Category Archives: Technology

Black & Veatch แต่งตั้ง Ruturaj Govilkar ให้เป็นผู้นำธุรกิจอินเดียในฐานะลูกค้ารุ่นใหม่ผู้มองหาโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดคาร์บอน ยั่งยืน และมีความยืดหยุ่น

Logo

เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย–(BUSINESS WIRE)–4 พฤศจิกายน 2022

Black & Veatch ผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านโซลูชันโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของมนุษย์ ได้แต่งตั้ง Ruturaj Govilkar ให้เป็นผู้จัดการประจำประเทศและเป็นกรรมการผู้จัดการของอินเดีย เพื่อคุมการเติบโตของบริษัท เขาจะมาดูแลธุรกิจทุกด้านของ Black & Veatch ภายในประเทศ

ข่าวดังกล่าวเป็นไปตามคำมั่นสัญญามูลค่า 100 ล้านล้านรูปีของอินเดียเมื่อไม่นานมานี้ (ประมาณ 1.35 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) คำมั่นที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในช่วง 25 ปีต่อจากนี้ เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ สร้างงาน และสามารถพึ่งพาตนเองในด้านพลังงานภายในปี 2047 ด้วยผู้เชี่ยวชาญในประเทศที่มีมากกว่า 800 คนประจำอยู่ที่เมืองมุมไบและเมืองปูเน่ โดยทีมจะใช้ผลงานทั้งหมดในด้านวิศวกรรมและการก่อสร้างระดับโลกของบริษัทในการมอบโซลูชันที่เข้ากับท้องถิ่นแบบผสานรวมสำหรับลูกค้าชาวอินเดีย

“มีนักพัฒนาชาวอินเดียรุ่นใหม่และธุรกิจยุคใหม่ที่ต้องการความน่าเชื่อถือ คุณภาพ และผลประโยชน์ที่ยั่งยืนมากขึ้นจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เริ่มตั้งแต่การปรับใช้โซลูชันด้านพลังงานใหม่ ไปจนถึงการออกแบบ การสร้างศูนย์ข้อมูลและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านอุตสาหกรรมและการประมวลผลอื่นๆ” กล่าวโดย Govilkar “การใช้ประโยชน์จากมาตรฐานและเทคโนโลยีระดับโลกขั้นสูงของ Black & Veatch ทำให้ลูกค้ามีโอกาสที่จะลดต้นทุนการดำเนินงาน ปรับปรุงให้น่าเชื่อถือและยืดหยุ่นมากขึ้น รวมถึงตอบสนองความคาดหวังใหม่ๆ เพื่อผลลัพธ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่าเดิม”

การดำเนินงานในอินเดียของ Black & Veatch ได้ให้โซลูชันโครงสร้างพื้นฐานแบบครบวงจรสำหรับลูกค้าในอินเดีย ตลอดจนทรัพยากรด้านวิศวกรรมที่เชี่ยวชาญและมีคุณภาพสูงสำหรับโครงการ Black & Veatch ที่ส่งไปทั่วโลก

“Ruturaj นำประสบการณ์มากมายจากโครงการระดับนานาชาติในยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และเอเชีย และประสบการณ์จากหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น น้ำมัน ก๊าซ น้ำ และพลังงาน” Hoe Wai Cheong ประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและอินเดียของ Black & Veatch กล่าว “เขาเหมาะสมอย่างยิ่งกับตำแหน่งที่จะต้องแนะนำลูกค้าชาวอินเดียผู้กำลังสำรวจหาโอกาสต่างๆ อันเป็นผลมาจากเมกะเทรนด์ระดับโลก เช่น การใช้พลังงานไฟฟ้า เชื้อเพลิงสะอาด การทำให้คาร์บอนเป็นศูนย์ การแปลงเป็นดิจิทัล และความยืดหยุ่น”

Govilkar ทำงานให้ Black & Veatch มาหลายบทบาทตั้งแต่ที่เข้ามาในปี 2010 เขามีประสบการณ์มากกว่า 30 ปีในอุตสาหกรรมวิศวกรรมและการก่อสร้างระดับโลก อีกทั้งยังสำเร็จการศึกษาด้านวิศวกรรมเคมีจากมหาวิทยาลัย Nagpur

คลิกที่นี่ เพื่อดาวน์โหลดรูปประกอบเสริม

ข้อความจากบรรณาธิการ:

• Black & Veatch ให้การสนับสนุนชุมชนในอินเดียมาตั้งแต่ปี 1969 และสืบทอดสิ่งต่างๆ มาจากหน่วยงานที่เข้าครอบครองก่อนหน้านี้ซึ่งมีความเป็นมาย้อนหลังนานขึ้นไปกว่านั้น ผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 800 คนจากสถานที่สองแห่งในอินเดียทำโครงการด้านวิศวกรรมและการก่อสร้างทั่วโลกและภายในอินเดีย โครงการล่าสุดได้แก่ สถานีเติมก๊าซธรรมชาติแห่งแรกทางชายฝั่งตะวันออกของอินเดีย ซึ่งเป็นสถานีจัดเก็บและเติมก๊าซธรรมชาติแบบลอยน้ำแห่งแรกในรัฐคุชราตของอินเดีย และอีกโครงการคือการเพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์ของ Adani Power โดยลดต้นทุนการดำเนินงานและการปล่อยมลพิษ

เกี่ยวกับ Black & Veatch

Black & Veatch เป็นบริษัทด้านวิศวกรรม จัดซื้อ ให้คำปรึกษา และการก่อสร้างระดับโลกที่มีพนักงานเป็นเจ้าของ 100 เปอร์เซ็นต์ พร้อมผลงานด้านนวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนซึ่งมีมานานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ปี 1915 เราได้ช่วยลูกค้าของเราปรับปรุงชีวิตของผู้คนทั่วโลกด้วยการแก้ปัญหาเรื่องความยืดหยุ่นและความน่าเชื่อถือของสินทรัพย์ในรูปแบบโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของเรา รายได้ของเราในปี 2021 มีมากกว่า 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดตามเราได้ที่ www.bv.com และทางโซเชียลมีเดีย

ติดต่อ

EMILY CHIA | +65 6335 6623 P | +65 9875 8907 M | Chialp@bv.com

แหล่งที่มา: Black & Veatch

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

SMART Modular Technologies ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ DuraMemory ด้วยหน่วยความจำโพลไฟล์ต่ำรุ่นใหม่ DDR5 VLP ECC UDIMM

Logo

รายการผลิตภัณฑ์ที่ขยายใหม่นี้คือหน่วยความจำรุ่น DDR5 VLP UDIMM ที่ออกแบบมาสำหรับเบลดเซิร์ฟเวอร์ขนาด 1U ที่ใช้ในแอปพลิเคชันระบบเครือข่าย แอปพลิเคชันการคำนวณ และแอปพลิเคชันจัดเก็บข้อมูล

นครไทเปใหม่ ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–3 พฤศจิกายน 2022

SMART Modular Technologies, Inc. (“SMART”), หน่วยงานของ SGH (Nasdaq: SGH) และผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลชนิดไฮบริด, ชนิด Solid-state drives, และโซชูชันหน่วยความจำชั้นนำของโลกได้ประกาศออกมาวันนี้ว่าจะมีการเพิ่มรายการผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นโมดูลหน่วยความจำชนิด Unbuffered Dual In-Line รหัสการแก้ไขข้อผิดพลาด โพรไฟล์ต่ำ แรม DDR5 ขนาด 16GB และ 32GB (VLP ECC UDIMM) เสริมจากรายการผลิตภัณฑ์มอดูลหน่วยความจำโพลไฟล์ต่ำ (VLP) สำหรับเบลดเซิร์ฟเวอร์

SMART’s new DuraMemory DDR5 VLP ECC UDIMMs are designed for embedded 1U blade networking, telecom, compute and storage applications. (Photo: Business Wire)

DDR5 VLP ECC UDIMM หน่วยความจำรุ่นใหม่จาก DuraMemory ของ SMART ออกแบบมาเพื่อใช้ฝังในแอปพลิเคชันระบบเครือข่าย แอปพลิเคชันโทรคมนาคม แอปพลิเคชันการคำนวณ และแอปพลิเคชันการจัดเก็บข้อมูลบนเบลดเซิร์ฟเวอร์ขนาด 1U (ภาพ: Business Wire)

DDR5 VLP ECC UDIMM รุ่นใหม่จาก DuraMemory ของ SMART ออกแบบมาสำหรับเบลดเซิร์ฟเวอร์และระบบตัวล้อมเบลดเซิร์ฟเวอร์ขนาด 1U ที่ใช้ในแอปพลิเคชันระบบเครือข่าย แอปพลิเคชันโทรคมนาคม แอปพลิเคชันการคำนวณ และแอปพลิเคชันจัดเก็บข้อมูล ซึ่งได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพโดยการลดขนาดพื้นที่และใช้พลังงานน้อยลง  DDR5 VLP ECC UDIMM ออกแบบมาให้ตรงกับข้อมูลจำเพาะด้านความสูง ความหนาแน่น พลังงาน และประสิทธิภาพที่จำเป็นต่อการเปิดใช้งานแอปพลิเคชันหน่วยความจำรุ่นใหม่ๆ

“CPU ในหน่วยความจำขนาด DDR5 รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวนี้ จะมีโมดูล DDR5 VLP หลากหลายแบบให้ลูกค้าได้เลือกสรรตามความต้องการเฉพาะตัวสำหรับเบลดเซิร์ฟเวอร์รุ่นต่างๆ ที่ใช้ในแอปพลิเคชัน Edge, IIoT และแอปพลิเคชันในตระกูลที่คล้ายกันนี้ โดยจะมีการประมวลผลข้อมูลที่จำเป็นตั้งแต่ต้นทาง” Arthur Sainio ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ DRAM ที่ SMART กล่าว

โมดูล DDR5 นี้จะมอบสถาปัตยกรรมการจัดการพลังงานและช่องทางการเชื่อมต่อที่ดีขึ้น ใช้พลังงานน้อยลง ทำงานได้รวดเร็วขึ้น และสามารถเพิ่มความหนาแน่นให้สูงขึ้นได้เมื่อเทียบกับโมดูล DDR4 โดยที่โมดูลหน่วยความจำ VLP ECC UDIMM โพลไฟล์ต่ำของ SMART (ความสูง 18.75 มม.) นี้มอบพื้นที่การจัดวางโมดูลหน่วยความจำ DIMM แนวตั้งในพื้นที่เบลดเซิร์ฟเวอร์ขนาด 1U ได้และช่วยประหยัดพื้นที่ได้มาก รวมทั้งความจุความหนาแน่นที่สูงจะช่วยเพิ่มความจุหน่วยความจำได้สูงสุด 384GB ในระบบการคำนวณและการจัดเก็บข้อมูลของเบลดเซิร์ฟเวอร์ขนาด 1U ด้วยช่องเสียบสำหรับโมดูลหน่วยความจำ DIMM 12 ช่อง ปัจจุบันโมดูลนี้รองรับหน่วยความจำขนาด DDR5-4800 ขณะที่หน่วยความจำขนาด DDR5-5600 กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา

นอกจากนี้ SMART ยังมอบ VLP ECC UDIMM ที่ทนทานด้วยเกรดอุณหภูมิระดับอุตสาหกรรม (-40° ถึง +85°C) สำหรับเซิร์ฟเวอร์ขนาด 1U ที่ใช้ในแอปพลิเคชัน Edge และแอปพลิเคชันอื่นๆ อีกด้วย โดยสามารถใช้งานในสภาวะแวดล้อมที่หนาวหรือร้อนจัดได้อย่างไรกังวล SMART ยังมอบคุณสมบัติเพิ่มเติมด้วย อาทิ อุปกรณ์ต้านทานซัลเฟอร์ การเคลือบผิวแบบ Underfill และแบบ Conformal และคลิปการเก็บข้อมูลเพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์จะทำงานได้ดีในทุกสภาพการณ์

VLP ECC UDIMM สำหรับแรม DDR5 ขนาด 16GB และ 32GB จาก SMART มีวางจำหน่ายแล้ว หากต้องการทราบข้อมูลจำเพาะทางเทคนิคและวิธีสั่งซื้อ โปรดไปหน้าผลิตภัณฑ์ VLP UDIMM ที่ smartm.com

*รูปแบบของตัว “S” และ “SMART” เช่นเดียวกับ “SMART Modular Technologies” และ “DuraMemory” เป็นเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ SMART Modular Technologies, Inc. เครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนอื่นๆ ทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับ SMART Modular Technologies

เป็นเวลากว่า 30 ปีมาแล้วที่ SMART Modular Technologies ได้ช่วยเหลือลูกค้าจากทั่วโลกด้วยการคำนวณที่ถูกต้องแม่นยำผ่านการออกแบบ พัฒนา และบรรจุภัณฑ์สุดล้ำสำหรับโซลูชันหน่วยความจำประสิทธิภาพสูง กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ยืนยงของเรามีตั้งแต่เทคโนโลยีสุดล้ำในปัจจุบันไปจนถึงผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูล DRAM และ Flash แบบมาตรฐานกับแบบดั้งเดิม เราคือผู้จัดหาโซลูชันจัดเก็บข้อมูลและโซลูชันหน่วยความจำที่ได้มาตรฐาน ทนทาน และปรับแต่งได้ตามความปรารถนาของลูกค้าเพื่อให้ตรงตามความต้องการของแอปพลิเคชันที่หลากหลายในตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วนี้

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52958418/en

ข้อมูลการติดต่อ

ติดต่อฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์
Arthur Sainio
ผู้อำนวยการการตลาดผลิตภัณฑ์ DRAM
SMART Modular Technologies
39870 Eureka Dr., Newark, CA 94583
+1 (510) 364-3647
arthur.sainio@smartm.com

ติดต่อฝ่ายสื่อ
APAC
Morris Yang
ผู้จัดการฝ่ายการตลาด
+886 (2) 7705 2770
apac@smartm.com

แหล่งข้อมูล: SMART Modular Technologies, Inc.

Ultra-Broadband 5.5G Bangkok Initiative เปิดตัวโดย กสทช. องค์กรอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการ และ Huawei

Logo

กรุงเทพฯ ประเทศไทย–(BUSINESS WIRE)–2 พฤศจิกายน 2022

ระหว่างการประชุม Ultra-Broadband Forum (UBBF 2022) ครั้งที่ 8 โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมอัลตราบรอดแบนด์ 5.5G ได้รับการเสนอร่วมกันโดยสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สมาคมบรอดแบนด์โลก (WBBA) TM Forum, Informa Tech, AIS, True, China Mobile International Limited (CMI), MTN GlobalConnect, Zain KSA, Telekom Malaysia, LightCounting และ Huawei เรียกร้องให้ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมทั้งหมดร่วมกันกำหนดทิศทางและมาตรฐานการพัฒนาอัลตราบรอดแบนด์ 5.5G และส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองของอุตสาหกรรมโครงข่ายถาวร

Guests from standards organizations, industry organizations, operators, and Huawei participated in the initiative ceremony (Photo: Business Wire)

แขกจากองค์กรมาตรฐาน องค์กรอุตสาหกรรม ผู้ปฏิบัติงาน และ Huawei เข้าร่วมการประชุมโครงการริเริ่ม (ภาพ: Business Wire)

พลอากาศโท ดร.ธนพันธ์ ไรเจริญ กรรมาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ชี้ว่าการเชื่อมต่อแบบสองกิกะบิตเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อทำให้เกิดนวัตกรรมและการปรับปรุงประสิทธิภาพ ตลอดจนส่งเสริมความฉลาดทางสังคมและระดับชาติ ซึ่งที่จริงแล้ว “การสร้างการเชื่อมต่อและเชื่อมช่องว่างทางดิจิทัล” เป็นกลยุทธ์ของประเทศไทยในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ในปี 2021 ประเทศไทยได้เผยแพร่สมุดปกขาวของ Giga Thailand และกำหนดแผนพัฒนาในอีกห้าปีข้างหน้า ตอนนี้ แผนการของ “Giga Thailand” ได้กลายเป็นความจริงแล้ว พลอากาศโท ดร.ธนพันธ์ ไร่เจริญ เรียกร้องให้รัฐบาลและภาคอุตสาหกรรมเดินหน้าต่อไปและเริ่มก่อสร้างเมืองสองกิกะบิตในปี 2023 เพื่อทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางดิจิทัลในสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)

Gary Nugent ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Informa Tech กล่าวว่า “วิสัยทัศน์ของโลกอัจฉริยะและคำมั่นสัญญาของ 5.5G ที่ซึ่งมีศักยภาพของคลาวด์ AI และบรอดแบนด์ความเร็วสูงรวมกันเพื่อจัดการกับความท้าทายในอนาคตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นั้นเป็นสิ่งที่น่าสนใจ เป็นเหมือนโลกใบหนึ่งที่คาดการณ์ ปรับแต่ง และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรอันมีค่าของเรา”

ในอุตสาหกรรมออปติคัล ETSI ได้ออกสมุดปกขาว F5G Advanced and Beyond ในเดือนกันยายนปีนี้ นอกเหนือจากการสรุปความสามารถของ F5G แล้ว สมุดปกขาวยังอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิวัฒนาการของอุตสาหกรรมในอนาคตที่มีต่อแบนด์วิดธ์ที่สูงขึ้น การเชื่อมต่อที่มากขึ้น ชาญฉลาดขึ้น เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เรียลไทม์มากขึ้น และการตรวจจับที่แข็งแกร่งขึ้น

ในอุตสาหกรรมการสื่อสารข้อมูล บริษัทวิเคราะห์และที่ปรึกษา Omdia ได้เผยแพร่รายงานการวิจัยเกี่ยวกับแนวโน้มของเครือข่ายการสื่อสารข้อมูลสำหรับสมุดปกขาวปี 2030 ในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งได้อธิบายความหมายแฝงหลักของเครือข่ายการสื่อสารข้อมูลในอนาคต Net5.5G และกำหนดคุณสมบัติหกประการ ได้แก่ อัลตราบรอดแบนด์สีเขียว เครือข่ายที่ได้รับการปรับปรุง IPv6 แบบ end-to-end AI เครือข่ายหลายโดเมน ฯลฯ สมุดปกขาวให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าเกี่ยวกับทิศทางวิวัฒนาการของเครือข่ายในโลกดิจิทัล

Huawei เชื่อว่าการก้าวไปสู่อัลตราบรอดแบนด์ 5.5G จะต้องอาศัยความพยายามร่วมกันของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมทั้งหมด รวมถึงองค์กรมาตรฐาน หน่วยงานกำกับดูแล ผู้ปฏิบัติงาน และผู้จำหน่ายอุปกรณ์ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรมในด้านเทคโนโลยี เครือข่าย และระบบนิเวศ และสร้างความมั่งคั่งทางอุตสาหกรรมร่วมกัน

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Huawei, Rita Peng, +8613120012305, pengqiuyu1@huawei.com

แหล่งข้อมูล: Huawei

Hytera เปิดตัวโครงการสรรหาพันธมิตรในเอเชียและแอฟริกา

Logo

SHENZHEN, China–(BUSINESS WIRE)–2 พฤศจิกายน 2022

Hytera Communications (SZSE: 002583) ผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านเทคโนโลยีและโซลูชันการสื่อสารระดับมืออาชีพ ได้เปิดตัวโครงการสรรหาพันธมิตรโดยเปิดรับบริษัทในประเทศแถบเอเชียและแอฟริกา

ในฐานะผู้มีบทบาทสำคัญในตลาดการสื่อสารระดับมืออาชีพ Hytera ขอเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมมากที่สุดกลุ่มหนึ่งซึ่งประกอบไปด้วย Digital Mobile Radio (DMR), Push-to-talk over Cellular (PoC) และวิทยุชุด Terrestrial Trunked Radio (TETRA) กล้องติดลำตัว และอุปกรณ์เสริม ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมานานหลายทศวรรษในตลาดนี้ Hytera ได้ให้บริการแก่กลุ่มอุตสาหกรรมแนวดิ่งที่หลากหลาย รวมถึงความปลอดภัยสาธารณะ สาธารณูปโภค น้ำมันและก๊าซ การขนส่ง การรับมือเหตุฉุกเฉิน การบริการ การรักษาความปลอดภัยส่วนตัว และการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวก

โครงการใหม่นี้ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อขยายเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลกของ Hytera ซึ่งประกอบด้วยผู้จัดจำหน่าย ตัวแทนจำหน่าย ผู้วางระบบ และผู้ให้บริการเครือข่ายเคลื่อนที่ โครงการนี้จะเพิ่มแรงกระตุ้นให้กับการเติบโตของ Hytera โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชียและแอฟริกา “ด้วยโครงการสรรหาพันธมิตรใหม่นี้ เรานำเสนอรายการผลประโยชน์สำหรับคู่ค้าช่องทางของ Hytera และพันธมิตรในอุตสาหกรรมแนวดิ่ง” กล่าวโดย Wilson Hu ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาช่องทางของ Hytera “แผนรองรับพันธมิตรของ Hytera ยังพร้อมให้ความช่วยเหลือพันธมิตรใหม่และเพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไรในตลาดที่มีอยู่ตลอดจนขยายไปสู่ตลาดใหม่”

โครงการนี้รวมถึงสิทธิประโยชน์ในด้านแรงจูงใจในการขาย เงื่อนไขทางการเงิน การตลาดร่วม บริการหลังการขาย และลีดที่ผู้ผลิตกำหนด นอกจากนี้ แผนรองรับพันธมิตรของ Hytera มีเป้าหมายเพื่อให้ธุรกิจมีความได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้นโดยทำให้มั่นใจว่าพันธมิตรแต่ละรายมีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานคุณภาพระดับโลก มาตรฐานระดับสูงนั้นมีความสำคัญสำหรับผู้ใช้การสื่อสารระดับมืออาชีพ เนื่องจากพวกเขาจะต้องสามารถพึ่งพาอุปกรณ์สื่อสารของพวกเขาเพื่อช่วยให้ปฏิบัติงานประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และปลอดภัยยิ่งขึ้น

การทำงานร่วมกับคู่ค้าช่องทางที่ดีที่สุดและพันธมิตรในอุตสาหกรรมถือเป็นหัวใจสำคัญของความสามารถของ Hytera ในการส่งมอบคุณค่าให้กับผู้ใช้ มีเพียงการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเท่านั้นที่สามารถทำให้ Hytera และพันธมิตรมั่นใจได้ว่าจะเป็นไปตามข้อกำหนดที่หลากหลายของการสื่อสารอย่างมืออาชีพ การผสมผสานผลิตภัณฑ์การสื่อสารคุณภาพสูงและการจัดหาบริการจาก Hytera จะทำให้พันธมิตรมีความได้เปรียบทางการแข่งขันที่จำเป็นในการเอาชนะใจลูกค้ารายอื่นและเร่งการเติบโตของธุรกิจ

นี่เป็นเวลาที่เหมาะสมในการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ Hytera เนื่องจากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโลกสำหรับการเปลี่ยนแปลงข้อมูลรูปแบบกายภาพเป็นรูปแบบดิจิทัล (digitization) นั้นเป็นโอกาสที่ดีสำหรับอุตสาหกรรม ICT อุตสาหกรรมต่างๆ จำนวนมากกำลังดำเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และลดต้นทุนโดยทำให้การดำเนินงานเป็นแบบดิจิทัล โดยเฉพาะระบบการสื่อสาร        

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการสรรหาพันธมิตรของ Hytera ได้ที่
https://bit.ly/3NiGFaE

เกี่ยวกับ Hytera

Hytera Communications Corporation Limited (SZSE: 002583) เป็นผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านเทคโนโลยีและโซลูชันการสื่อสารระดับมืออาชีพ ด้วยความสามารถด้านเสียง วิดีโอ และข้อมูล เราสร้างเสริมการเชื่อมต่อที่รวดเร็วกว่า ปลอดภัยกว่า และหลากหลายมากกว่าสำหรับผู้ใช้ที่มีความสำคัญต่อธุรกิจและภารกิจ เราเอื้อให้โลกมีความสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยการช่วยให้ลูกค้าของเราประสบความสำเร็จมากขึ้นทั้งในด้านการปฏิบัติงานประจำวันและการรับมือเหตุฉุกเฉิน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ https://www.hytera.com/en/home.html

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Media Contact
Jia Liu
Hytera Communications Corporation Limited
jia.liu@hytera.com

Partner Program Contact
Overseas Sales Department

Hytera Communications Corporation Limited
marketing@hytera.com

แหล่งข้อมูล: Hytera Communications

Edith Cowan University ปรับเสริมประสบการณ์การเรียนรู้ด้านดิจิทัลด้วย Boomi

Logo

  • Boomi ช่วยให้มหาวิทยาลัยชั้นนำในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียสามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้นสำหรับเจ้าหน้าที่และเสริมสร้างประสบการณ์ออนไลน์ของนักเรียน ในขณะเดียวกัน ก็เพิ่มเสริมประสิทธิภาพในแผนกเทคโนโลยี
  • Edith Cowan University ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำอื่นๆ ทั่วโลกในการเลือกแพลตฟอร์มการผสานรวมกลุ่มชั้นนำของ Boomi ซึ่ได้รับรางวัล Gold Globee Award® โดยเป็นระบบการบริการ (iPaaS) เพื่อผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดียิ่งขึ้น

CHESTERBROOK, Pa.–(BUSINESS WIRE)–1 พฤศจิกายน 2022

Boomi™ ผู้นำด้านการเชื่อมต่อและระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ ประกาศในวันนี้ว่า Edith Cowan University (ECU) มีการปรับใช้ แพลตฟอร์ม Boomi AtomSphere™ เพื่อสร้างโครงงานดิจิทัลที่ส่งเสริมการเข้าถึงและการแบ่งปันข้อมูลทั่วทั้งมหาวิทยาลัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงานและการมีส่วนร่วมทางออนไลน์ของนักศึกษา

Edith Cowan University Polishes Digital Learning Experience With Boomi (Photo: Business Wire)

Edith Cowan University ปรับเสริมประสบการณ์การเรียนรู้ด้านดิจิทัลด้วย Boomi (ภาพ: Business Wire)

Edith Cowan University ตั้งอยู่ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย รองรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีและสูงกว่าปริญญาตรีได้มากกว่า 30,000 คน และให้คำมั่นที่จะมอบประสบการณ์การเรียนรู้ที่เติมเต็มให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษาที่พร้อมทำงาน เพื่อเสริมสร้างคำมั่นสัญญานี้ มหาวิทยาลัยจึงพยายามทำให้แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่และนักศึกษาสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสมผ่านแพลตฟอร์มนักศึกษาที่หลากหลาย

“เรามีการจัดเก็บข้อมูลสำคัญจำนวนมากไว้ในกลุ่มแอปพลิเคชันของเรา ซึ่งเจ้าหน้าที่และนักเรียนสามารถเข้าถึงและมีส่วนร่วมได้ตลอดเพื่อรับข้อมูลเชิงลึกและการสนับสนุนการตัดสินใจ” กล่าวโดย Vito Forte ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ (CIO) ของ ECU “การมีเครื่องมือที่เหมาะสม เช่น แพลตฟอร์ม Boomi จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลมีความถูกต้องและเชื่อถือได้ และมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันระบบคลาวด์บน IaaS ของเรา เช่นเดียวกับแอปพลิเคชัน SaaS จำนวนมากที่เราใช้งานอยู่”

ก่อนหน้านี้ ECU อาศัยการผสานรวมแบบจุดต่อจุดแบบใช้ครั้งเดียวโดยใช้เทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งเป็นแนวทางเดิมๆ ในการสร้างเสริมให้การบูรณาการระบบธุรกิจมีความทันสมัยและขยายฐานสถาปัตยกรรมอ้างอิงการผสานรวมและกระบวนการพัฒนา มหาวิทยาลัยได้เลือก iPaaS แบบ cloud-native แบบ low-code ของ Boomi มาช่วยในการเชื่อมต่อและประสานรวมข้อมูลให้มากขึ้นในเวลาที่น้อยลง

มหาวิทยาลัยใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม Boomi AtomSphere เพื่อสร้างความสามารถในการผสานรวมแบบครบวงจร ซึ่งสนับสนุนรูปแบบและมาตรฐานการออกแบบที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งสนับสนุนโดยสถาปัตยกรรมอ้างอิงการผสานรวม ซึ่งช่วยให้มั่นใจถึงแนวทางการออกแบบโซลูชันที่สอดคล้องกัน และส่งเสริมการเชื่อมต่อ การใช้บริการซ้ำในระดับสูง และความสามารถในการปรับขนาดที่เพิ่มขึ้น โครงการของ ECU รวมถึงการเชื่อมต่อระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ของ Salesforce ระบบการจัดการการเรียนรู้ ระบบการจัดการนักเรียน และระบบการจัดการทรัพยากรบุคคล ตลอดจน Azure Event Hub และ Azure Data Explorer เพื่อรองรับการวิเคราะห์พื้นหลังส่วนสำคัญสำหรับการบันทึก การดีบัก และการตรวจสอบการใช้งานบริการการผสานรวมสำหรับพนักงานไอที Boomi ยังสนับสนุนการวิเคราะห์และการรายงานของ ECU เกี่ยวกับการจัดการนักเรียนสู่ระบบ เพื่อให้มหาวิทยาลัยสามารถประเมินการมีส่วนร่วมทางออนไลน์ได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ iPaaS ชั้นนำของหมวดหมู่ยังช่วยเร่งงานการพัฒนาในกลุ่มไอที ช่วยให้สามารถเปิดตัวบริการและแอปใหม่ๆ ได้ภายในไม่กี่สัปดาห์แทนที่จะเป็นเดือน สถาปัตยกรรมแอปพลิเคชันที่ยืดหยุ่นของ Boomi ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการพัฒนาและการบำรุงรักษาแพลตฟอร์มอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ ECU สามารถมุ่งเน้นไปที่สถาปัตยกรรมอ้างอิง รวมถึงการเปิดตัวฐานข้อมูล การจัดคิวข้อความ การจัดการ API และความปลอดภัยได้

“มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียได้รับการยอมรับอย่างถูกต้องในความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี และหลายแห่งอยู่ในจุดสำคัญสำหรับความสามารถในการมอบประสบการณ์และหลักสูตรที่ปรับให้เหมาะกับนักศึกษาโดยเฉพาะ” กล่าวโดย Nathan Gower ผู้อำนวยการ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ (ANZ) ที่ Boomi “ในโลกของการเรียนรู้แบบผสมผสานและในวิทยาเขตดิจิทัล โอกาสในการสร้างนวัตกรรมนั้นมีมากมาย และ ECU ก็ใช้ประโยชน์จากข้อมูลเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นของนักเรียนและครู ผู้เรียนที่เป็นเจ้าของภาษาดิจิทัลไม่ควรต้องเลือกแหล่งข้อมูลต่างๆ เพื่อค้นหาสิ่งที่ต้องการ ข้อมูลควรมีความถูกต้องและพร้อมใช้งาน โดยมีการนำเสนอภาพรวมแบบออนไลน์ ด้วยการใช้แพลตฟอร์ม Boomi AtomSphere เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างทันท่วงที ราบรื่น และเชื่อถือได้ ECU จะช่วยให้สามารถสร้างเส้นทางการเรียนรู้ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยที่ทีมไอทีไม่ต้องจมอยู่กับวงจรการพัฒนาแบบเดิมๆ”

Boomi ได้รับตำแหน่งผู้นำใน Gartner® Magic Quadrant™ สำหรับ Enterprise Integration Platform as a Service (EiPaaS) เป็นเวลาแปดปีติดต่อกัน

ในฐานะบริษัทที่ให้บริการซอฟต์แวร์ระดับโลก (SaaS) ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว Boomi มีชุมชนผู้ใช้ที่กำลังเติบโตซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 100,000 ราย และเป็นหนึ่งในอาร์เรย์ที่ใหญ่ที่สุดของผู้รวมระบบระดับโลก (GSIs)  ในสเปซของ iPaaS บริษัทมีเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลกประมาณ 800 ราย ซึ่งรวมถึง Accenture, Deloitte, SAP และ Snowflake ทั้งยังมีการทำงานร่วมกับผู้ให้บริการคลาวด์ไฮเปอร์สเกลอร์ที่ใหญ่ที่สุด รวมถึง Amazon Web Services, Google และ Microsoft เป็นต้น บริษัทเพิ่งได้รับรางวัล Gold Globee® Award ในหมวด Platform as a Service (PaaS) และได้รับการจัดอันดับอันทรงเกียรติระดับ 5 ดาว ใน CRN Partner Program Guide ซึ่งเป็นรายการของโปรแกรมพันธมิตรที่โดดเด่นที่สุดจากเทคโนโลยีชั้นนำของอุตสาหกรรม ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์นวัตกรรมและบริการที่ยืดหยุ่นผ่านช่องทางไอที แพลตฟอร์ม Boomi AtomSphere ช่วยให้องค์กรต่างๆ ในทุกอุตสาหกรรมสามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชันข้อมูล ปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ และมอบประสบการณ์ลูกค้าแบบบูรณาการมากขึ้น

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

ข้อจำกัดความรับผิดชอบของ Gartner:

Gartner จะไม่มีการรับรองผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใดๆ ที่ปรากฎในเอกสารการวิจัย และไม่มีการระบุให้ผู้ใช้เทคโนโลยีเลือกเฉพาะผู้จำหน่ายที่ได้รับคะแนนสูงสุดหรือกำหนดตำแหน่งอื่นๆ เอกสารเผยแพร่งานวิจัยของ Gartner ประกอบด้วยความคิดเห็นขององค์กรวิจัยของ Gartner และไม่ควรตีความว่าเป็นข้อเท็จจริง Gartner ขอแสดงข้อจำกัดความรับผิดชอบใดๆ ไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยนัย ในส่วนที่เกี่ยวกับการวิจัยนี้ รวมถึงการรับประกันความสามารถในการขายหรือความเหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะ GARTNER และ Magic Quadrant เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนและเครื่องหมายบริการของ Gartner, Inc. และ/หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ และได้รับอนุญาตให้ใช้ในที่นี้ โดยสงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด หมายเหตุ: Boomi เคยเป็นที่รู้จักในนาม Dell Boomi ตั้งแต่ปี 2014 จนถึง 2019

เกี่ยวกับ Boomi

Boomi ตั้งเป้าที่จะทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นโดยเชื่อมโยงทุกคนเข้ากับทุกสิ่ง ทุกที่ ผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มการรวมระบบคลาวด์ในฐานะผู้ให้บริการ (iPaaS) และปัจจุบันเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลก (SaaS) Boomi มีการนำเสนอฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการผสานรวมและเครือข่ายพันธมิตรกว่า 800 รายทั่วโลก ซึ่งรวมถึง Accenture, Capgemini, Deloitte, SAP และ Snowflake องค์กรระดับโลกหันไปใช้แพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลของ Boomi เพื่อค้นหา จัดการ และประมวลผลข้อมูล ในขณะเดียวกัน ก็มีการเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน กระบวนการ และผู้คนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเข้าไปเยี่ยมชมที่ http://www.boomi.com

© 2022 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ ‘B’, Boomiverse, และ AtomSphere เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทในเครือ ซึ่งสงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด ชื่อหรือเครื่องหมายอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/52954143/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Boomi:
Boomi ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
boomi@watterson.com.au

Jasmine Ee
หัวหน้าฝ่ายสื่อและนักวิเคราะห์สัมพันธ์ใน APJ ที่ Boomi
jasmine.ee@boomi.com

แหล่งข้อมูล: Boomi

Boehringer Ingelheim ขยายการใช้งาน Medidata Rave สำหรับการเก็บข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในการทดลองทางคลินิก

Logo

การทำงานร่วมกันของเทคโนโลยีชั้นนำด้านอุตสาหกรรมและความสามารถในการทดลองทางคลินิกแบบกระจายศูนย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการศึกษาและการมีส่วนร่วมของผู้ป่วย

NEW YORK–(BUSINESS WIRE)–27 ตุลาคม 2022

Medidata บริษัทในเครือ Dassault Systèmes และ Boehringer Ingelheim ประกาศขยายเวลาความร่วมมือเป็นเวลา 5 ปี โดยครอบคลุมขอบเขตที่กว้างขึ้นในการเก็บบันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ข้อตกลงใหม่นี้ขยายขอบเขตการใช้งาน Rave EDC สำหรับการทดลองทางคลินิกของ Boehringer Ingelheim ทั่วโลก และรวมถึง myMedidata ชุดเทคโนโลยีที่เน้นการรักษาผู้ป่วยที่เป็นนวัตกรรมของ Medidata ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางมากขึ้นและเพิ่มความหลากหลายของผู้ป่วยในการทดลองทางคลินิกแบบกระจายศูนย์ (DCTs)

ด้วยข้อตกลงดังกล่าว Boehringer Ingelheim มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของผู้ป่วยอย่างมีนัยสำคัญ โดยการให้ความสามารถในการยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางที่ยืดหยุ่นได้ของ Medidata ซึ่งรวมถึงพอร์ทัลผู้ป่วย myMedidata ที่เป็นแพลตฟอร์มบนเว็บปลายทางเดียว ที่เอื้อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการให้ความยินยอมทางอิเล็กทรอนิกส์ การประเมินผลลัพธ์ทางคลินิกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (eCOA) และการเข้าตรวจของผู้ตรวจสอบ/ผู้ป่วยผ่านวิดีโอ myMedidata LIVE

“ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรม Boehringer Ingelheim และ Medidata มีหน้าที่รับผิดชอบในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อประโยชน์ของผู้ป่วย” กล่าวโดย Anthony Costello, CEO Patient Cloud ของ Medidata “การเข้าถึงการรักษาทั่วโลกของ Boehringer Ingelheim นั้นเหมาะอย่างยิ่งกับความสามารถที่ยืดหยุ่นของ myMedidata และส่วนอื่น ๆ ของแพลตฟอร์ม Clinical Cloud ของ Medidata โดยการร่วมมือกันนี้ จะช่วยให้เราสามารถปรับปรุงการเข้าถึงและความหลากหลายของการมีส่วนร่วมในโปรแกรมทางคลินิกที่หลากหลายได้อย่างรวดเร็ว”

โปรแกรมการทดลองทางคลินิกแบบกระจายศูนย์ของ Medidata ซึ่งเป็นโปรแกรมเดียวของอุตสาหกรรมที่ให้ข้อเสนอที่ยืดหยุ่นได้แบบครบวงจร ช่วยเสริมการปฏิวัติวิธีการที่แต่ละบุคคลให้ข้อมูล วิธีจัดส่งยาไปยังผู้ป่วย และวิธีการจัดการและตรวจสอบข้อมูลการทดลองทางคลินิก สิ่งสำคัญที่สุดคือ เทคโนโลยีที่ควบคุมจากระยะไกลเหล่านี้สร้างโอกาสในการปรับปรุงการเข้าถึงของผู้ป่วยและการนำผู้ป่วยเข้ามามีส่วนร่วมทั่วทั้งภูมิภาค รวมถึงทำให้มีผู้ป่วยที่หลากหลายมากขึ้นในการทดลองทางคลินิก

Boehringer Ingelheim สร้างขึ้นจากเทคโนโลยี Medidata รวมถึง Rave EDC (การเก็บบันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์), Coder, TSDV (การตรวจสอบแหล่งข้อมูลเป้าหมาย) และเกตเวย์ความปลอดภัย นอกจากนี้ Boehringer Ingelheim ยังมีการสำรวจการทดลองความอัจฉริยะของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของ Medidata เพื่อให้การวิเคราะห์ขั้นสูงมีความเร็ว ความสำเร็จ และคุณภาพของการทดลองทางคลินิกที่สูงขึ้น ทั้งยังได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยี Medidata Rave Imaging ผ่านบริการที่ทำสัญญากับซัพพลายเออร์ด้านการถ่ายภาพของบริษัท

Medidata เป็นบริษัทในเครือของ Dassault Systèmes ที่มีแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE อยู่ในตำแหน่งที่จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของวิทยาศาสตร์เพื่อสุขภาพชีวิตความเป็นอยู่ในยุคของการแพทย์แบบจำเพาะบุคคลด้วยแพลตฟอร์มทางวิทยาศาสตร์และธุรกิจแบบครบวงจรแห่งแรก ตั้งแต่การวิจัยไปจนถึงการค้า

เกี่ยวกับ Medidata

Medidata เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของวิทยาศาสตร์เพื่อสุขภาพชีวิตความเป็นอยู่ โดยสร้างความหวังให้กับผู้ป่วยหลายล้านคน Medidata ช่วยสร้างหลักฐานและข้อมูลเชิงลึกเพื่อช่วยบริษัทเภสัชกรรม บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ บริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์และการวินิจฉัย รวมถึงช่วยนักวิจัยด้านวิชาการในการเพิ่มคุณค่า ลดความเสี่ยง และเพิ่มประสิทธิภาพผลลัพธ์ ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนมากกว่าหนึ่งล้านรายทั้งจากลูกค้าและพันธมิตรกว่า 2,000 รายเข้าถึงแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลกเพื่อการพัฒนาทางคลินิก ข้อมูลเชิงพาณิชย์ และข้อมูลในโลกแห่งความเป็นจริง Medidata บริษัทในเครือ Dassault Systèmes (Euronext Paris: FR0014003TT8, DSY.PA) มีสำนักงานใหญ่อยู่ในนครนิวยอร์กและมีสำนักงานทั่วโลกเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.medidata.com และติดตามเราได้ที่ @Medidata

เกี่ยวกับ Dassault Systèmes

Dassault Systèmes บริษัท 3DEXPERIENCE เป็นตัวเร่งความก้าวหน้าในมนุษยชาติ เรานำเสนอสภาพแวดล้อมเสมือนจริงแบบ 3 มิติให้แก่องค์กรธุรกิจและผู้คนเพื่อให้จินตนาการถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน ด้วยการสร้างประสบการณ์เสมือนจริงในโลกแห่งความเป็นจริงด้วยแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน 3DEXPERIENCE ลูกค้าของเราได้ขยายขอบเขตของนวัตกรรม การเรียนรู้ และการผลิต เพื่อให้ได้มาซึ่งโลกที่ยั่งยืนมากขึ้นสำหรับผู้ป่วย พลเมือง และผู้บริโภค Dassault Systèmes สร้างมูลค่าให้กับลูกค้ามากกว่า 300,000 ราย ในทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะรายใหญ่หรือรายเล็ก ในกว่า 140 ประเทศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.3ds.com

3DEXPERIENCE, ไอคอนเข็มทิศ, โลโก้ 3DS, CATIA, BIOVIA, GEOVIA, SOLIDWORKS, 3DVIA, ENOVIA, NETVIBES, MEDIDATA, CENTRIC PLM, 3DEXCITE, SIMULIA, DELMIA และ IFWE เป็นเครื่องหมายการค้าเชิงพาณิชย์หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Dassault Systèmes, บริษัทสัญชาติฝรั่งเศส “société européenne” (ทะเบียนพาณิชย์แวร์ซายส์ # B 322 306 440) หรือบริษัทสาขาในสหรัฐอเมริกาและ/หรือประเทศอื่น ๆ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Tom Paolella

ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสื่อสารและกิจการองค์กร

+1-848-203-7596

thomas.paolella@3ds.com

Paul Oestreicher

ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารระหว่างประเทศ

+1-917-522-4692

paul.oestreicher@3ds.com

แหล่งข้อมูล: Medidata

ผลิตภัณฑ์ล่าสุดของ MetricStream นำเสนอประสบการณ์ GRC ที่รวดเร็ว ง่ายดาย และเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น พร้อมผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์ม Low-Code/No-Code จาก Connected GRC

Logo

SINGAPORE–(BUSINESS WIRE)–20 ตุลาคม 2022

MetricStream ผู้นำตลาดระดับโลกด้านการจัดการความเสี่ยงแบบบูรณาการ (IRM) และการกำกับดูแล ความเสี่ยง และการปฏิบัติตามข้อกำหนด (GRC) ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ล่าสุด ซึ่งมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของโปรแกรม GRC รวมถึงสร้างเสริมประสบการณ์ Connected GRC ที่รวดเร็ว ปลอดภัย ง่ายดาย และเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น แพลตฟอร์ม low-code/no-code ที่ทันสมัยและสร้างขึ้นตามวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งและออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะตัวได้อย่างง่ายดาย API ใหม่จะช่วยในการเชื่อมต่อ MetricStream กับระบบภายนอกและเพิ่มพูนข้อมูลเชิงลึกของ GRC เพื่อให้การตัดสินใจฉับไวยิ่งขึ้น

“ทุกวันนี้ CXO อยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักเพื่อให้พร้อมรับมือกับภัยคุกคามที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งรองรับความยืดหยุ่นของธุรกิจ และลดค่าใช้จ่าย” กล่าวโดย Prasad Sabbineni ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของ MetricStream “เราเชื่อมั่นว่า เราสามารถช่วยปกป้องทรัพย์สินที่มีค่าของลูกค้าได้ ทั้งบุคลากร ทรัพย์สินทางปัญญา และโอกาสในการขยายและการเติบโตของธุรกิจ”

ผู้เชี่ยวชาญของ GRC ต้องการระบบซอฟต์แวร์ที่ยืดหยุ่นและสามารถปรับแต่งได้ พร้อมตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านเพื่อรองรับความเสี่ยงที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว แพลตฟอร์ม low code / no code ที่ทันสมัยช่วยให้ลูกค้าแต่ละรายสามารถปรับแพลตฟอร์ม MetricStream รวมถึงฟังก์ชัน และฟีเจอร์ให้เข้ากับความต้องการทางธุรกิจเฉพาะแต่ละรายได้ ผลิตภัณฑ์แพลตฟอร์มใหม่มาพร้อมเทคโนโลยีก้าวหน้าดังต่อไปนี้ ซึ่งมีวางจำหน่ายแล้วในขณะนี้

ออกแบบได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย ง่ายดายยิ่งขึ้นผู้ดูแลระบบสามารถใช้ภาษาเฉพาะโดเมน GRC อย่างง่าย ซึ่งช่วยให้สามารถปรับแต่งและกำหนดค่าแอปพลิเคชัน สร้างและเปลี่ยนแปลงฟิลด์ รายงาน และเทมเพลต รวมถึงตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้โปรแกรมที่ซับซ้อน Low code/no code ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการระบบได้ตามที่ต้องการในขณะที่เพิ่มทักษะให้กับทีม

การผสานรวมกับระบบของบุคคลที่สามได้อย่างง่ายดาย: API จาก GRC กว่า 200 รายการ ช่วยให้สามารถผสานรวม MetricStream เข้ากับระบบของบุคคลที่สามได้อย่างง่ายดาย และผสมผสานกระบวนการของ GRC และแลกเปลี่ยนข้อมูลได้อย่างง่ายดาย

นำเสนอข้อมูลเชิงลึกของ GRC ได้อย่างรวดเร็ว: สามารถแสดงและเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างผลิตภัณฑ์ของ MetricStream และระบบภายนอก สร้างข้อมูลเชิงลึกตามบริบท และสร้างรายงานที่กำหนดค่าเองได้อย่างง่ายดายเพียงไม่กี่คลิก โดยใช้รายงานแบบบริการตัวเองที่ก้าวล้ำ

รายงานแสดงข้อมูลเชิงลึกแบบเจาะกว้างสำหรับ ESG: ESGRC มาพร้อมโครงร่างรายงาน สูตร และเทมเพลตที่มีการเตรียมไว้ล่วงหน้าสำหรับการแสดงข้อมูลที่สอดคล้องกับมาตรฐานของ TCFD, GRI และ SASB รวมถึงแดชบอร์ดที่สามารถปรับแต่งได้ เพื่อให้สามารถแสดงข้อมูลเชิงลึกที่ชัดเจนและเหมาะสมกับธุรกิจและผู้ให้บริการ

นวัตกรรมอื่น ๆ ประกอบด้วย: ระบบควบคุมกลไกอัตโนมัติอัจฉริยะซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการการเปลี่ยนแปลงระบบควบคุม การทดสอบระบบควบคุมอัตโนมัติภายใต้สภาพแวดล้อมของ AWS และสามารถดำเนินการประเมินความเสี่ยงด้านการปฏิบัตการเบื้องต้นได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ล่าสุดของ MetricStream ได้ที่นี่ นัดหมายเวลาเข้าชมการสาธิต และเข้าร่วม การประชุมสุดยอด GRC ประจำปี ครั้งที่ 10 – สัมผัสประสบการณ์พลังแห่งการเชื่อมต่อ ในวันที่ 8 และ 9 เดือนพฤศจิกายน ณ กรุงลอนดอน 

เกี่ยวกับ MetricStream, Inc.

MetricStream เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันการจัดการความเสี่ยงแบบบูรณาการ GRC ของ SaaS ที่ช่วยให้องค์กรรับมือกับความเสี่ยงและขยายตัวได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยมีการตัดสินใจที่คำนึงถึงความเสี่ยง พร้อมเชื่อมโยงการกำกับดูแล การจัดการความเสี่ยง และการปฏิบัติตามข้อกำหนดทั่วทั้งองค์กร ConnectedGRC ของเราและสายผลิตภัณฑ์อย่าง BusinessGRC, CyberGRC และ ESGRC อยู่บนแพลตฟอร์มที่ปรับแต่งได้ พร้อมรองรับทุกสายผลิตภัณฑ์ใน GRC ของคุณ

MetricStream มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองแซนโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมีศูนย์ปฎิบัติการและศูนย์วิจัยและพัฒนาอยู่ที่บังกาลอร์ ประเทศอินเดีย และมีฝ่ายสนับสนุนด้านการขายและฝ่ายสนับสนุนด้านการปฏิบัติการทั่วโลก

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52947968/en

ติดต่อ

Preeti Goswami
preeti.goswami@metricstream.com
+91-9654394164

แหล่งข้อมูล: MetricStream, Inc.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Milliken & Company มุ่งมั่นสู่อนาคตที่มีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

Logo

SBTi ตั้งเป้าหมายที่อิงหลักวิทยาศาสตร์ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิของบริษัทเป็นศูนย์ภายในปี 2050

SPARTANBURG, S.C.–(BUSINESS WIRE)–19 ตุลาคม 2022

Milliken & Company ผู้ผลิตระดับโลกที่มีความหลากหลายประกาศว่าเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ตามหลักวิทยาศาสตร์ได้รับการอนุมัติโดย Science Based Targets initiative (SBTi) ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ SBTi เป็นกลุ่มองค์กรระหว่างประเทศที่อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือบริษัทต่าง ๆ ในการกำหนดเป้าหมายการลดการปล่อยมลพิษที่สอดคล้องกับภูมิอากาศวิทยาและความตกลงปารีส (Paris Agreement)

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นแบบมัลติมีเดีย สามารถดูฉบับเต็มได้ที่นี่ https://www.businesswire.com/news/home/20221019005053/en/

“ที่ Milliken ความยั่งยืนคือค่านิยมหลัก” กล่าวโดย Halsey Cook ประธานและซีอีโอของ Milliken & Company “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังสร้างแรงกดดันต่อชุมชน บริษัท และโลกของเรา ถึงเวลาต้องดำเนินการอย่างมี เป้าหมายแล้ว”

SBTi คำนวณว่าบริษัทต่าง ๆ ที่มุ่งมั่นจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในสายการผลิตตามภูมิอากาศวิทยา ขณะนี้คิดเป็นมูลค่า 38 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลก Milliken เป็นหนึ่งใน 50 บริษัทแรกทั่วโลกที่บรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ตามหลักวิทยาศาสตร์ที่ได้รับอนุมัติ และเข้าร่วมกลุ่มบริษัทมากกว่า 1,300 แห่งที่ได้ให้คำมั่นสัญญาที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์โดยใช้มาตรฐาน SBTi Corporate Net-Zero ของปี 2021 Milliken เป็นบริษัทแรกที่ได้รับการอนุมัติในเซาท์แคโรไลนา ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ทั่วโลกของ Milliken

Kasel Knight ที่ปรึกษาทั่วไปและหัวหน้าฝ่ายความยั่งยืนของ Milliken กล่าวว่า “ไม่ใช่ว่าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ทั้งหมดจะเหมือนกัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ Milliken มุ่งมั่นที่จะทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์อย่างแท้จริงทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่า (value chain) ภายในปี 2050 จากปีฐาน 2018” “ด้วยการทำงานร่วมกับ SBTi ความมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ควบคู่ไปกับเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวของเราที่ได้รับการอนุมัติ จะได้รับการตรวจสอบอย่างเต็มที่ด้วยหลักวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุดในระดับโลก”

“เราภูมิใจที่ Milliken เป็นผู้นำงานนี้” กล่าวสรุปโดย Cook “เป้าหมายของเราช่วยให้ทีมงานของเรามากกว่า 8,000 คนลดความเสี่ยง ลดผลกระทบ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุมต้นทุน และค้นพบวิธีการใหม่ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์”

เกี่ยวกับ Milliken

Milliken & Company เป็นผู้นำด้านการผลิตระดับโลกที่มุ่งเน้นด้านวัสดุศาสตร์เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าในวันพรุ่งนี้ ตั้งแต่โมเลกุลชั้นนำของอุตสาหกรรมไปจนถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน Milliken สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ยกระดับชีวิตของผู้คนและนำเสนอวิธีแก้ปัญหาสำหรับลูกค้าและชุมชน ด้วยสิทธิบัตรหลายพันรายการและแฟ้มภาพผลงานที่มีการประยุกต์ใช้ในธุรกิจสิ่งทอ เคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ ผลิตภัณฑ์ปูพื้น และการดูแลสุขภาพ บริษัทใช้ความรู้สึกร่วมกันของความซื่อสัตย์และความเป็นเลิศเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับโลกมาหลายชั่วอายุคน สามารถดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคิดที่กระหายใคร่รู้ของ Milliken และวิธีแก้ปัญหาที่สร้างแรงบันดาลใจได้ที่ milliken.com และบน FacebookInstagram, LinkedIn และ Twitter

เกี่ยวกับ Science Based Targets initiative

Science Based Targets initiative (SBTi) เป็นองค์กรระดับโลกที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดเป้าหมายที่มีความทะเยอทะยานในการลดการปล่อยมลพิษตามภูมิอากาศวิทยาล่าสุด โดยมุ่งเน้นที่การเร่งรัดให้บริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงครึ่งหนึ่งก่อนปี 2030 และบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ก่อนปี 2050 ความคิดริเริ่มนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง CDP, ข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact), สถาบันทรัพยากรโลก (WRI) และกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) และหนึ่งในพันธกรณีของ We Mean Business Coalition

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20221019005053/en/

ติดต่อ

Betsy Sikma
betsy.sikma@milliken.com
864.909.7908

ที่มา: Milliken & Company

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Kioxia ประกาศเปิดตัว EDSFF E1.S SSD รุ่นใหม่สำหรับศูนย์ข้อมูลไฮเปอร์สเกล

Logo

KIOXIA รุ่น XD7P Data Center NVMe™ SSDs ใหม่ ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งได้รับการออกแบบด้วยเทคโนโลยี PCIe® 5.0

TOKYO—(BUSINESS WIRE)—19 ตุลาคม 2022

สานต่อภารกิจของบริษัทในการรับมือกับความต้องการเฉพาะของแอปพลิเคชันระดับองค์กรและศูนย์ข้อมูล Kioxia Corporation จึงได้ประกาศความสำเร็จด้วยการเปิดตัว KIOXIA รุ่น XD7P Data Center NVMe SSDs ที่ออกแบบมาสำหรับไฮเปอร์สเกลและเซิรฟ์เวอร์ทั่วไป ไดรฟ์ KIOXIA รุ่น XD7P ได้รับการออกแบบมาสำหรับแอปพลิเคชันเซิร์ฟเวอร์แบบไฮเปอร์สเกลและแบบทั่วไปในองค์กรใหม่ และฟอร์มแฟกเตอร์มาตรฐานของศูนย์ข้อมูล (EDSFF) ฟอร์มแฟกเตอร์ E1.S ไดรฟ์ KIOXIA รุ่น XD7P เป็นรุ่นที่สองของ E1.S SSD ของ Kioxia ซึ่งรองรับOpen Compute Project (OCP) Data Center NVMe SSD ต่อจาก KIOXIA รุ่น XD6 ไดรฟ์ KIOXIA รุ่น XD7P นั้นอยู่ระหว่างการสุ่มตัวอย่างเพื่อเลือกลูกค้า

Next-Generation EDSFF E1.S SSDs for Hyperscale Data Centers: KIOXIA XD7P Series Data Center NVMe™ SSDs (Photo: Business Wire)

EDSFF E1.S SSDs รุ่นใหม่สำหรับศูนย์ข้อมูลไฮเปอร์สเกล: KIOXIA XD7P รุ่น Data Center NVMe™ SSDs (ภาพ: Business Wire)

KIOXIA รุ่น XD7P Data Center NVMe SSD ให้ประสิทธิภาพโดยรวมที่ดีขึ้น อีกทั้งยังบรรลุประสิทธิภาพในการไรท์ตามลำดับเกือบ 1.5 ถึง 2 เท่า และสุ่มเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการอ่าน/ไรท์กับรุ่นก่อนหน้า

ไดรฟ์ KIOXIA รุ่น XD7P ได้รับการออกแบบตามข้อกำหนด PCIe 4.0 และ NVMe 2.0 อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการพัฒนา PCIe 5.0 ที่มีความเร็วอินเทอร์เฟซสูงสุด 32 GT/s ต่อเลน ดังนั้น KIOXIA รุ่น XD7P จะวางจำหน่ายเบื้องต้นในรูปแบบ PCIe 4.0 SSD ส่วนแบบ PCIe 5.0 SSD นั้นจะจัดจำหน่ายตามความต้องการของลูกค้า

KIOXIA รุ่น XD7P ใช้ตัวควบคุม Kioxia ที่เหมาะสมซึ่งสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของลูกค้า โดยใช้เทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช BiCS FLASH™ 3D รุ่นที่ 5 ของ Kioxia เป็นพื้นฐาน ฟอร์มแฟกเตอร์ E1.S จะมีความสูงที่ 9.5 มม. 15 มม. และ 25 มม. พร้อมตัวเลือกฮีตซิงก์ อีกทั้งยังมีความจุพร้อมใช้งานสูงสุดถึง 7.68 TB พร้อมความทนทาน 1 DWPD นอกจากนี้ ยังมีตัวเลือกการรักษาความปลอดภัย TCG Opal SSC SED อีกด้วย [2]

หมายเหตุ
[1] ตัวอย่างทางวิศวกรรมมีไว้สำหรับการประเมินลูกค้า OEM (ลูกค้าที่จ้างผลิตสินค้าเพื่อนำไปขายในแบรนด์ของตัวเอง) ข้อมูลคุณสมบัติอาจแตกต่างจากช่วงที่มีการผลิตเป็นจำนวนมาก
[2] ความพร้อมใช้งานของตัวเลือกความปลอดภัย/การเข้ารหัสอาจแตกต่างกันไปตามภูมิภาค

* DWPD: อัตราการไรท์ของไดรฟ์ต่อหนึ่งวัน (Drive Write(s) Per Day) หมายถึงไดรฟ์สามารถไรท์และรีไรท์ใหม่เต็มความจุได้วันละครั้งทุกวันเป็นระยะเวลาห้าปี ซึ่งเป็นระยะเวลาการรับประกันผลิตภัณฑ์ที่ระบุไว้ ในส่วนผลลัพธ์จริงอาจแตกต่างกันไปเนื่องจากการกำหนดค่าระบบ การใช้งาน และปัจจัยอื่น ๆ

*ความเร็วในการอ่านและไรท์อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเครื่องหลัก เงื่อนไขการอ่านและไรท์ และขนาดของไฟล์

*คำจำกัดความของความจุ: Kioxia Corporation ได้กำหนดเมกะไบต์ (MB) เป็น 1,000,000 ไบต์ กิกะไบต์ (GB) เป็น 1,000,000,000 ไบต์และเทราไบต์ (TB) เป็น 1,000,000,000,000 ไบต์ อย่างไรก็ตาม ระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์รายงานความจุในการจัดเก็บข้อมูลโดยใช้กำลัง 2 สำหรับคำจำกัดความของ 1GB = 2^30 ไบต์ = 1,073,741,824 ไบต์ และ 1TB = 2^40 ไบต์ = 1,099,511,627,776 ไบต์ ดังนั้นจึงอาจแสดงค่าความจุน้อยลง ประสิทธิภาพความจุที่มี (รวมถึง ตัวอย่างของไฟล์มีเดียหลายไฟล์) จะแตกต่างกันไปตามขนาดไฟล์ การจัดรูปแบบ การตั้งค่า ซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการ และ/หรือแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งเอาไว้ก่อน หรือเนื้อหาของมีเดียนั้น ความจุที่จัดรูปแบบจริงอาจแตกต่างกันไป

*NVMe เป็นเครื่องหมายจดทะเบียนหรือไม่ได้จดทะเบียนของบริษัท NVM Express, Inc ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ

*PCIe เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ PCI-SIG

*ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ

เกี่ยวกับ Kioxia

Kioxia เป็นผู้นำระดับโลกในด้านโซลูชันหน่วยความจำที่อุทิศให้กับการพัฒนา การผลิต และการขายหน่วยความจำแฟลชและโซลิดสเตตไดรฟ์ (SSD) ในเดือนเมษายน 2017 หน่วยความจำ Toshiba รุ่นก่อนได้แยกตัวออกจากบริษัท Toshiba Corporation ซึ่งเป็นผู้คิดค้นหน่วยความจำแฟลช NAND ในปี 1987 Kioxia มุ่งมั่นที่จะยกระดับโลกด้วย “หน่วยความจำ” โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบที่สร้างทางเลือกให้กับลูกค้าและมูลค่าตามหน่วยความจำสำหรับสังคม BiCS FLASH™ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช 3 มิติที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของ Kioxia ซึ่งจะกำหนดอนาคตของการจัดเก็บข้อมูลในแอปพลิเคชันที่มีความหนาแน่นสูงอันรวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง เครื่องคอมพิวเตอร์ SSD ยานยนต์ และศูนย์ข้อมูล

สอบถามข้อมูลลูกค้าได้ที่
Kioxia Corporation
สำนักงานขายทั่วโลก
https://business.kioxia.com/en-jp/buy/global-sales.html

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมทั้งราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของการบริการ และข้อมูลติดต่อนั้นเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

แกลลอรีรูปภาพ/มัลติมีเดีย
สามารถรับชมได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52947783/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สอบถามสื่อได้ที่

Kioxia Corporation

ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์การขาย

Koji Takahata

โทร: +81-3-6478-2404

ที่มา: Kioxia Corporation

Hillstone Networks เพิ่มการรับรอง Common Criteria Certification EAL4+ สำหรับไฟร์วอลล์รุ่นต่อไปของ Hillstone Networks

Logo

การรับรองความปลอดภัยระดับสากลและที่มีความเป็นอิสระสำหรับ Hillstone Networks SG-6000 A-Series Next Generation Firewall และ StoneOS 5.5.R9 เสริมความแข็งแกร่งให้กับแพลตฟอร์ม Hillstone ซึ่งเป็นรากฐานที่เชื่อถือได้สำหรับการรักษาความปลอดภัยเครือข่ายตั้งแต่ระบบเอดจ์ (edge) ไปจนถึงระบบคลาวด์ (cloud)

ซานตาคลารา, แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–17 ตุลาคม 2565

Hillstone Networks ผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่และสามารถเข้าถึงได้ ประกาศว่าบริษัทได้รับการรับรองผ่าน Common Criteria EAL4+ สำหรับ Hillstone Networks SG-6000 A-Series Next Generation Firewall (NGFW) และ StoneOS 5.5.R9 ซึ่งเสริมความแข็งแกร่งให้เป็นแพลตฟอร์มทางเลือกสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายและรักษาความปลอดภัยทรัพย์สินที่สำคัญของพวกเขาตั้งแต่ระบบเอดจ์ (edge) ไปจนถึงระบบคลาวด์ (cloud)

Common Criteria for Information Technology Security Evaluation (Common Criteria) เป็นมาตรฐานสากลสำหรับการรับรองความปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์ Common Criteria เป็นปัจจัยในการนำไปใช้ในหน่วยงานของรัฐตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดและเป็นไปตามข้อกำหนด เนื่องจากการประกันคุณภาพและการรับประกันการรับรอง องค์กรขนาดใหญ่อื่น ๆ ในหลายอุตสาหกรรมจึงใช้ Common Criteria ในการปรับใช้โซลูชัน

“ความยืดหยุ่นทางไซเบอร์ (Cyber resilience) เป็นข้อบังคับในปัจจุบัน โดยไม่คำนึงถึงขนาดองค์กรหรืออุตสาหกรรม” Tim Liu, CTO และผู้ร่วมก่อตั้ง Hillstone Networks กล่าว “Hillstone Next Generation Firewall เป็นรากฐานสำหรับพอร์ตโฟลิโอการรักษาความปลอดภัยของเรา และนำไปปรับใช้งานทั่วโลก รักษาความปลอดภัยให้กับลูกค้ากว่า 23,000 ราย ในวันนี้ลูกค้าของเรามีเหตุผลอีกประการหนึ่งที่เชื่อมั่นว่าโซลูชันของเราปกป้องทรัพย์สินที่มีความอ่อนไหวและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของพวกเขาด้วยการเพิ่มการรับรอง Common Criteria Certification เรายังคงผลักดันขอบเขตในการทำให้โลกดิจิทัลเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น”

“Secura ขอแสดงความยินดีกับ Hillstone Networks ที่ได้รับการรับรอง EAL4+ Common Criteria สำหรับ Hillstone Next Generation Firewall และ StoneOS การรับรองนี้มีขึ้นเพื่อเน้นคุณลักษณะด้านความปลอดภัยที่นำมาใช้ภายในผลิตภัณฑ์ ตลอดจนความสมบูรณ์ของกระบวนการพัฒนา ความร่วมมือที่เป็นแบบอย่างระหว่างทีม Hillstone และ Secura ทำให้ผลลัพธ์นี้เป็นไปได้” Razvan Venter ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยของ Secura กล่าว

Hillstone Networks A-Series ที่ได้รับการยอมรับโดย Gartner ว่าเป็น ผู้มีวิสัยทัศน์ Magic Quadrant ทางด้าน Network Firewalls มาในฟอร์มแฟคเตอร์สองแบบพร้อมโมเดลเพิ่มเติมเพื่อตอบสนองเวิร์กโหลดและการกำหนดความต้องการที่มีการเรียกร้องมากที่สุด สำหรับข้อมูลการรับรองเพิ่มเติม โปรดตรวจสอบ รายงานการรับรอง เป้าหมายความปลอดภัย และ การรับรอง CCRA  

เกี่ยวกับ Hillstone Networks

โซลูชันการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เป็นนวัตกรรมและเข้าถึงได้ของ Hillstone Networks ได้เปลี่ยนรูปแบบการรักษาความปลอดภัยขององค์กรและผู้ให้บริการ ทำให้มีความยืดหยุ่นในโลกไซเบอร์ในขณะที่ลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (TCO) ด้วยการมอบความสามารถในการมองเห็นอย่างครอบคลุม ความชาญฉลาดที่เหนือกว่า และการป้องกันที่รวดเร็วในการมองเห็น ทำความเข้าใจ และดำเนินการกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ตั้งแต่ระบบเอดจ์ (edge) ไปจนถึงระบบคลาวด์ (cloud) โดย Hillstone ได้รับการจัดอันดับอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจจากนักวิเคราะห์ชั้นนำและได้รับความเชื่อถือจากบริษัทระดับโลก หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ www.hillstonenet.com

ติดต่อ:

Zeyao Hu
+1 4085086750
inquiry@hillstonenet.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย