ์ของ INNORULES ครั้งแรกเมื่อพวกเขามาเยือนเกาหลีเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านผลิตภัณฑ์กับบริษัทประกันในเกาหลี และท้ายที่สุดได้เลือก INNORULES หลังมีการทดสอบเพื่อเปรียบเทียบสมรรถนะ หรือ Benchmark Test

บริษัทญี่ปุ่นแห่งนี้ได้นำระบบ Digital Product Manager (DPM) ของ INNORULES ไปใช้กับงานสำคัญ ๆ และนำไปใช้ลดความซับซ้อนโครงสร้างผลิตภัณฑ์ของพวกเขา เช่น การขายประกัน ใบเสร็จเบี้ยประกัน และกระบวนการชำระเบี้ยประกันภัย เป็นต้น

ไม่เพียงเท่านั้น INNORULES ยังได้รับบทบาทสำคัญในโปรเจ็กต์นี้โดยรับหน้าที่ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานระบบมรดก (legacy system) ของลูกค้า ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลสะสมในปริมาณมหาศาล ก่อนหน้านี้ การแปลงผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยความรวดเร็วเป็นเรื่องที่ทำได้ยากเนื่องจากจำเป็นต้องมีการพิจารณาผลกระทบจากการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ลงในระบบที่มีอยู่แล้วก่อน

ระบบที่เพิ่งเปิดตัวใหม่นี้ใช้ระบบจัดการข้อมูล DPM ของ INNORULES เพื่อจัดระเบียบงานที่เหมือนกันให้มีมาตรฐานเดียวกัน และแยกกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามคุณลักษณะเฉพาะของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ โดยบริษัทญี่ปุ่นแห่งนี้คาดว่าจะช่วยลดระยะเวลาในการพัฒนาและปรับแก้ผลิตภัณฑ์ได้ถึงหนึ่งในสามจากที่เคยใช้เวลาเกือบปี บริษัทแห่งนี้ยังวางแผนที่จะแนะนำระบบที่เพิ่งนำมาใช้ใหม่ให้กับระบบของธุรกิจประกันภัยรถยนต์และประกันอัคคีภัยของตนภายในปี 2568 นี้อีกด้วย

ขณะที่ INNORULES วางแผนเตรียมใช้โอกาสนี้ขยายสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Kil Kon Kim ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ INNORULES กล่าวว่า “การที่ผลิตภัณฑ์ของเราถูกนำไปใช้ในธุรกิจที่เป็นแกนหลักของบริษัทการเงินญี่ปุ่นซึ่งโดยปกติแล้วขึ้นชื่อเรื่องความระมัดระวังครั้งนี้มีความหมายกับเราอย่างมาก เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของเราได้รับการยอมรับในเรื่องของความเสถียรและความสามารถทางเทคโนโลยีมาหลายปี เราจึงได้รับการติดต่อสอบถามจากบริษัทการเงินของญี่ปุ่นหลายแห่งอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ระบบใหม่นี้ได้รับการเปิดตัวผ่านสัญญาที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้”

“จากข้อตกลงกับบริษัทญี่ปุ่นรายนี้ รวมถึงบริษัทต่าง ๆ ในภูมิภาค เราจึงได้วางแผนที่จะขยายสู่ประเทศใหญ่ ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเช่นอินโดนีเซียและมาเลเซียที่กำลังเตรียมความพร้อมสำหรับโปรเจ็กต์ด้านการเงินใหม่ ๆ อยู่ในขณะนี้” Kim กล่าวเพิ่มเติม “เราคาดว่ายอดขายในต่างประเทศจะเติบโตกว่า 20% ในปีนี้”

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ:

INNORULES CO.,LTD
Yosep Park
+82-2-416-2501
marketing@innorules.com

iNova Pharmaceuticals ได้รับใบรับรองสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดในโลก

Logo

ซิดนีย์–(บิสิเนสไวร์)–14 ก.ค., 2564

iNova Pharmaceuticals บริษัทที่ขายและจัดจำหน่ายยาที่ไม่ต้องสั่งและไม่ต้องสั่งโดยแพทย์ในออสเตรเลีย เอเชีย และแอฟริกา เพิ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดในปี 2564  iNova ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในการประเมินหลายประเภท และยังคงมุ่งมั่นที่จะใช้ข้อเสนอแนะเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมที่พนักงานทุกคนสามารถมีส่วนร่วมอย่างมีความหมายและบรรลุศักยภาพของพวกเขา

แบบสำรวจการประเมินได้รวมคำถามที่เกี่ยวข้องกับประเด็นสำคัญ เช่น ความเป็นผู้นำ การปฏิบัติงานด้านทรัพยากรบุคคล ค่าตอบแทน ผลประโยชน์ วัฒนธรรม และโอกาสในการพัฒนา  ท่ามกลางความท้าทายที่บริษัทต่างๆ เผชิญในปีที่ผ่านมา iNova และพนักงานของบริษัทในสถานที่ต่างๆ ได้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่น นวัตกรรม ความอดทน และความอุตสาหะในการปรับตัวให้เข้ากับการระบาดใหญ่ทั่วโลก

การรับรอง Best Places to Work เป็นโปรแกรมการรับรองระดับสากล ซึ่งถือเป็น 'มาตรฐานระดับแพลตตินั่ม' ในการระบุและยกย่องสถานที่ทำงานชั้นนำทั่วโลก  โดยเปิดโอกาสให้นายจ้างได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมและความพึงพอใจของพนักงาน และให้เกียรติผู้ที่มอบประสบการณ์การทำงานที่มีมาตรฐานสูงสุด

“ในฐานะบริษัทที่มุ่งพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อื่น วิสัยทัศน์นี้จึงมีความสำคัญต่อพนักงานของเรา  ความสามารถ พลังงาน และความมุ่งมั่นของพวกเขาที่ช่วยให้เราเติบโตและพัฒนาเป็นธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง และเราต้องมั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับการดูแลในที่ทำงาน” Dan Spira ซีอีโอของ iNova กล่าว

เกี่ยวกับ INOVA PHARMACEUTICALS

iNova Pharmaceuticals เป็นบริษัทข้ามชาติด้านเวชภัณฑ์และการดูแลสุขภาพสำหรับผู้บริโภคที่ขายและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชั้นนำในตลาดที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการควบคุมน้ำหนัก หวัดและการไอ คอ การดูแลผิว และสุขภาพตามธรรมชาติ  iNova Pharmaceuticals ดำเนินงานในกว่า 20  ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกา  วิสัยทัศน์ของ iNova Pharmaceuticals คือการจัดหาแบรนด์ที่เชื่อถือได้ที่พัฒนาสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนทุกวัน ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ INOVA ได้ที่ www.inovapharma.com

เกี่ยวกับโปรแกรม BEST PLACES TO WORK

Best Places To Work คือใบรับรอง 'นายจ้างยอดเยี่ยม' ที่ชัดเจนที่สุดที่องค์กรต้องการ  โปรแกรมนี้รับรองและยกย่องสถานที่ทำงานชั้นนำในหลายประเทศทั่วโลกด้วยการประเมินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท ซึ่งจะวิเคราะห์ความน่าดึงดูดใจของบริษัทผ่านกระบวนการสองขั้นตอนโดยเน้นที่ปัจจัย 8 ประการของสถานที่ทำงาน  เข้าร่วมกับชุมชนของเราได้ใน LinkedIn, Twitter, และ Facebook.

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.bestplacestoworkfor.org

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210713005994/en/

ติดต่อ:

Maria Mercedes

maria@bestplacestoworkfor.org 

+65 3159 1167

International Content Market SPP 2021 จะจัดขึ้นทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 30 กรกฎาคม

Logo

– ตลาดคอนเทนต์ B2B ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 30 กรกฎาคม

– แนะนำ ‘SPP connect’ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการจับคู่ธุรกิจใหม่ที่มีฟังก์ชันการแนะนำระบบ AI และโซลูชันของการประชุมทางวิดีโอ

โซล เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–12 กรกฎาคม 2564

Seoul Business Agency (SBA, ซีอีโอ Jang Young-seung) เป็นองค์กรที่สนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมคอนเทนต์เชิงวัฒนธรรมของกรุงโซล ได้ประกาศว่าบริษัทจะจัดตลาดคอนเทนต์ ‘SPP 2021’ ทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 30 กรกฎาคม

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210708005402/en/

The international content market SPP 2021 (<a href=www.spp.kr/) hosted by Seoul Business Agency is held online from July 12 to 30. SPP (Seoul Promotion Plan) is the largest B2B market where various content-related businesses are made. In SPP 2021, SPP connect, a new business matching platform will be introduced for the first time and various B2B programs such as online biz-matching, pitching, showcase, and promotional events will take place. The Asia Animation Alliance will strengthen the content business network between Asian countries through showcases of new animations from Korea, China, Japan, India, and ASEAN countries and briefing sessions to share animation market trends in each country. (Graphic: Business Wire)” src=”https://mms.businesswire.com/media/20210708005402/en/890185/4/image_spp.jpg” />

The international content market SPP 2021 (https://www.spp.kr/) จัดงานโดย Seoul Business Agency จะมีขึ้นทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 30 กรกฎาคม ซึ่ง SPP (Seoul Promotion Plan) เป็นตลาด B2B ที่ใหญ่ที่สุดที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ต่างๆ ในงาน SPP 2021 แพลตฟอร์มการจับคู่ธุรกิจรูปแบบใหม่ที่ชื่อว่า SPP connect จะเปิดตัวเป็นครั้งแรก และโปรแกรม B2B ที่หลากหลาย เช่น การจับคู่ธุรกิจออนไลน์ การเสนอขาย การจัดแสดง และกิจกรรมส่งเสริมการขาย โดย Asia Animation Alliance จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายธุรกิจคอนเทนต์ระหว่างประเทศในเอเชียผ่านการจัดแสดงแอนิเมชันใหม่ๆ จากเกาหลี จีน ญี่ปุ่น อินเดีย และกลุ่มประเทศอาเซียน และช่วงบรรยายสรุปเพื่อแบ่งปันแนวโน้มตลาดแอนิเมชันในแต่ละประเทศ (กราฟิก: Business Wire)

'SPP (Seoul Promotion Plan)' การตลาดที่เชี่ยวชาญด้านแอนิเมชัน ตัวละคร เว็บตูน และคอนเทนต์เกม เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ที่หลากหลาย เช่น การซื้อลิขสิทธิ์ การร่วมผลิต และสิ่งจูงใจในการลงทุน ปีที่แล้วมีบริษัทเข้าร่วม 619 แห่ง รวมถึงบริษัทระดับโลกอย่างเช่น Disney และ Tencent และการจับคู่ธุรกิจ 4,092 เรื่อง โดยเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ถึงแม้ว่าจะจัดขึ้นทางออนไลน์เนื่องจากการระบาดของโควิด-19

ความสำเร็จของ 'SPP' นี้ คือประสิทธิภาพที่โดดเด่นของแพลตฟอร์มออนไลน์ การแนะนำระบบออนไลน์ก่อนล่วงหน้าในปี 2560  โดย SPP ได้มอบโอกาสในการจับคู่ธุรกิจคุณภาพสูงแก่บริษัททำคอนเทนต์ในประเทศด้วยฟังก์ชันการตั้งเวลาล่วงหน้าที่ช่วยให้สามารถจัดการประชุมและฟังก์ชันการคัดกรองออนไลน์ที่อนุญาตให้รับชมวิดีโอคอนเทนต์ล่วงหน้าได้อีกด้วย

SPP connect ซึ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ในปีนี้ ได้ปรับปรุงความสะดวกสบายของผู้ใช้ด้วยการใช้ฟังก์ชันหลักที่จำเป็นสำหรับธุรกิจแบบทิ้งระยะห่าง เช่น โซลูชันการแนะนำอ้างอิงระบบ AI และโซลูชันการประชุมทางวิดีโอนอกเหนือจากการตั้งเวลาล่วงหน้าและการคัดกรองออนไลน์

ในงาน SPP 2021 จะเป็นการแนะนำให้รู้จัก SPP connect เป็นครั้งแรก โปรแกรม B2B ที่หลากหลายอย่างเช่น การจับคู่ธุรกิจออนไลน์ การเสนอขาย การจัดแสดง และกิจกรรมส่งเสริมการขาย ที่จะเกิดขึ้นนี้

Asia Animation Alliance จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายธุรกิจคอนเทนต์ระหว่างประเทศในเอเชียผ่านการจัดแสดงแอนิเมชันใหม่ๆ จากเกาหลี จีน ญี่ปุ่น อินเดีย และกลุ่มประเทศอาเซียน และช่วงบรรยายสรุปเพื่อแบ่งปันแนวโน้มตลาดแอนิเมชันในแต่ละประเทศ ในช่วงการบรรยายสรุปตลาดที่ประเทศต่างๆ ในเอเชีย เช่น เกาหลี จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ประเทศไทย สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์เข้าร่วม คุณสามารถตรวจสอบสถานะปัจจุบันและวิสัยทัศน์ของอุตสาหกรรมแอนิเมชันในประเทศต่างๆ ในเอเชียได้

นอกจากนี้ในงาน Global Ignite ซึ่งเป็นงานส่งเสริมการขายที่นำโดยองค์กร ช่วงที่เป็นประโยชน์ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับการผลิต การตลาด เทคโนโลยี และการลงทุนในด้านคอนเทนต์รวมถึงแอนิเมชัน ช่วงเหล่านี้รวมถึงสตูดิโอแอนิเมชันของหนุ่มชาวเกาหลีที่กำลังแพร่หลายขึ้นอย่างรวดเร็ว ช่วงการบรรยายสรุปโดยสตูดิโอที่เชี่ยวชาญด้านแอนิเมชัน และช่วงแนะนำนโยบายแอนิเมชันและสถานะกองทุนในแคนาดา

“SPP connect ที่จัดตั้งขึ้นใหม่นี้จะกลายเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่สามารถมีบทบาทสำคัญในการส่งออกคอนเทนต์ในประเทศท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ที่ยืดเยื้อ” Park Bo-kyung หัวหน้า SBA Seoul Animation Center กล่าว “ในงาน SPP 2021 เราวางแผนที่จะให้การสนับสนุนบริษัทในประเทศเพื่อสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่สำคัญโดยนำเสนอโครงการของพวกเขาไปยังผู้ซื้อชั้นนำในต่างประเทศ”

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน SPP 2021 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-30 กรกฎาคม สามารถค้นหาได้จากเว็บไซต์ SPP connect (www.spp.kr)

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210708005402/en/

ติดต่อ:

Seoul Business Agency (SBA)
Yujin Park
+82-2-3455-8365
yjpark@sba.seoul.kr

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Kyalio เปิดตัวห้องสมุดศัลยกรรมเสมือนจริง (VR Endo-Laparoscopic Library) แบบวันต่อวันเป็นแห่งแรกในเอเชีย

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–8 ก.ค. 2564

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 Kyalio กับ Endoscopic and Laparoscopic Surgeons of Asia (ELSA) ซึ่งเป็นสมาคมศัลยกรรมชั้นนำที่มีสมาชิกกว่า 2,600 ราย ได้ร่วมกันเปิดตัวห้องสมุดศัลยกรรมเสมือนจริง หรือ Virtual Endo-Laparoscopic Library แบบวันต่อวัน ห้องสมุดศัลยกรรมเสมือนจริงแบบหลายแพลตฟอร์มแห่งแรกในเอเชียนี้จะใช้ เทคโนโลยี Virtual Reality ในฉากที่เป็นสถานที่จริง โดยจะเน้นย้ำถึงความสำคัญของการฝึกฝนการผ่าตัดอย่างต่อเนื่อง และยังช่วยในเรื่องของการศึกษาด้านศัลยกรรมข้ามพรมแดนให้ดำเนินต่อไปได้แม้จะเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ก็ตาม นอกจากนี้ ห้องสมุดยังสนับสนุนการฝึกอบรมการผ่าตัดทางไกลสำหรับศัลยแพทย์รุ่นเยาว์ในประเทศกำลังพัฒนาและพื้นที่ห่างไกล อีกด้วย

เทคโนโลยี VR ช่วยให้ผู้เรียนจากทั่วโลกได้สัมผัสกับกรณีต่างๆ มากมายโดยมีการจัดให้มีผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในห้องผ่าตัดเพื่อเสริมความรู้และทักษะในการปรับปรุงผลการผ่าตัดในแต่ละแนวทาง ศัลยแพทย์หนุ่มสาวกว่าครึ่งล้านคนในเอเชียจะได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้

ศ. Davide Lomanto, ผู้นำโครงการการศึกษาดิจิทัลของ ELSA กล่าวว่า “ห้องสมุดศัลยกรรม VR หรือ The VR Surgical Library เป็นก้าวสำคัญในการใช้เทคโนโลยีเพื่อให้การศึกษาด้านศัลยกรรมเข้าถึงได้สำหรับศัลยแพทย์ทั่วโลก “องค์กรของเราสนับสนุนศัลยแพทย์หลายพันคนในเอเชียและที่อื่น ๆ ไม่เพียงแต่การฝึกอบรมขั้นพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังผ่านการแลกเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดจากศัลยแพทย์ชั้นนำทั่วภูมิภาคด้วย การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องช่วยเพิ่มประสิทธิผลให้กับสมาชิกในการปฏิบัติการผ่าตัดของตนเอง ความร่วมมือของเรากับ Kyalio ได้ขยายความพยายามในการศึกษาศัลยกรรมทั่วโลกของเรา ด้วยวิธีที่เข้าถึงได้และราคาไม่แพง”

เกี่ยวกับ Kyalio Pte Ltd

Kyalio ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2562โดยมีพันธกิจในการสร้างเทคโนโลยีที่ราคาไม่แพงแต่ล้ำหน้าสำหรับการศึกษาศัลยกรรมในวงกว้าง วิสัยทัศน์ของ Kyalio คือ “การปรับปรุงผลลัพธ์ของผู้ป่วยด้วยการฝึกการผ่าตัดที่ดีขึ้น” และดำเนินการพัฒนาต่อไปแบบวันต่อวันควบคู่ไปกับความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมและสถาบันทางการแพทย์ชั้นนำ ติดตามการเดินทางของ Kyalio ได้ที่ www.kyalio.com

เกี่ยวกับ The Endoscopic and Laparoscopic Surgeons of Asia (ELSA)

The Endoscopic and Laparoscopic Surgeons of Asia (ELSA) ก่อตั้งขึ้นในปี 1992 เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการผ่าตัดแบบส่องกล้องในเอเชีย และยังแบ่งปันประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ พร้อมกับให้คำแนะนำเกี่ยวกับมาตรฐานการปฏิบัติแก่ประเทศสมาชิก

ณ วันนี้ ELSA เป็นตัวแทนระดับภูมิภาคที่สำคัญสำหรับศัลยแพทย์ส่องกล้องในเอเชียแปซิฟิก และหน่วยงานที่กำกับดูแลที่ประกอบด้วยผู้นำด้านการผ่าตัดส่องกล้องจาก 37 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก ตั้งแต่ตุรกีทางตะวันตกไปจนถึงนิวซีแลนด์ทางตะวันออก

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210708005424/en/

ติดต่อ:

Cortilia Lin | cortilia@kyalio.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Entravision Communications Corporation ประกาศปิดดีลการเข้าซื้อกิจการ MediaDonuts

Logo

บริษัทขยายแพลตฟอร์มดิจิทัลสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเพิ่มเติมไปจากสหรัฐอเมริกา ละตินอเมริกา และยุโรป

ซานตา โมนิกา แคลิฟอร์เนีย.–(BUSINESS WIRE)–7 ก.ค. 2564

Entravision Communications Corporation (NYSE: EVC) (“Entravision” หรือ “บริษัท”) ประกาศปิดการเข้าซื้อกิจการ MediaDonuts ซึ่งเป็นบริษัทการตลาดดิจิทัลชั้นนำและการสร้างแบรนด์ที่มีการดำเนินงานใน 7 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210706005763/en/

MediaDonuts ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2553 และมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ นำเสนอบริการในด้านการโฆษณาดิจิทัลที่กว้างขวางร่วมกับบริษัทสื่อและเทคโนโลยีระดับโลกและระดับท้องถิ่น บริษัทรักษาความเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์กับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกและแพลตฟอร์มโซเชียลต่าง ๆ เช่น Twitter, TikTok, Spotify, Criteo และพันธมิตรทางการค้าที่มีเอกลักษณ์อื่น ๆ ผู้เชี่ยวชาญด้านโซลูชันดิจิทัลของ MediaDonuts ให้บริการฐานลูกค้ามากกว่า 500 แบรนด์ด้านเทคโนโลยีและผู้บริโภคในประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย อินเดีย เวียดนาม สิงคโปร์ และกัมพูชา

“วันนี้เป็นวันที่ยอดเยี่ยมสำหรับ Entravision และเรามีความยินดีที่จะต้อนรับ MediaDonuts เข้าสู่ครอบครัว Entravision อย่างเป็นทางการ” Walter Ulloa ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Entravision กล่าว “MediaDonuts เป็นการเข้าซื้อกิจการทางดิจิทัลเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญครั้งที่สองของเราในเวลาน้อยกว่าหนึ่งปี หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากในการเข้าซื้อกิจการส่วนใหญ่ของ Cisneros Interactive การเข้าซื้อกิจการ MediaDonuts ในวันนี้ยังคงเป็นกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลและระดับโลกในระยะยาว ซึ่งรวมถึงสำหรับสหรัฐอเมริกา ละตินอเมริกา ยุโรป และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

“การเข้าซื้อกิจการ MediaDonuts ของเราสอดคล้องกับเป้าหมายของเราในการเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการเทคโนโลยีการตลาดดิจิทัลชั้นนำของโลก” Juan Saldívar ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัล กลยุทธ์ และความรับผิดชอบของ Entravision กล่าว “เราได้เริ่มร่วมมือกับทีม MediaDonuts ในโครงการที่น่าตื่นเต้นและสร้างสรรค์ และเดินหน้าขยายรอยเท้าทั่วโลกของเราต่อไป ผมมั่นใจว่าความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของ MediaDonuts ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเป็นส่วนสำคัญต่อกลยุทธ์การเติบโตของ Entravision และพอร์ตโฟลิโอดิจิทัลระดับโลก”

Entravision ได้ขยายการเข้าถึงทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ด้วยการเข้ามาของบริษัทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอนนี้ Entravision ให้บริการลูกค้าดิจิทัลใน 33 ประเทศ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีประชากรที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งทั่วโลก รวมถึง 700 ล้านคน โดย 400 ล้านคนมีการเชื่อมต่อทางดิจิทัล

ทีมขายและนักประดิษฐ์สื่อที่ชาญฉลาดของ MediaDonuts มีพนักงานมากกว่า 80 คนที่สนับสนุนลูกค้าในการซื้อโดยใช้โปรแกรม (programmatic buying) เทคโนโลยี และข้อมูลเชิงลึก และการวางแผนสื่อ นอกจากนี้ MediaDonuts ยังดูแลตัวแทนสื่อซึ่งสนับสนุนแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในสื่อและเทคโนโลยีผ่านองค์กรการขายที่กว้างขวางทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พนักงาน MediaDonuts ทั้งหมดยังคงอยู่ในบริษัทต่อไป และ Pieter-Jan de Kroon จะยังคงดำรงตำแหน่ง CEO ที่สำนักงานของ MediaDonuts ในสิงคโปร์ต่อไป

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดธุรกรรมในครั้งนี้ โปรดตรวจสอบเอกสารที่บริษัทยื่นล่าสุดต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในแบบฟอร์ม 8-K

เกี่ยวกับ Entravision Communications Corporation

Entravision เป็นบริษัทด้านสื่อ การตลาด และเทคโนโลยีระดับโลกที่ให้บริการลูกค้าทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาและใน 32 ประเทศทั่วละตินอเมริกา ยุโรป และเอเชีย Entravision มีสถานีโทรทัศน์ 54 สถานีและเป็นกลุ่มในเครือที่ใหญ่ที่สุดของเครือข่ายโทรทัศน์ Univision และ UniMás และสถานีวิทยุภาษาสเปน 48 สถานีที่นำเสนอรายการระดับประเทศที่มีรางวัลเป็นการันตี พอร์ตโฟลิโอดิจิทัลแบบไดนามิกของเราประกอบด้วย Entravision Digital ซึ่งให้บริการ SMB ในตลาดละตินอเมริกาที่มีประชากรที่มีความหนาแน่นสูง และให้บริการโซลูชันแบบที่ตั้งโปรแกรมเอาไว้สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ล้ำสมัย และแพลตฟอร์มฝั่งดีมานด์ที่อนุญาตให้ผู้ลงโฆษณาดำเนินการแคมเปญด้านประสิทธิภาพโดยใช้อัลกอริธึมการเสนอราคาที่เรียนรู้ด้วยเครื่องแมชีน ร่วมกับ Cisneros Interactive ผู้นำด้านโซลูชันการโฆษณาดิจิทัลในตลาดละตินอเมริกาและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตัวแทนของแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่สำคัญ และ MediaDonuts ผู้นำด้านโซลูชันดิจิทัลแบบที่ตั้งโปรแกรมเอาไว้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หุ้นของ Entravision Class A Common Stock ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กภายใต้สัญลักษณ์ EVC เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำเสนอสื่อ การตลาด และเทคโนโลยีของเราได้ที่ entravision.com หรือเชื่อมต่อเราได้ที่ LinkedIn กับ Facebook.

แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยแถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงความคาดหวังและความตั้งใจในปัจจุบันของบริษัทเกี่ยวกับการยื่นแบบฟอร์ม 10-K แถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้ ซึ่งรวมอยู่ในข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของกฎหมายปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 2538 โดยอาจเกี่ยวข้องกับความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และปัจจัยอื่นๆ ที่ทราบและไม่ทราบที่อาจทำให้ผลประกอบการและผลการดำเนินงานที่แท้จริงของบริษัทในอนาคตแตกต่างอย่างมากจากผลลัพธ์หรือประสิทธิภาพในอนาคตที่ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นผู้แนะนำ แม้ว่าบริษัทเชื่อว่าความคาดหวังที่สะท้อนให้เห็นในแถลงการณ์นี้ซึ่งเป็นการคาดการณ์ล่วงหน้านั้นตั้งอยู่บนสมมติฐานที่สมเหตุสมผลแล้ว แต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าผลลัพธ์ที่แท้จริงจะไม่แตกต่างไปจากที่คาดการณ์ไว้ และบริษัทขอปฏิเสธหน้าที่ในการปรับปรุงแก้ไขข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าที่ทำโดยบริษัท อนึ่ง ในบางครั้ง ความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และปัจจัยอื่นๆ เหล่านี้จะมีการหารือในการยื่นเอกสารของบริษัทต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210706005763/en/

ติดต่อ:

Entravision:

Christopher T. Young

ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน

310-447-3870

Kimberly Esterkin

นักลงทุนสัมพันธ์ ADDO

310-829-5400

evc@addo.com

MediaDonuts:

Pieter-Jan de Kroon

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

pieterjan@mediadonuts.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ทีม NTHU แสดงความสามารถเหนือชั้นที่การแข่งขันซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ ASC Student Supercomputer Challenge

Logo

ซินจู๋ ไต้หวัน–(บิสิเนสไวร์)–06 ก.ค. 2021

ทีมงานจากภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ของ NTHU ได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันกลุ่มออนไลน์ ASC Student Supercomputer Challenge ปี 2563-2564 โดยแสดงความสามารถที่เหนือกว่าผู้เข้าแข่งขันกว่า 300 ทีมที่เป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงทั่วโลก  ทีมชนะการแข่งขันเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันหลังจากชัยชนะในปี 2019

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210705005007/en/

The award-winning team. Front row, beginning on left: Jerry Chou (advisor), Wang Tzuwen (team captain), Chang Chenghsun, and Hsiao Yicheng (coach); back row, beginning on left: Mou Chanyu, Chiang Liyuan, and Huang Wenyuan. (Photo: National Tsing Hua University)

ทีมชนะเลิศ แถวหน้าเริ่มจากซ้าย: Jerry Chou (ที่ปรึกษา), Wang Tzuwen (กัปตันทีม), Chang Chenghsun และ Hsiao Yicheng (โค้ช); แถวหลังเริ่มจากซ้าย: Mou Chanyu, Chiang Liyuan และ Huang Wenyuan (ภาพ: มหาวิทยาลัยแห่งชาติ National Tsing Hua University)

ASC ของจีนเป็นหนึ่งในสามการแข่งขันซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่สำคัญที่สุดในโลกสำหรับทีมมหาวิทยาลัย ซึ่งรวมถึงการแข่งขัน SCC ของสหรัฐอเมริกาและ ISC ของเยอรมนี  NTHU ซึ่งปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 2 ของโลก เป็นกำลังสำคัญในแวดวงการแข่งขันซูเปอร์คอมพิวเตอร์  ทีมงานยังได้รับรางวัลหลายรางวัลที่ SCC รวมถึงแชมป์ในปี 2553, 2553 และรางวัล LINPACK สูงสุดในปี 2550, 2551 และ 2557

ที่ปรึกษาของทีม ศาสตราจารย์ Jerry Chou  ได้กล่าวว่าการแข่งขันซูเปอร์คอมพิวเตอร์ช่วยเพิ่มความสามารถของนักเรียนในการใช้ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ในการแก้ปัญหาต่างๆ ในโลกแห่งความเป็นจริง  นอกจากทักษะพื้นฐานแล้ว ผู้เข้าร่วมยังต้องมีความรู้ที่แข็งแกร่งในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและรู้วิธีประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ทีมของเขาได้แสดงให้เห็นอย่างสม่ำเสมอตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ทีมในปีนี้ประกอบด้วยรุ่นน้อง Wang Tzuwen, Huang Wenyuan และ Chang Chenghsun และรุ่นพี่ Mou Chanyu และ Jiang Liyuan  กัปตันทีม Wang Tzuwen กล่าวว่าทีมเริ่มเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันในฤดูร้อนปี 2019 โดยมีการฝึกอบรมโดยเพื่อนร่วมชั้นอาวุโส Hsiao Yicheng และ Lin Ente ในช่วงวันหยุดฤดูหนาวปีนี้ พวกเขาเริ่มเตรียมตัวสำหรับรอบคัดเลือก โดยฝึกฝนมากกว่าสิบชั่วโมงต่อวัน

Wang กล่าวว่าการแข่งขันทางออนไลน์มีความท้าทายมากกว่า เนื่องจากแพลตฟอร์มคลาวด์ไม่พร้อมเปิดใช้งานจนกว่าการแข่งขันจะเริ่มขึ้น นอกจากการตัดสินใจเกี่ยวกับการแบ่งงานที่เหมาะสมแล้ว ทีมงานยังต้องทำการติดตั้งโปรแกรมอย่างรวดเร็วและทำความคุ้นเคยกับซอฟต์แวร์เพื่อให้สามารถเริ่มการคำนวณได้

Wang และ Huang ได้จัดการหัวข้อปัญญาประดิษฐ์โดยใช้แบบจำลองภาษา BERT เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำการทดสอบแบบปิด พวกเขาเสร็จภายในหนึ่งชั่วโมงและงานของพวกเขาได้คะแนนความแม่นยำที่ 85%

Mou และ Chang จัดการหัวข้อเกี่ยวกับการค้นหาพัลซาร์  พวกเขาประสบความสำเร็จในการทำงานภายในสองชั่วโมงโดยทำการค้นหาข้อมูลประมาณ 160GB จากกล้องโทรทรรศน์ดาราศาสตร์  ปรากฎว่า Mou เคยเรียนวิชาดาราศาสตร์ในช่วงปีที่สองและมีพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการทำความเข้าใจหัวข้อและการคิดค้นสูตรคำนวณที่มีประสิทธิภาพ

Chiang ได้รับมอบหมายในหัวข้อการจำลองคอมพิวเตอร์ควอนตัม  เขาทราบว่าหน่วยความจำที่ต้องใช้ในการรันโปรแกรมนั้นมากเกินคาดตั้งแต่ก่อนเริ่มการแข่งขัน  ดังนั้นเขาจึงต้องเขียนโปรแกรมใหม่ขึ้นทันที ซึ่งเขาเห็นว่าเป็นสิ่งที่ทั้งท้าทายและน่าตื่นเต้น

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210705005007/en/

ติดต่อ:

Holly Hsueh
NTHU
(886)3-5162006
hoyu@mx.nthu.edu.tw

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

DataConnect พร้อมใช้งานทั่วโลกในแพลตฟอร์มดิจิทัลหลัก 6 แพลตฟอร์ม

Logo

สามารถแสดงผลแบรนด์ทั้งหมดได้ในหน้าจอเดียว

เบอร์ลิน และ ฮาร์สวิงเคิล เยอรมนี และ มานไฮม์ เยอรมนี และ เบอร์ริดจ์ อิลลินอยส์–(บิสิเนสไวร์)–29 มิ.ย. 2564

DataConnect ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มระดับโลกที่สามาถแสดงชุดแบรนด์ผสมในแพลตฟอร์มเดียวได้ขยายตัวเพื่อพร้อมใช้งานกับแพลตฟอร์มดิจิทัลหลัก 6 แพลตฟอร์มและพร้อมให้ดำเนินการฟาร์มทั่วโลก  Case IH, STEYR และ New Holland ได้ร่วมกับ John Deere, CLAAS และแพลตฟอร์มการจัดการฟาร์มของยุโรป 365FarmNet ซึ่งเปิดตัวฟีเจอร์นี้เมื่อปลายฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว

DataConnect is a collaboration between CNH Industrial, John Deere, CLAAS and 365FarmNet to enable farms to view all their vehicles within a single digital platform of their choice. Illustration: DataConnect brands

DataConnect เป็นความร่วมมือระหว่าง CNH Industrial, John Deere, CLAAS และ 365FarmNet เพื่อให้ฟาร์มสามารถดูยานพาหนะทั้งหมดของตนได้ภายในแพลตฟอร์มดิจิทัลเดียวที่พวกเขาเลือก ภาพประกอบ: แบรนด์ DataConnect

การดำเนินการในฟาร์มใดๆ ก็ตามที่ใช้รถเก็บเกี่ยวหรือรถแทรกเตอร์จากแบรนด์ที่เข้าร่วมจะสามารถแสดงรถทั้งหมดได้ในแพลตฟอร์มเดียว  ก่อนหน้านี้ การดูข้อมูลดังกล่าวจำเป็นต้องมีการจัดการพอร์ทัลเพิ่มเติมสำหรับแต่ละแบรนด์ที่เกี่ยวข้อง

ด้วยวิธีการใหม่นี้ ลูกค้าสามารถดูรูปแบบข้อมูลเครื่องจักรที่แตกต่างกันห้าแบบ:

  • ตำแหน่งเครื่องจักรปัจจุบัน
  • ตำแหน่งเครื่องจักรในอดีต
  • ระดับน้ำมันในถัง
  • สถานะของเครื่องจักรในสนาม
  • ความเร็วของเครื่อง

ผู้ดำเนินการฟาร์ม/เจ้าของฟาร์มที่ต้องการใช้ตัวเลือกนี้เพียงแค่ต้องอนุญาตให้ตนสามารถดูอุปกรณ์ทั้งหมดในแพลตฟอร์มที่สะดวกที่สุดสำหรับพวกเขา  เมื่อเชื่อมต่อแล้วเครื่องของผู้ผลิตรายอื่นจะปรากฏในพอร์ทัลนั้นโดยอัตโนมัติ และจะแสดงยานพาหนะด้วยไอคอนในสีของแบรนด์นั้น ๆ

DataConnect ทำงานโดยไม่จำเป็นต้องใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เพิ่มเติม และรับรองการจัดการข้อมูลอย่างปลอดภัย  โซลูชันนี้จะนำไปใช้กับเครื่องที่เชื่อมต่ออยู่แล้วหลายแสนเครื่อง

การเพิ่ม CNH Industrial หมายความว่าผู้ใช้ AFS Connect ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเทเลเมติกส์ของ Case IH, MyPLM Connect สำหรับ New Holland และ S-Tech สำหรับ STEYR จะมีตัวเลือกสำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างคลาวด์กับคลาวด์กับทั้ง John Deere Operations Center และพอร์ทัล CLAAS TELEMATICS หรือ 365FarmNet

ดูคลังรูปภาพ/มัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52452318/en

ติดต่อ:

John Deere Walldorf GmbH & Co. KG, Impexstraße 3, 69190 Walldorf,
Ralf Lenge โทร: +49 171 4161599 อีเมล: LengeRalf@JohnDeere.com

365FarmNet Group KGaA mbH & CoKG, Hausvogteiplatz 10, 10117 Berlin,
Yasmin Möhring โทร: +49 151 172 81 869 อีเมล: moehring@365farmnet.com

CLAAS KGaA mbH, Mühlenwinkel 1, 33428 Harsewinkel,
Matthias Mumme โทร: 05247/12-2288 อีเมล: matthias.mumme@claas.com

CNH Industrial, United States
Dan Danford โทรศัพท์: +1 (262) 321-8856 อีเมล: dan.danford@cnhind.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

กลุ่มบริษัทที่ร่วมโครงการ iMUGS แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำงานเป็นทีมแบบมีคนขับ-ไร้คนขับที่นำโดย Milrem Robotics

Logo

ทาลลินน์ เอสโตเนีย–(BUSINESS WIRE)–30 มิถุนายน 2564

กลุ่มบริษัทที่อยู่เบื้องหลัง iMUGS ซึ่งเป็นโครงการมูลค่า 32.6 ล้านยูโร โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาระบบภาคพื้นไร้คนขับที่เป็นมาตรฐานของยุโรป (UGS) แสดงให้เห็นผลลัพธ์ของระยะแรกของโครงการ – การนำระบบไร้คนขับไปใช้งานในสนามรบและรวมทีมกับหน่วยควบคุมและยานพาหนะที่มีคนขับ ซึ่งการสาธิตนำโดยผู้ประสานงานของกลุ่มบริษัทซึ่งเป็นผู้พัฒนาหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติชั้นนำของ Milrem Robotics ในยุโรป

The consortium behind iMUGS, a 32,6 MEUR project with the aim of developing the European standard unmanned ground system (UGS), demonstrated the results of the first phase of the project – deploying unmanned systems to the battlefield and teaming them with manned units and vehicles. The demonstration was spearheaded by the coordinator of the consortium, Europe’s leading developer of robotics and autonomous systems Milrem Robotics. Altogether two scenarios were played out in cooperation with the Estonian Defence Forces. (Photo: Business Wire)

กลุ่มบริษัทที่อยู่เบื้องหลัง iMUGS ซึ่งเป็นโครงการมูลค่า 32.6 ล้านยูโร โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาระบบภาคพื้นไร้คนขับที่เป็นมาตรฐานของยุโรป (UGS) แสดงให้เห็นผลลัพธ์ของระยะแรกของโครงการ – การนำระบบไร้คนขับไปใช้งานในสนามรบและรวมทีมกับหน่วยควบคุมและยานพาหนะที่มีคนขับ ซึ่งการสาธิตนำโดยผู้ประสานงานของกลุ่มบริษัทซึ่งเป็นผู้พัฒนาหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติชั้นนำของ Milrem Robotics ในยุโรป ด้วยทั้งสองสถานการณ์ได้รับความร่วมมือจากกองกำลังป้องกันเอสโตเนีย (ภาพ: Business Wire)

ในระหว่างโครงการ iMUGS (Integrated Modular Unmanned Ground System) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบโมดูลาร์ มีความปลอดภัยทางไซเบอร์และสามารถปรับขนาดได้สำหรับระบบมีคนขับ-ไร้คนขับแบบไฮบริดจะได้รับการพัฒนาเพื่อสร้างมาตรฐานให้กับระบบนิเวศทั่วทั้งยุโรปสำหรับแพลตฟอร์มทางภาคอากาศยานและภาคพื้นดิน อุปกรณ์สั่งการ เครื่องมือควบคุมและสื่อสาร ระบบเซ็นเซอร์ สิ่งของบรรทุก และอัลกอริทึม การจัดการกับความท้าทายในการปฏิบัติงานได้แก่ ความสามารถในการทำงานร่วมกันที่เพิ่มขึ้น การรับรู้สถานการณ์ที่เพิ่มขึ้น และการตัดสินใจที่รวดเร็วขึ้น

ระบบจะใช้ประโยชน์จากยานพาหนะภาคพื้นดินแบบไร้คนขับที่มีอยู่ – THEMIS ของ Milrem Robotics และรายการสิงของบรรทุกเฉพาะ

“วัตถุประสงค์หลักของโครงการ iMUGS คือการผสานรวมระบบหุ่นยนต์เข้ากับเทคโนโลยีที่มีคนขับที่มีอยู่ในกองกำลังป้องกันยุโรป โดยเพิ่มความสามารถใหม่ที่จะเอาชนะความสามารถของคู่ต่อสู้ของเรา” Kuldar Väärsi ซีอีโอของ Milrem Robotics กล่าว เขาตั้งข้อสังเกตว่า โครงการ iMUGS จะมีส่วนร่วมในความเป็นอิสระเชิงกลยุทธ์ของสหภาพยุโรปและเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก

ในระหว่างการสาธิตครั้งแรก พันธมิตรร่วมกันแสดงให้เห็นว่า THeMIS สามารถนำไปปรับใช้ในสนามรบได้อย่างไรโดยใช้ Armoured Personnel Carriers (APC) และร่วมกับระบบทางอากาศยานแบบไร้คนขับ เทคโนโลยีเฉพาะที่ใช้คือ Boxer APC โดย Krauss-Maffei Wegmann (KMW) และโดรนแบบมีสายพ่วงโดย Acecore Technologies โดรนแบบหลายใบพัดโดย Atlas Dynamics ก็เป็นส่วนหนึ่งของสถานการณ์เช่นกัน

ทั้งสองสถานการณ์ได้รับความร่วมมือจากกองกำลังป้องกันเอสโตเนีย

ในสถานการณ์แรก THeMIS ที่บูรณาการรวมเข้ากับโดรนแบบมีสายพ่วงของ Acecore นั้นถูกใช้งาน Beyond the Line of Sight (BLOS) โดยทหาร และใช้ในการตรวจจับและกำหนดเป้าหมายตำแหน่งของศัตรู หลังจากได้รับคำสั่งในการกำหนดการยิงทางอ้อมของเป้าหมายและการตรวจสอบการดำเนินการหลังจากนั้นโดยใช้ภาพวิดีโอของโดรน

จุดประสงค์ของสถานการณ์ที่สองคือการเรียกผู้บาดเจ็บจากรถที่ชนแล้วนำรถกลับมา การกระทำทั้งสองดำเนินการด้วย THEMIS UGV ในขณะที่ Boxer ลาก UGV เข้าไปในพื้นที่ปฏิบัติภารกิจ และโดรนของ Atlas ให้การเฝ้าระวังและรับรู้สถานการณ์

Thomas Reining ผู้จัดการโครงการ iMUGS ใน Krauss-Maffei Wegmann กล่าวว่า “การสาธิตยืนยันว่าเรามีปฏิสัมพันธ์ระหว่างระบบที่มีคนขับและไร้คนขับ ตลอดจนการทำงานร่วมกันของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ภายใต้การควบคุม

ข้อกำหนดสำหรับ UGS ที่ได้มาตรฐานซึ่งกำหนดโดยประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 7 ประเทศ ได้แก่ เอสโตเนียผู้นำโครงการ และเบลเยียม ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี ลัตเวีย และสเปน

“ประเทศที่เข้าร่วมทั้งหมดแสดงความสนใจเป็นอย่างมากที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนา UGS ของยุโรป” Martin Jõesaar เจ้าหน้าที่โครงการ iMUGS ในศูนย์การลงทุนด้านการป้องกันประเทศเอสโตเนียกล่าว “ประเทศต่างๆ เข้าใจดีว่าพวกเขาต้องเติบโตไปพร้อมกับอุตสาหกรรมเพื่อบูรณาการเทคโนโลยีในรูปแบบใหม่นี้อย่างรวดเร็วและนำอุตสาหกรรมไปสู่วิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด”

iMUGS เป็นความร่วมมือระหว่าง 13 ฝ่าย: Milrem Robotics (ผู้ประสานงานโครงการ), Talgen Cybersecurity, Safran Electronics & Defense, NEXTER Systems, Krauss-Maffei Wegmann, Diehl Defence, Bittium, Insta DefSec, (Un)Manned, dotOcean, Latvijas Mobilais Telefons, GMV Aerospace and Defence และ Royal Military Academy of Belgium.

รับชมการสาธิต 1 สถานการณ์ 1 ได้ที่นี่ – https://youtu.be/wAQHPdmm48M

รับชมการสาธิต 1 สถานการณ์ 2 ได้ที่นี่ – https://youtu.be/2vobuDOcfDA

ติดต่อ:

Gert Hankewitz
Milrem Robotics
Gert.hankewitz@milrem.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Black & Veatch รุกธุรกิจพลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Logo

ผู้อำนวยการธุรกิจ Jerin Raj รับบทบาทพัฒนาและขยายธุรกิจกลุ่มพลังงานหมุนเวียนและระบบโครงข่ายไฟฟ้าในภูมิภาค

กรุงเทพฯ–(บิสิเนส ไวร์)–22 มิ.ย. 2564

เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในภาคครัวเรือน และ ภาคอุตสาหกรรม ทำให้มีความต้องการในระบบการผลิต ระบบส่ง และจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคเอเชีย Black & Veatch ได้เล็งเห็นโอกาสในการเติบโตในธุรกิจด้านพลังงาน ได้เสริมศักยภาพให้กับองค์กรภายใต้การนำ ของ Jerin Raj ผู้อำนวยการธุรกิจระบบส่งและจำหน่ายไฟฟ้าแห่งภูมิภาคเอเชีย

“ด้วยส่วนแบ่งของการผลิตไฟฟ้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มาจากพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้น ภูมิภาคนี้จึงจำเป็นต้องมีโซลูชั่นด้านพลังงานแบบบูรณาการมากขึ้นเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและเสถียรภาพของระบบโครงข่ายไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการขยายเครือข่ายระบบส่งและจำหน่ายไฟฟ้า  ด้วยความรู้และประสบการณ์อันยาวนานของ Jerin เกี่ยวข้องกับการส่งกำลังไฟฟ้าในระดับภูมิภาคจะช่วยให้ Black & Veatch สามารถช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายด้านผลกำไร ความน่าเชื่อถือ  ด้วยต้นทุนและแผนงานที่แน่นอน” Narsingh Chaudhary รองประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการของ Black & Veatch ประจำ Asia Power Business กล่าว

รายงานทิศทางเชิงกลยุทธ์ของ Black & Veatch: Electric Industry Asia 2021 คาดว่าการลงทุนที่สำคัญที่สุดในการเพิ่มกำลังการผลิตใหม่ในช่วงสามถึงห้าปีนับจากนี้จะเป็นการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน  พลังงานแสงอาทิตย์ บนภาคพื้นดิน  การจัดเก็บพลังงาน พลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำ ,พลังงานลมนอกชายฝั่ง และไมโครกริดเป็นหมวดหมู่ที่สำคัญห้าอันดับแรก

จากข้อมูลอุตสาหกรรมพลังงานระดับภูมิภาคได้กล่าวว่าการไม่ลงทุนเพื่อทำให้โครงข่ายระบบส่งไฟฟ้ามีเสถียรภาพมากขึ้นเป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่สำคัญต่อประสิทธิภาพการจ่ายพลังงานในตลาดไฟฟ้าในเอเชีย

Raj มีประสบการณ์มากกว่า 17 ปีในการจัดการและส่งมอบโครงการ รวมถึงพัฒนาธุรกิจด้านพลังงาน ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก  ปัจจุบัน Raj ประจำอยู่สำนักงานในกรุงเทพมหานคร

Black & Veatch เป็นผู้นำตลาดด้านโครงสร้างพื้นฐานระบบส่งและจำหน่ายพลังงาน  โดยให้บริการธุรกิจด้านพลังงาน ตั้งแต่การให้คำปรึกษา วิศวกรรม ไปจนถึงบริการวิศวกรรม การจัดซื้อจัดจ้าง และการก่อสร้าง (EPC) อย่างเต็มรูปแบบในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงสถานีไฟฟ้าแรงสูง ระบบสายส่งอากาศ และระบบสายส่งใต้ดิน พลังงานหมุนเวียน, ระบบการส่งกระแสไฟฟ่าตรงแรงดันสูง (HVDC) และระบบส่งกำลังไฟฟ้า FACTS (Flexible AC Transmission System)

คลิกที่นี่ เพื่อดาวน์โหลดภาพสนับสนุน

หมายเหตุบรรณาธิการ:

เกี่ยวกับ Black & Veatch

Black & Veatch เป็นบริษัทชั้นนำทางด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ  และก่อสร้าง โดยมีนโยบายให้พนักงานเป็นเจ้าของบริษัท บริษัทมีประวัติด้านนวัตกรรมในโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนมากกว่า 100 ปี  ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1915 บริษัทให้บริการลูกค้าทั่วโลกโดยจัดการกับการฟื้นสภาพ และสร้างเสถียรภาพของโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุด  รายได้ของบริษัทในปี 2020 มีมูลค่าเกิน 3.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  ติดตามเราได้ที่ www.bv.com และบนโซเชียลมีเดีย

ดูต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210621005856/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ:

EMILY CHIA | +65 6335 6623 P | +65 9875 8907 M | Chialp@bv.com 
สายด่วนสำหรับสื่อตลอด 24 ชั่วโมง | +1 866-496-9149

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

GIGABYTE นำเสนอความเหนือชั้นสู่ MWC และวางแนวทางในการปรับใช้เทคโนโลยี 5G

Logo

ไทเป–(BUSINESS WIRE)–24 มิถุนายน 2564

GIGABYTE ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงาน MWC (Mobile World Congress) ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ Edge computing และเข้าร่วมโดยนวัตกรและผู้มีอำนาจตัดสินใจที่จะกำหนดอนาคตของการปรับใช้เทคโนโลยี 5G และการวางแผนของเทคโนโลยี 6G

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210624005477/en/

GIGABYTE Brings Its Edge to MWC and Paves Way for 5G Deployments (Photo: Business Wire)

GIGABYTE นำเสนอความเหนือชั้นสู่ MWC และวางแนวทางในการปรับใช้เทคโนโลยี 5G (ภาพ: Business Wire)

GIGABYTE นำเสนอชุดเซิร์ฟเวอร์ภายใต้แนวคิด “short and sweet” ที่พร้อมใช้งานในแพลตฟอร์ม x86 หรือ Arm เพื่อรองรับแอปพลิเคชันที่หลากหลาย Edge servers ไม่เพียงแต่ย่อลงจนถึงระดับความลึกเพียงแค่ 400-600 มม. เพื่อให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่มากขึ้นสำหรับการปรับใช้ในด้านโทรคมนาคม แต่ยังพร้อมที่จะทำหน้าที่เป็น HPC เพื่อจัดการกับปริมาณงานสำหรับ AI และการประมวลผลข้อมูลที่ใกล้เคียงกับแอปพลิเคชันของผู้ใช้มากขึ้น

  • E152-ZE0 – รองรับโปรเซสเซอร์ 3rd Gen AMD EPYC 7003 และ 7002 ซึ่งย่อลงอย่างมากด้วยความลึก 400 มม. มาพร้อมกับ DIMM 8 ช่อง และรองรับ U.2 NVMe SSD จำนวนสองตัว โดย E152 chamber สำหรับ GPUs แบบ dual-slot ยังสามารถใช้กับการ์ดแบบ single-slot จำนวนสองใบที่ทำงานด้วย Gen4 x16 และช่องขยายเพิ่มเติมแบบ low-profile สองช่องที่ด้านหน้าเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสิทธิภาพอันทรงพลังและความยืดหยุ่นในการใช้งาน
  • E162-220 – ออกแบบมาสำหรับโปรเซสเซอร์ 3rd Gen Intel Xeon Scalable และมี DIMM 16 ช่องสำหรับหน่วยความจำ 8-channel มาตรฐานอุตสาหกรรม และรองรับ U.2 SSD จำนวนสองตัวและตัวเชื่อมต่อ M.2 จำนวนสามตัวบนบอร์ดพร้อมการส่งสัญญาณ Gen4 PCIe โดย I/O ทั้งหมดได้รับการออกแบบไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้ไม่เพียงแค่เหมาะสำหรับการติดตั้งในศูนย์ข้อมูลเท่านั้น แต่ยังเหมาะสำหรับการปรับใช้งานในสถานีฐานเพื่อให้บริการเทคโนโลยี 5G MEC หรือ edge computing สำหรับการบริการ
  • E251-U70 – GIGABYTE edge server ชิ้นแรกที่ออกแบบมาสำหรับโปรเซสเซอร์ 2nd Gen Intel Xeon Scalable โดยรองรับ SATA/SAS ขนาด 2.5 นิ้ว จำนวนหกตัวที่ด้านหน้าซ้าย และ GPU แบบ dual-slot และการ์ด FHFL single-slot ที่ด้านหน้าขวา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เซิร์ฟเวอร์นี้ได้รับเลือกจาก NVIDIA Aerial Developer Kit สำหรับการพัฒนาและปรับใช้ vRAN stack โดย E251-U71 คือ SKU อีกลักษณะหนึ่งซึ่งเป็น NEBS design ready ได้รับการออกแบบมาสำหรับสภาวะสุดโต่ง เช่น อุณหภูมิสูง ความชื้น หรือระดับความสูง
  • E252-P30 – สร้างขึ้นสำหรับปริมาณงานบนสถาปัตยกรรม Arm และใช้โปรเซสเซอร์ Ampere Altra ที่มีมากถึง 80 คอร์ และ DIMMS 16 ช่อง สำหรับความเป็นไปได้อย่างมากในระบบคลาวด์ เซิร์ฟเวอร์นี้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมเมื่อพิจารณาถึง TCO โดยมี SSD จำนวนหกตัว และช่องขยายเพิ่มจำนวนมากสำหรับตัวเร่งความเร็ว พื้นที่เก็บข้อมูล หรือเครือข่ายแบบ low-profile

“short”ness ของแชสซีเซิร์ฟเวอร์ GIGABYTE Edge และ “sweet”ness ของความสามารถด้านประสิทธิภาพจะพิสูจน์ให้เห็นถึงความเท่าเทียมกันที่ขาดไม่ได้ในด้านการสื่อสารโทรคมนาคม ความสำเร็จในการปรับใช้เทคโนโลยี 5G นั้น เป็นที่ต้องการของเครือข่าย MEC ที่กว้างขวางโดยเชื่อมต่อทั้งสองอย่างใกล้ชิดและชาญฉลาด

GIGABYTE เป็นวิศวกรผู้มีวิสัยทัศน์ และผู้นำในโลกเทคโนโลยีที่ใช้ความเชี่ยวชาญด้านฮาร์ดแวร์ นวัตกรรมที่ได้รับการจดสิทธิบัตร และความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเพื่อรังสรรค์ สร้างแรงบันดาลใจ และความก้าวไกล ด้วยประสบการณ์ที่มีชื่อเสียงกว่า 30 ปี GIGABYTE ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นแกนหลักของโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที และมอบความเชี่ยวชาญด้านศูนย์ข้อมูลและผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ล้ำสมัยให้กับอุตสาหกรรม ด้วยความสามารถในการเร่งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้

https://www.mwcbarcelona.com/exhibitors/gigabyte-technology
ดูการนำเสนอเพิ่มเติมได้ที่: https://www.gigabyte.com/Tech-Tune-In

รับชมเวอรชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210624005477/en/

ติดต่อสือ: Michael Pao brand@gigabyte.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย