Tricor Group นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการขยายตลาดทั่วโลกโดยมุ่งเน้นที่กลุ่มอาเซียน : แนวโน้มเศรษฐกิจ ข้อมูลเชิงลึกและโอกาสทางธุรกิจ

Logo

ฮ่องกง–(บิสิเนสไวร์)–26 พฤษภาคม 2565

หลังจากอัตราการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ค่อนข้างซบเซาในปีที่แล้ว ระบบเศรษฐกิจของสมาคมประชาชาติ แห่งเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) อยู่ในตำแหน่งที่ดีสำหรับการเติบโตและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในปี 2565 และปีต่อๆ ไปตามข้อมูลจาก รายงานมุ่งเน้นกลุ่มอาเซียนของ Tricor Group : แนวโน้มเศรษฐกิจ ข้อมูลเชิงลึก และ โอกาสทางธุรกิจ  ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจเพื่อเป็นแนวทางให้กับบรรษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ (MNCs) วิสาหกิจขนาดกลางละขนาดย่อม (SMEs)  และผู้ประกอบการที่สนใจในการจัดตั้งประกอบกิจการ และขยายการเติบโต ของธุรกิจทั่วอาเซียน

รายงานนี้นำเสนอมุมมอง ข้อสังเกต และการวิเคราะห์จากผู้บริหารระดับสูงของ Tricor ในประเด็นว่าแนวโน้มการค้าโลก มีผลกระทบต่อ การค้าการลงทุน และการขยายตลาดโลกในระบบเศรษฐกิจของอาเซียนอย่างไร  รายงานประกอบด้วย ส่วนพิเศษเกี่ยวกับ การลงนามที่สำคัญในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)   ที่เป็นการเชื่อมโยง 15 ประเทศเข้าด้วยกัน และ ครอบคลุม 30% ของประชากรโลกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม การค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก RCEP คาดว่าจะลดภาษีลง 90% ถึง 93% ของรายการภาษีข้ามพรมแดน รายงานยังมีภาพรวมของแต่ละตลาดในอาเซียน โดยมีหัวข้อเฉพาะสำหรับ การจัดตั้งบริษัท การพิจารณาด้านภาษี และสภาพแวดล้อมด้านแรงงาน

Lennard Yong CEO ของ Tricor Group กล่าวว่า “การอนุมัติกลุ่มการค้า RCEP เป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับการค้าโลกและ การพัฒนาที่สำคัญซึ่งจะเปลี่ยนทิศทางกระแส FDI อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในอีกหลายเดือนและปีข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เศรษฐกิจที่เติบโตเต็มที่ของอาเซียนทำหน้าที่เป็นหัวใจหลักในการกระตุ้นให้เกิดข้อตกลง ซึ่งที่Tricor เราเฝ้าติดตามว่าข้อตกลงที่สำคัญนี้จะกระตุ้นให้เกิดแนวโน้มการค้าโลกใหม่ๆ หนุนห่วงโซ่อุปทานในเอเชียและขยายโอกาส สำหรับนักลงทุน ต่างชาติอย่างไร  ด้วยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางของไตรคอร์ในแต่ละท้องที่ และการเชื่อมต่อแบบยืดหยุ่น ช่วยเสริมสถานะของเรา ในฐานะพันธมิตร 'ที่ทุกคนเลือก' สำหรับองค์กรที่ต้องการขยายไปทั่วอาเซียน เอเชียแปซิฟิก และอื่นๆ”

Wendy Wang, CFO & COO ของ Tricor Group กล่าวว่า “ในขณะที่โควิด-19 ได้สร้างกระแสการกีดกันทางการค้าไปทั่วโลก RCEP ได้คาดการณ์ว่าเครือข่ายการค้าทั่วเอเชียจะมีขนาด ความสำคัญ และขอบเขตมากกว่าของข้อตกลงการค้า ของสหภาพยุโรป  โดยเชื่อว่าการ เปิดกว้างของตลาดที่เพิ่มขึ้นจะส่งเสริมความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ  ซึ่งลักษณะเด่นที่มี แนวโน้มมากที่สุดอย่างหนึ่งของข้อตกลงนี้คือ เป็นครั้งแรกที่กลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ (Emerging Economic) ในอาเซียนจะถูกเชื่อมโยงกับ ประเทศ มหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว ของจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ผ่านข้อตกลงการค้าที่ครอบคลุมในฉบับเดียว โดยที่RCEP ใกล้จะรับรองว่าการค้าภายในเอเชีย ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าการค้าระหว่างเอเชียแปซิฟิกกับอเมริกาเหนือ และ ยุโรป รวมกันแล้วจะยังคงทำหน้าที่เป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโต สำหรับเศรษฐกิจโลกต่อไป”

David Ong CEO ของ Tricor Singapore กล่าวว่า “RCEP ส่งเสริมการค้าข้ามพรมแดนอย่างมาก ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ ของเศรษฐกิจแบบเปิดและเพื่อส่งออกของสิงคโปร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทในสิงคโปร์จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ในการจัดหาสินค้า หรือวัตถุดิบ  และขณะนี้สามารถเข้าถึงแหล่งผู้จัดหาสินค้าที่ใหญ่ขึ้นทั่วทั้งอาเซียนและเอเชียแปซิฟิก ที่ Tricor Singapore เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้ องค์กรระดับโลก และท้องถิ่นพลิกโฉมแผนธุรกิจของพวกเขา เพื่อให้พวกเขาสามารถ ใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นใหม่ เหล่านี้ และร่วมมือกับพันธมิตรระดับภูมิภาคเพื่อสำรวจตลาดใหม่ๆ”

Sunshine Farzan หัวหน้าฝ่ายการตลาดและการสื่อสารของ Tricor Group กล่าวว่า “พาดหัวข่าวในช่วงสองปีที่ ผ่านมาถูกครอบงำโดยเรื่องราวที่อยู่ทุกหนทุกแห่ง นั่นก็คือโควิด-19  มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถคาดการณ์ได้ถึงความทุกข์ยาก และการหยุดชะงักที่แพร่หลายที่โรคระบาดใหญ่นี้มีต่อเศรษฐกิจและภาคธุรกิจทั่วโลก แต่จากประสบการณ์ภาคพื้นสนามล่าสุดของ Tricor Group ชี้ให้เห็นว่า แม้จะมีอุปสรรค์และความไม่แน่นอนที่รออยู่ข้างหน้า โอกาสที่เกิดขึ้นใหม่ ยังมีมากมายสำหรับธุรกิจทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นโยบายเศรษฐกิจที่ผ่านเมื่อเร็วๆ นี้และการเกิดของ RCEP กำลังเปิดโอกาสใหม่ ๆ ในอาเซียน ด้วยการเน้นย้ำถึงโอกาสที่จะเกิดขึ้นเหล่านี้และกำหนดขั้นตอนที่เป็นไปได้ไปข้างหน้า คู่มือธุรกิจอาเซียนของ Tricor สามารถช่วยผู้นำธุรกิจและนักลงทุนให้ก้าวล้ำนำหน้าในภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน”

ไฮไลท์สำคัญจากแนวโน้มเศรษฐกิจอาเซียนและดัชนีชี้วัดธุรกิจของ Tricor ได้แก่

  • เจาะลึกการจัดตั้งบริษัท การพิจารณาด้านภาษี และสภาพแวดล้อมด้านแรงงานสำหรับเศรษฐกิจอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ
  • การสำรวจอาเซียนในฐานะที่เป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตสำหรับกลยุทธ์การลงทุนและการขยายกิจการของบรรษัท ข้ามชาติจากจีนแผ่นดินใหญ่
  • ภาพรวมของอาเซียนและผลกระทบของ RCEP โดยพิจารณาจากกระแส FDI และข้อมูลจากแหล่งภายนอก ที่ผ่าน การรับรอง ตลอดจนข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญของ Tricor ว่าเหตุใดบรรษัทข้ามชาติขนาดใหญ่และนักลงทุน จึงเลือกอาเซียนสำหรับการขยายธุรกิจ
  • การวิเคราะห์จุดยืนของสิงคโปร์ในฐานะ 'ประตูสู่อาเซียน' โดยให้ความสนใจกับสาเหตุที่บรรษัทข้ามชาติขนาดใหญ่จากทั่วโลก ต่างมุ่งเป้าไปที่สิงคโปร์ในฐานะที่เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับแผนการขยายธุรกิจทั่วโลก
  • สรุปความท้าทายทั่วไปและวิธีที่ Tricor ช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายในการขยายกิจการทั่วโลกและการลงทุน ในระบบเศรษฐกิจของอาเซียน

ด้วยบริการและความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของ Tricor คำแนะนำที่ให้ไว้ในรายงานเป็นข้อมูลเชิงลึกแก่บริษัท เพื่อวัตถุประสงค์ ทางธุรกิจ และการใช้ประโยชน์จากแนวโน้มการค้าโลกล่าสุดที่เปลี่ยนแปลงอาเซียน เอเชียแปซิฟิก และอื่นๆ

เพื่อเรียกดูคู่มือกรุณาคลิกที่นี่ https://www.tricorglobal.com/asean-in-focus-economic-outlook-insights-opportunities

ขอบคุณ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ

HONG KONG SAR (GROUP OFFICE)

Sunshine Farzan

Tricor Services Limited

Group Head of Marketing & Communications

Tel: +852 2980 1261

Email: Sunshine.Farzan@hk.tricorglobal.com

เกี่ยวกับ Tricor Group

Tricor Group (Tricor) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการขยายธุรกิจชั้นนำของเอเชีย โดยมีความรู้ครอบคลุมทั่วโลก และ มีผู้เชี่ยวชาญในแต่ละท้องถิ่น ในด้านธุรกิจ องค์กร นักลงทุน ทรัพยากรบุคคล และ การจัดทำเงินเดือน บริการด้านคอร์เปอเรททรัสต์ และ หนี้ และ ที่ปรึกษาด้านการกำกับดูแล Tricor เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับการเติบโตของธุรกิจของลูกค้า ตั้งแต่การจัดตั้ง ไปจนถึงการเสนอขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งTricor มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วผ่านการเติบโต และ การพัฒนาที่เกิดขึ้น ตลอดจนการเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วน การควบรวมกิจการ และการเข้าซื้อกิจการ  โดยปัจจุบันกลุ่มบริษัท มีลูกค้าประมาณ 50,000 รายทั่วโลก (รวมถึงลูกค้าประมาณ 20,000 รายในจีนแผ่นดินใหญ่) มีพนักงานประมาณ 3,000 ราย และเครือข่ายสำนักงานใน 49 เมืองใน 22 ประเทศ/เขตแดน กลุ่มลูกค้าของเราประกอบด้วยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประมาณ 2,000 แห่งในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง จีนแผ่นดินใหญ่ สิงคโปร์ และมาเลเซีย และมากกว่า 40% ของบริษัทที่ติดอันดับ Fortune Global 500 รวมถึงบรรษัทข้ามชาติและองค์กรเอกชนที่ประกอบกิจการในตลาดระหว่างประเทศจำนวนมาก

เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์: www.tricorglobal.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย