Category Archives: Lifestyle

จังหวัดชุงชองเหนือ หรือ ชุงชองบุกโด จัดงาน ‘The Cosmetics & Beauty Expo Osong Korea 2021’ ทางออนไลน์และในสถานที่จัดพร้อมกัน

Logo

– งานเอ็กซ์โปจัดรายการที่หลากหลายภายใต้หัวข้อ 'K-beauty, from Osong in Chungcheongbuk-do to the World'

ชองจู เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–8 ตุลาคม 2564

งาน 'The Cosmetics & Beauty Expo Osong Korea 2021' ที่จัดขึ้นโดยเมืองชองจู จังหวัดชุงชองเหนือ และจัดงานโดยมูลนิธิ Osong Bio Promotion Foundation ซึ่งจะมีขึ้นเป็นเวลาห้าวันตั้งแต่วันที่ 19 ถึง 23 ตุลาคม บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ (http://www.osongbeautyexpo.kr) และบริเวณสถานีรถไฟ Osong station ในจังหวัดชุงชองเหนือ ประเทศเกาหลีใต้

'The Cosmetics & Beauty Expo Osong Korea 2021,' hosted by Chungcheongbuk-do and Cheongju and organized by the Osong Bio Promotion Foundation, will take place from October 19th to 23rd on its official website and around the Osong station in Chungcheongbuk-do, South Korea. Under the theme of ‘K-beauty, from Osong in Chungcheongbuk-do to the World,’ the Business and Product Promotion Pavilions for Business to Business (B2B) will be open as ‘Online Exhibition,’ with ‘Offline Market Hall’ for Business to Consumer (B2C). Especially for B2C, online sales via NAVER Smartstore exhibitions and live commerce will also be conducted. Other various programs, such as ‘video export counseling services,’ ‘e-Conferences,’ and ‘online and offline events and experience’ will be provided. (Graphic: Business Wire)

งาน 'The Cosmetics & Beauty Expo Osong Korea 2021' ที่จัดขึ้นโดยเมืองชองจู จังหวัดชุงชองเหนือ และจัดงานโดยมูลนิธิ Osong Bio Promotion Foundation ซึ่งจะมีขึ้นเป็นเวลาห้าวันตั้งแต่วันที่ 19 ถึง 23 ตุลาคมบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ภายใต้หัวข้อ ‘K-beauty, from Osong in Chungcheongbuk-do to the World,’  ซุ้มนิทรรศการด้านการส่งเสริมทางธุรกิจและผลิตภัณฑ์สำหรับธุรกิจที่ดำเนินกิจการค้าขายระหว่างหน่วยงานภาคธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) จะเปิดเป็น ‘นิทรรศการออนไลน์,’ กับ ‘ออฟไลน์มาร์เก็ตฮอลล์’ สำหรับธุรกิจที่ขายสินค้าหรือให้บริการแก่ผู้บริโภคโดยตรง (B2C) โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจแบบ B2C การขายออนไลน์ผ่านงานแสดงสินค้า NAVER Smartstore และการค้าพาณิชย์แบบไลฟ์สดจะดำเนินการอีกด้วย โปรแกรมที่หลากหลายอื่น ๆ อย่างเช่น ‘การบริการให้คำปรึกษาด้านการเผยแพร่วิดีโอ,’ ‘การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์,’ และ ‘กิจกรรมและประสบการณ์ออนไลน์และออฟไลน์’ (กราฟิก: Business Wire)

งานเอ็กซ์โปจัดขึ้นตั้งแต่ปี 2556 เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงาม อุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์ของจังหวัดชุงชองเหนือ และเพื่อช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางรุกเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ

ในปีนี้ภายใต้หัวข้อ 'K-beauty, from Osong in Chungcheongbuk-do to the World' ซุ้มนิทรรศการด้านการส่งเสริมทางธุรกิจและผลิตภัณฑ์สำหรับธุรกิจที่ดำเนินกิจการค้าขายระหว่างหน่วยงานภาคธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) จะเปิดเป็น ‘งานแสดงสินค้าออนไลน์,’ กับ ‘ออฟไลน์มาร์เก็ตฮอลล์’ สำหรับธุรกิจที่ขายสินค้าหรือให้บริการแก่ผู้บริโภคโดยตรง (B2C) งานเอ็กซ์โปมีกิจกรรมที่หลากหลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจแบบ B2C อย่างเช่น การขายออนไลน์ผ่านงานแสดงสิค้า NAVER Smartstore และการค้าพาณิชย์แบบไลฟ์สด

‘งานแสดงสินค้าออนไลน์,’ ซุ้มนิทรรศการด้านส่งเสริมการขายสำหรับองค์กรและผลิตภัณฑ์ที่เน้นที่ธุรกิจแบบ B2B ให้ข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับผู้เข้าร่วมและผลิตภัณฑ์ที่แสดงซึ่งแบ่งออกเป็นหมวดหมู่เครื่องสำอางแต่ละประเภท ดำเนินการด้วยทีมตรวจสอบผลิตภัณฑ์ในการนำเสนอความคิดเห็นของผู้ใช้

‘ออฟไลน์มาร์เก็ตฮอลล์,’ ที่เน้นด้วยธุรกิจแบบ B2C ซึ่งจัดตั้งขึ้นที่สถานีรถไฟ Osong station จะขายสินค้าที่แสดงในราคาที่เหมาะสม และจะมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายทางออนไลน์ผ่าน Smartstore ตลาดออนไลน์ของ NAVER และการค้าพาณิชย์แบบไลฟ์สด

นอกจากนี้งานเอ็กซ์โปยังมีโปรแกรมที่หลากหลาย อย่างเช่น ‘การบริการให้คำปรึกษาด้านการเผยแพร่วิดีโอ,’ ‘การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์,’ และ ‘กิจกรรมและประสบการณ์ออนไลน์และออฟไลน์’

‘การบริการให้คำปรึกษาด้านการเผยแพร่วิดีโอ,’ เมื่อปีที่แล้วให้บริการเฉพาะในระหว่างงาน สำหรับปีนี้จะให้บริการออนไลน์เป็นเวลาสี่สัปดาห์โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน

โดยผ่าน ‘การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์,’ ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องสำอางในประเทศและต่างประเทศจะนำเสนอวิดีโอบรรยายเกี่ยวกับข้อมูลความงามครั้งล่าสุด: ‘แนวโน้มการผลิตเครื่องสำอางปี 2564,’ ‘การเปลี่ยนแปลงนโยบายเครื่องสำอางในจีน,’ และ ‘แนวโน้มความงามของผู้บริโภคทั่วโลก’

“ในปีนี้เราได้เตรียมโปรแกรมที่หลากหลาย อย่างเช่น กิจกรรมและประสบการณ์ที่สามารถเข้าร่วมได้ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์” เจ้าหน้าที่จากจังหวัดกล่าวเสริมว่า “เราคาดหวังว่าผู้มาเยือนจะซื้อสินค้าคุณภาพสูงในราคาที่เหมาะสม และผู้ซื้อจากต่างประเทศได้รับข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเครื่องสำอางในท้องถิ่นผ่านงานเอ็กซ์โปนี้”

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมคลังภาพ/มัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52499701/en

ติดต่อ:

The Cosmetics & Beauty Expo Osong Korea 2021
KO JEONG SUK
+82-43-220-4552
wjdtnr31@korea.kr

“การท่องเที่ยวฮ่องกง” จับมือ “ซีเจ อีเอ็นเอ็ม” ปลุกกระแสเที่ยวฮ่องกงด้วยวัฒนธรรม “เคป็อป”

Logo

imgimg

การท่องเที่ยวฮ่องกง (Hong Kong Tourism Board: HKTB) ได้ลงนามข้อตกลงสามปีกับ บริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม (CJ ENM) หนึ่งในบริษัทผู้นำด้านอุตสาหกรรมบันเทิงแห่งเอเชีย ลงนามข้อตกลงสามปี ตั้งแต่ปี 2565 ถึง 2567 เพื่อสร้างมุมมองใหม่ต่อฮ่องกงในฐานะสถานที่น่าท่องเที่ยวผ่านซีรีส์ และรายการวาไรตี้เกาหลี และยังเป็นครั้งแรกที่องค์กรด้านการท่องเที่ยวได้ร่วมวางแผนกลยุทธ์ควบคู่กับบริษัทด้านความบันเทิงอย่างซีเจ อีเอ็นเอ็ม ซึ่งมีประสบการณ์ในการผลิตซีรีส์และวาไรตี้ที่ได้รับกระแสตอบรับล้นหลามในระดับโลกอย่าง ซีรีส์ปักหมุดรักฉุกเฉิน (Crash Landing On You), ก็อบลิน คำสาปรักผู้พิทักษ์วิญญาณ (Goblin: The Lonely and Great God), เพลย์ลิสต์ชุดกาวน์ (Hospital Playlist), วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย (Vincenzo) รวมทั้งรายการวาไรตี้อย่าง Youn's Kitchen และ New Journey to the West การร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการกระตุ้นให้ผู้ชมได้นึกถึงฉากที่ชื่นชอบจากซีรีส์เกาลี และรายการวาไรตี้ต่างๆ ในบรรยากาศของสถานที่ท่องเที่ยวท้องถิ่นในฮ่องกง และยังเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวเมื่อสามารถเดินทางข้ามพรมแดนได้อีกครั้งด้วย

การท่องเที่ยวฮ่องกง และบริษัทสัญชาติเกาหลีอย่าง ซีเจ อีเอ็นเอ็ม ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ซึ่งจะทำให้ฮ่องกงได้เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหารายการมากมายที่ผลิตโดย ซีเจ อีเอ็นเอ็ม ตั้งแต่ปี 2565 ถึง 2567 โดยจะนำเสนอภาพของไลฟ์สไตล์และวัฒนธรรมฮ่องกงอันเป็นเอกลักษณ์ สู่สายตาผู้ชมทั่วโลก ในปัจจุบัน คอนเทนต์อันโด่งดังที่ทางซีเจ อีเอ็นเอ็มผลิตขึ้นนั้น ถ่ายทอดไปแล้วกว่า 200 ประเทศ และมีการรับชมทั่วโลกผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชื่อดังระดับโลกที่เป็นพันธมิตรกับซีเจ อีเอ็นเอ็มอีกด้วย

เมื่อการจำกัดการเดินทางสิ้นสุดลง ภาพบรรยากาศของฮ่องกงก็จะได้รับการถ่ายทอดออกไปในฐานะฉากหลังของละครและรายการวาไรตี้หลายประเภทที่ผลิตโดยบริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม ที่เคยฝากผลงานการผลิตซีรีส์สุดฮิตและได้รับกระแสตอบรับที่ดีทั่วโลก อย่าง ซีรีส์ปักหมุดรักฉุกเฉิน (Crash Landing On You), ก็อบลิน คำสาปรักผู้พิทักษ์วิญญาณ (Goblin: The Lonely and Great God), เพลย์ลิสต์ชุดกาวน์ (Hospital Playlist), วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย (Vincenzo) รวมทั้งรายการวาไรตี้อย่าง Youn's Kitchen และ New Journey to the West

หุ้นส่วนทั้งสองจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อก่อให้เกิดความกลมกลืนของผลงาน ซึ่งรวมถึงการให้คำแนะนำด้านสถานที่และมุมมองทางวัฒนธรรมของฮ่องกงที่จะปรากฏในแต่ละรายการ ซึ่งจะทำให้ฮ่องกงติดอันดับลิสต์สถานที่น่าท่องเที่ยวของคอซีรีส์เกาหลีอย่างแน่นอน

ดร. วายเค แปง ประธานการท่องเที่ยวฮ่องกง ผู้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความเข้าใจออนไลน์ ระหว่าง นายเดน เฉิง ผู้อำนวยการบริหารการท่องเที่ยวฮ่องกง และ นายลี ซังมู รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายขายโฆษณา และพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม กล่าวว่า “การท่องเที่ยวฮ่องกงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นองค์กรด้านการท่องเที่ยวแรกที่มีการร่วมมือเชิงกลยุทธ์ลักษณะนี้กับบริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม เป้าหมายของเราคือการสอดแทรกฮ่องกงในเนื้อหาซีรีส์และรายการวาไรตี้เกาหลีชื่อดัง ซึ่งจะช่วยเสริมสถานะให้ฮ่องกงเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เมื่อสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อีกครั้ง เราคาดการณ์ว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะทวีความเข้มข้นขึ้นเมื่อโรคระบาดนี้สิ้นสุดลง ดังนั้น การท่องเที่ยวฮ่องกงจึงออกตัวก่อนด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรที่ทรงอิทธิพลในด้านสื่อ เพื่อให้ฮ่องกงยังคงอยู่ในสายตาและความสนใจของผู้ชมทั่วโลกอยู่เสมอ”

นายลี ซังมู รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายขายโฆษณาและพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม กล่าวปิดท้ายว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้เป็นพันธมิตรกับการท่องเที่ยวฮ่องกง และหยิบยกเสน่ห์ และความน่าตื่นตาตื่นใจของฮ่องกง ออกสู่สายตาของผู้ชมผ่านซีรีส์และรายการวาไรตี้ที่เป็นที่นิยมของเรา และด้วยคอนเทนต์ระดับพรี
เมียมของซีเจ อีเอ็นเอ็ม ที่ผ่านการพิสูจน์ทั้งยอดการรับชมและอิทธิพลในระดับโลก เรายังคงมุ่งมั่นที่จะขยายผลงานสู่ตลาดนานาชาติผ่านกลยุทธ์การร่วมมือจากทั่วโลก”

###

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับท่านสื่อมวลชน

เกี่ยวกับการท่องเที่ยวฮ่องกง

การท่องเที่ยวฮ่องกง (The Hong Kong Tourism Board: HKTB) เป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งโดยภาครัฐบาล มีสำนักงาน 15 แห่งทั่วโลก และมีสำงานตัวแทนใน 7 ภูมิภาค โดยมีภารกิจหลักเพื่อขยายผลผลิตทางเศษฐกิจและสังคมของฮ่องกงจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และร่วมกันผลักดันให้ฮ่องกงเป็นหนึ่งในจุดมุ่งหมายการท่องเที่ยวระดับโลก การท่องเที่ยวฮ่องกงทำงานอย่างใกล้ชิดกับภาครัฐบาล ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และพันธมิตร เพื่อประชาสัมพันธ์ฮ่องกงออกสู่สายตานานาชาติ รวมถึงขยายรูปแบบของบริการดีๆ ในฮ่องกงให้มีความหลากหลาย ยกระดับมาตรฐานการบริการ และส่งเสริมประสบการณ์ของผู้ที่มาเยี่ยมเยือน

ติดตามข่าวสาร discoverhongkong.com Facebook: www.facebook.com/hk.discoverhongkong/

Instagram: www.instagram.com/discoverhongkong/ 3

เกี่ยวกับบริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม จำกัด

บริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม เป็นบริษัทผู้นำทางด้านบันเทิงและไลฟ์สไตล์ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลี ตั้งแต่ปี 2538 โดยบริษัทเป็นผู้ดำเนินธุรกิจที่หลายหลากในอุตสาหกรรมบันเทิงตั้งแต่ คอนเทนต์ในสื่อ, ดนตรี, ภาพยนตร์, ศิลปะการแสดง รวมไปถึงอนิเมชั่น ซึ่งผลิตผลงานชั้นนำออกสู่หลากหลายแพลตฟอร์ม ซีเจ อีเอ็นเอ็มได้สร้างสรรค์ ดำเนินการผลิต รวมถึงจัดจำหน่าย รายการชื่อดังที่ได้รับกระแสตอบรับดีในระดับโลก รวมไปถึงภาพยนตร์ที่ชนะรางวัลคานส์อย่าง ชนชั้นปรสิต(Parasite) และ ชนะรางวัล โทนี่ อวอร์ด สาขาละครเพลงอย่าง จับหัวใจมาใส่เกือก(Kinky Boots) รวมไปถึงภาพยนตร์ที่ทุบสถิติบ็อกซ์ออฟฟิศของเกาหลีอย่าง ยีซุนชิน ขุนพลคลื่นคำราม(Roaring Currents), ภารกิจทอดไก่ ซุ่มจับเจ้าพ่อ(Extreme Job), กี่หมื่นวัน…ไม่ลืมคำสัญญาพ่อ(Ode to My Father) รวมไปถึง ซีรีส์และรายการโทรทัศน์ที่ทุกคนต่างติดตามอย่าง ปักหมุดรักฉุกเฉิน(Crash Landing On You), สุภาพบุรุษตะวันฉาย(Mr. Sunshine), ก็อบลิน คำสาปรักผู้พิทักษ์วิญญาณ(Guardian: The Lonely and Great God), ป๋าซ่าพาซิ่ง(Grandpas over Flowers), นักร้องซ่อนแอบ(I Can See Your Voice) และอื่นๆ อีกมากมาย และเพื่อที่จะนำเสนอประสบการณ์แห่งวัฒนธรรมเกาหลีในระดับนานาชาติ  ซีเจ อีเอ็นเอ็ม ยังภูมิใจนำเสนอ KCON/KCON:TACT มหกรรมที่รวบรวมวัฒนธรรมเกาหลีที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเทศกาลการเฉลิมฉลอง Hallyu รวมถึง เอ็มเน็ต เอเชี่ยน มิวสิค อวอร์ด (MAMA) งานประกาศรางวัลด้านดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และยังมีสำนักงานระดับภูมิภาคในเอเชีย ยุโรป และอเมริกา ปัจจุบันซีเจ อีเอ็นเอ็ม มีพนักงานมากกว่า 3,600 คน

ลิงก์สำหรับดาวน์โหลดไฟล์ภาพขนาดใหญ่

https://hktb.filecamp.com/s/2021_MOU_signing_between_HK/fo

###

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


การวิจัยของ OAG ระบุว่า เกือบ 3 ใน 4 ของผู้เดินทางในสหรัฐฯ สนับสนุนการใช้วัคซีนพาสปอร์ต

Logo

70% ของผู้เดินทางทั้งหมดสนับสนุนวัคซีนพาสปอร์ตระหว่างประเทศ โดย 56% ของผู้เดินทางที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจะไม่รับการฉีดวัคซีนแม้จะมีการบังคับใช้เพื่อเดินทาง

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–14 กันยายน 2564

จากการสำรวจของ OAG กับผู้เดินทางชาวอเมริกันมากกว่า 1,800 คนในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม พบว่านักเดินทางกำลังจะได้เดินทางทางอากาศอีกครั้ง แต่การเดินทางทางอากาศในอนาคตอันใกล้ยังมีความไม่แน่นอนสูง ความสามารถในการรองรับผู้เดินทางภายในประเทศในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 81% ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม ปี 2564 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว การเพิ่มขึ้นนี้เกิดจากความต้องการอันแรงกล้าของผู้บริโภค โดย 70% ของผู้บริโภคที่สำรวจโดย OAG ได้จองเที่ยวบินล่วงหน้าไว้แล้ว

ขณะที่ผู้เดินทางที่ปรารถนาเดินทางด้วยเครื่องบินมีจำนวนเพิ่มขึ้นนั้น สายพันธุ์เดลต้า อัตราการแพร่เชื้อของโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น และความต้องการในการฉีดวัคซีนนั้นมีผลอย่างมากต่อสถานการณ์ระยะใกล้และระยะกลาง ผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่สำรวจโดย OAG รายงานว่าได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว อย่างไรก็ตาม OAG พบว่ามีเพียง 15% ของผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนที่วางแผนจะรับการฉีดวัคซีนก่อนการเดินทางครั้งต่อไป

สายการบินและจุดหมายปลายทางหลายแห่งกำลังพิจารณาออกกฎให้นักท่องเที่ยวฉีดวัคซีนเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและกับป้องกันการแพร่เชื้อ โดย 68% ของผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมดกล่าวว่าพวกเขาสนใจหรือต้องการวัคซีนพาสปอร์ตสำหรับการเดินทางในประเทศ และ 70% เชื่อว่าควรบังคับใช้วัคซีนพาสปอร์ตสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ ที่น่าตกใจคือ  56% ของผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนกล่าวว่าพวกเขายังคงไม่ได้รับการฉีดวัคซีน แม้ว่าสายการบิน สนามบิน หรือจุดหมายปลายทางมีการคับใช้สำหรับการเดินทางก็ตาม

Mayur Patel หัวหน้า OAG ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ข้อบังคับการฉีดวัคซีนเป็นดาบสองคม สายการบิน รัฐบาล และจุดหมายปลายทางหลายแห่งกำลังพิจารณาอย่างจริงจังว่าจะออกข้อบังคับให้ฉีดวัคซีนก่อนบินหรือเข้าพื้นที่ได้ และผู้เดินทางส่วนใหญ่ก็สนับสนุนการใช้วัคซีนพาสปอร์ต แม้จะเป็นการเพิ่มเชื้อเพลิงให้กับไฟที่ร้อนจัดก็ตาม แต่ความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่นอย่างต่อเนื่องของตลาดการเดินทางทั้งหมดนั้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับจำนวนการฉีดวัคซีนที่สูงขึ้นและอัตราการแพร่เชื้อที่ลดลง”

ประเด็นอื่น ๆ จากการวิจัยของ OAG ประกอบด้วย:

  • ความกังวลเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ยังคงทำให้นักเดินทางบางส่วนต้องชะลอการเดินทาง จาก 30% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่ยังไม่ได้จองเที่ยวบิน จำนวน 40% กำลังรอให้อัตราการฉีดวัคซีนและข้อบังคับดีขึ้น และ 30% กำลังรอการบังคับใช้วัคซีนพาสปอร์ต
  • แนวโน้มการเดินทางเพื่อธุรกิจยังคงไม่ชัดเจน มีเพียง 62% ของผู้เดินทางเพื่อธุรกิจกล่าวว่าบริษัทกำลังวางแผนเดินทางทางอากาศในอีก 12 เดือนข้างหน้า ขณะที่ 38% กล่าวว่าบริษัทยังไม่มีแผนการ (20%) หรือยังไม่ได้ระบุแผน (18%)
  • มีการคาดการณ์ว่าการท่องเที่ยวในวันหยุดจะกลับมา ฤดูกาลการท่องเที่ยวในวันหยุดปี 2564 จะคึกคักกว่าปี 2563 มาก จากผู้เดินทาง 38% ที่สำรวจโดย OAG ที่กล่าวว่าพวกเขามักจะบินในช่วงวันหยุด ในกลุ่มนี้จะมีเพียง 40% เท่านั้นที่ทำเช่นเดียวกันในปี 2563 โดยในปีนี้ กลุ่มที่ตั้งใจจะบินเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวถึง 85% การรองรับผู้เดินทางที่วางแผนไว้สำหรับสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) ก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งขณะนี้มีการจองที่ตั๋วในประเทศเพิ่มขึ้น 47% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
  • พฤติกรรมการจองตั๋วเครื่องบินยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ นักท่องเที่ยวเกือบครึ่งที่ทำแบบสำรวจยังคงจองตั๋วล่วงหน้าอย่างกระชั้นชิด (ระหว่าง 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือนล่วงหน้า) และอีกครึ่งหนึ่งจะจองระหว่าง 2-6 เดือนหรือนานกว่านั้น โดย 80% คาดว่าราคาตั๋วจะเพิ่มขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า

สำหรับข้อมูลเชิงลึกจากการสำรวจฉบับเต็ม ดูได้จากรายงานที่นี่ https://www.oag.com/us-traveler-survey เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ OAG ได้ที่ https://www.oag.com/

เกี่ยวกับ OAG

OAG เป็นผู้ให้บริการข้อมูลการเดินทางชั้นนำระดับโลกที่เสริมสร้างการเติบโตและนวัตกรรมของระบบนิเวศการเดินทางทางอากาศตั้งแต่ ปี 2472 OAG มีสำนักงานใหญ่ในสหราชอาณาจักร มีการดำเนินงานทั่วโลกทั้งในสหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ลิทัวเนีย และจีน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่: www.oag.com และสามารถติดตามเราทาง Twitter ได้ที่ @OAG Aviation

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210913005030/en/

ติดต่อ:

Chrissy Azevedo 
Corporate Ink ตัวแทนของ OAG 
pressoffice@oag.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay Inc. เผยแพร่รายงานสรุปกลยุทธ์ความยั่งยืนและผลกระทบทางสังคมประจำปี 2563-64 โดยเน้นที่เป้าหมายความยั่งยืนระดับโลกและผลกระทบทางสังคมจนถึงปี 2573

Logo

ในหัวข้อ “Enriching Lives Today for A Sustainable Tomorrow” รายงานสรุปฉบับแรกที่เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และความรับผิดชอบต่อสังคม

แดลลัส–(BUSINESS WIRE)–13 กันยายน 2564

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนระดับโลกด้านความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร ในวันนี้ได้เผยแพร่กลยุทธ์ความยั่งยืนในหัวข้อ Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow และรายงานสรุปกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนและผลกระทบทางสังคมประจำปี 2563-64

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210913005253/en/

Enriching Lives Today For A Sustainable Tomorrow logo (Graphic: Mary Kay Inc.)

โลโก้ Enriching Lives Today For A Sustainable Tomorrow (กราฟิก: Mary Kay Inc.)

“มันเป็นเรื่องที่มากกว่าคำว่าเรา—และมันเป็นแบบนั้นมาโดยตลอด” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและการดูแลส่วนบุคคลกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านเมื่อบริษัทต่าง ๆ พัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม การดำเนินงานที่โปร่งใส และผลิตภัณฑ์ที่สะอาดและมีจริยธรรม Mary Kay เชื่อและสนับสนุนในวิวัฒนาการนี้”

Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow ขยายวิสัยทัศน์ของ Mary Kay ไปสู่ปี 2573 และปีต่อ ๆ ไป โดยสร้างภาพลักษณ์ว่าอะไรที่ดี “หน้าตาเป็นอย่างไร” สำหรับ Mary Kay ที่ปรึกษาด้านความงามอิสระ ลูกค้า และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือโลกใบนี้ Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow ได้รับการพัฒนาร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักของ Mary Kay และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ทำให้ Mary Kay เป็นส่วนสำคัญของกลุ่มพันธมิตรระดับโลกเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่า

“ในขณะที่มีการริเริ่มที่มีความหมายเกิดขึ้นทั่วทั้งอุตสาหกรรม—และในตัวของ Mary Kay—ยังมีงานอีกมากในการค้นหาแนวทางแก้ไขระยะยาวสำหรับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจและสังคมที่รออยู่ข้างหน้า” Gibbins กล่าวเสริม “เป็นเวลาเกือบ 60 ปีที่ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างชีวิตของผู้หญิง พัฒนาด้านสุขภาพผิว และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนทั่วโลก เราตื่นเต้นมากที่ได้ก้าวต่อไปที่สำคัญในการเดินทางของเรา”

จุดเด่นของรายงานความยั่งยืนประกอบด้วย:

  • Mary Kay ประกาศกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลก: Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow แนวทางแบบองค์รวมของเราครอบคลุมสามเสาหลักของความยั่งยืน—เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม—ผ่านห้าเสาหลัก ขับเคลื่อนด้วยความมุ่งมั่น 15 ประการเพื่อส่งมอบทศวรรษแห่งการดำเนินการที่ยั่งยืน
  • Mary Kay จะมีส่วนร่วมใน 15 จาก 17 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ที่กำหนดโดยสหประชาชาติ และได้ดำเนินการตามลำดับความสำคัญและภาระผูกพันในบริบทของการมอบอำนาจชั้นนำระดับโลก ซึ่งรวมถึง: หลักการสิบประการของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ หลักการสร้างเสริมอำนาจสตรีเจ็ดประการ CEO Water Mandate, and the Sustainable Ocean Principles หรือ หลักการฟื้นฟูมหาสมุทรอย่างยั่งยืน
  • เป้าหมายความมุ่งมั่นที่สำคัญเพื่อให้บรรลุภายในปี 2573:
    • ลดปริมาณ 30%: ความเข้มของพลาสติก คาร์บอน (ขอบเขต 1 และ 2) และการใช้น้ำ
    • ส่งเสริมผู้หญิงจำนวน 5 ล้านคนทั่วโลกผ่านการพัฒนาทักษะการเป็นผู้ประกอบการ
    • ให้การสนับสนุนผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงทางเพศและในครอบครัวมากกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก

จุดเด่นที่สำคัญ:

ในปี 2563 และครึ่งแรกของปี 2564 Mary Kay ยังคงสานต่อมรดกแห่งความยั่งยืนและการสนับสนุน ด้านล่างนี้คือจุดเด่นที่สำคัญบางส่วน

ความเป็นเลิศทางธุรกิจ

  • 100% ของผู้อำนวยการที่อยู่ในสหรัฐฯ และตำแหน่งสูงกว่านั้นสำเร็จการฝึกอบรมภาคบังคับเรื่องความมีอคติโดยไม่รู้ตัว
  • ความหลากหลายทางเพศในสถานที่ทำงาน: 54% ของทีมผู้บริหารทั่วโลกของ Mary Kay เป็นผู้หญิง 61% ของพนักงานทั่วโลกของ Mary Kay เป็นผู้หญิง และ 54% ของรองประธานระดับโลกขึ้นไปเป็นผู้หญิง 59% ของกรรมการขึ้นไปเป็นผู้หญิง (มีนาคม 2564)
  • ดำเนินการตรวจสอบธุรกิจบุคคลที่สามและรายงานข้อมูลความหลากหลายเพื่อแจ้งห่วงโซ่อุปทานปัจจุบันของเราที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ผู้หญิง ชนกลุ่มน้อย หรือทหารผ่านศึกเป็นเจ้าของ: ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2564 (ข้อมูลห่วงโซ่อุปทานในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น): 12% ของผู้ซัพพลายเออร์ทางอ้อมของ Mary Kay เป็นผู้หญิง ชนกลุ่มน้อย หรือทหารผ่านศึกที่เป็นเจ้าของ; 5% ของซัพพลายเออร์โดยตรงของ Mary Kay เป็นผู้หญิง ชนกลุ่มน้อย หรือทหารผ่านศึก
  • ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับโลกของเรา ปัจจุบันเรานำเสนอรองพื้นมากกว่า 80 ชนิด—ในเฉดสีและฟินิชที่หลากหลาย—เพื่อให้เข้ากับสเปกตรัมที่สวยงามของโทนสีผิวได้ดีที่สุด
  • 77% ของศิลปินที่มีส่วนร่วมในแคมเปญการตลาดทั่วโลกของเราเป็นธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของ (ช่างภาพ ผู้อำนวยการ นักออกแบบ ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม โปรดิวเซอร์ ฯลฯ)

การดูแลผลิตภัณฑ์

  • เข้าร่วมเป็นสมาชิกของกลุ่มผู้ผลักดันบรรจุภัณฑ์ยั่งยืนในกลุ่มอุตสาหกรรมความงาม หรือSustainable Packaging Initiative for Cosmetics (SPICE) ภารกิจของ SPICE คือการขับเคลื่อนอนาคตของบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนสำหรับเครื่องสำอางให้มีความก้าวหน้าที่สำคัญในสามด้านหลัก: กำหนดนโยบายบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน ขับเคลื่อนนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ และให้ความโปร่งใสในผู้บริโภค
  • เข้าร่วมมูลนิธิ Ellen MacArthur Foundation ในฐานะสมาชิกของเครือข่าย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการเป็นธุรกิจหมุนเวียนที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น

การผลิตอย่างมีความรับผิดชอบ

  • สำนักงานใหญ่ระดับโลก โรงงานผลิตทั่วโลก และการจัดจำหน่ายทั่วโลกและระบบการจัดเก็บและดึงข้อมูลอัตโนมัติ (ASRS) ของ Mary Kay ซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา โดยใช้พลังงานหมุนเวียน 100 เปอร์เซ็นต์
  • การวิเคราะห์พื้นฐานโดยละเอียดเริ่มต้นขึ้นในปี 2562 และดำเนินต่อไปในปี 2563 เพื่อกำหนดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของเรา จากระยะแรกของการวิเคราะห์ เป้าหมายของการลดก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด (GHG) 30% สำหรับขอบเขต 1 และ 2 ได้ถูกนำมาใช้เป็นเป้าหมายด้านความยั่งยืน ในปี 2564 ระยะที่ 2 ซึ่งประกอบด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับก๊าซเรือนกระจกสำหรับขอบเขตที่ 3 ได้เริ่มต้นขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาเป้าหมายภายในไตรมาสแรกของปี 2565
  • สมาชิกผู้ก่อตั้งโครงการริเริ่มระดับโลกสองโครงการร่วมกับมูลนิธิ Arbor Day Foundation: Evergreen Alliance และ Time for Trees Initiative; และเป็นสมาชิกของ Trillion Tree Initiative
  • เป็นผู้ลงนามในสาเหตุสำคัญสองประการในการปกป้องน่านน้ำของโลก: โครงการ CEO Water Mandate และหลักการมหาสมุทรที่ยั่งยืนของ United Nations Global Compact

การเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้หญิง

  • กลายเป็นผู้ให้คำมั่นสัญญาของกลุ่มพันธมิตรปฏิบัติการในแนวร่วมปฏิบัติด้านความเท่าเทียมรุ่นที่สี่: ความรุนแรงบนฐานของเพศสภาพ; ความยุติธรรมและสิทธิทางเศรษฐกิจ; ปฏิบัติการสตรีนิยมเพื่อความยุติธรรมด้านสภาพอากาศ; และเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ (ปี 2564-2569)
  • เปิดตัว Women's Entrepreneurship Accelerator ในปี 2562 ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มระดับโลกเพื่อนำผู้ประกอบการผ่านการศึกษาและส่งเสริมผู้ประกอบการสตรีผ่านเส้นทางสู่การสร้างเสริมพลัง 4 เส้นทาง ได้แก่ การศึกษา การให้ทุน การสนับสนุน และการมีส่วนร่วม ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวเร่งการเป็นผู้ประกอบการสำหรับผู้หญิงทุกคนในทุกที่
  • สนับสนุนข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ หรือ UN Global Compact ในการพัฒนาชุดเครื่องมือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) สำหรับหลักการเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้หญิงตั้งแต่ องค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ หรือ UN Women ไปจนถึงการเป็นสมาชิก SMEs จำนวน 6,000 ราย และการใช้งานทั่วไปสำหรับบริษัททั่วโลกเพื่อสนับสนุนความเท่าเทียมกันของผู้หญิง

ผลกระทบทางสังคมระดับโลกและชุมชนท้องถิ่น

  • มูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation มีโครงการวิจัยด้านมะเร็งและการทดลองทางคลินิกเกือบ 40 โครงการ และนักวิจัยที่อยู่ในขั้นตอนของโครงการ 42% ของโครงการวิจัยมะเร็งที่เป็นนวัตกรรมใหม่นำโดยผู้หญิง และในขณะที่ 100 เปอร์เซ็นต์ของการทดลองทางคลินิกนำโดยผู้หญิง
  • Mary Kay Inc. และมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation สนับสนุนองค์กร 667 แห่งที่มุ่งมั่นทำงานช่วยชีวิตขององค์กรที่สนับสนุนการขจัดความรุนแรงบนฐานเพศสภาพและให้ทุนแก่สถานพักพิงสตรีที่ให้บริการความช่วยเหลือที่สำคัญ โดยเข้าถึงผู้หญิงและเด็กผู้หญิงกว่า 2 ล้านคนผ่านโครงการที่ไม่ซ้ำกัน 786 โครงการ ในกว่า 138 ประเทศ
  • ตั้งแต่ปี 2551 โครงการ Pink Changing Lives ทั่วโลกของ Mary Kay ได้ก่อให้เกิดโปรแกรมสร้างพลังอำนาจส่งผลกระทบต่อผู้หญิงมากกว่าหกล้านคนและครอบครัวของพวกเขาด้วยการเป็นพันธมิตรกับองค์กรกว่า 3,000 แห่งทั่วโลก โดยบริจาคเงินกว่า 16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563 มีการบริจาคมากกว่า 775,000 ดอลลาร์สหรัฐให้กับองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก

เติมเต็มชีวิตในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
ภาพรวม 5 เสาหลักและพันธสัญญา 15 ข้อ
ความเป็นเลิศทางธุรกิจ

  • คนของเรา: ปลูกฝังการมีส่วนร่วมของพนักงาน หรือ EMPLOYEE ENGAGEMENT โดยดำเนินชีวิตตามค่านิยมของบริษัทและหล่อเลี้ยงวัฒนธรรมองค์กรของเรา
  • ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการรวมเข้าด้วยกัน: ทำความเข้าใจผ่านความรู้ หรือ KNOWLEDGE เรียกร้องให้ดำเนินการ หรือ ACTION  รับรองการเปลี่ยนแปลง หรือ CHANGE ที่ยั่งยืนและยาวนาน
  • ความโปร่งใสและการสนับสนุน: นำไปสู่ความโปร่งใส หรือ TRANSPARENCY และการช่วยเหลือผ่านผู้สนับสนุนสัมพันธ์ หรือ ADVOCACY

การดูแลผลิตภัณฑ์

  • พลาสติกและบรรจุภัณฑ์: ลด หรือ REDUCE ความเข้มของพลาสติกลง 30%
  • การรีไซเคิลและเศรษฐกิจหมุนเวียน: 90% ของบรรจุภัณฑ์กระดาษที่ทำจากการใช้วัสดุที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้อีก หรือ RECYCLED CONTENT
  • การจัดหาที่ยั่งยืน: ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของเราให้เหลือน้อยที่สุด หรือ MINIMIZE สนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก และส่งเสริมผลประโยชน์ของชุมชน

การผลิตอย่างมีความรับผิดชอบ

  • คาร์บอน: ลด หรือ REDUCE คาร์บอน (ขอบเขต 1 และ 2) 30%
  • น้ำ: ลด หรือ REDUCE การใช้น้ำ 30%
  • ของเสียจากการปฏิบัติงาน: เบี่ยงเบน หรือ DIVERT 60% ของของเสียจากการปฏิบัติงานจากการฝังกลบ

การเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้หญิง

  • ความเท่าเทียมกัน: พัฒนา หรือ DEVELOP วาระนโยบาย 10 ปีเพื่อแก้ไขปัญหาสิทธิสตรี
  • การเสริมสร้างพลังอำนาจทางเศรษฐกิจ: เพิ่มพลังอำนาจ หรือ EMPOWER ให้ผู้หญิง 5 ล้านคนทั่วโลก
  • การศึกษา: เข้าถึง หรือ ACCESS การศึกษาสำหรับเด็กหญิงและสตรี 250,000 คนทั่วโลก

ผลกระทบทางสังคม

  • การวิจัยโรคมะเร็ง: กองทุน หรือ FUND รวมกว่า 400,000 ชั่วโมงในการวิจัย
  • ความรุนแรงตามเพศสภาพ: สนับสนุน หรือ SUPPORT ผู้หญิงกว่า 10 ล้านคนทั่วโลกด้วยบริการความช่วยเหลือ
  • การสนับสนุนชุมชนและผลกระทบทางสังคมทั่วโลก: ร่วมมือกัน หรือ COLLABORATE เพื่อการเปลี่ยนแปลงกับองค์กรกว่า 500 แห่ง

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเมื่อ 58 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอมมากมาย และยังทุ่มเทกับการช่วยให้ผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขามีพลังด้วยการร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญและสนับสนุนกับการวิจัยด้านมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายและพาเธอสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ MaryKayGlobal.com

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210913005253/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
Marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com








คุมาโมโตะและผลการฟื้นตัวจากแผ่นดินไหว 5 ปีต่อมา

Logo

ความคืบหน้าของการฟื้นตัวจากแผ่นดินไหวในคุมาโมโตะและแนวคิดสำหรับโตเกียว 2020 “โอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์แห่งการฟื้นฟู”

คุมะโมะโตะ ญี่ปุ่น–(บิสิเนสไวร์)–31 ส.ค. 2564

เป้าหมายของการประมูลโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียวคือเพื่อให้งานนี้เป็นสัญญาณของการฟื้นตัวของญี่ปุ่นหลังจากเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ในโทโฮกุในปี 2554

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210831005307/en/

Post-Earthquake Recovery, Kumamoto 5 years later (Graphic: Business Wire)

คุมาโมโตะและผลการฟื้นตัวจากแผ่นดินไหว 5 ปีต่อมา (กราฟิก: บิสิเนสไวร์)

การแพร่กระจายที่คาดการณ์ไม่ได้ของ COVID-19 ได้ทำให้การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกล่าช้าไปถึงหนึ่งปีและทำให้การแข่งขันต้องจัดขึ้นโดยไม่มีผู้ชม  นี่หมายความว่าความคืบหน้าหลังแผ่นดินไหวทั้งหมดในญี่ปุ่น ซึ่งตั้งใจจะเปิดเผยต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติในระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกส่วนใหญ่ไม่ได้มีใครสังเกต

ในปี 2559 คุมาโมโตะได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวหลายครั้ง  โดยเป็นแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดสองครั้งวัดขนาด 6.2 และ 7.0 ริกเตอร์  คุมาโมโตะเองก็ตั้งหน้าตั้งตารอการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเพื่อเป็นมาตรการในการฟื้นตัวจากภัยพิบัติของตัวเอง

แต่เช่นเดียวกับในภาคตะวันออกของญี่ปุ่น โควิด-19 ได้ขัดขวางไม่ให้ผู้มาเยือนจากต่างประเทศได้เข้ามาดูความคืบหน้าด้วยตนเอง  เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เราต้องการแสดงสิ่งที่คุมาโมโตะประสบความสำเร็จในช่วงห้าปีที่ผ่านมาให้คุณได้เห็นในเว็บไซต์ของเรา

การฟื้นฟูแผ่นดินไหวในคุมาโมโตะ 5 ปีต่อมา ได้แก่

  1. การฟื้นฟูพื้นที่ภูเขาอาโสะ ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นและบริเวณแคลดีรา
    ภูเขาอาโสะ หนึ่งในพื้นที่ท่องเที่ยวชั้นนำของญี่ปุ่น ได้รับความเดือดร้อนอย่างมากจากแผ่นดินไหว  ห้าปีต่อมา ความพยายามในการฟื้นฟูได้สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นและการเปิดสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งอีกครั้ง หากการระบาดไม่ได้เป็นปัญหา พื้นที่ภูเขาอาโสะจะอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ในการต้อนรับผู้มาเยือนจำนวนมาก
  2. การสร้างปราสาทคุมาโมโตะขึ้นใหม่
    ปราสาทคุมาโมโตะคุมาโมโตะ ซึ่งสร้างขึ้นในปี 2150 เป็นสัญลักษณ์ หัวใจ และจิตวิญญาณของชาวคุมาโมโตะ  แผ่นดินไหวทำให้อาคารถล่ม กระเบื้องหลังคาแตก และทำให้กำแพงหินกลายเป็นซากปรักหักพัง  ตอนนี้ การบูรณะปราสาทยังคงดำเนินต่อไป โดยได้เสร็จสิ้นการสร้างทางยกกระดับเพื่อให้เข้าถึงภายในปราสาทได้ และตอนนี้หอปราสาทเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมแล้ว
  3. มังงะและอนิเมะยอดนิยม “วันพีซ” มอบความช่วยเหลือในการสร้างใหม่
    เรื่องราวดั้งเดิมของวันพีซ “Hinokuni Recovery” ถูกสร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนคุมาโมโตะ  ในนั้น ตัวละครแต่ละตัว (ลูฟี่และสมาชิก 9 คนของกลุ่มหมวกฟาง) ใช้พลังของพวกเขาเพื่อช่วยคุมะโมะโตะ รูปปั้นทองสัมฤทธิ์ของตัวละครแต่ละตัวกำลังถูกเปิดเผยผ่านจังหวัดคุมาโมโตะ

    กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราสำหรับรายละเอียด
    https://kumamoto.guide/en/season/detail/145

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210831005307/en/

ติดต่อ:

Kumamoto Prefectural Tourism Federation (การท่องเที่ยวแห่งคุมาโมโตะ)
Takayuki Kubo
โทร: 81 -96-382-2660
อีเมล: kubo@minamiaso.info

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Seafood Legacy Co. Ltd. ประกาศเปิดให้ลงทะเบียนการประชุม Tokyo Sustainable Seafood Summit ประจำปี 2564

Logo

สร้างเศรษฐกิจสีน้ำเงินสู่ปี 2573: พลิกโฉมอุตสาหกรรมอาหารทะเลญี่ปุ่นผ่านการลงทุนแบบ DX และ ESG

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–27 สิงหาคม 2564

การประชุม Tokyo Sustainable Seafood Summit ประจำปี 2564 (TSSS2021) จะจัดขึ้นระหว่างวันจันทร์ที่ 11 ถึงวันพุธที่ 13 ตุลาคม 2564 โดย Seafood Legacy Co., Ltd. (จากนี้เรียก “Seafood Legacy '') และ Nikkei ESG ร่วมกับ Walton Family Foundation และ David and Lucile Packard Foundation

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหาแบบมัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210826005032/en/

(Graphic: Business Wire)

(กราฟิก: Business Wire)

ธีมของการประชุมในปีนี้คือ “สร้างเศรษฐกิจสีน้ำเงินสู่ปี 2573: พลิกโฉมอุตสาหกรรมอาหารทะเลของญี่ปุ่นผ่านการลงทุนแบบ DX และ ESG” จากการให้ความสำคัญต่อเศรษฐกิจสีน้ำเงินและความสำเร็จตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ภายในปี 2573 การประชุมจึงมุ่งเน้นไปที่การนำเทคโนโลยีมาดำเนินธุรกิจ (DX) และการลงทุนที่คำนึงถึงการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ที่มุ่งเร่งการขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารทะเลของญี่ปุ่น

การประชุม Tokyo Sustainable Seafood Summit ต่อยอดมาจาก Tokyo Sustainable Seafood Symposium ที่จัดก่อนหน้า โดยจัดขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี 2558 และได้เติบโตขึ้นเป็นหนึ่งในการประชุมชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียที่เคลื่อนไหวเกี่ยวกับอาหารทะเลที่ยั่งยืน โดยมีอัตราการเข้าร่วมที่เพิ่มขึ้นทุกปี ปีที่แล้วมีผู้บรรยาย 108 คน และผู้เข้าร่วมประชุม 3,800 คน (ยอดชมทางออนไลน์)

การเคลื่อนไหวต่อความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารทะเลและเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่อิงกับทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมีการเติบโตขึ้นจากความสนใจเกี่ยวกับความยั่งยืนที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก และเป็นสัญลักษณ์จากแนวคิด “เศรษฐกิจสีน้ำเงิน”

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแก้ไขพระราชบัญญัติการประมงของญี่ปุ่นที่มีผลบังคับใช้ในเดือนธันวาคม 2563 โดยมีการออกกฎหมายเพื่อปรับใช้และปรับปรุงการจำหน่าย (พระราชบัญญัติการค้าสัตว์และพืชเฉพาะทางทะเลในประเทศ) นโยบายดังกล่าวสร้างความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการปรับปรุงความยั่งยืน นอกจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แล้ว ยังมีสัญญาณว่าการนำเทคโนโลยีทางดิจิทัลมาใช้จะช่วยส่งเสริมความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารทะเล ส่วนสถาบันการเงินก็ได้เปิดตัวโครงการที่สนับสนุนการลงทุนที่คำนึงถึงการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) เพื่อปรับปรุงความยั่งยืนของอุตสาหกรรมอีกด้วย

ชื่องานได้ถูกเปลี่ยนจาก “การประชุมสัมมนา” เป็น “การประชุมสุดยอด” เพื่อให้สะท้อนถึงเป้าหมายในการตระหนักถึงการเคลื่อนไหวที่ได้ผลมากขึ้น โดยเป้าหมายคือการทำให้การประชุมเป็นงานที่นอกจากจะมุ่งเน้นไปที่การลงทุนโดยใช้เทคโนโลยีทางดิจิทัลและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลแล้ว เรายังสามารถพูดคุยกับผู้บรรยายและผู้เข้าร่วมเกี่ยวกับวิธีสร้างเศรษฐกิจสีน้ำเงินให้ดีที่สุดภายใน 10 ปีจนถึงปี 2573 ได้อีกด้วย

นอกจากการแบ่งปันข้อมูลล่าสุดที่เคยทำในการประชุมก่อนหน้าแล้ว การประชุมในปีนี้จะใช้ฟังก์ชันออนไลน์ ซึ่งเป็นพื้นที่ให้กับผู้ที่ต้องการส่งเสริมความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารทะเลได้สามารถโต้ตอบกัน

การประชุมครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศหารือกับบุคคลที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอาหารทะเลของญี่ปุ่นเป็นเวลา 3 วัน โดยมีเป้าหมายในการส่งต่อทรัพยากรทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์และเศรษฐกิจที่ยั่งยืนไปสู่รุ่นต่อไป เราขอขอบคุณสำหรับการแบ่งปันข้อมูลนี้ผ่านสื่อของท่าน

โครงร่างการประชุม

  • หัวข้อ: การประชุม Tokyo Sustainable Seafood Summit ประจำปี 2564 (TSSS2021)
  • ธีม: สร้างเศรษฐกิจสีน้ำเงินสู่ปี 2573: พลิกโฉมอุตสาหกรรมอาหารทะเลญี่ปุ่นผ่านการลงทุนแบบ DX และ ESG
  • วัน/เวลา: วันจันทร์ที่ 11 ถึงวันพุธที่ 13 ตุลาคม 2564
  • สถานที่: ออนไลน์
  • ค่าธรรมเนียมการเข้าร่วม: 5,000 เยนต่อคนสำหรับ 3 วันเต็ม (ไม่รวมภาษี)
  • บริการล่ามแปลภาษา ญี่ปุ่น-อังกฤษ พร้อมกันในงาน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและการลงทะเบียน โปรดดูที่: https://sustainableseafoodnow.com/2021/en/

ระหว่างการประชุม เราจะจัดงานมอบรางวัล Japan Sustainable Seafood Award ครั้งที่ 3 ซึ่งจะยกย่องถึงความพยายามในการกระตุ้นการเคลื่อนไหวทางอาหารทะเลที่ยั่งยืนของญี่ปุ่น

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210826005032/en/

ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับประกาศได้ที่:
Miki Yamaoka miki.yamaoka@seafoodlegacy.com
Mariko Arikawa mariko.arikawa@seafoodlegacy.com
โทร: +81-80-3550-2920
Seafood Legacy Co., Ltd.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


Dole Food & Beverages Group พลิกโฉมการวางแผนและทัศนวิสัยในห่วงโซ่อุปทานแบบดิจิทัลด้วย Blue Yonder

Logo

บริษัท CPG ระดับโลกจะปรับปรุงการคาดการณ์และประสานกระบวนการ S&OP และ S&OE ทั่วทั้งองค์กรด้วย Luminate Control Tower และ Luminate Planning

สิงคโปร์และสก็อตส์เดล แอริโซนา–(BUSINESS WIRE)–26 สิงหาคม 2564

ในช่วงการระบาดใหญ่ของ COVID-19 บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภค (CPG) ได้เห็นการหยุดชะงักอย่างมีนัยสำคัญในด้านอุปสงค์และอุปทานของห่วงโซ่อุปทานของพวกเขา ส่งผลให้เกิดความต้องการความสามารถในการคาดการณ์ความต้องการของผู้ซื้อเพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป การเพิ่มขีดความสามารถในด้านบริการให้เหนือกว่า และสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ปรับเปลี่ยนได้พร้อมการแสดงภาพแบบครบวงจร นั่นเป็นแรงผลักดันให้ Dole Food & Beverages Group เปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทานแบบดิจิทัลเพื่อคาดการณ์ความล่าช้าในการจัดส่งและความล่วงรู้ กำหนดและเพิ่มประสิทธิภาพความต้องการซื้อ โดยเปิดใช้งานด้วยโซลูชันระบบคลาวด์ Blue Yonder สองรายการคือ: กลุ่มผลิตภัณฑ์ Luminate™ Control Tower และ Luminate Planning

Dole Food & Beverages Group เป็นส่วนหนึ่งของ The Dole Sunshine Company ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและนักการตลาดรายใหญ่ที่สุดของโลกในผลไม้สดบรรจุภัณฑ์และผลิตภัณฑ์จากผลไม้ที่มีคุณภาพสูง บริษัทกำลังมองหาทัศนวิสัยและการคาดการณ์แบบครบวงจร การวางแผนการขายและการดำเนินงาน (S&OP) และกระบวนการขายและการดำเนินการ (S&OE) และความสามารถของการบริหารจัดการ โดย Dole Food & Beverages Group เป็นลูกค้า Blue Yonder มามากกว่า 20 ปีได้ผ่านขั้นตอนการประเมินที่ครอบคลุมเพื่อเลือกผู้ให้บริการซัพพลายเชนที่มีมายาวนานสำหรับโซลูชันที่สามารถตอบสนองความต้องการที่ใหม่กว่าและสนับสนุนการเดินทางสู่ Dole Promise

โครงการเปลี่ยนโฉมสู่ดิจิทัลจะช่วยให้ Dole Food & Beverages Group สร้างห่วงโซ่อุปทานที่คล่องตัวโดยมุ่งเน้นที่องค์ประกอบหลักสามประการ ได้แก่ บุคลากร กระบวนการ และระบบ โดยการใช้โซลูชัน Blue Yonder ที่ขับเคลื่อนโดย Luminate Platform บริษัทมีแผนดังนี้:

  • จัดโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานในอนาคตด้วยการบริหารจัดการระดับโลกและระดับท้องถิ่นที่ทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นเพื่อให้ได้รับความรับผิดชอบตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางตลอดห่วงโซ่อุปทาน
  • เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าและการประหยัดต้นทุนด้วยระดับสินค้าคงคลังที่ลดลงและการเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าคงคลัง
  • เพิ่มความยืดหยุ่นและความคล่องตัวในกระบวนการวางแผน
  • เปิดใช้งานความสามารถในการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลผ่านแพลตฟอร์มแบบบูรณาการแบบครบวงจร
  • ปรับปรุง S&OP การวางแผนสถานการณ์และการเงิน รวมถึงงบกำไรขาดทุนและกระแสเงินสด
  • ปรับปรุงการแสดงภาพทั่วทั้งห่วงโซ่อุปทาน

“ตอนมองหาการบริหารจัดการและโซลูชันในการวางแผนห่วงโซ่อุปทาน เป้าหมายของเราคือการเปิดใช้งานกระบวนการซัพพลายเชนข้ามสายงานที่คล่องตัวและตอบสนอง ซึ่งช่วยให้ผู้คนมีความสามารถในการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลโดยอิงจากพื้นฐานของแพลตฟอร์มเทคโนโลยีบูรณาการแบบครบวงจร Luminate Planning และ Luminate Control Tower ของ Blue Yonder มอบโซลูชันที่เหมาะสมแก่เราเพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยปรับปรุงการดำเนินงานของเรา ส่งผลให้ต้นทุนลดลงและเพิ่มเวลาในการวางแผน” Fritz Zeh รองประธานฝ่ายการผลิตทั่วโลก กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มของ Dole กล่าว

แพลตฟอร์ม Luminate เป็นรากฐานสำคัญของระบบนิเวศนี้ โดยนำเสนอระบบอัตโนมัติอัจฉริยะและความสามารถในการขยาย ความสม่ำเสมอของข้อมูล และประสบการณ์ที่มีส่วนร่วมและเป็นหนึ่งเดียวที่ขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันและการตัดสินใจ แพลตฟอร์มดังกล่าวจะขับเคลื่อนความสามารถในทัศนวิสัยและการวางแผนสำหรับ Dole Food & Beverages Group ซึ่ง Luminate Control Tower ที่ทำงานบนคลาวด์ของ Microsoft Azure จะช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินการด้วยตนเองโดยอัตโนมัติ เข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อจัดการและปรับขนาดระดับสินค้าคงคลังให้เหมาะสม และทัศนวิสัในห่วงโซ่อุปทานได้ ด้วย Luminate Planning บริษัทสามารถสร้างการคาดการณ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น โดยคำนวณจากตัวแปรหลายร้อยตัวที่ขับเคลื่อนอุปสงค์และในทางกลับกันก็บรรลุการคาดการณ์อุปสงค์เดียวที่เป็นกลาง การคำนวณอัตโนมัติและการสร้างการคาดการณ์แบบองค์รวมช่วยให้บริษัทปลดล็อกประสิทธิภาพการวางแผนที่ดียิ่งขึ้น

“เรารู้สึกตื่นเต้นที่ Dole Food & Beverages Group มอบความไว้วางใจในโซลูชันระบบคลาวด์ของเรา เพื่อช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทานดิจิทัล พวกเขาจะสามารถนำความสามารถในการคาดการณ์และการวางแผนธุรกิจของพวกเขาไปสู่อีกระดับ ในขณะที่มองเห็นผ่านการบริหารจัดการ” Vishal Dhawan รองประธานกลุ่ม Growth Markets ของ Blue Yonder กล่าว

บริษัทที่สนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการโยกย้ายโซลูชันซัพพลายเชนของตนไปยังระบบคลาวด์เพื่อเปิดใช้งานการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลสามารถเยี่ยมชมได้ที่: blueyonder.com/services/cloud-transformation

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม:

เกี่ยวกับ Dole Food & Beverages Group

Dole Food & Beverages Group เป็นผู้นำในการจัดหา แปรรูป จัดจำหน่าย และทำการตลาดผลิตภัณฑ์ผลไม้และขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพไปทั่วโลก Dole จำหน่ายผลิตภัณฑ์ผลไม้แช่แข็งและแห้งบรรจุกระป๋อง โหล ถ้วย และเป็นผู้ริเริ่มในด้านบรรจุภัณฑ์และผลไม้แปรรูปในรูปแบบใหม่

ที่ Dole เราเชื่อว่าในทุก ๆ วัน ควรจะได้รับแสงแดดที่มากขึ้น เพราะแสงแดดที่มากขึ้นหมายถึงรอยยิ้มที่มากขึ้น พลังงานที่มากขึ้น และชีวิตที่สดใสและมีสุขภาพดีที่มากขึ้นที่คุณทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้มา และเพื่อช่วยให้ดวงอาทิตย์ส่องแสงในทุกที่ เรามุ่งมั่นสู่ความยั่งยืนในการดำเนินงานทั้งหมดของเรา โดยมุ่งเน้นไปที่สี่เสาหลัก: การจัดการน้ำ คาร์บอนฟุตพริ้นท์ การอนุรักษ์ดิน และการลดของเสีย เรามั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นของเรามีความสดใสมีชีวิตชีวา ดังนั้นคุณสามารถเพิ่มแสงแดดให้วันของคุณเองได้ทุกวัน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมที่ dolesunshine.com

เกี่ยวกับ Blue Yonder

Blue Yonder เป็นผู้นำระดับโลกในห่วงโซ่อุปทานดิจิทัลและการเติมเต็มการค้าผ่านทุกช่องทาง แพลตฟอร์มอัจฉริยะแบบครบวงจรของเราช่วยให้ผู้ค้าปลีก ผู้ผลิต และผู้ให้บริการด้านลอจิสติกส์สามารถคาดการณ์ เปลี่ยนแปลง และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างราบรื่น ด้วย Blue Yonder คุณสามารถทำการตัดสินใจทางธุรกิจที่ทำกำไรได้โดยอัตโนมัติ ที่มอบการเติบโตที่มากยิ่งขึ้นและมอบประสบการณ์ของลูกค้าในจินตนาการใหม่ Blue Yonder – Fulfill your PotentialTM blueyonder.com

Blue Yonder” เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Blue Yonder Group, Inc. ชื่อการค้า ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใดๆ ที่อ้างอิงในเอกสารนี้โดยใช้ชื่อ “Blue Yonder” เป็นเครื่องหมายการค้าและ/หรือทรัพย์สินของ Blue Yonder Group, Inc. ชื่อบริษัทและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดอาจเป็นเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายการค้าจดทะเบียน หรือเครื่องหมายบริการของบริษัทที่เกี่ยวข้อง

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210825005736/en/

ติดต่อประชาสัมพันธ์ Blue Yonder:
Jolene Peixoto รองประธานฝ่ายสื่อสารองค์กร
โทร: +1 978-475-0524, jolene.peixoto@blueyonder.com

Marina Renneke APR ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร
โทร: +1 480-308-3037, marina.renneke@blueyonder.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Agthia เปิดตัว eZad ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการประมูลออนไลน์ครั้งแรกสำหรับอินทผลัม

Logo

  • eZad ช่วยให้เกษตรกรชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ขายอินทผลัมได้โดยตรงกับผู้ซื้ออินทผลัมทั่วโลก แพลตฟอร์มนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การซื้อและขายที่เร็วขึ้น โปร่งใสมากขึ้น และให้ผลกำไรสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด
  • eZad ยังนำเสนอโซลูชั่นห่วงโซ่คุณค่าที่สมบูรณ์เพียงปลายนิ้วสัมผัส

อาบูดาบี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–22 ส.ค. 2564

Agthia Group PJSC บริษัทอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำระดับภูมิภาค ประกาศเปิดตัว eZad ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม eAuction ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ สะดวก และมีประสิทธิภาพ สำหรับรูปแบบทางธุรกิจที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ประกอบการด้วยกันเอง หรือ b2b ซึ่งผู้ซื้อจากทั่วโลกสามารถซื้ออินทผลัมจำนวนมากจากผู้ขายในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นแบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210822005026/en/

eZad, the First of its Kind Online Auction Platform for Dates (Photo: AETSOWire)

eZad แพลตฟอร์มการประมูลออนไลน์แห่งแรกสำหรับอินทผลัม (ภาพ: AETSOWire)

eZad ทำให้การซื้อและขายอินทผลัมเร็วขึ้น โปร่งใสมากขึ้น และให้ผลกำไรสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด แพลตฟอร์มนี้มุ่งมั่นที่จะช่วยให้เกษตรกรปลูกอินทผลัมได้ดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ผู้ซื้ออินทผลัมแบบขายส่งสามารถขยายธุรกิจได้

ในระยะแรก eZad จะจัดหาอินทผลัมจากเกษตรกรในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเริ่มลงรายการตั้งแต่ต้นฤดูเก็บเกี่ยวในเดือนสิงหาคม จากนั้นจะมีการขยายขอบเขตของ eZad ไปยังประเทศอื่น ๆ

เกษตรกรจะลงรายการอินทผลัมสำหรับการประมูลใน eZad ผ่านระบบการรับรองที่น่าเชื่อถือ ซึ่งจัดเกรดให้กับอินทผลัมภายใต้มาตรฐานตลาดที่เชื่อถือได้ สนับสนุนโดยการรับประกันคุณภาพที่สร้างขึ้นจากประสบการณ์ที่กว้างขวางและที่มีชื่อเสียงที่สืบทอดมาจาก Al Foah

รายการประมูลจะเปิดให้มีการประมูลบนแพลตฟอร์ม eZad สำหรับผู้ซื้อทั่วโลกเป็นเวลา 48 ชั่วโมง ผู้ซื้อจะสามารถค้นหาและกรองรายการสินค้าตามความชอบ เช่น ราคา ประเภทของอินทผลัม ปริมาณ และคุณภาพ

ผู้ซื้อสามารถรวบรวมอินทผลัมจากคลังสินค้าแห่งใดแห่งหนึ่งของ eZad หรือเลือกจากบริการเสริมที่มีให้ รวมถึงการจัดเก็บ บรรจุภัณฑ์ การบรรจุขนส่ง การรมควัน การล้าง และการส่งมอบอินผลัมไปยังสถานที่ทั่วโลก

Alan Smith ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Agthia Group กล่าวว่า “แพลตฟอร์ม eZad ได้รับการสร้างขึ้นเพื่อนำความโปร่งใส ความสะดวก และมาตรฐานมาสู่อุตสาหกรรมวันที่ ผ่านเทคโนโลยีและบริการที่เราจัดหาให้ เป้าหมายของเราคือเชื่อมโยงเกษตรกรรายเล็กและรายใหญ่โดยตรงกับผู้ซื้ออินทผลัมจำนวนมากผ่านแพลตฟอร์มเดียวที่เรียบง่ายและเป็นนวัตกรรมใหม่ การสร้างลิงก์โดยตรงเช่นนี้จะทำให้ส่วนต่างที่ถูกซ่อนเอาไว้ก่อนหน้านี้รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเดินทางหมดไป จึงเป็นการนำเสนอโซลูชั่นที่คุ้มค่าแก่ผู้ซื้อ”

เขากล่าวเสริมว่า: “แพลตฟอร์มที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะจะจัดการกับจุดอ่อนทางธุรกิจ ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่คุณค่า เราให้เกษตรกรและลูกค้าเป็นหัวใจของทุกสิ่งที่เราทำมาโดยตลอด และเราจะยังคงทำเช่นนั้นเพื่อสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจที่เป็นธรรมและผลประโยชน์สำหรับทุกคน”

eZad ตั้งเป้าที่จะเป็นช่องทางการขายชั้นนำสำหรับเกษตรกรและในขณะเดียวกันก็มอบประสบการณ์ที่ปราศจากความยุ่งยากให้กับผู้ซื้อ ลงทะเบียนและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ezad.ae

LinkedIn

*แหล่งที่มา: AETOSWire

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210822005026/en/

ติดต่อ:

Sanghamitra Sajil

ผู้จัดการบัญชีอาวุโส

+971554048224

smitra@quillmena.com

www.quillmena.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Hyatt เตรียมเข้าซื้อ Apple Leisure Group เพื่อขยายการรับรู้แบรนด์ในธุรกิจท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนแบบหรูหราไปทั่วโลก

Logo

การเข้าซื้อครั้งนี้เป็นการเร่งการเปลี่ยนแปลงสู่การดำเนินธุรกิจที่ถือครองสินทรัพย์น้อยลง โดย  Hyatt ตั้งเป้าขายสินทรัพย์ที่เป็นโรงแรมมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ฯ ให้ได้ภายในปี 2567

การขยายของแบรนด์ภายใต้เครือ AMRTM Collection อย่าง Secrets®, Dreams® และ Zoëtry® จะเพิ่มจำนวนรีสอร์ตทั่วโลกของ Hyatt เป็นสองเท่า พร้อมการเติบโตของยอดห้องพักรวมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

Hyatt เตรียมพูดคุยถึงการทำธุรกรรมครั้งนี้พร้อมเผยแพร่ทางเว็บไซต์ในวันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม เวลา 7:30 น. ตามเขตเวลา CDT

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–16 สิงหาคม 2564

Hyatt Hotels Corporation (NYSE: H) ประกาศในวันนี้ว่า Hyatt ได้บรรลุข้อตกลงในสัญญาหลัก (definitive agreement) เพื่อเข้าซื้อ Apple Leisure Group (ALG) กลุ่มบริษัทชั้นนำด้านการบริหารจัดการรีสอร์ตหรู การท่องเที่ยว และการบริการจากบริษัทในเครือของทั้ง KKR และ KSL Capital Partners, LLC เป็นเงินสดมูลค่า 2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การทำธุรกรรมครั้งนี้คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการปิดตามธรรมเนียม (customary closing conditions)

AMResorts® ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริหารจัดการแบรนด์รีสอร์ตโดย ALG ให้บริการเกี่ยวกับการบริหารจัดการกับรีสอร์ตหรูแบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาภายใต้เครือ AMRTM Collection ซึ่งประกอบด้วยแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Secrets® Resorts & Spa, Dreams® Resorts & Spas, Breathless® Resorts & Spas และ Zoëtry® Wellness & Spa Resorts รวมถึงแบรนด์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วอย่าง Alua® Hotels & Resorts ซึ่งกำลังขยายสู่จุดหมายปลายทางเพื่อการพักผ่อนหลายแห่งในยุโรป การเข้าซื้อครั้งนี้ยังรวมถึงข้อเสนอต่าง ๆ สำหรับสมาชิกจาก ALG ธุรกิจ Unlimited Vacation Club® ธุรกิจจัดจำหน่ายเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ALG Vacations®  รวมถึงบริการด้านบริหารจัดการจุดหมายปลายทางและสินทรัพย์ที่เป็นเทคโนโลยีการท่องเที่ยวด้วย หลังการเข้าซื้อเสร็จสมบูรณ์ ธุรกิจของ ALG จะยังคงอยู่ภายใต้การนำของ ซีอีโอคนปัจจุบันของ ALG  ซีอีโอคนปัจจุบันของ ALG รวมถึงทีมบริหารปัจจุบันของ ALG โดยคุณ Reynal จะเข้ามาเป็นสมาชิกทีมผู้บริหารของ Hyatt และรายงานต่อ Mark Hoplamazian ซีอีโอของ Hyatt

Mark Hoplamazian ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Hyatt กล่าวว่า “จากการเข้าซื้อ Apple Leisure Group ในลักษณะ asset-light ครั้งนี้ เราตื้นเต้นอย่างมากที่ได้นำแพลตฟอร์มบริหารจัดการรีสอร์ตอิสระซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากมาสู่ครอบครัว Hyatt การมาของ ALG จะช่วยขยายอาณาจักรรีสอร์ตทั่วโลกของ Hyatt เป็นสองเท่าในทันที ขณะที่พอร์ตโฟลิโอแบรนด์หรูของ ALG รวมถึงความเป็นผู้นำในตลาดรีสอร์ตแบบครบวงจร และไปป์ไลน์ขนาดใหญ่ของรีสอร์ตแห่งใหม่จะขยายการเข้าถึงของพวกเราทั้งในตลาดปัจจุบันและตลาดใหม่ ๆ รวมถึงในยุโรป พร้อมทั้งเร่งให้ยอดห้องพักสุทธิที่เราเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอยู่แล้วให้เติบโตมากขึ้น และที่สำคัญ การเข้าซื้อที่สร้างมูลค่าและรายรับที่เพิ่มขึ้น 2 พันล้านดอลลาร์จากการขายสินทรัพย์จะเข้ามาเปลี่ยนประมาณการรายได้ของเรา และเราคาดว่า Hyatt จะสามารถสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมได้ถึง 80% ภายในสิ้นปี 2567 นี้”

ธุรกิจกลุ่มโรงแรมของ ALG ประกอบด้วยห้องพักกว่า 33,000 ห้องที่ให้บริการอยู่ใน 10 ประเทศ กลุ่มธุรกิจนี้เติบโตจากรีสอร์ตจำนวน 9 แห่งในปี 2550 สู่ทรัพย์สินที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 100 รายการโดยประมาณเมื่อสิ้นสุดปี 2564 นอกจากนี้ยังการเจรจาทางธุรกิจ 24 รายการที่ได้เริ่มดำเนินการไปแล้วกับโรงแรมที่อยู่ระหว่างพัฒนาอีกหลายแห่ง ทั้งนี้ Unlimited Vacation Club® ของ ALG เป็นคลับสำหรับการท่องเที่ยวแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งผู้ใช้บริการจะได้เพลิดเพลินกับสิทธิพิเศษมากมายในอัตราพิเศษ ณ รีสอร์ตในเครือ AMR™ Collection และด้วยจำนวนสมาชิกกว่า 110,000 ราย Unlimited Vacation Club® จึงมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีของจำนวนสมาชิกถึง 18% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

Alejandro Reynal ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Apple Leisure Group กล่าวว่า “การรวมความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งและการเข้าถึงตลาดทั่วโลกของ Hyatt เข้ากับแบรนด์รีสอร์ตที่แข็งแกร่ง ความสามารถในการดำเนินธุรกิจ และแผนพัฒนาธุรกิจที่แข็งแกร่งของ ALG จะช่วยยกระดับสถานะของเราที่มีความแตกต่างและสร้างผู้นำในตลาดการเดินทางพักผ่อนแบบหรูหรา ในฐานะตัวแทนของทุกท่านที่ ALG ผมมีความซาบซึ้งต่อพันธมิตรของเราที่ KKR และ KSL ที่ได้ให้การสนับสนุนเราในการสร้างแพลตฟอร์มดังที่เป็นเช่นทุกวันนี้ ผมตื่นเต้นที่ได้เห็นทีมของเราได้มาร่วมกับครอบครัว Hyatt และผมคาดหวังที่จะได้เห็นเส้นทางการเติบโตที่แข็งแกร่งที่รอเราอยู่ข้างหน้าเมื่ออุตสาหกรรมขยายใหญ่ขึ้น และพวกเราสามารถมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในตลาดให้กับนักเดินทางกลุ่มที่ใหญ่ขึ้นจากทั่วโลก”

“วันนี้นับเป็นอีกก้าวความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในเรื่องราวของการเติบโต การฟื้นฟู และการอุทิศตนเพื่อประสบการณ์การพักผ่อนระดับโลกโดยทีมงานที่ยอดเยี่ยมของ Apple Leisure Group” Chris Harrington และ Rich Weissman พันธมิตรจาก KKR และ KSL Capital Partners กล่าว “ไม่มีที่ใดที่จะเหมาะกับ ALG บนเส้นทางการเติบโตนี้ไปกว่าการได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Hyatt อีกแล้ว”

เหตุผลเชิงกลยุทธ์

  • ขยายการดำเนินธุรกิจการเดินทางเข้าพักในรีสอร์ตระดับหรู: การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยให้แบรนด์ Hyatt เป็นที่รู้จักมากขึ้นในธุรกิจเดินทางพักผ่อนระดับหรู และในพอร์ตโฟลิโอจะมีโรงแรมเพิ่มขึ้นเป็น 100 แห่งทันที รวมถึงข้อเสนอต่าง ๆ ที่ได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว 24 รายการทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา หลังการเข้าซื้อเสร็จสมบูรณ์ Hyatt จะกลายเป็นเจ้าของรีสอร์ตหรูแบบครบวงจรที่มีพอร์ตโฟลิโอใหญ่ที่สุดในโลก ขยายการดำเนินธุรกิจรีสอร์ตทั่วโลกเป็นสองเท่า เป็นผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรมหรูที่ใหญ่ที่สุดในเม็กซิโกและประเทศในแถบแคริบเบียน และธุรกิจในยุโรปจะขยายถึง 60 เปอร์เซ็นต์ การเข้าซื้อครั้งนี้จะขยายพอร์ตโฟลิโอแบรนด์ของ Hyatt สู่ตลาดใหม่ในยุโรป 11 แห่ง ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพในการเติบโตในยุโรปของ Hyatt อย่างมาก ซึ่งภูมิภาคนี้เป็นมีความสำคัญต่อการเติบโตทั่วโลกของการเดินทางเพื่อการพักผ่อน
  • ขยายแพลตฟอร์มเพื่อการเติบโต: กลุ่มนักพัฒนาและเจ้าของแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งของ ALG จะขยายความสัมพันธ์ของ Hyatt กับพันธมิตรที่มีความมุ่งมั่นในภูมิภาคเสริมที่สำคัญ มีการคาดหวังว่าเครือข่ายนักพัฒนาที่มีอยู่ทั่วโลกของ Hyatt และความเชี่ยวชาญด้านการดำเนินการจะเข้ามาช่วยเร่งการเติบโตของแบรนด์ ALG ให้มากขึ้น Hyatt มีแผนที่จะดึงเอาจุดแข็งของแต่ละทีมมารวมกันเพื่อขยายตัวให้มากกว่าธุรกิจของ ALG ปัจจุบันในภูมิภาคใหม่ ๆ ซึ่งยังไม่มีโรงแรมของ ALG อยู่ในตอนนี้
  • ให้เจ้าของได้ประโยชน์: มีการคาดการณ์ว่าการเข้าถึงแพลตฟอร์มจัดจำหน่ายที่ ALG เป็นเจ้าของ และประสบการณ์ที่กว้างขวางด้านการเดินทางเพื่อพักผ่อนจะสร้างโอกาสมหาศาลให้กับรีสอร์ตที่มีอยู่ในปัจจุบันของ Hyatt เจ้าของทรัพย์สินในเครือ AMRTM Collection จะสามารถเข้าถึงแบรนด์ต่าง ๆ ที่มีความหลากหลายได้มากขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก รวมถึงระบบสนับสนุนทั้งด้านการจัดจำหน่ายทั่วโลก การขาย และการตลาดจาก Hyatt
  • เพิ่มตัวเลือกและประสบการณ์ให้กับแขกผู้เข้าพัก: ทรัพยากรทั้งหมดของ ALG และ Hyatt ที่มารวมกันจะเปิดประตูสู่ประสบการณ์และข้อเสนอที่มากขึ้นซึ่งเป็นประโยชน์ต่อแขกระดับไฮเอนด์และฐานลูกค้าของทั้งสองบริษัท นอกจากนี้ข้อเสนอจาก Unlimited Vacation Club® ที่สงวนเฉพาะสมาชิกของ ALG จะพาผู้ที่หลงใหลในการเดินทางกว่า 110,000 คน ให้มาใกล้ชิดกับ Hyatt มากขึ้นเมื่อเดินทางในโอกาสต่าง ๆ ที่นอกเหนือจากการเดินทางเพื่อพักผ่อน หลังการเข้าซื้อเสร็จสมบูรณ์ Hyatt จะพิจารณาถึงวิธีการที่ World of Hyatt และ Unlimited Vacation Club® จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มและมอบสิทธิประโยชน์ที่มีความพิเศษให้กับฐานลูกค้ากลุ่มต่าง ๆ ขณะที่ให้เจ้าของได้ประโยชน์ไปพร้อมกัน
  • ยกระดับข้อเสนอด้านการเดินทางพักผ่อนแบบครบวงจรผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
    • ALG Vacations® หนึ่งในผู้ให้บริการแพ็คเกจท่องเที่ยวและแพลตฟอร์มการเดินทางเพื่อการพักผ่อนที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกาเหนือ ซึ่งให้บริการในเม็กซิโกและแคริบเบียน
    • Amstar บริษัทชั้นนำด้านการจัดการบริการที่จุดหมายปลายทางในเม็กซิโกและแคริบเบียน และ Worldstar บริษัทคู่ค้าที่เน้นการทำธุรกิจในฮาวาย และ
    • Trisept Solutions® แพลตฟอร์มเทคโนโลยีด้านการเดินทางเพื่อการพักผ่อน
  • เร่งสร้างกลยุทธ์ asset-light: การเข้าซื้อธุรกิจของ ALG ในลักษณะที่เน้นการถือครองสินทรัพย์ให้น้อยลง หรือ asset-light จะทำให้เปอร์เซ็นต์ของรายรับและรายได้ที่ Hyatt จะได้จากค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนั้น Hyatt ยังมีแผนที่จะขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นโรงแรมมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ฯ ให้สำเร็จภายในปี 2564 ซึ่งจะทำให้มีรายได้รวมที่รับรู้เพิ่มขึ้นกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ฯ นับตั้งแต่มีการประกาศกลยุทธ์เกี่ยวกับการขายสินทรัพย์ไปเมื่อปี 2560 ด้วยกำไร EBITDA ที่รวมกันมากกว่า 17 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับการประมาณการเดิมของ Hyatt ที่ 13 ถึง 15 เท่า Hyatt ยังตั้งเป้าเพิ่มรายได้อีก 2 พันล้านดอลลาร์ฯ จากการขายอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรมภายในสิ้นปี 2567

ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน

Hyatt คาดว่าการชำระเงินมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของการเข้าซื้อครั้งนี้จะชำระโดยเงินสดที่มีอยู่ในมือ 1 พันล้านดอลลาร์ฯ รวมกับแหล่งเงินทุนจากการกู้เพิ่มและเงินทุนจากส่วนของผู้ถือหุ้นราว 500 ล้านดอลลาร์ญ ทั้งนี้ Hyatt ได้รับเงินกู้มูลค่า 1.7 พันล้านดอลลาร์จาก J.P. Morgan และจะนำเงินสดจากโครงการขายสินทรัพย์มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ฯ มาชำระหนี้ที่เป็นเงินดาวน์ ซึ่งรวมถึงหนี้ที่เกิดขึ้นระหว่างการเข้าซื้อด้วย Hyatt มุ่งมั่นที่จะคงระดับเกรดในการลงทุนและเดินหน้าจัดการงบดุลด้วยความความรอบคอบหลังจากการทำธุรกรรมครั้งนี้

การนำเสนอสำหรับนักลงทุน, การประชุมทางไกล, การเผยแพร่ทางเว็บ

Hyatt จะจัดการประชุมทางไกลพร้อมเผยแพร่การประชุมทางเว็บไซต์ในวันพรุ่งนี้ (16 สิงหาคม 2564) เวลา 7:30 น. ตามเขตเวลา Central Daylight Time เพื่อพูดคุยถึงการเข้าซื้อดังกล่าว ผู้สนใจสามารถร่วมฟังผ่านการเผยแพร่สดทางเว็บไซต์ของบริษัทที่ investors.hyatt.com นอกจากนี้ยังสามารถร่วมฟังผ่านทางโทรศัพท์ โดยสามารถโทรไปที่หมายเลข 833-238-7946 (โทรฟรีในสหรัฐอเมริกา) หรือ 647-689-4468 (สำหรับการโทรจากต่างประเทศ) และใช้รหัสการประชุม # 1771444 เพื่อเข้าร่วมก่อนการประชุมเริ่มต้น 15 นาที ทั้งนี้จะมีการเผยแพร่วิดีโอการประชุมย้อนหลังผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทเป็นเวลา 90 วัน

ที่ปรึกษา

สำหรับการทำธุรกรรมครั้งนี้มี BDT & Company, LLC และ J.P. Morgan ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ Hyatt และ Latham & Watkins LLP ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย PJT Partners ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ ALG และ Simpson Thacher & Bartlett LLP ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย Deutsche Bank Securities Inc. ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ KKR และ KSL Capital Partners

ในเอกสารประชาสัมพันธ์นี้ใช้คำว่า “Hyatt” เพื่อความสะดวกในการอ้างอิงถึง Hyatt Hotels Corporation และ/หรือบริษัทในเครือหนึ่งแห่งหรือมากกว่า

เกี่ยวกับ Hyatt Hotels Corporation

Hyatt Hotels Corporation ซี่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในชิคาโก เป็นบริษัทด้านการบริการชั้นนำของโลกที่มีแบรนด์ระดับพรีเมียมในเครือถึง 20 แบรนด์ เมื่อสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทมีโรงแรมกว่า 1,000 แห่งในพอร์ตโฟลิโอและอสังหาแบบครบวงจรใน 68 ประเทศ ครอบคลุม 6 ทวีปทั่วโลก บริษัทมีเจตนารมณ์ในการให้ความใส่ใจต่อผู้อื่น ให้ข้อมูลที่พร้อมที่สุดสำหรับการตัดสินใจทางธุรกิจ และการวางยุทธศาสตร์เพื่อการเติบโตซึ่งมุ่งมั่นที่จะดึงดูดใจให้ผู้มากฝีมือของอุตสาหกรรมนี้เข้ามาร่วมงาน สร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าและแขกผู้มาพัก ตลอดจนสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ยังมีบริษัทย่อยที่พัฒนา เป็นเจ้าของ ดำเนินงาน บริหาร ดูแลแฟรนไชส์ จดทะเบียน หรือให้บริการแก่โรงแรม รีสอร์ต ห้องพักระดับหรู และผู้ที่มีธุรกิจที่พักเพื่อการพักผ่อน ภายใต้ชื่อดังนี้ Park Hyatt®, Miraval®, Grand Hyatt®, Alila®, Andaz®, The Unbound Collection by Hyatt®, Destination by Hyatt™, Hyatt Regency®, Hyatt®, Hyatt Ziva™, Hyatt Zilara™, Thompson Hotels®, Hyatt Centric®, Caption by Hyatt, JdV by Hyatt™, Hyatt House®, Hyatt Place®, tommie™, UrCove และ Hyatt Residence Club® รวมทั้งโปรแกรม World of Hyatt® ที่มอบสิทธิประโยชน์และประสบการณ์อันเหนือระดับให้แก่สมาชิกผู้มีอุปการะคุณ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ www.hyatt.com

เกี่ยวกับ Apple Leisure Group®

Apple Leisure Group® (ALG) เป็นกลุ่มบริษัทด้านการบริหารจัดการแบรนด์รีสอร์ต การท่องเที่ยว และการบริการชั้นนำในภูมิภาคอเมริกาเหนือซึ่งมีโมเดลทางธุรกิจที่แตกต่างและให้บริการนักเดินทางในจุดหมายปลายทางต่าง ๆ ทั่วโลก ผ่านการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทในเครือ ALG ได้มอบประสบการณ์ที่มีค่าให้กับนักเดินทางและผลประกอบการที่แข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการรีสอร์ตและพันธมิตรมาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ประโยชน์จากแบรนด์ที่มีในพอร์ตโฟลิโออย่างมีกลยุทธ์ โดยแบรนด์เหล่านั้นประกอบด้วย: AMResorts LP หรือบริษัทในเครืออย่างน้อยหนึ่งแห่ง ซึ่งให้บริการครบทั้งด้านการขาย การตลาด และการบริหารจัดการแบรนด์กับแบรนด์รีสอร์ตในเครือ AMR™ Collection ซึ่งประกอบด้วยแบรนด์รีสอร์ตหรูระดับ 5 ดาว และ 4 ดาว ที่เคยคว้ารางวัลมาแล้ว ได้แก่ Secrets® Resorts & Spas, Dreams® Resorts & Spas, Breathless® Resorts & Spas, Zoëtry® Wellness & Spa Resorts, Alua® Hotels & Resorts, Sunscape® Resorts & Spas และ Now® Resorts & Spas รวมถึง ALG Vacations® หนึ่งในผู้จำหน่ายแพ็คเกจท่องเที่ยววันหยุดรายใหญ่ที่สุดและผู้ให้บริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากสหรัฐอเมริกาไปยังเม็กซิโกและประเทศในแถบแคริบเบียน รวมถึงแบรนด์ที่มีความมั่นคงอย่าง Apple Vacations®, Funjet Vacations®, Travel Impressions®, CheapCaribbean.com®, BeachBound®, Blue Sky Tours®, Southwest Vacations® และ United Vacations® รวมถึงโปรแกรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับสมาชิกอย่าง Unlimited Vacation Club® และบริการจัดการจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดในตลาดจาก Amstar DMC รวมถึงผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีที่สุดล้ำอย่าง Trisept Solutions® ซึ่งเชื่อมโยงตัวแทนท่องเที่ยวมากกว่า 88,000 แห่งเข้ากับผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวชั้นนำ

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลประโยชน์ของ Apple Leisure Group โปรดดูที่ www.appleleisuregroup.com

แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า:

แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งไม่ใช่ข้อมูลในอดีต ในเอกสารประชาสัมพันธ์นี้เป็นแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าภายใต้ความหมายของกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคล พ.ศ. 2538 แถลงการณ์เหล่านี้ประกอบด้วยแถลงการณ์เกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการของ Apple Leisure Group ที่เสนอโดยบริษัท รวมถึงผลประโยชน์ทางการเงินและการดำเนินการที่คาดซึ่งเป็นผลจากการเข้าซื้อดังกล่าว ผลประโยชน์สำหรับแขกผู้เข้าพักและผู้ประกอบการที่จะได้จากการเข้าซื้อครั้งนี้ ผลประกอบการที่คาดการณ์ไว้จาก Apple Leisure Group จำนวนและระยะเวลาในการขายสินทรัพย์ในอนาคตและยอดขายที่คาดการณ์ว่าจะได้จากการขายสินทรัพย์นั้น ประมาณการสภาพคล่องของบริษัท จำนวนอสังหาที่คาดว่าจะเปิดให้บริการในอนาคต การเติบโตที่คาดการณ์ของการเดินทางแบบหรูหราทั่วโลกและสัดส่วนรายได้จากค่าห้องพักทั้งหมดของบริษัท รายได้รวมจากค่าธรรมเนียมในอนาคตของบริษัท สิทธิประโยชน์และมูลค่าเพิ่มที่คาดการณ์จากโปรแกรม World of Hyatt สำหรับสมาชิก และข้อเสนอสำหรับสมาชิกโดย Apple Leisure Group แหล่งเงินทุนที่คาดหวังสำหรับการเข้าซื้อ Apple Leisure Group ที่เสนอ ผลกระทบของหนี้สินที่เกิดขึ้นจากการได้มาซึ่งสถานะการจัดอันดับความน่าลงทุนของบริษัท กรอบเวลาที่คาดการณ์ในการเข้าซื้อกิจการโดยเสร็จสมบูรณ์ แผน กลยุทธ์ ภาพรวม ผลประกอบการ ประมาณการ ข้อเสนอทางการเงิน โอกาสหรือเหตุการณ์ในอนาคตของบริษัท ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงทั้งในปัจจุบันและในอนาคตซึ่งยากที่จะคาดการณ์ ดังนั้น ผลการดำเนินการ ผลประกอบการ หรือความสำเร็จที่แท้จริงอาจแตกต่างอย่างมากจากที่ระบุในแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าทั้งโดยตรงและโดยนัย ในบางกรณี คุณสามารถระบุแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าโดยการใช้คำศัพท์เช่น “อาจ” “อาจจะ” “คาดว่า” “ตั้งใจว่า” “วางแผน” “มุ่งหา” “คาดการณ์” “เชื่อว่า” “ประมาณว่า” “พยากรณ์ว่า” “มีแนวโน้ม” “เดินหน้า” “เป็นไปได้ว่า” “จะ” และหรือคำหรือวลีอื่น ๆ ที่คล้ายกัน หรือคำที่มีความหมายในเชิงลบของคำหรือวลีที่คล้ายกันเหล่านี้ แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้านี้ตั้งอยู่บนการคาดการณ์และสมมติฐานต่าง ๆ ซึ่งแม้จะผ่านการพิจารณาอย่างสมเหตุสมผลโดยผู้บริหารของเราแล้วแต่ก็มีความไม่แน่นอน ปัจจัยสำคัญที่อาจทำให้ผลที่แท้จริงแตกต่างอย่างมากจากการคาดการณ์ในปัจจุบันประกอบด้วยความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการบรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อกิจการตามที่เสนอของ Apple Leisure Group และเวลาในการปิดการทำธุรกรรมที่เสนอ ความสามารถของบริษัทในการบูรณาการกับพนักงานและการดำเนินการของ Apple Leisure Group ได้สำเร็จ ความสามารถในการรับรู้ผลประโยชน์ที่คาดและการทำงานร่วมกันของการเข้าซื้อกิจการ Apple Leisure Group ตามที่เสนออย่างรวดเร็วหรือในระดับที่คาดหวังไว้ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการได้มาซึ่งเงินทุนที่พิจารณาอย่างถี่ถ้วนตามเงื่อนไขที่ต้องการ ความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อตลาดที่พักหรูแบบครบวงจร ระยะเวลาของการเกิดโรคระบาดโควิด-19 และระยะเวลาในการฟื้นตัวหลังสิ้นสุดโรคระบาด การกลับมาระบาดซ้ำ หรือสายพันธ์ของโควิด -19 ผลกระทบทั้งในระยะสั้นและระยะยาวจากการระบาดของโควิด-19 รวมถึงความต้องการต่อการท่องเที่ยว ที่พักระยะสั้น และธุรกิจกลุ่ม และระดับความมั่นใจของผู้บริโภค ผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 การกลับมาระบาดซ้ำ สายพันธ์ของโควิด-19 และผลกระทบจากการรับมือของรัฐบาล ธุรกิจ และบุคคลต่อเศรษฐกิจทั้งในระดับโลกและภูมิภาค ข้อจำกัดและการห้ามเดินทาง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รวมถึงระยะเวลาและความรุนแรงของผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่ออัตราการว่างงานและการใช้จ่ายตามดุลยพินิจของผู้บริโภค การกระจายของวัคซีนโควิด-19 และการยอมรับวัคซีนนั้นของประชาชนทั่วไปในวงกว้าง ความสามารถของผู้ประกอบการ เจ้าของแฟรนไชส์ หรือพันธมิตรธุรกิจบริการซึ่งเป็นบุคคลที่สามในการรับมือกับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ได้สำเร็จ การกลับมาระบาดซ้ำ หรือสายพันธ์ของโควิด-19 ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโดยรวมในตลาดทั่วโลก และภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยหรือการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับต่ำ อัตราและระยะเวลาในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ระดับการใช้จ่ายในภาคธุรกิจ การพักผ่อน และภาคส่วนทั้งหมด รวมถึงความมั่นใจของผู้บริโภค อัตราการเข้าพักและอัตราเฉลี่ยต่อวันที่ลดลง การคาดการณ์การสำรองที่พักในอนาคตที่ทำได้อย่างจำกัด การสูญเสียบุคลากรในตำแหน่งที่สำคัญ เงื่อนไขทางการเมืองและภูมิศาสตร์การเมืองภายในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงความไม่สงบทางการเมืองหรือที่เกี่ยวกับพลเมือง หรือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายด้านการค้า การมุ่งร้าย หรือความหวาดกลัวต่อการมุ่งร้าย รวมถึงการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในอนาคต ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเดินทาง อุบัติเหตุทีเกี่ยวข้องกับการเดินทาง ภัยพิบัติที่เกิดจากธรรมชาติหรือมนุษย์ เช่น แผ่นดินไหว สึนามิ พายุทอร์นาโด เฮอร์ริเคน น้ำท่วม ไฟป่า การรั่วไหลของน้ำมัน เหตุการณ์เกี่ยวกับนิวเคลียร์ การเกิดโรคระบาดหรือโรคติดต่อทั่วโลก เช่น การระบาดของโควิด-19 หรือความหวาดกลัวต่อการระบาดของโรค ความสามารถของเราในการสร้างผลกำไรจากการดำเนินการในระดับที่คาดหวังได้สำเร็จของโรงแรมที่มีการทดสอบประสิทธิภาพหรือมีการรับรองเพื่อผลประโยชน์ของผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลที่สาม ผลกระทบจากการปรับโฉมและพัฒนาโรงแรมใหม่ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับแผนจัดสรรเงินทุนของเรา โครงการซื้อหุ้นคืน และการจ่ายเงินปันผล รวมถึงการลดลง การยกเลิก หรือการระงับกิจกรรมซื้อหุ้นคืนหรือการจ่ายเงินปันผล ลักษณะตามฤดูกาลและวัฏจักรของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการบริการ การเปลี่ยนแปลงในข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนท่องเที่ยวทางอินเทอร์เน็ต การเปลี่ยนแปลงในรสนิยมและความชอบของลูกค้าของเรา  ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานและสหภาพแรงงานและการเปลี่ยนแปลงกฎหมายแรงงาน สถานะทางการเงินและความสัมพันธ์ของเรากับเจ้าของทรัพย์สินที่เป็นบุคคลภายนอก แฟรนไชส์ และพันธมิตรกิจการบริการ  การไร้ความสามารถที่อาจเกิดขึ้นของผู้ประกอบการบุคคลที่สาม แฟรนไชส์  หรือพันธมิตรที่เป็นผู้พัฒนาในการเข้าถึงเงินทุนที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน หรือดำเนินการตามแผนเพื่อการเติบโต ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเข้าซื้อกิจการและการจัดการที่อาจเกิดขึ้นและการขายและการเปิดตัวแนวคิดแบรนด์ใหม่ ระยะเวลาในการเข้าซื้อกิจการและการขายและความสามารถของเราในการรวมการเข้าซื้อกิจการที่เสร็จสมบูรณ์เข้ากับการดำเนินงานที่มีอยู่ ความล้มเหลวในการทำธุรกรรมที่เสนอให้สำเร็จ (รวมถึงความล้มเหลวในการปฏิบัติตามเงื่อนไขการปิดหรือได้รับการอนุมัติที่จำเป็น ความสามารถของเราในการดำเนินการตามกลยุทธ์ให้ประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจการจัดการและแฟรนไชส์ ไปพร้อมกับการลดสินทรัพย์ที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ของเราภายในกรอบเวลาเป้าหมายและตามมูลค่าที่คาดหวัง การลดลงของมูลค่าทรัพย์สินด้านอสังหาริมทรัพย์ของเรา การยุติข้อตกลงการจัดการหรือแฟรนไชส์ของเราโดยไม่คาดคิด การเปลี่ยนแปลงกฎหมายภาษีของรัฐบาลกลาง รัฐ ท้องถิ่น หรือต่างประเทศ การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศหรือการปรับโครงสร้างสกุลเงิน การที่แบรนด์หรือนวัตกรรมใหม่ไม่ได้รับการยอมรับ ความผันผวนทั่วไปของตลาดทุนและความสามารถของเราในการเข้าถึงตลาดดังกล่าว การเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมการแข่งขันในอุตสาหกรรมของเรา รวมถึงที่เป็นผลจากการระบาดของโควิด-19 การรวมตัวกันของอุตสาหกรรมและตลาดที่เราเข้าไปดำเนินธุรกิจ ความสามารถของเราในการขยายโปรแกรม World of Hyatt สำหรับสมาชิกได้สำเร็จ เหตุการณ์ทางไซเบอร์และความล้มเหลวของเทคโนโลยีสารสนเทศ ผลของกระบวนการทางกฎหมายหรือทางปกครอง และการละเมิดกฎระเบียบหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจแฟรนไชส์ของเรา และความเสี่ยงอื่น ๆ ที่ระบุไว้ในเอกสารของบริษัทที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ รวมถึงรายงานประจำปีของเราซึ่งอยู่ในส่วนของ Form 10-K และรายงานประจำไตรมาสในส่วนของ Form 10-Q ซึ่งสามารถขอรับได้จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ ไม่ควรเชื่อมั่นเกินควรในแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้านี้ ซึ่งจัดทำขึ้นในวันที่เผยแพร่เอกสารฉบับนี้ เราไม่มีข้อผูกมัดในการปรับปรุงข้อความในแถลงการณ์นี้ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน ข้อมูลใหม่ หรือเหตุการณืในอนาคต การเปลี่ยนแปลงในสมมติฐานหรือการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลกระทบต่อแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า ยกเว้นในขอบเขตที่กำหนดโดยกฎหมายที่บังคับใช้ หากเราได้ทำการแก้ไขส่วนใดส่วนหนึ่งของแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า ไม่ควรมีการอนุมานว่าเราจะแก้ไขเพิ่มเติมในแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้านี้หรือในอนาคต

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210815005011/en/

ติดต่อ:

Hyatt Media Contact:
Franziska Weber
+1 312 780 6106
franziska.weber@hyatt.com

Hyatt Investor Contact:
Noah Hoppe
+1 312 780 5991
noah.hoppe@hyatt.com

Apple Leisure Group Media Contact:
Lilliana Vazquez Maya
+1 610 359 5913
lmaya@applelg.net

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

“เอ็กซ์โพชัวร์” เปิดรับผู้สมัครสำหรับรางวัล “ช่างภาพนักเดินทางอิสระ”

Logo

พฤศจิกายน 30 … รับสมัครวันสุดท้าย
เปิดรับสมัครแล้วสำหรับรางวัลภาพถ่ายระดับชาติเอ็กซ์โพชัวร์

ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

เทศกาลภาพถ่ายนานาชาติเอ็กซ์โพชัวร์ มีการจัดในทุก ๆปีโดยสำนักสื่อของรัฐบาลชาร์จาห์ เปิดรับสมัครผู้เข้าประกวดสำหรับช่างภาพนักเดินทางอิสระตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ถึง 30 พฤศจิกายน เป็นโอกาสสำหรับเหล่าช่างภาพฟรีแลนซ์ที่รวบรวมรูปภาพจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยต้องการที่จะสนับสนุนเรื่องราวข่าวสารต่าง ๆและเพื่อสร้างผลกระทบต่อความคิดเห็นประชากรโลก

รางวัลได้ถูกแบ่งเป็นสามกลุ่ม คือ กลุ่มของวารสารศาสตร์ข่าวในการทำข่าวด่วน, วารสารศาสตร์สิ่งแวดล้อมซึ่งโฟกัสกับปัญหาของธรรมชาติสิ่งแวดล้อมและความเปลี่ยนแปลงทั้งทางตรงและทางอ้อมจากมนุษย์ และวารสารศาสตร์โซลูชั่นซึ่งจดจ่อกับการตอบสนองต่อสภาพการณ์ จัดการกับปัญหาที่ยากและเป็นนักพัฒนาที่มีประสิทธิภาพ ช่างภาพสามารถส่งภาพเข้าประกวดได้สูงสุด 12 รูปและต่ำสุด 5 รูป

การลงทะเบียนการประกวดนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายและเปิดรับช่างภาพทุกคน ไม่จำกัดเชื้อชาติ อายุ 18 ปีและมีบัตรประจำตัวนานาชาติหรือสากลออกโดยสมาคมหรือสหพันธ์ที่ได้รับการรับรองในระดับสากลผ่านเว็บไซต์: https://awards.xposure.ae/

รางวัลที่ 1 มูลค่าสูงถึง 15,000 ดอลล่าห์ รวมทั้งจัดแสดงรูปที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในการจัดแสดงภาพนานาชาติ ผู้ชนะการประกวดตำแหน่งที่ 2 จะได้รับพื้นที่แสดงผลงานในวารสารฉบับถัดไป

เปิดรับสมัครแล้ว
งานจัดแสดงภาพนานาชาติเอ็กซ์โพชัวร์ยังคงรับผู้สมัครเพื่อชิงรางวัลการประกวด เปิดรับช่างภาพผู้สนใจทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพเข้าร่วมงานในแต่ละกลุ่มรางวัลตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน

เทศกาลนี้เปิดรับภาพจากทุกรุ่นอายุ จากทั่วทุกมุมโลก แบ่งออกเป็นกลุ่ม ๆได้แก่: การถ่ายภาพสถาปัตยกรรม, ถ่ายภาพทางอากาศและโดรน, ภาพถ่ายแนวนอน, วารสารศาสตร์ภาพถ่าย, ภาพถ่ายบุคคล, ภาพถ่ายท่องเที่ยว, หนังสั้น, การถ่ายภาพสัตว์ป่า, ประกวดภาพถ่ายรุ่นเยาว์ (สำหรับช่างภาพอายุต่ำกว่า 18 ปี) และบุคลากรสำนักสื่อรัฐบาลชาร์จาห์

ด้วยรางวัลนี้ เอ็กซ์โพชัวร์กระตือรือร้นที่จะนำเสนอช่างภาพที่คอยทำงานบอกเล่าเรื่องราวผ่านภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ ของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมซึ่งเปลี่ยนใจมนุษย์ด้วยกันเอง นอกเหนือไปจากการมุ่งเน้นไปที่ขนบธรรมเนียมประเพณีของผู้คน ทิวทัศน์ และรายละเอียดทางสถาปัตยกรรม ที่ดึงดูดสายตาด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น

ด้วยการเป็นเจ้าภาพและดึงดูดช่างภาพอาวุโส ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อ และผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพจากทั่วทุกสารทิศ เทศกาลจัดแสดงภาพนานาชาติเอ็กซ์โพชัวร์ได้ประสบความสำเร็จในการสร้างเอกลักษณ์ในฐานะผู้จัดงานแสดงภาพถ่ายที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคตั้งแต่ครั้งแรกที่จัดงาน

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52475458/en

ติดต่อ:

Tulay Genc
Email: info@b2press.com
Phone: +31 30 799 6022

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย