ทาลลินน์ เอสโตเนีย–(BUSINESS WIRE)–30 มิถุนายน 2564
กลุ่มบริษัทที่อยู่เบื้องหลัง iMUGS ซึ่งเป็นโครงการมูลค่า 32.6 ล้านยูโร โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาระบบภาคพื้นไร้คนขับที่เป็นมาตรฐานของยุโรป (UGS) แสดงให้เห็นผลลัพธ์ของระยะแรกของโครงการ – การนำระบบไร้คนขับไปใช้งานในสนามรบและรวมทีมกับหน่วยควบคุมและยานพาหนะที่มีคนขับ ซึ่งการสาธิตนำโดยผู้ประสานงานของกลุ่มบริษัทซึ่งเป็นผู้พัฒนาหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติชั้นนำของ Milrem Robotics ในยุโรป
กลุ่มบริษัทที่อยู่เบื้องหลัง iMUGS ซึ่งเป็นโครงการมูลค่า 32.6 ล้านยูโร โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาระบบภาคพื้นไร้คนขับที่เป็นมาตรฐานของยุโรป (UGS) แสดงให้เห็นผลลัพธ์ของระยะแรกของโครงการ – การนำระบบไร้คนขับไปใช้งานในสนามรบและรวมทีมกับหน่วยควบคุมและยานพาหนะที่มีคนขับ ซึ่งการสาธิตนำโดยผู้ประสานงานของกลุ่มบริษัทซึ่งเป็นผู้พัฒนาหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติชั้นนำของ Milrem Robotics ในยุโรป ด้วยทั้งสองสถานการณ์ได้รับความร่วมมือจากกองกำลังป้องกันเอสโตเนีย (ภาพ: Business Wire)
ในระหว่างโครงการ iMUGS (Integrated Modular Unmanned Ground System) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบโมดูลาร์ มีความปลอดภัยทางไซเบอร์และสามารถปรับขนาดได้สำหรับระบบมีคนขับ-ไร้คนขับแบบไฮบริดจะได้รับการพัฒนาเพื่อสร้างมาตรฐานให้กับระบบนิเวศทั่วทั้งยุโรปสำหรับแพลตฟอร์มทางภาคอากาศยานและภาคพื้นดิน อุปกรณ์สั่งการ เครื่องมือควบคุมและสื่อสาร ระบบเซ็นเซอร์ สิ่งของบรรทุก และอัลกอริทึม การจัดการกับความท้าทายในการปฏิบัติงานได้แก่ ความสามารถในการทำงานร่วมกันที่เพิ่มขึ้น การรับรู้สถานการณ์ที่เพิ่มขึ้น และการตัดสินใจที่รวดเร็วขึ้น
ระบบจะใช้ประโยชน์จากยานพาหนะภาคพื้นดินแบบไร้คนขับที่มีอยู่ – THEMIS ของ Milrem Robotics และรายการสิงของบรรทุกเฉพาะ
“วัตถุประสงค์หลักของโครงการ iMUGS คือการผสานรวมระบบหุ่นยนต์เข้ากับเทคโนโลยีที่มีคนขับที่มีอยู่ในกองกำลังป้องกันยุโรป โดยเพิ่มความสามารถใหม่ที่จะเอาชนะความสามารถของคู่ต่อสู้ของเรา” Kuldar Väärsi ซีอีโอของ Milrem Robotics กล่าว เขาตั้งข้อสังเกตว่า โครงการ iMUGS จะมีส่วนร่วมในความเป็นอิสระเชิงกลยุทธ์ของสหภาพยุโรปและเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก
ในระหว่างการสาธิตครั้งแรก พันธมิตรร่วมกันแสดงให้เห็นว่า THeMIS สามารถนำไปปรับใช้ในสนามรบได้อย่างไรโดยใช้ Armoured Personnel Carriers (APC) และร่วมกับระบบทางอากาศยานแบบไร้คนขับ เทคโนโลยีเฉพาะที่ใช้คือ Boxer APC โดย Krauss-Maffei Wegmann (KMW) และโดรนแบบมีสายพ่วงโดย Acecore Technologies โดรนแบบหลายใบพัดโดย Atlas Dynamics ก็เป็นส่วนหนึ่งของสถานการณ์เช่นกัน
ทั้งสองสถานการณ์ได้รับความร่วมมือจากกองกำลังป้องกันเอสโตเนีย
ในสถานการณ์แรก THeMIS ที่บูรณาการรวมเข้ากับโดรนแบบมีสายพ่วงของ Acecore นั้นถูกใช้งาน Beyond the Line of Sight (BLOS) โดยทหาร และใช้ในการตรวจจับและกำหนดเป้าหมายตำแหน่งของศัตรู หลังจากได้รับคำสั่งในการกำหนดการยิงทางอ้อมของเป้าหมายและการตรวจสอบการดำเนินการหลังจากนั้นโดยใช้ภาพวิดีโอของโดรน
จุดประสงค์ของสถานการณ์ที่สองคือการเรียกผู้บาดเจ็บจากรถที่ชนแล้วนำรถกลับมา การกระทำทั้งสองดำเนินการด้วย THEMIS UGV ในขณะที่ Boxer ลาก UGV เข้าไปในพื้นที่ปฏิบัติภารกิจ และโดรนของ Atlas ให้การเฝ้าระวังและรับรู้สถานการณ์
Thomas Reining ผู้จัดการโครงการ iMUGS ใน Krauss-Maffei Wegmann กล่าวว่า “การสาธิตยืนยันว่าเรามีปฏิสัมพันธ์ระหว่างระบบที่มีคนขับและไร้คนขับ ตลอดจนการทำงานร่วมกันของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ภายใต้การควบคุม
ข้อกำหนดสำหรับ UGS ที่ได้มาตรฐานซึ่งกำหนดโดยประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 7 ประเทศ ได้แก่ เอสโตเนียผู้นำโครงการ และเบลเยียม ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี ลัตเวีย และสเปน
“ประเทศที่เข้าร่วมทั้งหมดแสดงความสนใจเป็นอย่างมากที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนา UGS ของยุโรป” Martin Jõesaar เจ้าหน้าที่โครงการ iMUGS ในศูนย์การลงทุนด้านการป้องกันประเทศเอสโตเนียกล่าว “ประเทศต่างๆ เข้าใจดีว่าพวกเขาต้องเติบโตไปพร้อมกับอุตสาหกรรมเพื่อบูรณาการเทคโนโลยีในรูปแบบใหม่นี้อย่างรวดเร็วและนำอุตสาหกรรมไปสู่วิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด”
iMUGS เป็นความร่วมมือระหว่าง 13 ฝ่าย: Milrem Robotics (ผู้ประสานงานโครงการ), Talgen Cybersecurity, Safran Electronics & Defense, NEXTER Systems, Krauss-Maffei Wegmann, Diehl Defence, Bittium, Insta DefSec, (Un)Manned, dotOcean, Latvijas Mobilais Telefons, GMV Aerospace and Defence และ Royal Military Academy of Belgium.
รับชมการสาธิต 1 สถานการณ์ 1 ได้ที่นี่ – https://youtu.be/wAQHPdmm48M
รับชมการสาธิต 1 สถานการณ์ 2 ได้ที่นี่ – https://youtu.be/2vobuDOcfDA
ติดต่อ:
Gert Hankewitz
Milrem Robotics
Gert.hankewitz@milrem.com
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย