Category Archives: Technology

Cyber Intelligence House และ INTERPOL ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือช่วยสืบสวนอาชญากรรมทางไซเบอร์

Logo

ภายใต้ 'ข้อตกลงความร่วมมือ' นี้ Cyber Intelligence House จะให้บริการการป้องกันข้อมูลและช่วยเหลือในการสืบสวนอาชญากรรมทางไซเบอร์

ลอนดอน–(BUSINESS WIRE)–27 เมษายน 2564

ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือนี้ หน่วยข่าวกรองทางไซเบอร์ หรือ Cyber Intelligence House (CIH) จะรับผิดชอบจัดหาทรัพยากรและบริการที่ช่วยสืบสวนอาชญากรรมทางไซเบอร์ อาชญากรรมสินทรัพย์เสมือน (VA) และช่วยต่อสู้ รวมทั้งตรวจตราเว็บไซต์มืดให้แก่องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (INTERPOL) ซึ่งนับเป็นเรื่องสำคัญที่ได้เดินนำหน้าอาชญากรทั่วโลกไปหนึ่งก้าว Mikko Niemela ซีอีโอ แห่ง Cyber Intelligence House เชื่อว่าทั้งสองฝ่ายจะได้ประโยชน์จากข้อตกลงนี้ พร้อมกล่าวว่า “ความร่วมมือกับ INTERPOL จะมอบโอกาสที่ดีเยี่ยมให้เราได้ศึกษาเกี่ยวกับการสืบสวนระดับแนวหน้า ช่วยให้เรายกระดับการบริการที่ก้าวล้ำกว่าเดิม”

Cyber Intelligence House (CIH) จะรับผิดชอบในการจัดหาเทคโนโลยีและบริการแก่ INTERPOL เพื่อช่วยเร่งดำเนินการการสืบสวนและการวิเคราะห์อาชญากรรมให้เร็วขึ้น ความร่วมมือนี้ยังมีเป้าหมายในการยกระดับประสิทธิภาพในการสืบสวนอาชญากรรมของ INTERPOL “ความร่วมมืออันเป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่ายนี้จะช่วยให้ CIH พัฒนาเครื่องมือตามคำแนะนำของ INTERPOL”, Mikko Niemela ซีอีโอแห่ง Cyber Intelligence House กล่าวเสริม

INTERPOL เป็นองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นจากหลายประเทศทั่วโลก เพื่อป้องกันอาชญากรรมในระดับสากล ปัจจุบัน มีประเทศสมาชิกจำนวน 194 ประเทศ เมื่อไม่กี่ปีมานี้ INTERPOL ได้มุ่งหน้าทำการสืบสวนอาชญากรรมทางไซเบอร์จำนวนมาก ตั้งแต่การระบุการโจรกรรมไปจนถึงการปล้นสกุลเงินดิจิทัล ในเดือนพฤศจิกายน 2563 INTERPOL ได้สร้าง The Cybercrime Knowledge Exchange (CKE) ให้ง่ายกว่าเดิมสำหรับการบังคับใช้กฎหมาย องค์กรระหว่างประเทศ และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล

Cyber Intelligence House เป็นบริษัทความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ โดยนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยในการสืบหา Darkweb, Deepweb และการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล จากการออกแบบเพื่อการบังคับใช้กฎมาย แพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้ผู้สืบสวนอาชญากรรมทางไซเบอร์เข้าถึงขุมทรัพย์หลักฐานขนาดใหญ่จากแหล่งข้อมูลที่ถูกซ่อนเร้นปิดปัง เช่น ตลาดเว็บมืด แพลตฟอร์มที่รั่วไหล และฟอรั่มพูดคุยที่ยังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ แบบเรียลไทม์และย้อนกลับไปหลายปี

Mikko Niemela ซีอีโอ แห่ง Cyber Intelligence House กล่าวอีกว่า “เราไม่เพียงแค่ช่วยเร่งการสืบสวนให้เร็วขึ้นเท่านั้น แต่ยังได้โอกาสศึกษาเกี่ยวกับการสืบสวนระดับแนวหน้าอีกด้วย

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “เราหวังว่าจะได้เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยต่อสู้กับอาชญากรรมทางไซเบอร์และพัฒนาทรัพยากรเพื่อช่วยป้องกันอาชญากรรมนั้น”

เกี่ยวกับ Cyber Intelligence House

Cyber Intelligence House เป็นบริษัทความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ มีความเชี่ยวชาญด้านการตรวจหาภัยคุกคามทางไซเบอร์ บริษัทช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถตรวจหาและจัดการตอบโต้กับภัยคุมคามทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว CIH ทำงานร่วมกับลูกค้าจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานรัฐบาลและหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ CIH ที่ https://cyberintelligencehouse.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210426005725/en/

ติดต่อ:

Mikko S Niemelä, ซีอีโอ
+65 8869 0998
mikko@cyberintelligencehouse.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

หน่วยที่ปรึกษาของ Munich Re เพิ่มขีดความสามารถด้านราคาด้วย Akur8 ในความร่วมมือระดับโลก

Logo

ปารีส–(บิสิเนสไวร์)–20 เม.ย. 2564

Akur8 มีความยินดีที่จะประกาศข้อตกลงความร่วมมือระดับโลกกับ Munich Re เพื่อเพิ่มความสามารถในการกำหนดราคาของ Munich Re เรื่องสำหรับหน่วยที่ปรึกษาระดับโลกด้วยข้อตกลงนี้ Munich Re จะสามารถเข้าถึงโซลูชันการสร้างแบบจำลองที่ล้ำสมัยและ Akur8 จะเสริมสร้างตัวตนโดยการได้ร่วมมือกับหนึ่งในผู้ให้บริการประกันภัย การประกันภัยต่อ และผลิตภัณฑ์ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัยชั้นนำของโลก  ความร่วมมือแบบไม่ผูกขาดนี้มีผลทั่วโลกโดยมีผู้ใช้ในหลายพื้นที่ของ Munich Re.  ลูกค้าของ Munich Re ทั้งหมดจะได้รับประโยชน์จากแนวทางร่วมกันและใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์

ผลิตภัณฑ์ของ Akur8 พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มกระบวนการกำหนดราคาของบริษัทประกันโดยการสร้างแบบจำลองความเสี่ยงและความต้องการโดยอัตโนมัติโดยใช้เทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์และปัญญาประดิษฐ์ที่โปร่งใส  ประโยชน์หลักสำหรับบริษัทประกันได้แก่ การลดเวลาในการสร้างแบบจำลองซึ่งจะช่วยเร่งเวลาในการทำตลาด เพิ่มพลังในการคาดการณ์ และก็รักษาความโปร่งใสและการควบคุมแบบจำลองที่สร้างขึ้นอย่างเต็มที่

หน่วยงานที่ปรึกษาระดับโลกของ Munich Re กำลังผลักดันการเปลี่ยนแปลงในการกำหนดราคาประกันผ่านการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์ข้อมูลและเทคโนโลยีดิจิทัลซึ่งมาพร้อมกับการถ่ายโอนความเสี่ยง  การดำเนินงานทั่วโลกโดยเฉพาะของผู้เชี่ยวชาญด้านการกำหนดราคาประกันภัยหลายรายได้พัฒนาผลิตภัณฑ์การกำหนดราคา โดยลูกค้าทั้งหมดของ Munich Re สามารถเข้าถึงสิ่งเหล่านี้ได้ผ่านความสัมพันธ์ด้านการประกันภัยต่อ  Akur8 จะเพิ่มขีดความสามารถในการกำหนดราคา นำมูลค่าที่เพิ่มขึ้น และความซับซ้อนในการกำหนดราคาให้กับลูกค้าด้วยเครื่องมือกำหนดราคาที่ใช้ประโยชน์จาก AI อย่างโปร่งใส  ทีม Munich Re จะใช้ Akur8 สำหรับข้อเสนอราคาประกันแบบ end-to-end

Akur8 รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งกับความร่วมมือครั้งนี้กับ Munich Re ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีชื่อเสียงที่สุดทั่วโลกในด้านการให้คำปรึกษาด้านการประกันภัย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการประกันภัยต่อและการประกันภัยหลัก  ความร่วมมือนี้ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเกี่ยวข้องและความน่าสนใจของผลิตภัณฑ์ของ Akur8 สำหรับผู้เล่นหลายประเภท ตั้งแต่ผู้ให้บริการประกันภัยหลัก ผู้รับประกันภัยต่อ ไปจนถึงผู้ให้บริการโซลูชันไปจนถึงบริษัทที่ปรึกษา” Samuel Falmagne ซีอีโอของ Akur8 กล่าว

“ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ของเรากับ Munich Re แสดงให้เห็นถึงขั้นตอนเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญในการพัฒนาของเราซึ่งครอบคลุมไปทั่วโลก  ความเชี่ยวชาญและจุดแข็งที่รวมกันของเราจะช่วยให้ทั้งสองบริษัทของเราสามารถนำมาซึ่งมูลค่าเพิ่มที่สำคัญได้” Brune de Linares หัวหน้าฝ่ายขายของ Akur8 กล่าว

Akur8 เป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าประทับใจสำหรับการสร้างแบบจำลองความเสี่ยงและความต้องการซึ่งแสดงถึงการก้าวกระโดดอย่างแท้จริงในแง่ของความซับซ้อนด้านราคาในอุตสาหกรรมประกันภัย  เราเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ของ Akur8 จะช่วยให้เราสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าในโครงการให้คำปรึกษาต่างๆ ของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยการให้คำปรึกษาขนาดใหญ่ของเรา โดยทำงานร่วมกันในพื้นที่ทำงานของลูกค้าโดยเฉพาะการปรับปรุงการคาดการณ์ของแบบจำลองเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงอัตราส่วนการสูญเสียที่สำคัญในที่สุด” Joachim Mathe หัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาระดับโลก ที่ Munich Re

“จุดแข็งของ Akur8 คือการเปลี่ยนไปใช้พลังงานในการทำนายทำให้เกิดสิ่งที่เราเรียกว่า “คลื่นลูกที่สาม” ของการกำหนดราคาประกัน โดยสามารถควบคุมกระบวนการนี้อย่างเต็มที่ ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ใช้เวลากับการทำความเข้าใจปัญหาและนำไปใช้  วิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมไม่ใช่ในงานการสร้างแบบจำลองซ้ำๆ ที่น่าเบื่อหน่าย ความเป็นมืออาชีพ ข้อมูล และการดำเนินงานของทีม Akur8 ตลอดกระบวนการล้วนเป็นตัวกำหนดปัจจัยในการเลือกของเราซึ่งเกิดขึ้นหลังจากกระบวนการคัดเลือกในเชิงลึกซึ่งมีการตรวจสอบคุณค่าและจุดแข็งของผู้เล่นแต่ละรายอย่างละเอียด” Massimo Cavadini หัวหน้านักสถิติการให้คำปรึกษาและการวิเคราะห์ข้อมูลที่มิวนิคกล่าวว่า

เกี่ยวกับ Munich Re

Munich Re เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการประกันภัยต่อ ประกันภัยหลัก และผลิตภัณฑ์ความเสี่ยงชั้นนำของโลก  กลุ่มบริษัทประกอบด้วยส่วนธุรกิจประกันภัยต่อและ ERGO รวมถึงบริษัทบริหารสินทรัพย์ MEAG.  Munich Re มีการดำเนินงานทั่วโลกและดำเนินธุรกิจประกันภัยในทุกสายงาน  นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2423 Munich Re เป็นที่รู้จักในด้านความเชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและฐานะทางการเงินที่ดี  บริษัทให้ความคุ้มครองทางการเงินแก่ลูกค้าเมื่อต้องเผชิญกับความเสียหายในระดับพิเศษ ตั้งแต่แผ่นดินไหวในซานฟรานซิสโกปี 1906 จนถึงฤดูไต้ฝุ่นแปซิฟิกปี 2019.  Munich Re มีความแข็งแกร่งทางนวัตกรรมที่โดดเด่นซึ่งช่วยให้สามารถครอบคลุมความเสี่ยงพิเศษเช่นการยิงจรวด พลังงานหมุนเวียน หรือการโจมตีทางไซเบอร์  บริษัทกำลังมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของอุตสาหกรรมประกันภัยและในการดำเนินการดังกล่าวได้ขยายขีดความสามารถในการประเมินความเสี่ยงและบริการต่างๆ ที่นำเสนอ  ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบตามความต้องการและความใกล้ชิดกับลูกค้าทำให้ Munich Re เป็นหนึ่งในพันธมิตรด้านความเสี่ยงที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลกสำหรับธุรกิจสถาบันและบุคคลทั่วไป

เกี่ยวกับ Akur8

Akur8 กำลังปฏิวัติการกำหนดราคาประกันด้วย AI ที่โปร่งใส  Akur8 ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์การกำหนดราคาประกันโดยใช้ AI ที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งทำให้การสร้างแบบจำลองสำหรับบริษัทประกันภัยโดยอัตโนมัติ โดยรักษาความโปร่งใสและการควบคุมแบบจำลองที่สร้างขึ้นตามที่หน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกกำหนด  Akur8 เป็นผลิตภัณฑ์เดียวในตลาดที่ปรับใช้กับ Machine Learning และ Actuarial world ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับราคาตามมูลค่าตลอดอายุการใช้งานของลูกค้าได้

1 https://www.munichre.com/th/solutions/reinsurance-property-casualty/global-consulting.html

ติดต่อ:

สำหรับ Munich Re

Dr. Massimo Cavadini (mcavadini@munichre.com , Global Head of Actuarial Consulting & Data Analytics)

ดร. Davide Burlon (dburlon@munichre.com , Global Akur8 Product Owner)

สำหรับ Akur8

Felix d'Alançon (felix.dalancon@akur8-tech.com , Global Partnerships)

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ผสมผสานระดับสากลและภูมิภาคมากที่สุดในอาเซียนที่แพร่หลายไปยังประเทศสมาชิกทั้งหมดกล่าวโดยศูนย์อาเซียน – ญี่ปุ่น

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–20 เมษายน 2564

อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (E&E) มีลักษณะแยกส่วนในระดับสากล แต่มีเครือข่ายการผลิตที่ผสมผสานกันอย่างดีพร้อมด้วยแนวคิดห่วงโซ่คุณค่าที่โมดูลาร์สูงและกว้างขวางทางภูมิศาสตร์ ซึ่งเปิดโอกาสให้ประเทศในอาเซียนเข้าร่วมแนวคิดห่วงโซ่คุณค่าใน E&E ได้อย่างง่ายดายตามการศึกษาของศูนย์อาเซียน – ญี่ปุ่น โดยตั้งชื่อว่า Global Value Chains in ASEAN: Electronics ซึ่งออกในเดือนมีนาคม 2564 เป็นรายงานฉบับที่ 14 ของ ASEAN Global Value Chain (GVCs) ฉบับที่ 14 โดย AJC

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210419006002/en/

Report “Global Value Chains in ASEAN: Electronics” is available for download on AJC website (Graphic: Business Wire)

รายงาน “Global Value Chains in ASEAN: Electronics” สามารถดาวน์โหลดได้บนเว็บไซต์ AJC (กราฟิก: Business Wire)

สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) เป็นศูนย์กลางสำคัญของ E&Eproduction ซึ่งมีส่วนสนับสนุนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในภูมิภาคประมาณ 268 พันล้านดอลลาร์ โดยมีการจ้างคนงานมากกว่า 2.4 ล้านคน และคิดเป็นสัดส่วนการส่งออกทั้งหมดของอาเซียนที่ใหญ่ที่สุด (ร้อยละ 27)

โดยรวมแล้วอุตสาหกรรม E&E ในอาเซียนพึ่งพาปัจจัยการผลิตและเทคโนโลยีจากต่างประเทศมากกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ โดย 53% ของการส่งออก E&E มาจากมูลค่าเพิ่มจากต่างประเทศ (FVA) หรือปัจจัยการผลิตจากต่างประเทศที่รวมเข้ากับการส่งออก E&E ของอาเซียน อย่างไรก็ตามมูลค่าเพิ่มในการส่งออกแตกต่างกันไปตามภูมิภาค ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะตำแหน่งของแต่ละประเทศในแนวคิดห่วงโซ่คุณค่า E&E

การค้าระหว่างภูมิภาคระหว่างประเทศในอาเซียนเป็นผู้ส่งออก E&E รายใหญ่ที่สุดของอาเซียนในแง่ของ FVA ซึ่งคิดเป็นหนึ่งในสี่ของ FVA ทั้งหมด (43.4 พันล้านดอลลาร์) ในปี 2560 และในขณะที่รวม FVA เข้าที่สร้างโดยจีนและญี่ปุ่นถือเป็นมากกว่าหนึ่งในสามของ FVA ทั้งหมด

ในช่วงปี 2533-2560 การมีส่วนร่วมของ GVC ของอาเซียนในอุปกรณ์ E&E ลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 74 เป็นร้อยละ 70 ในขณะที่การมีส่วนร่วมแนวคิดห่วงโซ่คุณค่าระดับภูมิภาค (RVC) เพิ่มขึ้นสองเท่าจากร้อยละ 9 เป็นร้อยละ 18 แนวโน้มที่ขัดแย้งกันนี้อธิบายได้จากกำลังการผลิตระดับภูมิภาคที่สูงขึ้นและเครือข่ายการผลิตระดับภูมิภาคที่มีชื่อเสียง

ด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่แตกต่างกัน อาเซียนจึงกลายเป็นศูนย์กลางที่น่าสนใจและสำคัญสำหรับอุตสาหกรรม E&E โดยภูมิภาคนี้เป็นเจ้าของงานการผลิต E&E ที่หลากหลายตามแนวคิดห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่กิจกรรมที่ต้องใช้แรงงานมากและเรียบง่าย เช่น การประกอบและการทดสอบไปจนถึงงานที่ต้องใช้เงินทุนมาก เช่น การออกแบบส่วนประกอบและการวิจัยและพัฒนา

หากต้องการรับชมและดาวน์โหลดรายงานโปรดไปที่เว็บไซต์ AJC ด้านล่าง
https://www.asean.or.jp/en/centre-wide-info/gvc_database_paper13/

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210419006002/en/

ติดต่อ:

ASEAN-Japan Centre (AJC) PR Unit
Tomoko Miyauchi (MS)
URL: https://www.asean.or.jp/en/
TEL: +81-3-5402-8118
E-mail: toiawase_ga@asean.or.jp

iCloudModel มุ่งปฏิวัติการถ่ายภาพสำหรับวงการอีคอมเมิร์ซแฟชั่น

Logo

เซี่ยงไฮ้–(บิสิเนสไวร์)–16 เม.ย. 2564

iCloudModel เป็นโมเดลการจัดการแรกของโลกที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อสร้างโซลูชันสำเร็จรูปสำหรับนักออกแบบแฟชั่นและแบรนด์จีนเพื่อสร้างภาพที่สมจริงและมีคุณภาพสูงสำหรับอีคอมเมิร์ซแฟชั่น

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210416005142/en/

จีนมีผู้ใช้มือถือมากที่สุดและมีกิจกรรมอีคอมเมิร์ซมากกว่าประเทศใดๆ ในโลก  ตาม Digital Market Outlook กลุ่มแฟชั่นเครื่องแต่งกายอีคอมเมิร์ซคาดว่าจะทำรายได้ 169 พันล้านดอลลาร์ในปี 2563 เป็น 256 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567

ความร่วมมือของ iCloudModel (ICM) และ Mad Street Den (MSD) เกิดขึ้นเมื่อการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเกือบทั้งหมด  การแพร่ระบาดทำให้เกิดการหยุดชะงักในการเคลื่อนย้ายนางแบบระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น  ด้วยเทคโนโลยีนี้เราถ่ายทำนางแบบต่างประเทศในสถานที่ของพวกเขาโดยไม่ต้องนำนางแบบเข้ามาในประเทศจีน  ลูกค้าถ่ายภาพเสื้อผ้าของตนเองบนหุ่นแบบได้ตลอดเวลา   การถ่ายภาพสามารถทำได้เร็วถึง 24 ชั่วโมงและเสียค่าใช้จ่าย 25% ของการถ่ายทำแบบดั้งเดิม” David Lim ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ ICM กล่าว

“เทคโนโลยี Generative Adversarial Networks นี้สามารถเข้าใจลักษณะสื้อผ้า แสดงภาพบนแบบจำลอง โดยสามารถแสดงแบบจำลองดิจิทัลเสมือนจริงที่สร้างจาก AI  โมเดลแต่ละแบบในไลบรารีเป็นแบบจำลองที่พอดีจริง โดยแปลงเป็นดิจิทัลสำหรับโลกเสมือนจริง รวมถึงมีการวัดรูปร่างและท่าทาง  การใช้ปัญญาประดิษฐ์เทคโนโลยีนี้จะปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เข้ากับภาพของนางแบบโดยคำนึงถึงรูปร่างที่เป็นธรรมชาติการบิดและการหมุนของตำแหน่งของร่างกาย” Dr. Costa Colbert หัวหน้าเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์กล่าว

“แฟชั่นที่ผสมผสานกับเทคโนโลยีเป็นเทรนด์มาช่วงหนึ่งแล้ว  ปัญญาประดิษฐ์และแบบจำลองเป็นการจับคู่ที่ยอดเยี่ยม  ผมมั่นใจว่าโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้จะปฏิวัติธุรกิจการจัดการโมเดลสำหรับการผลิตอีคอมเมิร์ซแฟชั่น” Dejan Markovic ประธาน Elite North America กล่าว

เกี่ยวกับ iCloudModel ICM

การถือกำเนิดของ ICM เกิดขึ้นจากการวิจัยตลาดอย่างรอบคอบ รวมกับประสบการณ์ 20 ปีในธุรกิจโมเดลและความปรารถนาที่จะนำสิ่งที่เป็นนวัตกรรมและเปลี่ยนแปลงในการผลิตแฟชั่นอีคอมเมิร์ซ

ICM นำโดยผู้มีวิสัยทัศน์เชิงสร้างสรรค์และผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมรุ่นใหม่  ICM ใช้โมเดลที่แข็งแกร่งทั่วโลกในการพัฒนาทั้งไฮแฟชั่นและโมเดลเชิงพาณิชย์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าในประเทศจีน โดยมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในความเป็นมืออาชีพ ความคิดสร้างสรรค์ และการอุทิศตนเพื่อแฟชั่นในปัจจุบันและอนาคต

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210416005142/en/

สื่อ
Li Yinglan ying@icloudmodel.com 
+86 138 161 20632
www.icloudmodel.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Row Hillstone Networks ได้รับการยกย่องจาก Gartner ให้เป็นแบรนด์ที่ลูกค้าเลือกในสาขาไฟร์วอลล์เน็ตเวิร์ค (Network Firewalls) ปี 2564 เป็นปีที่สองติดต่อกัน

Logo

อ้างอิงจากคำติชมและการให้คะแนนจากผู้เชี่ยวชาญผู้ใช้ปลายทางที่มีประสบการณ์ในการซื้อ การใช้งาน และ/หรือ การใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการ

ซานตา คลารา แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–15 เม.ย. 2564

Hillstone Networks ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันการรักษาความปลอดภัยเครือข่ายและการจัดการความเสี่ยงขององค์กรรู้สึกตื่นเต้นที่จะแบ่งปันข่าวดีจากการถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ลูกค้าเลือก  หรือ Customers’ Choice ณ เดือนเมษายน ปี 2564 ใน 2021 Gartner Peer Insights ‘Voice of the Customer’: Network Firewalls ในสาขาไฟร์วอลล์เครือข่ายโดยรวม โดยได้คะแนน 4.8 จาก 5 ดาว Gartner กล่าวว่า “ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในตลาดนี้ต้องสามารถรองรับการใช้งานไฟร์วอลล์แบบองค์กรเดียว ตลอดจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ และ/หรือ ที่ซับซ้อนมากขึ้น”

“ความปลอดภัยยังคงเป็นปัญหาหลักขององค์กร งานของเราคือการรับฟังลูกค้าและสร้างผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาต้องการ” Tim Liu, ซีทีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Hillstone Networks กล่าว “ภารกิจของเราตั้งแต่วันแรกคือการให้บริการลูกค้าของเราและนำเสนอแพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยที่ชาญฉลาดที่สุด คล่องตัวที่สุด และแข็งแกร่งที่สุดในราคาที่ประหยัด การได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงานและลูกค้าของเราในรายงาน Gartner Peer Insights ด้วยคะแนนสูงถึง 4.8 / 5 ในอุตสาหกรรมเป็นปีที่สองติดต่อกัน จึงถือเป็นรางวัลสูงสุดสำหรับเรา เราในฐานะบริษัท จะยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและเพื่อต่อกรกับภัยคุกคามที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา”

เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ การโจมตีองค์กรก็พัฒนาตามไปด้วย ดังนั้นจึงทำให้เกิดโอกาสใหม่ ๆ ในการละเมิดตามมา ภายในปีที่ผ่านมาองค์กรต่าง ๆ จำเป็นต้องทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของการทำงานจากระยะไกลและความจำเป็นในการมีอุปกรณ์จำนวนมากที่เข้าถึงทรัพยากร ความคล่องตัวที่ครอบคลุมทั่วถึงของ Hillstone Networks และเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทำให้เราอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีใครเหมือนในการช่วยให้บริษัทต่าง ๆ อยู่เหนือเทรนด์ พร้อม ๆ ไปกับการพัฒนาต้นทุนรวมของการเป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นข้อพิจารณาที่สำคัญสำหรับปี 2564 ทั้งนี้ Hillstone Networks ให้บริการโซลูชั่นที่ราคาไม่แพงแก่ลูกค้าทั่วโลก 20,000 ราย สามารถป้องกันการโจมตีภายในเครือข่าย การตรวจจับติดตาม และบรรเทาการคุกคามด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่อาจกำลังเกิดขึ้นอยู่

Gartner, Peer Insights ” Voice of the Customer หรือ เสียงของลูกค้า” : ไฟร์วอลล์เครือข่าย, Peers, 9 เมษายน 2564

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:

Gartner Peer Insights Customers 'Choice เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของบทวิจารณ์การให้คะแนนและข้อมูลของผู้ใช้ปลายทางแต่ละคนโดยใช้วิธีการการจัดทำเป็นเอกสาร เอกสารนี้ไม่ได้แสดงถึงมุมมองของ Gartner หรือเป็นการรับรองใด ๆ โดย Gartner หรือบริษัทในเครือ แต่อย่างใด

เกี่ยวกับ Hillstone Networks

โซลูชันด้านความปลอดภัยและการจัดการความเสี่ยงของ Hillstone Networks ช่วยให้องค์กรและผู้ให้บริการสามารถมองเห็นข้อมูลอัจฉริยะและการป้องกันเพื่อดูเข้าใจและดำเนินการกับภัยคุกคามทางไซเบอร์หลายขั้นตอน หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมโปรดไปที่ www.hillstonenet.com .

ติดต่อ:

Zeyao Hu

ผู้จัดการฝ่ายการตลาด

inquiry@hillstonenet.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

RubrYc Therapeutics ประกาศความร่วมมือด้านการวิจัยและข้อตกลงตัวเลือกใบอนุญาตกับ Zai Labs

Logo

ซาน คาร์ลอส, แคลิฟอร์เนีย.–(BUSINESS WIRE)–14 เม.ย. 2564

RubrYc Therapeutics, Inc. ซึ่งเป็น บริษัทด้านชีวบำบัดพรีคลินิกที่พัฒนาวิธีการรักษาแบบ epitope selective ได้ประกาศในวันนี้ว่า ได้ทำข้อตกลงความร่วมมือด้านการวิจัยและข้อตกลงเรื่องใบอนุญาตกับ Zai Labs, Inc. สำหรับการใช้แพลตฟอร์ม Meso-scale Engineered Molecules (MEMs) เพื่อระบุแอนติบอดีโมโนโคลนอลที่มีฟังก์ชันทางชีวภาพที่ได้รับการพัฒนาแล้วสำหรับเป้าหมายด้านเนื้องอกวิทยาที่ไม่เปิดเผย

ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลง RubrYc และ Zai Labs จะร่วมมือกันเพื่อระบุหาผู้ที่เหมาะกับผลิตภัณฑ์โดยใช้ RubrYc’s Discovery Engine ซึ่งใช้ประโยชน์จากการเรียนรู้ของเครื่องมือและข้อมูลโครงสร้างเพื่อระบุแอนติบอดีที่เชื่อมโยงกับ subdominant epitopes และที่แสดงกิจกรรมที่แตกต่างออกไป ทั้งนี้เมื่อได้ใช้ใบอนุญาตแล้ว Zai Labs จะมีสิทธิ์ทั่วโลกแต่เพียงผู้เดียวในการพัฒนาและวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของการร่วมมือด้านการวิจัยนี้

RubrYc Therapeutics, Inc. จะได้รับการชำระเงินล่วงหน้าและมีสิทธิ์ได้รับการบอกกล่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญ ๆ ในการวิจัยการพัฒนาและการค้าในอนาคตสำหรับผู้สมัครแต่ละราย พร้อมกับค่าลิขสิทธิ์จากยอดขายสุทธิทั่วโลกของแต่ละผลิตภัณฑ์  ทั้งนี้จะไม่มีการเปิดเผยเงื่อนไขทางการเงินของข้อตกลง

ดร. Isaac Bright ซีอีโอกล่าวว่า“ เรารู้สึกตื่นเต้นที่ Zai Labs ได้เลือก RubrYc Discovery Engine ให้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการระบุการบำบัดทางชีวภาพกับเป้าหมายด้านเนื้องอกวิทยาที่ท้าทาย เราหวังว่าจะร่วมมือกับ Zai Labs เพื่อเร่งการวิจัยของพวกเขาโดยการระบุแอนติบอดีแบบเอพิโทพีจำเพาะ (epitope-specific antibodies) ด้วยการใช้โหมดที่แตกต่างกัน ความเชี่ยวชาญด้านเนื้องอกวิทยาของ Zai Labs ช่วยเติมเต็มความสนใจของเราในการนำเสนอการบำบัดแบบใหม่ที่มีศักยภาพในการพัฒนา ให้แก่ผู้ป่วยที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ”

เกี่ยวกับ RubrYc Therapeutics, Inc.

RubrYc Therapeutics, Inc. เป็น บริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพที่ใช้โซลูชันการเรียนรู้ด้วยเครื่องและการคำนวณทางชีววิทยาที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทเอง เพื่อค้นหาแอนติบอดีแบบ epitope-selective mono and bispecific  โดยมีแรงบันดาลใจจากความก้าวหน้าล่าสุดในการสังเคราะห์ไลบรารีโมเลกุลการคัดกรองและการคำนวณแบบขนานอย่างหนาแน่น RubrYc Therapeutics, Inc. ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี MEMs Discovery Engine เพื่อระบุแอนติบอดีจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วด้วยคุณสมบัติการจับที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะกับเป้าหมายที่ยากและที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว อนึ่ง RubrYc แยกตัวออกจาก HealthTell, Inc. ในปี 2561 เพื่อพัฒนาการค้นพบทางชีวบำบัดและร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทยาชั้นนำที่แบ่งปันภารกิจของเราในการขยายทางเลือกในการรักษาและปรับปรุงผลลัพธ์สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง อนึ่ง RubrYc ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนสถาบัน ซึ่งรวมถึง Third Point Ventures, Paladin Capital Group, Vital Venture Capital และ Hayan Health Networks บริษัทตั้งอยู่ในซานคาร์ลอส แคลิฟอร์เนีย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.rubryc.com.

ดูเวอร์ชั่นต้นฉบับ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210413006012/en/

ติดต่อ:

Isaac J. Bright, MD

ซีอีโอ

RubrYc Therapeutics, Inc.

info@rubryc.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

LintonPharm ประกาศว่าได้รับอนุญาตจาก China Health Authority (NMPA) เพื่อดำเนินการทดลองระยะที่ 1/2 เพื่อประเมิน Catumaxomab สำหรับการรักษามะเร็งกระเพาะปัสสาวะแบบไม่รุกล้ำกล้ามเนื้อ

Logo

กวางโจว จีน–(บิสิเนสไวร์)–13 เม.ย. 2564

LintonPharm Co. , Ltd. บริษัทยาชีววัตถุทางคลินิกที่ตั้งอยู่ในประเทศจีนที่มุ่งเน้นการพัฒนา T cell ของแอนติบอดีชนิด bispecific สำหรับภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็งได้ประกาศว่าหน่วยงานด้านสุขภาพของจีน National Medical Products Administration (NMPA) อนุญาตให้ทางบริษัทดำเนินการทดลองทางคลินิกระยะที่ 1/2 (clinicaltrials.gov: NCT04799847) เพื่อประเมินความปลอดภัยและประสิทธิภาพของ catumaxomab ในผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะปัสสาวะชนิดแบบไม่รุกล้ำกล้ามเนื้อ (NMIBC) ซึ่งเกิดเนื้องอกเนื่องจากวัคซีน Bacillus Calmette-Guerin (BCG) ล้มเหลว  นับว่าเป็นโปรแกรมทางคลินิกที่สองของ LintonPharm ที่ประเมิน catumaxomab  ในเดือนกรกฎาคม 2563 บริษัทได้ประกาศว่าได้รับอนุญาตในการทำการทดลองระยะที่ 3 ในมะเร็งกระเพาะอาหารระยะลุกลามซึ่งคัดกรองผู้ป่วยรายแรกในเดือนตุลาคม 2563

เมื่อเร็วๆ นี้ Lindis Biotech ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของ LintonPharm ได้เริ่มการทดลองระยะที่ 1 กับ catumaxomab ในผู้ป่วย NMIBC ในเยอรมนี (clinicaltrials.gov: NCT04819399) และรายงานข้อมูลด้านความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมซึ่งสนับสนุนการดำเนินการทดลองระยะที่ 1/2 ในประเทศจีน

“การปฏิบัติตามกฎข้อบังคับเพื่อดำเนินการไปข้างหน้าด้วยโปรแกรมทางคลินิกของเราที่ประเมิน catumaxomab ในมะเร็งกระเพาะปัสสาวะถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ LintonPharm และสนับสนุนเป้าหมายของเราในการสำรวจศักยภาพของการบำบัดโรคมะเร็งต่างๆ” Robert Li, Ph.D. , DABT ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ LintonPharm  “ผู้ป่วยที่มีความล้มเหลวของ NMIBC BCG มีอัตราการมีเนื้องอกซ้ำของในอัตราสูงและมักต้องเผชิญกับการผ่าตัดตลอดชีวิตซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ  จึงจำเป็นต้องมีทางเลือกใหม่ในการรักษาและเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการศึกษานี้ทำให้เราเข้าใกล้การช่วยเหลือผู้ป่วยเหล่านี้มากขึ้นอีกขั้นหนึ่ง”

มะเร็งกระเพาะปัสสาวะเป็นมะเร็งที่พบบ่อยอันดับ 10 ทั่วโลก ในปี 2563 ได้มีการวินิจฉัยโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะใน 573,278 ผู้ป่วยทั่วโลกและประมาณ 1.8 ล้านคนได้อยู่กับโรคมะเร็งนี้เป็นเวลาถึงห้าปี [1]  NMIBC เป็นมะเร็งที่พบในเนื้อเยื่อด้านในของกระเพาะปัสสาวะและนับเป็นประมาณร้อยละ 75 ของโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะทั้งหมด[2]  การผ่าตัดเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ (TURBT) เป็นมาตรฐานปัจจุบันของการรักษา NMIBC  การกำเริบของโรคเกิดขึ้นบ่อยครั้งหลังจาก TURBT (ได้ถึงร้อยละ 70 ในห้าปี) และเป็นผลให้ผู้ป่วยมักจะได้รับการผ่าตัดหลายครั้ง[2]  BCG มักถูกใช้เป็นการรักษาเสริมหลัง TURBT อย่างไรก็ตามผู้ป่วยจำนวนมากมีการกำเริบของเนื้องอกซึ่งจะเรียกว่าเป็นความล้มเหลวของ BCG [3]  โดยปกติจะมีการใช้ Radical cystectomy (RC) หลังจากความล้มเหลวของ BCG แต่แพทย์และผู้ป่วยจำนวนมากละเว้นจาก RC เพื่อรักษาการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ

เกี่ยวกับ Catumaxomab

Catumaxomab ได้รับการอนมัติจาก European Medicines Agency ในปี 2552 สำหรับการรักษาโรคท้องบวม  โรคแอนติบอดีชนิด bispecific นี้จับกับไกลโคโปรตีนชนิดทรานส์เมมเบรนบนเซลล์เนื้องอก ซึ่งเป็นโมเลกุลยึดเกาะของเซลล์เยื่อบุผิว (EpCAM) – และ CD3 บนเซลล์ T และยังคัดเลือกเซลล์เสริมภูมิคุ้มกันผ่านการจับ FcγR. Catumaxomab ทำลายเซลล์เนื้องอกโดยกระตุ้น T cell และเซลล์เสริมที่เป็นสื่อกลางในการเกิด cytotoxicity และมีศักยภาพในการก่อให้เกิดผลของวัคซีนในระยะยาวซึ่งได้รับการตรวจสอบแล้วในสัตว์ทดลอง

เมื่อเร็วๆ นี้ catumaxomab ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศจีน ไต้หวัน และ เกาหลีใต้ให้ทำการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ระดับโลกสำหรับการรักษาผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งกระเพาะอาหารระยะลุกลาม

เกี่ยวกับ LintonPharm

LintonPharm Co. , Ltd. เป็นบริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการวิจัยทางคลินิกซึ่งมุ่งมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรม T cell ที่มีส่วนร่วมของแอนติบอดี bispecific โดยมีเป้าหมายในการเปลี่ยนมะเร็งร้ายให้เป็นโรคที่สามารถจัดการได้และอาจรักษาให้หายได้  LintonPharm โดยร่วมกับ Lindis Biotech กำลังพัฒนา catumaxomab เพื่อใช้ในโรคมะเร็งในวงกว้างทั่วโลก  นอกจากนี้ LintonPharm กำลังพัฒนาแพลตฟอร์มแอนติบอดี bispecific รุ่นต่อไปเพื่อให้เกิดการผลิตและการออกแบบยาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและเพิ่มความยืดหยุ่นในการปรับแต่งการออกแบบของแต่ละโมเลกุล  โครงการในปัจจุบันได้แก่การพัฒนาแนวทางการรักษามะเร็งเม็ดเลือดและเนื้องอกที่เป็นของแข็ง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม www.lintonpharm.com/

[1]. World Health Organization (WHO). Globocan 2020. Global Cancer Observatory. Accessed January 7, 2021. https://gco.iarc.fr/

[2]. Kamat AM, Hahn NM, Efstathiou JA, et al. (2016) Bladder cancer. Lancet 2016. 388: 2796-810. http://dx.doi.org/10.1016/S0140-6736(16)30512-8

[3]. Kikuchi E, Hayakawa N, Futumoto K, Shigeta K, Matsumoto K. (2020) Bacillus Calmette–Guerin-unresponsive non-muscle-invasive bladder cancer: Its definition and future therapeutic strategies. International Journal of Urology. 27, 108-116. doi:10.1111/iju.14153

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210413005114/en/

สื่อ:
สื่อจากสหรัฐอเมริกา
Tara Cooper
The Grace Communication Group
tara@gracegroup.us

สื่อใน APAC:
Mia He
LintonPharm
jingyi.he@lintonpharm.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

GLIDE เปิดตัวรางวัลด้านการขจัดโรค

Logo

-สถาบันสุขภาพระดับโลกแห่งใหม่ในอาบูดาบีเปิดตัวรางวัลแรกในการกำจัดโรค

-5 รางวัลมุลค่าถึง 200,000 เหรียญสหรัฐต่อรางวัล

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และลอนดอน–(บิสิเนสไวร์)–14 เม.ย. 2021

Global Institute for Disease Elimination (GLIDE) สถาบันสุขภาพระดับโลกแห่งใหม่ในอาบูดาบีที่มุ่งเน้นการขจัดโรคติดเชื้อจากความยากจนได้เปิดตัวรางวัลการขจัดโรค The Falcon Awards for Disease Elimination เพื่อผลักดันให้ค้นพบและใช้แนวทางใหม่ในการกำจัดโรค

ก่อตั้งขึ้นในปี 2562 โดยเชคโมฮัมเหม็ด บิน ซาเยด อัลนะฮ์ยาน กุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบีและมูลนิธิ Bill & Melinda Gates ก่อตั้งขึ้นในปี 2562 โดย GLIDE ระดมความรู้ทางวิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม และสุขภาพระดับโลกล่าสุดเพื่อนำไปปฏิบัติร่วมกับพันธมิตรผ่านโครงการเพื่อความก้าวหน้าในการกำจัดโรค

รางวัล Falcon Awards ซึ่งเปิดรับสมัครออนไลน์เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2564 ขอเชิญชวนองค์กรที่ไม่ใช่องค์กรของรัฐ (เอ็นจีโอ) มูลนิธิการกุศล พันธมิตรหรือเครือข่ายขององค์กรประชาสังคม (CSOs) นักวิชาการหรือสถาบันการวิจัย ความร่วมมือภาครัฐและเอกชน (PPP) และสถาบันภาครัฐหรือเอกชนในประเทศเฉพาะถิ่นมายื่นข้อเสนอเพื่อเร่งการกำจัดอย่างน้อยหนึ่งในสี่โรคที่ GLIDE มุ่งเน้น ได้แก่ มาลาเรีย โปลิโอ โรคเท้าช้าง และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

GLIDE กำลังมองหาข้อเสนอที่ครอบคลุมแนวทางข้ามพรมแดน ข้ามโรค ข้ามโปรแกรม หรือข้ามภาคส่วนในการกำจัดโรค  การนำเสนอควรมุ่งเน้นไปที่การดำเนินการตามแนวคิดที่เป็นนวัตกรรมและการวิจัยที่จัดตั้งขึ้นซึ่งมีศักยภาพในการเร่งการเปลี่ยนแปลงหรือนำเสนอวิธีการใหม่ๆ อย่างแท้จริง หรือนำมาสู่การวิจัยที่มีแนวโน้มที่จะนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาในการกำจัดโรค

Simon Bland ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ GLIDE ให้ความเห็นว่า “ที่ GLIDE เราเชื่อมั่นในแนวทางบูรณาการและการร่วมมือกันในการจัดการกับโรคติดเชื้อจากความยากจน  รางวัล Falcon สำหรับการกำจัดโรคจะช่วยพัฒนาและขยายความพยายามเหล่านี้”

จะมีการประกาศผู้ชนะห้ารายในปลายปีนี้หลังจากการประเมินอย่างละเอียดโดยผู้ตัดสินซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพระดับโลกที่ได้รับการยกย่อง  ผู้ชนะแต่ละคนจะได้รับเงินจำนวนสูงถึง 200,000 เหรียญสหรัฐเพื่อเป็นทุนและนำแนวทางแก้ไขปัญหาเฉพาะของตนไปใช้ในการกำจัดโรค

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหยี่ยวรางวัลและวิธีการป้อนกรุณาเยี่ยมชม: glideae.org/awards

[จบ]

หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ:

The Falcon Awards – วันที่สำคัญ:

  • 4 พฤษภาคม 2564: เปิดรับสมัคร
  • 13 มิถุนายน 2564: วันสุดท้ายของการส่งผลงาน
  • พฤศจิกายน – ธันวาคม 2564: ประกาศผู้ชนะ

เกี่ยวกับ GLIDE

GLIDE เป็นสถาบันสุขภาพระดับโลกแห่งใหม่ของอาบูดาบีโดยมุ่งเน้นไปที่การเร่งกำจัดโรคแห่งความยากจนที่สามารถป้องกันได้ 4 โรค ได้แก่ มาลาเรีย โปลิโอ โรคเท้าช้าง และโรคตาบอดแถบแม่น้ำภายในปี 2573  ก่อตั้งขึ้นในปี 2019 อันเป็นผลมาจากความร่วมมือระหว่างสมเด็จโมฮัมเหม็ด บิน ซาเยด อัลนะฮ์ยาน กุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบีและมูลนิธิ Bill & Melinda Gates โดย GLIDE รวบรวมความรู้ทางวิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม และสุขภาพระดับโลกล่าสุดและนำไปปฏิบัติผ่านโครงการเงินทุนและการพัฒนาทักษะเพื่อสนับสนุนระบบการดูแลสุขภาพในท้องถิ่นและพัฒนาความคิดระดับโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดไปที่: https://glideae.org/

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

Gong Communications
E: GLIDE@gongcommunications.com / T: +44 7794 988752

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

EIG ลงนามข้อตกลงกิจการโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 12.4 พันล้านดอลลาร์กับ Aramco

Logo

โดยกลุ่มบริษัทที่นำโดย EIG เข้าถือหุ้น 49% ในกิจการใหม่ที่มีชื่อว่า Aramco Oil Pipelines Co. โดยมีสิทธิในการเก็บภาษีศุลกากร 25 ปีสำหรับน้ำมันที่ขนส่งผ่านเครือข่ายท่อส่งน้ำมันดิบของ Aramco

หนึ่งในการเข้าซื้อกิจการโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก

วอชิงตัน–(บิสิเนสไวร์)–10 เม.ย. 2564

EIG ซึ่งเป็นสถาบันลงทุนชั้นนำของภาคพลังงานทั่วโลกและหนึ่งในผู้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานชั้นนำของโลกประกาศในวันนี้ว่าทางบริษัทได้ทำสัญญาเช่าและเช่าคืนกับ Saudi Arabian Oil Co. (“Aramco”) โดยกลุ่มลงทุนที่นำโดย EIG จะเข้าถือหุ้น 49% ใน Aramco Oil Pipelines Company (“Aramco Oil Pipelines”) ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นใหม่ซึ่งมีสิทธิในการเก็บภาษีศุลกากร 25 ปีสำหรับน้ำมันที่ขนส่งผ่านเครือข่ายท่อส่งน้ำมันดิบของ Aramco  การซื้อกิจการดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 12.4 พันล้านดอลลาร์ โดย Aramco ถือหุ้น 51% ที่เหลือในกิจการใหม่ คิดเป็นมูลค่าส่วนของผู้ถือหุ้นทั้งหมดของท่อส่งน้ำมัน Aramco ประมาณ 25.3 พันล้านดอลลาร์

เครือข่ายท่อส่งน้ำซึ่งรวมถึงท่อส่งน้ำมันดิบที่มีอยู่และในอนาคตทั้งหมดของ Aramco ในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียนั้นเชื่อมต่อแหล่งน้ำมันกับเครือข่ายปลายน้ำ  เครือข่ายนี้ส่งน้ำมันดิบ 100% ของ Aramco ที่ผลิตในราชอาณาจักรภายใต้สัญญาสัมปทาน

ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการทำการซื้อกิจการ Aramco จะเช่าสิทธิ์การใช้งานในเครือข่ายท่อส่งน้ำมันดิบไปยัง Aramco Oil Pipelines และ Aramco Oil Pipelines จะให้สิทธิ์ แต่เพียงผู้เดียวในการใช้งาน ขนส่ง ดำเนินการและบำรุงรักษาเครือข่ายท่อส่งกลับไปยัง Aramco ในระยะเวลา 25 ปีเพื่อแลกกับภาษีรายไตรมาสตามปริมาณที่ Aramco จ่าย  อัตราภาษีจะได้รับการสนับสนุนโดยภาระผูกพันขั้นต่ำ  Aramco จะรักษาตำแหน่งและการควบคุมการปฏิบัติงานของเครือข่ายท่อน้ำมันไว้ตลอดเวลาและจะรับความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและเงินทุนทั้งหมด  การทำธุรกรรมจะไม่กำหนดข้อจำกัดใดๆ เกี่ยวกับปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่แท้จริงของ Aramco ซึ่งอยู่ภายใต้การตัดสินใจด้านการผลิตที่ออกโดยราชอาณาจักร

“นี่เป็นโอกาสพิเศษสำหรับนักลงทุนของ EIG และเราภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ Aramco ในทรัพย์สินโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกนี้” R. Blair Thomas ประธานและซีอีโอของ EIG กล่าว “การเข้าซื้อนี้สอดคล้องกับปรัชญาของ EIG ในการลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพสูงที่มีสัญญากระแสเงินสดในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ  เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมมือกับ Aramco ในระยะยาวและเพื่อส่งมอบคุณค่าให้กับนักลงทุนของเราผ่านการลงทุนที่สำคัญนี้”

Amin H. Nasser ประธานและซีอีโอของ Aramco กล่าวว่า “การทำธุรกรรมครั้งสำคัญนี้กำหนดแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพพอร์ตโฟลิโอของเรา  เราใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับกลยุทธ์กับโปรแกรม Shareek ของราชอาณาจักรที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้  โครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งของ Aramco จะได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมด้วยข้อตกลงนี้ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้นของเรา  นอกจากนี้พันธมิตรระยะยาวของเราในกิจการนี้จะได้รับประโยชน์จากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งหนึ่งของโลก  ในอนาคตเราจะยังคงสำรวจโอกาสในการสนับสนุนกลยุทธ์ในการสร้างมูลค่าระยะยาวของเราต่อไป”

การทำธุรกรรมคาดว่าจะปิดลงโดยเร็วที่สุด โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการปิดบัญชีตามธรรมเนียม รวมถึงข้อกำหนดการควบรวมกิจการและการอนุมัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

HSBC Bank plc ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ EIG ในการทำธุรกรรมและ Latham & Watkins ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากฎหมายของ EIG

เกี่ยวกับ EIG

EIG เป็นสถาบันลงทุนชั้นนำของภาคพลังงานทั่วโลกด้วยเงินภายใต้การบริหาร 22.0 พันล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563  EIG เชี่ยวชาญในการลงทุนภาคเอกชนด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับพลังงานในระดับโลก ในช่วงประวัติศาสตร์ 39 ปี EIG ได้มอบเงินกว่า 34.9 พันล้านดอลลาร์ให้กับภาคพลังงานผ่านโครงการหรือบริษัทมากกว่า 365 โครงการใน 36 ประเทศใน 6 ทวีป  ลูกค้าของ EIG ประกอบด้วยแผนบำนาญชั้นนำ บริษัทประกันภัย กองทุนเงินบริจาค มูลนิธิ และกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติในสหรัฐอเมริกา เอเชีย และยุโรป  EIG มีสำนักงานใหญ่อยู่ในวอชิงตันดีซีโดยมีสำนักงานอยู่ในฮูสตัน ลอนดอน ซิดนีย์ ริโอเดจาเนโร ฮ่องกง และโซล สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ EIG ที่ www.eigpartners.com

เกี่ยวกับ Aramco

Aramco เป็นบริษัทด้านพลังงานและเคมีภัณฑ์ครบวงจรระดับโลก  เราขับเคลื่อนด้วยความเชื่อหลักของเราว่าพลังงานคือโอกาส  ตั้งแต่การผลิตน้ำมันประมาณหนึ่งในแปดบาร์เรลของโลกไปจนถึงการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานใหม่ๆ  ทีมงานทั่วโลกของเราทุ่มเทเพื่อสร้างผลกระทบในทุกสิ่งที่เราทำ  เรามุ่งเน้นที่จะทำให้ทรัพยากรของเราเชื่อถือได้มากขึ้น มีความยั่งยืน และมีประโยชน์มากขึ้น  สิ่งนี้ช่วยส่งเสริมความมั่นคงและการเติบโตในระยะยาวทั่วโลก www.aramco.com.

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210409005457/en/

ติดต่อ:

EIG
Sard Verbinnen & Co.
Kelly Kimberly / Brandon Messina
+1 212-687-8080
EIG-SVC@sardverb.com 

Aramco
International Media Relations (ฝ่ายสื่อนานาชาติ):
international.media@aramco.com 
ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์: Investor.relations@aramco.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Black & Veatch ได้รับเลือกให้เป็นบริษัทวิศวกรหลักของฟาร์มกังหันลมในเวียดนาม

Logo

ฟาร์มกังหันลมบนบกขนาด 100 เมกะวัตต์ของ บริษัท Dien Xanh Gia Lai Investment Energy Joint Stock Company จะช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและเป้าหมายความยั่งยืนของเวียดนาม

กรุงเทพมหานคร–(BUSINESS WIRE)–8 เมษายน 2564

เวียดนามกำลังขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า พร้อม ๆ ไปกับการปรับความสมดุลระหว่างพอร์ตโฟลิโอด้านการผลิตและตอบสนองความต้องการพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรและเศรษฐกิจที่กำลังเฟื่องฟู

ประเทศเวียดนามกำลังให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานหมุนเวียน เพื่อพัฒนาความมั่นคงด้านพลังงานด้วยความตั้งใจในการลดคาร์บอนและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

รายงานของ Black & Veatch ว่าด้วยทิศทางเชิงกลยุทธ์: อุตสาหกรรมไฟฟ้าในเอเชีย 2564 คาดว่า การลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนจะมีการเติบโตของการลงทุนที่มีนัยยะสำคัญที่สุดภายในบรรดาอุตสาหกรรมการผลิตฟลังงานยุคใหม่ ในช่วงสามถึงห้าปีข้างหน้า

ฟาร์มกังหันลม Ia Pech 1 และ Ia Pech 2 ซึ่งตั้งอยู่ในเขต Ia Grai ของจังหวัด Gia Lai ถือเป็นตัวอย่างของการลงทุนในการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนของเวียดนาม

Dien Xanh Gia Lai Investment Energy Joint Stock Company ซึ่งเป็นผู้พัฒนาฟาร์มกังหันลม la Pech ได้ว่าจ้าง Black & Veatch ให้เป็นวิศวกรหลักของฟาร์มกังหันลมทั้งสองแห่ง โครงการฟาร์มกังหันลม Ia Pech แต่ละโครงการจะมีกำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ (MW)

“Black & Veatch มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยอาศัยความเชี่ยวชาญระดับโลกและประสบการณ์ในท้องถิ่นของเรา ด้วยความสามารถและความเชี่ยวชาญที่ครอบคลุมตลอดวงจรของโครงการ ตลอดจนถึงเทคโนโลยีการผลิต การส่งผ่านและการจัดจำหน่าย เราจึงได้ร่วมมือกับผู้ผลิตไฟฟ้าทั่วโลกเพื่อ  ปรับใช้โซลูชันพลังงานหมุนเวียนที่เชื่อถือได้และคำนึงถึงอนาคต” Narsingh Chaudhary รองประธานบริหารของ Black & Veatch ประธานและกรรมการผู้จัดการ Asia Power Business กล่าว

ในฐานะวิศวกรหลักของฟาร์มกังหันลม la Pech ทาง Black & Veatch จะดำเนินการบริการต่าง ๆ รวมถึงการจัดการโครงการ การควบคุมโครงการ การตรวจสอบการออกแบบ การประกันคุณภาพ การตรวจสอบการก่อสร้าง และการสนับสนุนการว่าจ้างต่าง ๆ

ฟาร์มกังหันลม Ia Pech จะผลิตและขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าเวียดนามเป็นเวลา 20 ปี การก่อสร้างฟาร์มมีกำหนดจะเริ่มในปี 2564 และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในไตรมาสที่สี่ของปี 2564

“ การใช้พลังงานลมที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมไฟฟ้าในการผสมผสานรุ่นนี้สอดคล้องกับโซลูชันพลังงานลมที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ ของเรา ทำให้เราสามารถให้บริการในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา” Dave Hallowell รองประธานอาวุโสระดับโลกของ Black & Veatch  พลังงานทดแทน “ กล่าวเสริม

Black & Veatch รองรับพลังงานลมกว่า 56 GW ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงการให้คำแนะนำทางเทคนิคในกรณีของพลังงานลมถึงกว่า 36,000 เมกะวัตต์ การพัฒนาและการสนับสนุนการดำเนินการสำหรับพลังงานลม 19,500 เมกะวัตต์ และการออกแบบรายละเอียดสำหรับพลังงานลม 1,200 เมกะวัตต์ บริษัทได้รับการยอมรับจาก Inframation และ SparkSpread ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานพลังงานและพลังงานหมุนเวียนข้อมูลและการวิเคราะห์ ในฐานะที่ปรึกษาด้านเทคนิคอันดับหนึ่ง หรือ the top technical advisor โดยอิงจากจำนวนข้อตกลงในปี 2563

หมายเหตุบรรณาธิการ:

  • Black & Veatch นำเสนอบริการที่หลากหลายตั้งแต่การวางแผนเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับพลังงานหมุนเวียนและการสนับสนุนการพัฒนาโครงการไปจนถึงการดำเนินโครงการการเชื่อมต่อกริดและการจัดการสินทรัพย์ ประสบการณ์ของเราเกี่ยวกับโครงการหมุนเวียน รวมถึง ลม ความร้อนจากแสงอาทิตย์ แผงเซลล์แสงอาทิตย์ พลังงานแสงอาทิตย์ ชีวมวล พลังน้ำ ความร้อนใต้พิภพ ก๊าซฝังกลบ และพลังงานทางทะเล
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามอยู่ที่ร้อยละ 6.5 ในปี 2564

เกี่ยวกับ Black & Veatch

Black & Veatch เป็น บริษัท ด้านวิศวกรรมการจัดหาและที่ปรึกษาการก่อสร้างระดับโลกที่มีพนักงานเป็นเจ้าของ โดยมีประวัติยาวนานกว่า 100 ปีในนวัตกรรมด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน ตั้งแต่ปี พ. ศ. 2458 เราได้ช่วยลูกค้าส่งเสริมชีวิตของผู้คนทั่วโลกด้วยการจัดการกับความสามารถในการฟื้นฟู และความน่าเชื่อถือของทรัพย์สินโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของเรา รายรับของเราในปี 2563 มีจำนวนมากกว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ติดตามเราได้ที่ www.bv.com และบนโซเชียลมีเดีย

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210330006161/en/

ติดต่อ:

Emily Chia

+65 6335 6623 P

+65 9875 8907 M

Chialp@bv.com

สายด่วนสื่อ 24 ชั่วโมง

+1 866-496-9149

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย