Tag Archives: kirin

Kirin iMUSE Immune Care และ Healthya Visceral Fat Down จะวางจำหน่ายในวันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน!

Logo

ผลิตภัณฑ์อาหารฟังก์ชันแบบดูอัลแคร์พิเศษจาก iMUSE ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลภูมิคุ้มกันของเรา และ Healthya ที่เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลไขมันในช่องท้อง

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–27 พฤศจิกายน 2023

Kirin Holdings Company, Limited (TOKYO:2503) จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารฟังก์ชันแบบดูอัลแคร์ในชื่อผลิตภัณฑ์ Kirin iMUSE Immuno-Care และ Healthya Visceral Fat Down ในวันที่ 28 พฤศจิกายน (วันอังคาร) ผลิตภัณฑ์นี้เป็นความร่วมมือระหว่าง Kirin iMUSE แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลภูมิคุ้มกันแห่งแรก*1 ของญี่ปุ่น และ Kao Healthya แบรนด์เครื่องดื่มดูแลไขมันภายในร่างกายแบรนด์แรก*1 ของญี่ปุ่นจาก Kao Corporation (TOKYO:4452) และจะวางจำหน่ายที่ร้านขายยาทั่วประเทศและผ่านการสั่งซื้อทางไปรษณีย์ Kirin Kyowa Hakko Bio

Figure 1: Area of health concern (Graphic: Business Wire)

รูปที่ 1: ประเด็นปัญหาด้านสุขภาพ (กราฟิก: Business Wire)

ในวันเสาร์ที่ 2 ธันวาคม Kao จะวางจำหน่าย “Healthya Green Tea Plus Immunity Care” ในจำนวนจำกัดในร้านขายยาที่กำหนด

*1

Kirin iMUSE เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลภูมิคุ้มกันแบรนด์แรกของญี่ปุ่นในด้านอาหารฟังก์ชัน (อ้างอิงจากงานวิจัยของเราผ่านการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับอาหารฟังก์ชันที่ได้รับการจดทะเบียน)

Kao Healthya คือแบรนด์ชาเขียวดูแลไขมันภายในร่างกายแบรนด์แรกของญี่ปุ่นในหมวดอาหารจำเพาะเพื่อสุขภาพ (ได้รับการอนุมัติให้ติดฉลากว่าเป็นหมวดอาหารจำเพาะเพื่อสุขภาพซึ่งมีสารคาเทชินในชาจากการวิจัยของ Kao)

ความพยายามของทั้งสองบริษัทในการรับมือกับปัญหาด้านสุขภาพ

[งานวิจัยด้านภูมิคุ้มกันวิทยาของ Kirin]

ภูมิคุ้มกันคือระบบป้องกันของร่างกายที่ต่อสู้กับศัตรูภายนอกเพื่อรักษาสุขภาพและสามารถเรียกได้ว่าเป็น “รากฐานของสุขภาพ” แม้ว่าระบบภูมิคุ้มกันที่ล้มเหลวอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่างๆ ภูมิคุ้มกันเป็นเรื่องยากสำหรับแต่ละคนที่จะเฝ้าติดตาม ดังนั้นความล่าช้าในการรับมือกับปัญหานี้จึงเป็นปัญหาสังคมที่สำคัญ (รูปที่ 1)

ในระยะเวลากว่า 35 ปีของการวิจัยเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน Kirin ได้ค้นพบ “พลาสมาสายพันธุ์ Lactococcus lactis” เป็นครั้งแรกในโลก*2 โดยออกฤทธิ์โดยตรงกับเซลล์ Plasmacytoid Dendritic (pDCs) ซึ่งเป็นศูนย์กลางภูมิคุ้มกัน ด้วยการรวบรวมผลการวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับพลาสมาสายพันธุ์ Lactococcus Lactis ทำให้แบรนด์ “iMUSE” กลายเป็นแบรนด์แรกในญี่ปุ่น*3 ที่ได้รับการยอมรับให้จดแจ้งต่อหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคในปี 2020 ว่าเป็นอาหารที่อ้างอิงสรรพคุณด้านการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

เรากำลังพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารฟังก์ชันที่หลากหลายซึ่งอ้างอิงสรรพคุณเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อช่วยเหลือลูกค้าแก้ไขปัญหาสุขภาพ ด้วยการเปิดตัวอาหารเสริมตัวนี้และ “Healthya Green Tea Plus Immuno-Care” ทำให้จำนวนบริษัทพาร์ทเนอร์และจำนวนอาหารที่มีการอ้างอิงสรรพคุณรวม 57 ผลิตภัณฑ์

*2

มีการรายงานถึงพลาสมาสายพันธุ์ Lactococcus Lactis ซึ่งออกฤทธิ์ต่อ pDCs ในมนุษย์เป็นครั้งแรกในโลก (ตามข้อมูลที่เผยแพร่ใน PubMed และเว็บไซต์ Japan Medical Abstracts Society)

*3

แบรนด์แรกในญี่ปุ่นที่ได้รับการรายงานต่อสาธารณะว่าเป็นอาหารที่มีการอ้างอิงสรรพคุณเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน

[งานวิจัยของ Kao เกี่ยวกับการเผาผลาญของไขมัน]

ไขมันเกิดการสะสมเนื่องจากความไม่สมดุลในการออกกำลังกาย รวมถึงพฤติกรรมการกินในแต่ละวันรวมถึงการออกกำลังกายเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสะสมของไขมันในช่องท้องถือเป็นปัญหาด้านสุขภาพที่สำคัญสำหรับชาวญี่ปุ่น และการปรับปรุงพฤติกรรมการกินและการสร้างพฤติกรรมการออกกำลังกายถือเป็นมาตรการที่จำเป็น

Kao ทำการวิจัยเกี่ยวกับการเผาผลาญไขมันในร่างกายและไขมันในช่องท้องมาเป็นเวลากว่า 30 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1990 โดยค้นพบว่าสารโพลีฟีนอล 2 ชนิด ได้แก่ สารคาเทชินในชาเขียวและกรดคลอโรจีนิกที่มีอยู่ในเมล็ดกาแฟต่างมีประสิทธิภาพในการลดไขมันในช่องท้อง Kao ได้ดำเนินการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารที่ใช้สารคาเทชินจากชาอย่างต่อเนื่อง และในปี 2003 บริษัทได้เปิดตัว “Healthya Green Tea” ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องดื่มดูแลไขมันในร่างกายแบรนด์แรกของญี่ปุ่น ให้เป็นอาหารจำเพาะเพื่อสุขภาพ (Tokuho) จากความสำเร็จในการพัฒนาเครื่องดื่มที่ดื่มง่ายได้ทุกวัน Kao ได้สนับสนุนการพัฒนาพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแต่ละวัน รวมถึงพฤติกรรมการกิน บริษัทจึงมีส่วนช่วยรักษาสุขภาพของผู้คนเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีได้อย่างยืนยาว

ความเป็นมาของการพัฒนาร่วมกัน

ด้วยการรวมการวิจัยด้านภูมิคุ้มกันวิทยาของ Kirin เข้ากับความรู้ของ Kao ในด้านการวิจัยการเผาผลาญไขมัน ทั้งสองบริษัทจึงตระหนักว่าสามารถมอบคุณค่าด้านสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าได้ ดังนั้นในเดือนพฤศจิกายน 2022 ทั้งสองบริษัทจึงได้เข้าร่วมโครงการวิจัย “Wakayama Health Promotion Study” เพื่อเริ่มการวิจัยร่วมกันในด้านภูมิคุ้มกันวิทยาและไขมันในช่องท้อง

“Kirin iMUSE Immunity Care และ Healthya Visceral Fat Down” ที่กำลังจะวางจำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการร่วมโครงการวิจัย การร่วมมือกันของแบรนด์ชั้นนำของทั้งสองบริษัทนี้ จะทำให้เกิดการเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับไขมันในช่องท้องและภูมิคุ้มกันในวงกว้าง และจะนำไปสู่การเติบโตต่อไปของทั้งแบรนด์ Kirin iMUSE และแบรนด์ Healthya

คุณสมบัติของ Kirin iMUSE Immuno-Care และ Healthya Visceral Fat Down

  • แคปซูลหกแคปซูลประกอบด้วยพลาสมาสายพันธุ์ Lactococcus lactis นับแสนล้านตัว ซึ่งเป็นวัสดุที่เป็นกรรมสิทธิ์ของกลุ่มบริษัท Kirin และกรดคลอโรจีนิกจากเมล็ดกาแฟ 267 มก. ซึ่งช่วยลดไขมันในช่องท้อง
  • ทั้งการ “การดูแลภูมิคุ้มกัน” และ “การลดไขมันในช่องท้อง” นับเป็นอาหารสองฟังก์ชัน

อาหารที่อ้างอิงสรรพคุณ

[การติดฉลากแจ้งเตือน]

ผลิตภัณฑ์นี้มีพลาสมาสายพันธุ์ Lactococcus Lactis ซึ่งออกฤทธิ์กับ pDCs (เซลล์ Plasmacytoid Dendritic) และมีรายงานว่าสามารถช่วยรักษาการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในคนที่มีสุขภาพดีได้
ผลิตภัณฑ์นี้มีกรดคลอโรเจนิกจากเมล็ดกาแฟ ซึ่งมีรายงานว่าสามารถลดไขมันในช่องท้องในผู้ที่มีดัชนีมวลกาย (BMI) สูงได้

  • คุณควรรับประทานอาหารอย่างสมดุลซึ่งประกอบด้วยอาหารหลัก อาหารจานหลัก และเครื่องเคียง
  • ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล
  • ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อวินิจฉัย รักษา หรือป้องกันโรค

พลาสมาสายพันธุ์ Lactococcus Lactis คืออะไร

สายพันธุ์พลาสมา Lactococcus Lactis เป็นแบคทีเรียกรดแลคติกที่ช่วยรักษาภูมิคุ้มกันในคนที่มีสุขภาพดี มีรายงานทางวิทยาศาสตร์ว่าเป็นพลาสสายพันธุ์แรกที่ตรวจพบว่าทำงานบน pDCs (เซลล์ Plasmacytoid Dendritic) ซึ่งเป็นศูนย์กลางภูมิคุ้มกัน Kirin, Koiwai Nyugyo และ Kyowa Hakko Bio ได้ทำการวิจัยร่วมกันเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้ และได้ตีพิมพ์บทความจำนวนมาก รวมถึงนำเสนอในการประชุมวิชาการด้วยความร่วมมือของมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยในญี่ปุ่นและต่างประเทศ

นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์นี้ยังได้รับรางวัลมามากมาย ซึ่งรวมถึงรางวัล National Commendation for Invention และ Imperial Invention ปี 2023 โดยเป็นการยกย่องการจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ในฐานะอาหารมื้อแรกของญี่ปุ่นที่มีการอ้างอิงสรรพคุณและได้รับการยืนยันว่าประสบความสำเร็จในการบ่งชี้ถึงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

กรดคลอโรจีนิกจากเมล็ดกาแฟคืออะไร

เมล็ดกาแฟมีสารโพลีฟีนอลหลายชนิด ซึ่งหนึ่งในนั้นคือกรดคลอโรจีนิก ซึ่งมีรายงานว่าสามารถลดไขมันในช่องท้องในผู้ที่มีดัชนีมวลกาย (BMI) สูงได้ Kao ได้คัดเลือกกรดคลอโรจีนิกที่เป็นผลจากการวิจัยเกี่ยวกับการเผาผลาญไขมันมาเป็นเวลาประมาณ 30 ปี ซึ่งบริษัทได้ตีพิมพ์ผลงานวิจัยและการนำเสนอผลงานในการประชุมจำนวนมาก

1. ชื่อผลิตภัณฑ์

Kirin iMUSE Immuno-Care/Healthya Visceral Fat Down

2. ปริมาตรยา

(1) รับประทานสำหรับ 7 วัน (42 แคปซูล) (2) รับประทานสำหรับ 15 วัน (90 แคปซูล) *วันละ 6 แคปซูล

3. แหล่งจำหน่าย

1) ร้านขายยาทั่วประเทศ

2) การสั่งซื้อทางไปรษณีย์ Kirin Kyowa Hakko Bio

(https://kirin-kyowahakko-bio.kirin.co.jp/)

(โทร: 0120-80-7733, แฟกซ์: 0120-80-2227)

4. วันที่เผยแพร่

วันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน 2023

5. ราคา (ราคาขายปลีกที่แนะนำไม่รวมภาษีเพื่อการบริโภค) 

(1) รับประทานสำหรับ 7 วัน: 1,780 เยน (2) รับประทานสำหรับ 15 วัน: 3,685 เยน

6. จำหน่ายโดย

Kirin Holdings Company, Limited

7. เลขที่จดแจ้ง

I208

เกี่ยวกับ Kirin Holdings

Kirin Holdings Company, Limited เป็นบริษัทระหว่างประเทศที่ดำเนินงานในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม (ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม) อุตสาหกรรมเภสัชกรรม (ธุรกิจเภสัชกรรม) และอุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์สุขภาพ (ธุรกิจวิทยาศาสตร์สุขภาพ) ทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลก

Kirin Holdings มีรากฐานบริษัทมาจาก Japan Brewery ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1885 Japan Brewery ได้กลายเป็น Kirin Brewery ในปี 1907 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บริษัทได้ขยายธุรกิจโดยใช้การหมักและเทคโนโลยีชีวภาพเป็นเทคโนโลยีหลัก และเข้าสู่ธุรกิจเภสัชภัณฑ์ในช่วงทศวรรษ 1980 ซึ่งทั้งหมดยังคงเป็นศูนย์กลางการเติบโตระดับโลก ในปี 2007 Kirin Holdings ถูกก่อตั้งขึ้นในฐานะบริษัทโฮลดิ้งเต็มรูปแบบ และในปัจจุบันได้มุ่งเน้นไปที่การขยายอุตสาหกรรมสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ

ภายใต้  Kirin Group Vision 2027 (KV 2027) ซึ่งเป็นแผนการจัดการระยะยาวที่เปิดตัวในปี 2019 Kirin Group ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำระดับโลกในด้าน CSV* โดยสร้างมูลค่าทั่วโลกทั้งด้านอาหารและเครื่องดื่มไปจนถึงเภสัชกรรม นับจากนี้ไป Kirin Group จะยังคงใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของตนเพื่อสร้างมูลค่าทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจผ่านทางธุรกิจ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้บรรลุการเติบโตที่ยั่งยืนในมูลค่าองค์กร
* การสร้างคุณค่าร่วมกัน: มูลค่าเพิ่มร่วมกันสำหรับผู้บริโภคและสังคมโดยรวม

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: www.businesswire.com/news/home/53862598/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ฝ่ายสื่อสารองค์กร Kirin Holdings Company, Limited

Nakano Central Park South, 4-10-2 Nakano, Nakano-ku โตเกียว
https://www.kirinholdings.com/en/
kirin-cc@kirin.co.jp

ฝ่ายประชาสัมพันธ์องค์กร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กร Kao Corporation
1-14-10, Nihonbashi Kayabacho, Chuo-ku, โตเกียว
https://www.kao.com/global/en/
corporate_pr@kao.com

แหล่งที่มา: Kirin Holdings Company, Limited



การค้นพบครั้งแรกของญี่ปุ่น*1 เกี่ยวกับการทำงานของไขมันในอวัยวะภายในและภูมิคุ้มกันในการวิจัยร่วมกันของ Kirin Holdings และ Kao

Logo

TOKYO–(BUSINESS WIRE)–27 พฤศจิกายน 2023

Kirin Holdings Company, Limited (TOKYO:2503) และ Kao Corporation (TOKYO:4452) จะเข้าร่วมในการศึกษาเรื่องการส่งเสริมสุขภาพ Wakayama ซึ่งเป็นการศึกษาตามรุ่น*2 ซึ่งนำโดย Wakayama Medical University และจัดขึ้นโดย Health Promotion Research Center (HPRC) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Kao และ Kirin Holdings ทำการศึกษาร่วมกันตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2022 เพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างไขมันในอวัยวะภายในกับการทำงานของเซลล์พลาสมาไซตอยด์เดนไตรติก (pDC*3)*4 ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมการสร้างภูมิคุ้มกัน

Joint Research Results (Summary) (Graphic: Business Wire)

ผลการวิจัยร่วม (สรุป) (กราฟิก: Business Wire)

ในช่วงปีที่ผ่านมา มีการมุ่งเน้นความสนใจไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างโรคอ้วนและภูมิคุ้มกัน เนื่องจากมีรายงานว่า โรคอ้วนทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสที่รุนแรงมากขึ้น*5 การศึกษานี้เป็นการศึกษาครั้งแรกในญี่ปุ่น*1 เพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างไขมันในอวัยวะภายในและการทำงานของคุ้มภูมิกัน และยืนยันว่าระดับไขมันในอวัยวะภายในสูงมีความสัมพันธ์กับการทำงานของ pDC ที่ต่ำ (การทำงานของภูมิคุ้มกันต่ำ) และระดับไขมันในอวัยวะภายในสูงและการทำงานของ pDC ต่ำมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อโคโรนาไวรัสและไข้หวัดใหญ่ การค้นพบนี้ยังไม่มีการรายงานในเอกสารใดๆ ในโลก*6 จะมีการแสดงผลลัพธ์ในการประชุมประจำปีครั้งที่ 44 ของสมาคมญี่ปุ่นเพื่อการศึกษาเรื่องโรคอ้วน และการประชุมประจำปีครั้งที่ 41 ของสมาคมญี่ปุ่นเพื่อการรักษาโรคอ้วน ซึ่งจะมีการจัดขึ้นในจังหวัดมิยางิ ในวันที่ 25 (เสาร์) และ 26 (อาทิตย์) เดือนพฤศจิกายน ปี 2023

*1 อ้างอิงจากบทความและข้อมูลบทคัดย่อที่ตีพิมพ์ใน Pubmed และ Journal of Health Care and Society Web (ณ วันที่ 22 เดือนพฤศจิกายน ปี 2023 ตามข้อมูลจาก KnowledgeWire)
*2 หนึ่งในวิธีการวิจัยเชิงสังเกตทางระบาดวิทยาเชิงวิเคราะห์ โดยการสร้างกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยเฉพาะของโรคและกลุ่มที่ไม่เกี่ยวข้อง และการคำนวณอัตราอุบัติการณ์ของโรคเป้าหมายภายในแต่ละกลุ่ม ช่วยให้สามารถตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยของโรคและการระบาดได้
*3 เซลล์ภูมิคุ้มกันที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมเมื่อมีแบคทีเรียหรือไวรัสเข้าสู่ร่างกาย การทำให้ pDC ทำงานจะช่วยกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันต่างๆ เช่น เซลล์ NK ทีเซลล์ และบีเซลล์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส
*4 เปอร์เซ็นต์ของ pDC ที่สร้างปัจจัยต้านไวรัสตามการกระตุ้นที่เลียนแบบการติดเชื้อไวรัส
*5 Ghilotti F et al. J Epidemiol. 2019; 48(6): 1783-1794
Popkin BM et al. Obes Rev. 2020; 21(11): e13128
*6 อ้างอิงจากข้อมูลบทความที่ตีพิมพ์ใน Pubmed และ Journal of Health Care and Society Web (ณ วันที่ 22 เดือนพฤศจิกายน ปี 2023 ตามข้อมูลจาก KnowledgeWire)

ผลลัพธ์การวิจัยร่วม (บทสรุป)

การค้นพบครั้งแรกของญี่ปุ่น*1
(1) มีการค้นพบว่า การทำงานของ pDC จะลดลงในบุคคลที่มีไขมันในอวัยวะภายในสูง
(2) มีเปอร์เซ็นต์สูงที่ผู้มีไขมันในอวัยวะภายในสูงและการทำงานของ pDC ต่ำจะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่และไข้หวัดใหญ่ เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่มีไขมันในอวัยวะภายในสูง

ผลกระทบที่ได้รับ
ขอแนะนำว่า การรักษามวลไขมันในอวัยวะภายในต่ำและการทำงานของ pDC สูงนั้น มีความสัมพันธ์กับการลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโคโรนาไวรัสและไข้หวัดใหญ่

ผลการวิจัยร่วม

ความเป็นมาและวัตถุประสงค์

มีการระบุโรคอ้วนโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่า เป็น “ภาวะที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการสะสมไขมันที่ผิดปกติหรือมากเกินไป” และมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการเกิดโรคเรื้อรัง มีการศึกษาผลกระทบจากโรคอ้วนที่มีต่อสุขภาพในหลายประเทศ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างโรคอ้วนและภูมิคุ้มกันได้รับความสนใจ เนื่องจากมีการรายงานว่า โรคอ้วนนำไปสู่การติดเชื้อไวรัสที่รุนแรงยิ่งขึ้น*7

การวิจัยนี้จัดทำขึ้นโดยเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาวิจัยเรื่องการส่งเสริมสุขภาพ Wakayama โดยมีการตั้งเป้าไปที่ผู้อยู่อาศัยใน Wakayama มาตั้งแต่ปี 2011 Kao ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการวิจัยเรื่องโรคอ้วนจากไขมันในอวัยวะภายใน ซึ่งถือว่ามีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับโรคที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต และ Kirin Holdings ซึ่งมีการวิจัยในสาขาภูมิคุ้มกันวิทยามานานกว่า 35 ปี ได้ร่วมมือกันเพื่อชี้แจงความสัมพันธ์ระหว่างไขมันในอวัยวะภายในและการทำงานของ pDC
*7 Pranata R et al. Clin Nutr ESPEN. 2021; 43: 163-168

การศึกษาเรื่องการส่งเสริมสุขภาพ Wakayama คืออะไร

นี่เป็นการศึกษาตามรุ่นที่นำโดย Wakayama Medical University ตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งปัจจุบันกำลังดำเนินการร่วมกับ HPRC เพื่อระบุปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาของโรคต่างๆ ในหมู่ประชากรที่อาศัยอยู่ใน Wakayama

ในปัจจุบัน มีการวิจัยที่ดำเนินการในโครงการเกี่ยวกับวิถีชีวิต โรคที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต และมวลกล้ามเนื้อ ส่งผลให้เกิดการค้นพบมากมาย รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อและการพัฒนาของหลอดเลือด และความสัมพันธ์ระหว่างประวัติในการหกล้อมและการทำงานด้านกายภาพโดยสมัครใจ นี่เป็นครั้งแรกที่โครงการทำการวิจัยเกี่ยวกับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

Kirin Holdings และ Kao ดำเนินงานร่วมกันเพื่อพิสูจน์ความสัมพันธ์ระหว่างมวลไขมันในอวัยวะภายในและการทำงานของ pDC ในการศึกษาการส่งเสริมสุขภาพใน Wakayama เพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้บริโภคในอนาคต

วิธีการวิจัย

ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 มีการจัดการตรวจสุขภาพเฉพาะสำหรับ Wakayama ที่มีผู้อยู่อาศัย 223 คน ช่วงอายุ 50–55 ปี จากการดำเนินการนี้ ช่วยให้ Kao ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมตามวิถีชีวิตและบริเวณไขมันในอวัยวะภายใน ในขณะที่ Kirin มีการวัดข้อมูลจากการทำงานของ pDC ในเลือด จะมีการแบ่งปันข้อมูลเหล่านี้ระหว่างทั้งสองทีม และมีการศึกษาและวิเคราะห์ร่วมกันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไขมันในอวัยวะภายในและการทำงานของ pDC มีการแบ่งกลุ่มที่ศึกษาออกเป็นดังนี้

บริเวณไขมันในอวัยวะภายใน: จากค่ามัธยฐานที่ 77 ซม.2 สำหรับค่าทั้งหมด จะมีการกำหนดให้ระดับไขมันในอวัยวะภายในที่น้อยกว่า 77 ซม.2 ให้เป็นกลุ่มไขมันในอวัยวะภายในต่ำ และกลุ่มที่มีระดับไขมันในอวัยวะภายในสูงกว่า 77 ซม.2 จะถือว่าเป็นกลุ่มไขมันในอวัยวะภายในสูง

การทำงานของ pDC: ขึ้นอยู่กับค่ามัธยฐานที่ 9.52% สำหรับค่าทั้งหมด จะมีการกำหนดให้กลุ่มที่มีการทำงานของ pDC อยู่ที่ 9.52% หรือน้อยกว่าเป็นกลุ่มที่มีการทำงานของ pDC ต่ำ และกลุ่มที่มีการทำงานของ pDC อยู่ที่ 9.52% หรือสูงกว่าเป็นกลุ่มที่มีการทำงานของ pDC สูง

ผลลัพธ์

ผลลัพธ์ที่ 1: ความสัมพันธ์ระหว่างบริเวณไขมันในอวัยวะภายในและการทำงานของ pDC
กลุ่มที่มีค่าบริเวณไขมันในอวัยวะภายในสูงจะมีการทำงานของ pDC ต่ำกว่ากลุ่มที่มีค่าบริเวณไขมันในอวัยวะภายในต่ำอย่างมีนัยสำคัญ (ภาพที่ 1)

ผลลัพธ์ที่ 2: ผลกระทบของบริเวณไขมันในอวัยวะภายในและการทำงานของ pDC ต่อการติดโรคติดเชื้อ
กลุ่มที่มีค่าบริเวณไขมันในอวัยวะภายในสูงมีอุบัติการณ์ในการติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่สูงกว่ากลุ่มที่มีค่าต่ำ โดยมีอัตราส่วนโอกาสที่จะเกิดขึ้นสูงถึง 7 เท่า*8 ในขณะเดียวกัน กลุ่มที่มีการทำงานของ pDC ต่ำมีอุบัติการณ์ในการติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่สูงกว่ากลุ่มที่มีการทำงานของ pDC สูง โดยมีอัตราส่วนโอกาสที่จะเกิดขึ้นสูงถึง 5 เท่า (ภาพที่ 2)

ยังมีการแบ่งการวิเคราะห์ออกเป็นสี่กลุ่ม เพื่อยืนยันผลเสริมฤทธิ์สำหรับบริเวณไขมันในอวัยวะภายในสูงหรือต่ำ และการทำงานของ pDC และพบว่า กลุ่มที่มีบริเวณไขมันในอวัยวะภายในสูงและการทำงานของ pDC ต่ำ มีอุบัติการณ์ในการติดเชื้อไวรัสโคโรนนาสายพันธุ์ใหม่สูงกว่ากลุ่มที่มีบริเวณไขมันอวัยวะภายในต่ำและการทำงานของ pDC สูง โดยมีอัตราส่วนโอกาสที่จะเกิดขึ้นสูงถึง 20 เท่า และมีการตรวจพบผลลัพธ์เช่นเดียวกันสำหรับไข้หวัดใหญ่ (ภาพที่ 3)
*8 อัตราส่วนโอกาสที่จะเกิดขึ้นเป็นค่าที่ใช้เพื่อแสดงความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์ขึ้น อัตราส่วนโอกาสที่จะเหิดขึ้นและความน่าจะเป็นที่จะเกิดขึ้นมีความสัมพันธ์เชิงบวก

ผลการวิจัยเกี่ยวกับการทำงานร่วมกัน

นับเป็นครั้งแรกในโลกที่การทำงานร่วมกันนี้ มีการวิจัยพบว่า ผู้ที่มีระดับบริเวณไขมันในอวัยวะภายในสูงมีการทำงานของ pDC ต่ำ นอกจากนี้ ยังมีการแนะนำว่า บริเวณไขมันในอวัยวะภายในและการทำงานของ pDC ตามลำดับ ส่งผลต่อความไวในการติดเชื้อโคโรนาไวรัสและไข้หวัดใหญ่ และผู้ที่มีบริเวณไขมันอวัยวะภายในสูงและการทำงานของ pDC ต่ำ จะมีความเสี่ยงต่อโรคเหล่านี้เป็นพิเศษ

ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่มีค่าบริเวณไขมันในอวัยวะภายในสูงและการทำงานของ pDC ต่ำเพื่อการจัดการมวลไขมันในอวัยวะภายในและการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

เกี่ยวกับ Kirin Holdings

Kirin Holdings Company, Limited เป็นบริษัทระดับโลกที่ดำเนินงานในภาคส่วนอาหารและเครื่องดื่ม (ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม) ภาคส่วนเภสัชกรรม (ธุรกิจเภสัชกรรม) และภาคส่วนวิทยาศาสตร์สุขภาพ (ธุรกิจวิทยาศาสตร์สุขภาพ) ทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลก

Kirin Holdings มีรากฐานมาจาก Japan Brewery ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1885 Japan Brewery ได้เปลี่ยนเป็น Kirin Brewery ในปี 1907 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บริษัทได้ขยายธุรกิจเกี่ยวกับการหมักและเทคโนโลยีชีวภาพเป็นเทคโนโลยีหลัก และเข้าสู่ธุรกิจเภสัชกรรมในปี 1980 โดยยังคงเป็นศูนย์กลางระดับโลกที่ยังคงเติบโตอยู่ ในปี 2007 Kirin Holdings ก่อตั้งขึ้นเป็นบริษัทโฮลดิ้ง และปัจจุบันมุ่งเน้นไปที่การขยายขอบเขตภาคส่วนวิทยาสาสตร์สุขภาพ

ภายใต้วิสัยทัศน์ Kirin Group Vision 2027 (KV 2027) ซึ่งเป็นแผนการบริหารระยะยาวที่เปิดตัวในปี 2019 Kirin Group ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำระดับโลกในด้าน CSV*9 เพื่อสร้างมูลค่าในโลกของอาหารและเครื่องดื่มไปจนถึงภาคส่วนเภสัชกรรม นับจากนี้ไป Kirin Group จะยังคงใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของตนเพื่อสร้างมูลค่าทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจผ่านธุรกิจ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้บรรลุการเติบโตที่ยั่งยืนในคุณค่าขององค์กร
*9 การสร้างคุณค่าร่วมกัน: มูลค่าเพิ่มร่วมกันสำหรับผู้บริโภคและสังคมโดยรวม

เกี่ยวกับ Kao Corporation

Kao สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ซึ่งนำเสนอการดูแลและเติมเต็มให้กับชีวิตของผู้คนทั้งหมดและโลกใบนี้ Kao เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนในเอเชีย โอเชียเนีย อเมริกาเหนือ และยุโรป ผ่านผลงานของแบรนด์ชั้นนำกว่า 20 แบรนด์ เช่น Attack, Bioré, Goldwell, Jergens, John Frieda, Kanebo, Laurier, Merries, และ Molton Brown เมื่อมีการรวมเข้ากับธุรกิจเคมีภัณฑ์ ซึ่งมีส่วนช่วยในอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย Kao สร้างรายได้ประมาณ 1,420 พันล้านเยนจากยอดขายต่อปี Kao มีพนักงานประมาณ 33,500 คนทั่วโลก และมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 135 ปีในด้านนวัตกรรม โปรดเข้าชมข้อมูลที่อัปเดตในเว็บไซต์ของ Kao Group https://www.kao.com/global/en/

Kao มีการก่อตั้งกลยุทธ์ ESG คือ Kirei Lifestyle Plan ในเดือนเมษายน ปี 2019 ตั้งแต่ปี 2021 Kao มีการส่งเสริมแผนระยะกลางตาม “การปกป้องขีวิตในอนาคต” และส่งเสริม “ความยั่งยืนเป็นหลัก” เป็นวิสัยทัศน์ Kao จะยังคงบูรณาการมุมมอง ESG เข้ากับการบริหารจัดการบริษัท โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาธุรกิจและจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการที่ดียิ่งขึ้นแก่ผู้บริโภคและสังคม และทำงานตามจุดประสงค์ “เพื่อสร้างโลก Kirei เพื่อทุกชีวิตสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน”

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:

https://www.businesswire.com/news/home/53862302/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ
Corporate Communication Department
Kirin Holdings Company, Limited
Nakano Central Park South, 4-10-2 Nakano, Nakano-ku, Tokyo
https://www.kirinholdings.com/en/
kirin-cc@kirin.co.jp

Corporate PR, Corporate Strategy
Kao Corporation
1-14-10, Nihonbashi Kayabacho, Chuo-ku, Tokyo
https://www.kao.com/global/en/
corporate_pr@kao.com

แหล่งข้อมูล: Kirin Holdings Company, Limited




Kirin Holdings และ Kao เริ่มทำการวิจัยร่วมกันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไขมันในช่องท้องและภูมิคุ้มกันวิทยา

Logo

Tokyo–(BUSINESS WIRE)–11 พฤศจิกายน 2022

ตั้งแต่เดือนนี้ Kirin Holdings Company, Limited (Kirin Holdings) และ Kao Corporation (Kao) จะเข้าร่วมในการศึกษาตามรุ่นของ “วิจัยส่งเสริมสุขภาพวาคายามะ”*1 ซึ่งนำโดย Wakayama Medical University และเรียบเรียงโดยศูนย์วิจัยส่งเสริมสุขภาพ (HPRC) ที่เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Kirin Holdings และ Kao จะร่วมกันทำการวิจัยเพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างไขมันในช่องท้องกับการทำงานของเซลล์เดนไดรต์ในพลาสมาไซทอยด์*2 (pDCs) ซึ่งเป็นตัวนำสำคัญของระบบภูมิคุ้มกันและอื่น ๆ

*1 วิธีการวิจัยเชิงสังเกตวิธีหนึ่งที่ใช้ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยของโรคและการเกิดโรค โดยจัดกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยโรคเฉพาะและกลุ่มคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับปัจจัยโรคเฉพาะ และสามารถตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยและการเกิดโรคได้โดยการคำนวณอุบัติการณ์ของโรคเป้าหมายในแต่ละกลุ่ม

*2 เซลล์ภูมิคุ้มกันที่มีบทบาทสำคัญในฐานะตัวนำหลักเมื่อแบคทีเรียหรือไวรัสเข้าสู่ร่างกาย การทำงานของ pDC จะกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันต่าง ๆ เช่น เซลล์ NK เซลล์ T และเซลล์ B เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส

โครงร่างการวิจัย

  1. หัวข้อการวิจัย
  2. โครงสร้างการวิจัย
    Kirin Central Research Institute, Kirin Holdings Company, Limited
    R&D-Health & Wellness Products Research, R&D-Biological Science Research , Kao Corporation
    Wakayama Medical University
  3. เป้าหมาย
    ชายและหญิงที่เป็นผู้ใหญ่ 300 คนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดวาคายามะ (ตามแผน)

ความเป็นมา

โรคอ้วนได้รับการกำหนดโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าเป็น “การสะสมไขมันผิดปกติหรือมากเกินไปซึ่งอาจนำไปสู่สุขภาพที่ไม่ดี” ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเรื้อรังเพิ่มขึ้น ทั่วโลกกำลังศึกษาผลกระทบของโรคอ้วนต่อสุขภาพ และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความเชื่อมโยงระหว่างโรคอ้วนกับภูมิคุ้มกันกำลังได้รับความสนใจ เนื่องจากโรคอ้วนมีความเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อไวรัสที่รุนแรงมากขึ้น*3

วัตถุประสงค์

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายความสัมพันธ์ระหว่างไขมันในช่องท้องกับกิจกรรมของ pDC โดยผสมผสานความสามารถในด้านการวิจัยมากกว่า 35 ปีของ Kirin Holdings ที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันวิทยาเข้ากับความสามารถในด้านการวิจัยของ Kao ที่เกี่ยวกับการลดการสะสมไขมันในช่องท้อง ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิต งานวิจัยนี้จะดำเนินการเป็นการศึกษาเพิ่มเติมสำหรับ “วิจัยส่งเสริมสุขภาพวาคายามะ” ซึ่งได้ดำเนินการกับผู้อยู่อาศัยในจังหวัดวาคายามะมาตั้งแต่ปี 2011

ในเดือนนี้ จะมีการตรวจสุขภาพเฉพาะในจังหวัดวาคายามะสำหรับผู้อยู่อาศัยที่มีอายุ 40-55 ปี Kao จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและปริมาณไขมันในช่องท้อง ในขณะที่ Kirin Holdings จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของเซลล์เดนไดรต์ รวมถึง pDCs ในเลือด โดยทั้งคู่จะแบ่งปันข้อมูลเหล่านี้ร่วมกัน และจะมีการศึกษาและวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างไขมันในช่องท้องและกิจกรรมของ pDC

*3 Int J Epidemiol. 2019;48(6):1783-1794. https://doi.org/10.1093/ije/dyz129
Obes Rev. 2020;21(11):e13128. https://doi.org/10.1111/obr.13128

วิจัยส่งเสริมสุขภาพวาคายามะคืออะไร

นี่เป็นการศึกษาตามรุ่นที่นำโดย Wakayama Medical University ตั้งแต่ปี 2011 และขณะนี้ได้ดำเนินการร่วมกับ HPRC โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระบุปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการเกิดของโรคต่าง ๆ ในหมู่คนท้องถิ่นในจังหวัดวาคายามะ

จนถึงปัจจุบัน มีการวิจัยเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและมวลกล้ามเนื้อ และได้มีการตีพิมพ์เอกสารต้นฉบับเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อกับการเริ่มมีภาวะหลอดเลือดแข็ง ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างประวัติการล้มและปริมาณการออกกำลังกายที่เจตนา

Kirin และ Kao จะส่งเสริมความคิดริเริ่มที่มุ่งลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้บริโภคในอนาคต โดยการชี้แจงความสัมพันธ์ระหว่างมวลไขมันในอวัยวะภายในและกิจกรรม pDC ผ่านวิจัย HPRC

เกี่ยวกับ Kirin Holdings

Kirin Holdings Company, Limited เป็นบริษัทระหว่างประเทศที่ดำเนินการในส่วนของอาหารและเครื่องดื่ม (ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม) ส่วนของยา (ธุรกิจยา) และในด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ (ธุรกิจวิทยาศาสตร์สุขภาพ) ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก

Kirin Holdings สืบทอดมาจาก Japan Brewery ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1885 โดย Japan Brewery ได้กลายเป็น Kirin Brewery ในปี 1907 ตั้งแต่นั้นมา บริษัทก็ได้ขยายธุรกิจด้วยการหมักและเทคโนโลยีชีวภาพเป็นเทคโนโลยีหลัก และเข้าสู่ธุรกิจเภสัชกรรมในปี 1980 ซึ่งทั้งหมดยังคงเป็นศูนย์กลางการเติบโตระดับโลก ในปี 2007 Kirin Holdings ก่อตั้งขึ้นในฐานะบริษัทโฮลดิ้งอย่างแท้จริง และปัจจุบันนี้กำลังมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ

ภายใต้วิสัยทัศน์ Kirin Group Vision 2027 (KV 2027) ซึ่งเป็นแผนการจัดการระยะยาวที่เปิดตัวในปี 2019 ทำให้ Kirin Group มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำระดับโลกในด้าน CSV* ซึ่งสร้างมูลค่าให้กับโลกของอาหารและเครื่องดื่มไปจนถึงยา ในอนาคต Kirin Group จะยังคงใช้จุดแข็งต่าง ๆ เพื่อสร้างมูลค่าทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจผ่านธุรกิจของบริษัท โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรลุการเติบโตอย่างยั่งยืนในค่านิยมขององค์กร

* การสร้างคุณค่าร่วมกัน: รวมมูลค่าเพิ่มสำหรับผู้บริโภคและสังคมโดยรวม

เกี่ยวกับ Kao Corporation

Kao สร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูงซึ่งให้การดูแลและเพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตของทุกคนและโลกใบนี้ ด้วยผลงานของแบรนด์ชั้นนำกว่า 20 แบรนด์ เช่น Attack, Bioré, Goldwell, Jergens, John Frieda, Kanebo, Laurier, Merries และ Molton Brown โดย Kao เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนในเอเชีย โอเชียเนีย อเมริกาเหนือ และยุโรป Kao สร้างยอดขายต่อปีได้ประมาณ 1,420 พันล้านเยน เมื่อรวมกับธุรกิจเคมีภัณฑ์ซึ่งมีส่วนช่วยในหลากหลายอุตสาหกรรม Kao มีพนักงานประมาณ 33,500 คนทั่วโลกและมีประวัติยาวนานถึง 135 ปีในด้านนวัตกรรม โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ Kao Group สำหรับข้อมูลล่าสุด https://www.kao.com/global/en/

Kao Group ได้กำหนดกลยุทธ์ ESG ของ Kirei Lifestyle Plan ในเดือนเมษายน ปี 2019 และในปี 2021 Kao ได้เปิดตัวแผนระยะกลางปี ​​2025 (K25) ซึ่งประกาศว่า “การปกป้องชีวิตในอนาคต” และการส่งเสริมให้ “ความยั่งยืนเป็นหนทางเดียว” เป็นวิสัยทัศน์ของบริษัท Kao Group จะยังคงรวมกลยุทธ์ ESG เข้ากับแนวทางการจัดการ นอกจากนี้ยังจะพัฒนาธุรกิจ จัดหาผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีขึ้นสำหรับผู้บริโภคและสังคม และทำงานตามวัตถุประสงค์ “เพื่อให้เกิดโลก Kirei ที่ทุกชีวิตอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนสมานฉันท์”

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Press Contact
Corporate Communication Department Kirin Holdings Company, Limited
Nakano Central Park South, 4-10-2 Nakano, Nakano-ku, Tokyo
https://www.kirinholdings.com/en/
kirin-cc@kirin.co.jp

Corporate PR, Corporate Strategy, Kao Corporation
1-14-10, Nihonbashi Kayabacho, Chuo-ku, Tokyo
https://www.kao.com/global/en/
corporate_pr@kao.com

แหล่งข้อมูล: Kirin Holdings Company, Limited

Kirin Holdings: ช้อนและชามที่ช่วยเพิ่มรสเค็มของอาหารที่มีโซเดียมต่ำได้ประมาณ 1.5 เท่า*1 ผ่านการกระตุ้น

Logo

  • พัฒนารูปแบบของคลื่นกระแสไฟฟ้าที่มีลักษณะเฉพาะซึ่งช่วยเพิ่มความเค็มของอาหารที่มีโซเดียมต่ำได้ประมาณ 1.5 เท่า
  • อุปกรณ์ “เกลืออิเล็กทริก” รูปทรงช้อนและชามที่มีรูปแบบของคลื่นกระแสไฟฟ้านี้ได้รับการพัฒนาขึ้น
  • การทดลองสาธิตร่วมกับสองบริษัทที่เสนอการรับประทานเพื่อสุขภาพเริ่มขึ้นในเดือนกันยายน
  • ตั้งเป้าเปิดตัวอุปกรณ์ที่ประเทศญี่ปุ่นในปี 2566

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–07 กันยายน 2565

Kirin Holdings Company, Limited (Kirin) และ Dr. Homei Miyashita แห่งมหาวิทยาลัย Meiji University Laboratory of Department of Frontier Media Science, School of Interdisciplinary Mathematical Sciences (Miyashita Laboratory) ได้พัฒนาเครื่องกระตุ้นอิเล็กทริกที่ลักษณะเฉพาะในการช่วยเพิ่มการรับรสเค็มเมื่อรับประทานอาหารที่มีโซเดียมต่ำได้ประมาณ 1.5 เท่า และพัฒนาอุปกรณ์ “เกลืออิเล็กทริก” รูปทรงช้อนและชามที่รวมเทคโนโลยีนี้เข้าด้วยกัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220906005747/en/

Electric Salt Spoon (Photo: Business Wire)

ช้อนเพิ่มความเค็มอิเล็กทริก (ภาพ: Business Wire)

Kirin ร่วมกับ Noruto Company, Limited (Noruto) และ The Orangepage Inc. (Orangepage) จะเริ่มการทดลองสาธิตในเดือนกันยายนเพื่อประเมินความพึงพอใจในมื้ออาหารโดยการจัดให้อุปกรณ์นี้พร้อมอาหารที่มีโซเดียมต่ำเป็นชุด

เราตั้งเป้าที่จะเปิดตัวอุปกรณ์ “เกลืออิเล็กทริก” ในปี 2566 ด้วยอุปกรณ์นี้ เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมที่ผู้คนสามารถปรับปรุงวิถีชีวิตของพวกเขาได้อย่างเอร็ดอร่อย

ปัญหาสังคม “เกลือมากเกินไป”

ปริมาณเกลือที่คนญี่ปุ่นบริโภคในแต่ละวันคือ 10.9 กรัมสำหรับผู้ชาย และ 9.3 กรัมสำหรับผู้หญิงที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป*2 ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าสูงมากเมื่อเทียบกับมาตรฐานการบริโภคเกลือขององค์การอนามัยโลก (WHO)*3 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดญี่ปุ่นสำหรับอาหารที่มีโซเดียมต่ำและปราศจากเกลือได้ขยายตัวอย่างต่อเนื่องเพราะความใส่ใจในสุขภาพที่เพิ่มขึ้น โดยเติบโตขึ้นประมาณ 26% ในช่วงห้าปีระหว่างปี 2558 ถึง 2563 โดยประมาณการยอดขายอยู่ที่ 141.3 พันล้านเยน ในปี 2563*4 จากการสำรวจที่จัดทำโดยบริษัทของเรา*5 ของผู้อยู่อาศัยในเขตมหานครโตเกียว เราพบว่าประมาณ 63% ของผู้ที่รับประทานอาหารที่มีโซเดียมต่ำตั้งใจที่จะทำเช่นนั้นเพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ท้าทาย และในจำนวนนี้ประมาณ 80% ไม่พอใจกับรสชาติของอาหารที่มีโซเดียมต่ำ หากผู้คนยังคงสนุกกับการรับประทานอาหารที่มีโซเดียมต่ำต่อไป ก็จะช่วยปรับปรุงความท้าทายด้านสุขภาพและอาจขยายตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีโซเดียมต่ำและปราศจากเกลือได้

การวิจัยร่วมกันโดย Kirin และ Dr. Homei Miyashita Laboratory ของ Meiji University เพื่อแก้ปัญหาทางสังคม

ในการตอบสนองต่อปัญหาสังคมนี้ ตั้งแต่ปี 2562 เราได้ทำการวิจัยร่วมกับ Dr. Homei Miyashita Laboratory ในการใช้เทคโนโลยี “การรับรสด้วยอิเล็กทริก” ซึ่งใช้กระแสไฟฟ้าที่อ่อนมากซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์เพื่อการเปลี่ยนแปลงรสชาติของอาหารในการรับรู้ทางประสาทสัมผัสเทียม จากผลการวิจัยนี้ เราได้พัฒนารูปแบบของคลื่นกระแสไฟฟ้าที่มีลักษณะเฉพาะในการช่วยเพิ่มรสชาติของอาหารที่มีโซเดียมต่ำ และได้รับการยืนยันเป็นครั้งแรกในโลกว่าการรับรู้รสเค็มเมื่อรับประทานอาหารโซเดียมต่ำเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5 เท่าในการทดสอบทางคลินิกกับผู้ที่เคยหรือกำลังลดเกลือ

วิวัฒนาการของอุปกรณ์โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้า

ในการสำรวจของเรา*6 บะหมี่ราเมนและซุปมิโซะได้รับการจัดอันดับที่หนึ่งและสองในแง่ของ “อาหารของผู้ที่พยายามลดการบริโภคเกลือต้องการกินที่มีรสชาติเข้มข้นแทนที่จะเป็นรสบางเบา” เราพบว่ามีความต้องการสูงสำหรับ “อาหารที่เป็นรางวัล” อย่างเช่น บะหมี่ราเมนซึ่งพวกเขาชอบแต่ละเว้นจากการรับประทานเนื่องจากการลดเกลือ รสจัด และความต้องการน้ำซุปที่รสอร่อยสูงซึ่งมีนิสัยชอบรับประทานเป็นประจำทุกวันแต่ไม่พอใจกับรสชาติ

เพื่อขจัดความอดทนที่ลูกค้ามีในการลดเกลือเหล่านี้และทำให้มื้ออาหารของพวกเขาน่ารับประทานยิ่งขึ้น เราจึงได้พัฒนา “ช้อนเพิ่มความเค็มอิเล็กทริก” และ “ชามเพิ่มความเค็มอิเล็กทริก” ซึ่งเหมาะสำหรับการรับประทานบะหมี่ราเมนและน้ำซุป

“ช้อนเพิ่มความเค็มอิเล็กทริก” และ “ชามเพิ่มความเค็มอิเล็กทริก” ที่พัฒนาขึ้นใหม่นั้นล้ำหน้ากว่าและติดตั้งเทคโนโลยีรูปแบบคลื่นกระตุ้นไฟฟ้า*7 ซึ่งพัฒนาโดย Kirin และ ห้องปฏิบัติการของ Dr. Homei Miyashita และนำเสนอเป็นอุปกรณ์ประเภทตะเกียบเพื่อการดำเนินการทางสังคม

ช้อนเพิ่มความเค็มอิเล็กทริก

คุณสมบัติ:
เปิดสวิตช์ไฟที่ด้ามจับของช้อนและตั้งค่าความเข้ม (4 ระดับ) ตามที่คุณต้องการ
หลังจากเลือกแล้ว ให้ใช้ช้อนในลักษณะเดียวกับช้อนปกติ
กระแสไฟฟ้าอ่อนจะถูกส่งผ่านอาหารเพื่อสร้างผลกระทบจากปลายช้อน

การใช้งานที่เป็นไปได้:
แทนช้อนบะหมี่ราเมน
สำหรับน้ำซุปและแกงที่มีส่วนผสมมากมาย
อาหารมื้ออื่น ๆ โดยทั่วไป

ชามเพิ่มความเค็มอิเล็กทริก

คุณสมบัติ:
เปิดสวิตช์ไฟที่ด้านข้างของชามและตั้งค่าความเข้ม (4 ระดับ) ตามที่คุณชอบ
หลังจากเลือกแล้ว ให้ใช้ชามเหมือนชามทั่วไป
วางมือที่ด้านล่างของชาม
เมื่อถือไว้ กระแสไฟฟ้าอ่อนจะไหลเข้าไปในชามเพื่อสร้างผลลัพธ์

การใช้งานที่เป็นไปได้:
เมื่อรับประทานซุปมิโซะหรือน้ำซุป
ใช้เป็นชามเสิร์ฟสำหรับบะหมี่ราเมนและบะหมี่อุด้ง

การทดลองความร่วมมือกับสองบริษัท เพื่อเสนอประสบการณ์การรับประทานเพื่อสุขภาพโดยใช้อุปกรณ์

เพื่อให้ชีวิตประจำวันมีการรับประทานเกลือที่เข้มข้นน้อยลง เรายังนำเสนออาหารเพื่อสุขภาพที่น่ารับประทานด้วย “ช้อนเพิ่มความเค็มอิเล็กทริก” และ “ชามเพิ่มความเค็มอิเล็กทริก” โดยใช้ความรู้ของเราที่ปลูกฝังในฐานะบริษัทด้านอาหาร ในเดือนกันยายนของปีนี้ การทดลองสาธิตโดยใช้อุปกรณ์ “เกลืออิเล็กทริก” จะดำเนินการร่วมกับ Noruto ซึ่งดำเนินการร้านค้าปลีกที่จำหน่ายเฉพาะผลิตภัณฑ์โซเดียมต่ำ “Muen.com” ซึ่งซื้อขายผลิตภัณฑ์เป็นจำนวนมากที่สุด*8 ในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาโดยบริษัทและ Orangepage การทดลองสาธิตจะเริ่มในเดือนกันยายน โดยสมาชิกของแต่ละบริษัทจะได้รับเชิญให้เข้าร่วม อาหารโซเดียมต่ำแสนอร่อยที่พัฒนาโดยทั้งสองบริษัทจะนำเสนอเป็นชุดพร้อมอุปกรณ์ “เกลืออิเล็กทริก” และจะมีการประเมินระดับความพึงพอใจของพวกเขา

โครงร่างของการทดลองสาธิต

  1. ระยะเวลาดำเนินการ: เดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน 2565
  2. เรื่อง: สมาชิกของ Noruto และ Orangepage
  3. รายละเอียดการใช้งาน: สำรวจการชิมที่หน้างาน การทดสอบการใช้งานในบ้านเพื่อใช้ที่บ้าน

การพัฒนาในอนาคต

ประโยชน์ของอุปกรณ์ “เกลืออิเล็กทริก” จะได้รับการยืนยันผ่านการทดลองสาธิตในปีนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะวางจำหน่ายอุปกรณ์ที่ประเทศญี่ปุ่นในปี 2566 เรากำลังพัฒนาอุปกรณ์ “เกลืออิเล็กทริก” เพื่อส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้าที่กังวลเรื่องการลดเกลือ ในอนาคตเราจะส่งเสริมความร่วมมือกับบริษัทหลายแห่งในการส่งมอบอาหารเพื่อสุขภาพให้กับลูกค้า และมุ่งมั่นที่จะให้บริการที่ช่วยให้ลูกค้าได้ลิ้มลองรสชาติ และบรรลุนิสัยการกินเพื่อสุขภาพโดยไม่ต้องอดทนหรือหงุดหงิดอีกต่อไป

เกี่ยวกับ Kirin Holdings

Kirin Holdings Company, Limited เป็นบริษัทระหว่างประเทศที่ดำเนินการในโดเมนอาหารและเครื่องดื่ม (ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม) โดเมนเภสัชกรรม (ธุรกิจเภสัชกรรม) และโดเมนวิทยาศาสตร์สุขภาพ (ธุรกิจวิทยาศาสตร์สุขภาพ) ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก

Kirin Holdings แกะรอยรากเหง้ามาจาก Japan Brewery ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2428 Japan Brewery ได้กลายเป็น Kirin Brewery ในปี 2450 ตั้งแต่นั้นมาบริษัทก็ได้ขยายธุรกิจด้วยการหมักและเทคโนโลยีชีวภาพเป็นเทคโนโลยีหลัก และเข้าสู่ธุรกิจเภสัชกรรมในช่วงปี 2523 ซึ่งธุรกิจทั้งหมดยังคงเป็นศูนย์กลางการเติบโตทั่วโลก ในปี 2550 Kirin Holdings ก่อตั้งขึ้นในฐานะบริษัทโฮลดิ้งอย่างแท้จริง และขณะนี้กำลังมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมโดเมนวิทยาศาสตร์สุขภาพ

ภายใต้วิสัยทัศน์ Kirin Group Vision 2027 (KV 2027) ซึ่งเป็นแผนการจัดการระยะยาวที่เปิดตัวในปี 2562 โดย Kirin Group มีเป้าหมายที่จะเป็น “ผู้นำระดับโลกในด้าน CSV* ซึ่งสร้างมูลค่าให้กับโลกของอาหารและเครื่องดื่มสู่เภสัชกรรม” ในอนาคต Kirin Group จะยังคงใช้จุดแข็งเพื่อสร้างมูลค่าทั้งทางด้านสังคมและเศรษฐกิจผ่านธุรกิจของบริษัท โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรลุการเติบโตอย่างยั่งยืนในมูลค่าองค์กร

  1. เปลี่ยนค่าการประเมินความเข้มข้นของความเค็มในตัวอย่างที่เลียนแบบอาหารธรรมดาและตัวอย่างที่มีเกลือน้อยกว่า 30% ทดสอบโดยใช้ตะเกียบที่ติดตั้งเทคโนโลยีเกลืออิเล็กทริก (กระแสไฟ 0.1~0.5 mA) ชายและหญิงอายุระหว่าง 40-65 ปี จำนวน 31 คน ที่เคยหรือกำลังลดเกลือถูกถามถึงระดับความเค็มที่พวกเขารับรู้เมื่อรับประทานอาหารทดลอง และผู้ตอบแบบสอบถาม 29 ใน 31 คนตอบว่า ความเค็มเพิ่มขึ้น
  2. การสำรวจสุขภาพและโภชนาการแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการปี 2565
  3. น้อยกว่า 5.0 กรัม/วัน (ปี 2555 แนวทางของ WHO)
  4. Fuji Keizai “แนวโน้มตลาดอาหารเพื่อสุขภาพปี 2562” ขนาดตลาดปี 2563เป็นการคาดการณ์
  5. การวิจัย Kirin ระยะเวลาสำรวจ: มิถุนายน 2564 เป้าหมาย: ชายและหญิงอายุ 40-79 ปี อาศัยอยู่ในเขตมหานครโตเกียว (N=4,411) รูปแบบ: การสำรวจทางเว็บ ประมาณ 47% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดรับประทานอาหารที่โซเดียมต่ำ/เต็มใจที่จะทำเช่นนั้น
  6. การวิจัย Kirin ระยะเวลาสำรวจ: มกราคม 2565 เป้าหมาย: ชายและหญิงอายุ 30-69 ปี จำนวน 120 คนที่กำลังฝึกลดเกลือ รูปแบบ: แบบสำรวจ CLT อนุญาตให้ตอบได้หลายแบบ
  7. ข่าวประชาสัมพันธ์ของผลการวิจัย (วันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2565) https://www.kirinholdings.com/jp/newsroom/release/2022/0411_01.html
  8. ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีโซเดียมต่ำจำนวนมากที่สุดที่ซื้อขายในประเทศญี่ปุ่น/ วิจัยโดย Nord (อ้างอิงจากข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ณ วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม 2565)

*: การสร้างมูลค่าร่วมกัน รวมมูลค่าเพิ่มสำหรับผู้บริโภคตลอดจนสังคมโดยทั่วไป

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220906005747/en/

ติดต่อสื่อ
Corporate Communication Department
Kirin Holdings Company, Limited
Nakano Central Park South, 4-10-2 Nakano, Nakano-ku, Tokyo
+81-3-6837-7028
https://www.kirinholdings.com/en/
kirin-cc@kirin.co.jp

Public Relations Office, Meiji University
1-1 Kanda-Surugadai, Chiyoda-ku, Tokyo
https://www.meiji.ac.jp/cip/english/
Email: koho@mics.meiji.ac.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย