Category Archives: General News

ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยชิงหวาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเถาหยวน

Logo

ซินจู๋, ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–22 กันยายน 2565

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ศูนย์การแพทย์ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยชิงหวา ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในอาคารซินกง ย่านชิงผู่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของบริษัทรถไฟฟ้าเถาหยวน โดยพื้นที่สำหรับสร้างโรงพยาบาลจะอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเพียงสถานีเดียว

เอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220922005421/en/

At the opening ceremony (right to left): NTHU senior vice presidents Tai Nyan-hwa and Lyu Ping-chiang, NTHU president W. John Kao, Taoyuan City mayor Cheng Wen-tsan, former NTHU president Hocheng Hong, Taoyuan Metro chairman Liu Kun-I, and Taoyuan Aerotropolis chairman Chen Si-jhen. (Photo: National Tsing Hua University)

ในพิธีเปิด (จากขวาไปซ้าย): Tai Nyan-hwa และ Lyu Ping-chiang รองประธานอาวุโสแห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา W. John Kao ประธานแห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา Cheng Wen-tsan นายกเทศมนตรีเมืองเถาหยวน Hocheng Hong อดีตประธานมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา Liu Kun-I ประธานบริษัทรถไฟฟ้าเถาหยวน และ Chen Si-jhen ประธานการพัฒนาเมืองศูนย์กลางการบินเถาหยวน (ภาพ: มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา)

มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวาและรัฐบาลท้องถิ่นเมืองเถาหยวนได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงซึ่งระบุแผนการร่วมกันจัดตั้งศูนย์การแพทย์ระดับโลกเพื่อให้บริการชุมชนท้องถิ่น แผนนี้ยังรวมถึงความช่วยเหลือในการฝึกอบรมครูที่พูดได้สองภาษาและการสนับสนุนการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และการศึกษาที่เน้นการทดลองในโรงเรียนอนุบาล ประถมศึกษา และมัธยมศึกษาของเถาหยวน

ศูนย์การแพทย์ได้เปิดอย่างเป็นทางการโดยนายกเทศมนตรีเมืองเถาหยวน Cheng Wen-tsan และประธานแห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา W. John Kao

นายกเทศมนตรี Cheng มีบทบาทสำคัญต่อโครงการของโรงพยาบาลในช่วงแรก เขาชี้ให้เห็นว่าไต้หวันเก่งทั้งด้านอิเล็กทรอนิกส์และการแพทย์ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ได้เปิดทำการสอนที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา เขาจึงเป็นผู้สนับสนุนและผลักดันมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวาอย่างแข็งขันผ่านความยากลำบากทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขั้นตอนการวางแผน

Cheng ย้ำว่ารถพยาบาลจะใช้เวลาเพียงสิบนาทีจากสนามบินนานาชาติเถาหยวนไปยังห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลแห่งใหม่ และนอกเหนือจากการผ่าตัดเสริมความงามและการตรวจสุขภาพแล้ว โรงพยาบาลยังให้บริการดูแลผู้ป่วยวิกฤตและการบำบัดด้วยการจับยึดนิวตรอนจากธาตุโบรอน (BNCT) อีกด้วย

นอกจากนี้ คาดว่าโรงพยาบาลจะเป็นศูนย์กลางชั้นนำในการพัฒนาเทคโนโลยีการสร้างเซลล์ใหม่ขั้นสูงอีกด้วย

ประธาน Kao กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่สำคัญมากของมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา เนื่องจากสถาบันมีจุดมุ่งหมายในการศึกษาวิชาการด้านการแพทย์มาช้านาน และในที่สุดความฝันก็เกิดขึ้นจริง โดยระบุว่า “วันนี้เป็นก้าวใหม่ในการเดินทาง 50 กิโลเมตรจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวาสู่เถาหยวน ซึ่งดำเนินมายาวนานถึง 66 ปี”

Kao ยังกล่าวอีกว่า ปีนี้อาจเป็น “ปีของการแพทย์” ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา เนื่องจากมีนักศึกษาแพทย์ชุดแรกที่ได้ทำการลงทะเบียนเรียนเมื่อไม่นานมานี้

โรงพยาบาลจะตั้งอยู่ใกล้สถานีเหิงซาน (A16) ของรถไฟฟ้าสายสนามบินนานาชาติเถาหยวน บนพื้นที่ที่เมืองเถาหยวนจัดหาให้ โดยมีขนาด 7.2 เฮกตาร์ ซึ่งพื้นที่ 5 เฮกตาร์จะใช้สำหรับโรงพยาบาลเอง ในขณะที่อีก 2.2 เฮกตาร์ที่เหลือจะใช้สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการสอนและการวิจัยที่เกี่ยวข้อง

Lyu Ping-chiang รองประธานอาวุโสแห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา กล่าวว่า ข้อตกลงการรับสิทธิตามสัญญาสัมปทานจากรัฐบาลในการลงทุนก่อสร้างและดำเนินงาน (BOT) จะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้ และการก่อสร้างจะเริ่มในปีหน้าไม่นานหลังจากการโอนที่ดินเสร็จสิ้น โดยโรงพยาบาลคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2570 และเปิดในปี 2571

ในช่วงแรก โรงพยาบาลจะมีเตียงผู้ป่วยเฉียบพลันทั่วไป 200 เตียง รวมทั้งแผนกผู้ป่วยหนัก หออภิบาลโรคทางเดินหายใจ ห้องแยกผู้ป่วยติดเชื้อแบบความดันลบ และหน่วยจิตเวชสำหรับทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ซึ่งทั้งหมดจะค่อย ๆ ขยับขยายออกไปเป็นเวลาหลายปีเพื่อให้สามารถจุผู้ป่วยได้ถึง 910 เตียง

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220922005421/en/

ติดต่อ:

Holly Hsueh
มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา
(886)3-5162006
hoyu@mx.nthu.edu.tw

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

IDP ประกาศถึงความร่วมมือกับ Intake Education

Logo

สองบริษัทแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก ตัดสินใจร่วมงานัน เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกอย่างแท้จริง

ซิดนีย์–(BUSINESS WIRE)–21 กันยายน 2565

วันนี้ IDP Education รู้สึกเป็นเกียรติ และยินดีต้อนรับ Intake Education, องค์กรแนะแนวศึกษาต่อระหว่างประเทศชั้นนำเข้ามาร่วมงานและเป็นส่วนหนึ่งกับเครือข่ายทั่วโลกของ IDP

ด้วยความสอดคล้องทางด้านวัฒนธรรมองค์กร และเป้าหมายในการสนับสนุนช่วยเหลือแก่นักเรียน และสถาบันการศึกษาต่างๆทั่วโลกอย่างมีคุณภาพ IDP และ Intake Education จึงตัดสินใจทำงานร่วมกันครั้งนี้

Intake จะนำความเชี่ยวชาญกว่าสามทศวรรษ ในฐานะผู้นำธุรกิจด้านการบริการแนะแนวศึกษาต่อในสหราชอาณาจักรเข้าสู่เครือข่ายของ IDP

ปัจจุบัน Intake มีการให้บริการแบบ “Student First” หรือนักเรียนต้องมาเป็นอันดับแรก และมีสาขาครอบคลุมกว่า 10 ประเทศทั่วโลก เจ้าหน้าที่แนะแนวของ Intake ทุกคนจะเป็นกำลังสำคัญ ที่มีความชำนาญและประสบการณ์ที่หลากหลาย พร้อมเข้ามาเสริมทัพกับทีมงานของ IDP ที่มีพนักงานมากกว่า 5,000 คนทั่วโลก

Murray Walton ประธานเจ้าหน้าที่บริหารชั่วคราวของ IDP เผยถึงปัจจัยในการร่วมมือกับ Intake เพราะต้องการให้ IDP สามารถขยายเครือข่ายการให้บริการ การให้ความช่วยเหลือแก่นักเรียนต่างชาติ ให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น

“จากการจับมือร่วมกันระหว่าง IDP และ Intake เราจะก้าวสู่การเป็นผู้นำระดับโลกในการให้บริการช่วยเหลือที่ต้องการศึกษาต่อต่างประเทศ” คุณ Walton กล่าว

Mr Walton กล่าวถึงนโยบายการให้บริการของ Intake ว่า “IDP ชื่นชอบการบริการที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นที่ตั้ง และความต้องการของลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลางของ Intake ซึ่งตลาดในปัจจุบันมีการแข่งขันสูง และมีองค์กรที่หวังแต่ผลตอบแทน โดยไม่คำนึงถึงความต้องการที่แท้จริงของนักเรียน

“เช่นเดียวกับ IDP ทีมงานของ Intake ให้ความสำคัญในการทำงานเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับนักเรียนและพันธมิตรสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ของพวกเขา” คุณ Walton กล่าว

“องค์ของเราทั้งคู่ มีความภูมิใจอย่างยิ่ง ที่จะให้บริการนักเรียนของพวกเรา ตั้งแต่วันที่นักเรียนเริ่มค้นหาข้อมูล จนได้เข้าไปเรียนในชั้นเรียนหรือสาขาวิชาชีพที่พวกเขาต้องการ”

Pieter Funnekotter, ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Intake Education กล่าวว่า Intake จะทำให้ IDP แข็งแกร่งและเติบโตยิ่งขึ้น “การร่วมงานระหว่าง IDP และ Intake จะช่วยขยายตลาดด้านการศึกษาต่อต่างประเทศให้หลากหลาย กว้างขวาง และครอบคลุมพื้นที่ ประกอบกับการมีตัวเลือกสาขาในการศึกษามากขึ้น นอกจากนี้ยังจะช่วยพัฒนาปรับปรุงและสร้างมาตรฐานใหม่ๆ ในการช่วยเหลือและสนับสนุนนักเรียน ให้บรรลุวัตถุประสงค์ และประสบความสำเร็จในการศึกษาต่อต่างประเทศอย่างที่พวกเขาตั้งใจไว้” คุณ Funnekotter กล่าว

IDP จะควบรวมสำนักงานต่าง ๆ ของ Intake ที่ตั้งอยู่ในประเทศต่างๆ ดังนี้  ไนจีเรีย กานา เคนยา ฟิลิปปินส์ ประเทศไทย ไต้หวัน อินเดีย และสหราชอาณาจักร

Mary Kay ท้าทายเยาวชนทั่วโลกในการจัดการเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ 14: ทรัพยากรทางทะเลในเครือข่ายประจำปีที่สามสำหรับ Teaching Entrepreneurship World Series of Innovation Challenge

Logo

การแข่งขันระดับโลกเฉลิมฉลองการเป็นผู้ประกอบการของเยาวชนและพลังแห่งความคิดเชิงนวัตกรรม

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–15 กันยายน 2565

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนองค์กรชั้นนำด้านการเสริมสร้างพลังอำนาจและการเป็นผู้ประกอบการของสตรี ประกาศความท้าทาย World Series of Innovation (WSI) ประจำปีครั้งที่ 3 ร่วมกับ Network for Teaching Entrepreneurship (NFTE) การแข่งขันระดับโลกเชิญชวนให้เยาวชนอายุระหว่าง 13-24 ปี ได้ทดสอบทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษยชาติเผชิญอยู่ในปัจจุบันเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs)

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220915005847/en/

Network for Teaching Entrepreneurship an international nonprofit organization providing entrepreneurship training and educational programs to middle and high school students, college students, and adults (Graphic: Network for Teaching Entrepreneurship)

Network for Teaching Entrepreneurship องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระหว่างประเทศที่จัดการฝึกอบรมผู้ประกอบการและโปรแกรมด้านการศึกษาแก่นักเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลาย นักศึกษาวิทยาลัย และผู้ใหญ่ (กราฟิก: Network for Teaching Entrepreneurship)

การแข่งขัน WSI ของ Mary Kay เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 15 กันยายน ร่วมกับ วันรณรงค์เพื่อโลกสะอาด หรือ World Clean Up Day ความท้าทายของ Mary Kay สนับสนุนให้ผู้ประกอบการรุ่นเยาว์เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่เป็นนวัตกรรมเพื่อจัดการกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติที่ 14: ทรัพยากรทางทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักศึกษาถูกท้าทายให้ออกแบบวิธีแก้ปัญหาเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์และ/หรือการปกป้องระบบนิเวศทางทะเลของโลกและชุมชนชายฝั่ง

“ทุกชีวิตบนโลกเริ่มต้นขึ้นและขึ้นอยู่กับมหาสมุทรของเรา น้ำเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในโลกของเรา และเราไม่เพียงเคารพน้ำเท่านั้น แต่ยังต้องทำหน้าที่ปกป้องน้ำด้วย” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “นักคิดและผู้นำรุ่นต่อไปของโลก กำลังจัดการกับประเด็นสำคัญเหล่านี้และเป็นหัวหอกในการอนุรักษ์ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่าเยาวชนของโลกสามารถช่วยพัฒนาระบบนิเวศและการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลกได้อย่างไร”

ในปีแรกที่ร่วมมือกับ NFTE World Series of Innovation ในปี 2563 โดย Mary Kay สนับสนุนการแข่งขัน WSI challenge สำหรับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติที่ 12: การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน ผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ได้รับการสนับสนุนให้ออกแบบผลิตภัณฑ์ การบริการ หรือความคิดริเริ่มที่ส่งเสริมการนำกลับมาใช้ซ้ำหรือการอัปไซเคิลสิ่งทอ ในปี 2564 Mary Kay สนับสนุนการแข่งขัน WSI challenge ครั้งที่ 2 เพื่อจัดการกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติที่ 5: ความเท่าเทียมทางเพศ นักศึกษาได้รับมอบหมายให้พัฒนาโครงการเพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมในสถานที่ทำงาน และให้เข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจอย่างเท่าเทียมกันสำหรับสตรีและเด็กผู้หญิง

“Mary Kay Global Oceans Conservations Challenge ท้าทายให้ผู้เข้าแข่งขัน WSI รุ่นเยาว์ของเราคิดให้ใหญ่เกี่ยวกับคุณภาพน้ำ” Dr. J.D. LaRock ประธานและซีอีโอของ NFTE กล่าว “ในห้องเรียนนั้นนักศึกษาเรียนรู้ว่าน้ำเป็นพื้นฐานของระบบนิเวศที่ดี การผ่านประสบการณ์เช่น WSI อย่างไรก็ตามพวกเขาได้รับอำนาจในการรักษาทรัพยากรนั้นไว้ พวกเขาสามารถคิดหาวิธีในการดูแลสัตว์ทะเล ปกป้องมหาสมุทร เข้าถึงน้ำดื่มสะอาดได้ในราคาประหยัด ปกป้องแหล่งน้ำจากมลพิษ จัดการกับการบริโภคที่มากเกินไป หรือช่วยรักษาระบบนิเวศของเราสำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป นั่นแหละทรงพลัง”

NFTE เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลกที่ให้การศึกษาด้านการเป็นผู้ประกอบการมาสู่ชุมชนที่มีรายได้น้อย นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อ 35 ปีที่แล้ว NFTE ได้ฝึกอบรมครูผู้สอนหลายพันคนและให้การศึกษาแก่เยาวชนกว่าล้านคนทั่วโลก ทุกฤดูใบไม้ร่วง NFTE เปิดความท้าทายชุดใหม่สำหรับการแข่งขัน WSI และเชิญผู้สนับสนุนองค์กรเพื่อจัดการกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ โดย Citi Foundation นำเสนองาน 2022 NFTE World Series of Innovation และมีความท้าทายที่สนับสนุนโดย Mary Kay Inc., MetLife Foundation, Mastercard, Bank of the West, Link, Maxar, Ernst & Young, LLP (EY), ServiceNow และ Zuora ผู้ชนะสามอันดับแรกจะประกาศในต้นปี 2566

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ World Series of Innovation และความท้าทายทั้งหมด โปรดไปที่ https://innovation.nfte.com/

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 2506 โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือเติมเต็มชีวิตให้กับผู้หญิง ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com พบกับเราบน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220915005847/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Procore ก่อตั้งศูนย์ดำเนินการกลาง EMEA แห่งใหม่ในดับลิน เนื่องจากการเติบโตในระดับภูมิภาคยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องทั่วยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

Logo

  • ศูนย์ดำเนินการกลาง EMEA แห่งใหม่ของ Procore จะสนับสนุนสำนักงานระดับภูมิภาคของบริษัทเพื่อเชื่อมต่อทุกคนที่กำลังก่อสร้างบนแพลตฟอร์มระดับโลก
  • ศูนย์ดำเนินการกลางจะสร้างงานหลายร้อยงานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนที่สำคัญในดับลิน
  • Procore แต่งตั้งหัวหน้า EMEA Hub ให้เป็นผู้นำสำนักงานแห่งใหม่

ดับลิน–(BUSINESS WIRE)–7 ก.ย. 2565

Procore Technologies, Inc. (NYSE: PCOR) ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์การจัดการการก่อสร้างชั้นนำระดับโลก ประกาศเปิดตัวศูนย์ดำเนินการกลาง EMEA แห่งใหม่ในเมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ ซึ่งนี่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ Procore ในภูมิภาคนี้ และความปรารถนาที่จะสนับสนุนฐานลูกค้าที่กำลังขยายตัว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจในการเชื่อมต่อทุกคนในด้านการก่อสร้างบนแพลตฟอร์มระดับโลก

ศูนย์ดำเนินการกลาง EMEA ภายในอาคาร South Point ของดับลิน ณ Harmony Row เป็นเพนต์เฮาส์อยู่บนชั้น 3 และครอบคลุมพื้นที่ 15,000 ตารางฟุต ศูนย์ดำเนินการกลางถูกตั้งขึ้นเพื่อช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของ Procore และสนับสนุนลูกค้าในภูมิภาคนี้ ศูนย์ดำเนินการกลางนี้มีเป้าหมายที่จะสร้างงานหลายร้อยงานในดับลินในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยบริษัทจะดำเนินการจ้างงานในตำแหน่งด้านการขาย การสร้างความสำเร็จด้านลูกค้า และการสนับสนุนลูกค้า เป็นต้น

Procore แต่งตั้ง Ciaran Cushley  ให้เป็นหัวหน้าศูนย์ EMEA เพื่อเป็นผู้นำสำนักงานแห่งใหม่นี้ Ciaran Cushley นำประสบการณ์กว่า 18 ปีมาสู่บริษัท ด้วยประวัติอันยาวนานในการสร้างและเป็นผู้นำทีมที่มีประสิทธิภาพสูงในยุโรปและอเมริกาเหนือสำหรับบริษัทต่าง ๆ เช่นที่ DocuSign เป็นต้น

“ในช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นในการเข้าร่วมงานกับ Procore ผมถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้นำศูนย์ดำเนินการกลางแห่งใหม่ ซึ่งแสดงถึงความทะเยอทะยานของเราในการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วทั้ง EMEA ทั้งนี้ ศูนย์ดำเนินการกลางแห่งใหม่ไม่เพียงแต่จะทำให้การมีอยู่ของเราในภูมิภาคนี้แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อผู้คน ระบบ และข้อมูลของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพบนแพลตฟอร์มเดียว ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากเทคโนโลยีการก่อสร้างได้อย่างเต็มที่” Ciaran Cushley หัวหน้า EMEA Hub ที่ Procore กล่าว

Brandon Oliveri-O'Connor รองประธาน EMEA ที่ Procore กล่าวเสริมว่า “ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา Procore ได้ทำงานเพื่อเชื่อมโยงทุกคนในการก่อสร้างบนแพลตฟอร์มระดับโลก การมีศูนย์ดำเนินการที่เพิ่มขึ้นของ Procore ทั่วยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกาบ่งบอกถึงเป้าหมายระยะยาวของเราในการเป็นแพลตฟอร์มแบบรอบด้านซึ่งสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างทั่วโลก”

Procore จะดำเนินการจ้างงานตำแหน่งต่าง ๆ ในศูนย์ดำเนินการ EMEA แห่งใหม่ ตำแหน่งงานที่กำลังเปิดรับสมัครอยู่ทั้งหมด สามารถดูได้ที่: https://www.procore.com/jobs/openings

เกี่ยวกับ Procore

Procore เป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์การจัดการการก่อสร้างชั้นนำระดับโลก โครงการกว่า 1 ล้านโครงการและปริมาณการก่อสร้างมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถูกดำเนินการบนแพลตฟอร์มของ Procore แพลตฟอร์มของเราเชื่อมโยงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในโครงการทุกรายเข้ากับโซลูชันที่เราสร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมการก่อสร้าง—สำหรับเจ้าของ ผู้รับเหมาทั่วไป และผู้รับเหมาพิเศษ โดย App Marketplace ของ Procore มีโซลูชันพันธมิตรมากมายที่รวมเข้ากับแพลตฟอร์มของเราอย่างราบรื่น ทำให้เหล่ามืออาชีพด้านการก่อสร้างมีอิสระในการเชื่อมต่อกับสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา Procore มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองคาร์พินเทเรีย รัฐแคลิฟอร์เนีย และมีสำนักงานในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และทั่วโลก

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220907005220/en/

ติดต่อ:

Archetype UK สำหรับ Procore

procore@archetype.co

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ความเสมอภาคระหว่างเพศรอไม่ได้ถึง 132 ปี

Logo

ถ้อยแถลงโดย Julia A. Simon ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายและประธานเจ้าหน้าที่ด้านความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างที่ Mary Kay

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–02 กันยายน 2022

ด้านล่างนี้คือถ้อยแถลงโดย Julia A. Simon ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายและประธานเจ้าหน้าที่ด้านความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างของ Mary Kay Inc. ในการเปิดเผยรายงาน Global Gender Gap Report ของ World Economic Forum ประจำปี 2022

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220831005218/en/

Julia Simon, Chief Legal Officer and Chief Diversity & Inclusion Officer (Photo Credit: Mary Kay Inc.)

Julia Simon ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายและประธานเจ้าหน้าที่ด้านความหลากหลายและยอมรับความแตกต่าง (เครดิตภาพ: Mary Kay Inc.)

จากการค้นพบที่มีเหตุผลรอบคอบจากรายงานประจำปี 2022 Global Gender Gap Report ของ World Economic Forum พบว่าความเสมอภาคทางเพศนั้นไกลเกินเอื้อมในช่วงชีวิตของเรา ตามรายงานระบุว่า ต้องใช้เวลา 132 ปีกว่าความเสมอภาคระหว่างเพศจะกลายเป็นความจริง และ 151 ปีเพื่อปิดช่องว่างหญิงชายของการมีส่วนร่วมและโอกาสทางเศรษฐกิจ ไม่มีประเทศใดจาก 146 ที่ตรวจสอบถึงความเท่าเทียมกัน

นั่นคือข่าวร้าย

ส่วนข่าวดี? ยังพอมีเวลาที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด การค้นพบในปี 2022 ทำให้ฉันสั่นคลอน แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางฉัน และไม่ควรขัดขวางคุณ

ความเสมอภาคระหว่างเพศเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นที่ไม่เพียงแต่สำหรับการพัฒนามนุษย์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนอีกด้วย ข้อมูลจำนวนมากแสดงให้เห็นว่าหากไม่มีความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะลดความยากจน บรรลุความมั่นคงด้านอาหาร จัดการกับผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ หรือรับรองสังคมที่สงบสุขและครอบคลุมที่มากขึ้น ความเท่าเทียมทางเพศไม่ใช่สิ่งที่ “น่ามี” ไม่ใช่แค่ผลประโยชน์ของประเทศที่พัฒนาแล้วเท่านั้น แต่เป็นข้อกำหนดที่จำเป็นสำหรับทุกประเทศในการพัฒนาและเจริญรุ่งเรือง

เพื่อบรรเทาความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจะต้องแก้ไขอุปสรรคเชิงโครงสร้างที่จำกัดการมีส่วนร่วมในตลาดแรงงานของสตรี รวมถึงการกลับเข้ามาใหม่และการคงอยู่ในกำลังแรงงานหลังโควิด-19 นโยบายที่กำหนดเป้าหมายซึ่งสนับสนุนการพัฒนาความสามารถของสตรีในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต และซึ่งเร่งความก้าวหน้าไปสู่ตำแหน่งผู้นำและผู้บริหารก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน

ภาคเอกชนมีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาช่องว่างหญิงชายในสถานที่ทำงานและในกระบวนการการพัฒนาสตรีสำหรับตำแหน่งผู้นำ ในฐานะบริษัทที่ก่อตั้งโดยนักธุรกิจสตรีผู้ทำลายอุปสรรคเมื่อเกือบ 60 ปีที่แล้ว นี่เป็นเรื่องเฉพาะตัวของ Mary Kay

ในปี 2019 Mary Kay ได้ลงนามในแนวคิดจากข้อตกลงความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างพลังสตรี Women’s Empowerment Principles (WEPs) และในปี 2021 บริษัทได้กลายเป็นผู้ให้คำมั่นสัญญา (Commitment Maker) ในแนวร่วมปฏิบัติการการประชุมยุคสมัยแห่งความเท่าเทียม Generation Equality Forum Action Coalitions เพื่อเร่งความก้าวหน้าด้านความเสมอภาคระหว่างเพศเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

Mary Kay เข้าร่วมในโครงการ UN Global Compact Target Gender Equality accelerator programme ประจำปี 2022-2023 เพื่อดำเนินการตามเป้าหมายองค์กรที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจสำหรับการเป็นตัวแทนและความเป็นผู้นำของสตรีในบริษัทและในห่วงโซ่อุปทานของเราต่อไป การนำโดยตัวอย่างและสะท้อนความเชื่อของเราในการยอมรับความแตกต่างของสตรีที่เพิ่มขึ้น Mary Kay นำค่านิยมและคำมั่นสัญญาของเราไปปฏิบัติ:

การเป็นตัวแทนและความเป็นผู้นำของสตรีที่ Mary Kay (ข้อมูลจากเดือนสิงหาคม 2022):

  • 62% ของแรงงานทั่วโลกของเราเป็นสตรี
  • 50% ของทีมผู้บริหารของเราเป็นสตรี
  • 53% ของตำแหน่งรองประธานของเราขึ้นไปเป็นสตรี
  • 57% ของตำแหน่งกรรมการของเราขึ้นไปเป็นสตรี
  • 59% ของตำแหน่งผู้จัดการของเราขึ้นไปเป็นสตรี
  • 70% ของผู้นำตลาดของเราเป็นสตรี
  • 60% ของผู้นำของเราในตลาด 10 อันดับแรกของเราเป็นสตรี

การจัดซื้อจัดจ้างและความหลากหลายของซัพพลายเออร์ที่ตอบสนองต่อเพศสภาพที่ Mary Kay (ข้อมูลซัพพลายเชนเฉพาะในสหรัฐฯ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021):

  • 66% ของทีมจัดซื้อจัดจ้างของเราเป็นสตรี
  • 12% ของซัพพลายเออร์ทางอ้อมของเราคือสตรี ชนกลุ่มน้อย หรือทหารผ่านศึกเป็นเจ้าของ
  • 5% ของซัพพลายเออร์โดยตรงของเราคือสตรี ชนกลุ่มน้อย หรือทหารผ่านศึกเป็นเจ้าของ

กลยุทธ์ความยั่งยืน 10 ปีของเราในหัวข้อ Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrowดำเนินการตามแนวทางแบบองค์รวมเพื่อพัฒนาความเสมอภาคระหว่างเพศและการเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้หญิงด้วยสัญญาผูกพันหลักต่อไปนี้เพื่อให้บรรลุภายในปี 2030:

  • มอบอำนาจทางเศรษฐกิจให้กับสตรี 5 ล้านคนทั่วโลก
  • รับรองการเข้าถึงการศึกษาสำหรับสตรีและเด็กผู้หญิง 250,000 คนทั่วโลก
  • ให้ความช่วยเหลือด้านความรุนแรงทางเพศแก่สตรีกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก และ
  • พัฒนาวาระนโยบาย 10 ปีเพื่อแก้ไขปัญหาสิทธิสตรี

ด้วยแรงบันดาลใจจากภารกิจของเราในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการที่ก่อตั้งโดยสตรีเพื่อสตรี เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการของผู้หญิงและขจัดอุปสรรคในการเสริมอำนาจทางเศรษฐกิจของสตรี เรานำวิสัยทัศน์นี้มาสู่องค์การสหประชาชาติในปี 2019 และร่วมกับหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ 6 แห่ง เราได้ก่อตั้ง Women’s Entrepreneurship Accelerator (WEA) เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้ประกอบการสตรี

เวลาที่จะทำคือตอนนี้ การนั่งอยู่นอกเขตสนามและรอ 132 ปีไม่ใช่ทางเลือก การประชุมผลกระทบด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนเรื่อง “Advancing Gender Equality” ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงนิวยอร์กในเดือนนี้ เป็นโอกาสสำหรับผู้นำจากภาครัฐและภาคเอกชนในการกำหนดเครื่องมือและกลยุทธ์ในการปิดช่องว่างหญิงชาย เราเป็นหนี้คนรุ่นต่อไปที่จะระดมความพยายามของเราในการเปลี่ยนแปลงซึ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับสตรีและเด็กผู้หญิง

เกี่ยวกับ MARY KAY

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 1963 โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือเติมเต็มชีวิตให้กับผู้หญิง ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com พบกับเราบน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220831005218/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


การประชุมเกี่ยวกับการก่อสร้างอารยธรรมอารยธรรมนิเวศวิทยาระดับโลกที่เอ๋อไห่ หรือ Erhai Forum on Global Ecological Civilization Civilization Construction ประจำปี 2565 ถูกจัดขึ้นที่เมืองต้าหลี่ มณฑลยูนนาน

Logo

ต้าหลี่, จีน–(BUSINESS WIRE)–30 ส.ค. 2565

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2565 การประชุม Erhai Forum on Global Ecological Civilization Construction ประจำปี 2565 ซึ่งตั้งชื่อตามทะเลสาบ เอ๋อไห่ ที่มีชื่อเสียงในท้องถิ่น ถูกจัดขึ้นที่เมืองต้าหลี่ มณฑลยูนนาน การประชุมประจำปีนี้ใช้หัวข้อ “Working Together to Build a Shared Future for All Life on Earth หรือ ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างอนาคตร่วมกันของทุกชีวิตบนโลก” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความเข้าใจระหว่างประเทศเกี่ยวกับประเทศจีนและคุณค่าทางนิเวศวิทยา แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของประเทศในด้านการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และส่งเสริมการสร้าง ” อารยธรรมนิเวศวิทยาโลก” ในงานนี้มีผู้เข้าร่วมงานหลายร้อยคนจากทั่วประเทศจีนและทั่วโลกที่มารวมตัวกันเพื่อหารือในหัวข้อสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหาเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220830005559/en/

2022 Erhai Forum on Global Ecological Civilization Construction held in Dali, Yunnan Province (Photo: Business Wire)

การประชุม Erhai Forum on Global Ecological Civilization Construction ปี 2565 ที่เมืองต้าหลี่ มณฑลยูนนาน (ภาพ: Business Wire)

การประชุมประจำปีนี้ยังได้เปิดตัว Green Life City Alliance Initiative อย่างเป็นทางการของ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยกระดับระบบนิเวศน์ของเขตเมือง ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาเมืองสีเขียว เผยแพร่แนวคิดเรื่อง “เมืองแห่งชีวิตสีเขียว” และทำให้การสร้างเมืองและการปกครองเป็นสีเขียวมากขึ้น และยั่งยืนมากขึ้น

ต้าหลี่เป็นที่รู้จักมาช้านานในด้านภูมิทัศน์ที่สวยงาม มรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จังหวัดนี้ได้กลายเป็นต้นแบบและแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของจีนในด้านการปกป้องสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปกป้องทะเลสาบเอ๋อไห่ และการอนุรักษ์วัฒนธรรมชนกลุ่มน้อยในท้องถิ่นที่รุ่มรวย ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการจัดประชุมชั้นนำของจีนเกี่ยวกับการก่อสร้างอารยธรรมทางนิเวศวิทยาระดับโลก

ด้วยการเน้นย้ำความสมบูรณ์ของระบบนิเวศในทุกด้านของการพัฒนาท้องถิ่น จังหวัดต้าหลี่มุ่งมั่นที่จะรวบรวมปรัชญาที่มีน้ำที่ใสสะอาดและภูเขาสีเขียวเป็นทรัพย์สินอันล้ำค่า หน่วยงานท้องถิ่นได้ดำเนินโครงการบูรณาการเพื่อฟื้นฟูและปกป้องภูเขา แหล่งน้ำ ป่าไม้ ทุ่งนา ทะเลสาบ และทุ่งหญ้า

นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินการตามขั้นตอนอย่างต่อเนื่องเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ลดมลภาวะทางอากาศและทางน้ำ ปรับปรุงการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และยกระดับคุณภาพสิ่งแวดล้อมของทะเลสาบเอ๋อไห่และพื้นที่โดยรอบ ความพยายามเหล่านี้นำไปสู่การปรับปรุงสภาพแวดล้อมในท้องถิ่นอย่างเห็นได้ชัด ปัจจุบันคุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับสูงตลอดทั่วทั้ง 12 มณฑลและเมืองต่าง ๆ ของจังหวัดต้าหลี่ ด้วยคะแนนคุณภาพอากาศที่ดีเกินร้อยละ 99.5 นอกจากนี้ สัดส่วนของแหล่งน้ำที่รวมอยู่ในการประเมินระดับชาติหรือระดับจังหวัดที่ตรงตามระดับ 3 หรือสูงกว่านั้นเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 60 ในปี 2557 เป็นร้อยละ 90 ในปี 2563

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220830005559/en/

ติดต่อ:

Shelly Wang

info@xinhuaneteurope.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay Inc. เน้นย้ำกลยุทธ์ระดับโลกอย่างยั่งยืนที่การประชุมนานาชาติ Sustainable Future International Conference ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–30 สิงหาคม 2565

เราทุกคนมีความรับผิดชอบในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและโลกรอบตัวเรา ความยั่งยืนต้องเป็นความพยายามร่วมกันและความมุ่งมั่นระดับโลก เมื่อปลายเดือนมิถุนายน การประชุมนานาชาติ Sustainable Future International Conference ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay Inc. จัดขึ้นที่ Martinic Palace อันเก่าแก่ ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก (UNESCO) ผู้นำทางความคิด ผู้เชี่ยวชาญ นักธุรกิจ และผู้บริหารที่ไม่แสวงหาผลกำไรจากหลายอุตสาหกรรมสืบเชื้อสายมาจากพื้นฐานทางประวัติศาสตร์เพื่อแบ่งปัน สร้างเครือข่าย และให้ความรู้แก่ผู้ชมเกี่ยวกับมาตรฐานที่เป็นนวัตกรรมและยั่งยืน เพื่อนำไปใช้ในการต่อสู้เพื่อรักษาทรัพยากรอันมีค่าของโลกสำหรับคนรุ่นปัจจุบันและรุ่นอนาคตได้สำเร็จ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220830005153/en/

“Because of our global footprint, we know our moral imperative is to continue Mary Kay’s legacy of doing the right thing – today, tomorrow, always. We are focused on efficient manufacturing operations by reducing our environmental impact and identifying opportunities for resource improvement. We are challenging ourselves to further entrench sustainable practices in our business through product development, design, responsible sourcing, and mitigation of plastic pollution,” said Edita Szaboova, General Manager of Mary Kay Czech Republic and Slovakia. (Photo Credit: Mary Kay Inc.)

“เนื่องจากพื้นที่ทั่วโลกของเรา เราทราบดีว่าความจำเป็นทางศีลธรรมคือการสานต่อมรดกของ Mary Kay ในการทำสิ่งที่ถูกต้อง ณ วันนี้ พรุ่งนี้ และตลอดไป เรามุ่งเน้นที่การดำเนินการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพโดยการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบุโอกาสในการปรับปรุงทรัพยากร เรากำลังท้าทายตัวเองที่จะยึดมั่นในแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนในธุรกิจของเราต่อไปผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบ การจัดหาอย่างมีความรับผิดชอบ และลดมลภาวะจากพลาสติก” Edita Szaboova ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay สาธารณรัฐเช็กและสโลวาเกียกล่าว (เครดิตภาพ: Mary Kay Inc.)

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนด้านความยั่งยืนมาเป็นเวลานาน ได้จัดจองงานโดยประกาศกลยุทธ์ความยั่งยืนใหม่ในปี 2564: Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow ทั้งนี้ Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow ได้รับการพัฒนาร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักของบริษัท และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ ทำให้ Mary Kay เป็นส่วนสำคัญของกลุ่มพันธมิตรระดับโลกเพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตที่ดีกว่า

การประชุมนานาชาติ Sustainable Future International Conference จัดขึ้นโดย Startup Disrupt ซึ่งเป็นตลาดระดับโลกสำหรับบริษัทสตาร์ทอัพที่ต้องการช่วยเหลือผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ วิศวกร นักพัฒนา นักนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี และอื่น ๆ ให้ประสบความสำเร็จ งานนี้มุ่งเน้นไปที่หัวข้อของเมืองอัจฉริยะ (โครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนา) การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า พลังงานและทรัพยากรหมุนเวียน เศรษฐกิจและนโยบาย) ธุรกิจที่ยั่งยืน (สิ่งแวดล้อม อนุกรมวิธานวิทยา การเงินที่ยั่งยืน) และชีวิตที่ยั่งยืน (เทคโนโลยีเกษตร ขยะอาหาร แฟชันดิสรัป,สมาร์ทฟาร์ม)

วิทยากรที่มีภูมิหลังและประสบการณ์ที่หลากหลายได้แบ่งปันภูมิปัญญาของตนในการประชุม Sustainable Future และเป็นตัวแทนของภาคส่วนต่าง ๆ เช่น ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ ผู้บริหารจากบริษัทขนาดใหญ่และขนาดเล็ก กระทรวง สมาคม สหภาพแรงงาน หอการค้า กลุ่มการลงทุน ผู้กำหนดนโยบาย (คณะกรรมาธิการยุโรป) สถาบันวิทยาศาสตร์และการวิจัย มหาวิทยาลัย และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร

“กลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay เรื่อง Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow ซึ่งยึดติดอยู่กับสามมิติของการพัฒนาที่ยั่งยืนคือ เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม” Edita Szaboova ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay สาธารณรัฐเช็กและสโลวาเกีย กล่าว “เนื่องจากพื้นที่ทั่วโลกของเรา เราทราบดีว่าความจำเป็นทางศีลธรรมคือการสานต่อมรดกของ Mary Kay ในการทำสิ่งที่ถูกต้อง ณ วันนี้ พรุ่งนี้ และตลอดไป เรามุ่งเน้นที่การดำเนินการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพโดยการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบุโอกาสในการปรับปรุงทรัพยากร เรากำลังท้าทายตัวเองที่จะยึดมั่นในแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนในธุรกิจของเราต่อไปผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบ การจัดหาอย่างมีความรับผิดชอบ และลดมลภาวะจากพลาสติก”

“ไม่มีดาวเคราะห์ B! เราควรจำคำขวัญนี้ไว้เสมอ ภายในสหภาพยุโรป หลายบริษัทให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ในการประชุมนานาชาติ Sustainable Future International Conference เราได้แสดงให้เห็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราประสบความสำเร็จที่นี่ในสาธารณรัฐเช็ก และในขณะเดียวกัน เราก็เป็นแรงบันดาลใจให้แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดทั่วโลก Mary Kay ที่มีวิสัยทัศน์ที่แน่วแน่ในด้านความยั่งยืนเป็นพลังใหม่ในการร่วมมือด้วยกัน” Patrik Juránek ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Startup Disrupt กล่าว

การประชุมสุดยอดครั้งต่อไปซึ่งจัดโดย Startup Disrupt จะจัดขึ้นที่สาธารณรัฐเช็กในวันที่ 13 กันยายนที่ Clam-Gallas Palace ในกรุงปราก หัวข้อของการประชุมคือความหลากหลาย (Diversity) ซึ่งจะรวบรวมวิทยากรกว่า 50 คนจากแบรนด์เช็กและแบรนด์ระดับโลกที่หลากหลาย วิทยากรและผู้นำทางความคิดจะเข้าร่วมในการอภิปรายในหัวข้อของความหลากหลาย (Diversity) ความเท่าเทียม (Equity) และการมีส่วนร่วม (Inclusion) (DEI): Biases and Microaggression; Employment of People with Disabilities; Inclusive Design and Innovation, และ Women’s Empowerment เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนเท่านั้น Virginie Naigeon-Malek, Global Head of Sustainability and Social Impact ของ Mary Kay Inc. จะพูดในที่ประชุมสุดยอดในหัวข้อของการเสริมอำนาจของผู้หญิงและการจัดซื้อที่ตอบสนองต่อเพศสภาพเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนโดยรวม

“ทั่วโลก 1 ใน 3 ของธุรกิจเป็นของสตรี อย่างไรก็ตาม โดยเฉลี่ยแล้ว ธุรกิจที่สตรีเป็นเจ้าของทั่วโลกนั้นได้มาน้อยกว่า 1% ของการใช้จ่ายในการจัดซื้อทั้งหมดของบริษัทขนาดใหญ่และรัฐบาล” Virginie Naigeon-Malek กล่าว “สถิติทั้งสองนี้เป็นสองด้านของเหรียญเดียวกัน: ความเป็นจริงที่น่าตกใจที่อยูอีกด้านหนึ่งและโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่รออยู่อีกด้านหนึ่ง นโยบายและแนวทางการจัดซื้อจัดจ้างที่มีประสิทธิภาพสามารถใช้เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการสนับสนุนผู้ประกอบการสตรีในความพยายามของเราที่จะสร้างกลับคืนมาจากผลกระทบทางเศรษฐกิจของการระบาดใหญ่ และคิดใหม่เรื่องการดำเนินธุรกิจด้วยกรอบความคิดของ DEI เพื่อเปลี่ยนไปสู่การเติบโตแบบครอบคลุม ช่องว่างขนาดใหญ่ในการเป็นตัวแทนนำมาซึ่งโอกาสในการดำเนินการเพื่อสนับสนุนธุรกิจของผู้หญิงทั่วโลก ซึ่งเป็นโอกาสพิเศษที่ไม่เพียงแต่จะสร้างกลับให้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ที่สำคัญที่สุดคือการสร้างกลับคืนสู่ความเท่าเทียมกัน”

เกี่ยวกับ MARY KAY

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 2506 โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือเติมเต็มชีวิตให้กับผู้หญิง ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com พบกับเราบน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

เกี่ยวกับ STARTUP DISRUPT

Startup Disrupt ก่อตั้งขึ้นในปี 2563 และมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือดิสรัปเตอร์ด้านธุรกิจและเทคโนโลยีในการเปลี่ยนวิธีคิดแบบ ‘เก่า’ ในอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ และการบริการ แนวคิดนี้สร้างขึ้นโดยผู้คนจากชุมชนผู้ประกอบการทั่วโลกและผู้ที่กระตือรือร้นการเริ่มต้น จุดประสงค์ของ Startup Disrupt คือการเป็นแพลตฟอร์มสตาร์ทอัพที่ออกแบบมาเพื่อให้ความรู้ แรงบันดาลใจ และเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการ ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ นวัตกรเทคโนโลยี และชุมชนสตาร์ทอัพทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ https://www.startupdisrupt.com/

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220830005153/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย









Mary Kay ประกาศผลของโครงการหมู่บ้านนำร่อง SDG ในประเทศจีน (2017-2021) พร้อมเผยแพร่รายงานผลกระทบและวิดีโอ

Logo

โครงการแสดงให้เห็นถึงผลทวีคูณต่อระบบเศรษฐกิจของผู้ประกอบการสตรีในการก้าวไปสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ในระดับท้องถิ่น

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–25 สิงหาคม 2022

สตรีในชนบทประกอบด้วยหนึ่งในสี่ของประชากรโลกและเป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจ ซึ่งประกอบด้วยประมาณ 40% ของกำลังแรงงานทางการเกษตรในประเทศกำลังพัฒนาในฐานะเกษตรกร ผู้หารายได้ และผู้ประกอบการ1 แม้จะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจในท้องถิ่น แต่พวกเธอยังคงดำเนินต่อไป เพื่อเผชิญกับอุปสรรคเชิงโครงสร้างในการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ การจ่ายเงินที่เท่าเทียมกัน การมีส่วนร่วมในฟอรัมการตัดสินใจ และการเข้าถึงทรัพยากรและตลาด บรรทัดฐานทางวัฒนธรรมยังส่งผลให้สตรีต้องแบกรับความรับผิดชอบส่วนใหญ่ในการดูแลและทำงานบ้านโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน2

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220825005007/en/

Women from the Art Ensemble “Huobonuoma,” or “Daughters of the Moon,” showcasing their Yi embroidered costumes, an ancient handcraft representing the cultural heritage of the Yi ethnic group. (Photo: Courtesy of Waipula Villagers)

สตรีจากคณะศิลปกรรม “Huobonuoma” หรือ “ธิดาแห่งดวงจันทร์ (Daughters of the Moon)” จัดแสดงเครื่องแต่งกายลายปัก Yi  ซึ่งเป็นงานฝีมือโบราณที่แสดงถึงมรดกทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ Yi (ภาพ: ได้รับความอนุเคราะห์จากชาวบ้านไวปูลา)

UNDP China และ Mary Kay ตระหนักดีว่าการปรับปรุงชีวิตสตรีในชนบทเป็นกุญแจสำคัญในการต่อสู้กับความยากจนและการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยความร่วมมือกับ China Women's Development Foundation, China International Center for Economic and Technical Exchanges, Women's Federation ของมณฑลยูนนาน และ Yongren County Government เปิดตัวโครงการหมู่บ้านนำร่อง SDG ในเมืองไวปูลา มณฑลยูนนาน ประเทศจีนในปี 2017

โครงการร่วมในเรื่อง โครงการหมู่บ้านนำร่อง SDG: การลดความยากจนที่เน้นสตรีและการพัฒนาที่ยั่งยืน” (2017-2021) กล่าวถึงอุปสรรคเชิงโครงสร้างต่อการมีส่วนร่วมในตลาดแรงงานสตรี รวมถึงการให้การคุ้มครองทางสังคมและการสร้างโอกาสผู้ประกอบการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศควบคู่ไปกับความพยายามที่จะส่งเสริมความเป็นผู้นำของสตรีในฟอรัมการตัดสินใจของชุมชน

สตรีจากกลุ่มชาติพันธุ์ Yi กลายเป็นแรงขับเคลื่อนของการเติบโตทางเศรษฐกิจและการลดความยากจนที่ผ่านการแทรกแซงเฉพาะเพศที่เป็นเป้าหมายซึ่งพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่ครอบคลุมและการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของพวกเขา กิจกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับท้องถิ่น ยกระดับความเท่าเทียมทางเพศ และเร่งการพัฒนาที่ยั่งยืน

“โครงการนี้แสดงให้เห็นว่าการประกอบการสามารถเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการจัดการช่องว่างรายได้ระหว่างบุรุษและสตรีในขณะที่ต่อสู้กับความยากจนในพื้นที่ชนบทได้อย่างไร” Beate Trankmann ผู้แทน UNDP ประจำประเทศจีนกล่าว “สตรีชาว Yi ได้รับทักษะและทรัพยากรที่เหมาะสมในการใช้ประโยชน์จากมรดกทางวัฒนธรรมของพวกเขา สร้างรากฐานทางเศรษฐกิจที่มั่นคงสำหรับตนเอง และกลายเป็นผู้นำในชุมชนของพวกเขา ปูทางไปสู่คนรุ่นอนาคต”

โครงการนำร่องนี้เน้นย้ำถึงศักยภาพของความเป็นหุ้นส่วนหลายฝ่าย รวมถึงภาคเอกชน ในการขับเคลื่อนเป้าหมาย SDGs ในขณะเดียวกันก็เพิ่มผลกระทบด้านการพัฒนาของการเป็นผู้ประกอบการของสตรีให้มากที่สุด ทั้งนี้ UNDP China ร่วมกับ Mary Kay China และหน่วยงานภาครัฐในท้องถิ่น ทำงานร่วมกับผู้ประกอบการสตรีเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาได้รับเครื่องมือและการศึกษาที่จำเป็นต่อการเป็นผู้มีบทบาททางเศรษฐกิจ อุปสรรคในการมีส่วนร่วมในโครงสร้างการตัดสินใจของชุมชนยังได้รับการกล่าวถึงเพื่อให้สามารถมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการสร้างเศรษฐกิจสีเขียวในท้องถิ่นที่ครอบคลุมและยั่งยืน

“โครงการหมู่บ้านนำร่อง SDG แสดงให้เห็นว่าภาคเอกชนสามารถมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้บรรลุเป้าหมาย SDGs โดยมุ่งเน้นที่การเสริมอำนาจทางเศรษฐกิจของสตรีและให้พิมพ์เขียวเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัทต่าง ๆ สามารถใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของพวกเขาและเร่งผลการพัฒนาผ่านความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว

“แนวทางที่เน้นสตรีในการให้โอกาสผู้ประกอบการแก่สตรีในชนบทได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้มีการเปลี่ยนแปลง เมื่อผู้หญิงเริ่มมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจ และได้รับสถานะในชุมชนของพวกเขา คนทั้งหมู่บ้านก็ได้รับประโยชน์” Wendy Wang ประธานของ Mary Kay ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าว

ผลลัพธ์ของระยะที่ 1 ของโครงการให้หลักฐานที่น่าสนใจเกี่ยวกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงที่แนวทางที่ตอบสนองต่อเพศสภาพสามารถทำได้เพื่อกระบวนการโลคัลไลซ์ SDGs และในการออกแบบนโยบายและการตอบสนองเชิงโปรแกรมสำหรับการฟื้นตัวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหลังโควิด-19

โครงการสนับสนุนเป้าหมาย SDGs 12 ประการ ได้แก่:

  • เป้าหมายที่ 1 ขจัดความยากจน (No Poverty)
  • เป้าหมายที่ 2 ขจัดความหิวโหย (Zero Hunger)
  • เป้าหมายที่ 3 สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good Health and Well-Being)
  • เป้าหมายที่ 4 การศึกษาที่มีคุณภาพ (Quality Education)
  • เป้าหมายที่ 5 ความเท่าเทียมทางเพศ (Gender Equality)
  • เป้าหมายที่ 6 น้ำสะอาดและการสุขาภิบาล  (Clean Water and Sanitation)
  • เป้าหมายที่ 8 งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Decent Work and Economic Growth)
  • เป้าหมายที่ 9 โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม และอุตสาหกรรม (Industry, Innovation, and Infrastructure)
  • เป้าหมายที่ 10 ลดความเหลื่อมล้ำ (Reduced Inequalities)
  • เป้าหมายที่ 15 ระบบนิเวศบนบก (Life on Land)
  • เป้าหมายที่ 16 ความสงบสุขและยุติธรรม และสถาบันเข้มแข็ง (Peace, Justice, and Strong Institutions)
  • เป้าหมายที่ 17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Partnerships for the Goals)

โครงการหมู่บ้านนำร่อง SDG – ความสำเร็จที่สำคัญระยะที่ 1 (2017- 2021)

  • ด้วยโครงการที่มีส่วนช่วยในการรณรงค์บรรเทาความยากจนของจีน สัดส่วนของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจนแห่งชาติลดลงจาก 28% ในปี 2017 เป็น 0% ในปี 2020 ในเมืองไวปูลา;
  • ผ่านการฝึกอบรมและเสริมสร้างศักยภาพจำนวน 60 ครัวเรือนและ 193 คนที่อยู่ภายใต้เส้นความยากจนได้รับการยกออกจากความยากจนภายในปี 2020;
  • แรงงานข้ามชาติตามฤดูกาลจำนวน 210 คน และแรงงานข้ามชาติระยะยาว 120 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสตรี สามารถกลับบ้านเพื่อหางานทำหรือเริ่มต้นธุรกิจของตนเองได้;
  • สตรีในท้องถิ่นจำนวน 607 คนได้งานทำและหารายได้โดยมีบางคนเป็นผู้นำชุมชนเข้ามามีบทบาทในฐานะสมาชิกคณะกรรมการหมู่บ้านและผู้จัดการด้านการบริการต้อนรับและศิลปะในท้องถิ่น และ
  • รายได้เฉลี่ยต่อบุคคลของผู้คนเพิ่มขึ้นเป็น RMB 14,128 ในปี 2021

เพื่อแบ่งปันเรื่องราวของโครงการหมู่บ้านนำร่อง SDG โดย Mary Kay และพันธมิตรได้เปิดเผยดังนี้:

  • รายงานผลกระทบในระยะที่ 1 เรื่อง “การนำ SDG Localization ที่ระดับหมู่บ้านโครงการลดความยากจนที่เน้นสตรีและการพัฒนาที่ยั่งยืนในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน” ซึ่งเน้นถึงการกำเนิด วิธีการดำเนินการ และผลลัพธ์ของโครงการที่ก้าวหน้าผ่านผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสนับสนุนกระบวนการพัฒนา อ่านรายงานผลกระทบได้ที่นี่
  • วิดีโอ เรื่อง “ธิดาแห่งดวงจันทร์ (Daughters of the Moon)” นำเสนอผู้นำสตรีสามคนจากเมืองไวปูลา: Yongyan Zhu, Xuefang Xia และ Shiqiong Han ที่พูดถึงการเปลี่ยนแปลงที่พวกเขาได้สัมผัสด้วยตัวเองผ่านการเป็นผู้ประกอบการ ตัวแทนพันธมิตรยังอธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคมที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน ชมวิดีโอความยาว 11 นาทีได้ที่นี่

UNDP China และพันธมิตรโครงการจะดำเนินการในระยะที่ 2 เร็ว ๆ นี้ (2022-2024) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อ:

  • เร่งรัดการประกอบการ: เพิ่มขีดความสามารถของชาวบ้าน โดยเฉพาะสตรี และเพิ่มรายได้;
  • ส่งเสริมความหลากหลายและการยอมรับความแตกต่าง: ปกป้องวัฒนธรรมชาติพันธุ์ในท้องถิ่นและส่งเสริมสตรีและ
  • การพัฒนาสีเขียวขั้นสูง: ปกป้องสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติและส่งเสริมหมู่บ้านที่ยั่งยืน

โดยเป็นปีที่สองติดต่อกันแล้วที่โครงการหมู่บ้านนำร่อง SDG ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Reuters Events Responsible Business Awards ภายใต้ประเภท “SDG Pioneer Award” พิธีมอบรางวัลจะจัดขึ้นในวันที่ 13 ตุลาคม ณ กรุงลอนดอน

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 1963 โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือเติมเต็มชีวิตให้กับผู้หญิง ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com พบกับเราบน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

เกี่ยวกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP)

ในฐานะที่องค์การสหประชาชาติเป็นผู้นำหน่วยงานด้านการพัฒนาระหว่างประเทศ โดย UNDP ทำงานใน 170 ประเทศและดินแดนเพื่อขจัดความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ เราช่วยประเทศต่าง ๆ ในการพัฒนานโยบาย ทักษะความเป็นผู้นำ ความสามารถในการเป็นหุ้นส่วน ความสามารถของสถาบัน และสร้างความสามารถในการปรับตัวได้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน งานของ UNDP มุ่งเน้นในสามประเด็นหลัก ได้แก่ การพัฒนาที่ยั่งยืน ธรรมาภิบาลในระบอบประชาธิปไตยและการสร้างสันติภาพ และการตั้งรับกับสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ ดูรายละเอียดได้ที่ www.undp.org

เกี่ยวกับศูนย์แลกเปลี่ยนเศรษฐกิจและเทคนิคนานาชาติแห่งประเทศจีน (CICETE)

ดำเนินการโดยตรงภายใต้กระทรวงพาณิชย์ ซึ่ง CICETE ก่อตั้งขึ้นในปี 1983 โดยได้รับอนุมัติจากคณะมุขมนตรี หน้าที่หลักของ CICETE ซึ่งได้รับมอบหมายจากกระทรวงคือการประสานงานความร่วมมือระหว่างจีน UNDP และองค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO) รวมถึงการดำเนินโครงการความช่วยเหลือในจีน และการจัดการโครงการจัดหาสินค้าทั่วไป โครงการกองทุน South-South Cooperation Assistance Fund และโครงการเสริมสร้างศักยภาพภายใต้โครงการ China-Aid แก่ประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ดูรายละเอียดได้ที่ www.cicete.org.cn/en/

เกี่ยวกับมูลนิธิเพื่อการพัฒนาสตรีแห่งประเทศจีน (CWDF)

มูลนิธิเพื่อการพัฒนาสตรีแห่งประเทศจีน (China Women's Development Foundation) เป็นมูลนิธิ AAAAA ที่ก่อตั้งโดยสหพันธ์สตรีแห่งประเทศจีนในปี 1988 เป็นมูลนิธิสาธารณะระดับชาติที่ระดมทุนจากจีนและประเทศและภูมิภาคอื่น ๆ ภารกิจของ CWDF คือการปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของสตรี ปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้หญิง และส่งเสริมการพัฒนาสตรีและอุดมการณ์ของผู้หญิงในประเทศจีนเพื่อมีส่วนในการสร้างสังคมที่เข้มแข็งกลมเกลียวกัน ดูรายละเอียดได้ที่ www.cwdf.org.cn/en/

1 องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (2018) สตรีในชนบทในสถานที่ทำงาน: เชื่อมช่องว่าง https://www.ilo.org/global/topics/equality-and-discrimination/publications/WCMS_619691/lang–en/index.htm
องค์การสหประชาชาติ (2021, เดือนตุลาคม 21) วันสตรีสากลในภาคชนบท https://www.un.org/en/observances/rural-women-day

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220825005007/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc.
Corporate Communications
media@mkcorp.com
+1-972-687-5332

Mary Kay China
Leo Zhou
Director, Public Affairs
leo.zhou@mkcorp.com
+86 1068349333

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย






Mary Kay Inc. พูดถึงการอนุรักษ์ความยั่งยืนและความรับผิดชอบขององค์กรระหว่างการอภิปราย TNC Oceans Panel

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–24 สิงหาคม 2565

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนระดับโลกด้านความยั่งยืนและการดูแลองค์กร อยู่ในแนวหน้าของการต่อสู้เพื่อปกป้องมหาสมุทรของเรามาช้านาน เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีตัวแทนจากแบรนด์ได้เข้าร่วมในหัวข้อเรื่อง Making Waves: Women Leaders in Ocean Conservation เป็นการอภิปรายเสมือนที่จัดขึ้นโดย The Nature Conservancy ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลกที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างโลกที่ผู้คนและธรรมชาติสามารถเติบโตไปได้  

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220824005167/en/

With the support of partners such as Mary Kay Inc., The Nature Conservancy has established strong country programs while also growing trusted partnerships with local communities, businesses, and governments. (Photo Credit: Tim Calver)

ด้วยการสนับสนุนจากพันธมิตร อย่างเช่น Mary Kay Inc. The Nature Conservancy ได้จัดตั้งโครงการระดับประเทศที่แข็งแกร่ง ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความร่วมมือที่เชื่อถือได้กับชุมชน ธุรกิจ และรัฐบาลในท้องถิ่น (เครดิตภาพ: Tim Calver)

ในระหว่างงาน ผู้ร่วมอภิปรายพูดคุยกันว่าผู้นำสตรีจากทั่วโลกกำลังเป็นหัวหอกในความพยายามในการฟื้นฟูสุขภาพของมหาสมุทรของเรา แต่ยังมีอีกมากที่ต้องทำ ประเด็นสำคัญอื่น ๆ ได้แก่ การเสริมสร้างพลังอำนาจ การศึกษา และแรงจูงใจของคนรุ่นต่อไป ควบคู่ไปกับความสำคัญของความเป็นผู้นำในท้องถิ่น

ผู้ร่วมอภิปรายที่เข้าร่วมกับ Mary Kay ได้แก่:

  • Dr. Lizzie Mcleod, Global Reefs Lead ของ The Nature Conservancy
  • Dr. Sherry Constantine กรรมการบริหารโครงการ Eastern Caribbean Program ของ The Nature Conservancy
  • Robyn James ที่ปรึกษาด้านเพศสภาพและความเท่าเทียมกันในเอเชียแปซิฟิกของ The Nature Conservancy
  • Selina N. Leem, Climate warrior and poet จากหมู่เกาะมาร์แชลล์
  • Jennifer Morris ซีอีโอของ The Nature Conservancy

“การยกระดับและสนับสนุนแชมป์มหาสมุทรและสภาพภูมิอากาศทั่วโลกเป็นวิธีสำคัญที่เราจัดการกับปัญหาความหลากหลายทางชีวภาพและวิกฤตสภาพภูมิอากาศแบบคู่ขนาน” Dr. Lizzie Mcleod Global Reef Lead ของ The Nature Conservancy กล่าว “นอกจากนี้การเพิ่มความสามารถของผู้หญิงในการมีส่วนร่วมและเป็นผู้นำในการอนุรักษ์มหาสมุทรและการดำเนินการด้านสภาพอากาศช่วยให้มั่นใจว่าโครงการจะตอบสนองความต้องการของชุมชนได้ดียิ่งขึ้น มีความยั่งยืนและมีความเท่าเทียมมากขึ้น และสร้างผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่ายสำหรับผู้คนและธรรมชาติ”

Mary Kay เข้าใจดีถึงภัยคุกคามต่อสุขภาพของมหาสมุทรเป็นภัยคุกคามต่อเราทุกคน และเรามุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับผู้นำคนอื่น ๆ ในพื้นที่นี้เพื่อสร้างความแตกต่าง

หากต้องการอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของ Mary Kay ในด้านความยั่งยืน ดูรายละเอียดได้ที่ marykayglobal.com/sustainability และสามารถดาวน์โหลดกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay: Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy (TNC)

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ดินแดนและน่านน้ำที่ทุกชีวิตต้องพึ่งพาอาศัย ภายใต้การนำด้วยวิทยาศาสตร์ เรารังสรรค์โซลูชั่นที่สร้างสรรค์และใช้งานได้จริงเพื่อรับมือกับความท้าทายที่ยากที่สุดในโลกของเรา เพื่อให้ธรรมชาติและผู้คนสามารถเติบโตไปด้วยกัน เรากำลังจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อนุรักษ์พื้นดิน น้ำ และมหาสมุทรในแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จัดหาอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน และช่วยให้เมืองมีความยั่งยืนมากขึ้น การทำงานใน 79 ประเทศและภูมิภาค เราใช้แนวทางการทำงานร่วมกันที่มีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น รัฐบาล ภาคเอกชน และพันธมิตรอื่น ๆ ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press บน Twitter

เกี่ยวกับ Mary Kay Inc.

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 2506 โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือเติมเต็มชีวิตให้กับผู้หญิง ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com พบกับเราบน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220824005167/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc.
Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

The Nature Conservancy
Misty Edgecomb
Communications Director
medgecomb@tnc.org or 484-343-3223




Black & Veatch เสร็จสิ้นการสร้างโรงงานผลิตอาหารสัตว์ทางเลือกเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลก

Logo

โดยใช้ที่ดิน น้ำ และพลังงานน้อยกว่าผู้ผลิตโปรตีนรายอื่น โรงงานหมักชีวภาพของ Calysseo จะผลิต FeedKind® 20,000 ตันต่อปี

ปักกิ่ง–(บิสิเนส ไวร์)–17 ส.ค. 2565

ด้วยความต้องการโปรตีนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากประชากรโลกที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว  ทางบริษัทกำลังดำเนินการทดสอบใช้งานที่โรงงาน FeedKind® ในเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน

โรงงานแห่งนี้ซึ่งได้รับการออกแบบและสร้างเสร็จก่อนกำหนดโดยกิจการร่วมค้า Black & Veatch และ Shanghai LBT Engineering & Technology Co. Ltd. จะผลิตอาหารสัตว์คาร์บอนต่ำจำนวน 20,000 ตันต่อปี

โรงงานดังกล่าวได้รับการพัฒนาโดย Calysseo Chongqing Co Ltd. ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าระหว่าง Aisseo ผู้นำด้านโภชนาการสำหรับสัตว์ทั่วโลกและ Calysta ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมโปรตีน

FeedKind® เป็นส่วนผสมอาหารทางเลือกสำหรับอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและอาหารสัตว์ที่ผลิตผ่านการหมักตามธรรมชาติซึ่งไม่ได้ผลิตโดยการใช้ที่ดินทำกิน หรือใช้ส่วนประกอบจากสัตว์หรือพืช และใช้น้ำเพียงเล็กน้อยในการผลิต

“หากปราศจากการสร้างสรรค์และผลิตโปรตีนทางเลือก ประชากรโลกที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และความต้องการอาหารที่มีโปรตีนสูงจะส่งผลกดดันห่วงโซ่อาหารที่เรามีอยู่ อย่างไม่ยั่งยืน” Graham Aylen ผู้อำนวยการโครงการ Calysseo กล่าว “การมี Black & Veatch อยู่กับเราช่วยให้เราสามารถนำเสนอเทคโนโลยีใหม่นี้ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และตามกำหนดเวลา ซึ่งช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายขั้นสำคัญในการแข่งขันของมนุษยชาติเพื่อสร้างแหล่งอาหารที่มีความยั่งยืนและมั่นคงมากขึ้นในวันพรุ่งนี้”

กลุ่มบริษัทได้ดำเนินการตามขอบเขต ด้านวิศวกรรม การจัดซื้อจัดจ้าง และการก่อสร้าง (EPC) สำหรับโรงงานที่ตั้งอยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีฉางโซว (CETDA) มณฑลฉงชิ่ง ประเทศจีน

ในฐานะผู้นำกิจการร่วมค้า Black & Veatch เป็นผู้บริหารโครงการ ออกแบบกระบวนการ และจัดซื้อจัดจ้างทั่วโลกด้วยความเชี่ยวชาญ บริษัทได้จัดให้มีการบริหารโครงการโดยรวมและการจัดหาเครื่องจักรชิ้นหลัก เครื่องมือวัดและอุปกรณ์ ระบบควบคุม โครงการได้รับการส่งมอบก่อนกำหนดโดยปราศจากรายงานเหตุการณ์และอุบัติเหตุได้มากกว่า 1.3 ล้านชั่วโมง

“โครงการที่สร้างแรงบันดาลใจนี้เกิดขึ้นมาได้จากการผสานเทคโนโลยีชีวภาพ การแปรรูปก๊าซ และความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมที่ยั่งยืนจากองค์กรทั่วโลกของเรา ร่วมกับลูกค้าที่มีนวัตกรรมและให้ความร่วมมือ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทีมงานและพันธมิตรในท้องถิ่นที่ยอดเยี่ยม โรงงานแห่งแรกที่ไม่เหมือนใครแห่งนี้ได้ส่งมอบอย่างปลอดภัย ตรงเวลา ท่ามกลางการระบาดใหญ่ทั่วโลก ทำให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจอยู่แล้ว ประทับใจมากขึ้นไปอีก” Narsingh Chaudhary รองประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Black & Veatch กล่าว

Shanghai LBT Engineering and Technology Co. Ltd ให้บริการด้านการออกแบบทางวิศวกรรม การขออนุญาต และความเชี่ยวชาญด้านการก่อสร้าง

ตอนนี้ Calysseo จะวางแผนที่จะก้าวไปสู่ขั้นต่อไปของการพัฒนาเพื่อผลิต FeedKind® ให้ได้ 80,000 ตันต่อปี

คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลด ภาพ

เกี่ยวกับ Black & Veatch

Black & Veatch เป็นบริษัทระดับโลกด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ การให้คำปรึกษา และการก่อสร้างที่มีพนักงานเป็นเจ้าของ 100 เปอร์เซ็นต์ ด้วยผลงานด้านนวัตกรรมในโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนมากกว่า 100 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2458 เราได้ช่วยลูกค้าของเราปรับปรุงชีวิตของผู้คนทั่วโลกโดยยืนหยัดต่อสู้และสร้างความเชื่อมั่นในสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของเรา รายได้ของเราในปี 2564 เกิน 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดตามเราได้ที่ www.bv.com และบนโซเชียลมีเดีย

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220810005847/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อสำหรับสื่อ:
EMILY CHIA | +65 6335 6623 P | +65 9875 8907 M | Chialp@bv.com
สายด่วนสื่อตลอด 24 ชั่วโมง | +1 855-999-5991