รีเล็กซ์ โซลูชันส์ ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้นำใน Gartner® Magic Quadrant ประจำปี 2025 ™ สำหรับการวางแผนห่วงโซ่อุปทาน

Logo

รีเล็กซ์  ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำเป็นครั้งแรกในรายงานของนักวิเคราะห์อิสระนี้ เนื่องมาจากความสามารถในการดำเนินการและความครบถ้วนของวิสัยทัศน์

แอตแลนตาและเฮลซิงกิ–(BUSINESS WIRE)–16 เมษายน 2025

รีเล็กซ์ โซลูชันส์เป็นผู้ให้บริการโซลูชันการวางแผนห่วงโซ่อุปทานและค้าปลีกแบบครบวงจรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว ได้ประกาศในวันนี้ว่าได้รับการยอมรับในการเป็นผู้นำใน Gartner® Magic Quadrant ประจำปี 2025 สำหรับการวางแผนห่วงโซ่อุปทาน1 โดยพิจารณาจากความสมบูรณ์ของวิสัยทัศน์และความสามารถในการดำเนินการ การยอมรับนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ รีเล็กซ์ ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มผู้นำด้านการวางแผนห่วงโซ่อุปทาน เพียงสามปีหลังจากที่ถูกรวมอยู่ในรายงานนี้เป็นครั้งแรกในปี 2022 โดย รีเล็กซ์ เชื่อว่าการยอมรับนี้ได้ช่วยเน้นย้ำให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง และความสามารถในการปรับขนาดเพื่อรองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้น ของแพลตฟอร์มของเรา ที่ผสานรวมอุปสงค์และอุปทานในห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดเพื่อขับเคลื่อนการตัดสินใจที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ประสิทธิภาพที่สูงขึ้น และการทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นในทุกๆ ฟังก์ชัน

Mikko Kärkkäinen ซีอีโอกลุ่มและผู้ก่อตั้งร่วมของ รีเล็กซ์ โซลูชันส์ กล่าวว่า “เรารู้สึกว่าการได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำในรายงานฉบับนี้เป็นการช่วยตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละของเราในการส่งมอบมูลค่าที่วัดได้ รวมถึงนวัตกรรมที่เปลี่ยนโฉมการวางแผนห่วงโซ่อุปทานผ่านแพลตฟอร์มที่เป็นหนึ่งเดียวอย่างแท้จริงสำหรับผู้ค้าปลีก ผู้ค้าส่ง ผู้ผลิต และบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ เราได้ลงทุนอย่างมากในด้านนวัตกรรม โดยจัดสรรรายได้ 25% ของเราให้กับการวิจัยและพัฒนา เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับแพลตฟอร์มของเราสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตที่ซับซ้อน เราได้ส่งมอบตามคำมั่นสัญญาของเราด้วยการนำเสนอแพลตฟอร์มที่ผสานรวมการวางแผนความต้องการสินค้าในระดับค้าปลีกที่ขับเคลื่อนด้วย AI  การเพิ่มประสิทธิภาพของการวางแผนอุปสงค์และอุปทาน และการกำหนดตารางการผลิตไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ที่จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนที่สุดของห่วงโซ่อุปทานได้”

แพลตฟอร์ม รีเล็กซ์ มีรากฐานมาจาก AI ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทขึ้น โดยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานได้อย่างแม่นยำ สามารถปรับแผนซัพพลายเชนให้สอดคล้องกับการพยากรณ์ความต้องการสินค้า การเติมสินค้า การจัดสรร และการจัดตารางการผลิตได้อย่างไร้รอยต่อภายในโมเดลข้อมูลเดียว สถาปัตยกรรมที่สามารถปรับแต่งได้สูงนี้รองรับการวางแผนแบบอัตโนมัติ (touchless planning) เพื่อช่วยลดขั้นตอนการทำงานซ้ำ ๆ และเพิ่มขีดความสามารถให้ธุรกิจสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วต่อสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คุณสมบัติหลักประกอบด้วย::

  • การวางแผนความต้องการที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยใช้การคาดการณ์จาก ML รวมถึงการตรวจจับความต้องการเพื่อคาดการณ์และตอบสนองต่อความผันผวนของตลาด
  • การวางแผนการผลิต การจัดซื้อ และการจัดจำหน่ายแบบบูรณาการเพื่อให้อุปทานสอดคล้องกับความต้องการแบบเรียลไทม์
  • การกำหนดตารางการผลิตขั้นสูงที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมการผลิตที่ซับซ้อน
  • ความร่วมมือระหว่างองค์กร ซึ่งใช้ประโยชน์จากความสำเร็จของ RELEX ในอุตสาหกรรมค้าปลีกที่จะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถทำงานร่วมกับผู้ค้าปลีกได้อย่างราบรื่น
  • การวินิจฉัยขั้นสูงเพื่อระบุสาเหตุหลักของความไม่มีประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานที่จะช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาเชิงรุกและสามารถปรับปรุงได้อย่างต่อเนื่อง
  • ความสามารถในการเติมเต็มและการจัดสรรสินค้าที่ช่วยให้ระดับสินค้าคงคลังอยู่ในระดับที่เหมาะสมตลอดห่วงโซ่อุปทาน ช่วยลดของเสีย และเพิ่มความพร้อมในการขาย
  • แพลตฟอร์มรวมที่เชื่อมต่อความสามารถเหล่านี้เข้าไว้ด้วยกันในที่เดียวเพื่อส่งมอบการวางแผนธุรกิจแบบบูรณาการ

นอกจากนี้ รีเล็กซ์ ยังขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมในด้าน genAI และ agentic AI ควบคู่ไปกับเทคนิค AI เฉพาะทางที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับความสามารถของแพลตฟอร์มในการขับเคลื่อนความคล่องตัว ลดของเสีย และปรับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับการดำเนินการด้านปฏิบัติการ ด้วยคะแนนความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้า (net promoter score) ที่เป็นผู้นำตลาด ลูกค้าของเรา ได้ให้คะแนน รีเล็กซ์ อย่างสม่ำเสมอว่าเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้และมีคุณค่าสำหรับการเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทาน

สามารถเข้าถึงรายงาน Gartner Magic Quadrant สำหรับการวางแผนห่วงโซ่อุปทานได้ที่นี่

  1. Gartner, “Magic Quadrant for Supply Chain Planning Solutions”; Pia Orup Lund, Joe Graham, Caleb Thomson, Shane Brett, Eva Dawkins, 14 April 2025.  
  2. Gartner ไม่ได้รับรองผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใดๆ ที่ปรากฏในรายงาน และจะไม่แนะนำให้ผู้ใช้เทคโนโลยีเลือกเฉพาะผู้จำหน่ายที่มีคะแนนสูงสุดหรือการรับรองอื่นใดเท่านั้น เอกสารเผยแพร่ผลการวิจัยของ Gartner ประกอบด้วยความคิดเห็นขององค์กรวิจัยของ Gartner และไม่ควรตีความว่าเป็นข้อเท็จจริง โดย Gartner ขอปฏิเสธการรับประกันใดๆ ไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยนัยเกี่ยวกับผลการวิจัยนี้ รวมถึงการรับประกันความสามารถในการขายหรือความเหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะ
  3. GARTNER เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนและเครื่องหมายบริการของ Gartner และ Magic Quadrant เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Gartner, Inc. และ/หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ และใช้ที่นี่โดยได้รับอนุญาต สงวนลิขสิทธิ์

เกี่ยวกับ รีเล็กซ์

รีเล็กซ์ โซลูชันส์  นำเสนอแพลตฟอร์มรวมสำหรับการวางแผนการค้าปลีก การผลิต และห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเปิดใช้งานด้วยเทคโนโลยี AI ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว เราได้ช่วยให้ผู้ค้าปลีก ผู้ผลิต และบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการคาดการณ์อุปสงค์ การเติมสินค้า การขาย การกำหนดราคาและโปรโมชั่น การดำเนินการห่วงโซ่อุปทาน และการวางแผนการผลิตตลอดห่วงโซ่คุณค่าแบบครบวงจร โดยบริษัทต่างๆ เช่น ADUSA, AutoZone, Coles, Circle K, Dollar Tree และ Family Dollar, M&S Food, PetSmart, Rituals, The Home Depot และ Systemair ต่างไว้วางใจให้  รีเล็กซ์ช่วยเพิ่มความพร้อมของสินค้าเพื่อเพิ่มยอดขาย มอบข้อมูลเชิงลึกที่สามารถดำเนินการได้ ปรับปรุงความยั่งยืน รวมถึงช่วยขับเคลื่อนการเติบโตที่สร้างผลกำไร

เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่: https://www.relexsolutions.com/customers/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Jolene Peixoto
รองประธานฝ่ายสื่อสาร
RELEX Solutions
Jolene.Peixoto@relexsolutions.com

Savannah Yawn
ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารอาวุโส
RELEX Solutions
Savannah.yawn@relexsolutions.com

ที่มา: RELEX Solutions

Strategic Capital: ตอบกลับ: ข้อเสนอของผู้ถือหุ้นต่อ NIPPON STEEL CORP. (รหัส TOKYO 5401)

Logo

(โปรดดู “ https://stracap.jp/english/wp-content/uploads/2025/04/Shareholder-Proposal-to-NIPPON-STEEL-CORP-1.pdf ” สำหรับรายละเอียดต่างๆ)

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–22 เมษายน 2025

Strategic Capital, Inc. (ต่อไปนี้เรียกว่า “SC”) อยู่ภายใต้สัญญาการลงทุนตามดุลพินิจกับ INTERTRUST TRUSTEES (CAYMAN) LIMITED ในฐานะทรัสต์ของ JAPAN-UP เท่านั้น (ต่อไปนี้เรียกว่า “กองทุน”) และกองทุนและ SC (ต่อไปนี้เรียกว่า “ผู้ถือหุ้นถือสิทธิ”) ที่ถือหน่วยสิทธิออกเสียงมากกว่า 300 หน่วยของ Nippon Steel Corp. (ต่อไปนี้เรียกว่า “Nippon Steel” หรือ “บริษัท” ตามบริบทที่จำเป็น) เป็นเวลา 6 เดือน

ผู้ถือหุ้นที่ถือสิทธิมีความยินดีที่จะประกาศว่าได้ดำเนินการตามสิทธิของผู้ถือหุ้นในการเสนอข้อเสนอในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีที่จะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้
บริษัทได้กำหนดกำลังการผลิตเหล็กดิบทั่วโลกไว้ที่ 100 ล้านตันและกำไรจากธุรกิจรวม 1 ล้านล้านเยนเป็นตัวชี้วัดหลัก (“ตัวชี้วัดหลัก”) และในปัจจุบันได้ตั้งเป้าที่จะเข้าซื้อกิจการ U.S. Steel เพื่อส่งเสริมการเข้าซื้อกิจการ Nippon Steel ได้เน้นย้ำถึงผลประโยชน์ที่ U.S. Steel จะได้รับ แต่ผู้ถือหุ้นที่ถือสิทธิสงสัยว่ามูลค่าองค์กรของบริษัทย่อยของ Nippon Steel จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนหรือไม่
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2025 บริษัท Nippon Steel มีบริษัทย่อยที่จดทะเบียนในญี่ปุ่น 5 แห่ง โดย 4 แห่งมี PBR ต่ำกว่า 1 เท่าและบริษัทเหล่านี้ไม่ได้รับการตรวจสอบการบริหารจัดการที่ประมาทเลินเล่อ นอกจากนี้ บริษัทย่อยนี้ยังได้ฝากเงินส่วนเกินจำนวนมากในรูปแบบของเงินฝากและเงินกู้ยืมให้กับบริษัท ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพในการบริหารเงินทุนของบริษัทลดลง และกรรมการส่วนใหญ่ของบริษัทเหล่านี้ก็เป็นศิษย์เก่าของบริษัท Nippon Steel
นอกจากนี้ การประเมินมูลค่าหุ้นของบริษัทเองก็หยุดนิ่งโดยมี PBR ต่ำกว่า 1 เท่ามาเป็นเวลานานเช่นกัน
ผู้ถือหุ้นที่ถือสิทธิพยายามแก้ไขการบริหารจัดการที่ประมาทเลินเล่อของ Nippon Steel จึงเสนอข้อเสนอต่อไปนี้

(1) การแก้ไขบทบัญญัติของบทความเกี่ยวกับการบริหารจัดการบริษัทย่อย

มีความเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์กับผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัทย่อย ตัวอย่างเช่น เป็นเวลาหลายปีที่บริษัทย่อยที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ให้เงินทุนจำนวนมากแก่บริษัทในอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าต้นทุนส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทย่อยอย่างมาก ส่งผลให้ประสิทธิภาพของเงินทุนลดลงและผู้ถือหุ้นรายย่อยสูญเสียกำไร

หากบริษัทต้องการรับผลประโยชน์เช่นเดิมต่อไป บริษัทย่อยเหล่านี้ควรแปลงเป็นบริษัทย่อยที่เป็นเจ้าของทั้งหมดและเป็นบริษัทเอกชน หากจะต้องรักษาการจดทะเบียนบริษัทแม่-บริษัทย่อย รายงานการกำกับดูแลกิจการควรระบุเหตุผลในการรักษาการจดทะเบียนบริษัทแม่-บริษัทย่อย ฯลฯ อย่างชัดเจน ในขณะที่พยายามขยายผลประโยชน์ร่วมกันของผู้ถือหุ้นทั้งสองและปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัทย่อย

นอกจากนี้ บริษัทย่อยจดทะเบียนที่ละเมิดหรือมีแนวโน้มสูงที่จะละเมิดเกณฑ์ในการรักษาการจดทะเบียนจะต้องให้การคุ้มครองผู้ถือหุ้นรายย่อยมากขึ้น

(2) ให้ค่าตอบแทนเป็นหุ้นจำกัดและเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของค่าตอบแทนคงที่ เชื่อมโยงกับผลงาน และค่าตอบแทนตามหุ้นของกรรมการตัวแทน

ข้อเสนอนี้จะพิจารณาถึงการนำค่าตอบแทนแบบหุ้นมาใช้กับกรรมการตัวแทน และการเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนค่าตอบแทนแบบคงที่ เชื่อมโยงกับผลงานและค่าตอบแทนตามหุ้น

ปัจจุบันค่าตอบแทนของกรรมการตัวแทนประกอบด้วยค่าตอบแทนคงที่และค่าตอบแทนตามผลงานในอัตราส่วน 50:50 โดยไม่มีค่าตอบแทนที่เป็นหุ้น

แม้จะมีตัวบ่งชี้ที่สำคัญที่กล่าวไว้ข้างต้น มูลค่าของผู้ถือหุ้นก็จะไม่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เว้นแต่การลงทุน การเข้าซื้อกิจการ ฯลฯ ในราคาที่เหมาะสม

ด้วยเหตุนี้ จึงควรนำค่าตอบแทนแบบหุ้นมาใช้กับกรรมการตัวแทนเพื่อสร้างแรงจูงใจในการเพิ่มมูลค่าของผู้ถือหุ้น

(3) การเพิ่มเงื่อนไขการเรียกคืนเงินให้กับค่าตอบแทนที่เชื่อมโยงกับผลงานของกรรมการตัวแทน

ข้อเสนอนี้มุ่งหวังที่จะเลื่อนการจ่ายค่าตอบแทนที่เชื่อมโยงกับผลงานแก่กรรมการตัวแทน และการสละสิทธิ์บางส่วนในกรณีที่เกิดการสูญเสียที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ถูกซื้อกิจการในอนาคต

แม้ว่าการเข้าซื้อกิจการที่กล่าวถึงข้างต้นอาจมีศักยภาพในการเติบโตอย่างมาก แต่ยังคงมีความกังวลว่าการขยายขนาดการเข้าซื้อกิจการจะนำไปสู่มูลค่าของผู้ถือหุ้นที่เพิ่มขึ้นหรือไม่

เมื่อพิจารณาจากเงื่อนไขที่น่าสังเกตของบริษัทย่อยที่จดทะเบียนในประเทศญี่ปุ่น จึงมีข้อสงสัยว่ามูลค่าองค์กรของบริษัทย่อยที่เข้าซื้อกิจการจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนอันเป็นผลจากการซื้อกิจการ

ดังนั้น ในกรณีที่เกิดการด้อยค่าหรือการสูญเสียอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่เข้าซื้อกิจการภายหลังการประชุมสามัญประจำปี (AGM) บริษัทควรคำนวณค่าตอบแทนที่เชื่อมโยงกับผลการดำเนินงานใหม่หลังจากคำนึงถึงจำนวนเงินของการสูญเสียดังกล่าว และลดจำนวนเงินที่ชำระไปแล้ว

รายละเอียดต่างๆ

โปรดดูด้านล่างเพื่อดูเวอร์ชันเต็มของข้อเสนอของผู้ถือหุ้น
https://stracap.jp/english/wp-content/uploads/2025/04/Shareholder-Proposal-to-NIPPON-STEEL-CORP-1.pdf

ข้อสงวนสิทธิ์

ข่าวเผยแพร่ฉบับนี้เป็นการแปลแบบย่อของประกาศฉบับดั้งเดิมเป็นภาษาญี่ปุ่น ในกรณีที่มีความแตกต่างระหว่างฉบับภาษาญี่ปุ่นดั้งเดิมกับฉบับแปล ให้ถือฉบับภาษาญี่ปุ่นดั้งเดิมเป็นหลัก

Contacts

สำหรับการสอบถามข้อมูลทางสื่อ โปรดติดต่อ
Strategic Capital, Inc.
ติดต่อ: ฝ่ายการลงทุน
โทร.: +81-3-6433-5277
อีเมล: info@stracap.jp

ที่มา: Strategic Capital, Inc.

พิธีมอบรางวัลญี่ปุ่นประจำปี 2025 จัดขึ้นโดยมีสมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่นเสด็จฯ เข้าร่วม

Logo

Russell Dean Dupuis, Ph.D. ในสาขาวิทยาศาสตร์วัสดุและการผลิต
Carlos M. Duarte, Ph.D. ในสาขาการผลิตทางชีวภาพ นิเวศวิทยา และสิ่งแวดล้อม

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–17 เมษายน 2025

มูลนิธิเจแปน ไพรซ์ (Japan Prize) (ประธาน: Ryozo Nagai) จัดพิธีมอบรางวัลเมื่อวันพุธที่ 16 เมษายน ที่โรงละครแห่งชาติแห่งใหม่ กรุงโตเกียว ในเขตชิบูย่า เพื่อมอบรางวัล Japan Prize ให้แก่นักวิทยาศาสตร์ที่สร้างสรรค์ผลงานโดดเด่นในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับโลก และมีส่วนสนับสนุนอย่างสำคัญในการสร้างสันติภาพและความมั่งคั่งให้กับมวลมนุษยชาติ

Russell Dean Dupuis, Ph.D. (สหรัฐอเมริกา) ผู้ชนะรางวัลในสาขาวัสดุศาสตร์และการผลิต และ Carlos M. Duarte, Ph.D. (สเปน) ผู้ชนะรางวัลในสาขาการผลิตทางชีววิทยา นิเวศวิทยา และสิ่งแวดล้อม ได้เข้าร่วมพิธีมอบรางวัล โดยแต่ละสาขาได้รับรางวัล 1 ล้านเยน พร้อมใบรับรองและเหรียญรางวัล

ในแต่ละปี ผู้ชนะรางวัล Japan Prize จะถูกแนะนำจากนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรที่มีชื่อเสียงประมาณ 15,500 คนจากทั่วโลก และตัดสินโดยการตรวจสอบอันเข้มงวดที่ใช้เวลาประมาณหนึ่งปี สำหรับในปี 2025 นี้ มูลนิธิได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 149 รายการสำหรับสาขาวัสดุศาสตร์และการผลิต และ 72 รายการสำหรับสาขาการผลิตทางชีวภาพ นิเวศวิทยา และสิ่งแวดล้อม โดยผู้ชนะในปีนี้ได้รับการคัดเลือกจากผู้สมัครทั้งหมด 221 ราย

พิธีดังกล่าวมีแขกเข้าร่วมประมาณ 1,000 คน เริ่มจากสมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินี หัวหน้าฝ่ายบริหารทั้งสามฝ่ายและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนจากภาคส่วนต่างๆ ของสังคม โดยสมเด็จพระจักรพรรดิทรงมีพระราชดำรัส ตามด้วยคำกล่าวของผู้ชนะทั้งสองท่าน และคำกล่าวแสดงความยินดีของ Fukushiro Nukaga ประธานสภาผู้แทนราษฎร

สามารถชมพิธีมอบรางวัลประจำปีนี้ได้จากลิงก์ด้านล่าง
เวอร์ชันภาษาญี่ปุ่น: https://youtube.com/live/zTknLtGyoBQ
เวอร์ชันภาษาอังกฤษ: https://youtube.com/live/EnexU3HBJjY

  • รูปโปรไฟล์ของผู้ได้รับรางวัลในประเทศญี่ปุ่นและรูปภาพจากวันพิธีมอบรางวัลจะถูกอัปโหลดไปที่ลิงก์นี้
     https://www.japanprize.jp/press_photo.html
    *เมื่อทำการเผยแพร่ภาพถ่ายเหล่านี้ โปรดใส่เครดิตว่า “Courtesy of Japan Prize”

เกี่ยวกับ Japan Prize

รางวัล Japan Prize เริ่มต้นขึ้นในปี 1981 โดยเกิดจากความปรารถนาของรัฐบาลญี่ปุ่นที่จะสร้างรางวัลที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติซึ่งจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั่วโลก ด้วยการสนับสนุนจากการบริจาคจำนวนมาก ทำให้ Japan Prize Foundation ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะรัฐมนตรีในปี 1983 โดยรางวัล Japan Prize นั้นจะมอบให้กับนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรจากทั่วโลกที่ประสบความสำเร็จอย่างสร้างสรรค์และโดดเด่นที่ได้ช่วยพัฒนาสาขาของตนและมีส่วนสนับสนุนอย่างมีนัยสำคัญในการบรรลุสันติภาพ รวมถึงความเจริญรุ่งเรืองสำหรับมนุษยชาติทั้งหมด นักวิจัยในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทุกสาขามีสิทธิ์ได้รับรางวัลนี้ โดยสาขาต่างๆ จะได้รับการคัดเลือกปีละ 2 สาขา โดยพิจารณาจากแนวโน้มปัจจุบันของการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยหลักแล้ว บุคคลหนึ่งคนในแต่ละสาขาจะได้รับรางวัลนี้และจะได้รับใบรับรอง เหรียญรางวัล รวมถึงเงินรางวัล ในพิธีมอบรางวัลแต่ละครั้ง สมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินี หัวหน้าฝ่ายบริหารทั้งสามฝ่ายและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนจากภาคส่วนอื่นๆ ของสังคมจะเข้าร่วมด้วย

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

สำหรับการสอบถามเกี่ยวกับการเปิดตัวนี้: สำนักงานประชาสัมพันธ์เจแปน ไพรซ์ (Japan Prize)
อีเมล: japanprize@ml.prap.co.jp

ที่มา: The Japan Prize Foundation

NIPPON KINZOKU ร่วมสร้างคุณค่าใหม่ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีระบบรีดผลิตภัณฑ์สแตนเลสสตีลหุ้มฉนวน FI (Fine Insulation) Finish

Logo

 -ตอบสนองความต้องการการย่อส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์-

TOKYO–(BUSINESS WIRE)–16 เมษายน 2025

NIPPON KINZOKU CO., LTD. (TOKYO: 5491) (สำนักงานใหญ่: Minato-ku, Tokyo) ประกาศเกี่ยวกับการพัฒนา “FI (Fine Insulation) finish” สแตนเลสสตีลที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวนป้องกันพื้นผิวสูง

We have developed our own “FI finish”, a stainless steel surface pre-coated with an inorganic coating (about 1μm in thickness) that offers electrical insulation resistance.

เรามีการพัฒนา “FI finish” ของเราขึ้นเอง โดยเป็นพื้นผิวสแตนเลสสตีลที่เคลือบด้วยสารเคลือบอนินทรีย์ (หนาประมาณ 1μm) ซึ่งช่วยให้ทนทานต่อฉนวนไฟฟ้า

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การย่อส่วนและการออกแบบโปรไฟล์ต่ำกลายเป็นสิ่งที่โดดเด่นมากขึ้นในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟนและคอนโซลเกม จนถึงขณะนี้ มีมาตรการต่างๆ ที่ใช้เพื่อหลีกเลี่ยงไฟฟ้าลัดวงจรโดยการติดตั้งเทปฉนวนหรือคอมโพสิตเรซินในจุดที่สัมผัสกับชิ้นส่วนที่เป็นสื่อไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม วิธีแก้ปัญหาดังกล่าวทำให้ต้นทุนสูงขึ้นและเป็นอุปสรรคต่อการย่อส่วนและการออกแบบโปรไฟล์ต่ำ

เนื่องด้วยปัญหาเหล่านี้ เราจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ “FI Finish” ของเราเอง เนื่องจากผลิตภัณฑ์ “FI Finish” ไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการหลังการประมวลผลเพื่อปรับสภาพพื้นผิว จึงทำให้ประหยัดพื้นที่และยังช่วยลดขั้นตอนการทำงาน เพิ่มผลผลิต และลดต้นทุนให้กับลูกค้าอีกด้วย เรามุ่งหวังที่จะขยายยอดขายในอนาคต โดยเน้นที่การใช้งานในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และแบตเตอรี่สำรอง

“FI finish” ยังเป็น “Eco-Product” ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานของเราเองในฐานะผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยไม่จำเป็นต้องมีการเคลือบฉนวนที่ไซต์งานของลูกค้า เป้าหมายของเราคือบรรลุเป้าหมายการปล่อย CO₂ สุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 และเราจะสนับสนุนให้เกิดความเป็นกลางทางคาร์บอนผ่านการขยายการขาย “Eco-Product”

คุณลักษณะของ FI finish

  1.  เป็นการเคลือบที่มีความต้านทานฉนวนพื้นผิวสูง (50MΩ หรือมากกว่า*)
     *วัดความต้านทานในทิศทางความหนาด้วยมัลติมิเตอร์แบบดิจิตอล
  2. สารเคลือบมีคุณสมบัติทนความร้อนสูง คงประสิทธิภาพการทำงานได้เสถียรแม้จะอยู่ที่อุณหภูมิสูง (สูงถึง 850°C)
  3. สารเคลือบอนินทรีย์แบบแข็งนี้มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนได้ดีเยี่ยมและเหมาะสำหรับชิ้นส่วนที่เลื่อนได้
  4. ความหนาของสารเคลือบอยู่ระหว่าง 0.5 ถึง 1μm
  5. สามารถใช้โลหะอื่นๆ นอกจากสแตนเลสได้

ข้อมูลจำเพาะ

1) ระดับเกรดของเหล็กกล้า: SUS304, SUS301, SUS430 เป็นต้น
2) ความหนา: 0.05 ถึง 0.15 มม.
3) ความกว้าง: สูงสุด 500 มม.
*สำหรับข้อมูลจำเพาะนอกเหนือจากที่ระบุไว้ข้างต้น โปรดติดต่อเรา

ภาพรวมผลิตภัณฑ์แผ่นเหล็ก
อุปกรณ์ที่ออกแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเรา ซึ่งสร้างขึ้นจากความรู้ความชำนาญด้านระบบรีดเย็นที่ครอบคลุม และเทคโนโลยีเฉพาะที่เป็นกรรมสิทธิ์ชั้นนำในอุตสาหกรรมที่พัฒนาผ่านทางโรงงานเหล่านี้ และความเชี่ยวชาญอันล้ำลึกของเรา พร้อมที่จะตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าของเรา
URL: https://www.nipponkinzoku.co.jp/en/corporate-profile/business/cold-rolled-stainless-steel-strip

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250415148656/en

Contacts

Production Process & Support Dept.
NIPPON KINZOKU CO., LTD.
อีเมล: sisaku-sc@nipponkinzoku.co.jp
https://www.nipponkinzoku.co.jp/en/inquiry

ที่มา: NIPPON KINZOKU CO., LTD.

การประชุมสภาที่ปรึกษาการเพิ่มผลผลิตสีเขียวของ APO ประจำปี 2025

Logo

โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–16 เมษายน 2025

การประชุมครั้งแรกของสภาที่ปรึกษาการเพิ่มผลผลิตสีเขียวประจำปี (GPA) ขององค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย (APO) ประสบความสำเร็จ โดยจัดขึ้นในช่วงวันที่ 14-15 เมษายน 2025 ณ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น

APO Secretary-General Dr. Indra delivering the closing remarks at the GPA Council Annual Meeting Special Presentation Session at the Blue Ocean Dome, EXPO 2025 Osaka.

Dr. Indra เลขาธิการ APO กล่าวปิดการประชุมประจำปีของสภา GPA ในเซสชันการนำเสนอพิเศษที่ Blue Ocean Dome ในงาน EXPO 2025 ที่โอซาก้า

สภาที่ปรึกษาการเพิ่มผลผลิตสีเขียวซึ่งมีศาสตราจารย์กิตติคุณจากมหาวิทยาลัยโตเกียว Ryoichi Yamamoto เป็นประธาน ประกอบด้วยสมาชิกจากฟิจิ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และไทย และให้คำแนะนำแก่เลขาธิการ APO Dr. Indra Pradana Singawinata เกี่ยวกับการพัฒนาระบบนิเวศ GP 2.0 ที่เน้นการแก้ปัญหา เน้นการดำเนินการ และเน้นในภูมิภาคเอเชีย

เลขาธิการ Dr. Indra รายงานความคืบหน้าที่เลขาธิการได้ทำในการสร้างแนวคิดของระบบนิเวศ GP 2.0 รวมถึงองค์ประกอบทั้ง 3 ใน 7 องค์ประกอบ ได้แก่ ระบบการให้คะแนน GP, คู่มือ GP และการทำแผนที่ GP นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวต้นแบบของระบบการให้คะแนน GP และการทำแผนที่ GP รวมถึงการสาธิตให้สภา GPA ได้พิจารณาทบทวนครั้งแรก โดยสมาชิกสภาและตัวแทนได้ให้ข้อเสนอแนะเชิงลึกและเสนอแนะการปรับเปลี่ยนเพื่อปรับปรุงการออกแบบโดยรวมของระบบนิเวศ GP 2.0 และองค์ประกอบต่างๆ

ความสำคัญของความพยายามของสภา GPA ในการผนวกหลักการของ GP ตามที่ศาสตราจารย์ Yamamoto ได้กำหนดไว้ในปี 1994 เข้ากับระบบนิเวศ GP 2.0 ได้รับการเน้นย้ำในเซสชันการนำเสนอพิเศษที่จัดขึ้นที่ Blue Ocean Dome (BOD) ในงาน EXPO 2025 ที่โอซาก้า เมื่อค่ำวันที่ 14 เมษายน โดยสมาชิกสภาได้เน้นย้ำถึงความพยายามในอดีตและปัจจุบันของชาติในการดำเนินการริเริ่มความยั่งยืนตามจิตวิญญาณของ GP ในฟิจิ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และไทย ขณะเดียวกันก็มองไปที่ระบบนิเวศ GP 2.0 โดยในเซสชันดังกล่าวประกอบด้วยคำกล่าวต้อนรับจากประธาน ZERI Japan Yusuke Saraya ซึ่งเป็นเจ้าภาพในเซสชัน BOD และมีคำกล่าวเปิดงานโดยประธานสภา GPA ศาสตราจารย์ Yamamoto รวมถึงข้อความวิดีโอโดย H.E. Agni Deo Singh รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการจ้างงาน ผลิตภาพ และความสัมพันธ์ในสถานที่ทำงานของฟิจิ และการนำเสนอสดโดยสมาชิกสภาและตัวแทนของพวกเขา

ในคำปราศรัยของเขา รองรัฐมนตรีกระทรวงวางแผนการพัฒนาแห่งชาติของอินโดนีเซีย (BAPPENAS) Febrian A. Ruddyard ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสีเขียวและ GP เพื่อให้บรรลุการเติบโตอย่างยั่งยืนโดยไม่เพิ่มแรงกดดันมหาศาลที่สิ่งแวดล้อมกำลังเผชิญอยู่หลังจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมมาหลายทศวรรษ เซสชันการนำเสนอพิเศษสิ้นสุดลงด้วยคำกล่าวปิดของ Dr. Indra เลขาธิการ APO ตามด้วยวิดีโอที่เน้นถึงความสำเร็จอันโดดเด่นของ Biofarma ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาจากอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตัวอย่างปัจจุบันของ GP ในการดำเนินการ โดยแสดงให้เห็นว่าการประยุกต์ใช้เทคนิค GP ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มผลผลิตเท่านั้น แต่ยังช่วยชีวิตผู้คนได้อีกด้วย

เมื่อสภา GPA กลับมาประชุมอีกครั้งในเช้าวันที่ 15 เมษายน มีวิทยากรรับเชิญ 2 ท่านได้นำเสนอเพื่อช่วยขยายการพิจารณาเกี่ยวกับทิศทางเชิงกลยุทธ์ของ GP 2.0 โดยข้อเสนอแนะชุดสุดท้ายเกี่ยวกับการพัฒนาระบบนิเวศ GP 2.0 ได้รับการตกลงกันเพื่อชี้นำความพยายามของสำนักงานเลขาธิการ APO ในปีหน้า คำแนะนำเหล่านี้จะมีการรายงานในการประชุมสมัยที่ 67 ของสภาบริหาร APO ที่จะจัดขึ้นในจาการ์ตาในเดือนพฤษภาคม 2025 อีกด้วย

เกี่ยวกับ APO

องค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย (APO) เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลระดับภูมิภาคที่อุทิศตนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพผลผลิตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกผ่านความร่วมมือซึ่งกันและกัน องค์การไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมือง ไม่แสวงหากำไร และไม่เลือกปฏิบัติ ก่อตั้งขึ้นในปี 1961 โดยมีสมาชิกผู้ก่อตั้ง 8 ราย ปัจจุบัน APO ประกอบด้วยเศรษฐกิจสมาชิก 21 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ กัมพูชา สาธารณรัฐจีน ฟิจิ ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สปป.ลาว มาเลเซีย มองโกเลีย เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ศรีลังกา ไทย ตุรกี และเวียดนาม

APO กำลังกำหนดทิศทางอนาคตของภูมิภาคโดยส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของสมาชิกผ่านบริการให้คำแนะนำด้านนโยบายระดับชาติ ซึ่งทำหน้าที่เป็นกลุ่มนักคิด ริเริ่มสร้างศักยภาพสถาบัน และการแบ่งปันความรู้เพื่อเพิ่มผลผลิต

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250415110326/en

Contacts

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
หน่วยข้อมูลดิจิทัล APO:
pr@apo-tokyo.org
เว็บไซต์: https://www.apo-tokyo.org

ที่มา: The Asian Productivity Organization

ปัญญาประดิษฐ์คว้าชัยชนะในการแข่งขันโดรนไร้คนขับที่ล้ำสมัยที่สุดในโลกที่อาบูดาบี

Logo

  •  โดรน AI เอาชนะนักบินที่เป็นมนุษย์ในการแข่งขันโดรนไร้คนขับที่มีความท้าทายและซับซ้อนที่สุดซึ่งจัดขึ้นโดย A2RL x DCL Autonomous Drone Championship ถือเป็นการก้าวล้ำครั้งสำคัญในนวัตกรรมการบินอัตโนมัติ
  •  ผู้ชมกว่า 2,500 คนรับชมการแข่งขันโดรนไร้คนขับที่เก่งกาจที่สุดเพื่อชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐในรูปแบบการแข่งขันสุดล้ำสมัย 4 รูปแบบ
  •  MavLab (TU Delft) ครองแชมป์ชัยชนะ 3 รายการในการแข่งขัน AI Grand Challenge, AI Drag Race และ AI Vs Human ขณะที่ TII Racing (สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยี อาบูดาบี) คว้าชัยชนะในการแข่งขัน AI Multi-Autonomous Drone Race

ABU DHABI, United Arab Emirates–(BUSINESS WIRE)–16 เมษายน 2025

Abu Dhabi Autonomous Racing League (A2RL) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Advanced Technology Research Council (ATRC) ร่วมมือกับ Drone Champions League (DCL) จัดงานแข่งขัน A2RL x DCL Autonomous Drone Championship ครั้งแรกในตะวันออกกลางที่ ADNEC Marina Hall เมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญด้านการบินอัตโนมัติและหุ่นยนต์ทางอากาศ โดรน AI ของทีม MavLab สามารถแซงหน้านักบินมนุษย์ชั้นนำของโลกและคว้าชัยชนะในการแข่งขัน AI vs Human Challenge ได้สำเร็จ การแข่งขันแบบตัวต่อตัวครั้งนี้ถือเป็นการแข่งขันที่ซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีผู้เข้าชิงรางวัลชนะเลิศจาก DCL Falcon Cup ซึ่งบางท่านเป็นนักบินโดรนชั้นนำของโลก

Artificial Intelligence Triumphs in World’s Most Sophisticated Autonomous Drone Race in Abu Dhabi (Photo: AETOSWire)

ปัญญาประดิษฐ์คว้าชัยชนะในการแข่งขันโดรนอัตโนมัติที่ล้ำสมัยที่สุดในโลกที่อาบูดาบี (ภาพถ่าย: AETOSWire)

ตลอดระยะเวลา 2 วันที่เต็มไปด้วยความเข้มข้น ทีมจากนานาประเทศ 14 ทีมผ่านเข้ารอบสุดท้าย โดย 4 ทีมแรกจะได้เข้าไปแข่งขันในรูปแบบการแข่งขันที่ท้าทายหลากหลายรูปแบบ ทีมจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย เกาหลีใต้ สาธารณรัฐเช็ก เม็กซิโก ตุรกี จีน สเปน แคนาดา และสหรัฐอเมริกา เป็นตัวแทนฝ่ายห้องปฏิบัติการของมหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย และผู้ริเริ่มนวัตกรรมสตาร์ทอัพ

แต่ละทีมจะแข่งขันด้วยโดรนมาตรฐานที่ติดตั้งโมดูลคอมพิวเตอร์ NVIDIA Jetson Orin NX ขนาดกะทัดรัดแต่ทรงพลัง กล้องที่หันไปข้างหน้า และหน่วยวัดแรงเฉื่อย (IMU) สำหรับการรับรู้และควบคุมบนโดรน โดรนเหล่านี้อาศัยการประมวลผลแบบเรียลไทม์และการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนโดย AI เพียงอย่างเดียว เพื่อทำความเร็วเกิน 150 กม./ชม. ในสภาพแวดล้อมการแข่งขันที่ซับซ้อนโดยไม่ต้องอาศัยอินพุทจากมนุษย์

การออกแบบสนามแข่งได้ขยายขอบเขตระบบไร้คนขับ โดยมีระยะห่างระหว่างเกต แสงสว่างที่ไม่สม่ำเสมอ และเครื่องหมายที่มองเห็นได้น้อยที่สุด การใช้กล้องชัตเตอร์แบบโรลลิ่งทำให้การแข่งขันมีความยากมากขึ้น โดยทดสอบความสามารถของแต่ละทีมในการทำงานได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพและเสถียรภายใต้เงื่อนไขที่ท้าทาย นี่ถือเป็นครั้งแรกที่มีการจัดการแข่งขันโดรนไร้คนขับในระดับและความซับซ้อนเช่นนี้บนสนามแข่งที่มีภาพไม่ชัดเจน ซึ่งเน้นย้ำถึงความทะเยอทะยานและความท้าทายทางเทคนิคของการแข่งขันครั้งนี้

ไฮไลท์การแข่งขันชิงรางวัล

  •  ผู้ชนะการแข่งขัน AI Grand Challenge : MavLab (TU Delft) ทำลายสถิติเวลาที่เร็วที่สุดในสนามแข่ง 170 เมตร โดยวิ่ง 2 รอบ (22 เกต) ในเวลาเพียง 17 วินาที
  •  ผู้ชนะการประลอง AI vs Human : โดรนไร้คนขับของ MavLab แซงหน้านักบินมนุษย์ชั้นนำในการเผชิญหน้าระหว่าง AI กับมนุษย์อันเป็นที่จดจำ
  •  ผู้ชนะการแข่งขันมัลติโดรนไร้คนขับ : TII Racing คว้าชัยชนะในการแข่งขันรูปแบบมัลติโดรน ในการทดสอบความเร็วสูงของการประสานงาน AI และการหลีกเลี่ยงการชน
  •  ผู้ชนะการแข่งขันแดร็กไร้คนขับ : MavLab (TU Delft) คว้าชัยชนะในการแข่งขันแดร็กที่ใช้ระบบ AI ครั้งแรกของโลก โดยแสดงให้เห็นถึงความเร็วในแนวตรงและการควบคุมภายใต้การเร่งความเร็วสูง โดยแข่งกับทีมชั้นนำของแชมเปี้ยนชิพ

“ที่ ATRC เราเชื่อว่านวัตกรรมต้องได้รับการพิสูจน์ในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่ใช่เพียงแค่คำสัญญา” H.E. Faisal Al Bannai ที่ปรึกษาประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้านการวิจัยเชิงกลยุทธ์และกิจการเทคโนโลยีขั้นสูง และเลขาธิการ ATRC กล่าว “A2RL ไม่ได้เป็นเพียงการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังเป็นสนามทดสอบระดับโลกสำหรับระบบอัตโนมัติประสิทธิภาพสูง และสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการพัฒนา AI หุ่นยนต์ และระบบการเคลื่อนที่เจนถัดไปอย่างมีความรับผิดชอบ”

“อนาคตของการบินไม่ได้อยู่ในห้องทดลอง แต่อยู่ในสนามแข่ง” Stephane Timpano ซีอีโอของ ASPIRE ซึ่งเป็นหน่วยงานเจ้าภาพจัดการแข่งขัน Abu Dhabi Autonomous Racing League กล่าว “สิ่งที่เราเห็นเมื่อสุดสัปดาห์นี้แสดงให้เห็นว่า เราเข้าใกล้การปรับขนาดระบบไร้คนขับในชีวิตประจำวันมากขึ้น” Markus Stampfer, ประธานกรรมการบริหาร DCL กล่าวเพิ่มเติม: “เรานำเงื่อนไขการแข่งขันระดับสูงมาสู่การบินไร้คนขับ และ AI เข้ามารับความท้าทายนี้ นับเป็นก้าวสำคัญทั้งในด้านกีฬาและเทคโนโลยี”

ความภาคภูมิใจหลังคว้าแชมป์ 3 รายการรวดChristophe De Wagter หัวหน้าทีม MavLab กล่าว “การชนะการแข่งขัน AI Grand Challenge และการแข่งขัน AI vs Human ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับทีมของเรา ซึ่งถือเป็นการพิสูจน์ผลการวิจัยและการทดลองหลายปีเกี่ยวกับการบินไร้คนขับ อัลกอริทึมของเรามีประสิทธิภาพเหนือกว่าในสภาพแวดล้อมที่มีแรงกดดันสูงเช่นนี้และคว้าเงินรางวัลกลับบ้านไปมากที่สุด ถือเป็นรางวัลที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง”

โครงการ A2RL X DCL Drone STEM ซึ่งออกแบบร่วมกับ UNICEF และอยู่ภายใต้การดูแลของ ATRC ได้ฝึกอบรมนักเรียนชาวเอมิเรตส์ไปแล้วกว่า 100 คนในปีนี้ นักเรียนกว่า 60% ได้รับการรับรองจาก Trusted Operator Program อันทรงเกียรติ และ 24 คนได้คะแนนเต็ม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงทักษะการบินขั้นสูงที่ได้รับการพัฒนาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ

ในวันนี้ การแข่งขันโดรนรอบชิงชนะเลิศได้สิ้นสุดลงแล้ว ทุกๆ คนต่างจับตาไปที่การแข่งขันรถยนต์ไร้คนขับ A2RL ซีซั่นที่ 2 ที่จะจัดขึ้นในไตรมาสที่ 4 ปี 2025 ที่สนามแข่ง Yas Marina Circuit ในอาบูดาบี

*แหล่งข้อมูล: AETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

https://www.businesswire.com/news/home/20250416147445/en

Contacts

Thushara Mohanan
thushara.mohanan@tii.ae

ที่มา: Technology Innovation Institute


SMART Modular ขยายข้อเสนอ CXL ด้วยการเพิ่ม E3.S 2T 128GB CMM ลงในรายการที่ได้รับการทดสอบของ CXL Consortium

Logo

ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ได้รับการยอมรับได้ช่วยยืนยันบทบาทของ SMART ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีที่กำลังเติบโต

นวร์ก, แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–15 เมษายน 2025

SMART Modular Technologies Inc. (“SMART”) แบรนด์ของ Penguin Solutions (Nasdaq: PENG) และผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำแบบบูรณาการ ไดรฟ์โซลิดสเตต และผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลแบบไฮบริด ประกาศในวันนี้ว่า E3.S 2T 128GB CMM (Compute Express Link ® Memory Module) ของบริษัทได้รับการเพิ่มเข้าในรายการที่ได้รับการทดสอบของ CXL Consortium อย่างเป็นทางการแล้ว ความสำเร็จนี้ถือเป็นการเติมเต็มรายชื่อการ์ดเสริมหน่วยความจำ CXL (AIC) ขนาด 4 DIMM และ 8 DIMM ที่มีอยู่ของ SMART ซึ่งช่วยยิ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการส่งมอบโซลูชันหน่วยความจำที่สามารถใช้งานร่วมกันได้และมีคุณภาพสูง

SMART Modular’s CMM module, utilizing the CXL standard, has now been accepted to the CXL Consortium’s System Integrators’ List in addition to SMART’s 4-DIMM and 8-DIMM memory add-in cards.

โมดูล CMM ของ SMART Modular ซึ่งใช้มาตรฐาน CXL ได้รับการยอมรับให้เข้าอยู่ในรายการที่ผ่านการทดสอบของ CXL Consortium แล้ว นอกเหนือจากการ์ดเสริมหน่วยความจำแบบ 4 DIMM และ 8 DIMM ของ SMART

CMM E3.S 2T 128GB ใช้มาตรฐาน CXL® 2.0 โดยให้อินเทอร์เฟซ PCIe Gen5 x8 และรองรับ DDR5 DRAM สูงสุด 128GB โดยโมดูลนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเซิร์ฟเวอร์และศูนย์ข้อมูลด้วยการเปิดใช้งานการขยายหน่วยความจำแบบแคชที่สอดคล้องกัน ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC), ปัญญาประดิษฐ์ (AI), แมชชีนเลิร์นนิ่ง (ML) รวมถึงแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ใช้ข้อมูลอย่างเข้มข้น

“เรายินดีที่ได้ขยายการมีอยู่ของเราในรายการที่ได้รับการทดสอบของ CXL Consortium ด้วยการเพิ่มโมดูลหน่วยความจำ E3.S CXL ของเราเข้าไปด้วย” Andy Mills รองประธานฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ขั้นสูงของ SMART Modular Technologies กล่าว “เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ CXL ที่หลากหลายซึ่งตรงตามมาตรฐานอุตสาหกรรมที่เข้มงวดที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าและพันธมิตรของเราจะสามารถใช้งานร่วมกันได้สูงสุด”

โปรแกรมการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ CXL ช่วยรับรองว่าผลิตภัณฑ์ต่างๆ เป็นไปตามมาตรฐานที่เข้มงวดด้านการทำงานและการทำงานร่วมกัน ซึ่งตอกย้ำบทบาทของ SMART Modular Technologies ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชัน CXL ของ SMART โปรดไปที่ส่วนผลิตภัณฑ์ CXL ของ SMARTบนเว็บไซต์

Penguin Solutions, ตัวอักษร “S”, “SMART” และ “SMART Modular Technologies” เป็นเครื่องหมายการค้าที่เป็นเจ้าของโดยกลุ่มบริษัทที่เป็นเจ้าของโดย Penguin Solutions, Inc. “Compute Express Link” และ “CXL” เป็นเครื่องหมายการค้าที่เป็นเจ้าของโดย Compute Express Link Consortium, Inc. เครื่องหมายการค้าอื่นๆ ทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับ SMART Modular Technologies, Inc.
A Penguin Solutions Company

SMART Modular Technologies ช่วยให้ลูกค้าทั่วโลกสามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงได้ ผ่านการออกแบบ พัฒนา และบรรจุภัณฑ์ขั้นสูงของโซลูชันหน่วยความจำแบบบูรณาการ ผลิตภัณฑ์ของเรามีตั้งแต่เทคโนโลยีหน่วยความจำล้ำสมัยในปัจจุบันไปจนถึงผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูล DRAM และ Flash แบบมาตรฐานและแบบเก่า เป็นเวลากว่าสามทศวรรษแล้วที่เรามอบโซลูชันหน่วยความจำและที่จัดเก็บข้อมูลแบบมาตรฐาน ทนทาน และกำหนดเอง ซึ่งตอบสนองความต้องการของแอปพลิเคชันที่หลากหลายในตลาดที่มีการเติบโตสูง www.smartm.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250415774873/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ผู้ติดต่อฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์
Arthur Sainio
SMART Modular Technologies
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ DRAM
39870 Eureka Dr., Newark, CA 94560
+1 (510) 364-3647
arthur.sainio@smartm.com
 
ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ
John Crook
SMART Modular Technologies
การสื่อสารด้านการตลาด
+1 (510) 474 8326
john.crook@smartm.com
 
Maureen O’Leary
Penguin Solutions
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสาร
+1 (602) 330-6846
pr@penguinsolutions.com

ที่มา: Penguin Solutions, Inc.

Funko ประกาศเปิดร้านลิขสิทธิ์แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ฟิลิปปินส์

Logo

Funko เดินหน้าขยายธุรกิจสู่ระดับโลก ด้วยการมอบประสบการณ์ร้านค้าที่ดื่มด่ำให้แก่หนึ่งในชุมชนแฟนคลับ ที่เติบโตเร็วที่สุดของแบรนด์

มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์–(BUSINESS WIRE)–15 เมษายน 2025

Funko, Inc. (NASDAQ: FNKO) แบรนด์ไลฟ์สไตล์ด้านวัฒนธรรมป๊อประดับโลก ประกาศในวันนี้ถึงแผนการเปิดร้านลิขสิทธิ์ Funko แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยดำเนินการผ่านผู้ค้าปลีกท้องถิ่น Funtastik Enterprises Corp ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายน 2025 การขยายตัวครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในกลยุทธ์การเติบโตระดับสากลของ Funko ตอกย้ำความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการเข้าถึงแฟนๆ ในทุกที่ และส่งมอบประสบการณ์ของแบรนด์ให้ใกล้ชิดกับชุมชนผู้หลงใหลมากที่สุด

ด้วยแรงขับเคลื่อนจากงานคอมิกคอนที่คึกคัก การมีส่วนร่วมของชุมชนที่แข็งแกร่ง และระบบอีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ฟิลิปปินส์จึงกลายเป็นหนึ่งในตลาดวัฒนธรรมป๊อปที่คึกคักที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชุมชนแฟนคลับชาวฟิลิปปินส์ยังถือเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ติดตามที่มีความกระตือรือร้นมากที่สุดในโลกสำหรับ Funko ทำให้การเปิดสาขาที่นี่เป็นก้าวกลยุทธ์สำคัญในการเสริมสร้างความผูกพันในท้องถิ่นและดึงดูดแฟนหน้าใหม่ Funko ได้จับมือกับ Funtastik จากประสบการณ์ในตลาดและความมุ่งมั่นในการให้บริการลูกค้า

“Funko ในฐานะแบรนด์ระดับโลก ยังคงเดินหน้าขยายสู่กลุ่มแฟนคลับที่มีการมีส่วนร่วมสูงและเติบโตเร็วที่สุด” Cynthia Williams ซีอีโอของ Funko, Inc. กล่าว “ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในตลาดที่แข็งแกร่งที่สุดของเราในเอเชีย การเปิดร้านลิขสิทธิ์ครั้งนี้จึงสะท้อนถึงความตั้งใจของเราที่จะลงทุนในฐานแฟนที่มีความหลงใหลอย่างลึกซึ้ง เราเคยประสบความสำเร็จมาแล้วกับร้านลิขสิทธิ์ในตะวันออกกลาง และรู้สึกยินดีที่ได้นำพลังนั้นมาสู่ที่นี่เช่นกัน การขยายการเข้าถึงในระดับท้องถิ่นและการยกระดับประสบการณ์แบบตรงถึงผู้บริโภค ช่วยให้เราสร้างแรงบันดาลใจในการเชื่อมโยง การแสดงออกถึงตัวตน และความสนุกให้กับแฟน ๆ ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนในโลกก็ตาม”

ร้านลิขสิทธิ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในห้าง SM Mall of Asia โดยจะเป็นพื้นที่ค้าปลีกที่ออกแบบมาให้แฟน ๆ ได้สัมผัสประสบการณ์แบบเต็มอิ่มผ่านโซนกิจกรรมและสินค้าพิเศษที่มีเฉพาะที่นี่ รวมถึงการเฉลิมฉลองแฟรนไชส์จากวงการบันเทิง กีฬา ดนตรี และอนิเมะที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง แฟน ๆ สามารถคาดหวังที่จะพบกับของสะสมหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไลน์ยอดนิยมอย่าง Funko Pop!, Bitty Pop!, Loungefly รวมถึงเสื้อผ้าคอลเลกชันเอ็กซ์คลูซีฟที่มีเฉพาะในมะนิลา

การเปิดตัวครั้งนี้ทำให้ Funko ยังคงขยายการเข้าถึงระดับโลกต่อไปผ่านความร่วมมือด้านค้าปลีกและลิขสิทธิ์ชั้นนำ พร้อมทั้งกำหนดทิศทางใหม่ของวัฒนธรรมแฟนคลับในเอเชียและทั่วโลก

เกี่ยวกับ Funko

Funko เป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ด้านวัฒนธรรมป๊อประดับโลกที่เป็นผู้นำ ด้วยคอลเลกชันหลากหลายของแบรนด์ต่าง ๆ รวมถึง Funko, Loungefly, และ Mondo พร้อมทั้งพอร์ตโฟลิโอลิขสิทธิ์ที่นำหน้าอุตสาหกรรม Funko นำเสนอสินค้าชั้นนำที่ครอบคลุมตั้งแต่ฟิกเกอร์วินิล, ไมโครคอลเลกชัน, เครื่องประดับแฟชั่น, เสื้อผ้า, ตุ๊กตานุ่ม, ของเล่นแอคชั่น, งานศิลปะระดับสูง, ดนตรี และของสะสมดิจิทัล ซึ่งหลายรายการอยู่ในแนวหน้าของเศรษฐกิจ Kidult ที่กำลังเติบโต ผ่านสินค้าของเรา เช่น ไลน์ Pop! ที่เป็นเอกลักษณ์, Bitty Pop!, และ Pop! Yourself, Funko ส่งแรงบันดาลใจให้แฟน ๆ ทั่วโลกแสดงออกถึงความหลงใหล, สร้างชุมชน, และสนุกสนานกับการสะสมสินค้า ก่อตั้งขึ้นในปี 1998 และมีสำนักงานใหญ่ในรัฐวอชิงตัน, Funko มีสำนักงาน, ร้านค้าปลีก, การดำเนินงาน, และความร่วมมือด้านลิขสิทธิ์ในตลาดผู้บริโภคหลักทั่วโลกFunko.com, Loungefly.com, MondoShop.com, and Droppp.io, และติดตามเราได้ที่TikTok, X, และInstagram.

คำชี้แจงเชิงคาดการณ์

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีคำชี้แจงเชิงคาดการณ์ภายใต้ความหมายของพระราชบัญญัติการปฏิรูปการฟ้องร้องหลักทรัพย์ส่วนบุคคล (Private Securities Litigation Reform Act) ประจำปี 1995 ข้อความทั้งหมดในข่าวประชาสัมพันธ์นี้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงในอดีต ควรถือเป็นคำชี้แจงเชิงคาดการณ์ รวมถึงข้อความที่เกี่ยวกับการมีอยู่ของ Funko ในตลาดค้าปลีกและความร่วมมือทางธุรกิจ คำชี้แจงเชิงคาดการณ์เหล่านี้อ้างอิงจากการคาดการณ์ในปัจจุบันของฝ่ายบริหาร ข้อความเหล่านี้ไม่ใช่คำมั่นสัญญาหรือการรับประกัน แต่มีความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และปัจจัยสำคัญอื่น ๆ ที่อาจทำให้ผลลัพธ์จริง การดำเนินงาน หรือความสำเร็จของเราต่างจากผลลัพธ์ การดำเนินงาน หรือความสำเร็จในอนาคตที่แสดงหรือโดยนัยจากคำชี้แจงเชิงคาดการณ์ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ปัจจัยสำคัญที่ได้กล่าวถึงในหัวข้อ “ปัจจัยเสี่ยง” ในรายงานประจำปีของเราในแบบฟอร์ม 10-K สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2024 และเอกสารอื่น ๆ ที่ยื่นกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์จริงแตกต่างจากคำชี้แจงเชิงคาดการณ์ที่ปรากฏในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ ข้อความชี้แจงเชิงคาดการณ์เหล่านี้เป็นการประมาณการของฝ่ายบริหาร ณ วันที่ของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ แม้ว่าเราจะเลือกที่จะอัปเดตคำชี้แจงเชิงคาดการณ์เหล่านี้ในอนาคต แต่เราไม่ยืนยันภาระผูกพันที่จะต้องทำเช่นนั้น แม้ว่าจะมีเหตุการณ์ในภายหลังที่ทำให้มุมมองของเราเปลี่ยนแปลงไป คำชี้แจงเชิงคาดการณ์เหล่านี้ไม่ควรได้รับการพึ่งพาว่าเป็นการแสดงถึงมุมมองของเราในวันที่หลังจากวันที่ของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

pr@funko.com

ที่มา: Funko, Inc.

Xsolla และ ALTAVA Group ประกาศความร่วมมือทางยุทธศาสตร์เพื่อนำทรัพย์สินทางปัญญาของแฟชั่นหรูมาสู่โลกแห่งการเล่นเกม

Logo

ขับเคลื่อนยุคใหม่ด้วยการปรับแต่งผู้เล่นและประสบการณ์ของแบรนด์ผ่านแฟชั่นดิจิทัลระดับพรีเมียมในเกม

ลอสแอนเจลิสและสิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–10 เมษายน 2025

Xsolla เป็นบริษัทค้าวิดีโอเกมระดับโลก มีความภูมิใจที่จะประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งใหม่กับ ALTAVA Group ที่เป็นบริษัทแฟชั่นดิจิทัลและความบันเทิงเสมือนจริงที่เกิดขึ้นจากโครงการ LVMH La Maison des Startups โดยตามข้อมูลของ Morgan Stanley คาดว่าความต้องการของแฟชั่นดิจิทัลจะสูงถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2030 ซึ่งมาจากการขับเคลื่อนโดยการปรับแต่งส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้น สภาพแวดล้อมดิจิทัลที่สมจริง และการค้าขายแบบอวาตาร์ โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะเชื่อมโยงนักพัฒนาเกมและผู้จัดจำหน่ายด้วยแค็ตตาล็อกสินทรัพย์แฟชั่นดิจิทัลของแบรนด์คุณภาพสูงมากมายของ ALTAVA รวมถึงการปลดล็อกวิธีการสร้างสรรค์ที่ปรับขนาดได้เพื่อผสานทรัพย์สินทางปัญญาของแฟชั่นหรูเข้ากับประสบการณ์การเล่นเกม

XSOLLA AND ALTAVA GROUP ANNOUNCE STRATEGIC PARTNERSHIP TO BRING LUXURY FASHION IP INTO THE GAMING WORLD

Xsolla และ ALTAVA Group ประกาศความร่วมมือทางยุทธศาสตร์เพื่อนำทรัพย์สินทางปัญญาของแฟชั่นหรูมาสู่โลกแห่งการเล่นเกม

Xsolla และ ALTAVA ได้ร่วมกันช่วยให้นักพัฒนาสามารถส่งมอบประสบการณ์แฟชั่น 3 มิติที่คัดสรรมาอย่างดี การปรับแต่งอวาตาร์ และเนื้อหาแบรนด์สุดพิเศษผ่านตลาดออนไลน์เฉพาะที่ขับเคลื่อนโดย Xsolla โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างรายได้จากสินค้าเสมือนจริงโดยอิงจากแบรนด์หรูที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเครื่องมือ AI แฟชั่น 3 มิติที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ALTAVA ระบบอวาตาร์ รวมถึงความสัมพันธ์ที่เชื่อถือได้ในอุตสาหกรรมแฟชั่นและความบันเทิง

ความร่วมมือครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้สร้างสรรค์และสร้างรายได้จากสินทรัพย์ในเกมที่มีทรัพย์สินทางปัญญาด้านความบันเทิงและแฟชั่นชั้นนำ จากนั้นจะตามมาด้วยการผสานรวมดิจิทัลกับกายภาพของ ALTAVA ซึ่งจะช่วยให้สามารถซื้อสินค้าจริงได้ผ่านกิจกรรมทางกายภาพในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกด้วย Xsolla โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะผสานรวมเทคโนโลยีแฟชั่นที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ ALTAVA สำหรับสินทรัพย์ที่ปรับแต่งได้และองค์ประกอบความบันเทิงของ K-wave (รวมถึง K-pop, ไอดอล และทรัพย์สินทางปัญญาของ K-drama) เพื่อเพิ่มความน่าดึงดูดใจระดับโลก โดยมีการวางแผนแคมเปญของแบรนด์เพิ่มเติมกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลกและการร่วมมือกันในแพลตฟอร์มต่างๆ ตลอดปี 2025 นี้

Chris Hewish ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Xsolla กล่าวว่า “แนวทางที่สร้างสรรค์ของ ALTAVA ในด้านแฟชั่นดิจิทัลนั้นสอดคล้องกับภารกิจของเราในการทำให้การค้าขายเกมเป็นเรื่องง่ายขึ้น ขณะเดียวกันก็ขยายขอบเขตความเป็นไปได้สำหรับทั้งผู้พัฒนาและผู้เล่น เราร่วมกันทำให้เกมต่างๆ สามารถตอบสนองความต้องการของคนทั่วโลกในการแสดงออกถึงตัวตน ตัวตน และทรัพย์สินทางปัญญาระดับพรีเมียมได้ง่ายขึ้น ด้วยการสร้างประสบการณ์แฟชั่นสุดหรูที่สมจริง ปรับขนาดได้ และดื่มด่ำไปกับความเพลิดเพลินได้”

พอร์ตโฟลิโอของ ALTAVA ประกอบด้วยทรัพยากรแฟชั่น 3 มิติมากกว่า 3,000 รายการที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานในเกม แพลตฟอร์มเสมือนจริง และระบบอวาตาร์ที่หลากหลาย ทรัพยากรเหล่านี้แสดงถึงความร่วมมือในโครงการก่อนหน้านี้กับแบรนด์สินค้าหรูและแฟชั่นชั้นนำมากกว่า 20 แบรนด์ รวมถึง Balmain, Clarins, Fendi และ Renault โดยนักพัฒนาจะสามารถเข้าถึงเนื้อหาเหล่านี้ได้ผ่านเครื่องมือคอมเมิร์ซของ Xsolla และรวมเข้ากับเกมของตนเพื่อปรับแต่งอวาตาร์ รายชื่อตลาด และกิจกรรมในเกม โดยความร่วมมือนี้จะเปิดตัวโมเดลการแบ่งปันรายได้ที่ยืดหยุ่นสำหรับทรัพยากรดิจิทัลและทรัพยากรที่สร้างโดยผู้ใช้

Andy Ku ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ ALTAVA Group กล่าวว่า “ความร่วมมือกับ Xsolla ในครั้งนี้จะช่วยเร่งภารกิจของเราในการนำความหรูหราเข้าสู่โลกของเกม ไม่ใช่เพียงความแปลกใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของวัฒนธรรมดิจิทัลอีกด้วย การผสมผสานทรัพย์สินทางปัญญาของแบรนด์ระดับไฮเอนด์เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานอันทรงพลังของ Xsolla ช่วยให้เราสามารถสร้างมูลค่าที่แท้จริงให้กับนักพัฒนา แบรนด์ และผู้เล่นได้ อีกทั้งยังปลดล็อกประสบการณ์ใหม่ ผู้ชม และรายได้อีกด้วย”

ด้วยความร่วมมือครั้งนี้ Xsolla และ ALTAVA มีเป้าหมายที่จะขยายขอบเขตของการบรรจบกันระหว่างแฟชั่นและเกม เพื่อสร้างประสบการณ์แบบโต้ตอบรุ่นถัดไปที่ขับเคลื่อนด้วยทรัพย์สินทางปัญญาระดับพรีเมียม ความเกี่ยวข้องทางวัฒนธรรม การผสานรวมดิจิทัลและกายภาพตามทรัพย์สินทางปัญญา และความคิดสร้างสรรค์ที่ขับเคลื่อนโดยผู้เล่น

หากต้องการสำรวจว่า Xsolla และ ALTAVA นำแฟชั่นดิจิทัลมาสู่เกมอย่างไร และค้นพบโอกาสในการผสานรวม โปรดไปที่ xsolla.pro/xsolla-altava

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทค้าวิดีโอเกมระดับโลกที่มีชุดเครื่องมือและบริการที่มีประสิทธิภาพและทรงพลังซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมวิดีโอเกม นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2005 โดย Xsolla ได้ช่วยเหลือผู้พัฒนาเกมและผู้เผยแพร่ในการระดมทุนทุกระดับ การตลาด การเปิดตัว และการสร้างรายได้จากเกมของพวกเขาทั่วโลกและบนหลายแพลตฟอร์ม ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมในการค้าเกม ภารกิจของ Xsolla คือการแก้ปัญหาความซับซ้อนโดยธรรมชาติของการจัดจำหน่าย การตลาด และการสร้างรายได้ทั่วโลก เพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราเข้าถึงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ได้มากขึ้น สร้างรายได้มากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์กับนักเล่นเกมทั่วโลก มีสำนักงานใหญ่และจดทะเบียนในลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย และมีสำนักงานในลอนดอน เบอร์ลิน โซล ปักกิ่ง กัวลาลัมเปอร์ ราลี โตเกียว มอนทรีออล และเมืองต่างๆ ทั่วโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ xsolla.com

เกี่ยวกับ ALTAVA

ALTAVA เป็นบริษัทแฟชั่นเทคโนโลยี AI ที่ก่อตั้งขึ้นจากโครงการ LVMH La Maison des Startups โดยมีนักลงทุนที่มีชื่อเสียง เช่น SM Entertainment, LG Electronics, Natalia Vodianova, Hyundai Department Group และ Animoca Brands เป็นต้น ALTAVA ดำเนินการแพลตฟอร์ม AI ของ ALTAVA ซึ่งช่วยให้ผู้สร้างสามารถสร้างสินทรัพย์สำหรับเกมออนไลน์และโลกเสมือนจริงต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นผู้นำในการสร้างประสบการณ์เสมือนจริง โดยเคยร่วมงานกับแบรนด์ระดับโลกที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดบางแบรนด์ เทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ ALTAVA และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาสินทรัพย์ 3 มิติทำให้บริษัทอยู่แถวหน้าในการเชื่อมต่อประสบการณ์แฟชั่นดิจิทัลกับสินค้าจริง

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ altava.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/20250410143804/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ

Derrick Stembridge
รองประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ระดับโลกของ Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

ที่มา: Xsolla

Gradiant คว้ารางวัลเหรียญทองจากเวที Edison Awards 2025 ด้วยเทคโนโลยี ForeverGone สำหรับการกำจัดและทำลายสาร PFAS อย่างสิ้นซาก

Logo

ForeverGone เป็นโซลูชันครบวงจรรายแรกของอุตสาหกรรมที่สามารถกำจัดสาร PFAS หรือ “สารเคมีชั่วนิรันดร์” ออกจากน้ำในภาคเทศบาลและอุตสาหกรรมได้อย่างถาวร

บอสตัน–(BUSINESS WIRE)–05 เมษายน 2025

Gradiantผู้นำระดับโลกด้านการบำบัดน้ำและน้ำเสียขั้นสูง ประกาศในวันนี้ว่าโซลูชัน ForeverGone ของบริษัทได้รับรางวัลเหรียญทองจากเวที Edison Awards 2025 อันทรงเกียรติ รางวัลนี้สะท้อนถึงความเป็นผู้นำของ Gradiant ในด้านความยั่งยืนและนวัตกรรมทางเทคโนโลยี พร้อมตอกย้ำพันธกิจของบริษัทในการแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนของสาร PFAS ซึ่งเป็นหนึ่งในวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่เร่งด่วนที่สุดของโลก

Gradiant’s Anurag Bajpayee, Steven Lam, Katie Dobbins, and Mark Danchak receive 2025 Edison Gold Award

Anurag Bajpayee, Steven Lam, Katie Dobbins และ Mark Danchak จาก Gradiant ได้รับรางวัล Edison Gold Award ประจำปี 2025

สารเพอร์- และโพลีฟลูออโรอัลคิล (PFAS) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “สารเคมีชั่วนิรันดร์” คือสารเคมีสังเคราะห์ที่คงตัวสูง พบได้ในน้ำจากแหล่งอุตสาหกรรม เทศบาล และหลุมฝังกลบ โดยเชื่อมโยงกับความเสี่ยงต่อสุขภาพร้ายแรง เช่น มะเร็ง ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน และปัญหาการเจริญเติบโต PFAS จึงกลายเป็นวิกฤตด้านสาธารณสุขระดับโลก ForeverGone ของ Gradiant คือโซลูชันครบวงจรรายแรกในอุตสาหกรรม ที่ไม่เพียงกำจัด PFAS ออกจากแหล่งน้ำที่ปนเปื้อนเท่านั้น แต่ยังสามารถทำลายสารเหล่านี้ได้อย่างถาวร ณ จุดบำบัด โดยไม่เสี่ยงต่อการปล่อยสารพิษกลับคืนสู่สิ่งแวดล้อม

รางวัล Edison Awards ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 38 มีเป้าหมายเพื่อยกย่องความเป็นเลิศด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ การตลาด การออกแบบ และนวัตกรรม โดยผู้เข้ารอบสุดท้ายจะได้รับการคัดเลือกจากคณะผู้ลงคะแนนที่ประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูง นักวิชาการ และผู้นำด้านนวัตกรรมจากทั่วโลก

“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ภาคอุตสาหกรรมและเทศบาลต่างเผชิญกับความท้าทายในการกำจัด PFAS อย่างสมบูรณ์โดยไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม” Anurag Bajpayee ซีอีโอของ Gradiant กล่าว “ForeverGone เป็นโซลูชันครบวงจรอย่างแท้จริง ที่สามารถทั้งแยกและทำลาย PFAS ได้ ณ แหล่งปนเปื้อนโดยตรง เพื่อให้แน่ใจว่าสารเคมีอันตรายเหล่านี้จะถูกกำจัดออกจากธรรมชาติอย่างถาวร การได้รับการยอมรับจาก Edison Awards ในครั้งนี้ตอกย้ำถึงผลกระทบเชิงเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีของเรา และพันธกิจของเราที่จะส่งมอบโซลูชันน้ำสะอาดในระดับโลก”

เทคโนโลยี ForeverGone ของ Gradiant ซึ่งได้รับการตรวจสอบและยืนยันจากห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองหลายแห่ง ใช้กระบวนการ Micro-Foam Fractionation และ Destruction Engine เพื่อทำการรวมสาร PFAS ให้อยู่ในรูปของไมโครโฟม แล้วทำลายมันด้วยการออกซิเดชั่นด้วยกระแสไฟฟ้า (electro-oxidation) ซึ่งให้ผลลัพธ์น้ำที่มีคุณภาพตามมาตรฐานน้ำดื่มล่าสุดของ US EPA หรือสูงกว่า แนวทางการทำงานแบบบูรณาการนี้สร้างมาตรฐานใหม่ในเรื่องความเรียบง่าย, ประสิทธิภาพ, และความยั่งยืน โดยมอบการกำจัด PFAS ที่ครอบคลุมในต้นทุนที่ต่ำที่สุด

Gradiant กำลังเร่งขยายการใช้งานเทคโนโลยี ForeverGone ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ อาหารและเครื่องดื่ม การทำเหมือง และเทศบาลขนาดใหญ่ เพื่อให้การฟื้นฟูสาร PFAS กลายเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับชุมชนทั่วโลก

คุณสนใจเทคโนโลยี ForeverGone สำหรับเว็บไซต์ของคุณหรือไม่ Gradiant ได้เปิดตัวโปรแกรมทดสอบฟรีเพื่อแสดงความสามารถของ ForeverGone ในการบำบัดน้ำที่ปนเปื้อนหลากหลายประเภท ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อ Gradiant ได้ที่gradiant.com/pfas-forevergone/.

รางวัล Edison Awards 2025 ได้ประกาศผลเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่เมืองฟอร์ตไมเยอร์ส รัฐฟลอริดา สำหรับรายชื่อผู้ชนะทั้งหมดในปีนี้ สามารถดูได้ที่edisonawards.com/2025-winners/.

เกี่ยวกับ GRADIANT

Gradiant คือบริษัทน้ำที่แตกต่าง ด้วยชุดโซลูชันเฉพาะตัวที่ครบวงจรสำหรับการบำบัดน้ำและน้ำเสียขั้นสูง โดยได้รับการสนับสนุนจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำระดับแนวหน้าของโลก บริษัทให้บริการโซลูชันที่สำคัญต่อการดำเนินงานของลูกค้าในอุตสาหกรรมที่จำเป็นต่อโลก เช่น เซมิคอนดักเตอร์ เภสัชกรรม อาหารและเครื่องดื่ม ลิเธียมและแร่ธาตุสำคัญ และพลังงานหมุนเวียน โซลูชันนวัตกรรมของ Gradiant ช่วยลดการใช้น้ำและน้ำเสียที่ปล่อยออกมา ช่วยคืนทรัพยากรมีค่า และฟื้นฟูน้ำเสียให้กลับเป็นน้ำจืด บริษัทที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในบอสตัน ก่อตั้งที่ MIT และมีพนักงานมากกว่า 1,200 คนทั่วโลก ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเราได้ที่gradiant.com.

เกี่ยวกับ THE EDISON AWARDS

ก่อตั้งขึ้นในปี 1987 รางวัล Edison Awards มุ่งเน้นการยกย่อง เกียรติยศ และส่งเสริมนวัตกรรมและผู้สร้างสรรค์นวัตกรรม รางวัลนี้ตั้งชื่อตาม Thomas Alva Edison (1847-1931) การแข่งขันประจำปีนี้มอบรางวัลเกียรติยศให้กับความเป็นเลิศในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ การตลาด การออกแบบ และนวัตกรรม ภารกิจขององค์กรคือการสร้างแรงบันดาลใจและสนับสนุนบุคคลและองค์กรในการสร้างอนาคตที่ดีขึ้นโดยการยกย่องและเฉลิมฉลองผลิตภัณฑ์ บริการ และผู้นำธุรกิจที่มีนวัตกรรมที่สุดในโลก

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250404670342/en

Contacts

ผู้ประสานงานของบริษัท:
Felix Wang
หัวหน้าฝ่ายแบรนด์ของ Gradiant
fwang@gradiant.com

ที่มา: Gradiant

Thai Herald

Thai Herald