Category Archives: Energy

Fluence ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ให้แก่ ก.ล.ต. สหรัฐฯ สำหรับการเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้แก่ประชาชน

Logo

อาร์ลิงตัน เวอร์จิเนีย–(BUSINESS WIRE)–28 กันยายน 2564

Fluence ผู้ให้บริการชั้นนำด้านผลิตภัณฑ์และบริการจัดเก็บพลังงาน และแอปพลิเคชันดิจิทัลสำหรับพลังงานหมุนเวียนและการจัดเก็บพลังงาน ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ในแบบฟอร์ม S-1 ให้แก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา (“SEC”) เพื่อทำการเสนอขายหุ้นสามัญ Class A แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก Fluence Energy, Inc. ได้ยื่นขอจดทะเบียนหุ้นสามัญ Class A ใน Nasdaq Global Select Market ภายใต้ชื่อย่อหลักทรัพย์ “FLNC” โดยจำนวนหุ้นกู้และช่วงราคาที่จะเสนอขายยังไม่มีการกำหนด

J.P. Morgan Securities LLC, Morgan Stanley & Co. LLC, Barclays Capital Inc., and BofA Securities จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลัก ขณะที่ Global Markets Inc., Credit Suisse Securities (USA) LLC, UBS Securities, LLC, Evercore Group L.L.C., HSBC Securities (USA) Inc. และ RBC Capital Markets, LLC จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายร่วม และ Nomura Securities International, Inc., Robert W. Baird & Co. Incorporated, Raymond James & Associates, Inc., Seaport Global Securities LLC, Penserra Securities LLC และ Siebert Williams Shank & Co., LLC จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดการร่วมสำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญดังกล่าว

การเสนอขายครั้งนี้จะดำเนินการผ่านหนังสือชี้ชวนเท่านั้น สามารถขอรับสำเนาหนังสือชี้ชวนขั้นต้นในการเสนอขายได้จาก JP Morgan Securities LLC โดยส่งถึงแผนก Broadridge Financial Solutions ที่อยู่ 1155 Long Island Avenue, Edgewood, NY 11717 โทรศัพท์ 866-803-9204 หรืออีเมล prospectus-eq_fi@jpmorganchase.com; Morgan Stanley & Co. LLC โดยส่งถึงแผนกหนังสือชี้ชวน ที่อยู่ 180 Varick Street, 2nd Floor, New York, NY 10014; Barclays Capital Inc. โดยส่งถึงแผนก Broadridge Financial Solutions ที่อยู่ 1155 Long Island Avenue, Edgewood, New York 11717 หรืออีเมล barclaysprospectus@broadridge.com หรือโทร (888) 603-5847 และ BofA Securities ที่อยู่ NC1-004-03-43, 200 North College Street, 3rd floor, Charlotte NC 28255-0001 โดยส่งถึงแผนกหนังสือชี้ชวน หรืออีเมล dg.prospectus_requests@bofa.com

แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์เหล่านี้มีการยื่นให้แก่ ก.ล.ต. สหรัฐฯ เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่มีผลบังคับใช้ หลักทรัพย์เหล่านี้ห้ามขายหรือเสนอซื้อก่อนที่แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์จะมีผลบังคับใช้ ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขายหรือการชักชวนให้ซื้อหลักทรัพย์ และจะไม่มีการขายหลักทรัพย์เหล่านี้ในเขตอำนาจศาลใด ๆ ที่การเสนอ การชักชวน หรือการขายหลักทรัพย์เหล่านี้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายก่อนที่จะมีการจดทะเบียนหรือการพิจารณาคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ของเขตอำนาจศาลดังกล่าว

เกี่ยวกับ Fluence

Fluence ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Siemens และ AES คือผู้นำตลาดระดับโลกด้านผลิตภัณฑ์และบริการจัดเก็บพลังงาน และแอปพลิเคชันดิจิทัลสำหรับพลังงานหมุนเวียนและการจัดเก็บพลังงาน เรามีการจัดเก็บพลังงานมากกว่า 3.4 กิกะวัตต์สำหรับใช้งานหรือทำสัญญาในตลาด 29 แห่งทั่วโลก และมากกว่า 4.5 กิกะวัตต์สำหรับพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานจัดเก็บที่พัฒนาหรือทำสัญญาในออสเตรเลียและแคลิฟอร์เนีย บริษัทกำลังช่วยเหลือลูกค้าทั่วโลกในการขับเคลื่อนโครงข่ายไฟฟ้าที่มีความยืดหยุ่นและอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้นผ่านผลิตภัณฑ์ บริการ และแพลตฟอร์ม Fluence IQ ที่ปฏิบัติงานด้วยเทคโนโลยี AI

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210928005673/en/

สื่อ
Edelman for Fluence
Julia Fisher
FluenceMedia@edelman.com

นักลงทุน
Samuel Chong
samuel.chong@fluenceenergy.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

TEPCO Power Grid Inc.: ลงนามข้อตกลงในโครงการปรับปรุงการจัดการสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าของ Electricite Du Laos

Logo

โตเกียว–(บิสิเนสไวร์)–24 ก.ย. 2564

เมื่อวันที่ 22 กันยายน TEPCO Power Grid, Inc. (ประธานและกรรมการผู้จัดการ: Yoshinori Kaneko) ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับสามบริษัท ได้แก่ Tokyo Electric Power Services Co., Ltd. (ประธาน: Yasuhiro Kubo) และ World Business Associates Co., Ltd. (ประธาน: Jun Sugiura) โดยลงนามในข้อตกลงกับ Japan International Cooperation Agency (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “JICA”) เกี่ยวกับโครงการปรับปรุงการจัดการสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าของ Electricite du Laos

ในปี 2563 รัฐบาลลาวได้ตัดสินใจยุบแผนกส่งไฟฟ้าของ Electricite Du Laos (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “EDL”) และก่อตั้ง Electricite Du Laos Transmission Company, Ltd. (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “EDL-T” ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการระบบส่งไฟฟ้าทั้งภายในและภายนอกประเทศลาว  โดยร่วมกับการก่อตั้ง EDL-T การขายแผนกส่งไฟฟ้าแรงสูง และการสร้างกลยุทธ์ของบริษัทและแผนธุรกิจในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจใหม่นี้ได้กลายเป็นประเด็นเร่งด่วน เนื่องจากมีการเจรจาสัญญาขายไฟฟ้ากับประเทศเพื่อนบ้าน จัดการการส่งที่ฝากไว้ตามข้อตกลงการส่ง และเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจจัดจำหน่าย

นอกจากนี้ บริษัทยังต้องจัดการกับประเด็นต่างๆ เช่น การสร้างและดำเนินการตามแผนการจัดหาเงินทุน/การลงทุนเพื่อบริหารจัดการอุปทานภายในประเทศและการแลกเปลี่ยนพลังงานกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเหมาะสมที่สุดภายในโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าใหม่ การปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการ และการสร้างโครงสร้างเพื่อฝึกอบรม ทรัพยากรมนุษย์ที่จำเป็นในการทำงานเหล่านี้ให้สำเร็จ

แต่ละบริษัทในกิจการร่วมค้าจะใช้จุดแข็งของตน เช่น การให้คำปรึกษาและประสบการณ์ในอุตสาหกรรมไฟฟ้าทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่น ประสบการณ์ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และประสบการณ์การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจัดการและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นต้น เพื่อช่วย EDL เสริมสร้างโครงสร้างการจัดการและความสามารถเพื่อให้สามารถจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่เผชิญได้ด้วยตนเอง

TEPCO Group จะยังคงร่วมมือในฐานะ “ที่ปรึกษานโยบายด้านพลังงานของลาว” ของ JICA (2020~) และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ JICA “เพื่อการปรับปรุงคุณภาพไฟฟ้าผ่านการอัพเกรดรหัสกริดและเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบบังคับใช้กฎหมาย” (2021~) ในขณะที่เรามีส่วนร่วม การพัฒนาภาคพลังงานของลาว

ข่าวประชาสัมพันธ์: https://www.tepco.co.jp/en/hd/newsroom/press/archives/2021/20210922_02.html

สรุปโครงการปรับปรุงการจัดการสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าของ Electricite du Laos

1. ระยะเวลา/อาณาเขตที่บังคับใช้

  • กันยายน 2564 ~ มีนาคม 2567 (เบื้องต้น)
  • ลาว

2. ผู้ทำสัญญา

  • JICA

3. วัตถุประสงค์

  • เสริมสร้างความสามารถในการปฏิบัติงานและการจัดการของ EDL โดยสร้างกลยุทธ์องค์กรที่เหมาะสมและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน เสริมสร้างความสามารถในการจัดการทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนา และให้การสนับสนุนที่จำเป็นในการเสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน ความสามารถในการวางแผนจึงสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของภาคพลังงานของลาว

4. รายละเอียดโครงการ

  • ให้การสนับสนุนการสร้างแผนการปรับปรุงระบบบริหารคุณภาพ
  • สนับสนุนการสร้างกลยุทธ์องค์กรและแผนที่เกี่ยวข้อง
  • สนับสนุนการเสริมสร้างระบบการตรวจสอบภายใน กลไกการเปิดเผยข้อมูล และระบบการกำกับดูแล
  • สนับสนุนการทำแผนพัฒนาแผนก
  • สนับสนุน ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน
  • สนับสนุนการสร้างแผนการจัดการและพัฒนาทรัพยากรบุคคล
  • ฝึกอบรมผู้สอน
  • สนับสนุนสำหรับการสร้างแผนทางการเงินและอัตราค่าไฟฟ้า

อ่านเวอร์ชันที่มาบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210924005204/en/

ติดต่อสอบถามได้ที่:

Kazuki Hashi
Secretary and Risk Management Office (สำนักงานเลขานุการและบริหารความเสี่ยง), TEPCO Power Grid, Inc.
pgkouhou@tepco.co.jp / +81-3-6373-1111

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

การลงทุนจาก EIG ให้กำเนิด ผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระแห่งใหม่ของสหราชอาณาจักร

Logo

EIG เข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้ากังหันก๊าซร่วม (CCGT) ขนาด 1332 เมกะวัตต์ และแบตเตอรี่ขนาด 49 เมกะวัตต์ ในเมืองนอตติงแฮมเชียร์ ประเทศอังกฤษ

West Burton Energy ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน

นอตติงแฮมเชอร์ ประเทศอังกฤษ–(BUSINESS WIRE)–31 ส.ค. 2564

West Burton Energy ถูกก่อตั้งขึ้นในวันนี้ในฐานะซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านการผลิตไฟฟ้าในสหราชอาณาจักร หลังจากที่ EIG ซึ่งเป็นนักลงทุนสถาบันในภาคพลังงานทั่วโลกและเป็นหนึ่งในนักลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานชั้นนำของโลก เข้าซื้อสินทรัพย์ด้านการผลิตไฟฟ้าจาก EDF Energy ธุรกรรมดังกล่าวซึ่งปิดตัวลงอย่างสำเร็จเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ประกอบด้วยโรงไฟฟ้า West Burton B ซึ่งเป็น โรงไฟฟ้ากังหันก๊าซร่วมขนาด 1332 เมกะวัตต์ (“CCGT”) และแบตเตอรี่ขนาด 49 เมกะวัตต์ในเมืองนอตทิงแฮมเชอร์ ประเทศอังกฤษ

R. Blair Thomas ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ EIG กล่าวว่า “ธุรกรรมนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของเราในการลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพสูง ทีมงานที่ดีที่สุด และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่สำคัญ โรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระบบการจ่ายไฟฟ้าของสหราชอาณาจักร และการลงทุนของเราใน West Burton Energy ตอกย้ำความมั่นใจของเราในบทบาทที่ต่อเนื่องของก๊าซในการอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนผ่านพลังงาน”

West Burton B เป็นโรงงาน CCGT ที่มีความยืดหยุ่นสูงและมีประสิทธิภาพสูง โดยมีหน่วยวงจรรวมสามชุด ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียงพอสำหรับจ่ายพลังงานให้กับบ้านประมาณ 1.5 ล้านหลัง และเชื่อมโยงกับการเก็บแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป เทคโนโลยีเหล่านี้ร่วมกันมอบผลิตภัณฑ์พลังงานตามความต้องการที่จำเป็น ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสนับสนุนภูมิทัศน์กริดที่เปลี่ยนแปลงไปของสหราชอาณาจักร และการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจแบบคาร์บอนต่ำ

Mike Nason ผู้จัดการสถานีพลังงาน West Burton อธิบายว่า “ประสิทธิภาพสูงของสถานีย่อมหมายความว่ามีการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลน้อยลงและมีการปล่อยมลพิษในระดับที่ต่ำลงสำหรับทุกๆ หน่วยการผลิตไฟฟ้า” “เมื่อพิจารณาถึงเรื่องนี้ ประกอบกับความจริงที่ว่าสถานีอิสระแห่งใหม่ของเราเป็นหนึ่งในอาคารล่าสุดในประเทศ West Burton Energy จึงอยู่ในตำแหน่งที่ดีในระดับแนวหน้าของตลาดพลังงานที่กำลังพัฒนาของสหราชอาณาจักร”

Walid Mouawad กรรมการผู้จัดการของ EIG กล่าวเสริมว่า “นี่เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมสำหรับนักลงทุนของเรา เนื่องจาก West Burton Energy ได้เริ่มดำเนินการบนเส้นทางข้างหน้าเพื่อนำเสนอโซลูชันที่สามารถรองรับอนาคตที่การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ได้ ด้วยการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของการผลิตพลังงานทดแทน เราเชื่อว่าเทคโนโลยีการจัดเก็บแบตเตอรี่จะยังคงสนับสนุนความเสถียรของเครือข่ายกริดแห่งชาติของสหราชอาณาจักร EIG ยินดีที่ได้เป็นพันธมิตรกับทีมที่น่าทึ่งทีมนี้ และได้เป็นส่วนหนึ่งของบทต่อไปที่น่าตื่นเต้นของ West Burton Energy”

Cantor Fitzgerald ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของ EIG เกี่ยวกับการทำธุรกรรมดังกล่าว และ White & Case ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมาย

เกี่ยวกับ West Burton Energy

West Burton Energy เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระที่เพิ่งได้รับจัดตั้งขึ้นใหม่ และเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าชั้นนำในสหราชอาณาจักร บริษัทดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม หรือ Combined Cycle Gas Turbine  (CCGT) ขนาด 1332 เมกะวัตต์ และแบตเตอรี่ขนาด 49 เมกกะวัตต์ พร้อมทั้งยังมีสถานที่ตั้งที่ได้รับอนุญาตสำหรับโครงการกังหันก๊าซธรรมชาติรอบเปิด หรือ Open Cycle Gas Turbine  (OCGT) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองนอตทิงแฮมเชอร์ ประเทศอังกฤษ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ West Burton Energy ที่ www.westburtonenergy.com.

เกี่ยวกับ EIG

EIG เป็นผู้ลงทุนสถาบันชั้นนำในภาคพลังงานทั่วโลกด้วยเงิน 22.5 พันล้านดอลลาร์ภายใต้การบริหาร ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 EIG เชี่ยวชาญด้านการลงทุนภาคเอกชนในด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทั่วโลก ในช่วงประวัติศาสตร์ 39 ปี EIG ได้ให้คำมั่นสัญญามูลค่ากว่า 38.0 พันล้านดอลลาร์แก่ภาคพลังงานผ่านโครงการหรือบริษัทมากกว่า 373 โครงการใน 38 ประเทศในหกทวีป ลูกค้าของ EIG ประกอบด้วย แผนบำเหน็จบำนาญชั้นนำมากมาย บริษัทประกันภัย การบริหารเงินบริจาค มูลนิธิ และกองทุนความมั่งคั่งอธิปไตยในสหรัฐอเมริกา เอเชีย และยุโรป EIG มีสำนักงานใหญ่ในกรุงวอชิงตัน ดีซี และมีสำนักงานในฮูสตัน ลอนดอน ซิดนีย์ ริโอเดจาเนโร ฮ่องกง และโซล สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ EIG ที่ www.eigpartners.com.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210831005838/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ:

West Burton Energy

FTI Consulting

Stephanie Randall

+1 212-850-5603

WestBurtonEnergy@fticonsulting.com

EIG

Sard Verbinnen & Co.

Kelly Kimberly / Brandon Messina

+1 212-687-8080

EIG-SVC@sardverb.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Unioil เลือกเครือข่าย P97 เพื่อเพิ่มประสบการณ์ดิจิทัล ด้วยการให้รางวัลแบบสะสมแต้มสำหรับการชำระเงินผ่านมือถือ พร้อมฟังก์ชั่นค้นหาสถานี

Logo

ผู้ให้บริการการค้าดิจิทัล P97 Networks จะช่วยให้ Unioil สามารถมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นทั้งในและนอกปั๊ม

มะนิลา, ฟิลิปปินส์–(BUSINESS WIRE)–18 ส.ค. 2564

Unioil Petroleum Philippines บริษัทปิโตรเลียมที่มีความหลากหลายและสร้างสรรค์ที่สุดในประเทศ มีความยินดีที่จะประกาศว่าได้เลือก P97 Networks ซึ่งเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการค้าดิจิทัล ให้มาช่วยพัฒนาแอป Unioil Mobile App ด้วยจุดขายในการรวมปั๊มเชื้อเพลิง บัตรสะสมคะแนน ฟังก์ชันการรวมการชำระเงินผ่านมือถือ ข้อเสนอ รางวัล การระบุตำแหน่งสถานี และฟังก์ชันเปรียบเทียบราคาน้ำมัน

“ความมุ่งมั่นของเราในการใช้แนวทางที่เป็นนวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ช่วยให้เราปฏิวัติวิธีที่ผู้ค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถทำธุรกิจกับลูกค้าทั้งรายเล็กและรายใหญ่ การใช้แพล็ตฟอร์มดิจิทัล P97 Digital Commerce Platform จะช่วยยกระดับข้อเสนอให้กับผู้บริโภคของเราอย่างแท้จริง และมอบคุณค่าที่มากขึ้นให้กับลูกค้าของเราอีกด้วย พนักงานปั๊มไม่ต้องพกพาเครื่อง EDC แบบไร้สายเพื่อให้ลูกค้าสแกนสำหรับการชำระเงินผ่านมือถืออีกต่อไป เรื่องนี้สำคัญมากสำหรับความสะดวกของลูกค้า เนื่องจากช่วยลดระยะเวลาและขั้นตอนเพิ่มเติมในการเติมน้ำมันที่สถานีของเรา” Ed Pasion รองประธานฝ่ายค้าปลีกของ Unioil กล่าว

Unioil นำเสนอกลุ่มเชื้อเพลิงมาตรฐาน Euro-5 ครบถ้วน ตั้งแต่น้ำมันเบนซินไปจนถึงดีเซล ซึ่งทั้งหมดลดการปล่อยมลพิษได้มากถึง 77 เปอร์เซ็นต์ สิ่งนี้ทำให้เชื้อเพลิงสูตรพิเศษของ Unioil เป็นเชื้อเพลิงที่สะอาดที่สุดของประเทศนับตั้งแต่ปี 2560 ผู้ขับขี่ชาวฟิลิปปินส์จะได้รับประสบการณ์การเติมเชื้อเพลิงที่ปลอดภัย ไร้สัมผัส และคุ้มค่าภายในปี 2564 ด้วย Unioil Mobile App

“แอพมือถือ Unioil ใหม่บนแพลตฟอร์ม P97 Digital Commerce จะช่วยมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าของ Unioil  โดย P97 รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการขยายธุรกิจค้าปลีกของ Unioil และปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าที่ปั๊ม” Brad Jones กรรมการผู้จัดการ APAC จาก P97 Networks กล่าว

โควิด-19 เร่งการใช้การชำระเงินด้วยแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เนื่องจากให้โซลูชันการชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัสเมื่อเทียบกับการใช้ธนบัตร ซึ่งมอบประสบการณ์ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับผู้บริโภค คาดว่าเกือบร้อยละ 76 ของการซื้อในปี 2564 จะทำได้ในแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

แพลตฟอร์ม Digital Commerce รุ่นบุกเบิกของ P97 สร้างขึ้นจากมาตรฐานอุตสาหกรรมที่ช่วยให้ผู้ค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถเชื่อมต่อและสื่อสารกับผู้บริโภคของตนได้ และมีสถานีเชื่อมต่อมากกว่า 40,000 แห่งในปัจจุบัน P97 ภูมิใจนำเสนอประสบการณ์แอพมือถือที่ได้รับการปรับปรุงในทุกสถานที่ของ Unioil เพื่อซื้อผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงและรับรางวัลพิเศษจากการสะสมแต้ม โดยทั้งหมดนี้ทำได้ด้วยแอพมือถือ Unioil

ในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน การเสนอวิธีการซื้อสินค้าที่รวดเร็ว ปลอดภัย และเป็นส่วนตัวแก่ลูกค้า เป็นสิ่งสำคัญ ความมุ่งมั่นของ Unioil คือการเป็นผู้นำรูปแบบนวัตกรรมในการมีส่วนร่วมกับลูกค้าเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นสำหรับผู้บริโภคในการค้นหา ชำระเงิน และรับรางวัลพิเศษจากการสะสมแต้ม เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชัน P97 ไปที่ www.p97.com.

เกี่ยวกับ Unioil Petroleum Philippines, Inc.

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2509 Unioil ได้เป็นผู้นำในการแก้ปัญหาปิโตรเลียมในระดับนวัตกรรมใหม่ โดยสร้างตัวเองให้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่มีนวัตกรรมขั้นสูงสำหรับน้ำมันชนิดพิเศษ เชื้อเพลิง และสารหล่อลื่น Unioil ดำเนินกิจการสถานีค้าปลีก ให้บริการผสมน้ำมันหล่อลื่นและทำการตลาดพร้อมกับการซื้อขายน้ำมันเชื้อเพลิง การซื้อขายน้ำมันชนิดพิเศษ และการจำหน่าย Bitumen (ยางมะตอย) เรียนรู้เพิ่มเติมที่ https://unioil.com.

เกี่ยวกับ P97 Networks

P97 Networks นำเสนอแพลตฟอร์มการค้าผ่านมือถือและการตลาดเชิงพฤติกรรมที่ปลอดภัย ซึ่งจะเปลี่ยนโฉมการค้าขายผ่านมือถือสำหรับอุตสาหกรรมค้าปลีก เชื้อเพลิง และยานยนต์ที่สะดวกสบาย แพลตฟอร์มของ P97 ช่วยเพิ่มความสามารถในการดึงดูด มีปฏิสัมพันธ์ และรักษาลูกค้าด้วยการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือหลายล้านเครื่องและรถยนต์ที่เชื่อมต่อเข้ากับผู้ค้าโดยใช้ซอฟต์แวร์ระบุตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่สร้างประสบการณ์ผู้บริโภคบนมือถือที่ไม่เหมือนใคร ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.p97.com.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210817005877/en/

P97 ติดต่อสำหรับสื่อ

Ed Pasion
Unioil
รองประธานฝ่ายค้าปลีก
ecp@unioil.com

Aaron Mireles
P97 Networks, Inc.
281-954-1706
Aaron.Mireles

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Sapura Drilling มอบสัญญาก่อสร้างบ่อน้ำนอกชายฝั่งให้แก่ Halliburton

Logo

การดำเนินการแบบบูรณาการช่วยลดความไม่แน่นอนและปรับปรุงประสิทธิภาพในโครงการพัฒนาก๊าซหลัก

ฮิวสตัน–(บิสิเนสไวร์)–10 ส.ค. 2564

Halliburton Company (NYSE: HAL) ประกาศว่า Sapura Drilling ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Sapura Energy ได้มอบสัญญาบูรณาการนอกชายฝั่งให้แก่บริษัท

Sapura โดยมี Halliburton เป็นพันธมิตรด้านเทคนิค จะทำสัญญาขุด Integrated Rig Drilling Completion (i-RDC) สำหรับโครงการก่อสร้างบ่อน้ำนอกชายฝั่งจำนวน 6 หลุม  ลักษณะการบูรณาการที่ไม่เหมือนใครของสัญญานี้เปิดโอกาสให้แก่ Halliburton และ Sapura Drilling และ PETRONAS Carigali Sdn Bhd ในการใช้งานแพลตฟอร์มดิจิทัล Halliburton 4.0 อย่างเต็มศักยภาพเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน.

เทคโนโลยีดิจิทัลเหล่านี้รวมถึงชุด Digital Well Program®, Digital Well Operations และ Digital Well Automation และแอปพลิเคชันคลาวด์ DecisionSpace®365 ทั้งหมด  ขอบเขตงานของ Halliburton 4.0 ยังรวมถึงเทคโนโลยีดิจิทัลที่สำคัญจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ Sperry Drilling, Cementing, Drill Bits, Baroid และ Completions  นับว่าเป็นโครงการบูรณาการแรกในประเทศที่รวมบริการแท่นขุดเจาะเข้ากับการวางแผน การดำเนินงาน และระบบอัตโนมัติทุกด้าน

เกี่ยวกับ Halliburton

ก่อตั้งขึ้นในปี 2462 Halliburton เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์และบริการที่ใหญ่ที่สุดในโลกในอุตสาหกรรมพลังงาน  ด้วยพนักงานประมาณ 40,000 คนจาก 130 สัญชาติและกว่า 70 ประเทศ บริษัทช่วยให้ลูกค้าเพิ่มมูลค่าตอลทั้งวงจรชีวิตของอ่างเก็บน้ำ ตั้งแต่การค้นหาไฮโดรคาร์บอนและการจัดการข้อมูลทางธรณีวิทยา ไปจนถึงการประเมินการขุดเจาะและการก่อตัวของหิน การก่อสร้างบ่อน้ำ และการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ตลอดทั้งอายุของทรัพย์สิน  เยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทที่ www.halliburton.com  ติดตาม Halliburton บน Facebook, Twitter, LinkedIn, Instagram and YouTube

อ่านเวอร์ชั่นที่มาใน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210810005132/en/

ติดต่อ:

สำหรับนักลงทุน:
Abu Zeya
Investor Relations (ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์) investors@halliburton.com 
281-871-2688

สำหรับสื่อมวลชน:
William Fitzgerald
External Affairs (ฝ่ายกิจการภายนอกองค์กร) pr@halliburton.com 
281-871-2601

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Black & Veatch นำพาการศึกษาการผลิตไฮโดรเจน ณ จุดใช้งานสำหรับเชื้อเพลิงรถยนต์

Logo

ศักยภาพการลดคาร์บอนของการผลิตไฮโดรเจนสีเขียวแบบกระจายมีส่วนสำคัญในอนาคตของอุตสาหกรรมการขนส่ง

โอเวอร์แลนด์พาร์ค แคนซัส–(บิสิเนสไวร์)–29 ก.ค. 2564

บริษัทปัญญาประดิษฐ์ Empati ได้มอบหมายให้ Black & Veatch ทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้การผลิตไฮโดรเจนสีเขียวแบบกระจายเพื่อเติมเชื้อเพลิงให้กับยานพาหนะ  Black & Veatch จะทำการประเมินด้านเศรษฐกิจ ลอจิสติกส์ และทางเทคนิคเกี่ยวกับศักยภาพของการผลิตไฮโดรเจนตามต้องการสำหรับผู้ประกอบการขนส่งที่ต้องการลดคาร์บอน

ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงรถยนต์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว  ไฮโดรเจนสีเขียวที่ผลิตขึ้นโดยใช้พลังงานหมุนเวียนช่วยให้ผู้ประกอบการขนส่งมีเส้นทางสู่การบรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอน  โดยปกติการผลิตไฮโดรเจนจะเป็นแบบรวมศูนย์ จากนั้นจึงขนส่งเพื่อจัดเก็บที่คลังเก็บยานพาหนะหรือสถานีเติมเชื้อเพลิง  การศึกษาของ Black & Veatch จะพยายามยืนยันว่าการผลิตไฮโดรเจนแบบกระจายในขนาดเล็ก ณ จุดใช้งานนั้นเป็นทางเลือกที่เหมาะสมในการบรรลุจุดราคาที่แข่งขันได้

“เราจะสร้างข้อกำหนดทางเทคนิคและแบบจำลองทางเศรษฐกิจสำหรับการผลิตพลังงานหมุนเวียนแบบกระจายเพื่อขับเคลื่อนการผลิตไฮโดรเจนในโรงงานขนาดเล็ก” Jonathan Cristiani วิศวกรเชื้อเพลิงขั้นสูงของ Black & Veatch กล่าว  “เนื่องจากความเป็นไปได้ในเชิงพาณิชย์จำเป็นต้องมีห่วงโซ่อุปทานที่สามารถรองรับเครือข่ายโรงงานไฮโดรเจนสีเขียวแบบกระจาย  การศึกษาของเราจึงกล่าวถึง 'ระบบนิเวศของไฮโดรเจน' ทั้งหมด ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีเท่านั้น”

การศึกษา ซึ่งดำเนินการโดยกลุ่มเทคโนโลยีไฮโดรเจนของ Black & Veatch จะสร้างจากประสบการณ์ของบริษัทใน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ไฮโดรเจน และ การกระจายสินทรัพย์พลังงานไฮโดรเจน ตลอดจนโครงการที่ระบุไฮโดรเจนเป็นชิ้นส่วนที่มีศักยภาพในการแยกก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์  การศึกษาจะดำเนินการร่วมกับโครงการความร่วมมือเพื่อรวมแพลตฟอร์ม AI ของ Empati เข้ากับแพลตฟอร์ม Asset 360 ของ Black & Veatch

“เราเห็นไฮโดรเจนสีเขียวเป็นเชื้อเพลิงดิจิทัลที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการกระจายศูนย์ เช่น เครือข่ายของสถานีเติมน้ำมันหรือคลังเก็บยานพาหนะ  เราต้องการปรับใช้เทคโนโลยีของเราทั่วโลก โดยร่วมมือกับบริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในห่วงโซ่อุปทานไฮโดรเจน” Gopal Ramchurn ซีอีโอร่วมของ Empati กล่าว  “ในฐานะที่เป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยีซึ่งมีประสบการณ์ในโลกแห่งความจริงเกี่ยวกับไฮโดรเจน และทุกจุดในวงจรชีวิตของพลังงานแบบกระจายและโครงสร้างพื้นฐานด้านเชื้อเพลิงยานยนต์ทางเลือก Black & Veatch อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะช่วยเราบรรลุเป้าหมายนี้”

เพื่อสนับสนุนความคิดริเริ่มลดคาร์บอนและการใช้ไฮโดรเจนเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การลดคาร์บอนที่  Black & Veatch ใน 2021   ได้เข้าร่วมสภาไฮโดรเจนและได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาให้กับคณะกรรมการที่ปรึกษาพลังงานที่มีประสิทธิภาพของกระทรวงพาFleet Decarbonization ebook และคู่มือ Hydrogen 2021: A Roadmap to NetZero

เกี่ยวกับ Black & Veatch

Black & Veatch เป็นบริษัทระดับโลกด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ ที่ปรึกษา และการก่อสร้างที่มีพนักงานเป็นเจ้าของ โดยมีประวัติด้านนวัตกรรมในโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนมากกว่า 100 ปี  ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2458 เราได้ช่วยลูกค้าของเราปรับปรุงชีวิตของผู้คนทั่วโลกโดยจัดการกับความยืดหยุ่นและความน่าเชื่อถือของสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของเรา  รายได้ของเราในปี 2563 เกิน 3.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  ติดตามเราได้ที่ www.bv.com และบนโซเชียลมีเดีย

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210728005001/en/

ติดต่อ:

MALCOLM HALLSWORTH | +44 1483 319287 p | +44 7920 701764 m | HallsworthM@BV.com 

สายด่วนสำหรับสื่อ 24- ชั่วโมง | +1 866 496 9149

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Black & Veatch รุกธุรกิจพลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Logo

ผู้อำนวยการธุรกิจ Jerin Raj รับบทบาทพัฒนาและขยายธุรกิจกลุ่มพลังงานหมุนเวียนและระบบโครงข่ายไฟฟ้าในภูมิภาค

กรุงเทพฯ–(บิสิเนส ไวร์)–22 มิ.ย. 2564

เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในภาคครัวเรือน และ ภาคอุตสาหกรรม ทำให้มีความต้องการในระบบการผลิต ระบบส่ง และจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคเอเชีย Black & Veatch ได้เล็งเห็นโอกาสในการเติบโตในธุรกิจด้านพลังงาน ได้เสริมศักยภาพให้กับองค์กรภายใต้การนำ ของ Jerin Raj ผู้อำนวยการธุรกิจระบบส่งและจำหน่ายไฟฟ้าแห่งภูมิภาคเอเชีย

“ด้วยส่วนแบ่งของการผลิตไฟฟ้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มาจากพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้น ภูมิภาคนี้จึงจำเป็นต้องมีโซลูชั่นด้านพลังงานแบบบูรณาการมากขึ้นเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและเสถียรภาพของระบบโครงข่ายไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการขยายเครือข่ายระบบส่งและจำหน่ายไฟฟ้า  ด้วยความรู้และประสบการณ์อันยาวนานของ Jerin เกี่ยวข้องกับการส่งกำลังไฟฟ้าในระดับภูมิภาคจะช่วยให้ Black & Veatch สามารถช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายด้านผลกำไร ความน่าเชื่อถือ  ด้วยต้นทุนและแผนงานที่แน่นอน” Narsingh Chaudhary รองประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการของ Black & Veatch ประจำ Asia Power Business กล่าว

รายงานทิศทางเชิงกลยุทธ์ของ Black & Veatch: Electric Industry Asia 2021 คาดว่าการลงทุนที่สำคัญที่สุดในการเพิ่มกำลังการผลิตใหม่ในช่วงสามถึงห้าปีนับจากนี้จะเป็นการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน  พลังงานแสงอาทิตย์ บนภาคพื้นดิน  การจัดเก็บพลังงาน พลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำ ,พลังงานลมนอกชายฝั่ง และไมโครกริดเป็นหมวดหมู่ที่สำคัญห้าอันดับแรก

จากข้อมูลอุตสาหกรรมพลังงานระดับภูมิภาคได้กล่าวว่าการไม่ลงทุนเพื่อทำให้โครงข่ายระบบส่งไฟฟ้ามีเสถียรภาพมากขึ้นเป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่สำคัญต่อประสิทธิภาพการจ่ายพลังงานในตลาดไฟฟ้าในเอเชีย

Raj มีประสบการณ์มากกว่า 17 ปีในการจัดการและส่งมอบโครงการ รวมถึงพัฒนาธุรกิจด้านพลังงาน ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก  ปัจจุบัน Raj ประจำอยู่สำนักงานในกรุงเทพมหานคร

Black & Veatch เป็นผู้นำตลาดด้านโครงสร้างพื้นฐานระบบส่งและจำหน่ายพลังงาน  โดยให้บริการธุรกิจด้านพลังงาน ตั้งแต่การให้คำปรึกษา วิศวกรรม ไปจนถึงบริการวิศวกรรม การจัดซื้อจัดจ้าง และการก่อสร้าง (EPC) อย่างเต็มรูปแบบในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงสถานีไฟฟ้าแรงสูง ระบบสายส่งอากาศ และระบบสายส่งใต้ดิน พลังงานหมุนเวียน, ระบบการส่งกระแสไฟฟ่าตรงแรงดันสูง (HVDC) และระบบส่งกำลังไฟฟ้า FACTS (Flexible AC Transmission System)

คลิกที่นี่ เพื่อดาวน์โหลดภาพสนับสนุน

หมายเหตุบรรณาธิการ:

เกี่ยวกับ Black & Veatch

Black & Veatch เป็นบริษัทชั้นนำทางด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ  และก่อสร้าง โดยมีนโยบายให้พนักงานเป็นเจ้าของบริษัท บริษัทมีประวัติด้านนวัตกรรมในโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนมากกว่า 100 ปี  ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1915 บริษัทให้บริการลูกค้าทั่วโลกโดยจัดการกับการฟื้นสภาพ และสร้างเสถียรภาพของโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุด  รายได้ของบริษัทในปี 2020 มีมูลค่าเกิน 3.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  ติดตามเราได้ที่ www.bv.com และบนโซเชียลมีเดีย

ดูต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210621005856/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ:

EMILY CHIA | +65 6335 6623 P | +65 9875 8907 M | Chialp@bv.com 
สายด่วนสำหรับสื่อตลอด 24 ชั่วโมง | +1 866-496-9149

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Cerro Dominador บริษัทในเครือ EIG เปิดตัวโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบเข้มข้น (CSP) ในชิลี

Logo

โรงงาน CSP แห่งแรกในละตินอเมริกาเตรียมสร้างพลังงานหมุนเวียน 100% ในโรงงานตลอด 24 ชั่วโมง 

เพื่อจัดหาไฟฟ้าให้แก่ประเทศชิลีด้วยพลังงานที่ยืดหยุ่น เสถียร และปลอดภัย

วอชิงตัน–(บิสิเนส ไวร์)–19 มิ.ย. 2564

EIG สถาบันลงทุนชั้นนำในภาคพลังงานทั่วโลกและหนึ่งในนักลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานชั้นนำของโลก ประกาศเปิดตัวศูนย์พลังงานแสงอาทิตย์ Cerro Dominador หลังจากประสบความสำเร็จในการผสานกับระบบไฟฟ้าแห่งชาติของชิลี  Cerro Dominador ถูกบริหารโดยเงินทุนของ EIG ทั้งหมด

ศูนย์นี้ตั้งอยู่ใจกลางทะเลทรายอาตากามาของชิลี ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์  สถานที่แห่งนี้ประกอบด้วยโรงงาน CSP ขนาด 110 เมกะวัตต์และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (“PV”) ขนาด 100 เมกะวัตต์ที่อยู่ติดกันซึ่งเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560  โรงงาน CSP ใช้เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ที่ล้ำสมัยเพื่อให้ความร้อนกับเกลือที่หลอมเหลว ซึ่งจะถูกเก็บไว้ในถังขนาดใหญ่เพื่อใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าผ่านกังหันไอน้ำ  เทคโนโลยีนี้ให้การจัดเก็บพลังงานได้นานถึง 17.5 ชั่วโมง ทำให้สามารถผลิตพลังงานหมุนเวียนได้ 100% ตลอด 24 ชั่วโมง เจ็ดวันต่อสัปดาห์  โรงงานผลิตนี้สามารถชดเชยการปล่อย CO2 ได้ประมาณ 640,000 ตันต่อปี และสร้างพลังงานเพียงพอสำหรับจ่ายพลังงานให้กับบ้านประมาณ 380,000 หลัง

R. Blair Thomas ประธานและซีอีโอของ EIG กล่าวว่า “เราภูมิใจที่ได้สนับสนุนโครงการที่ก้าวล้ำนี้ ซึ่งจะทำให้กริดของประเทศชิลีมีพลังงานหมุนเวียนที่ยืดหยุ่น ปลอดภัย เสถียร และมีส่วนช่วยในการลดการปล่อย CO2 ในชิลีอย่างมีความหมาย  โครงการนี้สอดคล้องกับเป้าหมายและลำดับความสำคัญของ ESG อย่างสมบูรณ์ และช่วยวางรากฐานสำหรับอนาคตคาร์บอนต่ำผ่านการผลิตพลังงานที่สะอาด เสถียร และคุ้มค่า  เรามุ่งมั่นที่จะลงทุนอย่างต่อเนื่องในโครงการ CSP ในอนาคตในชิลีและส่วนอื่นๆ ของโลก”

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเปิดศูนย์พลังงานแสงอาทิตย์ ทาง Cerro Dominador ได้เป็นเจ้าภาพในพิธีที่โรงงานซึ่งมีประธานาธิบดี Sebastián Piñera แห่งชิลี Juan Carlos Jobet รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ของชิลี Carolina Schmidt รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมของชิลีและผู้นำอื่นๆ Mr. Thomas และ Fernando Gonzalez ซีอีโอของ Cerro Dominador ก็เข้าร่วมในพิธีเช่นกัน

เกี่ยวกับ EIG 

EIG เป็นผู้ลงทุนสถาบันชั้นนำในภาคพลังงานทั่วโลกด้วยเงิน 21.7 พันล้านดอลลาร์ภายใต้การบริหาร ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564  EIG เชี่ยวชาญด้านการลงทุนภาคเอกชนในด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทั่วโลก ในช่วงประวัติศาสตร์ 39 ปี EIG ได้สร้างมูลค่ากว่า 37 พันล้านดอลลาร์แก่ภาคพลังงานผ่านโครงการหรือบริษัทมากกว่า 370 โครงการใน 37 ประเทศในหกทวีป  ลูกค้าของ EIG ประกอบด้วยแผนบำเหน็จบำนาญชั้นนำมากมาย บริษัทประกันภัย กองทุนเงินบริจาค มูลนิธิ และกองทุนความมั่งคั่งอธิปไตยในสหรัฐอเมริกา เอเชีย และยุโรป  EIG มีสำนักงานใหญ่ในกรุงวอชิงตัน ดีซี และมีสำนักงานในฮูสตัน ลอนดอน ซิดนีย์ ริโอเดจาเนโร ฮ่องกง และโซล  สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ EIG ที่ www.eigpartners.com

เกี่ยวกับ Cerro Dominador 

Cerro Dominador เป็นเจ้าของ Cerro Dominador Solar Complex ซึ่งมีกำลังการผลิต 210 เมกะวัตต์ ที่รวมโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 100 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าความร้อนจากแสงอาทิตย์แห่งแรกในละตินอเมริกาที่มีกำลังการผลิต 110 เมกะวัตต์ และจัดเก็บความร้อนได้ 17.5 ชั่วโมง  บริษัทนำโดยกองทุนที่จัดการโดย EIG มุ่งที่จะมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงของเมทริกซ์พลังงานโดยการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียน  ด้วยนวัตกรรม Cerro Dominador ได้สร้างโครงการพลังงานหมุนเวียนที่ยืดหยุ่น จัดการได้ และยั่งยืน

อ่านต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210608005202/en/

สื่อ: 
EIG 
Sard Verbinnen & Co. 
Kelly Kimberly / Brandon Messina 
+1 212-687-8080 
EIG-SVC@sardverb.com

María José López
mjlopez@cerrodominador.com
Corporate Affairs Director (ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กร) 
Cerro Dominador

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mitsubishi Power Aero ส่งมอบโครงการ Vital Power ไปยังเม็กซิโก: การออก RFP สู่การดำเนินการเชิงพาณิชย์ใน 145 วัน

Logo

การยื่นเสนอราคา การเจรจาสัญญา การจัดส่ง การติดตั้ง และการทดสอบระบบให้เสร็จทันเวลาเพื่อตอบสนองความต้องการสูงสุดในช่วงฤดูร้อน

กลาสตันเบอรี คอนเนตทิคัต–(BUSINESS WIRE)–4 มิถุนายน 2564

Mitsubishi Power Aero LLC ผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชั่นพลังงานระดับโลก และ Mitsubishi Power de Mexico ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทั้งสองแห่งของ Mitsubishi Power Americas, Inc. ได้ลงนามอย่างรวดเร็วในสัญญาจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จในการติดตั้งและว่าจ้าง เครื่องยนต์ไอพ่น FT8® MOBILEPAC® กังหันก๊าซแบบอนุพันธ์แบบคู่ ขนาด 30 เมกะวัตต์ จำนวนห้าเครื่อง สำหรับ CFEnergia SA de CV (CFEN) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Federal Electricity Commission (CFE) ของเม็กซิโก โครงการนี้ตั้งอยู่ในเมืองเม็กซิกาลี รัฐบาฮากาลิฟอร์เนีย โดยส่งมอบพลังงานที่สำคัญในช่วงเวลาที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุด กังหันก๊าซตัวที่หกจะถูกเพิ่มในภายหลังเพื่อขยายกำลังการผลิตและรองรับความต้องการในช่วงฤดูร้อนหน้า

Mitsubishi Power Aero มีประสบการณ์มากมายในการช่วยเหลือลูกค้าในการแก้ไขปัญหาความต้องการด้านการผลิตพลังงานที่เร่งด่วนที่สุดโดยการจัดหาอุปกรณ์การผลิตแบบเคลื่อนที่ร่วมกับความเชี่ยวชาญด้าน EPC ภายในบริษัท แพ็คเกจกังหันก๊าซ  FT8 MOBILEPAC เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานอย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองความต้องการด้านพลังงานฉุกเฉิน พลังงานเพิ่มเติมจากเครื่องเหล่านี้ให้ความอุ่นใจและความมั่นคงด้านพลังงานแก่ผู้คนและอุตสาหกรรมในเม็กซิกาลี นอกจากนี้ ขณะที่เม็กซิโกทำงานเพื่อบูรณาการการผลิตพลังงานหมุนเวียนที่ไม่ต่อเนื่อง กังหันก๊าซเหล่านี้จึงมีบทบาทสำคัญในการจัดหาพลังงานที่ยืดหยุ่น เชื่อถือได้ และเคลื่อนที่ได้เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและความยืดหยุ่นของโครงข่ายไฟฟ้า

 “แม้ว่าในเม็กซิกาลีจะมีกำลังการผลิตเพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการด้านพลังงานของภูมิภาคเกือบตลอดทั้งปี แต่ก็มีการขาดแคลนในช่วงฤดูท่องเที่ยว ซึ่งทำให้เกิดความยากลำบากสำหรับทุกคนที่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ” Harsh Shah รองประธานฝ่ายขายและการพัฒนาธุรกิจของ Mitsubishi Power Aero กล่าว “เครื่องแบบเคลื่อนที่ที่ Mitsubishi Power Aero ได้ติดตั้งแล้วจะบำรุงรักษาส่งมอบความปลอดภัย ความเที่ยงตรง คุณภาพ และความต่อเนื่องในระบบไฟฟ้าของ Baja ความสามารถในการเดินเครื่องในสภาวะที่ไม่มีไฟฟ้าใช้งานที่น่าเชื่อถือได้ของเครื่อง MOBILEPAC ทำให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดสำหรับพลังงานแบบตามสั่งเมื่อถึงยามจำเป็น”

Raul Pereda ประธานและซีอีโอของ Mitsubishi Power Aero กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เราสามารถส่งมอบพลังงานที่สำคัญสำหรับ CFEnergia ได้ในช่วงเวลาที่จำกัดเช่นนี้ เครื่อง FT8® MOBILEPAC® เป็นสินทรัพย์ที่จำเป็นสำหรับเม็กซิโก พื้นที่กะทะรัด การจัดเตรียมสถานที่ที่เรียบง่าย และการไม่เทพื้นถาวร ทำให้ CFE มีความยืดหยุ่นในการย้ายที่ตั้งไปยังตำแหน่งอื่นเพื่อรองรับความต้องการได้ ด้วยการเพิ่มเครื่อง MOBILEPAC CFE ได้ใช้งานหนึ่งใน FT8 ที่ใหญ่ที่สุดในโลก การขยายตัวโดยกระตุ้นด้วยประสิทธิภาพการปฏิบัติงานที่น่าเชื่อถือได้ และการบริการและสนับสนุนหลังการขายที่แข็งแกร่งของ Mitsubishi Power Aero เราส่งมอบพลังงานเมื่อโลกต้องการมันมากที่สุด”

เกี่ยวกับ Mitsubishi Power Aero LLC

Mitsubishi Power Aero LLC มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกลาสตันเบอรี รัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐอเมริกา เป็นผู้นำในการจัดหาโซลูชั่นพลังงานตามความต้องการที่รวดเร็วสำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าทั่วโลกและลูกค้าในอุตสาหกรรมและ O&G เรานำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ยืดหยุ่น และปรับแต่งได้รวมถึงแพ็คเกจกังหันก๊าซแบบอนุพันธ์ของเครื่องยนต์ไอพ่นที่มีขนาดตั้งแต่ 30 ถึง 140 เมกะวัตต์ บริการหลังการขายที่ปรับแต่งและตอบสนองความเชี่ยวชาญด้าน EPC แบบครบวงจร และการจัดเก็บแบตเตอรี่ เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าขยายตัวและมีการเพิ่มพลังงานหมุนเวียนให้กับโครงข่ายไฟฟ้า Mitsubishi Power Aero จะยังคงมีบทบาทสำคัญในการให้ความมั่นคงด้านพลังงานแก่ลูกค้าทั่วโลก Mitsubishi Power Aero เป็นของกลุ่มบริษัท Mitsubishi Power Americas, Inc. ติดต่อกับเราได้ที่ aero.power.mhi.com และ LinkedIn

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210603005943/en/

ติดต่อ:

Stefan Zavatone, Vice President, Marketing, Communications, and Commercial Operations at Mitsubishi Power Aero
860-368-5499
stefan.zavatone@aeropowermhi.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

โครงการ Beyond2020 ติดตั้งระบบแสงสว่างให้กับค่ายผู้ลี้ภัยที่ใหญ่ที่สุดของโลกในบังกลาเทศ

Logo

การส่งมอบความช่วยเหลือครั้งนี้ช่วยยกระดับความปลอดภัยและปูทางไปสู่การทำกิจกรรมทางชุมชนในยามค่ำคืนที่มากขึ้น

อาบูดาบี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–04 พฤษภาคม 2564

Beyond2020 โครงการด้านมนุษยธรรมที่สนับสนุนโดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประกาศว่าได้ติดตั้งระบบไฟพลังงานแสงอาทิตย์ที่จำเป็นให้กับค่ายผู้ลี้ภัยกูตูปาลองโรฮิงญาในเมืองค็อกซ์บาซาร์ของบังกลาเทศ เพื่อมอบแสงสว่างให้กับผู้คน 4,500 ชีวิต การติดตั้งระบบไฟในบังกลาเทศ ซึ่งต้องการยกระดับความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้ผู้คนในการทำกิจกรรมทางสังคมและชุมชนในยามค่ำคืนครั้งนี้ เป็นการเริ่มต้นระยะที่สองของโครงการ ‘20by2020’ ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น ‘Beyond2020’ เพื่อทำหน้าที่เป็นเวทีหลักในการมอบความช่วยเหลือทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210504005849/en/

Beneficiaries receive solar solutions by Beyond2020 – (Photo: AETOSWire)

ผู้รับความช่วยเหลือด้านพลังงานแสงอาทิตย์จากโครงการ Beyond2020 – (รูปภาพ: AETOSWire)

โครงการ Beyond2020 ซึ่งก้าวข้ามอุปสรรคทางด้าน ‘วัยที่แตกต่าง’, ‘พรมแดน’ และ ‘ขีดจำกัด’ คอยจัดหาโซลูชันที่จำเป็นซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตให้กับผู้รับความช่วยเหลือมากมายทั่วโลก โดยที่ผ่านมาได้จัดหาเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาที่ดีและส่งเสริมการเติบโตซึ่งสามารถเข้าถึงได้อย่างถ้วนหน้าและมีความยั่งยืน

Electricians Without Borders องค์กรไม่แสวงผลกำไรชั้นนำจากฝรั่งเศส และผู้คว้ารางวัล Zayed Sustainability Prize ในหมวด ‘พลังงาน’ ของปี 2563 ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ติดตั้งเทคโนโลยีดังกล่าวในนามของ Beyond2020 ณ ค่ายผู้ลี้ภัยที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยอดีตผู้คว้ารางวัลรายนี้ใช้ประสบการณ์ที่ช่วยให้ชนะรางวัลจากโครง ‘Light for the Rohingyas’ ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากว่าช่วยยกระดับชีวิตของผู้คนหลายพันจากการใช้พลังงานหมุนเวียนและการให้คำปรึกษาด้านการประกอบการ

โครงการ Beyond2020 ซึ่งเป็นการต่อยอดงานของ ชีค ซายิด บิน สุลต่าน อัล นาห์ยัน ผู้ล่วงลับ ด้วยการสนับสนุนงานด้านมนุษยธรรมของบิดาผู้รวมประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้บริจาคเทคโนโลยีและโซลูชันที่มีความยั่งยืนให้กับชุมชนที่มีความเปราะบางไปแล้วในทั้งหมด 9 ประเทศ โซลูชันหรือเทคโนโลยีแต่ละชิ้นได้เข้าไปมีส่วนในการเปลี่ยนแปลงชุมชนอีกมากมายทั่วโลก และได้รับการยกย่องโดยเลือกให้เป็นผู้เข้ารอบสุดท้ายหรือผู้คว้ารางวัลชนะเลิศของ Zayed Sustainability Prize

ฯพณฯ ดร. สุลต่าน อาเหม็ด อัล จาเบอร์ รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีที่ขั้นสูงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ ผู้อำนวยการโครงการ Zayed Sustainability Prize กล่าวว่า “การเพิ่มขีดความสามารถให้กับชุมชนเปราะบางและเร่งสร้างความก้าวหน้าในระดับโลกไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ยังคงเป็นหลักในการเดินหน้าของโครงการ Beyond2020 โครงการ Beyond2020 และพันธมิตรมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เข้ามามีบทบาทในการช่วยเหลือชุมชนที่ขาดแคลนในบังกลาเทศ และสนับสนุนความพยายามด้านมนุษยธรรมขององค์กรไม่แสงหากำไรต่าง ๆ ในการบรรเทาความทุกยากที่ชุมชนต้องเผชิญ”

ฯพณฯ ดร. สุลต่าน อาเหม็ด อัล จาเบอร์ กล่าวเสริมว่า “สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีมุมมองด้านมนุษยธรรมแบบองค์รวม เสริมแกร่งด้วยผู้นำที่ชาญฉลาดซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการสนับสนุนการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน รวมถึงการริเริ่มและขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ที่มีเป้าหมายช่วยเหลืองานด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ต่าง ๆ ของโลก พวกเรามีความยินดีที่ได้แนะนำโซลูชันด้านแสงสว่างที่สำคัญเหล่านี้โดยโครงการ Beyond2020 ซึ่งจะนำมาซึ่งการดำรงชีวิตที่ง่ายขึ้นของคนในชุมชนรวมถึงมีความปลอดภัยมากขึ้น พร้อมทั้งสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวยมากขึ้นสำหรับกิจกรรมของชุมชนที่มีการขยายตัว เราจะเดินหน้าขยายความช่วยเหลือและการเข้าถึงโซลูชันที่มีความยั่งยืนและล้ำสมัยของผู้เข้ารอบสุดท้ายและผู้ได้รับรางวัล Zayed Sustainability Prize ให้กับชุมชนในวงกว้างทั้งในระดับภูมิภาคและทั่วโลก”

ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ความอุตสาหะ และการขยายตัวของโครงการ Beyond2020 ยังคงมีความสำคัญอย่างต่อเนื่องในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโรคครั้งใหญ่ ซึ่งต้องอาศัยความพยายามในการทำงานร่วมกันอย่างรวดเร็วของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดในชุมชนที่มีความยั่งยืนทั่วโลก

นายโยฮันเนส ฟาน เดอร์ คลาว ผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ซึ่งประจำอยู่ในบังกลาเทศ กล่าวว่า “โครงการ Beyond2020 กำลังพาการเข้าถึงวิธีแก้ปัญหาด้านพลังงานอย่างยั่งยืนไปสู่ทิศทางใหม่ สำหรับในบังกลาเทศ การบริจาคครั้งนี้จะนำความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีมาสู่การใช้ชีวิตของผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาที่มีความเปราะบางอย่างแท้จริง แสงสว่างในยามค่ำคืนช่วยเพิ่มความปลอดภัยและมีผลกระทบทางสำคัญที่เป็นประโยชน์อย่างมากต่อชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อผู้คนที่มีความทุพลภาพ ผู้หญิง และเด็กหญิง การใช้เทคโนโลยีที่มีความยั่งยืน เช่น โซลูชันด้านพลังงานหมุนเวียนที่ขยายเพิ่มขึ้นเป็นสิ่งที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติในบังกลาเทศให้ความสำคัญลำดับต้น ๆ”

Electricians Without Borders สนับสนุนความเชี่ยวชาญในระดับนานาชาติทางด้านโครงการพลังงานหมุนเวียนให้กับชุมชนที่ไม่มีระบบสาธารณูปโภคโดยการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับครัวเรือน 240 ชุด และมอบตะเกียงพลังงานแสงอาทิตย์ 640 ชิ้นให้กับค่ายผู้ลี้ภัย พร้อมสอนให้ผู้ที่อาศัยในค่ายเรียนรู้เกี่ยวกับการซ่อมแซมอุปกรณ์ให้กับครัวเรือน การส่งมอบความช่วยเหลือในบังกลาเทศของโครงการ Beyond2020 ครอบคลุมผู้ลี้ภัยทั้งหมด โดยมุ่งเน้นกลุ่มคนที่มีความพิการ สตรีมีครรภ์ และเด็กผู้หญิง

สำหรับระยะแรกของโครงการ มีการส่งมอบความช่วยเหลือไปทั้งหมดแปดครั้งจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นความช่วยเหลือทางด้านพลังงาน สุขภาพ น้ำและอาหารในเนปาล แทนซาเนีย ยูกันดา จอร์แดน อียิปต์ กัมพูชา มาดากัสการ์ และอินโดนีเซีย และนอกจากบังกลาเทศแล้ว ยังมีอีก 11 ประเทศที่จะได้รับความช่วยเหลือจากโครงการในระยะที่สอง

โครงการ Beyond2020 เป็นความร่วมมือของเหล่าพันธมิตรทั้งจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และจากนานาชาติชั้นนำที่กำลังขยายการเติบโต ซึ่งรวมถึง Abu Dhabi Global Market, Abu Dhabi Fund for Development, Mubadala Petroleum, กระทรวงขันติธรรมและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ (Ministry of Tolerance and Coexistence), Masdar และ BNP Paribas

เกี่ยวกับรางวัล Zayed Sustainability Prize

การมอบรางวัล Zayed Sustainability Prize ริเริ่มขึ้นจากความเป็นผู้นำของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในปี 2551 เพื่อเป็นเกียรติแด่สิ่งที่บิดาผู้รวมประเทศ ชีค ซายิด บิน สุลต่าน อัล นาห์ยัน ผู้ล่วงลับ สร้างเอาไว้ โดยรางวัล Zayed Sustainability Prize เป็นการมอบรางวัลรายการแรก ๆ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่เป็นเชิดชูความพยามในการแก้ปัญหาด้านความยั่งยืนและมนุษยธรรมทั่วโลก

รางวัล Zayed Sustainability Prize มอบให้กับผู้บุกเบิกและนักสร้างสรรค์นวัตกรรมทั่วโลกที่มีความมุ่งมั่นในการเร่งหาทางออกด้านความยั่งยืนที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง

ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา มีการมอบรางวัลให้กับผู้ชนะไปแล้ว 86 ราย คนเหล่านั้นได้ร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกทั้งในทางตรงและทางอ้อมให้กับผู้คนกว่า 335 ล้านชีวิตทั่วโลก การมอบรางวัล Zayed Sustainability Prize แบ่งเป็นหมวดหมู่ต่าง ๆ ดังนี้ สุขภาพ อาหาร พลังงาน น้ำ และโรงเรียนมัธยมโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ https://zayedsustainabilityprize.com/en/ หรือเยี่ยมชมสื่อโซเชียลของเราได้ที่ TwitterFacebookInstagramYouTube

*ที่มา: AETOSWire

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210504005849/en/

ติดต่อ:

Medhat Juma
Hill+Knowlton Strategies
โทร: +971 561399482
Medhat.Juma@hkstrategies.com

Erika Spagakou
Hill+Knowlton Strategies
โทร: +971 551398765
Erika.Spagakou@hkstrategies.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย