ประเทศไทย–(BUSINESS WIRE)–1 กุมภาพันธ์ 2021
ตามรายงานการค้าในเอเชียแปซิฟิกปี 2021 ของไตรคอร์กรุ๊ป (Tricor Group) กล่าวว่า เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับข้อตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างประเทศอื่น ๆ จะเห็นได้ว่า ข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (the Regional Comprehensive Economic Partnership Agreement: RCEP) ซึ่งประเทศไทยได้ลงนามร่วมกับประเทศอื่น ๆ จำนวน 14 ประเทศ ในเดือนพฤศจิกายน 2020 และคาดการณ์ว่าจะเริ่มดำเนินการตามข้อตกลงในปี 2021 มีความซับซ้อน และได้วางกรอบสำคัญสำหรับมาตรฐานขั้นพื้นฐานในการค้าของประเทศในเอเชียซึ่งสูงกว่าและกว้างกว่าข้อกำหนดหรือเงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้โดยองค์การการค้าโลก (the World Trade Organization: WTO)
รายงานที่เผยแพร่ในวันนี้ต่อสื่อต่างๆ และผู้นำทางธุรกิจ โดยอาศัยข้อมูลอุตสาหกรรมจากศูนย์วิจัยและสื่อที่หลากหลายเพื่อเสนอมุมมองข้อมูลเชิงลึก ข้อสังเกต และการคาดการณ์ที่รวบรวมโดยผู้บริหารระดับสูงของไตรคอร์เกี่ยวกับแนวโน้มการค้าโลกที่จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมการค้าและการลงทุนของภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก หรือ APAC ในปีหน้า
รายงานการค้าในเอเชียแปซิฟิกของไตรคอร์กรุ๊ปปี 2021 ได้มุ่งเน้นไปที่วิธีการดำเนินการตามหลักสำคัญของ RCEP ในปี 2021 ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเปิดกว้างของตลาดการค้าและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับธุรกิจในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกซึ่งฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ภายในรายงานดังกล่าวไตรคอร์ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อกำหนดของ RCEP และนำเสนอสรุปขั้นตอนสำคัญที่บริษัทต่างๆ สามารถดำเนินการเพื่อเตรียมความพร้อมและใช้ข้อตกลงดังกล่าวให้เกิดประโยชน์และสร้างศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ นอกจากนี้รายงานฉบับนี้มีคําแนะนําในการทําธุรกิจในประเทศไทยและตลาดสำคัญอื่นๆ ใน RCEP อันได้แก่ ประเทศออสเตรเลีย ประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น ประเทศมาเลเซีย ประเทศสิงคโปร์ ประเทศเกาหลีใต้ และประเทศเวียดนาม (ซึ่งไตรคอร์มีสำนักงานตั้งอยู่ในประเทศเหล่านี้เช่นกัน)
ภายใต้ข้อตกลง RCEP ผู้ประกอบธุรกิจและนักลงทุนในประเทศไทยคาดหวังโอกาสทางการค้าที่จะเพิ่มขึ้นทั่วอาเซียนและภูมิภาค APAC เนื่องจากสินค้าจำนวนมากมีสิทธิได้รับการลดภาษีระหว่างประเทศมากขึ้น ความโปร่งใสด้านกฎระเบียบ การยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา และการลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับพิธีการทางศุลกากร
คุณดีแลนด์ หม่า (Mr. Dyland Mah) กรรมการผู้จัดการ บริษัทไตรคอร์ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “RCEP ได้รวมประเทศต่างๆ ที่มีทัศนคติและมุมมองที่แตกต่างกันเข้าด้วยกัน การร่วมมือในระดับพหุภาคีและการเข้าสู่ตลาดในระดับที่ใหญ่ขึ้น ประเทศต่างๆ ใน RCEP สามารถสร้างความยืดหยุ่นและความร่วมมือกันในภูมิภาคได้มากขึ้น แต่เนื่องจากขนาดและความหลากหลายของ RCEP การปฎิบัติตามข้อตกลงอาจส่งผลให้เกิดความยุ่งยากซับซ้อนสำหรับบางธุรกิจ ดังนั้นในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการขยายธุรกิจของประเทศไทย เรา (ไตรคอร์) หวังว่าจะได้มีโอการร่วมงานกับบริษัทต่าง ๆ เพื่อรับมือกับความท้าทายที่กำลังจะเกิดขึ้น และก้าวนำอยู่เหนือธุรกิจอื่น ”
คุณเลนนาร์ด ย้ง (Mr. Lennard Yong) ประธานกรรมการบริหารของไตรคอร์กรุ๊ป กล่าวว่า “ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าการก่อตั้งของกลุ่มการค้า RCEP เป็นการพัฒนาการค้าในระดับโลกที่สำคัญซึ่งอาจเปลี่ยนเส้นทางหรือแนวทางการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment (FDI)) ในระยะเวลาข้างหน้านี้ สำหรับไตรคอร์ เราคำนึงและตระหนักว่าข้อตกลงการค้านี้ อาจเปลี่ยนแปลงแนวทางการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ไปสู่แนวทางใหม่ ๆ ในธุรกิจระหว่างประเทศ สำหรับรายงานการค้าในเอเชียแปซิฟิกปี 2021 ของไตรคอร์กรุ๊ปนี้ ได้ให้แนวทางสำคัญกับองค์กรชั้นนำระดับโลกและระดับประเทศเพื่อเป็นเครื่องมือในการสร้างประโยชน์จากโอกาสที่จะเกิดขึ้นจาก RCEP ความเชี่ยวชาญนี้ได้ชี้ชัดถึงความเป็นผู้นำของเราในภูมิภาคนี้ในฐานะพันธมิตรขององค์กรที่ต้องการขยายธุรกิจไปทั่วเอเชียแปซิฟิกและภูมิภาคอื่น ๆ”
คุณแกรี่ ต็อก (Mr. Gary Tok) ประธานกรรมการด้านพาณิชย์ธุรกิจ ไตรคอร์กรุ๊ป กล่าวว่า “การลงนามในข้อตกลง RCEP เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมากสำหรับธุรกิจและนักลงทุนในเอเชียแปซิฟิกและรวมไปถึงระดับที่กว้างไกลกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ต้องฝ่าฟันความตึงเครียดจากการระบาดของ COVID-19 ที่เกิดขึ้นกับห่วงโซ่อุปทานของโลก ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ไตรคอร์ได้มีส่วนช่วยเหลือหลายธุรกิจซึ่งต้องเผชิญกับคลื่นของภัยร้ายจากโรคระบาดที่ไม่อาจคาดคิด ตลอดจนได้มีเตรียมการสำหรับสิ่งซึ่งไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต และสำหรับข้อตกลงทางการค้าที่สำคัญนี้ เรารอที่จะได้ร่วมงานกับธุรกิต่างๆ ทั่วโลก ในการช่วยทบทวนและปรับรูปแบบธุรกิจเพื่อทำให้ธุรกิจเหล่านั้นได้รับประโยชน์จากเครือข่ายห่วงโซ่อุปทานและความร่วมมือระดับพหุภาคีที่จะได้รับจาก RCEP”
คุณซันไชน์ ฟาซาน (Ms. Sunshine Farzan) หัวหน้าฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร ไตรคอร์กรุ๊ป กล่าวว่า “ในปี 2020 ข่าวสำคัญทั่วโลกเรื่องหนึ่งก็คือ การระบาดของ COVID-19 ซึ่งเรามีความกังวลใจว่าปัญหาการระบาดจะทำให้เกิดการหยุดชะงักของเศรษฐกิจทั่วโลก ในรายงานการค้าในระดับเอเชียแปซิฟิกปี 2021 ของไตรคอร์กรุ๊ป ซึ่งรวบรวมจากข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณแสดงให้เห็นว่า แม้จะมีอุปสรรคและความไม่แน่นอนในอนาคตอยู่มาก ก็ยังคงมีโอกาสใหม่ ๆ ที่ยิ่งใหญ่สำหรับธุรกิจทั่วโลกในปี 2021 อาทิเช่น ประโยชน์มหาศาลที่จะได้รับจากข้อตกลง RCEP ด้วยการรวมมุมมองและข้อคิดเห็นในการก้าวไปในอนาคต รายงานนี้จะช่วยธุรกิจและผู้ลงทุนให้ก้าวนำและอยู่เหนือความเปลี่ยนแปลงในทุกวันนี้ ”
– ขอบคุณ –
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ
HONG KONG SAR (GROUP OFFICE)
Tricor Services Limited
Group Head of Marketing & Communications
Tel: +852 2980 1261
Email: Sunshine.Farzan@hk.tricorglobal.com
เกี่ยวกับ บริษัท ไตรคอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัทไตรคอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดตั้งขึ้นในปี 2005 และมีสำนักงานตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งบริการของเราครอบคลุมทั้งบริการจัดทำบัญชีและภาษีอากรให้กับบริษัทต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย และธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก, บริการด้านเลขานุการและการจัดการทั่วไปสำหรับบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และบริการด้านการจัดทำเงินเดือน หากท่านต้องการที่จะจัดตั้งธุรกิจในประเทศไทย พนักงานผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมที่จะให้คำแนะนำในการเข้าถึงโอกาสใหม่ๆ ในระบบเศรษฐกิจที่มีความยืดหยุ่น โครงสร้างพื้นฐานชั้นแนวหน้า ทรัพยากรบุคคลที่มีความสามารถ และการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากภาครัฐ
ไตรคอร์กรุ๊ป (“ไตรคอร์”) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านขยายธุรกิจระดับชั้นนำของเอเชีย ซึ่งมีองค์ความรู้ระดับโลก และมีสำนักงานซึ่งให้บริการทางธุรกิจ บริการด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบริษัท บริการให้คำแนะนำแก่นักลงทุน บริการทรัพยากรบุคคลและเงินเดือน บริการทรัสต์สำหรับองค์กร (Corporate trust & debt services) และบริการให้คำปรึกษาทางด้านกลยุทธ์ทางธุรกิจ ไตรคอร์มีสำนักงานใหญ่ประจำที่ฮ่องกง เราให้บริการมากกว่า 21 ประเทศ/เขตการปกครอง มีเครือข่ายสำนักงานใน 47 เมือง เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในความดูแลมากกว่า 50,000 รายทั่วโลก โดยจำนวนลูกค้าดังกล่าว กว่า 2,000 บริษัทเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในเอเชีย และมากกว่า 40 % เป็นบริษัทที่อยู่ในรายชื่อบริษัทชั้นนำ 500 แห่งทั่วโลกจากการรวบรวมและจัดอันดับโดยนิตยสาร Fortune นอกจากนี้ไตรคอร์มีพนักงานกว่า 2,700 คน ซึ่งเป็นพนักงานที่มีใบรับรองทางวิชาชีพถึง 630 คน โดยเราพร้อมให้บริการที่สำคัญเพื่อสนับสนุนบริษัทที่มีความมุ่งมั่นในการเติบโตทั้งในระดับเอเชียและระดับต่อไป
จุดแข็งของไตรคอร์ประกอบขึ้นจากประสบการณ์เชิงลึกในทุกๆ อุตสาหกรรม พนักงานที่มุ่งมั่น การดำเนินการที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี การปฏิบัติการตามมาตรฐาน การให้ความสนใจในการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายและกฎระเบียบ และการติดต่อสื่อสารกับอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ไตรคอร์มีความสามารถเฉพาะเพื่อปลดล็อกศักยภาพของธุรกิจของท่าน และช่วยให้ท่านก้าวไปข้างหน้าในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและหลากหลายในปัจจุบัน
โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา: www.tricorglobal.com/locations/thailand
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย