Toshiba เปิดตัวเทคโนโลยีควบคุมการประเมินตำแหน่งใหม่สำหรับชุดพัฒนาซอฟต์แวร์ควบคุมมอเตอร์ เพื่อลดความซับซ้อนในการควบคุมมอเตอร์ภาคสนาม

Logo

– วันนี้ขอนำเสนอ “MCU Motor Studio Ver.3.0” และ “เครื่องมือปรับแต่งพารามิเตอร์มอเตอร์” ใหม่-

KAWASAKI, Japan–(BUSINESS WIRE)–19 มีนาคม 2024

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) ได้มีการปรับปรุงความสามารถในการควบคุมมอเตอร์ โดยมีการเปิดตัวเครื่องมือนวัตกรรมสองรายการ มีการเพิ่มเทคโนโลยีควบคุมการประเมินตำแหน่งใหม่สำหรับการควบคุมภาคสนาม (FOC) เข้าในชุดพัฒนาซอฟต์แวร์ควบคุมมอเตอร์เวอร์ชันล่าสุด “MCU Motor Studio Ver.3.0” ในขณะที่ “Motor Tuning Studio Ver.1.0” จะมีการคำนวณพารามิเตอร์ของมอเตอร์โดยอัตโนมัติ โดยสามารถเลือกใช้งานทั้งสองรายการแล้วในวันนี้

Toshiba: motor control software development Kit

Toshiba: ชุดพัฒนาซอฟต์แวร์ควบคุมมอเตอร์ “MCU Motor Studio Ver.3.0” (กราฟิก: Business Wire)

FOC เป็นวิธีการควบคุมมอเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ยากในการใช้งานเนื่องจากมีความซับซ้อนในการใช้เกนควบคุมสัดส่วน-อินทิกรัล (PI) สำหรับการปรับจูนตัวขับมอเตอร์ โดยปกติแล้ว จะมีการใช้ระบบควบคุม PI สำหรับการควบคุมตำแหน่ง การควบคุมความเร็ว และการควบคุมกระแสไฟ โดยจะมีพารามิเตอร์เกนควบคุม PI สามรายการที่มีการทำงานร่วมกัน จะสามารถปรับเปลี่ยนได้โดยการลองผิดลองถูกเท่านั้น ในขณะเดียวกัน MCU Motor Studio จะดำเนินการควบคุมมอเตอร์โดยใช้พารามิเตอร์มอเตอร์ที่เป็นที่รู้จักกันดี แต่ปัญหาคือ ไม่มีฟังก์ชันในการแยกพารามิเตอร์ออกจากมอเตอร์

วิธีการควบคุมการประเมินตำแหน่งใหม่ของ Toshiba นี้จะขึ้นกับระบบตรวจสอบฟลักซ์ และไม่มีการใช้ระบบควบคุม PI สำหรับการประเมินตำแหน่ง ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ง่ายยิ่งขึ้นในระหว่างการประเมินมอเตอร์ วิธีการใหม่นี้ช่วยทำให้มีความเสถียรในระหว่างการทำงานที่มีโหลดสูงมากยิ่งขึ้นกว่าระบบควบคุมการประเมินตำแหน่งแบบเดิม MCU Motor Studio Ver.3.0 ที่มีการผสานรวมวิธีการใหม่นี้ยังรองรับวิธีการควบคุมตำแหน่งแบบเดิมอีกด้วย

การผสานรวม MCU Motor Studio และ MCU Motor Tuning Studio ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้พารามิเตอร์มอเตอร์ตั้งต้นและเริ่มต้นการประเมินค่าได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น จะสามารถเรียกใช้ Motor Tuning Studio ได้โดยใช้ฟอร์มแบบสอบถามจากลูกค้าของ Toshiba ได้ที่นี่ (ติดต่อ)

Toshiba มีความก้าวหน้าในการตระหนักถึงความเป็นกลางของคาร์บอนและเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน และจะยังคงมีการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ไมโครคอนโทรลเลอร์สำหรับ FOC และชุดพัฒนาซอฟต์แวร์ควบคุมมอเตอร์ และเพื่อรองรับมอเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง

ติดตามลิงก์ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MCU Motor Studio
MCU Motor Studio

ติดตามลิงก์ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไมโครคอนโทรลเลอร์ของ Toshiba
ไมโครคอนโทรลเลอร์

* TXZ+™ เป็นเครื่องหมายการค้าของ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทที่เกี่ยวข้อง
* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาด้านบริการ และข้อมูลการติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation เป็นซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโซลูชันเซมิคอนดัคเตอร์และการจัดเก็บข้อมูลขั้นสูง โดยใช้ประสบการณ์และนวัตกรรมที่มีมากว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอเซมิคอนดัคเตอร์แบบแยกชิ่นส่วน ระบบ LSI และผลิตภัณฑ์ HDD ที่โดดเด่นแก่ลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ
พนักงานของบริษัทจำนวน 21,500 คนทั่วโลกมีความมุ่งมั่นร่วมกันในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุด และส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในการสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ร่วมกัน ด้วยยอดขายต่อปีเกือบ 8 แสนล้านเยน (6.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation มุ่งมั่นในการสร้างและมีส่วนร่วมเพื่ออนาคตที่ดียิ่งขึ้นสำหรับผู้คนในทุกที่
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53911084/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สอบถามข้อมูลด้านลูกค้า:
MCU & Digital Device Sales & Marketing Dept.
โทร: +81-44-548-2233
ติดต่อเรา

สอบถามข้อมูลด้านสื่อ:
Chiaki Nagasawa
Digital Marketing Dept.
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

แหล่งข้อมูล: Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

งานเลี้ยงอาหารค่ำคณะทูตสมาชิกและคณะกรรมการอำนวยการ APO เพื่อพบปะหารือการติดตามและประเมินผลวิสัยทัศน์ APO ปี 2568: กิจกรรมหยุดคิดและพิจารณาทบทวน

Logo

กรุงโตเกียว—(BUSINESS WIRE)–15 มีนาคม 2024

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2567 เลขาธิการใหญ่ขององค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย (APO) Dr. Indra Pradana Singawinata ได้จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำสำหรับคณะทูตซึ่งเป็นสมาชิก APO ในกรุงโตเกียว งานเลี้ยงในครั้งนี้มีทูตและตัวแทนจากสมาชิก APO ทั้ง 14 ประเทศเข้าร่วมเพื่อประชุมหารือกับคณะกรรมการอำนวยการเรื่องวิสัยทัศน์ APO ปี 2568: กิจกรรมหยุดคิดและพิจารณาทบทวน (APO Vision 2025: Pause-and-reflect Activity) ซึ่งผู้แทนจากสมาชิก APO จำนวน 7 ประเทศได้มารวมตัวกันในกรุงโตเกียวเพื่อทบทวนความคืบหน้าในวิสัยทัศน์ APO ปี 2568 นี้และร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงวิสัยทัศน์ในอนาคตภายหลังปี 2568

Group photo with ambassadors and representatives from APO members, delegates from the APO Vision 2025: Pause-and-reflect Activity Steering Committee and Technical Working Group, APO Secretary-General, and Secretariat staffs. (Photo: Business Wire)

ภาพถ่ายทูตและตัวแทนจากประเทศสมาชิก APO, ผู้แทนจากคณะกรรมการอำนวยการและกลุ่มทำงานฝ่ายเทคนิค APO Vision 2025: Pause-and-reflect Activity, เลขาธิการใหญ่ APO และเจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการ (ภาพจาก Business Wire)

เลขาธิการใหญ่ Dr. Indra ได้เน้นย้ำในคำกล่าวเปิดงานถึงความสำคัญของงานเลี้ยงอาหารค่ำในครั้งนี้ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อทบทวนความมุ่งมั่นของ APO ในการแผ่ขยายความร่วมมือและเชื้อเชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้มาเข้าร่วมกิจกรรมเคลื่อนไหวเพื่อผลผลิต ประธาน APO อย่าง Sheng-Hsiung Hsu จาก ROC ซึ่งได้รับเลือกจากการประชุมคณะประศาสน์การ (Session of the Governing Body) สมัยที่ 65 ยังได้ร่วมแสดงความคิดเห็นโดยเน้นย้ำถึงประสิทธิผลอันโดดเด่นขององค์กรในการนำพาผู้คนมารวมกันผ่านผลผลิตด้วย

Yoshiaki Makino รัฐมนตรีช่วยประจำกระทรวงต่างประเทศ (MOFA) แห่งประเทศญี่ปุ่นจากสำนักเลขาธิการ APO ได้กล่าวเปิดงานในนามของผู้อำนวยการ APO ประเทศญี่ปุ่น Hideo Ishizuki ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่/ผู้ช่วยรัฐมนตรี สำนักความร่วมมือระหว่างประเทศ MOFA โดยได้ชมเชยการสร้างเครือข่ายและตอกย้ำถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างสมาชิก APO ต่าง ๆ ในขณะที่หยิบยกโครงการริเริ่มที่ดำเนินอยู่อย่างกิจกรรมการหยุดคิดและพิจารณาทบทวนและการประเมินภายนอก

งานเลี้ยงดังกล่าวปิดท้ายด้วยคำกล่าวจากกรรมการอิสระของ APO ประเทศอินเดีย S. Gopalakrishnan จาก IAS ซึ่งได้แสดงความขอบคุณแก่เหล่าทูตที่มาเข้าร่วม รวมถึงกล่าวขอบคุณเลขาธิการใหญ่ Dr. Indra ในนามของผู้เข้าร่วมทุกคน S. Gopalakrishnan ยังได้เน้นย้ำถึงประโยชน์ที่หลายคนมองข้ามจากแพลตฟอร์ม APO และสนับสนุนให้ทุกคนนำเครือข่ายระหว่างประเทศของ APO อย่างองค์การเพิ่มผลผลิตระดับประเทศมาใช้ให้เกิดประโยชน์เพื่อสนับสนุนโครงการริเริ่มของรัฐบาล รวมถึงแนวคิดด้านความร่วมมือและเป้าหมายร่วมกันของงานเลี้ยงในครั้งนี้ด้วย

เกี่ยวกับ APO

องค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย (APO) เป็นองค์กรความร่วมมือระหว่างรัฐบาลในระดับภูมิภาคที่จัดตั้งขึ้นเพื่อปรับปรุงผลผลิตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกผ่านความร่วมมือ โดยเป็นองค์กรที่ไม่ข้องเกี่ยวกับการเมือง ไม่แสวงผลกำไร และไม่แบ่งแยก องค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชียก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2504 โดยมีสมาชิกร่วมก่อตั้งจำนวน 8 ประเทศ ทั้งนี้ในปัจจุบัน APO มีสมาชิกรวม 21 เขตเศรษฐกิจ ได้แก่ บังกลาเทศ, กัมพูชา, กลุ่ม ROC, ฟิจิ, ฮ่องกง, อินเดีย, อินโดนีเซีย, สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน, ญี่ปุ่น, กลุ่ม ROK, สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว, มาเลเซีย, มองโกเลีย, เนปาล, ปากีสถาน, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ศรีลังกา, ไทย, ตุรกี และเวียดนาม

APO กำลังกำหนดทิศทางอนาคตของภูมิภาคโดยบ่มเพาะการพัฒนาทางเศรษฐกิจสังคมของประเทศสมาชิกผ่านบริการให้คำแนะนำทางนโยบายระดับประเทศ รวมถึงทำหน้าที่เป็นแหล่งความเชี่ยวชาญ โครงการริเริ่มในการสร้างประสิทธิผลระดับสถาบัน และการแบ่งปันความรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิผล

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53910598/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

ข้อมูลติดต่อโดยละเอียดมีดังนี้
Digital Information Unit, APO
pr@apo-tokyo.org
โทร: +81-3-3830-0411
เว็บไซต์: https://www.apo-tokyo.org

แหล่งข้อมูล: Asian Productivity Organization (องค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย)

Illumination และ Nintendo ประกาศเปิดตัวภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องใหม่ที่สร้างจากโลกของ Super Mario Bros.

Logo

SANTA MONICA, Calif. & KYOTO, Japan–(BUSINESS WIRE)–10 มีนาคม 2024

Illumination (สำนักงานใหญ่: Santa Monica, CA, USA; ผู้ก่อตั้งและ CEO: Chris Meledandri) และ Nintendo Co., Ltd. (สำนักงานใหญ่: Kyoto, Minami-ku, Japan; ผู้อำนวยการฝ่ายตัวแทนจำหน่ายและประธาน: Shuntaro Furukawa, “Nintendo”) ประกาศในวันนี้ว่า พวกเขากำลังผลิตภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องใหม่ที่สร้างจากโลกของ Super Mario Bros.

Chris Meledandri (Photo: Business Wire)

Chris Meledandri (ภาพถ่าย: Business Wire)

ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องใหม่ที่สร้างจากโลกของ Super Mario Bros. นี้มีกำหนดฉายในวันที่ 3 เดือนเมษายน ปี 2026 ในสหรัฐอเมริกาและตลาดอื่นๆ ทั่วโลกพร้อมบางพื้นที่ที่ออกฉายตลอดเดือนเมษายน

ภาพยนตร์เรื่องนี้จะอำนวยการสร้างโดย Chris Meledandri ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Illumination และ Shigeru Miyamoto ผู้อำนวยการตัวแทนจำหน่าย Fellow of Nintendo กำกับโดย Aaron Horvath และ Michael Jelenic และเขียนบทโดย Matthew Fogel ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการลงทุนร่วมกันจาก Universal Pictures และ Nintendo และจัดจำหน่ายทั่วโลกโดย Universal Pictures

ในการมีส่วนร่วมในการผลิตภาพยนตร์โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างรอยยิ้มบนใบหน้าของทุกคนผ่านความบันเทิง Nintendo จะพยายามในการผลิตความบันเทิงที่ไม่เหมือนใครและส่งมอบให้กับผู้คนในมากที่สุดต่อไป

Illumination รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้สานต่อความร่วมมือกับ Nintendo เพื่อส่งมอบความสุขและความสนุกสนานมาสู่ผู้ชมทั่วโลกทุกวัย เชื่อมต่อตัวละครและเรื่องราวอันเป็นที่รักจากหนึ่งแฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกกับผู้ชมทั่วโลก

  • เกี่ยวกับ Illumination

Illumination ก่อตั้งขึ้นโดย Chris Meledandri ในปี 2007 เป็นหนึ่งในผู้ผลิตภาพยนตร์แอนิเมชั่นชั้นนำในวงการบันเทิง รวมถึง Despicable Me ซึ่งเป็นแฟรนไชส์ภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ รวมถึงทำลายสถิติของภาพยนตร์เรื่อง The Super Mario Bros., Dr. Seuss' The Lorax, Dr. Seuss' The Grinch และ The Secret Life of Pets และภาพยนตร์ของ Sing ในห้องสมุดของ Illumination มีภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดนิยมตลอดกาลสามเรื่องจาก 10 เรื่อง แฟรนไชส์ที่เป็นเอกลักษณ์และยอดนิยมของ Illumination ผสมผสานกับตัวละครที่น่าดึงดูดใจและโดดเด่น มีภาพลักษณ์ระดับโลก และมีความเกี่ยวข้องทางวัฒนธรรม สร้างรายได้มากกว่า 9 พันล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลก Illumination เป็นพันธมิตรทางการเงินและการจัดจำหน่ายกับ Universal Pictures ภาพยนตร์เรื่องต่อไปของ Illumination คือ Despicable Me 4 ซึ่งมีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 3 เดือนกรกฎาคม ปี 2024

  • เกี่ยวกับ Nintendo

Nintendo Co., Ltd. ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ได้สร้างแฟรนไชส์ที่โด่งดังไปทั่วโลก รวมถึง Mario™, Donkey Kong™, The Legend of Zelda™, Metroid™, Pokémon™, Animal Crossing™, Pikmin™ และ Splatoon™ จากผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์แบบครบวงจร Nintendo ตั้งเป้าที่จะมอบประสบการณ์ด้านความบันเทิงที่เป็นเอกลักษณ์และใช้งานได้ง่ายดายสำหรับทุกคน ทั้งการผลิตและการตลาดสำหรับอุปกรณ์วิดีโอเกม เช่น ระบบ การพัฒนา และระบบการใช้งานตระกูล Nintendo Switch™ สำหรับอุปกรณ์อัจฉริยะ และการร่วมมือกับพันธมิตรในโครงการริเริ่มด้านความบันเทิงอื่นๆ เช่น เนื้อหาภาพ และธีมพาร์ค Nintendo สามารถจำหน่ายวิดีโอเกมได้มากกว่า 5.6 พันล้านเกมและฮาร์ดแวร์กว่า 800 ล้านยูนิตทั่วโลก จากการเปิดตัว Nintendo Entertainment System™ เมื่อ 30 ปีแล้วจนถึงปัจจุบันและต่อเนื่องในอนาคต ภารกิจต่อเนื่องของ Nintendo คือการสร้างความบันเทิงที่มีเอกลักษณ์ที่สร้างรอยยิ้มบนใบหน้าของผู้คนทั่วโลก

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53907820/en

ติดต่อ

Sarah Rothman – sarah.rothman@ledecompany.com

แหล่งข้อมูล: Illumination


Mitsubishi Corporation Life Sciences ตีพิมพ์ผลการศึกษาใหม่เกี่ยวกับผลของการกินซิสเทอีนเปปไทด์ที่มีกลูตาไธโอนต่อความกระจ่างใสของผิว

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–12 มีนาคม 2024

Mitsubishi Corporation Life Sciences Limited (สำนักงานใหญ่: เขตชิโยดะ โตเกียว ญี่ปุ่น คิชิโมโตะ โคจิ กรรมการตัวแทนและประธาน) ได้ทำการศึกษาทางคลินิก เรื่องความกระจ่างใสของผิวในซิสเทอีนเปปไทด์และตีพิมพ์ใน Cosmetics 2023, 10, 72 ในการศึกษานี้ บริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ไลฟ์ ไซเอนซ์ ให้คำจำกัดความของกลูตาไธโอน (GSH), ซิสเทนิลไกลซีน (Cys-Gly) และกลูตามิลซิสเทอีน (-Glu-Cys) เป็นเปปไทด์ซิสเทอีน และทำการศึกษาแบบสุ่ม ปกปิดทั้งสองด้านด้วยยาหลอกเพื่อตรวจสอบผลกระทบของซิสเทอีนเปปไทด์ที่รับประทานทางปากในความกระจ่างใสของผิวมนุษย์

การศึกษาแสดงให้เห็นว่ากลุ่มที่รับประทานซีสเตอีนเปปไทด์ขนาด 45 มก. เป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าแขนขาวขึ้นโดยขึ้นอยู่กับเวลา และสังเกตเห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับยาหลอกในสัปดาห์ที่ 12

รายละเอียดการวิจัย

การศึกษานี้ได้รับการออกแบบให้เป็นการศึกษาเปรียบเทียบแบบสุ่ม ปกปิดสองด้าน ควบคุมด้วยยาหลอก กลุ่มคู่ขนานกับชายและหญิงที่มีสุขภาพดี อายุระหว่าง 20 ถึง 65 ปี ผู้เข้าร่วมที่มีสิทธิ์ได้รับการสุ่มแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม (ซิสเทอีนเปปไทด์ 45 มก.: n = 16, 90 มก.: n = 15 และยาหลอก: n = 16) ผู้เข้ารับการทดลองแต่ละคนรับประทานยาหกเม็ดทุกวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์ และวัดความสว่างของผิวหนัง (ค่า L) โดยใช้เครื่องสเปกโตรโฟโตมิเตอร์แบบพกพา CM-26d (Konica Minolta โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น) ที่การตรวจคัดกรอง 0 สัปดาห์ 4 สัปดาห์ 8 สัปดาห์ และ 12 สัปดาห์

ผลลัพธ์

ทุกกลุ่มแสดงให้เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในความกระจ่างใสของแขนที่ 12 สัปดาห์ เทียบกับ 0 สัปดาห์ นอกจากนี้ ค่า ΔL ยังสว่างกว่าอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่ม 45 มก. เมื่อเทียบกับยาหลอก (p = 0.028) ที่ 12 สัปดาห์ ค่า ΔL 90 มก. สูงกว่ากลุ่มยาหลอกที่ 12 สัปดาห์

Mitsubishi Corporation Life Sciences Limited มีบริษัทในเครือของ KOHJIN Life Sciences ซึ่งเป็นผู้ผลิตกลูตาไธโอนที่ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น KOHJIN Life Sciences มีประวัติการผลิตยาวนานกว่า 70 ปี และยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างมูลค่าใหม่โดยการรวมเทคโนโลยีการหมักขั้นสูงของบริษัทต่าง ๆ ของ Mitsubishi Corporation Life Sciences Group และผ่านการวิจัยและพัฒนาในด้านเทคโนโลยีชีวภาพ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53905938/en

ติดต่อ

หากมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับข่าวนี้ โปรดติดต่อ:
kentaro.hamasaki@mcls-ltd.com
Mitsubishi Corporation Life Sciences Limited
Tokyo Takarazuka Bldg 14F,
1-1-3 Yurakucho, Chiyoda-ku,
Tokyo 100-0006 Japan

ที่มา: Mitsubishi Corporation Life Sciences Limited

American Express เผยเทรนด์การเดินทางท่องเที่ยวยอดนิยมประจำปี 2567

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–12 มีนาคม 2024

ในวันนี้ American Express Travel®  ได้เปิดเผย รายงานแนวโน้มการเดินทางทั่วโลกปี 25671 (American Express Travel: 2024 Global Travel Trends Report) แสดงให้เห็นถึงแรงบันดาลใจและเทรนด์ที่ขับเคลื่อนการจองการเดินทางทั่วโลกในปีนี้

American Express Reveals 2024 Top Travel Trends. (Photo: Business Wire)

อเมริกัน เอ็กซ์เพรส เผยแนวโน้มการเดินทางสูงสุดในปี 2024 (ภาพ: Business Wire)

รายงานฉบับนี้ที่อ้างอิงจากข้อมูลสำรวจจากนักเดินทางในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา อินเดีย ญี่ปุ่น เม็กซิโก และสหราชอาณาจักร พบว่าร้อยละ 84 ของผู้ตอบแบบสอบถามวางแผนที่จะใช้จ่ายมากขึ้นหรือเท่าเดิมกับการเดินทางในปี 2567 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว นอกจากนี้ ร้อยละ 77 ของผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญกับการมีประสบการณ์การเดินทางที่เหมาะสมมากกว่าค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

แนวโน้มสี่ประการที่ขับเคลื่อนการตัดสินใจจอง ได้แก่::

สำหรับคนรักกีฬา: แฟนกีฬากำลังวางแผนการเดินทางไปชมกิจกรรมด้านกีฬา ไม่ว่าจะเป็นกีฬาโปรด ทีมโปรด หรือการแข่งขันกีฬาหลายประเภทระดับนานาชาติ

การวางแผนใหญ่: การผจญภัยครั้งใหญ่ในรูปแบบการเดินทาง เช่น การเดินทางไปหมู่เกาะกาลาปากอสหรือการเดินป่ากับกอริลล่า มอบประสบการณ์การเปลี่ยนแปลงที่นักเดินทางกำลังมองหา

เดินทางคนเดียว: นักเดินทางเดินทางโดยลำพัง โดยอาศัยความสะดวกในการวางแผนและความสามารถในการปรับแต่งแผนการเดินทางให้เหมาะสมที่สุด

ไปตามอำเภอใจ: เนื่องจากชีวิตมากมายถูกกำหนดโครงสร้างและกำหนดเวลาไว้มากมายในปัจจุบัน ผู้คนจึงมองหาความยืดหยุ่นในแผนการเดินทางและออกจากพื้นที่เพื่อความเป็นธรรมชาติ

“นักท่องเที่ยวมุ่งเน้นไปที่การสร้างแผนการเดินทางที่เหมาะสมและสร้างความทรงจำ ไม่ว่าจะเป็นการจองทริปเพื่อดูทีมกีฬาที่ชื่นชอบแข่งขัน หรือการล่องเรือสำราญครั้งหนึ่งในชีวิต” ออเดรย์ เฮนด์ลีย์ ประธาน American Express Travel กล่าว” รายงานแนวโน้มการเดินทางทั่วโลกของเราให้ความกระจ่างเกี่ยวกับสิ่งที่ขับเคลื่อนการจองการเดินทางทั่วโลก และสร้างแรงบันดาลใจในจุดหมายปลายทางต่อไป ที่ปรึกษาด้านการเดินทางของ American Express ของเราสามารถช่วยได้ ไม่ว่าคุณจะต้องการเดินทางประเภทใดก็ตาม

ข้อมูลเชิงลึกหลักจาก American Express Travel: 2024 Global Travel Trends Report ประกอบด้วย:

  •  ความต้องการดูการแข่งขันกีฬาสดๆ และชมทีมที่ชื่นชอบและผู้เล่นคนโปรดตัวเป็น ๆ  เป็นแรงขับเคลื่อนจุดหมายปลายทางของนักเดินทางและกิจกรรมที่จะทำเมื่อไปถึงสถานที่นั้น ๆ
    • ร้อยละ 67 ของผู้ตอบแบบสอบถามวัยมิลเลนเนียลและ Gen Z2 (เทียบกับร้อยละ 58 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด) สนใจในการเดินทางร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับกีฬาในปี 2567
    • ร้อยละ 58 ของผู้ตอบแบบสอบถามที่จะเดินทางเพื่อการกีฬาในปี 2567 จะไปดูฟุตบอล บาสเก็ตบอล หรือการแข่งรถฟอร์มูล่าวัน
    • นิวยอร์ก ไมอามี และปารีส เป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ที่ผู้ตอบแบบสอบถามตั้งใจจะเดินทางไปร่วมกิจกรรมกีฬาในฤดูร้อนนี้

  • ทริปท่องเที่ยวครั้งหนึ่งในชีวิตที่เปลี่ยนชีวิตได้ เช่น การไปเยือนหมู่เกาะกาลาปากอสและการเดินป่าในทวีปแอนตาร์กติกา อยู่ในอันดับต้นๆ ของความปรารถนาของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และนักเดินทางอายุน้อยก็ต้องการผู้เชี่ยวชาญมาช่วยวางแผน
    • ร้อยละ 65 ของผู้ตอบแบบสอบถาม สนใจในการออกทริปสำคัญในปี 2567 มากกว่าปีที่แล้ว
    • ร้อยละ 72 ของผู้ตอบแบบสอบถามยอมเก็บเงินเพื่อทริปสำคัญมากกว่าใช้ในการออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ และเกินครึ่งวางแผนเก็บเงิน 6 เดือนถึง 2 ปี เพื่อทริปสำคัญ
    • 58% of Millennial and Gen Z respondents want a travel agent or trusted advisor to help them book a major trip this year ร้อยละ 58 ของมิลเลนเนียลและ Gen Z ต้องการให้ตัวแทนการท่องเที่ยวหรือที่ปรึกษาที่เชื่อถือได้ช่วยจองทริปสำคัญในปีนี้
    • 55% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่วางแผนทริปสำคัญจะพิจารณาไปเยือนหลายประเทศในภูมิภาค
  • ความสะดวกในการวางแผนและความสามารถในการสร้างแผนการเดินทางที่สมบูรณ์แบบและเป็นส่วนตัวกำลังผลักดันให้ผู้คนวางแผนการเดินทางโดยลำพัง โดยเฉพาะนักเดินทางวัยรุ่น
    • ร้อยละ 74 ของผู้ตอบแบบสอบถามรุ่นมิลเลนเนียลและ Gen Z (เทียบกับร้อยละ 69 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด) กล่าวว่าพวกเขากำลังวางแผนที่จะไปเที่ยวคนเดียวในปี 2567
    • ร้อยละ 74 ของผู้ตอบแบบสอบถามชาย และ ร้อยละ 63 ของผู้ตอบแบบสอบถามหญิงกล่าวว่าพวกเขากำลังวางแผนจะเดินทางคนเดียวในปี 2567
    • ร้อยละ 66 ของผู้ตอบแบบสอบถามที่วางแผนจะเดินทางคนเดียวกำลังวางแผนการเดินทางที่เหมาะกับตัวเอง
    • ร้อยละ 60 ของผู้ตอบแบบสอบถามที่วางแผนจะเดินทางคนเดียวในปีนี้ตั้งใจที่จะเดินทางคนเดียวตั้งแต่สองครั้งขึ้นไป
  •  นักท่องเที่ยวหันมาใช้แผนการเดินทางที่ยืดหยุ่น ช่วยให้พวกเขามีอิสระในการใช้ชีวิตอย่างเป็นธรรมชาติและสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นขณะเดินทาง
    • ร้อยละ 78 ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าชื่นชอบการเดินทางโดยไม่ได้วางแผน
    • ร้อยละ 77 ของมิลเลนเนียลและ Gen Z  เคยจองทริปนาทีสุดท้ายมาก่อน เทียบกับร้อยละ 65 ของ Gen X3 และ ร้อยละ 52 ของเบบี้บูมเมอร์4
    • ร้อยละ 68 ของผู้ตอบแบบสอบถามยอมรับว่าพวกเขาชอบปล่อยให้มีเวลาที่ไม่ได้วางแผนไว้ในการเดินทางเพื่อไปสัมผัสวัฒนธรรม/กิจกรรมท้องถิ่น
    • ร้อยละ 57 ของผู้ตอบแบบสอบถาม ชอบการจองสถานที่พักผ่อนในนาทีสุดท้ายไปยังจุดหมายปลายทางใกล้เคียงมากกว่าจองสถานที่ห่างไกล

เนื่องจากความต้องการการเดินทางยังคงดำเนินต่อไปจนถึงปี 2567 อเมริกัน เอ็กซ์เพรส มอบสิทธิ์ในการเข้าถึงและประสบการณ์การเดินทางสุดพิเศษแก่สมาชิกบัตรที่มีสิทธิ์ รวมถึงห้องรับรองในสนามบินมากกว่า 1,400 แห่งผ่าน Global Lounge Collection® ที่ปรึกษาด้านการเดินทางผู้เชี่ยวชาญที่สามารถสร้างแผนการเดินทางในฝันสำหรับทุกสิ่งตั้งแต่ทริปสำคัญๆ เช่น การล่องเรือสำรวจหรือซาฟารี ไปจนถึงการพักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์อย่างรวดเร็ว การจองร้านอาหารผ่าน Resy และคำแนะนำสถานที่รับประทานอาหารที่ Resy.com/Travel สิทธิประโยชน์จากประสบการณ์และสถานที่เล่นกีฬาระดับโลก สิทธิประโยชน์ที่โรงแรมคัดสรรกว่า 2,000 แห่งทั่วโลกผ่าน Fine Hotels + Resorts® และ The Hotel Collection ที่พักตากอากาศระดับพรีเมียมมากกว่า 1,000 แห่งผ่าน Select Homes + RetreatsTM  และอีกมากมาย
 

สามารถดูรายงานแนวโน้มการเดินทางทั่วโลก American Express Travel ฉบับเต็ม: 2567 ได้ที่นี่

เกี่ยวกับ AMERICAN EXPRESS

American Express เป็นบริษัทการชำระเงินแบบบูรณาการระดับโลก โดยให้บริการลูกค้าด้วยการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ ข้อมูลเชิงลึก และประสบการณ์ที่ยกระดับชีวิตและสร้างความสำเร็จทางธุรกิจ เรียนรู้เพิ่มเติมที่ americanexpress.com และเชื่อมต่อกับเราทาง  facebook.com/americanexpressinstagram.com/americanexpressthreads.net/@americanexpresstiktok.com/@americanexpresslinkedin.com/company/american-expresstwitter.com/americanexpress, และ youtube.com/americanexpress

ลิงค์ไปยังผลิตภัณฑ์ บริการ และข้อมูลความรับผิดชอบขององค์กรหลัก ๆ personal cardsbusiness cards and servicestravel servicesgift cardsprepaid cardsmerchant servicesAccertifyBusiness BlueprintResycorporate cardbusiness traveldiversity and inclusioncorporate sustainability และ Environmental, Social, and Governance reports

1วิธีการสำรวจ: การสำรวจนี้จัดทำระหว่างวันที่ 31 มกราคม – 7 กุมภาพันธ์ January 31 – February 8, 2024 จากกลุ่มตัวอย่างผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา 2,005 คน ผู้ใหญ่ในออสเตรเลีย 1,007 คน แคนาดา 1,002 คน ผู้ใหญ่ในสหราชอาณาจักร 1,002 คน ผู้ใหญ่ในญี่ปุ่น 1,002 คน ผู้ใหญ่ในเม็กซิโก 1,006 คน และผู้ใหญ่ในอินเดีย 1,005 คน ที่มีรายได้ครัวเรือน อย่างน้อย 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ และเป็นผู้ใหญ่ที่เดินทางโดยเครื่องบินอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง การสัมภาษณ์ดำเนินการทางออนไลน์ ผลลัพธ์จากการสำรวจฉบับเต็มมีค่าความคลาดเคลื่อนบวกหรือลบร้อยละ 2-4 ภูมิศาสตร์บางแห่งอาจมีการถ่วงน้ำหนักด้วยตัวแปรน้อยลง ขึ้นอยู่กับความพร้อมของข้อมูลการสำรวจสำมะโนประชากรในท้องถิ่น

2มิลเลนเนียลและ Gen Z หมายถึงผู้ตอบแบบสอบถามที่เกิดระหว่างปี 1981 – 2012

3GenX หมายถึงผู้ตอบแบบสอบถามที่เกิดระหว่างปี 1965 – 1980

4กลุ่มเบบี้บูมเมอร์หมายถึงผู้ตอบแบบสอบถามที่เกิดระหว่างปี 1946 – 1964

ผู้ขายการเดินทาง

American Express Travel Related Services Company, Inc. ทำหน้าที่เป็นตัวแทนขายสำหรับซัพพลายเออร์ด้านการเดินทางแต่เพียงผู้เดียว และไม่รับผิดชอบต่อการกระทำหรือการละเว้นของซัพพลายเออร์ดังกล่าว ซัพพลายเออร์บางรายจ่ายค่าคอมมิชชั่นและสิ่งจูงใจอื่น ๆ ให้กับเราสำหรับการบรรลุเป้าหมายการขายหรือเป้าหมายอื่น ๆ และอาจให้สิ่งจูงใจแก่ที่ปรึกษาการเดินทางของเรา

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.americanexpress.com/travelterms

California CST#1022318; Washington UBI#600-469-694

ที่มา: American Express Company

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53908475/en

ติดต่อ

AMERICAN EXPRESS
Ali Barlow
Ali.Barlow@aexp.com

ที่มา: American Express Company



Cargill แบ่งปันผลลัพธ์ของการเดินทางครั้งแรกของ เรือเดินสมุทรพลังงานลมลําแรกของโลก

Logo

ผลการวิจัยเผยให้เห็นการประหยัดเชื้อเพลิงอย่างมีนัยสําคัญ โดยเน้นย้ำถึงศักยภาพในการขับเคลื่อนด้วยลม เพื่อสนับสนุนความพยายามในการลดคาร์บอนของอุตสาหกรรมการขนส่งทางเรือ

เจนีวา–(BUSINESS WIRE)–13 มีนาคม 2024

วันนี้ Cargill เปิดเผยผลลัพธ์ที่น่าตื่นเต้นของการทดสอบ Pyxis Ocean ในระยะเวลา 6 เดือน โดยเน้นย้ำถึงศักยภาพของเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยลมในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการขนส่งทางเรือไปสู่การใช้พลังงานหมุนเวียน เรือ MC Shipping Kamsarmax ที่ได้ปรับปรุงใหม่ด้วยการติดตั้ง WindWings® สองใบ – ใบเรือลมแข็งขนาดใหญ่ที่พัฒนาโดย BAR Technologies – – ได้รับประสิทธิภาพที่สอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเทียบเท่ากับเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย 3 ตันต่อวัน

Pyxis Ocean sailing through the English Channel from Spain to Amsterdam, March 2024 (Photo: Business Wire)

เรือบรรทุกสินค้า Pyxis Ocean เดินเรือจากสเปนไปยังอัมสเตอร์ดัมผ่านช่องแคบอังกฤษ เดือนมีนาคม 2024

“เราได้รับกำลังใจจากผลลัพธ์ที่ได้ และได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับการนำระบบขับเคลื่อนที่ใช้แรงลม มาใช้กับเรือสินค้าเทกองแห้ง” Jan Dieleman ประธานธุรกิจการขนส่งทางทะเลของ Cargill กล่าว “เราไม่สามารถทําสิ่งนี้ได้โดยลําพัง – BAR Technologies และ MC Shipping เป็นพันธมิตรที่ยอดเยี่ยมในการทําให้ Pyxis Ocean เป็นจริง เช่นเดียวกับกัปตันและลูกเรือ เราเป็นผู้นําของการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมการขนส่งทางเรือ และเชื่อว่าเทคโนโลยีที่ควบคุมพลังงานลมอาจเป็นวิธีที่สําคัญและคุ้มค่า ในการบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอนในระยะสั้น กลาง และระยะยาว”

Pyxis Ocean เข้าสู่น่านน้ำเปิดในเดือนสิงหาคมปี 2023 และในช่วงหกเดือนแรกของการทดสอบ ได้แล่นไปในมหาสมุทรอินเดีย มหาสมุทรแปซิฟิก แอตแลนติกเหนือและใต้ และผ่านแหลมฮอร์นและแหลมกู๊ดโฮป เรือได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยการติดตั้ง WindWings® สองใบ ซึ่งมีความสูง 37.5 เมตรและมีลักษณะคล้ายปีกเครื่องบินขนาดใหญ่ ปีกถูกติดตั้งในแนวตั้งเพื่อรับลมและขับเคลื่อนเรือไปข้างหน้า ทําให้เครื่องยนต์ของเรือดับลง เพื่อให้เรือสามารถเดินทางด้วยความเร็วเท่ากับเรือทั่วไปโดยใช้เชื้อเพลิงน้อยกว่า ปีกถูกควบคุมโดยแผงสัมผัสบนสะพาน ระบบสัญญาณไฟจราจรแบบเรียบง่ายจะบอกลูกเรือว่าเมื่อใดควรยกหรือลดใบเรือ เมื่อยกขึ้นแล้วการทํางานจะเป็นไปโดยอัตโนมัติอย่างสมบูรณ์: เซ็นเซอร์บนเรือจะตรวจวัดลมอย่างต่อเนื่อง และใบเรือจะปรับตัวเองเพื่อให้ได้การกําหนดค่าที่เหมาะสมที่สุด

การขับเคลื่อนด้วยแรงลมมีศักยภาพที่จะเป็นวิธีที่ประหยัดต้นทุนในการสนับสนุนกลยุทธ์ลดก๊าซเรือนกระจกใหม่ขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) หนึ่งในเป้าหมายของ IMO 2030 คือการมีพลังงานที่มาจากแหล่งคาร์บอนที่ต่ำมากให้ได้ 5 เปอร์เซ็นต์ โดยมุ่งมั่นให้ได้ 10 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2030: การขับเคลื่อนด้วยลมอาจเป็นวิธีสําคัญในการบรรลุเป้าหมายนี้

การเดินทางในช่วงแรกได้ให้ข้อมูลเชิงลึกมากกว่าแค่การใช้ใบเรือบนเรือเท่านั้น แต่ยังเน้นย้ำถึงความท้าทายด้านลอจิสติกส์ที่กว้างขึ้นในระบบการเดินเรือทั่วโลก เนื่องจากท่าเรือ ท่าเทียบเรือ และท่าเทียบเรือทุกแห่งมีความแตกต่างกัน การมีส่วนร่วมของท่าเรือเหล่านี้จึงมีความสําคัญอย่างยิ่งต่อการบูรณาการเทคโนโลยี Wind Assisted Propulsion (WAP) เข้ากับระบบการเดินเรือทั่วโลกในวงกว้าง

John Cooper ซีอีโอของ BAR Technologies กล่าวเสริมว่า “ผลลัพธ์ของการเดินทางครั้งแรกของ Pyxis Ocean ที่ติดตั้ง WindWings® แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการขับเคลื่อนด้วยลมสามารถประหยัดเชื้อเพลิง และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมาก ตัวอย่างเช่น ในสภาวะการเดินเรือที่เหมาะสมที่สุด ในระหว่างการเดินทางในทะเลเปิด Pyxis Ocean สามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้ 11 ตันต่อวัน และในขณะที่ Pyxis Ocean มี WindWings® สองอันเราคาดว่าเรือ Kamsarmax ส่วนใหญ่จะมีปีกสามปีก ซึ่งจะช่วยประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษได้ถึง 1.5 เท่า ด้วย Cargill ตอนนี้เราสามารถตรวจสอบการคาดการณ์ประสิทธิภาพ และการสร้างแบบจําลองในสภาพการใช้งานจริงได้ ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นเมื่อเราเปิดตัวการผลิต WindWings® ทั่วโลก”

” Cargill กําลังสร้างแนวทางสําหรับเรือ WAP ทั้งหมด ไม่ใช่แค่ Pyxis Ocean เท่านั้น เพื่อปฎิบัติการบนเส้นทางการค้าโลก” Dieleman กล่าว “จนถึงตอนนี้ เราได้ร่วมมือกับท่าเรือมากกว่า 250 แห่ง เพื่อค้นหาวิธีในการทําให้เรือที่มี WAP ขนาดใหญ่เข้าเทียบท่าได้ ความซับซ้อนนี้เป็นจุดที่ Cargill มีความเป็นเลิศอย่างแท้จริง และวิธีที่เราสามารถใช้ประโยชน์จากบทบาทเฉพาะของเราในอุตสาหกรรมการเดินเรือได้ เราไม่กลัวที่จะเป็นพันธมิตรด้านการพัฒนาและลงทุน แบ่งปันความเสี่ยงกับพันธมิตร และสร้างความแตกต่างในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม”

คาร์กิลล์จะดําเนินการทดสอบและทดลองด้านปฏิบัติงาน ด้านเทคนิค และเชิงพาณิชย์ของ Pyxis Ocean ต่อไป เพื่อรวมการเรียนรู้จํานวนสูงสุดเข้ากับการออกแบบศักยภาพของสถานที่ปฎิบัติงานในอนาคตก่อนที่จะขยายขนาด

หมายเหตุถึงบรรณาธิการ:

[1]

  • BAR Technolgies และ Cargill ประมาณการว่าจะช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้โดยเฉลี่ยต่อปีที่ 3 ตันต่อวัน (ซึ่งเท่ากับ 11,2/ตัน/วัน CO2e การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตั้งแต่การผลิตจนจบกระบวนการ ซึ่งเท่ากับประหยัดประมาณ 14 เปอร์เซ็นต์สําหรับ Pyxis Ocean
  • ประสิทธิภาพโดยเฉลี่ยที่วัดได้จนถึงขณะนี้อยู่ภายใน 10% ของการคาดการณ์ โดยใช้การจําลองพลศาสตร์ของไหลเชิงคํานวณ (CFD) โดย BAR Technologies เพื่อประเมินว่าแรงขับเคลื่อนด้วยลมจะทํางานได้ดีเพียงใดบนเส้นทางของ Cargill
  • ในช่วงสภาวะการเดินเรือที่เหมาะสม Pyxis Ocean สามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้มากกว่า 11 ตัน/วัน ซึ่งแปลว่าปล่อย CO2e น้อยลงถึง 41 ตัน/วัน ตั้งแต่การผลิตจนจบกระบวนการ หรือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 37%
  • ค่าเฉลี่ย CO2e ที่11.2 ตัน/วัน ข้างต้นอยู่ที่ประมาณ 2650CO2e/ปี (11.2 ตัน x 237 วันเดินเรือโดยเฉลี่ยต่อปี = 2650 ตัน ตั้งแต่การผลิตจนจบกระบวนการ) ซึ่งเทียบเท่ากับการนํารถยนต์ 480 คันออกจากถนน (อ้างอิง: การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากรถยนต์โดยสารทั่วไป | EPA ของสหรัฐอเมริกา)
  • Cargill และ MC Shipping ได้ว่าจ้าง DNV ในฐานะบุคคลที่สามที่เป็นอิสระ เพื่อทบทวนผล และทวนสอบผลการคํานวณการประหยัดเชื้อเพลิง

เกี่ยวกับ WindWings

  • Cargill เป็นคนแรกที่ติดตั้ง “WindWings” ใบเรือปีกแข็งขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นเปอร์เซ็นต์เป็นตัวเลขสองหลัก
  • การทํางานร่วมกับพันธมิตร BAR Technologies Cargill ได้ติดตั้ง WindWings บนเรือ Kamsarmax Pyxis Ocean ซึ่งเราเช่าเหมาลําจาก MC Shipping
  • การติดตั้งเสร็จสิ้นที่ COSCO ในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนในปี 2023
  • ปัจจุบัน Pyxis Ocean เป็น Kamsarmax ที่ประหยัดพลังงานมากที่สุดในกองเรือเช่าเหมาลําของ Cargill
  • Pyxis Ocean จะถูกนำมาใช้เพื่อแจ้งถึงศักยภาพในการขยายขนาดการติดตามยานพาหนะและอุตสาหกรรม Cargill วางแผนที่จะเรียนรู้วิธีการปรับปรุงการออกแบบ การปฎิบัติงาน และประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
  • โครงการ WindWing เป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ได้รับเงินทุนจากโครงการวิจัยและนวัตกรรม Horizon 2020 ของสหภาพยุโรปภายใต้ข้อตกลงการให้ทุนหมายเลข 955286

เกี่ยวกับ Cargill Ocean Transportation

Cargill Ocean Transportation เป็นองค์กรการค้าการขนส่งสินค้าชั้นนําที่เช่าเหมาลําเรือประมาณ 650 ลําทั่วโลกในคราวเดียว ก่อตั้งขึ้นในปี 1956 ในเจนีวา เราได้รับประโยชน์จากมรดกอันยาวนานและความสามารถของผู้เชี่ยวชาญในการดําเนินงานทั่วโลกของคาร์กิลล์ ในด้านการค้าอาหาร การเกษตร และสินค้าโภคภัณฑ์ ลูกค้าของเรารวมถึงบริษัทอื่น ๆ ตลอดจนธุรกิจภายในของ Cargill ถือเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งที่เราทํา เราให้บริการที่ผสมผสานเทคโนโลยีดิจิทัลล่าสุดเข้ากับโซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อทำให้การขนส่งปลอดภัยและยั่งยืนยิ่งขึ้น

เกี่ยวกับ Cargill

Cargill มุ่งมั่นที่จะจัดหาอาหาร ส่วนผสม โซลูชั่นทางการเกษตร และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เพื่อหล่อเลี้ยงโลกด้วยวิธีที่ปลอดภัย มีความรับผิดชอบ และยั่งยืน ในฐานะหัวใจสำคัญของห่วงโซ่อุปทาน เราร่วมมือกับเกษตรกรและลูกค้าในการจัดหา ผลิต และส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีความสําคัญต่อการดํารงชีวิต

สมาชิกในทีม 160,000 คนของเราสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อย่างมีจุดมุ่งหมาย โดยมอบสิ่งจําเป็นในชีวิตให้กับลูกค้า เพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโต ชุมชนเจริญรุ่งเรือง และผู้บริโภคมีชีวิตที่ดี ด้วยประสบการณ์ 159 ปีในฐานะบริษัทครอบครัว เรามองไปข้างหน้าในขณะที่ยังคงยึดมั่นในค่านิยมของเรา เราให้ความสําคัญกับผู้คนเป็นอันดับแรก เราไปถึงที่สูงขึ้น เราทําในสิ่งที่ถูกต้อง—ในวันนี้และสําหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ Cargill.com และศูนย์ข่าวของเรา

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53907921/en

Contacts

Nicole Marlor
media@cargill.com

ที่มา: Cargill




Epicor ฉลองความสำเร็จของพันธมิตรด้วยรางวัล International Partner Excellence Awards ประจำปี 2024

Logo

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–12 มีนาคม 2024

Epicor ผู้นำระดับโลกด้านซอฟต์แวร์สำหรับองค์กรในกลุ่มอุตสาหกรรมเฉพาะเพื่อการส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจ ได้แสดงความยินดีกับบรรดาผู้ชนะรางวัล International Partner Excellence Awards ในงานประชุมสัมมนา Momentum Partner Conference ประจำปีของบริษัทที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

รางวัลในงานนี้แสดงถึงความสำเร็จของพันธมิตรช่องทางการขายต่างประเทศ โดยให้การยกย่องพันธมิตรที่สามารถยกระดับคุณค่าที่มอบให้แก่ลูกค้า รวมถึงความมุ่งมั่นทุ่มเทที่จะสร้างการเติบโตให้ธุรกิจของ Epicor ได้อย่างน่าประทับใจ

“พันธมิตรช่องทางการขายของ Epicor ทั่วทั้งภูมิภาคของเรายกระดับประสบการณ์ให้ลูกค้าและช่วยเหลือองค์กรต่าง ๆ ในระบบเศรษฐกิจที่ประกอบด้วยการผลิต การเคลื่อนย้าย และการขาย ให้สามารถเดินหน้าไปบนเส้นทางการเปลี่ยนเข้าสู่ยุคดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตและความสำเร็จ” Paul Flannery รองประธานฝ่ายช่องทางขายต่างประเทศของ Epicor กล่าว “เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้แสดงการยกย่องแก่พันธมิตรของเราส่วนหนึ่งที่มีผลงานโดดเด่นและเป็นนวัตกรรมใหม่ในการให้บริการลูกค้าที่เรามีร่วมกัน”

ผู้ที่ได้รับรางวัลในปีนี้มีดังต่อไปนี้

  • รางวัลด้านผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม (Industry Specialist Award)Data World Solutions Limited สร้างผลลัพธ์ที่โดดเด่นให้ลูกค้าโดยมุ่งเน้นการพัฒนาความเชี่ยวชาญและแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตของเล่น พลาสติก และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พร้อมทั้งจัดหาโซลูชันให้ลูกค้าระดับแนวหน้าของตลาดหลายราย
  • รางวัลด้านการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ (Business Transformation Award)MIB Company Limited ได้รับการยกย่องจากการให้ความสำคัญกับแนวทาง “แหล่งข้อมูลจริงเพียงแห่งเดียว” (Single Source of Truth) และการนำแนวทางนี้มาใช้งานจริงกับลูกค้ารายหนึ่ง เพื่อให้ลูกค้ามีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ และสามารถดำเนินการ ตลอดจนหาโอกาสลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศได้
  • รางวัลด้านการเปลี่ยนไปใช้ระบบคลาวด์ (Cloud Transformation Award)Mindbox S.A. ช่วยให้ลูกค้าในอุตสาหกรรมการผลิตสามารถเปลี่ยนไปใช้ระบบคลาวด์ได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยกำหนดแนวทางปฏิบัติและกระบวนการต่าง ๆ ขึ้นมาใหม่เพื่อใช้ประโยชน์จาก Epicor Kinetic จนกระทั่งช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จในกระบวนการเปลี่ยนไปใช้ระบบคลาวด์ได้ทั่วโลก
  • รางวัลดาวรุ่งดวงใหม่ (Rising Star Award)ตัวแทนจากทั้ง Grand Target และ Inycom ได้รับรางวัลดาวรุ่งดวงใหม่ โดยแต่ละรายได้ทุ่มลงทุนกับหน่วยงานฝ่ายขายและการตลาดของตนเอง ตลอดจนการนำบริการมาใช้งานจริง แสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพจากการใช้ Epicor Kinetic
  • รางวัลพันธมิตรช่องทางการขายต่างประเทศแห่งปี (International Partner of the Year Award)Precise เดินหน้าทำผลงานสร้างความยั่งยืนในทุก ๆ ปี โดยรวมถึงการเพิ่มยอดขายพ่วง การส่งเสริมการใช้โมเดลระบบคลาวด์ทั้งภายในธุรกิจของตนเองและกับฐานลูกค้า และการสร้างกระแสเงินรายงวดให้แข็งแกร่งเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต

Andy Coussins รองกรรมการผู้จัดการต่างประเทศของ Epicor กล่าวปิดท้ายว่า “เรามีผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลที่เก่งกาจกันมาก ๆ และแนวคิดหลักก็คือว่าพันธมิตรช่องทางการขายต่างประเทศของเราหาวิธีมอบประสบการณ์และผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีที่สุดให้ลูกค้าของตนเองอย่างไร ขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะรางวัลมากความสามารถของเราทุกราย การมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันจากผู้ชนะรางวัลเหล่านี้ทำให้เราสามารถให้การสนับสนุนลูกค้าในอุตสาหกรรมการผลิต การเคลื่อนย้าย และการขายของเราได้อย่างต่อเนื่อง”

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชุมชนพันธมิตรของ Epicor ได้โดยเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

เกี่ยวกับ Epicor

Epicor จัดหาโซลูชันขับเคลื่อนโลกสำหรับองค์กรให้แก่บรรดาธุรกิจที่มุ่งมั่นทำงานอย่างแข็งขัน ลูกค้าของ Epicor ในอุตสาหกรรมยานยนต์ วัสดุก่อสร้าง การจัดจำหน่าย การผลิต และการค้าปลีก ล้วนวางใจให้ Epicor ช่วยปรับปรุงการทำธุรกิจให้ดียิ่งขึ้นมาเป็นเวลา 50 ปีแล้ว ชุดโซลูชันล้ำสมัยของ Epicor ได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดีเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้า อีกทั้งยังออกแบบมาให้สามารถรับมือกับการใช้งานจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่งได้อย่างยืดหยุ่น Epicor มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่ละเอียดลึกซึ้ง จึงช่วยลูกค้าขับเคลื่อนสู่เป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าลูกค้าจะต้องการสร้างการเติบโตหรือการเปลี่ยนแปลง หรือเพียงต้องการให้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลเพิ่มขึ้นก็ตาม ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้โดยไปที่ www.epicor.com

Epicor และโลโก้ Epicor เป็นเครื่องหมายการค้าของ Epicor Software Corporation ซึ่งจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ เครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ที่อ้างถึงนั้นถือเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีจำหน่ายซึ่งได้บรรยายไว้ในเอกสารนี้ผลิตขึ้นโดย Epicor Software Corporation ทั้งนี้ จะไม่มีการรับประกันผลลัพธ์ และประสบการณ์ของผู้ใช้แต่ละคนจะแตกต่างกันไป

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Charlotte Stretton
หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ต่างประเทศ
Charlotte.stretton@epicor.com
+44 (0) 1344 468261

Epicor เฉลิมฉลอง 30 ปีแห่งการขับเคลื่อนนวัตกรรมและความสำเร็จของลูกค้าทั่วเอเชียที่งาน Asia Connect ประจำปี

Logo

กรุงเทพฯ –(BUSINESS WIRE)–11 มีนาคม 2024

Epicor ซึ่งเป็นผู้นำซอฟต์แวร์ระดับองค์กรระดับโลกเฉพาะอุตสาหกรรม (global industry-specific enterprise software leader) ได้เฉลิมฉลองความสำเร็จอย่างมากมายในงาน Asia Connect ซึ่งเป็นงานฉลองสำหรับลูกค้าประปีของบริษัท โดยจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ประเทศไทยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา งานดังกล่าวยังถือเป็นวาระครบรอบ 30 ปีของการดำเนินงานของ Epicor ทั่วเอเชียเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแสดงให้เห็นว่า Epicor ได้สนับสนุนลูกค้าและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมในการขับเคลื่อนการเติบโตและความสำเร็จในการดำเนินงานอย่างไรบ้างอีกด้วย

คุณ Vincent Tang รองประธานฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียของEpicor กล่าวว่า “เราไม่ต้องการปล่อยให้ช่วงเวลาสำคัญนี้ผ่านไป และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความมุ่งมั่นและความภักดีของเราต่อภูมิภาคหลักนี้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลยังคงเติบโตทั่วเอเชีย เราจะสนับสนุนลูกค้าของเราด้วยการแนะนำโครงการริเริ่มด้าน AI และการปรับปรุงอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อสร้างการเชื่อมต่อทางดิจิทัลเพื่อให้ทำงานได้ดีขึ้น เรามีความกระตือรือร้นในการให้ความรู้และดึงดูดคนหนุ่มสาวเข้าสู่อุตสาหกรรมการผลิต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้พวกเขามีรากฐานดิจิทัลที่ขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจการผลิต การเคลื่อนย้าย และการขาย”

Epicor มองเห็นการเติบโตของ SaaS อย่างมีนัยสำคัญในช่วงสามปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการนำระบบคลาวด์มาใช้เพิ่มขึ้นทั่วเอเชีย โดยธุรกิจในภูมิภาคจำนวนมากปรับใช้หรือโยกย้ายไปยัง Epicor Kinetic ในระบบคลาวด์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นตามวัตถุประสงค์เฉพาะและปรับขนาดได้ ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิตแข่งขันได้ดีขึ้นและทำให้ธุรกิจของพวกเขาเติบโต

คุณ Andy Coussins รองประธานบริหารฝ่ายต่างประเทศของ Epicor กล่าวถึงความสำเร็จของบริษัท โดยให้ความเห็นว่า “ประสิทธิภาพที่โดดเด่นในด้านการเติบโตของระบบคลาวด์เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงทีมงาน Epicor ในพื้นที่ ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการช่วยให้ลูกค้าเปลี่ยนไปใช้ SaaS และช่วยเหลือพวกเขาในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล การเดินทางไม่ควรมองข้าม เรามีความก้าวหน้าอย่างมากในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาในการขยายการดำเนินงานระดับภูมิภาคของเรา ดื่มด่ำไปกับตลาด อุตสาหกรรม และสินค้าเฉพาะทางในท้องถิ่น และขับเคลื่อนการลงทุนที่สำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าของเราจะได้รับประสบการณ์ระดับชี่นหนึ่ง เราหวังว่าจะสานต่อแรงผลักดันนี้ต่อไปในภูมิภาคที่สำคัญนี้”

งานดังกล่าวเป็นการยกย่องนวัตกรรมและความเป็นเลิศของลูกค้าสำหรับผู้ที่เป็นเลิศในการใช้ประโยชน์จากโซลูชันของ Epicor เพื่อเปลี่ยนแปลงและเร่งความทะเยอทะยานทางธุรกิจของตน

ผู้ชนะรางวัล Epicor Champion Award ได้แก่:

ชนะเลิศด้านการผลิตEssons Global Industrial Company มีข้อจำกัดด้านการมองเห็นที่พื้นของโรงงาน และต้องพึ่งพาการรวบรวมและป้อนข้อมูลด้วยตนเอง ด้วยการใช้ Epicor Kinetic และ MES Essons ทำให้กระบวนการลดลงจาก 20 – 25 วัน เหลือเพียง 3 – 5 วันเท่านั้น และยังลดความล่าช้าในการปฏิบัติงานลงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ฝ่ายบริหารมีอิสระในการมุ่งเน้นเป้าหมายเชิงกลยุทธ์มากขึ้น

ชนะเลิศด้านนวัตกรรมThong Guan Industries Berhad เป็นลูกค้าของ Epicor มาตั้งแต่ปี 2015 โดยใช้ประโยชน์จาก Epicor ทั่วทั้งองค์กร ซึ่งรวมถึงฝ่ายปฏิบัติการ การเงิน ฝ่ายผลิต และการจัดการคลังสินค้า ด้วยการใช้ Epicor Kinetic พวกเขากำลังก้าวไปสู่ความคิดริเริ่ม Net Zero และติดตามการใช้วัสดุในการผลิตอย่างใกล้ชิด แนวทางเชิงกลยุทธ์นี้ช่วยลดขยะพลาสติกได้อย่างมากโดยการลดปริมาณสินค้าและวัสดุที่เสียหายเมื่อมาถึงให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งนำไปสู่แนวทางการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนมากขึ้นสำหรับลูกค้า

ชนะเลิศด้านโครงการKenny Tang จาก Volex ได้รับการยอมรับจากความยืดหยุ่นและแรงผลักดันในความก้าวหน้าของโครงการ Kenny ช่วยนำระบบปฏิบัติการเจนเนอเรชั่นใหม่ทั่วโลกมาใช้ โดยดูแลการใช้งาน Epicor ในโรงงานสามแห่งในประเทศจีน โดยมีการวางแผนการใช้งานเพิ่มเติมอีก 10 รายการในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ชนะเลิศด้านผู้บริหาร: ทีมNTN Medical ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Herbert Thailand Group ได้พัฒนาจากการประชุมเชิงปฏิบัติการขนาดเล็กไปสู่ผู้เล่นระดับโลกที่ใช้ Epicor Kinetic ในระบบคลาวด์เพื่อมุ่งเน้นธุรกิจของตนได้ดียิ่งขึ้น บริษัทมีความก้าวหน้าอย่างมากในด้านระบบอัตโนมัติ เพิ่มความคล่องตัวในการทำธุรกรรมระหว่างบริษัท และช่วยให้ประหยัดทางการเงินได้อย่างมาก

เกี่ยวกับ Epicor

Epicor จัดเตรียมโซลูชันระดับองค์กรให้กับธุรกิจที่ทำงานหนักเพื่อให้โลกเปลี่ยนแปลงไป เป็นเวลากว่า 50 ปีที่ลูกค้าของ Epicor ในอุตสาหกรรมยานยนต์ การจัดหาอาคาร การจัดจำหน่าย การผลิต และการค้าปลีกไว้วางใจให้ Epicor ช่วยให้พวกเขาทำธุรกิจได้ดีขึ้น ชุดโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมของ Epicor ได้รับการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้า และสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความเป็นจริงที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอย่างยืดหยุ่น ด้วยความรู้และประสบการณ์เชิงลึกในอุตสาหกรรม Epicor ช่วยเร่งความทะเยอทะยานของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตและเปลี่ยนแปลง หรือเพียงแค่มีประสิทธิผลและประสิทธิผลมากขึ้นเท่านั้น

เยี่ยมชม www.epicor.com เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

Epicor และโลโก้ Epicor เป็นเครื่องหมายการค้าของ Epicor Software Corporation ซึ่งจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ เครื่องหมายการค้าอื่นๆ ที่อ้างถึงเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง ผลิตภัณฑ์และบริการที่นำเสนอในเอกสารนี้จัดทำโดย Epicor Software Corporation ไม่รับประกันผลลัพธ์ และประสบการณ์ของผู้ใช้แต่ละคนจะแตกต่างกันไป

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อสื่อมวลชน:
Charlotte Stretton
หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
Charlotte.stretton@epicor.com

LAVA เปิดตัวแพลตฟอร์มตลาดสินเชื่อแบบกระจายศูนย์เพื่อลดการขาดทุนชั่วคราว

Logo

การเปิดตัวแพลตฟอร์มเพื่อสนับสนุนผู้ให้บริการสภาพคล่องผ่านการค้ำประกันและการให้ยืมสถานะสภาพคล่อง

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–7 มีนาคม 2024

LAVA ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มตลาดสินเชื่อแบบกระจายศูนย์ ได้ประกาศเปิดตัวบริการเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ให้บริการสภาพคล่องและอำนวยความสะดวกในตลาดที่เป็นเชิงลึกมากขึ้น LAVA ที่ได้รับการลงทุนจากกลุ่มสินทรัพย์ดิจิทัลของ Recharge Capital ซึ่งเป็นบริษัทการลงทุนชั้นนำที่เน้นเฉพาะการลงทุนแบบธีมนั้น ได้เปิดใช้งานโครงสร้างพื้นฐานสำหรับสถานะสภาพคล่องของผู้ดูแลสภาพคล่องแบบอัตโนมัติ (AMM) เพื่อลดการขาดทุนชั่วคราว และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับสภาพคล่องในเครือข่ายบล็อกเชนหลากหลายเครือข่าย

LAVA เป็นแพลตฟอร์มระดับโลกแพลตฟอร์มแรกที่แก้ไขปัญหาการขาดทุนชั่วคราวในการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) โดยเปิดให้ใช้งานการเก็งกำไรแบบข้ามอัตราการสร้างตลาดต่างๆ ผ่านการค้ำประกันและการให้ยืมสถานะสภาพคล่อง โครงสร้างพื้นฐานหลักของแพลตฟอร์มช่วยให้ผู้ยืมสามารถเก็งกำไรจากอัตราการจัดเตรียมสภาพคล่องระหว่าง DeFi กับการเงินแบบรวมศูนย์ (CeFi) เพื่อหาอัตราตลาดที่มีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็ทำให้การเพิ่มประสิทธิภาพผลตอบแทนสำหรับผู้ให้บริการสภาพคล่องเชิงรับกลายเป็นสิ่งที่ง่ายขึ้น

“การขาดทุนชั่วคราวยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับนักลงทุนในการจัดหาสภาพคล่อง และสร้างความไม่สมดุลทางความเสี่ยงอันรุนแรงที่เกิดจากความผันผวนของการประเมินมูลค่าในตลาดคริปโตเคอร์เร็นซี” John Lo (หรือที่รู้จักกันในชื่อ Omakase ซึ่งเดิมชื่อ SushiSwap) หุ้นส่วนผู้จัดการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่ Recharge Capital รวมทั้งเป็นผู้ก่อตั้ง Omakase Labs และที่ปรึกษา LAVA กล่าว “แพลตฟอร์มดังกล่าวช่วยให้ผู้ให้บริการสภาพคล่องเชิงรับสามารถจับอัตราการปรับความเสี่ยงแบบออนเชนที่เหมาะสมที่สุดได้ การเก็งกำไรที่ซับซ้อนด้วย LAVA ในตอนนี้กลายเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ให้บริการสภาพคล่อง แทนที่จะให้โทษ”

เมื่อครั้งที่ LAVA เปิดตัว ทางแพลตฟอร์มยังได้เปิดตัวเครื่องมือ Zap-In เพื่อช่วยให้สามารถจัดการสภาพคล่องได้อย่างเหมาะสมที่สุด รวมถึงเครื่องมือโอนย้ายรูปแบบใหม่เพื่อให้สามารถโอนหลักประกันและหนี้ที่มีอยู่จากตลาดสินเชื่ออื่นได้ “ในอดีต สถานะการให้กู้ยืมเป็นสิ่งที่โอนย้ายจากโปรโตคอลหนึ่งไปยังอีกโปรโตคอลหนึ่งได้ยาก” Lo กล่าว “แต่ในตอนนี้ ผู้ใช้สามารถดำเนินการนี้ได้ผ่านขั้นตอนการคลิกสองครั้งง่ายๆ ซึ่งนำไปสู่กระบวนทัศน์ใหม่ๆ สำหรับการกู้ยืมแบบออนเชนที่มีประสิทธิภาพ”

“ทีมงาน LAVA ได้สร้างโซลูชันที่สำคัญเพื่อจัดการกับหนึ่งในอุปสรรคอันจีรังยั่งยืนของนักลงทุนในการเงินแบบกระจายศูนย์” Lo กล่าว “การเปิดตัวโปรโตคอลได้ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งให้กับนักลงทุนในระบบนิเวศ DeFi และเราภูมิใจมากที่ได้สนับสนุนภารกิจในการเอื้อให้เกิดประชาธิปไตยทางการเงินผ่านสภาพคล่องแบบออนเชนที่โปร่งใส โดยผละออกจากระบบการสร้างตลาดแบบออฟเชนที่คลุมเครือ”

LAVA ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มแบบมัลติเชน และปัจจุบันมีให้บริการบน Arbitrum และ Base โดยโปรโตคอลมีแผนที่จะเพิ่มฟังก์ชันการทำงานด้วยบล็อกเชนเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้นี้ และนำแอปพลิเคชันโทเค็นมาใช้งานเพื่อกระตุ้นการเติบโตในตลาดสินเชื่อ

เกี่ยวกับ LAVA

LAVA เป็นแพลตฟอร์มตลาดสินเชื่อแบบกระจายศูนย์ที่มุ่งเน้นไปที่การบรรเทาการขาดทุนชั่วคราว และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับสภาพคล่องในเครือข่ายบล็อกเชนหลากหลายแห่ง โดยตั้งอยู่ในฮ่องกง ยุโรป และสิงคโปร์ ภารกิจของโปรโตคอลคือการจัดการกับอุปสรรคที่จีรังยั่งยืนของผู้ให้บริการสภาพคล่องในการเงินแบบกระจายศูนย์ผ่านการดำเนินการแบบออนเชนที่โปร่งใสและเป็นประชาธิปไตย

เกี่ยวกับ Recharge Capital

Recharge Capital เป็นบริษัทการลงทุนชั้นนำที่เน้นเฉพาะการลงทุนแบบธีมของเอกชนที่มุ่งเน้นไปที่การขับเคลื่อนนวัตกรรม รวมถึงสร้างผลกระทบในภาคส่วนและกลยุทธ์ต่างๆ บริษัทใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญและความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในการลงทุน ขยายขนาด และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอผ่านธีมหลักของสินทรัพย์ดิจิทัล การดูแลสุขภาพของผู้หญิง โครงสร้างพื้นฐานฟินเทค การเปิดใช้งานเซมิคอนดักเตอร์ และชีววิทยาสังเคราะห์ Recharge Capital ดำเนินงานจากสำนักงานในนิวยอร์กและสิงคโปร์ และทำหน้าที่เป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในภูมิทัศน์การลงทุนทั่วโลก หากต้องการรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Recharge Capital และโครงการริเริ่มระดับโลกของบริษัท โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราที่ www.rechargecapital.com หรือติดต่อสำนักงานข่าวสารของเราที่ media@rechargecapital.com

เนื้อหาใจความในภาษาตน้ ฉบับของขา่ วประชาสัมพันธฉ์ บับนี้เป็นฉบับทเี่ ชอื่ ถอื ไดแ้ละเป็นทางการ การแปลต ้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออ านวยความสะดวกเท่านั้น และควรน าไปเทียบเคียงอ ้างอิง กับเนื้อหาในภาษาต ้นฉบับ ซงึ่ เป็นฉบับเดยี วทมี่ ผี ลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

ด้านสื่อต่างๆ
Recharge Capital
John Lo
omakase@rechargecapital.com

แหล่งข้อมูล: Recharge Capital

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53906725/en

Xsolla เปิดตัว Xsolla Wallet เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับนักพัฒนาและครีเอเตอร์ พร้อมสามารถเข้าถึงโซลูชันทางการเงินแบบฝังในตัวและรับรายได้ในทันที

Logo

ขอแนะนำยุคใหม่ของเครื่องมือที่เรียบง่ายและยืดหยุ่นสำหรับการสร้างรายได้และรับเงินทั่วทั้งระบบเศรษฐกิจสำหรับครีเอเตอร์

LOS ANGELES–(BUSINESS WIRE)–7 มีนาคม 2024

Xsolla บริษัทจำหน่ายวิดีโอเกมระดับโลก ประกาศเปิดตัว Xsolla Wallet โดยมุ่งเน้นความมุ่งมั่นในการเพิ่มศักยภาพให้กับเศรษฐกิจสำหรับครีเอเตอร์ทั่วโลกภายในอุตสาหกรรมวิดีโอเกม โดยภารกิจของเราคือ การเข้าถึงที่เท่าเทียมกันสำหรับนักพัฒนา ครีเอเตอร์ และทุกคนในระบบเศรษฐกิจของครีเอเตอร์ด้วยโซลูชันทางการเงินแบบฝังในตัวสำหรับอุตสาหกรรมวิดีโอเกม

(Graphic: Xsolla)

(กราฟิก: Xsolla)

Xsolla Wallet เป็นโซลูชันที่พลิกเกมที่นำเสนอตัวเลือกทางการเงินแบบฝังในตัวที่มีการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับนักพัฒนาและครีเอเตอร์ โครงการริเริ่มนี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเอาชนะความท้าทายในการสร้างรายได้และการมีส่วนร่วม รวมถึงลดความซับซ้อนในกระบวนการนำเสนอแรงจูงใจสำหรับครีเอเตอร์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความฉับไวในรายได้และการใช้จ่าย ขณะเดียวกัน ก็มีการรับประกันการปฏิบัติตามข้อกำหนดระดับโลกด้วยเช่นกัน

ด้วยการตระหนักถึงความซับซ้อนในการจัดการโปรแกรมครีเอเตอร์ระดับโลกที่ประสบความสำเร็จ Xsolla จะช่วยบรรเทาปัญหาเหล่านี้ได้ และช่วยให้นักพัฒนาสามารถโฟกัสในสิ่งที่พวกเขาทำได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ การสร้างประสบการณ์การเล่นเกมที่น่าดึงดูดใจ

สำหรับนักพัฒนา: Xsolla Wallet จะช่วยลดความยุ่งยากในการเข้าถึงบริการทางการเงินแบบฝังในตัว และเพิ่มความคล่องตัวในการเริ่มต้นใช้งานและการปฏิบัติตามกฏระเบียบ โดยมีการผสานรวมประเด็นสำคัญเหล่านี้ไว้ในบัญชีเป๋าตังค์ของครีเอเตอร์

  • ลดความซับซ้อนในแรงจูงใจสำหรับครีเอเตอร์: มีการปรับแต่ง Xsolla Wallet เพื่อลดความซับซ้อนในการจัดการโปรแกรมสำหรับครีเอเตอร์ และช่วยให้มั่นใจได้ว่า นักพัฒนาสามารถสร้างรายได้ที่น่าดึงดูดใจและเป็นไปตามข้อกำหนดสำหรับครีเอเตอร์ในภูมิภาคต่างๆ
  • ลดภาระในการปฏิบัติตามข้อกำหนด: ด้วย KYC (Know Your Customer) แบบผสานรวมและบริการด้านภาษี Xsolla Wallet สามารถช่วยลดความซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามข้อกำหนดทั่วโลกได้อย่างมาก และช่วยให้นักพัฒนาสามารถโฟกัสในนวัตกรรมมากกว่างานด้านการจัดการดูแล
  • ขยายและขับเคลื่อนอิทธิพลด้วยการใช้ประโยชน์จากการเข้าถึงที่ครอบคลุมของระบบนิเวศสำหรับเกม Xsolla นักพัฒนาสามารถใช้ Xsolla Partner Network (XPN) เพื่อดึงดูด จัดการ และจูงใจครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์

สำหรับครีเอเตอร์: Xsolla Wallet ช่วยเสริมศักยภาพให้กับครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ในการชำระเงิน รับเงิน และจัดการรายได้ โดยแปลงเนื้อหาให้เป็นแหล่งรายได้ที่มีศักยภาพ

  • ชำระเงิน: ครีเอเตอร์จะมีสามารถใช้เงินได้โดยตรง ทันที และสะดวก โดยการใช้ Xsolla Mastercard
  • รับเงินครีเอเตอร์สามารถเลือก Xsolla Mastercard แบบเสมือนได้ทันที ท่ามกลางตัวเลือกการจ่ายเงินอื่นๆ เพื่อให้สามารถเข้าถึงเงินที่ได้รับอย่างง่ายดายและทันที
  • จัดการรายได้ครีเอเตอร์สามารถรวบรวมรายได้จากแพลตฟอร์มได้อย่างง่ายดาย นั่นหมายถึง ครีเอเตอร์สามารถจัดการแหล่งรายได้ที่หลากหลาย ตั้งแต่การจำหน่ายสินค้า ไปจนถึงการระดมทุนใน Xsolla Wallet

“ด้วยการรวบรวมผู้เชี่ยวชาญของเราและฟังก์ชันทางการเงินแบบฝังในตัวของ Xsolla Wallet ช่วยให้เราสามารถรวมนักพัฒนาและครีเอเตอร์เข้าด้วยกันในระบบนิเวศทางการเงินที่ไม่มีใครเทียบได้ ซึ่งออกแบบมาเฉพาะสำหรับวิดีโอเกม” David Stelzer ประธานของ Xsolla อธิบาย “เรามุ่งมั่นที่จะมอบโอกาสที่เท่าเทียมกันสำหรับนักพัฒนา ครีเอเตอร์ และอินฟลูเอนเซอร์ทุกคนในการเข้าถึงวิธีการสร้างรายได้จากงานของพวกเขาในระบบเศรษฐกิจของครีเอเตอร์ทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย”

“ในฐานะผู้สนับสนุนชุมชนวิดีโอเกมมายาวนาน Mastercard มีความตื่นเต้นที่จะได้สานต่อความร่วมมือกับ Xsolla โดยมอบทางเลือกและคุณค่าให้กับครีเอเตอร์และนักพัฒนาด้วยการเปิดตัว Xsolla Mastercard” Sherri Haymond รองประธานฝ่าย Global Digital Partnerships ที่ Mastercard กล่าว “เราร่วมกันเปิดใช้งานตัวเลือกการชำระเงินที่สะดวกสบายและง่ายดาย ซึ่งเป็นการเพิ่มเครื่องมือสำหรับชุดเครื่องมือของนักพัฒนา ช่วยแก้ไขปัญหาความท้าทายสำหรับครีเอเตอร์ และส่งเสริมชุมชนเกมที่ครอบคลุมสำหรับทุกคน”

Xsolla Wallet เป็นองค์ประกอบสำคัญในชุดเครื่องมือใหม่ที่เสริมศักยภาพให้กับนักพัฒนาเกมและครีเอเตอร์ โดยสะท้อนถึงความทุ่มเทของ Xsolla ในการสร้างโซลูชันที่ตอบสนองความต้องการเร่งด่วนของครีเอเตอร์เนื้อหา และส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนและมีประสิทธิผลมากขึ้นสำหรับความสร้างสรรค์ของพวกเขา ผ่านความร่วมมือทางการเงินแบบฝังในตัวพร้อม Paysafe และการ์ดสำหรับความร่วมมือของครีเอเตอร์กับ Mastercard

“เรามีความภูมิใจที่ได้เสริมสร้างความร่วมมือกับ Xsolla เพื่อมอบคุณค่าและเกินความคาดหวังของลูกค้าด้วยโซลูชันการชำระเงินของเรา ซึ่งจะยกระดับประสบการณ์การเล่นและการชำระเงินของนักเล่นเกมทั่วโลก” Aaron Gale รองประธานฝ่ายขายและการจัดการบัญชี วิดีโอเกมของ Paysafe กล่าว “ในทุกประสบการณ์การเล่นเกม จะเริ่มต้นด้วยการชำระเงิน และเรามุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนธุรกรรมเหล่านี้ให้เป็นส่วนหนึ่งในประสบการณ์โดยรวม เพื่อเติมความสนุกและส่งเสริมการมีส่วนร่วมและความภักดีของลูกค้า”

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Xsolla Wallet ได้ที่xsolla.pro/wallet

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทจำหน่ายวิดีโอเกมระดับโลกที่มีชุดเครื่องมือและบริการที่มีความเสถียรและทรงพลังที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรม นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 Xsolla ได้ให้ความช่วยเหลือนักพัฒนาเกมและผู้เผยแพร่ในการระดมทุน ทำการตลาด เปิดตัว และการสร้างรายได้จากเกมของพวกเขาในทุกขนาดและบนหลายแพลตฟอร์ม ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมในการจำหน่ายเกม ภารกิจของ Xsolla คือ การแก้ไขปัญหาความซับซ้อนในธรรมชาติของการจัดจำหน่าย การเปิดตลาด และการสร้างรายได้ทั่วโลก เพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราสามารถเข้าถึงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ได้มากขึ้น สร้างรายได้มากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์กับนักเล่นเกมทั่วโลก มีสำนักงานใหญ่และบริษัทในลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย และมีสำนักงานในลอนดอน เบอร์ลิน กรุงโซล ปักกิ่ง กัวลาลัมเปอร์ โตเกียว และเมืองต่างๆ ทั่วโลก Xsolla รองรับเกมหลักต่างๆ เช่น Valve, Twitch, Roblox, Epic Games, Take-Two, KRAFTON, Nexters, NetEase, Playstudios, Playrix, miHoYo และอื่นๆ อีกมากมาย

สามารถดูและเรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: xsolla.com

เกี่ยวกับ Paysafe

Paysafe Limited (“Paysafe”) (NYSE: PSFE) (PSFE.WS) เป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินชั้นนำที่มีประวัติกว้างขวางในการให้บริการแก่ร้านค้าและผู้บริโภคในภาคส่วนความบันเทิงระดับโลก วัตถุประสงค์หลักคือ การช่วยให้ธุรกิจและผู้บริโภคสามารถเชื่อมต่อและทำธุรกรรมได้อย่างราบรื่นผ่านความสามารถพิเศษชั้นนำสำหรับอุตสาหกรรมในการประมวลผลการชำระเงิน เป๋าตังค์แบบดิจิทัล และโซลูชันเงินสดออนไลน์ ด้วยประสบการณ์การชำระเงินออนไลน์มากกว่า 20 ปี จำนวนธุรกรรมต่อปีมากกว่า 130 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2022 และพนักงาน 3,300 คนโดยประมาณในกว่า 12 ประเทศ Paysafe เชื่อมโยงธุรกิจและผู้บริโภคผ่านประเภทการชำระเงิน 100 ประเทศในสกุลเงินกว่า 40 รายการทั่วโลก โซลูชันของ Paysafe นำเสนอผ่านแพลตฟอร์มแบบครบวงจร มุ่งเน้นที่ธุรกรรมโดยเริ่มต้นผ่านมือถือ การวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ และการครอบคลุมตั้งแต่การชำระเงินหน้าร้านและการชำระเงินแบบออนไลน์ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.paysafe.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53906719/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Derrick Stembridge
Global Director of Public Relations, Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

แหล่งข้อมูล: Xsolla